00:00:00 → 00:00:02 สำหรับรายการสุขภาพดี 22:00 นของเราคืน
00:00:02 → 00:00:05 นี้นะคะอยากชวนคุณผู้ฟังคุณผู้หญิงหรือ
00:00:05 → 00:00:09 ว่าเอ่อคุณผู้ชายที่มีภรรยาเผื่อจะได้ข้อ
00:00:09 → 00:00:12 มูลความรู้คืนนี้นะคะไปพูดคุยกับภรรยาของ
00:00:12 → 00:00:16 คุณนะคะเราชวนคุยกันเกี่ยวกับเรื่อง
00:00:16 → 00:00:20 pcos กับภาวะมีบุตรยาก pcos คืออะไรคือ
00:00:20 → 00:00:24 ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบเอ๊ะมันเป็นยังไง
00:00:24 → 00:00:27 อันนี้ก็เลยจะชวนไปสอบถามพูดคุยกันนะคะ
00:00:27 → 00:00:32 กับพันตำรวจโทดรนายแพทย์สุธรรมสุธาพรค่ะ
00:00:32 → 00:00:35 นายแพทย์สบ 3 เวชศาสตร์เอ่อการเจริญพันธ์
00:00:36 → 00:00:39 กลุ่มงานสูตินารีเวชกรรมโรงพยาบาลตำรวจนะ
00:00:39 → 00:00:43 คะสวัสดีค่ะคุณหมอคะสวัสดีครับได้ยินมั้ย
00:00:43 → 00:00:47 ครับได้ยินชัดเจนสัญญาณภาพชัดเจนค่ะครับ
00:00:47 → 00:00:50 ผมสวัสดีคุณขวัญคุณโอคแล้วก็ุท่านที่ชม
00:00:50 → 00:00:52 อยู่นะครับวันนี้ก็ยินดีสวัสดีครับคุณหมอ
00:00:52 → 00:00:56 ครับค่ะวันนี้ก็คุณผู้ฟังขาวันนี้ได้เอ่อ
00:00:56 → 00:00:59 รับเกียรติจากคุณหมอสุธรรมนะคะก็มีเข้ามา
00:00:59 → 00:01:02 ทางช่องทางซูมได้เห็นหน้าค่าตาคุณหมอเอ่อ
00:01:02 → 00:01:05 วันนี้ก็จะมีสีสันขึ้นมาอีกนิดนึงรายการ
00:01:05 → 00:01:08 ของเราแม้ว่าจะดึกก็จะเอ่อมีความสดใส
00:01:08 → 00:01:12 เพิ่มขึ้นนะคะคุณหมอคะตอนนี้เนี่ยภาวะผู้
00:01:12 → 00:01:15 มีบุตรยากเนี่ยเท่าที่คุณหมอสังเกตหรือ
00:01:15 → 00:01:18 ว่าเท่าที่รับเคสมาเนี่ยตอนเในประเทศไทย
00:01:18 → 00:01:21 เนี่ยเยอะขึ้นกว่าสมัยก่อนมั้ยหรือว่าก็
00:01:21 → 00:01:25 คล้ายๆเดิมคะคุณหมอจริงๆต้องบอกว่าภาวะ
00:01:25 → 00:01:28 ผู้มีบุตรยากนะครับเราก็พบได้ตลอดครับค่ะ
00:01:28 → 00:01:33 อ่าในปริมาณสำหรับคนไม่ว่าจะมากขึ้นผมคิด
00:01:33 → 00:01:37 ว่าปริมาณเนี่ยก็จะมีมากขึ้นนะครับเพราะ
00:01:37 → 00:01:40 ว่าอะไรก็คือจริงๆแล้วเนี่ยด้วยการที่ณ
00:01:40 → 00:01:43 ยุคปัจจุบันเนี่ยนะครับคนเนี่ยมีลูกช้า
00:01:43 → 00:01:46 ครับทำให้ความสามารถในการเจริญพันธุ์
00:01:46 → 00:01:50 เนี่ยมันด้อยลงไปตามอายุนะครับด้วยความ
00:01:50 → 00:01:53 ที่ปัจจุบันเนี่ยเรื่องความพร้อมกว่าเรา
00:01:53 → 00:01:57 จะทำงานรู้สึกสบิกว่าจะมีอ่ามีเงินความ
00:01:57 → 00:02:00 มั่นใจทางเศรษฐกิจน่ะนะมั่นใช่ครับความ
00:02:00 → 00:02:04 มั่นคงกว่าจะรู้ตัวอีกทีนึงมันก็ร่วงเลย
00:02:04 → 00:02:07 มาไกลแล้วนะครับกว่าจะได้แต่งงานกว่าจะ
00:02:07 → 00:02:11 เริ่มตกลงกันว่าโอเคเดี๋ยวเราจะพยายามมี
00:02:11 → 00:02:14 นะอ่าพอพยายามมีเสร็จก็ยังไม่ได้มีได้ทัน
00:02:14 → 00:02:18 ทีนะครับค่ะช่วงเวลาที่สตาร์ทมันอาจจะช้า
00:02:18 → 00:02:22 หน่อยสตาร์ท 35 37 38 อะไรอย่างเงี้ยนะ
00:02:22 → 00:02:25 ครับคนสมัยก่อนเนี่ยอ่าซัก 20 ต้นๆเก็
00:02:25 → 00:02:30 สตาร์ทกันแล้วคก็ทำให้อ่าภาวะมีบุตรย
00:02:30 → 00:02:32 เนี่ยนะครับเป็นภาวะที่พบได้เยอะเลยใน
00:02:32 → 00:02:36 ปัจจุบันนะครับค่ะครับค่ะเอ๊ถ้างั้นอีก
00:02:36 → 00:02:39 ภาวะนึงที่เอ่อเราพูดคุยกันเมื่อสักครู่
00:02:39 → 00:02:43 คือภาวะถุงน้ำหลายใบในรังไคหรือว่า pcos
00:02:44 → 00:02:47 เนี่ยค่ะคืออะไรแล้ว PC เนี่ยอยู่ดีๆเขา
00:02:47 → 00:02:49 เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติหรือมีอะไรไป
00:02:49 → 00:02:52 เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดขึ้นได้ในร่างกาย
00:02:52 → 00:02:54 ของผู้หญิงอ่ะคะคุณหมอคะครับงั้นเดี๋ยว
00:02:54 → 00:02:58 เท้าความก่อนเลยว่า pcos คืออะไรนะครับ
00:02:58 → 00:03:02 pcos นะครับครับอาจจะได้ยินคำพูดนี้ทั่ว
00:03:02 → 00:03:05 ๆไปอ่าจากการที่เราเสิร์ชเจอใน
00:03:05 → 00:03:08 อินเตอร์เน็ตหรือไปคุยกับเพื่อนว่าเออฉัน
00:03:08 → 00:03:13 มีภาวะ pcos นะหรือว่าเป็นกลุ่มอาการที่
00:03:13 → 00:03:18 มีถุงน้ำหลายใบในลังขัครับแล้วมันแล้วมัน
00:03:19 → 00:03:22 ทำไมยังไงมันเกิดยังไงนะครับโดยทั่วๆไปนะ
00:03:22 → 00:03:25 ครับณการศึกษาณปัจจุบันเนี่ยจริงๆก็ยัง
00:03:25 → 00:03:28 ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนนะครับว่าภาวะนี้
00:03:28 → 00:03:30 เนี่ยมันเกิด
00:03:30 → 00:03:33 จากอะไรจริงๆแล้วเก็นับเป็นภาวะนะครับไม่
00:03:33 → 00:03:37 ได้นับว่าเป็นโลคซะทีเดียวอืมันตัวภาวะ
00:03:37 → 00:03:39 นี้เนี่ยนะครับมันจะประกอบด้วยกลุ่มอาการ
00:03:39 → 00:03:42 หลายๆอย่างถ้าเกิดว่าเรามีกลุ่มอาการหลาย
00:03:42 → 00:03:45 ๆอย่างดังนี้นะครับเราถึงจะวินิจฉัยตัว
00:03:45 → 00:03:48 โลกส่วนสาเหตุจริงๆถึงแม้ว่าเราจะไม่ทราบ
00:03:48 → 00:03:51 นะครับแต่ปัจจัยที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ 1
00:03:51 → 00:03:56 คือกรรมพันธ์นะครับถ้าว่าแม่เป็นอ่าเราก็
00:03:56 → 00:03:59 มีโอกาสมีลูกผู้หญิงนะครับผู้หญิงก็มี
00:03:59 → 00:04:03 โอกาสที่จะเป็นมากขึ้นหรือว่าตัวภาวะนี้
00:04:03 → 00:04:06 เนี่ยนะครับมันก็จะมีสิ่งที่มากับมันบ่อย
00:04:06 → 00:04:11 ๆก็คือภาวะอ้วนค่ะอ่าฮอร์โมนผิดปกติซึ่ง
00:04:11 → 00:04:15 ก็จะมีภาวะฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติหรือ
00:04:15 → 00:04:19 ว่ามีภาวะดื้อต่ออินซูลินนะครับพอมีอะไร
00:04:19 → 00:04:22 หลายๆอย่างพวกนี้ประกอบกันถ้ามีแฟกเตอร์
00:04:22 → 00:04:25 หลายๆแฟคเตอร์นะครับก็ยิ่งทำให้มีโอกาส
00:04:25 → 00:04:30 ที่จะเป็นมากขึ้นนะครับผมอือืแสดงว่าภาวะ
00:04:30 → 00:04:32 ไอ้ถุงน้ำรังไข่หลายใบเนี่ยจะไม่ค่อยพบใน
00:04:32 → 00:04:36 คนผอมเหรอคะคุณหมอจริงๆพบได้ทั้งหมดนะ
00:04:36 → 00:04:40 ครับทั้งของทั้งอ้วนเลยนะครับแต่ว่าถ้า
00:04:40 → 00:04:43 สมมุติว่าจริงๆมันจะมีทรงของมันอยู่เวลา
00:04:43 → 00:04:46 สมมุติผมตรวจคนไข้นะฮะคือถ้าเกิดก้าวเข้า
00:04:46 → 00:04:51 มาเนี่ยแล้วเาให้อาการบางอย่างเป็นเป็นคน
00:04:51 → 00:04:54 อ้วนที่ให้อาการบางอย่างที่พอเข้าได้กับ
00:04:54 → 00:04:57 pcos เนี่ยบางทีเราจะคิดถึงตัวนี้ได้
00:04:57 → 00:04:59 ก่อนเลยถ้าเกิดเขาอ้วนนะฮะแต่ผอมก็เป็น
00:04:59 → 00:05:02 ได้นะครับเดี๋ยวตรงนี้เนี่ยมันจะเกี่ยว
00:05:02 → 00:05:06 ข้องกับอ่าแนวทางในการวินิจฉัยเดี๋ยวผมจะ
00:05:06 → 00:05:09 อธิบายว่าจริงๆมันมีอะไรบ้างนะครับจริงๆ
00:05:09 → 00:05:13 อ้วนเนี่ยมันไม่ใช่เกณฑ์ที่ใช้ในการ
00:05:13 → 00:05:16 วินิจฉัยนะครับแต่มันอาจจะเป็นจุดสังเกต
00:05:16 → 00:05:20 นึงเลยว่าเอ๊พ้ามาตรงนี้เนี่ยมีมีโอกาสนะ
00:05:20 → 00:05:25 อ่าประมาณนี้ครับซึ่งพอเราเดี๋ยวผมพูดเลย
00:05:25 → 00:05:28 ไปจจนถึงจุดวินิจฉัยเลยก็ได้ครับว่าจาก
00:05:28 → 00:05:31 ตอนแรกที่เราได้กะว่ามันเป็นกลุ่มอาการ
00:05:31 → 00:05:34 หลายๆอย่างใช่มั้ยฮะอันเนี้ยเราก็จะต้อง
00:05:34 → 00:05:37 ดูว่าอ่ากลุ่มอาการเหล่านี้เนี่ยนะครับ
00:05:37 → 00:05:40 มันเข้าได้ 2 ข้อนะครับจาก 3 ข้อเราจะ
00:05:40 → 00:05:45 วินิจฉัยเลยว่าเป็นนะครับข้อแรกนะครับก็
00:05:45 → 00:05:50 คือประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอนะครับยปกติ
00:05:50 → 00:05:53 เนี่ยจะมาห่างๆเวลาเราถามประวัติเนี่ยนะ
00:05:53 → 00:05:58 ครับก็คืออ่าก็จะเป็นอ่าคุณหมอประจำเดือน
00:05:58 → 00:06:03 ไม่ค่อยมาเลยอ่าอครับเือนมาทีหรือบางทีก็
00:06:03 → 00:06:07 แบบเอาแน่เอานอนไม่ได้เลยบางคนนี่ 6
00:06:07 → 00:06:10 เดือนไม่มาปีนึงไม่มาอะไรอย่างเงี้ครับก็
00:06:10 → 00:06:13 ได้นี่คือข้อแรกคือความผิดปกติของประจำ
00:06:13 → 00:06:17 เดือนนะครับข้อ 2 ก็คือเนื่องจากโรคนี้นะ
00:06:17 → 00:06:20 ครับจะมีความผิดปกติของฮอร์โมนต่างๆนะ
00:06:20 → 00:06:24 ครับอาการผิดปกติของการที่มีฮอร์โมนเพศ
00:06:24 → 00:06:29 ชายมากเกินกว่าปกติอ่าเช่นอาการนะครับมี
00:06:29 → 00:06:36 สิวค่ะอมันขนดกครับ่วงอ่าพวกอาการพวกนี้
00:06:36 → 00:06:39 นะครับมันจะเป็นอาการจากการที่ฮอร์โมนเพศ
00:06:39 → 00:06:41 ชายในผู้หญิงเนี่ยนะครับมันมากกว่าปกติ
00:06:42 → 00:06:45 มันก็เลยกลายเป็นทำให้มีอาการดังนี้แต่
00:06:45 → 00:06:48 ว่าบางคนเนี่ยนะครับเกณฑ์เนี่ยอาจจะได้
00:06:48 → 00:06:50 จากการเจาะเลือดก็ได้อย่างเช่นเจาะเลือด
00:06:51 → 00:06:54 ฮอร์โมนเพศชายโดยตรงเลยแต่โดยท่ๆไปเนี่ย
00:06:54 → 00:06:56 ไม่ค่อยนิยมทำกันนะครับเพราะว่าตัว
00:06:56 → 00:06:59 ฮอร์โมนเพศชายเวลาเราไปเจาะเลือดเนี่ยนะ
00:06:59 → 00:07:02 ครับมันไม่ได้มีทุกโรงพยาบาลแล้วก็มีค่า
00:07:02 → 00:07:06 ใช้จ่ายส่วนมากเราก็จะใช้อาการดังกล่าวน
00:07:06 → 00:07:09 นะครับสิวผิวมันขนดกผมร่วงอ่าประมาณนี้
00:07:09 → 00:07:12 ครับนะครับนี่คือข้อ 2 นะครับค่ะข้อ 3 นะ
00:07:12 → 00:07:16 ครับจะได้จากการอัตซาวถ้าเรากลับไปดูที่
00:07:16 → 00:07:21 ชื่อโลกนะครับถุงน้ำรังไข่หลายใบในตัวรัง
00:07:21 → 00:07:25 ไข่พอเราทำการซานะครับเราพบถุงน้ำจำนวน
00:07:25 → 00:07:29 มากในรังไข่อ่าถ้าถ้าถ้าถ้าในเกณฑ์แบบ
00:07:29 → 00:07:33 เป๊ะๆทางตำราก็คือ 20 ฟองนะครับอ่าเราเจอ
00:07:33 → 00:07:36 อย่างนั้นเนี่ยเราก็จะนับเป็นข้อที่ 3 อ
00:07:36 → 00:07:40 อ่าผู้หญิงเนี่ยถ้าเรามีอาการ 2 ใน 3 ข้อ
00:07:40 → 00:07:43 เนี่ยนะครับเราจะฉเลยอย่างเช่นอ่ามาปุ๊บ
00:07:43 → 00:07:46 ประจำเดือนผิดปกติร่วมกับสืผิมันขนดกเอา
00:07:46 → 00:07:49 เลยครับหรือว่าประจำเดือนผิดปกติร่วมกับ
00:07:49 → 00:07:51 อซเข้าด้วยเอาเลยไม่ต้องครบ 3 ก็ได้นะ
00:07:51 → 00:07:54 ครับอือฮึอ่าอย่างนี้เราก็จะเข้าได้แล้ว
00:07:54 → 00:07:58 อ่าเป็นการวินิจฉัยส่วนพอวินิจฉัยแล้วนะ
00:07:58 → 00:08:02 ครับผลกระทบทางสุขภาพเนี่ยจะมีอีกมากมาย
00:08:02 → 00:08:05 เลยเดี๋ยวคิดว่าน่าจะมีคำถามในตอนถัดๆไป
00:08:05 → 00:08:11 ครับค่ะเออพอพูดถึงเรื่องของตัว pcos อ่ะ
00:08:11 → 00:08:14 ค่ะมีคุณผู้ฟังสอบถามมาเลยค่ะคุณหมอว่า
00:08:14 → 00:08:16 การตรวจ pcos เนี่ยเดินเข้าไปตรวจเนี่ย
00:08:16 → 00:08:20 ได้มยแล้วมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่แพงมคะอ่า
00:08:20 → 00:08:23 โอเคครับดีมากเลยครับเมื่อกี้ถ้าได้เรา
00:08:23 → 00:08:26 ได้ฟังจากเกณฑ์ 3 ข้อนะครับค่ะข้อ 1
00:08:26 → 00:08:29 ประจำเดือนข้อ 2 สือพิมันคนดกใช่มั้ยครับ
00:08:29 → 00:08:32 เราซักรู้เลยใช่มฮะแต่หมายความว่าเราไม่
00:08:32 → 00:08:34 ได้ใช้เครื่องไม้เครื่องมืออะไรที่ทำให้
00:08:34 → 00:08:36 เสียตังค์ไปมากกว่าปกตินะครับเต็มที่จะ
00:08:36 → 00:08:40 เสียค่าหมอนะครับสุดท้ายเนี่ยข้อ 3 เนี่ย
00:08:40 → 00:08:44 นะครับอ่าเป็นการอัตซาวซึ่งส่วนมากเราก็
00:08:44 → 00:08:46 จะทำทางช่องคลอดซึ่งมันก็จะเห็นชัดกว่า
00:08:46 → 00:08:49 ทางหน้าท้องอนะครับการอซมี 2 ช่องทางอ่า
00:08:50 → 00:08:52 พอเราทำทางทางช่องคลอดเนี่ยครับเราจะเห็น
00:08:52 → 00:08:55 ไข่ในรังไข่ได้ชัดเจนเราต้องบอกว่าตัวรัง
00:08:55 → 00:08:58 ไข่เนี่ยมันเป็นอวัยวะที่เล็กนะครับถ้า
00:08:58 → 00:09:02 เราใช้การอันซาวทางหน้าท้องเนี่ยรังสี
00:09:02 → 00:09:05 ชั้นไขมงไขมันอะไรไปยิ่งคนที่น้ำหนักเยอะ
00:09:05 → 00:09:07 เนี่ยมันยิ่งเห็นยากนะครับแต่การที่เราทำ
00:09:07 → 00:09:10 อาทางช่องคลอดเนี่ยนะครับตัวหัวอันซาว
00:09:10 → 00:09:13 เนี่ยมันเข้าไปใกล้รังไข่เราเชื่อว่าตรง
00:09:13 → 00:09:16 เนี้ยมันเห็นชัดนะครับเพราะฉะนั้นค่าใช้
00:09:16 → 00:09:20 จ่ายก็คือค่าอันซาวนี่แหละครับอคขึ้นอยู่
00:09:20 → 00:09:23 กับแต่ละโรงพยาบาลที่เราไปรับการบริการ
00:09:23 → 00:09:27 ใช่มั้ยคะว่าถูกต้องเลยครับตรงนี้เนี่ยก็
00:09:27 → 00:09:30 แบ่งเป็นโรงพยาบาลรักับเอกชนแล้วกันนะ
00:09:30 → 00:09:33 ครับค่ะซึ่งโรงพยาบาลรัฐนะครับก็ถูกกว่า
00:09:33 → 00:09:36 แน่นอนโรงพยาบาลเอกชนนี่อาจจะเป็นหลักอ่า
00:09:37 → 00:09:40 เป็นหลัก 1000 น่ะนะครับถ้าเกิดตรวจส่วน
00:09:40 → 00:09:41 โดยหมอตู๋อ่าซัก
00:09:41 → 00:09:45 ประมาณเท่าที่ได้ไปตรวจอยู่ประมาณไม่เกิน
00:09:45 → 00:09:49 2,500 ค่ะหมอแล้วแต่ที่อันนี้ประสบการณ์
00:09:49 → 00:09:52 โดยตรงใช่มั้ยครับจากคนรู้จักจากคนรู้จัก
00:09:52 → 00:09:56 ค่ะเพราะว่าเอ่อมีเอ่อจากการตรวจสุขภาพ
00:09:56 → 00:10:00 แล้วกันค่ะมีค่าเลือดบางตัวที่ดูน่าห่วง
00:10:00 → 00:10:03 กังวลก็เลยไปรับการตรวจด้วยการอัลตร้าซาว
00:10:03 → 00:10:06 แล้วก็เอ่อไหนๆก็ตรวจอัลตร้าซาวแล้วก็เลย
00:10:06 → 00:10:08 เอ่อตรวจมะเร็งปากมดลูกร่วมด้วยไปเลยที
00:10:09 → 00:10:11 เดียวอันเนี้ยก็คือคนรู้จักที่เล่ากันมา
00:10:11 → 00:10:14 เล่าให้ฟังเพราะว่าเวลาผู้หญิงมีเรื่อง
00:10:14 → 00:10:16 อะไรเหล่าเนี้ยก็จะแชร์ประสบการณ์กันน่ะ
00:10:16 → 00:10:21 ค่ะอ๋อผมถึงว่าผมไม่ค่อยรู้พี่ขวัญโอ้โห
00:10:21 → 00:10:23 ไม่ค่อยแชร์ให้ผม
00:10:23 → 00:10:26 ฟังอยากรู้เเดินมาถามได้ตรงๆเผื่อไปเอา
00:10:26 → 00:10:29 ข้อมูลไปแลกเปลี่ยนให้ภรรยาฟังอ่า
00:10:29 → 00:10:33 อ๋อนี่ผมมีบุตร
00:10:33 → 00:10:37 แล้วไม่มีโอ๊คจะไม่ประสบภาวะมีบุตรยากใช่
00:10:37 → 00:10:42 มั้ยเออใช่่ๆแต่ก็เข้าใจนะคือคือบเรื่อง
00:10:42 → 00:10:45 ของการมีบุตรยากอ่ะมันไม่ใช่แบบ
00:10:45 → 00:10:50 เอ่อคนนี้จะเป็นแบบคนนี้คนนี้จะเป็นมีบท
00:10:50 → 00:10:53 ยากแล้วคนนี้จะมีบทยากด้วยก็ไม่ใช่นะมัน
00:10:53 → 00:10:57 ก็แล้วแต่คนแล้วแต่สภาพร่างกายแล้วแต่โรค
00:10:57 → 00:11:00 ที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนซึ่งซึ่งซึ่ง pcos
00:11:00 → 00:11:03 ก็เป็นหนึ่งในภาวะที่ทำให้คนๆนั้นมีบุตร
00:11:03 → 00:11:07 ยากได้ด้วยเอออาการมันมีอาการบงบอกนะคุณ
00:11:07 → 00:11:10 หมอว่าเฮ้ยเป็นแบบเนี้ยคุณมีโอกาสเสี่ยง
00:11:10 → 00:11:16 นะว่าเออจะมีโอกาสที่จะมีบุตยากนะอ่าโอเค
00:11:16 → 00:11:20 ครับอมันต้องอาการยังไงใช่มั้ยครับโอเคผม
00:11:20 → 00:11:23 กลับไปเบสิคเหมือนเดิมเลย 3 ข้อแรกคือข้อ
00:11:23 → 00:11:27 ที่มีความสำคัญนะครับที่มีผลให้มีบุตรยาก
00:11:27 → 00:11:30 มากที่สุดเลยแล้วก็คิดว่ามันเป็น
00:11:30 → 00:11:33 ปัจจัยสำคัญเลยที่สมมุติว่าเวลาใครๆมาถาม
00:11:33 → 00:11:36 เรานะเอ๊ยทำไมเป็น pcos มันถึงเกี่ยวข้อง
00:11:36 → 00:11:39 กับมีบุตรยากนะครับคือว่าลองสังเกตดูว่า
00:11:39 → 00:11:42 การที่เรามีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอนะครับ
00:11:42 → 00:11:45 แล้วเดือนผมว่ามันจะห่างออกเนี่ยมันหมาย
00:11:45 → 00:11:48 ความว่าอะไรมันหมายความว่าเราไม่ได้ตกไข่
00:11:48 → 00:11:52 ครับค่ะคืออ๋ออ่ะๆใช่ครับคือเบสิคเลยพื้น
00:11:52 → 00:11:56 ฐานเลยเพื้นฐานเลยคือถ้าเราตกไข่ในเวลาคน
00:11:56 → 00:11:59 ที่เดี๋ยวผมกลับไปเบสิคสำหรับคนที่เนสม่ำ
00:11:59 → 00:12:02 เสมอนะครับโดยทั่วไปเนี่ยนะครับสมประจำ
00:12:02 → 00:12:05 เดือนผู้หญิงทั่วไปเนี่ยมี 28 วัน 28 รอบ
00:12:05 → 00:12:09 นึงเนี่ยมี 28 วันถ้าประจำเดือนวันแรกที่
00:12:09 → 00:12:11 มานะครับนับเป็นวันที่ 1 นะครับพอนับไป
00:12:11 → 00:12:15 ประมาณที่วันที่ 2829 เนี่ยก็จะมารอบใหม่
00:12:15 → 00:12:18 มันก็จะนใหม่ของรอบถัดไปนะครับวันที่ตก
00:12:18 → 00:12:21 ไข่เนี่ยจะอยู่กลางรอบประมาณวันที่ 14
00:12:21 → 00:12:24 คิดง่ายๆนะฮะกลางๆเลยอ่าเสร็จการที่เรา
00:12:25 → 00:12:27 ไม่ตกไข่เนี่ยนะครับมันจะทำให้
00:12:27 → 00:12:30 ฮอร์โมนต่างๆเนี่ยมันเพี้ยนไปหมดเลยครับ
00:12:30 → 00:12:33 ทำให้ซึ่งการมีเมนสไม่มีเมนสเนี่ยมันจะ
00:12:33 → 00:12:36 เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนโดยตรงซึ่งเกิดจะ
00:12:36 → 00:12:38 เกิดหลังการตกไข่นะครับมันก็จะทำให้ระยะ
00:12:38 → 00:12:41 การที่มีเมนเนี่ยมันเลื่อนออกไปเรื่อยๆ
00:12:41 → 00:12:45 ถ้าเกิดเราไม่ตกไขนะครับพอสมมุติว่าคน
00:12:45 → 00:12:49 ธรรมดาทั่วไปนะครับปีนึงเราก็คิดว่าเมนมา
00:12:49 → 00:12:52 เดือนละครั้งใช่มั้ยครับปีนึง 12 เดือน
00:12:52 → 00:12:54 ไข่ก็ตก 12 รอบถูกมั้ยฮะแต่ว่าถ้าเกิดว่า
00:12:54 → 00:12:58 เป็น pcos เนี่ยเกิดเค้า 3 เดือนมารอบนึง
00:12:58 → 00:13:01 แปลว่าปีนึงเคตกไข่ 4 รอบเองนะครับ
00:13:01 → 00:13:04 อืกิจกรรมกับแฟนเนี่ยให้ตัวสเปิร์มมัน
00:13:05 → 00:13:08 วิ่งเข้าไปหาไข่ได้เนี่ยคนทั่วไปปีนึงอ่า
00:13:08 → 00:13:11 เขาว่าได้ 12 โอกาส 12 ครั้งคุณได้โอกาส 4
00:13:11 → 00:13:15 ครั้งมีบุตรยากมั้ยฮะอยากขึ้นกว่าเดิม
00:13:15 → 00:13:18 ต้องยากกว่าเดิมนะครับแล้วนอกจากความถี่
00:13:18 → 00:13:21 มันน้อยปริมาณมันน้อยแล้วมันยังับวันยาก
00:13:21 → 00:13:23 ด้วยนะครับเพราะมันบางคนห่างเนี่ยมันนับ
00:13:23 → 00:13:26 ไม่ได้เลยอย่างโดยทั่วไปถ้าเป็นคนที่มา
00:13:26 → 00:13:28 สม่ำเสมอใชมครับอย่างเมื่อกี้เราเกิดแบบ
00:13:28 → 00:13:32 ง่ายๆค่ะอ่าก็คือเราก็ลองกลางเดือนเี่
00:13:32 → 00:13:35 ครับเน้นๆหน่อยอ่า 14 ยิงแม่นๆหน่อยกลง
00:13:35 → 00:13:39 กลางเดือนอ่าอาจจะหลายๆรอบอ่ะ 12 14 16
00:13:39 → 00:13:42 อ่ะยิงๆกันแม่นๆหน่อยขอแถวๆนั้นหรือไม่ก็
00:13:42 → 00:13:44 อีกวิธีนึงที่เขานิยมนะครับคือการตรวจ
00:13:44 → 00:13:47 ปัสสาวะไม่ทราบว่าเคยได้ยินมั้ยเค้าเรียก
00:13:47 → 00:13:50 ว่า LH Kid อนะครับมันก็เหมือนเป็นแผ่น
00:13:50 → 00:13:52 ตรวจคล้ายๆการตั้งครรภ์เนี่ยนะครับถ้ามัน
00:13:52 → 00:13:55 ตรวจช่วงที่ตกไข่เนี่ยมันจะขึ้นเป็น 2
00:13:55 → 00:13:57 ขีดอ่าหมายความว่าช่วงบริเวณช่วงนั้น
00:13:57 → 00:14:00 เนี่ยก็เป็นช่วงที่เราควรจะมีกิจกรรมแต่
00:14:01 → 00:14:03 พอสมมุติว่าอ่าสมมุติคนทั่วๆไปนะครับเรา
00:14:03 → 00:14:06 expect ว่าจะซัก Day 14 ใช่มั้ยครับเรา
00:14:06 → 00:14:10 ก็เริ่มตรวจและสัก 12 วัน 12 เราก็ตรวจ
00:14:10 → 00:14:12 มันทุกวันเลยตั้งแต่เสัก 12 12 เป็นต้น
00:14:12 → 00:14:15 ไปจนกระทั่งมันขึ้นนะฮะแต่ถ้าเกิดเป็น
00:14:15 → 00:14:18 pcos ที่นานๆเมนมาทีเนี่ยสมมุติ 3 เดือน
00:14:18 → 00:14:21 มาทีอุ้ยเราจะไปตั้งต้นตรวจตอนไหนเราจะไป
00:14:21 → 00:14:25 ตรวจทุกวันเลยมันก็ดูมันก็สิ้นเปลืองนะคะ
00:14:25 → 00:14:29 หมอมันไม่ถูกเท่าไหร่เราก็โอ้ยปวดหัวเรา
00:14:29 → 00:14:32 เราจะไปเริ่ม 3 เดือนนี่ 90 วันเนาะเราก็
00:14:32 → 00:14:35 จะไปนั่งตั้งตรวจตั้งแต่วันเราเอามันทุก
00:14:35 → 00:14:38 วันเลยมันก็ไม่ไม่ไม่ใช่มันไม่ practical
00:14:38 → 00:14:43 ในชีวิตจริงอ่ะนะครับค่ะก็เลยไม่สามารถ
00:14:43 → 00:14:46 ที่จะทำอะไรได้เลยเราก็เลยจะต้องไปแก้ที่
00:14:46 → 00:14:50 สาเหตุครับมันก็จะมีวิธีที่ทำให้เมนมา
00:14:50 → 00:14:53 สม่ำเสมออยู่นะครับจริงๆมันมีปัจจัยอื่น
00:14:53 → 00:14:56 ด้วยที่เป็นปัจจัยรองๆอย่างเช่นอ่าฮอการ
00:14:56 → 00:14:59 ที่ฮอร์โมนเพศชายมันมากกว่าปกติปกติค่ะ
00:14:59 → 00:15:01 เราเราคิดง่ายๆนะครับการที่เราจะมีลูก
00:15:01 → 00:15:04 เนี่ยการที่เราจะมีเมนมีลูกหรือเราจะให้
00:15:04 → 00:15:08 ผู้หญิงเขดำเนินการชีวิตของเขาไปด้วยปกติ
00:15:08 → 00:15:12 เนะครับฮอร์โมนเาเนี่ยต้องปกติพอฮอร์โมน
00:15:12 → 00:15:14 เพศชายมากกว่าปกตินะครับมันก็ไป disturb
00:15:14 → 00:15:18 ความปกติของเขามันก็อาจจะทำให้มีบิดยาก
00:15:18 → 00:15:22 ขึ้นหรือว่าภาวะอ้วนอ่าที่ตอนแรกเกิดนำ
00:15:22 → 00:15:25 ว่ามันมักจะมาด้วยกันนะครับก็คือยิ่งอ้วน
00:15:25 → 00:15:28 เนี่ยก็ยิ่งมียากอยู่แล้วอันนี้โดยคอมมอน
00:15:28 → 00:15:30 นะครับไม่
00:15:30 → 00:15:36 ทั่วที่น้ำหนักปกอยู่ในนที่ปกินะครับเลน
00:15:36 → 00:15:41 ที่ปกติคือ BMI 18-2 BMI คืออะไรคือเอา
00:15:41 → 00:15:45 น้ำหนักเป็นกิโลหารด้วยความสูงเป็นเมตรนะ
00:15:45 → 00:15:50 ฮะอ่ายกกำลัง 2 โอเคคุ้นๆยฮะ BMI ครับค่ะ
00:15:50 → 00:15:53 คุณ B ครับถ้ามันตกอยู่ใน Normal Range
00:15:53 → 00:15:56 เนี่ยถือว่าโอเคแต่ว่าถ้ามันเกินไปอ่า
00:15:56 → 00:15:59 เป็นใครมันก็จะทำให้ฮอร์โมนมันพเพี้นแล้ว
00:15:59 → 00:16:03 ก็อ่าภาวะการเจริญพันธุ์การมีบุตรอะไรก็
00:16:03 → 00:16:06 เพี้ยนไปด้วยหมดเลยนะครับค่ะประมาณครับผม
00:16:06 → 00:16:11 พอบอกว่ากลับไปแก้ที่สาเหตุของตัวภาวะถุง
00:16:11 → 00:16:13 น้ำรังไข่หลายใบอย่างเงี้ยค่ะการแก้ที่
00:16:13 → 00:16:16 สาเหตุคือต้องกินฮอร์โมนปรับที่ฮอร์โมน
00:16:16 → 00:16:19 เมื่อกี้คุณหมอพูดถึงฮอร์โมนเพศชายมัน
00:16:19 → 00:16:22 หรือว่าไปรับประทานยาการแก้คือทำได้อย่าง
00:16:22 → 00:16:25 ไรบ้างคะอโอเคตรงนี้เนี่ยนะ
00:16:25 → 00:16:29 ครับคำถามน่าจะเป็นการรักษาพ pcos ทำยัง
00:16:29 → 00:16:33 ไงนะตงนี้ผมผมคิดว่ามันจะต้องแบ่งเป็น 2
00:16:33 → 00:16:38 กรณีนะครับกรณีแรกคือกรณีคนไม่อยากมีบุตร
00:16:38 → 00:16:41 ยังไม่ต้องการมีบุตรตอนนี้นะฮะค่ะแต่ใน
00:16:41 → 00:16:43 อนาคตเผื่ออยากมีก็ก็ยังทำได้ใช่มั้ยคะ
00:16:44 → 00:16:48 ครับในในอนาคตอยากมีครับอ่ากรณีที่ 2 คือ
00:16:48 → 00:16:51 การรักษาคนอยากมีบุตรผมคิดว่าในกรณีที่
00:16:51 → 00:16:54 คุณขวัญถามเี่คือกรณีแรกก่อนคือยังไม่ได้
00:16:54 → 00:16:58 ต้องการมีบุตรในทันทีครับขั้นแรกนะครับ
00:16:58 → 00:17:01 อ่อสำหรับคนที่มีน้ำหนักเกินนะครับเรา
00:17:01 → 00:17:05 ต้องลดน้ำหนักก่อนเลยอืที่จะให้อ่าพอลด
00:17:05 → 00:17:07 น้ำหนักเสร็จเนี่ยนะครับไอ้พวกภาวะ
00:17:07 → 00:17:09 ฮอร์โมนอะไรที่มันเพี้ยนๆทั้งหลายทั้ง
00:17:09 → 00:17:12 แหล่เนี่ยนะครับมันก็จะกลับเข้าสู่ปกติ
00:17:12 → 00:17:15 ได้มีโอกาสเข้ากลับเข้าสู่ปกติได้มากขึ้น
00:17:15 → 00:17:18 นะครับแล้วมันต้องลดเท่าไหร่โดยทั่วไปทาง
00:17:19 → 00:17:23 ทฤษฎีนะครับอยู่ที่ 5-10 per ครับจากน้ำ
00:17:23 → 00:17:26 หนักตั้งต้นงจากตั้งต้นครับจะเพียงพอทำ
00:17:26 → 00:17:31 ให้ไข่กลับมาตกเมนที่ห่างๆอาจจะกลับเข้า
00:17:31 → 00:17:35 มาชิดๆอเนี่ยนะครับอันนี้ทางทฤษฎีนะครับ
00:17:35 → 00:17:38 ค่ะขอให้รถสำหรับคนที่อ้วนเนี่ยลองลดน้ำ
00:17:38 → 00:17:41 หนักก่อนมันมันเป็นการแก้สาเหตุคือการแก้
00:17:41 → 00:17:45 ความฮอร์โมนเพี้ยนๆน่ะนะครับค่ะ 5 -10%
00:17:45 → 00:17:49 แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำ 5 -10% แล้วจะได้ผล
00:17:49 → 00:17:52 นะครับโดยเฉพาะคนที่น้ำหนักมันวอร์จริงๆ
00:17:52 → 00:17:55 อย่างเช่นหนักเป็น 100 กครับ 10% ของ 100
00:17:55 → 00:17:59 กลได้เท่าไหร่ครับ 10 กใช่มั้ยฮะ 10 กใช่
00:17:59 → 00:18:01 เพราะฉะนั้น 100 กเป็น 90 กเนี่ยมันยัง
00:18:01 → 00:18:04 เยอะอยู่ถูกมั้ยฮะใช่เยอะอยู่ถ้าถ้าเป็น
00:18:04 → 00:18:09 ประเภทเนะครับการลดน้ำหนักเนี่ยมันอาจจะ
00:18:09 → 00:18:12 ต้องลดมากกว่า 10% อย่างชัดเจนอือบางคนนะ
00:18:12 → 00:18:15 ครับบางคนเนี่ยผมอาจจะใช้การถามประวัติ
00:18:15 → 00:18:18 ต่อไปว่าอ่ะคุณเคยมีช่วงที่ไม่อ้วนใช่มย
00:18:19 → 00:18:21 ถ้าเป็นช่วงที่ไม่อ้วนนะครับอ่าเป็นช่วง
00:18:21 → 00:18:25 อ่าน้ำหนักประมาณสักเท่าไหร่ที่ยังพออยู่
00:18:25 → 00:18:29 ในความทรงจำที่เมนมันมาสม่ำเสมอได้อครับอ
00:18:29 → 00:18:33 เกตของคุณอ่ายกตัวอย่างนะครับสมมุติว่า
00:18:33 → 00:18:37 ปัจจุบันน้ำหนัก 60 เคยมีความทรงจำว่าตอน
00:18:37 → 00:18:40 อายุตอนน้ำหนัก 48 เนี่ยโอ้โหเมนมาสม่ำ
00:18:40 → 00:18:44 เสมอมากเลยอืงั้นผมก็จะเซต 48 เป็นโกของ
00:18:44 → 00:18:47 เขาเลยแล้วเราค่อยมาดูว่าเราทำอะไรน้ำ
00:18:47 → 00:18:50 หนักมันถึงจะลงได้ถึงโกซึ่งแต่ละคนเนี่ย
00:18:50 → 00:18:55 นะครับอ่าอาจจะใช้มาตรการหรือวิธีการที่
00:18:55 → 00:18:58 ไม่เหมือนกันซะทีเดียวแต่โดยแต่โดยหลัก
00:18:58 → 00:19:01 การนะครับครับมี 3 อย่างที่จะทำให้น้ำ
00:19:01 → 00:19:06 หนักลดได้ 1 ออกกำลังกาย 2 กุมอาหาร 3 ยา
00:19:06 → 00:19:08 นะครับจริงๆมันมี 4 ด้วยคือเซอร์เจอรี่
00:19:08 → 00:19:12 แต่ว่าเดี๋ยวเก็บไว้ก่อนนะฮะต้องดูว่ามัน
00:19:12 → 00:19:16 ใครใครอยู่ในระดับไหนค่ะก็อย่างงั้นก่อน
00:19:16 → 00:19:18 นะครับโดยหลักการเนี่ยนะครับอาหารกับออก
00:19:18 → 00:19:22 กำลังกายเนี่ยมาก่อนสำหรับทุกคนนะฮะเพราะ
00:19:22 → 00:19:25 ว่าเป็นสิ่งที่ทำง่ายแล้วก็มันก็เรียกได้
00:19:25 → 00:19:29 ว่ามันก็ยังไม่ได้ต้องเสียสตุ้งสตางค์เรา
00:19:29 → 00:19:32 ก็ไม่ได้ invasive เจ็บเนื้อเจ็บตัวอะไร
00:19:32 → 00:19:35 อย่าครับแต่ซึ่งถ้าทำได้มันคือการเปลี่ยน
00:19:35 → 00:19:38 พฤติกรรมแล้วจะเป็นผลดีกับคนๆนั้นไปยาวๆ
00:19:38 → 00:19:41 ในอนาคตเลยใช่มคะคุณหมอต้องครับอันนี้เขา
00:19:41 → 00:19:44 เรียกว่าอันนี้เวลาการรักษาทางการแพทย์นะ
00:19:44 → 00:19:47 ครับส่วนจะแบ่งเป็นอย่างงี้ Lifestyle
00:19:47 → 00:19:50 modification คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
00:19:50 → 00:19:53 อาหารกับกับออกกำลังกายก็คือ1ึใน
00:19:53 → 00:19:55 Lifestyle modification นะครับต่อไปก็
00:19:55 → 00:19:59 จะเป็นยาหรือ medication สุดท้ายเนี่ยก็
00:19:59 → 00:20:03 คือเป็นเจี่นะฮะอหลักๆทุกส่วนมากอันนี้
00:20:03 → 00:20:06 แบบเผื่อแบบว่าไปถามคุณหมอท่านอื่นเวลา
00:20:06 → 00:20:08 เอ้ยเราไปฟังสัมภาษณ์เยอะๆนะครับส่วนมาก
00:20:08 → 00:20:11 หลักการการการรักษาเนี่ยอันนี้ Principle
00:20:11 → 00:20:14 มันจะลวๆนี้อ่าส่วนถ้าเป็นตัวผมเองนะครับ
00:20:14 → 00:20:17 ตัวอันนี้ถามเอาเดี๋ยวเอาแบบ open Book
00:20:17 → 00:20:19 ก่อนนะครับว่าไอ้เนี่ยต้องทำยังไงแล้วก็
00:20:19 → 00:20:22 เดี๋ยวชีวิตจริงทำยังไงนะครับบางทีการ
00:20:22 → 00:20:24 Open Book อาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ได้
00:20:24 → 00:20:27 100% เท่ากับบางอย่างที่เรา adap มาแล้ว
00:20:27 → 00:20:31 ในชีวิตจริงอือๆครับใน Open Book เนี่ย
00:20:31 → 00:20:34 นะครับเขาบอกว่าอาหารเนี่ยให้ลดปริมาณ
00:20:34 → 00:20:37 แคลอรี่ลงประมาณสัก 30% จาก
00:20:37 → 00:20:42 ปกติหรือว่าให้ลดประมาณ 500 -750 กล
00:20:42 → 00:20:47 แคลอรี่ต่อวันนะครับหรือว่าีอ่าให้ควบคุม
00:20:47 → 00:20:49 อยู่ประมาณ
00:20:49 → 00:20:54 1,200 กิลแคลอรี่ถึง 1,500 กิแคลอรี่ฟัง
00:20:54 → 00:20:57 ดูแล้วมันปวดหัวมครับว่าเราปวดหัวสุดๆเลย
00:20:57 → 00:21:00 ครับ
00:21:00 → 00:21:03 เราหมายความว่าในแต่ละมื้อแต่ละ Day
00:21:03 → 00:21:07 เนี่ยนะฮะเราก็มานั่งบวกทุกมื้อที่เรา
00:21:07 → 00:21:09 แคลอรี่ใหญ่เลยก่อนรับประทานอ่ะค่ะนั่น
00:21:09 → 00:21:12 นั่นแหละครับครับแล้วก็หมายความว่าเรา
00:21:12 → 00:21:14 ต้องรู้ข้อมูลของแต่ละอย่างนะนะครับว่า
00:21:14 → 00:21:18 มันมีแคลอรี่เท่าไหร่ค่ะแล้วอือซึ่งตอน
00:21:18 → 00:21:20 แรกเราก็ไม่รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไอ้สิ่ง
00:21:20 → 00:21:23 ที่เรากินนี่มันมีกี่แคลอรี่นะฮะครับพอ
00:21:23 → 00:21:26 รู้แล้วบางอย่างก็กินไม่ลงนะคะหมอใช่ครับ
00:21:26 → 00:21:30 ลงครับลงลกินไปเถึงโเ
00:21:30 → 00:21:33 ซึ่งจริงๆไอ้ตรงนี้เวลาอธิบายให้คนไข้ฟัง
00:21:33 → 00:21:36 นะผมไม่เคยพูดเพราะผมไม่คิดว่าเาจะทำได้
00:21:36 → 00:21:40 นะครับอ่าพในชีวิตจริงเนี่ยด้านอาหาร
00:21:40 → 00:21:44 เนี่ยนะครับผมบอกเลยอ่าวิธีที่ใช้แล้วผม
00:21:44 → 00:21:47 เหมือนได้ผลมาตลอดอ่ะนะครับแล้วก็คือให้
00:21:47 → 00:21:50 ฟาสติ้งไปเลยอ่าอาจจะอ่าอาจจะเคยได้ยิน
00:21:50 → 00:21:53 บ้างนะครับฟาสติ้งหมายความอ่าโดยปกติผม
00:21:53 → 00:21:57 วันนึงมี 24 ชมงใช่มั้ยครับได้กิน 8 ชม
00:21:57 → 00:22:01 แล้วก็ไม่กิน 16 ชมอ่าช่วงที่ไม่กินหมาย
00:22:01 → 00:22:03 ความว่าก็กินน้ำได้อะไรได้นะครับแต่ว่า
00:22:03 → 00:22:07 พยายามหลีกเลี่ยงอาหารในช่วง 8 ชมเนี่ยผม
00:22:07 → 00:22:11 จะเน้นว่าอ่าขอมื้อเช้านะครับอย่างเช่น
00:22:11 → 00:22:14 สมมุติว่าเรากินมื้อแรกมื้อเช้าสมมติ 7:00
00:22:14 → 00:22:18 น 7 น + 8 ชมเท่ากับอ่า 15:00 นใช่มั้ย
00:22:18 → 00:22:21 ครับหมายถึงว่าเรากิน 7 นจบที่ 15:00 น
00:22:21 → 00:22:26 ค่ะหลัง 15:00 นเราไม่กินแะนะฮะก็ขอแค่
00:22:26 → 00:22:29 ประมาณเนี้ยละครับแล้วก็คือื่องเนื่องจาก
00:22:29 → 00:22:31 ว่าช่วงเวลาที่เรากินได้นะครับมันสั้นลง
00:22:31 → 00:22:34 เพราะฉะนั้นเราจะกินน้อยลงไปเองครับให้
00:22:34 → 00:22:37 เน้นมื้อเช้ากับมื้อกลางวันนะครับเป็น
00:22:37 → 00:22:40 หลักแล้วก็สมมุติผมผมเอาตัวผมเองเลยบางที
00:22:40 → 00:22:46 ผมก็อยากลดน้ำหนักผมกิน 7:00 นขออภัยครับ
00:22:46 → 00:22:49 7:00 นแล้วก็ผมทำงานเสร็จใช่มั้ยครับ
00:22:49 → 00:22:51 ประมาณ 1200 นผมก็ทานมื้อกลางวันเสร็จ
00:22:51 → 00:22:55 ลิมิตของผมผมรู้ตัวและ 15:00 น 15:00 นผม
00:22:55 → 00:22:57 ช่วง 14:30 น 15:00 นผมก็กินอะไรได้ไม่
00:22:57 → 00:23:00 เยอะหรอกครับผมยังอิ่มอยู่ผมก็กินอะไรได้
00:23:00 → 00:23:04 อ่ากินอาหารแค่พอที่มันจะอยู่ได้แล้วก็
00:23:04 → 00:23:08 ที่เหลือก็ไม่กินแล้วครับถ้าถามว่าอาหาร
00:23:08 → 00:23:13 จำกัดชนิดมยผมบอกเลยว่าก็เอาอาหาร Healthy
00:23:13 → 00:23:16 แล้วะกันแต่อย่างบางเเไม่ไหวจริงๆอ่ามัน
00:23:16 → 00:23:18 ไม่มันมันไม่ได้จริงๆอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:23:18 → 00:23:21 ครับก็ขอให้ควบคุมจำนวนชั่วโมงให้สติ๊ก
00:23:21 → 00:23:24 หน่อยส่วนอาหารอาจจะรีกบ้างอันนี้เรามอง
00:23:24 → 00:23:27 ว่าการการลดน้ำหนักหรือการควบคุมน้ำหนัก
00:23:27 → 00:23:29 ไลฟ์สไตล์เนี่ยนะครับมันเป็นการต่อสู้
00:23:29 → 00:23:32 ระยะยาวเหมือนเราวิ่งมาราธอนนะครับคือถ้า
00:23:32 → 00:23:37 เเอาสติกมากๆเลยคุณจะต้องกินอกไก่โปรตีน
00:23:37 → 00:23:40 ไก่เท่านั้นคุณจะต้องกินปลาไขมันดีคุณกิน
00:23:40 → 00:23:44 อะโวคาโดเท่านั้นมันฝืดคอนะคะหมอมันมัน
00:23:44 → 00:23:48 มันจะทำได้กี่วันนะฮะอใช่ๆอันนี้เราเรา
00:23:48 → 00:23:52 มองว่าเราเราต่อสู้ระยะยากี่วันคุณควรจะ
00:23:52 → 00:23:55 ทำได้ไปเรื่อยๆในระยะยาวไม่ใช่ว่าโอ๊ยทำ
00:23:55 → 00:23:58 ได้อยู่ 3 เดือนเอ้ยลงมาหน่อยนึงอุ้ยโอเค
00:23:58 → 00:24:00 ั้นกลับไปกินเหมือนเดิมโยโยกลับมาเหมือน
00:24:00 → 00:24:03 เดิมอันนี้ก็มันก็ถ้าสุเกินไปส่วนมากมัน
00:24:03 → 00:24:07 จะเป็นอย่างงั้นครับอ่าอันอาหารเนี่ยก็
00:24:07 → 00:24:09 ง่ายๆประมาณนี้อ่าอย่างบางคนเอาจจะใส่ราย
00:24:09 → 00:24:12 ละเอียดมากหน่อยอ่าก็แต่ถ้าทำได้ก็แล้ว
00:24:12 → 00:24:15 แต่นะครับถ้าทำได้ก็เป็นเรื่องที่ดีถ้าทำ
00:24:15 → 00:24:17 แต่แต่เราต้องเน้นว่าเราทำได้แบบ
00:24:17 → 00:24:19 practical ไว้ก่อนสำหรับผมนะอ่าถ้าเกิด
00:24:19 → 00:24:23 ว่าเราแบบเวอร์ๆพูดจาให้อลังการงานสร้าง
00:24:23 → 00:24:25 ขึ้นมาทำไม่ได้ไอ้ที่พูดไปทั้งหมดไม่มี
00:24:25 → 00:24:27 ประโยชน์เลยฮะคน
00:24:27 → 00:24:31 ไขนะครับอืค่ะพออันนี้เดี๋ยวเราก้าวมา
00:24:31 → 00:24:34 อย่างที่ 2 นะครับออกกำลังกายอ่าออกกำลัง
00:24:34 → 00:24:37 กายเนี่ยนะครับเราจะทำอะไรบ้างจริงๆอ่า
00:24:37 → 00:24:40 ทางด้านในตำราเขาก็จะแบ่งออกเป็น 2 อย่าง
00:24:40 → 00:24:45 โดยหลักการก็คือคาร์ดิโอกับเท tring อ่า
00:24:45 → 00:24:47 อันนี้ผมว่าทุกคนฟังเข้าใจแน่นอนอ่าอัน
00:24:47 → 00:24:50 นี้เอาแบบ open Book นะครับคาริเนี่ยเ
00:24:50 → 00:24:53 ถ้าเป็นโดยทั่วๆไปเขาก็แนะนำพวกวิ่งวิ่ง
00:24:53 → 00:24:57 จอกกิ้งอย่างงี้นะครับประมาณ 150 นาทีต่อ
00:24:57 → 00:25:01 สัปดาห์นะครับถ้าถถ้าคิดง่ายๆ 150 นาที
00:25:01 → 00:25:05 เนี่ยอ่ามันเท่ากับก็ประมาณเ่อ 2 ช่วโมง
00:25:05 → 00:25:08 กว่าใช่มั้ครับเราก็ลองอนดูอ่าลอง jing
00:25:08 → 00:25:11 3-4 วันต่อสัปดาห์อย่างงี้นะครับก็แบ่งๆ
00:25:11 → 00:25:13 เวลากันอ่ะครึ่งชั่วโมงเกินครึ่งชั่วโมง
00:25:13 → 00:25:15 บ้างอะไรอย่างเงี้นะครับทำให้เป็นประจำ
00:25:15 → 00:25:18 สม่ำเสมออ่าอันนี้จบของ Cardio นะครับ
00:25:18 → 00:25:20 ส่วนเท Training เนี่ยนะครับเขาก็แนะนำ
00:25:20 → 00:25:22 ว่าให้ทำสัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์ในวันที่
00:25:22 → 00:25:25 ไม่ติดกันวันที่ไม่ติดกันนี่หมายความว่า
00:25:25 → 00:25:27 อย่างเช่นอ่าจันทร์พฤหัสบอะไรเงี้ยครับ
00:25:27 → 00:25:30 วันที่ไม่ติดกันอ่าอย่างแบบอย่างจันทร์
00:25:30 → 00:25:32 อังคารอย่างงี้มันเป็นวันติดกันก็อาจจะ
00:25:32 → 00:25:34 ไม่แนะนำอะไรเงี้ยครับอืก็ทำในวันที่ไม่
00:25:35 → 00:25:38 ติดกันหลักการก็แค่นี้ง่ายๆแต่ว่าทำได้
00:25:38 → 00:25:40 หรือเปล่านี่อีกเรื่องนึงนะครับค่ะอใช่
00:25:40 → 00:25:44 อ่าอันนี้ก็จะจบเรื่องไสล modification
00:25:45 → 00:25:48 นะครับอ่าถ้าถ้ามีคำถามนี่ผมถามให้เลยว่า
00:25:48 → 00:25:50 เอ้ยแล้วเรื่องเรื่องนอนอะไรอย่าเงี้ยมี
00:25:50 → 00:25:54 ผลมั้ยอ่าครับเรื่องเรื่องนอนมันก็อาจจะ
00:25:54 → 00:25:56 เป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์เหมือนกันนะครับแต่
00:25:56 → 00:26:00 ว่าจริงๆอ่าถ้าเราเปิดไกด์ไลน์ดูเลยเนี่ย
00:26:00 → 00:26:02 เรื่องนอนเนี่ยไม่มีนะฮะแต่ว่าถ้าเอาแบบ
00:26:02 → 00:26:06 จากประสบการณ์นะฮะเรื่องนอนนะครับถ้าเรา
00:26:06 → 00:26:11 นอนดึกนะครับเราจะหิวครับอ๋อใช่ๆๆเราเรา
00:26:11 → 00:26:13 เจอกันบ่อยใช่มั้โอ๊คถ้าเราอยู่รายการดึก
00:26:13 → 00:26:16 เราจะหิวประจำครับ
00:26:16 → 00:26:20 ผมครับคือเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเกิดเราเรา
00:26:20 → 00:26:24 จำฟาติตอนแรกได้เนี่ยเราอยากจบที่ 3 น 16
00:26:24 → 00:26:26 นเนี่ยถ้าเราไม่นอนเนี่ยครับมันก็ไม่จบนะ
00:26:27 → 00:26:31 ฮะอืค่ะมันมันจบไม่ได้ครับแล้วก็อีกสาย
00:26:32 → 00:26:34 อีกอย่างนึงนะครับก็คือการนอนจำนวน
00:26:34 → 00:26:37 ชั่วโมงที่ดีแล้วก็ไม่นอนดึกเกินไปมันก็
00:26:37 → 00:26:41 จะทำให้ฮอร์โมนต่างๆเนี่ยครับมันบครับทำ
00:26:41 → 00:26:44 ให้อ่าสำคนที่นอนดึกมากๆหรือนอนน้อยมากๆ
00:26:44 → 00:26:46 เนี่ยสมมุติว่าคุณไม่ได้เป็น pcos นะครับ
00:26:47 → 00:26:50 บางทีก็ทำให้เมนสเลื่อนเหมือนกันเพราะว่า
00:26:50 → 00:26:53 มันมีผลกระทบกับการสร้างฮอร์โมนการผลิต
00:26:53 → 00:26:55 ฮอร์โมนต่างๆในร่างกายเพศหญิงนะครับเพราะ
00:26:55 → 00:26:58 ฉะนั้นจริงๆเนี่ยอ่าเราก็อ่ากินออกกำลัง
00:26:58 → 00:27:00 กายนอนอะไรทุกอย่างก็ทำให้มันดีนะครับทุก
00:27:01 → 00:27:03 อย่างเนี่ยถ้าคิดง่ายๆเลยก็คือ Healthy
00:27:03 → 00:27:05 Lifestyle Healthy Food เอาแค่นี้จบ
00:27:05 → 00:27:09 เลยครับค่ะครับนะครับอันนั้นคือเรื่อง
00:27:09 → 00:27:13 พฤติกรรมแล้วถูกมาสู่ถ้ามันเกินอันนั้นทำ
00:27:13 → 00:27:17 ไม่ได้จนมันมันสิ้นสุดทางละไปที่ยาใช่
00:27:17 → 00:27:20 มั้ยคะหมอเราต้องพึ่งละต้องมีทางเลือก
00:27:20 → 00:27:23 แล้วถูกต้องครับอันนี้คือยาเพื่อลดน้ำ
00:27:23 → 00:27:27 หนักนะครับปัจจุบันเนี่ยอ่าการพิจารณาใช้
00:27:27 → 00:27:30 ยาเนี่ยอ่ามันจะใช้เมื่อไหร่เอาอย่างนี้
00:27:30 → 00:27:33 ดีกว่าครับไม่ใช่ว่าฉันแค่รู้สึกว่าฉัน
00:27:33 → 00:27:35 อ้วนฉันก็เริ่มใช้มันก็ไม่ใช่ขนาดนั้นนะ
00:27:35 → 00:27:38 ครับมันก็ต้องมีหลักมีเกณฑ์นะครับโดยทั่ว
00:27:38 → 00:27:42 ๆไปเนี่ยเราก็จะเอาที่ BMI ประมาณ 30 นะ
00:27:42 → 00:27:45 ครับอันนี้สำหรับคนทั่วๆคนท่วๆไปที่ใช้ยา
00:27:45 → 00:27:48 ลดน้ำหนักนะครับแต่ว่าถ้าเกิดว่าคุณมีโรค
00:27:48 → 00:27:51 ร่วมด้วยโรคร่วมคืออะไรก็คือโรคร่วมที่
00:27:51 → 00:27:55 มันมากับความอ้วนนะครับคืออะไรเบาหวานไข
00:27:55 → 00:28:00 มันความำประมาณนี้โรคอมอนเซนนะครับตัวเใน
00:28:00 → 00:28:02 การสตาร์ทยาเนี่ยมันจะตกมาที่อยู่ที่
00:28:02 → 00:28:06 ประมาณ 27 นะครับอ๋อค่ะ
00:28:06 → 00:28:10 ออ่าส่วนถูกต้องครับส่วนยาเนี่ยตอนนี้
00:28:10 → 00:28:12 เอ๊ะมันพูดชื่อก็ไม่ได้เอาเอาเป็นหลักการ
00:28:12 → 00:28:14 แล้วกันนะฮะชื่อชื่อยาเนี่ยถ้าเป็นตัวที่
00:28:14 → 00:28:16 มันฮอตๆอยู่ในปัจจุบันนะครับมันจะทำให้
00:28:16 → 00:28:19 กินไม่หิวมันมันได้ทั้งกินมีทั้งกินทั้ง
00:28:19 → 00:28:22 ฉีดนะครับอ๋อมันกดประสาทเหรอคะหมอหรือว่า
00:28:22 → 00:28:24 ยังไงมันมันเป็นฮอร์โมนตัวนึงฮเรียกว่า
00:28:24 → 00:28:28 dp1 จริงๆตัวฮอร์โมนเยร่างกายก็สร้างนะ
00:28:28 → 00:28:30 ครับร่างกายสร้างได้เองเลยค่ะมันไม่ใช่
00:28:30 → 00:28:33 แบบว่าสิ่งที่สังเคราะห์มาแบบมโนขึ้นมานะ
00:28:33 → 00:28:35 ครับมันเป็นการเลียนแบบสิ่งที่มีอยู่ใน
00:28:35 → 00:28:38 ร่างกายเราอยู่แล้วแต่ว่าไปทำให้มันออก
00:28:38 → 00:28:42 ฤทธิ์นานมากขึ้นครับอย่างในร่างกายตัว gp1
00:28:42 → 00:28:46 เนี่ยนะครับมันจะสลายไปได้เร็วพอสลายไป
00:28:46 → 00:28:49 ได้เร็วมันก็หมดฤทธิ์เร็วแล้วก็กลับมาหิว
00:28:49 → 00:28:52 เร็วค่ะแต่พอเราไปทำเป็นยาเนี่ยนะครับเรา
00:28:52 → 00:28:54 ทำให้มันออกฤทธิ์นานเพราะฉะนั้นเราก็จะ
00:28:54 → 00:28:58 ไม่หิวนานพอเราไปทำกับฟาตินะครับ
00:28:58 → 00:29:01 มันหมายความว่าเราก็จะสามารถทำาติได้
00:29:01 → 00:29:04 อย่างมีประสิทธิภาพครับผมอืค่ะอันนี้เป็น
00:29:04 → 00:29:07 เป็นสูตรที่ผมใช้บ่อยเป็นเฉพาะตัวเลย
00:29:07 → 00:29:11 สำหรับคนที่แบบลองไลฟ์สไตล์แล้วไม่ได้ผล
00:29:11 → 00:29:13 นะครับก็มักจะชอบแอดตัวนี้อ่าเพราะว่ามัน
00:29:13 → 00:29:17 ก็จะทำให้ไปส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ถูกต้อง
00:29:17 → 00:29:20 ตั้งแต่ตอนแรกนะครับอือืหลักการเป็นอย่าง
00:29:21 → 00:29:23 นี้ครับสำหรับเจอรี่จริงๆคล้ายๆกันเลยก็
00:29:23 → 00:29:28 คือมันก็จะต้องมีหลักมีเกณฑ์นะฮะค่ะอ่า
00:29:28 → 00:29:33 มันก็จะใช้ BMI ที่ 30 กว่าๆไปเลยเยอะๆ
00:29:33 → 00:29:37 เลยถ้าเป็นโรคร่วมเนี่ยนะครับมันก็จะดรอป
00:29:37 → 00:29:40 ลงมาคล้ายๆกันอหลักการก็คือประมาณนี้นะ
00:29:40 → 00:29:42 ครับเจี่นี่ก็คือการตัดกระเพาะนะครับอ่ะ
00:29:42 → 00:29:44 ถ้าคิดแบบง่ายๆตัดกระเพาะมันก็ทำให้พื้น
00:29:44 → 00:29:50 ที่ในกระเพาะลดลงมันก็ทำให้กินได้น้อยลง
00:29:50 → 00:29:54 น้ำหนักก็เลยลดลงประมาณนี้ครับค่ะอันนี้
00:29:54 → 00:29:58 ก็คือ 4 แนวทางสำหรับการรักษาภาวะถุงน้ำ
00:29:58 → 00:30:01 รังไข่หลายใบนะคะก็คือแนวทางที่ 1 การลด
00:30:01 → 00:30:03 น้ำหนักแล้วก็ออกกำลังกายอันนี้เป็นวิธี
00:30:03 → 00:30:06 ของไลฟ์สไตล์แต่ว่าถ้ามันไม่สามารถไปถึง
00:30:06 → 00:30:09 จุดหรือว่าเป้าหมายได้เนี่ยก็ไปพึ่งตัว
00:30:09 → 00:30:13 ของการรักษาด้วยยาหรือว่าขั้นตอนสุดท้าย
00:30:13 → 00:30:16 คือการผ่าตัดกระเพาะนะคะ 4 แนวทางสำหรับ
00:30:16 → 00:30:19 การรักษาตัวภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบอันนี้
00:30:19 → 00:30:21 เราคุยกันเบื้องต้นก่อนเดี๋ยวชวนคุณหมอไป
00:30:22 → 00:30:24 พักเบรครายการสักครู่นะคะเดี๋ยวกลับมาพูด
00:30:24 → 00:30:27 คุยกันในเบรคที่ 2 ของรายการค่ะว่าเอ๊ะ
00:30:27 → 00:30:30 ถ้าตัว pcos หรือว่าภาวะถุงน้ำรังไคหลาย
00:30:30 → 00:30:33 ใบเนี่ยเขาจะสามารถทำให้เราเกิดโรคอื่นๆ
00:30:33 → 00:30:37 ได้หรือเปล่าหรือว่าเอ๊ะถ้ารักษาลดน้ำ
00:30:37 → 00:30:41 หนักลงมาได้ออกกำลังกายได้ดีคนที่มีภาวะ
00:30:41 → 00:30:43 pcos เนี่ยท้องเองได้หรือเปล่าท้อง
00:30:43 → 00:30:46 ธรรมชาติได้หรือเปล่าอ่าเดี๋ยวกลับมาคุย
00:30:46 → 00:30:48 กันในช่วงที่ 2 นะคะเมื่อสักครู่เราคุย
00:30:48 → 00:30:52 กันถึงภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบถึงวิธีการ
00:30:52 → 00:30:56 ดูแลรักษาให้เอ่อภาวะนี้เนี่ยหายไปแล้วก็
00:30:56 → 00:31:00 มันจะสอดคล้องกับภาวะผู้มีบุตรรยากถ้าการ
00:31:00 → 00:31:04 รักษาภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบเนี่ยดีขึ้น
00:31:04 → 00:31:08 หายแล้วการมีบุตรเนี่ยมันจะง่ายขึ้นมคะ
00:31:08 → 00:31:09 คุณ
00:31:09 → 00:31:13 หมอการมีบุตรเนี่ยนะครับมันจะง่ายขึ้นก็
00:31:14 → 00:31:17 ต่อเมื่อเมนมาสม่ำเสมอนะครับอันนี้หมาย
00:31:17 → 00:31:20 ความว่าจริงๆคนเป็น pcos จริงๆก็มีบุตร
00:31:20 → 00:31:22 เองได้นะครับอ่าอย่างถ้าเกิดว่าเรากลับไป
00:31:22 → 00:31:26 ในอ่าตอนแรกนะครับการวินิจฉัย pcos เนี่ย
00:31:26 → 00:31:29 2 ใน 3 ข้อเนี่ยถ้าเป็นคนที่ถูกวินิจฉัย
00:31:29 → 00:31:32 จากอ่าสิวผิวมันขนดกบวกกับลักษณะทาง
00:31:32 → 00:31:35 อันซาวโดยที่เมนยังมาสม่ำเสมอนะครับ
00:31:35 → 00:31:38 สังเกตว่าพวกนี้ยังยังท้องง่ายกว่ากว่า
00:31:38 → 00:31:40 กลุ่มที่เมนมาไม่สม่ำเสมอนะครับเพราะว่าพ
00:31:40 → 00:31:43 เนี่ยก็คือคนที่เมนมาไม่สม่ำเสมอเนี่ยมัก
00:31:43 → 00:31:48 จะมีภาวะมีบุตรยากครับผมมากมากเป็นพิเศษ
00:31:48 → 00:31:51 อ่าแบบนี้ดีกว่าครับค่ะไปดูที่การมีประจำ
00:31:51 → 00:31:54 เดือนในรอบเดือนนั้นๆนะคะว่าจากเดิมนี่
00:31:54 → 00:31:58 เคยห่าง 3 เดือนครั้งมาเป็นเป็นมาอ่า
00:31:58 → 00:32:00 ประจำเดือนมาทุกเดือนหรือเปล่าถ้ามาทุก
00:32:00 → 00:32:03 เดือนเนี่ยภาวะผู้มีบุตรยากก็จะจำนวน
00:32:03 → 00:32:06 เปอร์เซ็นต์ก็ลดลงนะคะใช่ครับแต่ก็ยังก็
00:32:06 → 00:32:08 ยังมีก็ยังมีบุดย่างมากกว่าคนทั่วไปนะ
00:32:08 → 00:32:11 ครับแต่ว่าก็ดูดูดีที่สุดในกลุ่มเพื่อน
00:32:11 → 00:32:15 ฝูงอ่าที่เป็นอะไเงี้ยนะครับค่ะอ๋อเอ๊ะ
00:32:15 → 00:32:18 แต่ตัวเอ่อถุงน้ำรังในรังไข่หลายใบเนี่ย
00:32:18 → 00:32:21 มันจะนำพามาซึ่งโรคอื่นได้บ้างมั้ยหรือ
00:32:21 → 00:32:26 ว่ามันจะมีแค่เอ่อความทำให้เรามีบุตรยาก
00:32:26 → 00:32:30 ได้อย่างเดียวเฉยๆมีอาการที่ไปเค้าเรียก
00:32:30 → 00:32:33 อะไรคะเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคอื่น
00:32:33 → 00:32:37 ได้บ้างหรรือเปล่าคะเยอะครับก็เดี๋ยวลอง
00:32:37 → 00:32:40 อธิบายให้ฟังครับอ่าได้เลยครับคือโดยปกติ
00:32:40 → 00:32:43 เนี่ยนะครับพาว่าเดี๋ยวผมกลับไปเรื่องโดย
00:32:44 → 00:32:45 เรื่องฮอร์โมนผิดปกติก่อนนะครับค่ะ
00:32:46 → 00:32:48 ฮอร์โมนผิดปกติเนี่ยถ้าแบ่งเป็น 2 อย่าง
00:32:48 → 00:32:51 ง่ายๆเนะครับก็จะแบ่งเป็นภวะดื้อต่อ
00:32:51 → 00:32:55 อินซูลินนะครับกับภาวะที่มีฮอร์โมนเพศชาย
00:32:55 → 00:32:58 มากถ้าเกิดว่าภาวะที่ดื้อต่ออินซูลิน
00:32:58 → 00:33:01 เนี่ยนะครับการที่ดื้อต่ออินซูลิน
00:33:01 → 00:33:03 อินซูลินเนี่ยเป็นฮอร์โมนที่ใช้ในการเผ่า
00:33:03 → 00:33:05 ผลาญพวกคาร์โบไฮเดรตไขมันอะไรเงี้ยนะครับ
00:33:05 → 00:33:07 เปลี่ยนน้ำตาลภาวะดื้ออินซูลินเนี่ยจะ
00:33:07 → 00:33:09 เกี่ยวข้องถ้าเอาเป็นโรคคุ้นหูเลยก็คือ
00:33:09 → 00:33:12 เบาหวานถูกมยฮะภาวะดื้ออินซูลินจะเกี่ยว
00:33:12 → 00:33:16 ข้องกับภาวะโรคอ้วนอ่าสาเหตุของการอ้วนก็
00:33:16 → 00:33:20 มาจากการดื้ออินซูลินด้วยพออ้วนเสร็จครับ
00:33:20 → 00:33:24 มันก็จะส่งผลให้เกิดเบาหวานความดันไขมัน
00:33:24 → 00:33:26 อันนี้มันเป็นผลต่อเนื่องนะครับค่ะเบา
00:33:26 → 00:33:31 หวานความดันไขมันเป็นต่อเนื่องยาวนานก็จะ
00:33:31 → 00:33:34 ทำให้หลอดเลือดหัวใจนะครับมันถูกพอกด้วย
00:33:34 → 00:33:39 ไขมันน้ำตาลมันเยอะมันเกิดขึ้นมาก็จะเป็น
00:33:39 → 00:33:43 โรคหัวใจนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยตรงเนี้ย
00:33:43 → 00:33:46 การอธิบายจากการที่เกิดภาวะดื้ออินซูลิน
00:33:46 → 00:33:50 นะครับมันจะเป็นคิชร่วมกันก็คือเบาหวาน
00:33:50 → 00:33:54 ความดันไขมันหัวใจอ่าแบบง่ายๆนะครับอัน
00:33:54 → 00:33:58 นี้เสร็จแล้วเนื่องจาก
00:33:58 → 00:34:04 ตัวอีกภาวะนึงคือภาวะที่มีตัวฮอร์โมนเพศ
00:34:04 → 00:34:07 ชายเกินนะครับสิ่งที่จะทำให้เกิดขึ้นก็
00:34:07 → 00:34:12 คือสิวผิวมันดขนดกผมร่วงเหมือนกับที่บอก
00:34:12 → 00:34:15 ไปตั้งแต่ตอนแรกนะครับอ้อเมื่อกี้ขาดไป
00:34:15 → 00:34:18 นิดนึงนะครับภาวะอ้วนก็เกี่ยวกับอีกอย่าง
00:34:18 → 00:34:22 นึงก็คือการนอนกรนนะครับก็คือแบบอือค่ะ
00:34:22 → 00:34:26 สลีแอบนอ่าสลแนียมันก็จะเป็นผลต่อเนื่อง
00:34:26 → 00:34:29 อ้วนนี่คืออย่างเดียวเนี่ยพาไปเพียบเลย
00:34:29 → 00:34:32 ค่ะครับอ่าๆครับนะครับแล้วอ้วนก็ยัง
00:34:32 → 00:34:36 เกี่ยวกับมีบุตรยากด้วยอ่าอืครับนะครับ
00:34:36 → 00:34:40 อ้วนอย่างเดียวเนี่ยเพียบนะครับแล้วแล้ว
00:34:40 → 00:34:43 การที่ถ้ากลับไปข้อแรกนะครับการที่ประจำ
00:34:43 → 00:34:46 เดือนเนี่ยไม่ค่อยมาการที่ประจำเดือนไม่
00:34:46 → 00:34:49 ค่อยมาหมายความว่าโดยปกตินะครับเดี๋ยเรา
00:34:49 → 00:34:51 เล่าไปก่อนว่าประจำเดือนมันมาจากอะไร
00:34:51 → 00:34:53 ประจำเดือนมันเกิดจากการที่เยื่อบุพงมด
00:34:53 → 00:34:56 ลูกเนี่ยนะครับที่มันเจริญทุกเดือนเนี่ย
00:34:56 → 00:35:00 มันถูกสลายออกมากลายเป็นนะครับแต่พอมัน
00:35:00 → 00:35:03 ไม่สลายนะครับมันมันไม่มีเหม็นสักทีมันก็
00:35:03 → 00:35:06 สร้างขึ้นมาเรื่อยๆมันก็นงมาเรื่อยๆมัน
00:35:07 → 00:35:11 หนาจนมันมีการแบ่งตัวที่ผิดปกตินะครับพอ
00:35:11 → 00:35:13 มันผิดปกติไปจนถึงจุดนึงมันก็ทำให้เกิด
00:35:13 → 00:35:17 เป็นมะเร็งเยื่อบู่โพงมดลูกได้ครับค่ะนะ
00:35:17 → 00:35:22 ครับอตรงนี้ก็จะเป็นผลกระทบทางสุขภาพอีก
00:35:22 → 00:35:25 อย่างหนึ่งนะครับอืแล้วก็ภาวะมีบุตรยาก
00:35:25 → 00:35:28 อย่างที่เราได้พูดกันไปตอนแรกจริงๆหลักๆ
00:35:28 → 00:35:31 เนี่ยนะครับมันเกิดขึ้นจากการที่ไข่ตกไม่
00:35:31 → 00:35:35 สม่ำเสมอแล้วก็ถูกซ้ำเติมด้วยพวกภาวะอ้วน
00:35:35 → 00:35:38 ภาวะฮอร์โมนผิดปกติผิดเพี้ยนเนี่ยนะครับ
00:35:38 → 00:35:40 พวกก็จะเป็น
00:35:40 → 00:35:43 อ่าการการมีบุตรยากเนี่ยก็จะเป็นอีกส่วน
00:35:43 → 00:35:47 นึงแล้วก็อีกอย่างนึงนะครับก็คือว่าโดยผล
00:35:47 → 00:35:50 กระทบทางสุขภาพทุกอย่างรวมกันเลยเนี่ยอาจ
00:35:50 → 00:35:53 จะทำให้คนไข้นะครับมีความรู้สึกว่าแบบ
00:35:53 → 00:35:57 โอ้ยชันนี่มันโรครุมเร้านู่นนี่จังเลยก็
00:35:57 → 00:36:02 อืเกี่ยวกับเรื่องจิตเวผสมมาด้วยนะครับ
00:36:02 → 00:36:05 ที่รู้สึกว่าฉันมันโอ๊ยเดี๋ยวออ้วนก็เป็น
00:36:05 → 00:36:09 เบาหวานความดันก็เป็นเอ่อเมดไม่มารูปร่าง
00:36:09 → 00:36:14 ฉันก็ไม่ดีเออจะมีลูกก็มีไม่ได้อ้าสิวก็
00:36:14 → 00:36:16 ขึ้นอีกโอ้ยปวดหัวจังอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:36:16 → 00:36:19 ครับมัน consequence โดยรวมว่าแบบอ่ามา
00:36:19 → 00:36:22 จากหลายๆอย่างครับอันนี้ก็คือโดยภาพรวมนะ
00:36:22 → 00:36:25 ครับว่า pcl ทำให้เกิดผลกระทบอะไรได้บ้าง
00:36:25 → 00:36:28 ซึ่งก็จะนำไปสู่การรักษาที่แตกต่างกันตาม
00:36:28 → 00:36:32 แต่ปัญหาของแต่ละคนนะครับอืค่ะเมื่อกี้
00:36:32 → 00:36:35 ที่กล่าวไปตอนแรกเนี่ยคือเราจะเน้นปัญหา
00:36:35 → 00:36:37 ทางด้านโรคอ้วนเพราะว่าโรคอ้วนเนี่ยถ้า
00:36:37 → 00:36:40 เกิดจัดการได้มันก็จะลดไอ้ consequence
00:36:40 → 00:36:42 ของมันนนะครับบหวานความมันขขด้านหัวใจ
00:36:42 → 00:36:44 อะไรเงี้ยได้ได้ได้พอสมควรเมื่อกี้ก็เลย
00:36:44 → 00:36:48 ชิงพูดไปก่อนนะครับค่ะถ้าอย่างงั้นคือนอก
00:36:49 → 00:36:51 จากความอ้วนทางร่างกายแล้วเนี่ยก็มี
00:36:51 → 00:36:53 เรื่องของจิตใจที่ที่คุณหมอพูดเมื่อสัก
00:36:54 → 00:36:57 ครู่ที่เจอเคสมาเนี่ยคุณหมอเจอเคสประมาณไ
00:36:57 → 00:37:00 มีอะไรจะแชร์จะเล่าให้ฟังมคะเผื่อคุณผู้
00:37:00 → 00:37:04 ฟังที่ฟังอยู่ตอนเอาจจะเอ๊ฉันก็เจอภาวะ
00:37:04 → 00:37:07 นี้เหมือนกันอะไรเงี้ยค่ะอจริงๆถ้าเอาอิง
00:37:07 → 00:37:11 จากผลกระทบทางสุขภาพที่เมื่อกี้พูดไปนะ
00:37:11 → 00:37:15 ครับจริงๆก็เคยเจอครบหมดนะครับอ่าซึ่งเ
00:37:15 → 00:37:18 ฉันอ้วนแล้วก็มาด้วยสิ่งต่างๆที่เกี่ยว
00:37:18 → 00:37:22 กับความอ้วนฉันมาด้วยแบบโอ๊ยสิวเยอะจังผม
00:37:22 → 00:37:25 ก็ร่วงไม่เหลือแล้วอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:37:25 → 00:37:29 อ่ามีบุตรลำบากอ่ะแล้วอันเนี้ยผมคิดว่า
00:37:29 → 00:37:34 จริงๆเนี่ยตรงเนี้ยเจอได้หมดเลยอ่าแล้วก็
00:37:34 → 00:37:40 บางทีก็มาด้วยอ่าชันเมนไม่มา 2 ปีโอ 2 ปี
00:37:40 → 00:37:46 นี่คือนานมากนนกใช่ๆถ้าๆทำไมเพิ่งมาอ่า
00:37:46 → 00:37:48 เขาคก็บอกว่าเหมือนเคต้องทำงานอะไรอย่า
00:37:48 → 00:37:52 เงี้ยนะครับซึ่งอ่าอันนี้เราก็พอเข้าใจ
00:37:52 → 00:37:56 อ่ะบางคนเ้าไม่ได้จริงๆมันมันตึงจริงๆ
00:37:56 → 00:38:00 หรือว่าแบบอ่าการหยุดงานก็อาจจะสร้างผล
00:38:00 → 00:38:02 กระทบต่อรายได้หรือว่า
00:38:02 → 00:38:05 เอ่อที่ทำงานอะไรอย่างเงี้ยนะครับหรือว่า
00:38:05 → 00:38:08 อาจจะเป็นความคอนเซิร์นด้วยส่วนนึงจริงๆ
00:38:08 → 00:38:11 คือแบบอ่ะฉันไม่มาก็ไม่มาตรวจแล้วไม่ท้อง
00:38:11 → 00:38:15 ก็จบอ่าบางคนเาก็คิดแค่นี้นะฮะค่ะแต่ว่า
00:38:15 → 00:38:18 พอผมได้ได้มาตรวจเนี่ยนะครับ
00:38:18 → 00:38:22 อ่าตอนแรกในถ้าเกิดสมมุติว่าเมนไม่มานาน
00:38:22 → 00:38:24 มากๆอย่างเงี้นะครับประกอบกับอ้วนด้วย
00:38:24 → 00:38:27 อ้วนเนี่ยครับอีกแล้วอ้วนอีกแล้วคืออ้วน
00:38:27 → 00:38:29 เนี่ยมันก็จะไขมันเนี่ยเราเชื่อว่าเขา
00:38:29 → 00:38:32 สร้างฮอร์โมนได้ตัวชั้นของมันเนะครับ
00:38:33 → 00:38:35 ฮอร์โมนที่สร้างคือฮอร์โมนเพศหญิง
00:38:35 → 00:38:38 เอสโตรเจนตัวฮอร์โมนจะทำให้เยื่อบุูงมลูก
00:38:38 → 00:38:41 เนี่ยหนามากอืยิ่งอ้วนเนี่ยคุณก็สร้าง
00:38:41 → 00:38:44 ฮอร์โมนได้มากยิ่งทำให้เยื่อบุเนี่ยมัน
00:38:44 → 00:38:49 หนามากนะครับค่ะพอผมอัตซาวดูก็พบว่าเอ่อ
00:38:49 → 00:38:52 ตัวเยื่อบุมันหนามากเลยอ่าก็เลยแนะนำว่า
00:38:52 → 00:38:57 อ่าขอเอาชัวร์ว่าตัวเยื่อบุพวงมนลูกเนี่ย
00:38:57 → 00:39:00 มันมันมันยังเป็นเนื้อดีหรือเไม่เป็น
00:39:00 → 00:39:02 เนื้อร้ายนะอ่าหรือว่าถ้าเป็นเนื้อร้าย
00:39:02 → 00:39:06 เนี่ยก็จะได้รู้นะครับอันนี้ก็เลยอ่าขอคน
00:39:06 → 00:39:10 ไข้ทำการขูดมะดลูกดูนะครับอืพอหลังจะขูด
00:39:10 → 00:39:13 มะดลูกเนี่ยขูดมะดลูกคืออะไรก่อนคือเอา
00:39:13 → 00:39:16 เครื่องมือเนี่ยนะครับเข้าผ่านช่องคลอดนะ
00:39:16 → 00:39:19 ครับแล้วก็ผ่านตัวปากมนลูกเข้าไปยังพงมน
00:39:19 → 00:39:22 ลูกที่มีเยื่อบุกมนลูกอยู่นะครับแล้วก็
00:39:22 → 00:39:25 ขูดเอาเยื่อบุที่มันหนาๆนี่แหละออกมาขดนะ
00:39:25 → 00:39:27 ครับอ่าโดย
00:39:27 → 00:39:30 พอเราได้เซลล์ได้ตัวเยืบุเนี่ยครับเราก็
00:39:30 → 00:39:34 จะส่งให้คุณหมอที่เป็นคุณหมออ่านชิ้น
00:39:34 → 00:39:39 เนื้อโดยเฉพาะนะครับช่วยอ่านว่าตัวชิ้น
00:39:39 → 00:39:41 เนื้อเนี่ยมันเป็นเนื้อดีเนื้อร้ายนะครับ
00:39:41 → 00:39:44 แต่ถ้าเกิดอ่าคนไข้คนนี้นะครับเขาก็โชค
00:39:44 → 00:39:48 ร้ายออกมาค่ะออกมาเป็นเนื้อร้ายอือ่านมา
00:39:48 → 00:39:52 เลยมะเร็งเนื้อบุพงมดลูกอ่าถ้าอย่างนี้นะ
00:39:52 → 00:39:57 ครับค่ะผมก็จะไปปรึกษาคุณหมอมะเร็งต่อว่า
00:39:57 → 00:40:01 เออเราค้นพบนะอ่าคนนี้น่าจะเป็นมะเร็งเย
00:40:01 → 00:40:04 บุพรมลูกจากการที่เป็น P Cos อ่าเราก็
00:40:04 → 00:40:08 เมนไม่มานานๆอ่าค่ะคุณหมอมะเร็งเนี่ยก็จะ
00:40:08 → 00:40:12 ทำการผ่าตัดโดยทั่วไปนะครับทำการผ่าตัดก็
00:40:12 → 00:40:15 ทำการตัดมดลูกแล้วก็เลาะรังไข่แล้วก็เลาะ
00:40:15 → 00:40:17 ดอกน้ำเหลืองต่างๆนานาเนี่ยนะครับก็จะ
00:40:17 → 00:40:21 เป็นการผ่าตัดยิ่งใหญ่เลยอ่าซึ่งถ้าเกิด
00:40:21 → 00:40:24 ว่าเราเจอเร็วเนี่ยนะครับอ่าการผบัดก็จะ
00:40:24 → 00:40:27 ่วได้เยอะมากแล้วก็สามารถจบได้แต่ถ้าถ้า
00:40:27 → 00:40:29 เกิดเราเจอช้าเนี่ยมันก็อาจจะต้องมีการ
00:40:29 → 00:40:32 รักษาเพิ่มเติมอ่าตรงนี้มันก็จะต้องให้
00:40:32 → 00:40:34 คุณหมอมะเร็งช่วยตัดสินใจว่าเออมันต้องไ
00:40:34 → 00:40:36 คีโมต้องอะไรเพิ่มหรือเปล่าอย่างเงี้ยนะ
00:40:37 → 00:40:41 ครับอ่าคนไข้คนนี้ก็พอดีเป็นแรกๆอนะครับ
00:40:41 → 00:40:44 ส่งไปก็ผ่าตัดแล้วก็จบคุณหมอมะเร็งก็เอา
00:40:44 → 00:40:49 ไปดูต่อออก็ถือว่าเป็นข้อคิดว่าจริงๆถ้า
00:40:49 → 00:40:52 เรารู้สึกว่าเรามีความผิดปกติทางร่างกาย
00:40:52 → 00:40:55 อย่างชัดเจนอะไรบางอย่างนะครับจริงๆคนไข
00:40:56 → 00:40:58 จะไม่รู้หรอกครับว่าจริงจริงไอ้ผลกระทบ
00:40:58 → 00:41:01 ทางสุขภาพของเราเนี่ยมันเกิดอะไรได้บ้าง
00:41:01 → 00:41:03 ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้เข้ามาตรวจเราไม่รู้
00:41:03 → 00:41:06 ว่าเราเป็นอะไรอนะครับจะฝากเอาไว้ว่าถ้า
00:41:06 → 00:41:09 เรามีปัญหาอะไรอย่างชัดเจนเนี่ยนะครับอ่า
00:41:09 → 00:41:11 เราเราลองเข้ามาตรวจก่อนถ้าไม่เป็นอะไร
00:41:11 → 00:41:14 เราก็ถือว่าโชคดีนะฮะอ่าถ้าเป็นอะไรก็ถือ
00:41:14 → 00:41:18 ว่าเรารู้เร็วอเราเราแบบปล่อยไปเรื่อยๆ
00:41:18 → 00:41:22 อ่าปล่อยไปเรื่อยๆมันมันเล็งแทนอาจากที่
00:41:22 → 00:41:23 ไม่เป็นมะเร็งกลายเป็นมะเร็งจากมะเร็ง
00:41:23 → 00:41:26 ระยะแรกกลายเป็นระยะลุกรามอะไรเงี้ยครับ
00:41:26 → 00:41:30 มันก็ไม่คุมเอี้ไม่คุมอ่าใช่ๆๆก็จริงนะ
00:41:30 → 00:41:34 ครับก็มันเหมือนกับว่าบางอย่างอ่ะถ้าเสีย
00:41:34 → 00:41:37 น้อยเสียมากนะหมอเสียน้อยเสียมากเสียยาก
00:41:37 → 00:41:40 เสียง่ายอ่ะเสียน้อยแล้วไปแบบเอ้ยคิดว่า
00:41:40 → 00:41:44 เออมันสเสียเวลานิดหน่อยพยาบาลก่อนครับ
00:41:44 → 00:41:47 อะไรอย่าแบบเนี้ยใช่ครับเพราบางอย่างเรา
00:41:47 → 00:41:50 ไม่รู้หรอกครับบางอย่างมันมันเหมือนอาการ
00:41:50 → 00:41:52 นิดๆหน่อยๆแต่มันอาจจะแค่เป็นทรายเริ่ม
00:41:52 → 00:41:56 ต้นของโลกที่อยได้นะครับจริงครับเออคุณ
00:41:56 → 00:41:59 หมอขามีคำถามจากคุณผู้ฟังค่ะว่ากรณีที่
00:41:59 → 00:42:04 รักษา pcos โดยการใช้ยาเป็นลักษณะยาลด
00:42:04 → 00:42:08 ความอ้วนเนี่ยใช้เอ่อได้นานแค่ไหนหรือว่า
00:42:08 → 00:42:12 ต้องใช้จนถึงแบบเหมือนถึงโกน้ำหนักเลยคือ
00:42:12 → 00:42:15 มันถ้าใช้นานไปยาลดน้ำหนักเนี่ยมีผลกระทบ
00:42:16 → 00:42:19 กับร่างกายหรือเปล่าอ่าจริงๆอๆอันนี้
00:42:19 → 00:42:23 เดี๋ยวผมใช้พูดถึง specific ตัวนี้ไปเลย
00:42:23 → 00:42:26 นะครับเป็นตัวที่ jp1 เนี่ยซึ่งจริงๆมัน
00:42:26 → 00:42:29 เป็นตัว OT สุดนะปัจจุบันนะครับอ่าโดยโดย
00:42:29 → 00:42:32 ทั่วๆไปถ้าดูตามิเนี่ยนะครับส่วนมากเขาจะ
00:42:32 → 00:42:34 ชอบเขียนลิมิตเอาไว้ที่ประมาณ 1 ปีนะครับ
00:42:34 → 00:42:36 แต่ถ้าถามว่าใช้เกินแล้วมันเป็นอะไรยังไง
00:42:36 → 00:42:38 เป็นพิเศษหรือเปล่าเนะครับส่วนมากไอ้
00:42:38 → 00:42:42 ration ตรงนี้เนี่ยมันมักจะอิงความเพเซฟ
00:42:42 → 00:42:45 เอาไว้โดยทั่วๆไปยาในกลุ่มนี้จะเป็นยาที่
00:42:45 → 00:42:48 ปลอดภัยมากนะครับถ้ากับยาลดความอ้วนใน
00:42:48 → 00:42:51 อดีตหลายๆ 10 ปีที่ผ่านมาเนี่ยพอใช้ใช้ไป
00:42:51 → 00:42:54 เนี่ยยาเถูกถอนออกเนื่องจากมันมีผลกระทบ
00:42:54 → 00:42:56 ทางสุขภาพที่อาจสมมุตินะครับทำให้เกิด
00:42:56 → 00:42:59 เป็นโรคหัวใจหรืออะไรอย่างเงี้ยนะฮะซึ่ง
00:42:59 → 00:43:02 เราไปค้นพบในภายหลังแต่ว่าอเก็จะ Play
00:43:02 → 00:43:04 เซฟเอาไว้แต่โดยทั่วไปจากอันนี้เป็น
00:43:04 → 00:43:08 ประสบการณ์การใช้นะครับจริงๆสำหรับคนที่
00:43:08 → 00:43:11 อยากใช้มากกว่า 1 ปีเนี่ยเราก็บอกเอาไว้
00:43:11 → 00:43:13 ว่าจริงๆมันก็เขียนมาประมาณเท่านี้หรือ
00:43:14 → 00:43:17 ว่าจริงๆเราอาจจะไม่ต้องยึดเลขมากนะคือยา
00:43:17 → 00:43:19 ลดความอ้วนเนี่ยเราทาง Common Sense
00:43:19 → 00:43:22 เนี่ยเราคงไม่ได้ให้ใช้มัน 10 ปี 5 ปี
00:43:22 → 00:43:25 ตลอดชีวิตอย่างงี้มันไม่ใช่ยาเบาหวานความ
00:43:25 → 00:43:27 ดัน่ะนะครับแล้วก็
00:43:27 → 00:43:30 เราเนี่ยต้องพยายาม encourage ให้ในช่วง
00:43:30 → 00:43:33 ระหว่างที่ใช้ยานะครับคุณปรับไลฟ์สไตล์
00:43:33 → 00:43:37 ได้ดีมากๆแล้วลดน้ำหนักให้มากที่สุดอือ
00:43:37 → 00:43:40 ให้พยายามได้ถึง target มากที่สุดเท่าที่
00:43:40 → 00:43:43 จะได้นะครับแต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆเนี่ยเรา
00:43:43 → 00:43:47 ก็ดูภาพรวมความเหมาะสมในภาพรวมว่าเออถ้า
00:43:47 → 00:43:49 เราใช้เรารู้สึกว่าเราใช้นานแล้วจริงๆ
00:43:49 → 00:43:51 เนี่ยเราหยุดมันสักพักนึงก็ได้ครับแล้ว
00:43:51 → 00:43:55 เราไปไลฟ์สไตล์แบบจริงจังเพิ่มขึ้นเราจะ
00:43:55 → 00:43:58 ได้มีช่วงที่มันไม่ได้ใช้ยาต่อเนื่องจน
00:43:58 → 00:44:02 ยาวเกินไปนะครับแล้วอืแล้วจริงๆเราก็ต้อง
00:44:02 → 00:44:04 บอกว่าจริงๆเหมือนที่เกริ่นตั้งแต่ตอนแรก
00:44:05 → 00:44:07 เรื่องไลฟ์สไตล์นะครับเราคาดหวังให้ทำได้
00:44:07 → 00:44:10 ตลอดไปนะครับไม่ได้ทำได้แค่ตอนนี้แล้วก็
00:44:10 → 00:44:14 ลืมมันแล้วก็โยโยนะฮะอ่าผมเชื่อว่าจริงๆ
00:44:14 → 00:44:17 คนคนไข้อย่างที่ผมรักษาหรือยังไงเนะครับ
00:44:17 → 00:44:20 คนที่รักษาเกินสัก 6 เดือนขึ้นไปเนี่ยเา
00:44:20 → 00:44:23 ชินกับไลฟ์สไตล์แบบนี้แหละคนที่สามารถทำ
00:44:23 → 00:44:26 ได้จริงๆเนี่ยนะครับเถึงเขาหยุดยาไปนะ
00:44:26 → 00:44:31 ครับเาก็เาก็ฟาสติ้งได้ตามปกติอ่าอาจจะ
00:44:31 → 00:44:34 ไม่เท่ากับตอนยาแต่ว่ามันก็ถือว่าดีใน
00:44:34 → 00:44:37 ระดับนึงคือคือเหมือนกับว่าพอเขาเปลี่ยน
00:44:37 → 00:44:39 พฤติกรรมไปแล้วอ่ะเขาอาจจะมีหลุดบ้างอาจ
00:44:39 → 00:44:43 จะแบบไม่ใช่ 16/8 อาจจะแบบนิดๆหน่อยๆแต่
00:44:43 → 00:44:45 คือลักษณะที่เขาทำมาหรือว่าการเปลี่ยน
00:44:45 → 00:44:48 พฤติกรรมเนี่ยมันจะทำให้เขาดึงกลับเข้า
00:44:48 → 00:44:51 สู่เอ่อแนวทางเนี่ยได้เร็วไม่หลุดง่ายๆ
00:44:51 → 00:44:53 ใช่มั้ยคะคุณหมอถูกต้องครับคือผมเนี่ย
00:44:53 → 00:44:56 เป็นคนมันเราเราต้องมองแบบชีวิตจริงอย่าง
00:44:56 → 00:44:59 เช่นสมมตอือ่าสมมติว่าตัวคนไขเนี่ยเขก็
00:44:59 → 00:45:03 ต้องไปกินข้าวเย็นกับญาติพี่น้องกับพ่อ
00:45:03 → 00:45:07 แม่กับเพื่อนบ้างอ่าที่มันอาจจะเกินช่วง
00:45:07 → 00:45:11 เวลา 8 ชมนะครับคือมันก็ทำได้ครับแต่คือ
00:45:11 → 00:45:14 มันก็เฉพาะในอีเวนแต่ถ้าสมมุติว่าในชีวิต
00:45:14 → 00:45:16 ประจำวันของเราที่เราก็โอเคเราก็ทำงาน
00:45:16 → 00:45:19 กลับบ้านปกติเนี่ยเราก็คาดหวังว่าเราก็ทำ
00:45:19 → 00:45:22 ได้ตามสิ่งที่เรานัดแนะกันเอาไว้ซึ่งตรง
00:45:22 → 00:45:25 นี้ถ้าเราทำได้ประมาณนี้เครับเราก็แฮปปี้
00:45:25 → 00:45:27 แล้วครับหมายความว่าในระยะระยะยาวเนี่ย
00:45:27 → 00:45:32 เราเราจะเอาชนะด้วยวินัยได้อยู่ดีฮะอืค่ะ
00:45:32 → 00:45:36 อือจริงๆแล้วคือเรื่องเรื่องการออกกำลัง
00:45:36 → 00:45:40 กายแล้วก็การเอ่อดูแลร่างกายลดภาวะเอ่อ
00:45:40 → 00:45:43 ความอ้วนเนี่ยก็ถือว่าเป็นกุญแจไขคำตอบ
00:45:43 → 00:45:46 ให้กับหลายๆโรคเหมือนกันเพราะว่าโรคอ้วน
00:45:46 → 00:45:49 เนี่ยตัวอ้วนเนี่ยเองนำมาซึ่งหลายโรคตรง
00:45:49 → 00:45:53 นี้เนี่ยคุณหมอขาเอ่อถึงขั้นที่ไปสู่การ
00:45:54 → 00:45:57 ผ่าตัดกระเพาะเพื่อให้มีบุตรเนี่ยคุณหมอ
00:45:57 → 00:46:01 มีเยอะไหคะอ่าจริงๆผมต้องบอกว่า
00:46:01 → 00:46:05 อ่าโดยทั่วไปเราจะไม่ไม่ได้ใช้การผ่าตัด
00:46:05 → 00:46:08 กระเพาะให้มีบุตรส่วนมากเราจะผ่าตัด
00:46:08 → 00:46:11 กระเพาะให้น้ำหนักลดครับแต่ว่าถ้าเกิดว่า
00:46:11 → 00:46:15 เราต้องการมีบุตรเนี่ยนะครับอเราจะเราจะ
00:46:15 → 00:46:17 เราจะแบ่งการรักษาเป็นอย่างนี้ครับค่ะ 1
00:46:17 → 00:46:20 เนี่ยเราต้องถามก่อนว่าเมื่อไหร่เราเรา
00:46:20 → 00:46:23 เราเราถึงจะต้องเข้าไปปรึกษาโดยทั่วไปก็
00:46:23 → 00:46:27 คือลองสักประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีเนี่ยนะ
00:46:27 → 00:46:30 ครับแล้วมันไม่ได้ทีเนี่ยเราก็จะแนะนำให้
00:46:30 → 00:46:33 เข้าไปปรึกษาเพะแต่ว่าจริงๆถ้าเรารู้ก่อน
00:46:33 → 00:46:35 ที่จะเข้าไปปรึกษาเนี่ยสิ่งที่รู้ก่อนก็
00:46:35 → 00:46:37 คือไลฟ์สไตล์เนี่ยนะครับถ้าเรารู้ก็ทำได้
00:46:37 → 00:46:39 บ้างเนี่ยก่อนที่จะเข้าไปปรึกษาเนี่ยมัน
00:46:39 → 00:46:42 ก็เป็นกำไรของตัวผู้ป่วยเองอย่างเช่น
00:46:42 → 00:46:44 สมมุติเราลองมา 1 ปีแต่เราก็ไลฟ์สไตล์ไป
00:46:44 → 00:46:47 แล้วน้ำหนักฉันลดไปแล้ว 7 กลก่อนที่จะไป
00:46:47 → 00:46:49 เจอคุณหมอเนี่ยคุณคุณหมอก็รักษาง่ายขึ้น
00:46:49 → 00:46:52 นะครับค่ะอ่าถูกมยฮะเสร็จแล้วเนี่ยพอหลัง
00:46:52 → 00:46:55 จากไลฟ์สไตล์ขึ้นไปเนี่ยตัวตัวมันก็จะมี
00:46:55 → 00:46:58 เป็นการรักษาการมีบุดยากแบบจริงจังเลย
00:46:58 → 00:47:00 ซึ่งมันก็จะมีอยู่ 2 วิธีก็คือการฉีด
00:47:00 → 00:47:03 เชื้อหรือ iui กับอีกอย่างนึงก็คือการทำ
00:47:03 → 00:47:06 เด็กหลอดแก้วหรืออี่นะครับออย่างถ้าเกิด
00:47:07 → 00:47:11 ต้นทุนมาดีอ่าต้นทุนคืออ่าเราดูแลตัวเอง
00:47:11 → 00:47:14 ไปได้แล้วส่วนนึงอ่าการเข้ากระบวนการพวก
00:47:14 → 00:47:18 นี้นะครับมันก็จะทำให้จะติดได้ง่ายเดี๋ยว
00:47:18 → 00:47:21 ผมท้อความได้ก่อนเลยคือประเด็นของ pcos
00:47:21 → 00:47:24 คือไขไม่ตกใช่มั้ยครับการ ui หรือการฉีด
00:47:24 → 00:47:28 เชื้อเนี่ยคือการทำให้ไขตกอ่าเป็นการแก้
00:47:28 → 00:47:33 ไขปัญหาที่ตรงจุดคือเราจะเป็นการให้ยาที่
00:47:33 → 00:47:35 กระตุ้นให้ไข่ในรังไข่นะครับมันเจริญเติบ
00:47:35 → 00:47:39 โตขึ้นแล้วก็ให้ยาอีกตัวนึงนะครับอเมื่อ
00:47:39 → 00:47:42 ไข่เจริญเติบโตถึงจุดนึงให้ยาอีกตัวนึง
00:47:42 → 00:47:44 เข้าไปเพื่อให้ไข่เนี่ยมันตกออกจากรังไข่
00:47:44 → 00:47:48 แล้วก็เดินทางผ่านท่อนำไข่ไปเรื่อยๆใน
00:47:48 → 00:47:51 ระยะในในช่วงที่เราคิดว่าไข่จะตกเนี่ยนะ
00:47:51 → 00:47:54 ครับเราก็จะเก็บสเปิร์มจากตัวสมีแล้วก็
00:47:54 → 00:47:57 ฉีดเข้าไปในโพงบลูกให้มันไปวิ่งไปเจอกัน
00:47:57 → 00:48:00 ให้ได้ออันเรียกว่าการฉีดเชื้อหรือ iui
00:48:00 → 00:48:04 นะครับค่ะอถึงแม้ว่า mechanism เนี่มันจะ
00:48:04 → 00:48:07 แก้กันโดยตรงก็คือไม่ไม่ตกไข่ทำให้ตกไข่
00:48:07 → 00:48:09 แล้วก็เอาสเปิร์มเข้าไปในช่วงเวลาที่ตก
00:48:09 → 00:48:12 ไข่นะฮะแต่ว่าจริงๆวิธีนี้เนี่ยมันมีข้อ
00:48:12 → 00:48:14 เสียตรงที่ประสิทธิภาพมันไม่เยอะมันจะ
00:48:14 → 00:48:17 อยู่ที่ราราสัก 10 -15% เองเท่านั้นนะ
00:48:17 → 00:48:21 ครับค่ะคนที่ได้ลองวิธีนี้ iui โดยทั่วไป
00:48:21 → 00:48:25 มันก็จะอยู่ที่ 3-6 รอบมันเนื่องจาก
00:48:25 → 00:48:27 เปอร์เซ็นต์มันน้อยใช่มั้ยฮะเราก็ต้องบอก
00:48:27 → 00:48:30 คนไข้เลยว่าไอ้วิธีเนี้ยอ่ามันใช้ได้พอ
00:48:31 → 00:48:34 ใช้ได้นะแต่ว่าจริงๆการคาดหวังให้ติดภาย
00:48:34 → 00:48:36 ในรอบเดียวเนี่ยรอบนึงก็ใช้เวลาประมาณ
00:48:36 → 00:48:38 เดือนนึงเนี่ยนะครับค่ะครับมันอาจจะไม่
00:48:38 → 00:48:41 ได้คาดหวังได้นะถ้าเรามาเวยนี้เนี่ยเราก็
00:48:41 → 00:48:45 อาจจะต้องทำหลายรอบหน่อยส่วนรอบประมาณไหน
00:48:45 → 00:48:48 คุณจะเอา 3 คุณจะเอา 4 คุณจะเอา 5 หรือ
00:48:48 → 00:48:52 คุณจะน้อยกว่านั้นเนี่ยอ่าก็เราต้องคุย
00:48:52 → 00:48:56 กันเป็นแบบเ by cas เลยอืระดับความคาด
00:48:56 → 00:49:00 หวัง budget ที่เตรียมไว้อายุของคนไข้
00:49:00 → 00:49:03 หรือว่าอ่าต้องบอกว่าจริงๆการมีบุกยากนะ
00:49:03 → 00:49:05 ครับคนที่เป็น pcs แล้วมาด้วยบุตยากเนี่ย
00:49:05 → 00:49:09 เอาจจะมีปัญหาอื่นด้วยออย่างเช่นอ่าอายุ
00:49:09 → 00:49:12 เยอะอายุ 40 นะครับอ่ามันเราต้องดูหลายๆ
00:49:12 → 00:49:15 องค์ประกอบนะครับสเปิร์มออกมากหรือว่ามี
00:49:15 → 00:49:19 แฟตรอื่นๆก้อนเนื้องอกมดลูกหรืออะไรก็ตาม
00:49:19 → 00:49:22 เนี่ยนะครับอ่าถ้าเกิดว่ามันดูมีปัญหามาก
00:49:22 → 00:49:26 ๆแล้วดูจะเป็นเคสยากนะครับเราก็จะสวิตช์
00:49:26 → 00:49:29 ไปทำเด็กหหลอดแก้วหรือไม่ก็ต้องไปแก้
00:49:29 → 00:49:32 ปัญหาร่วมอย่างอื่นที่เราไปเจอร่วมด้วย
00:49:32 → 00:49:34 ก่อนอย่างเช่นเจอก้อนงอกใหญ่ๆเงี้ยครับ
00:49:34 → 00:49:37 เราอาจจะต้องแนะนำให้เคไปผ่าก่อนก็นงอก
00:49:37 → 00:49:40 เงี้ยนะครับอ่าหรือว่า
00:49:40 → 00:49:44 อ่าลองคุยกับคนไข้แล้วคนไข้เรู้สึกว่าโอ้
00:49:44 → 00:49:47 เปอร์เซ็นต์แค่นี้ฉันไม่อยากทำหรอกเสีย
00:49:47 → 00:49:50 เวลาเวลาเป็นเงินเป็นทองต้องไปทำนู่นทำ
00:49:50 → 00:49:54 นี่ทำไม่ติดก็เครียดไปทำเด็กหลอดแก้วเลย
00:49:54 → 00:49:57 ดีกว่าตรงนี้เนี่ยเราเราต้องอธิบายทั้ง
00:49:57 → 00:50:01 หมดข้อมูลทั้งหมดแล้วก็ตกลงตัดสินใจร่วม
00:50:01 → 00:50:03 กันนะฮะจริงๆมันไม่ตายตัวมากนะครับการ
00:50:03 → 00:50:07 รักษาพตายตัวมากนะครับการทำเด็กหลอดแก้วเ
00:50:07 → 00:50:10 นะครับอ่าเดี๋ยวเอาใหม่การทำการฉีดเชื้อ
00:50:10 → 00:50:14 หรือ iui นะครับข้อดีเนี่ยของมันก็คือถูก
00:50:14 → 00:50:18 ข้อเสียของมันคือประสิทธิภาพไม่สูงนะครับ
00:50:18 → 00:50:21 พอเราเปลี่นไปเป็นอี่นะครับข้อดีของมัน
00:50:21 → 00:50:26 คือประสิทธิภาพสูงข้อเสียคือแพงแพงอือ่า
00:50:26 → 00:50:30 ครับรอบนึงก็หลายแสนอ่าเอางี้โดยทั่วๆไป
00:50:30 → 00:50:33 นะครับอ 2 - แสนอ่าส่วนมาก iui ก็จะเป็น
00:50:33 → 00:50:35 หลักหมื่นอันนี้ถ้าเป็นเรทเอกชนนะครับถ้า
00:50:36 → 00:50:39 เป็นเรทรัฐบาลเนี่ยอ่าตัว X ก็อาจจะถูกลง
00:50:39 → 00:50:44 มานะครับ iui ก็เช่นกันครับแต่คนะครับค่ะ
00:50:44 → 00:50:48 ตัวอิซี่หรือเด็กหลอดแก้วมันทำยังไงฮะอ่า
00:50:48 → 00:50:51 จริงๆต้องบอกว่าตัวโลกตัว pcos นนะครับ
00:50:51 → 00:50:54 เวลาทำ XY เนี่ยอาจจะไม่ต้องเรียกได้ว่า
00:50:54 → 00:50:57 เป็นโรคที่ทำแล้วติดง่ายกว่าโรกตัวอื่น
00:50:57 → 00:50:59 แทบทั้งนั้นเลยนะครับที่เป็นปัญหาที่ทำ
00:50:59 → 00:51:03 ให้มีบุตรยากนะครับเพอะไรฮะ pcos เนี่ยนะ
00:51:03 → 00:51:07 ครับมันเป็นโรคที่คุณมีไข่เยอะแต่ไข่คุณ
00:51:07 → 00:51:11 ไม่ตกเฉยๆอนะอืคือหมายความว่าจริงๆต้นทุน
00:51:11 → 00:51:14 ดีนะครับการทำอี้เนี่ยจริงๆปัจจัยสำคัญ
00:51:14 → 00:51:18 มากที่สุดเลยที่ทำให้ตั้งครรภ์ได้เนี่ยก็
00:51:18 → 00:51:21 คือจำนวนไขนะครับเป็นสุดยอดแห่งปัจจัยที่
00:51:21 → 00:51:25 หมอทุกคนเจะต้องมองตรงนี้ก่อนเลยซึ่งตัว
00:51:25 → 00:51:28 คนที่เป็น pcl นี่คือคุณขายเยอะอ่ะคุณขาย
00:51:28 → 00:51:31 เยอะแนวโน้มจะเป็นแบบนั้นนะครับคือหมาย
00:51:31 → 00:51:34 ความว่าเวลาเราให้ยานะครับให้ยาการให้ยา
00:51:34 → 00:51:38 ของ XY เนี่ยจะแตกต่างกับการให้ยาในการทำ
00:51:38 → 00:51:42 iui การทำ II เราให้ยาเบาๆจุดประสงค์คือ
00:51:42 → 00:51:45 ให้ได้ไข่ใบ 2 ใบพอและอ่าเพราะว่าเราไม่
00:51:45 → 00:51:48 อยากได้เยอะๆเวลาเราฉีดเชื้อเข้าไปเราควบ
00:51:48 → 00:51:51 คุมไม่ได้เดี๋ยวเราติดแฟต 2 แด 3 แด 4
00:51:51 → 00:51:53 อะไรอย่าเงี้ยเราไม่ชอบทางการแพทย์นะครับ
00:51:53 → 00:51:57 แต่ว่าทางอี่เนี่ยเราจะเอาเยอะที่สุดที่
00:51:57 → 00:52:00 เราทำได้คุณมีเท่าไหร่เนี่ยเราคาดหวัง
00:52:00 → 00:52:03 เยอะที่สุดโดยทั่วไปก็ถ้าทางทฤษฎีอาจจะ
00:52:03 → 00:52:07 8-15 ใบก็ถือว่าโอเคแล้วะแต่คนที่เราอาจ
00:52:07 → 00:52:08 จะได้มากกว่านั้นอีกเราอาจจะได้มากกว่า 15
00:52:09 → 00:52:11 ใบอีกแต่มากมากมากๆก็ไม่ดีนะครับมันจะไป
00:52:11 → 00:52:14 ทำให้คุณภาพน้อยลงแต่ว่าแนวโน้มเนี่ยครับ
00:52:14 → 00:52:17 คนที่ได้ไข่ปริมาณพอสมควรถึงมากเนี่ยมัน
00:52:17 → 00:52:21 ก็ทำง่ายครับพอเราได้ไข่ปริมาณพอสมควรนะ
00:52:21 → 00:52:25 ครับเราจะทำการเก็บไข่ในห้องนะครับเราจะ
00:52:25 → 00:52:27 ฉีดยาให้คนไข้หลับๆ
00:52:27 → 00:52:31 แล้วก็เอาอุปกรณ์ที่เหมือนการอ่าอัตซาว
00:52:31 → 00:52:35 ทางช่องคลอดนะครับค่ะทางก็คืออุปกรณ์ตัว
00:52:35 → 00:52:37 เดียวกันเนะครับแต่ว่าตัวปลายที่เครื่อง
00:52:37 → 00:52:41 อันซาวเนี่ยมันจะมีเข็มเราเราก็จะเห็นไข่
00:52:41 → 00:52:44 จากการอันซาวเราก็จะแทงเข็มเข้าไปตรงๆที่
00:52:44 → 00:52:48 ที่ไข่ในรังไข่นะครับอ่าแล้วเราก็ดูดออก
00:52:48 → 00:52:49 มาดูดออกมาทั้งหมดเลยเพียงเท่าไหร่เราก็
00:52:49 → 00:52:53 ดูดๆออกมานะครับดูดมันก็จะไปอยู่ในในตัว
00:52:53 → 00:52:57 หลอดนะครับค่ะแล้วตัวนักวิทศาสตร์ก็จะเอา
00:52:57 → 00:53:00 ไปดูว่าเราเก็บไข่ได้กี่ใบเราจะเอาไข่
00:53:00 → 00:53:02 เนี่ยนะครับ 1 ใบเนี่ยเราจะไปผสมกับ
00:53:02 → 00:53:05 สเปิร์ม 1 ตัวถ้าเป็นผู้ชายปกติสเปิร์มก็
00:53:05 → 00:53:07 มีเหลือเฟือนะฮะมีเป็น 10 ล้าน 100 ล้าน
00:53:07 → 00:53:09 อะไรเงี้ยนะฮะแล้วเพราะฉะนั้นเนี่ยก็อยู่
00:53:09 → 00:53:12 ที่ปริมาณไข่เครับสมกันแบบ
00:53:12 → 00:53:16 1:1 ไข่ผสมกับสเปิร์มก็จะกลายเป็นตัว
00:53:16 → 00:53:19 อ่อนเราก็จะเอาตัวอ่อนเนี่ยนะครับไป
00:53:19 → 00:53:22 เลี้ยงเป็นเวลา 5 วันค่ะเลี้ยง 5 วันด้วย
00:53:22 → 00:53:25 คือเลี้ยงเป็น 5 วันมันจะกลายเป็นตัวอ่อน
00:53:25 → 00:53:28 ที่สมบูรณ์พรอในการที่จะนำกลับไปวางในโงว
00:53:28 → 00:53:32 รูปให้เกิดการตั้งครรภ์นะครับอือ่าแล้วก็
00:53:32 → 00:53:35 พอเรามีตัวอ่อนจำนวนมากเนะครับเท่ากับเรา
00:53:35 → 00:53:38 มีตัวเลือกเยอะค่ะอ่อนเนี่ยมันต้องมีทั้ง
00:53:38 → 00:53:41 แข็งแรงตัวที่เลือกตัวสมบูรณ์ที่สุดใช่
00:53:41 → 00:53:44 มั้ยคะคุณหมออ่าถูกครับพอเรามีตัวเลือก
00:53:44 → 00:53:47 เยอะเนี่ยเราก็มีโอกาสที่จะได้ตัวดีๆพอ
00:53:47 → 00:53:51 เราได้ตัวดีๆเนี่ยนะครับเราก็จะสามารถพอ
00:53:51 → 00:53:53 เอากลับไปวางนะครับโดยหลักการนะครับเราก็
00:53:53 → 00:53:57 จะวาง 1 1 ตัวถึง 2 ตัวค่ะอืจะไม่เกิน
00:53:57 → 00:53:59 นั้นซึ่งการวาง 1 ตัวเนี่ยโอกาสติดมันก็
00:53:59 → 00:54:02 เยอะอยู่แล้วอถ้าเราไปฟังเปอร์เซ็นต์เนะ
00:54:02 → 00:54:05 ครับมันก็จะหลากหลายรตี้แล้วแต่เซ็นตเลย
00:54:05 → 00:54:08 แต่ว่าเยอะกว่าการทำเด็กหลอดแก้วเยอะมาก
00:54:08 → 00:54:12 นะครับ 50 60 70% อยิ่งวาง 2 ตัวนี่โอ้
00:54:12 → 00:54:14 โอกาสติดมหาศาลนะฮะแต่ก็มีโอกาสติดแฝน
00:54:14 → 00:54:19 ด้วยอค่ะก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะ
00:54:19 → 00:54:22 คะสำหรับด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมทางด้านการ
00:54:22 → 00:54:25 แพทย์เพื่อรักษาดูแลภาวะผู้มีบุตรยากนะคะ
00:54:25 → 00:54:29 สำหรับนี้โอโหคุณหมอขาสนุกมากแล้วก็เวลา
00:54:29 → 00:54:33 หมดแล้วจริงๆค่ะครับครับค่ะขอบคุณคุณหมอ
00:54:33 → 00:54:35 มากเลยนะคะที่มาพูดคุยกันในวันนี้ค่ะ
00:54:35 → 00:54:39 ขอบคุณคุณหมอครับได้เลยครับขอบคุณมากครับ
00:54:39 → 00:54:44 ครับค่ะสวัสดีค่ะพันตำรวจครับพันตำรวจโท
00:54:44 → 00:54:45 นาย
00:54:45 → 00:54:48 แพทย์ขออภัยค่ะพันตำรวจโทดรนายแพทย์
00:54:48 → 00:54:51 สุธรรมสุธาพรค่ะนายแพทย์สบ 3 เวชศาสตร์
00:54:51 → 00:54:54 การเจริญพันธ์กลุ่มงานสูตินารีเวชกรรมโรง
00:54:54 → 00:54:58 พยาบาลตำรวจนะคะ y