00:00:00 → 00:00:02 หน้าลอกคันต้องระวังโรคเซบเดิมโรคผื่นแพ้
00:00:02 → 00:00:05 ต่อมไขมันเป็นแล้วจิต
00:00:05 → 00:00:09 ตกเปิดวิธีรักษาโรคเซฟเดิมโรคผืนแพ้ต่อม
00:00:09 → 00:00:12 ไขมันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้อย่าง
00:00:12 → 00:00:16 ไรดูอย่างไรผิวแพ้สารผิวติดสารหรือไม่
00:00:16 → 00:00:19 เร่งรักษากันหน้าพังติดตามเรื่องราวทั้ง
00:00:19 → 00:00:24 หมดได้ในรายการ TNN Health วัน
00:00:24 → 00:00:28 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ TNN
00:00:28 → 00:00:31 Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ
00:00:31 → 00:00:35 คุ้มกันรู้ทันโรคไปกับ T Health ค่ะและ
00:00:35 → 00:00:38 ดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงฉัดาวจังวังกรแพทย์
00:00:38 → 00:00:41 เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อมที่จะ
00:00:42 → 00:00:44 รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณผู้ชม
00:00:44 → 00:00:46 มาเข้าถึงสาระสุขภาพดีๆกัน
00:00:46 → 00:00:53 [เพลง]
00:00:53 → 00:00:57
00:00:57 → 00:00:57 [เพลง]
00:00:57 → 00:01:00 ค่ะสัปดาห์นี้เราจะมาพูดคุยคุยกันถึง
00:01:00 → 00:01:03 เรื่องโรคเซบเดิมหรือผื่นแพ้ต่อมไขมันค่ะ
00:01:03 → 00:01:06 โรคเซฟเดิมหรือว่าโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน
00:01:06 → 00:01:09 นั้นต้องบอกว่าเป็นโรคที่ทำให้ทรมานใจคน
00:01:09 → 00:01:11 ที่เป็นมากเลยค่ะเพราะโรคนี้นะคะสามารถ
00:01:11 → 00:01:14 เป็นได้ทั้งหนังศีรษะใบหน้าหรือแม้
00:01:14 → 00:01:17 กระทั่งตามร่างกายก็ได้โรคผื่นแพ้ต่อมไข
00:01:17 → 00:01:21 มัน cic dermatis นั้นแม้จะไม่ใช่โรคติด
00:01:21 → 00:01:23 ต่อแต่สามารถกลับมามีอาการได้เมื่อถูก
00:01:23 → 00:01:26 กระตุ้นโดยเฉพาะในหน้าร้อนที่อุณหภูมิไม่
00:01:26 → 00:01:29 เป็นมิตรกับผิวเมื่อมีความเครียดมีภาวะ
00:01:29 → 00:01:31 เจ็บปวดป่วยไม่สบายที่บันทอนร่างกายให้
00:01:32 → 00:01:35 อ่อนแอแต่ทั้งนี้โรคเซฟเดิมสามารถเกิด
00:01:35 → 00:01:37 ขึ้นได้ทั้งในหน้าร้อนและหน้าหนาวโดยหน้า
00:01:37 → 00:01:40 ร้อนต่อมไขมันบริเวณผิวหน้าจะสร้างไขมัน
00:01:40 → 00:01:43 ออกมามากซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ผืนแพ้ต่อม
00:01:43 → 00:01:46 ไขมันเกิดได้มากขึ้นส่วนในหน้าหนาวเมื่อ
00:01:46 → 00:01:49 อากาศแห้งเกินไปก็จะกระตุ้นให้เกิดผืนแพ้
00:01:49 → 00:01:52 ต่อมไขมันได้เช่นกันโรคเซฟเดิมเป็นโรคผิว
00:01:52 → 00:01:54 หนาที่เกี่ยวกับการอักเสบเรื้อรังมักเกิด
00:01:54 → 00:01:57 ขึ้นบริเวณที่มีต่อมไขมันเช่นบริเวณหนัง
00:01:57 → 00:02:01 ศีรษะไรผมใบหูหัวคิ้วข้างจมูกร่องแก้มรอบ
00:02:01 → 00:02:05 ริมฝึปากหน้าอกรักแร้หรือขาหนีบเป็นต้น
00:02:05 → 00:02:07 โดยเมื่อมีอาการจะทำให้ผิวหนังมีอาการแดง
00:02:07 → 00:02:10 แสบลอกและอาจมีอาการคันร่วมด้วยในบริเวณ
00:02:10 → 00:02:13 ที่เป็นเช่นบางคนเป็นที่หน้าอกก็อาจมีผืน
00:02:13 → 00:02:16 ลอกแดงคันที่บริเวณอกหรือหากเป็นบริเวณ
00:02:16 → 00:02:19 หนังศีรษะก็จะมีอาการคล้ายเป็นรังแคแต่
00:02:19 → 00:02:22 หากมีการอักเสบเรื้อรังก็อาจทำให้เกิดผล
00:02:22 → 00:02:25 ร่วงตามมาได้ในส่วนของโรคเซฟเดิมนั้น
00:02:25 → 00:02:28 ปัจจุบันค่ะยังไม่มีการฟันธงหรือว่าสรุป
00:02:28 → 00:02:32 แน่ชัดว่ามีสาเหตุมาจากอะไรแต่ส่วนหนึ่ง
00:02:32 → 00:02:35 เป็นเรื่องของภูมิแพ้ที่มาจากภูมิแพ้ชนิด
00:02:35 → 00:02:37 หนึ่งที่เป็นเพ็ญหายๆเมื่อร่างกายถูก
00:02:37 → 00:02:40 กระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้หรือภูมิคุ้มกันใน
00:02:40 → 00:02:43 ร่างกายตกลงอาการของโรคเซบเดิมก็สามารถ
00:02:43 → 00:02:46 กำเริบขึ้นมาได้พันธุกรรมโรคภูมิแพ้
00:02:46 → 00:02:49 สาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดโรคเซฟเดิมนั้น
00:02:49 → 00:02:51 เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมถ้ามีคนในครอบครัว
00:02:51 → 00:02:54 เป็นภูมิแพ้ก็มีโอกาสที่เราจะเป็นโรคนี้
00:02:54 → 00:02:56 ได้เช่นกันโดยตัวโรคจะกระตุ้นให้เกิดการ
00:02:56 → 00:02:59 อักเสบและสูญเสียสมดุลบริเวณผิวหนังททำ
00:02:59 → 00:03:02 ให้เชื้อยีสตมีปริมาณเยอะขึ้นและก่อให้
00:03:02 → 00:03:05 เกิดการอักเสบแดงลอกตามมานอกจากเรื่องของ
00:03:05 → 00:03:08 โรคภูมิแพ้นี้ยังมีปัจจัยอื่นๆนะคะที่
00:03:08 → 00:03:11 เป็นสาเหตุทำให้ผื่นแพ้เซบเดิมเกิดขึ้น
00:03:11 → 00:03:14 เยอะขึ้นได้ภาวะความเจ็บป่วยไม่สบายของ
00:03:14 → 00:03:18 ร่างกายระดับของฮอร์โมนที่แปรปรวนความ
00:03:18 → 00:03:21 เครียดพักผ่อนไม่เพียงพอความร้อนแสงแดด
00:03:21 → 00:03:25 หรือรังสี UV ฝุ่นและมลภาวะเชื้อราส่วน
00:03:25 → 00:03:28 เกินบนผิวหรือปฏิกิริยาการอักเสบของยึด
00:03:28 → 00:03:31 ส่วนเกินที่ทำให้ผิวหนังอักเสบแดงลอกโรค
00:03:31 → 00:03:34 เซฟเดิมหรือว่าโรคผืนแพ้ต่อมไขมันนั้นทำ
00:03:34 → 00:03:37 ให้ผู้ที่เป็นค่ะเกิดความสูญเสียความมั่น
00:03:37 → 00:03:40 ใจไปเยอะทีเดียวเลยเนื่องจากโรคนี้เป็น
00:03:40 → 00:03:43 โรคผิวหนังที่รักษาไม่หายขาดไม่มีสัญญาณ
00:03:43 → 00:03:46 เตือนว่าโรคจะกลับมาเป็นอีกเมื่อไหร่และ
00:03:46 → 00:03:48 ด้วยความที่คนเป็นโรคนี้จะมีอาการเหมือน
00:03:48 → 00:03:52 เป็นสิวแต่ความรุนแรงจะมากกว่าการเป็นสิว
00:03:52 → 00:03:55 ผิวแห้งลอกโดยผู้ป่วยจะทรมานและแสบมากและ
00:03:55 → 00:03:58 ถ้ายิ่งขึ้นที่หนังศีรษะจะแสบและคันมาก
00:03:58 → 00:04:01 อย่างที่กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าโรคเซฟ
00:04:01 → 00:04:04 เดิมไม่ใช่โรคติดต่อและไม่ได้เกิดขึ้นจาก
00:04:04 → 00:04:06 การติดเชื้อนั่นหมายความว่าหากมีการ
00:04:06 → 00:04:09 สัมผัสผิวหนังคนที่เป็นโรคนี้จะไม่สามารถ
00:04:09 → 00:04:12 ติดต่อกันได้แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโรคนี้ไม่
00:04:12 → 00:04:14 สามารถป้องกันได้ 100% เนื่องจากยังไม่
00:04:14 → 00:04:16 ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่อาจเกิดจาก
00:04:16 → 00:04:19 พันธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อมหรือมีเพียงตัว
00:04:19 → 00:04:22 กระตุ้นเท่านั้นสิ่งที่ทำได้คือการหลีก
00:04:22 → 00:04:24 เลี่ยงภาวะที่ทำให้เกิดหรือถ้าหากเป็น
00:04:25 → 00:04:27 แล้วก็ต้องป้องกันไม่ให้ผืนกำเริบหรือลุก
00:04:27 → 00:04:30 ลามส่วนใหญ่โรคนี้จะเกิดขึ้นขึ้นตามช่วง
00:04:30 → 00:04:33 อายุของผลการวิจัยกรมการแพทย์ได้ทำการ
00:04:33 → 00:04:36 สำรวจมาหลักๆโรคผืนแพ้ต่อมไขมันเกิดขึ้น 2
00:04:36 → 00:04:39 ช่วงอายุมากที่สุดนั่นก็คือช่วงที่ 1
00:04:39 → 00:04:43 ช่วงเด็กแรกเกิดเพราะช่วงนี้นะคะจะมีการ
00:04:43 → 00:04:46 ผลิตต่อมไขมันที่เยอะขึ้นมากทำให้ผิวทารก
00:04:46 → 00:04:50 ค่ะสามารถเป็นผื่นแดงได้ง่ายและช่วงที่ 2
00:04:50 → 00:04:53 วัยกลางคนเพราะช่วงนี้ร่างกายจะมีการผลิต
00:04:53 → 00:04:56 ฮอร์โมนที่ผิดหรืออารมณ์แปรปรวนมากกว่า
00:04:56 → 00:04:58 กลุ่มวัยรุ่นรวมถึงภาวะความเครียดทางด้าน
00:04:58 → 00:05:02 ต่างๆอีกด้วยแม้โรคนี้จะไม่ใช่โรคติดต่อ
00:05:02 → 00:05:04 แต่ถ้าใครเป็นแล้วรักษาเท่าไหร่ก็ไม่
00:05:04 → 00:05:07 ทุเลาลงสักทีเป็นโรคนี้ยาวนานติดต่อกัน
00:05:07 → 00:05:10 2-3 เดือนให้สังเกตตัวเองไว้ก่อนเลยว่า
00:05:10 → 00:05:14 เรามีโอกาสจะเป็นโรคพิสันและโรค HIV หรือ
00:05:14 → 00:05:18 โรคทางประสาทบางชนิดก็ได้และในช่วงนี้ค่ะ
00:05:18 → 00:05:21 เราจะมาพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใน
00:05:21 → 00:05:25 เรื่องของโรคเซฟเดิมหรือผืนแพ้ต่อมไขมัน
00:05:25 → 00:05:28 ว่ามีความสัมพันธ์กับภาวะพิสันและ HIV
00:05:28 → 00:05:32 อย่างไรและจะมีวิธีในการชะลอป้องกันรักษา
00:05:32 → 00:05:37 อย่างไรได้บ้างสวัสดีค่ะ
00:05:37 → 00:05:44 [เพลง]
00:05:45 → 00:05:48 อาจารย์อาจารย์คะขอเริ่มที่ข้อแรกเลยนะคะ
00:05:48 → 00:05:51 โรคเซฟเดิมหรือว่าผื่นแพ้ต่อมไขมันมี
00:05:51 → 00:05:53 อาการอย่างไรบ้างคะค่ะก็หลักๆแล้วเนี่ย
00:05:53 → 00:05:56 เราจะแบ่งออกเป็นเ่อ 2 กลุ่มอายุด้วยกัน
00:05:56 → 00:05:58 ก็คือกลุ่มตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงวัย
00:05:58 → 00:06:00 ประมาณ 3 เดือนเนี่ยลักษณะก็จะเป็นลักษณะ
00:06:01 → 00:06:03 เป็นขุยสะเก็ดหนาบริเวณหนังศีรษะแล้วก็
00:06:03 → 00:06:06 อาจจะมีผื่นตามตำแหน่งบริเวณใบหน้าอ่าตาม
00:06:06 → 00:06:10 ข้อพับขาหนีบต่างๆได้ซึ่งถ้าเป็นในเด็ก
00:06:10 → 00:06:12 กลุ่มนี้อ่ะค่ะอ่าประมาณอายุไม่เกิน 1 ปี
00:06:12 → 00:06:14 เนี่ยผื่นเนี่ยก็จะหายไปได้เองค่ะส่วนเ่อ
00:06:15 → 00:06:17 กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่มาเป็นในผู้ใหญ่ก็
00:06:17 → 00:06:19 จะเจอได้ใน 2 กลุ่มอายุก็คือกลุ่มที่เป็น
00:06:19 → 00:06:22 ช่วงเข้าวัยรุ่นแล้วก็อีกทีนึงจะเป็นอายุ
00:06:22 → 00:06:25 ประมาณ 40-50 ปีขึ้นไปก็จะเจอได้เยอะขึ้น
00:06:25 → 00:06:27 ลักษณะที่พบในผู้ใหญ่อ่ะค่ะก็จะเป็น
00:06:27 → 00:06:29 ลักษณะเป็นผื่นแดงอาจจะขอบเขตไม่ชัดมี
00:06:29 → 00:06:32 ลักษณะเป็นขุยแล้วก็ชอบเป็นตำแหน่งที่มี
00:06:32 → 00:06:35 ต่อมไขมันปริมาณมากก็คือบริเวณใบหน้าอาจ
00:06:35 → 00:06:38 จะเจอที่บริเวณร่องแก้มหัวคิ้วบริเวณหนัง
00:06:38 → 00:06:41 ศีรษะบริเวณใบหูหลังหูแล้วก็บริเวณหน้าอก
00:06:41 → 00:06:44 แล้วก็หลังส่วนบนค่ะอาการก็จะมีอาการคัน
00:06:44 → 00:06:46 หรือว่าอาการแสบก็ได้แล้วก็อาการเหล่านี้
00:06:46 → 00:06:49 มักจะเป็นค่อนข้างเรื้อรังไม่หายขาดค่ะ
00:06:49 → 00:06:52 แล้วจะแยกโรคเซฟเดิมกับโรคผื่นแพ้ผิวหนัง
00:06:52 → 00:06:55 ที่มีอาการคล้ายๆกันได้อย่างไรคะจะแยก
00:06:55 → 00:06:57 ด้วยลักษณะผื่นเป็นหลักเลยค่ะอย่างเช่น
00:06:57 → 00:07:00 ถ้าเป็นเอ่อตัวสิวเองเนี่ยเราก็อาจจะเห็น
00:07:00 → 00:07:02 ลักษณะที่เป็นเอ่อการอุดตันหรือว่าเป็น
00:07:02 → 00:07:04 ลักษณะเป็นตุ่มแดงเป็นการอักเสบแต่ว่าถ้า
00:07:04 → 00:07:06 เกิดว่าเป็นผื่นเซฟเดิมเองเนี่ยลักษณะจะ
00:07:06 → 00:07:08 เป็นผื่นแดงอาจจะขอบเขดไม่ชัดแล้วก็มี
00:07:08 → 00:07:11 ลักษณะที่เป็นขุยแล้วก็ตำแหน่งที่จำเพาะ
00:07:11 → 00:07:14 ค่ะเช่นเอ่อหัวคิ้วร่องจมูกหรือว่าหนัง
00:07:14 → 00:07:17 ศีรษะหรือว่าบริเวณหูหรือว่าถ้าเป็นกลุ่ม
00:07:17 → 00:07:20 สะเก็ดเงินการแยกก็อาจจะดูที่ผื่นลักษณะ
00:07:20 → 00:07:22 ผื่นของคนที่เป็นสะเก็ดเงินเนี่ยขอบเขตก็
00:07:22 → 00:07:24 จะชัดกว่าแล้วก็อาจจะมีลักษณะขุยที่เอ่อ
00:07:24 → 00:07:28 เป็นลักษณะสีเงินหนามากกว่าค่ะทำไมคนที่
00:07:28 → 00:07:30 เป็นโรคเซฟเดิมค่ะค่ะอาจารย์เขถึงมัก
00:07:30 → 00:07:34 กล่าวกันว่ามันเป็นโรคเวรโรคกรรมคะก็จริง
00:07:34 → 00:07:36 ๆแล้วเนื่องจากว่าอาจจะเป็นโรคที่ค่อน
00:07:36 → 00:07:38 ข้างเป็นเรื้อรังเนาะแล้วก็รักษาไม่หาย
00:07:38 → 00:07:40 ขาดอ่ะค่ะคนไข้จะเป็นเป็นหายๆแล้วเนื่อง
00:07:40 → 00:07:42 จากว่าตำแหน่งผืนเนี่ยเป็นน็อกร่มผ้าแบบ
00:07:42 → 00:07:44 ใบหน้าหนังศีรษะก็จะทำให้คนไข้เนี่ย
00:07:44 → 00:07:47 เหมือนสูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตอ่ะ
00:07:47 → 00:07:49 ค่ะเลยอาจจะคิดว่าเอ้ยทำไมเป็นเป็นโรคที่
00:07:49 → 00:07:52 แบบไม่หายสักทีอย่างเงี้ยค่ะอาจารย์คะ
00:07:52 → 00:07:55 แล้วโรคเซฟเดิมเนี่ยมีความสัมพันธ์กับโรค
00:07:55 → 00:07:58 HIV พาร์กินสันและมีความสัมพันธ์กับ
00:07:58 → 00:08:00 อาการอย่างอื่นอย่างอะไรบ้างคะตัวผื่น
00:08:00 → 00:08:03 เซิฟเดิมเองเนี่ยก็จะเจอเ่อได้บ่อยในคน
00:08:03 → 00:08:05 ไข้กลุ่มพาร์กินสันหรือว่ากลุ่มคนไข้ที่
00:08:05 → 00:08:07 เป็นโรคระบบประสาทบางชนิดเช่นเลือดดแดง
00:08:07 → 00:08:10 กลุ่มสตกหอแดงอุดตันอย่างเงี้ยค่ะหลักๆ
00:08:10 → 00:08:12 เกิดจากการที่ระบบประสาทเนี่ยทำงานผิด
00:08:12 → 00:08:15 ปกติแล้วก็กระตุ้นให้เกิดการสร้างไขมัน
00:08:15 → 00:08:17 ขึ้นมาบริเวณชั้นผิวที่มากขึ้นเกิดจากการ
00:08:17 → 00:08:20 ที่คนไข้เนี่ยอาจจะไม่มีการขยับอ่าบริเวณ
00:08:20 → 00:08:23 นั้นแล้วก็เกิดการสะสมของไขมันบนผิวหนัง
00:08:23 → 00:08:26 แล้วก็กระตุ้นให้ตัวยีสเอ่อชนิดนึงที่
00:08:26 → 00:08:28 อยู่บนผิวหนังอ่ะค่ะเ่อโตมากขึ้นแล้วก็ทำ
00:08:28 → 00:08:31 ให้เกิดเป็นโรคเ่อเซฟเดิมขี้มากขึ้นส่วน
00:08:31 → 00:08:34 ในคนไข้กลุ่มอ่า HIV หรือว่าคนไข้ดเอง
00:08:34 → 00:08:36 เนี่ยคือเขาเชื่อว่าอ่าเกิดจากการที่ภูมิ
00:08:36 → 00:08:39 คุ้มกันของคนไข้เนี่ยผิดปกติทำให้เกิดการ
00:08:39 → 00:08:41 เพิ่มจำนวนของตัวยีสบนผิวหนังที่มากขึ้น
00:08:41 → 00:08:44 ก็เลยกระตุ้นให้เ่อโรคเนี้ยเป็นง่ายขึ้น
00:08:44 → 00:08:48 มากขึ้นแล้วก็เอ่อตัวเซฟเดิมเองกับตัว HIV
00:08:48 → 00:08:49 เนี่ยอาจจะเป็นตัวบอกว่าถ้าผื่นเซฟเดิม
00:08:49 → 00:08:51 เป็นรุนแรงเนี่ยอาจจะบอกว่าตัวโรค HIV
00:08:51 → 00:08:54 เนี่ยมันเป็นมากขึ้นแล้วอย่างเงี้ยค่ะค่ะ
00:08:54 → 00:08:57 อาจารย์คะแล้วโรคนี้เนี่ยทำให้ผมร่วงเป็น
00:08:57 → 00:09:00 รังแคด้วยใช่มั้ยคะอยากให้อาจารย์ช่วย
00:09:00 → 00:09:03 อธิบายตรงนี้ให้หน่อยค่ะตัวเรซเดิมเองเ่อ
00:09:03 → 00:09:05 สามารถก่อให้เกิดเรื่องของรังแคแล้วก็ทำ
00:09:05 → 00:09:08 ให้เกิดผมร่วงได้ค่ะก็คือตัวรังแคเองก็
00:09:08 → 00:09:10 คือตัวขุยจากตัวผื่นของเขาเองก็คือจะออก
00:09:10 → 00:09:12 มาเป็นเรื่องของรังแคจากการที่ตัวผื่นเซป
00:09:12 → 00:09:14 เดิมเองเนี่ยมันจะทำให้เกิดการอักเสบบน
00:09:14 → 00:09:18 ผิวหนังอ่าก็จะทำให้เกิดผมร่วงง่ายขึ้น
00:09:18 → 00:09:20 เนื่องจากว่าเวลาเราคันเราไปแกะเกาอ่ะค่ะ
00:09:20 → 00:09:22 หรือว่าบางทีเนี่ยตัวยีสเองที่เพิ่มจำนวน
00:09:22 → 00:09:25 ขึ้นบริเวณหนังศีษาค่ะมีการไปติดบริเวณ
00:09:25 → 00:09:27 รากผมอ่ะค่ะมีการติดเชื้อที่รากผมก็จะทำ
00:09:27 → 00:09:30 ให้ผมเนี่ยหลุดร่วงง่ายขึ้นแต่ว่าผมหลุด
00:09:30 → 00:09:32 ร่วงอันนี้อค่ะมักจะเป็นเอ่อชั่วคราวเท่า
00:09:32 → 00:09:35 นั้นถ้าเกิดว่าเรารักษาให้ผื่นเซฟเดิม
00:09:35 → 00:09:37 เนี่ยอ่าดีขึ้นตัวผมร่วงก็จะดีขึ้นค่ะ
00:09:37 → 00:09:40 แล้วใครที่มีความเสี่ยงจะเป็นเซฟเดิมบ้าง
00:09:40 → 00:09:43 คะจริงๆแล้วกลไกการเกิดของโรคเซฟเดิมหรือ
00:09:43 → 00:09:46 ว่าสาเหตุเองเนี่ยยังไม่เป็นที่แน่ชัดก็
00:09:46 → 00:09:48 จะมีเอ่อที่หลักๆที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องก็
00:09:48 → 00:09:51 คือ 1 เรื่องของตัวต่อมไขมันเอง 2 ก็คือ
00:09:51 → 00:09:54 ตัวยีสที่อยู่บนผิวหนังของเรา 3 ก็คือ
00:09:54 → 00:09:57 เรื่องของอ่าการตอบสนองของระบบภูมิคุ้ม
00:09:57 → 00:09:59 กันของเราแล้วก็ 4 คือเป็นปัจจัยทางด้าน
00:09:59 → 00:10:01 พันธุกรรมที่เหลือก็จะเป็นปัจจัยภายนอก
00:10:01 → 00:10:04 อื่นๆเช่นเรื่องของคนที่อยู่ในที่อากาศ
00:10:04 → 00:10:07 เ่าแห้งหรือว่าอากาศเย็นจัดค่ะแล้วก็จะมี
00:10:07 → 00:10:10 กลุ่มคนไข้ในบางกลุ่มที่อาจจะเสี่ยงเช่น
00:10:10 → 00:10:13 กลุ่มคนไข้พาร์กินสันกลุ่มคนไข้เอ่อเ่อ
00:10:13 → 00:10:16 จิตเวชนะคะกลุ่มคนไข้ที่มีเปัญหาเรื่อง
00:10:16 → 00:10:19 ระบบภูมิคุ้มกันใชชคนไข้กลุ่ม HIV หรือ
00:10:19 → 00:10:22 ว่าคนที่เอ่อได้รับเ่อยากดภูมคุ้มกันแล้ว
00:10:22 → 00:10:25 ก็การใช้แสงเอ่อ uva บางอย่างก็อาจจะ
00:10:25 → 00:10:28 กระตุ้นให้เกิดโรคนี้ได้ง่ายขึ้นค่ะแล้ว
00:10:28 → 00:10:31 อาการของโรคขั้นไหนถึงต้องมาพบแพทย์คะ
00:10:31 → 00:10:33 หลักๆแล้วถ้าเกิดคนไข้คนไหนนะคะมีปัญหา
00:10:33 → 00:10:37 เป็นผื่นแดงที่หน้าหนังศีรษะเอ่อใบหูหน้า
00:10:37 → 00:10:39 อกหลังแล้วก็เ่อซื้อยามาทาเองบางคนซื้อ
00:10:39 → 00:10:41 แชมพูมาใช้เองแล้วรู้สึกว่าอาการก็ยังไม่
00:10:42 → 00:10:44 ดีขึ้นหรือว่าผืนยังดูลามมากขึ้นหรือว่า
00:10:44 → 00:10:47 ไม่ตอบสนองกับการรักษาก็แนะนำว่าให้เข้า
00:10:47 → 00:10:48 มาพบแพทย์ดีกว่าเพื่อให้ได้รับการ
00:10:48 → 00:10:51 วินิจฉัยแล้วก็การรักษาที่ถูกต้องค่ะโรค
00:10:51 → 00:10:54 นี้รักษาได้อย่างไรคะอาจารย์แล้วจริงๆ
00:10:54 → 00:10:57 เนี่ยเป็นโรคที่รักษาไม่หายจริงหรือเปล่า
00:10:57 → 00:10:59 คะโรคเิเดิมเองเนี่ยการรักรักษาเนี่ยถ้า
00:10:59 → 00:11:02 เกิดว่าเป็นที่บริเวณผิวหนังอ่ะค่ะการรัก
00:11:02 → 00:11:05 ศึกษาก็จะมีตั้งแต่การใช้ยาที่เ่อเป็นยา
00:11:05 → 00:11:07 เฉพาะที่ที่มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อราหรือ
00:11:07 → 00:11:10 ว่ามีรลดการอักเสบค่ะส่วนถ้าบริเวณที่
00:11:10 → 00:11:12 หนังศีรษะเนี่ยก็จะเป็นลักษณะเป็นแชมพู
00:11:12 → 00:11:14 ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อราลดขุยแล้วก็ลดการ
00:11:15 → 00:11:17 อักเสพค่ะโดยปกติแล้วในช่วงที่เอ่อโรค
00:11:17 → 00:11:20 เหื่อค่ะก็เ่อแพทย์ก็จะมีการให้ใช้ยา
00:11:20 → 00:11:22 กลุ่มนี้ไปก่อนต่อเนื่องอย่างจนกว่าโรคจะ
00:11:22 → 00:11:25 ดีขึ้นแต่ว่าในช่วงที่เอ่อโรคสงบแล้วอ่ะ
00:11:25 → 00:11:28 ค่ะเราอาจจะมีการอ่าให้ใช้ยาเพื่อจะป้อง
00:11:28 → 00:11:31 กันการกลับเป็นซ้ำเช่นยาอ่ากลุ่มต้าน
00:11:31 → 00:11:34 เชื้อราค่ะเป็นระยะอาจจะใช้แบบ 1-2 ครั้ง
00:11:34 → 00:11:36 ต่ออาทิตย์อันนี้คือเพื่อป้องกันการเหอ
00:11:36 → 00:11:39 ของผื่นค่ะแต่ว่าถ้าในคนที่ผืนเป็นปริมาณ
00:11:39 → 00:11:42 มากแพทย์ก็จะพิจารณาให้เป็นยาต้านเชื้อรา
00:11:42 → 00:11:44 ชนิดรับประทานคู่กับการใช้ยาทาค่ะแล้วจะ
00:11:44 → 00:11:47 เกิดอะไรขึ้นหากไม่รักษาโรคเซบเดิมแล้ว
00:11:47 → 00:11:50 ปล่อยทิ้งไว้คะอาจารย์การแกะเกาไปเรื่อยๆ
00:11:50 → 00:11:52 อาจจะมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนติดเชื้อ
00:11:52 → 00:11:55 แบคทีเรียก่อให้เกิดเอ่อบางคนไปที่หนัง
00:11:55 → 00:11:58 ศีรษะก่อให้เกิดผมร่วงมากขึ้นค่ะแล้วก็ทำ
00:11:58 → 00:12:01 ให้เราเนี่ยสูญเสียความมั่นใจค่ะแล้วก็
00:12:01 → 00:12:03 บางคนก็ยิ่งเครียดก็ยิ่งกระตุ้นผืนอย่าง
00:12:03 → 00:12:06 เงี้ยค่ะเป็นวงจรถ้าเป็นโรคนี้แล้วจะมี
00:12:06 → 00:12:09 วิธีการรักษาอย่างไรและป้องกันตัวเอง
00:12:09 → 00:12:11 อย่างไรบ้างคะแนะนำว่าหลักๆก็คือทำความ
00:12:11 → 00:12:14 สะอาดใบหน้าอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 2
00:12:14 → 00:12:16 ครั้งโดยที่เลือกผลิตภัณฑ์ในการทำความ
00:12:16 → 00:12:19 สะอาดแล้วก็ครีมที่ใช้เนี่ยควรจะเลือก
00:12:19 → 00:12:21 เอ่อที่ไม่มีสารก่อการทะคายเคืองเช่น
00:12:21 → 00:12:26 กลุ่มแอลกอฮอล์สาร HA bha กรดผลไม้ต่างๆ
00:12:26 → 00:12:29 แนะนำว่าควรจะหลีกเลี่ยงไปในที่ที่เอ่อจะ
00:12:29 → 00:12:32 กระตุ้นโรคได้เช่นเ่อร้อนจัดหนาวจัดหรือ
00:12:32 → 00:12:35 ว่าความชื้นต่ำอากาศแห้งสุดท้ายอยากให้
00:12:35 → 00:12:37 อาจารย์ฝากถึงคนทางบ้านค่ะว่าจะมีวิธีใน
00:12:37 → 00:12:40 การดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อห่างไกลจากโรค
00:12:40 → 00:12:43 เซฟเดิมคะโรคนี้เนี่ยเป็นโรคที่เป็นเรื้อ
00:12:43 → 00:12:46 รังอาจะรักษาไม่หายขาดแต่ว่าอย่างไรก็ตาม
00:12:46 → 00:12:48 เนี่ยเราสามารถที่จะทำให้โลกเนี่ยอยู่ใน
00:12:48 → 00:12:51 ช่วงที่สงบได้มากที่สุดคำแนะนำก็คือว่า
00:12:51 → 00:12:54 ถ้าเกิดว่าเ่าเป็นผืนที่หน้าที่หนังศีรษะ
00:12:54 → 00:12:56 รักษาเองแล้วยังไม่ดีขึ้นเนี่ยแนะนำว่า
00:12:56 → 00:12:58 ให้มาพบแพทย์เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัย
00:12:58 → 00:13:01 แล้วก็การรักษาที่ถูกต้องค่ะขอบพระคุณ
00:13:01 → 00:13:04 อาจารย์หมอนะคะที่มาให้ความรู้ความเข้าใจ
00:13:04 → 00:13:06 ในเรื่องของเซปเดิมค่ะในช่วงนี้นะคะคุณ
00:13:06 → 00:13:10 ผู้ชมเราจะมารู้จักกันว่าผิวแพ้สารหรือ
00:13:10 → 00:13:13 ว่าผิวติดสารเป็นอย่างไรและที่สำคัญค่ะ
00:13:13 → 00:13:16 ครีมที่เร่งหน้าขาวอันตรายอย่างไรไปฟัง
00:13:16 → 00:13:20 พร้อมๆกันค่ะอาการบ่งบอกผิวติดสารผิวแพ้
00:13:20 → 00:13:24 สารมีดังนี้หลายคนเคยผ่านการใช้ครีมหน้า
00:13:24 → 00:13:27 ขาวซึ่งมีสารอันตรายปนเปื้อนเช่นสารปลอด
00:13:27 → 00:13:29 สารสเตียรอยด์ซึ่งเมื่อหยุดใช้หรือใช้ไป
00:13:29 → 00:13:33 สักพักก็จะเกิดอาการน่าติดสารคือน่ามีสิว
00:13:33 → 00:13:37 อักเสบสิวผดผืนแดงผิวบังและไวต่อแสงแสบ
00:13:37 → 00:13:40 ร้อนเมื่อโดนแสงแดดเมื่อผิวแพ้สัตวปลอดจะ
00:13:40 → 00:13:42 เริ่มมีอาการผิวแดงผิวหน้าบางและไวยต่อ
00:13:42 → 00:13:45 แสงมากขึ้นจนสังเกตได้ชัดหน้าเริ่มคล้ำ
00:13:45 → 00:13:48 แล้วและเมื่อใช้ไปนานๆจะทำให้ผิวหน้าดำไป
00:13:48 → 00:13:52 เลยเป็นฝ้าถาวรส่วนอาการผิวแพ้สารปรอดจะ
00:13:52 → 00:13:56 มีอาการดังต่อไปนี้มีสิวอักเสบสิวหนอง
00:13:56 → 00:13:59 จำนวนมากเกิดขึ้นทุกวันผิวแดงผืนแดงเห็น
00:13:59 → 00:14:02 เส้นเลือดฝอยเด่นชัดหรือมีอาการฝ้าเลือด
00:14:02 → 00:14:06 ร่วมด้วยผิวบางไวต่อแสงเมื่อโดนแดดจะแสบ
00:14:06 → 00:14:10 ร้อนผิวไม้ดำฟ้าถาวรอาการผิวแพ้สาร
00:14:10 → 00:14:14 สเตียรอยด์มีดังนี้มีตุ่มสีแดงคล้ายสิว
00:14:14 → 00:14:17 ขึ้นเป็นแพจำนวนมากเรียกว่าสิวสเตรอยด์
00:14:17 → 00:14:21 ผิวแดงอักเสบผิวบางไวต่อแสงออกแดดได้ไม่
00:14:21 → 00:14:25 นานผิวแดงไวแพ้ครีมหรือเครื่องสำอางได้
00:14:25 → 00:14:27 ง่ายเมื่อหยุดใช้ครีมสเตียรอยด์ผิวจะพัง
00:14:28 → 00:14:31 แต่ถ้าใช้ต่อิวจะกลับมาซวยไซสปกติเมื่อ
00:14:31 → 00:14:34 ใช้ไปนานๆทำให้ผิวแพ้ง่ายมากและมีโอกาส
00:14:34 → 00:14:37 ผิวติดเชื้อสูงทั้งนี้ถ้ามีอาการผิวติด
00:14:37 → 00:14:40 เชื้อจากการใช้สเตรอยด์นานๆจะทำให้เป็น
00:14:40 → 00:14:45 ฝ้าถาวอนรักษาไม่หายและสำหรับหน้าร้อนนี้
00:14:45 → 00:14:49 หมอมีเคล็ดลับดีๆในการดูแลผิวมาฝากกันค่ะ
00:14:49 → 00:14:53 ข้อแรกค่ะป้องกันผิวจากแสงแดดด้วยวิธีทา
00:14:53 → 00:14:56 ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอก่อนออกแดดอย่าง
00:14:56 → 00:14:59 น้อย 15-30 นาทีและควรทาซ้ำทุก 2 ช่วโมง
00:14:59 → 00:15:03 เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF หรือ Sun
00:15:03 → 00:15:06 Protection Factor อย่างน้อย 15-30
00:15:06 → 00:15:09 เท่าแต่ถ้าเป็นการออกแดดตลอดวันควรใช้
00:15:09 → 00:15:12 ครีมกันแดดที่ค่า SPF 50 + ๆขึ้นไป
00:15:12 → 00:15:16 เพราะค่า SPF ที่สูงจะสามารถปกป้องผิวจาก
00:15:16 → 00:15:20 รังสี uvb ได้ดีกว่ายกตัวอย่างเช่น SPF
00:15:20 → 00:15:23 30 จะกันได้ 97% แต่ไม่มีครีมใดที่ปก
00:15:23 → 00:15:28 ป้องรังสี UV ได้ถึง 100% กรณีว่ายน้ำ
00:15:28 → 00:15:30 หรือเล่นน้ำควรเลือกผลิตภัณฑ์ต้องการแสง
00:15:30 → 00:15:34 แดดชนิดกันน้ำปกป้องผิวบริเวณริมฝีปากและ
00:15:34 → 00:15:36 มือเพราะนอกจากการทาครีมกันแดดทั้งผิว
00:15:36 → 00:15:39 หน้าและผิวกายเป็นประจำแล้วอย่าลืมบริเวณ
00:15:39 → 00:15:42 ริมฝีปากปกป้องผิวบริเวณริมฝีปากด้วยลิบ
00:15:42 → 00:15:45 มันที่มีสารกันแดดด้วยอีกอย่างที่หลายคน
00:15:45 → 00:15:48 อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญนั่นคือการทาครีม
00:15:48 → 00:15:51 กันแดดบริเวณผิวมือเป็นเรื่องที่ไม่ควรละ
00:15:51 → 00:15:54 เลยเพราะอากาศร้อนๆแบบนี้ผิวมือก็อาจจะ
00:15:54 → 00:15:58 แห้งกลั้นได้ทาจรอหรือครีมให้ความชุ่ม
00:15:58 → 00:16:01 ชื้นเป็นประจำเพราะหลังจากสัมผัสแสงแดด
00:16:01 → 00:16:04 บางคนอาจจะมีผิวลอกเป็นขุยทั้งนี้ก็เพราะ
00:16:04 → 00:16:06 การถูกแสงแดดจะทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อม
00:16:06 → 00:16:09 สภาพและหลุดลอกออกการทาจไรเอร์เป็นประจำ
00:16:09 → 00:16:12 จะช่วยลดอัตราการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว
00:16:12 → 00:16:14 หนังได้ปัจจุบันมีครีมทาผิวให้เลือกหลาก
00:16:14 → 00:16:18 หลายซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ทุกสภาพผิวสวม
00:16:18 → 00:16:21 เสื้อผ้าหรือว่าใช้อุปกรณ์กันแดดไม่ว่าจะ
00:16:21 → 00:16:25 เป็นร่มหมวกแว่นกันแดดค่ะดื่มน้ำให้เพียง
00:16:25 → 00:16:28 พอจะช่วยรักษาสมดุลให้กับร่างกายทำให้ือ
00:16:28 → 00:16:31 ผวชุ่มชื้นซึ่งอากาศร้อนร่างกายจะสูญเสีย
00:16:31 → 00:16:34 น้ำทางเหนือมากกว่าปกติหากเราดื่มน้ำน้อย
00:16:34 → 00:16:38 จะทำให้ร่างกายขาดน้ำสมดุลในร่างกายเสีย
00:16:38 → 00:16:41 ไปทำให้ผิวเหี่วแห้งฉะนั้นหมั่นจิบน้ำ
00:16:41 → 00:16:44 บ่อยๆให้ได้วันละ 8-10 แก้วหรือมากกว่า
00:16:44 → 00:16:47 นั้นหากรู้สึกว่าร่างกายขาดน้ำน้ำเย็น
00:16:47 → 00:16:50 ช่วยฟื้นฟูผิวไม่ว่าคุณจะออกไปโดนแดดมา
00:16:50 → 00:16:53 เป็นระยะเวลายาวนานหรือแดดจะแรงเท่าไหร่
00:16:53 → 00:16:56 กลับมาบ้านลองใช้น้ำเย็นล้างหน้ารับรอง
00:16:56 → 00:16:59 ว่านอกจากจะรู้สึกว่าผิวสดชื่นเย็นสบาย
00:16:59 → 00:17:01 แล้วน้ำเย็นยังจะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าได้
00:17:01 → 00:17:04 เป็นอย่างดีด้วยอย่าใช้รองพื้นที่หนาเกิน
00:17:04 → 00:17:07 ไปเพราะคุณจะสวยได้ไม่นานหน้าก็จะมัน
00:17:07 → 00:17:10 เยิ้มจากการเผชิญแสงแดดซึ่งแน่นอนว่าการ
00:17:10 → 00:17:13 ที่ครีมรองพื้นละลายเข้ากับความมันบนใบ
00:17:13 → 00:17:16 หน้าแล้วใบหน้าส่งผลให้เกิดสิวได้ง่ายดัง
00:17:16 → 00:17:20 นั้นควรทาครีมกันแดดและรองพื้นบางๆสุด
00:17:20 → 00:17:23 ท้ายการรับประทานผลไม้หรือน้ำผลไม้อยู่
00:17:23 → 00:17:26 เสมอเช่นแต่งหมกแคนตะลุกหรือผลไม้ธาตุ
00:17:26 → 00:17:29 เย็นเพราะผลไม้ประเภทนี้จะอุดมไปด้วยน้ำ
00:17:29 → 00:17:31 ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพอๆกับ
00:17:31 → 00:17:35 น้ำแต่ดีตรงที่มีรสชาติดีและเป็นอาหาร
00:17:35 → 00:17:38 บำรุงผิวที่คุณจะได้มาพร้อมกับความหวาน
00:17:38 → 00:17:41 แสนอร่อยแต่อย่างไรก็ต้องไม่มากจนเกินไป
00:17:41 → 00:17:45 นะคะเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระสุขภาพดี
00:17:45 → 00:17:48 ๆที่ t&n นำมาฝากกันในวันนี้หวังเป็น
00:17:48 → 00:17:50 อย่างยิ่งค่ะว่าคุณผู้ชมจะสามารถนำความ
00:17:51 → 00:17:54 รู้ที่ได้ไปดูแลตัวเองและครอบครัวกันและ
00:17:54 → 00:17:57 อย่าลืมค่ะติดตามรับชมรายการ TNN Health
00:17:57 → 00:18:01 เป็นประจำทุกวันเสาร์เวลาเวลาดี 15 นถ
00:18:01 → 00:18:05 15:30 นที่นี่ TNN ช่อง 16 อย่าลืมกด
00:18:05 → 00:18:08 ไลค์กดแชร์กด Subscribe เป็นกำลังใจให้
00:18:08 → 00:18:11 หมอดาวและทีมงาน TNN Health ในช่องทาง
00:18:11 → 00:18:13 โซเชียล Network ทุกช่องทางเลยนะคะไม่ว่า
00:18:13 → 00:18:15 จะเป็น YouTube tiktok Facebook
00:18:15 → 00:18:17 Instagram LINE official เพื่อที่จะ
00:18:17 → 00:18:21 เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้
00:18:21 → 00:18:24 ทันโรคไปด้วยกันค่ะแล้ววันนี้หมอดาวและ
00:18:24 → 00:18:27 ทีมงานขอตัวลาคุณผู้ชมไปก่อนสำหรับวันนี้
00:18:27 → 00:18:29 สวัสดีค่ะ
00:18:29 → 00:18:57 [เพลง]
00:18:57 → 00:19:01 เ i