00:00:00 → 00:00:01 [เพลง]

00:00:01 → 00:00:04 โรคเนื้องอกตับอ่อนชนิดนึงคือเขาจะผลิต

00:00:04 → 00:00:07 อินซูลินตลอดเวลาแล้วก็ผลิตอินซูลินอยู่

00:00:07 → 00:00:10 ในจำนวนมากทุกท่านคงไม่ค่อยได้ยินคำว่า

00:00:10 → 00:00:12 ตับอ่อนมากนักสำหรับตับอ่อนเนี่ยนะครับ

00:00:12 → 00:00:15 เป็นอวัยวะขนาดเล็กๆอยู่ที่บริเวณช่อง

00:00:15 → 00:00:18 ท้องทางด้านบนเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่

00:00:18 → 00:00:20 สำคัญอยู่ 2 ประการนะครับอันที่ 1 ก็คือ

00:00:20 → 00:00:23 ผลิตน้ำย่อยออกมาย่อยอาหารเพราะว่าตัวตับ

00:00:23 → 00:00:26 อ่อนเนี่ยมีทางที่เชื่อมต่อกับลำไส้เล็ก

00:00:26 → 00:00:28 หน้าที่ที่ 2 นะครับผลิตฮอร์โมนซึ่ง

00:00:28 → 00:00:30 ฮอร์โมนที่สำคัญก็คือฮอร์โมนอินซูลินมี

00:00:30 → 00:00:33 หน้าที่ทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือด

00:00:33 → 00:00:36 เนี่ยอยู่ในระดับปกติในผู้ป่วยที่ระดับ

00:00:36 → 00:00:38 ฮอร์โมนอินซูลินทำงานได้ไม่เต็มที่เราจะ

00:00:38 → 00:00:41 พบบ่อยมากเลยนะครับอคนไข้ที่เป็นเบาหวาน

00:00:41 → 00:00:43 นั่นเองครับคือธรรมดาเนี่ยนะครับเราไม่

00:00:43 → 00:00:46 ค่อยพบคนไข้ที่เป็นโรคตับอ่อนแต่ว่าโรค

00:00:46 → 00:00:48 ตับอ่อนถ้าเป็นเนี่ยโดยส่วนใหญ่มักจะเป็น

00:00:48 → 00:00:50 โรคที่มีความทุพพลภาพแล้วก็เ่อมีความรุน

00:00:50 → 00:00:53 แรงถึงขั้นเสียชีวิตได้อยู่พอสมควรไม่ว่า

00:00:53 → 00:00:55 จะเป็นโรคมะเร็งของตับอ่อนโรคตับอ่อน

00:00:55 → 00:00:57 อักเสบเฉียบพันธนะครับซึ่งน้ำย่อยตับอ่อน

00:00:57 → 00:01:00 ที่เป็นด่างจะรั่วออกมาในท้องแล้วก็กัด

00:01:00 → 00:01:02 กล่อนอวัยวะข้างเคียงจนบางครั้งทำให้คน

00:01:02 → 00:01:04 ไข้ปวดท้องรุนแรงและถึงขั้นเสียชีวิตใน

00:01:04 → 00:01:06 วันนี้เราจะมาพูดถึงโรคเนื้องอกตับอ่อน

00:01:06 → 00:01:09 ชนิดหนึงซึ่งพบได้น้อยแต่ว่าเป็นเนื้องอก

00:01:09 → 00:01:13 ต่อมไร้ท่อของตับอ่อนนะครับคือเขาจะผลิต

00:01:13 → 00:01:16 อินซูลินตลอดเวลาแล้วก็ผลิตอินซูลินอยู่

00:01:16 → 00:01:19 ในจำนวนมากดังนั้นอินซูลินก็จะทำให้ระดับ

00:01:19 → 00:01:21 น้ำตาลในเลือดต่ำอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าคนไข้

00:01:21 → 00:01:24 จะทานอะไรไปสักพักน้ำตาลก็จะต่ำน้ำตาลก็

00:01:24 → 00:01:26 จะต่ำซึ่งจะส่งผลทำให้คนไข้มีอาการมึนงง

00:01:26 → 00:01:29 สติสัมปทายะไม่สมบูรณ์แล้วก็อาจจะถึงขั้น

00:01:29 → 00:01:31 เป็นลมหรือถ้าน้ำตาลต่ำขนาดหนักคนไข้ก็

00:01:31 → 00:01:34 อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ครับคนไข้ที่มี

00:01:34 → 00:01:36 อาการเหล่านี้นะครับก็คือเป็นคนไข้ที่มี

00:01:36 → 00:01:39 ภาวะอินซูลินเกินซึ่งอินซูลินเกินอาจจะ

00:01:39 → 00:01:41 เป็นจากสาเหตุอื่นก็ได้แต่ที่เราพูดวัน

00:01:41 → 00:01:43 นี้คือคนไข้มีเนื้องอกที่ตับอ่อนที่ผลิต

00:01:43 → 00:01:47 อินซูลินเยอะเกินไปนะ

00:01:47 → 00:01:50 ครับอันที่จะประคองให้ระดับน้ำตาลอยู่ใน

00:01:50 → 00:01:53 เกณฑ์ปกติเนี่ยมันจะมีฮอร์โมนอื่นๆที่มา

00:01:53 → 00:01:56 เกี่ยวข้องอีกมันจะมีเช่นพวกสเตียรอยด์

00:01:56 → 00:02:00 พวกกลุ่มที่เป็นเนื้องอกที่ควบคุมการ

00:02:00 → 00:02:02 หลั่งน้ำตาลที่ปล่อยสารที่มาโครงสร้าง

00:02:02 → 00:02:04 คล้ายๆกับอินซูลินสิ่งที่ยากที่สุดคือการ

00:02:04 → 00:02:06 วินิจฉัยครับอย่างที่บอกก็คือเพราะฉะนั้น

00:02:06 → 00:02:08 ถ้าเมื่อไหร่เรามีอาการน้ำตาลต่ำโดยไม่

00:02:08 → 00:02:11 ทราบเหตุก็จะมีอาการอยู่ 2 กลุ่มอาการ

00:02:11 → 00:02:13 ครับกมีอาการเรื่องเหงื่อแตกใจสั่นหิว

00:02:13 → 00:02:15 เก่งอันนี้คือกลุ่มอาการนึงซึ่งหลายๆคนก็

00:02:15 → 00:02:18 จะเป็นเวลาเราอดอาหารเลยเวลาไปอันดับที่ 2

00:02:18 → 00:02:21 ก็คือร่างกายเรามันมันจะพยายามประคอง

00:02:21 → 00:02:23 ระดับน้ำตาลไว้ให้ดีเพราะฉะนั้นมันจะมี

00:02:23 → 00:02:25 แค่อาการหิวครับจะไม่ถึงขั้นหมดสติถ้า

00:02:25 → 00:02:27 เมื่อไหร่เรามีอาการหิวแล้วถึงขั้นหมดสติ

00:02:27 → 00:02:29 เป็นลมอันนี้ก็ควรจะมาพบแพทย์เพราะว่าอัน

00:02:29 → 00:02:32 นี้แปลว่าระดับน้ำตาลของร่างกายเราต่ำมาก

00:02:32 → 00:02:34 หรือระบบป้องกันของร่างกายเรามีปัญหาซึ่ง

00:02:34 → 00:02:37 คนทั่วไปจะไม่เกิดนะครับแต่ในในกลุ่มคน

00:02:37 → 00:02:39 ไข้กลุ่มเนี้ยกลุ่มที่เป็นเนื้องอกยี่ห้อ

00:02:39 → 00:02:42 เนี้ยอดข้าวมากกว่าเวลาปกติของเขาเนี่ยก็

00:02:42 → 00:02:44 จะเกิดเรื่องทันทีแล้วก็กลุ่มอาการที่เรา

00:02:44 → 00:02:46 กังวลมากก็คือเรื่องหมดสติซึ่งคนทั่วไปจะ

00:02:46 → 00:02:48 ไม่เกิดอาการหมดสติเด็ดขาดครับเราก็จะ

00:02:48 → 00:02:50 พยายามหาของทานหรือเลวร้ายที่สุดก็แค่ใจ

00:02:50 → 00:02:53 สั่นเพราะฉะนั้นนี่ก็จะเป็นสิ่งที่ฝากดู

00:02:53 → 00:02:55 หิวเก่งโดยไม่ทราบเหตุแล้วก็น้ำหนักขึ้น

00:02:55 → 00:02:58 เพราะว่าเรากินเก่งขึ้นแล้วก็พอไม่ได้กิน

00:02:58 → 00:03:00 แล้วหมดสติอันนี้แะก็ก็มีปัญหานะครับนี่

00:03:00 → 00:03:02 คือเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังสำหรับไข้

00:03:02 → 00:03:05 กลุ่มนี้ครับวิธีการรักษามาตรฐานคือต้อง

00:03:05 → 00:03:07 ผ่าตัดเอาเนื้องอกออกเพราะไม่อย่างนั้น

00:03:07 → 00:03:09 เข้าก็จะยังเป็นอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา

00:03:09 → 00:03:11 ปัจจุบันนี้เราก็มีเทคโนโลยีเรื่องของ

00:03:11 → 00:03:14 กล้องส่องทางเดินอาหารจะเป็นสายยาวๆสีดำ

00:03:15 → 00:03:17 นะครับก็ส่องเข้าไปทางปากนะครับผ่านหลอด

00:03:17 → 00:03:20 อาหารไปที่กระเพาะอาหารตรงปลายของกล้อง

00:03:20 → 00:03:22 ส่องทางเดินอาหารจะมีเครื่องอัลตร้าซาว

00:03:22 → 00:03:25 เล็กๆเราเรียกว่ากล้องติดอัตซาวหรือกล้อง

00:03:25 → 00:03:27 อัลตร้าซาวนะครับกล้องอัลตร้าซาวตัวนี้พอ

00:03:27 → 00:03:30 ไปอยู่ในกระเพาะอาหารเขาจะชิดกับตัวตับ

00:03:30 → 00:03:31 อ่อนเลยครับพอเข้าไปอยู่ในกระเพาะอาหาร

00:03:31 → 00:03:33 เสร็จเราก็เปิดเครื่องอัลตร้าซาวด์เราก็

00:03:33 → 00:03:36 จะเห็นรอยโรคที่บริเวณตัวตับอ่อนชัดเจน

00:03:36 → 00:03:40 เลยแล้วก็ใช้คลื่นเสียงเนี่ยนำร่องนะครับ

00:03:40 → 00:03:44 ในการที่เราจะผ่านเข็มนำความร้อนเข้าไป

00:03:44 → 00:03:47 จี้ทำลายเนื้องอกตับอ่อนได้หลังจากเราจี้

00:03:47 → 00:03:50 เสร็จนะครับเราจี้กันตอนบ่ายๆนะครับพอตอน

00:03:50 → 00:03:52 กลางคืนระดับน้ำตาลคนไข้ก็กลับขึ้นมาเป็น

00:03:52 → 00:03:55 ปกติในวันที่ 1 หรือวันที่ 2 หลังผ่าตัด

00:03:55 → 00:03:58 คนไข้ก็กลับบ้านได้จนถึงทุกวันนี้คนไข้ก็

00:03:58 → 00:04:02 สบายดีไม่มีอาการน้ำตาลต่ำอีกเลยก็มาเจอ

00:04:02 → 00:04:05 อาจารย์ประเดิมชัยแกก็บอกว่าเพิ่งค้นพบ

00:04:05 → 00:04:09 กันจี้มาแล้วก็อยากให้เราลองดูเราเข้าไป

00:04:09 → 00:04:12 แค่แป๊บเดียวเองอ่ะ 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง

00:04:12 → 00:04:14 ก็ออกมาแล้วอ่ะรู้สึกว่ามันเจ็บแค่เหมือน

00:04:14 → 00:04:18 คนปวดท้องธรรมดาค่ะอันนี้ปกติเลยค่ะดีมาก

00:04:18 → 00:04:20 เลยพอวันนั้นผ่าตัดเสร็จก็ไปทำงานได้เลย

00:04:20 → 00:04:24 นะคะมันไม่ได้เจ็บหนักอ่ะค่ะถ้าในแง่ของ

00:04:24 → 00:04:27 คนไข้ที่เป็นตัวเนื้องอกต่อมไร้ท่อของตับ

00:04:27 → 00:04:30 อ่อนที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินตัวนี้นะครับ

00:04:30 → 00:04:32 ไม่มีคำแนะนำในการรักษาก็คือว่าเพราะเค้า

00:04:33 → 00:04:35 เป็นมาเองโดยที่เรายังไม่ทราบสาเหตุแต่

00:04:35 → 00:04:36 ถ้าเกิดว่าเป็นแล้วเนี่ยผมก็อยากจะเรียน

00:04:36 → 00:04:39 ว่าปัจจุบันนี้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณสปาก

00:04:39 → 00:04:41 กาชาติไทยเราเนี่ยนะครับเรามีขีดความ

00:04:41 → 00:04:43 สามารถในการรักษาคนไข้กลุ่มนี้ซึ่งเป็น

00:04:44 → 00:04:46 โรคหายากแต่เดิมเนี่ยใช้วิธีรักษาแบบ

00:04:46 → 00:04:49 มาตรฐานคือการผ่าตัดเนี่ยนะครับมีความบาด

00:04:49 → 00:04:51 เจ็บหรืออะไรต่างๆต่อคนไข้ได้พอสมควรแต่

00:04:51 → 00:04:53 พอเราใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เราพบว่าคนไข้

00:04:53 → 00:04:56 ไม่บาดเจ็บเลยวันรุ่งขึ้นก็สบายดีแล้วผล

00:04:56 → 00:04:59 การรักษาในคนไข้ทั้ง 3 รายที่เราทำไปก็

00:04:59 → 00:05:01 ไม่พบความแตกต่างจากการรักษาด้วยการผ่าด

00:05:01 → 00:05:04 ตัดครับในแง่ของประสิทธิภาพของการรักษา

00:05:04 → 00:05:05 ครับ

00:05:05 → 00:05:08 [เพลง]