00:00:00 → 00:00:02 มาอัปเดตเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพกันสัก
00:00:02 → 00:00:06 นิดนึงมี 1 โรคที่ได้ยินมาช่วงสัปดาห์ 2
00:00:06 → 00:00:08 สัปดาห์ที่ผ่านมามันมีข่าวอะไรรอครับพี่
00:00:08 → 00:00:11 โอคมีข่าวมีข่าวเอ่อมีเหมือนกับว่าเป็น
00:00:11 → 00:00:17 เคสๆนึงครับปรากฏว่าเขาไปเจอว่าเอ๊ยไปมัน
00:00:17 → 00:00:21 มีอาการแล้วก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลปรากฏว่า
00:00:21 → 00:00:24 พบว่าเป็นเชื้อราในสมองเชื้อราในสมองก็
00:00:24 → 00:00:27 เลยสงสัยว่าเอ้อยู่ดีๆคนเราเนี่ยมันจะ
00:00:27 → 00:00:30 เกิดเชื้อราในสมองกันได้อย่างไร
00:00:30 → 00:00:34 แล้วทำไมถึงเชื่อรามันถึงไปอยู่ในสมองได้
00:00:34 → 00:00:37 ดั้งที่จริงๆแล้วอะไรที่จะเข้าไปในร่าง
00:00:37 → 00:00:39 กายของเราเนี่ยค่อนข้างยากนะครับมันมี
00:00:40 → 00:00:43 ระบบต้านภูมิคุ้มกันมันมีระบบที่ป้องกัน
00:00:43 → 00:00:47 ไหนจะกว่าจะผาดผิวหนังเข้าไปนะหมอพิมนะก็
00:00:47 → 00:00:50 เลยมาเป็นที่คำถามเรื่องนี้ครับเชื้อราใน
00:00:50 → 00:00:53 สมองอันตรายแค่ไหนอันตรายมั้ยอันตรายมาก
00:00:53 → 00:00:56 อือันตรายถึงตายได้ครับแต่ว่าพูดแบบนี้
00:00:56 → 00:01:00 ทุกคนคงแบบเฮ้ยแล้วเชราเอ่อเจอเยอะแยะ
00:01:00 → 00:01:03 ทั่วไปเลยเราจะตายจากเชื้อราอันนี้มยต้อง
00:01:03 → 00:01:05 บอกว่าเชื้อราทำให้ตายได้ครับโดยเฉพาะ
00:01:05 → 00:01:07 เข้าสมองทำให้ตายได้มีอัตราการตายค่อน
00:01:07 → 00:01:10 ข้างจะสูงแต่อมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นที่
00:01:10 → 00:01:14 เราจะติดเชรานะครับมันมีมันมีด่านมันมี
00:01:14 → 00:01:17 กลไกมันมีข้อแม้แต่ต่อเยอะพอสมควรนะครับ
00:01:17 → 00:01:20 เกริ่นไว้ก่อนเดี๋ยวทุกคนฟังแล้วแบบอุ๊ย
00:01:20 → 00:01:22 กินขนมปังขึ้นลเผลอกินเข้าไปแล้วครึ่ง
00:01:22 → 00:01:26 ชิ้นเรียบร้อยวิ่งไปหาหมอไม่ขนาดนั้นนะฮะ
00:01:26 → 00:01:28 เดี๋ยวเรามาไล่เรียงแล้วก็เล่าให้ฟังกัน
00:01:28 → 00:01:30 นะครับใช่ครับก็จริงๆ่ะเคสเนี้ยมันมัน
00:01:30 → 00:01:33 เกิดมาจากที่ผมไปเปิดเจอข่าว่าวนึงของน้า
00:01:33 → 00:01:36 จะรู้จักอินฟูท่านนึงแม่บ้านม่บ้านมีหนวด
00:01:36 → 00:01:39 อ๋อเออแม่บ้านมีหนดโอผมเพิ่งเห็นว่าเ
00:01:39 → 00:01:41 เพิ่งโพสต์ว่าแม่บ้านมีหนวดเสียชีวิตใช่เ
00:01:42 → 00:01:46 เกิดจากเชื้อราเหรอครับใช่พอไปแบบมีผู้คน
00:01:46 → 00:01:49 ใกล้ชิดแล้วนะออกมาเผยสาเหตุที่การสูญ
00:01:49 → 00:01:53 เสียครั้งเนี้ยก็พบว่าเหมือนกับว่าเป็น
00:01:53 → 00:01:56 จากสาเหตุของเชื้อราในสมองเออมันมีอาการ
00:01:56 → 00:01:58 นู่นนี่นั่นมาแต่อาการต่างๆน่ะอาจจะต้อง
00:01:58 → 00:02:03 รบกวนหมอพีมบักหน่อยว่าเอ่อใครที่พบอาการ
00:02:03 → 00:02:05 ที่เป็นเชื้อราในสมองเนี่ยมันจะเกิดอะไร
00:02:05 → 00:02:10 ขึ้นบ้างครับอืเอาเอาอาการก่อนดีมยหรือ
00:02:10 → 00:02:13 ว่าเอาอุ๊ยมีมีหลายอย่างเลยเชื้อราเข้า
00:02:13 → 00:02:17 ทางไหนอาการเป็นยังไงใครจะเป็นได้บ้าง
00:02:17 → 00:02:19 หรือขบวนการรักษาจะเป็นอย่างไรอ่าเดี๋ยว
00:02:19 → 00:02:23 เราียสุ่มขึ้นมาฮะเอาไหนดีฮะผมอยากรู้ว่า
00:02:23 → 00:02:26 เชื้อราเนี่ยมันไปอยู่ในสมองของเราได้ยัง
00:02:26 → 00:02:29 ไงคุณหมอทางเข้าของมันใช่มั้ยฮะทางเข้า
00:02:29 → 00:02:30 ใช่มั้ยครับพี่ขว
00:02:30 → 00:02:33 ใช่ค่ะมันเข้าไปทางไหนโอครับเข้าทางไหนดี
00:02:33 → 00:02:36 ฮะทางด่วนทางธรรมดาไม่ใช่ทางเข้าเนี่ย
00:02:36 → 00:02:39 ต้องบอกว่าต้องต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าสมอง
00:02:39 → 00:02:41 เรานะครับเป็นเหมือนกับสูนบัญชาการของ
00:02:41 → 00:02:43 ร่างกายนะครับเพราะฉะนั้นเป็นอวัยวะที่มี
00:02:43 → 00:02:46 ความสำคัญสูงสุดออือ่ะให้มีให้อีกหนึ่ง
00:02:46 → 00:02:49 อวัยวะมีความสำคัญใกล้เคียงกันคือหัวใจ
00:02:49 → 00:02:51 สมองกับหัวใจเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดนะ
00:02:51 → 00:02:55 ครับเพราะฉะนั้นอะไรที่ฝ่าด่านเข้าไปถึง
00:02:55 → 00:02:58 สมองที่ที่เป็นอวยสำคัญที่สุดได้เนี่ยโห
00:02:58 → 00:03:00 มันต้องทะลุทะลวงไปแล้วต้องเก่งมากนะมัน
00:03:00 → 00:03:02 ต้องเก่งมากใช่ฮะสมองเองเนี่ยจะมีป้อม
00:03:03 → 00:03:06 ปราการก็คือเยื่อหุ้มสมองนะครับเยื่อหุ้ม
00:03:06 → 00:03:10 สมองจะทำหน้าที่ในการเลือกสิ่งที่จะเข้า
00:03:10 → 00:03:12 แล้วก็เลือกสิ่งที่จะออกใครจะเข้าจะออก
00:03:12 → 00:03:14 เนี่ยเยื่อหุมสมองทำการคัดกรองหมดเลยนะ
00:03:14 → 00:03:17 ครับแน่นอนว่ามันไม่ยอมให้เชื้อโรคเข้ามา
00:03:17 → 00:03:21 ง่ายๆแน่ๆนะครับให้มาแต่สารอาหารออกซิเจน
00:03:21 → 00:03:24 สิ่งที่ดีๆเข้าสู่สมองนะครับแต่เชื้อโลก
00:03:24 → 00:03:27 เนี่ยมันจะทะลุเข้ามาได้มันก็มีช่องทาง
00:03:27 → 00:03:31 หรือมีทางทางทางรัดทางลับบ้างนะครับลองมา
00:03:31 → 00:03:34 ดูกันนะฮะอย่างแรกเลยถ้าเกิดว่าเยืหุ้ม
00:03:34 → 00:03:37 สมองเนี่ยป้อมปราการตรงนี้มันเกิดความ
00:03:37 → 00:03:42 เสียหายเช่นอุบัติเหตุครับอ้ออ่าหัวชนหัว
00:03:42 → 00:03:45 โหม่งกะโหลกแตกกะโหลกแล้วมีกะโหลกที่มัน
00:03:45 → 00:03:48 แตกออกนะครับเพราะฉะนั้นป้อมปราการป้อม
00:03:48 → 00:03:51 มันแตกเชิโลกจากภายนอกจากอากาศภายนอกเข้า
00:03:51 → 00:03:54 มาได้นะครับอันนี้โดยทางตรงเข้ามาได้เลย
00:03:54 → 00:03:57 นะฮะหรือบางคนที่มี
00:03:57 → 00:04:01 ข่าวจมน้ำจมน้ำอ่ะอ่าอันนี้อาจจะเคยเห็น
00:04:01 → 00:04:04 จมน้ำปุ๊บสมมุติจมน้ำวันนี้นะครับในอีก
00:04:04 → 00:04:07 สัปดาห์หรืออีกหลายเดือนถึงจะมีอาการเกิด
00:04:07 → 00:04:12 ฝีในสมองอ่าเพราะว่าจมน้ำแล้วนะครับเวลา
00:04:12 → 00:04:15 จมน้ำเราเกิดการสำลักน้ำอถูกต้องสำลักน้ำ
00:04:15 → 00:04:17 ก็จะเข้าไปอยู่ในระบบทหายใจกันนะฮะพี่พี่
00:04:17 → 00:04:21 ขวัญฮะเช่นโพรงไซนัสเป็นต้นนะครับอพอโพง
00:04:21 → 00:04:24 ไซนัสปุ๊บสมมุติแล้วะกันว่ามีการสำลักน้ำ
00:04:24 → 00:04:27 และมีเชื้อราเข้าไปหรือบางคนเป็นไซนัส
00:04:27 → 00:04:30 อักเสบบ่อยๆนะฮะแล้วเชื้อที่ที่ทำให้เกิด
00:04:30 → 00:04:33 สายนอักเสบเป็นเชื้อราครับเชื้อรามันก็จะ
00:04:33 → 00:04:36 เกิดการฟอร์มตัวหรือสร้างตัวอยู่ในโพรง
00:04:36 → 00:04:39 ไซนัสนะครับหลังจากนั้นมันก็ทำการกัดกิน
00:04:39 → 00:04:41 กระดูกไซนัสอยู่ตรงไหนฮะไซนัสอยู่บริเวณ
00:04:41 → 00:04:44 หน้าผากอยู่บริเวณหนกแก้มมันคือประเทศ
00:04:44 → 00:04:47 เพื่อนบ้านของสมองมันชิดมาทะลุชายแดนเข้า
00:04:48 → 00:04:51 ไปทะลุชายแดนเข้าสู่สมองได้นะครับขณะ
00:04:51 → 00:04:54 เดียวกันฮะอีก 1 อย่างสมองเราเนี่ยได้
00:04:54 → 00:04:58 กลิ่นได้ยังไงครับอ่าวในจมูกเรานะฮะจมูก
00:04:58 → 00:05:01 เราเราเรามีรูจมูกใช่มั้ยครับใช่แล้วก็จะ
00:05:01 → 00:05:04 มีเป็นจมูกมันจะเหมือนพีระมิดอ่ะครับยอด
00:05:04 → 00:05:08 บนสุดของพีระมิดเนี่ยจะเป็นรูพรุนที่สมอง
00:05:08 → 00:05:11 อ่ะครับจะมีเส้นประสาทพิเศษเอาไว้รับ
00:05:11 → 00:05:13 กลิ่นทะลุรูพรุนเหล่านั้นน่ะเป็นเหมือน
00:05:13 → 00:05:17 รากต้นไม้อ่ะครับเป็นรากฝอยต้นไม้ลงมาแน่
00:05:17 → 00:05:19 นอนครับเวลาเราติดเชื้อมันก็สามารถย้อน
00:05:19 → 00:05:21 กลับขึ้นไปทางรากต้นไม้ตัวนั้นเข้าสู่
00:05:21 → 00:05:25 สมองได้อ๋อมันมีทางออกก็มีทางเข้าไปที่
00:05:25 → 00:05:30 ย้อนย้อนเส้นทางย้อนเส้นทางระบบาต่าๆใช่
00:05:30 → 00:05:32 ฮะเมื่อกี้เรามีเรามีป้อมป้อมประการแตก
00:05:33 → 00:05:35 จากอุบัติเหตุกะโหลกแตกแล้วนะฮะอันที่ 1
00:05:35 → 00:05:38 นะฮะอันที่ 2 นะครับมีการจมน้ำอืมีการ
00:05:38 → 00:05:41 ย้อนขึ้นไปทางเส้นประสาทการดมกลิ่นมีการ
00:05:41 → 00:05:44 ทะลุของตัวโพงไซนัสนะครับหรือว่าบางคนเี่
00:05:44 → 00:05:47 กินเข้าไปตรงบริเวณโพงชนั้นหรือว่าฐาน
00:05:47 → 00:05:50 กระดูกฐานกะโหลกพูดผิดฮะฐานกะโหลกที่เป็น
00:05:50 → 00:05:53 กระดูกนะครับก็เข้าไปได้หรืออันที่เราได้
00:05:53 → 00:05:56 ยินกันบ่อยที่สุดติดเชื้อในกระแสเลือดติด
00:05:56 → 00:05:59 เชื้อในกระแสเลือดอแล้วเผอิญเชื้อนั้น
00:05:59 → 00:06:01 เป็นเชื้อราอ้อมันก็สามารถที่จะเข้าสู่
00:06:01 → 00:06:04 สมองได้เหมือนกันอ๋อมันเชื่อมโยงกันหมด
00:06:04 → 00:06:06 เลยนะเชื่อมโยงฮะเส้นทางหลายๆทางที่เชื้อ
00:06:06 → 00:06:10 ราสามารถที่จะเข้าสู่อ่าสมองของเราได้นะ
00:06:10 → 00:06:14 ครับออืมันมีหลากหลายช่องทางมีหลากหลาย
00:06:14 → 00:06:17 เอ่อสาเหตุครับสิ่งเหล่าเนี้ยเราจะรู้ได้
00:06:17 → 00:06:21 จากการสอบถามหรือว่าทรัพย์ประวัตคนไข้คุณ
00:06:21 → 00:06:24 มีอุบัติเหตุมั้ยคุณเคยกะโหลกแตกผ่าตัด
00:06:24 → 00:06:28 สมองมั้ยหรือว่าคุณมีเ่อเหตุจมน้ำมั้ยมี
00:06:28 → 00:06:31 ไซนัสอักเสบหรือเปล่าเออเป็นภูมิแพ้บ่อยๆ
00:06:31 → 00:06:34 ภูมิแพ้กับแพ้ภูมิตัวเองเดี๋ยวเดี๋ยวมา
00:06:34 → 00:06:36 อธิบายต่อนะครับหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง
00:06:36 → 00:06:38 เนี่ยเดี๋ยวคำนี้มีคำว่าภูมิอาจจะดูสับสน
00:06:38 → 00:06:41 อันนี้พูดถึงคนที่เป็นภูมิแพ้หรือชนั
00:06:41 → 00:06:45 อักเสบบ่อยๆนะครับอืค่ะโอขอความรู้นิดนึง
00:06:45 → 00:06:48 ค่ะครับามพี่ขวัญค่ะเวลาเชื้อรามันเข้าไป
00:06:48 → 00:06:52 ทั้งปมเอ่อป้อมประการแตกแบบเอ่อที่สมอง
00:06:52 → 00:06:54 เ่อได้รับการกระทบกระเทือนหรือว่าสำลัก
00:06:54 → 00:06:57 น้ำหรือเข้าไปที่ทางจมูกเนี่ยเชื้อเข้า
00:06:57 → 00:07:00 ทางไหนที่แบบระบบมันจะแบบจับได้เร็วที่
00:07:00 → 00:07:02 สุดแล้วเกิดความเสียหายกับร่างกายเร็วที่
00:07:02 → 00:07:05 สุดป้อมประการแตกหรือเปล่าถูกต้องเลยครับ
00:07:05 → 00:07:08 มันเป็นอะไรที่มันมาทางตรงฮะมาแบบโจ้งๆ
00:07:08 → 00:07:11 โต้งๆเลยฮะคือป้อมแตกะเชื้อเข้าไปหลังจาก
00:07:11 → 00:07:13 นั้นคนไข้ก็อาจจะมีมีไข้่มีอาการที่มัน
00:07:13 → 00:07:16 บ่งบอกถึงการติดเชื้อขึ้นมาแต่ทีนี้ครับ
00:07:16 → 00:07:20 ต้องบอกว่าเชื้อราเนี่ยมันเป็นสิ่งที่เรา
00:07:20 → 00:07:24 วินิจฉัยกันค่อนข้างยากอ้อทำไมฮะเพราะว่า
00:07:24 → 00:07:27 โดยทั่วไปความชุกของเชื้อโรคอ่ะครับไวรัส
00:07:27 → 00:07:31 แบคทีเรียนี่มาก่อนต้นเชื้อราเองเนี่ยมัน
00:07:31 → 00:07:35 เป็นสิ่งที่โอ้โหไม่ใช่ใครจะติดได้มันติด
00:07:35 → 00:07:38 กันได้ค่อนข้างจะยากนะครับต้องบอกว่าราเ
00:07:38 → 00:07:42 เนี่ยหรือสปอของรานะครับอมันมีอยู่ทั่วๆ
00:07:42 → 00:07:45 ไปผมขออนุญาตใช้คำว่าแยกแล้วกันว่าได้รับ
00:07:46 → 00:07:50 เชื้อรากับติดเชื้อราได้รับเราทุกคนได้
00:07:50 → 00:07:52 รับเชื้อราอยู่ทุกวันคือมันมีอยู่ในสิ่ง
00:07:52 → 00:07:54 แวดล้อมปกติอยู่แล้วใช่แล้วอยู่ตามต้นไม้
00:07:54 → 00:07:57 ใบหญ้านะฮะตามความอับชื้นต่างๆในที่อับ
00:07:57 → 00:08:01 ที่ชื้นหรือว่าเอ่อขนมปังหรือในอากาศอ่ะ
00:08:02 → 00:08:04 ทุกคนหลายๆคนตอนเด็กๆหรือใครมีลูกนะฮะอาจ
00:08:04 → 00:08:07 จะมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ให้เอาขนมปัง
00:08:07 → 00:08:11 ชุบน้ำแล้วไปวางไว้อ่าแล้วก็จะมีลาสี
00:08:11 → 00:08:17 เขียวสีม่วงสีขาวสีส้มขึ้นเอโดยที่ราขนม
00:08:17 → 00:08:19 ปังชิ้นนั้นไม่ได้ไปสัมผัสกับอะไรเลยมัน
00:08:19 → 00:08:21 ลอยมากับอากาศครับนั่นคือเชื้อราที่มี
00:08:21 → 00:08:24 อยู่ในอากาศอันเนี้ยพวกเราทุกคนได้รับ
00:08:24 → 00:08:27 เชื้อราอ่าได้รับเพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจ
00:08:27 → 00:08:30 ฮะนี่คือได้รับนะฮะส่วนติดอืมันไม่ได้ติด
00:08:30 → 00:08:34 ทุกคนติดเชื้อราจะเกิดขึ้นในคนที่มีความ
00:08:34 → 00:08:37 เสี่ยงเท่านั้นความเสี่ยงเออและใครล่ะ
00:08:37 → 00:08:40 ครับเสี่ยงแล้วใครเสี่ยงล่ะเนี่ยอ่าเราผม
00:08:40 → 00:08:42 ขออนุญาตแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อยๆแล้วกันนะ
00:08:42 → 00:08:44 ฮะเอาเป็นเบอร์ 1 กับเบอร์ 2 เบอร์ 1 คือ
00:08:44 → 00:08:49 คนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอืโดยกำเนิด
00:08:49 → 00:08:51 ครับซึ่งโรคเหล่านี้อาจจะเป็นโรคที่
00:08:51 → 00:08:54 วินิจฉัยค่อนข้างจะยากหรือบางคนได้รับการ
00:08:54 → 00:08:56 วินิจฉัยมาตั้งแต่เด็กอนะครับเป็นคนที่มี
00:08:56 → 00:08:58 ภูมิพุ้มกันผิดปกติหรือมีความบกพร่องของ
00:08:58 → 00:09:01 ภูมพุมกันกันฮะอันนี้คือภูมิคุ้มกันนะ
00:09:01 → 00:09:03 ครับไม่ใช่ภูมิแพ้นะฮะแลไม่ใช่แพ้ภูมิตัว
00:09:03 → 00:09:06 เองนะฮะอ่ะแยกก่อนฮะนี่คือภูมิคุ้มกันบก
00:09:06 → 00:09:09 พร่องแต่กำเนิดครับแบบที่ 2 ครับเป็นภูมิ
00:09:09 → 00:09:12 คุ้มการบกพร่องเมื่อคุณโตแล้วหรือเป็น
00:09:12 → 00:09:15 สิ่งที่ได้รับหรือเป็นโรคเหล่านี้ภายหลัง
00:09:15 → 00:09:20 อืได้แก่ 2.1 ครับสิ่งที่คอมมอนหรือสิ่ง
00:09:20 → 00:09:23 ที่เจอกันบ่อยเลยก็คือ HIV หรือว่าคนที่
00:09:23 → 00:09:26 เป็นเอดนะครับเป็นโรคคุมคุการบกพร่องจาก
00:09:26 → 00:09:29 การติดเชื้อไวรัส HIV นะครับแล้วก็ทำให้
00:09:29 → 00:09:33 ภูมิพกันมันอ่อนแอเชื้อที่มันไม่ได้ก่อ
00:09:33 → 00:09:36 โรคมันก็ดั้นมาก่อโรคในตัวเราได้นะครับ
00:09:36 → 00:09:38 อันนี้คือ HIV อันดับที่ 1 อันอันดับที่ 1
00:09:38 → 00:09:41 แล้วก็เป็นสิที่พบได้บ่อยนะฮะอันที่ 2
00:09:41 → 00:09:44 ครับคือคนที่ได้รับเคมีบำบัดอืคนที่ได้
00:09:44 → 00:09:46 รับเคมีบำบัดแน่นอนเต้องเป็นมะเร็งแค่
00:09:46 → 00:09:49 มะเร็งก็ภูมิตกอยู่แล้วเจอยาเคมีสัต์เข้า
00:09:49 → 00:09:53 ไปอีกก็ทำให้ภูมิคุกันที่มันอ่อนแอน้อยลง
00:09:53 → 00:09:56 ไปอีกจากเคจากภูมิจากมะเร็งก็โดนเคมีซัด
00:09:56 → 00:10:00 อ่อนลงไปอีกก็กลายเป็นคนที่มีภาวะภูมิคุม
00:10:00 → 00:10:03 กันบกพร่องนะครับอค่ะอันต่อมาคนที่มีความ
00:10:03 → 00:10:06 จำเป็นต้องกินยากดภูมิอืได้แก่พวก
00:10:06 → 00:10:09 สเตรอยด์หรือยากดภูมิบางชนิดนะครับเช่นคน
00:10:09 → 00:10:14 ที่เป็นอ่าโรคข้อโรครูมาตอยโรค sle หรือ
00:10:14 → 00:10:16 ว่าโรคพุ่มพวงคนเหล่านี้จะได้รับการกินยา
00:10:16 → 00:10:20 สเตรอยด์เช่นเพนินได้รับการฉีดยาชื่อ dexa
00:10:20 → 00:10:24 เมทาโซนเอ่อเป็นต้นนะครับหรือคนที่ได้รับ
00:10:24 → 00:10:29 การผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะอือืค่ะเราต้อง
00:10:29 → 00:10:31 หมอจำเป็นต้องให้ยากดภูมิเพื่อไม่ให้ภูมิ
00:10:31 → 00:10:34 คุ้มกันของร่างกายเนี่ยไปต่อต้านอวัยวะ
00:10:34 → 00:10:36 ใหม่ที่เข้ามาอยู่ในตัวเราคนเหล่านี้ก็จะ
00:10:36 → 00:10:39 กลายเป็นคนที่ถูกบังคับไลๆให้กลายเป็นคน
00:10:39 → 00:10:42 ที่มีภูมิคุมการที่มันพร่องลงไปหรือว่าบก
00:10:42 → 00:10:44 พร่องลงไปเราได้รู้จักคำว่าโรคภูมิแพ้ได้
00:10:45 → 00:10:49 มั้ยฮะกที่มากับไซนัอักเสบคนที่มีเ่อภูมิ
00:10:49 → 00:10:52 พุมกันบกพร่องจาก HIV นะฮะเอ่อหรือการได้
00:10:52 → 00:10:56 ยาเคมีบำบัดต่างๆหรือคนที่แพ้ภูมิตัวเอง
00:10:56 → 00:10:59 เช่น sle เป็นต้นคนละอย่างกันเลยนะฮะ
00:10:59 → 00:11:01 สับสนนะครับต้องขออนุญาตแถลงไขตรงนี้ไว้
00:11:01 → 00:11:03 ด้วยแล้ว
00:11:03 → 00:11:07 ก็คนที่ภูมิคุมกันอ่อนแออย่างเช่นคนที่
00:11:07 → 00:11:11 ขี้เหล้ากินเหล้าบ่อยๆทำให้ภูมิพุกมันตก
00:11:11 → 00:11:14 ลงนะครับเพราะฉะนั้นคนเนี้ยเป็นคนที่จะมี
00:11:14 → 00:11:16 ความเสี่ยงอกลุ่มนี้มีความเสี่งทั้งห
00:11:16 → 00:11:18 กลุ่มนี้มีความเสี่ยงทั้งหมดใช่ครับอ่า
00:11:18 → 00:11:21 ความเสี่ยงแบบนี้ผมพูดถึงความเสี่ยงใน
00:11:21 → 00:11:24 สถานการณ์ทั่วๆไปนะครับเช่นเราใช้ชีวิตทำ
00:11:24 → 00:11:27 งานปกติเดินท้องถนนเดินห้างใช้ชีวิตแบบ
00:11:27 → 00:11:31 ธรรมดาอืครับนี่คือในสภาวะแวดล้อมปกติ
00:11:31 → 00:11:35 ครับแต่ก็ต้องบอกว่าคนที่อยู่ในสภาวะแวด
00:11:35 → 00:11:39 ล้อมที่มีความเสี่ยงครับอืก็แม้ว่าคุณจะ
00:11:39 → 00:11:43 เป็นคนธรรมดาแข็งแรงดีแข็งแรงไม่มีอาการ
00:11:43 → 00:11:45 ตงๆอแต่คุณไปอยู่ในที่เสี่ยงอ่ะมันก็
00:11:45 → 00:11:49 เสี่ยงกว่าชาวบ้านเด้วยนะที่เสี่ยงคือที่
00:11:49 → 00:11:55 ไหนอ่ะที่บ้านรอบบ้านในป่าในพงหรือมีๆๆฮะ
00:11:55 → 00:11:58 มีๆถูกฮะคือเชื้อรามันชอบความชื้นใช่มั้ย
00:11:58 → 00:12:00 ครับเราเราเรารู้อยู่แล้วว่าขนมปังที่เรา
00:12:00 → 00:12:03 เอาไปทดลองในการเพาะเชื้อล่าเนี่ยมันต้อง
00:12:03 → 00:12:06 มีความชื้นหน่อยอ่ามีความชื้นมีความแฉะ
00:12:06 → 00:12:08 แล้วก็มีอาหารของเชื้อรานะครับก็ต้องใน
00:12:08 → 00:12:11 ป่าสินะถูกต้องเลยฮะในป่าในป่าแล้วต้องใน
00:12:11 → 00:12:15 ถ้ำด้วยหมอพิมพ์ถูกต้องใช่เลยใช่เลยอุ๊ย
00:12:15 → 00:12:17 มาแอบอ่านความคิดผมหรือเปล่าพี่ขวัญคือ
00:12:17 → 00:12:21 นั่งอยู่ในใจหมอต่างหากนั่นแนแต่หัวใจผม
00:12:21 → 00:12:22 คิดไม่ได้นะ
00:12:22 → 00:12:26 ฮะหัวใจผมกำลังเต้นอยู่ไม่ได้คิดปฏิเสธ
00:12:26 → 00:12:27 ยังไง
00:12:27 → 00:12:31 เนี่ยหยอดไปเรยนะฮะ 5 บาท 10 บาทเอาหมดก็
00:12:31 → 00:12:33 ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงคือในป่าครับมี
00:12:33 → 00:12:37 ความดิบชื้นนะครับเห็ดรามันขึ้นในที่ไหน
00:12:37 → 00:12:40 ก็ตรงนั้นละฮะนะเปลือกไม้อย่างงี้เป็นต้น
00:12:40 → 00:12:43 เข้าไปในถ้ำบางคนชอบเดินถ้ำครับเดินป่า
00:12:43 → 00:12:46 ลุยถ้ำไปดูค้างคาวอย่างเงี้ยมูนค้างคาว
00:12:46 → 00:12:49 อย่างเงี้ก็มีมูนค้างคาวเป็นอาหารของชรา
00:12:49 → 00:12:50 เหมือนกันนะครับเพราะฉะนั้นเราเข้าไปใน
00:12:50 → 00:12:53 ถ้ำที่มีค้างคาวก็ต้องพยายามโทคหรือป้อง
00:12:53 → 00:12:55 กันระบบทางเดินหายใจเราหน่อยนึงนะฮะมัน
00:12:55 → 00:12:58 อาจจะเข้าไปในทางเดินหายใจได้นะครับออื
00:12:58 → 00:13:02 เรื่องนี้ก็ได้ยินมาช่วงที่เอ่อมีข่าวที่
00:13:02 → 00:13:05 คนเข้าไปในถ้ำครับและเกิดทั้งมีทั้งข่าว
00:13:05 → 00:13:08 ในประเทศและต่างประเทศนะเยจำได้เลยว่ามี
00:13:08 → 00:13:11 คนเข้าไปในถ้ำแล้วไปสืบทราบมาว่าอุ๊ยมี
00:13:11 → 00:13:14 อาการป่วยหลังจากออกมาจากถ้ำอืปุ๊บอ๋อ
00:13:14 → 00:13:16 เข้าไปในถ้ำนั้นมีค้างคาวมีมูลค้างคาว
00:13:17 → 00:13:20 เอ้ยแล้วอย่างนกพิราบอ่ะพิราบอ่ะนี่แหละ
00:13:20 → 00:13:22 นี่ก็มาอ่านใจผมอีกอ้าเหรอเอนกพิราบกำลัง
00:13:22 → 00:13:25 จะพูดว่าอีกสถานที่นึงคือสถานที่ที่มีนก
00:13:25 → 00:13:28 พิราบเยอะๆนะครับต้องบอกว่ามันมีเชื้อรา
00:13:28 → 00:13:31 ตัวนึงชื่อว่า crypto คอก C ne For man
00:13:31 → 00:13:34 crypto คอกอ่าๆเอาเป็นว่าผมเอาจำง่ายๆ
00:13:34 → 00:13:37 คริปโตแล้วกันเหมือนกับเหรียญิตอ่ะมี
00:13:37 → 00:13:39 มูลค่าเยอะนะตอนเนี้ยอ่ามันเป็นเชื้อรา
00:13:39 → 00:13:43 ที่มันจะอยู่ในมูนหรือในขี้นกพิราชนะครับ
00:13:43 → 00:13:45 เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราไปอยู่ในที่ที่มีนก
00:13:45 → 00:13:50 พิราบเยอะเออเช่นกำแพงกำแพงเชียงใหม่อ่ะ
00:13:50 → 00:13:53 ไปวิ่งไล่นกพิราบถ่ายรูปอย่างเงี้ยที่ที่
00:13:53 → 00:13:56 มีขี้นกพิราบเยอะนะฮะเอ่อหรือไปเป็นคน
00:13:56 → 00:13:59 เก็บกวาดมูลนกพิราบเป็นคนเลี้ยงนกนพิราบ
00:13:59 → 00:14:02 หรือเป็นแม้กระทั่งนกพิราบแบบสื่อสารหรือ
00:14:02 → 00:14:04 นกพิราบแข่งอ่ะนกพิราบเลี้ยงอนะเอาเป็น
00:14:04 → 00:14:07 ว่านกพิราบเนี่ยมันไม่สามารถแบ่งได้ว่านก
00:14:07 → 00:14:09 พิราบที่มีเชื้อราในอุจจาระหรือไม่มี
00:14:09 → 00:14:12 เชื้อราในอุจจาระเราไม่แบ่งฮะแค่ขี้นก
00:14:12 → 00:14:15 พิราบหรือมูนนกพิราบหรืออุจาระนกพิราบอ่ะ
00:14:15 → 00:14:19 ก็คือมีความเสี่ยงแล้วอืด้วยตัวตัวเอ่อ
00:14:19 → 00:14:22 ขี้หรือขี้นกครับขี้ค้างคามันเป็นเรียก
00:14:22 → 00:14:25 ว่าเป็นตัวพาหะที่อยู่มีเชื้อเออเป็น
00:14:25 → 00:14:27 แหล่งพ้อเชื้อใช่เลยนะเป็นแหล่งพ้อเชื้อ
00:14:27 → 00:14:29 ที่เหมาะสมของของเชื้อราเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:14:29 → 00:14:32 ถ้าเราเอาตัวไปอยู่กับมูลนกพิราบหรือเอา
00:14:32 → 00:14:35 ตัวไปอยู่กับนกพิราบยังไงนกพิราบมันก็มี
00:14:35 → 00:14:38 มูนอยู่แล้วนะครับก็มีความเสียมันไม่ได้
00:14:38 → 00:14:41 ขี้แต่ว่ามันก็จะมีเศษอะไรที่ติดจากนะมัน
00:14:41 → 00:14:43 ติดอยู่กับตัวนกพิราชใช้คำว่าละอองเลยก็
00:14:43 → 00:14:47 ได้พี่เป็นละองได้เลยฮะซึ่งมันก็ทำให้เรา
00:14:47 → 00:14:51 ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความเสี่ยงเพิ่ม
00:14:51 → 00:14:55 ขึ้นอ๋อค่ะอเออแต่เวลาผมอ่ะผมไปเจอนก
00:14:55 → 00:14:58 พิราบบินเยอะๆผมก็ไม่ได้แบบพิสมัยที่จะ
00:14:58 → 00:15:01 วิ่งไปตามจับผ่านจับกินเหรอฮะไม่ครับไม่
00:15:01 → 00:15:03 นะไม่ได้คิดจะไปวิ่งผ่านให้เพื่อให้มัน
00:15:03 → 00:15:06 บินแล้วก็เกิดภาพอะไรขึ้นมาเพราะผมรู้สึก
00:15:06 → 00:15:09 ว่าผมจะกลั้นหายใจเออผมผมก็เป็นแบบผมรู้
00:15:09 → 00:15:12 สึกว่ามันฝุ่นมันฝุ่นละอองอะไรไม่รู้จาก
00:15:12 → 00:15:15 ขนจากอะไรเมันมันแล้วทำให้เราอึดครับซึ่ง
00:15:15 → 00:15:17 ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นไงงอ่าๆ
00:15:17 → 00:15:20 แต่เราคือถ้าเกิดบางคนเชื่อบอกว่าเอ้ยมอง
00:15:20 → 00:15:22 ไม่เห็นก็คือไม่มีอ่ะอันนั้นก็แล้วแล้ว
00:15:22 → 00:15:24 แต่คุณเชื่อแต่สำหรับทางวิทยาศาสตร์ทาง
00:15:24 → 00:15:27 การแพทย์เนี่ยเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นอืแต่
00:15:27 → 00:15:30 ผมเชื่อว่ามันมีอยู่จริงครับผมก็ผมก็จะ
00:15:30 → 00:15:34 กลั้นหายใจหรือแบบใส่แมสหรือหายใจผ่านแขน
00:15:34 → 00:15:37 เสื้อก็ยังดีคือกรองสักนิดนึงนะฮะเออ
00:15:37 → 00:15:40 เพื่อที่จะลดลดลดโอกาสตรงนี้ได้นะครับ
00:15:40 → 00:15:43 เมื่อมื่อเราไปเจอในจุดเสี่ยงไม่ว่าจะ
00:15:43 → 00:15:46 เป็นแหล่งต่างๆนะไม่ว่าจะเป็นแหล่ง
00:15:46 → 00:15:50 ธรรมชาติหรือว่าแหล่งที่มีสัตว์พาหะต่างๆ
00:15:50 → 00:15:54 รวมถึงอาจจะเกิดจากต้นต้นทางที่หมอพิมบอก
00:15:54 → 00:15:57 ก็คืออุบัติเหตุหอุบัติเหตุจมน้ำไซนัส
00:15:57 → 00:16:00 อักเสบพอเราเราประสบเหตุต่างๆแบบเนี้ย
00:16:00 → 00:16:05 ครับการเกิดของโรคเนี้ยมันมันมาฉับพลัน
00:16:05 → 00:16:08 แค่ไหนหรือว่ามันมาในระยะเวลาเท่าไหนถึง
00:16:08 → 00:16:11 จะปรากฏอาการให้เรารู้ว่าเราติดเชื้อราใน
00:16:11 → 00:16:14 สมองครับผมผมแบ่งเป็นเป็นแบ่งเป็น 2
00:16:14 → 00:16:16 อย่างแล้วกันฮะเป็นในกลุ่มที่เป็นอาการ
00:16:16 → 00:16:19 ของเยื่อหุ้มสมองอักเสบนะครับกับอีกกลุ่ม
00:16:19 → 00:16:22 นึงก็คือเป็นตัวเนื้อสมองอักเสบเลยนะครับ
00:16:22 → 00:16:24 เ่อเยื่อหุ้มสมองอักเสบอาการจะมาเร็วกว่า
00:16:24 → 00:16:27 นะฮะอาการมาเร็วกว่าเช่นคนไข้จะมีไข้ขึ้น
00:16:27 → 00:16:30 มีการติดเชื้อมีไขให้ขึ้นนะครับมีอาการ
00:16:30 → 00:16:34 ปวดศีรษะนะฮะรวมถึงมีอาการคอแข็งคอแข็ง
00:16:34 → 00:16:36 นี้ไม่ใช่กินเหล้าแล้วคอแข็งนะไม่เมานะจะ
00:16:36 → 00:16:39 ไปทางนั้นเลยต้องต้องขออนุญาตดักไว้ก่อน
00:16:39 → 00:16:42 ว่าว่าไม่ใช่คอแข็งนั้นคอแข็งคือเอาคาง
00:16:42 → 00:16:45 ชิดอกไม่ค่อยได้มันปวดต้นคอมันตึงมัน
00:16:45 → 00:16:48 เหมือนกล้ามเนื้อมันเปรี๊ยะไปหมดอ่ะ
00:16:48 → 00:16:50 ประมาณนั้นประมาณนั้นก็ได้นะครับคือคือ
00:16:50 → 00:16:54 อาการของอาการคอแข็งซึ่งเอ่อพอมันมีอาการ
00:16:54 → 00:16:56 เหล่านี้เนี่ยหมอก็จะตีความหมายว่าคุณ
00:16:56 → 00:17:00 เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบอืก็จะทำการเจาะ
00:17:00 → 00:17:03 เลือดบางส่วนนะฮะแล้วก็มีการสแกนสมองอาจ
00:17:03 → 00:17:06 จะมีการฉีดสารทึบรังสีนะครับอแล้วก็ไม่
00:17:06 → 00:17:08 ต้องตกใจถ้าคุณถ้าเกิดคุณหมอเขาบอกว่า
00:17:08 → 00:17:10 งั้นหมอขอเจาะ HIV หน่อยอเหรอฮะอ่าเพราะ
00:17:10 → 00:17:14 ว่าโดยทั่วๆไปคนทั่วๆไปโอกาสที่จะเป็น
00:17:14 → 00:17:16 เยื่อหุ้มสมองอักเสบไม่ว่าจากเชื้ออะไรก็
00:17:16 → 00:17:20 ตามนะครับค่อนข้างจะน้อยอครับแต่ถ้าเป็น
00:17:20 → 00:17:23 หมอต้องดูว่า 1 คุณเป็นกลุ่มเสี่ยงมั้ย
00:17:23 → 00:17:26 กลุ่มเสี่ยงก็คือเอ่อเป็นคนที่มีภูมิคุ้ม
00:17:26 → 00:17:29 การบกพร่องหรือเปล่าถ้าประวัติไม่ได้มี
00:17:29 → 00:17:32 กินยากดภูมิไม่ได้เป็นคนไข้มะเร็งเคมี
00:17:32 → 00:17:35 บำบัดพวกเนี้ยคุณเป็น HIV มยก็จะขออนุญาต
00:17:35 → 00:17:39 ในการเจาะตรวจเพราะถ้าเกิดว่าคุณเป็นหมอ
00:17:39 → 00:17:43 จะต้องคิดถึงเชื้อโรคแปลกๆอืนะค้างไว้
00:17:43 → 00:17:45 ก่อนนะฮะเชื้อโรคแปลกๆแต่ถ้าเกิดคุณไม่
00:17:45 → 00:17:49 เป็นก็คุณก็ได้รู้ว่าคุณไม่เป็นอ่าด้วย
00:17:49 → 00:17:52 แล้วก็จะมุ่งไปอีกเส้นทางที่หาสาเหตุของ
00:17:52 → 00:17:55 ใช่ครับอต่อไปก็คือหมอจะทำการส่งคุณสแกน
00:17:55 → 00:17:59 สมองนะครับสแกนสมองเพื่อที่จะดูดูว่ามี
00:17:59 → 00:18:02 ความผิดปกติอะไรบ้างในเนื้อสมองหรือตัว
00:18:02 → 00:18:04 เยื่อหุ้มสมองนะครับแล้วก็จะเป็นแบบที่ฉี
00:18:04 → 00:18:08 สฉีดสารทึบรังสีด้วยนะฮะอืแล้วก็สำคัญมาก
00:18:08 → 00:18:11 เลยคือบางบางบางที่หรือบางเคสเนี่ยอาจจะ
00:18:11 → 00:18:14 ไม่ได้ทำการสแกนสมองก่อนแต่ถ้าเกิด hvv
00:18:14 → 00:18:18 คุณ Positive คุณเป็นคนไข้ HIV ต้องสแกน
00:18:18 → 00:18:22 สมองก่อนการเจาะลังทุกครั้งอืขั้นตอนต่อ
00:18:22 → 00:18:24 ไปคือการเจาะหลังนะครับการเจาะหลังเนี่ย
00:18:24 → 00:18:28 บางคนฟังดูเฮ้ยน่ากลัวหมอเจาะหมอตอกังไง
00:18:28 → 00:18:30 ือเปล่านึกถึงเวลาคุณผู้หญิงไปคลอดลูก
00:18:31 → 00:18:34 ครับครับบล็อกหลังถูกต้องเลยบล็อกหลังฮะ
00:18:34 → 00:18:37 บล็อกหลังเี่ก็จะเป็นการที่เอาเข็มยาวๆ
00:18:37 → 00:18:39 นิดนึงนะฮะซึ่งคนใครจะไม่เห็นเพราะหมอ
00:18:39 → 00:18:41 จิ้มเข้าไปทีหลังจิ้มเข้าไปที่หลังนะครับ
00:18:41 → 00:18:44 เข้าไปถึงชั้นเยื่อหุ้มสมองหรือเยื่อหุ้ม
00:18:44 → 00:18:46 ไขสลังซึ่งมันเป็นชั้นเดียวกันครับสมอง
00:18:46 → 00:18:50 กับไข่สัหลังเนี่ยมันเ่าเชื่อมต่ออยู่ใน
00:18:50 → 00:18:53 ระบบหล่อเลี้ยงน้ำเดียวกันอืเราเจาะไป
00:18:53 → 00:18:55 เพื่อเอาไปตรวจนะครับเจาะไปเพื่อเอาน้ำ
00:18:55 → 00:18:59 ไข่สหลังไปตรวจนะฮเพราะฉะนั้นการหลังหรือ
00:18:59 → 00:19:03 การเจาะหลังเนี่ยคือๆกันครับมันคือมันคือ
00:19:03 → 00:19:05 อย่างเดียวกันนะฮะเราก็เอาไปตรวจไปตรวจ
00:19:05 → 00:19:09 อะไรบ้าง 1 มีการติดเชื้อจริงมยอติดเชื้อ
00:19:09 → 00:19:12 มากหรือติดเชื้อน้อยครับติดเชื้ออะไรอะไร
00:19:12 → 00:19:15 ในที่นี้คือผลเลือดอ้าขอโทษนะฮะผลน้ำไข่
00:19:15 → 00:19:17 ใส่หลังมันบ่งชี้ไปทางว่าเอ้ยมันเหมือน
00:19:17 → 00:19:20 ไวรัสมันเหมือนแบคทีเรียหรือมันเหมือน
00:19:20 → 00:19:23 เชื้อราอือเราสามารถตรวจเชื้อราบางชนิด
00:19:23 → 00:19:26 ได้นะครับโดยเฉพาะตัวที่พูดถึงกันเมื่อ
00:19:26 → 00:19:29 สักครู่นี้ก็คือตัวตัวเอ่อคิปตัวคอกคัส
00:19:29 → 00:19:33 นออฟ Man ครับหรือว่าเชื้อราที่มากับมา
00:19:33 → 00:19:37 กับเอ่อมูนกพิราบใช่เลยฮะนพราบเราก็เราก็
00:19:37 → 00:19:42 จะมาทำการตรวจว่าคนไข้นะฮะมีมีมีเชื้อรา
00:19:42 → 00:19:44 ที่มันติดเชื้ออยู่อยู่ในนั้นอยู่ในเยื้อ
00:19:44 → 00:19:46 หุมสมองหรือเปล่าเพราะว่าถ้าเกิดเราได้
00:19:46 → 00:19:49 รับการวินิจฉัยหรือตรวจเจอเชื้อแล้วเนี่ย
00:19:49 → 00:19:52 รักษากันยาวอืยรักษากันเป็นสัปดาห์หลาย
00:19:52 → 00:19:55 สัปดาห์เลยฮะต้องนอนโรงพยาบาลแล้วก็ให้ยา
00:19:55 → 00:19:58 ด้วยนะครับแต่โชคดีคือเจอแล้วรักษาด้วย
00:19:58 → 00:20:01 ตรงตคือถ้าเกิดเจอเราก็มีของให้รักษาแต่
00:20:01 → 00:20:03 ถ้าเกิดไม่เจออันนี้เป็นหน้าที่หมอละหมอ
00:20:03 → 00:20:06 หนักใจะหมอต้องหาต่อว่าเป็นเยืหุ้มสมอง
00:20:06 → 00:20:09 อักเสบหรือว่าเกิดจากอะไรนะครับอือันนี้
00:20:09 → 00:20:12 ก็เป็นข้อมูลหรือว่าเป็นการวางแผนการ
00:20:12 → 00:20:16 รักษาคร่าวๆให้ฟังอืเชื้อราที่เข้าไปเป็น
00:20:16 → 00:20:18 ทำให้เราเป็นเชื้อราในสมองเนี่ยมันเป็น
00:20:18 → 00:20:20 ชนิดเดียวกันมั้ยหมอพีมโอ๊ยจริงๆเชื้อรา
00:20:20 → 00:20:22 มีหลายชนิดครับแสดงว่าหลายไม่เกี่ยวว่าจะ
00:20:22 → 00:20:26 เป็นชนิดอะไรใช่ฮะแต่ว่ามันเข้าทางไหนอือ
00:20:26 → 00:20:29 ๆๆถ้าเกิดเป็นเชืราที่มากับน้ำในเชที่มา
00:20:29 → 00:20:31 กับนกพิราบมันก็จะเป็นคนละแบบกันแต่ว่า
00:20:31 → 00:20:34 ยังไงก็ตามหมอก็ต้องผ่านการตรวจก่อนเพะ 1
00:20:34 → 00:20:37 คือไม่ใช่ไวรัส 2 คือไม่ใช่เชื้อราครับ
00:20:37 → 00:20:40 เอ้ยขอโทษไม่ใช่แบคทีเรียแล้วก็ค่อยคิด
00:20:40 → 00:20:42 ถึงในกลุ่มของเชื้อราขณะเดียวกันเองเนี่ย
00:20:42 → 00:20:44 ถ้าเกิดคุณเป็นคนปกติโอกาสน้อยมากนะครับ
00:20:44 → 00:20:48 น้อยมากนะครับที่จะติดเชื้อรามีคุณผู้ฟัง
00:20:48 → 00:20:52 สอบถามมาน่าสนใจหมอพีมผมนะครับเอ่อเคยมี
00:20:52 → 00:20:55 นะครับคือคนไข้ไปรื้อกองหนังสือเก่าๆต่อ
00:20:55 → 00:20:57 มาไม่สบายไอตลอดตรวจแล้วพบว่ามีเชื้อรา
00:20:57 → 00:21:00 เข้าไปในปอดเอ้ยก็เป็นไปได้นะฮะเพราะว่า
00:21:00 → 00:21:03 เพราะว่ากองหนังสือเองเนี่ยมันก็มีสมมุติ
00:21:03 → 00:21:05 ว่ามันมีความชื้นอ่ะนะฮความฝุ่นนะคามมัน
00:21:05 → 00:21:08 มีความฝุ่นมีความชื้นมีความเก่าเก็บมี
00:21:08 → 00:21:11 ความสะสมอืมันก็มันก็มีสิทธิที่จะเพราะ
00:21:11 → 00:21:14 ว่ามีทางเข้าไปก็คือระบบการการหายใจผม
00:21:14 → 00:21:17 เชื่อว่าการไปรื้อไปรื้อกองหนังสือในสถาน
00:21:17 → 00:21:19 ที่เหล่านี้เนี่ย 1 คือมันเป็นสถานที่ปิด
00:21:19 → 00:21:23 ออ่ะ 2 การลายไถยเทไม่มีอากาศไม่ถ่ายเท
00:21:23 → 00:21:27 คือมันอุดมไปด้วยมันอุดมไปด้วยเชื้อ
00:21:27 → 00:21:32 แบคทีเรียงตเสี่ยงครับผมเสี่ยงอืนะฮะโอ
00:21:32 → 00:21:38 แสดงว่าพวกที่ชื่นชอบของมือสองการคุ้ยของ
00:21:38 → 00:21:42 ที่แบบเออตลาดของเก่านะอ่าเออที่มันกอง
00:21:42 → 00:21:46 สุมๆเยอะๆอ่ะอันเนี้ยใช่คือไม่ได้ห้ามไป
00:21:46 → 00:21:50 นะแต่ต้องเซฟตัวเองด้วยใช่ด้วยด้วยการใส่
00:21:50 → 00:21:53 ใส่แก็ได้ครับใส่แสก็ได้คือการใส่แสเนี่ย
00:21:53 → 00:21:56 มันก็อย่างน้อยมันก็มันก็คัดกรองหรือหรือ
00:21:56 → 00:21:59 กรองเชรไปได้พอสมควร
00:21:59 → 00:22:02 ออค่ะตัวแสเนี่ยต้องเลือกเป็น n95 ด้วย
00:22:02 → 00:22:05 มั้ยคะหมอพิมพ์หรือว่าแมสพกๆอุ้ยถ้าเกิด
00:22:05 → 00:22:07 เป็น n95 ได้ก็ดีครับแต่ถ้าเกิดว่าไม่ได้
00:22:07 → 00:22:11 ก็เป็นแมสธรรมดาก็ก็ยังดีนะครับเออแต่ว่า
00:22:11 → 00:22:14 n95 ก็อยู่ยากนิดนึงนะช่วงนี้อึดอัดอึด
00:22:14 → 00:22:18 อัดอึดอัดหายใจกันไม่ไหวนะฮะพอเราได้รับ
00:22:18 → 00:22:20 เชื้อเข้าไปในสมองะอาการที่ปรากฏแล้วครับ
00:22:20 → 00:22:23 หมอพีมอาการที่ปรากฏก็อะไรขึ้น้ามีปวดหัว
00:22:23 → 00:22:26 ครับปวดหัวขบวนการการปวดหัวเนี่ยมันเกิด
00:22:26 → 00:22:29 ขึ้นมาจากการที่มันมีเชื้อโรคหรือว่าสิ่ง
00:22:29 → 00:22:31 แปลกปลอมเข้าไปในสมองอนะครับเยื้อหุ้ม
00:22:31 → 00:22:34 สมองก็จะมีปฏิกิริยาละเกิดการอักเสบการ
00:22:34 → 00:22:36 อักเสบตรงนี้เนี่ยเยืหุ้มสมองมันเกิดการ
00:22:36 → 00:22:39 ตึงตัวอนะครับเกิดการอักเสบเกิดขึ้นเราก็
00:22:39 → 00:22:42 จะมีอาการปวดหัวนะฮะขณะเดียวกันในสมองเอง
00:22:42 → 00:22:45 เนี่ยในเส้นเลือดที่มันทำการสร้างน้ำหล่อ
00:22:45 → 00:22:48 เลี้ยงสมองมันก็มีปฏิกิริยาตอบโต้เหมือน
00:22:48 → 00:22:51 กันมันก็สร้างน้ำที่หล่อเลี้ยงในสมอง
00:22:51 → 00:22:54 เนี่ยมาเยอะขึ้นครับผลก็คือพอน้ำมันเยอะ
00:22:54 → 00:22:57 ขึ้นเนื้อสมองมันก็ตึงฮะสมองมันก็ถูกอัด
00:22:57 → 00:23:00 แน่นอยู่เคือกะโหลกเราเท่าเดิมอ่ะครับ
00:23:00 → 00:23:02 กะโหลกเราเท่าเดิมสมองเราเท่าเดิมลูกปลูก
00:23:02 → 00:23:06 โป่งที่มันใส่น้ำเข้าไปเยอะๆตึงมันปวดพอ
00:23:06 → 00:23:08 มันปวดเนี่ยเป็นจุดที่คุณจะต้องมาหาหมอละ
00:23:08 → 00:23:11 ครับนะครับค่ะอาการปวดอาการปวดต้องถามนี้
00:23:11 → 00:23:14 ก่อนกำลังจะถามว่าปวดมันต่างกับปวดทั่วๆ
00:23:14 → 00:23:17 ไปหรือปวดไมเกรนปวดยังไง 2 คนแยกกันถามผม
00:23:17 → 00:23:20 รู้เลยว่าจะถามคำถามเดียวกันมันต่างครับ
00:23:20 → 00:23:22 ผมมันต่าอยู่ในใจใครึเป่ามันต่างคืออย่าง
00:23:22 → 00:23:24 งี้ครับเวลาเราปวดเอาปวดไมเกรนก่อนเนาะ
00:23:24 → 00:23:27 ปวดไมเกรนคือปวดหัวข้างเดียวอืนะครับแต่
00:23:27 → 00:23:29 ถ้ารักขังเรักเข่าข้างเดียวนี่อีกอีก
00:23:29 → 00:23:33 อย่างนึงอันนั้นปวดใจปวดใจอ่ะไปต่อกันเลย
00:23:33 → 00:23:36 ครับไปต่อนะฮะแต่ถ้าเกิดปวดหัวแบบความ
00:23:36 → 00:23:38 เครียดปวด tension เคนะฮะก็จะปวดบริเวณ
00:23:38 → 00:23:41 ขมับ 2 ข้างครับแต่ปวดแบบเนี้ยปวดจากที่
00:23:41 → 00:23:44 มันมีแรงดันในกะโหลกสูงขึ้นหรือว่ามีการ
00:23:44 → 00:23:47 อักเสบอ่ะครับมันจะปวดทั้งหัวเลยครับปวด
00:23:47 → 00:23:50 ทั่วๆเลยอ๋ออ่าเหมือนที่เขาบอกว่าหนักหัว
00:23:50 → 00:23:53 มั้ยไม่ใช่หนักหัวไม่หนักหัวอันนี้ปวดหัว
00:23:53 → 00:23:57 เป็นเป็นคำว่าปวดหัวเลยครับครับแต่มี
00:23:57 → 00:24:01 คีย์เวิร์ดสำคัญกกว่านั้นอีกคือการปวดตัว
00:24:01 → 00:24:04 นี้เนี่ยเวลาคุณนอนกับเวลาคุณนั่งถ้าเกิด
00:24:04 → 00:24:07 คุณปวดหัวนะมันก็ไม่ต่างกันจะนั่งจะนอนจะ
00:24:07 → 00:24:10 ยืนจะเดินชัดก็ปวดหัวเท่ากันใช้คำว่าเท่า
00:24:10 → 00:24:12 กันนะความรุนแรงเท่ากันแต่ถ้าเกิดปวดหัว
00:24:12 → 00:24:15 จากการที่มีแรงดันในสมองเยอะขึ้นจากการ
00:24:15 → 00:24:20 ติดเชื้อนะครับเวลาคุณนอนจะปวดหัวมากอ๋อ
00:24:20 → 00:24:24 ปวดไม่ไหวนอนไม่งเลยปวดจนคุณจนคุณจะต้อง
00:24:24 → 00:24:29 หนุนหมอนสูงที่จะนอนครับหรือพอคุณนั่ง
00:24:29 → 00:24:33 ปุ๊บหรือคุณยืนปุ๊บอืมันเบาลงทันตาเห็นอ
00:24:33 → 00:24:37 เหมือนอ้อผมนึกออกคล้ายๆกับุโป่งเลยเวลา
00:24:37 → 00:24:40 ถ้าเรานอนลงมันก็จะเอนลงมาทำกดยิ่งกดยิ
00:24:40 → 00:24:43 เกิดการกดครับแรงแรงดันเพชเชอร์มันสูงพอ
00:24:43 → 00:24:45 เราเราจับมันตั้งขึ้นมันเหมือนว่ามันมัน
00:24:45 → 00:24:46 มีความ
00:24:46 → 00:24:50 สมากขึ้นอครับผมเพิ่งมีคนไข้ล่าสุดเลยขอ
00:24:50 → 00:24:53 อนุญาตแทรกเล่าให้ฟังได้เลยเป็นคนไขชาว
00:24:53 → 00:24:58 ฮ่องกงครับมาหาผมอครับตอนกำลังจะเลิกงาน
00:24:58 → 00:25:01 16:30 นกำลังจะเลิกงาน 17 นมาบอกว่าปวด
00:25:01 → 00:25:05 หัวครับปวดหัวแล้วปวดหัวปวดปวดแบบเหมือน
00:25:05 → 00:25:08 ปวดหัวจากความเครียดปวดขมับ 2 ข้างแล้วผม
00:25:08 → 00:25:10 ก็ถามว่านอกจากปวดหัวแล้วมีอาการอื่นร่วม
00:25:10 → 00:25:14 ด้วยมั้ยมีไข้มั้ยบอกเออเค้ามีไข้อเค้าเ
00:25:14 → 00:25:17 มีไข้มาประมาณ 4 วันครับคือคำว่าไข้แต่ละ
00:25:17 → 00:25:20 คนเนี่ยถ้าเป็นคนไทยบอกคำว่ามีไข้ผมจะถาม
00:25:20 → 00:25:23 ต่อว่าคำว่าไข้นี่คือรู้สึกตัวรุมรุมหรือ
00:25:23 → 00:25:26 เจ็บคอหรือรู้สึกไม่สบายหรือขั้นเนื้อ
00:25:26 → 00:25:28 ขั้นตัวหรือว่าคำว่าไข้คือวัดไขไข้แล้ว
00:25:28 → 00:25:31 ไข้ขึ้นเพราะคนไทยใช้คำว่าไข้ค่อนข้างจะ
00:25:31 → 00:25:33 เปิดกว้างมากกว้างคำว่าไข้ของเขาคือ
00:25:33 → 00:25:37 อุณหภูมิขึ้นมีปลอดวัดอุณหภูมิ 38 เฮ้ย
00:25:37 → 00:25:40 อันนี้มีไข้จริงนะครับแล้วอาการปวดหัวของ
00:25:40 → 00:25:43 เขามันมีอะไรที่มันจำเพาะอีกมยเช่นไอจาม
00:25:43 → 00:25:46 เบ่งแล้วปวดมากขึ้นเบอกเไม่อายไม่จำไม่
00:25:46 → 00:25:49 ไม่ไม่มีอาการเบ่งเลยครับเอ่อแล้วนั่งกับ
00:25:49 → 00:25:52 นอนเปวดต่างกันมั้ยอเขาบอกผมว่า When I
00:25:53 → 00:25:56 Sleep I need at least Two pillow
00:25:56 → 00:25:59 อืคือเวลาฉันนอนฉันต้องใช้หมอนอย่างน้อย 2
00:25:59 → 00:26:02 ใบมาหนุนขึ้นไปอีกคือยังไงหรอหมอน 2 ใบ
00:26:02 → 00:26:04 คือ your Head ต้องเ่อ My Head ต้องอร
00:26:04 → 00:26:07 คือหัวเขาจะต้องค่อนข้างสูงสูงขึ้นนะครับ
00:26:07 → 00:26:09 งั้นผมก็เลยถามว่าเออให้เา้า compare
00:26:09 → 00:26:12 หรือเปรียบเทียบระหว่างว่าเขานอนราบกับเ
00:26:12 → 00:26:15 นั่งหรือเขายืนคือหัวหัวคุณตั้งขึ้นน่ะ
00:26:15 → 00:26:19 ต่างมั้ยเบอก Yes very differ คือต่าง
00:26:19 → 00:26:22 มากๆต่างมากๆผมก็เลยถามว่าต่างยังไงคือ
00:26:22 → 00:26:25 เวลาเคยืนแล้วเานั่งอ่ะเขาสบายในเมื่อคืน
00:26:25 → 00:26:27 เนี่ยเไม่ได้ใช้หมอน 2 ใบในการนอนนะเนั่ง
00:26:27 → 00:26:29 หลับ
00:26:29 → 00:26:35 ออหว่าอนั่นคือสัญญาณของแรงดันในในระบบ
00:26:35 → 00:26:37 ประสาทหรือในสมองมันเพิ่มสูงขึ้นผมก็เลย
00:26:37 → 00:26:41 จับเข admit นะครับต้องกลับการแอดมิเลย
00:26:41 → 00:26:43 เพราะว่าอันตรายมากเหมือนเริมเลยฮะตาม
00:26:43 → 00:26:47 สเต็ปผมตรวจ HIV ผมเจาะเลือดตรวจผมสแกน
00:26:47 → 00:26:50 สมองแล้วคืนนั้นผมก็วนกลับรถขับรถกลับมา
00:26:50 → 00:26:53 ที่โรงพยาบาลแล้วก็เจาะหลังอืแรงดันใน
00:26:53 → 00:26:55 กะโหลกหรือแรงดันในระบบอ่ะครับมันสูงกว่า
00:26:55 → 00:26:58 ปกติชัดเจนคือเจาะปุ๊บอมหมอรู้เลยว่า
00:26:58 → 00:27:01 โอ้โหเคสเมีของแน่นอนแรงดันมันสูงมากไม่
00:27:01 → 00:27:03 ใช่ของแบบของขลังอะไรใช่มั้ยไม่ใช่ของ
00:27:03 → 00:27:06 ขลังไม่ใช่เจาะมาเป็นเป็นเล็บเป็นผมเป็น
00:27:06 → 00:27:08 ไม่ใช่อย่างงั้นไม่ใช่อย่างงั้นคือมีความ
00:27:08 → 00:27:11 ผิดปกติแน่นอนเจอโรคแน่ๆนะครับแล้วก็ส่ง
00:27:11 → 00:27:14 ตรวจไปคนนี้เป็นติดเชื้อแบคทีเรียครับอ๋อ
00:27:14 → 00:27:17 แบคทีเรียรู้มั้ยว่าเค้าไปทำอะไราผมว่า
00:27:17 → 00:27:21 เดาไปเที่ยวถ้ำไปเที่ยวถ้ำอไปว่ายน้ำว่าย
00:27:21 → 00:27:25 น้ำมีมีคนใกล้เคียงฮะพี่ขวัญใกล้เคียงฮะ
00:27:25 → 00:27:27 เหรอไปดำน้ำอย่างเงี้เหรอเค้าไปกินอาหาร
00:27:27 → 00:27:31 ซีฟู้ดแล้วเท้องเสียซึ่งๆผมก็เรียนตามตรง
00:27:31 → 00:27:33 ว่าผมไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวข้องกันหรือ
00:27:33 → 00:27:36 เปล่าแต่สมมุติว่าการที่เขากินอาหาร
00:27:36 → 00:27:39 ซีฟู้ดแล้วเขาท้องเสียแล้วเขามีไข้แสดง
00:27:39 → 00:27:42 ว่ามันมีการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารนะ
00:27:42 → 00:27:45 ครับออกบนออกล่างคืออ้วกแตกขี้แตกขออภัย
00:27:45 → 00:27:48 นะใช้คำเข้าใจง่ายออกบนออกล่างก็คือ
00:27:48 → 00:27:51 อาเจียนแล้วก็อุจจาระหรือถ่ายท้องเสีย
00:27:51 → 00:27:53 เนี่ยแหละครับแล้วเขามีไข้ด้วยแสดงว่า
00:27:53 → 00:27:54 เชื้อโรคเหล่านั้นเนี่ยมันเข้าไปสู่ใน
00:27:54 → 00:27:57 ระบบกระแสเลือดอหรือเรียกว่าติดเชื้อใน
00:27:57 → 00:27:58 กระแสเลือดก็ได้
00:27:58 → 00:28:01 ครับแน่นอนพอมันติดเชื้อในกระแสเลือด
00:28:01 → 00:28:03 เชื้อโรคเหล่านั้นมันก็อาจจะทะลุทะลวงไป
00:28:03 → 00:28:07 สู่ป้อมปราการของสมองได้ตามระบบนะฮะก็เลย
00:28:07 → 00:28:10 ทำให้มีการติดเชื้อในระบบประสาทตามไปด้วย
00:28:10 → 00:28:13 นะครับอันเนี้ยเลยทำให้เขามีติดเชื้อใน
00:28:13 → 00:28:17 สมองสุดท้ายผมก็ต้องให้เขาแอดมิให้ยาฆ่า
00:28:17 → 00:28:20 เชื้อเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ 14
00:28:20 → 00:28:25 วันโดนเอาอยู่เอาตัวอยู่ในโรงพยาบาลโห
00:28:25 → 00:28:27 ข่าวดีคือพรุ่งนี้พรุ่งนี้ครบกำหนด 14
00:28:27 → 00:28:28 วัน
00:28:28 → 00:28:31 เจะได้กลับบ้านลเออโอ้โหเจะได้กลับฮ่องกง
00:28:31 → 00:28:34 แล้วฮะแบคทีเรียในอาหารทะเลก็ได้ยินใหญ
00:28:34 → 00:28:38 เหมือนกันไปกินอาหารทะเลมาใช่มั้ยที่ท้อง
00:28:38 → 00:28:41 เสียเริ่มมีอาการท้องเสียเนี่ยเอ่อจนกว่า
00:28:41 → 00:28:43 จะมาถึงหาถึงมือคุณหมอหาใช้เวลาไปกี่วัน
00:28:43 → 00:28:47 เหรอคะหมอ 4 วันเองพี่ขวัญ 4 วัน 4 วัน
00:28:47 → 00:28:50 อ่าคือวันที่เข้ามาหาผมอ่ะไม่มีไม่มีอ้วก
00:28:50 → 00:28:53 แตกขี้แตกแล้วนะฮะหมดแล้วไม่มีไม่มีอาการ
00:28:53 → 00:28:56 ทางระบบทางเดินอาหารแล้วเหลือแต่ยังมีไข้
00:28:56 → 00:28:59 รุมๆแล้วก็ปวดหัวออือแล้วก็ปวดมากจน
00:28:59 → 00:29:02 กระทั่งจากเดิมคือนอนหมอนปกติ 1 ใบ 2 ใบ
00:29:02 → 00:29:05 เอกเขนกจนสุดท้ายคือ 2 ใบไม่อยู่ะฉันต้อง
00:29:05 → 00:29:08 นั่งหลับแล้วเพราะมันปวดหัวมากนะครับอัน
00:29:08 → 00:29:10 นี้คือตัวอย่างตัวอย่างถามต่อถามต่อว่า
00:29:10 → 00:29:14 ถ้าอาการอย่างเงี้ยเราเราทนไปจนถึงแบบมัน
00:29:14 → 00:29:17 น่าจะหายเองนกินยาเองน่าอย่างเงี้ยหาย
00:29:17 → 00:29:20 มั้ยหมอกำลังจะเล่าเคสต่อไปเลยมีเคสที่ทน
00:29:20 → 00:29:23 ด้วยนะอ่ะมาสุดท้ายคืออหารอดทนสุดท้ายคือ
00:29:23 → 00:29:27 ทนไม่ไหวอออ่ะงั้นถ้าจะเล้าเคสเคสต่อไป
00:29:27 → 00:29:30 เดี๋ยวผมขออนุาขอเบรคก่อนมยฮะนะครับ
00:29:30 → 00:29:31 เดี๋ยวขอพักกันสักครู่ครับกลับมาคุยกัน
00:29:31 → 00:29:34 ต่อสุขภาพดี 22 นนะครับมันแน่นอนยังต่อ
00:29:35 → 00:29:37 เนื่องกันนะยังอยู่กับหมอพีมนะครับแล้วก็
00:29:37 → 00:29:39 ผมแล้วก็พี่ขวัญนะครับเสือโอ๊คแล้วก็พี่
00:29:39 → 00:29:41 ขวัญนะครับก็เมื่อกี้ค้างคากันอยู่แต่
00:29:41 → 00:29:44 เมื่อกี้ก็แซวหมอไประหว่างพักมีคุณผู้ฟัง
00:29:44 → 00:29:48 นะโอหแซวคุณหมอกันมาเพียบเลยนะไหนนะฮะพี่
00:29:48 → 00:29:51 โจพี่โจบอกว่าคุณหมอคุยสนุกมากเลยครับผม
00:29:51 → 00:29:54 ฟังไปยืมไปตลอดนะฮะพี่ไอ Coffee บอกว่า
00:29:54 → 00:29:56 อ่ะถามมานะบอกว่าคุณหมอเคยอ่านข่าวต้น
00:29:56 → 00:29:59 ชั่วโมงเเ่าใช่ครับใครอ่านใครอ่านสวัสดี
00:29:59 → 00:30:01 ครับติดตามข่าวต้นชั่วโมงจากสำนักข่าวไทย
00:30:01 → 00:30:04 กับทีมภัธนชาวิสิตครับใช่แล้วพี่เวนานะ
00:30:04 → 00:30:07 ครับบอกว่าอ่านใจกันเก่งจังวันนี้เออวัน
00:30:07 → 00:30:09 นี้วันนี้เราเใจกันถูกเราไม่มีโพยนะฮะราย
00:30:09 → 00:30:12 การเราเป็นรายการสดรายการเราไม่มีโพยด้วย
00:30:12 → 00:30:15 นะพี่พูนสุขพี่พูนสุขบอกว่านั่นแน่หมอ
00:30:15 → 00:30:17 กล่าวปวดใจเลฟ
00:30:17 → 00:30:21 เลยอ่ะแซวกันพอหอมป่าหอมคอเดี๋ยวจะลืมกัน
00:30:21 → 00:30:25 ว่าเออพี่บอกบอกมาก่อนบอกมาด้วยนะบอกว่า
00:30:25 → 00:30:29 สนใจฟังค่ะอ่าแล้วก็อมีคนหลายคนเป็นมา
00:30:29 → 00:30:32 เป็นแบบเหมือนมาเป็นตั้งใจฟังเลยอ่ะเออ
00:30:32 → 00:30:34 ประหนึ่งว่าเป็นพี่หนุ่มเลยนะวันเนี้ยมี
00:30:34 → 00:30:39 ลูกศิษย์เข้ามาก็แสลฮะอ่ะเคสที่ 2 หมอพ
00:30:39 → 00:30:42 เคสที่ 2 ครับเป็นคนไข้ที่เค้ารู้สึกว่า
00:30:43 → 00:30:45 เฮ้ยชีวิตนี้เต้องไม่เจ็บป่วยเต้องแข็ง
00:30:45 → 00:30:49 แรงครับ่ะก็แล้วแต่คอนเซปแต่ละคนนะฮะซึ่ง
00:30:49 → 00:30:52 สุดท้ายแล้วที่บอกว่าที่พี่ยกถามว่าทนไป
00:30:52 → 00:30:54 เรื่อยๆแล้วจะเป็นอย่างไรสุดท้ายคือทนไม่
00:30:54 → 00:30:57 ไหวเนไม่ไหวจริงๆใช่มั้ยคนไข้อาจจะไม่ได้
00:30:57 → 00:31:02 มาจุดนั้นอาจจะเป็นญาติหามคุณมาอ๋อเดินมา
00:31:02 → 00:31:05 เไม่ไหวละหคุณผมผมมีเคสเล่าให้ฟัง 2 เคส
00:31:05 → 00:31:08 แล้วกันครับเคสแรกนะฮะอ่าเฉลยไว้ก่อนเลย
00:31:08 → 00:31:12 ว่าทั้ง 2 เคสเนี่ยเป็นเคสที่ติดเชื้อเ่อ
00:31:12 → 00:31:15 เชื้อราที่มาจากนกพิราบอืครับคนนึงเป็นคน
00:31:15 → 00:31:20 ที่เป็น HIV อีกคนนึงไม่เป็น HIV อซึ่งคน
00:31:20 → 00:31:22 ที่ไม่เป็น HIV ผมต้องเรียนทุกท่านก่อนนะ
00:31:22 → 00:31:26 ครับว่าเป็น rare ไอเทมหรือเป็นของหายาก
00:31:26 → 00:31:32 มากๆมามากๆอืตั้งแต่จบหมอมาโอ๊ยเดี๋ยวพูด
00:31:32 → 00:31:34 ถึงอายุอีกแล้วเออไม่เป็นไรหมอยจบหมอมา
00:31:34 → 00:31:37 ตั้งแต่ปี 2555 อ่าจบเฉพาะทางมาตั้งแต่ปี
00:31:37 → 00:31:42 2561 ครับเจอเคสที่ติดเชื้อราอันนี้แลคน
00:31:42 → 00:31:45 ที่ไม่ได้เป็น HIV ครับ 2 เคสเองครับอื
00:31:45 → 00:31:47 แต่คนที่เป็น HIV ผมไม่ได้นับแล้วมันเยอะ
00:31:47 → 00:31:51 มากอ่าเยอะมากแต่ว่าคนที่ไม่เป็น HIV แล
00:31:51 → 00:31:53 ติชเนี่ยชีวิตนี้เคยเจอแค่ 2 เคสครับนะ
00:31:53 → 00:31:56 ครับซึ่งถือว่าเป็นไปได้มั้ยเป็นไปได้แต่
00:31:56 → 00:31:59 ว่าค่อนข้างจะแรเนาะอ่ะกลับมาฮะเคสแรก
00:31:59 → 00:32:02 เป็นเคสที่เป็น HIV ครับทนเอาทนเพราะว่า
00:32:02 → 00:32:05 แบบอือไม่อยากไปหาหมออ่ะครับหรือหรือเหตุ
00:32:05 → 00:32:11 ผลอะไรก็ตามสุดท้ายปวดหัวมากอืคนไข้ชักอื
00:32:11 → 00:32:14 ถึงขั้นชักถึงจุดที่ชักเนี่ยก็ต้องก็ต้อง
00:32:14 → 00:32:17 หมันก็ต้องมาหาหมอแล้วละหามส่งแล้วแหลห
00:32:17 → 00:32:20 หามเออไม่ใช่หามฮะหามขอบคุณขอบคุณพี่ขวัญ
00:32:20 → 00:32:23 ฮะหามกันมาส่งโรงพยาบาลขออภัยวันนี้วัน
00:32:23 → 00:32:25 นี้ตื่นเช้าวันนี้เคสคนข้างเยอะมากเริ่ม
00:32:25 → 00:32:28 เริ่มเครื่องลวนละหามกันมาโรงพยาบาลฮะก็
00:32:28 → 00:32:31 หามาโรงพยาบาลด้วยอาการชักก็ต้องสแกนสมอง
00:32:31 → 00:32:36 สแกนสมองก็พบว่าออเอ่อน้ำในสมองมันคั่ง
00:32:36 → 00:32:39 เยอะมากคั่งมันเยอะมากจนเนื้อสมองโดน
00:32:39 → 00:32:41 เบียดจนเนื้อสมองมันยู่ออกไปอ่ะครับก็จะ
00:32:41 → 00:32:44 ทำการ admit แล้วก็เจาะน้ำไข่สายหลังปกติ
00:32:44 → 00:32:46 เจาะน้ำไข่สายหลังเนี่ยเพชเชอร์หรือว่า
00:32:46 → 00:32:48 แรงดันเวลาเจาะอ่ะนะครับหมอสมองจะทำการ
00:32:48 → 00:32:51 วัดแรงดันในในระบบของน้ำในไข่สายหลัง
00:32:51 → 00:32:56 เนี่ยมันคงอยู่ประมาณซัก 10 ซมอื 10 ซม
00:32:56 → 00:32:59 น้ำต้นๆเอ่อมันเป็นหน่วยนะครับเอาเอาเอา
00:32:59 → 00:33:01 คิดประมาณว่าวัดแล้วมันได้หน่วยประมาณ 10
00:33:02 → 00:33:06 ซมนะอ่า 10 นิดๆ 10 10 10-1 16 ประมาณ
00:33:06 → 00:33:08 นี้คือปกติครับคน
00:33:08 → 00:33:14 เนี้ยสูงจนถึง 60 อ่ะโอห 6 เท่าโใช่สูง
00:33:14 → 00:33:16 คืออุปกรณ์อุปกรณ์ในการวัดอ่ะครับมันจะ
00:33:17 → 00:33:20 ใช้แท่งแก้วแท่งแก้วซึ่งมันจะมีขีดเหมือน
00:33:20 → 00:33:22 เป็นไม้บรรทัดอ่ะนะครับเป็นเหมือนเป็น
00:33:22 → 00:33:24 เหมือนไม้บรรทัดที่มีท่อเล็กๆอยู่ข้างใน
00:33:24 → 00:33:27 เอาววัตเพชเชอร์ครับผมก็เสียบเลยอันแรก 3
00:33:27 → 00:33:31 30 ซมปึ๊บผมดูทรงละแค่จังหวะเสียบเข็ม
00:33:31 → 00:33:33 แล้วน้ำมันพุ่งอ่ะด้วยความที่ทำบ่อยอ่ะ
00:33:33 → 00:33:36 เห็นแค่น้ำพุ่งก็รู้แล้วว่าโอ้เพชเชอร์
00:33:36 → 00:33:40 สูงแน่นอนอืเอาเอาแท่งแก้วที่ 1 ใส่แท่ง
00:33:40 → 00:33:43 แก้วแท่งนึงมันจะสูง 30 ซมนะฮะผมก็เอื้อ
00:33:43 → 00:33:47 มือหยิบอันที่ 2 สแตนบายเลยครับเสียบทะลุ
00:33:47 → 00:33:50 60 ซมอ่ะโอ้โหครึ่งแบบโอหคนไข้ผมทนได้
00:33:50 → 00:33:54 ยังไงวะเออแล้วเวลาเวลาเรารีสหรือว่าลดลด
00:33:54 → 00:33:57 แรงดันในสมองอครับผมไม่สามารถลดทีเดียว
00:33:57 → 00:34:00 ให้เอยู่สู่ในเกณฑปกติได้ค่อยๆต้องค่อยๆ
00:34:00 → 00:34:01 ลดไม่งั้นเดี๋ยวสมองเ้ามีปัญหาเพราะ
00:34:02 → 00:34:04 ฉะนั้นผมลดลงมาในระดับนึงซึ่งไม่สามารถลด
00:34:05 → 00:34:08 ลงมาเยอะได้อยากลดอีกก็ต้องพอก็ต้องหยุด
00:34:08 → 00:34:12 ถอนเข็มออกพวกนี้เจาะใหม่อืวันรุ่งขึ้น
00:34:12 → 00:34:15 เจาะมาแรงดันจาก 60 60 เท่าไหร่ไม่รู้นะ
00:34:15 → 00:34:17 เพราะว่ามันทะลุชาร์จไปแล้วอ่ะอยู่ที่
00:34:17 → 00:34:20 ประมาณ 40 ปลาย 48 49 ประมาณเนี้ยแล้ว
00:34:20 → 00:34:23 ต้องค่อยๆลดทีละน้อยทีละน้อยคนไข้ผมถึง
00:34:23 → 00:34:27 ค่อยๆแบบฟื้นคืนสติขึ้นมาได้คือเทุคนจนเ
00:34:27 → 00:34:30 เบลอเบลอจนเขาชักโอโหชักเก็เลยพามาลง
00:34:31 → 00:34:34 พยาบาลฮะฮะนี่คือเคสที่ 1 นะฮะการรักษา
00:34:34 → 00:34:36 ของเคสที่ 1 ก็คือโอเคเค้าเป็น H ก็ต้อง
00:34:36 → 00:34:39 ไปคอนโทรล HIV ด้วยแล้วก็ให้ยาฆ่าเชรา
00:34:39 → 00:34:42 ระยะเวลา 4 อาทิตย์ 6 อาทิตย์อืนอนโรง
00:34:42 → 00:34:45 พยาบาลเป็นเดือนนอนนนอนเป็นเดือนนะฮะนอน
00:34:45 → 00:34:48 เป็นเดือนนะฮะนอนจนแบบเป็นเจ้าของอวอร์ด
00:34:48 → 00:34:51 ไปแล้วอ่ะคือนอนนานไปเลยอ่ะครับๆเออส่วน
00:34:51 → 00:34:53 อีเคสนึงครับอีกเคสนึงเป็นเคสที่น่าสนใจ
00:34:53 → 00:34:56 คือเป็นเคสที่ไม่ใช่ HIV แล้วก็ติดเชื้อด
00:34:56 → 00:34:59 ตัวคริปโตชราที่มาจากมูลรกพิราบอนะครับออ
00:35:00 → 00:35:04 ค่ะมาหาผมด้วยเรื่องของสมองเบลอคือความจำ
00:35:04 → 00:35:07 ผิดปกติเนี่ก่อนที่จะชักนะเบลอก่อนคนนี้
00:35:07 → 00:35:09 ไม่ชักไม่ชักนะคนนี้ไม่ชักมาด้วยแบบว่า
00:35:09 → 00:35:14 คิดช้าพูดช้าความจำถดถอยลงออืผมก็ส่งสแกน
00:35:14 → 00:35:18 สมองอครับมันไม่มีอะไรอือไม่ไม่ไม่ไม่มี
00:35:18 → 00:35:22 อะไรดูดูมีสมองเหี่ยวนิดหน่อยตามวัยครับ
00:35:22 → 00:35:24 แต่สิ่งที่ผมเอ๊ะก็คือว่าโอเคถ้าเกิดโรค
00:35:24 → 00:35:26 เกิดขึ้นตามวัยจากในวัยที่มันสูงอายุอ่ะ
00:35:26 → 00:35:29 ครับครับการดำเนินของโรคควรเป็นหลักหลาย
00:35:29 → 00:35:31 เดือนหรือหลักเป็นปีเช่นในกลุ่มของความจำ
00:35:31 → 00:35:33 เสริมจากอัลไซเมอร์อะไรแบบนี้เป็นต้นน่ะ
00:35:33 → 00:35:36 นะครับแต่กลุ่มแต่ของคนเนี้ยความจำแย่ลง
00:35:36 → 00:35:39 ในช่วงหลักระยะเวลาแค่ 1-2 เดือนอืมัน
00:35:39 → 00:35:41 เร็วเกินไปอยู่อยู่ในช่วงระหว่าง on
00:35:41 → 00:35:44 process อยู่ on process ในการตรวจหา
00:35:44 → 00:35:46 อยู่อผมก็ตรวจวินิจฉัยให้ยานัดติดตาม
00:35:46 → 00:35:49 อาการยังไม่ทันนัดติดตามอาการน่ะเผอิญญ่า
00:35:50 → 00:35:52 เรู้สึกไม่ค่อยสบายใจก็เลยไปหาคุณหมออีก
00:35:52 → 00:35:54 คนนึงเพลินเป็นเพื่อนกันนะฮะแล้วก็ก็เลย
00:35:55 → 00:35:58 ได้ได้คุยเคสกันอ๋อโอเคไปไปหายูเหรอเออ
00:35:58 → 00:36:00 จัดการต่อเลยซึ่งเดี๋ยวผมอ่ะจะมีนัด
00:36:00 → 00:36:02 Follow up อืซึ่งวันที่นั Follow up
00:36:02 → 00:36:04 อ่ะคือวันนี้อ๋อแต่เหตุการณ์ที่จะเล่า
00:36:04 → 00:36:06 เนี่ยคือเกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วหมอ
00:36:06 → 00:36:08 คนนี้ก็เลยโอเคงั้นขออนุญาตตัวชุดใหญ่นะ
00:36:08 → 00:36:11 สแกนสมองใหม่สแกนสมองใหม่แล้วก็แพลนว่าจะ
00:36:11 → 00:36:14 เจาะหลังเผอิญผมลสแกนสมองอ่ะที่เห็นน่ะ
00:36:14 → 00:36:16 กับวันที่ผมสแกนน่ะผมสแกนสมองไม่เหมือน
00:36:16 → 00:36:20 กันอ๋อคือสมองมันมีมันมีเพชเชอร์หรือมัน
00:36:20 → 00:36:23 มีน้ำคั่งเยอะขึ้นครับซึ่งมันแตกต่างจาก
00:36:23 → 00:36:27 ผลของที่ผมสแกนครั้งแรกอ่ะชัดเจนอืซึ่ง
00:36:27 → 00:36:30 ซึ่งเขาก็เลยเจาะหลังครับแล้วก็ตรวจเจอ
00:36:30 → 00:36:33 เชื้อราตัวนี้ออเชื้อราตัวนี้ทำให้มันมี
00:36:33 → 00:36:36 น้ำข้างในโพงสมองทำให้สมองมีการติดเชื้อ
00:36:36 → 00:36:39 ทำให้สมองมันคิดช้าพูดช้าลงหรือขออภัยขอ
00:36:39 → 00:36:42 อนุญาตใช้คำที่ไม่สุภาพนะฮะแต่ว่าเข้าใจ
00:36:42 → 00:36:45 ง่ายคือรู้สึกว่าคนไข้เองรู้สึกหรือย่า
00:36:45 → 00:36:48 รู้สึกว่าคนไข้โง่ลงอืใช้ขออนุญาตใช้คำ
00:36:48 → 00:36:51 นี้มันมันรู้สึกมันแย่ลงทุกมิติเลยอ่ะ
00:36:51 → 00:36:53 ทำไมไม่รู้จักอันนี้ให้ไปทำอันนู้นทำไมทำ
00:36:53 → 00:36:56 ไม่ได้ใช่ลำดับความคิดหรือการตัดสินใจมัน
00:36:56 → 00:36:59 เสียไปหมดเลยอฮการคิดหรือตรรกะมันเสียไป
00:36:59 → 00:37:03 หมดเลยครับทำงานไม่ได้ทำงานแล้วผิดพลาด
00:37:03 → 00:37:06 เออก็เลยรู้สึกว่าเอออยู่ในระหว่างขั้น
00:37:06 → 00:37:09 ตอนร้อนใจก็เลยหาคุณหมออีกคนนึงเพิ้นหมอ 2
00:37:09 → 00:37:11 คนรู้จักกันก็เลยได้คุยเคสกันแล้วก็จบปิด
00:37:11 → 00:37:14 เคสได้ตอนนี้ก็แอดมิให้ยาไปนะครับก็หวัง
00:37:14 → 00:37:19 ว่าจะดีขึ้นนะฮะอเออมีมีอีกอันนึงเป็น
00:37:19 → 00:37:22 เป็นเกร็ดความรู้แล้วกันครับเอ่อเมื่อไม่
00:37:22 → 00:37:25 นานมานี้อาจจะสักประมาณปีนึงมั้ฮะมีคน
00:37:25 → 00:37:28 แชร์ครับอันนี้จหัวก่อนเลย
00:37:28 → 00:37:32 เลยเอ่อแแต่แหมจะจะจะเล่นจะเล่นนิดหน่อย
00:37:33 → 00:37:36 แต่ว่าหมดแรงอ่าเดี๋ยวขอขอนึกก่อนเงงอ่ะ
00:37:36 → 00:37:39 ว่าทำไมหหมอพิมพชอฟเกิดอะไรขึ้นหมอช็อฟิว
00:37:39 → 00:37:44 โอเคอ่ะ 5 4 3 2 1 ผู้รู้เตือนแอร์
00:37:44 → 00:37:47 อยู่เหนือหัวเสี่ยงเชื้อราในสมองและเนื้อ
00:37:47 → 00:37:51 งอกในสมองเออเออๆแนะนำกลับไปดูที่บ้านเคย
00:37:51 → 00:37:54 ได้ยินอยู่ติดตามในช่วงต่อไปครับอ้าไม่
00:37:54 → 00:37:57 ใช่คืออย่างงี้ฮะมันมีเฟกนิวออกมาว่าการ
00:37:57 → 00:37:59 การที่เราติดแอร์ไว้อยู่เหนือหัวเตียง
00:37:59 → 00:38:01 หรือแอร์อยู่เหนือหัวเตียงเนี่ยมันมี
00:38:01 → 00:38:04 โอกาสที่จะมีเชื้อราในสมองเกิดขึ้นหรือ
00:38:04 → 00:38:07 ว่ามีโอกาสที่จะเกิดเนื้องอกในสมองนะครับ
00:38:07 → 00:38:09 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันประสาวิทยา
00:38:09 → 00:38:12 กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการมี
00:38:12 → 00:38:15 งานด้วยมาแนะนำแล้วนะฮะมีเป็นก็คือเป็น
00:38:15 → 00:38:17 อาจารย์ผมนแหละมาแนะนำว่าโอเคสิ่งเหล่า
00:38:17 → 00:38:20 นี้มันมันไม่จริงนะครับการที่นอนใต้แอร์
00:38:21 → 00:38:23 มันไม่ได้ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยที่จะทำให้
00:38:23 → 00:38:26 เกิดเ่อเชื้อราคือเชื้อรามันอยู่ในทั่วๆ
00:38:26 → 00:38:29 ไปอยู่แล้วครับไม่ว่าจะเป็นในห้องในห้อง
00:38:29 → 00:38:32 แอร์ในสถานที่ทำงานแต่อาจจะมีเยอะหน่อยใน
00:38:32 → 00:38:34 สถานที่ที่มันชื้นนะฮะถ้าเกิดคุณเปิดแอร์
00:38:34 → 00:38:37 จนมันชื้นโอกาสที่จะเกิดเชรามันก็มีแต่
00:38:37 → 00:38:40 มันก็ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงขนาดนั้นที่
00:38:40 → 00:38:43 นอนใต้แอร์แล้วหัวเอ่อแอร์อยู่บนหัวเตียง
00:38:43 → 00:38:46 เนี่ยจะทำให้เกิดเชื้อราได้นะครับความ
00:38:46 → 00:38:48 เสี่ยงจะมาจากไหนบ้างการที่มีดินอยู่ใน
00:38:48 → 00:38:52 ห้องดินปลูกต้นไมปลูกต้นไม้มันมีความชื้น
00:38:52 → 00:38:55 ตนต้นไม้นะฮะปวกปวกปลวกด้วยเหรอโมีปลวก
00:38:55 → 00:38:59 เหรอปลวกผมเคยเจอะอ๋อปลวกมันต้องอาศัย
00:38:59 → 00:39:01 ความชื้นอ่าโอเคโอเคอ่ะพี่โยผมผมกำลัง
00:39:01 → 00:39:04 พยายามเชื่อมโยงคนที่มีสัตว์เลี้ยงในห้อง
00:39:04 → 00:39:07 อสัตวเลี้ยงมีน้ำวางหรืออะไรพวกเนะครับก็
00:39:07 → 00:39:09 มีความเสี่ยงนะฮะซึ่งอันนั้นมันก็เสี่ยง
00:39:09 → 00:39:11 อยู่แล้วอ่ะซึ่งไม่เกี่ยวกับแอร์เพราะ
00:39:11 → 00:39:14 ฉะนั้นแอร์จะอยู่ตรงไหนก็ไม่เกี่ยวกับ
00:39:14 → 00:39:17 แอร์นะครับเพราใช้ชีวิตได้ตามปกตินะครับอ
00:39:17 → 00:39:20 นึกถึงอันนึงค่ะหมอพิมพที่มันจะมีเครื่อง
00:39:20 → 00:39:23 คล้ายๆแบบพ่นไอน้ำหรืออะไรสักอย่างอัน
00:39:23 → 00:39:24 นั้นมี
00:39:24 → 00:39:26 ส่ผมผมมองว่าอันนั้นน่าจะเป็นเครื่องที่
00:39:26 → 00:39:29 คอนโทรลได้ด้วยด้วยความเหมาะสมครับความ
00:39:29 → 00:39:31 ชื้นที่ค่อนข้างจะเหมาะสมแล้วก็เราไม่ได้
00:39:31 → 00:39:34 เปิดตลอดไงเราเปิดๆปิดๆนะครับแต่ถ้าเกิด
00:39:34 → 00:39:38 ว่ามันเป็นน้ำจการรดน้ำหรือมันมีวัสดุที่
00:39:38 → 00:39:41 มันอุ้มน้ำตลอดเวลาเช่นเช่นดินอย่างเงี้
00:39:41 → 00:39:43 ฮะดินในห้องนอนอันนี้อาจจะมีความเสี่ยง
00:39:43 → 00:39:46 ขณะเดียวกันชืรามันก็โตได้ดีในดินเหมือน
00:39:46 → 00:39:51 กันนะครับอืครับอืเวลาเราเหลือไม่เยอะอ่ะ
00:39:51 → 00:39:54 เราขมวดปมกันหน่อยดีมยการที่คนๆนึงจะมี
00:39:54 → 00:39:56 ความเสี่ยงในการติดเชื้อรานะครับไม่ว่าจะ
00:39:56 → 00:39:59 เป็นโอผมลืมพูดอันนึงเชื้อราเชื้อราส่วน
00:39:59 → 00:40:02 ใหญ่มักจะเข้าทางเดินหายใจอืใช่ทางเดิน
00:40:02 → 00:40:05 หายใจเองเนี่ยก็มีป้อมปรากาหรือว่ามีด่าน
00:40:05 → 00:40:08 ต่างๆกว่าเชื้อราจะเข้าไปสู่ปอดและเข้าไป
00:40:08 → 00:40:11 สู่กระแสเลือดได้นะครับอย่างแรกเลย 1 ขน
00:40:11 → 00:40:14 จมูกถูกต้องขนจมูกช่วยการกรองอยู่แล้วนะ
00:40:14 → 00:40:17 ครับกรองเชื้อราอยู่แล้วแม้ว่าอุ๊ยเชื้อ
00:40:17 → 00:40:18 ราเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแต่ขนจมูกเรามอง
00:40:19 → 00:40:20 เห็นได้แล้วมันจะกรองได้หรอมันกรองได้
00:40:20 → 00:40:23 ครับมันมีความยุบยับนะมีความยุบยับมีความ
00:40:24 → 00:40:26 เมือกด้วยอ่ะเมือกมาจากไหนเมือกก็มันคือ
00:40:26 → 00:40:30 ต่อมที่ที่สร้างขี้มูกเรานะสร้างขี้มูกนะ
00:40:30 → 00:40:33 ครับถัดมามีโพงไซนัสถ้ามันติดเชื้อบางที
00:40:33 → 00:40:36 มันก็ติดเชื้อในโพรงไซนัสก่อนนะครับพงชนั
00:40:36 → 00:40:39 ทำหน้าที่ในการทำให้เสียงเราก้องกาวานทำ
00:40:39 → 00:40:43 ให้ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมต่อการหายใจของ
00:40:43 → 00:40:46 ปอดนะครับแล้วก็ช่วยกรองเชื้อโรคด้วย
00:40:46 → 00:40:49 เพราะว่าผนังของพงชนัสเนี่ยมันจะมีเยื่อ
00:40:49 → 00:40:53 บุพร้อมกับขนอันเล็กๆขนแบบเหมือนพรมัน
00:40:53 → 00:40:55 เล็กๆเลยซึ่งเรามองไม่เห็นน่ะมันทำให้ใน
00:40:55 → 00:40:58 การดักจับเชื้อโรคนะครับลงมาอีกเรามีหลอด
00:40:58 → 00:41:03 ลมหลอดลมก็จะมีเซลล์ที่มีขนเล็กๆในการพัด
00:41:03 → 00:41:06 โบกพัดโบกเอาสิ่งแปลกปลอมหรือว่าเชื้อโรค
00:41:06 → 00:41:09 ต่างๆเนี่ยขึ้นมาอืขึ้นพัดขึ้นพัดขึ้นออก
00:41:09 → 00:41:11 มาเป็นอะไรเป็นเสมหะนะครับมีต่อมที่สร้าง
00:41:11 → 00:41:15 เมือกออกมาเป็นเสมหะแล้วก็มีเอ่อลงไปถึง
00:41:15 → 00:41:18 หลอดลมถึงปอดที่จะมีเซลล์ไม้เลิศขาวมาใน
00:41:18 → 00:41:22 การเก็บกินเชื้อโรคสมมุติว่าเชื้อราหรือ
00:41:22 → 00:41:25 ว่าสปอของเชื้อรานะมันทะลุทุกด่านจนเข้า
00:41:25 → 00:41:27 ตกไปถึงที่ปอดฮะฮะภายในระยะ
00:41:27 → 00:41:31 ช8ชมเชื้อโเชื้อโรกเหล่านั้นจะถูกเมเลขาว
00:41:31 → 00:41:34 มาจัดการครับถูกรปพถูกทหารที่อยู่ในร่าง
00:41:34 → 00:41:37 กายของเราเนี่ยมาจัดการไปเกือบหมดแล้วฮะ
00:41:37 → 00:41:41 เพราะฉะนั้นมันโอกาสยากมากอนะฮะยกเว้นเรา
00:41:41 → 00:41:44 ไปเพิ่มอันนี้มามาถึงช่วงที่ขมดแล้วนะฮะ
00:41:44 → 00:41:47 เราไปเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อเช่นตัวเรา
00:41:47 → 00:41:50 ไม่แข็งแรงนะฮะมีรอยโลคที่ปอดมีรอยโรกที่
00:41:50 → 00:41:54 สมองนะครับมีไปทำอะไรกับระบบทางเดินหายใจ
00:41:54 → 00:41:56 เช่นสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นต้นนะ
00:41:56 → 00:42:00 ครับอค่ะเป็นคนที่เป็นภูมิแพ้บ่อยๆไซนัส
00:42:00 → 00:42:02 อักเสบบ่อยๆเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันบก
00:42:02 → 00:42:06 พร่องนะฮะจาก HIV จากการกินยากดภูมิจาก
00:42:06 → 00:42:10 การเป็น sle ภูมิแพ้ภูมิแพ้แพ้ภูมิตัวเอง
00:42:10 → 00:42:13 จากกินสเตรอยด์จากกินยากดภูมิจากการเป็น
00:42:13 → 00:42:16 คนไข้มะเร็งได้เคมีบำบัดนะครับก็ต้องคน
00:42:16 → 00:42:19 ไข้เหล่านี้ต้องพยายามโทคตัวเองเยอะๆเช่น
00:42:19 → 00:42:22 สวมแสและสำคัญเลยคือไม่พาตัวเองไปในที่
00:42:22 → 00:42:26 เสี่ยงเช่นที่ที่มีนกพิราบเยอะอ่าที่ที่
00:42:26 → 00:42:31 มีนมีดินชื้นแฉะในป่าในถ้ำในถ้ำนี่คือตัว
00:42:31 → 00:42:34 ดีเลยนะฮะโดยเฉพาะถ้ำที่มีค้างขาวอยู่นะ
00:42:34 → 00:42:37 ครับอันนี้ก็เป็นความเสี่ยงที่จะพยายาม
00:42:37 → 00:42:40 หลีกเลี่ยงสถานที่หรือว่า environment
00:42:40 → 00:42:43 หรือว่าสิ่งแวดล้อมที่จะพาตัวเองไปอยู่ใน
00:42:43 → 00:42:46 จุดเสี่ยงตรงนั้นได้ไม่จมน้ำด้วยเออเล่น
00:42:46 → 00:42:48 สงกรานต์อย่าฉีดน้ำเข้าหน้าอย่าฉีดน้ำ
00:42:48 → 00:42:50 เข้าจมูกกันเอผู้ผู้สื่อข่าวนี่โดนประจำ
00:42:50 → 00:42:53 ฉีดน้ำเข้าหน้าเโอ๊ๆจริงฮะฉีน้ำค้าหน้า
00:42:53 → 00:42:55 นี่มันเป็นมันเป็นกิมิเลยนะงานสงกรานต์
00:42:55 → 00:42:59 เนี่ยผมจำได้เลยโอหไม่รู้จะเออเป็นเป็น
00:42:59 → 00:43:02 ฉีดน้ำเข้าหน้าบ้างฉีดน้ำเข้าหูเนี่ยเอฉด
00:43:02 → 00:43:04 น้ำเข้าหูเป็นความท้าทายความแม่นฉีดน้ำ
00:43:04 → 00:43:08 เข้าไมคออันนี้ขออนุญาตขออนุญาตเอ่อฟ
00:43:08 → 00:43:11 ฟีดแบคส่วนตัวในฐานะเอ่อคนในวงการข่าวมา
00:43:11 → 00:43:14 ก่อนนะฮะเพราะฉะนั้นหมอพิมก็เคยรายงานก่า
00:43:14 → 00:43:17 สงกรานต์ผมจำได้ผมเคยเหรอเคยเหรอเคยมันๆ
00:43:18 → 00:43:21 มันมันคจำไม่ค่อยลืมแล้วนะอือฉีน้ำเข้าหู
00:43:21 → 00:43:23 เนี่ยเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าฉีดดังเข้าหน้า
00:43:23 → 00:43:28 อีกเออเอออ่ะถ้าถ้าเป็นแล้วแล้วหมอพีมคุณ
00:43:28 → 00:43:30 ผู้ฟังถามมาเพิ่มเติมเป็นแล้วมันจะหายได้
00:43:30 → 00:43:33 มั้ยเป็นแล้วหายได้มหายได้ครับหายได้แต่
00:43:33 → 00:43:36 ต้องมีการรักษาที่ที่เอ่อหนักหน่วงแล้วก็
00:43:36 → 00:43:39 ต่อเนื่องนะครับต้องทุ่มเทกับการรักษา
00:43:39 → 00:43:42 แล้วก็เอ่อมีวินัยในการกินยาในการรักษา
00:43:42 → 00:43:46 ด้วยนะครับในกลุ่มที่ไปถึงขั้นเนื้อสมอง
00:43:46 → 00:43:48 อักเสบแล้วก็เป็นฝีต้องได้รับการผ่าตัด
00:43:48 → 00:43:52 ครับค่ะผ่าตัดเท่านั้นเพื่อเอาฟีออกค่ะ
00:43:52 → 00:43:54 เหมือนอย่างหมอพีมบอกว่ารักษาชาวฮ่องกง
00:43:54 → 00:43:57 เนี่ยเดี๋ยวเอ่อวันพรุ่งนี้ใช่มยที่เจะ
00:43:57 → 00:44:00 ครบ 14 วันแล้วอ่ะค่ะครับๆค่ะแล้วพอเค้า
00:44:00 → 00:44:02 กลับไปประเทศของเค้าไปเมืองเอ่อไปบ้านเ
00:44:02 → 00:44:05 เนี่ยเต้องมีการติดตามหรือโอะไรอีกมั้ย
00:44:06 → 00:44:08 โดยเฉพาะคนที่เ่าอาจจะเป็นเชื้อราในสมอง
00:44:08 → 00:44:11 คนอื่นๆด้วยนะว่าเอ่อหลังจากรักษาหายแล้ว
00:44:11 → 00:44:14 ต้องติดตามเผมเป็นเคสของผมเป็นชาวฮ่องกง
00:44:14 → 00:44:16 ซึ่งคนนี้เคติดเชื้อแบคทีเรียฮะเพราะ
00:44:16 → 00:44:18 ฉะนั้นอันเนี้ยมันค่อนข้างจะง่ายมันจะจบ
00:44:18 → 00:44:21 ภายใน 2 2-3 อาทิตย์เลยแต่เชื้อรายเนี่ย
00:44:21 → 00:44:23 กินระยะเวลาเป็นหลักเดือนนะครับอออย่าง
00:44:23 → 00:44:25 ที่บอกเป็นหลักเดือนเออสมมุติว่าเวลาเรา
00:44:25 → 00:44:27 ตรวจเชื้อราเนี่ยเราตรวจได้หลายแบบมีตั้ง
00:44:28 → 00:44:30 แต่เอ่อเอาน้ำไข่สายหลังไปตรวจไปย้อม
00:44:30 → 00:44:34 พิเศษเพื่อที่จะหาหาตัวเชื้อรานะครับบาง
00:44:34 → 00:44:37 ครั้งการเจอเชื้อราเนี่ยก็อาจจะเจอเชื้อ
00:44:37 → 00:44:40 ราที่ยังแคทีอยู่หรืออาจจะเจอซากศพเชื้อ
00:44:40 → 00:44:43 ราได้ซากศพเชื้อราแม้ว่าเราจะให้ยาครบไป
00:44:43 → 00:44:45 แล้วเออฟิลเหมือนกับคนที่เป็นวัณโรคเลย
00:44:46 → 00:44:48 ครับวัณโรควัณโรคนี้เป็นเชื้อเชื้อชเชื้อ
00:44:48 → 00:44:50 ไมโคแบคทีเรียมหรือเป็นเชกลุ่มของเชื้อ
00:44:50 → 00:44:53 วัณโรคอนะครับก็จะมีคอนเซปว่าการกินยา
00:44:53 → 00:44:55 วรรณโรคขออนุญาตออกนอกประเด็นนิดนึงการ
00:44:55 → 00:44:58 กินยาวรรณโรคกินกินยา 2 อาทิตย์เชื้อตาย
00:44:59 → 00:45:02 อืแต่กว่าเชื้อมันจะหายหรือซากศพเชื้อมัน
00:45:02 → 00:45:05 จะหายใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนเพราะ
00:45:05 → 00:45:07 ฉะนั้นคนที่ได้รับการวินิจฉัยวัณโรคราย
00:45:07 → 00:45:10 ใหม่ต้อง isolate ตัวเองหรือกักตัวเอง
00:45:10 → 00:45:11 อยู่ในสถานที่ที่ไม่ไปยุ่งกับใครและอยู่
00:45:11 → 00:45:15 ในที่ที่อากาศถ่ายเท 2 สัปดาห์กินยาต่อ
00:45:15 → 00:45:17 เนื่องเพื่อให้เชื้อมันตายแต่ถามว่าเอาเส
00:45:17 → 00:45:20 มหะมาตรวจแล้วยังเจอเชื้อมั้ยยังเจอแต่
00:45:20 → 00:45:22 เชื้อตรงนั้นเป็นเชื้อคือซากศพของเชื้อ
00:45:22 → 00:45:25 ที่อยู่ในช่วงที่เราทำการรักษาอสามารถเจอ
00:45:25 → 00:45:28 ซากศพของเชื้อได้ในช่วง 2 เดือนอืแต่ถ้า
00:45:28 → 00:45:30 เกิดว่า 2 เดือนไปแล้วยังเจอซากศพของ
00:45:30 → 00:45:34 เชื้ออยู่แสดงว่าอ๋อเชื้อด้วยาคุณยังเป็น
00:45:34 → 00:45:36 อยู่อ่าเพราะฉะนั้นเชื้อราเชื้อราก็จะ
00:45:36 → 00:45:39 คล้ายๆกันครับในช่วง 2 ในช่วง 2 ในช่วง
00:45:39 → 00:45:42 แรกๆเนี่ยยังยังเจอเชื้อราได้ก็ยังคงให้
00:45:42 → 00:45:45 ยาอย่างหนักหน่วงต่อไปแล้วก็การติดเชื้อ
00:45:45 → 00:45:48 ในระบบที่ติดเชื้อได้ยากเข้าถึงได้ยากคือ
00:45:48 → 00:45:52 หัวใจแล้วก็เชื้อราเนี่ยจะเป็นอวัยวะที่
00:45:52 → 00:45:55 ให้ยาค่อนข้างเอ่อแล้วก็สมองพูดผิดทางหัว
00:45:55 → 00:45:59 ใจและสมองจะเป็นอวัยวะที่ให้ยาค่อนข้างจะ
00:45:59 → 00:46:02 นานกว่าชาวบ้านเขาอืแล้วก็นานมากๆมากๆ
00:46:02 → 00:46:06 ด้วยนะครับอืครับอือค่ะเออมันก็ต้องอดทน
00:46:06 → 00:46:09 ซะหน่อยนะในการรักษาทนอดแล้วอดทนนะฮะใน
00:46:09 → 00:46:12 การรักษานะฮะทนอดด้วยรทนอดด้วยนะฮะอดอดไป
00:46:12 → 00:46:14 ข้างนอกอดใช้ชีวิตปกตินะครับต้องอยู่ใน
00:46:14 → 00:46:18 โรงพยาบาลอครับผมเอ่อคุณผู้ฟังสอบถามมา
00:46:18 → 00:46:22 ครับหมอบีทางเอ่อ Facebook ครับครับใช้ยา
00:46:22 → 00:46:24 พ่นทางจมูกหรือพ่นทางปากที่มีสเตรอยด์
00:46:24 → 00:46:26 แล้วเกิดเชื้อรานในช่องปากจะสามารถทำให้
00:46:26 → 00:46:29 เชื้อเือราขึ้นไปสู่สมองได้หรือเปล่าครับ
00:46:29 → 00:46:31 ส่วนใหญ่ในกลุ่มพวกนี้เนี่ยเราจะรู้กัน
00:46:31 → 00:46:34 ก่อนอืเราจะรู้ก่อนแล้วก็มีการป้องกันที่
00:46:34 → 00:46:36 ดีครับโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างจะได้น้อย
00:46:36 → 00:46:39 เพราะว่าคุณหมอปอดที่ดูแลเรื่องของพวกโรค
00:46:39 → 00:46:43 หอบหืดหรือว่าโรคปอดอุดกลั้นหรือ copd
00:46:43 → 00:46:45 พวกเนี้ยครับหรือว่าโลคขืดพวกเนี้ยอเอ่อ
00:46:45 → 00:46:48 เขาจะให้คำแนะนำหรือคุณเภสัชเองก็ให้คำ
00:46:48 → 00:46:51 แนะนำแล้วก็ติดตามคนไข้ดีนะครับพอเวลามา
00:46:51 → 00:46:54 หาหมออ่ะปากให้หมอดูหน่อยอ่ะดูซิว่ามี
00:46:54 → 00:46:57 เช้อราในปากหรือเปล่าเพะฉะนั้นการพ่นยา
00:46:57 → 00:46:59 หรือว่าสูตรยาพวกนี้เนี่ยอย่าลืมที่จะ
00:46:59 → 00:47:03 ล้างปากด้วยพ่นยาเสร็จล้างปากอ๋อบ้วนปาก
00:47:03 → 00:47:07 บ้วนปากเพื่อให้ยาไม่ไปเกาะค้างอยู่ใน
00:47:07 → 00:47:10 ผนังช่องปากเ้าต้องการให้ยาไปถึงทางเดิน
00:47:10 → 00:47:13 หายใจส่วนล่างก็คือบริเวณพวกหลอดลมฝอยถุง
00:47:13 → 00:47:16 ลมพวกเนี้ยครับอันนี้หายใจฮืดสูดเข้าไป
00:47:16 → 00:47:19 แล้วแต่ผอมันต้องผ่านผ่านปากอ่ะครับพอมัน
00:47:19 → 00:47:22 ผ่านปากปุ๊บแต่เราไม่ต้องการให้ยาเนี่ยไป
00:47:22 → 00:47:25 กดภูมิพุมกันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ปากเรา
00:47:25 → 00:47:29 ทำยังไงเราก็บ้วนปากให้เรียบ
00:47:29 → 00:47:31 ร้อยใช่ครับหลังจากที่เราพ่นยาอันนี้คือ
00:47:31 → 00:47:34 คำแนะนำของคุณเภสัชคำแนะนำอย่าละเลยนะ
00:47:34 → 00:47:37 ครับพอละเลยแล้วคุณจะมีเชื้อราในปากก็
00:47:37 → 00:47:40 ต้องมานั่งอมเชื้อราแล้วเชื้อราที่อมคือ
00:47:40 → 00:47:43 เ่อยแหมพูดไปแล้วเดี๋ยวทุกทุกท่านจะตกอก
00:47:43 → 00:47:49 ตกใจยาที่อมในปากสำหรับ่าเชื้อราคือชนิด
00:47:49 → 00:47:52 เดียวกับที่เหน็บช่องกล้อนนะครับอืกับ
00:47:52 → 00:47:55 เหน็บชืราาในช่องคลอดนะครับออ่าเพราะ
00:47:55 → 00:47:57 ฉะนั้นถ้าไม่อยากอมยาเม็ดที่เหน็บช่อง
00:47:57 → 00:48:00 คลอดก็ต้องบวดปากด้วยนะแต่คงไม่มีใครเอา
00:48:00 → 00:48:04 ไปใช้เหน็บแล้วก็เอามาอมนะไม่ๆๆอ๋อความ
00:48:04 → 00:48:06 หมายของผมคือมันเป็นยาตัวเดียวกันมันเป็น
00:48:06 → 00:48:09 ยาตัวเดียวกันแต่ว่าพูดให้ติดตลกเฉยๆว่า
00:48:09 → 00:48:11 มันเป็นยาเม็ดเดียวกันกับที่ไปเป็นยาเม็ด
00:48:11 → 00:48:14 ที่เป็นชนิดเดียวกันเที่ไปเน็บช่องคลอดนะ
00:48:14 → 00:48:17 ฮะไม่ใช่ไปเน็บแล้วมาอมนะฮไม่ได้นะเออนะ
00:48:17 → 00:48:19 ฮะไม่ใช่นะฮะอ่ะมีอีก 1 เรื่องที่คุณผู้
00:48:19 → 00:48:22 ฟังสอบถามมาหมอพีมทาง Facebook นะครับแฟน
00:48:22 → 00:48:25 เพจ Facebook Facebook นะครับเอ่อเกี่ยว
00:48:25 → 00:48:28 กับคำว่าติดเชื้อในกระแสเลือดครับครับคุณ
00:48:28 → 00:48:31 ผู้ฟังบอกว่ากลัวคำนี้มากเลยใครมีภาวะติด
00:48:31 → 00:48:33 เชื้อพอเข้ากระแสเลือดแล้วเนี่ยต้องเสีย
00:48:33 → 00:48:35 ชีวิตทุกคนเลยหรือเปล่าแอผมรู้นะคุณคิด
00:48:35 → 00:48:38 อะไรอยู่นะฮะเออๆไอ้เชื้อที่ว่าเนี่ยมัน
00:48:38 → 00:48:40 คืออะไรจะใช่ไวรัสจะใช่เชื้อแบคทีเรีย
00:48:40 → 00:48:43 หรือเชื้อราใช่หรือไม่ครับครับบางคนเนี่ย
00:48:43 → 00:48:46 มีฟันผุก็อาจจะเป็นภาวะติดเชื้อในกระแส
00:48:46 → 00:48:50 เลือดนี้ได้เพราะสาเหตุฟันผุหรือเปล่าใช่
00:48:50 → 00:48:51 ครับเป็นไปได้ครับคำว่าติดเชื้อในกระแส
00:48:52 → 00:48:54 เลือดหมายความว่าอ่าเวลาเรามีติดเชื้อสัก
00:48:54 → 00:48:57 ที่นึงเนาะมันเกิดขึ้นเป็นโลคโลคือเฉพาะ
00:48:57 → 00:49:01 ที่เช่นสมมุติผมโดนหมากัดอือ่ะผมมีแผลที่
00:49:01 → 00:49:04 แขนผมเกิดการอักเสบติดเชื้อบริเวณที่แขน
00:49:04 → 00:49:08 นะครับอันนี้จุดนึงครับผมไปเตะผมไปเตะ
00:49:08 → 00:49:10 โต๊ะเล็บเปิดครับแล้วเล็บเป็นหนองเป็น
00:49:10 → 00:49:14 เล็บขบผมมีการติดเชื้อที่เล็บขบนะครับผม
00:49:14 → 00:49:18 อะไรอีกดีอ่ะเอ่ออะไรอ่ะหัวแตกมั้ยอ่าหัว
00:49:18 → 00:49:22 แตกก็ได้อ่ะมีการมีแผลดูแลแผลไม่ดีก็มี
00:49:22 → 00:49:24 การติดเชื้อที่บริเวณหนังศีรษะนะครับแต่
00:49:24 → 00:49:26 ถ้าเกิดเราดูแลไม่ดีไม่ว่าจะติดเชื้อตรง
00:49:26 → 00:49:29 ไหนก็ก็ตามหรือแม้กระทั่งอาหารการกินท้อง
00:49:29 → 00:49:32 เสียนะครับท้องเสียเอ่อติดเชื้อจากทาเดิน
00:49:32 → 00:49:36 อาหารติดเชื้อจากทินหใจอ่าหรือติดเชื้อ
00:49:36 → 00:49:38 ทดินปัสสาวะเป็นต้นเหล่านี้นะครับผลของ
00:49:39 → 00:49:41 การติดเชื้อเหล่านี้เนี่ยถ้าเกิดติดเชื้อ
00:49:41 → 00:49:44 ได้รับการดูแลไม่ทันท่วงที 1 คือไม่ทัน
00:49:44 → 00:49:48 และไม่ดีพอครับเชื้อมันก็เข้าสู่ลุกลาม
00:49:48 → 00:49:50 เข้าสู่กระแสเลือดครับอืพอมันเข้าสู่
00:49:50 → 00:49:52 กระแสเลือดแล้วมันไปที่ไหนบ้างมันไปได้
00:49:52 → 00:49:55 หมดเลยไปได้ทุกที่เวลาเชื้อโรคเข้ามาสู่
00:49:55 → 00:49:57 ในกระแสเลือดนะครับมันจะทำให้เ่อพออาการ
00:49:57 → 00:50:00 หนักขึ้นนะ 1 คือไข้ขึ้นครับ 2 คือระบบ
00:50:01 → 00:50:05 ความดันโลหิตมันตกลงคือสารของการติดเชื้อ
00:50:05 → 00:50:07 หรือสารของการอักเสบอ่ะครับทำให้หลอด
00:50:07 → 00:50:09 เลือดในร่างกายมันขยายตัวพอหลอดเลือดใน
00:50:09 → 00:50:11 ร่างกายขยายตัวปุ๊บเลือดมันก็จะไปกระจาย
00:50:11 → 00:50:14 อยู่ตามที่นู่นที่นี่ทั้งหมดทำให้เลือด
00:50:14 → 00:50:16 ที่อยู่ในศูนย์กลางของร่างกายเนี่ยมันแย่
00:50:16 → 00:50:19 ลงความดันเราตกครับความนันตกแล้วเกิดอะไร
00:50:19 → 00:50:22 ขึ้นเลือดไปหาสมองไม่พอเกิดอาการช็อกได้อ
00:50:22 → 00:50:25 อ่าเช่นแบบเฮ้ยติดเชื้อในกระแสเลือดจน
00:50:25 → 00:50:29 ช็อกอภาษาแพทย์จะมีคำว่า sepsis ก็คือติด
00:50:29 → 00:50:32 เชื้อในกระแสเลือด septic Shock ก็คือ
00:50:32 → 00:50:34 ติดเชื้อในกระแสเลือดจนกระทั่งความดันมัน
00:50:34 → 00:50:37 วิกฤตหรือความดำมันตกลงต่ำกว่า 90 60 อ
00:50:37 → 00:50:41 ครับแบบนี้เป็นต้นนะครับแล้วก็มันก็จะทำ
00:50:41 → 00:50:44 ให้ระบบต่างๆหรือออร์แกนหรืออวยวะต่างๆ
00:50:44 → 00:50:47 มันล้มเหลวครับแล้วก็ตายในที่สุดเพราะ
00:50:47 → 00:50:50 ฉะนั้นการติดเชื้อในกระแสเลือดมันเป็นคำ
00:50:50 → 00:50:52 เริ่มต้นฮะแต่มันถ้าเกิดเราหยุดยั้งมัน
00:50:52 → 00:50:54 ไม่ทันติดเชื้อในกระแสเลือดติดเชื้อใน
00:50:54 → 00:50:57 กระแสเลือดจนความดันตกและทำให้เกิด
00:50:57 → 00:51:00 ออร์แกนเเลียหรือว่าเอ่ออวัยวะต่างๆในท้า
00:51:00 → 00:51:03 กายมันล้มเหลวแล้วก็ทำให้ตุยในที่สุดหรือ
00:51:03 → 00:51:06 ว่าเสียชีวิตนเองครับเช่นเดียวกับคุณผู้
00:51:06 → 00:51:08 ฟังถามมาเพิ่มเติมนะปกติเรากินอาหารเนี่ย
00:51:08 → 00:51:10 มันเข้าไปในกระเพาะกระเพาะจะเป็นตัวการ
00:51:10 → 00:51:12 ไม่ให้เชื้อโรคเข้าร่างกายใช่หรือเปล่า
00:51:12 → 00:51:15 แต่ทำไมมันถึงติดเชื้อในกระแสเลือดจากการ
00:51:15 → 00:51:17 กินอาหารได้อ่าก็เป็นไปได้เช่นเชื้อโรค
00:51:17 → 00:51:19 นั้นมันเป็นเชื้อโรคที่มันแรงมากๆนะครับ
00:51:19 → 00:51:22 หรือว่าอาหารเหล่านั้นเป็นอาหารที่ไม่สุก
00:51:22 → 00:51:24 สดสะอาดเอ่อหรือเป็นอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
00:51:24 → 00:51:27 ซึ่งมันมีเชื้อโรคเยอะไม่ผ่านการไม่ไม่
00:51:27 → 00:51:29 ผ่านความร้อนไม่ผ่านการปรุงอาหารทะเลบาง
00:51:29 → 00:51:32 ทีเรากินหอยนางรมอาหารทะเลบางทีมันก็มี
00:51:32 → 00:51:36 ความสดสดเกินอ่ะสดเกินมันก็ติดเชื้อได้
00:51:36 → 00:51:38 หรืออาหารค้างคืนมีเชื้อแบคทีเรียอยู่พวก
00:51:38 → 00:51:40 นี้เป็นต้นครับสุดท้ายแล้วเชื้อโรคที่
00:51:40 → 00:51:44 เยอะอ่าทานอาหารที่อ่อนแอภูมิภูมิคุกัน
00:51:44 → 00:51:46 ที่อ่อนแอปริมาณชื้อโรคที่เยอะก็ทำให้มัน
00:51:46 → 00:51:51 ทะลุหรือเคทูป้อมประการธรรมดาของเราเข้า
00:51:51 → 00:51:53 ไปได้นั่นเองครับอ่าเป็นทั้งหมดเนี่ย
00:51:53 → 00:51:56 เรียกว่าหมอพิมตอบให้ครบถ้วนกระบวนความฮ
00:51:56 → 00:51:59 โอ้โหใจหายเลยฮะใจหวิวเลยตอนนี้เพราะว่า
00:51:59 → 00:52:02 เวลาหมดลงแล้วนะครับขอบคุณหมอพีมากนะครับ
00:52:02 → 00:52:04 ที่วันนี้มาสลาดเวลามาคุยกับเราถึง
00:52:04 → 00:52:06 สตูดิโอยินดีมากๆครับยินดีมากๆครับขอ
00:52:06 → 00:52:09 อนุญาตส่งท้ายขออนุญาตแนะแนะนำตัวแถนไป
00:52:09 → 00:52:11 เลยผมนายแพทย์พิมพ์นพัฒธนชาวิสิทนะครับ
00:52:11 → 00:52:13 เป็นอายุรแพทย์ระบบประสาทและสมองก็อยู่
00:52:13 → 00:52:16 ที่โรงพยาบาลวิมุตินะฮะอยู่ตรงผลยธินตง
00:52:16 → 00:52:18 สพันควายนี่เองนะครับเจ็บป่วดก็ไปหาหมอ
00:52:18 → 00:52:20 ได้นะครับครับอวันนี้เรา 3 คนแล้วกันนะ
00:52:20 → 00:52:23 ครับลาคุณผู้ฟังไปก่อนนะครับสวัสดีครับ
00:52:23 → 00:52:26 สวัสดีครับ