00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับหลังจากที่ผมเล่าเรื่องเกี่ยว
00:00:03 → 00:00:05 ข้องกับสมองส่วนหน้าหรือ prefrontal
00:00:05 → 00:00:08 cortex ว่ามันมีความสำคัญในการควบคุม
00:00:08 → 00:00:11 อารมณ์เป็นสมองส่วนตรรกะนะครับเป็นสมอง
00:00:11 → 00:00:14 ของผู้ที่เจริญแล้วมีไว้เพื่อควบคุม
00:00:14 → 00:00:17 อารมณ์ให้มันออกมาอย่างเหมาะสมนะครับก็มี
00:00:17 → 00:00:21 คนสงสัยครับว่าเอ๊อย่างี้คนที่เขา้ามี
00:00:21 → 00:00:24 สมองส่วนหน้าที่ทำงานไม่ได้เนี่ยหรือมัน
00:00:24 → 00:00:26 ฝ่อไปหรือมันเจริญมาแล้วไม่โตเต็มที่
00:00:26 → 00:00:29 เนี่ยนะครับมันเป็นเพราะว่าตอนช่วงเด็กๆ
00:00:29 → 00:00:32 เค้าเนี่ยโดนเขย่ามากเกินไปหรือเปล่าจน
00:00:32 → 00:00:34 สมองเขาเสียไปเลยนะครับเพราะว่าไปเคยได้
00:00:34 → 00:00:37 ยินมาจากสักที่นึงนะฮะซึ่งอันนี้เนี่ยมัน
00:00:37 → 00:00:39 เป็นภาวะที่เรียกว่า Shaken Baby
00:00:39 → 00:00:42 Syndrome นะครับผมก็เลยอยากจะหยิบยก
00:00:42 → 00:00:44 เรื่องนี้มาเล่าให้ฟังนะครับว่าการโดน
00:00:44 → 00:00:47 เขย่าตั้งแต่เด็กๆเนี่ยมันไม่ดียังไงแล้ว
00:00:47 → 00:00:50 โตมามันจะมีปัญหาแบบนั้นได้แค่ไหนอย่างไร
00:00:50 → 00:00:52 บ้างนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธนี
00:00:53 → 00:00:54 ธนียวัณเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศ
00:00:54 → 00:00:57 สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย
00:00:57 → 00:01:01 ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับเรื่องราวนะครับก็
00:01:01 → 00:01:03 ต้องบอกว่า Prefrontal Cortex หรือสมอง
00:01:03 → 00:01:05 ส่วนหน้าของเราเนี่ยมันเป็นส่วนที่สำคัญ
00:01:05 → 00:01:08 มากๆในเรื่องของตรรกะการคิดนะครับแล้วก็
00:01:08 → 00:01:12 เอาไว้ใช้ควบคุมทางด้านของอารมณ์ของเรานะ
00:01:12 → 00:01:15 ครับซึ่งแน่นอนครับในสมัยโบราณการดึกดำบร
00:01:15 → 00:01:17 เนี่ยมนุษย์เนี่ยทำทุกอย่างตามอารมณ์ตาม
00:01:17 → 00:01:21 สัญชาตญาณดิบแต่ต่อมาก็มีความเจริญพัฒนา
00:01:21 → 00:01:25 ทางสมองเนี่ยทำให้รู้ว่าถ้าเราสามารถควบ
00:01:25 → 00:01:28 คุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีมันจะสามารถทำให้
00:01:28 → 00:01:30 เราเนี่ยเนี่ยมีประสิทธิภาพสูงขึ้นนะครับ
00:01:30 → 00:01:33 เช่นเราสามารถที่จะทำงานร่วมกับคนอื่นได้
00:01:33 → 00:01:36 ในการล่าสัตว์นะครับหรือในการเพาะปลูก
00:01:36 → 00:01:40 ต่างๆพวกนี้ก็จำเป็นจะต้องใช้เหตุผลและ
00:01:40 → 00:01:43 ตรรกะสูงกว่าอารมณ์นะครับไม่ใช่ว่าโอ๊ย
00:01:43 → 00:01:45 เราปลูกผักไปแป๊บเดียวเหนื่อยร้อนไม่ทำ
00:01:45 → 00:01:49 แล้วนะครับทำตามอารมณ์มันก็พังนะครับแน่
00:01:49 → 00:01:52 นอนคุณก็ไม่มีผักไม่มีพืชกินนะฮะหรือถ้า
00:01:52 → 00:01:54 เกิดว่าเป็นยุคเดี๋ยวนี้เนี่ยถ้าเกิดคน
00:01:54 → 00:01:57 ไหนสมองส่วนหน้าทำงานไม่ค่อยดีเค้าก็จะ
00:01:57 → 00:02:00 โมโหโหง่ายนะครับโมโหง่ายไม่เป็นอะไรนะ
00:02:00 → 00:02:02 แต่โมโหง่ายแล้วแสดงออกมาในทางที่ไม่ถูก
00:02:02 → 00:02:05 ต้องนะครับเช่นใครเห็นต่างก็บล็อกทิ้งไว
00:02:05 → 00:02:08 หมดเลยนะครับหรือไปด่าเค้านะฮะหรือสู้
00:02:08 → 00:02:10 ด้วยตรรกะไม่ได้คือพอสู้ด้วยตรรกะไม่ได้
00:02:10 → 00:02:13 ก็โจมตีที่ตัวบุคคลนะครับอันนี้ก็คือเป็น
00:02:13 → 00:02:16 เรื่องราวของคนที่เขา้าตรรกะไม่แข็งแรง
00:02:16 → 00:02:19 เราจะเห็นว่าคนพวกเนี้ยเค้าไม่เคยเลยนะ
00:02:19 → 00:02:22 ที่จะเอาตรรกะมาสู้กันไม่เคยอธิบายเหตุผล
00:02:22 → 00:02:25 อย่างถ้าบอกว่าเออผมพูดผิดอ่ะพูดตรงไหน
00:02:25 → 00:02:28 ผิดและอะไรคือถูกมีตรงไหนที่อธิบายปายมา
00:02:28 → 00:02:30 ก็ไม่มีแต่เขาจะอ้อมไปเรื่อยอ้าคนนั้น
00:02:30 → 00:02:33 เป็นไม่คนไม่ดีคนนี้ไม่จบทั้งนั้นคนนั้น
00:02:33 → 00:02:36 อะไรอย่างเงี้ยนะครับคือเป็นการอ่าเป็น
00:02:36 → 00:02:38 การที่พูดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเพราะว่า
00:02:38 → 00:02:42 เค้าเนี่ยสู้ไม่ได้กำลังแพ้อยู่นะครับที
00:02:42 → 00:02:46 นี้เนี่ยก็อยากจะเข้าเรื่องละว่าสมอง
00:02:46 → 00:02:50 เนี่ยมันโดนเขย่าแล้วมันเกิดอะไรขึ้นนะ
00:02:50 → 00:02:52 ครับหรือเพื่อนเรามาจับไหล่เราเขย่าอย่าง
00:02:52 → 00:02:55 เงี้ยสมองเราจะเสียมั้ยคำตอบก็คือถ้าเรา
00:02:55 → 00:02:58 โตเป็นผู้ใหญ่โดนเขย่ามันไม่เป็นอะไรครับ
00:02:58 → 00:03:01 มันมักจะเป็นในช่วงเด็กโดยเฉพาะเด็กใน
00:03:01 → 00:03:04 ช่วงปีแรกหรือ 2 ปีแรกเนี่ยจะมีความ
00:03:04 → 00:03:07 เสี่ยงสูงมากเพราะว่าอะไรรู้มั้ยครับถ้า
00:03:07 → 00:03:11 ในเด็กเล็กเนี่ยขนาดของหัวเมื่อเทียบกับ
00:03:11 → 00:03:13 ตัวเนี่ยหัวมันจะใหญ่กว่ากะโหลกของเด็ก
00:03:13 → 00:03:16 เมื่อเทียบกับตัวของเด็กเนี่ยเหมือนมันจะ
00:03:16 → 00:03:18 มันจะดูสัดส่วนเหมือนหัวโตเล็กนะครับแต่
00:03:18 → 00:03:20 ผู้ใหญ่เนี่ยหัวเล็กตัวโตประมาณนั้นนะ
00:03:20 → 00:03:22 ครับเด็กเนี่ยเวลาหัวเค้าโตนะครับกล้าม
00:03:23 → 00:03:25 เนื้อคอของเขายังไม่แข็งแรงนะครับดังนั้น
00:03:25 → 00:03:27 เวลาโดนเขย่าเนี่ยมันก็จะเป็นอย่างนี้ได้
00:03:27 → 00:03:29 ง่ายนะครับหัวมันก็จะเป็นอย่างนี้ได้ง่าย
00:03:29 → 00:03:32 นะครับแล้วการที่หัวเค้ามีขนาดใหญ่เมื่อ
00:03:32 → 00:03:35 เทียบกับตัวเนี่ยมันจะมีการส่ายได้มาก
00:03:35 → 00:03:37 กว่าในผู้ใหญ่เวลาโดนเขย่านะครับแล้วก็
00:03:37 → 00:03:40 ผู้ใหญ่เนี่ยกล้ามเนื้อคอแข็งแรงก็จะไม่
00:03:40 → 00:03:43 ค่อยไปเป็นเป็นอย่างเงี้ยนะครับแต่ผู้
00:03:43 → 00:03:46 ใหญ่เนี่ยมันคอมันจะป้องกันให้หัวมันใส่
00:03:46 → 00:03:50 ไปใส่มาแบบนั้นนะครับทีนี้สมองของเด็กนะ
00:03:50 → 00:03:53 ครับข้างในอ่ะมันก็ยังมันก็ยังนุ่มๆอยู่
00:03:53 → 00:03:56 แล้วมันมีหลอดเลือดที่ผิวสมองเราจะเรียก
00:03:56 → 00:03:59 ว่า bridging veins นะครับหลอดเลือดพวก
00:03:59 → 00:04:01 เยมันอยู่ตรงผิวสมองแล้วการที่เราไปเขย่า
00:04:01 → 00:04:03 เขย่าๆเด็กอย่างเงี้ยสิ่งที่เกิดขึ้นนะ
00:04:03 → 00:04:06 ครับสมองเนี่ยวิ่งไปวิ่งมาอย่างี้มันก็ชน
00:04:06 → 00:04:09 ข้างหน้ากะโหลกชนข้างหลังกะโหลกชนไปชนมา
00:04:09 → 00:04:13 ชนไปชนมาเป็นไงครับสมองมันช้ำนะครับสมอง
00:04:13 → 00:04:16 ส่วนหน้าชนกะโหลกเลือดออกนะครับสมองส่วน
00:04:17 → 00:04:20 หลังชนกะโหลกเลือดออกแล้วพวกเนี้ย
00:04:20 → 00:04:22 หลอดเลือดที่อยู่ข้างบนเนี่ย bridging
00:04:22 → 00:04:25 veins พวกเนี้ยมันเลื่อนไปเลื่อนมา
00:04:25 → 00:04:28 เลื่อนไปเลื่อนมามันขาดได้นะครับก็จะ
00:04:28 → 00:04:32 สามารถทำให้เกิดเลือดออกในสมองได้เลือด
00:04:32 → 00:04:36 ออกในลูกตาได้นะครับพวกเเราจะเจอเจอได้
00:04:37 → 00:04:39 เลยแหละก็คือมีเลือดออกที่อยู่ในบริเวณ
00:04:39 → 00:04:42 สมองและลูกตานะครับบางคนมีรอยช้ำจากการ
00:04:42 → 00:04:46 ที่โดนจับไหลและเขย่าอย่างี้ด้วยนะครับ
00:04:46 → 00:04:50 พวกนี้ก็มักจะเกิดเพราะว่าเด็กร้องไห้ถ้า
00:04:50 → 00:04:53 เป็นผู้ใหญ่ที่เขาไม่มีความอดทนในการ
00:04:53 → 00:04:55 เลี้ยงเด็กเนี่ยนะครับหรือเขาโมโหหรือ
00:04:55 → 00:04:58 เพราะว่าใช้ยาเสพติดหรืออยู่ๆหลอนประสาท
00:04:58 → 00:05:00 หรืออยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่ทะเลาะกันนะ
00:05:00 → 00:05:04 ครับพ่อแม่เครียดมาจากการงานแล้วกลับมา
00:05:04 → 00:05:06 บ้านก็ทะเลาะกันอีกลูกก็เลยร้องไห้พอร้อง
00:05:06 → 00:05:10 ไห้แล้วก็เป็นไงเงียบสิเงียบๆเขย่าเงี้ย
00:05:10 → 00:05:13 นะครับสมองของเด็กเค้าก็ชนไปชนมาก็เกิด
00:05:13 → 00:05:16 เลือดออกขึ้นมาพวกนี้เนี่ยนะครับเราจะ
00:05:16 → 00:05:19 เรียกว่า Chicken Baby Syndrome เพราะ
00:05:19 → 00:05:22 ว่ามันเกิดจากการเขย่าเด็กแต่ว่ามันไม่
00:05:22 → 00:05:24 จำเป็นต้องเกิดจากการเขย่าก็ได้นะครับ
00:05:24 → 00:05:27 หลายครั้งมันอาจจะเกิดจากการที่พ่อแม่
00:05:27 → 00:05:31 เนี่ยตีหัวเด็กนะครับหรือจับเด็กโยนลงไป
00:05:31 → 00:05:35 บนพื้นหรือกระทำอะไรอย่างอื่นที่มันไม่ดี
00:05:35 → 00:05:38 นะครับพวกนี้ก็เราเลยเปลี่ยนชื่อ Chicken
00:05:38 → 00:05:41 Baby Syndrome เป็น abusive head
00:05:41 → 00:05:45 injury นะครับ Abuse ก็คือการที่เราไป
00:05:45 → 00:05:49 อ่าทำร้ายคนนึงนะครับโดยที่มันเป็นสิ่ง
00:05:49 → 00:05:51 ที่ไม่สมควรทำ Head injury ก็คือการบาด
00:05:51 → 00:05:54 เจ็บทางสมองหรือทางหัวของเรานี่แหละนะ
00:05:54 → 00:05:57 ครับซึ่ง
00:05:57 → 00:06:01 พวกนี้นะครับหลายครั้งเนี่ยต้องบอกว่ามัน
00:06:01 → 00:06:04 มักจะมีการทำร้ายร่างกายแบบเนี้ยมานานมาก
00:06:04 → 00:06:07 แล้วจนกระทั่งวันนึงอาการมันเยอะมากแล้ว
00:06:07 → 00:06:09 เค้าถึงพาไปหาหมอแล้วพออาการเยอะปุ๊บ
00:06:09 → 00:06:12 เนี่ยรักษาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้วนะครับ
00:06:12 → 00:06:15 ผลการรักษาจะดีหรือไม่ดีมันขึ้นอยู่กับ
00:06:15 → 00:06:17 อาการที่มาหาหมอตอนแรกถ้าอาการหนักเลย
00:06:17 → 00:06:21 เนี่ยก็ผลการรักษาไม่ค่อยดีนะครับแล้ว
00:06:21 → 00:06:23 อาการอะไรล่ะที่ทำให้เค้าต้องไปหาหมอส่วน
00:06:23 → 00:06:25 ใหญ่คนพวกนี้เนี่ยเวลาไปหาหมอนะครับเค้า
00:06:26 → 00:06:31 ก็จะมีอาการบางคนมีชักซึมลงไม่หายใจไม่
00:06:31 → 00:06:34 กินข้าวนะครับเงียบไปเลยไม่เล่นไม่อะไร
00:06:34 → 00:06:38 เลยนะครับพวกเนี้ยจะเป็นเหตุผลหลักๆที่
00:06:38 → 00:06:40 เขา้ารู้สึกว่าเฮ้ยพ่อแม่เห็นผิดปกติก็
00:06:40 → 00:06:43 ต้องพาไปหาหมอละพาไปหาหมอหมอก็จะตรวจร่าง
00:06:43 → 00:06:46 กายอาจจะมี CT สแกนสมองดูซิว่ามีอะไรหรือ
00:06:46 → 00:06:50 เปล่านะครับพวกเนี้ยก็แน่นอนครับอ่าเขา
00:06:50 → 00:06:53 อาจจะเจอเลือดออกในสมองในลูกตามีรอยฟกช้ำ
00:06:53 → 00:06:56 ที่อธิบายไม่ได้นะครับพวกนี้หมอเแน่นอน
00:06:56 → 00:07:01 ว่าเฮ้ยนี่ไม่ปกติและเราจะต้องติดต่อ
00:07:01 → 00:07:05 กลุ่มงานที่เขาคุ้มครองสมเอ่อคุ้มครอง
00:07:05 → 00:07:08 สวัสดิภาพของเด็กนะครับตรงเเป็นสิ่งที่
00:07:08 → 00:07:12 สำคัญมากๆนะฮะแล้วรักษายังไงล่ะก็มันขึ้น
00:07:12 → 00:07:15 อยู่กับเป็นอะไรถ้ามีการชักก็ให้ยาการชัก
00:07:15 → 00:07:17 ถ้ามีเลือดออกในสมองอาจจะต้องผ่าตัดออกมา
00:07:17 → 00:07:20 นะครับพวกนี้เป็นต้นอย่างไรก็ตามครับมัน
00:07:20 → 00:07:23 มีกลุ่มอาการที่ทำให้หมอหมอเข้าใจผิดไป
00:07:23 → 00:07:27 ว่าเด็กเนี่ยโดนทำลายร่างกายนะครับเช่น
00:07:27 → 00:07:30 อ่าโรคแปลกๆอogenetic imperfecta พวก
00:07:30 → 00:07:33 เนี้ยก็คือมันมีการผิดปกติของกระดูกมัน
00:07:33 → 00:07:35 อาจจะเหมือนมีกระดูกหักหลายๆที่ได้แล้วก็
00:07:35 → 00:07:38 อ่าตรงตาขาวเนี่ยจะลักษณะสีฟ้าๆนิดนึงนะ
00:07:38 → 00:07:41 ครับอ่าพวกเนี้ยก็จะมีปัญหาได้นะหรือ
00:07:41 → 00:07:45 เอิ่มโรคกลุ่มนึงเรียกว่า Menky disease
00:07:45 → 00:07:47 disease เนี่ยจะมีความผิดปกติของตัวทอน
00:07:47 → 00:07:50 แดงนะครับเป็นการกลายพันธุของยีนตัวนึง
00:07:50 → 00:07:54 ชื่อ ATP7A นะครับก็แน่นอนครับมันมีความ
00:07:54 → 00:07:56 ผิดปกติพวกเนี้ยมันก็อาจจะมีเลือดออกใน
00:07:56 → 00:07:59 สมองมีความผิดปกติมีกะโหลกที่มันผิดปกติ
00:07:59 → 00:08:01 พวกนี้ไปได้นะครับตรงนั้นก็จะเป็นหน้าที่
00:08:01 → 00:08:03 ของหมอเขไปแล้วกันว่าเออันไหนแน่ที่เขา
00:08:03 → 00:08:06 สงสัยโดนทำร้ายอันไหนที่มันเป็นโรคอย่าง
00:08:06 → 00:08:08 อื่นที่ลักษณะคล้ายโดนทำร้ายแต่มันไม่ใช่
00:08:08 → 00:08:10 โดนทำร้ายนะครับนั้นก็เป็นอีกเรื่องนึงนะ
00:08:10 → 00:08:12 ครับ
00:08:12 → 00:08:16 แล้วต้องบอกอย่างงี้ครับ abusive head
00:08:16 → 00:08:17 injury หรือ chicken baby syndrome
00:08:17 → 00:08:22 เนี่ยอัตราการตายมี 15-20% เลยนะเด็ก
00:08:22 → 00:08:25 ประมาณมา 1 ใน 5 ที่เกิดภาวะเนี่ยจะตายนะ
00:08:25 → 00:08:31 ครับแต่คนที่รอดมาได้เนี่ยก็ไม่ปกติ
00:08:31 → 00:08:35 คนที่รอดมาได้ที่ปกติมีนิดเดียว 5% เอง
00:08:35 → 00:08:40 มั้งนะครับนอกนั้นไม่ปกติไม่ปกติยังไงบาง
00:08:40 → 00:08:45 คนนะครับมีแขนขามันเป็นอัมพาต
00:08:45 → 00:08:46 เพราะว่าส่วนที่ควบคุมของมันเนี่ยมันอยู่
00:08:46 → 00:08:48 ตรงก้านสมองแล้วคุณโดนเขย่าอย่างเงี้
00:08:48 → 00:08:52 เรื่อยๆเนี่ยมันเสียนะครับก็แขนขาก็ทำงาน
00:08:52 → 00:08:57 ไม่ได้บางคนไม่เจริญเติบโตอีกเลยนะครับ
00:08:57 → 00:09:02 ไม่เจริญเติบโตอีกเลยนะกินก็ไม่ค่อยได้ทำ
00:09:02 → 00:09:04 อะไรก็ไม่ค่อยได้นะครับอาจจะตัวเล็กนะ
00:09:04 → 00:09:10 ครับอ่าหรืออาจจะมีปัญหาเรื่องโรคลมชักนะ
00:09:10 → 00:09:13 ครับถ้าไปโดนสมองส่วนสำคัญบางคนก็เป็นโรค
00:09:13 → 00:09:15 ลมชักเป็นถาวรอย่างเงี้ยก็ต้องกินยากัน
00:09:15 → 00:09:19 ชักไปตลอดนะครับหรือบางคนก็จะมีปัญหา
00:09:19 → 00:09:21 เรื่องของการควบคุมอารมณ์
00:09:21 → 00:09:24 นะฮะอาจจะกลายไปเป็นเด็กสมาธิสั้นอาจจะ
00:09:24 → 00:09:27 เป็นเด็กที่สมองส่วนหน้าทำงานไม่ได้เลย
00:09:27 → 00:09:31 แล้วก็โมโหตลอดเวลานะครับมีอะไรก็ออกมา
00:09:31 → 00:09:34 ด่ามาว่านะครับควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
00:09:34 → 00:09:37 ใครสะกิดใจหน่อยก็ทนไม่ไหวก็จะออกมา
00:09:37 → 00:09:40 ประมาณนี้นะครับนี่ก็จะเจอได้จะมีปัญหา
00:09:40 → 00:09:44 ทางด้านการเรียนนะครับต่างๆได้นะครับพวก
00:09:44 → 00:09:47 เนี้ยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการโดนเขย่า
00:09:47 → 00:09:51 ในตอนเด็กๆได้อย่างไรก็ตาม
00:09:51 → 00:09:54 ต้องบอกอย่างี้ว่าเอ่อการที่เราโดนเขย่า
00:09:54 → 00:09:57 สมองตั้งแต่เด็กๆเนี่ยแล้วโตมาเป็นบุคคล
00:09:57 → 00:10:00 ที่แบบอ่าสามารถเรียนจบหมอได้นะครับแต่
00:10:00 → 00:10:03 ว่าเค้าเป็นคนที่ใช้สมองส่วนหน้าได้ไม่
00:10:03 → 00:10:05 ค่อยดีพวกเนี้ยเป็นเพราะว่าเขย่าตอนเด็กๆ
00:10:05 → 00:10:08 เค้าโตมาเป็นหมอแล้วเอ่อตัวเตี้ยหรือว่า
00:10:08 → 00:10:12 อ่ากล้ามไม่มีมันเป็นเพราะว่าโดนเขย่า
00:10:12 → 00:10:16 สมองตอนเด็กมั้ยหรือว่าอืมไม่มีวุฒิภาวะ
00:10:16 → 00:10:20 อ่าหรือมีคนเห็นต่างปุ๊บก็ต้องไปว่าเค้า
00:10:20 → 00:10:22 เค้าเป็นคนไม่ดีอย่างงู้นอย่างงี้เป็น
00:10:22 → 00:10:24 เพราะว่าการเขย่าตอนเด็กมั้ยตอบเลยครับ
00:10:24 → 00:10:28 ว่าไม่ใช่ไม่ใช่แน่ๆนะครับเพราะว่าถ้า
00:10:28 → 00:10:30 เกิดคุณโดนเขย่าสมองจนกระทั่งคุณมีปัญหา
00:10:30 → 00:10:33 จริงๆแล้วเนี่ยโตมาคุณไม่สามารถเรียนหมอ
00:10:33 → 00:10:37 ได้หรอกครับนะอ่าไม่สามารถที่จะมีเอ่อ
00:10:37 → 00:10:41 ความสามารถทางด้านการคิดวิเคราะห์อะไร
00:10:41 → 00:10:44 ขนาดนั้นได้นะครับมันจะไม่มีขนาดนั้นนะฮะ
00:10:44 → 00:10:48 แล้วบางทีไม่สามารถเป็นคนปกติได้นะครับ
00:10:48 → 00:10:51 อันนี้ไม่อันนี้ไม่เกี่ยวกันแน่ๆนะครับ
00:10:51 → 00:10:54 ไม่เกี่ยวแน่ๆแต่ที่คนเหล่านี้ที่เราเห็น
00:10:54 → 00:10:57 ในสังคมเยอะๆเนี่ยนะครับแล้วเบอกว่าเอ้ย
00:10:57 → 00:10:59 เด็กๆโดนเขย่าเยอะเกินไปแล้วเป่าสมอง
00:10:59 → 00:11:02 มาเลเซียอันนั้นเป็นการพูดเล่นพูดเล่นพูด
00:11:02 → 00:11:04 เปรียบเปรยนะครับมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น
00:11:04 → 00:11:07 จริงๆเพราะคนที่เป็นอย่างนั้นจริงๆเนี่ย
00:11:07 → 00:11:09 มันน่าสงสารนะครับโตขึ้นมาก็อาจจะเป็นแขน
00:11:09 → 00:11:12 ขามันอ่อนแรงทำงานไม่ได้นะครับเอ่อไม่
00:11:12 → 00:11:15 เจริญเติบโตมีโรคลมชักนะครับมีปัญหาอย่าง
00:11:15 → 00:11:18 อื่นเยอะแยะไปหมดนะครับพวกนั้นคือของจริง
00:11:18 → 00:11:21 นะแต่ที่เราเจอกันทั่วๆไปที่เขาแบบเอ๊ะ
00:11:21 → 00:11:25 ทำไมคนนี้เขาดูนิสัยไม่ดีจังเลยนะครับดู
00:11:25 → 00:11:27 เป็นนาซีซิสนะครับเป็นพวกหลงตัวเองนะครับ
00:11:27 → 00:11:31 หรือใครเห็นต่างก็ไปว่าเค้านะครับไม่
00:11:31 → 00:11:33 สามารถต่อสู้ด้วยตรรกะได้พวกเนี้ยคือพวก
00:11:33 → 00:11:36 ที่สมองส่วนหน้าเ้าไม่พัฒนาด้วยเหตุผล
00:11:36 → 00:11:38 อย่างอื่นนะครับซึ่งต้องบอกอย่างงี้ครับ
00:11:38 → 00:11:42 ว่าการพัฒนาของสมองส่วนหน้าเนี่ยอ่าส่วน
00:11:42 → 00:11:44 หนึ่งมันขึ้นกับสภาวะแวดล้อมในด้านการ
00:11:44 → 00:11:47 เลี้ยงดูด้วยนะครับถ้าเราเป็นคนที่อยู่ใน
00:11:47 → 00:11:49 สภาวะแวดล้อมที่มันไปกระตุ้นอารมณ์อยู่
00:11:49 → 00:11:53 ตลอดเวลาแล้วไม่มีใครสอนให้ควบคุมอารมณ์
00:11:53 → 00:11:56 ตรงเนี้ยไม่เคยมีใครสอนให้ควบคุมตรรกะ
00:11:56 → 00:12:01 เต็งดีนะครับมันก็จะทำให้คนพวกเนี้ยเค้า
00:12:01 → 00:12:04 มีการกระตุ้นอารมณ์ได้บ่อยนะครับพอ
00:12:04 → 00:12:06 กระตุ้นอารมณ์ได้บ่อยสมองส่วนที่มันจะใช้
00:12:06 → 00:12:10 ตรรกะมาควบคุมเนี่ยมันก็สู้ไม่ได้มันก็
00:12:10 → 00:12:12 เลยออกมาเป็นเรื่องของอารมณ์เป็นหลักนะ
00:12:12 → 00:12:15 ครับอ่าแล้วก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้นครับมัน
00:12:15 → 00:12:19 อาจจะมีปมสักอย่างในใจนะครับปมปมซักอย่าง
00:12:19 → 00:12:22 ที่เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วต้องการปกป้องปม
00:12:22 → 00:12:25 ตัวเองอย่างที่ผมเคยเล่าไปนะครับพอปกป้อง
00:12:25 → 00:12:27 ปมตัวเองปุ๊บเนี่ยปมเนี่ยมันอาจจะมีแค่ 1
00:12:27 → 00:12:30 เรื่องนะครับไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็น
00:12:30 → 00:12:32 เรื่องอะไรมันอาจจะมีแค่ 1 เรื่องถ้าเกิด
00:12:32 → 00:12:34 คุณไปพูดอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวอะไรกับปม
00:12:34 → 00:12:36 เขาเค้าก็จะเป็นคนดีอ่าสมองส่วนหน้ายังพอ
00:12:37 → 00:12:40 ทำงานได้เพราะว่าไม่สะกิดปมเขาจะเป็นคนดี
00:12:40 → 00:12:42 แต่เมื่อไหร่มาพูดเฉียดปมเค้าแม้แต่นิด
00:12:42 → 00:12:45 เดียวเขาจะคิดเลยว่าคุณกำลังว่าเค้าอยู่
00:12:45 → 00:12:47 ทั้งๆจริงๆเนี่ยสิ่งที่คุณพูดอาจจะไม่
00:12:47 → 00:12:49 เกี่ยวอะไรกับเค้านะควรจะพูดรวมๆเหมือน
00:12:49 → 00:12:52 อย่างที่ผมพูดเรื่องของนายแบกนางนางแบก
00:12:52 → 00:12:55 ซึ่งมันหมายความรวมถึงทุกคนบนโลกนี้ทุกคน
00:12:55 → 00:12:59 บนโลกนี้ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงกับใครสักคน
00:12:59 → 00:13:00 แล้วไอ้อย่างเงี้ยมันมีมาตั้งแต่
00:13:00 → 00:13:03 โบราณาการถ้าเกิดคนบอกว่าเอ้ยผมเอาไปพูด
00:13:03 → 00:13:05 เรื่องการเมืองผูกกับพรรคการเมืองอะไร
00:13:05 → 00:13:07 หรือเปล่าก็เปล่าเพราะว่าพรรคการเมืองของ
00:13:07 → 00:13:09 คุณเพิ่งจะสร้างมาตอนเนี้ยแต่ว่าไอ้
00:13:09 → 00:13:11 เรื่องนางแบกและนายแบกเนี่ยมันมีมาตั้ง
00:13:11 → 00:13:14 แต่โบราณาการเรียบร้อยแล้วนะครับบางคนบอก
00:13:14 → 00:13:17 ว่าเฮ้ยนายแบกและนางแบกเนี่ยมันหมายความ
00:13:17 → 00:13:21 ถึงพรรคพรรคหนึ่งเท่านั้นก็ไม่ใช่ครับ
00:13:21 → 00:13:25 คือมันไม่ได้ผิดที่คำพูดมันผิดที่คุณเอา
00:13:25 → 00:13:29 คำพูดไปแปลความเอาเองว่าเป็นแบบนั้นถูกมย
00:13:29 → 00:13:31 ถ้าเกิดว่าคุณไม่ได้มีพฤติกรรมเป็นนายแบก
00:13:31 → 00:13:35 และนางแบกคุณจะรับไปทำไมฮะไม่ต้องรับสิ
00:13:35 → 00:13:39 ครับมันไม่ใช่คุณน่ะถูกมั้ยแต่ถ้าเกิดคน
00:13:39 → 00:13:41 ที่สมองส่วนหน้าเค้าไม่เจริญแล้วไปสะกิด
00:13:41 → 00:13:44 ปมเขาจะคิดว่าเป็นเค้าทันทีเพราะว่าเค้า
00:13:44 → 00:13:47 เอาตัวเองไปผูกไว้กับความเชื่อที่เค้าเขา
00:13:47 → 00:13:50 เชื่อไปผูกไว้กับความคิดที่เขาคิดไปผูก
00:13:50 → 00:13:53 ไว้กับพรรคการเมืองสักอย่างที่เค้านิยมชม
00:13:54 → 00:13:57 ชอบขนาดที่เรียกได้ว่าบูชาเลยก็ว่าได้พอ
00:13:57 → 00:13:59 เอามันไปผูกปุ๊บใครพูดสะกิดมันนิดเดียว
00:13:59 → 00:14:03 ปุ๊บเนี่ยสมองส่วนหน้าที่เป็นสมองทำงาน
00:14:03 → 00:14:06 ตรรกะเค้าหยุดทำงานทันทีแล้วเกิดอมิกด
00:14:06 → 00:14:10 ไฮแจคอารมณ์มันมาเต็มๆทันทีเค้าก็จะไป
00:14:10 → 00:14:13 ทำนองนั้นหมดเลยดังนั้นเราจะเห็นว่าคน
00:14:13 → 00:14:16 เหล่านี้เนี่ยนะครับถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ
00:14:16 → 00:14:18 ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งที่เค้าเป็น
00:14:18 → 00:14:21 ปมนะไม่มีปัญหาครับเค้าเป็นคนดีด้วยซ้ำไป
00:14:21 → 00:14:25 ช่วยเหลือสังคมนะครับเป็นคนที่เก่งช่วย
00:14:25 → 00:14:29 เหลือสังคมฉลาดทุกอย่างหมดเลยแต่พอสะกิด
00:14:29 → 00:14:32 ปมเค้านิดเดียวมันไม่ได้ครับกลุ่มพวก
00:14:32 → 00:14:33 เนี้ยนาซีซิส
00:14:33 → 00:14:36 ลงตัวเองเขาจะปกป้องอารมณ์ของเขาที่เป็น
00:14:36 → 00:14:39 ปมที่มันเปราะบางมากๆจะไม่ให้มีใครมายุ่ง
00:14:39 → 00:14:42 กับเขาเลยอ่ะถ้าสะกิดนิดเดียวปุ๊บระเบิด
00:14:42 → 00:14:46 มาหมดเลยนะครับอารมณ์มาเต็มแล้วก็สมอง
00:14:46 → 00:14:48 ส่วนหน้าจากทำงานได้มันก็ทำงานไม่ได้แล้ว
00:14:48 → 00:14:51 ถ้ามีใครสะกิดปมเข้าบ่อยๆนะรู้มั้ว่าเกิด
00:14:51 → 00:14:53 อะไรขึ้น
00:14:53 → 00:14:55 สมองส่วนหน้าที่มันใช้ในการควบคุมอารมณ์
00:14:56 → 00:14:58 เนี่ยมันจะไม่ได้ถูกใช้เลยและสมองส่วน
00:14:58 → 00:15:00 อารมณ์เนี่ยมันจะเบ้อเริ่มเทิ่มเลยมันใช้
00:15:00 → 00:15:03 บ่อยๆมากคนเราเวลาที่ไม่ได้ทำอะไรบ่อยๆ
00:15:03 → 00:15:06 นานๆเนี่ยมันจะทำไม่ได้สมองส่วนไหนที่ไม่
00:15:06 → 00:15:08 ได้ใช้นานๆมันจะใช้ไม่ได้ดังนั้นพอมันไม่
00:15:09 → 00:15:11 ได้ใช้มันก็บอกว่าเฮ้ยเราจะใช้ทำไมมันไม่
00:15:11 → 00:15:13 ต้องใช้แล้วนี่มันก็จะฝ่อเหี่ยวไปเรื่อยๆ
00:15:13 → 00:15:15 ครับ
00:15:15 → 00:15:17 หน้าที่ของมันก็จะหายไปเรื่อยๆการเชื่อม
00:15:17 → 00:15:20 โยงของเส้นประสาทที่อยู่ภายในสมองโครง
00:15:20 → 00:15:22 ข่ายประสาทที่มันควรจะเชื่อมโยงมันก็จะ
00:15:22 → 00:15:26 ไม่เชื่อมโยงแล้วต่อไปมันก็จะมาไปอารมณ์
00:15:26 → 00:15:28 อย่างเดียวแล้วต่อไปอ่ะมันจะเริ่มลามไป
00:15:28 → 00:15:33 ทุกๆเรื่องของชีวิตของเค้านะครับ
00:15:33 → 00:15:36 พอไม่ใช้ตรรกะในปมนี้ต่อไปมันก็จะไม่ใช้
00:15:36 → 00:15:38 ตรรกะในในอย่างอื่นแล้วมันก็จะเริ่มขยาย
00:15:38 → 00:15:42 วงไปกว้างไกลกว่านั้นนะฮะนั่นคือสิ่งที่
00:15:42 → 00:15:44 จะเกิดขึ้นเวลาที่อายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อย
00:15:44 → 00:15:47 ๆถ้ายังไม่รู้ตัวแล้วกลับออกมาได้นะครับ
00:15:47 → 00:15:51 มันก็จะไปสุดทางเลยนะครับอาจจะเกิดปัญหา
00:15:51 → 00:15:54 ทางด้านของความเครียดอารมณ์แปรปรวนนะครับ
00:15:54 → 00:15:58 หรือบางคนอาจจะอารมณ์ขึ้นหรือลงหรืออะไร
00:15:58 → 00:16:00 ก็แล้วแต่นะครับบางคนไปรู้เอาทีหลังว่า
00:16:00 → 00:16:02 สิ่งที่ตัวเองทำมาทั้งชีวิตเนี่ยมันไม่
00:16:02 → 00:16:05 ถูกต้องแต่ตอนนั้นอายุเยอะไปแล้วสมองมัน
00:16:05 → 00:16:07 เหี่ยวไปค่อนข้างเยอะการจะมาฟื้นฟูมันน่ะ
00:16:07 → 00:16:10 มันก็ไม่ง่ายแล้วนะครับมันทำได้นะแต่มัน
00:16:10 → 00:16:12 ไม่ง่ายขั้นแรกของการฟื้นฟูสมองส่วนหน้า
00:16:12 → 00:16:15 เนี่ยคือคุณต้องรู้ก่อนว่าตัวคุณน่ะกำลัง
00:16:15 → 00:16:18 มีปัญหาถ้าคิดว่าตัวคุณไม่มีปัญหายังไง
00:16:18 → 00:16:20 มันก็แก้ไม่ได้ครับนะครับเพราะว่าขั้นแรก
00:16:20 → 00:16:22 ของการแก้ปัญหาก็คือการรู้ว่าปัญหาคือ
00:16:22 → 00:16:25 อะไรแล้วไม่พอคุณต้องรู้ว่ามันยังมีปัญหา
00:16:25 → 00:16:27 อยู่ตรงข้างหน้าคุณนี่แหละคุณถึงจะแก้มัน
00:16:27 → 00:16:30 ได้ไม่งั้นก็แก้ไม่ได้ถูกมั้ยครับงั้นโดย
00:16:30 → 00:16:32 สรุปเนี่ยวันนี้ผมคิดว่าหลายคนนะครับน่า
00:16:32 → 00:16:35 จะเข้าใจคำว่า Shaken Baby Syndrome นะ
00:16:35 → 00:16:38 ครับโรคนี้มีอีกชื่อนึงว่า Abusive Head
00:16:38 → 00:16:41 Injury เป็นโรคที่มักจะเกิดขึ้นตั้งแต่
00:16:41 → 00:16:44 วัยเด็กในช่วงอายุน้อยกว่า 2 ขวบเพราะว่า
00:16:44 → 00:16:47 การไปเขย่าทำให้สมองเนี่ยมันชนกับกะโหลก
00:16:47 → 00:16:51 ด้านในชนไปชนมาเกิดเลือดออกได้ง่ายแล้วใน
00:16:51 → 00:16:53 เด็กเี่มันเป็นง่ายกว่าเพราะว่าสัดส่วน
00:16:53 → 00:16:56 ของหัวมันใหญ่เมื่อเทียบกับตัวแล้วก็คอ
00:16:56 → 00:16:57 กล้ามเนื้อของคอของเขาเนี่ยมันยังอ่อน
00:16:58 → 00:17:00 ปลวกเปียกดังนั้นเวลาโดนเขย่าก็จึงมีการ
00:17:00 → 00:17:02 เกิดอย่างนี้ขึ้นเรื่อยๆนะครับอาจจะมีการ
00:17:02 → 00:17:05 บาดเจ็บต่อไขสันหลังต่อสมองต่างๆได้นะ
00:17:05 → 00:17:09 ครับแล้วก็นำไปสู่ผลเสียทั้งระยะสั้นและ
00:17:09 → 00:17:12 ระยะยาวแต่การที่ไปเขย่าอย่างเงี้ยมันไม่
00:17:12 → 00:17:17 ได้ทำให้คุณโตมาแล้วมีปัญหาอย่างเดียวคือ
00:17:17 → 00:17:20 เรื่องของปมสมองส่วนหน้าแต่ส่วนอื่นดีหมด
00:17:20 → 00:17:22 ถ้ามันจะมีปัญหามันจะมีทุกอย่างนะครับอ่ะ
00:17:22 → 00:17:25 อันนี้ก็เล่าให้ฟังนะครับเป็นวิทยาศาสตร์
00:17:25 → 00:17:27 นะฮะเราจะได้เข้าใจว่าอะไรคือคำเปรียบ
00:17:28 → 00:17:31 เปรยพูดเล่นพูดหยอกล้อกับอะไรคือโรคทาง
00:17:31 → 00:17:34 การแพทย์แบบจริงๆนะครับว่า Shaken Baby
00:17:34 → 00:17:36 Syndrome จริงๆมันโตมาแล้วมันเป็นยังไง
00:17:36 → 00:17:38 กับ Shken Baby Syndrome ที่เราพูดกัน
00:17:38 → 00:17:40 เล่นๆว่าเอ้ยคนนี้เค้านิสัยไม่ดีเค้าเป็น
00:17:40 → 00:17:41 เพราะว่าตอนเด็กๆพ่อแม่เนี่ยทะเลาะกัน
00:17:41 → 00:17:43 แล้วก็จับเค้าเขย่าหรือเปล่าอ่าอันนั้นก็
00:17:43 → 00:17:46 ก็เป็นอีกเรื่องนึงนะครับโอเควันนี้ก็
00:17:46 → 00:17:48 เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับหวังว่าจะมี
00:17:48 → 00:17:50 ประโยชน์ในด้านการแพทย์แล้วก็วิทยาศาสตร์
00:17:50 → 00:17:52 ให้ทุกคนได้เรียนรู้ไปทุกๆคลิปนะครับเท่า
00:17:52 → 00:17:56 นี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ