00:00:00 → 00:00:02 เมองว่าเราเป็นเด็กเนิสหรืออะไรมยมาปุ๊บ
00:00:02 → 00:00:06 ก็ดูแค่ว่าแต่ละวิชาเครับพอผ่านของมัน
00:00:06 → 00:00:08 เนี่ยส่งอะไรบ้างได้เอาเวลาที่เหลือเนี่ย
00:00:08 → 00:00:11 ไปทำในสิ่งที่อยากจะทำไปส่งงานแข่งบ้างไป
00:00:11 → 00:00:14 เตรียมตัวเพื่อสอบโอลิมปิกบ้างทำไมผมต้อง
00:00:14 → 00:00:17 ไปเรียนเคมีด้วยทำไมผมต้องไปเรียนภาษาไทย
00:00:17 → 00:00:20 เอาให้ได้เกรด 4 หรือทำไมผมต้องไปตอบไม่
00:00:20 → 00:00:23 รู้กี่วิชาเพื่อที่ผมแค่อยากเรียนคอมเรา
00:00:23 → 00:00:25 ทำยังไงให้อยู่ห่างไกลจากพวกสารเสพติด
00:00:25 → 00:00:28 ทั้งหลายตัวผมไม่ชอบเรียนทำไงให้ออกมานอก
00:00:28 → 00:00:31 โเรียนได้บ้างเลยไม่เข้าเรียนเลยหางาน
00:00:31 → 00:00:35 แข่งส่ง่งส่งงานแข่งไปตอนนั้นทำ AI สแกน
00:00:35 → 00:00:39 บัตรประชาชนสแกนใบหน้าสแกนใ้ทะเบียนรถส่ง
00:00:39 → 00:00:41 งานแข่งเลยโดยที่ณวันนั้นเนี่ยผมยังเขียน
00:00:41 → 00:00:44 aii ไม่เป็นด้วยัเจอเยอะมากๆเลยคำพูดของ
00:00:44 → 00:00:49 คนรอคบันสูงไป
00:00:49 → 00:00:52 เปล่าโอลิมปิกก็ก็ได้ครับแล้วก็ได้คะแนน
00:00:53 → 00:00:56 สูงสุดของภาคใต้แล้วได้เป็นอ่าเขค่ายต่อ
00:00:56 → 00:00:58 เป็นแบบเตรียมตัวระดับนานาชาติแต่ว่าเก็
00:00:58 → 00:01:01 ไม่ได้ไม่ได้ไปต่อพ่อแม่หลายคนก็เอ้ยตั้ง
00:01:01 → 00:01:03 ใจเรียนไปก่อนแล้วสิ่งที่อยากทำเดี๋ยว
00:01:03 → 00:01:05 ค่อยไปทำหลังเรียนครับพ่อแม่ก็จะมาแล้ว
00:01:05 → 00:01:11 แบบทำไมเกียดน้อยแนะนำพ่อแม่เรื่องการ
00:01:11 → 00:01:13 ศึกษาของลูก
00:01:13 → 00:01:18 ครับหลังจากคลิปที่ผ่านๆมาผมได้มีโอกาส
00:01:18 → 00:01:20 แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ AI อย่างล่า
00:01:20 → 00:01:24 สุดก็มีคุณซันนี่จากช่องซันนี่จี้มาคุย
00:01:24 → 00:01:28 เรื่อง AI ใช่มั้ยครับแล้วก็มีผู้บริหาร
00:01:28 → 00:01:30 ชื่อคุณบิ๊กที่พูดเรเรื่องบริหารองค์กร
00:01:30 → 00:01:34 วันนี้ผมก็โชคดีครับได้รับเกียรติจากผู้
00:01:34 → 00:01:38 บริหารหรือฟอร์คนที่เริ่มโปรเจค AI ใน
00:01:38 → 00:01:42 เมืองไทยอายุยังน้อยมากหลังจากคุยกับเา
00:01:42 → 00:01:46 สักพักเนี่ยผมคิดว่าเาน่าจะเป็นตัวอย่าง
00:01:46 → 00:01:49 ให้กับวัยรุ่นในเมืองไทยได้ดีที่สามารถ
00:01:49 → 00:01:53 ให้พ่อแม่หรือว่าเด็กรุ่นใหม่ๆดูพี่เา้า
00:01:53 → 00:01:56 เป็นตัวอย่างนะครับเผื่อจะได้ไกดในชีวิต
00:01:56 → 00:02:00 เผื่อจะได้ได้มุมมองในการใช้ชีชีวิตในการ
00:02:00 → 00:02:04 ตั้งเป้าหมายในชีวิตระหว่างสนทนาเนี่ยผม
00:02:04 → 00:02:08 พยายามถามคุณเพชรในหลายๆมุมวิธีการบริหาร
00:02:09 → 00:02:13 องค์กรมุมมองในการทำยังไงให้องค์กรเนี่ย
00:02:13 → 00:02:17 เป็นองค์กรแบบสมัยใหม่องค์กรแบบ
00:02:17 → 00:02:21 อิสระองค์กรที่ไม่ได้มีขั้นบันไดเยอะ
00:02:21 → 00:02:24 เพื่อที่จะ Drive หรือผลักดันความครีและ
00:02:24 → 00:02:28 กระตุ้นพนักงานให้มีแรงบันดาลใจตลอดเวลา
00:02:28 → 00:02:31 ลองเก็บไปฟังดูแล้วก็สุดท้ายเนี่ยผมได้มี
00:02:31 → 00:02:35 โอกาสซักถามถึงที่มาที่ไปทำยังไงว่าเด็ก
00:02:35 → 00:02:39 คนนึงเนี่ยในวัย 20 กว่าๆถึงมีความคิด
00:02:39 → 00:02:43 หรือมีจุดมีมี motivation ที่จะเปิด
00:02:43 → 00:02:47 บริษัทเป็น founder เข้าไปใน AI สวัสดี
00:02:47 → 00:02:50 ครับผมเพชรนะครับก็ตอนนี้อายุ 22 ปีแล้ว
00:02:50 → 00:02:53 ก็เป็น CEO ของบริษัท Deep Capital ครับ
00:02:53 → 00:02:56 ผมอายุยงน้อยมากแล้วก็ชื่นชมครับชื่นชม
00:02:56 → 00:02:59 คุณเพชรขอบคมากครับเท่าที่ผมเคยคุยกับคุณ
00:02:59 → 00:03:01 คุณเพชรแล้วก็รู้จักเนี่ยก็ถือว่าคุณเพชร
00:03:01 → 00:03:05 เนี่ยเป็นขอใช้คำว่าเป็นเด็กดีคนนึงเด็ก
00:03:05 → 00:03:07 ดีไม่ได้หมายถึงเป็นเด็กมีระเบียบนะแต่
00:03:07 → 00:03:12 เป็นเด็กที่สำหรับผมนะคือวางแผนชีวิตดี
00:03:12 → 00:03:16 คิดเป็นแล้วก็มีเป้าหมายที่ชัดอ่ะก่อน
00:03:16 → 00:03:20 อื่นเลยครับคำถามแรกที่ผมอยากรู้จริงๆใน
00:03:20 → 00:03:24 ฐานะเป็นพ่อคนนึงครับคุณเพชรอายุเพียงแค่
00:03:24 → 00:03:28 นี้เนี่ยจริงๆหลายๆคนในอายุคุณเพชรก็คือ
00:03:28 → 00:03:32 ส่วนใหญ่ก็เรียนจบมหาลัยครับทำงานสมัคร
00:03:32 → 00:03:36 Day Job 9-5 8 น - 17:00 นอย่าง
00:03:36 → 00:03:39 เงี้ยครับแล้วก็ได้รับเงินเดือนแต่ว่าคุณ
00:03:39 → 00:03:43 เพชรเนี่ยโตมาอย่างไรทำไมถึงอยู่ดีๆแหวก
00:03:43 → 00:03:46 แนวแล้วก็ไปทำในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกว่า
00:03:47 → 00:03:49 ใช่ตั้งแต่อายุเนิ่นๆซึ่งผมเชื่อว่ามันก็
00:03:49 → 00:03:53 ต้องอาศัยความกล้าและความบ้าพอสมควรกล้า
00:03:53 → 00:03:57 ด้วยแล้วก็บ้าด้วยนะแ and brief นะครับ
00:03:57 → 00:04:00 ครับคุณเพชรโตที่ไหนครับผมอยู่ยะลาเลย
00:04:00 → 00:04:04 ครับอืเป็นครอบครัวที่อ่าคุณพ่อก็เป็น
00:04:04 → 00:04:06 เจ้าหน้าที่ในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
00:04:06 → 00:04:10 อ่าคุณแม่ก็เป็นพยาบาลอ๋อแม่เป็นพยาบาล
00:04:10 → 00:04:14 ด้วยใช่ครับก็ข้าราชการชั้นธรรมดาเลยครับ
00:04:14 → 00:04:17 ทั่วไปก็เด็กที่เติบอพ่อแม่ก็ยล้างกัน
00:04:17 → 00:04:20 ช่วงประถมประถมก็เรียนอยู่โรงเรียนโรง
00:04:20 → 00:04:23 เรียนรัฐบาลธรรมดานี่แหละครับอืครับผมก็
00:04:23 → 00:04:26 จนมีจุดเปลี่ยนในช่วงช่วงมัธยมครับที่
00:04:26 → 00:04:29 โอเคผมมีย้ายไปเรียนที่สตูนไปเรียนโรง
00:04:29 → 00:04:32 เรียนของเครือจุฬาภรณซึ่งก็โอเคโชคดีที่
00:04:32 → 00:04:35 สอบเข้าไปได้อเพราะโรงเรียนจุฬาภรณมันก็
00:04:35 → 00:04:38 จะมีแบ่งเป็นหลายๆจังหวัดใช่มยฮะในประเทศ
00:04:38 → 00:04:40 แล้วก็เป็นโรงเรียนด้านวิทยาศาสตร์ซึ่ง
00:04:40 → 00:04:43 จริงแล้วตอนตอนเด็กมีครูคนนึงครับเป็นครู
00:04:43 → 00:04:47 สอนพิเศษของผมที่เขาให้แรงบันดาลใจผมคือ
00:04:47 → 00:04:50 เขาเป็นครูสอนพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ครับ
00:04:50 → 00:04:54 แต่ว่าเขาไม่สอนอะไรที่เกี่ยวกับสอบเลยอื
00:04:54 → 00:04:56 อเป็นเป็นครูที่แบบไม่ได้ไม่ได้เก็บค่า
00:04:56 → 00:04:59 สอนอะไรแพงเลยแล้วก็อยากให้เด็กได้ทดลอง
00:04:59 → 00:05:00 ได้ส
00:05:00 → 00:05:02 ซึ่งมันก็เลยเหมือนเป็นเป็นจุดเริ่มต้น
00:05:02 → 00:05:07 ที่ผมสนใจในการทำอะไรแปลกๆอยู่อ่ะด้วด้วย
00:05:07 → 00:05:09 อ่ะผมอยู่จังหวัดยลาก็จะมีข่าวเรื่อง
00:05:09 → 00:05:11 ระเบิดต่างๆมีอยู่วันนึงก็เลยลองไปถามคร
00:05:11 → 00:05:15 ว่าทำระเบิดให้ดูหน่อยได้มยครูก็อ่ะผ่าน
00:05:15 → 00:05:17 ไปอาทิตย์นึงครูก็ไปเตรียมของทดลองมาแล้ว
00:05:17 → 00:05:20 ก็อันอีกจริงอือแล้วก็แบบปุ๊บจุดไฟตู้ม
00:05:20 → 00:05:23 อะไรเงี้ยครับแบบเอเลยเป็นเลยเป็นจุดที่
00:05:23 → 00:05:25 รู้สึกว่าเ้ยนัน่าจะเป็นจุดจุดนึงที่ทำ
00:05:26 → 00:05:29 ให้ผมรู้สึกว่าผมชอบการการทดลองแล้วอยาก
00:05:29 → 00:05:31 เข้าเรียโรงเรียนวิทยาศาสตร์มันก็เลยเลย
00:05:31 → 00:05:33 ตั้งใจที่อ่านหนังสือเพื่อเพื่อจะสอบเข้า
00:05:33 → 00:05:37 โรงเรียนจุฬาพรอืเราสว่าเอ้ยในในแถบๆนั้น
00:05:37 → 00:05:40 แล้วกันครับน่าจะเป็นหนคือโรงเรียนที่
00:05:40 → 00:05:43 อ่าเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ที่แบบมีน่าจะ
00:05:43 → 00:05:46 มีอะไรให้ทดลองได้ได้เล่นได้ 2 คือเป็น
00:05:46 → 00:05:49 โรงเรียนทุนที่เอ้ยก็ไม่ต้องแบ่งรับค่า
00:05:49 → 00:05:51 ใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่อะไรอย่าเงี้ยครับ
00:05:51 → 00:05:53 ก็คุณพ่อแม่ก็จะได้ไม่ไม่ต้องมาซีเรียส
00:05:53 → 00:05:56 เรื่องเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วก็ได้อ่า
00:05:57 → 00:06:01 ต้องเรียกว่าไม่ไม่ลำบากเขาแล้วกันครับ
00:06:01 → 00:06:03 ประมาณนั้นเพราะว่าโอเคที่บ้านก็ไม่ได้มี
00:06:03 → 00:06:06 ไม่ได้มีอะไรเยอะประมาณนี้ครับใช่แล้วพอ
00:06:06 → 00:06:10 อยู่จุฬาภรณ์ก็ได้เจอกับเพื่อนๆหลายๆคน
00:06:10 → 00:06:12 แต่ถามว่าเอ้ยกลุ่มเพื่อนมันก็ังเป็น
00:06:12 → 00:06:15 เหมือนกลุ่มโรงเรียนทั่วไปแะครับก็มีการ
00:06:15 → 00:06:19 เป็นตั้งเป็นกลุ่มเป็นก้อนนู่นนี่นั่นแต่
00:06:19 → 00:06:22 ว่าที่ผมว่าเป็นเป็นจุดเปลี่ยนนึงเลยคือ
00:06:22 → 00:06:26 แบบการ 1 คือผมเข้าไปปุ๊บผมชอบเขียน
00:06:26 → 00:06:28 โปรแกรมรู้สึกว่าเอ้ยสิ่งนี้มันมัน
00:06:28 → 00:06:32 มหัศจรรย์มากเรารู้สึกสนุกกับการทำมันมาก
00:06:32 → 00:06:35 2 คือในช่วงประมาณซักผมอยู่ประมาณม 3
00:06:35 → 00:06:39 ถึงม 4 ตอนนั้นมียทท่านนึงครับชื่อนายอาร
00:06:39 → 00:06:42 เขาได้ลงคลิปคลิปนึงว่าพูดคร่าวๆเลยว่า
00:06:42 → 00:06:44 neural Network คืออะไร neural Network
00:06:44 → 00:06:46 หรือถ้าแปลภาษาเทียมคือโครงข่ายภษาเทียม
00:06:46 → 00:06:50 ก็คือรูปแบบของ AI รูปแบบหนึ่งที่เรา
00:06:50 → 00:06:54 จำลองโครงสร้างของสมองให้สามารถอ่ะเรียน
00:06:54 → 00:06:57 รู้เหมือนคนได้ต้องเอาข้อมูลมาให้มัน
00:06:57 → 00:07:00 เรียนรู้แล้วมันก็จะทำในสิ่งที่มันเรียน
00:07:00 → 00:07:02 รู้มาได้ประมาณนี้ครับอั้นเป็นจุดจุด
00:07:02 → 00:07:05 เริ่มต้นเล็กๆที่ทำให้ผมแบบเข้ามาสู่อ่า
00:07:05 → 00:07:09 วงการของ AI มาสักประมาณสัก 6-7 ปีก่อน
00:07:09 → 00:07:11 ประมาณนั้นนะครับก็เลยเริ่มต้นศึกษาเริ่ม
00:07:11 → 00:07:15 ต้นอะไรต่างๆแล้วก็ผมชอบ challeng ตัวเอง
00:07:15 → 00:07:18 ว่าสิ่งนี้ตอนแรกผมยังไม่รู้อะไรเลยแล้ว
00:07:18 → 00:07:21 ก็ลองส่งงานแข่งเ๋เขียนหัวข้อแบบล้ำๆเลย
00:07:21 → 00:07:25 ตอนนั้นทำ AI สแกนบัประชาชนสแกนใบหน้า
00:07:25 → 00:07:28 สแกนป้ายทะเบียนรถส่งงานแข่งเลยโดยที่ณ
00:07:28 → 00:07:30 วันนั้นเนี่ยผมยังเขียนเยไม่เป็นด้วยซ้ำ
00:07:30 → 00:07:33 แต่ว่ามีเวลาให้ผม 3 เดือนที่ผมจะต้องทำ 3
00:07:33 → 00:07:36 สิ่งนี้ให้เสร็จก็โอ้โหโหหามรุ่งหามค่ำ
00:07:36 → 00:07:39 เลยครับตอนนั้นเพื่อที่รู้สึกว่าเอ้ยสิ่ง
00:07:39 → 00:07:41 สิ่งนี้ครับจากจากที่ฟังเนี่ยมันน่าจะ
00:07:41 → 00:07:43 เป็นอนาคตอันไกลแล้วมันน่าจะต่อยอดอะไร
00:07:43 → 00:07:48 ได้ีเยอะผมไปลงลึกกับมันมากๆอนะครับกับ
00:07:48 → 00:07:50 อีกจุดนึงคือผมว่าผมไม่ชอบเรียนแล้วการ
00:07:51 → 00:07:53 ที่ผมไปอยู่โรงเรียนประจำทำไงให้ออกมานอก
00:07:53 → 00:07:57 เรียนได้บ้างอืก็เลยหางานแข่งส่งส่งส่ง
00:07:57 → 00:07:59 งานแข่งไปซึเหมือนก็ไม่ได้มีแค่เรื่องชอบ
00:07:59 → 00:08:01 อันนี้ทำเองพ่อแม่ไม่ได้ไกดไม่ได้อะไรเลย
00:08:01 → 00:08:06 อ่าใช่ครับทำเองโอเคก็ตอนนั้นอ่าอย่าง
00:08:06 → 00:08:08 โน้ตบุ๊กเครื่องแรกของผมก็ก็ซื้อด้วยการ
00:08:08 → 00:08:11 เก็บเงินค่าขนมช่วงประถมวันละ 40 บาทนะ
00:08:11 → 00:08:14 ตอนนั้นนแล้วก็ก็จะมีเงินอ่างเปาที่มันก็
00:08:14 → 00:08:17 จะสัก 23,000 ประมาณนี้ครับก็รวมๆกันได้
00:08:17 → 00:08:20 ตอนนั้นสักประมาณ 20,000 กว่าบาทเซื้อคอ
00:08:20 → 00:08:23 เครื่องแรกนะครับก็ก็เริ่มเริ่มต้นจากตรง
00:08:23 → 00:08:27 นั้นมาครับผมแล้วก็แต่โอเคคุณคุณแม่ก็ก็
00:08:27 → 00:08:30 เข้าใจแล้วก็พยายามที่จะส่งเสริมในในบัง
00:08:30 → 00:08:33 เหมือนกันครับโดยที่เอ้ยมีคอร์สอยู่ที่
00:08:33 → 00:08:36 กรุงเทพฯก็ผมบอกเอ้ยอยากเรียนคุณแม่ก็อ่ะ
00:08:36 → 00:08:39 พาขึ้นมาเรียน 3 2-3 วันประมาณนี้ครับ
00:08:39 → 00:08:41 ตอนนี้ไปเรียนเรื่องเน็ตเวิร์กเรื่องอะไร
00:08:41 → 00:08:44 ต่างๆประมาณนั้นครับแล้วก็อีกออีกเหตุผล
00:08:44 → 00:08:47 นึงที่ผมชอบงานแข็งมากเพราะว่าผมไม่ชอบ
00:08:47 → 00:08:49 เรียนหนังสือผมรู้สึกว่าสมมุติว่าผมอยาก
00:08:49 → 00:08:52 เข้าวิศวะคอมเนี่ยครับทำไมผมต้องไปเรียน
00:08:52 → 00:08:55 เคมีด้วยทำไมผมต้องไปเรียนภาษาไทยเอาได้
00:08:55 → 00:08:58 เกด 4 หรือทำไมผมต้องไปสอบไม่รู้กี่วิชา
00:08:58 → 00:09:01 เพื่อที่ผมแคอยากเรียนคอมมันก็เลยเป็นผม
00:09:01 → 00:09:03 ที่แล้วมันมีทางที่ผมจะได้เข้าเรียนคอม
00:09:03 → 00:09:06 โดยที่ผมไม่ต้องสอบสิ่งเหล่านี้ไว้ 1 ใน
00:09:06 → 00:09:09 ทางนั้นก็คือการพวกการส่ง portfolio หรือ
00:09:09 → 00:09:13 ว่าโอลิมปิกอืออ่ะมันก็เลยเหลที่ผมก็เลย
00:09:13 → 00:09:16 ไม่เข้าเรียนเลยเปิดเทอมมาปุ๊บก็ดูแค่ว่า
00:09:16 → 00:09:20 แต่ละวิชานะครับพอผ่านของมันเนี่ยส่งอะไร
00:09:20 → 00:09:23 บ้างอือสมมุติว่าเข้าเรียนได้ข้างละ 1
00:09:23 → 00:09:27 คะแนนเนี่ยผมไม่เข้าเลยเพราะว่าเฮ้ยรวมๆ
00:09:27 → 00:09:29 กันมันก็รวมๆทั้งเทอมเเข้าเรียนตั้งไม่
00:09:29 → 00:09:32 รู้กี่ชั่วโมงได้แค่ 10 คะแนนเองอือะไร
00:09:32 → 00:09:34 เงี้ยครับแต่ถ้าเอ้ยทำเกรดลงมาสักหน่อย 3
00:09:34 → 00:09:37 แต่สมมุติผมได้สักเกด 3 เนี่ยผมก็จะมีเรน
00:09:37 → 00:09:39 อยู่ประมาณ 30 คะแนนที่ผมไม่ต้องเอาเวลา
00:09:39 → 00:09:42 ไปเสียกับ 30 คะแนนตรงนี้องั้นผมก็จะทำ
00:09:42 → 00:09:44 ให้ส่งพอผ่านก็พอเออนะครับแล้วจะได้เอา
00:09:44 → 00:09:46 เวลาที่เหลือเนี่ยไปทำในสิ่งที่อยากจะทำ
00:09:47 → 00:09:49 ไปส่งงานแข่งบ้างไปเตรียมตัวเพื่อสอบ
00:09:49 → 00:09:51 โอลิมปิกบ้างหรืออะไรต่างๆแล้วได้สอบมย
00:09:52 → 00:09:54 โอลิมปิกโอลิมปิกก็ก็ได้ครับแล้วก็ได้
00:09:54 → 00:09:58 คะแนนสูงสุดของภาคใต้แล้วได้เป็นอ่าเข
00:09:58 → 00:10:00 ค่ายต่อเป็นแบบตัวระดับประเทศเอ้ยระดับ
00:10:01 → 00:10:03 นานาชาติแต่ว่าก็ก็ไม่ได้ไม่ได้ไปต่อใน
00:10:03 → 00:10:07 นานาชาติใช่ครับแต่ก็ตอนนั้นก็ลาลาเรียน 1
00:10:07 → 00:10:11 อาทิตย์เลยครับมาเพื่อนั่งนั่งสอบแบบนั่ง
00:10:11 → 00:10:13 นั่งอ่านหนังสือเพื่อเพื่อเตรียมสอบอย่าง
00:10:13 → 00:10:15 เดียวแบบนั่งเขียนโปรแกรมพวกนี้แหละครับ
00:10:15 → 00:10:17 อือแล้วก็โรงเรียนผมออยู่โรงเรียนประจำ
00:10:17 → 00:10:19 โรงเรียนวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ว่าเอ้ยมันจะ
00:10:19 → 00:10:21 เป็นข้อดีเสมอไปนะครับเพราะโรงเรียนประจำ
00:10:21 → 00:10:24 1 คือห้ามเอาโทรศัพท์ไป 2 คือโน้ตบุ๊ก
00:10:24 → 00:10:27 เก็บเป็นเวลาอืเพราะงั้นเนี่ยโอ้โหจำกัด
00:10:27 → 00:10:30 ว่าโนตบุ๊คใช้ได้หลัง 1600 นจนถึง 22:00
00:10:30 → 00:10:33 นเวลาที่ผมมีให้กับคอมพิวเตอร์ผมก็น้อยลง
00:10:33 → 00:10:37 ละหรือโทรศัพท์ที่สมมติคิดอะไรออกเสิได้
00:10:37 → 00:10:39 เลยก็ไม่สามารถทำได้แล้วก็ต้องรอไปตอน
00:10:39 → 00:10:42 เย็นถูกมั้ยฮแต่ก็ก็แอบเอาไปกันโน้ตบุ๊ก
00:10:42 → 00:10:45 ก็อใส่หนังสือหนักๆเข้าไปในกระเป๋าเวลา
00:10:45 → 00:10:48 คืนครูแล้วก็แอบเอาขึ้นไปหอเวลาหลังจาก
00:10:48 → 00:10:51 ที่คืนคอมแล้วเนี่ยเราจะได้มีเวลาต่ออยู่
00:10:51 → 00:10:53 กับมันอยู่กับในสิ่งที่เราชอบอะไรเงี้
00:10:53 → 00:10:56 ครับก็ก็เป็นเป็นเวยที่โอเคอาจจะไม่ได้
00:10:56 → 00:10:59 ถูกต้องตามกฎแต่ว่ามันก็ทำให้เข้าถึงเป้า
00:10:59 → 00:11:02 หมายได้ไกล้กว่าอะไรประมาณนี้ครับแล้วเรา
00:11:02 → 00:11:05 มีเพื่อนมยเเราทำตัวแบบนี้เนี่ยเราถือว่า
00:11:05 → 00:11:08 เมองว่าเราเป็นเด็กเนิสหรืออะไรมยเอจริงๆ
00:11:08 → 00:11:10 ในในเชของการเข้าสังคมก็เข้าปกติครับก็มี
00:11:10 → 00:11:13 เพื่อนสนิทเพื่อนอะไรต่างๆแล้วก็ผมก็จะ
00:11:13 → 00:11:16 พยายามจะสร้างสังคมของตัวเองเพราะว่าเอ้ย
00:11:16 → 00:11:18 แน่นอนเวลาเวลาเราแข่งผมว่าถ้าเราถ้าเรา
00:11:18 → 00:11:19 ไม่ได้เจอคนที่ชอบเหมือนกันมันก็จะ
00:11:19 → 00:11:21 เหนื่อยหน่อยเราก็ต้องทำทุกอย่างคนเดียว
00:11:21 → 00:11:24 ก็เลยพยายามสร้างสร้างกลุ่มเพื่อนที่เฮ้ย
00:11:24 → 00:11:28 อ่าหาทำสิ่งคล้ายๆกันทำเหมือนๆกันชอบคอ
00:11:28 → 00:11:31 เหมือนกันก็จับมาร่วมกลุ่มแล้วก็แข่งกัน
00:11:31 → 00:11:34 ซึ่งตอนนี้คนที่รวมกลุ่มก็ก็เป็นหนึ่งใน
00:11:34 → 00:11:38 ฟอร์ของของบริษัทณตอนนี้ด้วยดีๆๆประมาณ
00:11:38 → 00:11:41 นั้นครับแล้วเราเราทำยังไงให้อยู่ห่างไกล
00:11:41 → 00:11:45 จากพวกสารเสพติดทั้งหลายตอนนั้นอ่าผมว่า
00:11:45 → 00:11:48 พอพอเราเห็นว่าเราเราอยากจะทำอะไรชัดเจน
00:11:48 → 00:11:51 นะครับแบบโอเคผมตอนนั้นผมอยากเข้าีอคอม
00:11:51 → 00:11:54 จุฬามากๆเราเราก็จะพุ่งมุ่งแค่สิ่งนี้ผม
00:11:54 → 00:11:57 ผมจะคิดกับตัวเองแบบนี้ตลอดครับว่าเคเรา
00:11:57 → 00:11:59 อยากอยากจะนอนสบายในวันเนี้ยหรือว่าเรา
00:11:59 → 00:12:02 อยากจะไปนอนในสักประเทศหนึ่งอยู่บนกอง
00:12:02 → 00:12:05 หิมะในวันข้างหน้าออประมาณนั้นนั้นคือ
00:12:05 → 00:12:07 นั่นคือจุดเริ่มต้นแรกที่เอ้ยก็เลยอ่ะ
00:12:07 → 00:12:10 โฟกัสเลยโฟกัสพุ่งกับตรงนี้ส่วนตัวเดี๋ยว
00:12:10 → 00:12:12 ค่อยไปสบายกันวันหน้าก็ได้วันหน้าอย่าง
00:12:12 → 00:12:14 น้อยสบายตอนนี้สบายแต่ไม่มีตังค์นะตอนนี้
00:12:14 → 00:12:16 ยังนอนอยู่ในโรงเรียนประจำนะแต่ว่าเอ้ย
00:12:16 → 00:12:18 ทำไมวันนอย่างน้อยอ่ะอาจจะไม่ได้มีเยอะก็
00:12:18 → 00:12:21 ได้แต่อย่างน้อยมันก็มันก็จะดีกว่าณวัน
00:12:21 → 00:12:23 นี้อี้ครับเราก็ไม่ต้องมาเหนื่อยทีละแบบ
00:12:23 → 00:12:26 เหนื่อยให้สุดไปเลยอย่างน้อยตอนนี้อันนึง
00:12:26 → 00:12:29 คือยังนอนหนึกได้ยังทำได้เต็มที่แล้วผม
00:12:29 → 00:12:30 อยู่โรงเรียนประจำพ่อแม่ห้ามอะไรไม่ได้
00:12:30 → 00:12:33 อยู่แล้วเพราะเไม่มีทางเห็นโทรศัพท์ก็ก็
00:12:33 → 00:12:35 แทบจะเอาไปไม่ได้อยู่แล้วอะไรเงี้เก็ต้อง
00:12:35 → 00:12:37 แอบใช้แอบอะไรต่างๆเไม่มีทางรับรู้เลยว่า
00:12:37 → 00:12:40 ผมทำอะไรอยู่บ้างมนอนดึกอะไรต่างๆห้ามไม่
00:12:40 → 00:12:43 ได้อยู่ละอะไรประมาณนี้แล้วคือยุคของ
00:12:43 → 00:12:45 โซเชียลมีเดียมันก็จะมีอะไรที่มันดึง
00:12:45 → 00:12:48 สมาธิเราไปตลอดนะครับผมทั้งหนังบ้างทั้ง
00:12:48 → 00:12:51 ช่อง YouTube บ้างทั้งช็อตคลิปบ้างสมัย
00:12:51 → 00:12:54 นั้นอาจจะยังไม่มีช็อตแต่มันก็จะมีอะไรมี
00:12:54 → 00:12:57 เกมบ้างมีอะไรบ้างผมเชื่อว่ามันก็คงไม่มี
00:12:57 → 00:12:59 ใคร 100% หรอกที่แบบโอ้โหเป็นเส้นตเลยเอา
00:12:59 → 00:13:02 ชนะพวกนี้ได้แล้วเราบริหารยังไงไม่ให้แบบ
00:13:02 → 00:13:05 เราเขวหรือไม่ได้แบบจมไปกับพวกนั้นมาก
00:13:05 → 00:13:08 ครับจถามว่าเกมณยุคนั้นก็ก็มีเล่นบ้าง
00:13:08 → 00:13:11 ครับมีอะไรบ้างแต่พอพอรู้สึกว่านี่คือ
00:13:11 → 00:13:14 เป้าหมายที่ที่เราอยากจะไปแล้วผมรู้สึก
00:13:14 → 00:13:17 ว่าในการที่ได้ทำมันหรือได้เรียนรู้ที่
00:13:17 → 00:13:19 เข้าใจมันมากขึ้นนะครับอย่างอย่าในเรื่อง
00:13:19 → 00:13:21 ของ A ผมรู้สึกว่าผมสนุกกับตรงนี้มันมาก
00:13:21 → 00:13:24 กว่าอือรือว่าเอ้ยวันนี้สามารถทำของใหม่
00:13:24 → 00:13:28 ได้เฮ้ยโอโหรู้สึกแฮปปี้กับตัวเองมากผม
00:13:28 → 00:13:30 รู้สึกว่าเอ้ยสิ่งเเนี่ยมันแฮปปี้กว่าการ
00:13:30 → 00:13:33 ที่ผมไปนั่งหัวร้อนเล่นเกมกด rov ตี rov
00:13:33 → 00:13:35 อยู่อะไรเงี้ยครับก็เลยรู้สึกว่าเกมมันก็
00:13:35 → 00:13:38 ค่อยๆห่างหายไปอืหอย่างอย่าวดีโอโอเค
00:13:38 → 00:13:41 วดีโอบันเทิงก็ดูบ้างเพื่อขายเครียดแต่
00:13:41 → 00:13:44 ว่าถามว่าติดมันขนาดมมันก็จะมีความคิดแบบ
00:13:44 → 00:13:48 เฮ้ยอยากทำตรงนี้เพิ่มจังเลยเออก็ก็จะปิด
00:13:48 → 00:13:51 แล้วก็เอมันลองแบบนี้ดูซิเพราะว่าอย่างๆ
00:13:51 → 00:13:53 เวลาที่เราทำมันก็ไม่ได้มีมีว่าเราเราจะ
00:13:53 → 00:13:56 ทำมันได้ Perfect ทุกๆครั้งอยู่บางครั้ง
00:13:56 → 00:14:00 ทำแล้วเอ้ยผิดพลาดคิดไม่ออกก็ไปไปนั่งทำ
00:14:00 → 00:14:02 อย่างอื่นผ่อนคลายสมองไปไปนั่งเล่นเกม
00:14:02 → 00:14:05 บ้างไปนั่งดูซีรียส์ดูอะไรบ้างแล้วก็เอ้ย
00:14:05 → 00:14:09 เริ่มคิดออกละก็จะหยุดุเรากลับมาทำต่อ
00:14:09 → 00:14:11 อย่างเงี้ครับแต่ว่าเอ้ย 1 คือมันไม่ได้
00:14:11 → 00:14:14 ใช้ได้แค่การทำสิ่งนี้ครับผมผมไม่ได้ไม่
00:14:14 → 00:14:16 ได้มองว่ามันเสร็จตรงนี้แล้วจบเหมือนการ
00:14:16 → 00:14:19 ส่งการบ้านแต่ว่ามันคือสิ่งนึงที่มันจะ
00:14:19 → 00:14:21 ติดตัวเราไปตลอดการที่เราอัปเกรดสิ่งนี้
00:14:21 → 00:14:24 ของตัวเองอครับมันเหมือนมันอัปเกรดไปทั้ง
00:14:24 → 00:14:26 ชีวิตหลังจากนี้ของเราเลยนะอย่างเงี้ครับ
00:14:26 → 00:14:28 กถ้าอเรามองว่าเราส่งการบ้านส่งแล้วมันก็
00:14:28 → 00:14:29 จบ
00:14:29 → 00:14:31 มองแนั้นไปมันมันก็มันก็จะเป็นมุมมองที่
00:14:31 → 00:14:36 ค่อนข้างต่างกันโฟกัสได้นานคิดถึงสมัยตอน
00:14:36 → 00:14:38 อยู่มหาวิลัยไม่รู้ทันรือเปล่าช่วงนั้น
00:14:38 → 00:14:41 นี่คือ counterstrike อ่าโอ counterstrike
00:14:41 → 00:14:45 เหมือมันฮิตมากแล้วมันก็ติดมากนะแล้วคนก็
00:14:45 → 00:14:48 เล่นกันจนกลางๆนแบบเล่นยันเช้าเลยนะใช่
00:14:48 → 00:14:51 ครับแล้วก็นอนตื่นไม่ได้ไปเรียนไม่ได้ไป
00:14:51 → 00:14:55 อะไรนะครับผมผมก็เคยพลาดนะแต่
00:14:56 → 00:15:01 ว่าผมก็โชคดีตรงที่ว่าผมผมชัดว่าผมต้อง
00:15:01 → 00:15:04 ต้องหลุดต้องไปถึงเป้าตัวเองอะไรแต่มันก็
00:15:04 → 00:15:07 มีของพวกนี้ดึงตลอดเวลานะให้เราผมก็อยาก
00:15:07 → 00:15:10 เล่นนะตอนนั้นแบบเออแต่ว่าคุมตัวเองสุดๆ
00:15:10 → 00:15:12 เลยไม่ได้ไม่ได้เราต้องอ่านหนังสือเรา
00:15:12 → 00:15:15 ต้องเรามีเป้าของเราชัดเจนนะอือแต่ผมเห็น
00:15:15 → 00:15:20 หลายๆคนนะที่ที่หมดไปกับตรงเนี้ยเข้าใจ
00:15:20 → 00:15:23 แล้วเพราะว่าเป้าไม่ชัดนะพอเป้าไม่ชัด
00:15:23 → 00:15:27 เนี่ยผมมีเพื่อนคนนึงไปด้วยกันแหละแต่ว่า
00:15:27 → 00:15:30 ก็คือเไม่ได้บอกเค้าผิดนะแต่ไม่รู้ผมผมก็
00:15:30 → 00:15:32 รู้สึกว่าเป้าเ้าไม่ได้ชัดมากเพอเไม่ได้
00:15:33 → 00:15:37 ชัดเนี่ยเาโดน distract ง่ายโดนโดดึงออก
00:15:37 → 00:15:41 จากจากเส้นของเขาง่ายมากก็กว่าเขาจะจบ
00:15:41 → 00:15:45 กว่าเขาจะหาจุดยืนก็ครับเท่าที่ผมจับ
00:15:45 → 00:15:49 ประเด็นที่คุณเพชรพยายามจะแนะนำหรือเท่า
00:15:49 → 00:15:51 ที่ผมวิเคราะห์ก็คือนี่แหละคุณเพชรหลุด
00:15:51 → 00:15:56 จากวงจรพวกสารเสพติดเอ่อการรบกวน
00:15:56 → 00:15:59 distraction ทั้งหลายเนี่ยแล้วก็ตรงไป
00:15:59 → 00:16:02 สู่เป้าหมายได้เร็วกว่าชาวบ้านเนี่ยนะใน
00:16:02 → 00:16:05 ายุน้อยก็อาจจะเป็นเพราะว่าเรากำหนดเป้า
00:16:05 → 00:16:09 เราชัดเจนใช่ครับแล้วก็แล้วก็เราสนุกกับ
00:16:09 → 00:16:14 เป้าเรานะผมว่านะถ้าจะได้เก็บสกัดจากตรง
00:16:14 → 00:16:18 นี้ไปสำหรับวัยรุ่นที่ฟังคลิปนี้เนี่ยก็
00:16:18 → 00:16:21 อาจจะกลับไปทบทวนตัวเองนิดนึงว่าตอนนี้
00:16:21 → 00:16:25 เนี่ยเรามีเป้าของเราชัดเจนมั้ยแล้วก็
00:16:25 → 00:16:28 เป้านั้นเนี่ยเราสนุกกับมันมั้ยครับผม
00:16:28 → 00:16:30 เพราะว่าถ้าถเรามีเป้าชัดเจนแล้วเราสนุก
00:16:30 → 00:16:34 กับมันเนี่ยมันจะเป็นแรงต้านกับสิ่งเร้า
00:16:34 → 00:16:37 หลายๆอย่างรอบตัวเราอวัยวุกทั้งหลายเนี่ย
00:16:37 → 00:16:40 เราจะเราน่าจะต้านมันได้ระดับนึงอาจจะไม่
00:16:40 → 00:16:43 100% แต่อย่างน้อยมันจะค Track ให้เรา
00:16:43 → 00:16:46 อยู่ในในในในเส้นทางที่จะมุ่งเราไปสู่
00:16:46 → 00:16:49 เป้าของเราอนะครับกผมว่าอีกอันนึงที่น่า
00:16:49 → 00:16:55 น่าจะฮคคนส่วนใหญ่เลยคือคนรอบตัวอืไม่ว่า
00:16:55 → 00:16:58 จะเป็นเพื่อนหรือพ่อแม่เองก็ตามเพราะว่า
00:16:58 → 00:17:03 อ่ะสมมุติว่าอย่างอย่างผมเริ่มเริ่มแข่ง
00:17:03 → 00:17:05 เยอะๆหต่างๆพอไม่ได้เรียนเกดดอกเงี้ยครับ
00:17:05 → 00:17:08 พอไม่มาแล้วแบบทำไมเกดน้อยอะไรอย่าเงี้ย
00:17:08 → 00:17:12 ครับซึ่งหลายๆคนก็จะโอเคก็กลับมาโฟกัสเกด
00:17:12 → 00:17:15 ให้พ่อแม่สบายใจอืออะไรเงี้ครับหรือแบบ
00:17:15 → 00:17:18 พ่อแม่หลายคนก็เอ้ยตั้งใจเรียนไปก่อนแล้ว
00:17:18 → 00:17:20 สิ่งที่อยากทำเดี๋ยวค่อยไปทำหลังเรียนจบอ
00:17:20 → 00:17:23 แต่สมันจะได้ทำจริงรึเปล่าเออจริงอันนี้
00:17:23 → 00:17:26 ก็เป็นอีกอีกมุมมองนึงเพราะว่าเหมือนกับ
00:17:26 → 00:17:30 พ่อแม่ก็จะมีตัวชวัอันนึงว่าเด็กจะต้อง
00:17:30 → 00:17:34 สอบผ่านต้องคะแนนดีใช่อืๆซึ่งซึไม่ไม่ผิด
00:17:34 → 00:17:37 นะครับที่ที่คนั้นเพราะโอเคในจุดประสงค์
00:17:37 → 00:17:40 จริงเขาเป็นความหวังดีที่เขางใหญ่เราแต่
00:17:40 → 00:17:42 ในมุมในมุมของผมเนี่ยผมรู้สึกว่าโอเคพ่อ
00:17:42 → 00:17:46 แม่เขาเดินผ่านมาแบบนึงอืแต่ว่าผาที่เรา
00:17:46 → 00:17:48 กำลังที่เราแบบตั้งใจที่อยากจะทำอนะเไม่
00:17:48 → 00:17:51 เคยเดินตรงนี้มาก่อนอืงั้นการที่เขาแนะนำ
00:17:51 → 00:17:53 ในสิ่งที่เขาไม่เคยเดินมาก่อนเไม่มีทาง
00:17:53 → 00:17:57 ที่จะรู้จริงอือไปมากกว่าเราอือหรือถ้า
00:17:57 → 00:17:59 เราอยากจะรู้ในผานี้เพิ่มมากขึ้นเราแค่ไป
00:17:59 → 00:18:03 หาคนที่เเคยเดินผ่านนี้มาก่อนอืจะแนะนำ
00:18:03 → 00:18:05 ได้นี้มากกว่าแบบโอเคไม่ได้หมายความว่า
00:18:05 → 00:18:08 สิ่งที่พ่อแม่แนะนำมันผิดแต่แค่ไม่จำเป็น
00:18:08 → 00:18:12 ที่จะต้องเชื่อหรือแบบทำตาม 100% เพราะเ
00:18:12 → 00:18:14 ไม่เคยเดินผ่านนี้มาเหมือนกันเขาก็เดินใน
00:18:14 → 00:18:17 ผ่านที่เขาเดินมาเขามีความ success หรือ
00:18:17 → 00:18:20 ความสุขในแบบของเขาแต่ว่านี่นี่คือพของ
00:18:20 → 00:18:23 เราที่มันแตกต่างกันอย่าเงี้ครับอืคุณ
00:18:23 → 00:18:25 เพชรไม่ได้บอกว่าไม่ต้องฟังพ่อแม่แล้วคุณ
00:18:25 → 00:18:29 เพชรก็ไม่ได้บอกว่าพ่อแม่แนะนำผิดนะครับ
00:18:29 → 00:18:31 ถูกแต่ว่าเส้นทางอาจจะไม่เหมือนกันแต่
00:18:31 → 00:18:35 สำหรับวัยรุ่นก่อนที่เราจะไปต้านพ่อแม่
00:18:35 → 00:18:37 หรือไม่ฟังเค้าเนี่ยเราต้องเมคชัวร์ก่อน
00:18:37 → 00:18:40 ว่าเรารู้จริงว่าเราอยากจะทำอะไรอืใช่
00:18:40 → 00:18:43 ครับเราต้องชัดระดับนึงไม่ต้อง 100% หรอก
00:18:43 → 00:18:46 ครับภาพอ่ะมันไม่ต้อง 100% มันก็แค่รู้
00:18:46 → 00:18:51 ว่าเราอยากจะเดินทางไหนอือและเรามีคนที่
00:18:51 → 00:18:54 เดินเส้นทางที่เราเคยทำอยู่แล้วอือปรึกษา
00:18:54 → 00:18:58 เค้าด้วยใช่ครับครับไม่ใช่ว่าปฏิเสธพ่อ
00:18:58 → 00:19:00 แม่แต่ว่าตัวเองไม่รู้เลยเออพ่อแม่ไม่รู้
00:19:01 → 00:19:03 หรอกไม่รู้หรอกแต่ว่าตัวเองไม่ได้ให้การ
00:19:03 → 00:19:05 บ้านไม่ได้ให้ไม่ได้ทำการบ้านกับตนเองพอ
00:19:05 → 00:19:08 สมควรใช่ครับผมว่ายิ่งๆยุคที่
00:19:08 → 00:19:11 โซเชียลมีเดียมันแบบเราสามารถกดทักไปหา
00:19:11 → 00:19:14 ใครก็ได้เลยอครับอย่างน้อยสมมุติคนเดิน
00:19:14 → 00:19:17 ทางนี้มีสัก 100 คนน่ะเราลองทักไป 100 คน
00:19:17 → 00:19:19 หรือยังแต่สมมุติสัก 90 คนไม่ตอบแต่ถ้ามี
00:19:19 → 00:19:22 สักคนนึงที่ตอบเนี่ยแค่นั้นเราก็อันนี้ละ
00:19:22 → 00:19:26 ครับออืใตอนเผมก็เลยไลแฟนไปทั่วหมดเลย
00:19:26 → 00:19:31 ครับี่ชื่นชมชื่นชมสุดท้ายนี้คุณเพชร้า
00:19:31 → 00:19:37 อยากจะแนะนำพ่อแม่เรื่องการศึกษาของลูก
00:19:37 → 00:19:41 อยากจะแนะนำประมาณไหนดีว่าการศึกษา
00:19:41 → 00:19:45 ปัจจุบันที่มันไม่น่าจะทันยุคของ AI ละ
00:19:45 → 00:19:48 ครับครับผมว่าโอเคอาจจะต้อง 1 คืออาจจะ
00:19:48 → 00:19:51 ให้คุณพ่อแม่เข้าใจในระบบการศึกษาที่เป็น
00:19:51 → 00:19:53 ณตอนนี้ก่อนผมไม่ได้บอกว่าการศึกษาณตอน
00:19:53 → 00:19:57 นี้มันผิดแต่ผมมองว่ามันอาจจะช้าเกินไป
00:19:57 → 00:19:59 ถ้าลองมองย้อนกลับไปด้วยตัวของระบบการ
00:20:00 → 00:20:02 ศึกษาที่เขาพยายามจะสร้างคนเครับเพยายาม
00:20:02 → 00:20:05 จะสร้างแรงงานชั้นเลิศถูกมยฮะเพราะว่าใน
00:20:05 → 00:20:08 ยุคก่อนหน้านี้แล้วกันนะครับในยุคที่
00:20:08 → 00:20:11 อุตสาหกรรมกำลังตั้งในไทยแน่นอนใครเรียน
00:20:11 → 00:20:14 จบตีจบโทรคนนั้นได้เงินเดือนเยอะนั่นคือเ
00:20:14 → 00:20:16 นึงในการประสบความซึ่งการศึกษาก็พยายาม
00:20:16 → 00:20:19 ร้อกับสิ่งนั้นแต่ในในทุกวันนี้ที่โลกมัน
00:20:19 → 00:20:21 เริ่มเปลี่ยนไปการศึกษาอาจจะไม่ได้
00:20:21 → 00:20:22 เปลี่ยนตามงั้นเราอจะต้องเข้าใจจุด
00:20:23 → 00:20:25 ประสงค์ของการศึกษาที่มันสร้างขึ้นมาแต่
00:20:25 → 00:20:28 เราก็ต้องเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ครับโอเค
00:20:28 → 00:20:30 เราอาจจะไม่ต้องเกด a ทั้งหมดกับสิ่งนี้
00:20:30 → 00:20:32 เพราะว่าถ้า a ทั้งหมดสิ่งนี้คือเหมือน
00:20:32 → 00:20:35 เราโฟกัสเพื่อที่จะเป็นไอ้นี้มากแบบในใน
00:20:35 → 00:20:37 ทางที่เขาอยากให้เดินมากกว่าเราแค่เอ้ย
00:20:37 → 00:20:40 ตรงไหนที่มันประโยชน์เราก็เฟเฟไว้ตรงไหน
00:20:40 → 00:20:44 ที่เอ้ยเรารู้สึกว่ามันมันไม่ได้ไม่ได้
00:20:44 → 00:20:48 เหมาะกับเราเราก็แค่ทำยังไงก็ได้ที่ Take
00:20:48 → 00:20:50 effort กับมันน้อยที่สุดแต่ก็ไม่ไปพัง
00:20:50 → 00:20:53 อย่างอื่นของเราในอนาคตของเราด้วยสมมติ
00:20:53 → 00:20:55 ว่าถ้าผมไม่รักษาเกดเลยผมได้เกดสุมทุกตัว
00:20:55 → 00:20:58 เนี่ยแน่นอนว่าจุฬาก็ไม่มีทางลับงั้นผมก็
00:20:58 → 00:21:00 ต้องต้องโอเคประคองไว้แต่ก็ Take effort
00:21:00 → 00:21:03 กับมันให้น้อยที่สุดแล้วก็เอาเวลาให้ส่วน
00:21:03 → 00:21:06 อื่นนะครับไปในทำในสิ่งที่เราอยากจะโฟกัส
00:21:06 → 00:21:10 มันมากที่สุดแล้วก็ถ้าพ่อคุณแม่คุณแม่
00:21:10 → 00:21:13 อยากจะสอนได้ลูกผมว่าอาจจะต้องให้เขาเจอ
00:21:13 → 00:21:16 ให้ไวว่าว่าเขาชอบอะไรผมเข้าใจว่าโอเค
00:21:16 → 00:21:20 หลายๆบ้านอาจจะไม่ได้มี budget มากพอที่
00:21:20 → 00:21:23 จะให้เขาได้ได้ลองผิดลองทูกเยอะขนาดนั้น
00:21:23 → 00:21:25 แต่เพราะว่าในในยุคที่โซเชียล Media มัน
00:21:25 → 00:21:27 เปิดกว้างมากๆหรือว่าอินเทอร์เน็ตมันเข้า
00:21:27 → 00:21:30 ถึงข้อมูลในทุกอย่างครับเรามีสิทธิ์ที่จะ
00:21:30 → 00:21:33 ได้เรียนรู้หลายๆอย่างจากแค่การดูคลิปห
00:21:33 → 00:21:35 เราก็จะพอว่าเอ้ยเราน่าจะชอบสิ่งนี้เรา
00:21:35 → 00:21:39 อยากจะทุ่มกับสิ่งต่างๆอะไรี้ครับแล้วทาง
00:21:39 → 00:21:41 เลือกของอาชีพทางเลือกของการสร้างเงินมัน
00:21:41 → 00:21:45 มันมีเยอะมากออาจจะต้องลองลองมองย้อนกลับ
00:21:45 → 00:21:49 มาครับว่าถ้า้าอันนี้อาจจะ Advice คนรุ่น
00:21:49 → 00:21:51 เดียวกันด้วยแล้วกันครับว่าถ้าอยากจะตั้ง
00:21:51 → 00:21:54 เป้าหมายบางทีเป้าใกล้ๆบางทีเราอาจจะคิด
00:21:54 → 00:21:56 ไม่ออกหรอกว่าเอ้ยแล้วจริงๆแล้วเราอยาก
00:21:56 → 00:21:59 เป็นอะไรเราอยากจะเรียนอะไรแต่อาจจะลอง
00:21:59 → 00:22:02 ตั้งย้อนกลับมาผมว่าอ่ะทีนี้ผมพอดีผม
00:22:02 → 00:22:04 บังเอิญได้ไปอ่านหนังสูรเล่มนึงแล้วเแนะ
00:22:04 → 00:22:07 นำี้ครับว่าเราลองตั้งจากตอนที่เราตายดู
00:22:07 → 00:22:09 สิแล้วค่อยๆคิดกลับมาจะเห็นได้ว่าทางมัน
00:22:09 → 00:22:11 เยอะมากเลยสมมุติว่าเราบอกว่าตอนตายเรา
00:22:11 → 00:22:13 อยากจะอ่าก่อนตายเราอยากจะอยู่
00:22:13 → 00:22:16 สวิตเซอร์แลนด์มีลูกสัก 2 คนมีหมาตัวนึง
00:22:16 → 00:22:19 ในบ้านหลังสักอ่าหลังใหญ่หน่อยมีพื้นที่
00:22:19 → 00:22:23 ให้สุนัขได้วิ่งเล่นได้อะไเงี้ครับลองคิด
00:22:23 → 00:22:25 ย้อนกลับมาทำไงที่เราถึงสิ่งเโหผ่านมันมี
00:22:25 → 00:22:28 เป็นล้านเลยแล้วค่อยๆคิดย้อนกลับมาไม่
00:22:28 → 00:22:30 งั้นเส้นทางเดิเราจะไม่ได้สติกแค่เส้น
00:22:30 → 00:22:32 เดียวสมมติมันผิดพลาดมันไม่ได้ตามที่เรา
00:22:32 → 00:22:34 ต้องการเฮ้ยมันยังมีอีกหลายเส้นนะที่เรา
00:22:34 → 00:22:37 จะไปถึงสิ่งนี้ได้อยู่ดีครับเงี้ครับอัน
00:22:37 → 00:22:42 นี้ผมทำตอน 20 ปีที่แล้วอผมทำแล้ว
00:22:42 → 00:22:46 ก็ผมก็เคยมีเป้าของตัวเองแต่ว่าเป้าผมไม่
00:22:46 → 00:22:49 ได้ตั้งต้นด้วยเงินครับผมเป้าผมตอนนั้น
00:22:49 → 00:22:54 ตั้งต้นด้วยลักษณะชีวิตอืก็คือว่าอันนี้
00:22:54 → 00:22:58 ผมก็สอนคนที่ผมรักตลอดนะว่าครับ
00:22:58 → 00:23:01 อย่าเพิ่งไปเอาเงินก่อนเก็บเรื่องเงินใช่
00:23:01 → 00:23:03 แค่ปิดตาผมจะบอกว่าปิดตาแล้วลองจินตนาการ
00:23:03 → 00:23:04 ดู
00:23:04 → 00:23:11 ว่าณอายุนี้เราอยากอยู่ที่ไหนใช่แบบไหน
00:23:11 → 00:23:14 แล้วหันไปแล้วคนรอบข้างเป็นอย่างไรอ่าใช่
00:23:14 → 00:23:18 เลยครับก็คือให้วาดภาพจะวาดออกมาหรือปิด
00:23:18 → 00:23:22 ตาแล้วจินตนาการแล้วผมทำนะแต่ว่ามันเกิด
00:23:22 → 00:23:24 ขึ้นมาเองไม่รู้มันมาของผมมาเองนะคือผม
00:23:24 → 00:23:27 ไม่ได้บอกว่าผมเก่งหรือผมถูกหรือผมอะไรนะ
00:23:27 → 00:23:30 แต่ว่าผมที่หลดจากความยากลำบากได้ส่วนนึง
00:23:30 → 00:23:34 ก็เพราะว่าผมวาดภาพตรงนี้ไว้ว่าเออผมอยาก
00:23:34 → 00:23:37 ไปถึงอะไรอืแล้วผมก็ค่อยๆเก็บมาในใน
00:23:37 → 00:23:40 ระหว่างที่ผมถอยหลังมาเรื่อยๆมันก็มีเฟส
00:23:40 → 00:23:43 นึงที่ผมปิดตาเหมือนกันนะว่าเอ้ยผมอยากดู
00:23:43 → 00:23:46 คนไข้โดยที่ผมไม่ต้องห่วงเรื่องเงินอื
00:23:46 → 00:23:49 เพราะช่วงนึงผมอยู่ราชการแล้วก็เงินนี้
00:23:49 → 00:23:53 ลำบากมากงานเยอะมากแล้วก็เงินนี้ลำบากมาก
00:23:53 → 00:23:58 ลำบากลำบากจริงลำบากที่จะดูแลลูกภรรยาพ่อ
00:23:58 → 00:24:03 แม่แม่อเพราะผมต้องดูแลอีก 4 ชีวิตครับผม
00:24:03 → 00:24:06 ยังไม่รวมของตัวเองนะดูแล 4 ชีวิตเ 2
00:24:06 → 00:24:10 ชีวิตนั้นกำลังแก่ 2 ชีวิตกำลังโตอและอีก
00:24:10 → 00:24:13 1 ชีวิตเอ้ยดู 5 ชีวิตสิภรรยาด้วยตัวเอง
00:24:13 → 00:24:17 ก็ 6 ละอืกับเงินเดือนที่มีเนี่ยแล้วผมก็
00:24:17 → 00:24:19 จะเพชเชอร์มากเลยทำยังไงมันดิ้นไม่หลุด
00:24:20 → 00:24:21 อยู่แล้วแล้วผมก็มองแล้วทำอย่างงี้ไป
00:24:21 → 00:24:26 เรื่อยๆมันดิ้นไม่หลุดแน่ๆอืผมก็ภาพในหัว
00:24:26 → 00:24:28 เอยากดูคนไข้ยังไงโดยที่ไม่ต้องต้องห่วง
00:24:28 → 00:24:33 เรื่องเงินอืดูแบบอิสระครับคือห่วงเรื่อง
00:24:33 → 00:24:35 เงินหมายถึงว่าดูนี้เสร็จต้องวิ่งไปที่
00:24:35 → 00:24:37 นี่ต้องไปรับจ๊อบที่นี่ต้องไปเอกชนที่นี่
00:24:37 → 00:24:41 โอวิ่งๆๆๆโดยที่แบบครับการวาดภาพอย่างที่
00:24:41 → 00:24:46 คุณเพชรพูดมันมันใช้ได้จริงสำหรับผมนะใช่
00:24:46 → 00:24:49 ผมว่าก็อยากให้อย่างคุณเพชรแนะนำสำหรับ
00:24:49 → 00:24:52 วัยรุ่นเป็นอะไรที่ผมรู้สึกว่าโดนกับผม
00:24:52 → 00:24:55 จริงๆแล้วก็ใช่ก็ชื่นชมนะครับว่าอายุแค่
00:24:56 → 00:25:00 นี้ก็ก็คิดได้ดีแล้วก็นั่นก็เป็นถือว่าผม
00:25:00 → 00:25:04 ได้บรรลุเป้าหมายและเจตนาของคลิปนี้คือทำ
00:25:04 → 00:25:08 ยังไงหาคนที่เป็นตัวอย่างสำหรับเด็กวัย
00:25:08 → 00:25:11 รุ่นในสังคมเราผมว่าจริงๆสิ่งเหล่านี้
00:25:11 → 00:25:12 ครับอาจจะไม่ได้แควัยรุ่นด้วยเพราะว่า
00:25:12 → 00:25:16 จริงๆแล้วทุกทุกช่วงอายุสามารถเปลี่ยน
00:25:16 → 00:25:20 แปลงได้หมดเลยอย่างเจ้าของ KFC ก็กนก่อน
00:25:20 → 00:25:23 ที่จะรวยก็โอหอเกษียณละก่อนที่จะมาทำไก่
00:25:23 → 00:25:26 KFC อะไรเงี้ครับหลายๆหลายๆคนก็ไม่ได้
00:25:26 → 00:25:29 ไม่ได้เริ่มตั้งแต่เด็กืมครับเข้าใจว่า
00:25:29 → 00:25:31 โอกาสของแต่ละคนมันไม่ได้เท่ากันครับ
00:25:31 → 00:25:33 ประสบการณ์ที่เจอของแต่ละคนมันก็หรือ
00:25:33 → 00:25:36 สังคมที่เจอมันก็หล่อล้อมให้เราเป็นเป็น
00:25:36 → 00:25:39 คนในรูปแบบหนึ่งซึ่งนั่นแหละครับมันก็
00:25:39 → 00:25:42 เปลี่ยนสิ่งเหล่านี้กันได้หรือแบบสิ่งที่
00:25:42 → 00:25:45 ผมที่ผมเจอเยอะมากๆเลยคือคำพูดของคนรอบ
00:25:45 → 00:25:48 ข้างบางทีเขาอาจจะหวังดีแต่มาในคำพูดที่
00:25:48 → 00:25:51 ไม่ค่อยดีหน่อยแบบอฝันสูงไปเปล่าเอออ่าคำ
00:25:51 → 00:25:54 อะไแบบนี้จริงๆในในเชิงของพ่อแม่ที่พูด
00:25:54 → 00:25:57 แบบนี้อาจจะอาจจะไม่ต้องไปว่าเขาว่าทำไม
00:25:57 → 00:26:01 เขาถึงมาแบบทำให้เราต้องเรียกว่าอ่ามันลด
00:26:01 → 00:26:04 ลดสิ่งที่เราอยากตั้งหรือว่าลดเป้าหมาย
00:26:04 → 00:26:06 ของเราแบบนั้นแต่ว่าในเชิงเขาอาจจะแค่
00:26:06 → 00:26:08 เอ้ยไม่อยากให้เราเหนื่อยจนเกินไปไม่อยาก
00:26:08 → 00:26:11 ให้เราเครียดใช่แต่แค่วิธีการสื่อสารอาจ
00:26:11 → 00:26:13 จะไม่ไม่ได้ดีมันเลยทำให้หลายๆคนมันเลย
00:26:13 → 00:26:16 ติดแบบติดภาพที่ว่าจะไปก็โดนโดนคนพูด
00:26:16 → 00:26:19 แบบนี้อีกละจะไปนู่นก็อ่ะคนพูดแบบนี้อีก
00:26:19 → 00:26:22 ละรเงี้ยผมโดนเยอะผมโดนเข้าใจเลยครับเออ
00:26:22 → 00:26:25 ดีครับอผมว่าสิ่งเหล่านี้ถ้าถ้าจัดการได้
00:26:25 → 00:26:27 แล้วเรารู้โฟกัสตัวเองว่าเราเราอยากจะ
00:26:27 → 00:26:29 เป็นแบบไหนเราไม่จำเป็นต้องแคร์คำคนอื่น
00:26:29 → 00:26:32 เลยใชครับแต่ถ้าคนคนที่เคยผ่านๆนี้มาแล้ว
00:26:32 → 00:26:36 เว่าก็อเก็บมาคิดหน่อยใช่ว่าเอ้ยจริงๆ
00:26:36 → 00:26:40 แล้วมันก็มีคำว่าแบบดันทุรังหรือการที่
00:26:40 → 00:26:43 แบบเรากำลังพยายามอยู่ 2 คำนี้เป็นคำที่
00:26:43 → 00:26:46 เส้นบางๆมากอะไรเงี้ครับแต่ผมว่าเราเรา
00:26:46 → 00:26:48 ต้องจัดให้ดีว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่มัน
00:26:48 → 00:26:51 มันคือแบบเรากำลังพยายามหเราดันทุหรั่ง
00:26:51 → 00:26:55 อยู่อืด้วยขอบคุณมากที่ฉลับเวลามาผมว่า
00:26:55 → 00:26:58 นี่ก็เป็นวันเสาร์เช้านะฮะลับเวลาต้อง
00:26:58 → 00:27:02 ขอบคุณจริงๆขอบคุณจริงๆมากครับแล้วก็ผม
00:27:02 → 00:27:05 เชื่อว่าหลายคนคงน่าจะได้ประโยชน์แล้วก็
00:27:05 → 00:27:08 ได้แรงบันดาลใจแต่สำคัญกว่านั้นผมอยากให้
00:27:08 → 00:27:11 เราได้ framework เวิรคคือกรอบความคิดใน
00:27:11 → 00:27:15 การที่จะวางแผนชีวิตยุคมันไปเร็วการที่
00:27:15 → 00:27:17 เราเป็นพนักงานเป็นลูกน้องอาจจะไม่ตอบ
00:27:17 → 00:27:21 โจทย์ในระยะยาวเพอโลกมันกำลังเข้าสู่
00:27:21 → 00:27:24 atomization คือคือบริษัทยักษ์ใหญ่ยักษ์
00:27:24 → 00:27:27 ใหญ่มันจะค่อยๆเล็กลงเล็กลงเรื่อยๆเพราะ
00:27:27 → 00:27:29 มันจะเป็นธุรกิจฉายเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
00:27:29 → 00:27:34 มากขึ้นเรื่อยๆนะครับเป็นในอนาคตที่ผมมอง
00:27:34 → 00:27:37 เกมนะว่ามันจะเป็นยุด้วยครับครับงั้นการ
00:27:37 → 00:27:42 ที่เรารู้ตัวเองรู้ว่าเราชอบอะไรแล้วขัด
00:27:42 → 00:27:45 เกลาให้มันเป็นจุดแข็งของเรามันจะทำให้
00:27:45 → 00:27:48 เราอิสระได้เร็วอย่าลืมนะครับการที่เรา
00:27:49 → 00:27:51 เป็นพนักงานเป็นลูกน้องเนี่ยเราได้เงิน
00:27:51 → 00:27:54 เดือนแต่เราไม่อิสระใช่ครับเราไม่อิสระ
00:27:54 → 00:27:59 ตราบใดที่เรายังอยู่ในวงจรที่เราจะต้อง
00:27:59 → 00:28:03 อยู่ในระเบียบมีกฎเกณฑ์คิดนอกกรอบมากไม่
00:28:03 → 00:28:07 ได้มันยังไม่อิสระเป้าหมายชีวิตคือ
00:28:07 → 00:28:10 อิสระไม่ได้บอกว่าองค์กรไม่ดีไม่ได้บอก
00:28:10 → 00:28:13 ว่าการทำงานยักษ์ใหย่ไม่ดีแต่ว่าโลกมัน
00:28:13 → 00:28:16 กำลังกลับมากลับไปสู่ยุคดั้งเดิมที่
00:28:16 → 00:28:21 มนุษย์จริงๆแล้วเนี่ยก็เป็นนักอาชีพหรือ
00:28:21 → 00:28:24 นักวิชาชีพอิสระก่อนที่จะเป็นยุคโรงงาน
00:28:24 → 00:28:28 เข้ามาอืเราเริ่มจากคนที่ทำงานอิสระใช่ฮ
00:28:28 → 00:28:32 แล้วมาถือยุคที่มันมีโรงงานมีบริษัทอ
00:28:32 → 00:28:36 พนักงานอิสระก็มารวมตัวภายใต้ตะกร้าของ
00:28:36 → 00:28:40 บริษัทือโรงงานแต่มันกำลังจะกลับไปแต่แน่
00:28:40 → 00:28:42 นอนครับมันก็จะคงไม่เหมือนเดิมแต่ว่ารูป
00:28:42 → 00:28:46 แบบซึ่งเราเห็นมากขึ้นเรื่อยๆใช่ไหมครับ
00:28:46 → 00:28:50 ยุคของีนยุคของ outsourcing คือบริษัทเอง
00:28:50 → 00:28:52 ก็ไม่ได้ทำทุกอย่างละเดี๋ยวนี้ก็ส่งให้
00:28:52 → 00:28:56 กับบริษัทอิสระใช่มั้ครับงั้นยุคนี้มันมา
00:28:56 → 00:28:58 ครับใน 10 ปีข้างหน้า
00:28:58 → 00:29:01 ผมไม่เชื่อว่าจะมีบริษัทยักษ์
00:29:01 → 00:29:05 ใหญ่ที่มีทุกอย่างอยู่ภายใต้ตะกร้าเดียว
00:29:05 → 00:29:08 กันมันจะเป็นบริษัทก็จริงแต่ว่าจะโยนให้
00:29:08 → 00:29:12 กับหลายๆบริษัทดังนั้นถ้าเราหาจุดแข็ง
00:29:12 → 00:29:16 แล้วขัดเกล่าไปเรื่อยๆมีบริษัทเป็นของตัว
00:29:16 → 00:29:21 เองเราก็จะเป็นคนที่อิสระในสิ่งที่ตัวเอง
00:29:21 → 00:29:25 อยากจะทำครับผมผมว่าอาจจะไม่เชิงที่จะจะ
00:29:25 → 00:29:28 ต้องเปิดบริษัทก็ได้เพราะว่าอืไม่ใช่ทุก
00:29:28 → 00:29:31 คนที่อยากจะเป็นหัวหน้าใช่งั้นโฟกัสใน
00:29:31 → 00:29:34 สิ่งที่ตัวเองชอบและทำให้มันดีเพราะว่า
00:29:35 → 00:29:39 ยังไงทุกคนก็ต้องการคนที่อ่าบ้าบ้าและกับ
00:29:39 → 00:29:42 เก่งในะชอบในใช่ชอบในสักเรื่องนึงแล้วมัน
00:29:42 → 00:29:45 มันจะเห็นเลยครับว่าคนนี้ไปลึกกับสิ่งที่
00:29:45 → 00:29:47 เขาชอบได้มากแค่ไหน
00:29:47 → 00:29:49 [ปรบมือ]
00:29:49 → 00:29:53 ครับเครู้ว่าเค้าผิดแล้วเค้าก็เอาผ่านๆไป
00:29:53 → 00:29:55 เแค่เรียนรู้ว่าจะไม่ทำอย่างนี้เพื่อไม่
00:29:55 → 00:29:59 ให้เกิดข้อผิดพลาดถามว่าเเรียนรู้เพื่อไป
00:29:59 → 00:30:02 ต่อยอดยังไงรู้ยังไงแล้วทำยังไงะหา
00:30:02 → 00:30:05 พนักงานที่ sel motivate ยากมากทำยังไง
00:30:05 → 00:30:08 ให้เค้าให้เขา motivate ตัวเองพอเรา
00:30:08 → 00:30:11 flexible มากแทนที่เขาจะ productive มาก
00:30:11 → 00:30:15 ขึ้นกลับกลายเป็นว่าเหลวมเขี้เกียจมาก
00:30:15 → 00:30:17 ขึ้นเรื่องดึงคนเก่งให้อยู่ในองค์กรหาคน
00:30:17 → 00:30:20 เก่งแยากมยเอาอย่างงี้ก่อนคนเก่งหายากชีป
00:30:20 → 00:30:24 คนเก่งไว้ยากกว่าความต่างระหว่าง
00:30:24 → 00:30:28 entrepreneur หรือว่าผู้ก่อตั้งคนไทยกับ
00:30:28 → 00:30:32 ต่างชาติมันต่างกันมั้ยบุคลิกการทำงานการ
00:30:32 → 00:30:36 คิดถ้าให้ดูแล้วข้อดีข้อเสียหรือว่ามันมี
00:30:36 → 00:30:39 จุดเด่นจุดอ่อนยังไงเวลาพอเราเน้นที่ให้
00:30:39 → 00:30:41 ต่างชาติเข้ามาลงทุนแล้วเป็นแรางงานชั้น
00:30:41 → 00:30:45 ดีราคาถูกก็ตามมาด้วยที่ว่าเฮ้ยค่าของชีพ
00:30:45 → 00:30:47 เราหรือว่าการจ่ายเงินเดินของเราก็จะไม่
00:30:47 → 00:30:50 ได้สูงเท่าต่างประเทศมันเลยทำให้เอ้ยคน
00:30:50 → 00:30:52 เก่งผมว่าอยู่ไทยได้เงินเดิน 50,000 อยู่
00:30:52 → 00:30:56 ต่างประเทศได้
00:30:56 → 00:31:00 200,000 ปัจจุบันเพชรทำงานทางด้าน AI
00:31:00 → 00:31:02 ใช่ครับอยากให้แนะนำโปรเจคที่กำลังทำอยู่
00:31:02 → 00:31:05 สักนิดนึงหน่อยได้มั้ยครับอ tabula Data
00:31:05 → 00:31:08 T Data คือ Data Anything ที่เป็นใน
00:31:08 → 00:31:11 เชิงของตารางอ่าเป็นเชิงของตัวเลขว่าจะทำ
00:31:11 → 00:31:14 ไงให้ a เข้าใจข้อมูลสิ่งนี้ได้ดีที่สุด
00:31:14 → 00:31:16 ใน use Case การใช้งานจะเป็นเรื่องของใน
00:31:16 → 00:31:19 ตลาดหุ้นในอะไรเพราะว่าตลาดหุ้นมีแต่ตัว
00:31:19 → 00:31:22 เลขเยอะเต็มไปหมดถูกมั้ยฮะมีวิธีการวัดผล
00:31:22 → 00:31:25 ต่างๆที่มันแตกต่างกันอ่าด้านที่ 2 เนี่ย
00:31:25 → 00:31:28 จะเป็นในมุมของด้านคอมพิวเตอร์ Vision
00:31:28 → 00:31:31 สิ่งเครับก็ตอนนี้ก็แดปกับทางฝั่งของ
00:31:31 → 00:31:33 เกษตรอุตสาหกรรมแล้วก็การแพทย์เพราะว่า
00:31:33 → 00:31:36 ถ้าดูปัญหาโดยส่วนใหญ่เนี่ยมันก็เป็น
00:31:36 → 00:31:39 เรื่องของภาพที่เอามาใช้
00:31:39 → 00:31:42 อ่าช่วยในการประเมินวัดผลต่างๆที่ปกติ
00:31:42 → 00:31:46 แล้วเป็นคนที่วัดผลนะนะครับแล้วก็ด้านของ
00:31:46 → 00:31:49 ภาษาตอนนี้ของผมก็ทำทั้งเรื่องของ AI ใน
00:31:49 → 00:31:54 การแปลหรือว่าในการอ่า generate พวกของ
00:31:54 → 00:31:57 script ต่างๆหรือเอามาสรุปหลายๆอย่างก็ F
00:31:58 → 00:32:00 แชท gbt ประมาณนั้นครับแล้วก็อีกด้านนึง
00:32:00 → 00:32:03 ครับก็คือเรื่องของเสียงเสียงเนี่ยก็จะ
00:32:03 → 00:32:05 เป็นอีกอีกแขนงนึงที่เอาไว้ไม่ว่าจะเป็น
00:32:05 → 00:32:08 การถอดเสียงเหมือนเราพูดออกมาทำไงให้ใส่
00:32:08 → 00:32:11 เป็นข้อความอยู่ในวิดีโอได้หรืออย่างไง
00:32:11 → 00:32:13 ที่เป็นคำที่พิมพ์แล้วให้ออกมาเป็นเสียง
00:32:13 → 00:32:16 ได้แล้ว Advance ไปมากกว่านั้นคือทำไงให้
00:32:16 → 00:32:19 มันสื่อถึง emotional ได้ด้วยจากบทจากตัว
00:32:19 → 00:32:22 ของข้อความที่เราพิมพ์เข้าไปอือ่านี้ก็
00:32:22 → 00:32:24 เป็นอีกแขนกนึงแล้วก็จะมีอีกแขนกนึงที่
00:32:24 → 00:32:30 เป็นเกี่ยวกับอ่าเรื่องของ้าคือทำยไงให้
00:32:30 → 00:32:33 เราสามารถสร้างแบบจำลองของคนขึ้นมาแล้ว
00:32:33 → 00:32:38 ขยับต่างๆตาม emotional ได้อีกออ่าแล้วก็
00:32:38 → 00:32:42 จะมีอันสุดท้ายะจะเป็นตัวของอ่าในการพวก
00:32:42 → 00:32:44 generate รูปภาพก็จะเป็น f เหมือ m jy
00:32:44 → 00:32:46 แต่ว่า use Case การใช้งานก็จะเป็นอีก
00:32:46 → 00:32:50 แบบนึงว่าเราจะทำให้การ์ตูนหรือว่า AI
00:32:50 → 00:32:53 เนี่ยมันเข้าใจตัวของ Content ต่างๆได้
00:32:53 → 00:32:56 ยังไงบ้างอเพื่อที่จะไม่ว่าจะเป็นลงสี
00:32:56 → 00:32:58 หรือทำเรื่องของการขยับต่างๆประมาณนั้น
00:32:59 → 00:33:00 ครับซึ่งทั้งหมดนี้ทำในเมืองไทยมั้ยหรือ
00:33:00 → 00:33:03 ทำในต่างประเทศทำในเมืองไทยนี่แหละครับ
00:33:03 → 00:33:06 แต่ว่าจริงๆในทีมนะครับก็มีทั้งคนไทยและ
00:33:06 → 00:33:09 ต่างชาติซึ่งอยู่ที่ที่เมืองไทยอ่า
00:33:09 → 00:33:12 ออนไลน์อยู่ทั่วโลกแล้วครับอรีโมทอยู่ใช่
00:33:12 → 00:33:16 มั้ยใช่ครับอ่าแล้วปัจจุบันถ้าสมมุติที
00:33:16 → 00:33:19 นี้ดักเรามันเป็น b2c หรือว่า B2B ฮะส่วน
00:33:19 → 00:33:24 ใหญ่เป็น B2B เลยครับอืเพราะว่าอ่าการทำ
00:33:24 → 00:33:28 การทำ v2v ก็ตอนว่ามันมันเป็นอ่าอ่าจุด
00:33:28 → 00:33:31 จุดแขงอย่างที่ AI มัน adapt ได้ง่ายกว่า
00:33:31 → 00:33:33 เพราะว่าเราก็ทำ use ใช้งานให้เข้ากับนี้
00:33:33 → 00:33:36 หรือว่าเขาแค่ส่งข้อมูลมาเป็นก้อนใหญ่ๆ
00:33:36 → 00:33:38 อันนึงแล้วทุกอย่างมันก็ coding automate
00:33:38 → 00:33:41 ได้หมดเลยถ้ามองภาพว่าสมมุติการแปลภาษา
00:33:41 → 00:33:43 นิยายมี 1000 เรื่องเอ้ยมีมี 1000 ตอน
00:33:43 → 00:33:47 แล้วกันครับการที่จะให้คนมานั่ง Copy PR
00:33:47 → 00:33:49 ใส่แช gpt ให้มันช่วยแปลหรือใส่ Google
00:33:49 → 00:33:52 Translate เใช้เวลาเยอะมากอั้นทางผม
00:33:52 → 00:33:54 สมมุติเค้าโยนมาเลย 1000 ตอนผมก็แค่เอา
00:33:54 → 00:33:57 โค้ดเขียน automate ทั้งหมดก็จะไวกว่า
00:33:57 → 00:34:00 อะไรประมาณนี้ครับโดโ use Case สใหญ่ก็
00:34:00 → 00:34:03 จะเป็น B2B เป็นหลักครับผมในเชิงของกฎ
00:34:03 → 00:34:06 หมายกฎหมายด้วยเหรอใช้ AI มาในกฎหมายใช่
00:34:06 → 00:34:09 ครับเพราะว่าถ้าถ้าองมองภาพว่าจริิงกฎ
00:34:09 → 00:34:12 หมายเรามีเต็มไปหมดเลยสมตเราติดปัญหา
00:34:12 → 00:34:15 สมมุติรถชนกฎหมายข้อไหนบ้างหรือสมมุติเรา
00:34:15 → 00:34:18 โดนละเมิดสิบางอย่างอเราจะรู้ได้ไงว่า
00:34:18 → 00:34:21 เอ้ยสิ่งนี้เราต้องทำยังไงมีกฎหมายข้อไหน
00:34:21 → 00:34:25 ที่โคเวอรกับสิ่งนี้บ้างซึ่งก็มีน้อยคน
00:34:25 → 00:34:28 มากที่จะรู้กฎหมายในเชิงที่อาจจะไม่ใช่กฎ
00:34:28 → 00:34:31 หมายทั่วไปที่เราใช้นกฎหมายการชาจรอะไร
00:34:31 → 00:34:33 ต่างๆเรารู้อยู่ละแต่กฎหมายเรื่องสิทธิ
00:34:33 → 00:34:37 เสรีภาพกฎหมายอื่นๆที่มันอาจจะไม่ได้เกิด
00:34:37 → 00:34:40 ขึ้นในชีวิตประจำวันของเราเนี่ยเราแทบจะ
00:34:40 → 00:34:42 ไม่มีทางรู้เลยหรือเสิร์ช Google เองก็
00:34:42 → 00:34:44 ตามก็อาจจะไม่เจอทั้งหมดอือะไรประมาณนี้
00:34:44 → 00:34:47 ครับอืสมมุติเรารดชน้าสมัยก่อนเราต้องไป
00:34:47 → 00:34:50 นั่งหากฎหมายว่ามีกฎหมายอะไรบ้างสมมุติ
00:34:50 → 00:34:52 ถ้าเราเป็น AI นี่ก็คือแค่บอกสถานการณ์ไป
00:34:52 → 00:34:55 เลยว่าเรารดชนนะมีกฎหมายอะไรที่เราต้อง
00:34:55 → 00:34:59 รู้ตอนนี้เก็จะบอกมาเลยตตึ๊ๆๆใช่ครับหรือ
00:34:59 → 00:35:01 รถชนแล้วบาดเจ็บมีกฎหมายอะไรมันก็จะคัดมา
00:35:01 → 00:35:03 ให้เลยกลายเป็นว่าเราไม่ต้องไปนั่งอ่าน
00:35:03 → 00:35:07 เองทั้งหดอ๋ออ้ยซึ่งซึโดยส่วนใหญ่ก็จะ
00:35:07 → 00:35:09 เป็นอาจจะมี Call Center ต่างๆที่คอยสอ
00:35:09 → 00:35:12 คำถามแหละแต่ว่า 1 คือโอเค Call Center
00:35:12 → 00:35:15 ที่รู้กฎหมายแบบสถาถามว่าเราจะนั่งคนที่
00:35:15 → 00:35:17 รู้กฎหมายมานั่งเป็นคเซ็นเตอรก็น้อยอีก
00:35:17 → 00:35:21 เจงเออฟังแล้วแบบเออสุดยอดนะมันๆตอนนี้ทำ
00:35:21 → 00:35:24 งานกับกระทวงด้วยใช่มั้ครับตอนนี้ทุกๆ
00:35:24 → 00:35:26 อย่างที่เล่าไปตอนนี้อนดักชันหมดเลยครับ
00:35:27 → 00:35:29 อ๋อเสร็จแล้วแล้วมีคนใช้แล้วครับผมอ๋อยก
00:35:29 → 00:35:31 ตัวอย่างเลยได้ Vision คพต Vision ก็คือ
00:35:31 → 00:35:34 AI ที่เรียนรู้ด้านภาพแล้วกันนะครับที่
00:35:34 → 00:35:36 ปัญหาที่ผมเข้าไปแก้ไขเนี่ยมันคืออ่า
00:35:36 → 00:35:39 อุตสาหกรรมของเกษตรหรือในในมุมของ
00:35:40 → 00:35:42 อุตสาหกรรมที่เราพยายามจะสร้างมาตรฐานให้
00:35:42 → 00:35:45 กับอ่าไม่ว่าจะเป็นผลผลิตทางการเกษตรหรือ
00:35:45 → 00:35:49 การเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาของสวนหรือของ
00:35:49 → 00:35:53 อะไรต่างๆที่แน่นอนเราปกติถ้าถ้ามองภาพ
00:35:53 → 00:35:55 ของเวลาเราซื้อขายอย่างเช่นซื้อขาย
00:35:55 → 00:35:58 ทุเรียนเราดูได้ว่าลูกเนี้ยนะครับควรจะ
00:35:58 → 00:36:00 ให้ราคาเท่าไหร่อือหรือซื้อขายน้ำมัน
00:36:00 → 00:36:02 ปาล์มเอ้ยหรือซื้อขายลูกปาล์มเองเรารู้
00:36:02 → 00:36:05 ได้ไงว่าลูกนี่ควรให้ราคาเท่าไหร่แล้วถ้า
00:36:05 → 00:36:08 มองภาพว่าถ้าสิ่งนี้ครับมา 1 คันลดบรรทุก
00:36:08 → 00:36:11 เราจะตีราคาสิ่งนี้ยังไงอืนี่คือนี่คือ
00:36:11 → 00:36:12 ปัญหาที่
00:36:13 → 00:36:16 อ่าทั้งโรงงานเองหรือเกษตรกรเองต้องเจอมา
00:36:16 → 00:36:19 ตลอด 40-50 ปีที่อุตสาหกรรมนี้มันเกิด
00:36:19 → 00:36:23 ขึ้นมาครับผมซึ่งนัครับ AI เลยเป็นเหมือน
00:36:23 → 00:36:26 ตัวนึงที่โอเคเป็นมาตรฐานกลางแล้วกันว่าเ
00:36:26 → 00:36:28 โอเคแต่ละโรงงานก็จะมีถานของเขาซึ่งเขาก็
00:36:28 → 00:36:31 จะมีวิธีการวัดผลใช่มฮะแต่แน่นอนว่าคนก็
00:36:31 → 00:36:34 อาจจะเกิดการผิดพลาดได้สวันนี้เจอมาเป็น
00:36:34 → 00:36:37 100 คันเลยคันที่ 1001 จะไปบแอหรือเปล่า
00:36:37 → 00:36:39 แบบวันนี้เหนื่อยล้าละก็จะมีสิ่งเหล่านี้
00:36:40 → 00:36:42 ที่มันเกิดขึ้นอยู่ในอยู่ในระบบหรือไม่รม
00:36:42 → 00:36:46 ไม่รวมถึงการอ่าคอรัปชันไอ้เรื่องนี้ผมจะ
00:36:46 → 00:36:50 พูดได้รือเปล่าอครับไม่รมถึงเรื่องๆเหล่า
00:36:50 → 00:36:54 นั้นแล้วก็อ่านะครับว่า To Be Fair
00:36:54 → 00:36:56 หรือเปล่าว่าเอ้ยสมมติเกษตรกรส่งของดีไป
00:36:56 → 00:36:59 แต่ว่าคนตัดหน้างานบอกเอ้ยสีมันยังดูไม่
00:36:59 → 00:37:02 ค่อยดีเท่าไหร่นะำว่าสีดูไม่ค่อยดีเนี่ย
00:37:02 → 00:37:06 วัดผลยังไงอืออ่า AI เลยจะเข้ามาเหมตัว
00:37:06 → 00:37:09 ช่วยเป็นมาตรฐานกลางในการวัดผลแล้วก็ To
00:37:09 → 00:37:11 Be Fair กับทั้ง 2 ฝั่งเพราถ้าคุณส่ง
00:37:11 → 00:37:14 ของดีคุณก็ควรจะได้ราคาที่ดีหรือถคุณส่ง
00:37:14 → 00:37:17 ของไม่ดีคุณก็ควรจะได้ในราคาที่มันไม่ดี
00:37:17 → 00:37:19 ักนี้เราเรียกคอมพิวเตอ์ Vision ใช่ครับ
00:37:19 → 00:37:21 ซึ่งตอนนี้ใช้อยู่ที่ไหนตอนนี้ใช้อยู่ใน
00:37:22 → 00:37:25 เกษตรฝั่งภาคใต้ครับอ๋อเหรอฮะใช่ครับโอ้
00:37:25 → 00:37:28 ดีนะฮะประนั้นครับผมคืออารมณ์ไหนครับหมาย
00:37:28 → 00:37:31 ถึงว่ารถก็จะเข้าไปแล้วจะเป็นตัวสแกนตื๊ด
00:37:31 → 00:37:34 อย่างนี้แหละจริงแล้วแต่ต้องเรียกว่าที่
00:37:34 → 00:37:36 เป็น B2B เพราะผม Custom ให้แต่ละแต่ละ
00:37:36 → 00:37:40 โรงงานด้วยเพราะวางโรงงานสะดวกที่จะให้คน
00:37:40 → 00:37:42 เนี่ยถ่ายรูปเอออ่าถ่ายรูปปุ๊บยิงเข้า
00:37:42 → 00:37:46 คราวโสออกมาครับผมหรือบางโรงงานก็เอ้ยมี
00:37:46 → 00:37:50 กล้องเลยลดแค่ผ่านก็พออเพราะแต่ละที่ก็มี
00:37:50 → 00:37:53 วิธีการที่แตกต่างกันอือประมาณนั้นครับ
00:37:53 → 00:37:56 หรือวิธีการที่แต่ละที่โฟกัสก็จะไม่
00:37:56 → 00:37:59 เหมือนกันอือบางอาจจะบอกว่าเอ้ยโรงใครให้
00:37:59 → 00:38:02 เกรด A เยอะผมจะให้ราคาดีบางโรงงานบอกว่า
00:38:02 → 00:38:06 ใครให้เกรดแย่น้อยผมจะให้ราคาดีอืออ่า
00:38:06 → 00:38:08 ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกัน
00:38:08 → 00:38:11 แล้วก็การต่อยอดของมันก็คือปกติแล้วข้อ
00:38:11 → 00:38:14 มูลเหล่านี้ครับพอมันเป็นคนประเมินเนี่ย
00:38:14 → 00:38:16 เราไม่สามารถทำอะไรต่อได้เลยอือเราไม่มี
00:38:16 → 00:38:19 ทางรู้เลยว่าคนไหนส่งของดีมาให้เราคนไหน
00:38:19 → 00:38:22 ส่งของไม่ดีมาให้เราอือหรือไอ้ที่เราวัด
00:38:22 → 00:38:25 ผลตรงนี้ครับมันออกมาเป็นน้ำมันออกมา
00:38:25 → 00:38:27 สมมุติเป็นปาลมนะครับออกมาเป็นน้ำมันออก
00:38:27 → 00:38:31 มาเนี่ยมันได้ตามที่เราขัดจริงๆไเพราะ
00:38:31 → 00:38:34 ปกติแล้วสมมุติเกรด A เจะบอกว่าเกรด A จะ
00:38:34 → 00:38:36 ได้น้ำมันประมาณเท่านี้อือเกด B จะได้น้ำ
00:38:36 → 00:38:38 มันประมาณเท่านี้ผลลัพธ์ที่ออกมามันได้
00:38:38 → 00:38:40 ตามนั้นจริงหรือเปล่าอือถ้ามันไม่ได้ตาม
00:38:40 → 00:38:43 นั้นมันห่างมากแค่ไหนอือแล้ว process ไหน
00:38:43 → 00:38:45 ที่มันน่าจะมีปัญหาพอทุกอย่างมันเป็น Data
00:38:45 → 00:38:48 แบบนี้ครับมันสามารถเข้าไปเช็คได้หมดเลย
00:38:48 → 00:38:50 ว่าโอเคตรงไหนน่าจะมีปัญหาเข้าไปดูหรือ
00:38:50 → 00:38:53 เอ้ยคนไหนที่เป็นลูกค้าดีของเราคนไหนที่
00:38:53 → 00:38:55 เป็นลูกค้าที่เอ้ยส่งแต่ของไม่ดีให้เรา
00:38:55 → 00:38:58 อ่ะมันดูได้หมดเลยอหรือดูได้กระทั่งว่าคน
00:38:58 → 00:39:02 นี้อยู่สวนบริเวณตรงไหนอืถ้ามีการเก็บ้อง
00:39:02 → 00:39:05 รภาพออกโอเคแสดงว่าเอ้ยตรงนี้อาจจะดินอ
00:39:05 → 00:39:07 สมบูรณ์หรือเปล่าตรงนี้เมีวิธีการดูแลยัง
00:39:07 → 00:39:10 ไงงั้นมันก็เป็นการเหมือนถอดเป็นฮบาง
00:39:10 → 00:39:12 อย่างที่ส่งกลับไปให้เกษตรกรได้อีกด้วย
00:39:12 → 00:39:15 ว่าเอ้ยคุณควรจะใส่ปุ๋ยแบบนี้นะคุณควรจะ
00:39:15 → 00:39:18 ลดน้ำแบบนี้นะหรือคุณควรจะเก็บเกี่ยวยัง
00:39:18 → 00:39:20 ไงให้คุณได้ของที่คุณภาพดีที่สุดแล้วถ้า
00:39:20 → 00:39:23 คุณส่งของดีโรงงานก็ยินดีที่จะจ่ายเพิ่ม
00:39:23 → 00:39:25 ให้อยู่แล้วอืประมาณนั้นครับอือันนี้คือ
00:39:25 → 00:39:29 use เจิก็เป็นษัที่ Spin Off ออกมาตจาก
00:39:29 → 00:39:32 คตัว deal ก็คือชื่อว่า D Vision อื
00:39:32 → 00:39:34 ประมาณนั้นคือดู Anything เกับรูปภาพเลย
00:39:34 → 00:39:38 ประมาณนั้นครับอหรือหรืออย่าง AIA ด้าน
00:39:38 → 00:39:43 ภาษาเองครับที่ถามว่าทำไมต้องทำแบบแชท gbt
00:39:43 → 00:39:46 จริงๆมันก็มีมีเหตุผลของมันอยู่ครับคือ
00:39:46 → 00:39:50 อ่าภาษาในแถบตะวันตกกับภาษาในแถบตะวันออก
00:39:51 → 00:39:54 เนี่ยมีความแตกต่างกันค่อนข้างเยอะว่าจะ
00:39:54 → 00:39:57 เป็นสมมุติอภาษาอังกฤษเนี่ยพี่น้องน้องก็
00:39:58 → 00:40:01 Brother เรียกชื่อคนก็ชื่อตรงๆอย่าง
00:40:01 → 00:40:04 เรียกพี่บิ๊กก็เรียกแค่บิ๊กมิสเบิ๊กนู่น
00:40:04 → 00:40:08 นี่นั่นออภาษาไทยเองหรือภาษาในแถบฝั่ง
00:40:08 → 00:40:12 เอเชียเองภาษาจีนภาษาญี่ปุ่นต่างๆจะมีพวก
00:40:12 → 00:40:16 วจนภาษาค่อนข้างเยอะจะมีระดับของภาษา
00:40:16 → 00:40:21 สมมติพี่ก็จะมีดีเทลอีกว่าพี่คนโตคนกลาง
00:40:21 → 00:40:24 คนเล็กนู่นนี่นั่นการที่จะเรียกชื่อคนสัก
00:40:24 → 00:40:28 คนนึงอาจจะมีคำนำหน้าหรือการการที่ใช้
00:40:28 → 00:40:32 ภาษาแบบอกับชั้นสูงหน่อยก็จะมีวิธีการใช้
00:40:32 → 00:40:35 ที่แตกต่างกันซึ่งมันเลยเป็นโจทย์ที่ว่า
00:40:35 → 00:40:38 เอ้ยถ้าทำให้ไอเข้าใจความยากของภาษาระดับ
00:40:38 → 00:40:41 นี้ได้เภาษาง่ายๆไม่ต้องพูดถึงเลยมันเข้า
00:40:41 → 00:40:44 ใจได้อยู่ละอก็เลยก็เลยเกิดมาเป็นอ่า
00:40:44 → 00:40:46 โจทย์ของทางฝั่งนี้ว่าแล้วเรา use cas
00:40:46 → 00:40:49 ที่ไปใช้งานนะครับก็คือเอาไปแปลนิยายเลย
00:40:49 → 00:40:52 เพะนิยายยังมีความยากอีกตรงนึงก็คือ
00:40:52 → 00:40:55 เรื่องของอารมณ์ว่าเอ้ยจะทำให้เข้าใจ
00:40:55 → 00:40:58 อารมณ์ในการแปลได้ยังไงความต่อเนื่องของ
00:40:58 → 00:41:00 เรื่องราวแล้วอารมณ์ที่ใส่เข้าไปหรือการ
00:41:00 → 00:41:03 เลือกใช้คำที่มันดูแฟนตาซีที่มันมีเรื่อง
00:41:04 → 00:41:06 ของสำนวนจีนิกสมมุติแปลจากจีนเป็นไทยก็จะ
00:41:06 → 00:41:09 มีสำนวนจีนหรือยุคสมัยของนิยายอีกว่าสมัย
00:41:09 → 00:41:13 โบราณสมัยใหม่หรือสมัยแบบยุคอนาคตการใช้
00:41:13 → 00:41:16 คำก็จะแตกต่างกันอแต่เราจะทำยังไงให้ไ
00:41:16 → 00:41:19 เข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้อือะไรประมาณนี้
00:41:19 → 00:41:23 ครับซึ่งซึตัวนี้เนี่ยก็จริงๆก็เป็นหนึ่ง
00:41:23 → 00:41:27 อันที่ได้ได้ถูกใช้งานอยู่ในนิยายหลายๆ
00:41:27 → 00:41:30 เรื่องไปละอืโดยที่เราแทบจะไม่รู้เลยว่า
00:41:30 → 00:41:33 เรื่องไหนที่เป็น AI แปลออกมาอืหรือบาง
00:41:33 → 00:41:36 เรื่องที่ถูกแปลไว้อยู่ละนิยายมี 5,000
00:41:36 → 00:41:39 ตอนแปลไปแล้ว 1,000 ตอนอยากจะให้อ่าสำนวน
00:41:40 → 00:41:43 ของคนแปลคนเนี้ยสูกส่งต่อมาด้วยทำไงให้แ
00:41:43 → 00:41:45 มันเรียนรู้วิธีการแปลของคนๆนี้ได้ด้วยอื
00:41:45 → 00:41:50 อเพราะว่าการการแปลนิยายมันไม่ต่างจากการ
00:41:50 → 00:41:53 พากยเสียงที่พอสมมุติเสียงของคนนี่ไปแล้ว
00:41:53 → 00:41:55 เนี่ยสมมุติผ่านไปครึ่งเรื่องแล้วอีก
00:41:55 → 00:41:57 ครึ่งเรื่องเปลี่ยนเสียงคนเนี่ยคนก็ก็จะ
00:41:57 → 00:42:00 ไม่อินละถูกมครับการแปลตัวของสำนวนหรือคำ
00:42:00 → 00:42:02 ที่ใช้ของคนคนนี้นะครับวิธีการของคนคน
00:42:02 → 00:42:04 เนี้ยก็เหมือนกับน้ำเสี่งเหมือนมันเลย
00:42:04 → 00:42:07 ซึ่งถ้าสมมุติเปลี่ยนคนแปลคนคนอ่านจะดู
00:42:07 → 00:42:10 ออกทันทีอืเราจะทำไงให้มันเรียนรู้วิธี
00:42:10 → 00:42:13 การของคนๆนี้ได้ด้วยอะไรประมาณนั้นครับ
00:42:13 → 00:42:16 อือก็เป็นเป็นอีกหนึ่ง use Case ที่ที่
00:42:16 → 00:42:18 ทางทีมได้ทำขึ้นมาอือแต่ว่านั่นครับสิ่ง
00:42:18 → 00:42:21 ที่โฟกัสก็คือเอ้ยทำให้ของยากชิ้เนี่ยยทำ
00:42:21 → 00:42:24 ยังไงให้โซมันได้แล้ว use การใช้งานเนี่ย
00:42:24 → 00:42:26 ค่อยไปว่ากันทีหลังเลยอว่าเอ้ยโอเคผมจะ
00:42:26 → 00:42:29 จับกับแปนิยายผมจะจับกับอะไรก็ได้หรือผม
00:42:29 → 00:42:31 จะสร้างเหมือนแชท gpt ขึ้นมาอีกตัวนึงก็
00:42:31 → 00:42:34 ได้เหมือนกันอืๆเงี้ครับแต่สิ่งสิ่งที่
00:42:34 → 00:42:37 โฟกัสคือเทคโนโลยีมากกว่าอืประมาณนั้น
00:42:37 → 00:42:40 ครับผมเคยดูคลิปนึงนะเหมือนกับในร้านกาแฟ
00:42:40 → 00:42:43 มั้งถ้าจำไม่ผิดมันเป็นกล้องแล้วก็เป็น
00:42:43 → 00:42:47 ใช้ระบบ AI นะครับผมเค้าดูเลยว่า
00:42:47 → 00:42:50 1 จำนวนคนเข้าออก
00:42:50 → 00:42:56 อืแต่ละวันในช่วงไหนครับอันที่ 2 คือเคดู
00:42:56 → 00:43:00 แม้กระทั่งแก้วว่าว่าจับเลยว่าออเดอร์
00:43:00 → 00:43:02 คาปูชิโนาต
00:43:02 → 00:43:06 espro หวานมากหวานน้อยกล้องมันจับหมด
00:43:06 → 00:43:09 แล้วอืดูแม้กระทั่งผู้หญิงผู้ชายผู้สูง
00:43:10 → 00:43:14 อายุดูแม้กระทั่งถ้าจำไม่ผิดอารมณ์ยิ้ม
00:43:14 → 00:43:17 ไม่ยิ้มยิ้มไม่ยิ้ม Happy customer or
00:43:17 → 00:43:20 แล้วก็ตีเป็นตัวเลขออกมาโดยใช้เพียงกล้อง
00:43:20 → 00:43:22 AI เนี่ยแล้วมันก็วิเคราะห์หลังบ้านมา
00:43:22 → 00:43:25 ให้ผู้ประกอบการเลยตึ๊กๆๆๆๆๆว่าพนักงาน
00:43:25 → 00:43:29 ใช่มันดักจับแม้กระทั่งเออพนักงานแบบอู้
00:43:30 → 00:43:33 ไปข้างนอกเอออะไรอย่างเงี้คือคือกลายเป็น
00:43:33 → 00:43:37 ว่าเราไม่ต้องทำอะไรกล้องเนี่ยมันมันติด
00:43:37 → 00:43:41 ตามผลงานแล้วก็มันเป็นระบบประเมินไปในตัว
00:43:41 → 00:43:43 ใช่ครับและเก็บตัวเลขไปในตัวโดยที่สมัย
00:43:44 → 00:43:47 ก่อนเราต้องไปนั่งดูไปนั่งถามใช่ครับโอผม
00:43:47 → 00:43:50 ว่าเรามาถึงยุคที่มันแบบไอ้ระบบ AI นี่
00:43:50 → 00:43:54 มันค่อนข้างน่าจะไปได้อีกไกลเลยนะก็ก็ถ้า
00:43:54 → 00:43:56 ถ้ามองว่า use เสประมาณื่อกี้ครับมองว่า
00:43:56 → 00:44:00 จริงแล้ว AI เข้าไปแทนใครจริงทั้งหมดหน้า
00:44:00 → 00:44:02 ที่พน่าจะแทบจะทั้งหมดเป็นหน้าที่ของ
00:44:02 → 00:44:05 เจอร์อืถูกมฮะเห็นว่าเนี่ยครับ a เริ่ม
00:44:05 → 00:44:09 เข้าไปแทนในมุมที่เอ้ยคนอ่ะโอเคไม่ได้บอก
00:44:09 → 00:44:12 ว่าเจอรเขาไม่ได้ดีหรือว่าทำงานได้ไม่ดี
00:44:12 → 00:44:15 นะครับแต่ว่ามองในเชิญที่ว่าการที่เราจะ
00:44:15 → 00:44:17 วิเคราะห์ข้อมูลมากขนาดเนี้ยสมติให้ไป
00:44:17 → 00:44:19 นั่งดูแก้วลูกค้าแต่ละคนเนี่ยคนไม่สามารถ
00:44:19 → 00:44:24 ทำได้อืใช่แล้วนี่คือ use Case แรกๆถูก
00:44:24 → 00:44:26 มยฮะเรายังมีอื่นๆอีกตั้งเยอะแยะมากมาย
00:44:26 → 00:44:28 ที่ AI ังไม่ได้เข้าไปผมเลยมองว่าจริงๆ
00:44:28 → 00:44:31 แล้วยุคนี้ AI เป็นแค่ต้นเวฟคือเป็นแค่
00:44:31 → 00:44:34 จุดเริ่มต้นเท่านั้นเองครับที่จะ adap
00:44:34 → 00:44:37 ใช้งานกับหลายๆอุตสาหกรรมครับเหลังจากนี้
00:44:37 → 00:44:40 เนี่ยเราน่าจะเห็นอะไรที่มันว้าวเพิ่ม
00:44:40 → 00:44:43 ขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปีครับทีนี้ผมถามหน่อย
00:44:43 → 00:44:48 ว่าคุณเพชรทำงานในวงการ AI ครับผมความ
00:44:48 → 00:44:53 ต่างระหว่างเนอหรือว่าผู้ก่อตั้งคนไทยกับ
00:44:53 → 00:44:57 ต่างชาติมันต่างกันมั้ยบุคลิกการทำงานงาน
00:44:57 → 00:45:03 การคิดจรริงผมว่าอ่าทุกๆอย่างมันส่งผลต่อ
00:45:03 → 00:45:06 ความคิดทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นโอเคเรื่องของ
00:45:06 → 00:45:10 culture ที่เราอยู่เรื่องของจริงๆถึง
00:45:10 → 00:45:14 ระดับภาษาที่เราพูดกันมันส่งผลต่อวิธีการ
00:45:14 → 00:45:17 คิดทั้งหมดไม่เพราะถ้าสังเกตอย่างภาษาจีน
00:45:17 → 00:45:21 เนี่ยมีตัวอักษรจำที่ให้จำเป็นพันเป็นพัน
00:45:21 → 00:45:26 ตัวเลยคนจีนก็จะมีลักษณะนิสัยที่เอ้ยอ่าจ
00:45:26 → 00:45:32 ชอบจำจำ Copy PR อ่าหรือคนคนบางประเทศ
00:45:32 → 00:45:35 ที่ภาษาเขาจะมีความซับซ้อนหน่อยอะไรอย่า
00:45:35 → 00:45:38 เงี้ครับก็ก็จะส่งผลต่อความคิดของเขาให้
00:45:38 → 00:45:40 มีความคิดที่ซับซ้อนมีความชอบความคิด
00:45:40 → 00:45:43 อย่างเช่นพวกเยอรมันก็จะคิดทุกอย่าง 1 2
00:45:43 → 00:45:46 3 4 ดยเขาเจอหรือญี่ปุ่นหลังจากที่ผ่าน
00:45:46 → 00:45:48 สงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเขามีความอด
00:45:48 → 00:45:53 หยามามาเเลยทำให้ตัวเองเนี่ยมีวิธีการอ่า
00:45:53 → 00:45:57 แล้วว่าการใช้ชีวิตที่เคร่งขัดมากๆอืงี้
00:45:57 → 00:46:00 ผมรู้สว่าโอเคถามว่าไทยต่างจากต่างประเทศ
00:46:00 → 00:46:03 มากแค่ไหนก็ต้องกลับมาดูที่ culture ของ
00:46:04 → 00:46:07 ไทยหรือวิธีการต่างๆที่ที่เขีผมว่าประเทศ
00:46:07 → 00:46:11 ไทยโอเคอย่างแรกเลยที่เราประเสไม่ได้ No
00:46:11 → 00:46:15 Who กับ no how ออเรารู้จักใครเรามี
00:46:15 → 00:46:18 ความน่ายื่อถือยังไงอย่าเงี้ยครับก็อยู่
00:46:18 → 00:46:20 ต่างประเทศส่วนใหญ่ก็ดูอ่ะคุณทำอะไรได้
00:46:20 → 00:46:24 บ้างคนไทยเอ้ยคุณรู้จักใครบ้างอือ่ะวิธี
00:46:24 → 00:46:27 การเติบโตก็จะต่างกันละอืของผมว่าใน
00:46:27 → 00:46:28 เรื่องของ
00:46:28 → 00:46:33 อ่าความโดยธรรมชาติของเลือกอาหารละกันถ้า
00:46:33 → 00:46:36 ลองสังเกตคนที่คล้ายๆเราก็จะมีอิตาลี
00:46:36 → 00:46:38 เพราะเป็นประเทศที่อาหารอุดมสมบูรณ์เราก็
00:46:38 → 00:46:42 จะเป็นพวกที่ชิลหน่อยแล้วแต่ละอย่างที่
00:46:43 → 00:46:44 เป็น produc ในประเทศก็เป็นส่วนใหญ่เป็น
00:46:44 → 00:46:48 เรื่องของ emotional มากกว่าถ้าเทียบกับ
00:46:48 → 00:46:50 ประเทศที่เอ้ยเขาไม่ค่อยมีทรัพยากรอย่าง
00:46:51 → 00:46:55 อังกฤษอย่างเยอรมันเาก็จะมีความโหยหาอ่า
00:46:55 → 00:47:00 การเอาชนะสงครามต่างๆอืนะครับว่าโอเคไทย
00:47:00 → 00:47:03 เนี่ยก็จะทุกอย่างจะเน้นไปตามแพชชั่นอื
00:47:03 → 00:47:05 อย่างไม่ว่าจะเป็นศิลปะไทยเหมที่โดดเด่น
00:47:05 → 00:47:09 การท่องเที่ยวแล้วลองกลับไปดูอย่างอ่า
00:47:09 → 00:47:12 อิตาลีที่คล้ายๆเรามีอะไรมี ferr มี
00:47:12 → 00:47:16 เรื่องอาหารที่เขาเด่นมามีศิลปกรรมต่างๆ
00:47:16 → 00:47:19 เพราะประเทศเขาอุดมสมบูรณ์คล้ายๆเราออัน
00:47:19 → 00:47:22 นี้ผมว่าก็จะเป็นหนึ่งในเนเจอร์ที่เ้ยคน
00:47:22 → 00:47:24 ไทยต่างจะต่างชาติยังไงเรื่องของวิธีการ
00:47:24 → 00:47:27 คิดต่างๆเราก็จะเน้นที่การทำอะไรตที่เป็น
00:47:27 → 00:47:31 emotional ค่อนข้างเยอะอืเออวนี้ผมไม่
00:47:31 → 00:47:33 เคยไม่เคยคิดไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเรากับ
00:47:33 → 00:47:34 อิตาลี
00:47:34 → 00:47:38 เนี่ยคล้ายๆกันนะ mood แ Tone เราจะคล้าย
00:47:38 → 00:47:42 ๆกันใช่ครับออเสียงดนตรีต่างๆแล้วกลับไป
00:47:42 → 00:47:45 ดูอังกฤษอังกฤษก็จะเอ้ยผมไม่มีทรัพยากร
00:47:45 → 00:47:48 เราก็จะเน้นที่การทำอ่าการชาตินิยมหน่อย
00:47:48 → 00:47:51 อ่ะเพราะว่าเขาอยู่ในเมืองที่เป็นเกาะ
00:47:51 → 00:47:53 เนาะแล้วก็ต้องออกไปล่าอนิคมเพราะว่า
00:47:53 → 00:47:55 ประเทศเแทบไม่มีทรัพยากรอะไรเลยอืถ้ามอง
00:47:55 → 00:47:58 ย้อนกลับไปประเทศเข้าไหนก็จะพยายามออกมา
00:47:58 → 00:48:02 ข้างนอกอืเพเพื่อต้องการหาทรัพยากรต่างๆ
00:48:02 → 00:48:05 แล้วคุณเพชรมองว่าถ้าให้ดูแล้วข้อดีข้อ
00:48:05 → 00:48:09 เสียหรือว่ามันมีจุดเด่นจุดอ่อนยังไงเวลา
00:48:09 → 00:48:12 ทำงานในในวงการ AI อย่างเงี้ยหรือทำงาน
00:48:12 → 00:48:15 กับต่างประเทศผมว่าโอเคด้วยด้ว culture
00:48:15 → 00:48:18 ไทยที่มันถูกหล่อล้อมาครับมันอาจจะทำให้
00:48:18 → 00:48:22 โคเราประเทศเราเนี่ยจะีปคนเก่งไม่ค่อยได้
00:48:22 → 00:48:25 ด้วยโอเคเราหลังจากที่อุตสาหกรรมมันแพ้
00:48:25 → 00:48:30 ขยายเราพยายามจะเป็นเมืองที่อ่า
00:48:30 → 00:48:34 สร้างแรงงานชั้นยอดในราคาที่ถูกให้กับ
00:48:34 → 00:48:36 ต่างชาติเพื่อให้ต่างชาติเอาเงินเข้ามาลง
00:48:36 → 00:48:38 ทุนเป็นส่วนใหญ่ซึ่งก็เป็นส่วนใหญ่ของ
00:48:38 → 00:48:41 อุตสาหกรรมแล้วก็ยังีปในมุมของอุตสาหกรรม
00:48:41 → 00:48:42 ทางการเกษตรซึ่งโอเคนี้เป็นสิ่งที่ดี
00:48:43 → 00:48:45 เพราะว่าเรื่องของที่ดินหรือเรื่องของ
00:48:45 → 00:48:48 ทรัพยากรต่างๆเรามันมีเยอะการที่เป็น
00:48:48 → 00:48:51 เกษตรส่วนใหญ่ก็ก็ไม่แปลกแต่ว่าพอเราเน้น
00:48:51 → 00:48:53 ที่ให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนแล้วเป็นแรงงาน
00:48:53 → 00:48:57 ชั้นดีราคาถูกก็ตามมาด้วยที่ว่าเฮ้ยค่า
00:48:57 → 00:48:59 ของชีพเราหรือว่าการจ่ายเงินเดินของเราก็
00:48:59 → 00:49:02 จะไม่ได้สูงเท่าต่างประเทศมันเลยทำให้
00:49:02 → 00:49:04 เอ้ยคนเก่งสตว่าอยู่ไทยได้เงินเดิน 50,000
00:49:04 → 00:49:06 อยู่ต่างประเทศได้ 200,000 เขาจะเลือก
00:49:06 → 00:49:09 อะไรแน่นอนเขาก็ต้องไปต่างประเทศถูกมั้ย
00:49:09 → 00:49:13 ฮะอหรือพอเรามีความที่เป็นลำดับขั้นค่อน
00:49:13 → 00:49:18 ข้างเยอะการอ่าไวหน้าเจ้านายการที่เราพูด
00:49:18 → 00:49:20 ไม่สามารถพูดตรงไปตรงมาได้อืเพราการ
00:49:20 → 00:49:23 สมมุติเราบอกว่าเฮ้ยคุณไม่ดีอย่างงู้น
00:49:23 → 00:49:27 อย่างงี้ 1 2 3 4 มันจะกลายเป็นว่าอ่า
00:49:27 → 00:49:29 emotional ของคนที่ถูกพูดอย่างงี้แทนที่
00:49:29 → 00:49:31 เอ้ยโอเคผมไม่ดีอย่างงี้ผมจะปรับปรุง
00:49:31 → 00:49:33 เหมือนกันแบบทำไมคุณพูดเหกับเราอย่างงี้
00:49:33 → 00:49:36 อ่ะอะไรเงี้ยกลายเป็นตลามันเลยมันเลยเกิด
00:49:36 → 00:49:40 ทำให้คนเก่งที่อยากจะทำให้อ่าออกเสียงให้
00:49:40 → 00:49:42 เหมือนแก้ไขทุกอย่างให้มันดีขึ้นก็ไม่มี
00:49:42 → 00:49:46 สิทธิ์ที่จะออกประมาณนั้นครับเลยโอเคมัน
00:49:47 → 00:49:50 ก็มีมีทั้งข้อดีในในบางมุมที่เอ้ยเราถ้า
00:49:50 → 00:49:53 เรามีวิธีการเจรจาที่ดีไยก็จะง่ายหน่อย
00:49:53 → 00:49:56 กับการใช้วิธีการเจรจาแต่ข้อเสียมันคือนะ
00:49:56 → 00:49:58 ครับเรื่องของการีปคนเก่งที่คนเก่งก็เลย
00:49:58 → 00:50:02 พยายามออกไปสู่ข้างนอกงั้นการที่จะีปคน
00:50:02 → 00:50:04 เก่งให้อยู่ในไทยได้ครับก็อาจจะต้องปรับ
00:50:04 → 00:50:07 เจอร์เหล่านี้ในบริษัทอืผมเองอ่ะเรื่อง
00:50:07 → 00:50:10 ของเวลางานโอเคเราก็จะอิงจากญี่ปุ่นมา
00:50:10 → 00:50:13 ค่อนข้างเยอะตอกปัดตอนเช้าเลิกตอนเย็นทำ
00:50:13 → 00:50:17 งานเวละกี่ชั่วโมงต่างๆทำให้สมมุติคนที่
00:50:17 → 00:50:19 ต้องมีไปรับรูกตอนเที่ยนทำยังไงล่ะอะไร
00:50:20 → 00:50:21 อย่างเงี้ครับก็จะกลายเป็นตัวประหลาดใน
00:50:21 → 00:50:25 สังคมไปอถูกมั้ยฮะถ้าเราสามารถแก้ไขสิ่ง
00:50:25 → 00:50:28 เหล่านี้ปรับเเองค์กรให้ให้ซัพพอร์ตคน
00:50:28 → 00:50:32 กลุ่มนี้หรือสร้างความ Comfort ให้กับคน
00:50:32 → 00:50:35 ได้ครับจริงๆแค่นี้คนเก่งก็อยู่กับเรา
00:50:35 → 00:50:37 แล้วครับอาจจะถึงไม่ถึงขั้นต้องเพิ่มเงิน
00:50:37 → 00:50:39 เดือนให้เลยนะเพราะว่าหลายๆคนก็รู้สึกว่า
00:50:39 → 00:50:42 ไม่ได้อยากไปทำงานกดดันที่ต่างประเทศหรอก
00:50:42 → 00:50:44 แต่ว่าเรื่องเงินเรื่องอะไรต่างๆมันก็มัน
00:50:44 → 00:50:47 ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยอือๆที่โอเคเราก็ยัง
00:50:47 → 00:50:49 วัดค่าความสำเร็จกับเงินเดือนเก่นเป็น
00:50:49 → 00:50:51 ส่วนใหญ่อถูกมั้ยฮะแล้วคุณเพชรแก้โจทย์
00:50:51 → 00:50:54 ยังไงเพราะว่าคุณเพชรเองก็ทำงานกับ
00:50:54 → 00:50:58 พนักงาน 5060 คนนะครับผมเขอใช้คำว่าผู้
00:50:58 → 00:51:00 ร่วมงานดีกว่าไม่ใช่พนักงานนะเพราะเรา
00:51:00 → 00:51:03 outsource ใช่มั้ยเราแบ่งงานอ่าจริงๆก็
00:51:03 → 00:51:05 เป็นเป็นพนักงานในบริษัทครับแต่แต่ผมจะ
00:51:05 → 00:51:07 มองว่าทุกคนเป็นทีมมากกว่าไม่ว่าเขาจะ
00:51:07 → 00:51:10 เป็นสัญญาแบบ outsource หรือว่าจะเป็น
00:51:10 → 00:51:12 สัญญาพนักงานประจำอ้าแล้วแก้โจทย์ยังไง
00:51:12 → 00:51:15 เรื่องเรื่องดึงคนเก่งให้อยู่ในองค์กรหา
00:51:15 → 00:51:17 คนเก่งแยกมั้ยเอาอย่างงี้ก่อนหาคนเก่งผม
00:51:17 → 00:51:23 ว่าโอเคคนเก่งหายากแต่การที่จะคีคนเก่ง
00:51:23 → 00:51:26 ไว้ยากกว่าอือย่างบริษัทผมเนี่ยผมรับผม
00:51:26 → 00:51:29 ไม่กำหนดอายุไม่ดูไปปริญญาเพราะอย่างผม
00:51:29 → 00:51:31 เองก็ยังไม่เรียนไม่จบถูกมั้ยฮะผมเชื่อ
00:51:31 → 00:51:34 ว่าแบบถ้าคนมีแพชชั่นในเรื่องไหนเขาจะ
00:51:34 → 00:51:36 พยายามทำเรื่องนั้นให้มันออกมาดีที่สุด
00:51:36 → 00:51:40 เองอืถ้างั้นคียที่ผมคีคนก็คือผมให้เขา
00:51:40 → 00:51:44 ได้ทำในสิ่งที่เขาอยากจะทำได้เต็มที่อื 2
00:51:44 → 00:51:49 คือผมไม่ัว่าเค้าอายุเท่าไหร่เควดขั้นไหน
00:51:49 → 00:51:51 แล้วเควรจะเงินเดือนเท่าไหร่ทุกอย่างวัด
00:51:52 → 00:51:54 ตามความสามารถที่คุณทำได้เพราะว่าบางคน
00:51:54 → 00:51:57 สมมุติว่าเอ้ยบางคนอาจจะอยู่แค่มัธยมแต่
00:51:57 → 00:52:00 ว่าเอ้ยความสามารถเขาไปไกลมากๆเขาอาจจะ
00:52:00 → 00:52:03 เก่งกว่าคนที่จบเองหลายๆคนด้วยซ้ำงั้น
00:52:03 → 00:52:05 เงินเดือนผมก็ไม่จัเลยว่าเอ้ยคุณอายุ 16
00:52:05 → 00:52:07 คุณเอาไป 5,000 พอไม่มีสิ่งเหล่านี้ใน
00:52:08 → 00:52:12 บริษัทผมอืใช่ครับงั้นทุกอย่างเราจะจัตาม
00:52:12 → 00:52:15 สิ่งที่คุณทำได้ใช่ครับแล้วก็อีกอย่างนึง
00:52:15 → 00:52:18 ก็คือให้ความ flexible กับแต่ละคนมาเข้า
00:52:19 → 00:52:23 ใจว่าแต่ละคนมีภาระที่ตัวเองต้องแบ่งที่
00:52:23 → 00:52:26 ไม่ใช่แค่เรื่องงานเรื่องส่วนตัวครอบครัว
00:52:26 → 00:52:29 หรือแม้แต่บางคนเรียนอยู่สัญญาณของผมเลย
00:52:29 → 00:52:31 หลากหลายมากว่าเอ้ยสมมุติเป็นน้องน้องๆ
00:52:31 → 00:52:34 นักเรียนล่ะโอเคในช่วงเปิดเทอมเอาจจะมี
00:52:35 → 00:52:37 เวลาทำน้อยหน่อยแต่นี่คือความฝันเขาเอยาก
00:52:37 → 00:52:39 ทำสิ่งนี้แล้วก็เปิดโอกาสให้เขาได้เข้ามา
00:52:39 → 00:52:42 ทำอืหรือสมมุติช่วงปิดเทอมเมีเวลามากขึ้น
00:52:42 → 00:52:45 อ่ะคจมาคุยกันเพิ่มอ่ะเพราะตอนก่อนนี้คุณ
00:52:45 → 00:52:47 มีเวลาน้อยคุณก็เอ้ยอาเตลดลงหน่อยแต่ตอน
00:52:47 → 00:52:49 ไหนคุณมีเวลายคุณทำได้เต็มที่คุณทำตั้ง
00:52:49 → 00:52:53 แต่ 8800 นถึง 2 เลยคุณก็ตามที่คุณทำเลย
00:52:53 → 00:52:55 อะไรประมาณนี้ครับเพงั้นทุกอย่างมันเลย
00:52:55 → 00:52:57 แบบ flexible มากๆมันอาจจะขัดแย้งกับรูป
00:52:57 → 00:53:01 แบบองค์กรในที่ผ่านมาหน่อยว่าถ้า fal ค
00:53:01 → 00:53:04 นี้โอหสัญญาเปลี่ยนกันละนาเลยบัญชี HR
00:53:04 → 00:53:06 นี่ทำงานกันหนักหน่วมากอะไรอย่าเงี้ยครับ
00:53:06 → 00:53:09 ใช่แต่มันก็ทำให้เอ้ยคนรู้สึกว่าแฮปี้ให้
00:53:09 → 00:53:11 รู้สึกเราเหมือนเราเหมือนเป็น Comfort
00:53:11 → 00:53:13 โซนเป็นเหมือน sandbox ที่เอ้ยเขาจะลอง
00:53:13 → 00:53:16 ผิดลองถูกได้แล้วก็อีกอย่างนึงคือไม่จัด
00:53:16 → 00:53:19 ว่าสิ่งที่เขาทำแล้วมันผิดพลาดจะไม่จัด
00:53:19 → 00:53:22 ว่าโอเคคุณทำผิดคุณต้องโดนลงโทษแต่ว่า
00:53:22 → 00:53:24 โอเคคุณได้เรียนรู้เลยจากสิ่งนี้แล้วสิ่ง
00:53:24 → 00:53:26 นี้มันทำให้คนอื่นๆนะครับได้เห็นอะไร
00:53:26 → 00:53:30 เพิ่มขึ้นบ้างแนั้นสมมุติเราทำ 10 ครั้ง
00:53:30 → 00:53:32 ผิด 9 ครั้งเลยแต่อย่างน้อยไอ้ครั้งที่
00:53:32 → 00:53:35 ถูกเนี่ยมันจะเป็นการถูกแบบก้าวกระโดดเลย
00:53:35 → 00:53:37 เพราะว่าเราเรียนรู้แล้วว่าอะไรคือสิ่ง
00:53:37 → 00:53:42 ที่ผิดบ้างอืทีนี้ดีนะฮที่คุณเพชรพูด
00:53:42 → 00:53:44 เนี่ยมันเป็น ideal Model เลยนะที่ 1
00:53:44 → 00:53:47 คือผู้บริหารเนี่ยเปิดโอกาสผู้บริหาร
00:53:47 → 00:53:51 flexible ผู้บริหารให้เงินตามผลลัพธ์
00:53:51 → 00:53:54 ครับใช่มั้ยแล้วก็เด็กมีสิทธิ์ที่จะออก
00:53:54 → 00:53:57 เสียงไม่ได้มีกฎกดตายตัวอยู่กันแบบ
00:53:57 → 00:54:01 ครอบครัวแต่ทีนี้ปัญหาที่ตามมาอันที่ 1
00:54:01 → 00:54:06 ที่ผมอยากจะถามคือครับพนักงาน
00:54:06 → 00:54:10 เค้าเค้าเข้าใจมยอันที่ 1 พอเรา flexible
00:54:11 → 00:54:12 มาก
00:54:12 → 00:54:15 ครับแทนที่เขาจะ productive มากขึ้นครับ
00:54:16 → 00:54:20 ผมกลับกลายเป็นว่าเค้าหลวมเขี้เกียจมาก
00:54:20 → 00:54:25 ขึ้นอันนี้ผมไม่รู้ว่ามองยังไงแก้ยังไงอ 2
00:54:25 → 00:54:29 คือพนักงานเนี่ยไม่ได้เป็นพนักงานที่ Self
00:54:29 → 00:54:32 motivate อืเข้าใจมั้ยฮะอย่างอย่าคุณ
00:54:32 → 00:54:35 เพชรอาจจะมี Self motivation มีแพชั่น
00:54:35 → 00:54:38 ของตัวเองแต่ผมเชื่อว่าพนักงานร้อยละ 90
00:54:38 → 00:54:42 อผมไม่รู้ต่างประเทศหรือวงวงกรองค์กรอื่น
00:54:42 → 00:54:46 เป็นยังไงแต่ว่าในองค์กรผมเนี่ยหาพนักงาน
00:54:46 → 00:54:50 ที่ S motivate ยากมากเข้าใจกลายเป็นว่า
00:54:50 → 00:54:52 เราต้องลงไป motivate พอเรา motivate
00:54:53 → 00:54:55 เค้าก็เหมือนเ motivate นะแต่มันก็เป็นไฟ
00:54:55 → 00:54:58 ที่แบบฟุดมาแล้วมันก็ดับไปเพราะมันไม่ได้
00:54:58 → 00:55:00 มาจากตัวเา
00:55:00 → 00:55:03 อืปรากฏการณ์อย่างนี้ในองค์กรคุณเพชรทำ
00:55:03 → 00:55:06 ยังไงให้เา้าให้เา motivate ตัวเองเมี
00:55:06 → 00:55:09 passion อย่างที่คุณเพชรบอกว่าเออเราไม่
00:55:09 → 00:55:11 ได้ว่าเค้าจากการที่เขาผิดแต่ให้เขาค
00:55:12 → 00:55:15 เรียนรู้อันนี้ก็เป็นอีกโจทย์นึงว่า
00:55:15 → 00:55:19 เอ่อเค้าเรียนรู้จริงหรือเปล่าอ่าเข้าใจ
00:55:20 → 00:55:22 เลยครับหรือว่าเค้าแบบเค้ารู้ว่าเค้าผิด
00:55:22 → 00:55:24 แล้วเคก็อ้าผ่านๆไปเ้าแค่เรียนรู้ว่าจะ
00:55:24 → 00:55:26 ไม่ทำอย่างนี้เพื่อไม่ให้เกิด
00:55:26 → 00:55:29 ข้อผิดพลาดแต่ถามว่าเเรียนรู้เพื่อไปต่อ
00:55:29 → 00:55:33 ยอดยังไงรู้ยังไงแล้วทำยังไงฮโอเคจริถาม
00:55:33 → 00:55:36 ว่าโอเคคนที่ productive มากๆมีไม่มีกับ
00:55:36 → 00:55:39 คนที่เข้ามาผลประโยชน์จากสิ่งนี้ก็มี
00:55:39 → 00:55:42 เหมือนกันผมเลยไม่แปลกใจว่าทำไมโอเค
00:55:42 → 00:55:45 บริษัทส่วนใหญ่เขาเลยจะตั้งทุกอย่างวัดผล
00:55:45 → 00:55:47 เป็นเวลาเพราะว่าอย่างน้อยมันจะได้มีตัว
00:55:47 → 00:55:51 หนึข้อบังคับหนึงที่จะทำให้สามารถคอนโทรล
00:55:51 → 00:55:53 ผลงานต่างๆออกมาได้เพราะอย่างน้อยอคุณ
00:55:54 → 00:55:56 ต้องนั่งทำงานไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วมงไม่งั้น
00:55:56 → 00:55:58 ไม่จ่ายเงินเดือนถูกมั้ยฮะโอเคแต่ว่าที
00:55:58 → 00:56:01 นี้ก็ต้องต้องเรียกว่าทีม management
00:56:01 → 00:56:06 เนี่ยก็ต้องดูต้องลงดีเทลกับทุกๆคนจริงๆ
00:56:06 → 00:56:09 เราจะเห็นว่าเอ้ยคนนี้ productive มากคน
00:56:09 → 00:56:11 นี้ productive น้อยแล้วเรา feedback กับ
00:56:11 → 00:56:13 ทุกคนตลอดงั้นถ้าใคร productive น้อยหรือ
00:56:13 → 00:56:15 แบบเข้ามาเพื่อเอาผลประโยชน์จากสิ่งความ
00:56:15 → 00:56:18 flexible ตรงนี้ครับมีเหมือนกันอือก็แค่
00:56:18 → 00:56:21 รีบตัดออกให้เร็วที่สุดอืประมาณนครับเรา
00:56:21 → 00:56:24 ต้องโอเคอาจจะไม่มีเกณฑ์วัดผลชัดเจนเพราะ
00:56:24 → 00:56:27 ว่าโอเคการการงานที่เป็นรีเสิร์ชแบบของ
00:56:27 → 00:56:30 ใหม่ๆแน่นอนมันมีถูกมีผิดแต่ว่าถ้าคนที่
00:56:30 → 00:56:33 เข้าใจในเชิงของเทคนิคอลลึกๆเนี่ยเขจะรู้
00:56:33 → 00:56:36 ได้ว่าเอ้ยสิ่งเนี้ยน่าจะทำประมาณกี่วัน
00:56:36 → 00:56:40 อืหังจากที่คุณพูดออกมาเนี่ยเนื้อแค่ไหน
00:56:40 → 00:56:42 หรือน้ำแค่ไหนโอเคเข้าใอ่ามันมันจะมีมัน
00:56:42 → 00:56:45 จะมีวิธีแบบวิธีการฟังในในแต่ละคนได้อยู่
00:56:45 → 00:56:48 ครับหรือว่านั่นแหละครับว่าถ้าสมมุติถาม
00:56:48 → 00:56:50 ลงไปในดีเทลว่าในสิ่งที่เขาทำมาเเข้าใจ
00:56:50 → 00:56:52 มันมากขนาดไหนออะไรพวกนี้ครับก็จะเป็น
00:56:52 → 00:56:55 วิธีการวัดได้ว่าเอ้ยคนนี้เขาูปงานจริง
00:56:55 → 00:56:57 รือเปล่าหรือว่าอือวันทั้งวันเขาอาจจะนอน
00:56:57 → 00:56:59 เล่นโทรศัพท์แล้วค่อยมาทำสักชั่วโมงนึง
00:56:59 → 00:57:02 ก่อนจะพรีเซนงานรก่อนจะอัปเดตกันเห็นภาพ
00:57:02 → 00:57:04 แสดงว่าคุณเพชรกำลังจะบอกว่ามันมีแหละใช่
00:57:04 → 00:57:08 มันคนที่แบบเกาะมาหาช่องโหวตในองค์กรแต่
00:57:08 → 00:57:12 เรารู้งานของเราเรารู้วิธีการตรวจสอบแล้ว
00:57:12 → 00:57:16 เราก็ตัดตัดเร็วถ้าเขาไม่ใช่ใช่ใช่ครับ
00:57:16 → 00:57:18 ตัดเพราะว่าถ้าถ้ามองเพว่าเอ้ยเราจะ
00:57:18 → 00:57:20 เปลี่ยนกดตรงนี้ทำให้คนส่วนใหญ่ในองค์กร
00:57:20 → 00:57:23 เขาไม่แฮปปี้เนี่ยเราอยากจะทำหรือเปล่าอ
00:57:23 → 00:57:25 ครับถ้าการเปลี่ยนเราทำให้คนส่วนใหญ่ที่
00:57:25 → 00:57:27 เขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลยไม่แฮปปี้ผมว่ามัน
00:57:27 → 00:57:30 ก็ไม่แฟร์สำหรับเขาที่เอ้ยเขาจะได้ทำใน
00:57:30 → 00:57:33 สิ่งที่เขาอยากจะทำละี้ครับหรือในเรื่อง
00:57:33 → 00:57:38 ของแพชชั่นเองผมว่าตรงนี้มันก็มีวิธีการ
00:57:38 → 00:57:41 การดูว่าเาแชั่นกับสิ่งนี้ขนาดไหนเพราะ
00:57:41 → 00:57:44 ว่าถ้าเราสนใจสักเรื่องนึงมากๆครับเราจะ
00:57:44 → 00:57:46 ศึกษาต่อเองโดยที่ไม่ต้องมีใครนำทางเลย
00:57:46 → 00:57:49 ว่าเฮ้ยคุณต้องไปดู 1 2 3 4 นะสิ่งนี้
00:57:49 → 00:57:52 เขาจะเป็นคนบอกเราเองว่าเอ้ยเาควรจะไปดู
00:57:52 → 00:57:55 อะไรมาเพื่อให้สิ่งที่เป้าหมายที่เราทำ
00:57:55 → 00:57:57 อยู่นั้นมันดีขึ้นอืหรือการเรียนรู้ข้อ
00:57:57 → 00:58:01 ผิดพลาดเองอครับก็เหมือนกับการวัดผลอย่าง
00:58:01 → 00:58:04 นึงที่โอเคสิ่งเหล่านี้มันก็จะถอนเป็นบท
00:58:04 → 00:58:07 เรียนที่เวลาเวลาผมประชุมกันครับจะมีหลาย
00:58:07 → 00:58:09 ๆทีมเข้ามาฟังร่วมกันได้เพรางั้นแต่ละทีม
00:58:09 → 00:58:12 ก็จะเห็นเลยว่าโอเคสิ่งเหล่านี้นะครับมัน
00:58:12 → 00:58:15 อ่าความผิดพลาดเหล่านี้ครับมันใหญ่ลงมาก
00:58:15 → 00:58:19 แค่ไหนแล้วควรจะทำยังไงต่ออถ้าถ้าคนที่
00:58:19 → 00:58:21 เค้ามีแฟชั่นจริงเาจะรู้เลยว่าโอเคเจะควร
00:58:21 → 00:58:24 จะแก้ไขในมุมไหนต่อแล้วเก็จะควรเดินต่อ
00:58:24 → 00:58:28 ยังไงแล้วเอ้ยเฮ้ยมันตันจริงๆถึงมโอเคมัน
00:58:28 → 00:58:31 สุดที่ความรู้ะก็จะมีเนเจอร์ที่เขาคอยชี้
00:58:31 → 00:58:34 แนะให้ว่าเอ้ยเอเวนี้ก็ก็เป็นเวที่น่าลอง
00:58:34 → 00:58:36 แล้วถ้าลองเวนี้มันอาจจะเกิดผล 1 2 3 4
00:58:36 → 00:58:39 เวนี้จะมีข้อเสีย 1 2 3 4 ก็จะเป็นการ
00:58:39 → 00:58:41 discus กันตรงๆว่า Manager ไม่มีหน้าที่
00:58:41 → 00:58:44 สั่งมีหน้าที่แค่ Advice ไกเฉยๆใช่ครับ
00:58:44 → 00:58:48 แล้วก็คนทีมที่ทำงานกับเจอร์ทุกคนเถียง
00:58:48 → 00:58:50 กันได้เอถ้าใครคิดว่าตรงไหนไม่ดีทุกคนก็
00:58:50 → 00:58:54 พูดมาเลยอือเพราะว่าไม่มีใครที่จะรู้จริง
00:58:54 → 00:58:57 ที่สุดในของที่มันยังไม่เกิดขึ้นอถูกมั้ย
00:58:57 → 00:59:00 ฮะงั้นมันเลยต้องเดินไปด้วยท่านี้ที่ทุก
00:59:00 → 00:59:02 คนสามารถออกเสียงและออกมุมมองของตัวเอง
00:59:02 → 00:59:06 ได้โอไอเลมากเลยประมาณนั้นครับผมนี่ก็
00:59:06 → 00:59:09 อยากทำงานในองค์กรแบบนี้มากไอเดลมากเลย
00:59:09 → 00:59:13 จริงๆครับไอเลมากไอเลมากเพราะว่าคือพอ
00:59:13 → 00:59:16 องค์กรที่มันใหญ่มากเนี่ยผู้บริหารก็จะมี
00:59:16 → 00:59:19 โจทย์ของตัวเองรับมาจากเบื้องบนพื่อถือ
00:59:19 → 00:59:21 หุ้นพู้อะไรอีกทีนึงครับคือกลายเป็นมัน
00:59:21 → 00:59:24 เริ่มเกิดแประหว่างผู้ปฏิบัติกับผู้
00:59:24 → 00:59:27 บริหารกับผู้บริหารและผู้บริหารก็จะส่ง
00:59:27 → 00:59:32 งานให้กับคนชั้นเอผู้บริหารระดับกลาง
00:59:32 → 00:59:36 เพื่อมาเป็นตัวเชื่อมระหว่างเกับเราอืนะ
00:59:36 → 00:59:39 แต่บางทีมันก็มีมีอีกหลาย Factor มีอีก
00:59:39 → 00:59:43 หลาย ler นะ anyway ไม่เป็นไรครับดีครับ
00:59:43 → 00:59:48 ดีๆผมว่าถ้าถ้าแล้วคิดว่ารูปแบบการบริหาร
00:59:48 → 00:59:50 อย่างเงี้ยผมเท่าที่ผมเคยรู้อย่างเช่น
00:59:50 → 00:59:51 Google อย่างเงี้ยเป็นหนึ่งในตัวอย่าง
00:59:51 → 00:59:55 ที่ดีว์ Microsoft นะ facebook อย่าง
00:59:55 → 00:59:57 เงี้ยใช่ใช่ครับบริหารใหญ่ๆเขาก็ใช้
00:59:57 → 01:00:00 mindset ประมาณนี้ใช่ครับผมก็ adopt กับ
01:00:00 → 01:00:04 ตัวเองนะคือไม่กำหนดที่เวลากำหนดที่ผลงาน
01:00:04 → 01:00:08 แล้วก็ก็พยายามจะให้เกียรติผู้ร่วมงาน
01:00:08 → 01:00:13 ครับแต่ก็ไม่ง่ายใช่ครับผมไม่ง่ายอาจจะ 1
01:00:13 → 01:00:17 ผมเองไม่เก่งหรือเปล่าในการในการีดทีมแต่
01:00:17 → 01:00:20 ว่าไม่รู้ว่าพอถึงจุดนึงไม่เรารู้สึกเรา
01:00:20 → 01:00:23 เหนื่อยที่จะีดคนเราอยากได้คนที่ S
01:00:23 → 01:00:26 passion อืเพราะว่าทุกครั้งต้องลงไปปั้น
01:00:26 → 01:00:29 เค้าไปกระตุ้นเค้าเรารู้สึกเราออกแรงเยอะ
01:00:29 → 01:00:31 ใช่แต่ถ้ามันไม่มาจากตัวเค้าบางทีเรา
01:00:31 → 01:00:35 เหนื่อยนะเข้าใจเลยครับผมหลายๆคนนะฮะผมก็
01:00:35 → 01:00:38 พยายามจะหยอดหยอดความคิดทีละนิดทีละนิด
01:00:38 → 01:00:40 ให้เขาคคิดเพื่อหวังว่าเขาจะตั้งคำถามให้
01:00:40 → 01:00:44 กับตนเองและเดินมาหาเราเพื่อเปิดประตูถึง
01:00:44 → 01:00:46 คำตอบเราอาจจะไม่รู้คำตอบแต่อย่างน้อยเรา
01:00:46 → 01:00:49 ก็ไกดอะไรบ้างอือแต่มันก็ไม่ง่ายนะผมว่า
01:00:49 → 01:00:53 เพราะว่าใช่ครับทีนี้ถาม
01:00:53 → 01:00:57 หน่อยคณคุณเพชรทำยังไงเซ motivate คือคือ
01:00:57 → 01:01:01 หรือว่าทำยังไงให้พนักงานเ Self motivate
01:01:01 → 01:01:04 ผมว่าเอาเริ่มที่คุณเพชรเองก่อนครับผมผม
01:01:04 → 01:01:07 ว่าโอเคการการที่คิดแนั้นผมว่าไม่แปลก
01:01:07 → 01:01:10 ด้วยโอเคย้อนกลับไปที่เรื่อง culture ที่
01:01:10 → 01:01:14 ไทยเราปฏิบัติกันมาทุกอย่างไม่ว่าจะตั้ง
01:01:14 → 01:01:17 แต่ตอนเรียนทุกอย่างจะต้องเป็นเวลาต้อง
01:01:17 → 01:01:20 เป็นอะไรต่างๆเราแทบจะไม่มีสิทธิ์คิดหรือ
01:01:20 → 01:01:22 สิทธิ์ตอบที่ไม่เหมือนครูถูกมั้ยฮะเลยทำ
01:01:22 → 01:01:25 ให้ไม่แปลกใจครับที่คนส่วนใหญ่หรือจริงๆ
01:01:25 → 01:01:28 แล้วถึงแม้มีแพมากแค่ไนก็ยังไม่ชินกับการ
01:01:28 → 01:01:31 ทำงานตอนนี้เหมือนกันใช่เพราะว่าทั้งที่
01:01:31 → 01:01:33 ตั้งแต่เด็กโอหเข้าโรงเรียนเมื่อไหร่ปุ๊บ
01:01:33 → 01:01:36 ก็จะโดนสิ่งนี้มาตลอดถูกมยฮะมันก็เลยไม่
01:01:36 → 01:01:39 แปละที่ว่าทำไมคนเรายังถึงแบบยังไม่กล้า
01:01:39 → 01:01:43 คิดยังไม่กล้าตัดสินใจอกันอะไรเงี้ครับ
01:01:43 → 01:01:46 หลายๆคนก็ค่อยๆปรับแบบมาเจอที่นี่ก็เเจอ
01:01:46 → 01:01:48 ช็อกแรกๆเหมือนกันว่าเฮ้ยมันพูดได้ขนาด
01:01:48 → 01:01:52 แล้วเลยหรออะไรเงี้ยแบบเ้ยตรงนี้แบบเออ
01:01:52 → 01:01:54 บางทีหลายๆคนก็จะทักมาหาผมส่วนตัวแล้ว
01:01:54 → 01:01:57 เอ้ยแบบมีปัญหานี้เฮ้ยจริงๆอ่ะผมก็เลย
01:01:57 → 01:01:59 เรียกเนเจอร์มานั่งคุยอะไรอ่ะจริงคุณคุย
01:01:59 → 01:02:02 ตรงๆได้เลยนะไม่ต้องซีเรียสเลยอือแล้วผม
01:02:02 → 01:02:04 พยายามทำให้องค์กรมันแฟชที่สุดไม่ได้มี
01:02:05 → 01:02:07 ระดับขั้นเยอะอะไรต่างๆเพื่อที่ทุกคนจะ
01:02:07 → 01:02:11 ได้รู้สึกว่าไม่ห่างกันมากอืๆสมมติมี
01:02:11 → 01:02:14 เนเจอร์สัก 4 ขั้นเนี่ยโอ้โหเคนทำงานเ
01:02:14 → 01:02:16 กว่าจะขึ้นไปถึงบอสเนี่ยลำบากมากเลยแทบจะ
01:02:16 → 01:02:18 ไม่มีได้ยินเสียงไปถึงบอสเลยบอสก็ไม่มี
01:02:19 → 01:02:22 ทางภาแล้วแล้วคุณเพชรทำยังไงที่จะแบบคือ
01:02:23 → 01:02:25 มันอาจจะมีไฟอยู่แล้วแต่ว่าครับผมเรา
01:02:25 → 01:02:29 motivate ตัวเองยังไงถ้าในในอ่ากลับกับ
01:02:29 → 01:02:32 ทีมใช่มั้ยฮะหรว่ากับตัวเองถ้ากลับตัวเอง
01:02:32 → 01:02:36 คือโอเคผมผมมองผมตั้งตั้งเป้าใหญ่ๆว่าผม
01:02:36 → 01:02:40 ผมอยากจะทำอะไรแต่ิอ่าเป้าผมนั่นครับผม
01:02:40 → 01:02:42 รู้สึกว่าสิ่งที่ผมอยากจะจะทำจริงๆแล้ว
01:02:42 → 01:02:44 อยากให้มันเป็นแบบ World Impact เลยคือ
01:02:44 → 01:02:48 อยากให้ไมันทำได้ทุกๆอย่างแต่ผมเชื่อว่า
01:02:48 → 01:02:50 นั่นแหละครับว่าถ้ายังไงที่มันทำได้เก่ง
01:02:50 → 01:02:53 มากๆมันจะไม่ได้มาจากแขนงเดียวมันเลยเป็น
01:02:53 → 01:02:56 จุดเริ่มต้นที่ผมเลยแตกแขนง AI ออกมาหลาย
01:02:56 → 01:02:59 ๆรูปแบบอือเพื่อที่จะได้รวมฮนี้ครับมารวม
01:02:59 → 01:03:02 เป็นก้อนอันเดียวใหญ่ๆที่กลายเป็นเหมือน
01:03:02 → 01:03:04 สมองอันใหญ่ที่ทำได้ทุกอย่างจริงๆอื
01:03:04 → 01:03:06 ประมาณนั้นครับอือๆนั่นก็เลย motivate
01:03:07 → 01:03:09 เราทุกวันใช่ครับแล้วบริหารชีวิตตัวเอง
01:03:09 → 01:03:13 ยังไงแต่ละวันอ๋อจริงงานเป็นลักงานเป็น
01:03:13 → 01:03:17 รักเลยครับเรว่าถ้าพอพอเหมือนเราได้โอเค
01:03:17 → 01:03:19 เนื่องจากงานเป็นเชิงรีเสิร์ชด้วยแล้วเรา
01:03:19 → 01:03:21 ได้ตื่นมาเจอสิ่งใหม่ๆทุกวันมันเลยทำให้
01:03:21 → 01:03:23 รู้สึกว่าแต่ละวันที่ตื่นขึ้นมามันมีความ
01:03:23 → 01:03:26 ตื่นเต้นรอเราอยู่อืโอเคบางวันมันอาจจะมี
01:03:26 → 01:03:29 วันที่แย่บ้างันวันมันอาจจะแบบล้มบ้างเฟล
01:03:29 → 01:03:32 บ้างแต่ก็กลับมามองที่เป้าหมายใหญ่ๆว่า
01:03:32 → 01:03:34 เอ้ยนี่คือสิ่งที่เรากำลังเดินอยู่แล้ว
01:03:34 → 01:03:36 สิ่งที่เราเดินผ่านมาแล้วเนี่ยมันไกลขนาด
01:03:36 → 01:03:39 ไหนแล้วนะออือออย่างเงี้ครับมันก็ทำให้
01:03:39 → 01:03:42 เอ้ยก็สู้ต่ออือะไรประมาณนั้นครับแล้วก็
01:03:42 → 01:03:46 รู้สึกว่าถ้าถ้าวันนี้ผมหยุดสู้ไปคนข้าง
01:03:46 → 01:03:49 หลังผมอีก 50-60 คนเขาจะเป็นยังไงอือือ
01:03:49 → 01:03:51 แล้วถ้าผมไม่ทำสิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่าง
01:03:51 → 01:03:54 แบบไม่มีไฟแล้วคนอื่นจะมีไฟได้ยังไงอะไร
01:03:55 → 01:03:59 อย่างเงี้ครับออืใช่ก็เลยต้องไฟลุกตลอดอื
01:03:59 → 01:04:01 ประมาณนั้นครับแต่ก็แต่ก็เป็นสิ่งที่แบบ
01:04:01 → 01:04:03 เป็นเป็นเป้าหมายใหญ่ๆของเราอยู่แล้วด้วย
01:04:03 → 01:04:05 โอคนอกเหนือจากการกำหนดเป้าให้กับตัวเอง
01:04:05 → 01:04:09 เป้าหมายใหญ่เรามีวิธียังไงที่ปลุกไฟใน
01:04:09 → 01:04:12 ตัวเองอยู่ตลอดเวลาคือหรือว่าใช้คำว่า
01:04:12 → 01:04:16 ครองไฟก็ได้อให้มันให้มันให้มันคิว่าเออ
01:04:16 → 01:04:19 เรามีไฟที่เราต้องทำตลอดเวลาว่ามันมัน
01:04:19 → 01:04:21 ต้องเชื่อในสิ่งที่ทำก่อนนะครับว่าถ้าถ้า
01:04:21 → 01:04:26 เรา bel ว่าภาพอนาคตมันจะเป็นยังไงแล้วผม
01:04:26 → 01:04:29 สว่าโอเคภาพในอนาคตผมมันอาจจะมีการ
01:04:29 → 01:04:31 เปลี่ยนแปลงในดีเทลบ้างเล็น้อยแต่ว่าภาพ
01:04:31 → 01:04:35 ใหญ่มันยังเหมือนเดิมว่ายังไง AI จะเป็น
01:04:35 → 01:04:37 ตัวที่เข้ามา experience หลายๆอย่างแล้ว
01:04:37 → 01:04:41 ก็มันจะต้องมี AI ที่สร้างทุกๆสิ่งแต่ว่า
01:04:41 → 01:04:44 ทำได้หลายๆอย่าง้างั้นไอ้ภาพนี้มันยังคง
01:04:44 → 01:04:46 อยู่แล้วจะเห็นว่าโลกปัจจุบันอย่างที่คุณ
01:04:46 → 01:04:49 หมอยกตัวอย่างเคสจะเห็นว่า AI มันก็เริ่ม
01:04:49 → 01:04:52 adap ละมันเหมือนยิ่งยิผ่านไปในทุกๆวัน
01:04:52 → 01:04:54 นะครับภาพที่ผมคิดมันเริ่มเป็นจริงขึ้น
01:04:54 → 01:04:57 เรื่อยๆอืมันก็เลยทำให้รู้สึกว่ามันช้า
01:04:57 → 01:05:00 ไม่ได้ละมันต้องใส่ลงไปอีกมันต้องใส่ลงไป
01:05:00 → 01:05:04 อีกอะไเงี้ครับอครับใช่แต่ว่าโอเคในในใน
01:05:04 → 01:05:07 เชืองของผมอาจจะพูดในยุค AI ที่ที่ a มัน
01:05:07 → 01:05:09 มันเต็มไปหมดเนาะแต่ว่าในเชืองของอ่าใน
01:05:09 → 01:05:12 มุมของคนอื่นๆนะครับผมว่าในในเรื่องเหล่า
01:05:12 → 01:05:15 นี้เนี่ยถ้ามีแพชชั่นเเราเชื่อเห็นภาพกับ
01:05:15 → 01:05:19 มันจริงๆนะครับก็ต้องคิดภาพอนาคตนั้นไว้
01:05:19 → 01:05:21 แบบตั้งไว้บนทิ้งเลยว่าไม่ว่าจะมี
01:05:21 → 01:05:23 priority 1 2 4 คุณต้องเอานี้เป็น
01:05:23 → 01:05:26 อันดับแรกอืถ้าคุณที่มันอยู่ในทุกๆวัน
01:05:26 → 01:05:28 แล้วทำให้มันเป็นชีวิตประจำวันนะครับสิ่ง
01:05:28 → 01:05:32 นี้ผมว่ามันก็ยังคงอยู่ต่อไปอืครับจรริง
01:05:32 → 01:05:36 ผมว่าอ่าทุกๆอย่างมันส่งผลต่อความคิดทั้ง
01:05:36 → 01:05:40 หมดไม่ว่าจะเป็นโอเคเรื่องของ culture
01:05:40 → 01:05:44 ที่เราอยู่เรื่องของจริงๆถึงระดับภาษาที่
01:05:44 → 01:05:49 เราพูดกันมันส่งผลต่อวิธีการคิดทั้งหมดว
01:05:49 → 01:05:51 เพราะถ้าสังเกตอย่างภาษาจีนเนี่ยมีตัว
01:05:51 → 01:05:54 อักษรจำให้ให้จำเป็นพันเป็นพันตัวเลยคน
01:05:54 → 01:06:00 จีนก็จะมีลักษณะานิสัยที่เ้ยอ่าจชอบจำจำ
01:06:00 → 01:06:05 Copy PR อ่าหรือคนคนบางประเทศที่ภาษา
01:06:05 → 01:06:08 เขาจะมีความซับซ้อนหน่อยอะไรอย่าเงี้ครับ
01:06:08 → 01:06:11 ก็ก็จะส่งผลต่อความคิดของเขาให้มีความคิด
01:06:11 → 01:06:13 ที่ซับซ้อนมีความชอบความคิดยอย่างเช่นพวก
01:06:14 → 01:06:17 เยอรมันก็จะคิดทุกอย่าง 1 2 3 4 ดยเขา
01:06:17 → 01:06:19 เจอหรือญี่ปุ่นหลังจากที่ผ่านสงครามโลก
01:06:19 → 01:06:22 ครั้งที่ 2 ประเทศเขามีความอดหยามากๆเเลย
01:06:22 → 01:06:27 ทำให้ตัวเองเนี่ยมีวิธีการอ่าเรียว่าการ
01:06:27 → 01:06:31 ใช้ชีวิตที่เคร่งขัดมากๆอืองี้ผมรู้สึว่า
01:06:31 → 01:06:34 โอเคถามว่าไทยต่างจากต่างประเทศมากแค่ไหน
01:06:34 → 01:06:37 ก็ต้องกลับมาดูที่ culture ของไทยหรือ
01:06:37 → 01:06:41 วิธีการต่างๆที่ที่เขผมว่าประเทศไทยโอเค
01:06:41 → 01:06:44 อย่างแรกเลยที่เราประเสไม่ได้ No Who
01:06:44 → 01:06:48 กับ no how อือเรารู้จักใครเรามีความน่า
01:06:48 → 01:06:51 เชื่อถือยังไงอย่าเงี้ครับก็อยู่ต่าง
01:06:51 → 01:06:53 ประเทศส่วนใหญ่ก็ดูอ่ะคุณทำอะไรได้บ้างคน
01:06:53 → 01:06:57 ไทยเอ้ยคุณรู้จักใครบ้างอือ่ะวิธีการเติบ
01:06:57 → 01:07:01 โตก็จะต่างกันละอืผมว่าในเรื่องของ
01:07:01 → 01:07:05 อ่าความโดยธรรมชาติของเรื่องอาหารละกัน
01:07:06 → 01:07:09 ถ้าลองสังเกตคนที่คล้ายๆเราก็จะมีอิตาลี
01:07:09 → 01:07:11 เพราเป็นประเทศที่อาหารอุดมสมบูรณ์เราก็
01:07:11 → 01:07:15 จะเป็นพวกที่ชิลหน่อยแล้วแต่ละอย่างที่
01:07:15 → 01:07:17 เป็น produc ในประเทศก็เป็นส่วนใหญ่เป็น
01:07:17 → 01:07:20 เรื่องของ emotional มากกว่าถ้าเทียบกับ
01:07:20 → 01:07:23 ประเทศที่เอ้ยเขาไม่ค่อยมีทรัพยากรอย่าง
01:07:23 → 01:07:28 อังกฤษอย่างเยอรมันเขาก็จะมีความโหยหาอ่า
01:07:28 → 01:07:32 การเอาชนะสงครามต่างๆอืนะครับผมบอกว่า
01:07:32 → 01:07:34 โอเคไทยเนี่ยก็จะทุกอย่างจะเน้นไปตาม
01:07:34 → 01:07:37 แพชชั่นอือย่างไม่ว่าจะเป็นศิลปะไทยเหม
01:07:38 → 01:07:41 ที่โดดเด่นการท่องเที่ยวอแล้วลองกลับไปดู
01:07:41 → 01:07:43 อย่างอ่าอิตาลีที่คล้ายๆเรามีอะไรมี
01:07:43 → 01:07:47 Ferrari มีเรื่องอาหารที่เขาเด่นมามี
01:07:47 → 01:07:50 ศิลปกรรมต่างๆพอประเทศเขาอุดมสมบูรณ์
01:07:50 → 01:07:53 คล้ายๆเราออันนี้ผมว่าก็จะเป็นหนึ่งใน
01:07:53 → 01:07:56 เนเจอร์ที่เ้ยคนไทยต่างจากต่างชาติยังไง
01:07:56 → 01:07:59 เรื่องของวิธีการคิดต่างๆเราก็จะเน้นที่
01:07:59 → 01:08:01 การทำอะไรที่เป็น emotional ค่อนข้างเยอะ
01:08:01 → 01:08:05 อืเออประมาณนั้นนี้ผมไม่เคยไม่เคยคิดไม่
01:08:05 → 01:08:08 เคยรู้มาก่อนเลยว่าเรากับอิตาลีเนี่ยแ
01:08:08 → 01:08:11 คล้ายๆกันนะ mood and Tone เราจะคล้ายๆ
01:08:11 → 01:08:15 กันใช่ครับอเสียงดนตรีต่างๆแล้วกลับไปดู
01:08:15 → 01:08:17 อังกฤษอังกฤษก็จะเอ้ยไม่มีทรัพยากรเราก็
01:08:17 → 01:08:21 จะเน้นที่การทำอ่าการชาตินิยมหน่อยอ่ะ
01:08:21 → 01:08:24 เพราะว่าเขาอยู่ในเมืองที่เป็นเกาะเนาะ
01:08:24 → 01:08:26 แล้วก็ต้องออกไปล่าานี้ผมเพราะว่าประเทศเ
01:08:26 → 01:08:29 แทบไม่มีทรัพยากรอะไรเลยอืถ้ามองย้อนกลับ
01:08:29 → 01:08:32 ไปประเทศเเนี่ยก็จะพยายามออกมาข้างนอกอื
01:08:32 → 01:08:35 เพราะว่าเพื่อต้องการหาทรัพยากรต่างๆแล้ว
01:08:35 → 01:08:38 คุณเพชรมองว่าถ้าให้ดูแล้วข้อดีข้อเสีย
01:08:38 → 01:08:41 หรือว่ามันมีจุดเด่นจุดอ่อนยังไงฮะเวลาทำ
01:08:41 → 01:08:44 งานในในวงการ AI อย่างเงี้ยหรือทำงานกับ
01:08:44 → 01:08:48 ต่างประเทศผมว่าโอเคด้วยด้วยเคาเจอร์ไทย
01:08:48 → 01:08:51 ที่มันถูกหล่อล้อมาครับมันอาจจะทำให้เเค
01:08:51 → 01:08:54 เราประเทศเราเนี่ยจะีปคนเก่งไม่ค่อยได้
01:08:54 → 01:08:58 ด้วยโอเคเราหลังจากที่อุตสาหกรรมมันแพ้
01:08:58 → 01:09:03 ขยายเราพยายามจะเป็นเมืองที่อ่า
01:09:03 → 01:09:06 สร้างแรงงานชั้นยอดในราคาที่ถูกให้กับ
01:09:06 → 01:09:09 ต่างชาติเพื่อให้ต่างชาติเอาเงินเข้ามาลง
01:09:09 → 01:09:11 ทุนเป็นส่วนใหญ่ซึ่งก็เป็นส่วนใหญ่ของ
01:09:11 → 01:09:13 อุตสาหกรรมแล้วก็ยังคีปในมุมของ
01:09:13 → 01:09:15 อุตสาหกรรมทางการเกษตรซึ่งโอเคอันนี้เป็น
01:09:15 → 01:09:17 สิ่งที่ดีเพราะว่าเรื่องของที่ดินหรือ
01:09:18 → 01:09:20 เรื่องของทรัพยากรต่างๆเรามันมีเยอะการ
01:09:20 → 01:09:23 ที่เป็นเกษตรส่วนใหญ่ก็ก็ไม่แปลกแต่ว่าพอ
01:09:23 → 01:09:26 เราเน้นที่ให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนแล้ว
01:09:26 → 01:09:28 เป็นแรงงานชั้นดีราคาถูกก็ตามมาด้วยที่
01:09:28 → 01:09:31 ว่าเฮ้ยค่าของาชีพเราหรือว่าการจ่ายเงิน
01:09:31 → 01:09:33 เดินของเราก็จะไม่ได้สูงเท่าต่างประเทศ
01:09:33 → 01:09:36 มันเลยทำให้เอ้ยคนเก่งสว่าอยู่ไทยได้เงิน
01:09:36 → 01:09:39 เดิน 50,000 อยู่ต่างประเทศได้ 200,000
01:09:39 → 01:09:41 เขาจะเลือกอะไรแน่นอนเาก็ต้องไปต่าง
01:09:41 → 01:09:45 ประเทศถูกมั้ยฮะอหรือพอเรามีความที่เป็น
01:09:45 → 01:09:48 ลำดับขั้นค่อนข้างเยอะการ
01:09:48 → 01:09:51 อ่าไวหน้าเจ้านายการที่เราพูดไม่สามารถ
01:09:51 → 01:09:54 พูดตรงไปตรงมาได้เพราะการสมมุติเราบอกว่า
01:09:54 → 01:09:57 เฮ้ยคุณไม่ดีอย่างงู้นอย่างงี้ 1 2 3 4
01:09:57 → 01:10:01 มันจะกลายเป็นว่าอ่า emotional ของคนที่
01:10:01 → 01:10:03 ถูกพูดอย่างงี้แทนที่เอ้ยโอเคผมไม่อย่าง
01:10:03 → 01:10:05 งี้ผมจะปรับปรุงเหมือนกันแบบทำไมคุณพูดเห
01:10:05 → 01:10:08 กับเราอย่างงี้ออะไรเงี้ยกลายเป็นตลอดมัน
01:10:08 → 01:10:12 เลยมันเลยเกิดทำให้คนเก่งที่อยากจะทำให้
01:10:12 → 01:10:14 อ่าออกเสียงให้เหมือนแก้ไขทุกอย่างให้มัน
01:10:14 → 01:10:17 ดีขึ้นก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกเสียประมาณ
01:10:17 → 01:10:21 นั้นครับมันเลยโอเคมันก็มีมีทั้งข้อดีใน
01:10:21 → 01:10:24 ในบางมุมที่เอ้ยเราถ้าเรามีวิธีการเจรจา
01:10:24 → 01:10:27 ที่ดีไทยก็จะง่ายหน่อยกับการใช้วิธีการ
01:10:27 → 01:10:29 เจรจาแต่ข้อเสียมันคือนะครับเรื่องของการ
01:10:29 → 01:10:32 คิคนเก่งที่คนเก่งก็เลยพยายามออกไปสู่
01:10:32 → 01:10:35 ข้างนอกองั้นการที่จะีคนเก่งให้อยู่ในไทย
01:10:35 → 01:10:37 ได้ครับก็อาจจะต้องปรับ culture เหล่านี้
01:10:37 → 01:10:41 ในบริษัทอืผมเองอ่ะเรื่องของเวลางานโอเค
01:10:41 → 01:10:44 เราก็จะอิงจากญี่ปุ่นมาค่อนข้างเยอะตอก
01:10:44 → 01:10:46 ปัดตอนเช้าเลิกตอนเย็นทำงานเวละกี่
01:10:46 → 01:10:50 ชั่วโมงต่างๆทำให้สมมุติคนที่ต้องมีไปรับ
01:10:50 → 01:10:53 รูปตอนเที่ยงทำยังไงล่ะอย่างเงี้ครับก็จะ
01:10:53 → 01:10:56 กลายเป็นตัวประหลาดในสังคมไปอืถูกมฮะถ้า
01:10:56 → 01:10:59 เราสามารถแก้ไขสิ่งเหล่านี้ปรับเจอร์องค์
01:10:59 → 01:11:03 กรให้ให้ซพคนกลุ่มนี้หรือสร้างความ
01:11:03 → 01:11:07 Comfort ให้กับคนได้ครับจริงๆแค่นี้คน
01:11:07 → 01:11:09 เก่งก็อยู่กับเราแล้วครับอาจจะถึงไม่ถึง
01:11:09 → 01:11:11 ขั้นต้องเพิ่มเงินเดือนให้เลยนะเพราะหลาย
01:11:11 → 01:11:14 ๆคนก็รู้สึกว่าไม่ได้อยากไปทำงานกดดันที่
01:11:14 → 01:11:16 ต่างประเทศหรอกแต่ว่าเรื่องเงินเรื่อง
01:11:16 → 01:11:18 อะไรต่างๆมันก็มันก็เป็นหนึ่งในปัจจัยอือ
01:11:19 → 01:11:21 ที่โอเคเราก็ยังวัดค่าความสำร็จกับเงิน
01:11:21 → 01:11:24 เดือนเเป็นส่วนใหญ่อถูกมฮะแล้วคุณเพแก้
01:11:24 → 01:11:27 โจทยยังไงฮะเพราะว่าคุณเพชรเองก็ทำงานกับ
01:11:27 → 01:11:31 พนักงาน 5060 คนนะเขาใช้คำว่าผู้ร่วมงาน
01:11:31 → 01:11:33 ดีกว่าไม่ใช่พนักงานนะเพราะเราเอา source
01:11:33 → 01:11:36 ใช่มั้ยเราแบ่งงานอ่าจริงๆก็เป็นเป็น
01:11:36 → 01:11:38 พนักงานในบริษัทครับแต่แต่ผมจะมองว่าทุก
01:11:38 → 01:11:41 คนเป็นทีมมากกว่าไม่ว่าเขาจะเป็นสัญญาแบบ
01:11:41 → 01:11:43 outsource หรือว่าจะเป็นสัญญาพนักงาน
01:11:43 → 01:11:45 ประจำอ้าแล้วแก้โจทย์ยังไงเรื่องเรื่อง
01:11:46 → 01:11:48 ดึงคนเก่งให้อยู่ในองค์กรหาคนเก่งแยกมั้ย
01:11:48 → 01:11:52 เอาอย่างงี้หาคนเก่งผมว่าโอเคคนเก่งหายาก
01:11:52 → 01:11:57 แต่การที่จะชีปคนเก่งไว้ยากกว่าอือย่าง
01:11:57 → 01:12:01 บริษัทผมเนี่ยผมรับผมไม่กำหนดอายุไม่ดูไป
01:12:01 → 01:12:02 ปริญญาเพราะอย่างผมเองก็ยังไม่เรียนไม่จบ
01:12:02 → 01:12:06 ถูกมั้ยฮะผมเชื่อว่าแบบถ้าคนมีแพชชั่นใน
01:12:06 → 01:12:08 เรื่องไหนเขาจะพยายามทำเรื่องนั้นให้มัน
01:12:08 → 01:12:12 ออกมาดีที่สุดเองอืถ้างั้นคียที่ผมคีคนก็
01:12:12 → 01:12:14 คือผมให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากจะทำได้
01:12:14 → 01:12:21 เต็มที่อื 2 คือผมไม่ัว่าเอายุเท่าไหร่เ
01:12:21 → 01:12:23 ขวดขั้นไหนแล้วเควรจะเงินเดือนเท่าไหร่
01:12:23 → 01:12:26 ทุกอย่างวัดตามความสามารถให้คุณทำได้
01:12:26 → 01:12:29 เพราะว่าบางคนสมมุติว่าเอ้ยบางคนอาจจะ
01:12:29 → 01:12:32 อยู่แค่มัธยมแต่ว่าเอ้ยความสามารถเขาไป
01:12:32 → 01:12:35 ไกลมากๆเขาอาจจะเก่งกว่าคนที่จบเองหลายๆ
01:12:35 → 01:12:37 คนด้วยซ้ำเพงั้นเงินเดือนผมก็ไม่จัว่า
01:12:37 → 01:12:40 เอ้ยคุณอายุ 16 คุณเอาไป 5,000 พอไม่มี
01:12:40 → 01:12:43 สิ่งเหล่านี้ในบริษัทผมอือใช่ครับงั้นทุก
01:12:43 → 01:12:47 อย่างเราจะจัตามสิ่งที่คนทำได้ใช่ครับ
01:12:47 → 01:12:50 แล้วก็อีกอย่างนึงก็คือให้ความ flexible
01:12:50 → 01:12:54 กับแต่ละคนมาเข้าใจว่าแต่ละคนมีภาระที่
01:12:54 → 01:12:57 ตัวเต้องแบกที่ไม่ใช่แค่เรื่องงานเรื่อง
01:12:57 → 01:13:00 ส่วนตัวครอบครัวหรือแม้แต่บางคนเรียนอยู่
01:13:00 → 01:13:03 สัญญาของผมเลยหลากหลายมากว่าเอ้ยสมมุติ
01:13:03 → 01:13:06 เป็นน้องน้องๆนักเรียนล่ะโอเคในช่วงเปิด
01:13:06 → 01:13:08 เทอมเาจจะมีเวลาทำน้อยหน่อยแต่นี่คือความ
01:13:09 → 01:13:11 ฝันเขาเอยากทำสิ่งนี้เราก็เปิดโอกาสให้
01:13:11 → 01:13:14 เขาได้เข้ามาทำอืหรือสมมุติช่วงปิดเทอม
01:13:14 → 01:13:16 เ้ามีเวลามากขึ้นอ่ะเเจมาคุยกันเพิ่มอ่ะ
01:13:16 → 01:13:19 เพราะตอนก่อนนี้คุณมีเวลาน้อยคุณก็เอ้ย
01:13:19 → 01:13:21 อาเตลดลงหน่อยแต่ตอนไหนคุณมีเวลาคุณทำได้
01:13:21 → 01:13:23 เต็มที่คุณทำตั้งแต่ 8:00 นถึง 2:00 นเลย
01:13:23 → 01:13:26 อคุณก็ตตามที่คุณทำเลยอะไรประมาณนี้ครับ
01:13:26 → 01:13:28 เพราะฉนั้นทุกอย่างมันเลยแบบ flexible
01:13:28 → 01:13:31 มากๆแต่มันอาจจะขัดแย้งกับรูปแบบองค์กรใน
01:13:32 → 01:13:34 ที่ผ่านมาหน่อยว่าถ้า FX คนี่โหสัญญา
01:13:34 → 01:13:37 เปลี่ยนกันระนาวเลยบัญชี HR นี่ทำงานกัน
01:13:37 → 01:13:40 หนักหน่มากอะไรอย่าเงี้ยครับใช่แต่มันก็
01:13:40 → 01:13:42 ทำให้เอ้ยคนก็รู้สึกว่าแฮปปี้ให้รู้สึก
01:13:42 → 01:13:44 เราเหมือนเราเหมือนเป็น Comfort โนเป็น
01:13:44 → 01:13:47 เหมือน sandbox ที่เอ้ยเขาจะลองผิดลองถูก
01:13:47 → 01:13:49 ได้แล้วก็อีกอย่างนึงคือไม่จัดว่าสิ่งที่
01:13:49 → 01:13:52 เขาทำแล้วมันผิดพลาดจะไม่จัดว่าโอเคคุณทำ
01:13:52 → 01:13:55 ผิดคุณต้องโดนลงโทษแต่ว่าโอเคคุณได้เรียน
01:13:55 → 01:13:57 รู้อะไรจากสิ่งนี้แล้วสิ่งนี้มันทำให้คน
01:13:57 → 01:14:01 อื่นๆนะครับได้เห็นอะไรเพิ่มขึ้นบ้างแั้น
01:14:01 → 01:14:04 สมมุติเราทำ 10 ครั้งผิด 9 ครั้งเลยแต่
01:14:04 → 01:14:06 อย่างน้อยไอ้ครั้งที่ถูกเนี่ยมันจะเป็น
01:14:06 → 01:14:08 การถูกแบบก้าวกระโดดเลยเพราะว่าเราเรียน
01:14:08 → 01:14:12 รู้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ผิดบ้างอืทีนี้
01:14:13 → 01:14:15 ดีนะฮที่คุณเพชรพูดเนี่ยมันเป็น ideal
01:14:15 → 01:14:18 Model เลยนะที่ 1 คือผู้บริหารเนี่ยเปิด
01:14:18 → 01:14:20 โอกาสผู้บริหาร
01:14:20 → 01:14:23 flexible ผู้บริหารให้เงินตามผลลัพธ์
01:14:23 → 01:14:27 ครับใช่มั้ยแล้วก็เด็กมีสิทธิ์ที่จะออก
01:14:27 → 01:14:31 เสียงไม่ได้มีกฎตายตัวอยู่กันแบบครอบครัว
01:14:31 → 01:14:34 แต่ทีนี้ปัญหาที่ตามมาอันที่ 1 ที่ผมอยาก
01:14:34 → 01:14:38 จะถามคือครับพนักงาน
01:14:38 → 01:14:42 เค้าเค้าเข้าใจมั้ยอันที่ 1 พอเรา
01:14:42 → 01:14:46 flexible มากครับผมแทนที่เขาจะ
01:14:46 → 01:14:50 productive มากขึ้นครับผมกลับกลายเป็น
01:14:50 → 01:14:54 ว่าเค้าหลวมเขี้เกียจมากขึ้นอันนี้ผมไม่
01:14:54 → 01:14:58 รู้ว่ามองยังไงแก้ยังไง 2 คือพนักงาน
01:14:59 → 01:15:02 เนี่ยไม่ได้เป็นพนักงานที่ Self
01:15:02 → 01:15:05 motivate อืเข้าใจมั้ยฮะอย่างอย่าคุณ
01:15:05 → 01:15:07 เพชรอาจจะมี Self motivation มี passion
01:15:07 → 01:15:10 ของตัวเองแต่ผมเชื่อว่าพนักงานร้อยละ 90
01:15:11 → 01:15:14 อผมไม่รู้ต่างประเทศหรือวงวงกรองค์กรอื่น
01:15:14 → 01:15:19 เป็นยังไงแต่ว่าในองค์กรผมเนี่ยหาพนักงาน
01:15:19 → 01:15:22 ที่ S motivate ยากมากเข้าใจกลายเป็นว่า
01:15:22 → 01:15:25 เราต้องลงไป motivate พอเรา motivate
01:15:25 → 01:15:27 เค้าก็เหมือนเขา motivate นะแต่มันก็เป็น
01:15:27 → 01:15:30 ไฟที่แบบฟุดมาแล้วมันก็ดัไปเพราะมันไม่
01:15:30 → 01:15:32 ได้มาจากตัวเขา
01:15:33 → 01:15:36 อปรากฏการณ์อย่างนี้ในองค์กรคุณเพชรทำยัง
01:15:36 → 01:15:39 ไงให้เค้าให้เค motivate ตัวเองเมี
01:15:39 → 01:15:42 passion อย่างที่คุณเพชรบอกว่าเอ่อเรา
01:15:42 → 01:15:44 ไม่ได้ว่าเา้าจากการที่เขาผิดแต่ให้เขาค
01:15:44 → 01:15:48 เรียนรู้อันนี้ก็เป็นอีกโจทย์นึงว่า
01:15:48 → 01:15:52 เอ่อเค้าเรียนรู้จริงหรือเปล่าอเข้าใจเลย
01:15:52 → 01:15:55 ครับหรือว่าเค้าแบบเค้ารู้ว่าเค้าผิดแล้ว
01:15:55 → 01:15:57 เคก็อ้าผ่านๆไปเแค่เรียนรู้ว่าจะไม่ทำ
01:15:57 → 01:16:00 อย่างงนี้เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดแต่
01:16:00 → 01:16:03 ถามว่าเเรียนรู้เพื่อไปต่อยอดยังไงรู้ยัง
01:16:03 → 01:16:07 ไงแล้วทำยังไงะโอเคจริงถามว่าโอเคคนที่
01:16:07 → 01:16:10 productive มากๆมีไม่มีกับคนที่เข้ามาผล
01:16:10 → 01:16:13 ประโยชน์จากสิ่งนี้ก็มีเหมือนกันผมเลยไม่
01:16:13 → 01:16:16 แปลกใจว่าทำไมโอเคบริษัทส่วนใหญ่เขาเลยจะ
01:16:16 → 01:16:19 ตั้งทุกอย่างมัดผลเป็นเวลาเพราะว่าอย่าง
01:16:19 → 01:16:22 น้อยมันจะได้มีตัวหนึข้อบังคับนึงที่จะทำ
01:16:22 → 01:16:25 ให้สามารถคอนโรลผลงานต่างๆออกมาได้เพราะ
01:16:25 → 01:16:27 อย่างน้อยอ่ะคุณต้องนั่งทำงานไม่ต่ำกว่า 8
01:16:27 → 01:16:30 ชั่วโมงไม่งั้นไม่จ่ายเงินเดือนถูกมั้ยฮะ
01:16:30 → 01:16:33 โอเคแต่ว่าทีนี้ก็ต้องต้องเรื่องว่าทีม
01:16:33 → 01:16:37 management เนี่ยก็ต้องดูต้องลงดีเทลกับ
01:16:37 → 01:16:40 ทุกๆคนจริงๆเราจะเห็นว่าเอ้ยคนนี้
01:16:40 → 01:16:43 productive มากคนนี้ productive น้อย
01:16:43 → 01:16:45 แล้วเรา feedback กับทุกคนตลอดงั้นถ้าใคร
01:16:45 → 01:16:47 productive น้อยหรือแบบเข้ามาเพื่อเอาผล
01:16:47 → 01:16:49 ประโยชน์จากสิ่งความ flexible ตรงนี้ครับ
01:16:49 → 01:16:52 มีเหมือนกันอืก็แค่รีบตัดออกให้เร็วที่
01:16:52 → 01:16:55 สุดอืประมาณนี้ครับเต้องโอเคอาจจะไม่มี
01:16:55 → 01:16:58 เกณฑ์วัดผลชัดเจนเพราะว่าโอเคการการงาน
01:16:58 → 01:17:00 ที่เป็นรีเสิร์ชแบบของใหม่ๆแน่นอนมันมี
01:17:00 → 01:17:04 ถูกมีผิดแต่ว่าถ้าคนที่เข้าใจในเชิงของ
01:17:04 → 01:17:07 เทคนิคอลลึกๆเนี่ยเขจะรู้ได้ว่าเอ้ยสิ่ง
01:17:07 → 01:17:10 เนี้ยน่าจะทำประมาณกี่วันอืหังจากที่คุณ
01:17:10 → 01:17:13 พูดออกมาเนี่ยเนื้อแค่ไหนหรือน้ำแค่ไหน
01:17:13 → 01:17:16 โอเคเข้าใจอ่ามันมันจะมีมันจะมีวิธีแบบ
01:17:16 → 01:17:19 วิธีการฟังในในแต่ละคนได้อยู่ครับหรือว่า
01:17:19 → 01:17:21 นั่นแหละครับว่าถ้าสมมุติถามลงไปในดีเทล
01:17:21 → 01:17:24 ว่าในสิ่งที่เขาทำมาเเข้าใจมันมากขนาดไหน
01:17:24 → 01:17:26 ออะไรพวกเก็จะเป็นวิธีการวัดได้ว่าเอ้ยคน
01:17:26 → 01:17:29 นี้เขาูบงานจริงหรือเปล่าหรือว่าอวันทั้ง
01:17:29 → 01:17:31 วันเขาอาจจะนอนเล่นโทรศัพท์แล้วค่อยมาทำ
01:17:31 → 01:17:34 สักชั่วโมงนึงก่อนจะพรีเซนงานกอัดเห็นภาพ
01:17:34 → 01:17:37 แสดงว่าคุณเพชรกำลังจะบอกว่ามันมีแหละใช่
01:17:37 → 01:17:41 มันคนที่แบบเกาะมาหาช่องโหวตในองค์กรแต่
01:17:41 → 01:17:45 เรารู้งานของเราเรารู้วิธีการตรวจสอบแล้ว
01:17:45 → 01:17:49 เราก็ตัดตัดเร็วถ้าเาไม่ใช่ใช่ใช่ครับอื
01:17:49 → 01:17:51 ตัดเพราะว่าถ้าถ้ามองว่าเอ้ยเราจะเปลี่ยน
01:17:51 → 01:17:53 กดตรงนี้ทำให้คนส่วนใหญ่ในองค์กรเขาไม่
01:17:53 → 01:17:56 แฮปปี้เนี่ยเราอยากจะทำหรือเปล่าอครับถ้า
01:17:56 → 01:17:58 การเปลี่ยนแล้วทำให้คนส่วนใหญ่ที่เขาไม่
01:17:58 → 01:18:00 ได้ทำผิดอะไรเลยไม่แฮปปี้ผมว่ามันก็ไม่
01:18:00 → 01:18:03 แฟร์สำหรับเขาที่เอ้ยเขาจะได้ทำในสิ่งที่
01:18:03 → 01:18:06 เขาอยากจะทำละี้ครับหรือในเรื่องของ
01:18:06 → 01:18:11 แพชชั่นเองผมว่าตรงนี้มันก็มีวิธีการการ
01:18:11 → 01:18:14 ดูว่าเคแชั่นกับสิ่งนี้ขนาดไหนเพราะว่า
01:18:14 → 01:18:16 ถ้าเราสนใจสักเรื่องนึงมากๆครับเราจะ
01:18:17 → 01:18:19 ศึกษาต่อเองโดยที่ไม่ต้องมีใครนำทางเลย
01:18:19 → 01:18:21 ว่าเฮ้ยคุณต้องไปดู 1 2 3 4 นะสิ่งนี้
01:18:21 → 01:18:25 เขาจะเป็นคนบอกเราเองว่าเ้ยเควรจะไปดู
01:18:25 → 01:18:27 อะไรมาเพื่อให้สิ่งที่เป้าหมายที่เราทำ
01:18:27 → 01:18:30 อยู่นั้นมันดีขึ้นอืหรือการเรียนรู้ข้อ
01:18:30 → 01:18:33 ผิดพลาดเองอ่ะครับก็เหมือนกับการวัดผล
01:18:33 → 01:18:36 อย่างนึงที่โอเคสิ่งเหล่านี้มันก็จะถอด
01:18:36 → 01:18:39 เป็นบทเรียนที่เวลาเวลาผมประชุมกันครับจะ
01:18:39 → 01:18:41 มีหลายๆทีมเข้ามาฟังร่วมกันได้เพรางั้น
01:18:41 → 01:18:43 แต่ละทีมก็จะเห็นเลยว่าโอเคสิ่งเหล่านี้
01:18:43 → 01:18:45 นะครับมัน
01:18:45 → 01:18:48 อ่าความผิดพลาดเหล่านี้ครับมันใหญ่ลงมาก
01:18:48 → 01:18:52 แค่ไหนแล้วควรจะทำยังไงต่อถ้าถ้าคนที่
01:18:52 → 01:18:54 เค้ามีแฟชั่นจริงงเจะรู้เลยว่าโอเคเคควร
01:18:54 → 01:18:57 จะแก้ไขในมุมไหนต่อแล้วเก็จะควรเดินต่อ
01:18:57 → 01:19:01 ยังไงเอ้ยมันตันจริงๆถึงมโอเคมันสุดที่
01:19:01 → 01:19:04 ความรู้ะก็จะมีเนเจอร์ที่เขาคอยชี้แนะให้
01:19:04 → 01:19:07 ว่าเอ้ยเออเวนี้ก็ก็เป็นเวยที่น่าลองแล้ว
01:19:07 → 01:19:09 ถ้าลองเวนี้มันอาจจะเกิดผล 1 2 3 4 เว
01:19:09 → 01:19:12 นี้จะมีข้อเสีย 1 234 ก็จะเป็นการ discus
01:19:12 → 01:19:14 กันตรงๆว่า Manager ไม่มีหน้าที่สั่งมี
01:19:14 → 01:19:18 หน้าที่แค่ Advice ไกเฉยๆใช่ครับแล้วก็คน
01:19:18 → 01:19:21 ทีมที่ทำงานกับเจอร์ทุกคนเถียนกันได้เอ้
01:19:21 → 01:19:24 ถ้าใครคิดว่าตรงไหนไม่ดีทุกคนก็พูดมาเลย
01:19:24 → 01:19:27 อือือเพราะว่าไม่มีใครที่จะรู้จริงที่สุด
01:19:27 → 01:19:30 ในของที่มันยังไม่เกิดขึ้นถูกมั้ยฮะงั้น
01:19:31 → 01:19:33 มันเลยต้องเดินไปด้วยท่านี้ที่ทุกคน
01:19:33 → 01:19:35 สามารถออกเสียงและออกมุมมองของตัวเองได้
01:19:35 → 01:19:39 โอไอเดลมากเลยประมาณนั้นครับผมนี่ก็อยาก
01:19:39 → 01:19:42 ทำงานในองค์กรแบบนี้มากไอดีลมากเลยจริงๆ
01:19:42 → 01:19:46 ครับไอเลมากไเมากเพราะว่าคือพอองค์กรที่
01:19:46 → 01:19:49 มันใหญ่มากเนี่ยผู้บริหารก็จะมีโจทย์ของ
01:19:49 → 01:19:52 ตัวเองรับมาจากเบื้องบนเพื่อถือหุ้นพู้
01:19:52 → 01:19:55 อะไรอีกทีนึงคือกลายเป็นมันเริ่มเกิดแ
01:19:55 → 01:19:57 ระหว่างผู้ปฏิบัติกับผู้บริหารกับผู้
01:19:57 → 01:20:02 บริหารและผู้บริหารก็จะส่งงานให้กับคน
01:20:02 → 01:20:05 ชั้นเอผู้บริหารระดับกลางเพื่อมาเป็นตัว
01:20:06 → 01:20:09 เชื่อมระหว่างเค้ากับเราอืเนแต่บางทีมัน
01:20:09 → 01:20:13 ก็มีมีอีกหลาย Factor มีอีกหลาย ler นะ
01:20:13 → 01:20:17 anyway ไม่เป็นไรครับดีครับดีๆผมว่า
01:20:17 → 01:20:21 ถ้าถ้าแล้วคิดว่ารูปแบบการบริหารอย่าง
01:20:21 → 01:20:23 เงี้ยผมเท่าที่ผมเคยรู้อย่างเช่น Google
01:20:23 → 01:20:26 อย่างเงี้ยเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดี
01:20:26 → 01:20:28 Microsoft นะ facebook อย่างเงี้ยบริหาร
01:20:28 → 01:20:31 ใหญ่ๆเขาก็ใช้ mindset ประมาณนี้ใช่ครับ
01:20:31 → 01:20:35 ผมก็ adop กับตัวเองนะคือไม่กำหนดที่เวลา
01:20:35 → 01:20:39 กำหนดที่ผลงานแล้วก็ก็พยายามจะให้เกียรติ
01:20:39 → 01:20:44 ผู้ร่วมงานครับแต่ก็ไม่ง่ายใช่ครับผมไม่
01:20:44 → 01:20:48 ง่ายอาจจะ 1 ผมเองไม่เก่งหรือเปล่าในการ
01:20:48 → 01:20:52 ในการีดทีมแต่ว่าไม่รู้ว่าพอถึงจุดนึงไม่
01:20:52 → 01:20:55 เรารู้สึกเราเหนื่อยที่จะีดคนเราอยากได้
01:20:55 → 01:20:58 คนที่ S passion อืเพราะทุกครั้งต้องลง
01:20:58 → 01:21:02 ไปปั้นเไปกระตุ้นเเรารู้สึกเราออกแรงเยอะ
01:21:02 → 01:21:05 ใช่ถ้ามันไม่มาจากตัวเบางทีเราเหนื่อยนะ
01:21:05 → 01:21:08 เข้าใจเลยครับผมหลายๆคนนะฮะผมก็พยายามจะ
01:21:08 → 01:21:11 หยอดหยอดความคิดทีละนิดทีละนิดให้เขาคิด
01:21:11 → 01:21:14 เพื่อหวังว่าเขาจะตั้งคำถามให้กับตนเอง
01:21:14 → 01:21:17 และเดินมาหาเราเพื่อเปิดประตูถึงคำตอบเรา
01:21:17 → 01:21:19 อาจจะไม่รู้คำตอบแต่อย่างน้อยเราก็ไกด
01:21:19 → 01:21:22 อะไรบ้างอืแต่มันก็ไม่ง่ายนะผมว่าเพราะ
01:21:22 → 01:21:25 ว่าใช่ครับทีนี้ถาม
01:21:25 → 01:21:29 หน่อยคุณคุณเพชรทำยังไงให้ Self motivate
01:21:29 → 01:21:33 คือคือหรือว่าทำยังไงให้พนักงานเค้า
01:21:33 → 01:21:36 selfit ผมว่าเอาเริ่มที่คุณเพชรเองครับ
01:21:36 → 01:21:39 ผมผมว่าโอเคการการที่คิดแบนั้นผมว่าไม่
01:21:39 → 01:21:42 แปลกด้วยโอเคย้อนกลับไปที่เรื่อง culture
01:21:42 → 01:21:47 ที่ไทยเราปฏิบัติกันมาทุกอย่างไม่ว่าจะ
01:21:47 → 01:21:50 ตั้งแต่ตอนเรียนทุกอย่างจะต้องเป็นเวลา
01:21:50 → 01:21:52 ต้องเป็นอะไรต่างๆเราแทบจะไม่มีสิทธิ์คิด
01:21:52 → 01:21:55 หรือสิทธิ์ตอบที่ไม่เหมือนครูฮะเลยทำให้
01:21:55 → 01:21:57 ไม่แปลกใจครับที่คนส่วนใหญ่หรือจริงๆแล้ว
01:21:57 → 01:22:00 ถึงแม้คนจะมีแพชชั่นมากแค่ไหนก็ยังไม่ชิน
01:22:00 → 01:22:03 กับการทำงานแบนี้เหมือนกันชินใช่เพราะว่า
01:22:03 → 01:22:05 ทั้งที่ตั้งแต่เด็กโอโหเข้าโรงเรียนเมื่อ
01:22:05 → 01:22:08 ไหร่ปุ๊บก็จะโดนสิ่งนี้มาตลอดถูกมั้ยฮะ
01:22:08 → 01:22:11 มันก็เลยไม่แปละที่ว่าทำไมคนเรายังถึงแบบ
01:22:11 → 01:22:14 ยังไม่กล้าคิดยังไม่กล้าตัดสินใจจอกัน
01:22:14 → 01:22:17 อะไรเงี้ครับหลายๆคนก็ค่อยๆปรับแบบมาเจอ
01:22:17 → 01:22:20 ที่นี่ก็เจอรช็อกแรกๆเหมือนกันว่าเฮ้ยมัน
01:22:20 → 01:22:23 พูดได้ขนาดแล้วเลยหรออะไรเงี้ยแบบเฮ้ย
01:22:23 → 01:22:26 ตรรงนี้แบบเออบางทีหลายๆคนก็จะทักมาหาผม
01:22:26 → 01:22:29 ส่วนตัวแล้วเอ้ยแบบมีปัญหาแบบนี้เฮ้ยจริง
01:22:29 → 01:22:31 ๆอ่ะผมก็เลยเรียกเนเจอร์มานั่งคุยอะไอัน
01:22:31 → 01:22:34 จริงคุณคุยตรงๆได้เลยนะไม่ต้องซีเรียสเลย
01:22:34 → 01:22:37 อือแล้วผมพยายามทำให้องค์กรมันแฟลชที่สุด
01:22:37 → 01:22:40 ไม่ได้มีระดับขั้นเยอะอะไรต่างๆเพื่อที่
01:22:40 → 01:22:43 ทุกคนจะได้รู้สึกว่าไม่ห่างกันมากอืๆ
01:22:43 → 01:22:46 สมมุติมีเนเจอร์สัก 4 ขั้นเนี่ยโอ้โหคนทำ
01:22:46 → 01:22:49 งานเกว่าจะขึ้นไปถึงบอสเนี่ยลำบากมากเลย
01:22:49 → 01:22:51 แทบจะไม่มีได้ยินเสียงไปถึงบอสเลยบอสก็
01:22:51 → 01:22:54 ไม่มีทาง็นภาพแล้วแล้วคุณเพชรทำยังไงที่
01:22:54 → 01:22:57 จะแบบคือมันอาจจะมีไฟอยู่แล้วแต่ว่าครับ
01:22:57 → 01:23:02 ผมเรา motivate ตัวเองยังไงถ้าในในอ่ากับ
01:23:02 → 01:23:04 กลับทีมใช่มั้ยฮะหรือว่ากับตัวเองถ้ากลับ
01:23:04 → 01:23:08 ตัวเองคือโอเคผมผมมองผมตั้งตั้งเป้าใหญ่ๆ
01:23:08 → 01:23:12 ว่าผมผมอยากจะทำอะไรแต่ริงๆอ่าป้าผมนั่น
01:23:12 → 01:23:15 ครับผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมอยากจะจะทำจริงๆ
01:23:15 → 01:23:17 แล้วอยากให้มันเป็นแบบ World Impact เลย
01:23:17 → 01:23:20 คืออยากให้ไอมันทำได้ทุกๆอย่างแต่ผมเชื่อ
01:23:20 → 01:23:22 ว่านั่นแหละครับว่าถ้ายังไงที่มันทำได้
01:23:22 → 01:23:25 เก่งมากๆมันจะไม่ได้มาจากแขนงเดียวมันเลย
01:23:25 → 01:23:28 เป็นจุดเริ่มต้นที่ผมเลยแตะแขนง AI ออกมา
01:23:28 → 01:23:31 หลายๆรูปแบบอือเพื่อที่จะได้รวม know How
01:23:31 → 01:23:33 นี้ครับมารวมเป็นก้อนอันเดียวใหญ่ๆที่
01:23:34 → 01:23:36 กลายเป็นเหมือนสมองอันใหญ่ที่ทำได้ทุก
01:23:36 → 01:23:39 อย่างจริงๆอืประมาณนั้นครับอือๆนั่นก็เลย
01:23:39 → 01:23:41 motivate เราทุกวันใช่ครับแล้วบริหาร
01:23:41 → 01:23:45 ชีวิตตัวเองยังไงแต่ละวันอ๋อจริงงานเป็น
01:23:45 → 01:23:49 ลักงานเป็นลักเลยครับเอเราเรียว่าถ้าพอพอ
01:23:49 → 01:23:51 เหมือนเราได้โอเคเนื่องจากงานเป็นเชิง
01:23:51 → 01:23:53 รีเสิร์ชด้วยแล้วเราได้ตื่นมาเจอสิ่งใหม่
01:23:53 → 01:23:55 ๆทุกวันมันเลยทำให้รู้สึกว่าแต่ละวันที่
01:23:55 → 01:23:58 ตื่นขึ้นมามันมีความตื่นเต้นรอเราอยู่อื
01:23:58 → 01:24:00 โอเคบางวันมันอจะมีวันที่แย่บ้างันวันมัน
01:24:00 → 01:24:04 อาจจะแบบล้มบ้างเฟลบ้างแต่ก็กลับมามองที่
01:24:04 → 01:24:06 เป้าหมายใหญ่ๆว่าเอ้ยนี่คือสิ่งที่เรา
01:24:06 → 01:24:08 กำลังเดินอยู่แล้วสิ่งที่เราเดินผ่านมา
01:24:08 → 01:24:11 แล้วเนี่ยมันไกลขนาดไหนแล้วนะออย่างเงี้
01:24:11 → 01:24:14 ครับมันก็ทำให้เอ้ยก็สู้ต่อออะไรประมาณ
01:24:14 → 01:24:17 นั้นครับแล้วก็รู้สึกว่าถ้าถ้าวันนี้สม
01:24:17 → 01:24:20 หยุดสู้ไปคนข้างหลังผมอีก 5060 คนเขาจะ
01:24:20 → 01:24:23 เป็นยังไงอือืแล้วถ้าผมไม่ทำสิ่งเหล่านี้
01:24:23 → 01:24:26 เป็นตัวอย่างอย่างแบบไม่มีไฟแล้วคนอื่นจะ
01:24:26 → 01:24:29 มีไฟได้ยังไงอะไรอย่างเงี้ครับอใช่ก็เลย
01:24:29 → 01:24:33 ต้องไฟลุกตลอดอืประมาณนั้นครับแต่ก็แต่ก็
01:24:33 → 01:24:35 เป็นสิ่งที่แบบเป็นเป็นเป้าหมายใหญ่ๆของ
01:24:35 → 01:24:37 เราอยู่แล้วด้วยโอเคนอกเหนือจากการกำหนด
01:24:37 → 01:24:40 เป้าให้กับตัวเองเป้าหมายใหญ่เรามีวิธี
01:24:40 → 01:24:43 ยังไงที่ปลุกไฟในตัวเองอยู่ตลอดเวลาคือ
01:24:43 → 01:24:46 หรือว่าใช้คำว่าครองไฟก็ได้นะให้มันให้
01:24:47 → 01:24:50 มันให้มันคิว่าเออเรามีไฟที่เราต้องทำ
01:24:50 → 01:24:53 ตลอดเวลาว่ามันมันต้องเชื่อในสิ่งที่ทำ
01:24:53 → 01:24:57 ก่อนครับถ้าถ้าเรา bel กันว่าภาพอนาคตมัน
01:24:57 → 01:25:01 จะเป็นยังไงแล้วผมว่าโอเคภาพในอนาคตผมมัน
01:25:01 → 01:25:03 อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในดีเทลบ้างเล็ก
01:25:03 → 01:25:06 น้อยแต่ว่าภาพใหญ่มันยังเหมือนเดิมว่ายัง
01:25:06 → 01:25:09 ไง AI จะเป็นตัวที่เข้ามา experience
01:25:09 → 01:25:12 หลายๆายอย่างแล้วก็มันจะต้องมี a ที่
01:25:12 → 01:25:16 สร้างทุกๆสิ่งหว่าทำได้หลายๆอย่างงั้นไอ้
01:25:16 → 01:25:18 ภาพนี้มันยังคงอยู่แล้วจะเห็นว่าโลก
01:25:18 → 01:25:20 ปัจจุบันอย่างที่คุณหมอยกตัวอย่างเคสจะ
01:25:20 → 01:25:23 เห็นว่า AI มันก็เริ่ม adapt ละมันเหมือน
01:25:23 → 01:25:26 ยิ่งยิผ่านไปในในทุกๆวันนะครับภาพที่ผม
01:25:26 → 01:25:28 คิดมันเริ่มเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆอือมันก็
01:25:28 → 01:25:31 เลยทำให้รู้สึกว่ามันช้าไม่ได้ละมันต้อง
01:25:31 → 01:25:34 ใส่ลงไปอีกมันต้องใส่ลงไปอีกอะไรอย่าเงี้
01:25:34 → 01:25:37 ครับอครับใช่แต่ว่าโอเคในในในเชืงของผม
01:25:37 → 01:25:40 อาจจะพูดในยุค AI ที่ที่ AI มันมันเต็มไป
01:25:40 → 01:25:43 หมดเนาะแต่ว่าในเคนออ่าในมุมของคนอื่นๆนะ
01:25:43 → 01:25:46 ครับผมว่าในในเรื่องเหล่านี้เนี่ยถ้ามี
01:25:46 → 01:25:49 แพชชั่นเราเราเชื่อเห็นภาพกับมันจริงๆนะ
01:25:49 → 01:25:52 ครับก็ต้องคิดภาพอนาคตนั้นไว้แบบตั้งไว้
01:25:52 → 01:25:55 บนทิ้งเลยว่าไม่ว่าจะมี priority 1 2 4
01:25:55 → 01:25:58 คุณต้องเอานี้เป็นอันดับแรกอืถ้าคุณ
01:25:58 → 01:25:59 priority มันอยู่ในทุกวันแล้วทำให้มัน
01:25:59 → 01:26:01 เป็นชีวิตประจำวันนะครับสิ่งนี้ผมว่ามัน
01:26:02 → 01:26:05 ก็ยังคงอยู่ต่อไปอืครับผมครับขอบคุณคุณ
01:26:05 → 01:26:08 เพชรออเป็นเกียติอย่างยิ่งเดี๋ยวหวังว่า
01:26:08 → 01:26:11 เราจะได้คุยกันในพอดคาสคร้างหน้าอีกสัก
01:26:11 → 01:26:14 รอบเพราะผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคำถาม
01:26:14 → 01:26:16 เดี๋ยวรอติดตามผลงานของคุณเพชรต่อๆไปนะ
01:26:16 → 01:26:19 ครับขอบคุณมากๆครับสำหรับผมหมอวินัยกับ
01:26:19 → 01:26:24 เวทีหมอชวนคุยปัญหาและมุมมองของสังคมกับ
01:26:24 → 01:26:28 แขกรับเชิญที่เก่งกว่าผมในหลายๆด้านมาแลก
01:26:28 → 01:26:31 เปลี่ยนบนเวทีในภาษาบ้านๆเพื่อกับเราชุม
01:26:32 → 01:26:33 ชนและคนรัก
01:26:33 → 01:26:37 ย่าหวังว่าอนาคตบ้านเมืองเราจะดีขึ้นวัน
01:26:37 → 01:26:41 ละนิดวันละหน่อยเพราะปัญหาบ้านเมืองและ
01:26:41 → 01:26:44 ทางออกไม่ใช่เป็นหน้าที่ของใครคนใดคน
01:26:44 → 01:26:47 หนึ่งแต่เป็นหน้าที่ของเราทุกคนแขกรับ
01:26:47 → 01:26:51 เชิญคนต่อไปจะเป็นใครรอติดตามผมหมอวินัย
01:26:51 → 01:26:53 ลาแล้วครับสวัสดี
01:26:53 → 01:26:57 ครับ e