00:00:00 → 00:00:07 โน้ท
00:00:07 → 00:00:45 [เพลง]
00:00:45 → 00:00:47 ก็
00:00:47 → 00:00:50 สวัสดีครับเพื่อนๆในเพจมนุษย์ต่างวัยนะ
00:00:50 → 00:00:53 ครับเราก็พบกันเป็นประจำนะครับทุกๆวัน
00:00:53 → 00:00:56 อาทิตย์นะครับตอน 9 โมงเช้ากับบุพการีที่
00:00:56 → 00:00:58 เคารพนะครับวันนี้เป็น Ep ที่ 7 ครับ
00:00:58 → 00:01:04 ประจำวันที่ 5 กันยายนนะครับวันนี้เข้าใจ
00:01:04 → 00:01:08 ว่าหลายๆพื้นที่ในกรุงเทพฯนี่น่าจะครึ้ม
00:01:08 → 00:01:11 ฟ้าครึ้มฝนนะครับเพราะว่าที่ออฟฟิศของเพจ
00:01:11 → 00:01:13 คนรักต่างวัยดีฝนตกตั้งแต่เช้านะครับมี
00:01:13 → 00:01:17 พึ่งมีแสงแดดอ่อนๆลืมออกมานะครับเพราะ
00:01:17 → 00:01:21 ฉะนั้นใครที่กำลังฟังอยู่นะครับหรือว่า
00:01:21 → 00:01:23 กำลังชมอยู่ลองส่งสัญญาณเข้ามานิดนึงนะ
00:01:23 → 00:01:25 ครับว่าการที่บ้านเป็นยังไงบ้างเสียงหรือ
00:01:25 → 00:01:29 ว่าภาพสัญญาณชัดเจนหรือเปล่านะครับวันนี้
00:01:29 → 00:01:31 หัวข้อนี้เราจะคุยน่าจะเป็นหัวข้อที่น่า
00:01:31 → 00:01:33 สนใจอีกข้อนึงนะครับเพราะว่าหลังจากที่
00:01:33 → 00:01:36 เราโพสต์ไปเมื่อวันเสาร์มี
00:01:36 → 00:01:39 เสียงตอบรับมาพอสมควรทีเดียวนะครับโดย
00:01:39 → 00:01:42 เฉพาะคนที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่นะ
00:01:42 → 00:01:45 ครับวันนี้เราจะคุยกันเรื่องโจ๊กโรคมี
00:01:45 → 00:01:49 ชีวิตลูกนะครับชีวิตเปลี่ยนชั่วข้ามคืน
00:01:49 → 00:01:52 ว่าพ่อแม่หลวงป่วยเฉียบพันเวลาพูดถึง
00:01:52 → 00:01:55 เรื่องเรื่องโปรเป็นนะครับบางคนก็อาจจะ
00:01:55 → 00:01:57 รู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวแต่ถ้าหากว่า
00:01:57 → 00:02:01 เราลองคิดดูนะครับว่ารบรอบตัวเราเนี่ยมี
00:02:01 → 00:02:04 ใครป่วยด้วยโรคนี้บ้างผมว่าลองไล่ดูนะ
00:02:04 → 00:02:07 ครับอ่าอาจจะไม่ไกลก็ได้นะครับว่าเราอาจ
00:02:07 → 00:02:09 จะพบว่ามีคนป่วยจะโลกนี้นะครับเพราะว่า
00:02:09 → 00:02:12 หลังจากที่เราโพสต์ไปแล้วนะครับมีหลายๆคน
00:02:12 → 00:02:16 ได้เข้ามาคอมเม้นนะครับมีคุณสุภาพรก็บอก
00:02:16 → 00:02:19 ว่าเคยผ่านมาแล้วทั้งพ่อตัวแล้วก็พ่อสามี
00:02:20 → 00:02:23 แล้วก็เหนื่อยใจมากต้องคอยดูแลนะครับมี
00:02:23 → 00:02:26 คุณปุ๊กกี้มณฑิกาบอกว่ากโรคนี้ควรศึกษา
00:02:26 → 00:02:29 ป้องกันไว้ก่อนนะคะมันเป็นเรื่องที่ใกล้
00:02:29 → 00:02:32 ตัวมากๆแล้วก็กระทันหันเป็นคุณแม่เป็นโรค
00:02:32 → 00:02:34 นี้แล้วเราต้องบอกกับตัวเองว่าเราจะไม่
00:02:34 → 00:02:36 ยอมเป็นโรคนี้ต้องดูแลร่างกายอยู่ตรงถึง
00:02:36 → 00:02:41 เรื่องอาหารการกินนะครับในหลายคนก็บอกว่า
00:02:41 → 00:02:45 เผชิญมาทั้งตัวเองเชิญมาทั้งคุณพ่อคุณคุณ
00:02:45 → 00:02:50 แม่ทั้งเพื่อนนะครับมีบางคนบอกว่าเพิ่ง
00:02:50 → 00:02:53 เกิดขึ้นมากๆเลยนะครับเพราะฉันก็ให้ความ
00:02:53 → 00:02:55 สนใจเรื่องนี้มากมีบางคนก็บอกว่ากำลัง
00:02:55 → 00:02:57 เผชิญกับปัญหาอยู่เพราะว่า
00:02:57 → 00:03:00 คุณพ่อคุณแม่ที่ป่วยหนักถึงขั้นอาละวาด
00:03:00 → 00:03:02 คุณข้างแล้วก็ทำร้ายลูกทำร้ายคนดูแลด้วย
00:03:03 → 00:03:06 นะครับบางคนบอกว่าภรรยาก็ป่วยในโลกนี้นะ
00:03:06 → 00:03:09 ครับเพราะฉะนั้นมันทีเราจะเข้าใจว่าโรค
00:03:09 → 00:03:12 นี้น่าจะเป็นโรคเฉพาะของคนแก่นะครับพี่
00:03:12 → 00:03:16 ว่าคนสูงวัยแต่ปรากฏว่าเขาเราเข้ามาดูราย
00:03:16 → 00:03:18 ละเอียดและอย่างเนี่ยรวมถึงประสบการณ์จะ
00:03:18 → 00:03:21 ตัวผมด้วยนะครับผมก็พบว่าไม่มีคนป่วยด้วย
00:03:21 → 00:03:23 โลกนี้ไม่ใช่น้อยแล้วก็ที่สำคัญคือเป็น
00:03:23 → 00:03:27 กลุ่มคนวัยทำงานอาจจะอยู่ซัก 40 ต้นๆยัง
00:03:27 → 00:03:30 ไม่ 50 สูตรที่ 3 ไปนะครับก็ป่วยด้วยโรค
00:03:30 → 00:03:33 นี้นะครับวิธีนั้นวันนี้เราน่าจะลองมาทำ
00:03:33 → 00:03:36 ความเข้าใจกับพวกนี้อย่างจริงๆจังๆนะครับ
00:03:36 → 00:03:39 เพราะว่าพื้นที่ของบุพการีที่ครบนี้ก็จะ
00:03:39 → 00:03:41 เป็นพื้นที่ที่เขาจะคุยเรื่องคุณพ่อคุณ
00:03:41 → 00:03:43 แม่เป็นหลักนี่นะครับไม่ว่าจะเปลืองของ
00:03:43 → 00:03:46 ป่วยกายป่วยใจนะครับเพราะว่าสและก็คือเรา
00:03:46 → 00:03:49 จะได้ทำหน้าที่ในการไปดูแลคุณพ่อคุณแม่
00:03:49 → 00:03:52 ของเราเองได้นะครับอย่างที่ผมมันจะพูดถึง
00:03:52 → 00:03:54 ไม่บ่อยนะครับก็คือและมีคู่มือดูแลลูก
00:03:54 → 00:03:57 แล้วแต่เราไม่ค่อยจะมีคู่มือดูแลคุณพ่อ
00:03:57 → 00:03:59 คุณแม่กันนะครับเพราะฉะนั้นพื้นที่ตรงนี้
00:03:59 → 00:04:02 น่าจะเป็นพื้นที่ที่เราจะได้รับความรู้
00:04:02 → 00:04:04 เพื่อมาดูแลคุณพ่อคุณแม่นะครับวันนี้
00:04:04 → 00:04:07 วิทยากร 2 ท่านนะครับที่จะมาคุยกับเรานะ
00:04:07 → 00:04:10 ครับคนนึงเป็นคุณหมอที่มีความเ****วชาญ
00:04:10 → 00:04:15 ทางนี้เลยนะครับอีกท่านหนึ่งเป็นคนที่
00:04:15 → 00:04:18 กำลังเผชิญกับประสบการณ์นี้สดๆร้อนๆเลยก็
00:04:19 → 00:04:20 ว่าได้เพราะว่าคุณแม่ยังป่วยอยู่ที่โรง
00:04:20 → 00:04:23 พยาบาลนะครับผมขออนุญาตแนะนำนะครับท่าน
00:04:23 → 00:04:25 แรกนะครับผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์พา
00:04:25 → 00:04:28 ฤทธิ์วงศ์แพทย์ครับอาจารย์แพทย์เวชศาสตร์
00:04:28 → 00:04:31 ฟื้นฟูเจ้าของเพจที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ
00:04:31 → 00:04:34 โรคหลอดเลือดในสมองโฉลกอุดแคมนะครับคุณ
00:04:34 → 00:04:38 หมอยังเป็นเวชศาสตร์ฟื้นฟูสอนแพทย์ประจำ
00:04:38 → 00:04:41 บ้านทำวิจัยการฟื้นฟูคนไข้โรงพยาบาล
00:04:41 → 00:04:44 รามาธิบดีแล้วก็ทำบริษัทออกแบบสร้างหุ่น
00:04:44 → 00:04:47 ยนต์ฟื้นฟูการเดินมาหาดิน่าสนใจมากๆนะ
00:04:47 → 00:04:49 ครับอย่าทำมูลนิธิด้วยใช่ไหมครับคุณหมอ
00:04:49 → 00:04:52 แล้วก็เป็นหัวหน้าเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่โรง
00:04:52 → 00:04:54 พยาบาลสำโรงการแพทย์ครับสวัสดีครับคุณหมอ
00:04:54 → 00:04:57 ครับสวัสดีครับเดี๋ยวคงได้คุยกันเพิ่ม
00:04:57 → 00:04:59 เติมนะครับเพราะว่าคุณหมอทำอะไรเยอะมาก
00:04:59 → 00:05:02 เลยนะครับอีกท่านหนึ่งจะมาแชร์ประสบการณ์
00:05:02 → 00:05:05 เรานะครับวันนี้คุณแม่กำลังป่วยแล้วก็ยัง
00:05:05 → 00:05:08 รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยนะครับก็คือ
00:05:08 → 00:05:11 น้องแนนณัฐชยามั่งมีเป็นลูกสาวที่กำลังดู
00:05:11 → 00:05:14 แลคุณแม่วัย 53 ปีที่ป่วยด้วยอาการโรค
00:05:14 → 00:05:16 หลอดเลือดในสมองตัด 7000 นะครับสวัสดี
00:05:16 → 00:05:18 ครับงานครับ
00:05:18 → 00:05:22 ก็สวัสดีค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอนะคะ
00:05:22 → 00:05:25 ต้องขอบคุณทั้งสองท่านมากนะครับที่ใช้
00:05:25 → 00:05:28 เวลาช่วงเช้าวันอาทิตย์มาทั้งให้ความรู้
00:05:28 → 00:05:31 แล้วก็แชร์ประสบการณ์ร่วมกันนะครับตอนนี้
00:05:32 → 00:05:35 เรากำลังคุยกันนะครับทีมเรื่องโรคสโต๊ค
00:05:35 → 00:05:38 โลกเปลี่ยนชีวิตลูกนะครับเพราะว่าเกิด
00:05:38 → 00:05:40 ขึ้นอย่างเฉียบพันผมเริ่มต้นที่คุณหมอ
00:05:40 → 00:05:43 ก่อนดีไหมครับจริงๆเวลาเราพูดว่าโครก
00:05:43 → 00:05:47 สโต๊คโรคหลอดเลือดสมองเนี้ยจริงๆมันคือ
00:05:47 → 00:05:49 อะไรครับถ้าเราจะอธิบายแบบให้ชาวบ้านฟัง
00:05:49 → 00:05:52 กันง่ายๆว่ามันมีกี่แบบมันเกิดขึ้นได้ยัง
00:05:52 → 00:05:54 ไงครับ
00:05:54 → 00:05:58 โอ๊ยลูกสโต๊คก็คือโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับ
00:05:58 → 00:06:01 การ Supply เลือดไปเลี้ยงสมองสมองได้เป็น
00:06:01 → 00:06:04 ตัวบังคับทุกสิ่งทุกอย่างทั้งเราตื่นรู้
00:06:04 → 00:06:07 สึกตัวกินข้าวได้พูดคุยได้เข้าใจในความ
00:06:07 → 00:06:10 คิดสั่งการเคลื่อนไหวทำได้ทุกอย่างในใช้
00:06:10 → 00:06:13 สมองหมดค่ะถ้าเราสรุปสมองไม่ทำงานเนี่ย
00:06:13 → 00:06:16 เราก็ผัดได้ครับไม่รู้ตัวหรือแม้แต่สมอง
00:06:16 → 00:06:19 เสียหายแล้วก็สมองตายนะครับก็คือตาย
00:06:19 → 00:06:21 แต่ที่นี้สมองเนี่ยะก็เหมือนเอาไว้ว่าทุก
00:06:21 → 00:06:24 อย่างคือต้องการเลือดไปเลี้ยงหัวใจทำไมมี
00:06:24 → 00:06:27 เลือดไปเลี้ยงก็คือใจวายกะทันหันขาดเส้น
00:06:27 → 00:06:29 เลือดสมองเนี่ยขึ้นไปกับคอนะครับขึ้นเป็น
00:06:29 → 00:06:32 เลี้ยงสมองถ้ามันถูกตามสมองเสียหายก็ได้
00:06:32 → 00:06:34 ว่าลบเซตสมองขาดเลือด
00:06:34 → 00:06:37 ถ้าเกิดว่าเสร็จแล้วมันแตกมันท่อประปาแตก
00:06:37 → 00:06:40 เลือดก็ก็ไม่เดินเหมือนกันแถมยังมีก้อน
00:06:40 → 00:06:43 เลือดที่ออกมาแตกต่างจากเส้นเลือดก็ไป
00:06:43 → 00:06:44 เบียดเนื้อสมอง
00:06:45 → 00:06:47 ค่ะอันนี้ก็เป็น 2 2 อย่างหลักของโรค
00:06:47 → 00:06:51 ขึ้นสมองจริงๆยังมีอีกนะคือเลือดมันเดิน
00:06:51 → 00:06:54 เข้าเลือดแดงขึ้นไปพอใช้งานเสร็จแล้ว
00:06:54 → 00:06:57 เนี่ยน้ำทิ้งที่ปล่อยมาก็คือเส้นเลือดดำ
00:06:57 → 00:07:01 แมวเข้ามาแล้วทรายเยอะของเสียเยอะทิ้งออก
00:07:01 → 00:07:04 มาเออถ้าเกิดว่าท่อระบายคือเส้นเลือดดำ
00:07:04 → 00:07:06 หรือท่อระบายน้ำเสียเนี่ยมันตันค่ะก็เป็น
00:07:06 → 00:07:09 แบบนะครับเจอน้อยเป็นพวกผู้หญิงกินยาคุม
00:07:09 → 00:07:14 อะไรนะครับเส้นเลือดดำอุดตันมันก็เกิดเชอ
00:07:14 → 00:07:18 คือมันออกไม่ได้มันก็ไม่กดมากแต่มันก็ออก
00:07:18 → 00:07:21 ไม่ได้มันก็ข้างไอ้เลือดขาเข้าก็เข้าได้
00:07:21 → 00:07:23 สมองขาดเลือดกัน
00:07:23 → 00:07:26 3 อย่างนี้อาการก็จะแตกต่างกันนะครับ
00:07:26 → 00:07:30 แล้วก็ก็จะขึ้นกับว่าเป็นจุดไหนมากน้อย
00:07:30 → 00:07:35 ด้วยไม่เท่ากันครับที่เขาจะชอบใช้ภาษา
00:07:35 → 00:07:37 อธิบายแล้วก็ไม่ยังไงตันแต่ติปรินี้ใช่
00:07:37 → 00:07:40 ไหมคะคุณหมอครับผม
00:07:40 → 00:07:43 ก็คือภาษาแพทย์นะครับภาษาแพทย์ยังไม่ได้
00:07:43 → 00:07:46 มีหลายอย่างและภาษาทั่วไปเนี่ยมันมีได้
00:07:46 → 00:07:49 หลายอย่างเพราะว่ามันมีการบัญญัติชัดเจน
00:07:49 → 00:07:52 ก็เลือกใช้กันตามชอบใจจริงๆก็คืออุดตัน
00:07:52 → 00:07:55 เนี่ยก็คือฟันทั้งหมดไม่ว่าคำว่าอุดตันติ
00:07:55 → 00:07:59 ปันอะไรเนี่ยมันเหมือนกัน 6 8 ก็คือ 8
00:07:59 → 00:08:02 เดียวกันยกเว้นว่าเป็นลิ่มเลือดอุดตัน
00:08:02 → 00:08:06 เส้นเลือดดำอันนั้นก็จะต่างไปอย่างนี้ค่ำ
00:08:06 → 00:08:10 แล้วยังสามารถระบุได้ไหมครับคุณหมอว่ามัน
00:08:10 → 00:08:12 เกิดขึ้นจากอะไรเพราะเราเห็นว่าบางคนใน
00:08:12 → 00:08:15 บางทีสุขภาพก็ยังแข็งแรงมีอายุยังน้อยใช้
00:08:15 → 00:08:18 ได้ 3 ไปบางทีก็เกิดขึ้นครับ
00:08:18 → 00:08:23 เออเราเราพูดไม่ได้ว่าเกิดจากอะไรเหมือน
00:08:24 → 00:08:27 บอกว่าเป็น Corona pcs เกิดจากติดเชื้อ
00:08:27 → 00:08:31 ไวรัสตัวนี้เพราะว่าสาเหตุไม่น่าจะเป็น
00:08:31 → 00:08:32 สาเหตุเดียว
00:08:32 → 00:08:35 เมื่อเราทราบแต่ปัจจัยเสี่ยงครับว่า
00:08:35 → 00:08:39 อ้วนไขมันไม่ออกกำลังกายสูบบุหรี่เครียด
00:08:39 → 00:08:42 พวกเนี้ยทำให้เพิ่มอัตราในการเป็น
00:08:42 → 00:08:45 อายุเกี่ยวข้าวว่าเหมือนท่อประปาเก่านะ
00:08:45 → 00:08:48 ครับบ้านเราอายุ 20 ปีสามสิบปีวันหลายคืน
00:08:48 → 00:08:51 ไลฟ์ท่อประปาตันแล้วก็แตกมาเฉยเลยก็ใช้
00:08:51 → 00:08:55 งานปกติแล้วมันเป็นตามหมดอายุมันสภาพ
00:08:55 → 00:08:56 ธรรมชาติ
00:08:56 → 00:08:58 ก็
00:08:58 → 00:09:00 โดยรวมคิดว่าเกี่ยวกับ Lifestyle แล้วก็
00:09:00 → 00:09:01 เกี่ยวกับอายุ
00:09:01 → 00:09:04 อย่างนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยเขาอายุมาก
00:09:04 → 00:09:06 กว่าสิ่งอยู่แล้วแต่ว่าคนที่อายุไม่มาก
00:09:06 → 00:09:11 แต่ว่ามีปัจจัยเสี่ยงก็มีโอกาสจะเกิดได้
00:09:11 → 00:09:15 เกาะเนี่ยนะครับอ่ะที่คนไทยเป็นกันเยอะ
00:09:15 → 00:09:18 ไหมครับคุณหมอโอเยอะนะครับปีนี้หลายหมื่น
00:09:18 → 00:09:21 คนนะครับประเทศนะฮะปีหนึ่งหลายหมื่นคน
00:09:21 → 00:09:25 ประมาณการขั้นต่ำก็ต้องมีสองหมื่น 40,000
00:09:25 → 00:09:26 บาท
00:09:26 → 00:09:30 ครับเยอะเลยครับที่นี่เห็นบอกเป็นแล้วนะ
00:09:30 → 00:09:32 ครับผมเดี๋ยวมันจะเป็นโรคที่คนไทยเป็น
00:09:32 → 00:09:35 อันดับต้นเหมือนกันใช่ไหมครับเป็นสาเหตุ
00:09:35 → 00:09:39 การตายอันดับต้นๆครับโรคที่เป็นอันดับต้น
00:09:39 → 00:09:43 ป่วยบ่อยๆก็ไข้หวัดของเสียงมันไม่ใช่โรค
00:09:43 → 00:09:46 ร้ายฆ่าตายต้นก็มีพวกอย่างนี้ครับโลกเปิด
00:09:46 → 00:09:49 ใจเส้นเลือดสมองมะเร็งแล้วก็แบบเนียน
00:09:49 → 00:09:54 ๆต้นๆลกซิ่วสมองเมื่อกี้งงจะพูดว่าเพราะ
00:09:54 → 00:09:57 มันเอาไว้ว่าสำคัญถ้ามันเป็นแล้วมันรุน
00:09:57 → 00:09:59 แรงเนี้ยก็ตาย
00:09:59 → 00:10:02 ตายมันไม่เยอะมากก็เดี๋ยวนี้เราช่วยได้
00:10:02 → 00:10:06 เยอะใช่ไหมครับช่วยให้รอดได้แต่ว่าความ
00:10:06 → 00:10:10 ที่การในมันจะยังเหลือเมื่อรอดตายแล้วคน
00:10:10 → 00:10:12 ที่เป็นสโต๊คเนี่ยอาจจะแบ่งเข้าๆได้เป็น 3
00:10:12 → 00:10:15 ส่วนพอๆกันคือฮะ
00:10:15 → 00:10:19 คนที่หนักแน่ก็คือแบบติดเตียงทำอะไรไม่
00:10:19 → 00:10:20 ค่อยได้เลย
00:10:20 → 00:10:23 กลางก็เป็นพวกครึ่งๆนะครับพยายามจะรุนให้
00:10:23 → 00:10:26 ฝึกให้ฟื้นฟูให้ดีขึ้นเบาก็คือว่าเป็น
00:10:26 → 00:10:29 สต๊อกมาสองวันก็ลูกน่าลุกเดินแล้วเนี่ยนะ
00:10:29 → 00:10:32 ครับครับคนที่เป็นเบาเนี่ยไม่ต้องห่วงนะ
00:10:32 → 00:10:35 ครับผมก็ชอบเปรียบว่าพวกนี้เหมือนนัก
00:10:35 → 00:10:37 เรียนเรียนเก่งนะครับไปเรียนโรงเรียนไหน
00:10:37 → 00:10:39 ยังไม่ต้องเรียนอยู่ที่บ้านเดี๋ยวก็เปิด
00:10:39 → 00:10:43 ตำราคลิกดูรู้เรื่องเก่ง
00:10:43 → 00:10:45 ก็ไม่ต้องช่วยก็เก่ง
00:10:45 → 00:10:49 ถ้าช่วยก็ช่วยง่ายแต่คนอ่อนเนี่ยเป็นคน
00:10:49 → 00:10:52 กลางกับคนอ่อนเป็นพวกที่หน้าใสใจเพราะว่า
00:10:52 → 00:10:55 ดูแลดีกับดูแลไม่ดีเนี่ยเขาก็จะฟื้นฟูได้
00:10:55 → 00:10:58 ไม่เต็มศักยภาพคือไม่เท่ากับ
00:10:58 → 00:11:04 คะแล้วเราจะบอกว่าอะไรที่ทำให้แต่ละคน
00:11:04 → 00:11:05 เนี่ย
00:11:05 → 00:11:07 ก็สามารถที่จะเจอแบบ
00:11:07 → 00:11:10 เอ่ออ่อนกลางแล้วก็หนักเลยแบบนี้นะครับ
00:11:10 → 00:11:16 โอ้ครับดวงนี้ดูคือเส้นเลือดสมองเนี่ยผม
00:11:16 → 00:11:19 ว่ามันเป็นโรคที่เกิดเหมือนฟ้าผ่า
00:11:19 → 00:11:22 ถ้าคุณชอบตัวว่ามันมีสัญญาณเตือนมาให้มัน
00:11:22 → 00:11:24 อะไรไหมมันก็มีครับมันก็มีแต่มันมีน้อย
00:11:24 → 00:11:27 ส่วนมากจะเป็นน้ำมันเป็นเลยมันฟ้าผ่ามัน
00:11:27 → 00:11:28 ไม่เตือนเรา
00:11:28 → 00:11:32 ที่เนี้ยเพราะมันพากบเดี๋ยวมันจะเสียหาย
00:11:32 → 00:11:34 มากน้อยมันแล้วแต่ดวงแล้วมันจะลงไปโดน
00:11:34 → 00:11:35 อะไร
00:11:35 → 00:11:38 เส้นเลือดมันจะตีเส้นหน้าเส้นหลังหนัก
00:11:38 → 00:11:42 เส้นน่าจะตีเส้นใหญ่เส้นเล็กอย่างนี้ครับ
00:11:42 → 00:11:46 มันติดตรงไหนมันก็เสียตรงนั้นน่ะแล้วแล้ว
00:11:46 → 00:11:49 สมองเนี่ยะก็อยู่เป็นแผนกแผนกนะครับคือก็
00:11:49 → 00:11:52 มีทำงานร่วมกันเป็นวัดดูครับครับแต่งงาน
00:11:52 → 00:11:55 กันเหมือนโรงงานครับที่นี่มันเกิดไปแจ้ง
00:11:55 → 00:11:58 แผนกแพ็คกิ้งมันต้องแพ็คไม่ได้แต่ยังผลิต
00:11:58 → 00:12:03 ได้เอาไปจริงฝ่ายผลิต a ผลิตดียังผลิตได้
00:12:03 → 00:12:04 ครับ
00:12:04 → 00:12:07 ถ้างั้นมันก็อยู่ที่ว่าคุณโดนระเบิดลง
00:12:07 → 00:12:10 ใหญ่แค่ไหนแล้วไปโดนบริษัทไหนบางทีอย่าง
00:12:10 → 00:12:13 ยกตัวอย่างนะเกิดมันเป็นลงแผนกผู้จัดการ
00:12:13 → 00:12:16 อ่านคือขับ x Fuji
00:12:16 → 00:12:20 ขอแรงมีทรงตัวได้พูดได้แต่มั่วทุกอย่าง
00:12:20 → 00:12:21 เลยเพราะว่าไม่มีผู้จัดการ
00:12:21 → 00:12:26 แบบไม่ทำสิ่งที่ควรทำไม่รู้ว่าถ้าทำอย่าง
00:12:26 → 00:12:30 นี้แล้วจะเป็นยังไงอันนี้ก็มีปัญหาแบบนึง
00:12:30 → 00:12:34 คนที่รู้ทุกอย่างแต่ว่าสังขารไม่ถูกก็มี
00:12:34 → 00:12:37 อีกแบบนึงมีแรงแต่สั่งไม่ถูกก็เป็นแผนก
00:12:37 → 00:12:40 วางแผนการเคลื่อนไหวแต่ตัวแผนกเคลื่อนไหว
00:12:40 → 00:12:45 ทำได้ค่ามีฟังไม่รู้เรื่องแต่พูดได้หรือ
00:12:45 → 00:12:48 กับการใช่ไหมครับพูดไม่รู้เรื่องแต่ฟัง
00:12:48 → 00:12:52 ได้ก็มีมีความปัญหาความจำระยะสั้นแตกระยะ
00:12:52 → 00:12:57 ยาวยังจำได้เพราะมันคนละแผนกมีนะครับมัน
00:12:57 → 00:13:00 จะนำไปสู่การฟื้นฟูว่าเราต้องไปดูว่า
00:13:00 → 00:13:02 มีคนคนนั้นเขาอ่อนตรงไหนมันนักเรียนเลย
00:13:02 → 00:13:06 คือคุณอ่อนวิชาไหนแล้วก็อ่อนที่ฐานนั่น
00:13:06 → 00:13:08 น่ะ Department ไหนนั้นอย่างเช่นอ่อนเลข
00:13:08 → 00:13:12 คุณอ่อนบวกลบและคูณหารหรือทศนิยมหรือยก
00:13:12 → 00:13:14 กำลังคนอ่อนตรงไหนแล้วก็ซ่อมตรงนั้น
00:13:14 → 00:13:17 เรื่องไหนที่ตอนเดชั่นที่สุดแล้วก็ซ่อม
00:13:17 → 00:13:21 ไก่อนเพราะว่าครับในบทอื่นต้องใช้ต่อครับ
00:13:22 → 00:13:25 ขอขอบคุณหมอคุณหมอที่บ้านได้เห็นภาพชัด
00:13:25 → 00:13:27 เจนมากเลยครับเพราะฉะนั้นก็หมายความว่า
00:13:27 → 00:13:30 พูดง่ายก็แล้วแต่ดวงว่ามันจะไปเจอเกิดจุด
00:13:30 → 00:13:34 สำคัญตรงไหนของสมองใช่ไหมครับใช่ครับ
00:13:34 → 00:13:37 ก็อาจมีสิ่งที่เราทำได้
00:13:37 → 00:13:40 สิ่งที่เราทำได้ในระยะเฉียบพลันก็คือว่า
00:13:40 → 00:13:42 จำกัดความเสียหายพอรู้ว่าไฟไหม้พบต้อง
00:13:42 → 00:13:46 เล่นกับไฟข้อเส้นเลือดตีบเส้นเลือดแตกรีบ
00:13:46 → 00:13:49 เข้าโรงพยาบาลเพราะว่ายังมีโอกาสในการ
00:13:49 → 00:13:52 ละลายลิ่มเลือดได้หรือว่าจะไปทำกรรมวิธี
00:13:52 → 00:13:56 เอาครอปดึงออกมาถ้ามันอยู่ตำแหน่งที่ที่
00:13:56 → 00:14:00 เหมาะสมจะทำนะครับอย่างเงี้ยการก็ช่วย
00:14:00 → 00:14:02 ความเสียหาย
00:14:02 → 00:14:05 เพราะว่าพอเส้นเลือดมันๆเราทำให้มันหาย
00:14:05 → 00:14:09 ตามเสียเซลล์สมองที่ตายมันก็จะจะจะเสีย
00:14:09 → 00:14:12 หายน้อยกว่าไอ้เซลล์ที่แบบว่าขาดเลือดไป
00:14:12 → 00:14:15 ครึ่งชั่วโมงแล้วกำลังมาล่อเเมลงจะตายไม่
00:14:15 → 00:14:17 ตายมันได้เลือดเข้ามามันอาจจะฟื้นอย่าง
00:14:17 → 00:14:20 นี้ครับครับ
00:14:20 → 00:14:22 มีแต่ถ้าสดรสอะไรลิ้นจี่พันธุ์ผ่านไปแล้ว
00:14:22 → 00:14:25 เนี่ยมันจะเป็นอีกเรื่องนะคือว่าโอเค
00:14:25 → 00:14:28 ระเบิดลงไฟไม่ดับไฟพนักงานหรืออยู่ที่คน
00:14:28 → 00:14:31 นับเทปเขาดิอย่างเงี้ยแล้วจะจัดระเบียบ
00:14:31 → 00:14:35 ได้ไหมว่าวัดทำยังไงโรงงานเราผลิตตะพาบจะ
00:14:35 → 00:14:39 ได้เท่าเดิมโดยมีคนงานหรือแค่ 80% เราก็
00:14:39 → 00:14:42 ต้องดีออแกไนซ์เช่นแผนกแพ็คกิ้งเสียหาย
00:14:42 → 00:14:46 ที่สุดเพราะฉะนั้นรปภย้ายแพ็คกิ้งสองคน
00:14:46 → 00:14:51 เอา Admin ไปอยู่แพ็คกิ้งอีกคนนึงเอาผู้
00:14:51 → 00:14:54 บริหารระดับการคุณยายเป็นหัวหน้าพรรคกิ้ง
00:14:54 → 00:14:59 เดินได้เดินได้แล้วเกิดพบพูดเก่งๆ 5 คน
00:14:59 → 00:15:02 ที่ทำงานได้เท่ากับ 10 คนดูไม่ออกเลยว่า
00:15:02 → 00:15:04 ที่นี่เคยมีปัญหาเพราะฉะนั้นคนที่เป็น
00:15:04 → 00:15:07 สต๊อกแล้วบอกว่าหาย
00:15:07 → 00:15:10 เมื่อวันที่มันไม่ใช่หายจริงๆแต่มันหาย
00:15:10 → 00:15:13 ที่เราฟังก์ชันได้เหมือนปกติครับใช่ไหม
00:15:13 → 00:15:16 ครับซึ่งจริงๆไปทางฟื้นฟูเนี่ยเราไม่แคร์
00:15:16 → 00:15:20 มากหรอกให้เขาก็หายจริงๆเพราะว่าหายจริงๆ
00:15:20 → 00:15:22 เหมือนเดิมมันมีแต่ต้องย้อนเวรหักกับไป
00:15:22 → 00:15:25 มันไม่มีไม่ได้ของที่เสียหายไปแล้วมันก็
00:15:25 → 00:15:29 เสียไปแล้วแต่ถ้าเราปรับตัวละฟังก์ชันได้
00:15:29 → 00:15:31 เหมือนเดิม
00:15:31 → 00:15:35 แต่มันก็ถือว่าถึงเปล่า
00:15:35 → 00:15:38 ที่นี่เป้ากันคนที่จะไม่เท่ากันเพราะว่า
00:15:38 → 00:15:40 เสียหายไม่เหมือนกัน
00:15:40 → 00:15:43 ส่วนมากแล้วก็จะบอกว่าให้สูงสุดกลางพื้น
00:15:43 → 00:15:46 ปูเลยครับว่าให้สุดศักยภาพคือให้สูงสุด
00:15:46 → 00:15:52 ที่เขาทำได้อ้ำกับกับ
00:15:52 → 00:15:55 แต่ตอนนี้เรากำลังสนทนาเกี่ยวกับเรื่อง
00:15:55 → 00:15:57 ของชีวิตเปลี่ยนชั่วค่ำคืนเมื่อพ่อแม่ล้ม
00:15:57 → 00:16:00 ป่วยเฉียบกันด้วยโลกโจ๊กนะครับถ้าคุณหมอ
00:16:00 → 00:16:02 พาณิชย์วงศ์แพทย์ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เ****ว
00:16:02 → 00:16:04 ชาญแล้วก็เป็นเจ้าของเพจ
00:16:04 → 00:16:07 สโต๊ค Boot Camp ด้วยนะครับก็จะมีคนเข้า
00:16:07 → 00:16:10 ไปปรึกษาคุณหมอเป็นประจำเกี่ยวกับโรคหลอด
00:16:10 → 00:16:13 เลือดในสมองนี่ล่ะครับแล้วก็สนทนาร่วมกับ
00:16:13 → 00:16:15 น้องแนนซึ่งอยู่ในประสบการณ์ด้วยนะครับ
00:16:15 → 00:16:19 ก่อนที่จะไปถึงน้องแนนคนเข้าใจว่าหลายๆคน
00:16:19 → 00:16:22 ก็คงจะสงสัยเรื่องอาการเริ่มต้นครับคุณ
00:16:22 → 00:16:25 หมอว่าอยู่ๆมันเป็นเนี่ยเวลาเราจะบอกว่า
00:16:25 → 00:16:28 บางทีคุณพ่อคุณแม่เราอยู่นั่งอยู่แล้วก็
00:16:29 → 00:16:31 อาจจะตักเดียวบอกแล้วก็อาจจะรู้สึกว่าตัว
00:16:31 → 00:16:35 ชาแล้วก็จะมีอาการดังบางอย่างเกิดขึ้นบาง
00:16:35 → 00:16:38 ทีก็เกิดขึ้นนะเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่า
00:16:38 → 00:16:40 เอ๊ะมันคือโรคอะไรใช่ไหมครับอย่างเช่นเขา
00:16:40 → 00:16:42 บอกว่าเขาแขนชาแล้วอาจจะบอกว่าไม่เป็นไร
00:16:42 → 00:16:45 กินน้ำนะพักผ่อนก่อนจริงๆเราจะรู้ได้ยัง
00:16:45 → 00:16:48 ไงครับเพื่อที่จะเราจะได้รับมือได้ทัน
00:16:48 → 00:16:50 ครับหมอครับ
00:16:50 → 00:16:54 คะอันนี้เป็นประเด็นที่ลำบากหาจุดสมดุล
00:16:54 → 00:16:57 ยากกันเลยเพราะว่าในทางการแพทย์แล้วก็จะ
00:16:57 → 00:16:59 ประชาสัมพันธ์ออกไปว่ามีอาการรีบมาพอแล้ว
00:16:59 → 00:17:02 บอกว่าเวลาป่วยเป็นสต๊อกแล้วรีบรักษา
00:17:02 → 00:17:06 เนี่ยผลมันจะดีกว่าปล่อยช้าไปในทางกับการ
00:17:06 → 00:17:09 อาการที่มันคล้ายๆสโต๊คเนี่ยมันไม่จำเพาะ
00:17:09 → 00:17:12 เจาะจงว่าเป็นสัตว์โอ๊คแน่เพราะฉะนั้นมัน
00:17:12 → 00:17:15 เหมือนเป็นฟ้องสาลามครับถ้าถ้าเราขี้ตกใจ
00:17:15 → 00:17:18 เราก็ต้องวิ่งไปโรงพยาบาลบ่อยๆ
00:17:18 → 00:17:21 ออกมาเล่นเป็นจุดลำบากจ่ายอย่างนี้ครับ
00:17:21 → 00:17:26 มีอาการที่ไม่เจาะจงที่สุดก็คืออาการชาก็
00:17:26 → 00:17:28 เพราะว่าคนเราอยู่ดีๆมันก็มีความสุขที่
00:17:28 → 00:17:32 ผิดปกติตามตัวได้เน็ตกินมืออยู่ๆก็ชาบาง
00:17:33 → 00:17:35 ทีไม่เป็นอะไรหาแล้วไม่เจอก็เหมาะก็เจอ
00:17:35 → 00:17:37 บ่อยไม่ใช่มาตัวด้วยอาการชาที่ตัวแล้วก็
00:17:37 → 00:17:39 มีเจออะไร
00:17:39 → 00:17:42 แต่ถ้าอาการปากเบี้ยวน่าเที่ยวนะครับพูด
00:17:42 → 00:17:46 ไม่ชัดพวกนี้ต้องต้องต้องซีเรียสเพราะว่า
00:17:46 → 00:17:51 ไม่ค่อยเป็นอาการหรอกอาการตาเขนะครับหรือ
00:17:51 → 00:17:54 อาการตามมืดมองไม่เห็นเป็นครึ่งซีกพวกนี้
00:17:54 → 00:17:59 ก็ซีเรียสไม่ค่อยเป็นอาการหรอกอาการ
00:17:59 → 00:18:02 ก็โครงเคลงเนี่ยเป็นอาการที่ไม่ไม่จำเพาะ
00:18:02 → 00:18:06 มันไวแบบจะบอกว่ารู้สึกว่าองค์เพลงโครง
00:18:06 → 00:18:09 เกรงแต่ถ้าเซต้องเกาะต้องพยุงจากที่ไม่
00:18:09 → 00:18:10 เคยเกาะ
00:18:10 → 00:18:13 อ่าอันนี้ต้องไปตรวจ
00:18:13 → 00:18:16 ครับเพราะฉะนั้นอ่ะตามอาการที่เขาแนะนำ
00:18:16 → 00:18:21 เนี่ยอาจจะสรุปได้ว่าก็ถูกว่าว่าอาการชา
00:18:21 → 00:18:23 อาการหน้าเบี้ยวพูดไม่ชัดแขนขาอ่อนแรง
00:18:23 → 00:18:26 พรุ่งนี้เป็นที่ต้องสงสัยแต่ว่าอาจจะให้
00:18:26 → 00:18:28 น้ำหนักไม่เท่ากันนิดนึง
00:18:28 → 00:18:31 ก็คือถ้าบนชายอย่างเดียวก็ใจเย็นๆนิดนึง
00:18:31 → 00:18:34 ก่อนได้ครับสังเกตุดูว่ามันเป็นยังไงมัน
00:18:34 → 00:18:37 จบมันหายไปเองบ้างมั้ยมันเปลี่ยนแปลงขึ้น
00:18:37 → 00:18:40 ลงๆหรือเปล่าถ้าเดี๋ยวแวะไปแวะมานี่คงไม่
00:18:40 → 00:18:43 ใช่สโต๊คและก็ store เป็นแล้วเป็นเลย
00:18:43 → 00:18:46 อาการที่ควรเร่งด่วนก็คือว่าอ่อนแรกนะ
00:18:46 → 00:18:49 ครับยกแขนไม่ขึ้นนะครับจับของหลุดมือตก
00:18:49 → 00:18:53 เนี้ยเออมองไม่เห็นครึ่งซีกหรือว่า
00:18:53 → 00:18:57 น่าเที่ยวกันเห็นเลยพูดไม่ออกนะครับหรือ
00:18:57 → 00:18:59 ฟังไม่เข้าใจพวกเนี้ยอันเนี้ยน่าจะเป็น
00:18:59 → 00:19:02 ทางสมองแน่นอนทรงตัวไม่อยู่แถวนี้นี่ควร
00:19:02 → 00:19:05 พี่ไปโรงพยาบาลเลยครับขับรถนี้ไปโรง
00:19:05 → 00:19:08 พยาบาลให้เร็วที่สุดนะครับข้าวครับเอา
00:19:08 → 00:19:10 หล่ะครับสำหรับใครที่เข้ามาแล้วและอยากจะ
00:19:10 → 00:19:13 แชร์ประสบการณ์หรือว่ามีคำถามถึงคุณหมอก็
00:19:13 → 00:19:16 สามารถทิ้งคำถามได้นะครับเดี๋ยวเราคุยกัน
00:19:16 → 00:19:18 ในช่วงท้ายเราคงจะได้มีโอกาสตอบคำถามกัน
00:19:18 → 00:19:22 นะครับผมขยับมาทางแนนบ้างครับเมื่อกี้คุณ
00:19:22 → 00:19:25 หมอพูดถึงอาการต่างๆก็จะทำงานว่าในฐานะ
00:19:25 → 00:19:28 ที่คนที่มีประสบการณ์ตรงตอนที่คุณหมอ
00:19:28 → 00:19:33 เริ่มป่วยนะเราเหมือนพูดยังไงก็คือสาขาลง
00:19:33 → 00:19:35 มาเนาะเฉียบพลันอาการเป็นยังไงบ้างครับ
00:19:35 → 00:19:37 ของแนน
00:19:37 → 00:19:40 เอ่ออาจารย์ของคุณแม่เนี่ยเดิมมาหาคุณแม่
00:19:40 → 00:19:44 เป็นคนคือจะบอกว่าแข็งแรงก็คือไม่เคยเข้า
00:19:44 → 00:19:46 โรงพยาบาลเลยดีกว่าคุณอายุเท่าไหร่เน๊าะ
00:19:46 → 00:19:50 กันหน่อยไม่เคยนอนโรงพยาบาล 53 ปี 53 ปี
00:19:50 → 00:19:54 สามปีใส่ขาซึ่งบัดชีวิตประจำวันแกก็ทำงาน
00:19:54 → 00:19:57 บ้านปกติไม่ได้ไม่ได้มีอะไรที่ต้อง
00:19:57 → 00:20:00 เหนื่อยเป็นพิเศษเลยน่ะค่ะไม่ได้ยิ่ง
00:20:00 → 00:20:03 เครียดไม่ได้มีเรื่องอะไรที่จะต้องคิดว่า
00:20:03 → 00:20:06 อยู่กับสุนัขก็แอปปี่ขัดที่เนี่ยอาจารย์
00:20:06 → 00:20:09 วันที่คุณแม่เป็นเนี่ยพอดีเป็นช่วงค่ำ
00:20:09 → 00:20:13 ช่วงหัวค่ำประมาณ 9:00 นค่ะคือ Sound คือ
00:20:13 → 00:20:17 ไม่มีเสียงอะไรที่จะบอกว่าแ***ไม่สบายเลย
00:20:17 → 00:20:20 เพราะว่าก่อนที่คุณแม่จะเป็นไม่ถึง 1
00:20:20 → 00:20:23 ชั่วโมงยังนั่งดูซีรีย์เกาหลีอยู่ด้วยกัน
00:20:23 → 00:20:27 เลยหน้าทีวีค่ะเราก็หลังจากนั้นคุณแม่บอก
00:20:27 → 00:20:29 ว่าโอ๊ย GB สัญญาณเดี๋ยวขึ้นไปอาบน้ำก่อน
00:20:29 → 00:20:32 อาบน้ำเสร็จแล้วเดี๋ยวลงมาดูใหม่
00:20:32 → 00:20:37 จะขึ้นไปอาบน้ำประมาณ 20 นาทีคะแล้วก็แก
00:20:37 → 00:20:40 พยายามพยุงตัวเองลงจากบันไดบ้านดอกไม้
00:20:40 → 00:20:44 ชั้น 1 ชั้นล่างแล้วก็ก็นั่งลงกับพื้น
00:20:44 → 00:20:48 หน้าทีวีเลยค่ะนั่งลงกับพื้นแล้วก็บอกว่า
00:20:48 → 00:20:53 แน่ๆปวดหัวจังเลยปวดเราก็จะปกติทั่วไป
00:20:53 → 00:20:56 อะไรอย่างนี้ค่ะก็สักพักนึงไม่เกิน 1
00:20:56 → 00:21:00 นาทีปวดหัวมากเลยเหมือนจะระเบิดเลยเหมือน
00:21:00 → 00:21:03 หัวจะระเบิดมาเลยเลยนี้ค่ะเราก็งั้นก็ยัง
00:21:03 → 00:21:07 ดังไม่ตกใจอะไรขนาดนั้นนะคะตอนนั้นน่ะแต่
00:21:07 → 00:21:10 ว่าสักพักนึงไม่เกิน 1 นาทีถัดมาแม่หายใจ
00:21:10 → 00:21:14 ไม่ออกหายใจไม่ออกแล้วก็ตบหน้าอกตัวเอง
00:21:14 → 00:21:18 แล้วก็เริ่มเหงื่อออกงานรถติดเราสักพัก
00:21:18 → 00:21:22 นึงอ่ะแขนขาเริ่มไม่มีแรงโชคดีว่าแกนนั่ง
00:21:22 → 00:21:25 อยู่แล้วแกงเหมือนรู้ตัวว่าแกจะเป็นอะไร
00:21:25 → 00:21:29 ก็เลยนั่งเลยก่อนเลยเนี้ยแต่ก็เซเซไปทาง
00:21:29 → 00:21:33 ขวาเซไปทางซ้ายเซไปทั้งเหมือนคนจะและหมด
00:21:33 → 00:21:36 สติยาค่ะฟิวประมาณนั้นเลยนั้นก็เริ่มตกใจ
00:21:36 → 00:21:39 ใจไม่ดีและโทรเรียกรถโรงพยาบาลก่อนเลยตอน
00:21:39 → 00:21:42 นี้แก้อาการเริ่มแรกเลยแล้วก็
00:21:42 → 00:21:45 ถ้าไปถึงออตัวของคุณแม่เนี่ยใช้เวลาเดิน
00:21:45 → 00:21:49 ทางไปโรงพยาบาลแค่ 15 นาทีนั้นนำพยายาม
00:21:49 → 00:21:52 เอาขึ้นรถเพื่อไม่เรารถตรงบัตรผ่านเท่า
00:21:52 → 00:21:55 นั้นในตอนนั้นมันเป็นช่วงโควิชคือหลายๆ
00:21:55 → 00:21:58 โรงพยาบาลเขาไม่เอารถออกมารับรับณตอนนั้น
00:21:58 → 00:22:00 เลยนี้นะคะเราก็เลยอาจจะได้เอาคุณแม่ขึ้น
00:22:00 → 00:22:03 รถแล้วก็ไปโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุดตอน
00:22:03 → 00:22:05 นี้จะไปติดแพทย์คุณลูกกะตาเลยนะคะใจที่
00:22:05 → 00:22:09 สุด 15 นาทีแต่ก็ยังไม่ได้ผ่าเลยอ่ะค่ะ
00:22:09 → 00:22:13 คือมันก็จะมีเที่ยวของ Process การ CT
00:22:13 → 00:22:16 Scan ก่อนเลยนะค่ะนะต่อกันเป็นเวลา
00:22:16 → 00:22:22 ประมาณ 10:00 นค่ะซึ่งต่อที่บ่งพยาบาลแรก
00:22:22 → 00:22:24 เนี่ยเขาไม่สามารถทำการผ่าตัดคุณไม่ได้
00:22:24 → 00:22:27 เพราะรู้แล้วว่าเป็นเลือดออกในสมองก็เอ่อ
00:22:27 → 00:22:31 เข้าไปใกล้หรือว่าคือแพ้ต้องพร้อมทีม
00:22:31 → 00:22:35 แพทย์ต้องต้องต้องฟูทีมเราก็เลือกต้อง
00:22:35 → 00:22:38 พร้อมทั้งมือต้องพร้อมห้องของทางโรง
00:22:38 → 00:22:41 พยาบาลต้องพร้อมปัจจัยทางด้านการเงินด้วย
00:22:41 → 00:22:45 อะไรอ่ะค่ะว่ามันมันหลายอย่างมากซึ่งเขา
00:22:45 → 00:22:48 เลยอย่าพยายามรีเฟอร์ไปหลายๆโรงพยาบาลใน
00:22:48 → 00:22:51 คืนนั้นค่ะไม่ว่าจะเป็นโรงบาลกรุงเทพฯและ
00:22:51 → 00:22:54 อนุบาลนักแต่หลายที่แต่ว่าหลายๆโรงพยาบาล
00:22:54 → 00:22:57 เขาก็มีเหมือนปัจจัยที่แบบไม่สามารถรับ
00:22:57 → 00:23:02 ได้เช่นโควิชต้องมีถึง pcr เทสอันนี้ค่ะ
00:23:02 → 00:23:07 ถึงจะรับเคสได้หยุด refur มาได้บางที่ก็
00:23:07 → 00:23:12 ลงเครื่องมือพร้อมแต่คุณหมอไม่พร้อมคืนที
00:23:12 → 00:23:15 ผ้าเนี่ยไม่พร้อมนะณตอนนั้นประมาณเที่ยง
00:23:15 → 00:23:20 คืนเลยค่ะคือไม่ไม่ไม่ไม่มีเราจนมาได้ที่
00:23:20 → 00:23:25 โรงพยาบาลที่ 2 ตอนประมาณ 2:00 นค่ะถึงจะ
00:23:25 → 00:23:29 รีเฟอคุณแม่ยายโรงพยาบาลไปได้หรือบอกรัก S
00:23:29 → 00:23:32 อะไรเงี้ยค่ะว่าโอเครับเคสตอนประมาณตี 2
00:23:32 → 00:23:36 ว่าเดี๋ยวจะพาให้แต่และก็ก็ได้ผ่านจริงๆ
00:23:36 → 00:23:39 คือช่วงประมาณ 8 โมงเช้าของอีกวันนึงค่ะ
00:23:39 → 00:23:43 ศึกษาได้พาหลักเพราะว่ามันจะและช่วงตี 2
00:23:43 → 00:23:46 ถึง 8 โมงเช้านี้มันจะมี process เขาบอก
00:23:46 → 00:23:50 ว่าต้องดูดสีหาเส้นเลือดแล้วก็ทำ CT Scan
00:23:50 → 00:23:52 หรือเนี้ยคะหลายครั้งแล้วก็เปลี่ยนเลือด
00:23:52 → 00:23:55 เตรียมห้อง ICU เต็มต้องผ่าตัดแล้วก็
00:23:55 → 00:23:59 เตรียมทีมแพทย์ทั้งหมดเลยน่ะค่ะซึ่งเขาก็
00:23:59 → 00:24:03 บอกกูนั้นก็ลำดับร้อนใจน้องคืนนั้นว่ากู
00:24:03 → 00:24:06 ผ่าเลยได้ไหมปี 3 4 แบบผ่านเลยได้ไหม
00:24:06 → 00:24:08 อะไรอย่างเงี้ยอ่ะค่ะตอนนั้นคือถ้าเขาก็
00:24:08 → 00:24:11 พยายามอธิบายว่าการที่ผ่านตีสามตีสี่คุณ
00:24:11 → 00:24:15 แม่คุณอาจจะไม่รอได้คือการที่ผ่าน 8:00 น
00:24:15 → 00:24:18 ทุกแบบตอร์เรสดีหมดทุกอย่างบ่พร้อมอะไร
00:24:18 → 00:24:23 เงี้ยค่ะก็ก็จะดีกว่าซึ่งก็เป็นเป็นอย่าง
00:24:23 → 00:24:27 ที่คาดคิดว่าคุณแม่ก็ดีขึ้นจริงๆค่ะ
00:24:27 → 00:24:30 กับนอนไปตำนาน
00:24:30 → 00:24:33 เฮ้ออออออวันนี้ค่ะครบ 1 เดือนพอดีค่ะที่
00:24:33 → 00:24:36 คุณแม่ที่คุณแม่นอนไปทั้งหมดนะคะที่ตั้ง
00:24:36 → 00:24:39 แต่ป่วยจนถึงวันนี้เลยครับวันที่ 4 วัน
00:24:39 → 00:24:42 ที่ 5 พอดีเราก็ 1 เดือนที่ผ่านมาเนี่ย
00:24:42 → 00:24:45 คุณแม่นอนไปประมาณ 23 วันค่ะเพิ่งตื่นได้
00:24:45 → 00:24:48 เมื่อ 7 วันที่ผ่านมาอาทิตย์เกือบได้ 23
00:24:48 → 00:24:50 วันระหว่างที่
00:24:50 → 00:24:54 ผู้ชายหลับไปเลยคือใส่ร่มไม่ดีเพราะว่า
00:24:54 → 00:24:58 ก่อนการผ่าตัดคุณหมอมีให้เราทำใจระดับนึง
00:24:58 → 00:25:03 ว่าโลกเนี้ยโอกาสที่คุณแม่จะกลับมาปกติ
00:25:03 → 00:25:06 ได้จริงๆอยู่แค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
00:25:06 → 00:25:09 โลโก้ก็อีก 70 เปอร์เซ็นต์ก็จะแบ่งไปเป็น
00:25:09 → 00:25:14 ว่าเสียชีวิตกับป้ามีโอกาสที่ทาแล้วพิการ
00:25:14 → 00:25:18 เป็นเจ้าหญิงนิภาอะไรเนี่ยค่ะซึ่งก็ต้อง
00:25:18 → 00:25:21 ผ่าต้องตัดสินใจก็ต้องถา 30% ถึงมันจะ
00:25:21 → 00:25:25 น้อยก็ต้องตัดสินใจนะตอนนั้นในนี้ค่ะพอ
00:25:25 → 00:25:29 เมื่อผ่าเสร็จแล้วเนี่ยวันแรกคุณหมอพลัง
00:25:29 → 00:25:32 ค่าตัดหมอบอกว่าการผ่าตัดเป็นไปด้วยดีคุณ
00:25:32 → 00:25:35 แม่น่าจะตื่นหลังฤทธิ์ยาหมดโศลก 6-12
00:25:35 → 00:25:38 ชั่วโมงเลยนี้ค่ะมันแรกเลยแต่ปรากฏว่าคุณ
00:25:38 → 00:25:42 แม่ยังไม่ตื่นน้ำเอรันสงสัยเขาก็เลยมีการ
00:25:42 → 00:25:46 ผ่าตัดครั้งที่ 2 เป็นผ่าตัดเหล็กราคา
00:25:46 → 00:25:50 นํ้าในโพรงสมองนะคะเขาบอกว่ามันเยอะ
00:25:50 → 00:25:53 คะแล้วก็เลยต้องถามตอบออกอะไรเงี้ยค่ะก็
00:25:53 → 00:25:57 เหมือนเหมือนคุณแม่จะชีพจรดีขึ้นตอนนั้น
00:25:57 → 00:26:01 ชีพจรหรือประมาณ 40 30 40 บาทค่ะคือ
00:26:01 → 00:26:06 ต่างๆมากเลยนะก็อ่าเนี่ยที่ประจำกลับมาดู
00:26:06 → 00:26:11 ดีขึ้นได้ประมาณ 60-70 จะดีขึ้นทุกวันทุก
00:26:11 → 00:26:15 วันแต่ไม่ถึงนะคะดีขึ้นทุกวันแต่ขยับแขน
00:26:15 → 00:26:21 ขยับแขนขยับขาได้ปกติเลยแต่ตาไม่ลืมอย่าง
00:26:21 → 00:26:23 เงี้ยอ่ะค่ะอาการของแม่เป็นแบบนี้ประมาณ
00:26:23 → 00:26:28 20 วันอยู่ในไอซี 23 วันค่ะ
00:26:28 → 00:26:33 แต่ว่าจนเมื่อใช่เดินค่ะขับตัวตอนนี้ก็
00:26:33 → 00:26:36 คือไม่ก็ฟื้นแล้วก็รู้ตัวแล้วมันขึ้นว่า
00:26:36 → 00:26:39 จำ nand ๆจำคนอื่นได้สื่อสารได้หรือยัง
00:26:39 → 00:26:40 ครับ
00:26:40 → 00:26:44 คะใช่ค่ะแลกๆจำแค่คนในครอบครัวได้ค่ะคน
00:26:44 → 00:26:47 รักที่เป็นไกลๆหน่อยเลยนะเพื่อนบ้านหรือ
00:26:47 → 00:26:49 อะไรเงี้ยค่ะยังดันไม่ออกเท่าไหร่แต่ก็
00:26:49 → 00:26:53 ตอนนี้มาปัจจุบันกูทำได้แล้วก็ตอนแรกคือ
00:26:53 → 00:26:57 มีปัญหาเรื่องการกลืนน้อยยังคืนอาหารเอง
00:26:57 → 00:27:00 ไม่ได้ต้องใส่สายยางเลยนะคะแล้วก็พระเอง
00:27:00 → 00:27:03 ไม่ได้ถ่ายเองไม่ได้คือช่วยเหลือตัวเอง
00:27:03 → 00:27:07 ไม่ได้ต้องขณะที่ยังไม่ได้เลยได้แค่รู้
00:27:07 → 00:27:12 เรื่องตื่นลืมตาแต่นะตอนเนี้ยต่อ 7 วัน
00:27:12 → 00:27:14 ที่ผ่านมาเราเริ่มตั้งแต่ 1 วันแรกทำ
00:27:14 → 00:27:19 กายภาพฝึกกลืนสุดเขียวแล้วก็ฝึกเดินวาง
00:27:19 → 00:27:23 เท้าฝึกรุกฝึกนั่งตรงๆเลยนะค่ะซึ่งณ
00:27:23 → 00:27:26 ปัจจุบันคือคุณแม่พัฒนาการที่ดีขึ้นทุก
00:27:26 → 00:27:29 วันวันล่างเดินได้ 19 วันที่ 29 วันที่ 3
00:27:29 → 00:27:33 39 อีกอ่ะค่ะเดินได้เยอะขึ้นตรงขึ้นแล้ว
00:27:33 → 00:27:36 ก็นัดปัจจุบันก็ถอดสายอาหารแล้วสะวะเอง
00:27:36 → 00:27:39 ได้แล้วแล้วก็ทานอาหารเองได้ลักลืมได้และ
00:27:39 → 00:27:44 เกี่ยวแอบถ่ายได้แล้วค่ะตอนนี้ก็เหลือแค่
00:27:44 → 00:27:49 เรื่องของของการพูดคุยแกอาจจะแบบพูดช้า
00:27:49 → 00:27:52 แล้วก็ยังนึกคำเป็นประโยชน์ไม่ได้อาจเป็น
00:27:52 → 00:27:56 แค่ทำคำเป็นคำไม่เกิน 2 คำเลยนะคะในการ
00:27:56 → 00:27:59 สื่อสารข้ามกับ
00:27:59 → 00:28:04 ขอฟังฟังเรื่องของแนนแล้วคุณหมอครับให้
00:28:04 → 00:28:07 คุณแม่นั้นก็อายุ 53 แล้วก็บอกว่าเป็นคน
00:28:07 → 00:28:09 แข็งแรงก็ไม่ได้เครียดก็ไม่ได้ใช้ชีวิต
00:28:09 → 00:28:11 อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอันนี้คือสิ่งที่คุณหมอ
00:28:11 → 00:28:13 ที่บ้านไม่ตั้งแต่ตอนต้นหรือเปล่าครับว่า
00:28:13 → 00:28:15 บางทีเราคาดหวังคาดการณ์อะไรก็ได้นะครับ
00:28:15 → 00:28:19 มันฟังแล้วคิดอย่างนี้ครับคือ
00:28:19 → 00:28:21 แต่มันก็จะมีกลุ่มหนึ่งที่เมื่อกี้หมอไม่
00:28:22 → 00:28:24 ได้พูดถึงก็คือว่าพวกเส้นเลือดในสมองที่
00:28:24 → 00:28:26 มันไม่ค่อยปกติอยู่แล้วอยู่ๆมันแตกเอง
00:28:26 → 00:28:29 เพราะๆมันเป็นแต่กำเนิดแต่ว่าบังเอิญว่า
00:28:29 → 00:28:32 มาปีนี้โชคไม่ดีตรงนี้มันปิดมันแตกออกมา
00:28:32 → 00:28:35 นี้ก็เป็นไปได้ 1 อย่างนะครับแล้วก็เออ
00:28:35 → 00:28:39 อยากฟัง Case ของคุณแม่คนเนี่ยเอ่อฟัง
00:28:39 → 00:28:41 แล้วเกิดความคิดว่า
00:28:41 → 00:28:44 ถ้าคนไข้ที่ไม่ใช่โกวิทอ่ะในยุคโควิช
00:28:44 → 00:28:48 เนี่ยเขาก็เดือดร้อนเราได้รับผลกระทบต่อ
00:28:48 → 00:28:50 จริงๆแล้วเราก็ไม่ไม่ได้ถูกนับด้วยอย่าง
00:28:50 → 00:28:53 ที่ว่าคนที่ไม่ควรจะต้องไปหรือไม่คนท้อง
00:28:53 → 00:28:56 ที่การเนาะแต่ว่าไม่สามารถเข้าถึงการ
00:28:56 → 00:28:58 รักษาได้เพราะว่าโรงพยาบาลก็เต็มเรื่องคน
00:28:58 → 00:29:01 ไข้โควินหรือว่าโรงพยาบาลอยู่ในสถานะที่
00:29:01 → 00:29:04 ต้องจัดการยากในการรับคนไข้อย่างเงี้ย
00:29:04 → 00:29:09 เป็นเป็นแบบว่าปัญหาอยู่นะครับที่เราไม่
00:29:09 → 00:29:12 สามารถวัดออกมาแสดงจำนวนหรือพูดกันได้แต่
00:29:13 → 00:29:16 ก็แค่บ่นเนาะเรากลับมาเรื่องคุณแม่คุณแนน
00:29:16 → 00:29:17 ว่า
00:29:17 → 00:29:21 แต่ผมฟังแล้วผมคิดว่าลักษณะคนไข้จะมี
00:29:21 → 00:29:24 อาการที่ที่ไม่ได้เป็นเครื่องซี่ตั้งแต่
00:29:24 → 00:29:27 แรกก็คือเค้าไม่ออกแรงครึ่งซีกหรือชา
00:29:27 → 00:29:30 ครึ่งซีกหรืออะไรที่เป็นอาการเฉพาะจุดเลย
00:29:30 → 00:29:34 อาการก็คือเป็นแบบรวมเช่นปวดหัวแล้วก็แบบ
00:29:34 → 00:29:38 ว่าครูเพลง Say ทั้งซ้ายทั้งขวานะครับ
00:29:38 → 00:29:42 แล้วก็มีเรื่องของใจสั่นใจเต้นเร็วรู้สึก
00:29:42 → 00:29:44 จะเป็นระบบประสาทอัตโนมัติทำงานไม่ค่อย
00:29:44 → 00:29:49 ปกติแล้วหรือเปล่าพวกเนี้ยก็คือว่าฟังดู
00:29:49 → 00:29:51 แล้วคล้ายกับว่ามียีสต์ฟังก์ชันของสมองจะ
00:29:51 → 00:29:55 เป็นแบบโครงรวมถ้าเปรียบสมองไปโรงงานอีก
00:29:55 → 00:29:58 ทีนะก็คือว่ามันไฟตอบอ่ะหรือปากน้ำประปา
00:29:58 → 00:30:01 อ่อนมันอ่อนข้างโรงงานเลยแต่มันยังไหลนะ
00:30:01 → 00:30:05 มันเน็ตอ่อนอ่อนทั้งหมู่บ้านเลย
00:30:05 → 00:30:08 ก็คือมาเลยรวนไปหมดทั้งหมดที่นี่มันเกิด
00:30:08 → 00:30:10 อย่างนี้มันจะเป็นอะไรหนึ่งก็คือว่าถ้า
00:30:10 → 00:30:12 สมมติว่า
00:30:12 → 00:30:15 ลิ่มเลือดอุดตันในทางระบายระบายเลือดดำ
00:30:15 → 00:30:17 ออกจากสมองอันนี้ก็เป็นได้
00:30:17 → 00:30:20 อยู่ๆมันอุดตันตรงนั้นเหมือนคนอยู่เส้น
00:30:20 → 00:30:24 เลือดดำอุดตันที่ขาครับขาบวมข้างเดียวอัน
00:30:24 → 00:30:28 นี้จะเลือกตัดดูดดำอุดตันที่สมองเลือดขาว
00:30:28 → 00:30:31 ออกไม่ได้ก็แน่นอยู่ข้างในอันนี้เป็นได้
00:30:31 → 00:30:35 หรือไม่ถ้าเกิดว่ามีเส้นเลือดแตกลบเลือด
00:30:35 → 00:30:37 นั้นอ้ะก็เลือกไม่ได้ใหญ่ไม่ได้โตแต่ว่า
00:30:37 → 00:30:42 ดันไปตกตะกอนอุระบายน้ำคั่งในสมอง
00:30:42 → 00:30:45 อาบน้ำข้างในสมองเนี่ยปกติมันจะมีการไหล
00:30:45 → 00:30:49 เวียนคือสมองเนี่ยมันเป็นของที่รออยู่ใน
00:30:49 → 00:30:53 น้ำเพื่อลดแรงกระแทกมันเหมือนแบบก้อนวุ้น
00:30:53 → 00:30:55 นะครับรออยู่ในแท็งค์น้ำแล้วราคาแท้งค์
00:30:55 → 00:30:58 น้ำไปไหนไปไหนคอมพิวเตอร์นะรออยู่ในน้ำ
00:30:58 → 00:31:02 เวลารถชนหรือเวลาเขย่าเนี่ยมันจะแคปสอบ
00:31:02 → 00:31:05 ด้วยน้ำความรอยของมันเนี่ยแล้วน้ำเนี่ย
00:31:05 → 00:31:08 เพื่อมาให้เน่าแล้วเพื่อให้ส่งสารอาหาร
00:31:08 → 00:31:12 ได้มันจะมีการหมุนเวียนคือประสบใหม่ๆเติม
00:31:12 → 00:31:15 เข้ามาของเก่ากรองดูดออกที่นี่เป็นและถ้า
00:31:15 → 00:31:18 มีเลือดออกมาในช่องเนี้ยเม็ดเลือดมันจะไป
00:31:18 → 00:31:21 อุดเรื่องนะครับเหมือนนี่ขยะลงไปในท่อ
00:31:21 → 00:31:26 ระบายน้ำอุ่นน้ำออกไม่ได้น้ำเข้าก็เข้ามา
00:31:26 → 00:31:29 แน่นนะครับแน่นมากเลยครับแน่นมากๆเข้าก็
00:31:29 → 00:31:32 เปลี่ยนสมองคนหนูไม่เคยทำงานในแรงดันสูง
00:31:32 → 00:31:36 อย่างนี้ก็สลบได้นะครับ
00:31:36 → 00:31:39 อย่าหลับหรือว่าฟังก์ชั่นรถทุกแผนกเลย
00:31:39 → 00:31:42 ครับทำญาติได้
00:31:42 → 00:31:44 แต่ตอนเนี้ยอย่างที่เล่าเนี่ยคิดว่ารอบ
00:31:44 → 00:31:47 หลังเนี่ยผ่าระบายน้ำก็คงจะมีปัญหาแรงดัน
00:31:48 → 00:31:50 อยู่แต่แรงดันนี้มันจากไหนไม่รู้เหมือน
00:31:50 → 00:31:53 กันแล้วก็ผ่านรอบแรกเนี่ยผ่าเปิดกะโหลกนะ
00:31:53 → 00:31:56 ครับกะโหลกออกนะครับหรือว่าภาพคอนเดือน
00:31:56 → 00:32:01 ทางด้านสายค่ะผ่านทางด้านซ้ายคุณแม่คะ
00:32:01 → 00:32:03 แล้วก็คุณหมอบอกว่าของเคสคุณแม่นั่นก็
00:32:03 → 00:32:07 เป็นมันได้แต่เกินมันจะเหมือนเป็นโป่งพอง
00:32:07 → 00:32:13 เส้นเลือดของเราแตกครับครับ
00:32:13 → 00:32:16 คือก็คงเป็นพิมพ์นั้นก็คือว่าเส้นเลือดปก
00:32:16 → 00:32:19 ครองแล้วแต่แล้วทีนี้มันอาจจะปวดตอนที่จะ
00:32:19 → 00:32:22 เริ่มมันแตกมันโปกแล้วก็ตำแหน่งที่มันแตก
00:32:22 → 00:32:25 เนี่ยเป็นไปได้ว่ามันไม่ได้ไม่ได้เป็น
00:32:25 → 00:32:28 ตำแหน่งที่ทำให้ความแรงหรือทำให้ช้าโดย
00:32:28 → 00:32:32 ตรงข้างแต่ว่าบังเอิญว่าผลของการแตกเนี่ย
00:32:32 → 00:32:37 ไปทำให้เกิดน้ำคั่งตามหลังมาอย่างนี้ครับ
00:32:37 → 00:32:42 ค่ะก็ก็ฟังดูเป็นแบบนี้ทีนี้ในการพื้นฟู
00:32:42 → 00:32:45 แต่มันเจ็บที่บอกว่าสัญภาพคนข้างในมัน
00:32:45 → 00:32:48 ขึ้นกับว่าเป็นปัญหาแบบไหนเสียหายแผนกไหน
00:32:48 → 00:32:51 เท่าไหร่ยังไงก็นี้เนี้ยมันเป็นเหมือนที่
00:32:51 → 00:32:55 2 ชั่นทั่วๆไปคือมันสโลว์ทั้งโรงงานเลย
00:32:55 → 00:32:58 แต่พอรอปัจจัยรบกวนออกเดี๋ยวก็ค่อยๆฝืน
00:32:58 → 00:33:02 อันนี้ฟื้นฟูจะว่าง่ายก็น่าจะง่ายเพราะ
00:33:02 → 00:33:05 ว่าไม่ต้องไปเจาะนิติปอดมันไม่มีจุดของ
00:33:05 → 00:33:10 ซ่อมเบนซ์กับมันแย่ไปด้วยกันพอดีก็ดีดี
00:33:10 → 00:33:12 ขึ้นมาด้วยกัน
00:33:12 → 00:33:16 แต่ก็ทำกิจกรรมแบบภาพรวมได้มาเดินพาแต่ง
00:33:16 → 00:33:21 ตัวพาชวนพูดคุยอย่างนี้ครับคือทำกิจกรรม
00:33:21 → 00:33:24 ปกติทั่วไปหลายๆอย่างให้หลายๆมันจะพอ
00:33:24 → 00:33:27 เพียงเป็นเหมือนคนที่มีปัญหาเน้นเป็นแผนก
00:33:27 → 00:33:31 ขัดเป็นเรื่องอย่างนั้นน่ะถ้าเราฝึกแบบ
00:33:31 → 00:33:35 ทั่วไปเป็นจะมีปัญหายกตัวอย่างเหมือนเรา
00:33:35 → 00:33:38 เจอนักเรียนที่คูณกับหารไม่ได้
00:33:38 → 00:33:41 แต่ปัญหาก็เล่นจริงๆคือเค้านับจำนวนไม่
00:33:41 → 00:33:43 ได้แล้วก็บวกไม่เก่ง
00:33:43 → 00:33:46 ถ้าเราไปสอบซ่อมคูณหารเท่าไหร่มันก็ไม่
00:33:46 → 00:33:49 เป็นมันก็ตกอยู่นั่นแหละต้องให้เป็นนับ
00:33:49 → 00:33:53 จำนวนกับกับบวกให้ได้หน่อยถ้าบวกได้บวก
00:33:53 → 00:33:56 สองดีคือคุณ 2 โอเคเข้าใจค่อยไปต่อครับ
00:33:56 → 00:34:00 เรื่องกลางเรื่องพูดเรื่องอะไรที่ยากยาก
00:34:00 → 00:34:02 ครับเครียดๆๆมันจะไปอย่างนี้ก็ยังของคุณ
00:34:02 → 00:34:06 แม่เนี่ยถือว่ามันง่ายง่ายว่าไม่มีจุดจุด
00:34:06 → 00:34:11 ซ่อนเร้นฝึกแบบทั่วๆไปลูกฝึกก็ได้นะนัก
00:34:11 → 00:34:15 บำบัดฝึกก็ช่วยได้มันจะไม่ต่างกันเยอะว่า
00:34:15 → 00:34:19 ไม่ต้องวิเคราะห์เชิงลึกมากครับเออลูกได้
00:34:19 → 00:34:24 แต้มบวกเพราะว่าเป็นคนที่รักที่ชอบอยู่
00:34:24 → 00:34:26 ด้วยแล้วถูกใจอารมณ์ดี
00:34:26 → 00:34:29 วันพรุ่งนี้ก็จะมีแรงทางใจในการ
00:34:29 → 00:34:32 ปฏิสัมพันธ์สูงมี motivation ในการลูกมา
00:34:32 → 00:34:36 บอกนั่งนะแม่พูดกันดีๆนะครับลูกกับแม่บาง
00:34:36 → 00:34:37 ๆก็ทะเลาะกัน
00:34:37 → 00:34:39 [เพลง]
00:34:39 → 00:34:42 ถ้าผมคืนมากสวัสดีครับแม่
00:34:42 → 00:34:49 แม่ผมมาสวัสดีจะออกรายการออกไปกันครับ
00:34:49 → 00:34:54 อ่าถ้าเกิดว่าความสัมพันธ์ดีความสำคัญดี
00:34:54 → 00:35:00 มันจะทำให้และมีแรงจูงใจแล้วก็จะหมอทำกับ
00:35:00 → 00:35:05 มีผลกระทบกับคนที่มีทิศฟังก์ชันของสมอง
00:35:05 → 00:35:07 ทุกชนิดนะครับแต่ว่าจะทบเยอะที่สุดคือคน
00:35:07 → 00:35:10 ที่มีอะไรที่เป็นปัญหากับตัวแบบเนี้ยก็
00:35:10 → 00:35:12 คือปัจจัยพื้นฐาน
00:35:12 → 00:35:15 กินได้นอนหลับนะครับเขาไม่ปลุกพรุ่งนี้
00:35:15 → 00:35:18 ไม่น่าเชื่อมีผลนะครับอารมณ์ดี
00:35:18 → 00:35:21 ถ้าไม่มีเรื่องคาใจ
00:35:21 → 00:35:24 ฮะคนที่สมองแรงน้อยนะครับเหมือน
00:35:24 → 00:35:27 คอมพิวเตอร์รุ่นเก่านะครับ CPU น้อยแหลม
00:35:27 → 00:35:31 น้อยครับเปิดศิลปะพร้อมกันนะครับคืนแล้ว
00:35:31 → 00:35:34 ค้างจะเปิดหน้าต่างเดียวครับงานได้
00:35:34 → 00:35:37 มีเรื่องทุกข์ใจนะครับคือทั้งหมดกังวล
00:35:37 → 00:35:40 เรื่องเนี้ย Keith อยู่นั่นแล้วก็ดีเลิก
00:35:40 → 00:35:43 คิดได้มันกิน Ram
00:35:43 → 00:35:46 หลับสมองที่อันนี้เป็นเรื่องที่เราต้องสน
00:35:46 → 00:35:49 ใจใส่ใจนะครับเพราะว่าสมองเสื่อมอ่ะเราไป
00:35:49 → 00:35:53 เพิ่มเซลล์สมองไม่ได้ขับแต่ละออฟติไมการ
00:35:53 → 00:35:55 ทำงานได้
00:35:55 → 00:35:59 แล้วก็ก็อารมณ์ดีสิ่งแวดล้อมดีนะครับ
00:35:59 → 00:36:02 ฮะคนที่อยู่ด้วยที่ชอบที่ชอบเรื่องปุ้มใจ
00:36:02 → 00:36:05 ที่มันคาใจไม่มีเคลียร์ให้หมด
00:36:05 → 00:36:08 ข้อดีเยอะกับบางทีเนี่ยจะจะซื้อฟิวนิ่ง
00:36:08 → 00:36:11 ขึ้นได้เยอะเลย
00:36:11 → 00:36:16 ครับนิมิตนี้มีคำถามทยอยเข้ามาอยู่เรื่อย
00:36:16 → 00:36:18 ๆเลยนะครับเดี๋ยวผมจะทยอยค่อยๆอ่านคำถาม
00:36:18 → 00:36:21 เพราะว่าหลายๆคนก็กำลังเจอปัญหานี้อยู่
00:36:21 → 00:36:24 ครับก็จะทำหน้าที่คำถามก่อนครับว่าจริงๆ
00:36:24 → 00:36:27 แรกๆเนี่ยตอนที่คุณแม่จะป่วยแน่จะรู้สึก
00:36:27 → 00:36:29 เรื่องนี้มันเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับลูก
00:36:29 → 00:36:30 เลยไหม
00:36:30 → 00:36:36 ดีมากๆค่ะมากเลยแบบไม่คิดว่าว่างประวัติ
00:36:36 → 00:36:39 คนในครอบครัวไม่เคยมีใครเป็นโรคนี้ด้วย
00:36:39 → 00:36:43 ค่ะแล้วก็ก็คือด้วยความที่เราค่อนข้างแน่
00:36:43 → 00:36:47 ใจมาโดยตลอดว่าคุณแม่แข็งแรง
00:36:47 → 00:36:51 เพราะว่าสุดท้ายแล้วว่าคะพอพ่อคุณแม่เป็น
00:36:51 → 00:36:56 เนี้ยวันแรกเลยคือทำอะไรไม่ถูกต้องมีคนมา
00:36:56 → 00:37:01 ช่วยแบบช่วยหาช่วยทำช่วยกันใจเลยนะคะ
00:37:01 → 00:37:04 เรื่องบางเรื่องเราแบบมันเป็นเรื่องของ
00:37:04 → 00:37:06 ชีวิตคุณแม่เราไม่สามารถตัดสินใจเองได้
00:37:06 → 00:37:10 ทั้งหมดเลยเงี้ยแต่ว่าก็ต้องทำให้ดีที่
00:37:10 → 00:37:14 สุดฐานะตอนนั้นสุดส่วนเรื่องของโลกแนนก็
00:37:14 → 00:37:17 พยายามแบบหาข้อมูลหลังจากตอนนั้นนะคะว่า
00:37:17 → 00:37:20 ทำไมไม่ตื่นแล้วไอ้นํ้าในโพรงสมองเนี่ย
00:37:20 → 00:37:22 ทำไมมันเป็นเพราะอะไรเกิดมาได้ยังไงคือ
00:37:22 → 00:37:25 เราถามคุณหมอทุกวันอ่ะเราอยากได้เหมือน
00:37:25 → 00:37:28 เป็นการโอพิเนียนเลยน่ะค่ะจะจากปากเพื่อน
00:37:28 → 00:37:33 ๆที่เป็นหรือว่าอ่ะจะไปหาคุณหมออาจารย์
00:37:33 → 00:37:36 แพทย์พยายามหารายชื่อแล้วก็ติดต่อเข้าไป
00:37:36 → 00:37:39 พูดคุยเอาผล CT Scan คุณแม่นี้ค่ะไปพูด
00:37:39 → 00:37:42 คุยเพื่ออยากได้ข้อคิดเห็นที่มันแตกต่าง
00:37:42 → 00:37:45 ขึ้นว่าทำไมไม่ตื่นอะไรนะค่ะเผื่อเขาจะ
00:37:45 → 00:37:48 เห็นอะไรบางอย่างที่นั้นก็ไฟล์หาทุกวิธี
00:37:48 → 00:37:51 เลยนะน้าอาทิตย์แรกที่คุณแม่ป่วยแล้วก็
00:37:51 → 00:37:55 เข้า Gate อ่อนเขตที่เป็นเหมือนแบบปลา
00:37:55 → 00:37:58 กลุ่มคนที่เขาเป็นอ่าผู้ป่วยโรคหลอด
00:37:58 → 00:38:01 เรื่องในสมองไม่ว่าตีแตกหรือตันทุกอย่าง
00:38:01 → 00:38:04 เพื่อที่จะดูว่ามันมีเวิร์ดดิ้งอะไรที่
00:38:04 → 00:38:06 แบบปิ๊กที่มันเกี่ยวกับคุณแม่เราเราก็
00:38:06 → 00:38:10 พยายามโพสต์หาหาข้อมูลเข้าไปเยอะที่สุด
00:38:10 → 00:38:13 เช่นเนี่ยคุณแม่ตื่นแล้วแต่พูดไม่ได้เป็น
00:38:13 → 00:38:16 เพราะอะไรใครเป็นบ้างไหมอะไรเงี้ยค่ะแต่
00:38:16 → 00:38:19 พี่ก็น่ารักมากแบบเข้ามาช่วยแชร์เข้ามา
00:38:19 → 00:38:22 ช่วยแนะนำแบบเรื่องของกายภาพเล็งนะคะคือ
00:38:22 → 00:38:26 เพจแบบดีมากคือเขาว่าให้คำแนะนำเหมือน
00:38:26 → 00:38:30 เป็นญาติเขาคนนึงเลยเลี้ยงมาแบบคนคือแนน
00:38:30 → 00:38:33 ดีอามาที่บัตรตัดสินใจกดเข้าไปในเพจมี
00:38:33 → 00:38:36 ระดับขอคำแนะนำจากคนกลุ่มนี้อะไรอย่าง
00:38:36 → 00:38:38 เงี้ยทำให้แน่นหน้าได้ข้อมูลที่มันแบบ
00:38:38 → 00:38:43 เดียวจริงๆใช่ครับก็ซึ่งมันก็จะทำให้เรา
00:38:43 → 00:38:45 เห็นว่ามันมีคุณลูกแบบแน่นี้เจอปัญหาแบบ
00:38:45 → 00:38:49 นี้ค่อนข้างจะพอสมควรเลยใช่ไหมใช่จนเยอะ
00:38:49 → 00:38:52 จนตกใจค่ะไม่คิดว่าจะมีคนเป็นโรคดินเยอะ
00:38:52 → 00:38:56 ขนาดนี้ซึ่งมันดูเหมือนไม่ได้เป็นกันง่าย
00:38:56 → 00:39:00 ๆแต่ว่าปรากฏว่าได้มีคนกลุ่มมากที่สัตว์
00:39:00 → 00:39:03 หลายจำนวนเยอะมากที่เป็นเนี่ยอ่ะเพจนี้
00:39:03 → 00:39:07 ว่าเป็นค่ะไปบัดแสนแสนสองแสนเลยเนี่ยค่ะ
00:39:07 → 00:39:11 หมื่นเยอะๆชายกลับ
00:39:11 → 00:39:13 หมอคุณหมอเลยต้องลุกขึ้นมาทำ Test เลยใช่
00:39:13 → 00:39:16 ไหมครับคุณหมอช่วยอธิบายซึ่งก็มีคนตาม
00:39:16 → 00:39:19 เรียบร้อยสมควรเลยนะครับแมนก็เป็นหนึ่งใน
00:39:19 → 00:39:20 นั้นเลย
00:39:20 → 00:39:23 ความเข้าใจอ่ะครับความเข้าใจที่ถูกต้อง
00:39:23 → 00:39:27 มันก็เป็นตัวจำทางนะครับให้เราเอาความ
00:39:27 → 00:39:32 เข้าใจถูกก็ทำไปสู่ไปเอ๊ะฟอร์ดใช่มั้ยพูด
00:39:32 → 00:39:34 ในฟอร์ดไปถูกทางในงั้นก็เหนื่อยเปล่าไม่
00:39:34 → 00:39:38 ได้ที่ต้องการที่นี้ปัญหาก็คือว่าคนเรา
00:39:38 → 00:39:41 เนี่ยที่เป็นสต๊อกกันในปัญหาคล้ายๆกันแต่
00:39:41 → 00:39:43 ทุกคนเนี่ยจะเข้ามา
00:39:43 → 00:39:46 ก็เข้ามาก่อนที่ป่วยแล้วใช่ไหมครับเจอ
00:39:46 → 00:39:49 ปัญหาแล้วก็มาหาข้อมูลแล้วก็จะเริ่มทำคำ
00:39:49 → 00:39:53 ถามใหม่เริ่มต้นตั้งแต่นับหนึ่งก็เลยบอก
00:39:53 → 00:39:56 ว่าเธอพยายามจะรวบรวมข้อมูลไว้นะให้มัน
00:39:56 → 00:40:01 เป็นเป็นเรื่องๆตอนนี้ยังยังเสียดายหน่อย
00:40:01 → 00:40:04 คือว่าเรารวบรวมไว้เขียนไว้ประมาณสามร้อย
00:40:04 → 00:40:06 เรื่องกันสัน
00:40:06 → 00:40:11 ก็เขียนทุกวันเลยครับที่เนี้ยแต่ก็ยังเจอ
00:40:11 → 00:40:14 คือเข้าใจได้เพราะตอนที่เจอตกใจอ่ะเขาจะ
00:40:14 → 00:40:19 มาถามในกลุ่มก่อนใช่แต่ว่าจริงๆคำถามนั้น
00:40:19 → 00:40:22 อ่ะต่อไปหลายครั้งละครับวันที่ต้องเข้าไป
00:40:22 → 00:40:25 บอกว่าอยู่ตรงนี้ครับเนี้ยอยู่ตรงนี้ครับ
00:40:25 → 00:40:28 ลองไปอ่านดูคำถามนี้เพราะว่าอธิบายใหม่
00:40:28 → 00:40:33 มันซ้ำเดิมนะหลายๆครั้งเข้าก็ใช่ชัก
00:40:33 → 00:40:36 เมื่อยปากว่าจะมือพิมพ์นี้ครับเหมือนโค
00:40:36 → 00:40:39 วิชครับคุณหมอแล้วก็ข้อมูลมันจะเยอะแต่พอ
00:40:39 → 00:40:41 เราเริ่มติดพวกเราจะตกใจแล้วเราจะรู้สึก
00:40:41 → 00:40:43 ว่าไม่รู้อะไรเลยแล้วก็จะไปหาอะไรไม่เจอ
00:40:43 → 00:40:47 เลยนะนะฮะใช่ครับครับกับอันนี้ก็เป็น
00:40:47 → 00:40:50 ปัญหาที่เจอหมอก็แนะนำว่ายังไงนะใจเย็นๆ
00:40:50 → 00:40:54 ค่อยดูแต่ก็เห็นเข้าใจเพราะว่าอะไรเพราะ
00:40:54 → 00:40:57 ว่าพอเราถามไปในที่ที่ไม่ใช่ที่เฉพาะเช่น
00:40:57 → 00:41:00 ทางใน Google ถามในอะไรเนี้ยเราได้ความ
00:41:00 → 00:41:03 เห็นร้อยแปดพันเก้าเลยเนอะ
00:41:03 → 00:41:06 เราไม่รู้จะเชื่อใครว่าจะยิ่งสับสนขับ
00:41:06 → 00:41:11 เพราะว่าความเห็นแนะนำมันแตกต่างกันให้ไป
00:41:11 → 00:41:15 ถามในกลุ่มคนไข้คนที่แนะนำในหวังดีแต่เขา
00:41:15 → 00:41:17 ก็ไม่รู้ว่าเขาเหมือนก็ไม่เหมือนเราบางที
00:41:17 → 00:41:20 ก็แยกไม่ออกค่ะก็มาบอกเราว่าให้ทำแบบนี้
00:41:20 → 00:41:24 ให้เป็นแบบนี้พอดีฟังดูอาการเพลินๆคล้าย
00:41:24 → 00:41:26 จะเป็นอย่างเดียวกันน่ะมันคนละอย่างเลยก็
00:41:26 → 00:41:28 เป็นไปได้
00:41:28 → 00:41:31 นะเนี่ยผมคิดว่า
00:41:31 → 00:41:35 และมันก็อาจจะทดแทนไม่ได้ทั้งหมดในการที่
00:41:35 → 00:41:37 จะหาที่ฝึกขา
00:41:37 → 00:41:39 วันที่มันน่าเบื่อนะเวลาเราปรึกษาปัญหา
00:41:39 → 00:41:43 สุขภาพทางโทรศัพท์หรือทางออนไลน์ก็ตาม
00:41:43 → 00:41:46 แล้วหมอก็จะปิดท้ายว่าพบแท้ๆบ้านนะครับ
00:41:46 → 00:41:51 อ่ะก็สั่งดูว่าทำไมขี้เกียจตอบกันเลยให้
00:41:51 → 00:41:53 ถามอะไรก็จะต่อไปพบแพทย์ได้บ้านนะครับนี่
00:41:53 → 00:41:57 ครับๆมันก็มีมีส่วนความไม่แน่นอนอย่างนี้
00:41:57 → 00:42:00 อยู่มองทุกอย่างจะเขียนน่ะที่ว่าอันนี้
00:42:00 → 00:42:03 คือองค์ความรู้แล้วมันจะอัพรายได้ในกรณี
00:42:03 → 00:42:05 ไหนคนไข้หรือพยายามเอาไปดูได้ว่ามัน
00:42:05 → 00:42:09 เกี่ยวกับเราหรือเปล่าครับขับกันนะครับจบ
00:42:09 → 00:42:11 วันนี้คำถามก็ทยอยเข้ามาเขาคุณหมอก็
00:42:11 → 00:42:14 เดี๋ยวผมจะทยอยๆได้ถามนะครับโดยเฉพาะ
00:42:14 → 00:42:19 อย่างยิ่งเรื่องของการป้องกันการดูว่าพ่อ
00:42:19 → 00:42:22 แม่เราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือเปล่าหรือเรา
00:42:22 → 00:42:24 ควรจะต้องเรียนตัวอย่างไรไม่ใช่เพราะเกิด
00:42:24 → 00:42:27 ขึ้นปุบปับจะทำอะไรไม่ถูกครับเอาคำถามแรก
00:42:27 → 00:42:30 ก่อนครับคุณหมอว่าว่าเราสามารถเดาได้ไหม
00:42:30 → 00:42:34 บ่พอถ้าเราหรือเราหรือใครคนไกล้ตัวเนี้ย
00:42:34 → 00:42:36 อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือเปล่า
00:42:36 → 00:42:38 อ่า
00:42:38 → 00:42:42 เดี๋ยวขอคิดอื่นๆคือเรื่องนี้ต้องตอบให้
00:42:42 → 00:42:43 ระวัง
00:42:43 → 00:42:45 แต่ถ้าตอบสุดตรงไปทางนึงก็บอกว่าใครๆก็
00:42:45 → 00:42:49 เป็นได้นะครับโลกนี้ดีก็ประสาทระแวงกันนำ
00:42:49 → 00:42:53 กลัวทั้งวันเลยกลัวจะเป็นสโต๊คมีญาติผู้
00:42:53 → 00:42:56 ใหญ่รู้จักเนี่ยมีเพื่อนรักกันวันดีคืนดี
00:42:56 → 00:43:00 เส้นเลือดแตกในสมองแล้วก็ป่วยหนักไปเลย
00:43:00 → 00:43:03 อายุเท่ากันเครียดไปเลยทุกวันระแวงวัด
00:43:03 → 00:43:08 ความดันวันอะไรล่ะครั้งเนี้ยคือคือต้อง
00:43:08 → 00:43:11 บอกว่าสโต๊คเนี่ยเวลาจับมันสิ่งที่เราควร
00:43:11 → 00:43:14 ทำใจให้ถูกต้องมันก็คือว่าโลกนี้ถ้ามันจะ
00:43:14 → 00:43:16 เป็นมันว่าจะเป็นกะทันหัน
00:43:16 → 00:43:20 มีอาการเตือนเนี่ยน้อยครับที่จะเจอแต่ที่
00:43:20 → 00:43:22 หมอเข้าไปประกาศกันเยอะๆให้ระวังเนี่ย
00:43:22 → 00:43:25 เพราะว่าถ้าเจอแบบนี้ปุ๊บรีบไปโรงพยาบาล
00:43:25 → 00:43:27 มันจะได้รีบรักษา
00:43:27 → 00:43:31 แต่ว่าจริงๆแล้วกันไปจับตาเฝ้าระวังมัน
00:43:31 → 00:43:33 เนี่ยเสียคุณภาพชีวิตมากเพราะว่าการที่
00:43:33 → 00:43:36 มันใช่สโต๊คไหมวะไม่ใช่มั้ยมาระแวงโควิช
00:43:36 → 00:43:40 นะครับประสาทกินนะครับน้ำมูกไหลนิดนึงคอ
00:43:40 → 00:43:43 แห้งนิดนึงก็โควิชไหมว่าเงี้ยมันรบกวน
00:43:43 → 00:43:47 ชีวิตมากๆเลยแล้วมันก็เกิดว่าเอ่ออยู่กัน
00:43:47 → 00:43:51 หลายคนก็ก็เป็นปัญหารวมหมู่อีกใช่ไหมครับ
00:43:51 → 00:43:54 ลูกก็กลัวแม่ป่วยแม่ก็กลัวลูกป่วยชีวิต
00:43:54 → 00:43:56 นี้ไม่ต้องทำอะไรแล้วแบบไม่มีความสุข
00:43:56 → 00:43:59 เพราะฉะนั้นการมีแต่กลัวว่าจะเป็นสโต๊ค
00:43:59 → 00:44:03 คอยจับระแวงอาการไม่ควรทำเด็ดขาดอ่ะ
00:44:04 → 00:44:07 วันอาทิตย์ที่ควรทำคือใช้ชีวิตหลีกเลี่ยง
00:44:07 → 00:44:10 ปัจจัยเสี่ยงอันนี้ควรทำ
00:44:10 → 00:44:13 อย่างนี้ปัจจัยเสี่ยงก็อย่างที่ว่ากฎนอน
00:44:13 → 00:44:15 นะครับเครียดนะครับกินอาหารไม่ดีไม่ออก
00:44:16 → 00:44:19 กำลังกายเหล่านี้แต่ต้องก็ต้องเข้าใจ
00:44:19 → 00:44:21 ชีวิตว่าต่อให้เราทำทุกอย่างเหล่านี้ดี
00:44:21 → 00:44:24 หมดและตำบลวางใจแต่มันก็ไม่ใช่ว่าชีวิต
00:44:24 → 00:44:26 ที่มันกำลังตีไม่มีใครกันนะครับ
00:44:26 → 00:44:29 เส้นเลือดที่โป่งพองอยู่ในสมองน่าจะโป่ง
00:44:29 → 00:44:31 มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้ว
00:44:31 → 00:44:35 คะแล้วเราก็ครึ่งรู้อย่างนี้ครับซึ่งแตก
00:44:35 → 00:44:38 เนี้ยถ้ามันไม่มีอาการนะครับไม่ปวดหัวไม่
00:44:38 → 00:44:42 อะไรเลยมันอยู่ว่าหนูมันก็ไม่ควรไปยุ่ง
00:44:42 → 00:44:46 กับมันอยู่ดีเพราะว่าอะไรสมมติว่าระบบต่อ
00:44:46 → 00:44:48 ไปนี้ทุกคนประเทศไทยโดยมากทุกคนไปทำ MRI
00:44:48 → 00:44:51 เช็คเส้นเลือด
00:44:51 → 00:44:54 แต่ถ้าเราจ่ายไหวนะคนละหมื่นเนาะ 10 70
00:44:54 → 00:44:56 ล้านคนเนี้ย
00:44:56 → 00:44:59 โอนมาเสร็จเจอคนเท่าไหร่ไม่รู้เป็นแสนคน
00:44:59 → 00:45:01 หรือเป็นหมื่นคนที่มีเส้นเลือดโป่งอยู่
00:45:01 → 00:45:05 ข้างในแต่ไม่แตกแล้วจะปวดกะโหลกอีกว่าเรา
00:45:05 → 00:45:08 จะผ่าไหมอยู่ดีๆก็ไม่เป็นไรได้พาเราจะ
00:45:08 → 00:45:10 เป็นก็ได้นะ
00:45:10 → 00:45:13 คือปรับมันไฟบ้านเราก็สวรรค์ดีทุกดวงแต่
00:45:13 → 00:45:17 ไป 2 ดูระบบสายไฟตรงนี้ไม่ค่อยดีวันหน้า
00:45:17 → 00:45:18 มันอาจจะหลุด
00:45:18 → 00:45:22 ช่างบอกลืมได้ดีหรือไหมหรือไม่วางหม้อ
00:45:22 → 00:45:23 แปลงหน่อยแต่
00:45:23 → 00:45:26 โอ้โหครับได้เกษียณแล้วไหมเนี่ยเพราะ
00:45:26 → 00:45:29 ฉะนั้นการระดมกลุ่มกันก็ไม่ควรกับเพราะ
00:45:30 → 00:45:32 ว่าตรวจไปเจอก็จะไปทริปทุกคนแล้วก็ไม่ได้
00:45:32 → 00:45:35 สรุปล่างต้องยอมรับความเป็นจริงชีวิตว่า
00:45:35 → 00:45:38 ฟ้าจะมาลงพร้อมเมื่อไหร่ก็ได้งั้นเราก็
00:45:38 → 00:45:41 ใช้เช้าต่อยกับคุณหมอครับผมคือแล้วก็
00:45:41 → 00:45:42 สมมติว่า
00:45:42 → 00:45:44 อาจูเป็น
00:45:44 → 00:45:48 ยูน่าตัวผมนั่งรถนั่งเป็นคนรอบตัวพ่อคุณ
00:45:48 → 00:45:51 แม่เป็นเราควรทำยังไงคนเลยเพื่อที่จะ
00:45:51 → 00:45:55 อย่างน้อยทำให้ความหนักหนานี่มันเบาบางลง
00:45:55 → 00:45:59 ไปโอเคโอเคไม่กวนไปเจาะเลือดปลายนิ้วนะคะ
00:45:59 → 00:46:05 จะเรื่องอะไรก็บอกในก็คือพาไปโรงพยาบาล
00:46:05 → 00:46:08 เนี่ยแหละครับโทร 1669 นี่แหละสำคัญสุดไป
00:46:08 → 00:46:11 ให้โรงพยาบาลที่นี้เฉพาะหน้าคือว่าถ้าดู
00:46:11 → 00:46:14 คนไข้อาการไม่คงตัวนะครับความรู้สึกตัว
00:46:14 → 00:46:18 ไม่ดีนะครับเราก็ควรป้องกันภาวะแทรกซ้อน
00:46:18 → 00:46:21 เช่นอยากให้สำลักอาหารน้ำลายลงคอถ้าเขา
00:46:21 → 00:46:25 ไม่ค่อยรู้สึกตัวเราก็จะนอนนอนตะแคงหัน
00:46:25 → 00:46:28 หน้าข้างน้ำลายจะได้ไหลออกถ้ามีอาหารใน
00:46:28 → 00:46:31 ปากก็ล้วงเอาออกพรุ่งนี้เกาะนะครับอันนี้
00:46:31 → 00:46:34 เป็น Safety พื้นฐานเข้าบัญชีง่ายๆเดี๋ยว
00:46:34 → 00:46:38 เดี๋ยวสำลักทำ Love แต่แย่ลงไปเพิ่มข้อ
00:46:38 → 00:46:42 ที่สองถ้าเกิดว่าดูหน้าซีดเซียวนะครับวัด
00:46:42 → 00:46:45 ความดันดูย้อนแถวๆจำแล้วมันไม่แน่ใจว่า
00:46:45 → 00:46:48 เลือดไหลเวียนได้ดีไหมก็ให้นอนหัวต่ำได้
00:46:48 → 00:46:49 นะครับ
00:46:49 → 00:46:53 หมอนรองเท้าสูงได้กับแป๊ะเป็นเลือดออกใน
00:46:53 → 00:46:56 สมองหัวบวมอยู่ปวดหัวรุนแรงแล้วก็อาจจะ
00:46:56 → 00:46:59 ไม่ต้องเอาบวมต่ำเดี๋ยวจะยิ่งแย่เขามัน
00:46:59 → 00:47:02 เส้นคืออะไรทำแล้วแย่นะครับเดี๋ยวไปทำทำ
00:47:02 → 00:47:04 แล้วรู้สึกว่าอาการแย่ขึ้นก็ไม่ต้องไปทำ
00:47:04 → 00:47:07 แล้วก็ก็พาไปโรงพยาบาลครับถ้าเป็นสโต๊ค
00:47:07 → 00:47:10 หรือสงสัยสโต๊ครีบไปโรงพยาบาลเลยอันนี้
00:47:10 → 00:47:14 คือคือสิ่งเดียวที่น่าจะเด่นที่สุดอย่าง
00:47:14 → 00:47:18 หาพื้นที่ทำได้ลึกไม่ออกแล้วก็คือคุณรีบ
00:47:18 → 00:47:20 ไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
00:47:20 → 00:47:23 แต่ก็อย่างของของแนนจริงๆถ้าสมุดว่าตอน
00:47:23 → 00:47:25 นั้นได้อยู่ในช่วงโคไปในโรงพยาบาลได้เร็ว
00:47:25 → 00:47:28 ที่สุดได้เจอหมอได้เร็วที่สุดการจะไม่ได้
00:47:28 → 00:47:32 ก็จะดีขึ้นได้ใช่ไหมครับเนี่ยก็อาจจะดี
00:47:32 → 00:47:36 เดี๋ยวก่อนบอกว่านั้นก็ไม่แน่ใจมัน
00:47:36 → 00:47:38 และมันก็อาจจะดีเร็วกว่านี้แต่มันก็ไม่
00:47:39 → 00:47:42 ได้ไม่ได้เร็วกว่ามากนะครับเพราะว่ามันก็
00:47:42 → 00:47:45 มีกระบวนการอย่างที่บอกว่าคนไข้ปวดหัวมา
00:47:45 → 00:47:47 เหมาะสงสัยจริงแต่หมอต้องยืนยันของว่า
00:47:47 → 00:47:52 เป็นอะไรแค่ไหนกว่าจะทำ MRI กว่าจะทำการ
00:47:52 → 00:47:55 ตรวจเส้นเลือดอย่างนะครับกว่าจะไปเชิญผู้
00:47:55 → 00:47:58 เ****วชาญมาได้กว่าจะสตรีไลฟ์คนไข้ให้
00:47:58 → 00:48:02 นิ่งพอพอเพราะว่าคนไข้มาเนี่ยถ้าเรายัง
00:48:02 → 00:48:05 ไม่ได้ดีซะ 11 ให้เขาเขาพร้อมเนี่ยเอา
00:48:05 → 00:48:08 เข้าไปผ่าตัดนี้ก็เสี่ยงอีกอย่างนี้เรา
00:48:08 → 00:48:12 ควรการมันเยอะพอสมควรนะครับขับกับ
00:48:12 → 00:48:15 และก็ชมบ้าง Take Action เร็วนะครับแล้ว
00:48:15 → 00:48:19 ก็ยังไม่อยากให้คิดว่าอะไรนะเสียเวลา
00:48:19 → 00:48:24 เปล่าไปทำให้ติดลบอะไรเนี้ยลูกนะครับหรือ
00:48:24 → 00:48:26 ว่าญาติมาที่จะคอยสงสัยตัวเองว่าเราทำดี
00:48:26 → 00:48:30 ที่สุดหรือยังอันนี้ก็ต้องก็ต้องระวังนะ
00:48:30 → 00:48:31 ครับ
00:48:31 → 00:48:36 พี่พูดถึงตรงนี้มีอย่างอยากจะพูดถึงก็คือ
00:48:36 → 00:48:40 คือเรื่องของ Balance ความรู้สึก
00:48:40 → 00:48:43 มากเลยหม้อการดูแลผู้สูงอายุที่หลงหรือ
00:48:43 → 00:48:44 สับสน
00:48:44 → 00:48:49 ก็คือว่าบางทีเนี่ยลูกนะครับจะมีแนวโน้ม
00:48:49 → 00:48:53 ว่าจะหงุดหงิดพ่อแม่ที่ถ้าสับสนถ้าคุยไม่
00:48:53 → 00:48:55 รู้เรื่องจริงมาสะกิดใจทำให้เรารู้สึกว่า
00:48:55 → 00:48:58 คุยก็ไม่เหมือนเดิมแล้วก็เยอะแล้วเราจ่าย
00:48:58 → 00:49:00 หนี้
00:49:00 → 00:49:03 น่าจะจริงๆแล้วเนี่ยออกให้พ่อแม่เป็น
00:49:03 → 00:49:05 ดีเมนเทียซึ่งแปลว่าไม่ฟื้นละทิ้งแต่ว่า
00:49:05 → 00:49:08 จะทรงทรงๆไปเรื่อยๆเนี่ยถ้าเรามี
00:49:08 → 00:49:11 ปฏิสัมพันธ์เขาในที่ดีนะครับปฏิสัมพันธ์
00:49:11 → 00:49:14 ที่ดีเนี่ยจะได้หลายเด้งคือว่าปฏิธรรมทุก
00:49:14 → 00:49:17 พันธุ์ในช่วงอารมณ์ที่ดีมีอย่างที่ว่า
00:49:17 → 00:49:23 เอ่อส่งส่งยิ้มนะครับจ้องตากันส่งอารมณ์
00:49:23 → 00:49:26 ความรู้สึกที่ดีที่ Happy ซึ่งกันและกัน
00:49:26 → 00:49:31 ต่อให้ไม่ไม่ทำให้เขาเป็นการติวเข้มอะไร
00:49:31 → 00:49:34 มันทำให้วงจรสมองแกนอารมณ์เพราะสมองเราใน
00:49:34 → 00:49:37 มณีสูรย์อารมณ์อยู่ข้างในสมองคิดมันอยู่
00:49:37 → 00:49:40 ข้างนอกสมองคิดมันเสื่อมเยอะแล้วแต่
00:49:40 → 00:49:41 อารมณ์มันอยู่
00:49:41 → 00:49:43 มีอารมณ์ก็ตามในรูปแบบสมองคิดที่เหลือ
00:49:43 → 00:49:46 เพราะฉะนั้นเราปฏิสัมพันธ์กับเขาแล้วคุย
00:49:46 → 00:49:52 เขาจัดการจ๋ายาวแย่นะครับ ui ยิ้มภาษาไทย
00:49:52 → 00:49:56 นี่หมดละก็มันจะทำให้สมองก็ทำงานทำงานใน
00:49:56 → 00:49:59 ประสิทธิภาพที่สูงเราเด้งที่สองคือมันทำ
00:49:59 → 00:50:02 ให้อารมณ์ดีเวลารอแป๊ปโค้ชเขาไม่ใช่เราไป
00:50:02 → 00:50:08 เขม้นว่าแม่พูดสิพูดถามสิแน่คนนี้ใครพ.ศ
00:50:08 → 00:50:11 ออนไลน์เนี้ยขยันนะครับคนไข้ก็เครียดแล้ว
00:50:11 → 00:50:13 ก็เครียดปฏิสัมพันธ์ไม่ได้อะไรกับขึ้นมา
00:50:13 → 00:50:15 เพราะเราอยากจะเป็น BK เขาสิ่งที่เขาไม่
00:50:15 → 00:50:16 มีขึ้นมา
00:50:16 → 00:50:20 ถ้าเราเข้าไปหาเขาเนี่ยเราไปเล่าถึงที่มี
00:50:20 → 00:50:22 อยู่ให้มันทำงานได้เรื่อยๆแล้วเราพอใจกับ
00:50:22 → 00:50:25 ตรงนั้นทำได้ด้วยวนรอบมันเพิ่มขึ้นบางที
00:50:25 → 00:50:29 มันดีขึ้นอีกนะครับไปมันดีไลน์เด้ง
00:50:29 → 00:50:32 อยู่ในในคนที่เรียกว่าหลงแล้วอ่ะครับถ้า
00:50:32 → 00:50:35 เข้าใจแบบนี้ปฏิสัมพันธ์กันแบบนี้เราเรา
00:50:35 → 00:50:39 จะได้ความสุขเวลาเราแอพโพสเขาไม่ใช่ความ
00:50:39 → 00:50:41 ทุกข์เค้าก็มีความสับเวลาที่มองไปอำพส
00:50:41 → 00:50:45 เค้าแล้วอยากได้อะไรบวกบ้างคือมันบวกบวก
00:50:45 → 00:50:49 พวกนั้นไปเด้งกลับ
00:50:49 → 00:50:52 นะครับผมอาบน้ำผมขอเรียกอ่านคำถามที่นึง
00:50:52 → 00:50:55 นะครับมีคุณแสงชัย zung บอกว่าคุณแม่เป็น
00:50:55 → 00:50:57 โปรดตอนแรกเอ่อ
00:50:57 → 00:51:01 นอนชื่อตัวเองไม่ได้เลยตอนนี้ทานยาสามารถ
00:51:01 → 00:51:03 เดินได้แต่เสียในเรื่องของความจำการพูด
00:51:03 → 00:51:06 พูดไม่ออกคืนไม่ค่อยได้เป็นครั้งคราวและ
00:51:06 → 00:51:09 ก็อารมณ์ค่อนข้างจะเปลี่ยนแปลงบ่อยนอนมี
00:51:09 → 00:51:12 คำแนะนำหน่อยครับ
00:51:12 → 00:51:13 เออ
00:51:13 → 00:51:18 เพราะมันต้องมันต้องจบลึกอยู่คืออย่างนี้
00:51:18 → 00:51:22 เดี๋ยวขอคิดนิดนึงเอาเรื่องการปืนก่อน
00:51:22 → 00:51:26 ครับที่เราต้องรู้เกี่ยวกับการคืนคือมี
00:51:26 → 00:51:29 การปืนเนี่ยเกิดขึ้นโดยศูนย์ควบคุมอยู่
00:51:29 → 00:51:31 ที่การสมอง
00:51:31 → 00:51:34 ณศูนย์ควบคุมแน่มี 2 0 น้ำเป็นอะไหล่กัน
00:51:34 → 00:51:37 0 ซ้าย 0 ขวาเหมือนในกล่องดำ 2 กล่อง
00:51:37 → 00:51:43 แล้วแล้วถ้าถ้าสมองบนเนี้ยคิดวัดลื่นมัน
00:51:43 → 00:51:46 เป็นกระตุ้นเพราะแค่กดปุ่มกระตุ้นตัวนี้
00:51:46 → 00:51:49 สั่งชุดคำสั่งมาเลยว่ากล้ามเนื้อ 24 มัด
00:51:49 → 00:51:52 ทำงานพร้อมกันรึรีบทหารลงไปหลอดอาหารติด
00:51:52 → 00:51:54 หลอดลม
00:51:54 → 00:51:57 อ่า 0 คำสั่งกันอยู่นั้นแล้วมันสำคัญมัน
00:51:57 → 00:51:59 มีตั้ง 2 0 เพราะฉะนั้นเนี่ยปกติแล้ว
00:51:59 → 00:52:01 เนี่ยถ้าเราเป็นศูนย์ตรงนี้ไม่สั่งนะครับ
00:52:01 → 00:52:06 ข้างนี้ยังสั่ง 0 กับรองได้นะครับคนไข้
00:52:06 → 00:52:09 สโต๊คในส่วนมากเป็นครั้งเดียวเนี่ยนะครับ
00:52:09 → 00:52:12 ไม่ได้เป็นหลายๆครั้งเนี่ยมักจะฟื้นกลับ
00:52:12 → 00:52:14 มาปืนได้
00:52:14 → 00:52:17 ครับถ้าฟื้นกลับมาปืนไม่ได้เราก็ยัง
00:52:17 → 00:52:19 สามารถจะเล่าให้ศูนย์สำรองมันกลับมาทำงาน
00:52:19 → 00:52:20 ได้
00:52:20 → 00:52:23 โอกาสมันดีสูงเยอะ
00:52:23 → 00:52:27 มีแต่บางคนบางคนถ้าเป็นสต๊อกครั้งเดียว
00:52:27 → 00:52:30 เนี่ยมันยากที่จะโดนทั้ง 2 0 แมนแสดงว่า
00:52:30 → 00:52:33 ศูนย์อะไหล่มันไม่ถูกขึ้นมาทำงาน
00:52:33 → 00:52:37 มันมีโอกาสในการจะเล่าให้กับมาทำงานได้นะ
00:52:37 → 00:52:40 ครับเอ่อ
00:52:40 → 00:52:44 อีกทีนี้เรื่องของคนไข้ที่ฟังไม่รู้
00:52:44 → 00:52:47 เรื่องนะครับขับฟังไม่รู้เรื่องหรือว่า
00:52:47 → 00:52:50 พูดไม่ได้หรือทั้งสองอย่างผสมกันส่วนน่า
00:52:50 → 00:52:53 จะเป็นคนไข้ที่มีอาการอ่อนแรง Six ซ้าย
00:52:53 → 00:52:57 อ่อนแรงซีกขวานะครับก็คือสมองซ้ายเนี่ย
00:52:57 → 00:53:00 มันเป็นสมองภาษาบังคับมือขวาและไม่มีสมอง
00:53:00 → 00:53:04 บังคับภาษาด้วยถ้าเสียตรงนี้เนี่ยอาจจะมี
00:53:04 → 00:53:05 ปัญหาการฟังไม่รู้เรื่องหรือพูดไม่รู้
00:53:05 → 00:53:08 เรื่องและสมองซีกซ้ายนั้นมีความสำคัญอีก
00:53:08 → 00:53:11 อย่างหนึ่งนอกจากการ
00:53:11 → 00:53:14 พี่ฟังแล้วก็แปลเข้าใจสั่งการพูดภาษาแล้ว
00:53:14 → 00:53:17 นะมันยังมีส่วนหน้าที่ในการวางแผนการ
00:53:17 → 00:53:20 เคลื่อนไหวด้วยคนไข้บางคนน่าสงสารนะครับ
00:53:20 → 00:53:21 คือ
00:53:21 → 00:53:24 เขาพูดไม่ได้
00:53:24 → 00:53:26 มีแต่เขาฝั่งเข้าใจอาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด
00:53:26 → 00:53:29 แต่เข้าใจขึ้นออกนะเดี๋ยวเราฟังภาษาต่าง
00:53:29 → 00:53:32 ชาตินะครับคือจากที่เคยฟังออกร้อย
00:53:32 → 00:53:36 เปอร์เซ็นต์ก็ต้องออก 50% ฟังออกทุกทุกคำ
00:53:36 → 00:53:39 ไม่แตกออกเป็นบางคำอย่างเงี้ย
00:53:39 → 00:53:42 นะแต่ว่าคนนั้นเนี่ยฟังเข้าใจแต่จะพูดไม่
00:53:42 → 00:53:44 ได้
00:53:44 → 00:53:47 ดูแล้วอาจจะทำทำการต่างๆตามคำสั่งก็ไม่
00:53:47 → 00:53:51 ได้ด้วยเพราะว่าต่อให้คือข้างที่มีแรงคือ
00:53:51 → 00:53:53 ข้างซ้ายที่ยังเหลืออยู่
00:53:53 → 00:53:55 ก็วางแผนการเคลื่อนไหวไม่ถูกเช่นบอกว่า
00:53:55 → 00:54:00 เอ่อชู 2 นิ้วซิลิโคล 2 นิ้วว่าจะชูวิทย์
00:54:00 → 00:54:04 อรี่ไม่ถูกก็จะทำค่าประหลาดครับว่าเขาจะ
00:54:04 → 00:54:07 สนคืออาจจะไม่ใช่สับสนไม่เข้าใจนะเข้าใจ
00:54:07 → 00:54:11 แต่มือมันไม่ไปที่คิดคนไข้พวกเนี้ยเวลา
00:54:11 → 00:54:14 เขาพูดเขาจะมีลักษณะว่าเขาใช้ใช้ฟอร์ดราย
00:54:14 → 00:54:19 การพูดเยอะแล้วคำพูดออกมาผิดผิดแล้วก็จะ
00:54:19 → 00:54:21 พยายามแก้แต่แก้แล้วก็จะผิดไปอีกแบบหนึ่ง
00:54:21 → 00:54:25 เช่นถามว่าชื่ออะไรชื่อพาฤทธิ์ท่านจะพูด
00:54:25 → 00:54:30 ว่าพาริชย์เดี๋ยวพวกเอ๊ยอะเฮ้ย
00:54:30 → 00:54:34 ใช้ฟอร์ดเยอะแล้วมันก็ผิดผิดแบบไม่ซ้ำซาก
00:54:34 → 00:54:39 ผิดไปเรื่อยๆบ่อยๆเกิดอาการเซ็งครับอ่ะ
00:54:39 → 00:54:42 ต่อไปเราก็เซ็งครับคือรู้เรื่องแต่ทำอะไร
00:54:42 → 00:54:45 ไม่ได้คนอื่นคิดว่าเราไม่รู้เรื่อง
00:54:45 → 00:54:48 ก็บอกให้บอกให้ยกมือเกาหู
00:54:48 → 00:54:51 มีพระยกกะหูไม่ได้
00:54:51 → 00:54:54 ก็สวัสดียกเป็นธาตุอื่นยกไปเรื่อย
00:54:54 → 00:54:57 เซ็งนะครับคือคนอื่นหาว่าเราไม่รู้เรื่อง
00:54:57 → 00:54:58 ครับบางที
00:54:58 → 00:55:03 ไม่มีก็ซึมเศร้าไปเลยก็ได้ครับเอ่ออันนี้
00:55:03 → 00:55:05 ไม่ได้หมายความว่าเคสคุณแม่เป็นแบบนี้แต่
00:55:05 → 00:55:10 ว่าพิมพ์นี้เจอบ่อยอ่าครับใช่มีคนถามก็
00:55:10 → 00:55:12 เหมือนกันกับคุณหมอบอกว่าเป็นคนดูแลแล้ว
00:55:12 → 00:55:15 ก็แบบว่าว่าคนดูเองก็เครียดในขณะที่ในคดี
00:55:15 → 00:55:17 ผู้ป่วยก็มีอาการกับซึมเศร้าไปเลยอะไร
00:55:17 → 00:55:21 เงี้ยครับคือทางแพ่งเนี่ยพูดง่ายว่านี้นะ
00:55:21 → 00:55:25 ครับไม่มีพี่น้องกันนะครับ
00:55:25 → 00:55:26 แต่
00:55:26 → 00:55:29 ถ้าใครดูการ์ตูนเถอะ L สมัยก่อนมี Pain
00:55:29 → 00:55:33 กับ Panic นะเป็นน่ะเพลงก็ Panic ทาง
00:55:33 → 00:55:37 จิตเวชเนี่ยก็จะมีแอ่งไซตี้แฟชั่นเป็นพี่
00:55:37 → 00:55:38 น้องกัน
00:55:38 → 00:55:41 เวลาเราเผชิญความสูญเสียความเสียมันยัง
00:55:41 → 00:55:43 ไม่เข้ามาถึงเราคือ Nami มันยังไม่เข้า
00:55:43 → 00:55:46 ถึงเราแต่เราเห็นมันมาแล้วเราจะมีแห่งไซ
00:55:46 → 00:55:50 ตี้คือมีความวิตกกังวลตำบลนั่นเข้ามาแล้ว
00:55:50 → 00:55:53 แต่ถ้าเกิดว่ามันกระแทกเข้ามาแล้วเราสูญ
00:55:53 → 00:55:57 เสียไปแล้วเรารอสสูญเสียจะมีซึมเศร้าท้อ
00:55:57 → 00:56:02 ถอยถอดใจจิตตบดิบแฟชั่นเอ่อเอ่อคนที่เป็น
00:56:02 → 00:56:04 สโต๊คในคือสูญเสียละ
00:56:04 → 00:56:08 จิตใจมันก็จะเป็นดีแฟชั่นอยู่แล้วแต่บาง
00:56:08 → 00:56:11 ทีมันจะดีแฟชั่นหนักเพราะว่าเพราะว่าหลาย
00:56:11 → 00:56:13 ๆปัจจัยเช่นว่า
00:56:13 → 00:56:18 เขารู้สึกว่าเขาไม่เห็นทางที่มันจะดีขึ้น
00:56:18 → 00:56:20 อ่าอันนี้จะนำไปสู่เรื่องของ motivation
00:56:20 → 00:56:24 แรงจูงใจคนชอบบ่นคนไข้ว่าคนไข้ไม่มีแรง
00:56:24 → 00:56:26 จูงใจใน
00:56:26 → 00:56:29 ก็สวัสดีบอกทำไมคุณพ่อแม่ขยันสุดก็ฝึกมา
00:56:29 → 00:56:32 ตั้ง 3 เดือนแล้วไม่เห็นไปไหนเลยเป็นคุณ
00:56:32 → 00:56:36 จะเซ็งไหมล่ะเป็นคุณจะถอดใจไหมเงี้ยใช่
00:56:36 → 00:56:40 ไหมเพราะฉะนั้นหน้าที่ก็คือว่าเราต้อง
00:56:40 → 00:56:42 เร่งดูดีๆครับว่าสิ่งที่เราคือคนไข้ไม่
00:56:42 → 00:56:45 เสียเปล่า
00:56:45 → 00:56:47 อยู่ในเก๊ะอย่างแม่คุณแนนเนี่ยน่าจะได้
00:56:47 → 00:56:50 หรอกในแค่ที่คอขวดเยอะๆ
00:56:50 → 00:56:53 ก็มีหลายๆครอบครัวแล้วมันซ่อนเร้นเราแค่
00:56:53 → 00:56:56 ไม่ถูกที่เปลืองแรงแล้วเพลิงพลังจิตคนไข้
00:56:56 → 00:57:00 ด้วยอันนี้ควรควรหาที่ปรึกษาช่วยแคะว่า
00:57:00 → 00:57:03 เราจะไปเน้นตรงไหนได้มันหลุดพ้นจากตรงนี้
00:57:03 → 00:57:08 ไปได้ข้อที่สองเออการฟื้นฟูที่ดีควรมีการ
00:57:08 → 00:57:12 ประเมินครับประเมินอะไรประเมินว่าคนไข้
00:57:12 → 00:57:15 ก้าวหน้ามั้ยเปลี่ยนแปลงมั้ยเรายังเข้าไป
00:57:15 → 00:57:18 ถามคนไข้อยู่ถามญาติว่าดีขึ้นบ้างไหมครับ
00:57:18 → 00:57:19 เนี้ย
00:57:19 → 00:57:23 มันก็ไม่มีมาตรวัดแล้วของพวกนี้มันเหมือน
00:57:23 → 00:57:25 ปลูกต้นไม้การฟื้นฟูเนี่ยเหมือนปลูกต้น
00:57:25 → 00:57:28 ไม้มันไม่เหมือนเราหรือหรือตึกที่เห็นปุ๊
00:57:28 → 00:57:30 พรุ่งนี้หายไปและ
00:57:30 → 00:57:34 ปลูกต้นไม้มันก็ข้างนอกช้าๆแล้วใส่ปุ๋ย
00:57:34 → 00:57:36 ถูกหรือเปล่าน้ำแบบพอดีหรือเปล่าเราต้อง
00:57:36 → 00:57:39 ดูดีๆแล้วตาตาดีนี่มาดูของที่เกริ่นไว้
00:57:39 → 00:57:43 ช้าเหมือนไปนาคเพื่อจะรู้ว่าพ่อมาถูกทาง
00:57:43 → 00:57:45 แล้วมาถูกทางแล้วอยากเปลี่ยนสูตรนะครับ
00:57:45 → 00:57:49 พรุ่งหน้าต่อไปเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:57:49 → 00:57:51 4 ประการที่สองในการพื้นฟูคือต้องกำหนด
00:57:51 → 00:57:54 มาตรวัดสำหรับคนไข้รายนั้นว่าเราจะวัด
00:57:54 → 00:57:57 เรื่องอะไรเพื่อเราจะเทียบว่า
00:57:57 → 00:58:01 ดีขึ้นเพราะบ่อยครั้งเนี่ยคนไข้จะไม่รู้
00:58:01 → 00:58:02 ตัวว่าดีขึ้นญาติก็ไม่รู้ตัวว่าดีขึ้น
00:58:03 → 00:58:05 เห็นทุกวันนะครับลูกเราเลี้ยงทุกวันนะรู้
00:58:05 → 00:58:06 ไหมว่าโต
00:58:06 → 00:58:09 นี่มันไม่เคยรู้สึกเลยว่าลูกโตอาจจะรูป
00:58:09 → 00:58:12 เพื่อนนี้มาทำไมมันใช่มั้ยเจอกันครึ่งปี
00:58:12 → 00:58:15 มันโอ้โหโตมั่วๆ
00:58:15 → 00:58:19 อันนี้เหมือนกันนะครับทีมฟื้นฟูต้องมีการ
00:58:19 → 00:58:22 ปรับหมดประเมินว่าเดือนนี้เท่านี้เดือน
00:58:22 → 00:58:24 นี้ทั้งนี้มีความเปลี่ยนแปลงหรือไม่มี
00:58:24 → 00:58:27 ครับพรุ่งนี้จะช่วยหมดอยู่ในชั่นมากครับ
00:58:27 → 00:58:31 ได้มีคำถามอะไรจริงคุณหมอไหมครับ
00:58:31 → 00:58:36 พ่อของแม่นะคะน่าจะเป็นเรื่องของอรคุณแม่
00:58:36 → 00:58:39 ตอนนี้ค่ะตาตาเพราะหลังจากผ่าตัดแล้ว
00:58:39 → 00:58:42 เนี่ยตาแกจะไม่เข้า 3 จุดตาขวาค่ะจะหลับ
00:58:42 → 00:58:45 ใหม่อ่ะค่ะประมาณเนี้ยแต่ว่าเมื่อไหร่ที่
00:58:45 → 00:58:48 อารมณ์เริ่มดีหรือว่าช่วงหลังๆเนี่ย 7
00:58:48 → 00:58:51 วันมาเนี่ยคะก็เริ่มจะลืมขึ้นมาได้ได้นิด
00:58:51 → 00:58:55 นึงเดี๋ยวกว่าเก่าๆค่ะแต่ว่าค่ะขาขวากับ
00:58:55 → 00:58:59 แผนขวาเนี่ยคือขยับได้แต่แกจะชอบนั่ง
00:58:59 → 00:59:03 เอียงซ้ายนั่งเอียงซ้ายคือถ้าเผลออ่ะแก
00:59:03 → 00:59:07 ไม่เข้าใจอีกถึงจะเลิกเอียงซ้ายบิดตัวมา
00:59:07 → 00:59:10 ทางซ้ายนอนทางซ้ายอะไรเงี้ยอ่ะค่ะคือทาง
00:59:10 → 00:59:13 ขวาเนี่ยจำแบบไม่ค่อยไปแน่นเลยไม่แน่ใจ
00:59:13 → 00:59:19 ว่าแบบมันจะไปก็เป็นถาวรไหมหรือว่าถ้าเรา
00:59:19 → 00:59:22 เริ่มเริ่มช่วยพัฒนาการมันจะดีขึ้นได้มาก
00:59:22 → 00:59:26 เท่าไหร่เนี้ยค่ะครับผมคะเดี๋ยวเติม 6
00:59:26 → 00:59:28 แล้วเมื่อกี้ผมเห็นคำถามแบบขึ้นมาเรื่อง
00:59:28 → 00:59:31 การทุกคืนคือใช่ครับมันจะก็กูอย่างนี้
00:59:31 → 00:59:33 เดี๋ยวขอพูดก็ได้ครับว่าเป็นสิ่งอันตราย
00:59:33 → 00:59:37 ได้ถ้าทำผิดได้ครับอะไรอย่างสูงถ้าทำผิด
00:59:37 → 00:59:40 นี้กลับมาเรื่องคุณแม่คำถามของคุณแอนคือ
00:59:40 → 00:59:44 แม่จะดีขึ้นมั้ยนะครับได้ทำฟื้นฟูเรานะ
00:59:44 → 00:59:47 ครับเรามีหลักหลักง่ายๆอย่างหนึ่งก็คือ
00:59:47 → 00:59:52 ว่าถ้าเราเห็นว่าคนไข้ทำอะไรไม่ได้เลย
00:59:52 → 00:59:55 เนี่ยถ้าไม่ใช่ถ้าเราเห็นว่าผมให้ทำอะไร
00:59:55 → 00:59:58 ได้เป็นบางครั้งติดๆดับๆครับเดี๋ยวก็ทำ
00:59:58 → 01:00:01 ได้แล้วก็ทำไม่ได้เราจะมีความหวังและว่า
01:00:01 → 01:00:05 ต่อไปจะทำได้บ่อยขึ้นแล้วก็ทำได้บ่อยขึ้น
01:00:05 → 01:00:07 อาจจะทำได้ประจำ
01:00:07 → 01:00:11 นี้นะครับอันนี้คือคือแนวโน้มไม่เป็น
01:00:11 → 01:00:14 อย่างนั้นเราคิดง่ายๆครับวงจรประสาทที่มา
01:00:14 → 01:00:17 สั่งการทุกสิ่งทุกอย่างเนี่ยก็อาจจะ
01:00:17 → 01:00:18 เปลี่ยนกับถนน
01:00:18 → 01:00:20 ถนนที่มัน
01:00:20 → 01:00:23 สัญจรผ่านได้เนี่ยคือมันมีรถผ่านแน่นอน
01:00:23 → 01:00:26 แต่มันเป็นทางที่ลบมีหญ้าขึ้นมีอะไรมัน
01:00:26 → 01:00:30 ผ่านยากนานๆจะมีผ่านมาสักทีนึงแต่ถ้าเรา
01:00:30 → 01:00:32 ทำให้เขาผ่านบ่อยๆผ่านไปๆเนี้ยทางมันจะ
01:00:32 → 01:00:36 เปลี่ยนที่นี่วิ่งกันโล่งๆเลยนะครับไอ้
01:00:36 → 01:00:40 ความขยายกับกับถนนซอยเกลี่ยวเนี่ยออกมา
01:00:40 → 01:00:43 เป็นถนนซอยคนเดินที่มันโล่งกว้างๆสว่างมี
01:00:43 → 01:00:47 มีสะดวกลาดยางหรืออะไรก็ตามเนี้ยมันจะได้
01:00:47 → 01:00:51 แค่ไหนก็ก็แล้วแต่ศักยภาพเฉพาะคนนะครับ
01:00:51 → 01:00:55 แต่แต่หลักก็คือว่าถ้าพอทำได้ติดกับๆมี
01:00:55 → 01:00:57 โอกาสทำได้มากขึ้นอยู่แล้ว
01:00:57 → 01:01:01 มีของบางอย่างนี้มันเป็นเรื่องแบบว่า
01:01:01 → 01:01:04 สนใจสั่งได้แต่เขาไม่อยากเป็นเรื่อง
01:01:04 → 01:01:06 อัตโนมัติ
01:01:06 → 01:01:07 ฮะเหมือนอย่างเราสัตว์ให้เหงื่อออกมึง
01:01:07 → 01:01:09 เนี่ยเราสั่งไม่ได้
01:01:09 → 01:01:12 ก็เพราะมันเป็นระบบประสาทอัตโนมัติบอกว่า
01:01:12 → 01:01:15 กดออกในกระเพาะเพิ่มอีกหน่อยสิเนี่ยสั่ง
01:01:15 → 01:01:19 ไม่ได้แต่ถ้าเข้าใจเราคิดเนี่ยเราเครียด
01:01:19 → 01:01:22 หรือออกมือได้ไปโดนเข้าเครื่องจับเท็จใช่
01:01:22 → 01:01:25 ไหมครับได้หรือว่าเราเครียดกว่าดอกไม้กะ
01:01:25 → 01:01:28 พอได้เปลือกตาเนี่ยที่เปิดยังมันเป็นลูก
01:01:28 → 01:01:31 ครึ่งครึ่งสั่งได้ขึ้นสั่งไม่ได้คือครึ่ง
01:01:31 → 01:01:33 หนึ่งเป็นเครื่องที่เราสั่งที่ครึ่งมัน
01:01:33 → 01:01:36 เป็นมันปืนมันตกตามระบบประสาทอัตโนมัติ
01:01:36 → 01:01:40 และผมคิดว่าคุณแม่เนี่ยคงมีอาการบวมที่
01:01:40 → 01:01:43 สมองเยอะเขาถึงต้องเปิดเพื่อระบายแรงดัน
01:01:43 → 01:01:47 แรงดันเนี่ยเวลามันดันมากเนี่ยมันจะจะ
01:01:47 → 01:01:50 เบียดอัดทั้งหมดสมองบนนะครับมันบวมแล้ว
01:01:50 → 01:01:53 มันไปไหนไม่ได้มันจะตัดก้านสมองอยู่ข้าง
01:01:53 → 01:01:57 ล่างตรงไปกระแทกกับขอบครูครูกะโหลก
01:01:57 → 01:02:00 ก็เพราะสมองการสมองไม่โดนบีบเนี่ยพวก
01:02:00 → 01:02:02 กล้ามเนื้อใบหน้าลูกปลาแล้วเนี่ยมันทำงาน
01:02:02 → 01:02:06 จะเพี้ยนไปหมดเตียงที่บอกว่ามันไม่ได้มี
01:02:06 → 01:02:09 การเลือดออกในนั้น
01:02:09 → 01:02:11 แต่มันเหมือนมันช้ำไปดวงเพราะฉะนั้นโอกาส
01:02:11 → 01:02:14 ฟื้นตัวมันน่าจะดีน่าจะได้ใกล้เคียงปกติ
01:02:14 → 01:02:16 เยอะ
01:02:16 → 01:02:18 กับข้า
01:02:18 → 01:02:21 มีเรื่องปืนไหมคะที่คุณร้อนทิ้งเล่นกลืน
01:02:21 → 01:02:25 ครับคือคืออย่างนี้คนไม่สำคัญแล้วก็เป็น
01:02:25 → 01:02:30 หรอหรืออยากจะวิ่งคือคนที่คนที่มีปัญหา
01:02:30 → 01:02:34 การปืนก็คืนยากคืนช้าคืนหรือไอสำลัก
01:02:34 → 01:02:37 แต่ถ้าเราให้เขาปืนเรื่อยๆเนี่ยก็เหมือน
01:02:37 → 01:02:40 ทุกอย่างคือทำไปบ่อยๆเดี๋ยวมันก็จะเพิ่ม
01:02:40 → 01:02:43 ขึ้นจริงแต่การปืนนะมีความพิเศษคือถ้าเรา
01:02:43 → 01:02:45 ถูกเดินแล้วก็จะต้องอย่าให้หกล้มนะเดี๋ยว
01:02:45 → 01:02:48 เจ็บตัวถูกมั้ยการคืนเนี่ยถ้าเกิดว่าเรา
01:02:48 → 01:02:50 สำรับ
01:02:50 → 01:02:52 แต่สิ่งที่สำหรับลงไปเนี่ยคือน้ำลายในปาก
01:02:52 → 01:02:56 ครึ่งมีแบคทีเรียเพื่อผสมเศษอาหารนมแน่
01:02:56 → 01:03:00 จุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสนะมันลงไปในปอด
01:03:00 → 01:03:04 เราเนี่ยมันอาจจะไปทำให้ติดเชื้อได้ชื่อ
01:03:04 → 01:03:07 โรคในปากคนเราเนี่ยค่อนข้างศพตกนะครับเขา
01:03:07 → 01:03:11 บอกว่าคนกัดหนูกัดหมากัดเนี่ยบอกยากเลย
01:03:11 → 01:03:14 ว่าอะไรสบอกกันเพราะเชื้อโรคเยอะในปาก
01:03:14 → 01:03:16 แล้วเนี่ยเราแปลงฟันวันละ 2 ครั้งเพื่อลด
01:03:16 → 01:03:20 จุลินทรีย์แต่มันไม่สะอาดนะคือมันลดแล้ว
01:03:20 → 01:03:23 เดี๋ยวก็เพิ่มอีกเพราะฉะนั้นน้ำลายอยู่ใน
01:03:23 → 01:03:25 ปากและยิ่งคนที่น้ำลายบูดคือไม่ค่อยได้
01:03:25 → 01:03:27 คืนไวๆ
01:03:27 → 01:03:29 หนังจูราสสิคก็ยิ่งเยอะระดมปากจะรู้แล้ว
01:03:29 → 01:03:31 มีกลิ่นถ้าเขาสำหรับพวกนี้ลงไประหว่างถูก
01:03:31 → 01:03:34 กลืนก็อาจจะเป็นปอดอักเสบปอดอักเสบติด
01:03:34 → 01:03:38 เชื้อจะติดเชื้อเข้ากระแสเลือดอันตรายเลย
01:03:38 → 01:03:42 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราทำไงดีละวันเราอยาก
01:03:42 → 01:03:44 คืนแต่แม่ให้สำหรับ
01:03:44 → 01:03:46 เธอไม่ต้องพยายามหาวิธีฝึกพื้นที่ไม่
01:03:46 → 01:03:51 สำหรับเช่นใช้เทคนิคพิเศษใช้เทคนิคเช่นมี
01:03:51 → 01:03:54 การกลั้นใจช่วยบางจังหวัดจะทำได้อันนี้ก็
01:03:54 → 01:03:57 ต้องพูดรายละเอียดไปหรือว่า
01:03:57 → 01:04:00 แต่บางคนปืนได้เป็นบางอย่างเช่นของแข็ง
01:04:00 → 01:04:03 ของหนืดนะครับของเหลวหรือว่าอะไรใช้ตัว
01:04:03 → 01:04:06 ไหนคืนได้ก็ใช้ตัวนั้น
01:04:06 → 01:04:10 และก็การทดสอบว่าคนไข้หายได้ไหมเป็นตัว
01:04:10 → 01:04:12 ช่วยเยอะเหมือนกันนะครับคนยังใช้เทคนิค
01:04:12 → 01:04:16 นี้น้อยก็คือว่าเอ่อแต่บางทีเราสามารถพ่น
01:04:16 → 01:04:21 ละอองน้ำส้มสายชูเข้าไปให้หายใจ
01:04:21 → 01:04:24 จะต้องเป็นความเข้มข้นมาตรฐานนะแล้วก็ไอ
01:04:24 → 01:04:28 ไหมคะเขาอะไรก็แสดงว่าอ๋ออ๋อกด X ติดไม่
01:04:28 → 01:04:31 กันขึ้นเขาดีถ้าก็สองรัฐเขาก็ไอเหมือนเรา
01:04:31 → 01:04:36 ถ้าคนในสูตรเข้าไปเฉยๆไม่ใส่อ่ะเราต้อง
01:04:36 → 01:04:39 ระวังนะแสดงว่าเกิดสำลักสำนักเงียบไม่บอก
01:04:39 → 01:04:40 ใครเลยนะ
01:04:40 → 01:04:42 [เพลง]
01:04:42 → 01:04:46 สรุปว่าฝึกลื่นก็จะไม่กันดีขึ้นครับให้
01:04:46 → 01:04:48 คืนนะครับแต่วงดูความปลอดภัยควรปรึกษา
01:04:48 → 01:04:52 แพทย์หรือนักกิจกรรมบำบัดหรือว่านักบำบัด
01:04:52 → 01:04:55 ที่ที่มีความรู้เฉพาะทางนิดนึงเพื่อให้ทำ
01:04:55 → 01:04:59 ได้ปลอดภัยคนไข้หลายคนเป็นสต็อกก็ใส่สาย
01:04:59 → 01:05:02 ป้อนอาหารพ่อกลับบ้านแล้วก็ดึงออกเองแล้ว
01:05:02 → 01:05:05 ก็ค่อยๆปลดล็อคออนกันเองแบบบ้านๆก็สำเร็จ
01:05:05 → 01:05:07 กินได้เพราะอย่างที่บอกว่าศูนย์การคือมัน
01:05:07 → 01:05:11 E20 กระตุ้นไปเรื่อยๆนั้นได้แต่บางคนโชค
01:05:11 → 01:05:16 ร้ายออนไปออนมาติดเชื้ออีกนะต้องกลับมา
01:05:16 → 01:05:18 นอนโรงพยาบาลปอดอักเสบหรือเสียชีวิตก็มี
01:05:18 → 01:05:21 นะครับคนไข้เป็นสโต๊คเรารอดรอดมาแล้วมา
01:05:21 → 01:05:25 เสียชีวิตทีหลังเพราะการสำนักนี้เยอะนะ
01:05:25 → 01:05:27 ครับครับเยอะครับคุณพ่อเพื่อนผมก็มีรักษา
01:05:27 → 01:05:30 โรงพยาบาลใหญ่ในกรุงเทพฯเลยนะครับเป็น
01:05:30 → 01:05:33 สต็อกค่อนข้างหนักกลับบ้านไปป้อนเปิ้ล
01:05:33 → 01:05:34 อาหาร
01:05:34 → 01:05:38 ติดเชื้อเข้ากอดแล้วอายุเยอะแล้วเนี่ยสู้
01:05:38 → 01:05:40 การติดเชื้อไม่ไหว
01:05:40 → 01:05:45 เสียชีวิตเลยครับเคยมีครับครับคุณหมอครับ
01:05:45 → 01:05:48 บางคนอาจจะสงสัยว่าเป็นโรคที่จะเกิดขึ้น
01:05:48 → 01:05:50 กับผู้สูงวัยหรือคนมีอายุเยอะแล้วแต่ว่า
01:05:50 → 01:05:53 ตอนนี้คุณหมอเขาบอกว่าคนอายุในน้อยก็เป็น
01:05:53 → 01:05:57 กันได้เช่นคน 45 50 อะไรห้าอย่างที่แม่
01:05:57 → 01:05:59 อะไรก็เป็น 53 แล้วคุณระวังยังไงไหมครับ
01:05:59 → 01:06:03 มาดูว่ามีทั้งระวังๆแล้วคือบอกเรื่อง
01:06:03 → 01:06:06 สุขภาพครับปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้นะ
01:06:06 → 01:06:07 ครับผม
01:06:07 → 01:06:11 ถ้าเราก็เราก็ไม่ต้องไปคิดถึงมันดีกว่า
01:06:11 → 01:06:13 เนาะเพราะพวกกูไม่ได้อย่างอายุมากขึ้นก็
01:06:13 → 01:06:16 เป็นความเสี่ยงอย่างเงี้ยหรือให้คุณทุกคน
01:06:16 → 01:06:19 ก็มีความเสี่ยงบอกว่ามันก็เกิดขึ้นได้
01:06:19 → 01:06:22 โอกาสบาทและตกแต่งหัวเราก็มีโอกาสไปเดิน
01:06:22 → 01:06:24 อยู่ตามไหนมันก็เกิดขึ้นได้แต่มันน้อย
01:06:24 → 01:06:26 อย่าไปคิดถึงมันเลยมัวแต่ระแวงมันจะอยู่
01:06:26 → 01:06:30 ไม่ไหวแต่ปัจจัยที่เราก็กินได้ต้องทำครับ
01:06:30 → 01:06:35 และก็เช่นว่าเอออ้วนนะครับพาว่าอ้วนเบา
01:06:35 → 01:06:38 หวานนะครับไขมันในเลือดสูงนะครับขาดการ
01:06:38 → 01:06:41 ออกกำลังกายภาวะความเครียดเรื้อรังขาดการ
01:06:41 → 01:06:44 พักผ่อนนะครับเรานี่เพิ่มความเสี่ยงในการ
01:06:44 → 01:06:46 เป็นเห็นแล้วก็เรา
01:06:46 → 01:06:50 เราควรที่จะต้องทำไมนะครับควบคุมนะครับ
01:06:50 → 01:06:52 ไม่ให้มันไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงเยอะไม่งั้น
01:06:52 → 01:06:56 ไม่งั้นเราก็จะต้องอยู่ความสิ่งที่ไม่
01:06:56 → 01:06:59 จำเป็นนะครับวันหนึ่งไว้ถึงจะแยกขับกับ
01:06:59 → 01:07:04 กับผมอ่านคำถามนิดนึงนะครับก็คือคุณแพง
01:07:04 → 01:07:07 พันธมิตรอาบอกว่าคุณพ่อเป็นเชื่อในสมองตี
01:07:07 → 01:07:10 ผ่านมาแล้ว 8 เดือนสิบซ้ายยังไม่กลับมา
01:07:10 → 01:07:13 เลยครับมันจะกลับมาอีกไหมแต่ในเรื่องความ
01:07:13 → 01:07:15 จำอย่างดีหรือได้ดีขึ้นไม่ต้องใส่สาย
01:07:15 → 01:07:18 อย่างครับคุณหมอมีสิทธิ์ไหมครับกรณีแบบ
01:07:18 → 01:07:19 นี้
01:07:19 → 01:07:22 เอ่อเอ่อเออก็
01:07:22 → 01:07:25 มีการประมาณศักยภาพคนไข้นะครับ
01:07:25 → 01:07:29 จริงๆแล้วต้องดูเป็นรายคนไข้แต่ละลาย
01:07:29 → 01:07:32 เนี่ยไม่เหมือนกันมันอย่างเหมือนอย่างใคร
01:07:32 → 01:07:35 อ่ะก็บอกว่า Life Is Box of Chocolate
01:07:35 → 01:07:36 ใช่มั้ย
01:07:36 → 01:07:39 Forest gum แต่ละกล่องก็ไม่เหมือนกันนะ
01:07:39 → 01:07:41 จัดชุดมาไม่เหมือนอย่างนี้ครับคนไข้แต่
01:07:41 → 01:07:44 ละลายก็ไม่เหมือนกันเพราะต่อไปหลักทั่วไป
01:07:44 → 01:07:47 เนาะว่าสัตว์ปัญหาคุณพ่อเนี่ยมีเรื่อง
01:07:47 → 01:07:50 อะไรนะเราออกแรงที่ไม่ทำฆ่าจะฟื้นตัวนะ
01:07:50 → 01:07:53 ครับเออการอ่อนแรงเนี่ยเรามองอย่างนี้แขน
01:07:53 → 01:07:56 ขาไม่เหมือนกันครับเราส่วนขาเนี่ยมันเป็น
01:07:56 → 01:08:01 เป็นส่วนที่เอ่อ
01:08:01 → 01:08:04 ถ้าเรามีโอกาสโดยเฉลี่ยทั่วไปประมาณสัก 70
01:08:04 → 01:08:06 80 เปอร์เซ็นต์ในการเอาคนไข้กับมายืน
01:08:06 → 01:08:08 เดินได้
01:08:08 → 01:08:12 มีเหตุผลเพราะว่าขายเนี่ยข้อที่ 1 ขอ
01:08:12 → 01:08:14 เพียงเขาเก่งรับน้ำหนักได้นะครับคำอย่าง
01:08:14 → 01:08:17 ได้เราก็เริ่มจะฝึกการทรงตัวและการก้าว
01:08:17 → 01:08:21 เดินด้ายหรือไหมขาขาซ้ายอันพื้นไม่สุด
01:08:21 → 01:08:24 ครับขายันพื้นไม่สุดแล้วทรงตัวได้เกาะ
01:08:24 → 01:08:26 พยุงช่วยนิดหน่อยก็พอเดินได้แล้วเนี่ยไม่
01:08:26 → 01:08:29 ครับแบบนี้เนี่ยการฟื้นฟูการเดินให้พอ
01:08:29 → 01:08:32 เดินได้หรือแม้แต่ว่าว่าให้เค้ายังตัวเอง
01:08:32 → 01:08:36 ได้ในระหว่างที่เราย้ายเขาจะรถเข็นไป
01:08:36 → 01:08:38 เตียงเพียงไปรถเข็นรถเห็นในห้องน้ำอะไร
01:08:38 → 01:08:42 เงี้ยให้พยุงน้อยหน่อยนะครับให้ส่งตัวเอง
01:08:42 → 01:08:44 ค้ำยันรับน้ำหนักตัวมากหน่อยก็เนี้ยมี
01:08:45 → 01:08:46 ความเป็นไปได้สูงโดยเฉพาะคนที่เป็นโต๊ะ
01:08:46 → 01:08:51 ครั้งเดียวและยังไม่หลงเออแต่แขนจะต่าง
01:08:51 → 01:08:55 กันเพราะแขนเนี่ยแค่นี้เป็นแบบการควบคุม
01:08:55 → 01:08:59 เค้าเนี่ยที่มันซับซ้อนมาก
01:08:59 → 01:09:02 นี้นะครับสมมุติผมหยิบจับของเนี่ยผมใช้
01:09:02 → 01:09:05 นิ้วโป้งทำงานกับผู้ใช้โดยที่ทำงานด้วย
01:09:05 → 01:09:08 ก็ผมจะปลื้มใช้สารหรือทำงานพร้อมกันครับ
01:09:08 → 01:09:11 ผมหมุนสกรูเงี้ยหนูใช้สองนิ้วทำงานแต่ผม
01:09:11 → 01:09:14 ไม่ใช่แค่ส่งนี้นะคือผมควบคุมนี่มีตั้ง
01:09:14 → 01:09:17 หลาย joint นี่มีตั้งหลายจอยพูดภาษา
01:09:17 → 01:09:19 วิศวกรรมคือบอกว่ามันหลาย degree of
01:09:19 → 01:09:21 Freedom คือคุณต้องกลุ่มทีเดียวตั้งหลาย
01:09:21 → 01:09:24 อย่างพร้อมกันเพื่อให้คุณทำมันนี่ได้แล้ว
01:09:24 → 01:09:27 มือไม่เหมือนเช้าเนี่ยพอค้ำยันแล้วก็พอ
01:09:27 → 01:09:29 รับคือการทรงตัวไปได้แล้วแต่มือเนี่ยผม
01:09:29 → 01:09:32 ว่าคุณจะใส่ต่างหูหรือว่าคุณจะติดกระดุม
01:09:32 → 01:09:35 คอโดยไม่โดยมองเนี่ย
01:09:35 → 01:09:38 โอ้โหการประมวลผลสูงมากคุณต้องสัมผัสรับ
01:09:38 → 01:09:42 สัมผัสจากมือนี่เข้าไปที่สมองแปลผลสมอง
01:09:42 → 01:09:44 ต้องคิดสังข์การปรับปรุงการทำงานของนิ้ว
01:09:44 → 01:09:46 ทุกนิ้วให้มันเข้าคู่กัน
01:09:46 → 01:09:49 เออกูมันเยอะมากเลยนะ
01:09:49 → 01:09:54 การฝึกมือให้ใช้ได้เนี่ยยากแล้วก็ระบบ
01:09:54 → 01:09:57 ประสาทต่างกันของมือขาเนี่ยถึงเป็นระยาง
01:09:57 → 01:10:01 ของเราแต่ว่าต่างกันมือนะมีความเชื่อมโยง
01:10:01 → 01:10:05 กับสมองโดยมีมีทางด่วนนะครับเพราะมันต้อง
01:10:05 → 01:10:08 ใช้สมองสั่งเยอะส่วนขาเนี่ยมันกึ่ง
01:10:08 → 01:10:11 อัตโนมัตินะครับสมองมันก็สั่งแต่มันไม่
01:10:11 → 01:10:14 ได้สั่งโดยตรงเยอะเมื่อสมองเสียหายเนี่ย
01:10:14 → 01:10:16 ระบบประสาทที่เหลืออยู่เนี้ยไม่ได้ยังพอ
01:10:16 → 01:10:22 ทำงานสำหรับขาได้เยอะกว่าแขนนะครับเอิ่ม
01:10:22 → 01:10:27 ณที่นี้คนไข้เมื่อกี้พูดถึงว่ามีอาการทาง
01:10:27 → 01:10:30 ด้านระบบมอเตอร์สังการไม่ดีนะครับสิ่งที่
01:10:30 → 01:10:34 เราต้องดูอีกเนี่ยก็คือว่าเออสั่งการไม่
01:10:34 → 01:10:37 ดีแล้วระบบความรู้สึกเป็นยังไงอ่ะ
01:10:37 → 01:10:40 ก็เพราะว่าหลายคนเนี่ยอะที่สำคัญไม่ค่อย
01:10:40 → 01:10:43 ได้ดีเพราะไม่ไม่ค่อยรู้ครับ
01:10:43 → 01:10:46 ก็คือการทำงานการใช้งานแขนขาเรานะเราไม่
01:10:46 → 01:10:49 ได้ต้องใช้ตาช่องมันตลอดเวลาถูกไหมเรา
01:10:49 → 01:10:52 เดินก็ไม่ได้ต้องมองพื้นตลอดเวลาขามันรู้
01:10:52 → 01:10:54 ของมันเองความรู้สึกมันป้อนกลับมาวางที่
01:10:54 → 01:10:57 ไม่ถึงกับไม่ถึงกับสติเราจะต้องปิ๊งรับ
01:10:57 → 01:11:02 รู้จะได้ทำใบมันเหมือนไม่ถึงในพลน่ะใน
01:11:02 → 01:11:04 พันธุ์ในศิษย์ก็ในร้อยก็จัดการการเรียบ
01:11:04 → 01:11:08 ร้อยละสัญญาณป้อนกลับมามันก็แก้ไปเดิน
01:11:08 → 01:11:10 เพียงหน่อยอะไรหน่อยมาแก้เองเรื่องสัญญา
01:11:10 → 01:11:13 มาสาขาเข้ามีความสำคัญโน้ท
01:11:13 → 01:11:17 เขียนโดยเฉพาะแขนพึ่งสัญญาณภาษาเข้ามากๆ
01:11:17 → 01:11:21 ถ้าเกิดว่าสัญญาณภาษาค่ะเข้าไม่ดีก็
01:11:21 → 01:11:23 เหมือนเอาคนตามองไปขับรถแล้วไม่ใส่แว่นใน
01:11:23 → 01:11:24 เค้า
01:11:24 → 01:11:28 ก็ยากครับฝึกไปก็ไม่ค่อยได้ผลไปตัดมัน
01:11:28 → 01:11:30 ตลอดดินคือไปฝึกประสาทสัมผัสรับความรู้
01:11:30 → 01:11:35 สึกก่อนครับเจอเรื่องการฟังการพูดนะครับ
01:11:35 → 01:11:39 ก็มีว่าบางคนฟังรู้เรื่องแต่พูดไม่ได้
01:11:39 → 01:11:42 หรือบางคนฟังรู้เรื่องเฉพาะเวลาพูดหนึ่ง
01:11:42 → 01:11:45 คำสองคำถ้าพูดเป็นประโยค
01:11:45 → 01:11:48 ที่พูดมาพูดแมวพูดรถพูดบ้านกินเดินนอนรู้
01:11:48 → 01:11:53 เรื่องแต่บอกว่าบอกให้ยกมือก็ยกได้บอกให้
01:11:53 → 01:11:56 เอามือลงก็เอาได้จะบอกว่ายกมือ 10 วินาที
01:11:56 → 01:12:00 นับถึง 5 แล้วค่อยเอามือลงไม่รู้เรื่อง
01:12:00 → 01:12:00 แล้ว
01:12:00 → 01:12:05 ก็เพราะว่าอาจจะปัญหาไม่ใช่ที่การประมวล
01:12:05 → 01:12:08 ผลแต่ละคำจะเป็นปัญหาการทดและการย่อย
01:12:08 → 01:12:10 ประโยคยาวๆ
01:12:10 → 01:12:13 แล้วเนี่ยมันจะกลับมาทำอธิบายว่าคนไข้แต่
01:12:13 → 01:12:16 ละคนไม่เหมือนกันครอบครัวแต่ละคนก็ไม่
01:12:16 → 01:12:19 เหมือนกันการออกแบบสุดเพื่อจะไปเร้าไป
01:12:19 → 01:12:21 บังคับใช่ไหมครับให้สมองมันปรับตัวเอา
01:12:21 → 01:12:26 ฟังก์ชั่นในกลับมาจึงต่างกันด้วยถ้าเป็น
01:12:26 → 01:12:28 คนที่เหมือนคุณแม่คะแนนคืออาการค่อนข้าง
01:12:28 → 01:12:31 ฟิวๆคือมันไม่ได้เสียงเน้นเป็นลึกเป็น
01:12:31 → 01:12:34 เลือกอยู่ตรงไหนที่ไหนที่มันจะง่ายในการ
01:12:34 → 01:12:37 ออกแบบโปรแกรมก็คือว่าญาติก็ทำได้ใช้ความ
01:12:37 → 01:12:41 รักใส่เข้าไปก็พาทำกิจกรรมทั่วไปมันก็ดี
01:12:41 → 01:12:45 มารัวๆแต่ถ้าเป็นคนปิดเป็นเรื่องคะอันนี้
01:12:45 → 01:12:47 ต้องเจาะเจาะ
01:12:47 → 01:12:53 ต้องหาจุดที่เราจะเข้าไปทำครับจริงๆมีคำ
01:12:53 → 01:12:56 ถามมาเยอะมากเลยครับแต่ผมคิดว่าคงจะตอบคำ
01:12:56 → 01:12:59 ถามได้ไม่ทั้งหมดนะครับอย่างเช่นคุณ
01:12:59 → 01:13:02 ฉันทนาสุวรรณชัยบอกว่าคุณแม่เป็นเส้น
01:13:02 → 01:13:06 เลือดตีมาครบปีแล้วครับเป็นปัญหาที่ร่าง
01:13:06 → 01:13:08 กายชื่อขวาตอนแรกช่วยตัวเองไม่ได้ก็เลย
01:13:08 → 01:13:11 ไม่ได้แต่ปัจจุบันช่วยตัวเองได้หลายอย่าง
01:13:11 → 01:13:14 แล้วโดยใช้มือซ้ายทานข้าวเองหรือข้าวเอง
01:13:14 → 01:13:17 ได้เดินได้โดยมีผู้ช่วยคิดว่าแม่ฟังรู้
01:13:17 → 01:13:20 เรื่องจากการคิดคำโต้ตอบอย่างไม่ดีนะครับ
01:13:20 → 01:13:24 ต้องอ่าก็เน้นก็บอกว่าต้องดูแลกันอย่าง
01:13:24 → 01:13:27 อ่อนโยนวันที่คุณแม่ดูแลเราตอนเด็กๆใจดี
01:13:27 → 01:13:30 กับคุณแม่น่ารักอ่ะครับอันนี้ผมก็เขาจะ
01:13:30 → 01:13:33 ว่าหน้ามาช่วยมาถ่ายทอดประสบการณ์ในเชิง
01:13:33 → 01:13:36 บวกนะครับแต่ก็หลายๆท่านก็ก็เขียนเข้ามา
01:13:36 → 01:13:38 ก็บอกว่ากำลังเครียดเหมือนกันครับคุณหมอ
01:13:38 → 01:13:41 ในการที่จะต้องดูแลคุณแม่เนาะอย่างเที่ยว
01:13:41 → 01:13:44 บ้านแอนช่วงเดือนที่ผ่านมาก็ต้องเครียดพอ
01:13:44 → 01:13:47 สมควรเนาะหมอคุณหมอมีคำแนะนำไหมครับอย่าง
01:13:47 → 01:13:49 สำหรับคนที่ต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่แบบอยู่
01:13:49 → 01:13:52 ในภาวะเรื้อรังนานๆนะครับ
01:13:52 → 01:13:55 ขออนุญาตตอบตั้งแต่แบบเฉียบพลันไปถึง
01:13:55 → 01:13:57 เรื้อรังเพราะว่า
01:13:57 → 01:14:00 เพราะว่ามันสำคัญไปคนละแบบ
01:14:00 → 01:14:03 4 ระยะเฉียบพลันเนี่ยเวลาคนไข้ป่วยเป็น
01:14:03 → 01:14:05 โต๊ะใหม่แล้วก็จะมีคำถามประจำว่าจะดีขึ้น
01:14:05 → 01:14:08 ไหมจะหายหรือเปล่าครับคำตอบก็คือว่าคนที่
01:14:08 → 01:14:11 เป็นเฉียบฟันยังไงก็จะดีขึ้นต่อให้ไม่
01:14:11 → 01:14:14 รักษาเลยนะครับถ้าไม่ตายเดี๋ยวก็ดีขึ้นมา
01:14:14 → 01:14:17 ช่วงนี้เป็นช่วงที่เร็วที่สุดแล้วเนี่ย
01:14:17 → 01:14:19 ครับคือช่วงนี้เป็นช่วงที่เร็วที่สุดแล้ว
01:14:19 → 01:14:22 ถ้าไม่ตายเดี๋ยวก็จะต้องค่อยๆดีขึ้นสมอง
01:14:22 → 01:14:24 มันต้องกลับไปทำงานแล้วก็เห็นเนี่ยหลายคน
01:14:24 → 01:14:28 หลงทางก็คือว่าไปรักษาอะไรก็ไม่รู้นะครับ
01:14:28 → 01:14:32 รู้มันดีขึ้นก็คิดว่ามันใช่อย่างนี้ครับ
01:14:32 → 01:14:36 เนาะแล้วก็บอกทำไมรดน้ำมนต์ก็หายทำไมใช้
01:14:36 → 01:14:40 พลังนี้ก็หายอะไรเงี้ยก็มันจะดีอยู่แล้ว
01:14:40 → 01:14:43 ครับมันไม่ตายเดี๋ยวก็ดีขึ้นทีนี้เราจะ
01:14:43 → 01:14:45 ให้ดีเต็มเม็ดเต็มหน่วยเนี่ยเราต้อง
01:14:45 → 01:14:48 พยายามเราฝึกให้เหมาะมีการทดลองนะครับ
01:14:48 → 01:14:51 เค้าหรูในไปทำให้มันจะตกแล้วไม่ปล่อยให้
01:14:51 → 01:14:54 มันทับเพราะเป็นสัตว์อ๊บทุกวันวันรุ่ง
01:14:54 → 01:14:56 ขึ้นจับมันวิ่งเลยครับบังคับมันเอาโยนใส่
01:14:56 → 01:14:59 น้ำให้มันว่ายน้ำทุกวันเพื่อบังคับให้มัน
01:14:59 → 01:15:03 ใช้แขนซ้ายแต่ปรากฏว่ารอยโลกในสมองเนี่ย
01:15:03 → 01:15:07 มันใหญ่ขึ้นคือความเครียดที่มาก่อนเวลา
01:15:07 → 01:15:11 จากการฝึกเนี่ยทำให้สมองมันยอมลงไปแทนที่
01:15:11 → 01:15:14 มันจะเสียหายแค่นี้มันเสียบมากครับเพราะ
01:15:14 → 01:15:18 ฉะนั้นไม่ต้องพักประมาณหนึ่งครับนิดหนึ่ง
01:15:18 → 01:15:21 หมอดูให้ได้แต่ส่วนมากพูดง่ายๆก็คือว่า
01:15:21 → 01:15:24 ประมาณสัก 3 วันนะครับเซ็ตๆไม่ต้องรีบ
01:15:24 → 01:15:28 ฟื้นฟูม่าคะแล้วค่อยไปเข้มสักหลังอาทิตย์
01:15:28 → 01:15:32 นึงนะครับค่อยๆกับคุณต้องกระตุ้นไปเร็ว
01:15:32 → 01:15:34 เกินไปแล้วก็
01:15:34 → 01:15:37 ทิศถ้าพ้นระยะเฉียบพลันเฉียบพลันก็คือ
01:15:37 → 01:15:40 หวังให้รอดตายแล้วทำใจเกาะแน่นว่าถ้าตาย
01:15:40 → 01:15:43 เนี่ยยังไงก็ดีครับยังไงก็ดีขึ้นส่วนระยะ
01:15:43 → 01:15:46 ฟื้นฟูเนี่ยก็มาดูกันว่าดีมากน้อยขึ้นกับ
01:15:46 → 01:15:49 หลายคนที่เป็นรอยโลกแบบกระจัดกระจายเนี่ย
01:15:49 → 01:15:52 มันก็จะดีแบบดีแบบองค์รวมค่อยๆไปแล้วก็
01:15:52 → 01:15:56 อยู่ที่ว่าอายุเท่าไหร่คนการศึกษาดีคนคน
01:15:56 → 01:15:59 ไอคิวดีฉลาดพวกเนี้ยเหมือนแบบสมองเขา
01:15:59 → 01:16:01 พร้อมเรียนรู้เวลาเวลาคืนก็จะฟื้นเยอะ
01:16:01 → 01:16:04 ขึ้นไวคนที่มีญาติดูแลใส่อกใส่ใจอารมณ์ดี
01:16:04 → 01:16:07 กันก็ฟื้นเยอะวันนี้ก็เกี่ยวนะครับการ
01:16:07 → 01:16:11 ฟื้นฟูทุกเทคนิคก็เกี่ยวที่นี้มีกลุ่ม
01:16:12 → 01:16:15 เงี้ยเราจะฟื้นให้เขาดีขึ้นเรื่อยๆเอ่อ
01:16:15 → 01:16:18 อาจารย์จนถึงสุดตะยะภาพและคำว่าศุกร์จะยะ
01:16:18 → 01:16:21 ภาพมันไม่ใช่ 3 เดือน 6 เดือนหรือว่า 100
01:16:21 → 01:16:23 7 วันหรือเท่าไหร่ก็ตาม
01:16:23 → 01:16:27 มันไม่มีตัวเลขตายตัวตรงนั้น
01:16:27 → 01:16:30 ถ้าเรารู้แต่ว่าระยะใหม่ๆเนี่ยการเรียน
01:16:30 → 01:16:33 รู้จะเกิดเยอะพัฒนาการเกิดเร็วหลังจะช้า
01:16:33 → 01:16:38 ลงแต่พัฒนาการก็ยังมีได้เรื่อยๆ
01:16:38 → 01:16:41 ถ้าคนไข้นะญาติอยู่จะต้องเป็นคนเลือกว่า
01:16:41 → 01:16:42 พอ 7 หรือยัง
01:16:42 → 01:16:45 หมอมโนส่งเด็กเรียนหนังสือส่งมากีฬาคือ
01:16:45 → 01:16:48 เราฝึกแค่นี้จะจะไม่เคยเล่นมาหัดเล่นเป็น
01:16:48 → 01:16:52 มันจะพัฒนาเยอะจะเล่นเป็นเป็นตัวโรงเรียน
01:16:52 → 01:16:55 มันก็พัฒนาแต่มันไม่ต่างขนาดนั้นแหละจาก
01:16:55 → 01:16:57 ตัวโรงเรียนจะไปเป็นตัวเขต
01:16:57 → 01:17:01 มันได้สถิติอีก 1 นาทีนี้มันก็โหก็ตัดไป
01:17:01 → 01:17:04 ยืนอีกเยอะเลยลงไปเป็นแบบเป็นเดือนเป็นปี
01:17:04 → 01:17:07 เลยพระเจ้าสถิติแค่นี้ถ้าจัดทีมชาติจะไป
01:17:07 → 01:17:11 โอลิมปิคเนี่ยเพิ่มสถิติอีกนิดยากเลยถาม
01:17:11 → 01:17:14 ว่ามันไม่ยากแล้วมันคุ้มไหมอ่ะแต่หมอไม่
01:17:14 → 01:17:17 มีหน้าที่ไม่มีความสามารถที่จะไปเลือกให้
01:17:17 → 01:17:21 ได้คนไข้กับญาติเรื่องเองว่าอยากไปมั้ย
01:17:21 → 01:17:25 ทีฟื้นฟูเนี่ยมีหน้าที่บอกว่าคุณยังไปได้
01:17:25 → 01:17:28 เพราะเพราะอะไรไม่ใช่เพราะว่า 30 วันไม่
01:17:28 → 01:17:31 เพราะ 3 เดือนแต่ผมวัดแล้วว่าเดือนนี้ก็
01:17:31 → 01:17:33 ยังต้องกลับมาที่งานวัด
01:17:33 → 01:17:36 แต่ถ้าฟื้นฟูไม่มีการวัดก็ไม่รู้จะเอา
01:17:36 → 01:17:40 อะไรนำทางถ้ามีการวัดเราวัดปุ๊บบอกว่า
01:17:40 → 01:17:43 เดือนนี้คุณเดิน Speed เท่านี้เดือนหน้า
01:17:43 → 01:17:45 คุณเดินจะปิดเท่านี้ระยะ 9 วันพรุ่งนี้
01:17:45 → 01:17:48 คุณยังมีพัฒนาการเท่านี้กี่เปอร์เซ็นต์ใน
01:17:48 → 01:17:51 เวลา 1 เดือนเราเล็งเห็นว่าโอเคถ้าไปใน
01:17:51 → 01:17:55 เรทนี้ 3 เดือนจะได้เท่าไหร่คุ้มไหม
01:17:55 → 01:18:00 คนไข้ผู้ชายยังยังผมมาขอทบ
01:18:00 → 01:18:03 ถ้าสมมุติเป็นคนให้สโต๊คผมมันจะเป็น
01:18:03 → 01:18:06 ประเภทขี้เกียจมากหน่อยคือผมพอเดิมได้ผม
01:18:06 → 01:18:07 ไม่ฝึกต่อแล้ว
01:18:07 → 01:18:10 ผมไม่อยากเดินสวยไม่อยากเดินแล้วพี่อ่าน
01:18:10 → 01:18:13 ผมเอาอย่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นๆกับซึ่ง
01:18:13 → 01:18:16 เขาก็ต้องไปสเต็กเขาคนไข้บางทีผู้หญิง
01:18:16 → 01:18:18 ละเอียดขยัน
01:18:18 → 01:18:24 พี่แพทขยันฝึกทุกวันสุดทุกอาทิตย์ฝึกสม่ำ
01:18:24 → 01:18:29 เสมอถ้าได้อีก 2% ในสามเดือนก็เอา
01:18:29 → 01:18:33 คือความพอใจในการฝึกเหมือนกันที่พื้นฟู
01:18:33 → 01:18:36 ชี้เป้าคุณเลือกเอาเราไปด้วยกันไปถึงแล้ว
01:18:36 → 01:18:39 เราก็วัดผลว่าได้ตามที่คิดมั้ยเพราะว่า
01:18:39 → 01:18:42 มนุษย์เรามันแน่ๆนะครับก็คนดีกันท่านก็
01:18:42 → 01:18:47 ได้นะคือเค้าขึ้นนิ่งหมอบอกว่าโอ๊ยผม 0
01:18:47 → 01:18:48 นะครับ
01:18:48 → 01:18:50 นะก็ชิวๆแล้วกันนะครับ 3 เดือนเจอกันนะ
01:18:50 → 01:18:53 สามเดือนกลับมาดีกว่าเดิม
01:18:53 → 01:18:57 คืนที่มันเป็นคั่นกระไดดีพอดีขึ้นมาบอก
01:18:57 → 01:19:00 ว่าสงสัยขาขึ้นตอนนี้อีกแล้ว
01:19:00 → 01:19:04 บางทีมันต้องสะสมจบนะครับสามจุดระเบิด
01:19:04 → 01:19:09 ครับครับขอบคุณครับวันนี้ผมเข้าใจว่าน่า
01:19:09 → 01:19:11 จะได้คำตอบในละอย่างเกี่ยวกับเรื่องโลก
01:19:11 → 01:19:14 แล้วก็ทำความเข้าใจได้ดีพอสมควรเลยนะครับ
01:19:14 → 01:19:15 นี่
01:19:15 → 01:19:17 เต็มที่บางคอมเมนท์เขียนคำกับคุณหมอที่ใบ
01:19:17 → 01:19:20 ดีมากก็ขายอธิบายได้เห็นภาพมีความเข้าใจ
01:19:20 → 01:19:22 เปรียบเทียบให้เห็นเป็นโรงงานเห็นลำดับ
01:19:22 → 01:19:24 ขั้นเห็นอะไรหลายอย่างที่ค่อนข้างชัดเจน
01:19:24 → 01:19:27 แต่ก็มีคำถามก็มาบ้านจริงๆก็คุณหมอแต่ผม
01:19:27 → 01:19:29 ก็เดี๋ยวค่อยตอบนี้เราคงน่าจะต่อกันดี
01:19:29 → 01:19:33 ครับชั่วโมงนึงได้แน่นอนนะครับวันนี้แนน
01:19:33 → 01:19:35 ฟังแล้วก็จะว่าแนนก็กำลังอยู่ในช่วงที่
01:19:35 → 01:19:40 กำลังรับศึกหนักสำหรับชีวิตพอสมควรเนาะก็
01:19:40 → 01:19:43 ฟังวันนี้น่าจะพอแล้วค่ะมีความชัดเจนขึ้น
01:19:43 → 01:19:46 และมีกำลังใจขึ้นนะครับเยอะเลยค่ะได้มี
01:19:46 → 01:19:49 แนวทางไปดูแลคุณแม่ต่อด้วยอะรักจากนี้
01:19:49 → 01:19:54 ครับครับก็ขอเป็นกำลังใจให้แน่นนะครับใน
01:19:54 → 01:19:57 การรับมือกับช่วงเวลา
01:19:57 → 01:20:00 นักๆในชีวิตแบบนี้ได้นะครับแล้วก็ขออวยพร
01:20:00 → 01:20:04 ให้คุณพ่อคุณแม่หายเร็วๆด้วยนะครับวันนี้
01:20:04 → 01:20:07 ก็ขอบคุณขอบพระคุณคุณหมอด้วยนะครับคุณหมอ
01:20:07 → 01:20:11 สามารถก็จะทำขอบคุณมากครับจะมาทำหมอได้
01:20:11 → 01:20:14 ที่ไหนครับสมมติคุณอยากจะเข้าไปตามคุณหมอ
01:20:14 → 01:20:17 ในเพจก็ได้อีกใช่ไหมครับมีบุตรน้ำหนัก
01:20:17 → 01:20:21 Boot Camp ขาวพิมพ์ทิ้งไว้นะครับ
01:20:21 → 01:20:25 พอว่างานเข้ามาทยอยตอบครับครับเห็นว่าผม
01:20:25 → 01:20:27 บอกก็ยังตอบมากเลยใช่มั้ยฮะ
01:20:27 → 01:20:31 ครับช่วง ov นี่ห่างไปหน่อยครับเพราะว่า
01:20:31 → 01:20:34 ถ้าไม่ไหวจริงๆแต่ว่าครับทุกทีก็พยายาม
01:20:34 → 01:20:38 พยายามเคให้หมดครับขับขับก็ขอบคุณคุณหมอ
01:20:38 → 01:20:41 มากครับขอบคุณแนนด้วยครับที่สนามเวลาช่วง
01:20:41 → 01:20:43 เช้าวันอาทิตย์นี้มาให้ทั้งความรู้ให้
01:20:43 → 01:20:46 ทั้งประสบการณ์นะครับขอบพระคุณมากครับ
01:20:46 → 01:20:50 สวัสดีครับสวัสดีครับผมนะครับ
01:20:50 → 01:20:53 มาแล้วทั้งหมดนี้ก็คืออุปกรณ์ที่เคารพนะ
01:20:53 → 01:20:56 ครับวันนี้เราคุยกันในวันที่ 5 กันยายน
01:20:56 → 01:20:58 ตรงกับวันอาทิตย์คุยกับเรื่องคุยกันในหัว
01:20:58 → 01:21:01 ข้อเรื่องโลกเปลี่ยนชีวิตของลูกนั่นก็คือ
01:21:01 → 01:21:05 โลกตรงเองนะครับวันนี้คุณหมอก็มาให้ความ
01:21:05 → 01:21:08 รู้และอย่างเลยนะครับตั้งแต่ที่มาที่ไปทำ
01:21:08 → 01:21:11 ความเข้าใจไปจนถึงเรื่องของการฟื้นฟูนะ
01:21:11 → 01:21:14 ครับผมต้องขออภัยด้วยที่ไม่สามารถที่จะ
01:21:14 → 01:21:16 อ่านคำถามแล้วก็ให้คุณหมอตอบได้ทุกคำถาม
01:21:16 → 01:21:18 นะครับจะเป็นเข้าใจว่าสิ่งที่คุณหมอ
01:21:18 → 01:21:22 อธิบายในหลายๆคำถามเนี่ยก็อาจจะอยู่ในใน
01:21:22 → 01:21:24 สิ่งที่เราสนทนากันตั้งแต่ต้นแล้วเผื่อ
01:21:24 → 01:21:26 ว่าท่านไหนที่พึ่งเข้ามาก็สามารถที่จะไป
01:21:26 → 01:21:30 ชมย้อนหลังกันได้นะครับทุกๆวันอาทิตย์เรา
01:21:30 → 01:21:32 ก็จะมาคุยกันแบบนี้นะครับกับอุปการณ์ที่
01:21:32 → 01:21:35 เคารพในเรื่องของการดูแลคุณพ่อคุณแม่ทุก
01:21:35 → 01:21:38 เรื่องนะครับไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพเรื่อง
01:21:38 → 01:21:41 อาการป่วยอย่างเดียวอาจจะเป็นเรื่องของ
01:21:41 → 01:21:44 ความสัมพันธ์สิ่งที่บรรดาลูกๆกำลังเผชิญ
01:21:44 → 01:21:47 อยู่ในแต่ละวันก็ได้นะครับเพราะฉะนั้นถ้า
01:21:47 → 01:21:49 หากว่าทุกท่านที่เข้ามาแล้วเราคิดว่า
01:21:49 → 01:21:51 กำลังมีปัญหาผู้ผลิตอยู่แล้วก็อยากให้ปก
01:21:52 → 01:21:54 กาลีที่ก็ลบนั้นชวนคุยเพื่อให้ผู้เ****ว
01:21:55 → 01:21:57 ชาญมาต่อเพื่อที่จะได้ให้คำแนะนำก็สามารถ
01:21:57 → 01:22:00 เขียนเข้ามาได้นะครับที่ใต้คอมเม้นนี้นะ
01:22:00 → 01:22:02 ครับเราจะมาคุยกันแบบนี้นะครับทุกๆวัน
01:22:02 → 01:22:06 อาทิตย์ตอน 9:00 นนะครับและถ้าหากว่ามีคำ
01:22:06 → 01:22:10 ถามอะไรหรือว่ามีหัวข้ออะไรที่อยากจะให้
01:22:10 → 01:22:13 เราชวนคุยก็สามารถแนะนำก็ได้วันนี้ขอบพระ
01:22:13 → 01:22:17 คุณทุกท่านนะครับที่อยู่ติดตามเราก็เกือบ
01:22:17 → 01:22:19 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียวนะครับขอบพระคุณ
01:22:19 → 01:22:21 ทุกท่านครับวันนี้ลาไปก่อนนะครับสวัสดี
01:22:21 → 01:22:24 ครับ
01:22:24 → 01:22:31 ม.ค
01:22:31 → 01:22:57 [เพลง]