00:00:16 → 00:00:20 เจ็บคอเรืรังอย่าชะลาใจสัญญาณอันตรายการ
00:00:20 → 00:00:24 เกิดต่อมทอนซินอักเสบใขข้อสงสัยภาวะ
00:00:24 → 00:00:27 ทอนซินอักเสบเฉียบพลันเสี่ยงเสียชีวิต
00:00:27 → 00:00:28 จริงหรือ
00:00:28 → 00:00:30 ไม่
00:00:30 → 00:00:33 ข้อควรรู้เกี่ยวกับก้าวอาหารที่ไม่ควรกิน
00:00:33 → 00:00:36 เมื่อเป็นต่อมทอนซินอักเสบติดตามเรื่อง
00:00:36 → 00:00:41 ราวทั้งหมดได้ในรายการ TNN Health วัน
00:00:41 → 00:00:43 [เพลง]
00:00:43 → 00:00:47 นี้สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ TNN
00:00:47 → 00:00:50 He เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้ม
00:00:50 → 00:00:53 กันรู้ทันโรคไปกับ TNN He ค่ะและดิฉัน
00:00:53 → 00:00:56 หมอดาวแพทย์หญิงฉันดาวจังวังกรแพทย์เฉพาะ
00:00:56 → 00:00:59 ทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อมที่จะรับ
00:00:59 → 00:01:01 หน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการเพื่อเข้าถึง
00:01:01 → 00:01:04 ทุกสาระสุขภาพไปด้วยกัน
00:01:04 → 00:01:11 [เพลง]
00:01:11 → 00:01:14 ค่ะสำหรับสัปดาห์นี้นะคะคุณผู้ชมเราจะมา
00:01:14 → 00:01:17 รู้กันเรื่องของอันตรายจากต่อมทอนซิน
00:01:17 → 00:01:21 อักเสบโรคของคอที่ไม่ควรละเลหลายท่านค่ะ
00:01:21 → 00:01:23 อาจจะยังไม่ทราบนะคะว่าต่อมทอนซินเนี่ย
00:01:23 → 00:01:25 เป็นต่อมที่สำคัญอย่างมากต่อมทอนซินนั้น
00:01:25 → 00:01:28 เป็นอวัยวะต่อมน้ำเหลืองค่ะซึ่งมีหน้าที่
00:01:28 → 00:01:30 ในการดักจับเชื้อโรคแล้วก็เกี่ยวข้องกับ
00:01:31 → 00:01:34 ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายค่ะต่อมทอนซิน
00:01:34 → 00:01:37 อักเสบหรือทอนซิลเป็นภาวะอักเสบของต่อม
00:01:37 → 00:01:40 ทอนซินผู้ป่วยมักจะมาด้วยอาการเจ็บคอใน
00:01:40 → 00:01:43 ขณะที่อาการเจ็บคอส่วนใหญ่เกิดจากคอ
00:01:43 → 00:01:46 อักเสบฟิจิทั้งจากกลุ่มโรคติดเชื้อและไม่
00:01:46 → 00:01:50 ติดเชื้อส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 70-80 เกิด
00:01:50 → 00:01:53 จากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดหรือไข้
00:01:53 → 00:01:56 หวัดใหญ่รวมทั้งเชื้อไวรัสอื่นๆอีกหลาย
00:01:56 → 00:02:00 ชนิดมีบางส่วนประมาณร้อยละ 15-20 เกิดจาก
00:02:00 → 00:02:03 เชื้อแบคทีเรียซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด
00:02:03 → 00:02:06 และอีกประมาณร้อยละ 5 เกิดจากการติดเชื้อ
00:02:06 → 00:02:10 ราซึ่งมักพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันโรคต่ำ
00:02:10 → 00:02:12 เป็นอาการที่พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
00:02:12 → 00:02:15 โดยพบบ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี
00:02:15 → 00:02:19 แต่ในผู้ใหญ่อายุน้อยกว่า 20 ปีก็ยังเป็น
00:02:19 → 00:02:21 โรคต่อมทอนซินอักเสบได้ส่วนใหญ่มักจะไม่
00:02:21 → 00:02:25 พบทอนซินอักเสบในคนไข้วัยกลางคนไปแล้ว
00:02:25 → 00:02:28 ทั้งนี้นะคะทอนซินอักเสบนั้นสามารถติดต่อ
00:02:28 → 00:02:32 ได้จากการหายใจไอจามรวมถึงการใช้ภาชนะ
00:02:32 → 00:02:35 ร่วมกันค่ะต่อมทอนซินพบได้หลายตำแหน่ง
00:02:35 → 00:02:38 ต่อมที่อยู่ด้านข้างของช่องปากมีชื่อ
00:02:38 → 00:02:41 เรียกว่าพาทีทอนซินนอกจากนั้นต่อมทอนซิน
00:02:41 → 00:02:44 ยังพบได้บริเวณโคนลิ้นและช่องหลังโพรง
00:02:44 → 00:02:48 จมูกหลายคนอาจสงสัยว่าทอนซินอักเสบและคอ
00:02:48 → 00:02:52 อักเสบเหมือนหรือต่างกันทอนซินอักเสบเป็น
00:02:52 → 00:02:55 ภาวะอักเสบของต่อมทอนซินส่วนคออักเสบมัก
00:02:55 → 00:02:58 ใช้เรียกภาวะอักเสบของเนื้อเยื่อในลำคอ
00:02:58 → 00:03:01 ที่อยู่บริเวณหลังช่องปากเข้าไปบางครั้ง
00:03:01 → 00:03:04 ภาวะทั้งสอาจเกิดพร้อมกันได้วิธีสังเกต
00:03:04 → 00:03:07 หรือสัญญาณเตือนของโรคต่อมทอนซินอักเสบ
00:03:07 → 00:03:10 ผู้ป่วยมักมีอาการแสดงดังนี้ 1 ต่อม
00:03:10 → 00:03:15 ทอนซินบวมแดงกดแล้วเจ็บ 2 กลืนอาหารลำบาก
00:03:15 → 00:03:19 เจ็บคอเวลากลืน 3 ปวดศีรษะ 4 มีไข้หนาว
00:03:19 → 00:03:22 สั่น 5 เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยนเนื่อง
00:03:22 → 00:03:26 จากภาวะต่อมทอนซินโต 6 มีกลิ่นปาก 7 คลำ
00:03:26 → 00:03:29 ด้ายต่อมน้ำเหลืองที่คอบวมโต 8 ปวดร้าว
00:03:29 → 00:03:32 ที่หูก้าวบางรายมีอาการท้องเดินหรือถ่าย
00:03:32 → 00:03:35 เหลวร่วมด้วยทั้งนี้ถ้าเป็นการอักเสบของ
00:03:36 → 00:03:38 ต่อมทอนซินที่มาจากเชื้อไวรัสนะคะส่วน
00:03:38 → 00:03:41 ใหญ่แล้วอาการจะไม่รุนแรงค่ะแต่ถ้าเมื่อ
00:03:41 → 00:03:43 ไหร่ก็ตามที่ทอนซินนั้นมีการติดเชื้อมี
00:03:43 → 00:03:46 ภาวะที่เป็นหนองค่ะสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
00:03:46 → 00:03:48 จะมีอาการที่รุนแรงได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
00:03:48 → 00:03:51 ของไข้ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวนะคะบาง
00:03:51 → 00:03:53 ท่านอาจจะมีเรื่องของอาการระบบทางเดิน
00:03:53 → 00:03:56 อาหารค่ะมีท้องเสียรุนแรงได้ค่ะเมื่อมี
00:03:56 → 00:03:59 อาการเหล่านี้ข้อใดข้อหนึ่งควรไปพบแพทย์
00:03:59 → 00:04:02 โดยโดยเฉพาะผู้ที่มีไข้เกิน 4 วันโดยที่
00:04:02 → 00:04:04 อาการยังไม่ดีขึ้นเลยแม้จะดูแลตัวเองใน
00:04:04 → 00:04:07 เบื้องต้นแล้วแพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ
00:04:07 → 00:04:10 แสดงและการตรวจดูคออาจมีการตรวจเลือดหรือ
00:04:10 → 00:04:13 ตรวจอื่นๆเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับอาการของ
00:04:13 → 00:04:15 ผู้ป่วยและดุ่นยาพินิจของแพทย์เพื่อหา
00:04:15 → 00:04:20 สาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาต่อไป
00:04:20 → 00:04:22 ได้รู้จักกับภาวะต่อมทอนซินอักเสบกันไป
00:04:22 → 00:04:25 แล้วนะคะในช่วงหน้าห้ามพลาดเลยค่ะเพราะ
00:04:25 → 00:04:28 เราจะพาคุณผู้ชมไปรู้จักกับเรื่องราวของ
00:04:28 → 00:04:30 ต่อมทอนซินอักเสบให้ลึกซึยิ่งขึ้นกับ
00:04:30 → 00:04:33 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากแอปพลิเคชันหมอดีค่ะ
00:04:33 → 00:04:35 ติดตามได้ในรายการ TNN Health ช่วงหน้า
00:04:35 → 00:04:42 ค่ะสนับสนุนโดยแอปหมอดีหมอประจำบ้านในมือ
00:04:42 → 00:04:46 คุณกลับเข้าสู่ช่วงที่ 2 ของรายการ TNN
00:04:46 → 00:04:49 He ค่ะเรายังอยู่กันที่อันตรายจากต่อม
00:04:49 → 00:04:53 ทอนซินอักเสบโรคของคอที่ไม่ควรละเลยและใน
00:04:53 → 00:04:56 ช่วงนี้นะคะเราได้รับเกียรติจากแพทย์ผู้
00:04:56 → 00:04:59 เชี่ยวชาญจากแอปพลิเคชันหมอดีค่ะนายแพทย์
00:04:59 → 00:05:03 ธีรพงษ์ตั้งกิจสถาพรแพทย์โสดสนาสิกประจำ
00:05:03 → 00:05:06 แอปพลิเคชันหมอดี
00:05:06 → 00:05:15 [เพลง]
00:05:15 → 00:05:18 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:05:18 → 00:05:21 เลยนะคะสำหรับภาวะแทรกซ้อนของทอนซิน
00:05:21 → 00:05:24 อักเสบนั้นจะส่งผลอย่างไรต่อร่างกายบ้าง
00:05:24 → 00:05:27 คะภาวะแทกซ้อนของต่อมทอนซินอักเสบนะครับ
00:05:27 → 00:05:30 ก็เกิดขึ้นได้หลายอย่างมากนะครับอย่าง
00:05:30 → 00:05:33 เช่นมีฝีบริเวณรอบต่อมทอนซินได้นะครับทำ
00:05:33 → 00:05:36 ให้คนไข้มีไข้สูงนะครับแล้วก็อ้าปากไม่
00:05:36 → 00:05:39 สุดนะครับมีผลก่อเรื่องการทานนะครับอย่าง
00:05:39 → 00:05:44 เช่นทานลำบากกลืนลำบากนะครับหรือบางรายนะ
00:05:44 → 00:05:47 ครับเป็นภาวะทางเดินหายใจหรือทางเดิน
00:05:48 → 00:05:51 อาหารติดเชื้อชนิดลูกลามนะครับทำให้เกิด
00:05:51 → 00:05:55 มีเหมือนหนองนะครับลมไปบริเวณช่องคอได้นะ
00:05:55 → 00:05:59 ครับหรือบางคนนะครับมีเรื่องของติดเชื้อ
00:05:59 → 00:06:02 แบคทีเรียชนิดนึงนะครับชื่อว่าสปตทัสนะ
00:06:02 → 00:06:05 ครับทำให้เกิดมีเรื่องของลิ้นหัวใจอักเสบ
00:06:05 → 00:06:08 ได้หรือมีไตวายอักเสบเฉียบพลันได้ตามมา
00:06:08 → 00:06:11 ครับค่ะอาจารย์คะแล้วภาวะทอนซินอักเสบ
00:06:11 → 00:06:14 เฉียบพลันนั้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือ
00:06:14 → 00:06:17 ไม่คะภาวะต่อมทอนซินอักเสบเฉียบพันธุ์
00:06:17 → 00:06:21 ครับก็เป็นอันตรายทุกส่วนทุกระบบของร่าง
00:06:21 → 00:06:23 กายได้นะครับอย่างเช่นภาวะต่อมทอนซิน
00:06:23 → 00:06:26 อักเสบครับอันตรายถึงระบบอ่าทางเดินหายใจ
00:06:26 → 00:06:29 นะครับเพราะว่าต่อมทอนซินเนี่ยเวลาอักเสบ
00:06:29 → 00:06:32 มันมันจะบวมนะครับบางคนลุกลามไปถึงทาง
00:06:32 → 00:06:35 เดินหายใจหรือทางเดินอาหารก็คือเป็นหนอง
00:06:35 → 00:06:38 หรือเป็นฝีนะครับทำให้หายใจลำบากคนไข้บาง
00:06:38 → 00:06:41 คนถึงขั้นต้องเจาะคอนะครับเพื่อการรักษา
00:06:41 → 00:06:44 นะครับถ้าคนไข้ติดเชื้อแบคทีเรียสเปโต
00:06:44 → 00:06:47 คอคัสอาจจะมีภาวะกับระบบอื่นอย่างเช่น
00:06:47 → 00:06:51 ระบบไตนะครับระบบหัวใจลิ้นหัวใจหรือมีหัว
00:06:52 → 00:06:55 ใจล้มเหลวตามมาได้ครับภาวะต่อมทอนซินก็
00:06:55 → 00:06:58 เสี่ยงต่อการเสียชีวิตของคนไข้ได้นะครับ
00:06:58 → 00:07:01 อาจารย์คะแล้วการรักษาต่อมทอนซินอักเสบ
00:07:01 → 00:07:05 นั้นทำได้กี่วิธีคะการรักษาต่อมทอนซิน
00:07:05 → 00:07:07 อักเสบนะครับก็มีด้วยกันอยู่หลายวิธีด้วย
00:07:07 → 00:07:10 กันนะครับก็คืออย่างเช่นการให้ยาแล้วก็
00:07:10 → 00:07:12 การผ่าตัดนะครับการให้ยานะครับเราก็ต้อง
00:07:13 → 00:07:16 มาจำแนกกันว่าถ้าสมมุติเราคิดถึงโรคอ่า
00:07:16 → 00:07:19 ทอนซินตอักเสบจากเชื้อไวรัสนะครับเราก็
00:07:19 → 00:07:23 รักษาตามอาการอย่างเช่นให้ยาลดไข้นะครับ
00:07:23 → 00:07:26 ให้ยาบรรเทาอาการเจ็บคอนะครับยาแก้ไอนะ
00:07:26 → 00:07:30 ครับหรือถ้าคุณหมอวินิไนะครับคิดถึงเป็น
00:07:30 → 00:07:33 ภาวะต่อมทอนซินอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียนะ
00:07:33 → 00:07:36 ครับก็ต้องมีการให้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่า
00:07:36 → 00:07:39 เชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยครับผมแต่ถ้าคนไข้
00:07:39 → 00:07:44 มีภาวะต่อมทอนซินที่อักเสบเรื้อรังนะครับ
00:07:44 → 00:07:47 หรือว่ามีการอุดกั้นทางเดินหายใจนะครับ
00:07:47 → 00:07:50 การผ่าตัดก็เป็นทางเลือกอีกทางเลือกนึง
00:07:50 → 00:07:53 ครับอาจารย์ขาแล้วการผ่าตัดต่อมทอนซิน
00:07:53 → 00:07:57 นั้นทำได้อย่างไรบ้างคะครับการผ่าตัดต่อม
00:07:57 → 00:08:00 ทอนซินนะครับก็ต้องเกริ่นก่อนว่าก่อนผ่า
00:08:00 → 00:08:02 ตัดเราก็ต้องมีเริ่มจากการเตรียมตัวก่อน
00:08:02 → 00:08:05 นะครับก็คือการเจาะเลือดดูค่าเลือดนะครับ
00:08:06 → 00:08:09 ความผิดปกติเป็นเบาหวานมมีโรคประจำตัว
00:08:09 → 00:08:13 เดิมของคนไข้มนะครับเเรปอดตรวจคลื่นไฟฟ้า
00:08:13 → 00:08:16 หัวใจนะครับหลังจากนั้นนะครับการผ่าตัดก็
00:08:16 → 00:08:20 ต้องดมยาสลบนะครับซึ่งการดมยาสลบจะดมยา
00:08:20 → 00:08:23 โดยคุณหมอวิสัญญีนะครับหรือคุณหมอดมยาสลป
00:08:23 → 00:08:27 นะครับหลังจากนั้นนะครับการผ่าตัดนะครับ
00:08:27 → 00:08:30 จะใช้เครื่องมือนะครับในปัจจุบันจะใช้
00:08:30 → 00:08:33 เครื่องมือขนาดเล็กนะครับในการอ้าปากคน
00:08:33 → 00:08:36 ไข้นะครับแล้วก็ใช้เป็นอาจจะเป็นจี้ไฟฟ้า
00:08:36 → 00:08:40 หรือว่าเป็นเลเซอร์นะครับหรือว่าเป็นเา้า
00:08:40 → 00:08:43 เรียกว่าเป็นอ่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านะครับ
00:08:43 → 00:08:46 ในการตัดทอนซินออกนะครับซึ่งการผ่าตัด
00:08:46 → 00:08:48 ต่อมทอนซินนะครับใช้เวลาประมาณครึ่ง
00:08:48 → 00:08:52 ชั่วโมงถึง 1 ชมงครับแล้วก็หลังจากผ่าตัด
00:08:52 → 00:08:55 เสร็จนะครับคนไข้ก็จะอยู่ในห้องพักฟื้นนะ
00:08:55 → 00:08:57 ครับแล้วก็ต้องดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่าง
00:08:57 → 00:09:01 เช่นนะครับการรับทานอาหารนะครับอาการปวด
00:09:02 → 00:09:04 หลังจากผ่าตัดนะครับซึ่งหลังจากผ่าตัด
00:09:04 → 00:09:08 ต่อมทอนซินคนไข้จะมีอาการกลืนน้ำลายแล้ว
00:09:08 → 00:09:12 ปวดมากขึ้นกินน้ำก็เจ็บมากขึ้นเพราะว่า
00:09:12 → 00:09:15 แผลจะอยู่บริเวณในช่องปากนะครับจะไม่ได้
00:09:15 → 00:09:18 เห็นจากด้านนอกนะครับอาจารย์ขาแล้วการดู
00:09:18 → 00:09:21 แลตัวเองหลังการที่ผ่าตัดต่อมทอนซินแล้ว
00:09:21 → 00:09:24 ต้องทำอย่างไรบ้างคะการดูแลหลังจากการผ่า
00:09:24 → 00:09:27 ตัดต่อมทอนซินนะครับก็จะต้องระวังเรื่อง 1
00:09:27 → 00:09:31 ภาวะปวดหลังจากผ่าตัดต่อมทอนซินนะครับ
00:09:31 → 00:09:34 อันดับ 2 ก็คือภาวะแทรกซ้อนต่างๆอย่าง
00:09:34 → 00:09:37 เช่นภาวะเลือดออกนะครับหลังจากผ่าตัดต่อม
00:09:37 → 00:09:41 ทอนซินเนาะก็จะมีอ่าภาวะเลือดออกปนน้ำลาย
00:09:41 → 00:09:44 ได้ดังนั้นหลังจากผ่าตัดต่อมทอนซินครับก็
00:09:44 → 00:09:48 จะพักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 24-48 ชมง
00:09:48 → 00:09:52 ซึ่งอ่าผู้ป่วยท่านใดจะออกช้าออกเร็วนะ
00:09:52 → 00:09:56 ครับก็ขึ้นอยู่กับ 1 การรับประทานอาหารนะ
00:09:56 → 00:10:00 ครับ 2 ก็คือการได้รับสัสารน้ำเพียงพอนะ
00:10:00 → 00:10:03 ครับหรือว่า 3 ก็คือเรื่องของอาการปวดนะ
00:10:03 → 00:10:06 ครับแล้วก็ต้องระวังเรื่องของภาวะแทรก
00:10:06 → 00:10:10 ซ้อนหลังจากผ่าตัดด้วยครับการดูแลนะครับ
00:10:10 → 00:10:13 ก็จะเน้นไปเรื่องการรับประทานอาหารกับ
00:10:13 → 00:10:15 ภาวะติดเชื้อนะครับการรับประทานอาหาร
00:10:15 → 00:10:18 อย่างที่ผมเกริ่นไว้ในตอนแรกก็คือทาน
00:10:18 → 00:10:21 อาหารอ่อนๆอย่างเช่นน้ำนะครับโยเกิร์ตของ
00:10:21 → 00:10:24 เย็นๆนะครับอย่างเช่นไอศครีมต่างๆรวมไป
00:10:24 → 00:10:29 ถึงอ่าเรื่องของซุปเย็นๆอันนี้ก็เป็นเป็น
00:10:29 → 00:10:31 แนวทางการรับประทานในช่วงต้นนะครับในช่วง
00:10:31 → 00:10:35 สัปดาห์แรกแล้วก็การรับประทานยาฆ่าเชื้อ
00:10:35 → 00:10:38 ก็สำคัญในคนไข้หลังจากผ่าตัดต่อมทอนซิน
00:10:38 → 00:10:41 ครับผมอาจารย์คะเรามีวิธีในการดูแลตัวเอง
00:10:41 → 00:10:44 อย่างไรเพื่อที่จะป้องกันเรื่องของทอนซิน
00:10:44 → 00:10:46 อักเสบคะการลดความเสี่ยงของการเกิดต่อม
00:10:46 → 00:10:49 ทอนซินอักเสบนะครับต่อมทอนซินอักเสบปกติ
00:10:49 → 00:10:52 จะเกิดจากการกระจายของสารคัดหลังนะครับคน
00:10:52 → 00:10:55 สู่คนเนาะดังนั้นอ่าสารคั้นหลังก็จะมีของ
00:10:55 → 00:10:58 เชื้อโรคอย่างเช่นเชื้อไวรัสนะครับหรือ
00:10:58 → 00:11:01 เชื้อแบคทีเรียดังนั้นการป้องกันก็คือการ
00:11:01 → 00:11:04 ใส่แมสนะครับหรือว่าการล้างมือบ่อยๆนะ
00:11:04 → 00:11:07 ครับถ้าไอ้หรือจ้ามควรเอาผ้าปิดเนาะหลัง
00:11:07 → 00:11:10 จากนั้นก็คือล้างมือนะครับการรับประทาน
00:11:10 → 00:11:13 อาหารร่วมกับคนอื่นนะครับก็ควรจะใช้ช้อน
00:11:13 → 00:11:16 กลางนะครับแล้วก็ถ้าคนไข้คนไหนเป็นต่อม
00:11:16 → 00:11:18 ทอนซินอักเสบนะครับก็คือต้องป้องกันไม่
00:11:18 → 00:11:22 ให้แพร่ไปสู่คนอื่นด้วยดังนั้นคนที่ป่วย
00:11:22 → 00:11:25 เป็นต่อมทอนซินอักเสบก็ต้องใส่แมสนะครับ
00:11:25 → 00:11:29 หรือว่าล้างมือบ่อยๆนะครับแล้วก็กินอาหาร
00:11:29 → 00:11:31 ต้องมีช้อนกลางด้วยค่ะขอขอบพระคุณอาจารย์
00:11:32 → 00:11:35 หมอนะคะจากแอปพลิเคชันหมอดีที่มาให้าระดี
00:11:35 → 00:11:38 ๆในการดูแลสุขภาพในวันนี้ค่ะและช่วงหน้า
00:11:38 → 00:11:40 ห้ามพลาดนะคะคุณผู้ชมเพราะเราจะพาคุณผู้
00:11:40 → 00:11:43 ชมมารู้จักกับก้าวอาหารที่ไม่ควรกินเมื่อ
00:11:43 → 00:11:47 เป็นต่อมทอนซินอเบติดตามได้ในรายการ TNN
00:11:47 → 00:11:51 ช่วงหน้าค่ะสนับสนุนโดยแอปหมอดีหมอประจำ
00:11:51 → 00:11:55 บ้านในมือ
00:11:55 → 00:11:58 คุณกลับเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของรายการ TNN
00:11:58 → 00:12:01 เค่ะในช่วงนี้นะคะเราจะพาคุณผู้ชมมารู้
00:12:01 → 00:12:05 จักกับ้าวอาหารที่ไม่ควรกินเมื่อเป็นต่อม
00:12:05 → 00:12:09 ทอนซินอักเสบค่ะ 1 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
00:12:09 → 00:12:11 การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้มีอาการ
00:12:11 → 00:12:14 เจ็บคอและต่อมทอนซินแย่ลงเนื่องจากทำให้
00:12:14 → 00:12:17 ร่างกายขัดน้ำดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุด
00:12:17 → 00:12:19 ที่จะหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน
00:12:19 → 00:12:22 ช่วงเวลานี้และเลือกดื่มน้ำเปล่ามากๆแทน 2
00:12:22 → 00:12:24 มะเขือเทศมะเขือเทศนั้นอุดมไปด้วยกรด
00:12:24 → 00:12:27 ออกซาลิกที่ทำให้ระคายเคืองผนังด้านในของ
00:12:27 → 00:12:30 ลำคอและทำให้เกิดต่างๆเช่นต่อมทอนซิน
00:12:30 → 00:12:33 อักเสบแย่ลงนอกจากนี้ซอสหลายชนิดยังมี
00:12:33 → 00:12:35 เครื่องเทศที่ระคายเคืองซึ่งสามารถทำให้
00:12:35 → 00:12:38 อาการเหล่านี้รุนแรงขึ้นได้สำหรับผู้ที่
00:12:38 → 00:12:41 มีคอแห้งง่ายควรหลีกเลี่ยงซอสประเภทนี้
00:12:41 → 00:12:44 และเลือกใช้รสชาติที่อ่อนลง 3 อาหารหมัก
00:12:44 → 00:12:47 ดองที่ใส่สารกันบูดสารกันบูดในอาหารดอง
00:12:47 → 00:12:50 เชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพต่างๆเช่นระคายคอ
00:12:50 → 00:12:53 หวดท้องและแม้แต่มะเร็งสำหรับผู้ที่มี
00:12:53 → 00:12:56 อาการต่อมทอนซินอักเสบแนะนำให้ลดอาหาร
00:12:56 → 00:12:59 หมักดองและเลือกรับประทานอาหารสดจาก
00:12:59 → 00:13:02 ธรรมชาติแทน 4 ผลไม้รสเปรี้ยวและน้ำผลไม้
00:13:02 → 00:13:05 ผลไม้เหล่านี้มีความเป็นกรดสูงซึ่งอาจทำ
00:13:05 → 00:13:08 ให้บางคนรู้สึกไม่สบายได้เช่นเดียวกับ
00:13:08 → 00:13:11 มะเขือเทศผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเช่นส้ม
00:13:11 → 00:13:13 สับปะรดและมะม่วงสามารถกระตุ้นคอที่
00:13:13 → 00:13:16 อักเสบให้แย่กว่าเดิมสิ่งนี้อาจเป็นปัญหา
00:13:16 → 00:13:18 อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นต่อมทอนซิน
00:13:18 → 00:13:22 อักเสบ 5 อาหารแข็งหรือขนมกรุบกรอบรวมไป
00:13:22 → 00:13:25 ถึงผักดิบสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่าเมื่อ
00:13:25 → 00:13:27 คุณรับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไปค่ะจะทำ
00:13:27 → 00:13:30 ให้คอยิ่งระคายเคืองแห้งและยิ่งทำให้การ
00:13:30 → 00:13:34 บาดเจ็บของคอนั้นเป็นมากขึ้นด้วย 6 อาหาร
00:13:34 → 00:13:36 ที่มีน้ำมันควรหลีกเลี่ยงของทอดหรือของ
00:13:36 → 00:13:39 กินเล่นผิวเผินเช่นไก่ทอดเพราะสิ่งเหล่า
00:13:39 → 00:13:41 นี้สามารถกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองหรือต่อม
00:13:41 → 00:13:44 ทอนซินได้อาหารเหล่านี้มักมีไขมันอิ่มตัว
00:13:44 → 00:13:47 และไขมันทรานสูงซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยง
00:13:47 → 00:13:49 ที่เพิ่มขึ้นของต่อมทอนซินอักเสบโรคหัวใจ
00:13:49 → 00:13:53 โรคอ้วนและปัญหาสุขภาพอื่นๆ 7 อาหารรส
00:13:53 → 00:13:55 เผ็ดการใช้เครื่องเทศและกระเทียมในการ
00:13:55 → 00:13:58 ปรุงอาหารเชื่อมโยงกับต่อมทอนซินอักเสบ
00:13:58 → 00:14:00 จึงจะจำเป็นต้องงดอาหารที่ใช้เครื่องเทศ
00:14:00 → 00:14:03 โดยสิ้นเชิงเช่นพริกผงยี่หร่าและเครื่อง
00:14:03 → 00:14:05 แปงอย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าเครื่อง
00:14:06 → 00:14:08 เทศทั้งหมดนั้นไม่ดีนะคะเครื่องเทศบาง
00:14:08 → 00:14:11 ชนิดเช่นขมิ้นมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
00:14:11 → 00:14:14 ได้ 8 ขนมปังปิ้งอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย
00:14:14 → 00:14:17 ของเราได้เพราะทำให้คอแห้งอย่างไรก็ตาม
00:14:17 → 00:14:19 หากคุณอยากรับประทานขนมปังปิ้งจริงๆก็มี
00:14:19 → 00:14:22 วิธีที่ดีขึ้นง่ายขึ้นนั่นคือการแช่ขนม
00:14:22 → 00:14:26 ปังในนมก่อนปิ้งจะทำให้กลืนง่ายขึ้น 9 ยา
00:14:26 → 00:14:29 สูบหรือบุหรี่หากคุณกำลังทุทรมานจากต่อม
00:14:29 → 00:14:32 ทอนซินอักเสบสิ่งสำคัญคือต้องอยู่ห่างจาก
00:14:32 → 00:14:35 ควันบุหรี่สารเคมีในยาสูบสามารถระคาย
00:14:35 → 00:14:37 เคืองคอที่อักเสบอยู่แล้วและทำให้อาการ
00:14:37 → 00:14:40 ของคุณรุนแรงขึ้นนอกจากนี้การได้รับควัน
00:14:40 → 00:14:43 บุหรี่อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอ่อน
00:14:43 → 00:14:46 แอลงทำให้ร่างกายของคุณต่อสู้กับการติด
00:14:46 → 00:14:50 เชื้อได้ยากขึ้นและในช่วงเทศกาล prim
00:14:50 → 00:14:53 หรือก็คือการเฉลิมฉลองและรำลึกถึงความภาค
00:14:54 → 00:14:57 ภูมิใจของชาว lgbt ทั่วโลกซึ่งมี
00:14:57 → 00:14:59 สัญลักษณ์เป็นสีรุ้งที่ใช้ในการขับ
00:14:59 → 00:15:03 เคลื่อนและทำกิจกรรมนอกจากสีรุ้งจะมีความ
00:15:03 → 00:15:06 หมายถึงความหลากหลายทางเพศแล้วนะคะการกิน
00:15:06 → 00:15:09 อาหารตามสีรุ้งก็ยังช่วยป้องกันโรคไม่ให้
00:15:09 → 00:15:12 เราป่วยง่ายอีกด้วยค่ะทั้งนี้การกินอาหาร
00:15:12 → 00:15:15 ตามสีรุ้งหรือ eating The เรนโบวเป็น
00:15:15 → 00:15:18 เทรนด์รับประทานเพื่อสุขภาพที่มีมานาน
00:15:18 → 00:15:21 แล้วเหล่านักโภชนาการต่างก็แนะนำโดยเน้น
00:15:21 → 00:15:25 การบริโภคผักผลไม้ธัญพืชให้หลากหลายครบ
00:15:25 → 00:15:28 ทั้ง 7 สีทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์และ
00:15:28 → 00:15:31 และคุณค่าทางอาหารได้อย่างครบถ้วนอาหารสี
00:15:31 → 00:15:37 รุ้งได้แก่สีแดงสีส้มสีเขียวสีฟ้าสีขาวสี
00:15:37 → 00:15:41 ม่วงสีน้ำตาลและสีดำซึ่ง 2 สีสุดท้ายเป็น
00:15:41 → 00:15:44 สีที่นักโภชนาการแนะนำเป็นอย่างยิ่งเพราะ
00:15:44 → 00:15:47 ผักทั้ง 2 สีมีส่วนช่วยลดไขมันในร่างกาย
00:15:47 → 00:15:52 ได้ดีสีรุ้งแต่ละสีมีอาหารอะไรบ้างสีแดง
00:15:52 → 00:15:55 ได้แก่มะเขือเทศเชอรี่สตรอเบอร์รี่องุ่น
00:15:55 → 00:15:59 แดงและแตงโมประโยชน์ของผักผลไม้สีดแดงคือ
00:15:59 → 00:16:02 มีวิตามินอีและไลโคปีนซึ่งเป็นสารต้าน
00:16:02 → 00:16:05 อนุมูลอิสระช่วยในเรื่องการต้านนิ้วรอย
00:16:05 → 00:16:09 ชะลอไวยและป้องกันหลอดเลือดตีบตันได้ด้วย
00:16:09 → 00:16:14 สีส้มสีเหลืองได้แก่มะม่วงมะละกอส้มฟัก
00:16:14 → 00:16:17 ทองแคนตาลุปและข้าวโพดอาหารที่มีสีส้มและ
00:16:17 → 00:16:20 เหลืองมีวิตามินซีและแคโรทีนสูงมี
00:16:20 → 00:16:23 ประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งและลดโอกาส
00:16:23 → 00:16:27 ที่จะเกิดโรคหลอดเลือดในสมองได้สีเขียว
00:16:27 → 00:16:30 ได้แก่ผักใบเขียวกีวี่แอปเปิ้ลเขียว
00:16:30 → 00:16:33 อะโวคาโดและองุ่นเขียวพืชที่มีสีเขียวจะ
00:16:33 → 00:16:35 มีเส้นใหญ่อาหารอยู่เป็นจำนวนมากช่วยใน
00:16:35 → 00:16:38 เรื่องของการขับถ่ายและรักษาจุลินทรีย์ใน
00:16:38 → 00:16:42 ลำไส้นอกจากนี้ยังมีคลอโรฟิลซึ่งช่วยลดไข
00:16:42 → 00:16:46 มันในเลือดได้เป็นอย่างดีสีขาวและน้ำตาล
00:16:46 → 00:16:50 ได้แก่แปกก๊วยหัวหอมชายเท้าเห็ดต่างๆและ
00:16:50 → 00:16:54 มันแกวสารสีขาวในพืชผักเหล่านี้มีความ
00:16:54 → 00:16:56 สามารถในการกระตุ้นเซลล์ที่ทำหน้าที่
00:16:56 → 00:16:59 กำจัดเซลล์มะเร็งจึงช่วยลดความเสี่ยงของ
00:16:59 → 00:17:03 การเป็นมะเร็งได้สีน้ำเงินและม่วงได้แก่
00:17:03 → 00:17:06 มะเขือยาวมันฝรั่งสีม่วงบลูเบอร์รี่และ
00:17:06 → 00:17:09 ข้าวไรเบอร์รี่พืชชสีม่วงมีสาร
00:17:09 → 00:17:12 แอนโทไซยานินซึ่งมีคุณสมบัติต้านการ
00:17:12 → 00:17:16 อักเสบช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้แถม
00:17:16 → 00:17:18 ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ
00:17:18 → 00:17:23 ภูมิคุ้มกันได้อีกด้วยสีน้ำตาลได้แก่ถั่ว
00:17:23 → 00:17:25 ประเภทต่างๆข้าวโอ๊ตข้าวกล้องและธัญพืช
00:17:25 → 00:17:29 ต่างๆคุณสมบัติของพืชสีน้ำตาลคือคือมีกรด
00:17:29 → 00:17:32 ไขมันอิ่มตัวสูงจึงสามารถช่วยลดระดับ
00:17:32 → 00:17:35 โคเลสเตอรอลในเลือดป้องกันร่างกายสะสมไข
00:17:35 → 00:17:40 มันส่วนเกินสีดำได้แก่ถั่วดำและงาดำอาหาร
00:17:40 → 00:17:43 สีดำมีธาตุเหล็กและสังกสีเป็นจำนวนมาก
00:17:44 → 00:17:48 ช่วยแก้อาการท้องผูกทำให้ระบบขับทายทำงาน
00:17:48 → 00:17:50 ได้ดีขึ้นแถมยังช่วยกระตุ้นการทำงานของ
00:17:50 → 00:17:54 ระบบเผาผลาญผนข้างเคียงคือทำให้น้ำหนักลด
00:17:54 → 00:17:56 ลงได้ง่าย
00:17:56 → 00:17:59 ขึ้นและอีกอย่างที่ควรทำเป็นประจำนั่นก็
00:17:59 → 00:18:02 คือการหัวเราะให้บ่อยๆค่ะเพราะการหัวเราะ
00:18:02 → 00:18:05 ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันเพิ่มเซลล์ต่อสู้กับ
00:18:05 → 00:18:08 ความเจ็บป่วยทำให้มีโอกาสป่วยหรือติด
00:18:08 → 00:18:12 เชื้อโรคต่างๆได้น้อยลงไม่เพียงเท่านี้
00:18:12 → 00:18:14 ยังช่วยลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวายได้
00:18:15 → 00:18:17 ด้วยเพราะอัตราการเต้นของหัวใจจะเพิ่ม
00:18:17 → 00:18:21 ขึ้นทำให้มีออกซิเจนไล้เวียนไปทั่วร่าง
00:18:21 → 00:18:24 กายมากขึ้นการหัวเราะป้องกันโรคหัวใจทำ
00:18:24 → 00:18:28 ให้หัวใจทำงานดีหลอดเลือดไหลเวียนเหมาะสม
00:18:28 → 00:18:31 ไม่เพียงเท่านี้การหัวเราะยังช่วยเพ้า
00:18:31 → 00:18:34 พลานไขมันอีกด้วยจากการศึกษาพบว่าหากเรา
00:18:34 → 00:18:38 หัวเราะ 10-15 นาทีจะช่วยเผาพลานพลังงาน
00:18:38 → 00:18:42 ได้ดี 10-40 กิแคลอรีและยังช่วยเพิ่มการ
00:18:42 → 00:18:46 เผลาพลานได้อีกถึงรละ 20 ระบบสูบฉีดเลือด
00:18:46 → 00:18:49 ของหัวใจทำงานได้ดีขึ้นเพราะการหัวเราะ
00:18:49 → 00:18:52 ช่วยลดฮอร์โมนความเครียดหรือฮอร์โมน
00:18:52 → 00:18:55 คอร์ติซอลทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายลงหัวใจ
00:18:55 → 00:18:59 ทำงานแข่งขันขึ้นและที่สำคัญยังช่วยลด
00:18:59 → 00:19:01 ความดันโลหิตเพราะฮอร์โมนเอนโดฟินถูก
00:19:02 → 00:19:04 หลั่งออกมาตอนหัวเราะทำให้ระดับความ
00:19:04 → 00:19:11 เครียดลดลงความดันโลหิตก็ลดลงตามมา
00:19:11 → 00:19:14 ค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะคุณผู้ชมกับสาระ
00:19:15 → 00:19:18 สุขภาพดีๆที่ t&h นำมาฝากคุณผู้ชมในวัน
00:19:18 → 00:19:21 นี้หวังเป็นอย่างยิ่งค่ะว่าเราจะห่างไกล
00:19:21 → 00:19:24 จากภาวะโรคของป่อมทอนซินอักเสบกันและ
00:19:25 → 00:19:27 ขอบคุณคุณผู้ชมนะคะสำหรับการติดตามรับชม
00:19:27 → 00:19:31 รายการ TNN Health สามารถติดตามรับชมราย
00:19:31 → 00:19:33 การ TNN Health เป็นประจำทุกวันเสาร์ค่ะ
00:19:33 → 00:19:38 เวลาดี 15:00 นถ 1530 นไม่เพียงเท่านี้
00:19:38 → 00:19:41 ค่ะสามารถติดตามรับชมรีรันได้ทุกบ่ายวัน
00:19:41 → 00:19:46 จันทร์เวลา 14:30 นถึง 15:00 นและทุกเช้า
00:19:46 → 00:19:50 วันเสาร์เวลา 6 น- 6:30 นค่ะและคุณผู้ชม
00:19:51 → 00:19:53 สามารถติดตามรับชมรายการย้อนหลังได้ทาง
00:19:53 → 00:19:56 ช่อง YouTube และติดตามรายการสดได้ทาง
00:19:56 → 00:19:58 Facebook TE Health รวมไปถึง tiktok
00:19:58 → 00:20:01 TNN Health อีกด้วยค่ะไม่เพียงเท่านี้
00:20:01 → 00:20:04 นะคะสาระสุขภาพดีๆและยังสนุกด้วยอยู่ใน
00:20:04 → 00:20:06 tiktok TNN Health ค่ะสำหรับวันนี้นะ
00:20:06 → 00:20:09 คะหมอดาวและทีมงาน TNN H ต้องขอตัวลาคุณ
00:20:09 → 00:20:13 ผู้ชมไปก่อนสำหรับวันนี้สวัสดี
00:20:13 → 00:20:27 [เพลง]
00:20:27 → 00:20:30 ค่ะ
00:20:30 → 00:20:57 [เพลง]
00:20:57 → 00:21:03 เ
00:21:03 → 00:21:06 อ