00:00:00 → 00:00:03 ตายแล้วฟื้นและพฤติกรรมเปลี่ยนมีคำอธิบาย
00:00:04 → 00:00:06 เป็นวิทยาศาสตร์มั้ยหรือเป็นเพราะ
00:00:07 → 00:00:14 สัมภเวสีมาสิงล่างมาฟังกันดูนะ
00:00:14 → 00:00:17 ครับสวัสดีครับทุกท่านเพจหมอเฉพาะทางบาด
00:00:17 → 00:00:19 เดียวและ YouTube Channel หมอเฉพาะทาง
00:00:19 → 00:00:21 บาดเดียวนะครับกระผมหมอเกมนายแพทย์
00:00:21 → 00:00:24 อดุลชัยธรรมาแสงเสิรชนะครับก็กลับมาอีก
00:00:24 → 00:00:26 ครั้งนึงในเรื่องเรียนรู้จากข่าวนะครับ
00:00:26 → 00:00:28 ข่าวในที่นี้เนี่ยตอนนี้จะเป็นเรื่องค่อน
00:00:28 → 00:00:32 ข้างดังในประเทศเราหรือแวดวงคนที่สนใจใน
00:00:32 → 00:00:36 เรื่องลึกลับก็คือว่ามีคุณลุงคนนึงอายุ 60
00:00:36 → 00:00:39 ปีเนาะเสียชีวิตไปแล้วญาติบอกว่าเสีย
00:00:39 → 00:00:43 ชีวิตและไปประมาณสัก 10 ชั่วโมงแล้วก็
00:00:43 → 00:00:46 ฟื้นขึ้นมาพอฟื้นขึ้นมาแล้วเหมือนกับเป็น
00:00:46 → 00:00:51 คนอื่นญาติก็เลยสงสัยว่ามีสัมภเวสีหรือ
00:00:51 → 00:00:54 วิญญาณอื่นเนี่ยมาสิงร่างเกิดอะไรขึ้น
00:00:54 → 00:00:59 ทำไมแกเปลี่ยนแปลงไปมีการร้องไห้โดยที่แก
00:00:59 → 00:01:01 บอกว่าตัวแกแกไม่ได้ร้องไห้ข้าวปลาไม่กิน
00:01:02 → 00:01:03 เอาแต่กิน
00:01:03 → 00:01:09 เหล้ามีคนที่เป็น FC นะถามก็ว่าหมออยาก
00:01:09 → 00:01:11 ให้คุณหมอวิเคราะห์คนป่วยหนักเคสนี้หน่อย
00:01:11 → 00:01:14 ว่าพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปเนี่ยไม่
00:01:14 → 00:01:17 เหมือนตัวเองเนี่ยอธิบายทางการแพทย์ได้
00:01:17 → 00:01:18 หรือเปล่า
00:01:18 → 00:01:21 อ่าก่อนอื่นวันนี้พูดไม่นานวันนี้พูดไม่
00:01:21 → 00:01:25 นานก่อนอื่นเราไปดูกันก่อนมีเคสเมื่อ
00:01:25 → 00:01:29 ประมาณซักกลางปีที่แล้วมิถุนายนตาน้อย
00:01:29 → 00:01:32 อยู่ที่อำนาจเจริญตายแล้วฟื้นกลับมาเดิน
00:01:32 → 00:01:36 ป๋อเลยตอนแรกหมอบอกว่าให้กลับมาตายที่
00:01:36 → 00:01:39 บ้านรักษาไม่ได้ะญาติบอกทำใจเอากลับมา
00:01:39 → 00:01:41 เตรียมงานเตรียมอะไรเรียบร้อยปรากฏอยู่ดี
00:01:41 → 00:01:47 ๆฟื้นกลับมาเดินปลออ่าเคสแต่น้อยนะเคสอีก
00:01:47 → 00:01:52 เคสนึงตุลาคมปีที่แล้วเคสคุณยายคนนึงอายุ
00:01:52 → 00:01:54
00:01:54 → 00:01:58 ปีญาติรักษาที่โรงพยาบาลนอน ICU 4-5 วัน
00:01:58 → 00:02:01 ติดเชื้อในกระแสเลือดหมอบอกว่าไม่ไหวละ
00:02:01 → 00:02:06 ญาติบอกว่าขอเอากลับมาทำพิธีที่บ้านนะขอ
00:02:06 → 00:02:10 เอากลับมาทำพิธีที่บ้านแต่ปรากฏว่าคุณยาย
00:02:10 → 00:02:14 เนี่ยฝันว่าพี่สาวแกบอกว่ายังไม่ต้องไป
00:02:14 → 00:02:17 เดี๋ยวตัวพี่สาวจะไปแทนเองแล้วพอฟื้นขึ้น
00:02:17 → 00:02:22 มาตัวพี่สาวของคุณยายตายไปแทนตัวเองเป็น
00:02:22 → 00:02:25 ตัวตายตัวแทนเหตุเกิดที่
00:02:25 → 00:02:30 สุรินอีกเคสนึงกลางปีที่แล้วเหมือนกันเอ
00:02:30 → 00:02:32 กลางปีที่แล้วเนี่ยมีเคสแบบนี้เยอะนะตาย
00:02:32 → 00:02:36 แล้วฟื้นคนนี้อายุยังไม่มากนะครับนะอายุ
00:02:36 → 00:02:40 40 กว่าปีญาติบอกว่าหมอบอกว่าตายแน่ๆะ
00:02:40 → 00:02:43 แม่บอกว่าจะพาลูกสาวกลับมาทำพิธีที่บ้าน
00:02:44 → 00:02:46 เพราะว่าหมอบอกว่าไม่รอดและเคสนี้นี่อยู่
00:02:46 → 00:02:49 ที่อุดรธานี
00:02:49 → 00:02:54 หนองหาปรากฏว่าอยู่ดีๆฟื้นขึ้นมาเออท่าน
00:02:54 → 00:02:57 ไปดูหาข่าวเขียนง่ายๆใน Google นะตายแล้ว
00:02:57 → 00:03:00 ฟื้นท่านจะเจอเคสพวกนี้เยอะเลยต่างประเทศ
00:03:00 → 00:03:04 ก็มีฮือฮาคุณลุงอายุ 80 ปีหมอบอกว่าตาย
00:03:04 → 00:03:08 แล้วตายแล้วเลยนะที่โรงพยาบาลโรงพยาบาลขน
00:03:08 → 00:03:11 ศพกลับมาปรากฏว่าระหว่างที่รถกำลังวิ่ง
00:03:11 → 00:03:14 อยู่เนี่ยทางมันไม่ค่อยดีพื้น
00:03:14 → 00:03:19 กระเด้งลุงตายแล้วก็ฟื้นขึ้นมาฮือฮาเลย
00:03:19 → 00:03:21 รีบกลับไปส่งโรงพยาบาลใกล้ๆปรากฏว่าฟื้น
00:03:21 → 00:03:25 ขึ้นมาจริงๆอีกเคสนึงเคสเวียดนามตายแล้ว
00:03:25 → 00:03:30 ฟื้นฟื้นขึ้นมาเนี่ยหายจากที่ตาบอดนะเป็น
00:03:30 → 00:03:34 ใบ้กลับมาพูดได้ลืมตาได้เพราะฉะนั้นเคส
00:03:34 → 00:03:39 แบบเนี้ยเนี่ยมีทั่วโลกไม่ใช่มีในเฉพาะใน
00:03:39 → 00:03:41 ประเทศไทยนะอย่าอย่างที่หมอบอกไงว่า
00:03:41 → 00:03:44 ประเทศเราไม่ใช่เป็นประเทศที่แปกปลากว่า
00:03:44 → 00:03:48 คนอื่นนะประเทศอื่นๆเขาก็มีนะครับประเทศ
00:03:48 → 00:03:52 อื่นๆเขาก็มีคราวนี้เคสที่เอกวาดอร์คุณ
00:03:52 → 00:03:56 ยายถูกใส่เข้าไปในโรงแล้วปรากฏว่าเคาะโรง
00:03:56 → 00:04:00 เรียกฟื้นขึ้นมาแต่ทุกท่านมมักจะมีคำถาม
00:04:00 → 00:04:05 เหมือนๆกันว่าเฮ้ยเพราะอะไรโดยปกติพอตาย
00:04:05 → 00:04:08 แล้วเนี่ยโรงพยาบาลก็ต้องทำการฉีด
00:04:08 → 00:04:13 ฟอร์มารีนไม่ใช่หรอกแล้วถึงบอกว่าตายไม่
00:04:13 → 00:04:16 เห็นมีศพไหนไม่ฉีดฟอร์มารีนแล้วมาทำพิธี
00:04:16 → 00:04:20 แล้วลุกขึ้นมาได้เลยอ่ะคนนี้เป็นเคสที่
00:04:20 → 00:04:23 เหมือนกับเคสที่เป็นข่าวอยู่เลยก็คือคุณ
00:04:23 → 00:04:26 ลุงท่านนึงชื่อตาชาอายุ 90
00:04:26 → 00:04:31 ปีนอนติดเตียงหมอบอกว่าสงสัยต้องตายแน่
00:04:31 → 00:04:35 นอนะก็กลับมาบ้างปรากฏมาอาการดีขึ้นเคส
00:04:35 → 00:04:38 นี้เกิดที่กาญจนบุรีแต่พฤติกรรมเปลี่ยน
00:04:38 → 00:04:41 แปลงไปกลายเป็นอีกคนนึงญาติถามว่าเป็นใคร
00:04:41 → 00:04:43 บอกเป็นชื่ออีกชื่อนึงมาเลยเพราะฉะนั้น
00:04:43 → 00:04:46 อย่างที่บอกว่าเคสนี้ดูจะใกล้เคียงที่สุด
00:04:46 → 00:04:49 เพราะมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงแล้วบอกเป็น
00:04:49 → 00:04:53 ชื่อคนอื่นเลยนะสัมภเวสีมันสิงร่างหรือ
00:04:53 → 00:04:58 เปล่าต้องพึ่งเหมาป่ามั้ยอันที่กหมอจะขอ
00:04:58 → 00:05:01 สรุปจากที่หมออ่านมาเลยนะทั้งหมดนะว่าตาย
00:05:01 → 00:05:05 จริงกับยังไม่ตายทางการแพทย์นะส่วนใหญ่
00:05:05 → 00:05:07 เคสที่อ่านๆมาแล้วบอกว่าตายแล้วฟื้นใน
00:05:07 → 00:05:11 ประเทศไทยเนี่ยคือยังไม่ทันได้ตายจริงๆใน
00:05:11 → 00:05:16 โรงพยาบาลแต่ญาติขอเอากลับมาทำพิธีที่
00:05:16 → 00:05:20 บ้านนั่นหมายความว่าไม่มีการตรวจสัญญาณ
00:05:20 → 00:05:23 ชีพจากแพทย์ไม่มีการวัดความดันไม่มีการ
00:05:23 → 00:05:26 วัดอัตราการเต้นของหัวใจไม่มีการดูว่ายัง
00:05:26 → 00:05:31 หายใจอยู่มั้ยนะแล้วก็ไม่มีการวัดอุูแต่
00:05:31 → 00:05:36 แค่ญาติบอกว่าน่าจะตายแล้วมาจากโรงพยาบาล
00:05:36 → 00:05:39 แต่ยังไม่ได้ตายเลยนะักคนเพราะฉะนั้นทุก
00:05:39 → 00:05:43 คนยังไม่ได้ฉีดฟอร์มารีนหรือฉีดน้ำยาอาบ
00:05:43 → 00:05:47 ศพถ้าท่านฉีดน้ำยาอาบศพเนี่ยท่านตายแน่
00:05:47 → 00:05:51 นอนแต่ก็จะมีคำถามว่าหมอแล้วมีหรือเปล่า
00:05:51 → 00:05:54 มีหรือเปล่าไปฟื้นในห้องที่กำลังจะฉีดน้ำ
00:05:55 → 00:05:58 ยาทำศพคำตอบว่า
00:05:58 → 00:06:02 มีแต่หมอคงไม่เชี่ยวชาญขนาดรู้ทุกเคสนะ
00:06:02 → 00:06:06 แต่คิดว่าน่าจะมีน่าจะมีใช้คำว่าน่าจะมี
00:06:06 → 00:06:11 จริงๆมีเรื่องของพระเกจิอาจารย์รูปนึง
00:06:11 → 00:06:13 เล่าเรื่องนี้นะเดี๋ยวเดี๋ยวจะพูดให้ฟัง
00:06:13 → 00:06:16 อ่ะคราวนี้นั่นหมายความ
00:06:16 → 00:06:19 ว่าที่ท่านได้ฟังเรื่องราวแล้วว่าตายแล้ว
00:06:19 → 00:06:22 ฟื้นเนี่ยยังไม่ได้พิสูจน์ว่าจริงว่าตาย
00:06:22 → 00:06:26 ทางการแพทย์ตายอย่างที่บอกแค่ว่าสัญญาณ
00:06:26 → 00:06:29 ชีพวัดไม่ได้ต้องดูกิจกรรมทำสมองด้วยว่า
00:06:29 → 00:06:32 ม่านตาขยายหรือเปล่าคนที่ตายแล้วเนี่ย
00:06:32 → 00:06:35 อย่างสมมุติว่าเราเอาไฟสายไปสที่ตาเนี่ย
00:06:35 → 00:06:37 ม่านตาเขาจะหดเพราะมันต้อง Reaction เ
00:06:37 → 00:06:41 เรียกว่าไ Light ref นะมันจะหดตัวลงแต่
00:06:41 → 00:06:44 ถ้าสมมุติว่าตายแล้วเนี่ยม่านตามขยายอยู่
00:06:44 → 00:06:47 ตลอดเวลาไม่มีไ ref เข้าใจแล้วนะอ่ะเคส
00:06:47 → 00:06:50 ส่วนใหญ่นั้นยังไม่ตายแต่มีประสบการณ์ที่
00:06:50 → 00:06:52 เรียกว่า Near de
00:06:52 → 00:06:55 experience Near experience หมอเคย
00:06:55 → 00:06:57 เล่าให้ฟังไปแล้วว่า 30 วินาทีสุดท้าย
00:06:57 → 00:07:01 ก่อนตายเราเห็นอะไร Near experience จะ
00:07:01 → 00:07:06 เป็นคล้ายๆกันก็คือว่ามีคนมาพาไปนู่นนี่
00:07:06 → 00:07:09 นั่นไปเห็นนรกสวรรค์อันนี้ทุกคนจะพูด
00:07:09 → 00:07:13 เหมือนกันหมดตัวเองทำดีได้ไปดีทำชั่วตก
00:07:13 → 00:07:17 นรกแต่ก็จะมีส่วนนึงบอกว่ายังไม่ถึงเวลา
00:07:17 → 00:07:22 ตายนะคุณต้องกลับมาทำภารกิจก่อนอ่าเข้าใจ
00:07:22 → 00:07:25 ใช่มยส่วนอีกกลุ่มนึงก็คือเคสที่ยังไม่
00:07:25 → 00:07:29 ตายเนี่ยแต่ไม่มี Near experience ก็คือ
00:07:29 → 00:07:33 หลับไปเฉยๆจอดับแล้วก็ตื่นขึ้นมาเพราะ
00:07:33 → 00:07:37 ฉะนั้น 2 กลุ่มนี้จะมีความแตกต่างกันก็
00:07:37 → 00:07:39 คือพวกที่มีประสบการณ์ Near de
00:07:39 → 00:07:42 experience พวกเนี้ยเมื่อมีประสบการณ์
00:07:42 → 00:07:45 Near de experience เนี่ยมักจะมี
00:07:45 → 00:07:49 พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปแต่พวกที่ไม่มี
00:07:49 → 00:07:50 ประสบการณ์ทางด้าน Near Death
00:07:50 → 00:07:53 experience เนี่ยจะไม่มีพฤติกรรมที่
00:07:53 → 00:07:58 เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตามในเคสที่น่าสอน
00:07:58 → 00:07:59 ใจของ
00:07:59 → 00:08:03 ดูในของคุณหนุ่มพงพันธ์นะเคสหลวงปู่โทน
00:08:03 → 00:08:08 เนี่ยวัดอะไรนะวัดแจ้งที่ปราจีนบุรีเคส
00:08:08 → 00:08:13 นี้น่าสนใจคือท่านเนี่ยมรณภาพไปแล้วโดยมี
00:08:13 → 00:08:17 การยืนยันจากที่โรงพยาบาลที่ปราจีนและไป
00:08:17 → 00:08:19 ยืนยันอีกครั้งนึงที่โรงพยาบาลที่
00:08:19 → 00:08:23 กรุงเทพฯและเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำด้วย
00:08:23 → 00:08:26 หมอคุ้นเคยโรงพยาบาลนี้เป็นอย่างดีเพราะ
00:08:26 → 00:08:30 เป็นโรงพยาบาลที่ชอบรักษาเกิอาจารย์ดักๆ
00:08:30 → 00:08:33 ก็คอนเฟิร์มแล้วว่าท่านเสียชีวิตท่าน
00:08:33 → 00:08:37 มรณภาพแล้วและก็มีการย้ายท่านเข้าไปอยู่
00:08:37 → 00:08:41 ในห้องเย็นเกือบ 11
00:08:41 → 00:08:46 วันในห้องเย็นนั้นเองท่านฟื้นขึ้น
00:08:46 → 00:08:49 มาแล้วท่านกลับมาให้สัมภาษณ์
00:08:49 → 00:08:52 ได้ทุกคนต้องไปดูเลยนะปาฏิหาริย์ไปแล้ว
00:08:52 → 00:08:55 ฟื้นเนี่ยของหลวงปู่หลวงปู่โทนวัดแจ้ง
00:08:55 → 00:08:58 เนี่ยแล้วท่านจะได้ข้อคิดอะไรดีๆแล้วคราว
00:08:58 → 00:09:01 นี้ค่อยมามาดูเรื่องลึกลับทางการแทน 30
00:09:01 → 00:09:05 วินาทีนี้ก่อนตายพาร์ท 1 พารท 2 ท่านก็จะ
00:09:05 → 00:09:10 ได้ไอเดียหรือมุมมองในการตายที่แปลกไปนะ
00:09:10 → 00:09:14 อ่ะคราวนี้มาดูต่อคนที่มีพฤติกรรมเปลี่ยน
00:09:14 → 00:09:17 แปลงไปส่วนใหญ่ก็คืออย่างที่บอกว่ามี Near
00:09:18 → 00:09:20 Death experience แต่คนที่ตายไปแล้วจอ
00:09:20 → 00:09:24 ดับหรือเกือบจะตายแล้วจอดับพวกเนี้ยจะไม่
00:09:24 → 00:09:27 มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปพวกที่มี
00:09:27 → 00:09:30 พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปมีอะไรบ้างฝรั่ง
00:09:30 → 00:09:33 เขียนไว้ชัดเจนเพราะฉะนั้นอย่างที่บอก
00:09:33 → 00:09:36 ว่าลักษณะเดียวกันก็เกิดขึ้นในฝรั่งก็คือ
00:09:36 → 00:09:42 เฮ้ยคนนี้ตายแล้วฟื้นขึ้นมาแต่เหมือนกลาย
00:09:42 → 00:09:45 เป็นอีกคนหนึ่งมีอะไรบ้างเขาบอกว่ามี 4
00:09:45 → 00:09:48 อันก็คือ depersonalization
00:09:48 → 00:09:51 รู้สึกว่าร่างกายหรืออัตลักษณ์ของตัวเอง
00:09:51 → 00:09:54 นั้นเปลี่ยนแปลงไปในความหมายเอาพูดง่ายๆ
00:09:54 → 00:09:58 ก็คือแบบเฮ้ยไม่ใช่ตัวฉันน่ะหรือเป็นตัว
00:09:58 → 00:10:02 ของคนือื่นหรือเป็นตัวของคนนอื่นฉันมา
00:10:02 → 00:10:06 อยู่ในร่างกายของใครอันที่ 1 นะ 2
00:10:06 → 00:10:08 dissociation คือสูญเสียความทรงจำมาก
00:10:08 → 00:10:09 กว่า
00:10:09 → 00:10:13 ปกติมีความเครียดลืมอัตลักษณ์ของตัวเอง
00:10:13 → 00:10:16 หรือประวัติชีวิตของตัวเองคือลืมไปเลยว่า
00:10:16 → 00:10:21 ตัวเองเป็นใครและเขาบอกว่าในบางคนพูด
00:10:21 → 00:10:24 ประวัติชีวิตของคนอื่นด้วยซ้ำ
00:10:24 → 00:10:29 ไปของคนไทยก็คืออย่างที่บอกว่ามีสัเสี
00:10:29 → 00:10:31 เข้าสิ่งใช่มั้ยแต่ของฝรั่งเขจะใช้คำพูด
00:10:31 → 00:10:35 ว่า dissociation disorder อีกอันนึงก็
00:10:35 → 00:10:37 คือมี Post traumatic state disorder
00:10:37 → 00:10:41 ptd คือพวกเยจะฝันร้ายหวาด
00:10:41 → 00:10:45 ผวาตื่นขึ้นมาร้องไห้น้ำตาเต็มเลยแต่ตัว
00:10:45 → 00:10:48 เองบอกว่าไม่ได้ร้องไห้แต่จริงๆแล้วร้อง
00:10:49 → 00:10:52 ไห้แต่มันเป็นความฝันที่เป็นความฝันร้าย
00:10:52 → 00:10:56 หรือหวาดผวาเห็นมยลักษณะคล้ายๆกันเลยนะ
00:10:56 → 00:10:59 ทั่วโลกฝรั่งเค้าก็เค้าเรียกไคุณหมอฝรั่ง
00:10:59 → 00:11:05 เคก็ทำเป็นสติติเอาไว้อ่าแล้วพวกเนี้ยมัน
00:11:05 → 00:11:08 เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างเบอกว่าไอ้ 3-4
00:11:08 → 00:11:11 ข้อที่พูดมาเนี่ยไม่ว่าจะเป็น
00:11:11 → 00:11:13 depersonalization
00:11:13 → 00:11:16 dissociation หรือเอ่อ Post traumatic
00:11:16 → 00:11:18 state disorder เนี่ยมันจะมี affect
00:11:18 → 00:11:21 กับชีวิตเนี่ย 2 แบบอันที่ 1 เป็น
00:11:21 → 00:11:23 Positive effect กับอันที่ 2 เป็น
00:11:23 → 00:11:26 Negative effect พวก Positive effect
00:11:26 → 00:11:30 เนี่ยมักจะได้ Message ข้อความจากสิ่ง
00:11:30 → 00:11:32 ศักดิ์สิทธิ์ก็แล้วกันถ้าเป็นฝรั่งเขาก็
00:11:32 → 00:11:36 จะบอกว่าข้อความจากพระเจ้าหรือถ้าเป็นคน
00:11:36 → 00:11:38 ไทยก็คืออาจจะมีพระอริยสงฆ์หรืออะไรก็
00:11:38 → 00:11:41 แล้วแต่หรือเทพเทวดาก็แล้วแต่มาบอกให้ทำ
00:11:41 → 00:11:45 ภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่งว่าคุณยังตายไม่
00:11:45 → 00:11:48 ได้นะคุณยังมีภารกิจที่ต้องทำส่วนพวก
00:11:48 → 00:11:53 Negative เฟก็คือมีความหวาดผวาเห็นผี
00:11:53 → 00:11:58 เห็นเค้าเรียกสิ่งเลวร้ายจะมาปองร้ายตัว
00:11:58 → 00:12:03 เองนอนหลับก็ฝันร้ายเพราะอะไรทุกคนอยาก
00:12:03 → 00:12:06 รู้แล้วว่าแล้วเพราะอะไรอธิบายได้มั้ยทาง
00:12:06 → 00:12:11 วิทยาศาสตร์เบอกแบบนี้ในสภาวะที่เรากึ่ง
00:12:11 → 00:12:14 เค้าเรียกว่าเกือบที่จะตายหัวใจเราบีบตัว
00:12:14 → 00:12:18 ช้าลงเลือดไปเลี้ยงสมองช้าลงเลือดไป
00:12:18 → 00:12:20 เลี้ยงสมองน้อย
00:12:20 → 00:12:24 ลงส่วนหนึ่งบุคคลส่วนหนึ่งจะมีการเค้า
00:12:24 → 00:12:29 เรียกว่าพยายามที่จะยื้อชีวิตของตัวเอง
00:12:29 → 00:12:33 เขาบอกว่าเมื่อเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง
00:12:33 → 00:12:36 สมองส่วนหนึ่งที่ชื่อว่า temp paral
00:12:36 → 00:12:40 จังชันเนี่ยมันจะเป็นสมองที่ค่อนข้างอดทน
00:12:40 → 00:12:42 ต่อการขาดเลือดไปเลี้ยงหรือการขาด
00:12:42 → 00:12:47 ออกซิเจนมันจะหลั่งสารเคมีในสมองออกมา
00:12:47 → 00:12:51 ซึ่งสารเคมีในสมองเจะปกปักรักษาสมองไม่
00:12:51 → 00:12:55 ให้สมองสูญเสียหรือสามารถทนกับการขาด
00:12:56 → 00:13:01 ออกซิเจนได้เป็นระยะเวลาหนึ่งเข้าใมซึ่ง
00:13:01 → 00:13:04 เขาบอกว่าไอ้ตรงเนี้ยแน่นอนว่ามันจะมี
00:13:04 → 00:13:08 สมองส่วนหนึ่งที่สูญเสียการทำงานไปไอ้การ
00:13:08 → 00:13:12 ทำงานของสมองที่สูญเสียไปเนี่ยมันทำให้คน
00:13:12 → 00:13:16 เนี่ยมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปใช่มบางคน
00:13:16 → 00:13:21 สูญเสียความทรงจำบางคนเคยพูดไทยได้พูดไม่
00:13:21 → 00:13:25 ได้พูดแต่ภาษาอังกฤษแต่ก็จะมีคนบอกว่ามี
00:13:25 → 00:13:29 วิญญาณเข้ามาสิงร่างเหรือแม้แต่บางคน
00:13:29 → 00:13:34 เคยเป็น lq gbt ปรากฏว่าเกิดสภาวะนี้ใน
00:13:34 → 00:13:38 สมองเปลี่ยนจาก lq gbt กลายเป็นชายแท้
00:13:39 → 00:13:43 หญิงแท้ก็มีนะส่วนที่อธิบายไม่ได้คือโรค
00:13:43 → 00:13:47 ที่เขาเป็นอยู่ทุกคนส่วนใหญ่ที่เกือบจะ
00:13:47 → 00:13:51 ตายเนี่ยมักจะต้องมีโลคอยู่ใช่ป่ะปรากฏ
00:13:51 → 00:13:55 โลกมันหายไปด้วยหรือโรคที่เป็นอยู่อาการ
00:13:55 → 00:14:00 ดีขึ้นด้วยตรงเนี้ยเอาจอิบายไม่ได้ว่ามัน
00:14:00 → 00:14:02 เพราะอะไรซึ่งจริงๆเบอกว่าคนที่ใกล้ตาย
00:14:02 → 00:14:05 ส่วนใหญ่นี่ก็บางคนติดเชื้อในกระแสเลือด
00:14:05 → 00:14:10 หมอไม่รับแล้วเอากลับบ้านอยู่ดีๆหาย
00:14:10 → 00:14:13 เองอย่างที่ก็ต้องอธิบายอย่างนึงนะบาง
00:14:13 → 00:14:16 อย่างอธิบายได้บางอย่างอธิบายไม่ได้ด้วย
00:14:17 → 00:14:19 ทางวิทยาศาสตร์สาระความรู้ดีๆจากเพจหมอ
00:14:19 → 00:14:21 เฉพาะทางบาทเดียวและ YouTube Channel
00:14:21 → 00:14:23 หมอเฉพาะทางบาดเดียวนะครับขอบคุณครับ
00:14:23 → 00:14:26 สวัสดีครับ