00:00:04 → 00:00:08 med cmu podcast fung for
00:00:08 → 00:00:11 Hell f for Health
00:00:11 → 00:00:14 podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:14 → 00:00:17 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:17 → 00:00:21 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์
00:00:21 → 00:00:23 มหาวิทยาลัย
00:00:23 → 00:00:28 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:28 → 00:00:31 เรา
00:00:31 → 00:00:34 สวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง for
00:00:34 → 00:00:36 Health podcast อยู่กับดิฉันฟ้า
00:00:37 → 00:00:39 ธัญญลักษณ์สดสวยนักประชาสัมพันธ์คณะ
00:00:39 → 00:00:42 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ฟังทุก
00:00:42 → 00:00:44 ท่านคะเรื่องที่จะมาพูดคุยกันเป็นเรื่อง
00:00:44 → 00:00:47 ของอีกหนึวันสำคัญค่ะที่จัดให้มีขึ้นใน
00:00:47 → 00:00:50 เดือนธันวาคมนะคะทุกวันที่ 1 ธันวาคมของ
00:00:50 → 00:00:54 ทุกปีถูกก่อตั้งให้เป็นวันเอจโลกค่ะเพื่อ
00:00:54 → 00:00:57 ที่จะรณรงค์ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อ
00:00:57 → 00:00:59 เอดส์ดังนั้นวันนี้จึงนำเรื่องนี้มาพูด
00:00:59 → 00:01:01 พูดคุยกันอีกครั้งนึงค่ะเราจะมาทำความรู้
00:01:01 → 00:01:04 จักค่ะว่าโรค Edge คืออะไรแล้วเกิดจาก
00:01:04 → 00:01:08 อะไรอาการของผู้ที่ติดเชื้อ hiv และก็โรค
00:01:08 → 00:01:10 เอส์จะเป็นยังไงนะคะรวมถึงการวินิจฉัย
00:01:10 → 00:01:14 ปัจจุบันค่ะสามารถทำการตรวจวินิจฉัยโลก
00:01:14 → 00:01:16 นี้ได้ยังไงบ้างค่ะซึ่งผู้ที่จะมาให้ข้อ
00:01:16 → 00:01:19 มูลกับเราท่านคืออาจารย์แพทย์หญิงกวิสรา
00:01:19 → 00:01:21 กระแสเวทอาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์
00:01:21 → 00:01:25 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ
00:01:25 → 00:01:28 สวัสดีค่ะอาจารย์หมอสวัสดีค่ะวันนี้เรา
00:01:28 → 00:01:30 กลับมาพบกันอีกครั้งนึงแล้วค่ะสำหรับ
00:01:30 → 00:01:32 เรื่องที่น่าสนใจครั้งก่อนอาจารย์เคยได้
00:01:32 → 00:01:34 มาพูดคุยกันใน podcast แล้วครั้งนึงมาทำ
00:01:34 → 00:01:37 ความรู้จักเกี่ยวกับว่า HIV กับ Edge
00:01:37 → 00:01:39 ต่างกันยังไงนะแล้ววันนี้ก็บนกลับมาค่ะใน
00:01:39 → 00:01:42 วันที่ 1 ธันวาคมซึ่งเป็นวันเอดสโลกอยาก
00:01:42 → 00:01:44 ให้อาจารย์ช่วยเล่าให้กับพวกเราเนี่ยได้
00:01:44 → 00:01:46 ทำความรู้จักในค่ะว่าทำไมถึงมีวันนี้เกิด
00:01:46 → 00:01:49 ขึ้นความเป็นมาเป็นยังไงแล้วในแต่ละปีเมี
00:01:49 → 00:01:52 ีมรณรงค์ยังไงบ้างค่ะค่ะอ่าองค์การอนามัย
00:01:52 → 00:01:55 โลกนะคะกำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี
00:01:55 → 00:01:58 เนี่ยเป็นวัน Age โลกนะคะหรือว่า World
00:01:58 → 00:02:00 aged Day เนาะก็ณรงค์แล้วก็สร้างความ
00:02:00 → 00:02:03 ตระหนักให้กับประชาชนนะคะให้เห็นถึงความ
00:02:03 → 00:02:06 สำคัญของการป้องกันการติดเชื้อ hiv และ
00:02:06 → 00:02:09 ede นะคะรวมถึงยอมรับแล้วก็เข้าใจผู้ติด
00:02:09 → 00:02:12 เชื้อ hiv ทั่วโลกด้วยนะคะสำหรับีมเนี่ย
00:02:12 → 00:02:15 จริงๆเขาเปลี่ยนไปทุกๆปีนะคะปีนี้เนี่ย
00:02:15 → 00:02:18 เป็นแนวคิดเรื่องของ leed community
00:02:18 → 00:02:21 Lead ก็คือเป็นการมุ่งเน้นให้อ่าทุกๆภาค
00:02:21 → 00:02:26 ส่วนชุมชนต่างๆเนี่ยมีมาสนับสนุนในการดู
00:02:26 → 00:02:30 แลคนไข้นะคะเพื่อให้มีบทบาทสำคในการป้อง
00:02:30 → 00:02:32 กันของการติดเชื้อแล้วก็ตระหนักในการเข้า
00:02:32 → 00:02:35 ถึงการรักษานะคะซึ่งก็จะเป็นเหมือนเป็น
00:02:35 → 00:02:37 องค์กรถ้าเรายิ่งเข้าถึงชุมชนเนาะก็จะ
00:02:37 → 00:02:40 สามารถทำให้เข้าถึงประชาชนได้ง่ายแล้วก็
00:02:40 → 00:02:42 เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนในเรื่องของ
00:02:42 → 00:02:45 การรักษาต่อไปค่ะค่ะงั้นเรามาทบทวนกันสัก
00:02:45 → 00:02:49 เล็กน้อยค่ะอาจารย์หมอคะระหว่าง HIV กับ
00:02:49 → 00:02:53 ede ค่ะความแตกต่างต่างกันยังไงคะค่ะก็
00:02:53 → 00:02:56 HIV นะคะอันนี้เป็นเป็นชื่อเชื้อก็คือ
00:02:56 → 00:02:59 ย่อมาจาก Human immunodeficiency virus
00:02:59 → 00:03:01 ก็คือคือเป็นเชื้อไวรัสอย่างนึงนะคะส่วน
00:03:01 → 00:03:04 คำว่า Ed เนี่ยเป็นเหมือนเป็นโรคเหมือน
00:03:04 → 00:03:07 เป็นภาวะจากการที่มันมีการติดเชื้อ hiv
00:03:07 → 00:03:10 แล้วไปทำลายภูมิคุ้มกันจนทำให้ภูมิคุ้ม
00:03:10 → 00:03:13 กันเนี่ยอ่อนแอมากสามารถที่จะติดเชื้อฉวย
00:03:13 → 00:03:16 โอกาสต่างๆได้มากมายซึ่งในภาวะที่คนไข้มี
00:03:16 → 00:03:18 ภูมิคุ้มกันบกพร่องแล้วก็ติดเชื้อฉวย
00:03:18 → 00:03:21 โอกาสแบบเยค่ะเราเรียกว่าคนไข้มีภาวะเอดส
00:03:21 → 00:03:25 ค่ะอาจารย์หมอคะในปัจจุบันสถิติของทั่ว
00:03:25 → 00:03:29 โลกจำนวนผู้ที่ติดเชื้อมีมากน้อยแค่ไหนคะ
00:03:29 → 00:03:33 ค่ะก็ข้อมูลจากปี 2565 นะคะก็พบว่า
00:03:33 → 00:03:35 ประชากรที่ติดเชื้อ hiv ทั่วโลกเนี่ยอยู่
00:03:35 → 00:03:39 ที่ประมาณ 40 ล้านคนนะคะในประเทศไทยเอง
00:03:39 → 00:03:42 เนี่ยพบว่ามีผู้ติดเชื้อประมาณ 56,000
00:03:42 → 00:03:45 รายโอ้โหจำนวนไม่น้อยเลยนะะจำนวนไม่น้อย
00:03:45 → 00:03:47 เลยค่ะแล้วก็เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ของปี
00:03:47 → 00:03:51 ที่ผ่านมานะคะก็คือ 9,200 รายค่ะค่ะแล้ว
00:03:51 → 00:03:54 ก็มีผู้เสียชีวิตประมาณ 10,000 รายค่ะดัง
00:03:54 → 00:03:57 นั้นค่ะการที่เราจะรู้ว่าคนๆนึงจะติด
00:03:57 → 00:04:00 เชื้อ hiv ได้เนี่ยมีการติดเชื้อได้ยังไง
00:04:00 → 00:04:04 บ้างคะอาจารย์หมอคะค่ะก็สำหรับช่องทางการ
00:04:04 → 00:04:06 ติดเชื้อนะคะก็คือเชื้อ HIV เนี่ยเขาจะ
00:04:06 → 00:04:09 แพร่ผ่านตัวกลางบางอย่างเท่านั้นนะคะโดย
00:04:09 → 00:04:12 เฉพาะพวกเลือดหรือว่าสารคัดหลังที่มี
00:04:12 → 00:04:16 เลือดปนนะคะแล้วก็รวมไปถึงน้ำนมน้ำอาสุจิ
00:04:16 → 00:04:19 สารคัดหลังจากช่องคลอดอะไรเงี้ยค่ะสามารถ
00:04:19 → 00:04:23 ที่จะอ่าแพร่เชื้อ HIV ได้เพราะฉะนั้นถ้า
00:04:23 → 00:04:27 เกิดว่าประชาชนที่ไปสัมผัสกับสารคัดหลัง
00:04:27 → 00:04:29 เหล่านี้หรือว่าพวกเลือดอ่ะค่ะซึ่งซึโดย
00:04:29 → 00:04:31 ส่วนใหญ่ของข้อมูลประเทศไทยเราเองนะคะเพบ
00:04:31 → 00:04:33 ว่าส่วนใหญ่ติดเชื้อ hiv เนี่ยมากที่สุด
00:04:33 → 00:04:36 เลยคือผ่านการมีเพศสัมพันธ์อันนี้มากที่
00:04:36 → 00:04:39 สุดเลยนะคะโดยแบ่งเป็นการติดเชื้อจากการ
00:04:39 → 00:04:41 มีเพศสัมพันธ์โดยแบ่งเป็นการติดเชื้อจาก
00:04:41 → 00:04:44 ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายประมาณ 70% ค่ะ
00:04:44 → 00:04:48 คู่เลือดผลต่าง 20% คู่นอนชั่วคราวประมาณ
00:04:48 → 00:04:52 7% แล้วก็ 1% จากการซื้อขายบริการค่ะใน
00:04:52 → 00:04:55 ประเทศไทยเราเองนะคะใช่ๆค่ะเป็นเรื่องที่
00:04:55 → 00:04:58 ตอนแรกเราคิดว่าเรื่องของอ่าเทคโนโลยีทาง
00:04:58 → 00:05:00 การแพทย์อะไรมันสมัยใหใหม่มากขึ้นจำนวน
00:05:00 → 00:05:03 น่าจะไม่เยอะแล้วนะคะแต่พอมาได้พูดคุยกับ
00:05:03 → 00:05:05 อาจารย์ก็ทำให้รู้ว่าไม่ได้น้อยเลยเพราะ
00:05:05 → 00:05:07 ฉะนั้นค่ะในเรื่องของการแพทย์ก็สมัยใหม่
00:05:07 → 00:05:10 มากขึ้นระบบของสาธารณสุขก็ทันสมัยมากขึ้น
00:05:10 → 00:05:14 ค่ะแต่ก็ยังมีเรื่องที่อาจจะทำให้คนคิด
00:05:14 → 00:05:17 ว่าเรื่องนี้ไกลตัวหรือเปล่ายังมีการ
00:05:17 → 00:05:18 เพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้ออย่างเงี้ค่ะ
00:05:18 → 00:05:22 อาจารย์หมอคะในเรื่องของการติดเชื้อโดย
00:05:22 → 00:05:24 เรื่องของเพศสัมพันธ์อย่างเงี้ยค่ะเป็นไป
00:05:24 → 00:05:28 ได้มั้ยคะเป็นไปได้เหมือนกันค่ะก็คืออาจ
00:05:28 → 00:05:31 จะเป็นการการที่มีผู้ติดเชื้อเรื่อยๆเนาะ
00:05:31 → 00:05:34 เพราะว่าก็อาจจะเป็นหนึก็คืออาจจะขาดความ
00:05:34 → 00:05:37 ตระหนักถึงความเสี่ยงตรงนี้ค่ะก็เลยทำให้
00:05:37 → 00:05:40 บางคนนหลงลืมประเด็นเรื่องการป้องกันตัว
00:05:40 → 00:05:43 ไปก็เลยทำให้เหมือนมาติดเชื้อได้ง่ายค่ะ
00:05:43 → 00:05:46 แล้วก็ในบางคนที่ติดเชื้อไปแล้วก็ไม่ทราบ
00:05:46 → 00:05:50 สถานะของตนเองว่าว่าติดเชื้อใช่บางทีกว่า
00:05:50 → 00:05:53 จะมารู้อีกทีนึงก็คือโรคพัฒนาไปเป็น 5 ปี
00:05:53 → 00:05:55 10 ปีโลกมันก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆกว่าจะมา
00:05:55 → 00:05:58 ถึงเราก็คือมีอาการเยอะแล้วอะไรเงี้ยค่ะ
00:05:58 → 00:06:00 เพราะฉะนั้นจริงๆถ้าเกิดเราเรารู้ว่าเรา
00:06:00 → 00:06:03 มีความเสี่ยงแล้วเราสามารถที่จะไปตรวจได้
00:06:03 → 00:06:05 ไป screening Test เพื่อตรวจได้เนี่ยทำ
00:06:05 → 00:06:07 ให้เรารู้ว่าเราติดเชื้อได้เร็วเข้าสู่
00:06:07 → 00:06:09 การรักษาได้เร็วอ่ะค่ะก็ก็น่าจะเป็นสิ่ง
00:06:09 → 00:06:11 ที่ดีค่ะโดยเฉพาะผู้ฟังท่านไหนที่กำลัง
00:06:11 → 00:06:14 ฟัง podcast อยู่แล้วเป็นกลุ่ม lgbtq เรา
00:06:14 → 00:06:17 อาจจะมีการเปลี่ยนคู่นอนก็ต้องมีโอกาสที่
00:06:17 → 00:06:20 มาตรวจเช็คได้ก็ดีค่ะเป็นการที่เราเช็ค
00:06:20 → 00:06:23 ไว้ก่อนเราได้รู้ก่อนนั่นเองค่ะแล้วเพราะ
00:06:23 → 00:06:25 ฉะนั้นค่ะใครบ้างล่ะที่ควรจะต้องได้รับ
00:06:25 → 00:06:28 การตรวจเชื้อ HIV ค่ะค่ะจริงๆก็มีหลาย
00:06:28 → 00:06:31 กลุ่มด้วยกันนะคะอย่างกลุ่มแรกก็คือเป็น
00:06:31 → 00:06:34 ผู้ที่มีอาการหรือว่าอาการแสดงที่เข้าได้
00:06:34 → 00:06:36 กับการติดเชื้อ hiv หรือว่าภาวะ Ed อย่าง
00:06:36 → 00:06:38 ที่หมอเล่าไปก็คือการติดเชื้อ hiv เนี่ย
00:06:39 → 00:06:41 มันเป็นเชื้อไวรัสชนิดนึงนะคะถ้าเพิ่งได้
00:06:41 → 00:06:43 รับเข้ามาเลยภายใน 2-4 สัปดาห์แรกเนี่ยคน
00:06:43 → 00:06:45 ไข้จะมีอาการคล้ายๆคล้ายๆเหมือนเป็นหวัด
00:06:45 → 00:06:49 ทั่วไปได้เลยก็คือจะมีไข้ปวดเมื่อยตามตัว
00:06:49 → 00:06:52 เจ็บคอตมน้ำเหลืองโตเล็กเล็กน้อยอะไร
00:06:52 → 00:06:54 อย่างเงี้ยค่ะเพราะฉะนั้นก็อาจจะทำให้แยก
00:06:54 → 00:06:56 ยากจากกลุ่มไข้หวัดอาจจะต้องใช้ปัจจัย
00:06:56 → 00:06:59 เสียงที่คนไข้เขามีปัจจัยเสี่ยงเช่นมี
00:06:59 → 00:07:01 เรื่องของเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกันหรือ
00:07:01 → 00:07:04 ว่าการใช้เข็มฉีดยากระบอกฉีดยาร่วมกัน
00:07:04 → 00:07:07 เงี้ยค่ะก็คือถ้ามีปัจจัยเสี่ยงปุ๊บอาการ
00:07:07 → 00:07:10 เข้าได้ก็แนะนำไปตรวจหรือในบางรายที่หมอ
00:07:10 → 00:07:12 หมอเล่าไปเนาะว่าบางคนเนี่ยเขาก็จะมาอีก
00:07:12 → 00:07:15 ทีนึงก็คือเป็นภาวะเอดสไปแล้วก็คือมีการ
00:07:15 → 00:07:17 ติดเชื้อฉวยโอกาสไปแล้วอาจจะมาด้วยการติด
00:07:17 → 00:07:20 เชื้อวัณโรคปอดการติดเชื้อราในสมองในปอด
00:07:21 → 00:07:23 แบบเนี้ยค่ะซึ่งถ้าบุคลากรทางการแพทย์
00:07:23 → 00:07:26 ตรวจแล้วพบว่าเอ้ยคนไข้เป็นโรคเหล่านี้
00:07:26 → 00:07:29 ค่ะก็จะแนะนำให้มีการส่งการดูว่ามีการติด
00:07:29 → 00:07:32 HIV หรือเปล่าค่ะนะคะส่วนกลุ่มอื่นๆ
00:07:32 → 00:07:34 เนี่ยก็จะเป็นการตรวจ HIV ในผู้ป่วยที่
00:07:34 → 00:07:37 เป็นไวรัสตัดอักเสบ B หรือ C นะคะเพราะ
00:07:37 → 00:07:40 ว่าไวรัส 2 ตัวนี้ก็ติดผ่านเลือดแล้วก็
00:07:40 → 00:07:42 เพศสัมพันธ์เหมือนกันเพราะฉะนั้นก็อาจจะ
00:07:42 → 00:07:46 มาพร้อมๆกับ HIV ได้ค่ะหรือผู้ที่มี
00:07:46 → 00:07:47 ประวัติมีความเสี่ยงนะคะก็คือมี
00:07:47 → 00:07:50 เพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันไม่ว่าจะเป็น
00:07:50 → 00:07:54 ชายชายชายหญิงอะไรนะคะผู้ป่วยวัณโรคผู้
00:07:54 → 00:07:56 ป่วยที่มาพบเราด้วยโรคติดต่อทาง
00:07:56 → 00:07:59 เพศสัมพันธ์เช่นหนองนายแท้หนองนเทียมิฟิส
00:07:59 → 00:08:01 อย่าเงี้ยค่ะเราก็จะแนะนำให้มีการตรวจอ่า
00:08:02 → 00:08:04 HIV ด้วยเพราะว่าก็บางทีก็อาจจะมาพร้อม
00:08:04 → 00:08:07 กันได้อค่ะแล้วก็กลุ่มอื่นๆก็จะเป็นหญิง
00:08:07 → 00:08:10 ตั้งครรภแล้วก็สามีค่ะค่ะที่มาฝากคัน
00:08:10 → 00:08:12 เงี้ยค่ะก็จะแนะนำให้ตรวจทุกรายที่เราก็
00:08:12 → 00:08:15 ตรวจทุกรายหรือแม้กระทั่งทารกที่เกิดจาก
00:08:15 → 00:08:18 มารดาที่ติดเชื้อ hiv ก็จะให้ตรวจค่ะแล้ว
00:08:18 → 00:08:22 ทรกที่เกิดในมารดาที่ติดเชื้อ hiv ค่ะ
00:08:22 → 00:08:26 โอกาสที่ทารกคนนั้นจะได้รับเชื้อนี่มันมี
00:08:26 → 00:08:28 ตัวเลขออกมามั้ยคะอาจารย์หมอคะว่า 100%
00:08:28 → 00:08:31 เลยว่าเด็กจะติดเชื้อจากคุณแม่อย่างเงี้ย
00:08:31 → 00:08:34 ค่ะอันนี้ขึ้นอยู่กับอ่าการคุมไวรัสของ
00:08:34 → 00:08:36 มารดาด้วยค่ะอ๋อเป็นไปได้เหมือนกันว่าคุณ
00:08:36 → 00:08:39 แม่ติดเชื้อแต่ลูกอาจจะไม่ได้รับเชื้อก็
00:08:39 → 00:08:41 ได้ใช่ๆค่ะๆค่ะเพราะฉะนั้นถ้าถ้าคุณแม่
00:08:41 → 00:08:45 ที่เป็น HIV แล้วมีการกินยาต้านที่ดีมี
00:08:45 → 00:08:49 ไวรัสที่กดได้ก็โอกาสที่เด็กจะติดเชื้อก็
00:08:49 → 00:08:52 คือน้อยมากค่ะเพราะฉะนั้นก็คือแนะนำว่า
00:08:52 → 00:08:54 ถ้าเกิดเรารู้สเตตัสคุณแม่รู้สเตตัสตนเอง
00:08:54 → 00:08:57 ว่าเป็นเช HIV หมอแนะนำให้รีบเข้าสู่การ
00:08:57 → 00:09:00 รักษาดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ค่ะเพื่อที่ว่า
00:09:00 → 00:09:03 ลูกจะได้ไม่มีการติดเชื้อ hiv ตามมาค่ะ
00:09:03 → 00:09:05 ปัจจุบันการตรวจการติดเชื้อค่ะอาจารย์หมอ
00:09:05 → 00:09:09 คะใช้วิธีการแบบไหนบ้างคะปัจจุบันเทสหลัก
00:09:09 → 00:09:12 ๆก็จะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆเป็น 2 กลุ่มนะคะ
00:09:12 → 00:09:14 ก็คือกลุ่มแรกนี่เป็น rapid Test ก็คือ
00:09:14 → 00:09:17 เป็น Test หรือว่า S testing ก็คือเป็น
00:09:17 → 00:09:21 เป็นเทสที่ประชาชนสามารถที่จะเทสเหล่านี้
00:09:21 → 00:09:24 เองที่บ้านได้ค่ะซึ่งปัจจุบันที่ประเทศ
00:09:24 → 00:09:26 ไทยเรามีนะคะก็จะมี 2 แบบด้วยกันก็คือ
00:09:26 → 00:09:29 เป็นเจาะปลายนิ้วเจาะเลือดปลายนิ้วเทสนะ
00:09:29 → 00:09:31 คะกับอันที่ 2 ก็คือเป็นการตรวจในในช่อง
00:09:31 → 00:09:35 ปากค่ะค่ะก็สามารถเทสได้สมัยใหม่มากขึ้น
00:09:35 → 00:09:37 เลยนะคะค่ะก็คืออยู่ที่บ้านอยู่ในที่ของ
00:09:37 → 00:09:40 ตัวเองแล้วก็เทสทราบผลได้เลยแต่ว่าข้อ
00:09:40 → 00:09:43 เสียของวิธีนี้ก็คือต้องต้องแปลผลเป็น
00:09:43 → 00:09:45 ต้องรู้ว่าโอเคเมื่อไหร่เทสเป็นบวกเมื่อ
00:09:45 → 00:09:48 ไหร่เทสเป็นลบเข้าใจข้อจำกัดบางอย่างเช่น
00:09:48 → 00:09:50 ว่าถ้าเราตรวจในช่วงที่มันเร็วเกินไป
00:09:50 → 00:09:52 อย่างเงี้ยค่ะหลังจากที่ไปมีความเสี่ยง
00:09:52 → 00:09:56 มันอาจจะยังไม่บวกก็ได้ค่ะค่ะแล้วก็ต้อง
00:09:56 → 00:09:58 มีการศึกษาในเรื่องของเครื่องมือในการ
00:09:58 → 00:09:59 ตรวจด้วย
00:09:59 → 00:10:02 ใช่ค่ะแล้วก็ระหว่างทางนั้นระยะเวลาในการ
00:10:02 → 00:10:06 พบก็ไม่ใช่ว่าจะพบได้ทันทีใช่ค่ะใช่ค่ะ
00:10:06 → 00:10:09 นอกจากที่จะเป็นกลุ่มเทสที่เป็นเ testing
00:10:09 → 00:10:11 ที่ทำที่บ้านแล้วนะคะก็จะเป็นการตรวจที่
00:10:11 → 00:10:14 เป็นเครื่องที่อยู่ในโรงพยาบาลเนี่ยค่ะก็
00:10:14 → 00:10:16 อันนี้ก็จะได้มาตรฐานที่สุดก็คือว่าถ้า
00:10:16 → 00:10:19 สมมุติว่าคนไข้คนไหนมีความเสี่ยงก็สามารถ
00:10:19 → 00:10:21 มาตรวจที่โรงพยาบาลได้หรือแม้กระทั่ง
00:10:21 → 00:10:24 สมมุติว่าทำเทสที่เป็น sal testing เอง
00:10:24 → 00:10:27 แล้วผลเป็นบวกก็ควรมาคอนเฟิร์มด้วยผลที่
00:10:27 → 00:10:30 เป็นเครื่องจากในที่ลงโรงพยาบาลอยู่ดีค่ะ
00:10:30 → 00:10:34 ค่ะค่ะก็ทำให้เราได้รู้ในมุมที่ลึกลงไป
00:10:34 → 00:10:36 เหมือนกันนะคะอาจารย์หมอคะเพราะว่าเราได้
00:10:36 → 00:10:39 ยินคำว่าเช HIV แล้วก็คำว่า Age อย่าง
00:10:39 → 00:10:44 เงี้ยหลายคนกลัวกลัวแล้วก็ทำให้การเข้า
00:10:44 → 00:10:47 ถึงเรื่องของข้อมูลเนี่ยฟังกันต่อๆกันมา
00:10:47 → 00:10:49 ไม่ใช่ข้อมูลที่ทางการแพทย์หรือที่คุยกับ
00:10:49 → 00:10:51 อาจารย์หมอนะคะอาจจะมีความรู้สึกที่แบบ
00:10:51 → 00:10:53 ว่าเอ้ยรู้ว่าคนนี้เป็นก็มีการตีนตัวออก
00:10:53 → 00:10:56 ห่างหรือคิดไปในทางที่ว่ามันติดกันง่าย
00:10:56 → 00:10:57 เหลือเกินอย่างเงี้ยค่ะอยากให้อาจารย์
00:10:57 → 00:11:00 ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยค่ะว่าโรคนี้มันติด
00:11:00 → 00:11:03 ต่อกันได้ง่ายอย่างที่หลายคนเข้าใจหรือ
00:11:03 → 00:11:07 เปล่าคะค่ะจริงๆเราไม่อยากให้ตีตราคนไข้
00:11:08 → 00:11:10 กลุ่ม HIV นะคะจริงๆเขาก็คือเหมือนคนทั่ว
00:11:10 → 00:11:13 ไปเหมือนประชากรทั่วไปที่ใช้ชีวิตอยู่ใน
00:11:13 → 00:11:16 สังคมได้แบบปกติค่ะเพราะว่าการติดเชื้อ
00:11:16 → 00:11:18 เนี่ยอย่างที่บอกไปว่าอ่าเชื้อ HIV มัน
00:11:18 → 00:11:21 ผ่านตัวกลางบางอย่างเท่านั้นโดยเฉพาะ
00:11:21 → 00:11:24 เลือดหรือว่าสารคัดหลังที่มีเลือดปนค่ะ
00:11:24 → 00:11:26 เพราะฉะนั้นเนี่ยการใช้ชีวิตในชีวิตประจำ
00:11:26 → 00:11:29 วันของคนไข้นะคะเช่นการรับประทานอาหาร
00:11:29 → 00:11:32 ร่วมกันการกอดกันการออกกำลังร่วมกันน่ะ
00:11:32 → 00:11:35 ค่ะไม่ติดแน่นอนโอกาสที่จะติดก็คืออย่าง
00:11:35 → 00:11:38 ที่หมอเล่ามันต้องแบบมีเลือดไปสัมผัส
00:11:38 → 00:11:40 เลือดกันหรือว่ามีการมีเรื่องของ
00:11:40 → 00:11:44 เพศสัมพันธ์ค่ะค่ะเพราะฉะนั้นก็อยากให้
00:11:44 → 00:11:47 ให้ทุกคนมองผู้ป่วย HIV เป็นเหมือนส่วน
00:11:47 → 00:11:49 หนึ่งของคนในสังคมแบบปกติสามารถใช้ชีวิต
00:11:49 → 00:11:53 ร่วมกันได้ค่ะค่ะเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมาก
00:11:53 → 00:11:56 ๆค่ะอาจารย์หมอคะนอกจากนี้ค่ะการป้องกัน
00:11:56 → 00:11:59 นะคะเราสามารถป้องกันให้เราเนี่ยห่างไกล
00:11:59 → 00:12:02 จากการติดเชื้อนี้ได้ยังไงบ้างคะค่ะก็
00:12:02 → 00:12:05 อย่างแรกนะคะก็คือถ้ามีเพศสัมพันธ์ก็แนะ
00:12:05 → 00:12:08 นำให้ใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์นะ
00:12:08 → 00:12:10 คะหรือว่าหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทางเพศที่มัน
00:12:10 → 00:12:12 เสี่ยงต่อการติดเชื้อเช่นการเปลี่ยนคู่
00:12:12 → 00:12:15 นอนบ่อยๆหรือว่ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่
00:12:15 → 00:12:18 เขามีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่อันนี้
00:12:18 → 00:12:20 ก็จะติดเชื้อ hiv ได้ง่ายขึ้นนะคะรวมไป
00:12:21 → 00:12:24 ถึงการใช้ยาป้องกันการติดเชื้อ hiv นะคะ
00:12:24 → 00:12:26 แล้วก็สุดท้ายก็คือหลีกเลี่ยงการใช้เข็ม
00:12:26 → 00:12:29 หรืออุปกรณ์ฉีดยาร่วมกับผู้อื่นค่ะค่ะ
00:12:29 → 00:12:31 ก่อนจากกันวันนี้อยากให้อาจารย์หมอช่วย
00:12:31 → 00:12:33 ฝากถึงผู้ฟังที่กำลังฟัง podcast อยู่ใน
00:12:33 → 00:12:37 เรื่องเกี่ยวกับ Age หรือว่า siv ค่ะค่ะ
00:12:37 → 00:12:40 ก็สำหรับประชาชนทั่วไปนะคะที่มีความ
00:12:40 → 00:12:42 เสี่ยงนะคะหรือว่าตระหนักว่าตนอาจจะมี
00:12:42 → 00:12:44 ความเสี่ยงในการติดเชื้อได้หมอแนะนำให้
00:12:44 → 00:12:48 เข้าถึงระบบบริการสุขภาพอาจจะใช้เทสที่
00:12:48 → 00:12:50 เป็นเ testing ที่บ้านก่อนก็ได้หรือว่า
00:12:50 → 00:12:53 ถ้าไม่มั่นใจก็คือสามารถมาตรวจที่โรง
00:12:53 → 00:12:55 พยาบาลใกล้บ้านได้นะคะปัจจุบันเนี่ยเรามี
00:12:55 → 00:12:58 ยาต้านไวรัสที่แบบมีประสิทธิภาพสูงแล้วก็
00:12:58 → 00:13:00 ผลข้างเคียงต่ำเนาะเพฉะนั้นผู้ผู้ติด
00:13:00 → 00:13:03 เชื้อ hiv เนี่ยสามารถที่จะได้รับยาเข้า
00:13:03 → 00:13:06 ถึงระบบบริการโดยเร็วแล้วก็สามารถที่จะ
00:13:06 → 00:13:09 ได้รับการรักษาที่เหมาะสมก็จะสามารถใช้
00:13:09 → 00:13:11 ชีวิตอย่างมีความสุขแล้วก็มีคุณภาพชีวิต
00:13:11 → 00:13:13 ที่ดีต่อไปได้ค่ะเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่า
00:13:13 → 00:13:16 มากๆเลยค่ะที่ได้มาพูดคุยกันต้องขอบพระ
00:13:16 → 00:13:19 คุณอาจารย์หมอมากๆนะคะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะ
00:13:19 → 00:13:23 med cmu podcast Fun for help
00:13:23 → 00:13:27 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:13:27 → 00:13:30 เรา
00:13:30 → 00:13:33 y