00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีค่ะพบกับฟารแล้วก็ช่องซนไยนนะคะ
00:00:03 → 00:00:06 สัปดาห์นี้ค่ะเราจะมารู้ลึกรู้จริงไปกับ
00:00:06 → 00:00:08 เรื่องราวของ cgm หรือว่าตัววัดระดับน้ำ
00:00:09 → 00:00:11 ตาลแบบต่อเนื่องนั่นเองค่ะก็สำหรับคำถาม
00:00:11 → 00:00:14 ข้อแรกเลยนะคะว่า cgm คืออะไร cgm เนี่ย
00:00:14 → 00:00:16 ก็ย่อมาจากภาษาอังกฤษก็คือ contin
00:00:16 → 00:00:17 Continuous glucose monitoring นะคะ
00:00:18 → 00:00:20 หรือว่าเป็นตัวที่เราเอ่อช่วยเราเนี่ยวัด
00:00:20 → 00:00:22 ระดับน้ำตาลเนี่ยอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
00:00:23 → 00:00:25 ค่ะโดยที่มาที่ไปเนี่ยจริงๆมันก็เริ่มมา
00:00:25 → 00:00:28 จากการความพยายามเนาะในการพัฒนาการดูแลคน
00:00:28 → 00:00:30 ไข้ที่เป็นเบาหวานเพราะเราก็จะรู้ว่าคนไข
00:00:30 → 00:00:33 เบาหวานเนี่ยก็มักจะมีปัญหาในเรื่องของพอ
00:00:33 → 00:00:35 ใช้ยาไปแล้วใช้อินซูลินไปแล้วเนี่ยก็จะมี
00:00:35 → 00:00:37 ภาวะในเรื่องของแรบน้ำตาล่ำซึ่งเป็น
00:00:37 → 00:00:40 อันตรายถึงแก่ชีวิตได้แลปกติเนี่ยคนไข้
00:00:40 → 00:00:42 ที่เป็นเบาหวานหลายท่านเลยก็ต้องคอยตรวจ
00:00:42 → 00:00:44 แบบจิ้มนิ้วจิ้นิ้วตลอดเวลานะคะซึ่ง
00:00:44 → 00:00:46 บริเวณปลายนิ้วเนี่ยก็คือเจ็บมากอีกต่าง
00:00:46 → 00:00:49 หากเค้าก็เลยพยายามจะพัฒนาว่าเอ๊ะทำยังไง
00:00:49 → 00:00:51 เนี่ยมันถึงจะได้ไม่ต้องมานั่งคอยจิ้ม
00:00:51 → 00:00:54 นิ้วก็เลยเป็นที่มาของความพยายามพัฒนา
00:00:54 → 00:00:56 เจ้าตัวเครื่องที่เรียกว่า cgm นั่นเอง
00:00:56 → 00:00:59 ค่ะซึ่งถ้าเราไปดูนะคะส่วนประกอบของ cgm
00:00:59 → 00:01:01 ค่ะเหมือนที่เราเห็นให้ดูในรูปนะซึ่งก็
00:01:01 → 00:01:04 คือพวก cgm ที่ฟ้ากับเพื่อนๆเคยติดกันมา
00:01:04 → 00:01:07 นะคะตัว cgm เนี่ยมันก็จะประกอบไปด้วยตัว
00:01:07 → 00:01:09 เซ็นเซอร์นะคะซึ่งตัวเซ็นเซอร์นี่ก็คือ
00:01:09 → 00:01:12 ไอ้ตัวเส้นตัวฟิลาเมนต์อันเล็กๆที่มัน
00:01:12 → 00:01:14 เป็นเห็นเราที่เราเห็นเป็นใสๆค่ะเสร็จ
00:01:14 → 00:01:16 ปุ๊บเนี่ยในตัวเครื่องที่ติดอยู่กับร่าง
00:01:16 → 00:01:18 กายของเราเนี่ยเค้าก็จะมีตัวที่เค้าเรียก
00:01:18 → 00:01:20 ว่าตัวส่งสัญญาณหรือว่า transmitter ค่ะ
00:01:20 → 00:01:22 แล้วก็จะมีตัวที่ใช้อ่านผลซึ่งส่วนใหญ่
00:01:22 → 00:01:25 เนี่ยก็มักจะให้เอ่อเค้าเรียกว่า Connect
00:01:25 → 00:01:27 หรือว่าต่อเข้ากับมือถือนั่นเองค่ะซึ่ง
00:01:27 → 00:01:29 เจ้าไอ้ไมโครฟิลาเมนต์อันนี้นะคะที่เป็น
00:01:29 → 00:01:31 เซ็นเซอร์ที่วัดเนี่ยตรงปลายของเขาค
00:01:31 → 00:01:33 บริเวณที่เขาใช้อ่านเนี่ยมันก็จะประกอบไป
00:01:34 → 00:01:36 ด้วยตัวเอนไซม์นั่นเองค่ะก็คือเขาใช้ดู
00:01:36 → 00:01:38 ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับเอนไซม์นะคะในการ
00:01:38 → 00:01:41 อ่านค่าปริมาณของน้ำตาลออกมาซึ่งน้ำตาล
00:01:41 → 00:01:43 ที่วัดเนี่ยจริงๆแล้วไม่ได้วัดจากในเลือด
00:01:43 → 00:01:45 ค่ะแต่ว่าวัดจากของเหลวเนาะที่อยู่
00:01:45 → 00:01:47 ระหว่างเนื้อเยื่อต่างๆที่เราเรียกว่า
00:01:47 → 00:01:49 interstitial fluid ค่ะบริเวณที่เรา
00:01:49 → 00:01:51 นิยมติดกันนะคะก็คือจะมีตั้งแต่บริเวณ
00:01:51 → 00:01:53 หน้าท้องค่ะหรือว่าบริเวณท้องแขนซึ่งมัน
00:01:53 → 00:01:56 มีไขมันนะคะโดยประสบการณ์ส่วนตัวตั้งแต่
00:01:56 → 00:01:58 ติดมาเนี่ยถ้าเป็นในกลุ่มที่ไม่ใช่คนไข้
00:01:58 → 00:02:00 เบาหวานนะเป็นสายฟิตเนสสายดูแลสุขภาพชอบ
00:02:00 → 00:02:02 ออกกำลังกายเนี่ยบริเวณท้องแขงเนี่ยก็จะ
00:02:02 → 00:02:04 เป็นบริเวณที่ติดแล้วเนี่ยไม่ค่อยกวนกับ
00:02:04 → 00:02:06 เรื่องของการออกกำลังกายเท่าไหร่แต่ว่า
00:02:06 → 00:02:08 ถ้าเกิดว่าติดตรงหน้าท้องเนี่ยบางทีมันก็
00:02:08 → 00:02:10 จะมีท่า zip up บ้างหรือบางทีเรามีการ
00:02:10 → 00:02:13 ออกกำลังกายลวดผลแบบ tracking บ้างสตัน
00:02:13 → 00:02:15 บ้างก็อาจจะทำให้เซ็นเซอร์มันหลดออกมาได้
00:02:15 → 00:02:17 ค่ะส่วน cgm นะคะทั่วโลกเนี่ยก็มีหลาก
00:02:17 → 00:02:19 หลายแบรนด์ค่ะแต่ว่าในไทยเนี่ยมีแค่ 3
00:02:19 → 00:02:22 แบรนด์เท่านั้นนะคะที่ผ่านอยค่ะก็เดี๋ยว
00:02:22 → 00:02:24 จะมีขึ้นรูปไว้ให้ดูนะคะทุกแบรนด์นี่ก็จะ
00:02:24 → 00:02:26 มีเป็นแอปพลิเคชันของตัวเองค่ะก็จะมีตัว
00:02:26 → 00:02:31 idex นะคะมีตัวเอ่อ any Time ค่ะจะก็
00:02:31 → 00:02:33 ชื่อเซ็นเซอร์มันจะเป็น ct3 ct1 แล้วก็
00:02:33 → 00:02:36 ตัวของไ canan ค่ะแต่ว่าตัวที่เราพบว่า
00:02:36 → 00:02:38 ค่อนข้างมีความแม่นยำเี่ก็จะเป็น decom 7
00:02:38 → 00:02:42 นะคะแล้วก็ตัวที่เอ่อมักจะมีการใช้เนาะใน
00:02:42 → 00:02:43 กลุ่มของนักกีฬาส่วนใหญ่ก็จะเป็นตัว
00:02:43 → 00:02:46 freestyle lier ของ abbo ค่ะซึ่งวันนี้
00:02:46 → 00:02:48 นะคะรายละเอียดที่ฟ้าจะมาใช้ให้ฟังอ่ะก็
00:02:48 → 00:02:50 เกี่ยวกับการแปลผลหรือว่าการใช้ในกลุ่มคน
00:02:50 → 00:02:52 ที่ไม่ได้เป็นเบาหวานค่ะสำหรับคนที่เป็น
00:02:52 → 00:02:55 เบาหวานเนี่ยก็สามารถคุยกับคุณหมอประจำ
00:02:55 → 00:02:57 ตัวได้เลยเนาะว่าจะมีเอ่อแนวทางในการติด
00:02:57 → 00:02:59 หรือว่าการแปลผลยังไงบ้างทีนี้เนี่ยไอ้
00:02:59 → 00:03:02 ตัวตัว cgm เนี่ยเอามาใช้ในคนที่ไม่ได้
00:03:02 → 00:03:04 เป็นเมาหวานหรือว่าคนสนใจดูแลสุขภาพยังไง
00:03:04 → 00:03:07 บ้างเค้าก็พบว่ามันให้ข้อมูลนะคะอย่างแรก
00:03:07 → 00:03:10 เลยเนี่ยค่ะทำให้เรารู้ว่ากิจกรรมอะไรใน
00:03:10 → 00:03:12 แต่ละวันเนี่ยทำให้น้ำตาลขึ้นหรือน้ำตาล
00:03:12 → 00:03:14 ลงทำให้เรารู้ว่าเวลาเราออกกำลังกายเนี่ย
00:03:14 → 00:03:17 จะมีช่วงไหนที่น้ำตาลเราตกมากกว่าปกติ
00:03:17 → 00:03:19 หรือว่าอาหารชนิดไหนที่เวลาเรากินทำให้
00:03:19 → 00:03:21 ขึ้นสูงกว่าปกติค่ะก็จะมีจากตัวอย่างใน
00:03:21 → 00:03:24 รูปที่เป็นของฟ้าเองนะคะส่งให้ดูค่ะตัว
00:03:24 → 00:03:25 อย่างเช่นถ้าเกิดบางท่านเนี่ยบางช่วง
00:03:25 → 00:03:27 เนี่ยอยากจะพยายามควบคุมเรื่องน้้ำตาลใช่
00:03:28 → 00:03:30 มั้ยคะก็อาจจะลองกินอาหารพวกขีค่ะตัว
00:03:30 → 00:03:32 เซ็นเซอร์เหล่านี้เนี่ยก็จะทำให้เรารู้
00:03:32 → 00:03:34 เลยว่าเอ๊ะอาหารอันไหนเนี่ยมันคีโตของแท้
00:03:34 → 00:03:36 หรือเปล่าหรือว่าคีโตของบอมหรือเปล่าหรือ
00:03:36 → 00:03:38 ว่าอาหารอันไหนเนี่ยที่พอเวลาเราทานแล้ว
00:03:38 → 00:03:41 เนี่ยทำให้ระดับน้ำตาลของเรามันสปหรือว่า
00:03:41 → 00:03:43 พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วค่ะซึ่งในคนที่ดู
00:03:43 → 00:03:45 แลสุขภาพส่วนใหญ่นะคะโดยเฉพาะในสายนัก
00:03:45 → 00:03:48 กีฬาเนี่ยเราก็จะีเา้าเรียกว่ารักษาระดับ
00:03:48 → 00:03:50 น้ำตาลนะคะจากไอ้ตัวเครื่องพวกเนี้ยส่วน
00:03:50 → 00:03:53 ใหญ่ก็จะอยู่ในช่วงประมาณ 70 -150 ค่ะ
00:03:53 → 00:03:55 เพราะเพบว่าถ้าเกิดเวลาที่ระดับน้ำตาลมัน
00:03:55 → 00:03:58 ต่ำเกิน 70 เนี่ยก็มันจะทำให้ตัวเรื่อง
00:03:58 → 00:04:00 ของการซ่อมแซมการฟื้นฟูของกล้ามเนื้อ
00:04:00 → 00:04:03 เนี่ยเป็นไปค่อนข้างช้าทำให้เอ่อกะมีการ
00:04:03 → 00:04:05 บาดเจ็บนะคะหรือว่าปวดเมื่อยได้ค่อนข้าง
00:04:05 → 00:04:07 นานส่วนเวลาที่ระดับน้ำตาลมันสูงเกิน 150
00:04:07 → 00:04:10 ค่ะเขาเรียกว่าทำให้เกิดเรื่องของชูการสป
00:04:10 → 00:04:12 เนการพุ่งขึ้นสูงของระดับน้ำตาลซึ่งพอ
00:04:12 → 00:04:14 เวลาพุ่งสูงขึ้นปุ๊บเนี่ยอินซูลินเนี่ยก็
00:04:14 → 00:04:16 จะต้องเข้ามาเพื่อลดระดับน้ำตาลอย่างรวด
00:04:16 → 00:04:18 เร็วก็อาจจะทำให้เกิดรีบาไฮโปไกลเซเยหรือ
00:04:19 → 00:04:21 ว่าภาวะน้ำตาลตกก็จะยิ่งทำให้การฟื้นฟู
00:04:21 → 00:04:23 เนี่ยเป็นไปได้ค่อนข้างช้าเช่นกันนอกจาก
00:04:23 → 00:04:25 นั้นในนักกีฬาที่ออกกำลังกายนานๆนะคะ
00:04:25 → 00:04:27 อย่างพวกสายนักวิ่งเนาะพวก long Distance
00:04:27 → 00:04:29 Running เนี่ยวิ่งระยะยาววิ่งมาราธอน
00:04:29 → 00:04:31 เนี่ยจริงๆก็ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้มี
00:04:31 → 00:04:33 ภาวะน้ำตาลตกระหว่างวิ่งค่ะก็จะทำให้มี
00:04:33 → 00:04:36 แรงอึดแล้วก็วิ่งได้นานขึ้นนั่นเองซึ่ง
00:04:36 → 00:04:38 ข้อมูลต่างๆเหล่านี้ค่ะพอเวลาใช้แล้ว
00:04:38 → 00:04:40 เนี่ยก็จะทำให้คนที่ออกกำลังกายนะคะหรือ
00:04:40 → 00:04:42 แม้แต่นักวิ่งเนี่ยสามารถประเมินได้ค่ะ
00:04:42 → 00:04:44 ว่าช่วงไหนที่จะต้องเสริมพวกพลังงานอาจจะ
00:04:44 → 00:04:46 ต้องทานอาหารพวกกลุ่มคาร์โบไฮเดรตเพิ่ม
00:04:46 → 00:04:49 เข้าไปเป็นต้นหรือในคนทั่วไปก็จะทำให้เรา
00:04:49 → 00:04:51 เนี่ยเกิดความเข้าใจมากขึ้นว่าอาหารชนิด
00:04:51 → 00:04:53 ไหนที่เรากินแล้วเนี่ยทำให้น้ำตาลในเลือด
00:04:53 → 00:04:55 ของเราพุ่งสูงก็อาจจะเป็นอาหารที่เรา
00:04:55 → 00:04:57 จำเป็นจะต้องเลี่ยงค่ะซึ่งจากประสบการณ์
00:04:57 → 00:04:59 ส่วนตัวเนี่ยตัวที่ทำให้ค่าน้ำตาลพุ่ง
00:04:59 → 00:05:01 ขึ้นสูสูงมากๆนะคะมักจะเป็นกลุ่มอาหารแปร
00:05:01 → 00:05:04 รูปค่ะหรือแม้แต่ในพวกกลุ่มนมทางเลือกนะ
00:05:04 → 00:05:06 คะโดยเฉพาะโอ๊ตนิ้วเนี่ยตัวดีเลยค่ะเพราะ
00:05:06 → 00:05:08 ว่าเขาคมักจะมีในเรื่องของการปรุงแต่งโดย
00:05:08 → 00:05:10 การใส่พวกไขมันอิ่มตัวเนี่ยเข้ามาค่อน
00:05:11 → 00:05:13 ข้างเยอะนั่นเองแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนะคะ
00:05:13 → 00:05:15 ตัว cgm เนี่ยมันก็จะมีบางอย่างค่ะที่เรา
00:05:15 → 00:05:17 เรียกว่าเป็น noise คือสิ่งที่ทำให้ตัว
00:05:17 → 00:05:20 ค่าเหล่าเมันคลาดเคลืนได้อย่างแรกเลยนะคะ
00:05:20 → 00:05:22 เราพบว่าภาวะการขาดน้ำค่ะหรือว่า
00:05:22 → 00:05:25 ดีไฮเดรชั่นดื่มน้ำไม่พอนี่ก็จะทำให้ตัว
00:05:25 → 00:05:27 ของเหลวที่อยู่ระหว่างเนื้อเยื่อเนี่ยมี
00:05:27 → 00:05:29 ปริมาณค่อนข้างน้อยก็เลยทำให้ระดับน้ำตา
00:05:29 → 00:05:31 เนี่ยมันค่อนข้างเข้มข้นขึ้นก็เป็นสาเหตุ
00:05:31 → 00:05:34 นึงที่ทำให้น้ำตาลสูงลอยได้ตลอดนะคะอย่าง
00:05:34 → 00:05:37 ที่ 2 ค่ะก็คือเรื่องของวิตามินซีค่ะ
00:05:37 → 00:05:39 วิตามิน 4 เนี่ยจะไปกลกับเอนไซม์ตรง
00:05:39 → 00:05:41 เซ็นเซอร์นะคะก็อาจจะมีผลทำให้การอ่านค่า
00:05:41 → 00:05:45 เนี่ยสูงผิดปกติได้เช่นกันค่ะเพราะฉะนั้น
00:05:45 → 00:05:47 แล้วเนี่ยนะคะการใช้ cgm เนี่ยถึงแม้ว่า
00:05:47 → 00:05:49 จะมีประโยชน์มากมายแต่ว่าก็ไม่ได้เหมาะ
00:05:49 → 00:05:52 กับทุกคนค่ะเราพบว่าบางคนเนี่ยก็ไม่
00:05:52 → 00:05:53 สามารถทนใช้ได้ต่อเนื่องเพราะว่าอายุของ
00:05:53 → 00:05:56 เซ็นเซอร์แต่ละยี่ห้อเนี่ยก็จะมีอายุไม่
00:05:56 → 00:05:58 เท่ากันนะคะบางยี่ห้ออยู่ได้ 10 วันบาง
00:05:58 → 00:06:00 ยี่ห้ออยู่ได้ 14 4-15 วันค่ะก็คือจะ
00:06:01 → 00:06:03 อยู่ในช่วงประมาณ 1 อาทิตย์ครึ่งถึง 2
00:06:03 → 00:06:06 สัปดาห์นั่นเองทนี่ผลข้างเคียงหรือว่า
00:06:06 → 00:06:08 สิ่งที่จะทำให้คนไม่สามารถติดได้ตลอดมี
00:06:08 → 00:06:10 อะไรบ้างก็คือเจ็บค่ะบางคนก็อาจจะรู้สึก
00:06:10 → 00:06:12 เจ็บได้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไมโครฟิลาเมนต์
00:06:12 → 00:06:13 ก็ตามเนแต่มันก็เหมือนมีเซ็นเซอร์อะไรมา
00:06:13 → 00:06:16 แปะที่ตัวตลอดอย่างที่ 2 เนี่ยก็คือบางคน
00:06:16 → 00:06:19 เนี่ยอาจจะแพะกับไอ้ตัวที่เอาไว้ใช้ปิด
00:06:19 → 00:06:21 เซ็นเซอร์รอบๆนะคะไอ้พวกตัวพลาสเตอร์รอบๆ
00:06:21 → 00:06:24 เนี่ยก็มีโอกาสที่จะทำให้ไม่สามารถติดเ่อ
00:06:24 → 00:06:26 เซ็นเซอร์ได้ตลอดนอกจากนั้นแล้วที่เราพบ
00:06:26 → 00:06:30 นะคะเราก็พบว่าไม่เหมาะกับกลุ่มคนที่
00:06:30 → 00:06:33 ไม่ต้องการจะทราบข้อมูลของร่างกายตัวเอง
00:06:33 → 00:06:36 เยอะเกินไปค่ะบางคนเนี่ยก็ให้ข้อมูล
00:06:36 → 00:06:38 ฟีดแบคกลับมาว่าพอติดไอ้ตัวเครื่องเหล่า
00:06:38 → 00:06:40 นี้แล้วเนี่ยได้ข้อมูลน้ำตาลขึ้นตลอดๆ
00:06:40 → 00:06:42 ตลอดเลยจนกระทั่งทำให้รู้สึกเครียดแล้วก็
00:06:42 → 00:06:45 กังวลกับการกินก็ยิ่งเครียดหนักกว่าเดิม
00:06:45 → 00:06:46 ถ้าเป็นอย่างนี้เนี่ยก็ถือว่าผิดจุด
00:06:46 → 00:06:48 ประสงค์ของการใช้ Data หรือว่าการใช้ข้อ
00:06:48 → 00:06:50 มูลน้ำตาลเพื่อมาปรับปรุงสุขภาพฉะนั้นก็
00:06:50 → 00:06:53 อาจจะต้องดูเรื่องของบุคลิกลักษณะนิสัย
00:06:53 → 00:06:55 ของเราหรือในถ้าเกิดว่าท่านไหนที่ดูอยู่
00:06:55 → 00:06:57 เนี่ยเป็นคุณหมอหรือว่าเป็น He Coach
00:06:57 → 00:07:00 เนี่ยก็ต้องดูเค้าเรียกว่าคหรหรือว่า
00:07:00 → 00:07:03 อุปนิสัยของคนที่เราดูแลด้วยว่าเาจะเหมาะ
00:07:03 → 00:07:06 ที่จะใช้ไอ้ตัว cgm หรือไม่ค่ะก็เป็นข้อ
00:07:06 → 00:07:08 มูลเกี่ยวกับตัว Continuous glucose
00:07:08 → 00:07:10 monitoring หรือว่า cgm ที่ฟ้านมาฝากทุก
00:07:10 → 00:07:13 คนนะคะก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ค่ะเราอยู่
00:07:13 → 00:07:16 ในยุคที่เราเรียกว่าใช้ตัวข้อมูลหรือว่า
00:07:16 → 00:07:17 Data เนี่ยเป็นตัวที่ช่วยเราตัดสินใจ
00:07:17 → 00:07:19 เนาะเพงั้นถ้าเกิดว่าในกลุ่มคนที่รู้สึก
00:07:19 → 00:07:22 ว่าเอ้ยในเมื่อร่างกายเนี่ยมันพยายามจะ
00:07:22 → 00:07:24 ส่งเสียงบอกเราซึ่งบางทีเราอาจจะไม่ได้
00:07:24 → 00:07:26 ยินเค้าเราก็สามารถใช้ไอ้พวก ccm เหล่า
00:07:26 → 00:07:28 เนี้ยเป็นตัวที่ช่วยทำให้เราเนี่ยได้ยิน
00:07:28 → 00:07:30 เสียงของร่างกายที่บอกเราค่ะว่าหลังการทำ
00:07:30 → 00:07:32 อาหารหรือการทำกิจกรรมต่างๆเนี่ยเครู้สึก
00:07:32 → 00:07:35 ยังไงมาเป็นตัวช่วยทำให้เราเนี่ยเอ่อ
00:07:35 → 00:07:38 สามารถดำเนินชีวิตหรือว่าใช้ไลฟ์สไตล์ที่
00:07:38 → 00:07:43 ดีต่อสุขภาพได้อย่างยั่งยืนนะค่ะ