00:00:00 → 00:00:01 อาจารย์คะพูดถึงเรื่อง Sleep Test เลย
00:00:01 → 00:00:04 ค่ะอาจารย์คุณเปิดมาแบบนี้เอออ้าบางคนก็
00:00:04 → 00:00:07 แบบว่าง่วงเนาะแต่ว่าอาจารย์คะ Sleep
00:00:07 → 00:00:09 Test นี่เหมาะกับคนแบบไหนคะที่จะต้องสม
00:00:10 → 00:00:13 ควรได้รับการตรวจคะอาจารย์คือส่วนใหญ่
00:00:13 → 00:00:15 เวลาสลป Test เราก็เอาไว้ในการวินิจฉัย
00:00:15 → 00:00:18 โรกใช่มั้ยครับเนาะเอาไว้ก็คือเป็นเทสคือ
00:00:18 → 00:00:20 เอาไว้วินิจฉัยสมมุติว่าอ่าโลกคนที่เวลา
00:00:20 → 00:00:24 พูดถึงสลปเทสส่วนใหญ่ก็คือคนที่สงสัยเอ๊ะ
00:00:24 → 00:00:27 มีภาวะอ่าหยุดหายใจไปขณะหลับหรือเปล่า
00:00:27 → 00:00:30 อะไรเงี้ยครับซึ่งคนกลุ่มนี้ก็จะมีอาการ
00:00:30 → 00:00:33 แบบง่วเหงาหานอนตอนกลางวันมากๆที่รู้สึก
00:00:33 → 00:00:35 ว่าเอ้ยกลางคืนก็นอนเยอะแล้วนะนอนใน
00:00:35 → 00:00:38 ชั่วโมงที่เพียงพอแล้วอะไรเงี้ยครับแต่
00:00:38 → 00:00:40 ว่าในระหว่างนอนกลางคืนนั้นน่ะอาจจะมี
00:00:40 → 00:00:43 ปัญหาเรื่องหยุดหายใจไปชั่วคราวทำให้หลับ
00:00:43 → 00:00:46 ๆตื่นๆเนาะร่างกายอาจจะไม่ตื่นแต่สมองมัน
00:00:46 → 00:00:49 ตื่นนะครับมันเหมือนหลับไม่ดีมันก็อาจจะ
00:00:49 → 00:00:52 มีเรื่องของอ่าง่วงเหงาหาวนอนในกลางวัน
00:00:53 → 00:00:55 เยอะแยะอะไรอย่างเงี้ยครับเ่อหรือว่า
00:00:55 → 00:00:58 สมาธิไม่ดีง่วงมากระหว่างวันออันนี้ก็ดู
00:00:58 → 00:01:01 เป็นอันตรายไปถ้าเกิดมุ่งมากก็ทำการทำงาน
00:01:01 → 00:01:04 ก็ดูกระทบกับชีวิตประจำวันนะครับหรือว่า
00:01:04 → 00:01:07 มีคนเห็นโอ้โหเรานอนกรนหนักเหลือเกินใช่
00:01:07 → 00:01:11 มั้ยครับนอนกรนรุนแรงมากหรือว่าเอิ่มใน
00:01:11 → 00:01:13 ลักษณะที่บางคนอาจจะหมายถึงว่าเป็น
00:01:13 → 00:01:17 พาร์เนอร์ครับคนที่นอนด้วยอาจจะสังเกต
00:01:17 → 00:01:19 โอ้โหนอนนอนกลนมากแล้วก็ดดีไม่ดีเหมือน
00:01:19 → 00:01:24 แบบจะจะขาดใจตายไปหยุดหายใจไปคึกๆึๆอะไร
00:01:24 → 00:01:26 อย่างเงี้ยครับระหว่างนอนอาจจะอันนี้อาจ
00:01:26 → 00:01:29 จะต้องมามาทำลครับหรือว่าบางคนอาจจะมีโรค
00:01:29 → 00:01:32 ร่วมนะครับโรคหถึงว่านอกจากจะนอนหลับผิด
00:01:32 → 00:01:35 ปกติแล้วอาจจะมีโรคเบาหวานความดันโรคเอ่อ
00:01:35 → 00:01:37 หัวใจอะไรอย่างเงี้ยครับอาจจะต้องมาช่วย
00:01:38 → 00:01:40 ทำเฉพาะโรคลมชักอะไรเงี้ยค่ะอาจจะต้องมา
00:01:40 → 00:01:43 ทำเพื่อทำให้วินิจฉัยโรคนี้ให้ได้แล้วก็
00:01:43 → 00:01:46 จะได้รักษาได้ทุกทางอครับผมอืค่ะอาจารย์
00:01:46 → 00:01:49 คะนอกจากเรื่องของคุณภาพการนอนที่บอกว่า
00:01:49 → 00:01:52 นอนไม่หลับนอนหลับไม่ได้เต็มอิ่มเงี้ยค่ะ
00:01:52 → 00:01:55 สมาธิสนอกจากนี้มันมีเรื่องแบบลมหลับหรือ
00:01:55 → 00:01:57 อะไรอย่างงี้ด้วยมั้ยคะหรืออะไรลมหลับก็
00:01:57 → 00:02:00 เป็นอันหนึ่งครับเหมือนที่น่าจะแต่เคยได้
00:02:00 → 00:02:02 ยินมั้ยฮะลมหลับก็คืออยู่ๆก็คือแบบปอก
00:02:02 → 00:02:06 หลับไปเลยระหว่างวันอยู่ๆก็คือเอิ่มอ่อน
00:02:06 → 00:02:08 แรงเนาเ้าเรียกเป็นลมหลับอยู่ๆก็คืออ่อน
00:02:08 → 00:02:11 แรงเหมือนแบบวุบไปเลยอะไรอย่างเงี้ยครับ
00:02:11 → 00:02:14 ระหว่างวันอืค่ะอ่านี้เป็นโลคความผิดปกติ
00:02:14 → 00:02:18 ของการนอนหลับแบบนึงอืนะครับซึ่งซึ่งอาจ
00:02:18 → 00:02:20 จะไม่ได้เยอะเท่ากรณีแรกเนาะกรณีแรกที่
00:02:20 → 00:02:23 แบบหยุดอ่าการอุดกั้นหายใจระหว่างหลับ
00:02:23 → 00:02:25 เนี่ยอันนี้คือเป็นกรณีที่ค่อนข้างจะเยอะ
00:02:25 → 00:02:28 ที่สุดนะครับแต่อันที่อันตรายด้วยร่วม
00:02:28 → 00:02:31 ด้วยก็คือเรื่องลมหลับลก็คือมันเป็นความ
00:02:31 → 00:02:34 ผิดปติแหละแต่เวลาเราจะวินิจฉัยเนี่ยโลก
00:02:34 → 00:02:38 เยมันดูแค่อาการก็จะดูเอ๊ยังไงดีนอะไร
00:02:38 → 00:02:40 เงี้ยครับก็เอามาพิสูจน์กันด้วยการทำ
00:02:40 → 00:02:43 Sleep Test อืซึ่งก็จะมีขั้นตอนที่แตก
00:02:43 → 00:02:46 ต่างกันไปกับการ Sleep Test เพื่อดูว่า
00:02:46 → 00:02:51 โรคเ่ออุมีมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นคน
00:02:51 → 00:02:53 ละเป็นเป็นคล้ายๆกันแต่ว่ามันมีขั้นตอน
00:02:53 → 00:02:57 เพิ่มขึ้นอะไรอย่าเงี้แล้วกันอค่ะอครับผม
00:02:57 → 00:02:59 ก็แสดงว่า Sleep Test เนี่ยเหมาะกับทั้ง
00:02:59 → 00:03:02 ลมหลับอยู่ดีๆหลับป๊อกอทำไมหลับง่ายหลับ
00:03:02 → 00:03:05 ใดจังกับอีกคนนึงก็คือนอนไม่เต็มอิ่มแล้ว
00:03:05 → 00:03:07 พวกนอนละเมออย่างเงี้ยค่ะเราใช้ Sleep
00:03:07 → 00:03:09 เทสด้วยมั้ยคะได้มั้ยคะอาจารย์ละเมอเนี่ย
00:03:09 → 00:03:12 มันต้องไปแยกอครับว่าเป็นเป็นเป็นละเมอ
00:03:12 → 00:03:15 แบบแบบไหนอืค่ะครับผมหรือว่าคคือเาคือบาง
00:03:16 → 00:03:18 อย่างเช่นนอนดิ้นเยอะแยะอะไรอย่างเงี้ย
00:03:18 → 00:03:20 ครับมันก็จะอาจเป็นการเป็นการละเมอแบบ
00:03:20 → 00:03:22 หนึ่งเนาะแต่ว่ามันนอนดิ้นเยอะหรือว่า
00:03:22 → 00:03:25 เป็นเป็นอาการนอนหลับผิดปกติแบบหนึ่งอัน
00:03:25 → 00:03:26 นี้ก็ต้องใช้ Sleep Test เพื่อช่วย
00:03:26 → 00:03:30 วินิจฉัยเหมือนกันอืค่ะนะครับมีมีโรคอื่น
00:03:30 → 00:03:34 แทรกซ้อนเช่นเ่อนอนหลับผิดปกติแล้วมันมี
00:03:35 → 00:03:37 นอนดิ้นร่วมด้วยอะไรอย่าเงี้ยครับเช่นบาง
00:03:37 → 00:03:40 คนอาจจะมีโรคภาวะพาร์กินสันอะไรซ่อนอยู่
00:03:40 → 00:03:43 หรือเปล่าอะไทำให้มีการนอนดิ้นที่มันผิด
00:03:43 → 00:03:47 ปกติไปตอนที่ดับึอะไรเงี้ยครับหรือเอ่อ
00:03:47 → 00:03:50 หรือว่ากลุ่มที่นอนละเมอใช่มั้ครับเมื่อ
00:03:50 → 00:03:52 กี้เชัถึงนอนละเมอก็คือเป็นการเป็นเวลา
00:03:52 → 00:03:55 เราเราเราเราละเมออ่ะครับบางทีเราก็ไม่
00:03:56 → 00:03:58 รู้ว่าสิ่งเนี้ยมันคือโรคอย่างอื่นหรือ
00:03:58 → 00:04:01 เปล่าเช่นโรคลมชักบางอย่างก็จะมีการ
00:04:01 → 00:04:03 เคลื่อนไหวมีการละเมออย่างเงี้ยคล้ายการ
00:04:03 → 00:04:05 เคลื่อนไหวคล้ายๆละเมอได้เหมือนกันหรือ
00:04:05 → 00:04:08 ว่าโลกที่เป็นละเมอจริงๆอาจจะต้อง
00:04:08 → 00:04:10 วินิจฉัยให้ได้ว่าอันเนี้ยมันคือละเมิ
00:04:10 → 00:04:14 จริงๆแล้วจะได้จะได้เอ่อดูแลขั้นตอนได้
00:04:14 → 00:04:17 ถูกต้องแล้วก็รักษาได้ถูกทางเพราะว่าบาง
00:04:17 → 00:04:20 คนเนี่ยละเมออ่ะครับค่ะสามารถเดินออกไป
00:04:20 → 00:04:22 จากนอกห้องเปิดประตูกดลิบลงไปนู่นนี่นั่น
00:04:22 → 00:04:25 ขึ้นมานอนหลับได้เหมือนเดิมแต่ไม่รู้สึก
00:04:25 → 00:04:28 ตัวนะครับออบางคนละเมอถึงขั้น Cooking
00:04:28 → 00:04:29 เลยนะครับเ้าเรกเป็น Sleep Cooking ก็
00:04:29 → 00:04:32 คือทำอาหารได้เรียบร้อยโอแบบแสดงว่าอาจจะ
00:04:32 → 00:04:35 มีความใฝ่ฝันอยากเป็นมาสเตอร์เชฟในกลาง
00:04:35 → 00:04:39 วันอันเนี้ยคุณหมอครับมันละเมอได้หนัก
00:04:39 → 00:04:41 ขนาดนี้ส่วนใหญ่จะเจอในต่างประเทศหรอครับ
00:04:41 → 00:04:43 หรือว่าในประเทศไทยของเราก็มีคนที่ละเมอ
00:04:43 → 00:04:46 ได้ถึงขั้นเบอร์นี้เลยฮะประก็มีก็มีมี
00:04:46 → 00:04:51 ครับผมอืมีเพียงแต่ว่าก็คือหลักๆเราก็คือ
00:04:51 → 00:04:53 ต้องวินิจฉัยให้ได้ครับมีคนละเมอเยอะ
00:04:53 → 00:04:56 ละเมอถึงขั้นเดินออกไปข้างนอกอะไรอย่าง
00:04:56 → 00:04:59 เงี้ยครับหรือว่าบางทีอาจจะมีที่อันตราย
00:04:59 → 00:05:01 กว่านั้นก็คือบางทีเราละเมอแล้วก็เราอาจ
00:05:01 → 00:05:05 จะเผลอเปิดเปิดประตูหน้าต่างอะไรอ่ะประตู
00:05:05 → 00:05:08 ตรงระเบียงอ่ะครับแล้วก็เิตงระเบียงไป
00:05:08 → 00:05:10 ระเบียงเสียชีวิตอันนี้ดูน่ากลัวไปหน่อย
00:05:11 → 00:05:13 น่ากลัวค่ะแต่มีครับแต่มีเกิดขึ้นจริงๆอื
00:05:13 → 00:05:17 ค่ะซึก็เป็นการละเมอแต่ว่าคืออ่าคือส่วน
00:05:17 → 00:05:19 ใหญ่เนี่ยละเมออ่ะครับมันก็จะเป็นเป็น
00:05:19 → 00:05:21 ตั้งแต่เด็กอ่ะครับเด็กเล็กอะไรอย่าง
00:05:21 → 00:05:24 เงี้ยครับถ้ามีละเมอในผู้ใหญ่ต้องต้อง
00:05:24 → 00:05:26 ต้องต้องพิสูจน์ให้ได้ลเว่าเค้าละเมอหรือ
00:05:26 → 00:05:29 มีโรคอื่นร่วมด้วยอืก็ Sleep Test ก็
00:05:29 → 00:05:31 เป็นตัวช่วยครับผมค่ะอาจารย์คะแล้ว Sleep
00:05:32 → 00:05:34 Test เนี่ยค่ะอาจารย์เราจะใช้ได้ผลผลแรก
00:05:34 → 00:05:37 เรารู้เลยมั้ยคะว่าโอ้มันเกิดจากอะไรไม่
00:05:37 → 00:05:40 ว่าคุณจะเป็นหยุดหายใจขนาดหลับลมหลับหรือ
00:05:40 → 00:05:43 ว่าละเมอหรือว่าอะไรอย่างเงี้ยค่ะเรารู้
00:05:43 → 00:05:46 ได้ทันทีเลยมั้ยคะรู้เลยครับคือรอบแรกก็
00:05:46 → 00:05:49 ส่วนใหญ่รู้เลยอืรู้เลยโดยเฉพาะเรื่องเ่อ
00:05:49 → 00:05:52 หลับนอนหลับที่มันมีหยุดหายใจอย่างเงี้ย
00:05:52 → 00:05:55 ครับก็รู้เลยอืในการทำเทสก็รู้ครับแต่
00:05:55 → 00:05:58 ขึ้นอยู่กับว่าคุณหมอที่ส่งอ่ะที่ส่งมาทำ
00:05:58 → 00:06:01 เทสน่ะส่งใสภาวะไหนอะไรอย่าเงี้ยครับครับ
00:06:01 → 00:06:04 อือ๋อไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆเราจะพุ่งตรงไปบอก
00:06:04 → 00:06:07 คุณหมอคะขอ Sleep Test ค่ะไม่ได้คือต้อง
00:06:07 → 00:06:09 ไปตรวจอย่างอื่นมาก่อนมันก็มีมันมันก็
00:06:09 → 00:06:11 เหมือนทุกอย่างมครับเหมือนเราไปทำ ctm
00:06:11 → 00:06:13 อะไรอย่างเงี้ยคือเทสเหล่าเนี้ยเราไม่ได้
00:06:13 → 00:06:16 ทำเพื่อ screening ใช่มั้ครับเราทำเพื่อ
00:06:16 → 00:06:18 คอนเฟิร์มการวินิจฉัยเพราะฉะนั้นเนี่ยมัน
00:06:18 → 00:06:21 ต้องมีอาการก่อนอาการแล้วคุณหมอดูอาการ
00:06:21 → 00:06:23 ตรวจร่างกายแล้วอาจดูเห็นว่าเออมันมีความ
00:06:23 → 00:06:26 ผิดอตินะมันอาจจะเข้ากับโลกนี้คือเอาไปทำ
00:06:26 → 00:06:30 เทสเพื่อช่วยในการวินิจฉัย่ะอือวินิจฉัย
00:06:30 → 00:06:32 จะได้รักษาได้ถูกทางอะไรอย่างเงี้ยครับ
00:06:32 → 00:06:35 ค่ะอครับผมมันก็เหมือนกับการที่เราทำ
00:06:35 → 00:06:37 investigation อื่นๆเนาะจอบเลือดอะไรก็
00:06:37 → 00:06:41 ตามหรือว่าไปทำ CT MRI อะไรก็ตามที่เรา
00:06:41 → 00:06:44 ไปทำอ่ะครับเราจะไม่อยู่ๆไปแบบเออไปทำ CT
00:06:44 → 00:06:47 สิไปทำ MRI โอ๊ยแล้ว mi ที่ไหนอือะไร
00:06:47 → 00:06:50 อย่างเงี้ยครับเหมือนกัน Sleep Test ก็
00:06:50 → 00:06:53 เหมือนกันมันต้องมีมีข้อบ่งชี้เนาะง่ายๆ
00:06:53 → 00:06:55 คือมันต้องมีข้อบ่งชีต้องมีอาการก่อนอะไร
00:06:55 → 00:06:58 เงี้ยครับอืค่ะแล้ววิธีแยกอ่ะคะอาจารย์
00:06:58 → 00:07:00 ว่าสมมุติว่าหรือหรือเราจะสงสัยอ้อคน
00:07:00 → 00:07:03 เนี้ยเป็นหยุดหายใจขณะหลับออคนนี้ลมหลับ
00:07:03 → 00:07:06 หรือคนนี้นอนละเมอคือตัวกราฟมันแยกชัด
00:07:06 → 00:07:09 หรือว่ามันแยกตั้งแต่อาการที่เราสงสัย
00:07:09 → 00:07:12 แล้วออมันแยกชัดครับถ้าเป็นถ้าเป็นถ้า
00:07:12 → 00:07:14 เป็นเ่อกลุ่มที่เป็นอยู่หายใจขณะหลับก็จะ
00:07:15 → 00:07:18 มีมีมันจะมีบอกให้เลยว่าในระหว่างที่เรา
00:07:18 → 00:07:20 มอนิเตอร์นเราหยุดหายใจไปกี่ครั้งต่อ
00:07:20 → 00:07:23 ชั่วโมงอะไรเงี้ยอมันมีมันมีตัวเลขบอก
00:07:23 → 00:07:27 อยู่มันก็เป็นเิ่มเป็นเทสเป็นวิธีการแปร
00:07:27 → 00:07:30 ผลของของคุณหมอเคอะไรอย่าเงี้ยครับส่วน
00:07:30 → 00:07:33 ตัวทโลกลมหลักอาจจะต้องไปทำอีกอีกแบบ
00:07:33 → 00:07:36 หนึ่งก็คือวอไทแล้วตอนเช้าจะต้องมาทำอีก
00:07:36 → 00:07:40 ต่อเนื่องอืเดี๋ยวครับเดี๋ยวก่อนที่จะไป
00:07:40 → 00:07:42 เรื่องของสลิปเทสนะผมขออนุญาตมาที่เรื่อง
00:07:42 → 00:07:45 ของลมหลับหน่อยนี่ผมเพิ่งเคยได้ยินครั้ง
00:07:45 → 00:07:46 แรกในชีวิตเลยครับคุณหมอผมเชื่อว่าหลายคน
00:07:46 → 00:07:49 เนี่ยที่ฟังอยู่เนี่ยก็อาจจะไม่เคยได้ยิน
00:07:49 → 00:07:51 เหมือนผมก็เลยอยากจะถามคุณหมอว่าขออธิบาย
00:07:51 → 00:07:54 คำนิดนึงได้มั้ยว่าไอ้ลมหลับเนี่ยมันเป็น
00:07:54 → 00:07:57 ภาวะหรือว่ามันเป็นโรคเลยฮะคุณหมอฮะเป็น
00:07:57 → 00:08:00 โรคครับผมดมหลับคือเป็นโรคเลยอ่ะครับเป็น
00:08:01 → 00:08:03 เป็นเนื่องจากว่ามันมีเอ่อสันสืบประสาทใน
00:08:03 → 00:08:06 สมองที่มันผิดปกติอ่ะครับอืออ่ามันมีมัน
00:08:06 → 00:08:09 มีสันสืบประสืบประสาทที่มันผิอติที่แทน
00:08:09 → 00:08:12 ที่มันจะมันต้องมีเอาเป็นว่าสารสื่อ
00:08:12 → 00:08:14 ประสาทที่มันผิอติก็คือตัวที่กระตุ้นให้
00:08:14 → 00:08:17 เราตื่นเนาะมันพล่องไปอืมันพร่องไปมันก็
00:08:17 → 00:08:20 มามันก็ลดพอมันลดลงมันพร่องไปมันก็ทำให้
00:08:20 → 00:08:23 เราหลับหยุดหายหายไปเป็นช่วงๆอะไรอย่า
00:08:23 → 00:08:27 เงี้ยครับค่ะอ๋อค่ะตตอนแรกหนูก็นึกเหมือน
00:08:27 → 00:08:30 แบบเอ๊ะนึกถึงคำบ
00:08:30 → 00:08:33 เคยได้ยินโอ๊ยนอนหลับทุกที่ต้องธรณีสาร
00:08:33 → 00:08:36 หรือยังไงเออคือแบบบางคนแบบหลับง่ายเหลือ
00:08:36 → 00:08:38 เกินหรือแบบเหมือนแบบเป็นโรคแบบเจ้าชาย
00:08:38 → 00:08:41 นิาหรือไงทำไมก็หลับแต่ว่าทำให้เรานึกถึง
00:08:41 → 00:08:44 น้องผู้ประกายของเราคนนึงเหมือนกันอยู่ดี
00:08:44 → 00:08:46 ๆนางก็หลับไปอย่างเงี้ยไม่ต้องเอ่ยชื่อ
00:08:46 → 00:08:48 ไม่ต้องเอ่ชื่อนั่งกิน MK น้องก็หลับเรา
00:08:48 → 00:08:51 ก็อุ้ยเป็นไรเคิดในใจว่าออสงสัยน้องคงพาก
00:08:52 → 00:08:55 บอลหนักอยู่ดีๆคุยๆอยู่หันไปน้องหลับแล้ว
00:08:55 → 00:09:00 เออออันนี้ลักษณะแบบนี้เนี่ยคุณหมออต้อง
00:09:00 → 00:09:02 ต้องรักษาแะครับต้องคงต้องไปพบคุณหมอแหละ
00:09:02 → 00:09:05 เพื่อให้รับบาตนร่างกายนิดนึงก็คือเป็นไป
00:09:05 → 00:09:07 ได้ทั้ง 2 อย่างเลยเป็นอาจจะมีกลางคืนน่ะ
00:09:07 → 00:09:10 หลับไม่ดีเนื่องจากว่ามันมีภาวะหยุดหายใจ
00:09:10 → 00:09:12 ขณะหลับบ่อยๆใช่มั้ยครับมันเลยทำให้ง่วง
00:09:12 → 00:09:15 กลางวันง่ายไครับอืง่วงกลางวันก็คืออยู่
00:09:15 → 00:09:18 ในที่ที่แบบเย็นๆสบายๆ่อนคลหน่อยอ่ะหลับ
00:09:18 → 00:09:20 ละอะไรอย่างเงี้ยครับอใช่ค่ะใช่มั้ยครับ
00:09:20 → 00:09:23 โดยปกติเราไม่ควรจะหลับง่ายขนาดนั้นอ๋อ
00:09:23 → 00:09:25 ใช่ค่ะอ๋อแต่ถ้าลมหลับเนี่ยคือเขาฟุบไป
00:09:25 → 00:09:28 เลยอ่ะครับอ๋ออยู่ๆก็คืออ่อนแรงแล้ววูบไป
00:09:28 → 00:09:31 เลยออันนี้ไม่น่าอ่อนแล้วเดียวแล้วก็ตื่น
00:09:31 → 00:09:34 อะไรอย่างเงี้ยครับคือมันไอ้ตัว Sleep
00:09:34 → 00:09:36 Test เนี่ยมันจะสามารถบอกเราได้ใช่มั้ย
00:09:36 → 00:09:39 ว่าไอ้พฤติกรรมอาการที่เราเป็นอยู่เนี่ย
00:09:39 → 00:09:41 จริงๆมันอาจจะไม่ได้เป็นโรคลมหลับก็ได้
00:09:41 → 00:09:44 มันอาจจะเป็นเพราะว่าเรานอนดึกหรือเปล่า
00:09:44 → 00:09:47 นอเออนอนดกตื่นเช้ารึเปล่าใช่ๆมันพอมันจะ
00:09:47 → 00:09:50 บอกโลคได้เลยอ่ะครับหมายถึงว่าบอกบอกบอก
00:09:50 → 00:09:52 แยกโรคได้เลยถ้าเป็นกลุ่มนี้กลุ่มนี้
00:09:52 → 00:09:55 กลุ่มนี้มันจะแยกโรคได้เลยครับอือซึ่งคือ
00:09:55 → 00:09:56 ถามว่ามีประโยชน์มั้ยประโยชน์เยอะเนาะ
00:09:56 → 00:09:59 เพราะว่ามันแยกโรคได้เลยแล้วก็จะได้รักษา
00:09:59 → 00:10:01 ากันได้ถูกทางไปเลยอะไรเงี้ยอืค่ะแต่ที
00:10:01 → 00:10:05 เนี้ยด้วยถ้าเกิดคุณผู้ฟังนะคะลองไปกดดู
00:10:05 → 00:10:07 นะคะเรื่องของ Sleep Test เนี่ยคุณจะนึก
00:10:07 → 00:10:10 เห็นว่าอุ๊ยมันมีสายระโยงระยางคนที่มา
00:10:10 → 00:10:12 ร่วมทดสอบเวลาแบบ Sleep Test เงี้ยค่ะ
00:10:12 → 00:10:15 อาจารย์ไอ้สายเนี่ยค่ะมันไม่เป็นอุปสรรค
00:10:15 → 00:10:17 กับการนอนเราหรอคะอาจารย์หรือว่าคุณหมอ
00:10:17 → 00:10:19 ให้เรากินยานอนหลับหรือว่าเราหลับในภาวะ
00:10:19 → 00:10:23 ปกติไม่ครับก็จริงๆแล้วมันก็คือพอหลับได้
00:10:23 → 00:10:26 แหละผมว่านะมันไม่ถึงกับแบบเป็นอุปสรรค
00:10:26 → 00:10:28 มันก็มีบ้างอะไรติดเราระยงระยางคือมันไม่
00:10:28 → 00:10:31 สบายตัวนิดหน่อยอะไรอย่างเงี้ยครับเพีย
00:10:31 → 00:10:33 แต่ว่าคนที่ไปทำ Sleep Test น่ะถ้าเค้า
00:10:34 → 00:10:35 หลับผิดกติจริงๆเค้าหลับอยู่แล้วแหละครับ
00:10:35 → 00:10:39 อ๋อหลับละอ่า 3 4 5 ช่ม 4 ช่มเราก็แปร
00:10:39 → 00:10:41 ผลได้ละอืหลับประมาณต่อเนื่องสัก 4
00:10:41 → 00:10:43 ชั่วโมงอะไรอย่างเงี้ยใช่มั้ยครับเราก็
00:10:44 → 00:10:47 แปรผลได้แล้วแหละครับแต่ว่าในบางคนถ้า
00:10:47 → 00:10:49 เป็นโรคโรคนอนไม่หลับอยู่แล้วอ่ะครับส่วน
00:10:49 → 00:10:52 ใหญ่เนี่ยเอามาทำ Sleep Test เนี่ยอาจะ
00:10:52 → 00:10:54 ไม่ช่วยนะครับอืค่ะใช่มั้ยเพราะนอนไม่
00:10:54 → 00:10:56 หลับอ่ะเวลาเราจะทำ Sleep Test คือคุณ
00:10:57 → 00:10:59 ต้องหลับไงอืถ้านอนไม่หลับแล้วมันก็ไม่
00:10:59 → 00:11:01 มันก็แปลผลไม่ได้เอาไปทำแล้วก็ตื่นทั้ง
00:11:01 → 00:11:04 คืนอาแล้วจะแปลผลยังไงก็คือแปลผลไม่ได้อื
00:11:04 → 00:11:07 ใช่มั้ยครับคือถ้าถ้านอนไม่หลับอย่างงั้น
00:11:07 → 00:11:09 น่ะอาจจะต้องอาจจะต้องรักษาเรื่องอาการ
00:11:09 → 00:11:11 นอนไม่หลับก่อนส่วนใหญ่อาการนอนไม่หลับ
00:11:11 → 00:11:13 เนี่ยส่วนใหญ่เลยอ่ะเป็นปัญหาจากทางด้าน
00:11:13 → 00:11:15 จิตใจเป็นเรื่องของความเครียดความกังวล
00:11:15 → 00:11:19 ความอะไรสักอย่างหนึ่งที่มันอ่าซ่อนอยู่
00:11:19 → 00:11:21 ในตัวเราแล้วทำให้เรานอนไม่หลับเข้านอน
00:11:21 → 00:11:23 ไม่ได้อะไรอย่างเงี้ยครับค่ะเมื่อกี้เรา
00:11:23 → 00:11:26 พูดถึงว่าคนไหนที่เหมาะสมโลกไหนที่เหมาะ
00:11:26 → 00:11:28 ใช้สลปเทสเมื่อกี้อาจารย์บอกว่าคนที่มี
00:11:28 → 00:11:31 ความคเหรือวิตกกังวลไม่ควรใช้นอนไม่หลับ
00:11:31 → 00:11:33 อยู่แล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้ใช่มั้ยคะนอกจาก
00:11:33 → 00:11:37 นี้แล้วมีอันอื่นอีกมั้ยคะเ็นคนซึมเป็น
00:11:37 → 00:11:40 โรคแบบว่าซึมเศร้าวิตกกังวลหรือว่ามีความ
00:11:40 → 00:11:42 เครียดเป็นปกติอะไรอย่างงี้ด้วยหรือเปล่า
00:11:43 → 00:11:45 คะที่แบบว่า Sleep Test แล้วไม่ไม่ควรมา
00:11:45 → 00:11:47 ทำในขณะที่คุณกำลังมีอาการอยู่เงี้ยค่ะ
00:11:47 → 00:11:50 อ๋อไม่ๆก็คือว่าคือซึมเศร้าวิตกกังวลน่ะ
00:11:50 → 00:11:51 หมายถึงไม่ไม่ได้หมายถึงว่าคนเป็นโรคซึม
00:11:51 → 00:11:54 เศร้าวิตกกังวลไม่ควรมาทำนะครับแต่ถ้า
00:11:54 → 00:11:56 เกิดมันมีโรคอื่นน่ะผสมอยู่มันก็คือ
00:11:56 → 00:11:59 สามารถทำได้เพียงแต่ว่าถ้าเกิดเกิดคนนั้น
00:11:59 → 00:12:02 น่ะมีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับใช่มั้ยครับ
00:12:02 → 00:12:04 ไม่ได้มีปัญหาเรื่องง่วงเหงาหานอนระหว่าง
00:12:04 → 00:12:06 วันคือปัญหาเนี่ยมันต้องแยกก่อนว่าค่ะ
00:12:06 → 00:12:09 ปัญหาที่ไปที่เราจะจะบหมอเนี่ยคือปัญหา
00:12:09 → 00:12:12 อะไรถ้าปัญหาเรื่องนอนไม่หลับการมาทำ
00:12:12 → 00:12:15 Sleep Test ก็อมันมันเหมือนแทบจะไม่
00:12:15 → 00:12:17 ช่วยอือะไเพราะมันึ่งนอนไม่หลับใช่มั้
00:12:17 → 00:12:20 ครับมาทำ Sleep Test อ่ะก็คือมันคือชื่อ
00:12:20 → 00:12:23 Sleep ไฮะค่ะมันต้องหลับถ้าถูกต้องถูก
00:12:23 → 00:12:26 ต้องครับมันต้องหลับถ้าไม่ถ้าไม่หลับ
00:12:26 → 00:12:29 เนี่ยมันก็แปลผลยากอืเงี้ยครับไม่หลับ
00:12:29 → 00:12:30 แล้วก็อย่างมากก็คือแปลว่าอ่านอนไม่หลับ
00:12:30 → 00:12:32 ทั้งคืนน่ะอาจจะเกิดจากความเครียดความ
00:12:32 → 00:12:35 กังวลอะไรอือะไรอย่างเงี้ยครับต้องถ้า
00:12:35 → 00:12:38 รักษาสิ่งเหล่านั้นหมดก่อนมาทำให้มาทำ
00:12:38 → 00:12:41 Sleep Test ก็จะช่วยแต่ว่าในบางคนที่
00:12:41 → 00:12:44 อาจจะมีภาวะเรื่องเรื่องซึมเศร้าเรื่อง
00:12:44 → 00:12:46 อะไรเงี้ยเพเหลับครับเพแต่ว่าเหลับไม่ดี
00:12:46 → 00:12:49 แค่นั้นเองออแต่พอหลับเนี่ยัหลัดคุณภาพ
00:12:49 → 00:12:51 ของการนอนไม่ดีใช่มั้ครับเช่นเราอาจจะ
00:12:51 → 00:12:54 หลับลงไม่ถึงหลับลึกอือดับเศษ 3 หรือว่า
00:12:54 → 00:12:57 อาจจะลงไม่ถึงแบบแบบเค้าเรียกเป็นเลม
00:12:57 → 00:13:00 Sleep อาจจะไม่ลงไม่ถึงขนาดนั้นแต่ว่า
00:13:00 → 00:13:02 เค้าก็หลับอยู่ครับค่ะแต่ว่าพอหลับเนี่ย
00:13:02 → 00:13:05 เราก็จะเห็นละสมมุติเราสงสัยมีภาวะ
00:13:05 → 00:13:08 เอิ่มเอ่อหยุดหายใจไปขณะหลับอะไรอย่า
00:13:08 → 00:13:10 เงี้ยครับมันก็จะเห็นะครับถ้าหลับแล้วก็
00:13:10 → 00:13:13 กล้ามเนื้อมันหย่อนมันก็จะเห็นพอเห็นบ้าง
00:13:13 → 00:13:15 อเพียแต่ว่าคุณภาพการนอนอาจจะไม่ค่อยดี
00:13:15 → 00:13:18 เท่าไหร่แค่นั้นเองค่ะอาจารย์คะแล้ว
00:13:18 → 00:13:20 เดี๋ยวนี้มันมีนาฬิกาใช่มั้ยคะที่วัดการ
00:13:21 → 00:13:23 นอนว่าเราอ่ะนอนได้กี่ชั่วโมงนนอิ่มรือ
00:13:23 → 00:13:26 เปล่าสมาร์ทโฟนอย่างเงี้ยค่ะอาจารย์มัน
00:13:26 → 00:13:28 มันดีหรือมันต่างกับสปเทยังไงบคบอ้ามี
00:13:29 → 00:13:30 นาฬิกาแล้วนี่อย่างที่หลับลึกอย่างที่
00:13:30 → 00:13:33 อาจารย์บอกชใช้นาฬิกาเยอต่างเยอะเลยต่าง
00:13:33 → 00:13:35 เยอะเลยอันนี้คือ Sleep Test เนี่ยมัน
00:13:35 → 00:13:39 มันวัดค่าตั้งแต่มันวัด 1 คลื่นสมองก่อน
00:13:39 → 00:13:42 นะครับค่ะคลื่นสมองคลื่นกล้ามเนื้อเพราะ
00:13:42 → 00:13:44 เวลาเราหลับแล้วกล้ามเนื้อเราหย่อนอืใช่
00:13:44 → 00:13:46 มั้ยครับหรือว่าหลับบางสเตจเนี่ยกล้าม
00:13:46 → 00:13:49 เนื้อลูกตาเราอ่ะกล้ามเนื้อตาเราอ่ะนะ
00:13:49 → 00:13:53 ครับมันมันมันตวัดแรงอะไรอย่างเงี้ยครับ
00:13:53 → 00:13:58 ค่ะอ่าอ่อมันวัดค่าออกซิเจนครับค่ะที่มัน
00:13:58 → 00:14:01 ที่เราหายใจเข้าหายใจออกใช่มั้ยครับอัน
00:14:01 → 00:14:03 ค่าค่าคไดออกไซด์ที่เราหายใจเข้าหายใจออก
00:14:03 → 00:14:06 วัดค่าออกซิเจนที่อยู่ตามเส้นเลือดเรา
00:14:06 → 00:14:09 แล้วก็วัดการเคลื่อนไหวของหน้าอกวัดการ
00:14:09 → 00:14:13 เคลื่อนไหวของของช่องท้องคือมันมีมันมี
00:14:13 → 00:14:16 หลายค่ามากในการที่ที่ใช้บอกคุณภาพของการ
00:14:16 → 00:14:19 นอนครับงี้แล้วกันเนาะแต่ว่าสมาร์ทโฟน
00:14:19 → 00:14:21 หรือว่าอะไรสิ่งเหล่าเนี้ยครับเค้าเ
00:14:21 → 00:14:26 ประมวลจากอันที่ 1 คือถ้าเราเเอาจจะดูว่า
00:14:26 → 00:14:28 ถ้าเรานอนแล้วดิ้นมากอ่ะถือว่าเราตื่น
00:14:28 → 00:14:30 หรือเปล่าหรือว่าเในสตนี้อาจจะไม่ค่อย
00:14:30 → 00:14:33 ตื่นมากอะไรอย่างเงี้ยครับที่เบอกเป็นสตส
00:14:33 → 00:14:36 ได้หรือไม่งั้นก็คืออัตราการเต้นของหัวใจ
00:14:36 → 00:14:38 ที่ช้าลงหายใจแผวลงอะไรอย่างเงี้ยครับมัน
00:14:39 → 00:14:42 บอกได้แค่นั้นอืแต่คลื่นสมองไม่มีไครับ
00:14:42 → 00:14:47 อ๋ออ๋อเออๆมันบอกช่วงระยะเวลานิดๆหน่อยๆ
00:14:47 → 00:14:50 เฉยๆเนาะใช่ว่าออกซิเจนเลี้ออกซเจนอ่าค่า
00:14:50 → 00:14:53 ความขนของออกซิเจนเนี่ยมันสู้เครื่องที่
00:14:53 → 00:14:56 มันวัดเฉพาะไม่ได้อยู่แล้วอืใช่มครับก็
00:14:56 → 00:15:00 คือไว้ไว้ดูแค่พอพออเป็นเออพอเป็นแนวทาง
00:15:00 → 00:15:02 นิดๆหน่อยๆว่าการนอนของเราเป็นยังไงบ้าง
00:15:02 → 00:15:05 ใช่มั้ยครับคุณหมอประมาณนั้นเนาะใช่ใช่
00:15:05 → 00:15:09 ครับอือคุณหมอครับส่วนใหญ่เนี่ยคนที่เมา
00:15:09 → 00:15:12 ขอคุณหมอเนี่ยทำการ Sleep เทสนะฮะครับผม
00:15:12 → 00:15:16 ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วงวัยไหนที่มาขอ
00:15:16 → 00:15:20 ความช่วยเหลือกันเป็นพิเศษอ่ะฮะเออจริงๆ
00:15:20 → 00:15:23 มันมันมีได้ทุกวัยนะครับจริงๆมันมีสลป
00:15:23 → 00:15:26 เด็กด้วยนะครับอเด็กหาเรื่องนนน่ะหมอเด็ก
00:15:26 → 00:15:29 เจะเป็นหมอที่เป็นแบบหมอเด็กที่เชี่ยวชาญ
00:15:29 → 00:15:32 เรื่องการ Sleep อีกอีกอีกกลุ่มหนึ่งก็
00:15:32 → 00:15:35 คือสุก็คือมีตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่เลย
00:15:35 → 00:15:39 อืเด็กที่ว่านี่เด็กๆประมาณไหนกเลยเด็ก
00:15:39 → 00:15:43 เล็กเลยครับเล็กๆเลยใช่ครับออเด็กเล็กเลย
00:15:43 → 00:15:46 เพราะเด็กเตัดที่ 15 ก็คือน้อยกว่า 15 ลง
00:15:46 → 00:15:49 ไปคือเด็กหมดอ๋อค่ะส่วนใหญ่ก็คือจะเป็น
00:15:49 → 00:15:52 โรคโรคเหมือนกับคุณผู้ใหญ่เลยใช่มั้ยคุณ
00:15:52 → 00:15:55 หมอะอืเอ่อมันก็จะมีบางอย่างครับในโรค
00:15:55 → 00:15:57 เด็กบางอย่างคือหลับไม่ได้เลยหลับแล้วก็
00:15:57 → 00:16:02 หยุดหายใจไปก็มีอออออ่าอาจจะต้องแบบรักษา
00:16:02 → 00:16:04 ได้ถูกทถูกที่เพราะว่าบางทีเนี่ยพ่อแม่
00:16:04 → 00:16:07 อาจจะสังเกตอุ๊ยทำไมแบบพอหลับแล้วเนี่ย
00:16:07 → 00:16:10 ตัวเขียวเลยอ๋อพอตื่นร้องไม่เห็นเป็นไร
00:16:10 → 00:16:12 เลยอะไรอย่างเงี้ยครับพอหลับแล้วก็ตัว
00:16:12 → 00:16:14 เขียวปอดเปิดอะไรก็ดีหมดทุกอย่างอ่ะมา
00:16:14 → 00:16:17 มอนิเตอร์คิปอ้าเป็นโรคนี้อะไรอย่างเงี้ย
00:16:17 → 00:16:21 ครับออือ่าซึ่งอาจจะต้องรักษาให้ถูกทาง
00:16:21 → 00:16:23 ซึ่งก็ทำให้เขามีชีวิตต่อไปได้ใช่มั้ย
00:16:23 → 00:16:26 ครับถ้าเราแบบถ้าเราอ่าเค้าเรียกว่าอะไร
00:16:26 → 00:16:29 อ่ะเราวินิจฉัยได้ตั้งแต่แรกๆอ่ะหมอเด็ก
00:16:29 → 00:16:31 แต่ในผู้ใหญ่อ่ะครับที่ผมดูอ่ะส่วนใหญ่ก็
00:16:31 → 00:16:34 จะเป็นเป็นทุกุวัยอ่ะครับวัยรุ่นก็มีวัย
00:16:34 → 00:16:37 รุ่นที่มีปัญหาเรื่องนอนกรนอืออะไรเงี้ย
00:16:37 → 00:16:39 ครับนอนกรนแล้วรู้สึกว่ามันมันมันเพลีย
00:16:39 → 00:16:42 มันเหนื่อยระหว่างวันแล้วมันเหมือนเพลียๆ
00:16:42 → 00:16:45 มึนๆงงๆทั้งวันการเรียนก็ดูสมาธิไม่ค่อย
00:16:45 → 00:16:48 ดีอะไรอย่างเงี้ยครับเอามามอนิเตอร์ดูออ
00:16:48 → 00:16:52 ก็เป็นหยุดหายใจขณะหลับหรือว่าโรคโรลม
00:16:52 → 00:16:54 หลับเนี่ยละครับที่บอกก็คือจะเป็นกลุ่มก็
00:16:54 → 00:16:59 จะเป็นอายุน้อยๆก่อนอืใช่คววามผิดติของ
00:16:59 → 00:17:03 ของยีนของเนติกที่มันผิดปกติมาทำให้สา
00:17:03 → 00:17:06 สื่อประสาทที่กระตุ้นให้เราตื่นเนี่ยมัน
00:17:06 → 00:17:09 มันมันลดลงเพราะฉะนั้นเนี่ยกลุ่มเหล่านี้
00:17:09 → 00:17:11 ก็แสดงอาการตั้งแต่อายุน้อยๆอ่ะครับอืค่ะ
00:17:12 → 00:17:15 ใช่มั้ยครับแต่กลุ่มหยุดหายใจขณะหลับมัน
00:17:15 → 00:17:17 ก็จะมีทุกวัยเหมือนกันโดยเฉพาะวัยกลางคน
00:17:17 → 00:17:21 วัยทำงานอะไรเงี้ยครับอือ่าผมว่าซึ่งสมัย
00:17:21 → 00:17:23 ก่อนเี่เราอาจจะไม่คอนเซิร์นเรื่องนี้
00:17:23 → 00:17:27 เนาะถว่าเราก็เก็ก็เรานอนน้อยไงเราคนทำ
00:17:27 → 00:17:30 งานเราก็ตื่นช้าแล้วก็เหนื่อยระหว่างวัน
00:17:30 → 00:17:32 แล้วก็ทำงานอะไรไปอะไรเงี้ยแต่จริงๆแล้ว
00:17:32 → 00:17:38 มันมีสิ่งเหล่าเนี้ยครับซ่อนอยู่อืค่ะเออ
00:17:38 → 00:17:41 เนี่ยค่ะก็จะสอบถามตรงกับคุณผู้ฟังทาง
00:17:41 → 00:17:45 บ้านที่ถามมาคะว่าการวัดเนี่ยค่ะ Sleep
00:17:45 → 00:17:47 Test เนี่ยค่ะวัดการนอนกนและนอนกลนเนี่ย
00:17:47 → 00:17:50 ค่ะมันมีผลให้ทำให้แบบคุณภาพการนอนเราไม่
00:17:50 → 00:17:54 ดีด้วยไคะใช่ครับใช่ก็คือหลักหลักการง่าย
00:17:54 → 00:17:57 ๆของการนอนกรนก็คือว่าเวลาเรานอนอ่ะครับ
00:17:57 → 00:18:01 ถ้าเราไม่หหายใจทางทางทางเอไม่ใช่ไม่ขอ
00:18:01 → 00:18:05 โทษทีคือหายใจทางจมูกก็นอนกนได้เหมือนกัน
00:18:05 → 00:18:08 หลักๆแล้วคือว่าเอ่อจมูกอ่ะครับคือคส่วน
00:18:08 → 00:18:10 ใหญ่หายใจหหมายถึงว่าธรรมชาติเราอย่าง
00:18:10 → 00:18:12 เงี้ยต้องหายใจแผ่านจมูกเนาะเพราะว่าจมูก
00:18:12 → 00:18:15 มันถูกออกแบบมาให้หายใจใช่มั้ยครับมันไม่
00:18:15 → 00:18:17 ได้ปากไม่ได้หายเอ่อไม่ได้ออกแบบมาให้หาย
00:18:17 → 00:18:20 ใจแต่ว่าพอเรานอนนอนไปแล้วเนี่ยเวลาเรา
00:18:20 → 00:18:23 ทุกคนน่ะครับเวลาเราหลับไปแล้วอ่ะกล้าม
00:18:23 → 00:18:26 เนื้อในช่องคออ่ะครับมันก็จะหย่อนอืหย่อน
00:18:26 → 00:18:29 ลงใช่มั้ยครับค่ะมันก็จะหย่อนลงมันก็จะมา
00:18:29 → 00:18:33 ปิดหลอดลมเราถ้าหย่อนมากก็ปิดปิดเยอะมัน
00:18:33 → 00:18:36 ก็จะมีเวลามีลมผ่านผ่านไปมันก็จะมีเสียง
00:18:36 → 00:18:39 ขึ้นมาใช่มั้ยครับค่ะลมผ่านหลอดลมะมีลมลม
00:18:40 → 00:18:43 ผ่านหลอดลมที่มีที่มีกล้ามเนื้อพวกเนี้ย
00:18:43 → 00:18:46 มามาบดตังงมันอยู่พันธที่แคบอ่ะครับมันก็
00:18:46 → 00:18:51 จะมีเสียงกรนเงี้ยครับออ่าถ้ามันเบาๆก็
00:18:51 → 00:18:53 ถือว่าเป็น Primary snoring ก็คืออาจจะ
00:18:53 → 00:18:56 ทุกคนอาจจะมีนอนกรนได้โดยที่ไม่ไม่ส่งผล
00:18:56 → 00:18:59 ต่อสุขภาพเราอะไรเงี้ยครับอ่าแต่บางคนก็
00:18:59 → 00:19:02 คือเนี่ยครับมีปัญหานอนกรนจนมีปัญหาอือ
00:19:02 → 00:19:06 ใช่ครับคือนอนกรนมันก็บอกได้ในในในสปยัง
00:19:06 → 00:19:10 ไงก็ต้องบอกได้ีลเพราะว่าเรามีไมค์ออไมค์
00:19:10 → 00:19:14 ติดไม์ติดไมโครโฟนติดอยู่ออ๋อใช่ครับก็จะ
00:19:14 → 00:19:17 บอกได้ว่าคนนี้คือเสียงกรนออเสียงแบบไหน
00:19:17 → 00:19:21 อะไรอย่าเงี้ยครับเออแล้วแล้วแล้วเสียงใน
00:19:21 → 00:19:24 การที่จะเปล่งออกมาระหว่างที่กรนเนี่ยมัน
00:19:24 → 00:19:27 มันบ่งบอกอะไรเราได้ด้วยมั้ยครับบางคนก็
00:19:27 → 00:19:31 กนยาวบางคนกนสั้นออคือคือถ้าแบบนั้นน่ะ
00:19:31 → 00:19:33 มันน่าจะเป็นช่วงหยุดหายใจอ่ะครับว่าจะ
00:19:33 → 00:19:37 หยุดมากหรือหยุดนานหรือว่าหยุดหยุดๆหยุด
00:19:37 → 00:19:40 นานหรือว่าหยุดสั้นอย่างงี้มากกว่าครับ
00:19:40 → 00:19:42 อ่าเพราะว่าถ้าหยุดนานพเหมือนมนเราม
00:19:42 → 00:19:44 เหมือนเราหยุดหายใจพสไปใช่มั้ยครับร่าง
00:19:44 → 00:19:47 กายเรามันก็ต้องเ่าไปกระตุ้นให้สมองตื่น
00:19:47 → 00:19:49 เพื่อจะได้หายใจไม่งั้นเราเราเสียชีวิต
00:19:50 → 00:19:52 อ่ะเราขาดออกซิเจนไปนี่คือร่างกายเรายัง
00:19:52 → 00:19:54 ระบบประสาทอย่างอื่นเรายังทำงานปกติอยู่
00:19:54 → 00:19:57 เพียงแต่ว่ากล้ามเนื้อเราหย่อนแล้วนี่
00:19:57 → 00:19:59 ครับเวลาเรานอนไปแล้วแล้วก็เหมือนมัน
00:19:59 → 00:20:01 เหมือนมันก็ต้องมาปลุกให้เราตื่นแล้วก็
00:20:01 → 00:20:03 ต้องแบบปืตื่นขึ้นมาบางทีเนี่ยตัวเราไม่
00:20:03 → 00:20:05 ตื่นครับเราไม่รู้สึกว่าเราตื่นแต่ว่า
00:20:05 → 00:20:10 สมองเราตื่นอือครับตื่นเพื่อมาหายใจอ
00:20:10 → 00:20:12 เรียกหายใจเฮือกอ่ะครับอ๋อเฮือกหรือแบบ
00:20:12 → 00:20:14 สเกบางคนมีหายใจเือกใช่บางคนมีหายใจเฮื
00:20:15 → 00:20:17 ขึ้นมาเพราะว่าต้องหายใจจสักพักนึงมันก็
00:20:17 → 00:20:20 พอหายใจเฮืขึ้นมาสมองตื่นใช่มั้ยครับมัน
00:20:20 → 00:20:22 ก็เหมือนหายใจปกติกล้ามเนื้อมันก็ไม่
00:20:22 → 00:20:24 หย่อนรับเพราะเราตื่นใช่่มั้ยครับคพนึง
00:20:25 → 00:20:26 มันก็หย่อนอ่ะหายใจเข้าไปปกติแต่พอเรา
00:20:26 → 00:20:29 หลับไปสักพักนึงมันก็จะหย่อนอีกหย่อนไป
00:20:29 → 00:20:31 อีกอ่าแล้วก็นอนกลนอีกเรื่อยๆแล้วก็ลดลง
00:20:31 → 00:20:34 ไปเรื่อยๆจนกระทั่งเฮือกอีกรอบนึงอย่าง
00:20:34 → 00:20:36 เงี้ยครับโอโมันก็วนไปอย่างเงี้ยครับ
00:20:36 → 00:20:38 สมมุติมีปัญหายังไงคืนนึงสมมุติเราหยุด
00:20:38 → 00:20:41 หายใจไปแบบ 10 รอบ 20 30 บางคนเป็น 100
00:20:41 → 00:20:46 อะไรอย่าเงี้ยครับโอแหในใน 1 ชั่วโมงอือ
00:20:46 → 00:20:49 ครับผมอ๋อมันก็จะมันก็อาจจะส่งผลทำให้
00:20:49 → 00:20:53 สมองเราก็ขาดออกซิเจนเนาะอือคือระยะยาวก็
00:20:53 → 00:20:55 ไม่ค่อยดีอย่าเงี้ยครับครับคือแสดงว่าคน
00:20:55 → 00:20:58 ที่เวลาเค้ากลนเนี่ยมันจะลากลากเสียงยาวๆ
00:20:58 → 00:21:01 เนี่ยหมายความว่าคือเาเนี่ยหยุดหายใจยาว
00:21:01 → 00:21:06 นานเไม่ๆๆคือคือคือมันจะอธิบายยังไงคือ
00:21:06 → 00:21:09 มันไม่เกี่ยวกับรากเสียงยาวหรือรากเสียง
00:21:09 → 00:21:11 สั้นนะครับมันเป็นช่วงที่เหยุดหายใจไป
00:21:11 → 00:21:13 สั้นหรือยาวมากกว่าอันนี้เวลากนเนี่ยเขา
00:21:13 → 00:21:17 อาจจะหายใจเข้าแล้วก็ผ่านผ่านอ่าเค้า
00:21:17 → 00:21:19 เรียกเป็น Anatomy ของเขาคอ่ะครับมีกล้าม
00:21:19 → 00:21:21 เนื้ออะไรที่มันหย่อนมันมันหย่อนไม่ไม่
00:21:21 → 00:21:24 เท่ากันอยู่แล้วแต่ละคนอะไรเงี้ยครับส่วน
00:21:24 → 00:21:26 มากก็คืออาจจะแบบล้มเข้าได้น้อยเาก็อาจจะ
00:21:26 → 00:21:30 แบบเอ่อหยุดหายใจได้เร็วกว่าชาวบ้านหน่อย
00:21:30 → 00:21:33 นึงต้องตื่นเร็วกว่าอะไรเงี้ยครับแต่ถ้า
00:21:33 → 00:21:36 หย่อนน้อยๆก็เสียงยาวเข้าไปล่าเข้าไปก็
00:21:36 → 00:21:39 คือเป็นช่วงการหายใจคือเสียงเสียงไม่
00:21:39 → 00:21:41 สำคัญเท่ากับตอนคอกๆนั่นแสดงว่าคุณหยุด
00:21:41 → 00:21:43 หายใจไปแล้วแล้วคุณกำลังเฮือกขึ้นมาถูก
00:21:43 → 00:21:46 มั้ยคะใช่ครับใช่ๆครับอ่าอาจารย์คะนี่ค่ะ
00:21:46 → 00:21:49 มีคุณผู้ฟังทางบ้านสอบถามมาแบบนี้นะคะว่า
00:21:49 → 00:21:52 วันทำงานผมไม่ค่อยอยากตื่นอยากนอนต่อพอ
00:21:52 → 00:21:55 วันหยุดแทนที่จะได้นอนต่อยาวๆกลับนอนไม่
00:21:55 → 00:22:00 หลับจนรำคาญต้องตื่นถามว่านี่ผทำเป็นวิธี
00:22:01 → 00:22:03 แก้เพราะว่าสนใหญทุกคนก็ชอบเป็นอย่างเงี้
00:22:03 → 00:22:06 มันเหมือนร่างกายเราชินอันนี้ผมเป็นนะออ
00:22:06 → 00:22:08 คือวันธรรมดาก็แบบอื้อหือไม่ค่อยอยากจะ
00:22:08 → 00:22:11 ตื่นเลยแต่พอวันหยุดเนี่ยมีวันหยุดจะนอน
00:22:11 → 00:22:13 ได้ยันเที่ยงเนี่ยตื่นตื่น่านั้น 7:00 น
00:22:13 → 00:22:16 ตื่น 6:00 นตื่นเฉยเลยเออแล้วมานอนต่อก็
00:22:16 → 00:22:18 ไม่ค่อยจะหลับด้วยนะเออใช่เป็นอย่างงี้
00:22:18 → 00:22:21 ถือว่าเป็นยังผิดปกติมั้ยคะอาจารย์เออ
00:22:22 → 00:22:24 ส่วนใหญ่อันนี้เป็นเรื่องของพฤติกรรมหรือ
00:22:24 → 00:22:26 ว่าความเคยชินอะไรบางอย่างมากกว่าครับ
00:22:26 → 00:22:30 ครับเนาะอาจจะมีความความความความกังวล
00:22:30 → 00:22:33 อะไรอย่างเช่นวันธรรมดาอย่างเงี้ยครับเรา
00:22:33 → 00:22:37 เราก็เหมือนเราอาจจะแบบมีการพักผ่อนไม่พอ
00:22:37 → 00:22:39 อ่ะระหว่างวันระหว่างตอนนั้นเราก็ไม่อยาก
00:22:39 → 00:22:42 ตื่นแต่พอกลังพอพอเค้าเรียกเป็นสเดนน่ะ
00:22:42 → 00:22:44 สมมุติเราเคยตื่น 18:00 นมันก็จะตื่น 6 น
00:22:44 → 00:22:47 ทุกวันทุกวันทุกวันอืๆอืใช่มั้ยครับมัน
00:22:47 → 00:22:49 เป็นเหมือนตื่นเหมือนเหมือนาฬิกาชีวิตของ
00:22:49 → 00:22:51 เราตื่นไปนี้ใช่ครับมันเป็นนาฬิกาชีวิต
00:22:52 → 00:22:54 ซึ่งไม่ 18:00 นก็ใกล้เคียงอ่ะครับประมาณ
00:22:54 → 00:22:56 เยครับมันก็จะเป็นอยู่แล้วพอวันเสาร์
00:22:56 → 00:22:59 อาทิตย์เนี่ยถ้าเราถ้าเรายังยังคงกังวล
00:22:59 → 00:23:01 อยู่หรือว่าเรื่องติดติดกับเรื่องงาน
00:23:01 → 00:23:03 เรื่องอะไรบางอย่างมันก็จะตื่นเวลาเดิม
00:23:03 → 00:23:07 อ่ะครับอืครับแต่บางคนมันแต่บางคนเนี่ย
00:23:07 → 00:23:10 สามารถหยถึงว่าสภาพจิตใจแต่ละคนมันคือแยก
00:23:10 → 00:23:12 ได้ค่ะเช่นันเสาร์อาทิตย์เนี่ยเออโอเคนะ
00:23:12 → 00:23:15 เราก็ไม่มีอะไรทำเราก็ตื่นเที่ยงอืนับถือ
00:23:15 → 00:23:18 จิตใจจริงๆอืออะไรอย่างเงี้ยครับซึ่งซึซึ
00:23:18 → 00:23:20 ก็อาจจะได้ในบางคนเพราะฉะนั้นในเวลาถ้า
00:23:20 → 00:23:22 ถ้าอยากจะรู้อย่างเงี้ยต้องไปทำ Sleep
00:23:22 → 00:23:25 Diary ครับอเหรอคะบันทึกกเลยว่าวัน
00:23:25 → 00:23:28 ธรรมดาเราเข้านอนกี่โมงตื่นกี่โมงวันวัน
00:23:28 → 00:23:30 วันเสาร์อาทิตย์เราเข้านอนตื่นกี่โมงตื่น
00:23:31 → 00:23:32 กี่โมงเงี้ยครับ 2 ต่อเนื่องสัก 2
00:23:33 → 00:23:36 สัปดาห์มันก็จะบอกได้ว่าเอิ่มคือมันไม่
00:23:36 → 00:23:38 ได้เป็นแค่บางสัปดาห์หรือว่าอย่างเงี้ย
00:23:38 → 00:23:40 ครับหมายถึงอาการที่ผปติมันไม่ได้เป็นแค่
00:23:40 → 00:23:43 บางสัปดาห์นะหรือว่ามันเป็นตลอดอืแต่ต้อง
00:23:43 → 00:23:46 คุยกับคุณหมอครับออันนี้มาต้องมามาปรึกษา
00:23:46 → 00:23:49 ว่าเอ๊ะเราจะปรับปรับๆยังไงซึ่งอันนี้มัน
00:23:49 → 00:23:54 ต้องเป็นแบบไซโคอ่าทางด้านการรักษาอีกแบบ
00:23:54 → 00:23:57 หนึ่งอาจจะไม่ได้ใช้ยาช่วยอะไรเงี้ครับ
00:23:57 → 00:23:58 อันนี้เป็นปรับพฤติกรแต่ว่าเราสามารถทำ
00:23:58 → 00:24:01 Sleep ไดอารี่เองได้มั้ยคะแบเราเขียเวัน
00:24:01 → 00:24:03 นี้ฉันตื่นกี่โมงทำได้เลยนี่เข้า Google
00:24:04 → 00:24:06 โหลดเลยรูหน้าตา Sleep Diary อย่าเงี้ย
00:24:06 → 00:24:09 ครับอืเขก็มีให้เต็มที่เลยผมบอกว่านมีทุก
00:24:09 → 00:24:12 ที่เลยอืค่ะจะเป็นแบบภาคภาษาอังกฤษใคร
00:24:12 → 00:24:15 ถนัดภาษาอังกฤษก็ภาษาอังกฤษพฒนาภาษาไทยก็
00:24:15 → 00:24:17 มีภาษาไทยอะไรเงี้ยครับคพอเราวัดได้แล้ว
00:24:17 → 00:24:20 สิคะอาจารย์แล้วจะแก้ยังไงอ่ะคะคือเรามา
00:24:20 → 00:24:22 กำหนดจิตตัวเองฉันต้องหลับฉันต้องหลับฉัน
00:24:22 → 00:24:25 ต้องหลับเงี้ยหรอคะหรือว่าฉันจะต้องตื่น
00:24:25 → 00:24:27 ฉันจะต้องตื่นฉันต้องตื่นเงี้ยป่ะคะเบอก
00:24:27 → 00:24:29 ว่าบางั้งของการผ่อนคลายอ่ะครับมันก็ต้อง
00:24:29 → 00:24:31 เป็นการผ่อนคลายการปรับพฤติกรรมการเข้า
00:24:31 → 00:24:35 นอนให้ตรงเวลาก็ก่อนนอนคณต้องผ่อนคลายให้
00:24:35 → 00:24:39 มากที่สุดอก็คือเลิกดูทีวีเลิกดูหนังฟัง
00:24:39 → 00:24:43 เพลงเลิกอ่าเล่นโซเชียลเลยออะไรอย่าง
00:24:43 → 00:24:45 เงี้ยครับหรือว่าปรับสิ่งแวดล้อมที่นอน
00:24:45 → 00:24:48 ต้องมืดต้องต้องเงียบต้องเย็นหรือว่า
00:24:48 → 00:24:50 อุณหภูมิที่เหมาะสมอะไรงี้ไม่ต้องต้อง
00:24:50 → 00:24:52 เย็นเนาะอุณหภูมิที่เหมาะสมอะไรอย่าง
00:24:52 → 00:24:55 เงี้ยครับหรือว่าเอ่อเตียงเนี่ยต้องต้อง
00:24:55 → 00:24:57 ใช้เพื่อการนอนอย่างเดียวเท่านั้นนะอะไร
00:24:57 → 00:24:59 อย่างเงี้ยครับบางคนนั่งดูทีวีนั่งดู
00:24:59 → 00:25:01 netflix มันทำให้ร่างกายชิ้นว่าอัน
00:25:01 → 00:25:05 อันเนี้ยมันไม่ต้องนอนก็ได้อะไรเงี้ยต้อง
00:25:05 → 00:25:08 ปับพฤติกรรมอีกนานเลยครับอันนี้คต้องคุย
00:25:08 → 00:25:11 กับคุณหมอแหละเนาะถ้าอยากจะปรับให้มันเ่อ
00:25:11 → 00:25:13 เรียบร้อยอะไรอย่าเงี้ยครับอค่ะอาจารย์
00:25:13 → 00:25:15 ค่ะมีคุณผู้ฟังทางบ้านถามมาอีกอย่างต่อ
00:25:15 → 00:25:18 เนื่องค่ะว่าอาการละเมอเป็นพันธุกรรมมั้ย
00:25:18 → 00:25:21 คะเอ่อส่วนใหญ่ไม่ไม่ไม่มีไม่มีรยงานว่า
00:25:22 → 00:25:24 มันเป็นพันธุกรรมนะครับซึ่งละเมอเนี่ย
00:25:24 → 00:25:26 ส่วนใหญ่อย่างที่เรียนไปตั้งแต่แรกว่า
00:25:26 → 00:25:28 ส่วนใหญ่มันเป็นตั้งแต่เด็กความเครียด
00:25:28 → 00:25:31 ความกังวลอะไรอย่างเงี้ยครับพอโตมาเนี่ย
00:25:31 → 00:25:33 เราก็ต้องมีความเครียดความกังวลสักอย่าง
00:25:33 → 00:25:36 หนึ่งมันถึงแสดงอาการอืค่ะวิธีการรักษาก็
00:25:36 → 00:25:39 คือถ้าวินิจฉัยได้ก็ต้องไปหาหาก่อนว่ามัน
00:25:39 → 00:25:43 มีอย่างอื่นที่มันละเมอหรือเปล่าอืว่าสุด
00:25:43 → 00:25:46 ท้ายก็คือไปแก้เรื่องความเครียดความกังวล
00:25:46 → 00:25:49 เรื่องที่มันซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา
00:25:49 → 00:25:53 อือะไรอย่าเงี้ยครับอืมันมันก็ต้องแก้กัน
00:25:54 → 00:25:56 ที่ตั้งแต่ต้นเหตุอ่ะนะฮะคุณหมอคือว่าจะ
00:25:56 → 00:25:59 ได้รู้ว่าเราเรานี่มีความเครียดหรือว่า
00:25:59 → 00:26:02 วิตกกังวลก่อนที่เราจะเข้าสู่ช่วงเวลา
00:26:02 → 00:26:06 นิราหรือเปล่าเอออะไรอย่างงี้นะฮะเออมีคำ
00:26:06 → 00:26:09 ถามเพิ่มเติมมั้ยจ๊ะคุณพี่หยกจ๋ามีค่ะมี
00:26:09 → 00:26:11 เดี๋ยวจะได้จะได้ถามคุณหมอเลยว่าไอ้วิธี
00:26:11 → 00:26:15 การตรวจเเป็นยังไงใช่ก็เค่ะบางคนก็บอกว่า
00:26:15 → 00:26:17 เนี่ยค่ะแบบว่ามิน่าผมชอบหลับในห้อง
00:26:17 → 00:26:22 ประชุมเพราะแอร์เย็นอ้าวโอ้อันนี้อันนี้
00:26:22 → 00:26:24 ต้องไปเช็คดูแล้วว่าเมื่อคืนดูฟุตบอลดึก
00:26:24 → 00:26:26 รือเปล่าอะไรอย่างเงี้เออตื่นเช้ามาทำงาน
00:26:26 → 00:26:29 อะไรอย่างงี้นะค่ะนะคะแล้วก็ส่วนใหญ่ก็
00:26:29 → 00:26:31 เนี่ยค่ะมาถึงช่วงที่ทุกคนอยากรู้ค่ะ
00:26:32 → 00:26:35 อาจารย์ว่าแบบว่าอ้าแล้วค่าใช้จ่ายแต่
00:26:35 → 00:26:37 เดิมมันเท่าไหร่เพราะตอนนี้ค่ะมันครอบ
00:26:37 → 00:26:39 คลุมทุกอย่างแล้วเรื่องของการตรวจเงยค่ะ
00:26:39 → 00:26:41 อาจารย์แต่ทีนี้ว่าแต่เดิมมันเท่าไหร่
00:26:41 → 00:26:43 แล้วพอหลังจากเราตรวจเสร็จแล้วค่ะกระบวน
00:26:43 → 00:26:45 การสิทธิ์ทุกรักษาของเราไม่ว่าจะเป็น
00:26:45 → 00:26:48 สิทธิ์สวัสดิการข้าราชการสิทธิ์ประกัน
00:26:48 → 00:26:50 สังคมสิทธิ์หลักประกันสุขภาพครอบคลุมผล
00:26:50 → 00:26:53 การรักษายาวนานจึงจบคอร์สมั้ยคะอาจารย์
00:26:53 → 00:26:57 เอ่อถ้าเป็นโรคก็ครอบคลุมนะผมผมคิดว่านะ
00:26:57 → 00:27:01 นะครับหมายถึงว่าครอบคลุมมั้ยก็คือสมมุติ
00:27:01 → 00:27:04 เป็นโรคอ่ะยังไงก็คือ 30 บาททุกสิทธิ์อ่ะ
00:27:04 → 00:27:07 ครับใช้ได้หมดละครับค่ะส่วนเรื่องการตรวจ
00:27:07 → 00:27:08 เนี่ยเหมือนกับว่า
00:27:08 → 00:27:12 เอิ่มจริงๆแล้วจริงๆแล้วก็ก็ถ้ามีข้อบ่ง
00:27:13 → 00:27:16 ชี้อ่ะครับตรวจได้หมดเลยอืหมดเลยครับผม
00:27:16 → 00:27:18 ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะว่ากรมบัญชีกลางเ้า
00:27:18 → 00:27:22 มีมีรหัสให้เบิกอยู่นี่ครับค่ะมีรหัให้
00:27:22 → 00:27:26 เบิกอยู่แล้วเอ่อราคา 7,000 อืครับผมมีมี
00:27:26 → 00:27:29 ทุกสิทธิ์เลยนะครับ 7,000 ก็คือหมายถึง
00:27:29 → 00:27:31 ว่าคือไม่รวมค่าห้องค่าอย่างอื่นนะครับ
00:27:31 → 00:27:34 อันนั้นคือแต่ละที่เ้าอาจจะมีต้องแอดมิ
00:27:34 → 00:27:37 ต้องอะไรยังไงอะไรเงี้ยครับแต่ว่าโดยปกติ
00:27:37 → 00:27:40 อ่ะมันเป็นค่าค่ามาตรฐานคือประมาณ 7,000
00:27:40 → 00:27:43 อยู่แล้วที่เบิกได้หมายถึงว่าเราไม่ต้อง
00:27:43 → 00:27:45 เสียค่าใช้จ่ายงงี้แล้วกันนะครับอครับไม่
00:27:45 → 00:27:49 ว่าจะเป็น 30 บาทอ่าอะไรอ่ะประกันสังคม
00:27:49 → 00:27:52 ประกันสังคมหรือว่าสิทธิ์ราชการก็ 7,000
00:27:52 → 00:27:55 เหมือนกันค่ะก็คือก็คือว่าถ้าเกิดคุณจะ
00:27:55 → 00:27:57 ตรวจคือคุณเก็บกระเป๋าเหมือนแบบไปไปไปพัก
00:27:57 → 00:27:59 โรงแรมเลยอย่างงั้นแค่เสื้อผ้าชุดเดียว
00:27:59 → 00:28:01 เพราะเราต้องนอนถูกมั้ยคะคือการตัวนี้
00:28:01 → 00:28:04 ต้องนอนคนอนอนเพราะส่วนใหญ่เนี่ยจะเอ่อ
00:28:04 → 00:28:06 ไม่ต้องรีบมาด้วยไม่ต้องมาตั้งแต่ไก่โห
00:28:06 → 00:28:08 เอาเวลาที่แบบสมมุติว่าเคยนอน 22:00 นใช่
00:28:08 → 00:28:11 มั้ยครับก็ไม่ต้องมาตั้งแต่ 16:00 นอะไร
00:28:11 → 00:28:15 อย่างเงี้ยครับก็ใกล้ๆเวลาสัก 19:00 นึง
00:28:15 → 00:28:18 20:00 นเงี้ยมาแล้วก็เาก็ติดหัวแล้วก็
00:28:18 → 00:28:20 เอ่อเค้าเรียกว่าอะไรติดเครื่องมือเนาะขอ
00:28:20 → 00:28:23 โทษทีใช้ภาษาชาวบ้านนิดนึงติดเครื่องมือ
00:28:23 → 00:28:25 อือติดเครื่องมืออ่านู่นนี่นั่นแล้วก็
00:28:26 → 00:28:28 ปล่อยให้เรานอนประมาณัก 5:00 6:00 นก็
00:28:28 → 00:28:31 เสร็จแล้วครับก็กลับบ้านออ๋อค่ะไปทำงาน
00:28:31 → 00:28:34 ต่อได้เลยหลายคนก็มาแล้วไปทำงานต่อได้เลย
00:28:34 → 00:28:36 ครับออ๋อเหมือนเราเปลี่ยนที่นอนแต่ว่าไอ้
00:28:36 → 00:28:38 การนอนที่นอนเพราะว่ากลางวันมันทำไม่ได้
00:28:38 → 00:28:40 แล้วเพราะเราไม่หลับอ่าครับใช่มั้ยครับ
00:28:40 → 00:28:42 Sleep Test ก็ต้องทำกลางคืนแหละครับ
00:28:42 → 00:28:46 แล้วก็ก็คืนเดียวก็พอแล้วอ๋อเหมือนเรามา
00:28:46 → 00:28:47 เปลี่ยนที่นอนแต่ว่าการนอนครั้งนี้มัน
00:28:47 → 00:28:50 เป็นการนอนเพื่อที่จะวิเคราะห์เรื่องราว
00:28:50 → 00:28:53 ของสุขภาพของเราใช่ใชครับเปลี่ยนจากโรง
00:28:53 → 00:28:56 แรมเป็นโรงพยาบาลใช่ค่ะแต่ว่าในห้องใน
00:28:56 → 00:28:58 ห้องสิไม่ได้น่ากลัวเหมือนในโรงพยาบาลนะ
00:28:58 → 00:29:03 ครับเคยเห็นเคยเหมาะสมกับกับการนอนอะไร
00:29:03 → 00:29:06 อย่างเงี้ยครับค่ะครับเอตรงเตียงก็จะเป็น
00:29:06 → 00:29:09 เหมือนเตียงอ่ะคล้ายๆเตียงโรงแรมอะไรอย่า
00:29:09 → 00:29:11 เงี้ยครับอือแต่ทีสมมุติอ่ะน้องดรมติด
00:29:11 → 00:29:13 ตุ๊กตาน้องเน่าเงี้ยเอาตุ๊กตาไปด้วยได้
00:29:13 → 00:29:17 มั้ยคะได้เลยครับอ๋อพอถ้ามันเป็นของเคย
00:29:17 → 00:29:19 ชินที่เราเคยหลับเราต้องมีใช่ก็คืออยาก
00:29:19 → 00:29:22 ให้สิ่งแวดล้อเหมือนเดิมที่เรานอนปกติอื
00:29:22 → 00:29:24 เพียงแค่เปลี่ยนเปลี่ยนสถานที่แค่นั้นเอง
00:29:24 → 00:29:27 อืใช่แต่เราแค่ไม่อยากให้ใครมาเฝ้าครับ
00:29:27 → 00:29:30 เพราะมันจะยิ่งเหมือนชวนกันคุยหรือมันจะ
00:29:30 → 00:29:32 แบบเอ๊ะมันจะไม่นอนอะไรอย่างเงี้ยครับการ
00:29:32 → 00:29:36 นอนก็จะไม่ไม่ประสบความสำเร็จอืค่ะคือจะ
00:29:36 → 00:29:39 มีคจะนอนคนเดียวเหมือนแบบภาวะปกติอะไร
00:29:39 → 00:29:41 อย่างเงี้ยครับคือการทำสลป Test นี่ก็คือ
00:29:41 → 00:29:44 จะมีเจ้าหน้าที่คอยคอยเฝ้าดูอยู่ตลอดมั้ย
00:29:44 → 00:29:46 ครับหรือว่าใช่ครับเจ้าหน้าที่ดูกล้อง
00:29:46 → 00:29:48 อยู่ตลอดะครับ 24 ช่วโมงเอ้ยไม่ใช่ 24
00:29:48 → 00:29:52 ชั่วมงนะตลอดที่เราทำอ่ะครับออเหรอฮะฮะ
00:29:52 → 00:29:54 ใช่ครับโอแล้วเจ้าหน้าที่เค้าไม่หลับเไม่
00:29:54 → 00:29:55 มีปัญหาเรื่องการนอนเหรอครับคุณหมอครับ
00:29:56 → 00:29:59 เค้าก็มาววคนมาเวรอยู่เวรเครับอออ๋อ
00:29:59 → 00:30:01 เหมือนอยู่เวรโรงพยาบาลทั่วไปไปแต่ว่าเ้า
00:30:01 → 00:30:03 มีกล้องดูเราเเพียงแค่เ้าไม่ได้มาจ้องเรา
00:30:03 → 00:30:06 อเป็นเป็นบ่ใช่เพราะว่าในในบางกรณีอ่ะ
00:30:06 → 00:30:09 ครับอย่างเช่นเราหยุดหายใจไปเยอะๆอะไร
00:30:09 → 00:30:11 อย่างเงี้ยครับหลายๆรอบเจ้าหน้าที่เาดู
00:30:11 → 00:30:13 แล้วเาก็แบบประเมินอยู่แล้วโอ้โหมันเยอะ
00:30:13 → 00:30:16 เหลือเกินเขาก็จะเอาเครื่องดันอากาศ
00:30:16 → 00:30:20 เครื่องดันอากาศมามาให้มาให้ให้เราใช้
00:30:20 → 00:30:24 แล้วก็ปรับค่าให้เลยครับครับอืปรับค่าหา
00:30:24 → 00:30:27 ค่าที่เหมาะสมให้ในคืนนั้นเพราะว่าสุด
00:30:27 → 00:30:29 ท้ายแล้วสุดท้ายมันต้องรักษาด้วยเครื่อง
00:30:29 → 00:30:33 ดันอากาศใช่มั้ยครับเราจะได้รู้เลยว่าออ
00:30:33 → 00:30:36 มีความดันประมาณไหนที่เหมาะสมทำให้เรานอน
00:30:36 → 00:30:38 หลับได้ดีอย่าเงี้ยครับเพราะฉะนั้นเเจ้า
00:30:38 → 00:30:41 หน้าที่บางทีเขาไม่ได้แค่นั่งดูเฉยๆมันก็
00:30:41 → 00:30:44 เข้ามาทำ intervention เอ่อทำกิจกรรมอะไร
00:30:44 → 00:30:48 บางอย่างกับเราด้วยอะไรเงี้ยครับอือ๋อคุณ
00:30:48 → 00:30:50 หมอครับมีคุณผู้ฟังทางบ้านสนใจเรื่องของ
00:30:50 → 00:30:55 การทำ Sleep Test แต่ว่าถ้าหากเอ่อคนไข้
00:30:55 → 00:30:59 ท่านนี้เนี่ยทำงานกะกลางคืนต้องเลิกตอน
00:30:59 → 00:31:01 เช้าเนี่ยเราสามารถที่จะเข้าไปทำ Sleep
00:31:01 → 00:31:04 Test ช่วงกลางวันก็ได้ใช่มั้ย
00:31:04 → 00:31:07 ฮะต้องต้องแล้วแต่ที่ที่เขาเปิดอ่ะครับ
00:31:07 → 00:31:11 ถ้าอย่างราชการเนี่ยบางทีมันก็จะเป็นเป็น
00:31:11 → 00:31:14 ส่วนใหญ่เขาก็จะมีคิวให้ทำกลางคืนอเป็น
00:31:14 → 00:31:17 หลักอะไรอย่าเงี้ยครับอ่าแต่ถ้าต้องต้อง
00:31:17 → 00:31:19 คุยกับต้องคุยกันเป็นลายๆไปเพราะว่าส่วน
00:31:19 → 00:31:22 ใหญ่คือเราเราพูดถึงคนส่วนใหญ่เนาะคสให
00:31:22 → 00:31:25 ขึ้นใช่มั้ยครับถ้ามันเป็น Extra อย่าง
00:31:25 → 00:31:28 งั้นน่ะมันแล้วมันจะต้องอจะต้องทำกลางวัน
00:31:28 → 00:31:32 ก็ก็ก็ก็สามารถทำได้นะครับหมอหมอคิดว่าทำ
00:31:32 → 00:31:34 ได้แหละเพราะว่าเราก็แค่ปรับปรับห้องก็
00:31:34 → 00:31:37 คือใช้ห้องเดิมอ่ะอืปับให้มันมืดแค่นั้น
00:31:37 → 00:31:39 เองอ่ะครับมืดเหมือนเหมาะสมกับสภาพที่คน
00:31:39 → 00:31:44 ไข้นอนอืก็ตรงไปตรงมาครับผมอาจารย์คะมีคน
00:31:44 → 00:31:47 แบบก็คือทำได้แหละครับแต่ว่าต้องต้องไป
00:31:47 → 00:31:50 คุยกับสถานที่ถูกต้องถูกต้องคือ้แต่ถาม
00:31:50 → 00:31:52 ว่าในทางปฏิบัติทำได้ไม่ได้ต่างประเทศก็
00:31:52 → 00:31:55 ทำทุกที่ไหนๆก็ทำหมดเออใช่มั้ยฮะครับผม
00:31:55 → 00:31:58 เอ่อมีคุณผู้ฟังทางบ้านที่เป็นหญิงสาว
00:31:58 → 00:32:01 ครับถามมาครับว่าสมมุติถ้าอยากจะไปทำสลป
00:32:01 → 00:32:03 Test เนี่ยเป็นผู้หญิงบอบบางคนเดียว
00:32:03 → 00:32:06 เนี่ยถ้าไปแล้วมันจะมีความรู้สึกน่าวิตก
00:32:06 → 00:32:09 กังวลน่ากลัวหรือว่าต้องระมัดระวังตัวเอง
00:32:09 → 00:32:12 เป็นพิเศษยังไงบ้างมั้ยฮะมันเหมือนโรง
00:32:12 → 00:32:16 พยาบาลน่ะครับอือืใช่มั้อืค่ะก็เหมือนน
00:32:16 → 00:32:18 โรงพยาบาลในห้องพิเศษอ่ะครับอ๋อเป็นห้อง
00:32:18 → 00:32:20 เดี่ยวๆเลยเนาะคุณมอเนาะห้องเดี่ยวไม่มี
00:32:20 → 00:32:22 ใครอยู่กับเราหรอกครับครับเราคนเดียวห้อง
00:32:22 → 00:32:24 น้ำเราคนเดียวทุกอย่างเป็นของเราคนเดียว
00:32:24 → 00:32:28 หมดอืคะออเออไม่น่ากลัวไม่น่ากลัวเออไม่
00:32:28 → 00:32:31 ต้องตกใจไม่ต้องกังวลกันไปอาจารย์
00:32:31 → 00:32:35 ค่ะอาจารย์คะแล้วสมมุติว่าคนที่รับการ
00:32:35 → 00:32:37 ตรวจรักษา Sleep Test ไปแล้วมีบางคนมั้ย
00:32:37 → 00:32:39 คะเขาหายขาดจากเรื่องของคุณภาพการนอนที่
00:32:39 → 00:32:41 แบบไม่ดีแล้วแล้วเขาก็ต้องกลับมาตรวจอีก
00:32:41 → 00:32:45 มีมยคะอออหมายถึงว่าหายไปแล้วแล้วมาตรวจ
00:32:45 → 00:32:47 อีกทีหรอครับหรว่ายังไงนะครับค่ะใช่ค่ะ
00:32:47 → 00:32:49 หายไปแล้วกลับมาตรวจอีกทีมีมั้ยคะ
00:32:49 → 00:32:53 เอิ่มถถ้าเกิดสมมุติว่าการรักษามันมันไม่
00:32:53 → 00:32:57 ได้ผลอืเอมันอาจจะมีโรคอื่นที่สงสัยแต่
00:32:57 → 00:32:59 เอ๊ะมันมีอย่างอื่นมากกว่านั้นหรือเปล่า
00:32:59 → 00:33:03 อะไรเงี้ยครับก็มีครับที่มาทำรอบ 2 อ๋อ
00:33:03 → 00:33:05 ครับผมแต่ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยถ้าได้
00:33:05 → 00:33:07 วินิจฉัยโรคที่ถูกต้องแล้วแล้วก็ได้รับ
00:33:07 → 00:33:09 การรักษาอย่างเช่นบางคนใช้เครื่องอัด
00:33:09 → 00:33:12 อากาศเครื่องเครื่องอัดอากาศแรงดันอากาศ
00:33:12 → 00:33:15 เนี่ยเขไปอ่ะทุกเก็คือดีดีก็ไม่ต้องมาทำ
00:33:15 → 00:33:17 ใหม่ครับเพราะว่าในเครื่องนั้นน่ะมันก็จะ
00:33:18 → 00:33:22 มีตัวบอกมีค่าเอ่อพารามิเตอร์ต่างๆมันคอย
00:33:22 → 00:33:24 บอกอยู่แล้วครับว่านอนได้ดีเท่าไหร่ไม่ดี
00:33:24 → 00:33:25 เท่าไหร่ค่ะ
00:33:25 → 00:33:29 อืดูจากอันนั้นค่ะเครื่องแรงดันอากาศนี่
00:33:29 → 00:33:32 คือครอบคลุมทั้ง 30 สิมั้ยคะอาจารย์หรือ
00:33:32 → 00:33:35 ว่าต้องแบบเป็นไม่ครับไม่ไม่เหรออ๋อไม่
00:33:35 → 00:33:39 ครับเออคือคือคือณตอนเนี้ยเฉพาะเป็นค่า
00:33:39 → 00:33:43 ตรวจสลปนะที่มันครอบคุมหมดอืครับตามเข้า
00:33:43 → 00:33:44 ใจว่าตามประกาศล่าสุดเนี่ยไม่เฉพาะ
00:33:44 → 00:33:48 เครื่องตรวจสลปค่ะเฉพาะเครื่องเครื่องดัด
00:33:48 → 00:33:50 อัดอากาศเนี่ยถ้าเป็นข้าราชการเ่ะเบิกได้
00:33:50 → 00:33:54 20,000 อืค่ะ 20,000 ซึ่งราคาก็แี่ตั้ง
00:33:54 → 00:33:57 แต่ 15,000 จนถึง 670,000 บางทบางเครื่อง
00:33:57 → 00:34:00 เป็นแสนแล้วแต่อชของ
00:34:00 → 00:34:03 เครื่องแล้วแต่อชั่นแล้วก็แล้วแต่จตของ
00:34:03 → 00:34:07 แต่ละท่านโอ้อือครับอืออ่าครับผมซึ่งบาง
00:34:07 → 00:34:10 ทีเนี่ยเราเราตรวจแล้วเรารู้แล้วเราต้อง
00:34:10 → 00:34:13 ใช้เครื่องแล้วเราไม่รักษาก็เหมาะเหมาะ
00:34:13 → 00:34:17 คิดว่าไม่มีประโยชน์อืใช่มั้ยครับเพราั้น
00:34:17 → 00:34:18 ถ้าเราจะไปตรวจแล้วคิดว่ามันถ้ามันต้อง
00:34:18 → 00:34:23 รักษาเราต้องพร้อมแหละโหจค่ะมันเหมือนลด 1
00:34:23 → 00:34:27 คก็ราคาประมาณเนี้ยครับ 20,000 20,000
00:34:27 → 00:34:29 ก็อ่ะก็เหมือนโทรศัพท์เครื่องนึงแล้วกัน
00:34:29 → 00:34:32 เนาะเอออันนี้คือค่าค่าค่าตรวจนะทุกกว่า
00:34:32 → 00:34:33 iPhone ใช่ค่ะแล้วก็เหมือนมอเตอร์ไซค์
00:34:34 → 00:34:36 มอเตอร์ไซค์มอเตอร์ไซค์ 1 คันอืโอหนี่คือ
00:34:36 → 00:34:38 ค่าตรวจ Sleep Test นี่มันไม่ใช่ค่า
00:34:38 → 00:34:41 เครื่องใช่ค่าเออค่าดสมมุติถ้ามันจะต้อง
00:34:41 → 00:34:43 ใช้ไงใช่ตงตรวจแล้วคุณจะต้องแบบให้รักษา
00:34:43 → 00:34:45 ให้หายถ้าเกิดคุณตรวจแล้วคุณไม่รักษา
00:34:45 → 00:34:47 อาจารย์ก็บอกว่ามันก็แทบไม่มีประโยชน์แต่
00:34:47 → 00:34:50 ถ้าคุณตรวจคุณต้องรักษาแต่คุณรักษาถ้าคุณ
00:34:50 → 00:34:54 ต้องใช้เครื่องนี้ก็หมายความว่าคุณต้องมี
00:34:54 → 00:34:57 เงินใช่มั้ยคะพอสมควรพอสมควผมว่าถ้าเกิด
00:34:57 → 00:34:59 สมมุติเราไปตรวจเราแค่ได้แค่รู้อ่ะแล้วไง
00:34:59 → 00:35:02 อ่ะแล้วมันก็เออก็ก็จริงค่ะอาจารย์อืได้
00:35:02 → 00:35:05 แค่รู้อ่ะอเอป่วยเป็นโรคนี้อไม่ไม่รักษา
00:35:06 → 00:35:09 อือาจารย์คะแล้วเราไปใช้อย่างอื่นไม่ก็
00:35:09 → 00:35:11 ไม่มีต้องเป็นเครื่องแรงดันอากาศเท่านั้น
00:35:11 → 00:35:14 ถ้าเราแบบออกซิเจนเหมือมันเอ่อไม่ๆๆครับ
00:35:14 → 00:35:16 ไม่ได้เพราะว่าปัญหาคืออย่างที่บอกครับ
00:35:16 → 00:35:19 ว่าสมมุติว่ามันหยุดหายใจไปเนี่ยเพราะ
00:35:19 → 00:35:22 เนื่องจากว่ากล้ามเนื้อมันหย่อนค่ะใช่
00:35:22 → 00:35:25 มั้ยครับก็คือแสดงว่าอากาศที่เข้าไปอ่ะ
00:35:25 → 00:35:28 มันไม่พอมันก็เลยต้องเอาเครื่องเนี่ยเข้า
00:35:28 → 00:35:30 ไปดันอากาศให้ผ่านความหย่อนของกล้ามเนื้อ
00:35:30 → 00:35:32 นี้ไปเพราะเราไม่สามารถให้ยาเลยไปให้
00:35:32 → 00:35:35 กล้ามเนื้อมันตึงขึ้นมาตอนหลังเพราหลับ
00:35:35 → 00:35:37 มันก็คือธรรมชาติของเราเนาะมันหย่อนหมดอ
00:35:37 → 00:35:40 ค่ะอะไอย่างเงี้ยครับอออ่าเพราะฉะนั้นการ
00:35:40 → 00:35:42 รักษาก็คือต้องใช้ไอ้เครื่องเนี่ยดัน
00:35:42 → 00:35:46 อากาศเข้าไปให้ผ่านไอ้ช่องที่มันแคบเนี่ย
00:35:46 → 00:35:49 เข้าไปอ๋อในคอครับมันเลยต้องมีแรงดันถูก
00:35:49 → 00:35:52 ต้องครับก็คือผนเข้าไปในในในในจมูกในคอ
00:35:52 → 00:35:55 ของเราเข้าไปค่ะไม่ว่าคุณจะดึงหน้าดึงคอ
00:35:55 → 00:35:59 ไม่ช่วยเพราะว่ามันมันหย่อนข้างใน
00:35:59 → 00:36:02 ครับมันหย่อนข้างในอาจารย์ขามีคุณผู้ฟัง
00:36:02 → 00:36:05 ทางบ้านถามว่าจุดนี้ต้องเดินไปที่แผนกไหน
00:36:05 → 00:36:08 คะเพื่อนจะรับการรักษาเอ่อส่วนใหญ่อ่า
00:36:08 → 00:36:11 อย่างงี้แล้วกันนะครับส่วนใหญ่คนที่ดูแล
00:36:11 → 00:36:13 เรื่อง Sleep อ่ะครับตอนเหน้าามเนี้ยนะ
00:36:13 → 00:36:16 ครับมีหมอ 3 กลุ่มที่ดูแลเรื่อง Sleep นะ
00:36:16 → 00:36:20 ครับอันแรกก็คือเป็นหมอสมองครับหมอสมอง
00:36:20 → 00:36:24 ที่เขาอ่าเป็นอ่าเชี่ยวชาญทางด้านการนอน
00:36:24 → 00:36:27 หลับอ่าครับค่ะครับเป็นนโร Sleep เนาะก็
00:36:27 → 00:36:29 สถาบันปราสาทวิทยาอ่าอีกกลุ่มนึงก็เป็น
00:36:29 → 00:36:33 หมอหมอโรคปอดอ่ะครับหมอโรคทางเดือนหายใจ
00:36:33 → 00:36:37 อ่ะครับค่ะอ่าเขาคก็จะดูแลเหมือนกันค่ะนะ
00:36:37 → 00:36:40 ครับอีกกลุ่มนึงก็คือเป็นหมอทางเดินอ่า
00:36:40 → 00:36:44 หมอเอ่อเค้าเรียกว่าอะไรนะครับอ่าหูเข้า
00:36:44 → 00:36:47 จมูกอ่าหูเข้าจมูกซึ่งเขาก็จะดูแลเช่นกัน
00:36:47 → 00:36:50 ค่ะเพราะโรคบางโรคเนี่ยอ่าอาจจะต้องส่งไป
00:36:50 → 00:36:53 ปรึกษาออกหูข้าจมูกเช่นเราเห็นว่าโอ้โห
00:36:53 → 00:36:55 กล้ามเนื้อมันมีความหย่อนมันมีความนู่น
00:36:55 → 00:36:58 นี่นั่นแล้วก็เราให้เครื่องอัดอากาศไปไม่
00:36:58 → 00:37:01 ดีเนาะเหมือนว่าโให้ไปอัดอะไรไปแล้วก็ไม่
00:37:01 → 00:37:04 ดีไม่ไม่เห็นผลอะไรเงี้ครับอาจจะต้องให้
00:37:04 → 00:37:07 คุณหมอทางด้านเ่อหูคอจมูกเนี่ยเข้าไปผ่าด
00:37:08 → 00:37:10 ตัดอะไรหรือเปล่าในช่องคอของเราเพื่อไป
00:37:10 → 00:37:14 ดึงกล้ามเนื้อบางชนิดอะไรอย่างเงี้ยครับ
00:37:14 → 00:37:17 อก็ต้องมีการปรึกษาแล้วแต่ปัญหาของแต่ละ
00:37:17 → 00:37:20 แต่ละคนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะนะครับ
00:37:20 → 00:37:23 อีสุดท้ายก็คือเป็นหมอที่เป็นหมอ Sleep
00:37:23 → 00:37:27 เอง Special ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นหมอกลุ่ม
00:37:27 → 00:37:29 นี่แหละซึ่งเขาไปเรียนต่อ specialist ค่ะ
00:37:29 → 00:37:34 อือะไรนะครับอืค่ะคือผมเห็นในพวกแพคเกจ
00:37:34 → 00:37:37 ของโรงพยาบาลเอกชนต่างๆเนี่ยคุณหมอครับ
00:37:37 → 00:37:42 คือไอ้เอกชนเนี่ยโอเคถ้าคุณมีเงินคุณมี
00:37:42 → 00:37:45 ทรัพย์มากพอเนี่ยคุณก็สามารถไปแล้วก็ทำทำ
00:37:45 → 00:37:49 การตรวจได้เลยแต่ถ้าในกรณีของโรงพยาบาล
00:37:49 → 00:37:51 ของรัฐแล้วเราอยากจะไปใช้สิทธิ์หลัก
00:37:51 → 00:37:55 ประกันเนี่ยมีปัญหาปั๊บเข้าไปทำได้เลยม
00:37:55 → 00:37:57 ครับหรือว่ามันจะต้องรอคิวกันนานเบอร์ไหน
00:37:57 → 00:38:00 ครับอมันต้องนัดคิวครับมันต้องนัดคิวคือ
00:38:00 → 00:38:03 คิวอ่ะมันคือ 1 ครึ่งทำได้ 1 คนใช่มั้ย
00:38:03 → 00:38:07 ครับครับ 1 ครื่อง 1 คนต่อ 1 คืนอืใช่
00:38:07 → 00:38:10 มั้ยครับเพราะเพราเราต้องจินตนาการว่า 1
00:38:10 → 00:38:12 เครือง 1 คน 1 คืนเพราะฉะนั้นเนี่ยสมมุติ
00:38:12 → 00:38:17 ว่าโรงพยาบาลไหนมี 3 เครื่องเค้าก็ต้องมี
00:38:17 → 00:38:21 ห้อง 3 3 3 ห้องแล้วต้องมีเจ้าหน้าที่
00:38:21 → 00:38:25 2-3 คนครับออค่ะใช่มั้ยครับมันไม่ได้แค่
00:38:25 → 00:38:27 มีแค่เครื่องอย่างเดียวแล้วเรานี่ไครับ
00:38:27 → 00:38:29 มันต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ต้องคอยดูเราทั้ง
00:38:29 → 00:38:32 คืนต้องแปรผลบางทีคือต้องต้องเข้าไปช่วย
00:38:32 → 00:38:35 ปรับแรงดันอากาศให้ด้วยครับค่ะปรับ
00:38:35 → 00:38:37 เครื่องอ่าแรงดันอากาศให้ด้วยอะไรอย่าง
00:38:37 → 00:38:39 เงี้ยครับเพราะฉะนั้นมันต้องแล้วเจ้าหน้า
00:38:39 → 00:38:42 ที่อ่ะจะต้องเป็น Sleep Technician อ๋อ
00:38:42 → 00:38:45 certify ด้วยอะไรอย่างเงี้ยครับอืเพราะ
00:38:45 → 00:38:48 มันไม่ได้แบบอ่าคุณพยาบาลไปขึ้นเวรสิอ่ะ
00:38:48 → 00:38:50 วนกันไม่ได้ไงครับต้องเป็นเจ้าหน้าที่
00:38:50 → 00:38:53 เฉพาะของเอีกอือย่าเงี้ยครับเพราะฉนั้น
00:38:53 → 00:38:57 มันจะติดเรื่องของทรัพยากรเนาะค
00:38:57 → 00:39:00 อ่าโรงบารัฐบาลนะครับเรื่องของทรัพยากร
00:39:00 → 00:39:05 เอ่อถ้าเป็นเอกชนโอเคก็ราคาาจะตามนั้นนะึ
00:39:05 → 00:39:07 เราไม่เชั
00:39:07 → 00:39:10 ถึงไปได้เลยแล้วก็คิวมันก็สั้นกว่าก็
00:39:10 → 00:39:13 เหมือนเหมเหมือนเราไปรักษาโรคทั่วไปอ่ะ
00:39:13 → 00:39:15 ค่ะครับครับเออเป็นเอกชนคิวก็สั้นกว่า
00:39:15 → 00:39:18 อะไรอย่าเงี้ยครับอือย่างรัฐบาลก็คือรอ
00:39:18 → 00:39:24 คิวอืครับค่ะอนะก็อาจจะต้องอย่างอย่าที่
00:39:25 → 00:39:27 สถาบันปราสาทครับคุณบครับสมมุติถ้าวันนี้
00:39:27 → 00:39:30 เนี่ยผมผมรู้สึกว่าผมผมอยากจะตรวจเหลือ
00:39:30 → 00:39:33 เกินแล้วอ่ะถ้าคุณหมอวินิจฉัยแล้วว่าคุณ
00:39:33 → 00:39:36 จะต้องตรวจนะต้องทำสลิปเทสนะรอกันประมาณ
00:39:36 → 00:39:38 สักกี่เดือนครับณเวลานี้เผื่อว่าใครที่สน
00:39:38 → 00:39:41 ใจอยู่แล้วอยากจะไปทำเนี่ยเออจะได้โอเค
00:39:41 → 00:39:43 เตรียมใจไว้ได้ถูกไม่ใช่ว่าเออพอไปปั๊บโห
00:39:44 → 00:39:46 ได้เลยอะไรอย่างเงี้ยฮะยังไม่ได้ยังไม่
00:39:46 → 00:39:49 ได้คือกี่เดือนอันนี้ไม่แน่ใจเพราะว่า
00:39:49 → 00:39:50 ครับ
00:39:50 → 00:39:53 เอ่อมันจะมีแผนกที่เขาคอยนัดอยู่อ่ะครับ
00:39:53 → 00:39:57 ครับครับอ่าแต่ก็เป็นเดือนนะครับอืเป็น
00:39:57 → 00:39:59 เดือนอยู่นะฮะเป็นหลักเดือนขึ้นไปเหมือน
00:39:59 → 00:40:02 กันเอออ่ะเพราะฉะนั้นก็ถ้าใครรู้สึกว่ามี
00:40:02 → 00:40:05 ปัญหากับเรื่องของการนอนอือนอนเยอะแต่เรา
00:40:05 → 00:40:08 สามารถแต่เราสามารถไปไปสมมุติว่าไปแล้ว
00:40:08 → 00:40:11 หมอบอกว่าเออตรวจนะก็คือเราสามารถไปจอง
00:40:11 → 00:40:14 คิวไว้ก่อนได้นะครับมันก็จะมีบางวันที่
00:40:14 → 00:40:17 อ่อคนที่นัดไว้ในสลอตเนี่ยเขาอาจจะแบบไม่
00:40:17 → 00:40:20 ว่างไม่สะดวกเพราะว่าบางทีเ้ามีงานด่วนไง
00:40:20 → 00:40:23 ครับครับๆต้องไปต่างจังหวัดด่วนนู่นนี่
00:40:23 → 00:40:25 นั่นอย่างเงี้ยมันก็จะว่างเขาก็จะโทรตาม
00:40:25 → 00:40:29 อืได้คิแทกอะไรเงี้ครับเหมือนไปทำวีซ่า
00:40:29 → 00:40:32 อเมริกาคิ
00:40:32 → 00:40:35 แกงก็คือว่าได้รักษาชัวร์แหละแต่ใจเย็นๆ
00:40:35 → 00:40:38 นิดนึงอาจจะต้องรอนิดนึงเอเพราะว่ามันมัน
00:40:38 → 00:40:41 ต้องใช้ระยะเวลากันอยู่พอสมควรเนาะอืได้
00:40:41 → 00:40:43 ครับวันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะ
00:40:43 → 00:40:45 ครับที่มาให้ความรู้กับเราในค่ำคืนวันนี้
00:40:45 → 00:40:48 แล้วก็ตอบคำถามเยอะมากจริงๆวันนี้คำถาม
00:40:48 → 00:40:49 จริงๆังมีอีกเยอะคุณหมอครับแต่ว่าอาจจะ
00:40:50 → 00:40:53 ต้องอดใจรอแล้วก็เชิญคุณหมอมาในโอกาสหน้า
00:40:53 → 00:40:54 ได้นะครับคุณหมอวันนี้ขอบพระคุณมากๆนะ
00:40:55 → 00:40:58 ครับคุณหมอครับสวัสดีครับขอบคุณค่ะสวัสดี
00:40:58 → 00:41:00 ค่ะ