00:00:16 → 00:00:44 แ
00:00:44 → 00:00:48 ตอนปีพศ 2538 เนี่ยอยู่ๆก็มีอาการอ่อน
00:00:48 → 00:00:52 เพียมีไข้ตำๆแล้วก็มีมีอาการตาตัวเหลือง
00:00:52 → 00:00:56 ก็เลยไปหาหมอตอนนั้นอาจารย์ก็คิดว่าน่าจะ
00:00:56 → 00:01:00 เป็นไวรัสตับอักเสบกังวลว่าจะเป็นตับแข็ง
00:01:00 → 00:01:02 กลัวมันจะรุกลามมากก็ไม่ได้คิดว่าโชคร้าย
00:01:02 → 00:01:06 มากแต่ก็คิดว่าทำไมทำไมเราต้องเป็นคนอื่น
00:01:06 → 00:01:11 ไม่เป็นแล้วก็ที่ในครอบครัวก็เป็นต้องดู
00:01:11 → 00:01:14 แลตัวเองดีๆพักผ่อนออกกำลังกายกินยาหรือ
00:01:14 → 00:01:17 ฉีดยารักษานานแค่ไหนแล้วบางคนก็รักษามา
00:01:17 → 00:01:23 เป็น 10 กว่าปีเ้าก็ยังไม่
00:01:23 → 00:01:26 หายสวัสดีครับอาจารย์ครับสวัสดีครับ
00:01:26 → 00:01:28 สวัสดีครับสครับตอนนี้ผมอยู่กับพี่จิ๋นนะ
00:01:28 → 00:01:31 ครับแล้วก็คุณผู้ชมครับเรามีความเข้าใจ
00:01:31 → 00:01:33 ผิดๆเกี่ยวกับโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารก็
00:01:33 → 00:01:36 คือว่าโรคของไวรัสตับอักเสบบีว่าเป็นแล้ว
00:01:36 → 00:01:39 น่ากลัวอย่างงั้นอย่างงี้วันนี้พี่จิ๋นก็
00:01:39 → 00:01:42 เป็นไวรัสตับอักเสบบใช่มั้ยครับค่ะอ่าเคย
00:01:42 → 00:01:45 เป็นครับเคยเคยเป็นปัจจุบันนี้ปัจจุบัน
00:01:45 → 00:01:48 หายขาดแล้วนะขาดแล้วค่ะเหรอผมเพิ่งทราบ
00:01:48 → 00:01:50 เลยว่าบางทีไวรัสตับอักเสบบีนึกว่ามัน
00:01:50 → 00:01:52 ไวรัสมันเป็นตลอดกาลเลยมันจะอยู่ในตัวเรา
00:01:52 → 00:01:55 เหมือนเชื้อหวัดงั้นอาจารย์ช่วยเล่าภาพ
00:01:55 → 00:01:57 คร่าวๆให้ผมเข้าใจหน่อยครับบางทีผมมีข้อ
00:01:57 → 00:02:00 มูลเก่าๆอยู่เงี้ยครับถ้าพูดถึงว่าวตับ
00:02:00 → 00:02:02 อักเสบในบ้านเราเนี่ยไวรัสตับอักเสบ B ก็
00:02:02 → 00:02:05 ถือว่าเป็นปัญหาที่สำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
00:02:05 → 00:02:09 ของประเทศไทยก็คือว่าเดินมาอย่างน้อยใน 20
00:02:09 → 00:02:12 คนต้องมี 1 คนแหละที่เป็นไวรัสตปกเสบบี
00:02:12 → 00:02:14 เรื้อรังนะเราพูดกันถึงเรื้อรังก็คือว่า
00:02:14 → 00:02:17 เป็นแล้วไม่หายมีไวรัสอยู่ในร่างกายไว้
00:02:17 → 00:02:21 ตลอดทีนี้ในอดีตเราก็มักจะเข้าใจผิดคิด
00:02:21 → 00:02:23 ว่าส่วนใหญ่แล้วไวรัสตัอเสบ B เนี่ยจะ
00:02:23 → 00:02:28 ต้องติดต่อโดยเช่นไปอยู่ร่วมกันกับผู้
00:02:28 → 00:02:30 ป่วยที่เป็นไวรัส B หรือรับประทานอาหาร
00:02:30 → 00:02:33 ร่วมกันหรือต่างๆซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่นะ
00:02:33 → 00:02:36 ครับอย่างในกรณีของคุณจรินพรจรินพรเนี่ย
00:02:36 → 00:02:40 เอ่อติดไวรัสตับอักเสบบีมาอย่างไรครับเคย
00:02:40 → 00:02:43 มีประวัติคือมีพี่ชายเป็นอ่ะค่ะแล้วก็เคย
00:02:43 → 00:02:46 มีประวัติเรื่องตาตัวเหลืองเกินร้อยละ 90
00:02:46 → 00:02:49 ของผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีเหลือ
00:02:49 → 00:02:51 หลังก็จะเป็นเหมือนกับคุณจรินธรก็คือว่า
00:02:51 → 00:02:56 ติดจากมารดาขณะคลอดนะครับก็คือว่าตอนที่
00:02:56 → 00:02:58 เกิดมาเนี่ยอาจจะมีผิวหนังตลอกปอกเปิก
00:02:58 → 00:03:02 แล้วก็สัมผัสเลือดแม่ขนาดคลอดแล้วก็เลย
00:03:02 → 00:03:04 ติดเป็นเรือรังคือส่วนใหญ่ถ้าเป็นในวัย
00:03:04 → 00:03:07 ผู้ใหญ่เช่นไปซุกซนเที่ยวผู้หญิงไปติด
00:03:08 → 00:03:10 ไวรัสตับประเสบีมาก็จะเป็นเฉียบพลันแล้ว
00:03:10 → 00:03:12 หายขาดไม่เป็นเรื้อรังนะครับถ้าเป็นเรื้อ
00:03:12 → 00:03:17 รังเนี่ยมักจะติดตอนก่อนวัย 1 ขวบนะครับ
00:03:17 → 00:03:20 แล้วก็จะเป็นเรื้อรังทีนี้ในกรณีอย่าง
00:03:20 → 00:03:24 เนี้ยส่วนใหญ่ก็ไม่มีอาการนะครับอการติด
00:03:24 → 00:03:26 นี้ไม่ใช่กรพันธ์นะครับติดขณะคลอดใน
00:03:27 → 00:03:29 ปัจจุบันต่อให้แม่เป็นไวรัส B ก็ไม่ติด
00:03:29 → 00:03:32 ติดลูกอีกแล้วเพราะว่าเรามีวัคซีนฉีดป้อง
00:03:32 → 00:03:35 กันเด็กทารกหลังจากคลอดแล้วถ้าฉีดภายใน 12
00:03:35 → 00:03:39 ชมงเนี่ยก็จะไม่ติดเชื้อจากแม่ใช่มั้ย
00:03:39 → 00:03:41 ครับอันนี้ของกรณีของคุณจรินธรเนี่ยเป็น
00:03:41 → 00:03:46 รุ่นสุดท้ายที่ติดเพราะว่าเกิดเร็วไปรุ่น
00:03:46 → 00:03:49 สุดท้ายเกิดเร็วไปก่อนที่จะมีวัคซีนนะ
00:03:49 → 00:03:51 ครับก็คือว่าเรามีมาตอนนี้ประมาณ 25 ปี
00:03:52 → 00:03:55 มันก็ถ้าเกิดช้าอีก 25 ปีเนี่ยก็ทันทัน
00:03:55 → 00:03:59 วัคซีนนะความอันตรายของโรคอ่ะครับคือบาง
00:03:59 → 00:04:01 ทีเรากลัวเมื่อกี้อาจารย์บอกว่าไวรัสตับ
00:04:01 → 00:04:03 อักเสบโดยเฉพาะบอย่างเงี้เป็นอันดับ 1
00:04:03 → 00:04:06 ความน่ากลัวมันอยู่ตรงไหนครับความน่ากลัว
00:04:06 → 00:04:09 คือความเข้าใจผิดแล้วเข้าใจว่ามันติดต่อ
00:04:09 → 00:04:12 โดยการกินอาหารร่วมกันซึ่งไม่ใช่นะครับอ
00:04:12 → 00:04:16 อ่ามันเกิดคนไข้เป็นไวรัสบีไปกินอาหารถ้า
00:04:16 → 00:04:18 เกิดเราไม่ได้เป็นไวรัสบีเกิดกินอาหาร
00:04:18 → 00:04:22 ร่วมกันรติดนะครับเกิดเย็นๆไปรับประทาน
00:04:22 → 00:04:24 ก๋วยเตี๋ยวริมถนนอะไรต่างๆก็เปิดร้านตั้ง
00:04:24 → 00:04:28 กเปิดร้านยันปิดร้านใช้น้ำถังเดียวกัน
00:04:28 → 00:04:31 ล้างจานติดกันทั้งเมืองและแต่ในกรณีอย่าง
00:04:31 → 00:04:33 เงี้ยส่วนใหญ่ไม่เลยติดด้วยวิธีนั้นความ
00:04:33 → 00:04:37 เข้าใจผิดเราเข้าใจว่าไวรัสเนี่ยทำร้าย
00:04:37 → 00:04:40 ตับแล้วทำให้ตับเราเสียหายอครับคิดว่า
00:04:40 → 00:04:42 อย่าแบนั้นเหมือนกันนะครับซึ่งไม่ใช่นะ
00:04:42 → 00:04:45 ครับในกรณีของไวรัสตับอักเสบ B เนี่ยอยู่
00:04:45 → 00:04:48 ในตับไม่ได้ทำลายตับครับนะครับแต่ว่าการ
00:04:48 → 00:04:51 ที่ไวรัสมันแบ่งตัวไปเรื่อยๆภูมิต้านทาน
00:04:51 → 00:04:54 ของผู้ป่วยที่เห็นของแตกปลอมอยู่ในตับ
00:04:54 → 00:04:58 เนี่ยก็จะเข้ามารบด้วยกับไวรัส B ทีนี้
00:04:58 → 00:05:01 ไวรัสเนี่ยมันสิงอยู่ในตับใช่มั้ยครับ
00:05:01 → 00:05:03 เพราะงั้นพอภูมิต้านทานเข้ามารบกับไวรัส
00:05:03 → 00:05:06 ตสบ B เนี่ยอ้าตับมันก็เลยถูกอ่าตับ
00:05:06 → 00:05:09 เหมือนกับเป็นสมอภูมิรบของมัน 2 ฝ่าย
00:05:09 → 00:05:12 เพราะฉะนั้นตับเสียไปเนี่ยไม่จะเสียเพราะ
00:05:12 → 00:05:15 ไวรัส B เลยเสียใช่เหมือนกับเราคว่ำจาน
00:05:15 → 00:05:18 ไว้เต็มเต็มโต๊ะเนี่ยแมงสาบวิ่งจานไม่แตก
00:05:18 → 00:05:22 แต่เกิดมีแมววิ่งกระโจนมาตะปบแมงสาบเนี่ย
00:05:22 → 00:05:24 จานแตกเพราะแมวเพราะภูมิต้านทานของผู้
00:05:24 → 00:05:28 ป่วยเพราะฉะนั้นคนในอดีตมักจะเข้าใจผิด
00:05:28 → 00:05:31 ว่าอย่าให้ร่างกายอ่อนแอเดี๋ยวจะไวรัส B
00:05:31 → 00:05:33 จะกำเริบไม่เกี่ยวถ้าเกิดเป็นเอดส์งอม
00:05:34 → 00:05:36 ร่างกายอ่อนแอไวรัส b มีเท่าไหร่ก็ไม่ไม่
00:05:36 → 00:05:40 อักเสบครับงั้นการที่เกิดโรคเนี่ยไม่ได้
00:05:40 → 00:05:42 เกิดเพราะร่างกายอ่อนแอมันเกิดเพราะภูมิ
00:05:42 → 00:05:45 ต้านทานเนี่ยไปรบกับไวรัสตอักเสบ B นะ
00:05:45 → 00:05:48 ครับแล้วความเข้าใจผิดนอกจากนั้นก็คือบาง
00:05:48 → 00:05:51 ทีเราเข้าใจว่าเอ้ยอย่าอดนอนนะเดี๋ยวจะทำ
00:05:51 → 00:05:53 ให้เกิดไวรัสีกำเริบซึ่งไม่เกี่ยวกัน
00:05:53 → 00:05:55 ไวรัสบมันอยากจะนอนเมื่อไหร่มันก็นอนของ
00:05:55 → 00:05:57 มันมันมีมันไม่มีสมองที่จะรู้สึกง่วงนอน
00:05:57 → 00:06:00 ถ้าเราอดนอนมันก็ต้องเพลียต่อให้ไม่มี
00:06:00 → 00:06:02 ไวรัส B ก็เพลียครับไม่เกี่ยวกันกับว่า
00:06:02 → 00:06:05 การที่เราจะมีไวรัส B หรือไม่ไวรัส B
00:06:05 → 00:06:07 แล้วเราตรวจยไงครับอาจารย์อันนี้ถือว่า
00:06:07 → 00:06:10 คุณจรินธรโชคดีที่เขามีอาการอาจจะเป็น 1
00:06:10 → 00:06:13 ในรเพราะส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับ
00:06:13 → 00:06:15 อักเสบบีเเลื้อรังไม่ได้มี
00:06:15 → 00:06:19 อาการคือรอจนมีอาการเนี่ยก็เช่นเป็นตับ
00:06:19 → 00:06:23 วายไปแล้วเป็นเป็นมะเร็งตับใกล้ตายแล้ว
00:06:23 → 00:06:27 คือมามีอาการมาหาหมอจองวัดดังๆยังไม่ทัน
00:06:27 → 00:06:31 มันเป็นภัยเงียบที่เอ่อกว่าจะเกิดอาการ
00:06:31 → 00:06:35 เนี่ยจะเป็นขั้นสุดท้ายของโรคทำไมถึงเป็น
00:06:35 → 00:06:37 อย่างนั้นเพราะตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก
00:06:37 → 00:06:39 เพราะฉะนั้นมันมีสำรองไว้เยอะมากเพราะ
00:06:39 → 00:06:43 ฉะนั้นสมมุติว่าเรามีตับ 1 อันแล้วหั่น
00:06:43 → 00:06:46 เป็น 6 ชิ้นเนี่ยเอาออกไป 5 ชิ้นเหลือ
00:06:46 → 00:06:49 เพียง 1 ชิ้นเนี่ยก็ยังใช้ได้ยังยังตรวจ
00:06:49 → 00:06:52 ไม่พบความผิดปกติเลยเพรางั้นสำรองมีเยอะ
00:06:52 → 00:06:55 มากนะครับเพราะฉะนั้นก็เลยทำให้กว่าจะมี
00:06:55 → 00:06:58 อาการเนี่ยจะน้อยที่เผอิญของคุณจรินธรอาจ
00:06:58 → 00:07:01 จะตอนนั้นมีการเริ่มรุนแรงซะก่อนก็เลย
00:07:01 → 00:07:04 เริ่มมีอาการตอนที่มีอาการเนี่ยยังไม่ถึง
00:07:04 → 00:07:07 กับว่าเป็นตับแข็งคือมันเป็นช่วงที่อายุน
00:07:07 → 00:07:10 น้อยอยู่ตอนนั้น 20 ปีที่แล้วเนี่ยก็ตอน
00:07:10 → 00:07:13 นั้นยังไม่ได้เป็นอะไรมากเราก็ติดตามอัน
00:07:13 → 00:07:17 นี้คืออาการเนี้ยเกิดจากการที่ภูมิต้าน
00:07:17 → 00:07:20 ทานของผู้ป่วยครับไปรบกับไวรัสแล้วตับ
00:07:20 → 00:07:24 เป็นสมรภูมิพังใช่ก็เลยเกิดตัวตาเหลือง
00:07:24 → 00:07:27 ขึ้นมาทีนี้โชคดีภูมิต้านทานของคุณจรินธร
00:07:27 → 00:07:30 เนี่ยดีมาก
00:07:30 → 00:07:34 ก็คือลบแล้วสามารถจะควบคุมไวรัสเนี่ยให้
00:07:34 → 00:07:38 สงบพอสงบเนี่ยตับตับเราเนี่ยมันมีความ
00:07:38 → 00:07:41 สามารถพิเศษนะครับถ้าเปรียบเทียบก็เหมือน
00:07:41 → 00:07:44 จิ้งจกสลัดหางไปแล้วเนี่ยมันงอกได้เพงั้น
00:07:44 → 00:07:48 มันสามารถจะดูแลตัวเองทำให้ฟื้นตัวเอง
00:07:48 → 00:07:51 ขึ้นมาได้นี่ก็เป็นสิ่งที่ดีของร่างกายก็
00:07:51 → 00:07:53 คือเนื่องจากมันเป็นออวัยวะที่สำคัญมาก
00:07:53 → 00:07:56 เพราะฉะนั้นมันก็ต้องพยายามซ่อมสร้างตัว
00:07:56 → 00:07:58 เองให้ได้มากที่สุดเพื่อจะกลับมาทำงานให้
00:07:58 → 00:08:01 ได้ดีที่สุดนะครับเพราะงั้นเอ่อของคุณ
00:08:01 → 00:08:04 จรินธรก็ถือว่าเป็นหนในอืออาจจะประมาณ 1
00:08:04 → 00:08:08 ใน 5 20% นะค 1 ใน 5 ของผู้ป่วยที่เป็น
00:08:08 → 00:08:11 ไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังที่พออายุเพิ่ม
00:08:11 → 00:08:16 ขึ้นเกิน 45-50 ปีไปแล้วเนี่ยอาจจะโชคดี
00:08:16 → 00:08:20 มีความสามารถที่จะจัดการไวรัสสงบไปแล้วะ
00:08:20 → 00:08:23 มีภูมิขึ้นได้ก็คือกลับมาเป็นคนปกติเลยไป
00:08:23 → 00:08:25 ตรวจเลือดไม่มีใครรู้ว่าในอดีตเคยเป็น
00:08:25 → 00:08:28 ไวรัสตัอักเสบ B มาก่อนถึงแม้หายมีภูมิ
00:08:28 → 00:08:31 ต้านทานเกิดขึ้นถาวรแล้วเนี่ยก็ยังแนะนำ
00:08:31 → 00:08:35 ให้คุณจรินธรมาตรวจเป็นระยะๆะเหมือนกันอ
00:08:35 → 00:08:38 นั่นคือการดูแลตัวเองดูแลตัวเองก็คือดูแล
00:08:38 → 00:08:42 สุขภาพลดความเสี่ยงต่างๆไม่ไปดื่มสุรา
00:08:42 → 00:08:46 ดื่ม 20,000 เมาหรือว่าใช้ยูบยาพร่ำเพื่อ
00:08:46 → 00:08:48 นะครับแล้วก็ถ้าผมสรุปงี้ได้มั้ยอาจารย์
00:08:48 → 00:08:52 ว่าไวรัสตับอักเสบีเนี่ยสามารถหาเองได้
00:08:52 → 00:08:54 ครับถ้าโชคดีแต่ถ้าเกิดโชคไม่ดีอยู่กับ
00:08:55 → 00:08:58 วันต่อไปเราจะคบกับเขาอย่างไรดีอครับเรา
00:08:58 → 00:09:01 ก็จะต้องติดตามเป็นรระยะๆนะครับแล้วก็
00:09:01 → 00:09:03 ประเมินแล้วดูว่ายังมีเชื้อเยอะอยู่หรือ
00:09:03 → 00:09:06 มีเริ่มมีการอักเสบเนี่ยแพทย์อาจจะนัดสัก
00:09:06 → 00:09:08 2-3 เดือนครั้งนึงเพื่อประเมินว่าจำเป็น
00:09:09 → 00:09:11 ต้องช่วยหรือไม่คือส่วนใหญ่ของผู้ป่วย
00:09:11 → 00:09:14 เนี่ยยืนได้เองโดยที่ไม่ต้องใช้แพทย์ช่วย
00:09:14 → 00:09:17 นะครับร่างกกายของเราสามารถดูแลตัวเองได้
00:09:17 → 00:09:20 ด้วยใช่ครับมากไปกว่านั้นก็คือว่าในกรณี
00:09:20 → 00:09:24 ของวรัตอักเสบ B ครับถ้าท่านมีญาติพี่
00:09:24 → 00:09:27 น้องสายตรงมีพี่มีน้องมีพ่อมีแม่เป็นวตป
00:09:27 → 00:09:31 เสพบีท่านควรมาตรวจด้วยครับว่าท่านเป็น
00:09:31 → 00:09:34 เพราะเพราะรอให้มีอาการอาจจะช้าเกินไปนะ
00:09:34 → 00:09:36 ครับเพถ้าเกิดว่าเพราะส่วนใหญ่จะติดจาก
00:09:36 → 00:09:38 แม่ใช่มั้ยครับถ้าเกิดว่ามีพี่น้องมาก
00:09:38 → 00:09:41 กว่า 1 คนเป็นน่ะมาตรวจได้เลยครับมันไม่
00:09:41 → 00:09:44 ได้การันตีว่าจะต้องติดจากแม่ 100% ทุกคน
00:09:44 → 00:09:47 นะครับคือมันขึ้นอยู่กับปริมาณของไวรัส
00:09:47 → 00:09:51 ของแม่ขณะขณะที่คลอดบุตรคนนั้นๆว่ามาก
00:09:51 → 00:09:53 น้อยแค่ไหนถ้าเกิดโชคดีปริมาณไวรัสน้อย
00:09:54 → 00:09:56 ขนาดที่คลอดคลอดบุตรคนนั้นก็คนนั้นก็โชค
00:09:56 → 00:09:59 ดีไปวไม่ติดถ้าปริมาณไวรัสเยอะคนนั้นก็
00:09:59 → 00:10:02 ได้มรดกจากแม่ไปคือไม่ได้ถ่ายทอดทาง
00:10:02 → 00:10:06 พันธุกรรมแต่ติดขขณะที่คลอดออกมาคือติด
00:10:06 → 00:10:08 ลูกอาจจะมีแผลแล้วก็ติดทางเลือดของคุณแม่
00:10:08 → 00:10:10 ใช่มั้ยครับทีนี้ผมถามว่าสมมุติถ้าเกิด
00:10:10 → 00:10:14 คลอดออกมาแล้วไม่มีเชื้อแต่ดื่มนมแม่ที่
00:10:14 → 00:10:17 มีเลือเชื้อคือบุตรที่เกิดจากแม่ที่เป็น
00:10:17 → 00:10:20 ไวรัสตสบบีนะครับภายใน 12 ช่วโมงจะได้รับ
00:10:21 → 00:10:24 การฉีดวัคซีนนะครับทีนี้ว่าเอ่อกเอ่อถึง
00:10:24 → 00:10:27 วัคซีนอาจจะโพมขึ้นไม่ทันก็จริงแต่เนื่อง
00:10:27 → 00:10:29 จากว่ามันไม่ได้ติดทางน้ำนมครับนะครับยก
00:10:29 → 00:10:33 เว้นว่าแม่มีแผลมีแผลที่ที่หัวนมอะไรต่าง
00:10:33 → 00:10:37 แต่เนี่ยอาจจะให้ลูกดูดนมไม่ได้ซึ่งก็ดูด
00:10:37 → 00:10:39 ไม่ได้อยู่แล้วเพราะหัวนมเจ็บอ่ะใช่มั้ย
00:10:39 → 00:10:41 ครับงั้นในกรณีอย่างงั้นเนี่ยถึงจะไม่ให้
00:10:41 → 00:10:44 เอ่อดื่มนมแม่นะครับแต่โดยทั่วไปเราไม่
00:10:44 → 00:10:47 ห้ามการดื่มนมจากแม่ครับแล้วก็แนะนำให้
00:10:47 → 00:10:50 ดื่มด้วยครับไวรัสบีตอนนี้สำหรับผมนะครับ
00:10:50 → 00:10:52 ไวรัสตับอักเสบบีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่
00:10:52 → 00:10:55 คิดเราสามารถดื่มน้ำหรือจะเป็นจริงๆ
00:10:55 → 00:10:57 สามารถกินร่วมกับคนอื่นได้แล้วก็ดูแลคือ
00:10:57 → 00:11:00 ใครที่เป็นเราไม่ต้องแบบแยกตัวแบบนั้นใน
00:11:00 → 00:11:03 ฐานะเรื่องของความสัมพันธ์แต่ถ้าเกิดเรา
00:11:03 → 00:11:07 มีญาติคนที่เป็นมากกว่า 1 หรือมีอาการรีบ
00:11:07 → 00:11:10 มาพบแพทย์เพราะว่าเจอแต่ละทีมันก็เป็นภัย
00:11:10 → 00:11:12 เงียบเพราะอาจารย์บอกว่าถ้ามาเจอแล้วปุ๊บ
00:11:12 → 00:11:16 จองวัดดีๆก็ไม่คือรอมีอาการจองวัดดีๆไม่
00:11:16 → 00:11:19 ทันครับเพราะว่าวัดบางวัดอาจจะชิวนานสาธุ
00:11:19 → 00:11:22 ขอบคุณจารมากครับสวัสดีครับสเดี๋ยวตรวจผม
00:11:22 → 00:11:24 ขอุญาตไปตรวจเลือดเลยขอบคุณมากสวัสดีครับ
00:11:24 → 00:11:35 คุณสวัสครับตเลือดตเลือดเลย
00:11:35 → 00:11:38 ขาเขาไม่ค่อยแข็งแรงอะไรกล้ามเนื้อเขาไม่
00:11:38 → 00:11:42 แข็งแรงค่ะนี่หมอก็มาตรวจทุกเดือนกระดูก
00:11:42 → 00:11:46 เขาข้างข้าสพกข้างเขาจะร้าวหน่อยอะไร
00:11:46 → 00:11:49 เงี้ยกลัวหลุดลัวสะโพกเขาหลุดตรงขาเเนี่ย
00:11:49 → 00:11:54 2 ข้างเขาจะไม่มีแรงเดินนถ้าจูงเเดินก็
00:11:54 → 00:11:57 ก็เดินแบบเดินเก็กระโดดเอาอย่างเงี้ยแต่
00:11:57 → 00:12:00 ทรงตัวไม่ได้เยืนเองยังไม่ไม่ได้อะไต้อง
00:12:00 → 00:12:03 คอยจับเาเดินตลอดอะไรถ้าไปไหนไปไหนก็เอา
00:12:03 → 00:12:06 ใส่รถอะไรอย่างเงี้ยเราก็ไม่รู้สาเหตุที่
00:12:06 → 00:12:10 แรกๆเนาะ 6-7 เดือนเด็กมันจะเขาจะคานจะ
00:12:10 → 00:12:12 อะไรแล้วใช่มั้ยอันนี้เขาไม่คานไม่อะไร
00:12:12 → 00:12:16 เขาจะนอนอย่างเดียวเราก็เลยผิดสังเกตก็
00:12:16 → 00:12:20 เลยมาหาหมอตลอดอค่ะรักษาแงตั้งแต่ 7
00:12:20 → 00:12:27 เดือนตลอดมาจเท่าทุกวันเ
00:12:27 → 00:12:31 ค่ะวันนี้นี้เป็นคุณยายแล้วก็น้องนิวนะฮะ
00:12:31 → 00:12:34 ที่มาพบอาจารย์ครับน้องนิวนี่มีอาการอะไร
00:12:34 → 00:12:37 บ้างครับน้องนิวนี่ก็มีอาการเรื่องเอ่อ
00:12:37 → 00:12:41 แขนขาเนี่ยเกร็งนะขาเกร็งแล้วก็สะโพกจะ
00:12:41 → 00:12:43 หลุดออกจากเป้าออนะครับนะฮะก็เลยต้องมา
00:12:44 → 00:12:46 ผ่าตรงแล้วก็เมีอาการภาพรวมนี่เเป็นการ
00:12:46 → 00:12:49 พัฒนาการช้าแล้วก็สมองเล็กอ๋อสมองเขาจะ
00:12:49 → 00:12:53 เล็กกว่าปกติฮะน้องนิวนี่ตอนคลอดเนี่ย
00:12:53 → 00:12:57 เป็นแฝดแล้วก็คนที่เป็นพี่หรือน้องได้
00:12:57 → 00:12:59 เสียชีวิตก่อนใช่มั้ยเสียชีวิตก่อนในขณะ
00:12:59 → 00:13:03 ตั้งคันอ๋อฮแล้วก็เหลือน้องเ้าคนเดียวออก
00:13:03 → 00:13:07 มานะฮะคเดียองั้นอาการจริงๆคือจากสมองที่
00:13:07 → 00:13:09 เล็กนะฮะสมองใช่ฮะเลยส่งผลส่วนอื่นๆส่งผล
00:13:10 → 00:13:13 ทำให้ส่วนอื่นๆมีการพัฒนากชานะครับอนี่
00:13:13 → 00:13:16 การที่รักษาไปแล้วเนี่ยฮะมีการผ่าใช่มั้ย
00:13:16 → 00:13:18 ฮะอาจารย์อจารย์ผ่าตรงไหนยังไงบคือเราเรา
00:13:18 → 00:13:22 เราผ่าผ่าสะโพกเพื่อผ่าคือเมีแขนขาเกร็ง
00:13:22 → 00:13:25 แล้วก็พยายามตัดแล้วก็ยืดเอ็น 100 หวาย
00:13:25 → 00:13:29 ที่อืที่ขา 2 ข้างแล้วก็ที่เข่าเอที่สะโก
00:13:29 → 00:13:31 นะแล้วก็เพื่อเราป้องกันเพื่อไม่สะโพก
00:13:32 → 00:13:34 น้องเเลื่อนถ้าไม่ผ่านี่จะเป็นยังไงถ้า
00:13:34 → 00:13:36 ไม่ผ่าเรากลัวอนาคตเนี่ยสะโพกมันจะมีการ
00:13:36 → 00:13:39 เลื่อนออกแล้วก็แล้วทำความสะอาดลำบาก
00:13:39 → 00:13:42 เพราะแขนขาเาจะเกร็งนะคุณคุณผู้ปกครองก็
00:13:42 → 00:13:45 จะดูแลลำบากนะฮะเรื่องทำความสะอาดเอ่อตาม
00:13:45 → 00:13:49 เวลาเน้องเอุจระปัสสาวะเงี้นะครับอ๋อฮะ
00:13:49 → 00:13:51 ครับตอนนี้ก็เลยผ่าการผ่านี่เพื่อไปทำ
00:13:51 → 00:13:53 อะไรบ้างนะฮะเพื่อไปยืดเอ็นส่วนใหญ่ยืด
00:13:54 → 00:13:56 เอ็นยืดเอ็นอย่างเดียวใช่ฮะพอพอยืดเอ็น
00:13:56 → 00:13:59 หมายถึงว่าก็จะไม่ไม่ไม่เกร็งไม่ติดก็ติด
00:13:59 → 00:14:01 น้อยลงติดน้อยงอยลงออแดงว่ายังติดอยู่้
00:14:01 → 00:14:04 อยู่ติดน้อยลงใช่ครับแต่ตรงสะโพกก็จะไม่
00:14:04 → 00:14:07 ไม่ไม่เลื่อนออกสะโพกก็จะก็คือแทนที่จะก็
00:14:07 → 00:14:20 เราเพิ่มทำให้มันเข้าไปในเบ้ามากขึ้น
00:14:20 → 00:14:23 อ๋อเขาจะมีแผลผ่าแต่แผลนี่ส่วนใหญ่เป็น
00:14:23 → 00:14:26 แผลเจาะแทบจะมอง 2 ข้างเนี่ยจะมีแผลเป็น
00:14:26 → 00:14:29 อยู่นิดๆตงเยนะครับตรงนี้เเหรอฮะเล็กๆนะ
00:14:29 → 00:14:32 แผลนี้จะเป็นแผลแผตรงนี้แล้วก็แผลเล็ก
00:14:32 → 00:14:34 แล้วก็จะมีแผลเล็กๆตรงนี้ไม่ซุบๆบเห็น
00:14:34 → 00:14:37 มั้ยฮะตรงนี้เเหรฮะใช่ฮะแผลเล็กๆเนี่ยแผล
00:14:37 → 00:14:40 เล็กมากแผเป็นเแผลตรงเนะครับแล้วก็แผลตรง
00:14:40 → 00:14:42 สะโพกนะแล้วแล้วเจาะเหมือนเป็นรูๆเอง 3
00:14:42 → 00:14:45 จุดฝั่งละ 3 จุดใช่ 3 จุดแต่เพื่อให้
00:14:46 → 00:14:49 เพื่อให้น้องเเนี่ยคือเกร็งน้อยลงครับแต่
00:14:49 → 00:14:51 เขาคก็ยังเกร็งอยู่นะแต่ผมว่าเขาดีขึ้น
00:14:51 → 00:14:54 เดิมเนี่ยเเอ้าไม่ได้เลยอ๋อนี่เาอ้าได้
00:14:54 → 00:14:57 มากขึ้นนะฮะแล้วก็ส่วนส่วนน้องเนั่งเอง
00:14:57 → 00:15:00 ได้มั้ยเดี๋ยวรอเคนั่งนั่งเองได้มน้องคน
00:15:00 → 00:15:02 นี้นั่งเองไม่ได้ไม่ได้เพราะว่ากล้าม
00:15:02 → 00:15:06 เนื้อเยังควบคุมไม่ได้กี่ขวบแล้วคุณยายคน
00:15:06 → 00:15:09 นี้จ 4 แล้วค่ะวันนี้คุณยายทำอะไรยังไง
00:15:09 → 00:15:12 ให้น้องเ้าบ้างกายภาพจะทำอะไรยังไงบ้าทำ
00:15:12 → 00:15:17 หมอที่แนะนำไปก็ทำขาอืขาเป็นไนั่นไงก็ทำ
00:15:17 → 00:15:20 แขนทำขาครับทำๆทำยังไงฮะคุณยายทำให้ดู
00:15:20 → 00:15:26 หน่อยทำแบบนั้นน่ะก็ทำทำอันนี้ขีกทุเรียน
00:15:26 → 00:15:30 แล้วก็ทำอย่างงี้ค้เออเยิ้มนะนะชอบใจเหรอ
00:15:30 → 00:15:33 แล้วก็หมอก็ทำให้ดัดขาอ๋อดัดขาด้วยนี้
00:15:33 → 00:15:35 เจ็บมั้ย
00:15:35 → 00:15:40 ออพยหน้านิดหน่อยก็ทำขึ้นมาอย่าง
00:15:40 → 00:15:44 งี้นี่ๆเค้าเจ็บหรือเค้าชอบใจเค้าเเจ็บเค
00:15:44 → 00:15:46 เจ็บใช่มั้ยเเคไม่อยากให้ทำอ๋อไม่อยากให้
00:15:46 → 00:15:50 ทำใช่มั้แต่เหมือนยิ้มนะจทำอ่าอย่างงี้
00:15:50 → 00:15:52 เจ็บมั้ยเจ็บมั้ยก็หมอให้
00:15:52 → 00:15:56 ยกให้ยกงนี้ค่ะอืทำไมต้องให้ทำท่าพวกนี้
00:15:56 → 00:15:59 ครับอาจารย์พวกนี้ก็ฝึกยืดกล้ามเนือเื้อ
00:15:59 → 00:16:01 ส่วนใหญ่ยืดเื้อเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อติด
00:16:01 → 00:16:04 แล้วไม่การแบบเหมือนกับออกออกกำลังกายให้
00:16:04 → 00:16:06 เเราเน้นเพราะว่าเรากลัวเรื่องสะโพกมันจะ
00:16:06 → 00:16:10 ติดเยึดเกร่งนะนะครับช่วงแขนมีอะไรต้องทำ
00:16:10 → 00:16:13 มช่วงช่วงแขนนช่วงแขนเ้าไม่ได้ไม่ได้ติด
00:16:13 → 00:16:16 มากนะไม่ได้ติดนะส่วนขานเติดแต่ปัญหาของ
00:16:16 → 00:16:19 แขนเ้ามีเรื่องการการใช้มากกว่าคือเ้าแบบ
00:16:19 → 00:16:21 ยังการ movement การขยับอะไรเยังการ
00:16:21 → 00:16:23 เคลื่อนไหวเยังไม่ไม่สามารถที่จะใช้ได้
00:16:23 → 00:16:25 งานหยิบจับอะไรได้มั้ยฮคุณยายหยิบช้อน
00:16:25 → 00:16:28 หยิบอะไรได้มั้ยฮะหยิบได้ค่ะอ๋อเหยิบได้
00:16:28 → 00:16:31 นะคหยิบสามารถตักเข้าปากเองตตักได้แต่ว่า
00:16:31 → 00:16:35 บางทีเหกบางทีก็ได้กินอะไรงอ๋อเอ้ยเเไม่
00:16:35 → 00:16:37 สามารถเคี้ยวได้เองเ้ามันคณน้องคุณไข้
00:16:37 → 00:16:41 กลุ่มนี้ก็ปัญหาเรื่องการกลืนการกลืนเเ
00:16:41 → 00:16:44 กลืนอย่างเดียวเคี้ยวนิดๆหน่อยกลืนเใช่
00:16:44 → 00:16:46 แล้วก็ชอบมียังไม่ละเอียดยังไม่อะไรก็
00:16:46 → 00:16:49 เกินครับแล้วชอบมีน้ำลายไหลใช่มั้ยทมีน้ำ
00:16:49 → 00:16:52 ลายไหลเจะปัญหาเรื่องเหมเหมือนเด็กๆเล็กๆ
00:16:52 → 00:16:55 ที่เยเยังน้ำลายชอบไหลนะเพเกลืนยังังไม่
00:16:55 → 00:16:59 ค่อยดีเกลืนน้ำลายยังไม่ได้งี้ชอบไหลตลอด
00:16:59 → 00:17:03 หยดตลอดออนี่พัฒนาการช้าใช่น้องเจะค่อน
00:17:03 → 00:17:05 ข้างพัฒนาการช้าไม่เทียบกับเด็กในวัย
00:17:05 → 00:17:07 เดียวกันครับน้องเตอนนี้ก็ 4 ขวบใช่มั้ย
00:17:07 → 00:17:10 คจจะ 4 ขวบ 4 4 ขวบเนี่ยปกติแล้วเนี่ย 4
00:17:10 → 00:17:13 ขวบต้องวิ่งเล่นได้ใช่มั้ยฮะนี่น้องก็ยัง
00:17:13 → 00:17:16 นั่งนั่งเองไม่ค่อยได้เลยฮะครับแล้วจาก
00:17:16 → 00:17:19 นี้ไปจะเป็นยังไงครับพนกการของเค้าจะดี
00:17:19 → 00:17:21 ขึ้นก็เราก็หวังว่าดีจะต้องดีขึ้นนะครับ
00:17:22 → 00:17:25 เพราะยังไงในก็ตามแนวโน้มพัฒนาการก็ควรจะ
00:17:25 → 00:17:29 ดีขึ้นตามตามสภาพนะฮะแต่น้องก็ออกเพราะก็
00:17:29 → 00:17:31 ตอนนี้กายภาพอยู่ใช่มั้ยคุณยายกายภาพอยู่
00:17:31 → 00:17:36 เราก็ต้องเอ่อก็ก็ก็ฝึกไปเรื่อยๆนะครับ
00:17:36 → 00:17:39 ฝึกไปๆน้องเค้าเรียนหนังสือยังเรียนยัง
00:17:39 → 00:17:42 ยังไม่เข้าจเพอเคไอ้นี่ตัวเองยังไม่ได้
00:17:42 → 00:17:45 เพราะเเดินยังไม่ได้ยังไม่ได้จครับจากนี้
00:17:45 → 00:17:49 ไปอาจารย์จะแนะนำคุณยายแล้วก็ครอบครัวให้
00:17:49 → 00:17:53 ดูแลน้องต่อยังไงฮะก็ผมว่าก็ตอนนี้ก็คือ
00:17:53 → 00:17:55 ต้องเน้นเรื่องกายภาพนะแล้วก็ช่วยเหลือดู
00:17:55 → 00:17:59 แลดูแลเแล้วก็อาจจะพยายามเอ่อสอนเค้าแบบ
00:17:59 → 00:18:02 กินข้าวสอนเค้าช่วยเหลือตัวเองบ้างอะไ
00:18:02 → 00:18:04 ชีวิตประจำวันทั่วไปอะไรงี้นะให้ให้ได้
00:18:04 → 00:18:08 ก่อนแล้วก็การสื่อสารำสำคัญนะเอยากได้
00:18:08 → 00:18:11 อะไรเราต้องรู้แต่ผมว่าคุณยายน่าจะรู้นะน
00:18:11 → 00:18:14 ใช่มว่าใชว่าเอยากได้อะไรอยากหิวมั้ยอะไร
00:18:14 → 00:18:17 อย่างเงี้ยเเแจ้งให้ทราบมขอทราบได้มั้ยเ
00:18:17 → 00:18:21 ก็ถ้าเหิวเจะชี้ใส่อะไอย่างงี้การสื่อส
00:18:21 → 00:18:24 กันใช่สื่อสาให้ได้นะคุณยายคุยกับเค้ารู้
00:18:24 → 00:18:26 เรื่องคือเข้าใจว่าอนี้คืออะไรอาการแบบ
00:18:26 → 00:18:29 นี้เต้องการเค้าอยากเล่นอะไรเคก็ชี้อ่า
00:18:29 → 00:18:32 ถ้าไม่ถส้าถ้าถูกเก็พยักหน้าอออย่างเมื่อ
00:18:32 → 00:18:35 กี้ที่ตอนทำผมถามเอ๊ะนี่เค้าเค้ายิ้มหรือ
00:18:35 → 00:18:38 เค้าไม่อยากทำหรือเเจ็บอะไรอย่างเงี้ยแต่
00:18:39 → 00:18:41 คุณยายดูออกใช่มพอเยังอันนี้เค้าเจ็บนะเ
00:18:41 → 00:18:44 ไม่อยากทำคุณยายบอกได้สนเสแล้วก็นัดนัด
00:18:44 → 00:18:47 ส่วนใหญ่ก็ประมาณ 3 ช่วงนี้เผ่านละนะแล้ว
00:18:47 → 00:18:49 ก็นัดประมาณ 3 เดือน 6 เดือนดูว่าอาการ
00:18:49 → 00:18:52 วัฒนาเป็นยังไงแต่น้องเมีเมีอย่างที่เน
00:18:52 → 00:18:54 ได้ทราบคือน้องเมีนัดหลายหมออ๋อคือเราจะ
00:18:54 → 00:18:57 นัดใกล้ๆกันครับเช่นมีหมอเอ่อวิทยศาสตร์
00:18:57 → 00:19:03 ฟื้นฟูมั้ยเก็ดูนะฮะเออเจกศีสังวสังวาใช่
00:19:03 → 00:19:06 นะก็นัดมามีหมอเด็กก็ดูใช่มั้ยหมเด็กนัด
00:19:06 → 00:19:09 จะมีจะมีหมอเด็กเราจะนัดใกล้ๆกันทีใชมาที
00:19:09 → 00:19:14 เดียวใช่ๆติดๆกันเรือนก็นัดติดๆเรือนคนละ
00:19:14 → 00:19:16 เดือนละเดือนอ๋อฮะก็ขอบคุณคุณยายมากๆนะ
00:19:16 → 00:19:19 ครับแล้วก็เอ่อวังว่าอารน้องุมจะดีขึ้น
00:19:19 → 00:19:28 เรื่อยๆการดูแลที่ดีของคุณยายนะครับ
00:19:28 → 00:19:58 เ
00:00:16 → 00:00:44 แ
00:00:44 → 00:00:48 ตอนปีพศ 2538 เนี่ยอยู่ๆก็มีอาการอ่อน
00:00:48 → 00:00:52 เพียมีไข้ตำๆแล้วก็มีมีอาการตาตัวเหลือง
00:00:52 → 00:00:56 ก็เลยไปหาหมอตอนนั้นอาจารย์ก็คิดว่าน่าจะ
00:00:56 → 00:01:00 เป็นไวรัสตับอักเสบกังวลว่าจะเป็นตับแข็ง
00:01:00 → 00:01:02 กลัวมันจะรุกลามมากก็ไม่ได้คิดว่าโชคร้าย
00:01:02 → 00:01:06 มากแต่ก็คิดว่าทำไมทำไมเราต้องเป็นคนอื่น
00:01:06 → 00:01:11 ไม่เป็นแล้วก็ที่ในครอบครัวก็เป็นต้องดู
00:01:11 → 00:01:14 แลตัวเองดีๆพักผ่อนออกกำลังกายกินยาหรือ
00:01:14 → 00:01:17 ฉีดยารักษานานแค่ไหนแล้วบางคนก็รักษามา
00:01:17 → 00:01:23 เป็น 10 กว่าปีเ้าก็ยังไม่
00:01:23 → 00:01:26 หายสวัสดีครับอาจารย์ครับสวัสดีครับ
00:01:26 → 00:01:28 สวัสดีครับสครับตอนนี้ผมอยู่กับพี่จิ๋นนะ
00:01:28 → 00:01:31 ครับแล้วก็คุณผู้ชมครับเรามีความเข้าใจ
00:01:31 → 00:01:33 ผิดๆเกี่ยวกับโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารก็
00:01:33 → 00:01:36 คือว่าโรคของไวรัสตับอักเสบบีว่าเป็นแล้ว
00:01:36 → 00:01:39 น่ากลัวอย่างงั้นอย่างงี้วันนี้พี่จิ๋นก็
00:01:39 → 00:01:42 เป็นไวรัสตับอักเสบบใช่มั้ยครับค่ะอ่าเคย
00:01:42 → 00:01:45 เป็นครับเคยเคยเป็นปัจจุบันนี้ปัจจุบัน
00:01:45 → 00:01:48 หายขาดแล้วนะขาดแล้วค่ะเหรอผมเพิ่งทราบ
00:01:48 → 00:01:50 เลยว่าบางทีไวรัสตับอักเสบบีนึกว่ามัน
00:01:50 → 00:01:52 ไวรัสมันเป็นตลอดกาลเลยมันจะอยู่ในตัวเรา
00:01:52 → 00:01:55 เหมือนเชื้อหวัดงั้นอาจารย์ช่วยเล่าภาพ
00:01:55 → 00:01:57 คร่าวๆให้ผมเข้าใจหน่อยครับบางทีผมมีข้อ
00:01:57 → 00:02:00 มูลเก่าๆอยู่เงี้ยครับถ้าพูดถึงว่าวตับ
00:02:00 → 00:02:02 อักเสบในบ้านเราเนี่ยไวรัสตับอักเสบ B ก็
00:02:02 → 00:02:05 ถือว่าเป็นปัญหาที่สำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
00:02:05 → 00:02:09 ของประเทศไทยก็คือว่าเดินมาอย่างน้อยใน 20
00:02:09 → 00:02:12 คนต้องมี 1 คนแหละที่เป็นไวรัสตปกเสบบี
00:02:12 → 00:02:14 เรื้อรังนะเราพูดกันถึงเรื้อรังก็คือว่า
00:02:14 → 00:02:17 เป็นแล้วไม่หายมีไวรัสอยู่ในร่างกายไว้
00:02:17 → 00:02:21 ตลอดทีนี้ในอดีตเราก็มักจะเข้าใจผิดคิด
00:02:21 → 00:02:23 ว่าส่วนใหญ่แล้วไวรัสตัอเสบ B เนี่ยจะ
00:02:23 → 00:02:28 ต้องติดต่อโดยเช่นไปอยู่ร่วมกันกับผู้
00:02:28 → 00:02:30 ป่วยที่เป็นไวรัส B หรือรับประทานอาหาร
00:02:30 → 00:02:33 ร่วมกันหรือต่างๆซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่นะ
00:02:33 → 00:02:36 ครับอย่างในกรณีของคุณจรินพรจรินพรเนี่ย
00:02:36 → 00:02:40 เอ่อติดไวรัสตับอักเสบบีมาอย่างไรครับเคย
00:02:40 → 00:02:43 มีประวัติคือมีพี่ชายเป็นอ่ะค่ะแล้วก็เคย
00:02:43 → 00:02:46 มีประวัติเรื่องตาตัวเหลืองเกินร้อยละ 90
00:02:46 → 00:02:49 ของผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีเหลือ
00:02:49 → 00:02:51 หลังก็จะเป็นเหมือนกับคุณจรินธรก็คือว่า
00:02:51 → 00:02:56 ติดจากมารดาขณะคลอดนะครับก็คือว่าตอนที่
00:02:56 → 00:02:58 เกิดมาเนี่ยอาจจะมีผิวหนังตลอกปอกเปิก
00:02:58 → 00:03:02 แล้วก็สัมผัสเลือดแม่ขนาดคลอดแล้วก็เลย
00:03:02 → 00:03:04 ติดเป็นเรือรังคือส่วนใหญ่ถ้าเป็นในวัย
00:03:04 → 00:03:07 ผู้ใหญ่เช่นไปซุกซนเที่ยวผู้หญิงไปติด
00:03:08 → 00:03:10 ไวรัสตับประเสบีมาก็จะเป็นเฉียบพลันแล้ว
00:03:10 → 00:03:12 หายขาดไม่เป็นเรื้อรังนะครับถ้าเป็นเรื้อ
00:03:12 → 00:03:17 รังเนี่ยมักจะติดตอนก่อนวัย 1 ขวบนะครับ
00:03:17 → 00:03:20 แล้วก็จะเป็นเรื้อรังทีนี้ในกรณีอย่าง
00:03:20 → 00:03:24 เนี้ยส่วนใหญ่ก็ไม่มีอาการนะครับอการติด
00:03:24 → 00:03:26 นี้ไม่ใช่กรพันธ์นะครับติดขณะคลอดใน
00:03:27 → 00:03:29 ปัจจุบันต่อให้แม่เป็นไวรัส B ก็ไม่ติด
00:03:29 → 00:03:32 ติดลูกอีกแล้วเพราะว่าเรามีวัคซีนฉีดป้อง
00:03:32 → 00:03:35 กันเด็กทารกหลังจากคลอดแล้วถ้าฉีดภายใน 12
00:03:35 → 00:03:39 ชมงเนี่ยก็จะไม่ติดเชื้อจากแม่ใช่มั้ย
00:03:39 → 00:03:41 ครับอันนี้ของกรณีของคุณจรินธรเนี่ยเป็น
00:03:41 → 00:03:46 รุ่นสุดท้ายที่ติดเพราะว่าเกิดเร็วไปรุ่น
00:03:46 → 00:03:49 สุดท้ายเกิดเร็วไปก่อนที่จะมีวัคซีนนะ
00:03:49 → 00:03:51 ครับก็คือว่าเรามีมาตอนนี้ประมาณ 25 ปี
00:03:52 → 00:03:55 มันก็ถ้าเกิดช้าอีก 25 ปีเนี่ยก็ทันทัน
00:03:55 → 00:03:59 วัคซีนนะความอันตรายของโรคอ่ะครับคือบาง
00:03:59 → 00:04:01 ทีเรากลัวเมื่อกี้อาจารย์บอกว่าไวรัสตับ
00:04:01 → 00:04:03 อักเสบโดยเฉพาะบอย่างเงี้เป็นอันดับ 1
00:04:03 → 00:04:06 ความน่ากลัวมันอยู่ตรงไหนครับความน่ากลัว
00:04:06 → 00:04:09 คือความเข้าใจผิดแล้วเข้าใจว่ามันติดต่อ
00:04:09 → 00:04:12 โดยการกินอาหารร่วมกันซึ่งไม่ใช่นะครับอ
00:04:12 → 00:04:16 อ่ามันเกิดคนไข้เป็นไวรัสบีไปกินอาหารถ้า
00:04:16 → 00:04:18 เกิดเราไม่ได้เป็นไวรัสบีเกิดกินอาหาร
00:04:18 → 00:04:22 ร่วมกันรติดนะครับเกิดเย็นๆไปรับประทาน
00:04:22 → 00:04:24 ก๋วยเตี๋ยวริมถนนอะไรต่างๆก็เปิดร้านตั้ง
00:04:24 → 00:04:28 กเปิดร้านยันปิดร้านใช้น้ำถังเดียวกัน
00:04:28 → 00:04:31 ล้างจานติดกันทั้งเมืองและแต่ในกรณีอย่าง
00:04:31 → 00:04:33 เงี้ยส่วนใหญ่ไม่เลยติดด้วยวิธีนั้นความ
00:04:33 → 00:04:37 เข้าใจผิดเราเข้าใจว่าไวรัสเนี่ยทำร้าย
00:04:37 → 00:04:40 ตับแล้วทำให้ตับเราเสียหายอครับคิดว่า
00:04:40 → 00:04:42 อย่าแบนั้นเหมือนกันนะครับซึ่งไม่ใช่นะ
00:04:42 → 00:04:45 ครับในกรณีของไวรัสตับอักเสบ B เนี่ยอยู่
00:04:45 → 00:04:48 ในตับไม่ได้ทำลายตับครับนะครับแต่ว่าการ
00:04:48 → 00:04:51 ที่ไวรัสมันแบ่งตัวไปเรื่อยๆภูมิต้านทาน
00:04:51 → 00:04:54 ของผู้ป่วยที่เห็นของแตกปลอมอยู่ในตับ
00:04:54 → 00:04:58 เนี่ยก็จะเข้ามารบด้วยกับไวรัส B ทีนี้
00:04:58 → 00:05:01 ไวรัสเนี่ยมันสิงอยู่ในตับใช่มั้ยครับ
00:05:01 → 00:05:03 เพราะงั้นพอภูมิต้านทานเข้ามารบกับไวรัส
00:05:03 → 00:05:06 ตสบ B เนี่ยอ้าตับมันก็เลยถูกอ่าตับ
00:05:06 → 00:05:09 เหมือนกับเป็นสมอภูมิรบของมัน 2 ฝ่าย
00:05:09 → 00:05:12 เพราะฉะนั้นตับเสียไปเนี่ยไม่จะเสียเพราะ
00:05:12 → 00:05:15 ไวรัส B เลยเสียใช่เหมือนกับเราคว่ำจาน
00:05:15 → 00:05:18 ไว้เต็มเต็มโต๊ะเนี่ยแมงสาบวิ่งจานไม่แตก
00:05:18 → 00:05:22 แต่เกิดมีแมววิ่งกระโจนมาตะปบแมงสาบเนี่ย
00:05:22 → 00:05:24 จานแตกเพราะแมวเพราะภูมิต้านทานของผู้
00:05:24 → 00:05:28 ป่วยเพราะฉะนั้นคนในอดีตมักจะเข้าใจผิด
00:05:28 → 00:05:31 ว่าอย่าให้ร่างกายอ่อนแอเดี๋ยวจะไวรัส B
00:05:31 → 00:05:33 จะกำเริบไม่เกี่ยวถ้าเกิดเป็นเอดส์งอม
00:05:34 → 00:05:36 ร่างกายอ่อนแอไวรัส b มีเท่าไหร่ก็ไม่ไม่
00:05:36 → 00:05:40 อักเสบครับงั้นการที่เกิดโรคเนี่ยไม่ได้
00:05:40 → 00:05:42 เกิดเพราะร่างกายอ่อนแอมันเกิดเพราะภูมิ
00:05:42 → 00:05:45 ต้านทานเนี่ยไปรบกับไวรัสตอักเสบ B นะ
00:05:45 → 00:05:48 ครับแล้วความเข้าใจผิดนอกจากนั้นก็คือบาง
00:05:48 → 00:05:51 ทีเราเข้าใจว่าเอ้ยอย่าอดนอนนะเดี๋ยวจะทำ
00:05:51 → 00:05:53 ให้เกิดไวรัสีกำเริบซึ่งไม่เกี่ยวกัน
00:05:53 → 00:05:55 ไวรัสบมันอยากจะนอนเมื่อไหร่มันก็นอนของ
00:05:55 → 00:05:57 มันมันมีมันไม่มีสมองที่จะรู้สึกง่วงนอน
00:05:57 → 00:06:00 ถ้าเราอดนอนมันก็ต้องเพลียต่อให้ไม่มี
00:06:00 → 00:06:02 ไวรัส B ก็เพลียครับไม่เกี่ยวกันกับว่า
00:06:02 → 00:06:05 การที่เราจะมีไวรัส B หรือไม่ไวรัส B
00:06:05 → 00:06:07 แล้วเราตรวจยไงครับอาจารย์อันนี้ถือว่า
00:06:07 → 00:06:10 คุณจรินธรโชคดีที่เขามีอาการอาจจะเป็น 1
00:06:10 → 00:06:13 ในรเพราะส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับ
00:06:13 → 00:06:15 อักเสบบีเเลื้อรังไม่ได้มี
00:06:15 → 00:06:19 อาการคือรอจนมีอาการเนี่ยก็เช่นเป็นตับ
00:06:19 → 00:06:23 วายไปแล้วเป็นเป็นมะเร็งตับใกล้ตายแล้ว
00:06:23 → 00:06:27 คือมามีอาการมาหาหมอจองวัดดังๆยังไม่ทัน
00:06:27 → 00:06:31 มันเป็นภัยเงียบที่เอ่อกว่าจะเกิดอาการ
00:06:31 → 00:06:35 เนี่ยจะเป็นขั้นสุดท้ายของโรคทำไมถึงเป็น
00:06:35 → 00:06:37 อย่างนั้นเพราะตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมาก
00:06:37 → 00:06:39 เพราะฉะนั้นมันมีสำรองไว้เยอะมากเพราะ
00:06:39 → 00:06:43 ฉะนั้นสมมุติว่าเรามีตับ 1 อันแล้วหั่น
00:06:43 → 00:06:46 เป็น 6 ชิ้นเนี่ยเอาออกไป 5 ชิ้นเหลือ
00:06:46 → 00:06:49 เพียง 1 ชิ้นเนี่ยก็ยังใช้ได้ยังยังตรวจ
00:06:49 → 00:06:52 ไม่พบความผิดปกติเลยเพรางั้นสำรองมีเยอะ
00:06:52 → 00:06:55 มากนะครับเพราะฉะนั้นก็เลยทำให้กว่าจะมี
00:06:55 → 00:06:58 อาการเนี่ยจะน้อยที่เผอิญของคุณจรินธรอาจ
00:06:58 → 00:07:01 จะตอนนั้นมีการเริ่มรุนแรงซะก่อนก็เลย
00:07:01 → 00:07:04 เริ่มมีอาการตอนที่มีอาการเนี่ยยังไม่ถึง
00:07:04 → 00:07:07 กับว่าเป็นตับแข็งคือมันเป็นช่วงที่อายุน
00:07:07 → 00:07:10 น้อยอยู่ตอนนั้น 20 ปีที่แล้วเนี่ยก็ตอน
00:07:10 → 00:07:13 นั้นยังไม่ได้เป็นอะไรมากเราก็ติดตามอัน
00:07:13 → 00:07:17 นี้คืออาการเนี้ยเกิดจากการที่ภูมิต้าน
00:07:17 → 00:07:20 ทานของผู้ป่วยครับไปรบกับไวรัสแล้วตับ
00:07:20 → 00:07:24 เป็นสมรภูมิพังใช่ก็เลยเกิดตัวตาเหลือง
00:07:24 → 00:07:27 ขึ้นมาทีนี้โชคดีภูมิต้านทานของคุณจรินธร
00:07:27 → 00:07:30 เนี่ยดีมาก
00:07:30 → 00:07:34 ก็คือลบแล้วสามารถจะควบคุมไวรัสเนี่ยให้
00:07:34 → 00:07:38 สงบพอสงบเนี่ยตับตับเราเนี่ยมันมีความ
00:07:38 → 00:07:41 สามารถพิเศษนะครับถ้าเปรียบเทียบก็เหมือน
00:07:41 → 00:07:44 จิ้งจกสลัดหางไปแล้วเนี่ยมันงอกได้เพงั้น
00:07:44 → 00:07:48 มันสามารถจะดูแลตัวเองทำให้ฟื้นตัวเอง
00:07:48 → 00:07:51 ขึ้นมาได้นี่ก็เป็นสิ่งที่ดีของร่างกายก็
00:07:51 → 00:07:53 คือเนื่องจากมันเป็นออวัยวะที่สำคัญมาก
00:07:53 → 00:07:56 เพราะฉะนั้นมันก็ต้องพยายามซ่อมสร้างตัว
00:07:56 → 00:07:58 เองให้ได้มากที่สุดเพื่อจะกลับมาทำงานให้
00:07:58 → 00:08:01 ได้ดีที่สุดนะครับเพราะงั้นเอ่อของคุณ
00:08:01 → 00:08:04 จรินธรก็ถือว่าเป็นหนในอืออาจจะประมาณ 1
00:08:04 → 00:08:08 ใน 5 20% นะค 1 ใน 5 ของผู้ป่วยที่เป็น
00:08:08 → 00:08:11 ไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังที่พออายุเพิ่ม
00:08:11 → 00:08:16 ขึ้นเกิน 45-50 ปีไปแล้วเนี่ยอาจจะโชคดี
00:08:16 → 00:08:20 มีความสามารถที่จะจัดการไวรัสสงบไปแล้วะ
00:08:20 → 00:08:23 มีภูมิขึ้นได้ก็คือกลับมาเป็นคนปกติเลยไป
00:08:23 → 00:08:25 ตรวจเลือดไม่มีใครรู้ว่าในอดีตเคยเป็น
00:08:25 → 00:08:28 ไวรัสตัอักเสบ B มาก่อนถึงแม้หายมีภูมิ
00:08:28 → 00:08:31 ต้านทานเกิดขึ้นถาวรแล้วเนี่ยก็ยังแนะนำ
00:08:31 → 00:08:35 ให้คุณจรินธรมาตรวจเป็นระยะๆะเหมือนกันอ
00:08:35 → 00:08:38 นั่นคือการดูแลตัวเองดูแลตัวเองก็คือดูแล
00:08:38 → 00:08:42 สุขภาพลดความเสี่ยงต่างๆไม่ไปดื่มสุรา
00:08:42 → 00:08:46 ดื่ม 20,000 เมาหรือว่าใช้ยูบยาพร่ำเพื่อ
00:08:46 → 00:08:48 นะครับแล้วก็ถ้าผมสรุปงี้ได้มั้ยอาจารย์
00:08:48 → 00:08:52 ว่าไวรัสตับอักเสบีเนี่ยสามารถหาเองได้
00:08:52 → 00:08:54 ครับถ้าโชคดีแต่ถ้าเกิดโชคไม่ดีอยู่กับ
00:08:55 → 00:08:58 วันต่อไปเราจะคบกับเขาอย่างไรดีอครับเรา
00:08:58 → 00:09:01 ก็จะต้องติดตามเป็นรระยะๆนะครับแล้วก็
00:09:01 → 00:09:03 ประเมินแล้วดูว่ายังมีเชื้อเยอะอยู่หรือ
00:09:03 → 00:09:06 มีเริ่มมีการอักเสบเนี่ยแพทย์อาจจะนัดสัก
00:09:06 → 00:09:08 2-3 เดือนครั้งนึงเพื่อประเมินว่าจำเป็น
00:09:09 → 00:09:11 ต้องช่วยหรือไม่คือส่วนใหญ่ของผู้ป่วย
00:09:11 → 00:09:14 เนี่ยยืนได้เองโดยที่ไม่ต้องใช้แพทย์ช่วย
00:09:14 → 00:09:17 นะครับร่างกกายของเราสามารถดูแลตัวเองได้
00:09:17 → 00:09:20 ด้วยใช่ครับมากไปกว่านั้นก็คือว่าในกรณี
00:09:20 → 00:09:24 ของวรัตอักเสบ B ครับถ้าท่านมีญาติพี่
00:09:24 → 00:09:27 น้องสายตรงมีพี่มีน้องมีพ่อมีแม่เป็นวตป
00:09:27 → 00:09:31 เสพบีท่านควรมาตรวจด้วยครับว่าท่านเป็น
00:09:31 → 00:09:34 เพราะเพราะรอให้มีอาการอาจจะช้าเกินไปนะ
00:09:34 → 00:09:36 ครับเพถ้าเกิดว่าเพราะส่วนใหญ่จะติดจาก
00:09:36 → 00:09:38 แม่ใช่มั้ยครับถ้าเกิดว่ามีพี่น้องมาก
00:09:38 → 00:09:41 กว่า 1 คนเป็นน่ะมาตรวจได้เลยครับมันไม่
00:09:41 → 00:09:44 ได้การันตีว่าจะต้องติดจากแม่ 100% ทุกคน
00:09:44 → 00:09:47 นะครับคือมันขึ้นอยู่กับปริมาณของไวรัส
00:09:47 → 00:09:51 ของแม่ขณะขณะที่คลอดบุตรคนนั้นๆว่ามาก
00:09:51 → 00:09:53 น้อยแค่ไหนถ้าเกิดโชคดีปริมาณไวรัสน้อย
00:09:54 → 00:09:56 ขนาดที่คลอดคลอดบุตรคนนั้นก็คนนั้นก็โชค
00:09:56 → 00:09:59 ดีไปวไม่ติดถ้าปริมาณไวรัสเยอะคนนั้นก็
00:09:59 → 00:10:02 ได้มรดกจากแม่ไปคือไม่ได้ถ่ายทอดทาง
00:10:02 → 00:10:06 พันธุกรรมแต่ติดขขณะที่คลอดออกมาคือติด
00:10:06 → 00:10:08 ลูกอาจจะมีแผลแล้วก็ติดทางเลือดของคุณแม่
00:10:08 → 00:10:10 ใช่มั้ยครับทีนี้ผมถามว่าสมมุติถ้าเกิด
00:10:10 → 00:10:14 คลอดออกมาแล้วไม่มีเชื้อแต่ดื่มนมแม่ที่
00:10:14 → 00:10:17 มีเลือเชื้อคือบุตรที่เกิดจากแม่ที่เป็น
00:10:17 → 00:10:20 ไวรัสตสบบีนะครับภายใน 12 ช่วโมงจะได้รับ
00:10:21 → 00:10:24 การฉีดวัคซีนนะครับทีนี้ว่าเอ่อกเอ่อถึง
00:10:24 → 00:10:27 วัคซีนอาจจะโพมขึ้นไม่ทันก็จริงแต่เนื่อง
00:10:27 → 00:10:29 จากว่ามันไม่ได้ติดทางน้ำนมครับนะครับยก
00:10:29 → 00:10:33 เว้นว่าแม่มีแผลมีแผลที่ที่หัวนมอะไรต่าง
00:10:33 → 00:10:37 แต่เนี่ยอาจจะให้ลูกดูดนมไม่ได้ซึ่งก็ดูด
00:10:37 → 00:10:39 ไม่ได้อยู่แล้วเพราะหัวนมเจ็บอ่ะใช่มั้ย
00:10:39 → 00:10:41 ครับงั้นในกรณีอย่างงั้นเนี่ยถึงจะไม่ให้
00:10:41 → 00:10:44 เอ่อดื่มนมแม่นะครับแต่โดยทั่วไปเราไม่
00:10:44 → 00:10:47 ห้ามการดื่มนมจากแม่ครับแล้วก็แนะนำให้
00:10:47 → 00:10:50 ดื่มด้วยครับไวรัสบีตอนนี้สำหรับผมนะครับ
00:10:50 → 00:10:52 ไวรัสตับอักเสบบีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่
00:10:52 → 00:10:55 คิดเราสามารถดื่มน้ำหรือจะเป็นจริงๆ
00:10:55 → 00:10:57 สามารถกินร่วมกับคนอื่นได้แล้วก็ดูแลคือ
00:10:57 → 00:11:00 ใครที่เป็นเราไม่ต้องแบบแยกตัวแบบนั้นใน
00:11:00 → 00:11:03 ฐานะเรื่องของความสัมพันธ์แต่ถ้าเกิดเรา
00:11:03 → 00:11:07 มีญาติคนที่เป็นมากกว่า 1 หรือมีอาการรีบ
00:11:07 → 00:11:10 มาพบแพทย์เพราะว่าเจอแต่ละทีมันก็เป็นภัย
00:11:10 → 00:11:12 เงียบเพราะอาจารย์บอกว่าถ้ามาเจอแล้วปุ๊บ
00:11:12 → 00:11:16 จองวัดดีๆก็ไม่คือรอมีอาการจองวัดดีๆไม่
00:11:16 → 00:11:19 ทันครับเพราะว่าวัดบางวัดอาจจะชิวนานสาธุ
00:11:19 → 00:11:22 ขอบคุณจารมากครับสวัสดีครับสเดี๋ยวตรวจผม
00:11:22 → 00:11:24 ขอุญาตไปตรวจเลือดเลยขอบคุณมากสวัสดีครับ
00:11:24 → 00:11:35 คุณสวัสครับตเลือดตเลือดเลย
00:11:35 → 00:11:38 ขาเขาไม่ค่อยแข็งแรงอะไรกล้ามเนื้อเขาไม่
00:11:38 → 00:11:42 แข็งแรงค่ะนี่หมอก็มาตรวจทุกเดือนกระดูก
00:11:42 → 00:11:46 เขาข้างข้าสพกข้างเขาจะร้าวหน่อยอะไร
00:11:46 → 00:11:49 เงี้ยกลัวหลุดลัวสะโพกเขาหลุดตรงขาเเนี่ย
00:11:49 → 00:11:54 2 ข้างเขาจะไม่มีแรงเดินนถ้าจูงเเดินก็
00:11:54 → 00:11:57 ก็เดินแบบเดินเก็กระโดดเอาอย่างเงี้ยแต่
00:11:57 → 00:12:00 ทรงตัวไม่ได้เยืนเองยังไม่ไม่ได้อะไต้อง
00:12:00 → 00:12:03 คอยจับเาเดินตลอดอะไรถ้าไปไหนไปไหนก็เอา
00:12:03 → 00:12:06 ใส่รถอะไรอย่างเงี้ยเราก็ไม่รู้สาเหตุที่
00:12:06 → 00:12:10 แรกๆเนาะ 6-7 เดือนเด็กมันจะเขาจะคานจะ
00:12:10 → 00:12:12 อะไรแล้วใช่มั้ยอันนี้เขาไม่คานไม่อะไร
00:12:12 → 00:12:16 เขาจะนอนอย่างเดียวเราก็เลยผิดสังเกตก็
00:12:16 → 00:12:20 เลยมาหาหมอตลอดอค่ะรักษาแงตั้งแต่ 7
00:12:20 → 00:12:27 เดือนตลอดมาจเท่าทุกวันเ
00:12:27 → 00:12:31 ค่ะวันนี้นี้เป็นคุณยายแล้วก็น้องนิวนะฮะ
00:12:31 → 00:12:34 ที่มาพบอาจารย์ครับน้องนิวนี่มีอาการอะไร
00:12:34 → 00:12:37 บ้างครับน้องนิวนี่ก็มีอาการเรื่องเอ่อ
00:12:37 → 00:12:41 แขนขาเนี่ยเกร็งนะขาเกร็งแล้วก็สะโพกจะ
00:12:41 → 00:12:43 หลุดออกจากเป้าออนะครับนะฮะก็เลยต้องมา
00:12:44 → 00:12:46 ผ่าตรงแล้วก็เมีอาการภาพรวมนี่เเป็นการ
00:12:46 → 00:12:49 พัฒนาการช้าแล้วก็สมองเล็กอ๋อสมองเขาจะ
00:12:49 → 00:12:53 เล็กกว่าปกติฮะน้องนิวนี่ตอนคลอดเนี่ย
00:12:53 → 00:12:57 เป็นแฝดแล้วก็คนที่เป็นพี่หรือน้องได้
00:12:57 → 00:12:59 เสียชีวิตก่อนใช่มั้ยเสียชีวิตก่อนในขณะ
00:12:59 → 00:13:03 ตั้งคันอ๋อฮแล้วก็เหลือน้องเ้าคนเดียวออก
00:13:03 → 00:13:07 มานะฮะคเดียองั้นอาการจริงๆคือจากสมองที่
00:13:07 → 00:13:09 เล็กนะฮะสมองใช่ฮะเลยส่งผลส่วนอื่นๆส่งผล
00:13:10 → 00:13:13 ทำให้ส่วนอื่นๆมีการพัฒนากชานะครับอนี่
00:13:13 → 00:13:16 การที่รักษาไปแล้วเนี่ยฮะมีการผ่าใช่มั้ย
00:13:16 → 00:13:18 ฮะอาจารย์อจารย์ผ่าตรงไหนยังไงบคือเราเรา
00:13:18 → 00:13:22 เราผ่าผ่าสะโพกเพื่อผ่าคือเมีแขนขาเกร็ง
00:13:22 → 00:13:25 แล้วก็พยายามตัดแล้วก็ยืดเอ็น 100 หวาย
00:13:25 → 00:13:29 ที่อืที่ขา 2 ข้างแล้วก็ที่เข่าเอที่สะโก
00:13:29 → 00:13:31 นะแล้วก็เพื่อเราป้องกันเพื่อไม่สะโพก
00:13:32 → 00:13:34 น้องเเลื่อนถ้าไม่ผ่านี่จะเป็นยังไงถ้า
00:13:34 → 00:13:36 ไม่ผ่าเรากลัวอนาคตเนี่ยสะโพกมันจะมีการ
00:13:36 → 00:13:39 เลื่อนออกแล้วก็แล้วทำความสะอาดลำบาก
00:13:39 → 00:13:42 เพราะแขนขาเาจะเกร็งนะคุณคุณผู้ปกครองก็
00:13:42 → 00:13:45 จะดูแลลำบากนะฮะเรื่องทำความสะอาดเอ่อตาม
00:13:45 → 00:13:49 เวลาเน้องเอุจระปัสสาวะเงี้นะครับอ๋อฮะ
00:13:49 → 00:13:51 ครับตอนนี้ก็เลยผ่าการผ่านี่เพื่อไปทำ
00:13:51 → 00:13:53 อะไรบ้างนะฮะเพื่อไปยืดเอ็นส่วนใหญ่ยืด
00:13:54 → 00:13:56 เอ็นยืดเอ็นอย่างเดียวใช่ฮะพอพอยืดเอ็น
00:13:56 → 00:13:59 หมายถึงว่าก็จะไม่ไม่ไม่เกร็งไม่ติดก็ติด
00:13:59 → 00:14:01 น้อยลงติดน้อยงอยลงออแดงว่ายังติดอยู่้
00:14:01 → 00:14:04 อยู่ติดน้อยลงใช่ครับแต่ตรงสะโพกก็จะไม่
00:14:04 → 00:14:07 ไม่ไม่เลื่อนออกสะโพกก็จะก็คือแทนที่จะก็
00:14:07 → 00:14:20 เราเพิ่มทำให้มันเข้าไปในเบ้ามากขึ้น
00:14:20 → 00:14:23 อ๋อเขาจะมีแผลผ่าแต่แผลนี่ส่วนใหญ่เป็น
00:14:23 → 00:14:26 แผลเจาะแทบจะมอง 2 ข้างเนี่ยจะมีแผลเป็น
00:14:26 → 00:14:29 อยู่นิดๆตงเยนะครับตรงนี้เเหรอฮะเล็กๆนะ
00:14:29 → 00:14:32 แผลนี้จะเป็นแผลแผตรงนี้แล้วก็แผลเล็ก
00:14:32 → 00:14:34 แล้วก็จะมีแผลเล็กๆตรงนี้ไม่ซุบๆบเห็น
00:14:34 → 00:14:37 มั้ยฮะตรงนี้เเหรฮะใช่ฮะแผลเล็กๆเนี่ยแผล
00:14:37 → 00:14:40 เล็กมากแผเป็นเแผลตรงเนะครับแล้วก็แผลตรง
00:14:40 → 00:14:42 สะโพกนะแล้วแล้วเจาะเหมือนเป็นรูๆเอง 3
00:14:42 → 00:14:45 จุดฝั่งละ 3 จุดใช่ 3 จุดแต่เพื่อให้
00:14:46 → 00:14:49 เพื่อให้น้องเเนี่ยคือเกร็งน้อยลงครับแต่
00:14:49 → 00:14:51 เขาคก็ยังเกร็งอยู่นะแต่ผมว่าเขาดีขึ้น
00:14:51 → 00:14:54 เดิมเนี่ยเเอ้าไม่ได้เลยอ๋อนี่เาอ้าได้
00:14:54 → 00:14:57 มากขึ้นนะฮะแล้วก็ส่วนส่วนน้องเนั่งเอง
00:14:57 → 00:15:00 ได้มั้ยเดี๋ยวรอเคนั่งนั่งเองได้มน้องคน
00:15:00 → 00:15:02 นี้นั่งเองไม่ได้ไม่ได้เพราะว่ากล้าม
00:15:02 → 00:15:06 เนื้อเยังควบคุมไม่ได้กี่ขวบแล้วคุณยายคน
00:15:06 → 00:15:09 นี้จ 4 แล้วค่ะวันนี้คุณยายทำอะไรยังไง
00:15:09 → 00:15:12 ให้น้องเ้าบ้างกายภาพจะทำอะไรยังไงบ้าทำ
00:15:12 → 00:15:17 หมอที่แนะนำไปก็ทำขาอืขาเป็นไนั่นไงก็ทำ
00:15:17 → 00:15:20 แขนทำขาครับทำๆทำยังไงฮะคุณยายทำให้ดู
00:15:20 → 00:15:26 หน่อยทำแบบนั้นน่ะก็ทำทำอันนี้ขีกทุเรียน
00:15:26 → 00:15:30 แล้วก็ทำอย่างงี้ค้เออเยิ้มนะนะชอบใจเหรอ
00:15:30 → 00:15:33 แล้วก็หมอก็ทำให้ดัดขาอ๋อดัดขาด้วยนี้
00:15:33 → 00:15:35 เจ็บมั้ย
00:15:35 → 00:15:40 ออพยหน้านิดหน่อยก็ทำขึ้นมาอย่าง
00:15:40 → 00:15:44 งี้นี่ๆเค้าเจ็บหรือเค้าชอบใจเค้าเเจ็บเค
00:15:44 → 00:15:46 เจ็บใช่มั้ยเเคไม่อยากให้ทำอ๋อไม่อยากให้
00:15:46 → 00:15:50 ทำใช่มั้แต่เหมือนยิ้มนะจทำอ่าอย่างงี้
00:15:50 → 00:15:52 เจ็บมั้ยเจ็บมั้ยก็หมอให้
00:15:52 → 00:15:56 ยกให้ยกงนี้ค่ะอืทำไมต้องให้ทำท่าพวกนี้
00:15:56 → 00:15:59 ครับอาจารย์พวกนี้ก็ฝึกยืดกล้ามเนือเื้อ
00:15:59 → 00:16:01 ส่วนใหญ่ยืดเื้อเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อติด
00:16:01 → 00:16:04 แล้วไม่การแบบเหมือนกับออกออกกำลังกายให้
00:16:04 → 00:16:06 เเราเน้นเพราะว่าเรากลัวเรื่องสะโพกมันจะ
00:16:06 → 00:16:10 ติดเยึดเกร่งนะนะครับช่วงแขนมีอะไรต้องทำ
00:16:10 → 00:16:13 มช่วงช่วงแขนนช่วงแขนเ้าไม่ได้ไม่ได้ติด
00:16:13 → 00:16:16 มากนะไม่ได้ติดนะส่วนขานเติดแต่ปัญหาของ
00:16:16 → 00:16:19 แขนเ้ามีเรื่องการการใช้มากกว่าคือเ้าแบบ
00:16:19 → 00:16:21 ยังการ movement การขยับอะไรเยังการ
00:16:21 → 00:16:23 เคลื่อนไหวเยังไม่ไม่สามารถที่จะใช้ได้
00:16:23 → 00:16:25 งานหยิบจับอะไรได้มั้ยฮคุณยายหยิบช้อน
00:16:25 → 00:16:28 หยิบอะไรได้มั้ยฮะหยิบได้ค่ะอ๋อเหยิบได้
00:16:28 → 00:16:31 นะคหยิบสามารถตักเข้าปากเองตตักได้แต่ว่า
00:16:31 → 00:16:35 บางทีเหกบางทีก็ได้กินอะไรงอ๋อเอ้ยเเไม่
00:16:35 → 00:16:37 สามารถเคี้ยวได้เองเ้ามันคณน้องคุณไข้
00:16:37 → 00:16:41 กลุ่มนี้ก็ปัญหาเรื่องการกลืนการกลืนเเ
00:16:41 → 00:16:44 กลืนอย่างเดียวเคี้ยวนิดๆหน่อยกลืนเใช่
00:16:44 → 00:16:46 แล้วก็ชอบมียังไม่ละเอียดยังไม่อะไรก็
00:16:46 → 00:16:49 เกินครับแล้วชอบมีน้ำลายไหลใช่มั้ยทมีน้ำ
00:16:49 → 00:16:52 ลายไหลเจะปัญหาเรื่องเหมเหมือนเด็กๆเล็กๆ
00:16:52 → 00:16:55 ที่เยเยังน้ำลายชอบไหลนะเพเกลืนยังังไม่
00:16:55 → 00:16:59 ค่อยดีเกลืนน้ำลายยังไม่ได้งี้ชอบไหลตลอด
00:16:59 → 00:17:03 หยดตลอดออนี่พัฒนาการช้าใช่น้องเจะค่อน
00:17:03 → 00:17:05 ข้างพัฒนาการช้าไม่เทียบกับเด็กในวัย
00:17:05 → 00:17:07 เดียวกันครับน้องเตอนนี้ก็ 4 ขวบใช่มั้ย
00:17:07 → 00:17:10 คจจะ 4 ขวบ 4 4 ขวบเนี่ยปกติแล้วเนี่ย 4
00:17:10 → 00:17:13 ขวบต้องวิ่งเล่นได้ใช่มั้ยฮะนี่น้องก็ยัง
00:17:13 → 00:17:16 นั่งนั่งเองไม่ค่อยได้เลยฮะครับแล้วจาก
00:17:16 → 00:17:19 นี้ไปจะเป็นยังไงครับพนกการของเค้าจะดี
00:17:19 → 00:17:21 ขึ้นก็เราก็หวังว่าดีจะต้องดีขึ้นนะครับ
00:17:22 → 00:17:25 เพราะยังไงในก็ตามแนวโน้มพัฒนาการก็ควรจะ
00:17:25 → 00:17:29 ดีขึ้นตามตามสภาพนะฮะแต่น้องก็ออกเพราะก็
00:17:29 → 00:17:31 ตอนนี้กายภาพอยู่ใช่มั้ยคุณยายกายภาพอยู่
00:17:31 → 00:17:36 เราก็ต้องเอ่อก็ก็ก็ฝึกไปเรื่อยๆนะครับ
00:17:36 → 00:17:39 ฝึกไปๆน้องเค้าเรียนหนังสือยังเรียนยัง
00:17:39 → 00:17:42 ยังไม่เข้าจเพอเคไอ้นี่ตัวเองยังไม่ได้
00:17:42 → 00:17:45 เพราะเเดินยังไม่ได้ยังไม่ได้จครับจากนี้
00:17:45 → 00:17:49 ไปอาจารย์จะแนะนำคุณยายแล้วก็ครอบครัวให้
00:17:49 → 00:17:53 ดูแลน้องต่อยังไงฮะก็ผมว่าก็ตอนนี้ก็คือ
00:17:53 → 00:17:55 ต้องเน้นเรื่องกายภาพนะแล้วก็ช่วยเหลือดู
00:17:55 → 00:17:59 แลดูแลเแล้วก็อาจจะพยายามเอ่อสอนเค้าแบบ
00:17:59 → 00:18:02 กินข้าวสอนเค้าช่วยเหลือตัวเองบ้างอะไ
00:18:02 → 00:18:04 ชีวิตประจำวันทั่วไปอะไรงี้นะให้ให้ได้
00:18:04 → 00:18:08 ก่อนแล้วก็การสื่อสารำสำคัญนะเอยากได้
00:18:08 → 00:18:11 อะไรเราต้องรู้แต่ผมว่าคุณยายน่าจะรู้นะน
00:18:11 → 00:18:14 ใช่มว่าใชว่าเอยากได้อะไรอยากหิวมั้ยอะไร
00:18:14 → 00:18:17 อย่างเงี้ยเเแจ้งให้ทราบมขอทราบได้มั้ยเ
00:18:17 → 00:18:21 ก็ถ้าเหิวเจะชี้ใส่อะไอย่างงี้การสื่อส
00:18:21 → 00:18:24 กันใช่สื่อสาให้ได้นะคุณยายคุยกับเค้ารู้
00:18:24 → 00:18:26 เรื่องคือเข้าใจว่าอนี้คืออะไรอาการแบบ
00:18:26 → 00:18:29 นี้เต้องการเค้าอยากเล่นอะไรเคก็ชี้อ่า
00:18:29 → 00:18:32 ถ้าไม่ถส้าถ้าถูกเก็พยักหน้าอออย่างเมื่อ
00:18:32 → 00:18:35 กี้ที่ตอนทำผมถามเอ๊ะนี่เค้าเค้ายิ้มหรือ
00:18:35 → 00:18:38 เค้าไม่อยากทำหรือเเจ็บอะไรอย่างเงี้ยแต่
00:18:39 → 00:18:41 คุณยายดูออกใช่มพอเยังอันนี้เค้าเจ็บนะเ
00:18:41 → 00:18:44 ไม่อยากทำคุณยายบอกได้สนเสแล้วก็นัดนัด
00:18:44 → 00:18:47 ส่วนใหญ่ก็ประมาณ 3 ช่วงนี้เผ่านละนะแล้ว
00:18:47 → 00:18:49 ก็นัดประมาณ 3 เดือน 6 เดือนดูว่าอาการ
00:18:49 → 00:18:52 วัฒนาเป็นยังไงแต่น้องเมีเมีอย่างที่เน
00:18:52 → 00:18:54 ได้ทราบคือน้องเมีนัดหลายหมออ๋อคือเราจะ
00:18:54 → 00:18:57 นัดใกล้ๆกันครับเช่นมีหมอเอ่อวิทยศาสตร์
00:18:57 → 00:19:03 ฟื้นฟูมั้ยเก็ดูนะฮะเออเจกศีสังวสังวาใช่
00:19:03 → 00:19:06 นะก็นัดมามีหมอเด็กก็ดูใช่มั้ยหมเด็กนัด
00:19:06 → 00:19:09 จะมีจะมีหมอเด็กเราจะนัดใกล้ๆกันทีใชมาที
00:19:09 → 00:19:14 เดียวใช่ๆติดๆกันเรือนก็นัดติดๆเรือนคนละ
00:19:14 → 00:19:16 เดือนละเดือนอ๋อฮะก็ขอบคุณคุณยายมากๆนะ
00:19:16 → 00:19:19 ครับแล้วก็เอ่อวังว่าอารน้องุมจะดีขึ้น
00:19:19 → 00:19:28 เรื่อยๆการดูแลที่ดีของคุณยายนะครับ
00:19:28 → 00:19:58 เ