00:00:02 → 00:00:05 เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนสายฝนสร้างความชุ่งฉับ
00:00:05 → 00:00:08 แต่ก็อาจนำมาซึ่งโรคหลายชนิดมารู้จักกับ
00:00:08 → 00:00:12 โรคที่มาพร้อมกับฤดูฝนกันดีกว่าโรคแรกที่
00:00:12 → 00:00:15 เรามักจะพบเจอได้บ่อยนั่นก็คือไข้หวัดไข้
00:00:15 → 00:00:18 หวัดนั้นเกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่ง
00:00:18 → 00:00:20 ไวรัสที่เป็นสาเหตุนั้นมีหลายชนิดเช่น
00:00:20 → 00:00:25 กลุ่มไวรัสโนโรกลุ่มไวรัสดีโนกลุ่มไวรัส
00:00:25 → 00:00:30 โรน่าและอื่นๆผู้ป่วยมักมีไข้ต่ำๆเมื่อย
00:00:30 → 00:00:34 ปวดหัวน้ำมูกไหลไอเจ็บคอส่วนใหญ่อาการจะ
00:00:34 → 00:00:37 ดีขึ้นเองภายใน 2-3 วันเนื่องจากเป็นโรค
00:00:37 → 00:00:40 ที่ติดต่อง่ายวิธีการป้องกันเวลาที่ต้อง
00:00:40 → 00:00:43 อยู่ในสถานที่ที่คนแออัดควรสวมหน้ากาก
00:00:43 → 00:00:46 อนามัยปิดปากและจมูกทุกครั้งเวลาไอหรือ
00:00:46 → 00:00:50 จามล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์
00:00:50 → 00:00:54 เจลบ่อยๆและที่สำคัญหมันออกกำลังกายเพื่อ
00:00:54 → 00:00:58 ให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันที่ดีโรค
00:00:58 → 00:01:01 ต่อมาก็คือไขหวัดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ
00:01:01 → 00:01:04 ไวรัส influenza ซึ่งมีหลายสายพันธุ์มัก
00:01:04 → 00:01:08 มีอาการไข้สูงปวดเมื่อยเนื้อตัวอ่อนเพลีย
00:01:08 → 00:01:12 ไอและมีน้ำมูกปวดศีรษะผู้ป่วยบางกลุ่ม
00:01:12 → 00:01:15 เช่นเด็กเล็กและผู้สูงอายุอาจเกิดภาวะ
00:01:15 → 00:01:18 แทรกซ้อนในระบบหายใจได้ส่วนใหญ่จะใช้วิธี
00:01:18 → 00:01:22 การกินยาลดไข้และเช็ดตัวประกอบกันไปดื่ม
00:01:22 → 00:01:25 น้ำให้มากและพักผ่อนให้เพียงพอหรือผู้
00:01:25 → 00:01:27 ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่อาจติดเชื้อแทรกซ้อน
00:01:27 → 00:01:31 แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัสร่วมด้วยมา
00:01:31 → 00:01:34 ถึงโรคที่ 3 นั่นก็คือไข้เลือดออกไข้
00:01:34 → 00:01:37 เลือดออกนั้นเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส
00:01:37 → 00:01:40 เดงกีโดยมียุงลยเป็นพาหันนำโรคผู้ป่วยจะ
00:01:40 → 00:01:45 มีไข้สูง 2-7 วันปวดเมื่อยตามตัวปวดศีรษะ
00:01:45 → 00:01:49 และพบจุดเลือดออกที่ผิวหนังบางรายอาจเกิด
00:01:49 → 00:01:53 ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเช่นภาวะช็อกเลือดออก
00:01:53 → 00:01:57 ตามไรฟันเลือดกำดาวไหลเลือดออกในกระเพาะ
00:01:57 → 00:02:02 อาหารและอวัยวะอื่นๆและเสียชีวิตได้โรค
00:02:02 → 00:02:05 ฉี่หนูเกิดจากการลุยน้ำขังที่มีเชื้อโรค
00:02:05 → 00:02:09 ปะปนอยู่ผู้ป่วยมักมีอาการปวดศีรษะมีไข้
00:02:09 → 00:02:13 สูงเฉียบพันตาแดงพืนไส้อาเจียนปวดเมื่อย
00:02:13 → 00:02:17 ตามตัวโดยเฉพาะบริเวณหลังน่องและต้นคอ
00:02:17 → 00:02:20 ซึ่งการตรวจวินิจฉัยสำหรับโรคฉี่หนูนั้น
00:02:20 → 00:02:24 แพทย์ผู้รักษาจะสอบถามประวัติของคนไข้ว่า
00:02:24 → 00:02:26 มีความเสี่ยงที่จะสัมผัสเชื้อโรคฉี่หนู
00:02:26 → 00:02:29 หรือไม่ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการเดินใน
00:02:29 → 00:02:33 พื้นที่น้ำท่วมขังหรือหากจำเป็นควรมี
00:02:33 → 00:02:36 อุปกรณ์ป้องกันและการดูแลที่เหมาะสมเช่น
00:02:36 → 00:02:39 รองเท้าบูทการทำความสะอาดร่างกายทันที
00:02:39 → 00:02:43 หลังจากเศษกิจวัตรหรือกลับถึงบ้านแล้วโรค
00:02:43 → 00:02:45 ติดต่อที่เกี่ยวกับดวงตาเกิดจากเชื้อ
00:02:45 → 00:02:48 ไวรัสที่อยู่ในน้ำสกปรกหากสัมผัสดวงตาจาก
00:02:48 → 00:02:51 การขยี้ตาหรือการกระเด็นทำให้เกิดอาการ
00:02:51 → 00:02:55 คันหรือตาแดงหากใครเป็นโรคตาแดงก็ควร
00:02:55 → 00:02:58 ระมัดระวังไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่นและรีบ
00:02:58 → 00:03:01 พบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาและป้องกัน
00:03:01 → 00:03:04 การแพร่กระจายของเชื้อตาแดงสู่บุคคลรอบ
00:03:04 → 00:03:07 ข้างหวังว่าทุกคนจะดูแลตัวเองในหน้าฝนที่
00:03:07 → 00:03:10 จะถึงนี้นะครับรักษาความสะอาดหมั่นล้าง
00:03:10 → 00:03:13 หน้าล้างมือให้สะอาดหลีกเล่นสถานที่แอร์
00:03:13 → 00:03:16 อัดสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ใน
00:03:16 → 00:03:19 ภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อดูแลร่างกายของ
00:03:19 → 00:03:22 เราให้แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอนะครับหากใครมี
00:03:22 → 00:03:25 อาการสงสัยว่าตัวเองป่วยก็แนะนำให้ไปพบ
00:03:25 → 00:03:36 แพทย์เพื่อรับการรักษากันด้วยนะครับ
00:03:36 → 00:03:39 เพราะสุขภาพที่ดีเราสร้างได้โรงพยาบาล
00:03:39 → 00:03:44 จุฬาลงกรณ์สภากาชาตไทย