00:00:00 → 00:00:04 โรคไข้ชัก เป็นสาเหตุการชัก ที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็ก
00:00:04 → 00:00:08 อายุของเด็กที่พบได้ ตั้งแต่ 6 เดือน จนถึง 5 ปี
00:00:08 → 00:00:18 [เสียงดนตรี]
00:00:18 → 00:00:22 สาเหตุของไข้ชักในเด็ก เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ
00:00:22 → 00:00:25 อย่างแรก อาจเกิดขึ้นจากตัวเด็กเอง
00:00:25 → 00:00:29 เนื่องจากว่าเด็กเล็ก สมองยังมีการพัฒนาไม่เต็มที่
00:00:29 → 00:00:33 ทำให้มีความไว ต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างฉับพลัน
00:00:33 → 00:00:35 ทำให้กระตุ้นอาการชักได้
00:00:35 → 00:00:39 อย่างที่สองก็คือ เป็นปัจจัยทางด้านพันธุกรรม
00:00:39 → 00:00:44 เราพบว่าในครอบครัวที่มีพ่อแม่ หรือว่าญาติสายตรง
00:00:44 → 00:00:49 มีอาการไข้ชักตอนเด็ก จะเพิ่มความเสี่ยงของภาวะไข้ชักสูงขึ้น
00:00:49 → 00:00:54 อย่างที่สาม เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ ได้ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส
00:00:54 → 00:00:55 น้องกีตาร์เป็นอะไรมาโรงพยาบาลครับ
00:00:55 → 00:00:57 น้องกีตาร์เป็นไข้ค่ะ
00:00:57 → 00:00:58 เป็นตั้งแต่เมื่อไรครับ
00:00:58 → 00:01:03 เป็นเมื่อเช้านี้ค่ะ สูงมากเลย วัดแล้ว 39 เกือบ 40
00:01:03 → 00:01:05 แล้วมีอาการอื่นนอกจากอาการไข้ไหมครับ
00:01:05 → 00:01:09 มีอาการชักเกร็งค่ะ และก็มีน้ำลายฟูมปากออกมาด้วย
00:01:09 → 00:01:13 อาการไข้ชักส่วนใหญ่ เด็กจะมีอาการเจ็บป่วยนำมาก่อน
00:01:13 → 00:01:19 เช่น อาจจะมีไอ น้ำมูก อาเจียน ท้องเสีย ถ่ายเหลว ร่วมกับมีอาการไข้
00:01:19 → 00:01:21 หลังจากนั้นเด็กก็จะมีอาการชัก
00:01:21 → 00:01:26 โดยรูปแบบของการชัก ก็จะเป็นได้ทั้งแขน ขาเกร็ง กระตุก
00:01:26 → 00:01:32 บางรายมีอาการตาเหลือก น้ำลายฟูมปาก มีปัสสาวะ อุจจาระราด
00:01:32 → 00:01:34 และไม่รู้สึกตัวในขณะที่ชัก
00:01:34 → 00:01:39 โดยส่วนใหญ่อาการชัก มักเกิดขึ้นไม่เกิน 15 นาที
00:01:39 → 00:01:43 และภายหลังจากที่เด็กชัก ส่วนใหญ่เด็กจะตื่นรู้ตัวดี
00:01:43 → 00:01:45 เดี๋ยวหมอขออนุญาตตรวจน้องหน่อยนะครับ
00:01:45 → 00:01:46 ได้ค่ะ
00:01:46 → 00:01:49 โอเค หมอขอฟังปอดหน่อยนะครับ
00:01:50 → 00:01:54 มีผู้ป่วยบางรายที่อาจมีโรคร่วม
00:01:54 → 00:01:58 เช่น อาจมีเรื่องของโรคลมชักร่วมด้วย
00:01:58 → 00:02:02 ในเด็กกลุ่มนี้อาจจะทำให้มีการชักต่อเนื่อง และอันตรายได้ครับ
00:02:02 → 00:02:08 โดยอาการไข้ชักจะดีขึ้น เมื่อสมองเด็กมีการพัฒนาขึ้น
00:02:08 → 00:02:10 คือเมื่ออายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไป
00:02:10 → 00:02:15 ไม่ส่งผลต่อระดับสติเชาวน์ปัญญา และการเรียนรู้ของเด็ก
00:02:15 → 00:02:18 ความสำคัญคือการปฐมพยาบาลของผู้ปกครอง
00:02:18 → 00:02:23 ถ้าน้องเริ่มมีอาการชักอยู่ที่บ้าน และก็ไม่รู้สึกตัว
00:02:23 → 00:02:28 เราแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งสติ ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ
00:02:28 → 00:02:35 หลังจากนั้น ให้น้องนอนวางบนพื้นหรือว่าบนเตียง
00:02:35 → 00:02:39 และทำการตะแคงตัวน้องไปทางด้านใดด้านหนึ่ง
00:02:39 → 00:02:42 พร้อมทั้งหันศีรษะไป ศีรษะไม่ต้องหนุนหมอน
00:02:42 → 00:02:46 ให้ศีรษะต่ำเพื่อป้องกันการสำลัก
00:02:46 → 00:02:53 ถ้าเกิดใส่เสื้อผ้าที่รัด ให้ทำการปลดออก หรือว่าถอดเสื้อออกได้
00:02:53 → 00:02:57 ถ้าภายหลังการชัก น้องตื่นรู้ตัวดี
00:02:57 → 00:03:02 เราแนะนำให้คุณแม่ป้อน ยาลดไข้พาราเซตามอลและก็เช็ดตัว
00:03:02 → 00:03:05 แต่ถ้าเกิดขณะชัก น้องไม่รู้สึกตัว
00:03:05 → 00:03:08 เราไม่แนะนำให้ป้อนยาหรือเอาวัตถุเข้าปาก
00:03:09 → 00:03:14 ไม่ว่าจะเป็นช้อน นิ้วมือ หรือวัตถุแข็ง ๆ
00:03:14 → 00:03:16 เพราะว่าอาจจะทำให้เกิดการสำลักลงปอดได้
00:03:16 → 00:03:21 หากบุตรหลานของท่านมีอาการรุนแรง ชักนาน ซึมลง
00:03:21 → 00:03:26 แนะนำให้พาบุตรหลานของท่านมาตรวจรักษา ที่โรงพยาบาลต่อไปนะครับ
00:03:26 → 00:03:33 [เสียงดนตรี]
00:03:33 → 00:03:36 หากบุตรหลานของท่านมีปัญหาสุขภาพ
00:03:36 → 00:03:38 อย่าลืมพามาพบหมอกันนะครับ