00:00:44 → 00:00:49 ขอโทษนะคะคุณหมอ ขอชานมอีกแก้วนึง
00:00:49 → 00:00:52 พอแล้วคุณแนน วันนี้เนี่ยกี่แก้วแล้วเนี่ย
00:00:52 → 00:00:53 มันหวานนะ
00:00:53 → 00:00:57 ไม่หวาน วันนี้แนนเอาน้ำตาลเทียมมาใส่
00:00:57 → 00:01:00 วันนี้ 3 แก้วแต่ใส่น้ำตาลเทียม รับรองว่าไม่อ้วนไม่เป็นเบาหวานแน่
00:01:00 → 00:01:01 รู้ได้ยังไง
00:01:01 → 00:01:02 ก็เพื่อนบอก
00:01:02 → 00:01:05 ก็ต้องติดตามเรา เพราะว่าวันนี้พูดถึงเรื่องนี้เลย
00:01:05 → 00:01:08 น้ำตาลเทียม ใช่
00:01:08 → 00:01:09 เอาและ อย่างงี้ไม่ได้การ
00:01:09 → 00:01:11 ถ้างั้นเราทักทายคุณผู้ชมกันก่อน
00:01:11 → 00:01:13 สวัสดีค่ะ
00:01:13 → 00:01:16 ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคุยกับหมออัจจิมานะคะ
00:01:16 → 00:01:19 ดูรายการเรารับรองได้ความรู้รอบด้าน
00:01:19 → 00:01:25 เรื่องของสุขภาพ ความสวย ความงาม ดูแล้วยังหนุ่มยังสาว ยังแข็งแรงและอายุยืนแน่นอน
00:01:25 → 00:01:28 เมื่อกี้คุณหมอแพร่มๆ มาแล้วพูดเรื่องของน้ำตาเทียมหรอคะ
00:01:28 → 00:01:29 ใช่
00:01:29 → 00:01:32 มันดีจริงไหม มันมีข้อดี ข้อเสียยังไง
00:01:32 → 00:01:34 วันนี้คุณหมอจะเล่าให้เราฟัง รอติดตามก็แล้วกัน
00:01:50 → 00:01:53 คุณผู้ชมขา เริ่มต้นหมอรายการกันด้วยหมอชวนคุย
00:01:53 → 00:01:57 ช่วงที่หนึ่งของเราสนับสนุนโดยนวัตกรรมกันแดดใหม่
00:01:57 → 00:02:00 สำหรับเด็กและทารกใน Heliocare
00:02:00 → 00:02:04 ที่ปกป้องแสงได้ทุกรังสี ด้วยเฟิร์นบล็อคเทคโนโลยีนะคะ
00:02:04 → 00:02:07 ตัวนี้ดีคุณหมอก็ Recommend หลายๆ ท่านเลยทั่วโลกเลย
00:02:07 → 00:02:09 ของดีต้องบอกต่อ
00:02:09 → 00:02:13 เพราะว่านอกเหนือจากการได้รับการวิจัยจากสถาบันระดับโลก
00:02:13 → 00:02:15 อย่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วเนี่ย
00:02:15 → 00:02:18 คุณหมอก็แนะนำหลายครั้งแล้วแม้กระทั่งเป็นเด็กเล็กๆ เนี่ย
00:02:18 → 00:02:21 อายุ 6 เดือนขึ้นไปก็ควรจะทาครีมกันแดดแล้ว
00:02:21 → 00:02:25 คุณพ่อคุณแม่ดูแล้วก็ไปจัดแจงให้ลูกใช้กันนะคะ
00:02:25 → 00:02:28 มาค่ะ วันนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ
00:02:28 → 00:02:32 เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงของคนที่รักสุขภาพ
00:02:32 → 00:02:36 ที่คุณบอกว่าเราควรจะบริโภคน้ำตาลน้อยๆ อะไรอย่างงี้
00:02:36 → 00:02:40 เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง เพราะน้ำตาลคือยาพิษ
00:02:40 → 00:02:42 คนก็เลยบริโภคน้ำตาลน้อยลง
00:02:42 → 00:02:45 แต่คนติดหวานคุณแนน
00:02:45 → 00:02:50 วันนี้ก็เลยจะชวนพวกเรามาคุยกันเรื่องของ สารให้ความหวานแทนน้ำตาล
00:02:50 → 00:02:53 หรือเรียกง่ายๆว่าน้ำตาลเทียม
00:02:53 → 00:02:57 คุณหมอคะเราได้ยินมาเยอะน้ำตาลเทียม จริงๆมันก็มีมานานมากแล้ว
00:02:57 → 00:03:01 แต่จริงๆแล้วมันคืออะไร มันใช้แบบไหน
00:03:01 → 00:03:04 มันบอกกับใคร ไม่เหมาะกับใคร และมันดีจริงไหม
00:03:04 → 00:03:07 วันนี้คุณหมอจะต้องอธิบายให้เราฟังอย่างละเอียดเลยนะคะ
00:03:07 → 00:03:11 จริงๆถ้าพูดน้ำตาลเทียมหรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลเนี่ย
00:03:11 → 00:03:15 จริงๆมันก็เป็นวัตถุที่เราใช้เจือปนในอาหาร
00:03:15 → 00:03:19 ก็เพื่อที่จะใช้ในการทดแทนความหวานนั่นเอง
00:03:19 → 00:03:20 ทดแทนน้ำตาลนะคะ
00:03:20 → 00:03:24 สารให้ความหวานแทนน้ำตาล มีหลากหลายมากมายมากๆเลย
00:03:24 → 00:03:30 สามารถแบ่งออกได้ สารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
00:03:30 → 00:03:34 หรือเป็นสารให้ความหวานที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ
00:03:34 → 00:03:39 คือถ้าเราพูดถึงสารที่ให้ความหวานที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
00:03:39 → 00:03:41 ก็สามารถแบ่งย่อยออกเป็นน้ำตาลนั่นเอง
00:03:41 → 00:03:45 เป็นน้ำตาลที่อยู่ในกลุ่มของคาร์โบไฮเดรต
00:03:45 → 00:03:47 กลุ่มของพวกกลูโคส ที่เรารู้จักกัน
00:03:47 → 00:03:49 อันนั้นก็จะมีกลูโคส มีฟลุคโตส
00:03:49 → 00:03:52 มีแลคโตส มีซูโครส
00:03:52 → 00:03:56 น้ำตาลที่เราพูดไปในกลุ่มพวกเราสักครู่แล้วมันยังมีน้ำตาลแอลกอฮอล์อีกอันนึง
00:03:56 → 00:04:00 อันนี้ก็คือเป็นสาร Alcohol ของในกลุ่มน้ำตาล
00:04:04 → 00:04:04 เคยได้ยิน
00:04:04 → 00:04:06 นั้นไง ใช่ไหมคะไอที่
00:04:06 → 00:04:07 เอามาใส่ในหมากฝรั่ง
00:04:07 → 00:04:10 ใช่ ในหมากฝรั่งหรือในยาสีฟันนะคะ
00:04:10 → 00:04:16 คือมีหลายๆ ตัวมากๆ คือกลุ่มพวกนี้ทำไมไปอยู่ในยาสีฟัน หรือไปอยู่ในหมากฝรั่ง
00:04:16 → 00:04:19 เพราะว่าเนื่องจากว่ามันไม่ทำให้เกิดฟันผุ
00:04:19 → 00:04:21 เพราะว่าพวกนี้อย่างที่บอกมันดูดซึมได้ช้า
00:04:21 → 00:04:24 มันลดปัญหาการที่น้ำตาลในเลือดขึ้นสูง
00:04:24 → 00:04:27 อันนี้ก็เป็นกลุ่มที่เราพบบ่อยๆ
00:04:27 → 00:04:32 กับอีกกลุ่มนึงก็คือ สารที่ให้ความหวานที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ
00:04:32 → 00:04:34 หรือน้ำตาลเทียม
00:04:34 → 00:04:38 ซึ่งตัวนี้ต้องบอกว่า มันมีอยู่หลายตัว
00:04:38 → 00:04:41 ตัวที่องค์การอาหารและยาของอเมริกา
00:04:41 → 00:04:45 เขาอนุญาตให้ใช้ได้อย่างปลอดภัยมี 6 ตัว
00:04:45 → 00:04:50 จะมีตัวที่เรารู้จักกันดีก็คือ ขัณฑสกร
00:04:50 → 00:04:53 ขัณฑสกร ภาษาแพทย์ก็คือ แซกคารีน
00:04:53 → 00:04:56 และก็จะมี แอสพาร์เทม รู้จักกันดี
00:04:56 → 00:05:00 นอกจากตัวใหม่ๆ ที่ออกมายี่ห้อใหม่ๆ กว่าน้ำตาลเทียม
00:05:00 → 00:05:02 มีสารแอสพาร์เทม เป็นส่วนประกอบ
00:05:02 → 00:05:06 แต่ว่ามันยังมีคนอื่นอีกอย่างเช่นซูคราโลส
00:05:06 → 00:05:08 มีตัวซูคราโลส มีตัวนีโอแทมนะคะ
00:05:08 → 00:05:14 มีตัวแอดแวนเทม แอซีซัลเฟมโพแทสเซียม
00:05:14 → 00:05:17 แต่ว่านอกจากนี้ยังมีสารให้ความหวานอีก 2 ชนิด
00:05:17 → 00:05:19 นะคะ ที่มาจากธรรมชาติ
00:05:19 → 00:05:23 องค์การอาหารและยาของอเมริกา บอกว่าเป็นน้ำตาลเทียมที่ปลอดภัย
00:05:23 → 00:05:25 ที่คุณสามารถจะใส่อยู่ในอาหาร
00:05:25 → 00:05:27 ก็ได้แก่กำลังฮิตมากๆ เลยก็คือ
00:05:27 → 00:05:30 น้ำตาลเทียมที่มาจากหญ้าหวาน
00:05:30 → 00:05:32 โห อันนี้ได้ยินบ่อยมาก
00:05:32 → 00:05:38 สตีวิออลไกลโคไซด์ อันนี้ก็เป็นตัวที่มีการพูดถึงหลังๆมากยิ่งขึ้น
00:05:38 → 00:05:40 นอกจากตัวนี้แล้วยังมีอีกอันนึง
00:05:40 → 00:05:42 ที่เราใช้เวลาที่เราเจ็บคอ
00:05:42 → 00:05:44 ที่มาจากหลอดหางกล้วย
00:05:44 → 00:05:48 เราจะเห็นว่าเวลาที่เราทานอาหารพวกนี้มันจะหวานๆชุ่มคอ
00:05:48 → 00:05:50 มันเป็นสารสกัดที่มาจากหลอดหางกล้วย
00:05:50 → 00:05:54 ซึ่งจะให้สารที่ให้ความหวานเป็นไมโกลไซต์
00:05:54 → 00:05:56 อันนี้คือแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
00:05:56 → 00:05:59 นอกจากนี้แล้วเขายังมีการแบ่งสารให้ความหวาน
00:05:59 → 00:06:03 แบบนึงคือแบบที่ให้พลังงานสูง
00:06:03 → 00:06:06 หรือเป็นแบบที่ไม่ให้พลังงานเลย
00:06:06 → 00:06:08 งั้นถ้าแบบที่ให้พลังงานสูง
00:06:08 → 00:06:12 เราก็รู้อยู่ว่าโอเคถ้าแบบนี้ ถ้าคุณกำลังลดน้ำหนัก
00:06:12 → 00:06:15 หรือคุณเป็นเบาหวาน ห้าม
00:06:15 → 00:06:18 ถามว่าในสารให้ความหวาน ในกลุ่มนั้นมันมีอะไร
00:06:18 → 00:06:21 ก็อย่างเช่นกลุ่ม Fruktose ที่มาจากเป็นน้ำตาลจากผลไม้
00:06:21 → 00:06:23 หรือกลุ่มน้ำตาลแอลกอฮอล์นะคะ
00:06:23 → 00:06:26 ก็พวกซอร์บิทอล ไซลิทอล อะไรพวกนี่
00:06:26 → 00:06:28 ก็คืออย่าไปรับประทานเลย
00:06:28 → 00:06:30 ใช้พลังงานสูง
00:06:30 → 00:06:35 อีกกลุ่มหนึ่งก็คือ กลุ่มที่ให้ความหวานแต่ให้พลังงานต่ำหรือไม่ให้พลังงานเลย
00:06:35 → 00:06:37 อย่างเช่น กินน้ำตาลที่สกัดจากหญ้าหวานนี่ไง
00:06:37 → 00:06:39 ก็เลยทำให้เป็นอะไรที่เขาเอามาเป็นจุดขาย
00:06:39 → 00:06:41 ว่าถ้าเกิดคุณต้องการจะลดน้ำหนัก
00:06:41 → 00:06:44 ก็มาเลือกทานเป็นหญ้าหวานแทน
00:06:44 → 00:06:46 หรือว่าใช้เป็นกลุ่มพวกแอสพาร์เทม
00:06:46 → 00:06:49 หรือไข้เป็นกลุ่มของแซกคารีน ขัณฑสกร
00:06:49 → 00:06:52 และก็ใช้ในกลุ่มของแอซีซัลเฟม
00:06:52 → 00:06:56 สรุปแล้วคือทุกคนควรจะทานไหม หรือมันมีใครไม่ควรทานหรือเปล่าคะคุณหมอ
00:06:56 → 00:06:59 คือจริงๆ ต้องบอกว่าเวลาที่เรารับประทานกลุ่มของน้ำตาลเทียมเข้าไป
00:06:59 → 00:07:02 ในส่วนของลิ้นเรามันจะมีจุดที่เรารับรส
00:07:02 → 00:07:04 ทำให้เรารู้สึกหวาน
00:07:04 → 00:07:08 คือจริงๆ น้ำตาลเทียมพวกนี้ใช้ปริมาณที่นิดเดียว เราก็จะรู้สึกหวานและ
00:07:08 → 00:07:11 และก็คุณแนนสังเกตุ มันจะเป็นหวานปะแล่มๆ
00:07:11 → 00:07:12 คือมันจะไม่ใช่หวานธรรมชาติ
00:07:12 → 00:07:17 เวลาเรารับประทานน้ำตาลเทียมพวกนี้ มันจะไม่ได้ถูกเบรคไปเป็นโมเลกุลของน้ำตาลจริงๆ
00:07:17 → 00:07:21 เราทำให้สมองเรารู้สึกว่า ฉันได้รับน้ำตาล
00:07:21 → 00:07:24 ฉันแฮปปี้ จากการไม่ได้ทานน้ำจริงๆ
00:07:24 → 00:07:26 ใช่ ไม่ใช่ เพราะมันได้เกิดขึ้นจริง
00:07:26 → 00:07:31 มันแก่แค่เรารู้สึกว่า รับรสนั้นมาเฉยๆ
00:07:31 → 00:07:35 และเราก็ยังต้องระวังอีก ในกลุ่มของคนไข้บางรายที่มีโรคบางอย่าง
00:07:35 → 00:07:38 ที่ไม่สามารถเผาพลาญ กรดอะมิโนบางตัวได้
00:07:38 → 00:07:43 ซึ่งเราพบว่ากรดอะมิโนเหล่านี้ มันเจออยู่ในศาลที่ให้ความหวานหรือน้ำตาลเทียม
00:07:43 → 00:07:45 ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้
00:07:45 → 00:07:50 หรือเราไปใช้ในกลุ่มคนไข้ที่มีอาการแพ้ในกลุ่มพวกสารซัลโฟนาไมด์
00:07:50 → 00:07:55 กลุ่มพวกนี้พอเวลารับประทานน้ำตาลเทียม แล้วก็อาจทำให้เกิดมีอาการแพ้ได้นะคุณแนน
00:07:55 → 00:07:59 อาจจะทำให้ท้องเสีย หายใจไม่ออก หรือมีผื่นขึ้น
00:07:59 → 00:08:03 เพราะงั้นแต่ว่าจริงๆ แล้วถ้าให้หมอแนะนำคุณไข้เนี่ย ก็จะแนะนำแบบว่า
00:08:03 → 00:08:07 ให้เราไปรับประทานผัก ที่มันมีรสหวาน
00:08:07 → 00:08:14 คุณแนนสังเกตไหมบางที เวลาเราไปทานข้าวต้ม หรือซุปอะไรบางอย่าง หวานมากเลย
00:08:14 → 00:08:17 ไม่ได้ใส่น้ำตาล แต่ใส่หัวไชเท้า
00:08:17 → 00:08:19 คือใช้ธรรมชาติ
00:08:19 → 00:08:22 รสหวานที่มากจากผักหรือผลไม้ธรรมชาติ
00:08:22 → 00:08:29 งั้นเราก็ต้องเลือกว่า เราต้องการที่จะรับประทานอาหารหวานหรือรสหวาน เพื่ออะไร
00:08:29 → 00:08:34 ถ้าเพื่อประโยชน์ต่อร่างกาย น้ำตาลเทียมมันไม่ได้ช่วยอะไร
00:08:34 → 00:08:39 เข้าใจได้ โอโห้นี่ ทำความรู้จักกันแบบเจาะลึกจริงๆเลยนะคะ
00:08:39 → 00:08:41 คือปกติเราจะรู้จักแบบผิวๆ
00:08:41 → 00:08:44 แต่เราจะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วเนี่ยมันดีหรือไม่ดียังไงนะคะ
00:08:44 → 00:08:48 เดี๋ยวช่วงหน้ามาเจาะลึกเรื่องของน้ำตาลเทียมกันต่อนะคะคุณผู้ชม
00:08:48 → 00:08:51 เกี่ยวกับเรื่องของประโยชน์ที่นำมาใช้กันบ้าง
00:08:51 → 00:08:54 เรามาดูว่ามีอะไรกันบ้าง ตอนนี้พักสักครู่ก่อนค่ะ
00:08:55 → 00:08:58 กลับมาคุยกันต่อของช่วงที่ 2 ของหมอชวนคุยค่ะ
00:08:58 → 00:09:03 ช่วงนี้สนับสนุนโดย Ortisine ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดูแลรูปร่าง
00:09:03 → 00:09:08 กลับมาที่เรื่องของสารให้ความหวานแทนน้ำตาล หรือว่าน้ำตาลเทียม
00:09:08 → 00:09:11 จริงๆ ข้อดีของเขาก็มีไม่น้อยเลยใช่ไหมคุณหมอคะ
00:09:11 → 00:09:14 คือจริงๆ ข้อมูลบางอย่าง หรือว่าการศึกษาบางอย่าง
00:09:14 → 00:09:18 จริงๆ เขาก็ยังความขัดแย้งกันอยู่ในพวกเอ็กเปิดทั้งหลาย
00:09:18 → 00:09:21 แต่ว่าถ้าจริงๆ แล้ว พูดถึงผลของน้ำตาลเทียม
00:09:21 → 00:09:23 ต่อเรื่องความอยากอาหาร
00:09:23 → 00:09:25 เพราะว่ามีคนพูดถึงกันมา ว่าจริงๆ แล้วเนี่ย
00:09:26 → 00:09:29 เราควรจะเอาน้ำตาลเทียมมาใช้ในการลดน้ำหนักรึเปล่า
00:09:29 → 00:09:33 เพราะมีคนเริ่มต้นในการใช้น้ำตาลเทียม เอามาใช้ในการลดน้ำหนัก
00:09:33 → 00:09:38 แต่ว่ากลุ่มหนึ่งเขาเชื่อว่าการที่เรารับประทานอาหารหวาน หรือน้ำตาลเทียม
00:09:38 → 00:09:41 มันจะมีแล้วมันไปเพิ่มความรู้สึกที่เราอยากอาหาร
00:09:41 → 00:09:43 และมันก็ไม่ได้ช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก
00:09:43 → 00:09:45 เพราะว่าเหมือนที่หมอพูดไปในตอนแรก
00:09:45 → 00:09:48 ว่าจริงๆ แล้วเนี่ยเวลาที่เรารับประทานน้ำตาลเทียม
00:09:48 → 00:09:50 ร่างกายไม่ได้รับแคลอรี่จริงๆ
00:09:51 → 00:09:53 มันการเป็นว่าทำมากขึ้นอีก
00:09:53 → 00:09:55 เพื่อจะให้ฟีลๆ
00:09:55 → 00:09:58 อันนี้ในฝั่งที่เขาคิดว่ามันไม่ได้ช่วย
00:09:58 → 00:10:02 แต่ว่าในฝั่งที่ช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักเนี่ย
00:10:02 → 00:10:06 เขาก็มีการทำการศึกษา แล้วพบว่าการรับประทานน้ำตาลเทียม
00:10:06 → 00:10:09 อาจจะช่วยในการลดน้ำหนักนะคะ
00:10:09 → 00:10:15 แล้วอาจจะช่วยในการลดพวกการพอกของไขมัน หรือว่าลดเส้นรอบเอว
00:10:15 → 00:10:17 คือจริงๆ แล้วก็มีหลายการศึกษาเลย
00:10:17 → 00:10:20 ซึ่งพบว่ามัยจะสามารถจะลดได้ดีทีเดียว
00:10:20 → 00:10:22 เพราะฉะนั้นัมนก็เป็น 2 กลุ่มใช่ไหม
00:10:22 → 00:10:24 คือกลุ่มที่ไม่ได้มีน้ำตาลขึ้นไปในสมองจริงๆ
00:10:24 → 00:10:27 เพราะนั้นคนก็ยัง ฉันจะต้องกินอยู่
00:10:27 → 00:10:28 เพื่อที่จะได้น้ำตาลขึ้นไป
00:10:28 → 00:10:31 ตอบสนองต่อความรู้สึกว่า ฉันอิ่มแล้ว
00:10:31 → 00:10:33 แต่ว่าในอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ
00:10:33 → 00:10:37 เอามาทดแทนความรู้สึกหิว
00:10:37 → 00:10:39 ก็คือคุณทานไปเรียบร้อยแล้วหล่ะ
00:10:39 → 00:10:41 คุณจะได้ไม่ต้องไปทานน้ำตาลหรือทานอาหาร
00:10:41 → 00:10:43 ที่มันทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูง
00:10:43 → 00:10:48 ในส่วนของหมอนะ ถ้าจะให้คนที่เป็นเบาหวานทานน้ำตาลเทียมเนี่ย
00:10:48 → 00:10:52 ก็คือใช้ในแง่ที่ว่าทำให้การรับประทานมันมีความสุขมากขึ้น
00:10:52 → 00:10:56 เนี่องจากว่าคุณตัดการแต่งรสออกไปจากอาหาร
00:10:56 → 00:11:00 คือสภาพจิตใจคือมันเบื่ออะ
00:11:00 → 00:11:02 จริงค่ะ ขาดน้ำตาลไม่ได้
00:11:02 → 00:11:05 ใส่น้ำตาลเทียมไปให้เขามีความสุขมากขึ้น อะไรอย่างงี้
00:11:05 → 00:11:07 แต่ว่าคุณก็ต้องควบคุมปริมาณ
00:11:07 → 00:11:12 ไม่ต่างกับการที่ใช้น้ำตาลเทียมในการลดน้ำหนัก
00:11:12 → 00:11:14 หรือไขมันในช่องท้อง
00:11:14 → 00:11:17 เพื่อที่จะว่า มันมีประโยชน์ มันใช้ทดแทนได้
00:11:17 → 00:11:20 คือมันใช้คอนเซ็ปเดียวกันในการคิด
00:11:20 → 00:11:23 เขาทำการศึกษาเนี่ย เขาให้ในกลุ่มคนไข้ที่มีไขมันในช่องท้อง
00:11:23 → 00:11:26 หรือว่ากลุ่มคนไข้เมตาโบลิกซินโดรม
00:11:26 → 00:11:29 เราเปลี่ยนให้คุณ แทนที่คุณจะกินน้ำอัดลมธรรมดา
00:11:29 → 00:11:34 คุณมาใช้เป็นน้ำอัดลมที่ผสมสารให้ความหวานแทน
00:11:34 → 00:11:36 เขาพบว่า ทุกอย่างมันลดลงหมดเลย
00:11:37 → 00:11:40 ก็คือปัจจัยต่างๆ มันดูเหมือนดีนะ
00:11:40 → 00:11:42 แต่ว่าจริงๆ ถ้าเรามองเนี่ย
00:11:42 → 00:11:46 ทำไมอะ ต้องไปทานน้ำอัดลม ทำไมคุณไม่ดื่มน้ำเปล่า
00:11:46 → 00:11:47 จริง
00:11:47 → 00:11:49 แล้วคุณก็ไม่ต้องแบบมา
00:11:49 → 00:11:54 พยายามที่จะมาหาทางเลือก เพื่อจะแทนเอาสารแทนความหวานเข้ามา
00:11:54 → 00:11:56 แต่คนมันติดน้ำตาลไง มันมีความสุข
00:11:56 → 00:11:59 แต่มันคือการศึกษาที่เขาทำ พยายามจะบอกว่า
00:11:59 → 00:12:02 น้ำตาลเทียมมันมีประโยชน์ อะไรอย่างงี้เป็นต้น
00:12:02 → 00:12:04 แต่คราวนี้ มาอีกโรคหนึ่ง
00:12:04 → 00:12:06 คือการใช้น้ำตาลเทียมในกลุ่มโรคมะเร็ง
00:12:06 → 00:12:11 คือเขาพบว่าสารให้ความหวานกับโรคมะเร็งเนี่ย มันเคยมีคนที่พูดถึงมากๆ
00:12:11 → 00:12:14 เช่น ตัวขัณฑสกร แซกคารีน
00:12:14 → 00:12:18 หรือสารน้ำตาลเทียมอื่นๆ เนี่ยมันจะไปทำให้อัตราการเป็นโรคมะเร็งสูงขึ้น
00:12:18 → 00:12:23 มันก็จะพบว่า มันทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
00:12:23 → 00:12:27 แต่ว่าก็มีการศึกษาอีก ถ้าเกิดว่ามาใช้ในกลุ่มคน
00:12:27 → 00:12:29 ความเสี่ยงอันนี้ไม่มี
00:12:29 → 00:12:31 อันนี้เขาสรุปแบบนี้
00:12:31 → 00:12:33 รู้ไหมมันเกิดอะไรเวลาที่เราทานน้ำตาลเข้าไป
00:12:34 → 00:12:40 มันทำให้แบคทีเรียตัวดีของเราหายไป
00:12:40 → 00:12:44 แล้วจริงๆ แล้วแบคทีเรียตัวดีที่อยู่ในส่วนของลำไส้ของเราเนี่ย
00:12:44 → 00:12:47 มันมีประโยชน์มากมาย แต่เราไปทานน้ำตาลเทียม
00:12:47 → 00:12:50 เพื่อที่จะทำลายสิ่งเหล่านี้
00:12:50 → 00:12:52 การรับประทานน้ำตาลเทียมเนี่ย
00:12:52 → 00:12:58 มันสามารถจะผ่านเนื้อเหยื่อหุ้มสมอง จากเลือดเข้าไปอยู่ในสมองได้
00:12:58 → 00:13:02 นั้นหมายความว่าอันนี้ก็ไปเพิ่มความเสี่ยง
00:13:02 → 00:13:04 ของปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้
00:13:04 → 00:13:07 เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองรึเปล่า
00:13:07 → 00:13:12 มันก็อาจจะมีผลนะคุณแนน เรื่องของพฤติกรรมต่างๆ
00:13:12 → 00:13:16 เป็นผลพวงที่มาจาก ตัวของน้ำตาลเทียมทั้งหลาย
00:13:16 → 00:13:18 คือจริงๆ อย่างที่หมอบอกว่า
00:13:18 → 00:13:21 มันไม่ใช่ความจำเป็น
00:13:21 → 00:13:26 มันเป็นทางเลือก แต่ถ้าเราต้องการมีสุขภาพดีอะ
00:13:26 → 00:13:33 ลองรับประทานอาหารที่ใช้ความหวานที่มาจากธรรมชาติจริงๆ
00:13:33 → 00:13:36 และก็ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย
00:13:36 → 00:13:39 ดื่มน้ำสะอาด ทำจิตใจให้มันสดชื่นแจ่มใส
00:13:39 → 00:13:42 นอนพักผ่อนให้เพียงพอ คุณก็สุขภาพดี
00:13:42 → 00:13:46 แนนชอบคำนี้ ว่า อะไรที่มันไม่ใช่ธรรมชาติ
00:13:46 → 00:13:49 แน่นอนว่ามันก็ดีสู้ธรรมชาติไม่ได้หรอก
00:13:49 → 00:13:53 แต่ถ้าเราบริโภคหวานจากธรรมชาติมากเกินไป มันไม่ดีต่อสุขภาพแน่นอน
00:13:53 → 00:13:55 เพราะฉะนั้นเดินสายกลาง
00:13:55 → 00:13:58 ใช่ เอาที่มันแบบพอดีนะคะคุณหมอ
00:13:58 → 00:14:01 You are what you eat คำนี้สำคัญมากนะคะ
00:14:01 → 00:14:06 วันนี้ขอบคุณคุณหมอที่ให้เรารู้จักน้ำตาลเทียมทุกแง่มุมจริงๆ
00:14:06 → 00:14:08 ดีเขาก็มี
00:14:08 → 00:14:11 ในอีกแง่มุมหนึ่งมันมีอะไรซ่อนอยู่ แฝงอยู่
00:14:11 → 00:14:14 และบางคนก็มีข้อจำกัดที่ทานไม่ได้เหมือนกันนะคะ
00:14:14 → 00:14:17 สัปดาห์หน้ากลับมาติดตามได้ใหม่
00:14:17 → 00:14:18 กับรายการคุยกับหมออัจจิมา
00:14:18 → 00:14:21 วันนี้เวลาหมดเกลี้ยงเลย คุณหมอและแนนลาไปก่อนนะคะ
00:14:21 → 00:14:22 สวัสดีค่ะ