00:00:00 → 00:00:05 คือ 1 ผล 136 กรัมของอะโวคาโด จะมี เส้นใยประมาณ 10 กรัม ซึ่ง 10 กรัม
00:00:05 → 00:00:10 ก็เทียบเท่ากับ 40% ของปริมาณที่ต้องการ ต่อวันแล้วนะครับ อะโวคาโดประมาณ 1 ผลขนาด
00:00:10 → 00:00:16 กลางๆ ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด จะลดลง 16% ใครที่ไม่ควรทาน หรือถ้า
00:00:16 → 00:00:21 จะทานก็ต้องระวังให้มากๆ สวัสดีครับ ขอต้อนรับ เข้าสู่ หมออ๊อกบอกเล่า อะโวคาโด เป็นผลไม้
00:00:21 → 00:00:26 ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับ สมัยนึง ผมจำได้ว่าจะหาซื้อ
00:00:26 → 00:00:31 อะโวคาโด ต้องไปที่ร้านเฉพาะหรือว่า พวกไฮเปอร์มาร์ท แต่ว่าตอนนี้หาซื้อได้ตาม
00:00:31 → 00:00:37 ตลาดสด ตลาดนัดทั่วไปได้เลย ที่อะโวคาโดได้ รับความนิยมมากขึ้น ผมคิดว่านอกจากจะ
00:00:37 → 00:00:42 ปลูกได้ในประเทศไทยหาได้ง่ายขึ้นแล้ว ผมว่าคนก็จะรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของ
00:00:42 → 00:00:48 อะโวคาโดนะครับว่ ามีประโยชน์กับสุขภาพ คือ ช่วยเรื่องหัวใจ มีใยอาหาร มีสารต้าน-
00:00:48 → 00:00:53 อนุมูลอิสระ แล้วก็มีโฟเลต ผมก็เลยไปหาข้อมูล อัปเดทเกี่ยวกับอะโวคาโดครับ ว่าตอนนี้มี
00:00:53 → 00:01:00 หลักฐานอะไรใหม่ๆที่ยืนยันว่าพวกเขา ดีกับสุขภาพจริงๆ ดีกับหัวใจแค่ไหน ดีกับ-
00:01:00 → 00:01:04 เบาหวานจริงไหม เพื่อที่จะเป็นประโยชน์กับคน ที่กำลังจะเริ่มทานนะครับ จะได้ประกอบการ
00:01:04 → 00:01:09 ตัดสินใจ หรือคนที่ทานอยู่แล้ว ก็จะ ได้ทราบว่าสิ่งที่ตัวเองทานอยู่ดี
00:01:09 → 00:01:14 กับร่างกายแค่ไหน และแน่นอนนะครับสิ่งดีๆ ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับทุกคน ผมก็จะเล่าให้ฟัง
00:01:14 → 00:01:21 ด้วยว่าใครที่ไม่ควรทาน หรือถ้าจะทานก็ ต้องระวังให้มากๆ อะโวคาโด สมัยก่อน
00:01:21 → 00:01:26 คนไทยเรียกว่าลูกเนย ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า เนื้อของเขา มีความมัน เพราะว่ามีไขมัน
00:01:26 → 00:01:31 อยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับเจ้าอะโวคาโด มีไขมันไม่อิ่มตัว ก็ซึ่งจัดเป็น
00:01:31 → 00:01:38 ไขมันที่ดี ตัวที่โดดเด่นเลยก็คือเจ้ากรดโอเลอิก ตัวนี้นะครับจะช่วยลดระดับ LDL
00:01:38 → 00:01:44 คอเลสเตอรอลในเลือดได้ ถ้าเราลองดูเจ้ากรด โอเลอิกในอะโวคาโดเทียบกับอาหารอื่นๆที่
00:01:44 → 00:01:50 ขึ้นชื่อว่ามีโอเลอิกแอซิดสูงแล้ว ก็จะเห็น ว่าเจ้าอะโวคาโด ตัวเลขสวยเลยนะครับ
00:01:50 → 00:01:57 ต่อ 1 หน่วยบริโภคหรือปกติอะโวคาโด 1 ผลหรือ ประมาณ 150 กรัม จะมีโอเลอิก
00:01:57 → 00:02:04 ประมาณ 14.7 กรัม ก็ลองเทียบกับน้ำมันดอก ทัน ตะวันน้ำมัน safflower หรือว่าถั่วต่างๆ
00:02:04 → 00:02:10 หรือว่างาดูนะครับ ก็จะเห็นว่าโอเลอิกใช้ได้ทีเดียว นอกจากอะโวคาโด จะมีไขมันไม่อิ่มตัว
00:02:10 → 00:02:16 เจ้าโอเลอิกแล้ว อะโวคาโดยังมีไขมัน ไม่อิ่มตัว ตัวลิโนเลอิกด้วย ซึ่งก็ดูแล้ว
00:02:16 → 00:02:21 ก็ไม่สูงนะครับเมื่อเทียบกับน้ำมันหรือว่า ถั่วต่างๆ แต่เจ้าตัวนี้ก็ช่วยเรื่องของ
00:02:21 → 00:02:26 หัวใจเหมือนกัน ก็คือช่วยลดระดับ Total คอเลสเตอรอล แล้วก็ LDL คอเลสเตอรอลใน
00:02:26 → 00:02:31 เลือดได้ ผมไปดูสายพันธุ์อะโวคาโดที่กรม ส่งเสริมการเกษตรแนะนำให้ปลูกในไทยนะครับ
00:02:31 → 00:02:35 ก็เห็นว่ามีหลายสายพันธุ์ตามที่ผมแสดงให้ เห็นตอนนี้ ก็จะเห็นว่าสายพันธุ์ Peterson
00:02:35 → 00:02:41 จะมีไขมันสูงที่สุ ดมีไขมันไม่- อิ่มตัวที่เราต้องการสูงสุด สูงกว่า Hass
00:02:41 → 00:02:46 หน่อย แต่ก็เช่นเดียวกันนะครับ ก็จะมีไขมัน อิ่มตัวสูงกว่านิดหน่อยเหมือนกัน
00:02:46 → 00:02:51 แต่ถ้าเทียบๆกันแล้ว ผมก็ว่ามันก็ต่างกันนิดหน่อย นะครับ ผมว่าก็ลองเลือกเอาตามที่ชอบ
00:02:51 → 00:02:56 แล้วกัน ส่วนวิธีการดูว่าสายพันธุ์แต่ละ สายพันธุ์ต่างกันยังไง หรือว่าใครมีเทคนิค
00:02:56 → 00:03:02 วิธีการเลือกอะโวคาโด ว่าควรเลือกลักษณะผล แบบไหนยังไง ใครทราบก็ลองเม้นต์มาคุยหรือ
00:03:02 → 00:03:08 มาแนะนำกันได้เลยนะครับ สำหรับเจ้า อะโวคาโด ยังจัดเป็นผลไม้ที่มีโฟเลตสูง
00:03:08 → 00:03:14 ซึ่งช่วยในเรื่องของสุขภาพหลอด- เลือดหลอดเลือดหัวใจ ลดการอักเสบ ลดความเสี่ยง
00:03:14 → 00:03:19 ของการอุดตันในเส้นเลือด ลองดูเทียบ กับตัวอื่นๆนะครับ ก็จะเห็นว่าอะโวคาโด
00:03:19 → 00:03:26 ก็จะมีโฟเลตสูงอยู่ หรือผมลองเอาอะโวคาโด มาเทียบกับผักผลไม้อื่นๆที่มีโฟเลตสูง
00:03:26 → 00:03:32 เหมือนกัน ก็จะเห็นว่าอะโวคาโด มีโฟเลต ตัวเลขก็สวยเลยทีเดียว สำหรับเรื่อง
00:03:32 → 00:03:39 อะโวคาโดที่ดีต่อหัวใจนะครับ ก็มีงานวิจัย ตามนี้เลยครับ มีการศึกษาแบบสำรวจ
00:03:39 → 00:03:45 ขนาดใหญ่นะครับ (ตีพิมพ์)ประมาณ 2 ปีที่แล้วกับคน ประมาณ 11,000 คนเป็นระยะเวลาถึง 30 ปี
00:03:45 → 00:03:52 พบว่าถ้าอาทิตย์นึง ถ้าเราทานอะโวคาโด ประมาณ 1 ผลขนาดกลางๆหรือประมาณ 136 กรัม
00:03:52 → 00:03:57 ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด จะลด ลง 16% และความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอด
00:03:57 → 00:04:04 เลือดหัวใจลดลง 21% คืออันบนหมายถึง ความเสี่ยงของพวกหัวใจโดยรวม อันล่างก็คือ
00:04:04 → 00:04:09 เรื่องของโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่นพวกหลอด เลือดหัวใจอุตัน แล้วก็การทานอะโวคาโด
00:04:09 → 00:04:15 เพิ่มขึ้นครึ่งผลต่อวัน หรือประมาณ 68 กรัม ความเสี่ยงโรคหัวใจหลอดเลือด จะ
00:04:15 → 00:04:21 ลดลง 20% และเขาพบว่านะครับ ถ้าเราเอา อะโวคาโดไปแทนเนย เนยเทียม หรือว่าพวก
00:04:21 → 00:04:27 เนื้อสัตว์แปรรูป อะโวคาโดครึ่งผลหรือ ประมาณ 70-80 กรัม จะช่วยลดความ
00:04:27 → 00:04:33 เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลงไปได้ 16-22% คราวนี้เรามาดูงานวิจัยที่มี
00:04:33 → 00:04:39 กลุ่มควบคุมกลุ่มทดลองกัน มีการทำ Meta- analysis นะครับ ก็คือการเอางานวิจัยที่
00:04:39 → 00:04:45 มีกลุ่มควบคุมกลุ่มทดลองเกี่ยวกับอะโวคาโด 7 งานวิจัยมาวิเคราะห์รวมกัน ได้ผล
00:04:45 → 00:04:51 ตามนี้เลยครับ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,300 กว่าคน อายุ 21-70 ปี ที่ทาน
00:04:51 → 00:04:57 อะโวคาโดวันละ 200 กรัมขึ้นไป พบว่า Total คอเลสเตอรอลลดลง LDL คอเลสเตอรอลก็ลดลง
00:04:57 → 00:05:03 โดยเฉลี่ยประมาณ 6.19 (mg/dl) แต่ว่าเรื่อง ไขมัน triglyceride กับเรื่องระดับน้ำตาลในเลือด
00:05:03 → 00:05:08 เขาไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมี นัยยะสำคัญนะครับ ส่วนเรื่อง HDL
00:05:08 → 00:05:14 พบว่าคนที่ทานอาหารแบบปกติทั่วไป การ ทานอะโวคาโดไม่ได้ช่วยเพิ่ม HDL แต่คนที่
00:05:14 → 00:05:19 ทานอาหารแบบไขมันต่ำหรือพวก low Fat เป็นปกติแล้ว การทานอะโวคาโด จะ
00:05:19 → 00:05:25 ทำให้ HDL เพิ่มขึ้นได้ ถึงตรงเพอได้ คำตอบแล้วใช่ไหมครับว่า คนที่ควรทาน
00:05:25 → 00:05:30 อะโวคาโด ก็คือคนที่มีไขมัน LDL คอเลสเตอรอลในเลือดสูง หรือคนที่มีความ
00:05:30 → 00:05:35 เสี่ยงเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจ และเรา ก็ทราบว่าอะโวคาโด ก็มีโฟเลตสูง เพราะ-
00:05:35 → 00:05:40 ฉะนั้นอะโวคาโดก็เหมาะกับคนที่ตั้งครรภ์ด้วย ครับ สำหรับเรื่องเบาหวานกับอะโวคาโดนะครับ
00:05:40 → 00:05:46 อะโวคาโด จัดเป็นผลไม้ที่มีดัชนี น้ำตาลต่ำ และในคนที่ป่วยเบาหวานนะครับ
00:05:46 → 00:05:51 มีการศึกษาแบบบรรยายเปรียบเทียบ พบว่า การทานอะโวคาโด สัมพันธ์กับการลดระดับ-
00:05:51 → 00:05:56 น้ำตาลในเลือดและก็ลดระดับน้ำตาลสะสมได้ สำหรับคนที่ยังไม่เป็นเบาหวานนะครับ
00:05:56 → 00:06:00 การทานอะโวคาโด ก็ยังสัมพันธ์กับการลด ความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานได้ด้วยนะครับ
00:06:00 → 00:06:05 ต่อมา เรามาดูเรื่องใยอาหารกัน เราทราบ กันอยู่แล้วนะครับว่า การทานอาหารที่มี
00:06:05 → 00:06:10 เส้นใย มีผลดีกับร่างกายหลายอย่าง เช่นช่วยควบคุมน้ำหนัก ช่วยลดความเสี่ยง
00:06:10 → 00:06:15 ของโรคหลอดเลือดหัวใจ แล้วก็อาหารพวกเส้น ใย ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือด
00:06:15 → 00:06:20 ไม่พุ่งสูงมากเกินไปหรือว่าเร็วเกินไป นอกจากนี้แล้ว พวกเส้นใย ยังช่วยให้
00:06:20 → 00:06:27 ความไวของอินซูลินดีขึ้นด้วย ตัวอะโวคาโด มีเส้นใยเยอะอยู่ คือ 1 ผล 136 กรัม
00:06:27 → 00:06:32 ของอะโวคาโด จะมีเส้นใยประมาณ 10 กรัม ซึ่ง 10 กรัม ก็เทียบเท่ากับ 40%
00:06:32 → 00:06:37 ของปริมาณที่ต้องการต่อวันแล้วนะครับ ก็จะ เห็นว่าอะโวคาโดมีประโยชน์หลายอย่างเลยนะครับ
00:06:37 → 00:06:41 แต่การที่มีประโยชน์หลายอย่าง ก็ ใช้ว่าทุกคนจะทานได้ เรามาดูกันว่าใคร
00:06:41 → 00:06:47 ที่ต้องระวังบ้าง ผมจะไล่จากเบาไปหาหนัก เลยนะครับ อะโวคาโด มีไขมันอยู่
00:06:47 → 00:06:52 ไม่น้อยที่ทุกคนทราบกันแล้วนะครับ เมื่อ เทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ อะโวคาโด
00:06:52 → 00:06:57 จัดเป็นผลไม้ที่มีไขมันสูง เพราะฉะนั้น คนที่ไวกับอาหารที่มีไขมันสูง
00:06:57 → 00:07:03 ที่ทานแล้วแน่น ท้องอึดง่าย ก็อาจจะต้อง สังเกตตัวเองด้วยครับ ต่อมาคนที่ต้องระวัง
00:07:03 → 00:07:09 ก็คือคนที่มีปัญหาไตครับ เพราะว่าอะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีโพแตสเซียมสูงมาก
00:07:09 → 00:07:14 สูงกว่ากล้วย คืออะโวคาโด 1 ผล ขนาดกลางๆ ประมาณ 150 กรัม จะมีโพแตสเซียม
00:07:14 → 00:07:20 ประมาณ 700 มิลลิกรัม ถ้าเทียบกับน้ำหนัก เท่ากันก็ประมาณกล้วยหอมลูกใหญ่หน่อย
00:07:20 → 00:07:25 ประมาณสัก 1 ลูกเศษ ซึ่งจำนวนนั้น ก็จะมีโพแตสเซียมประมาณ 550 มิลลิกรัม
00:07:25 → 00:07:29 ซึ่งก็น้อยกว่าอะโวกาโด เพราะฉะนั้นคนที่ เป็นไต จะต้องบาลานซ์เรื่องของ
00:07:29 → 00:07:35 โพแตสเซียมในอาหารให้ดีด้วยนะครับ ต่อมาผม ขอพูดเรื่องฮิสตามีนก่อนนะครับ ฮิสตามีน
00:07:35 → 00:07:41 คืออะไร ฮิสตามีนคือสารที่เม็ด เลือดขาวของเราหลั่งออกมาเมื่อมี
00:07:41 → 00:07:46 การแพ้หรือมีการติดเชื้อ เจ้าอะโวคาโด จัดเป็นอาหารที่มีฮิสตามีนอยู่เหมือนกัน
00:07:46 → 00:07:52 นะครับ แม้ว่าไม่สูงแต่มี แต่ที่สำคัญก็คือ อะโวคาโด สามารถกระตุ้นให้ร่างกาย
00:07:52 → 00:07:55 หลั่งฮิสตามีนได้ด้วยเค้าเรียกว่า เป็น histamine
00:07:55 → 00:08:01 liberator ซึ่งคนทั่วไป ก็ไม่ได้มี ปัญหาอะไรนะครับ แต่จะมีคนประมาณสัก 1-3%
00:08:01 → 00:08:06 ที่เราเรียกว่าเป็น histamine intolerance ก็คือทนกับสารฮิสตามีน
00:08:06 → 00:08:12 ไม่ค่อยได้ คนกลุ่มนี้เวลาทานอะโวคาโด ก็อาจจะมีอาการได้ครับ เช่นมีอาการปวด
00:08:12 → 00:08:19 ศีรษะ ผื่นคัน คัดจมูก ถ้าเป็นมากก็อาจจะทำ ให้มีอาการใจสั่นได้ และสุดท้ายที่รุนแรง
00:08:19 → 00:08:24 สุดเลยนะครับ เรียกว่าเป็น latex-Fruit Syndrome ใครที่แพ้ถุงมือยาง latex นะครับ
00:08:24 → 00:08:30 คือสวมถุงมือยางแล้ว รู้สึกว่ามีผืนคัน สวมไม่ได้ ต้องระวังผลไม้พวก
00:08:30 → 00:08:36 อะโวคาโด กีวี่ และก็กล้วยให้มากๆด้วยนะครับ เพราะว่าคนที่แพ้ถุงมือยาง latex
00:08:36 → 00:08:42 มีโอกาสที่จะแพ้ผลไม้พวกนี้ประมาณ 30-70 % และอาการแพ้มักจะรุนแรง
00:08:42 → 00:08:49 นะครับ คือมีอาการคัน เป็นลมพิษ หน้า ปาก คอ อาจจะบวม ทำให้หายใจไม่เข้า จนกระทั่งถึง
00:08:49 → 00:08:55 เสียชีวิต เพราะฉะนั้นคนที่แพ้ถุงมือยาง latex ก็ควรตรวจเลือดนะครับ ว่ามีการแพ้
00:08:55 → 00:09:01 ผลไม้พวกนี้ด้วยหรือเปล่า ก็จะปลอดภัยที่ สุดครับช่วยลดความเสียบเสี่ยงได้มาก สรุป
00:09:01 → 00:09:07 ก็คืออะโวคาโดคือผลไม้ที่หาง่ายนะครับใน ปัจจุบัน มีประโยชน์กับสุขภาพหลายอย่าง
00:09:07 → 00:09:12 ลองใช้ประโยชน์ของอะโวคาโดที่ผมได้พูดไปแล้ว ช่วยในเรื่องของสุขภาพกันนะครับ
00:09:12 → 00:09:17 สำหรับใครที่แพ้ถุงมือยาง latex ก็ต้อง ระวังให้มาก หลีกเลี่ยง หรือว่าตรวจเลือด
00:09:17 → 00:09:23 ยืนยันการแพ้ก่อนรับประทานจะปลอดภัยที่ สุดครับ ขอบคุณที่รับชมนะครับ ถ้าชอบก็ฝาก
00:09:23 → 00:09:28 ช่วยกดถูกใจ ใครที่ยังไม่ Subscribe ช่วย ฝาก Subscribe ด้วยนะครับ ใครที่มี
00:09:28 → 00:09:34 ความเห็น คำถาม หรือข้อเสนอแนะ ฝากเมนต์มาได้เลย นะครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ พบกันใหม่
00:09:34 → 00:09:39 คลิปหน้า สวัสดีครับ
00:09:40 → 00:09:43 [เพลง]