00:00:00 → 00:00:02 หน้าเขตข้อส่วนที่คนนะครับยินดีต้อนรับ
00:00:02 → 00:00:03 เข้าสู่เรื่องเล่าจากนะการ Channel นะ
00:00:03 → 00:00:05 ครับผมอ๋อเร็วนะครับนายแพทย์เจตพลใหญ่
00:00:05 → 00:00:08 กระจอนธาดานะครับวันนี้ก็จะเป็นตอนที่ 5
00:00:08 → 00:00:10 นะครับของ CV ใช่เราคุยกันอยู่นะครับก็
00:00:10 → 00:00:12 คือเป็นเรื่องที่เราคุยเรื่องของการทำงาน
00:00:12 → 00:00:16 ของหัวใจและหลอดเลือนะครับในสีเป็นโสดที่
00:00:16 → 00:00:18 ผ่านมานะครับเราคุยกับการทำงานของหัวใจใน
00:00:18 → 00:00:21 ภาวะปกติไปแล้วนะครับคราวนี้เนี่ยเราจะ
00:00:21 → 00:00:24 นอนนำความรู้ที่เราคุยกับมานะครับมาทำ
00:00:24 → 00:00:27 ความเข้าใจโลกของหัวใจกันบ้างนะครับที่
00:00:27 → 00:00:30 นี่หลักๆเราจะพูดถึงโรคทั้งหมด 3 โรคด้วย
00:00:30 → 00:00:32 กันนะครับสำหรับโรงแรมก็อยากจะพูดถึงนะ
00:00:32 → 00:00:34 ครับก็คือเรื่องโรคเส้นเลือดหัวใจตีนะ
00:00:34 → 00:00:37 ครับซึ่งก็คือเส้นเลือดนะครับมันมีการ
00:00:37 → 00:00:39 แข่งแล้วมันก็ติดลงทำให้เลือดไปเลี้ยง
00:00:39 → 00:00:41 กล้ามเนื้อหัวใจได้น้อยแล้วก็ถ้าเป็นมากๆ
00:00:41 → 00:00:45 นำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือดได้นะครับจาก
00:00:45 → 00:00:47 นั้นนะครับถ้าโลกมันเป็นมากขึ้นครับคือมา
00:00:47 → 00:00:49 ถือว่ากล้ามเนื้อมันมีการขาดเลือดมากๆ
00:00:49 → 00:00:53 เนี่ยมันก็จะนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้ซึ่ง
00:00:53 → 00:00:54 นั่นก็คือโรคที่สองที่เราจะคุยกันนะครับ
00:00:54 → 00:00:57 ส่วนโลกที่สามที่ผมอยากจะพูดถึงให้ฟังนะ
00:00:57 → 00:01:00 ครับก็คือภาวะที่ว่าภาวะช็อกนะครับคะ
00:01:00 → 00:01:02 เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังอีกทีนะครับว่าภาวะ
00:01:02 → 00:01:05 หัวใจวายเพราะว่าชอบเนี่ยมันต่างกันยังไง
00:01:05 → 00:01:07 เราทั้ง 3 ก็จะมีความเกี่ยวข้องกันด้วยนะ
00:01:07 → 00:01:09 ครับเพราะว่าเมื่อเกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจ
00:01:09 → 00:01:12 ตีบแล้วก็นำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือดได้
00:01:12 → 00:01:14 เพราะถ้ามากๆนะครับก็เกิดกล้ามเนื้อหัวใจ
00:01:14 → 00:01:17 ตายกำลังจะตายในขณะไปสู่ภาวะหัวใจวายได้
00:01:17 → 00:01:19 ส่วนภาวะช็อกเนี่ยก็มีความเกี่ยวข้องได้
00:01:19 → 00:01:22 เหมือนกันก็คือว่าถ้าหัวใจมันทำงานได้
00:01:22 → 00:01:24 น้อยมากๆนะครับก็จะคนไข้อยากจะนำไปสู่
00:01:25 → 00:01:28 ภาวะช็อกได้โอเคเรามาเริ่มที่โรคแรกเลยนะ
00:01:28 → 00:01:32 ครับคือโรคเส้นเลือดหัวใจตีบนะครับ
00:01:32 → 00:01:35 พูดคำว่าเส้นเลือดหัวใจตีบนะครับผมชื่อ
00:01:35 → 00:01:38 ว่าคนจำนวนมากนะครับจะมีภาพในหัวนะครับ
00:01:38 → 00:01:40 เหมือนเป็นภาพจำว่ามันจะเหมือนกับท่อน้ำ
00:01:40 → 00:01:42 นะครับแล้วก็ข้างในเหมือนก็มีพวกตักการ
00:01:42 → 00:01:45 เนี่ยสะสมมากขึ้นเรื่อยๆถึงจุดหนึ่งเนี่ย
00:01:45 → 00:01:49 ตัวท่อน้ำมันก็จะมีครูข้างในแคบลงทำให้
00:01:49 → 00:01:51 น้ำในผ่านได้ยากขึ้นถ้าเป็นเส้นเลือดก็
00:01:51 → 00:01:55 คือมีไขมันนะครับมาพออยู่ข้างในทำให้ตัว
00:01:55 → 00:01:58 ตัวรู้ข้างในมันแคบลงและนำไปสู่ภาวะที่
00:01:58 → 00:02:01 เส้นหัวใจขาดเลือดมีเส้นภาพแบบนี้จริงมัน
00:02:01 → 00:02:03 ก็ไม่ผิดสักทีเดียวนะครับแต่ว่ามันก็ไม่
00:02:03 → 00:02:06 ถูกเหมือนกันนะครับเพราะว่ามันเป็นภาพที่
00:02:06 → 00:02:08 มันก็ขาด very เอ็ดไปนะครับทำให้เห็นภาพ
00:02:08 → 00:02:11 หรือว่าเห็นว่าปัจจัยเสี่ยงอื่นๆมันเข้า
00:02:11 → 00:02:13 มาเกี่ยวข้องได้ยังไงเพราะสิ่งที่เรานึก
00:02:13 → 00:02:15 ถึงก็คือเรื่องของไขมันที่เข้ามาพ่อไป
00:02:15 → 00:02:17 เรื่อยๆแต่ในความเป็นจริงแล้วก็รู้ปัจจัย
00:02:17 → 00:02:19 เสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันแต่มัน
00:02:19 → 00:02:21 มีเยอะไหมครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
00:02:21 → 00:02:24 บุหรี่นะครับเรื่องของเบาหวานเรื่องของ
00:02:24 → 00:02:26 ปัจจัยสำคัญตนก็คือเรื่องภาวะการอักเสบใน
00:02:26 → 00:02:29 เลือดนะครับซึ่งเราก็เคยคุยกันไปก่อนตอน
00:02:29 → 00:02:31 ที่เราคุยเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันที่นิ
00:02:31 → 00:02:34 เราก็จะเห็นภาพว่าไอ้น้ำตาลในเลือดหรือ
00:02:34 → 00:02:37 บุหรี่หรือว่าตัวเค้าว่ากันเสพแล้วมันไม่
00:02:37 → 00:02:40 เกี่ยวข้องกับโรคนี้ได้ยังไงเราจะเห็นตัว
00:02:40 → 00:02:42 ไขมันอย่างเดียวว่ามันเข้ามาพ่อข้างในใน
00:02:42 → 00:02:44 ส่วนนี้เนี่ยผมก็อยากจะมาเล่าให้ฟังนะ
00:02:44 → 00:02:47 ครับว่ากลไกของมันนะครับในรายละเอียดที่
00:02:47 → 00:02:50 มากกว่านั้นนะครับมันมีมีหน้าตาแบบไหนนะ
00:02:50 → 00:02:52 ครับเพราะผมมีความเชื่ออย่างไรว่าเวลารู้
00:02:52 → 00:02:55 จักอะไรสักอย่างนะครับถ้าเรารู้จักมากพอ
00:02:55 → 00:02:57 ที่จะนึกภาพออกว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ
00:02:57 → 00:03:00 ครับหรือว่ากลไกมันคืออะไรเราจะมีแกล้งก็
00:03:00 → 00:03:02 ได้นะครับที่ครูรู้สึกว่าอยากจะดูแล
00:03:02 → 00:03:04 สุขภาพหรือว่าแก้ปัญหาที่ตรงจุดไหนให้มาก
00:03:04 → 00:03:07 ขึ้นโอเคมาเริ่มจากภาวะเส้นเลือดหัวใจติด
00:03:07 → 00:03:10 กูได้ทางการแพทย์ก่อนนะครับปกติในทางการ
00:03:10 → 00:03:13 แพทย์เนี่ยจะเราจะใช้คำว่าอาทิ roasted
00:03:13 → 00:03:15 นะครับคำว่าอ้ะติโรเนี่ยรากศัพท์ของมันมา
00:03:15 → 00:03:18 จากภาษาอังกฤษโบราณเขาจะหมายถึงหรือว่า
00:03:18 → 00:03:20 ใช้เป็นคำบรรยายที่พูดถึงอะไรที่มันมี
00:03:20 → 00:03:22 ลักษณะมเล่นเร็วๆนะครับเหมือนเป็นข้าวต้ม
00:03:22 → 00:03:25 เหรอพี่โจ๊กนะครับซึ่งในที่นี้จะหมายถึง
00:03:25 → 00:03:29 ตัวไขมันเนี่ยที่มาพอกอยู่ข้างในฉันเลือก
00:03:29 → 00:03:31 นะครับตอนที่หมอสมัยของหมอสมัยโบราณเขา
00:03:31 → 00:03:33 ผ่าเส้นเลือดออกมาดูโกเท็นว่ามีใครมา
00:03:33 → 00:03:35 เนี่ยเป็นนิ่มๆแล้วเนี่ยเคลือบอยู่ภายใน
00:03:35 → 00:03:38 เส้นเลือดส่วนคำว่าสัตว์ urus นะครับมัน
00:03:38 → 00:03:41 แปลว่าแข็งนะครับหรือมันมีความหมายว่าแค่
00:03:41 → 00:03:43 ก็ได้ที่นี่เขามาอะที่ว่า soulless เนี่ย
00:03:43 → 00:03:45 แปลตรงตัวก็จะหมายถึงตัวเส้นเลือดเนี่ย
00:03:45 → 00:03:49 ที่มันมีภาวะแข็งนะครับแล้วก็พิมพ์ด้านใน
00:03:49 → 00:03:51 ของมันเนี่ยมีใครมันเนี่ยมาเคลือบๆอยู่นะ
00:03:51 → 00:03:54 ครับเป็นสีเหลืองนิ่มๆอยู่ซึ่งผลก็คือทำ
00:03:54 → 00:03:56 ให้ตรงช่องภายในตรงกลางของเส้นเลือดเนี่ย
00:03:56 → 00:03:59 มันมีรูที่เล็กลงทำให้เลือดไหลผ่านได้ยาก
00:03:59 → 00:04:02 ขึ้นแต่มันก็เลยนำมาสู่คำถามถัดไปนะครับ
00:04:02 → 00:04:04 ว่าให้ภาวะเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ
00:04:04 → 00:04:07 ครับทำไมมงคลเกิดภาวะนี้ขึ้นเอาทำไมบางคน
00:04:07 → 00:04:11 จะถึงไม่เกิดคำถามว่าคือว่าใครบ้างที่จะ
00:04:11 → 00:04:15 เสี่ยงที่จะเกิดภาวะนี้
00:04:15 → 00:04:18 พูดถึงปัจจัยเสี่ยงนะครับจริงๆไม่ต้องพูด
00:04:18 → 00:04:21 กันมานะครับผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็จะพอมี
00:04:21 → 00:04:23 ไอเดียอยู่แล้วนะครับว่าอะไรบ้างที่ทำให้
00:04:23 → 00:04:25 เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
00:04:25 → 00:04:28 ตันรักๆอย่างแรกสุดก็เป็นเรื่องของอายุนะ
00:04:28 → 00:04:30 ครับเพราะว่าโรคนี้เนี่ยมันเป็นเรื่องของ
00:04:30 → 00:04:32 ความเสื่อมของร่างกายเมื่อเราอายุมากขึ้น
00:04:32 → 00:04:36 นะครับ 50 ปี 60 ปีดีขอตัวผนังเส้นเลือด
00:04:36 → 00:04:39 เนี่ยมันก็จะมีความเสื่อมเกาะมากขึ้นก็
00:04:39 → 00:04:41 การเกิดภาวะนะมันก็จะง่ายขึ้นโดยทั่วไปนะ
00:04:41 → 00:04:43 ครับตัวเลขต่อที่ใช้กันในปัจจุบันนะครับ
00:04:43 → 00:04:45 ตัวเลขที่เป็นจุดตัดว่าคุณจะมีความเสี่ยง
00:04:45 → 00:04:48 เพิ่มขึ้นเนี่ยออกเค้าๆนี้ก็จะบอกว่าถ้า
00:04:48 → 00:04:50 เป็นผู้ชายก็คือเมื่ออายุมากกว่า 45 นะ
00:04:50 → 00:04:52 ครับก็จะมีความเสี่ยงโรคนี้มากขึ้นถ้า
00:04:52 → 00:04:54 เป็นผู้หญิงอย่างก็จะมีความเสี่ยงเมื่อ
00:04:54 → 00:04:57 อายุเกิน 55 ปีนะครับหรือถ้าใครจำไม่ได้
00:04:57 → 00:04:59 นะครับอยากจะเอาตัวเลขง่ายก็จะจำว่าที่
00:04:59 → 00:05:01 ประมาณน่าจะปีหน้าความเสี่ยงก็จะเพิ่ม
00:05:01 → 00:05:03 ขึ้นนะครับที่นี่ฟังมาถึงตรงนี้นะครับมา
00:05:03 → 00:05:05 คุณก็จะสงสัยขึ้นมาว่าเอ๊ะทำไมผู้ชายถึง
00:05:05 → 00:05:08 ได้มีความเสี่ยงเร็วกว่านะครับคือมีความ
00:05:08 → 00:05:10 เสี่ยงตอนที่ยุคแค่ 45 อายุน้อยกว่าผู้
00:05:10 → 00:05:13 หญิงคำตอบนะครับเชื่อว่าส่วนหนึ่งในมัน
00:05:13 → 00:05:15 เป็นจากเรื่องของฮอร์โมนครับเพราะว่าเพศ
00:05:15 → 00:05:17 ชายเนี่ยมันจะมีความเสี่ยงให้เกิดโรคต่าง
00:05:17 → 00:05:20 ๆเนี่ยมากกว่านะครับหลายๆโลกด้วยกันซึ่ง
00:05:20 → 00:05:22 ก็รวมถึงโรคของเส้นเลือดหัวใจตีบนี้ด้วย
00:05:22 → 00:05:25 แล้วก็ในผู้หญิงยาฮอร์โมนเอสโตรเจนนะครับ
00:05:25 → 00:05:28 วันจะมีฤทธิ์ในการที่จะมาป้องกันการเกิด
00:05:28 → 00:05:30 ภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบตันด้วยแต่อย่างไร
00:05:30 → 00:05:33 ก็ตามนะครับมือผู้หญิงเข้าสู่ภาวะหมด
00:05:33 → 00:05:36 ประจำเดือนนะครับพอโมนเพศหญิงเนี่ยมันก็
00:05:36 → 00:05:38 จะลดลงเมื่อถึงเวลานั้นเนี่ยความเสี่ยง
00:05:38 → 00:05:40 ของผู้หญิงเนี่ยมันจะเพิ่มขึ้นนะครับมา
00:05:40 → 00:05:42 เท่ากับผู้ชายสำหรับความเสี่ยงอื่นๆนะ
00:05:42 → 00:05:44 ครับก็ส่วนใหญ่ก็ที่อย่างที่ว่าไปก็คือ
00:05:44 → 00:05:46 รู้จักกันดีนะครับก็จะมีเรื่องของความดัน
00:05:46 → 00:05:49 โลหิตสูงเรื้อรังนะครับเรื่องของการสูบ
00:05:49 → 00:05:51 บุหรี่เรื่องของโรคเบาหวานนะครับเรื่อง
00:05:51 → 00:05:54 ของภาวะไขมันในเลือดสูงเรื่องของโรคควรนะ
00:05:54 → 00:05:56 ครับแล้วก็มีเรื่องของภาวะการเกษตรใน
00:05:56 → 00:05:58 เลือดซึ่งเราเคยคุยกันหรือว่าอธิบายให้
00:05:58 → 00:06:00 ฟังไปแล้วนะครับในตอนที่เราเรื่องของ
00:06:00 → 00:06:03 เรื่องของระบบภูมิคุ้มกันนะครับเท่ากับ
00:06:03 → 00:06:05 ใครยังไม่ได้ฟังนะครับฟังคืนนี้จบเนี่ยก็
00:06:05 → 00:06:07 ลองย้อนกลับฝั่งได้นะครับจะทำให้เข้าใจ
00:06:07 → 00:06:09 เรื่องนี้มากขึ้นด้วยที่มันมีประเด็น
00:06:09 → 00:06:11 สำคัญนะครับที่อยากให้รู้นั้นก็คือว่า
00:06:11 → 00:06:14 ปัจจัยเหล่านี้มันบวกกันนะครับเป็นเสริม
00:06:14 → 00:06:16 กันนะครับมาถึงว่าถ้าคนมีปัจจัยแค่ 1
00:06:16 → 00:06:19 อย่างมีความเสี่ยงคนจะเยอะมากแต่ละคนมี
00:06:19 → 00:06:21 ปัจจัยเสี่ยงและเพิ่มเป็น 2 ยานความ
00:06:21 → 00:06:24 เสี่ยงมันจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณนะครับถ้า
00:06:24 → 00:06:26 มีความเสี่ยงปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้น 3
00:06:26 → 00:06:28 อย่างเนี่ยความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคนี้
00:06:28 → 00:06:31 ก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นได้อีกแต่ถ้าเรามอง
00:06:31 → 00:06:33 ในแง่กลับกันนะครับมันก็เป็นข้อดีเหมือน
00:06:33 → 00:06:35 กันเพราะว่าสมุดแต่เดิมเหรอมีปัจจัย
00:06:35 → 00:06:38 เสี่ยงอยู่ประมาณ 4 5 ข้อนะครับเราก็จะ
00:06:38 → 00:06:40 มีความเสี่ยงที่จะเปิดโลกเนี้ยสูงมากแต่
00:06:40 → 00:06:42 ถ้าเราสามารถที่จะตัดปัจจัยเสี่ยงออกไป
00:06:42 → 00:06:44 ได้เจริญหนึ่งที่นึงนะครับเช่นแต่เดิมบาง
00:06:44 → 00:06:47 คนสูบบุหรี่ถ้าเราสามารถหยุดสูบบุหรี่ได้
00:06:47 → 00:06:49 เนี่ยความเสี่ยงของเราในก็จะลดลงว่าควบ 5
00:06:49 → 00:06:53 นะครับก็จะลดลงเยอะมากถ้าเราตัดปัจจัย
00:06:53 → 00:06:55 เสี่ยงไปได้อีกนะครับจาก 4 และ 3 จาก 3
00:06:55 → 00:06:57 มือสองความเสี่ยงของเรานั้นก็จะลดลงไป
00:06:57 → 00:06:59 เรื่อยๆนะคะลงอย่างรวดเร็วจนกระทั่งถ้า
00:06:59 → 00:07:02 เราอ้างจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆหมดเนี่ยความ
00:07:02 → 00:07:03 เสี่ยงที่จะเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจติดกัน
00:07:03 → 00:07:06 ของเราเนี่ยมันจะเข้าไปใกล้กับคนที่ไม่มี
00:07:06 → 00:07:08 ความเสี่ยงต่างๆเลยความเสี่ยงอาจจะไม่ถึง
00:07:08 → 00:07:10 กับเท่ากับคนที่ไม่มีความเสี่ยงนะครับแต่
00:07:10 → 00:07:12 ว่าอย่างน้อยก็เราไปได้มากและด้วยเหตุนี้
00:07:12 → 00:07:14 นะครับในทางการแพทย์นะครับหมอต่างๆนี้ก็
00:07:14 → 00:07:17 เพียงที่โฟกัสนะครับให้ผู้ป่วยเนี่ยเน้น
00:07:17 → 00:07:19 เป็นเรื่องของการลดปัจจัยสิ่งต่างๆโดยที่
00:07:19 → 00:07:22 ปกติหมอน่าจะพยายามให้มองว่าเอาปัจจัย
00:07:22 → 00:07:24 เสี่ยงมันจะมีแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆด้วย
00:07:24 → 00:07:26 กันก็คือปัจจัยสิ่งที่เรา Mac ทำอะไรมาก
00:07:26 → 00:07:29 ไม่ค่อยได้นะครับปรับแก้ไม่ได้กับปฏิเสธ
00:07:29 → 00:07:31 ที่เราสามารถปรับแก้ได้เข้าใจสิ่งที่เรา
00:07:31 → 00:07:33 ปรับแก้ไม่ค่อยได้ก็คืออะไรก็คือเรื่อง
00:07:33 → 00:07:35 ของอายุถูกไหมครับเราไม่สามารถลดอายุของ
00:07:35 → 00:07:38 เราได้เรื่องของเพศนะครับคือว่าสามารถ
00:07:38 → 00:07:40 เปลี่ยนเพศชายผู้หญิงของเราได้อย่างน้อย
00:07:40 → 00:07:43 ปัจจุบันตอนนี้เราก็เปลี่ยนไม่ได้แล้วเรา
00:07:43 → 00:07:45 Focus ไปเรื่องปัจจัยที่สามารถแก้ไขได้
00:07:45 → 00:07:47 ก็ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสูบบุหรี่นะ
00:07:47 → 00:07:50 ครับการลดความอ้วนของการคมระดับน้ำตาลนะ
00:07:50 → 00:07:53 ครับผมอาหารให้อยู่ในระดับปกติโอเคก็พอจะ
00:07:53 → 00:07:55 เห็นภาพแล้วนะครับก็จะนอนแล้วนะครับว่า
00:07:55 → 00:07:57 ใครกันบ้างนะครับที่มีความเสี่ยงที่จะ
00:07:57 → 00:07:59 เกิดเป็นโรคนี้กันที่นี่เราจะมาดูกันนะ
00:07:59 → 00:08:02 ครับว่าอารายการนะครับหรือว่ากลไกของการ
00:08:02 → 00:08:04 เกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบเนี่ยหรือว่า
00:08:04 → 00:08:07 การมีใครมันไปสะสมอยู่ในผนังเส้นเลือด
00:08:07 → 00:08:12 เนี่ยมันมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
00:08:12 → 00:08:15 เป็นคนไกลกันเกิดนะครับแรกส่วนนี้เราต้อง
00:08:15 → 00:08:18 ภาพก่อนว่าปกติเส้นเลือดที่ทำงานได้ดี
00:08:18 → 00:08:20 เนี่ยผิวด้านในมันจะต้องเรียบนะครับ
00:08:20 → 00:08:22 กระเบื้องปูห้องน้ำนะครับที่มันจะเรียบๆ
00:08:22 → 00:08:24 มันๆเพราะว่าลักษณะประจำจะทำให้ผิวในมัน
00:08:24 → 00:08:27 ลื่นเลือดและสิ่งต่างภายในที่อยู่ในกระแส
00:08:27 → 00:08:29 เลือดเนี่ยก็จะสามารถไหลผ่านไปในเสื้อใน
00:08:29 → 00:08:32 ได้ดีซึ่งเส้นเลือดของเด็กนะครับพอดีเด็ก
00:08:32 → 00:08:35 ต่ออายุสิบขวบ 13 ขวบในประมาณนี้จะมี
00:08:35 → 00:08:37 ลักษณะแบบนี้แต่เมื่ออายุมากขึ้นเนี่ย
00:08:37 → 00:08:39 ขนาดค่อนข้างในของเส้นเลือดเนี่ยมันก็จะ
00:08:39 → 00:08:41 มีความเรียบลื่นเนี่ยน้อยลงที่ในการที่
00:08:41 → 00:08:43 ผิวด้านในของผนังเส้นเลือดมันเรียบลื่น
00:08:43 → 00:08:45 แบบนี้ได้นะครับเพราะว่าตัวขนาดนั้นในมัน
00:08:45 → 00:08:48 จะบูดด้วยเซลล์พิเศษชนิดนึงนะครับอ่อนทาง
00:08:48 → 00:08:50 การแพทย์เราจะเรียกเซลล์ที่บุกว่า
00:08:50 → 00:08:52 endothelial Cell นะครับซึ่งเป็นเซลล์
00:08:52 → 00:08:54 ที่สำคัญมากเพราะว่าค่าตัวเซลล์นี้ได้รับ
00:08:54 → 00:08:57 การบาดเจ็ดมันจะมันเป็นจุดเริ่มต้นที่จะ
00:08:57 → 00:09:00 นำไปสู่ข้อสุดท้ายก็คือในประชุมแต่ละเส้น
00:09:00 → 00:09:02 เลือดติดตามนะครับทำให้เกิดภาวะหัวใจขาด
00:09:02 → 00:09:06 เลือดได้ที่นี่เรามาดูกันว่างว่าอะไรที่
00:09:06 → 00:09:08 ทำให้ตัวเซลล์ตัวนี้หนูที่เร็วได้รับบาด
00:09:08 → 00:09:10 เจ็บอย่างแรกสุดเลยนะครับก็คือเรื่องของ
00:09:10 → 00:09:14 ภาวะความดันโลหิตสูงนะครับออกเขาว่าสูง
00:09:14 → 00:09:16 ยังไม่ใช่สูงชั่วครั้งชั่วคราวนะครับชั่ว
00:09:16 → 00:09:18 คราวหน้าที่เราไม่เป็นไรเช่นเวลาเราออก
00:09:18 → 00:09:21 กำลังกายแต่ว่าพูดถึงภาวะความดันเลือดสูง
00:09:21 → 00:09:23 เรื้อรังนะครับเสื้อกันก็อย่างที่เราคุย
00:09:23 → 00:09:26 กันไปนะครับในตอนที่เราคุยเรื่องของ
00:09:26 → 00:09:28 เรื่องเส้นเลือดแอพพิโสดก่อนหน้านะครับ
00:09:28 → 00:09:31 เราบอกว่าถ้าความดันเลือดที่มันสูงมากๆ
00:09:31 → 00:09:34 หรือว่าเลือดมันไหลๆมากๆมันจะกระแทกเข้า
00:09:34 → 00:09:37 กับผิวด้านในซ้ำๆนะครับอาจจะมาว่ามัน
00:09:37 → 00:09:39 เหมือนเป็นการกระเทาะของกระเบื้องที่บุก
00:09:39 → 00:09:42 ผนังห้องน้ำก็ได้นะครับก็คือทำให้เสริม
00:09:42 → 00:09:44 พวกนี้มันระบาดเจ็บอันที่สองเนี่ยมันก็
00:09:44 → 00:09:46 คือเรื่องของการสูบบุหรี่นะครับเพราะอะไร
00:09:46 → 00:09:49 เพราะจะออกควันบุหรี่นะครับบุหรี่จะสูบ
00:09:49 → 00:09:52 เข้าไปเนี่ยมันจะมีสารเคมีนะครับที่สำคัญ
00:09:52 → 00:09:55 เคยตัวนี้ก็ติดเนี่ยมันสามารถที่จะไปทำ
00:09:55 → 00:09:57 อันตรายกับเซลล์ที่บุเหล่านี้เซลล์อยู่
00:09:57 → 00:10:00 ที่เร็วเน็ตได้โดยตรงทำให้แต่ตอนนี้เกิด
00:10:00 → 00:10:03 การบาดเจ็บอย่างที่ 3 นะครับก็คือปริมาณ
00:10:03 → 00:10:06 ของน้ำตาลในเลือดนะครับน้ำตาเน็ตมันมี
00:10:06 → 00:10:08 ประโยชน์ถูกไหมครับคือมันเป็นอาหารให้กับ
00:10:08 → 00:10:11 เธอต่างๆแต่น้ำตาที่มันไหลเวียนเลือด
00:10:11 → 00:10:13 เนี่ยต้องบอกว่าจริงมีทั้งข้อดีและข้อ
00:10:13 → 00:10:16 เสียอยู่ในตัวมันเองพร้อมกันข้อดีก็คือ
00:10:16 → 00:10:19 เป็นอาหารแต่ข้อเสียก็คือว่าตัวน้ำตา
00:10:19 → 00:10:21 เนี่ยมันสามารถทำให้เซลล์เดียวปากเจ็บได้
00:10:21 → 00:10:24 โดยเฉพาะถ้าตัวน้ำตาลในเลือดเนี่ยมันมี
00:10:24 → 00:10:27 ประมาณที่สูงเพราะมันจะไปทำปฏิกิริยานะ
00:10:27 → 00:10:28 ครับแล้วก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ
00:10:28 → 00:10:31 ผนังเส้นเลือดได้และจริงก็บอกว่ามันก็ได้
00:10:31 → 00:10:33 เมียตลาดแค่เฉพาะกับผนังเสื้อนะครับเป็น
00:10:34 → 00:10:36 จริงมันก็จะมีผลเสียต่อพวกเซลล์ประสาทได้
00:10:36 → 00:10:39 ด้วยนะครับซึ่งพอเส้นประสาทและเส้นเลือด
00:10:39 → 00:10:41 มีปัญหานะมันก็จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไป
00:10:41 → 00:10:43 ต่อซึ่งก็คือภาวะแทรกซ้อนต่างๆของโรคเบา
00:10:43 → 00:10:45 หวานนะครับซึ่งตอนที่เราคุยเรื่องของโรค
00:10:45 → 00:10:47 เบาหวานเนี่ยเดี๋ยวจะเล่าเรื่องผีให้ฟัง
00:10:47 → 00:10:49 หน่อยทีแต่ประเด็นก็คือน้ำตาในวันนี้
00:10:49 → 00:10:51 ประโยชน์แล้วก็มีโทษที่ตนเองเหมือนกันจาก
00:10:51 → 00:10:54 นั้นสมดุลของน้ำตาลเนี่ยออกจึงสำคัญนะ
00:10:54 → 00:10:57 ครับก็คือว่ามีน้ำตาลเพียงพอแต่ไม่มาก
00:10:57 → 00:11:00 เกินไปถ้ามากเกินไปเนี่ยก็จะมีผลเสีย
00:11:00 → 00:11:01 มาซึ่งความเสียเนี่ยมันก็จะค่อยใส่หน้า
00:11:01 → 00:11:04 ประโยชน์ของตามไปแล้วทั้งสามอย่างนี้นะ
00:11:04 → 00:11:06 ครับก็เหมือนเป็นปัจจัยหลักๆนะครับที่จะ
00:11:06 → 00:11:08 ทำอันตรายกับเซลล์ที่บุกด้านในของหลอด
00:11:08 → 00:11:11 เลือดที่คำถามต่อไปที่น่าสนใจก็คือว่า
00:11:11 → 00:11:13 เมื่อเซลล์เนี่ยเกิดการบาดเจ็บแล้วเนี่ย
00:11:13 → 00:11:16 มันมีข้อเสียอะไรนะครับที่เกิดอะไรขึ้น
00:11:16 → 00:11:19 ต่อ
00:11:19 → 00:11:22 เซลล์ที่บุผนังเส้นเลือดนะครับแล้ว I
00:11:22 → 00:11:24 don't tell ได้รับบาดเจ็บนะครับวันอาจ
00:11:24 → 00:11:26 จะถึงขั้นที่ทำให้ตัวขนาดเสื้อในมันเสีย
00:11:26 → 00:11:29 การทำงานไปภาษาทางการแพทย์จะใช้ว่า
00:11:29 → 00:11:31 endothelial this function นะครับก็
00:11:31 → 00:11:33 คือเสียงฟังก์ชันไปนะครับจะได้อย่างที่
00:11:33 → 00:11:35 เราไปเกาะหน้านะครับก็คือว่าปกติตัวผนัง
00:11:35 → 00:11:38 ด้านในของเส้นเลือดจะเรียบลื่นมากนะครับ
00:11:38 → 00:11:40 แต่เมื่อมันเกิดการบาดเจ็บขึ้นเนี่ยก็จะ
00:11:40 → 00:11:43 มีกระเบื้องที่มันถูกกระเทาะให้มีรอยร้าว
00:11:43 → 00:11:45 ขึ้นหรือว่ามีผิวผนังที่ไม่เรียบเหมือน
00:11:45 → 00:11:47 เดิมนะครับทั้งนั้นเวลาเลือดที่ไหลผ่าน
00:11:47 → 00:11:50 เนี่ยมันก็จะไหลไม่ลื่นชาร์จเหมือนเหมือน
00:11:50 → 00:11:52 ปกตินะครับและผนังที่มันไม่ค่อยเริ่มนะ
00:11:52 → 00:11:55 ครับก็จะมีผลกระทบต่อออกกระแสของเรือด้วย
00:11:55 → 00:11:58 นะครับก็เหมือนแม่น้ำนะครับสมุดว่าน้ำได้
00:11:58 → 00:12:00 ทำอะไหล่เรื่อง Dream ก็จะไหล Flow ไปดี
00:12:00 → 00:12:02 โอ้มันเริ่มนะครับมีอะไรที่มาขัดขวาง
00:12:02 → 00:12:04 เนี่ยมันก็จะเกิดแรงกระเพื่อมเกิดเราจะ
00:12:04 → 00:12:07 เป็นคลื่นเป็นน้ำจะชอบไปกระสอบมาได้มาก
00:12:07 → 00:12:10 ขึ้นแล้วแรงกระสอบของน้ำเหล่านี้เนี่ยบวก
00:12:10 → 00:12:12 กับความดันเลือดที่สูงเรียกว่าจะเพิ่มการ
00:12:12 → 00:12:14 บาดเจ็บของผนังให้มันมากขึ้นได้จากนั้นนะ
00:12:14 → 00:12:17 ครับพวกเราบินรอยแตกหรือว่าเราอยากที่
00:12:17 → 00:12:19 เกิดขึ้นเนี่ยมันก็สามารถทำให้อะไรหลายๆ
00:12:19 → 00:12:21 อย่างนะครับที่อยู่ในเรื่องเนี่ยมัน
00:12:21 → 00:12:23 สามารถเข้าไปสะสมตรงนั้นได้โดยเฉพาะตัว
00:12:23 → 00:12:25 สำคัญก็คือเรื่องตัวไขมันนะครับไขมันที่
00:12:25 → 00:12:28 เรารู้จักกันในชื่อว่า ldl เนี่ยมัน
00:12:28 → 00:12:31 สามารถที่จะแทรกเข้าไปในข้างใต้เซลล์นะ
00:12:31 → 00:12:33 ครับคือแทรกจากรอยแยกนะเข้าไปอยู่ข้างใต้
00:12:33 → 00:12:35 เซลล์เหมือนกับว่าถ้านึกภาพจะเทียบได้กับ
00:12:35 → 00:12:37 เหมือนตัวกระเบื้องที่มันมีรอยกระเทาะ
00:12:37 → 00:12:40 แล้วมันมีพวกเหมือนกับเชื้อราหรืออะไร
00:12:40 → 00:12:42 เนี่ยสามารถเข้าไปเติบโตอยู่ข้างใต้หรือ
00:12:42 → 00:12:45 ว่าข้างหลังของแผ่นกระเบื้องได้แล้วสิ่ง
00:12:45 → 00:12:46 ที่แทรกเข้าไปเรื่อยๆนะครับถึงจุดนึง
00:12:46 → 00:12:48 เนี่ยมันจะทำให้ตัวเหมือนกับผนังเซลล์
00:12:48 → 00:12:50 เนี่ยหรือว่าผนังของเส้นเลือดในมันนูน
00:12:50 → 00:12:53 ขึ้นมานะครับต้องเหนือไปจากนั้นนะครับเอา
00:12:53 → 00:12:55 ภาวะที่เรา I don't tell some ชั่น
00:12:55 → 00:12:58 เนี่ยมันยังนำไปสู่ผลเสียหรือว่าทำให้การ
00:12:58 → 00:13:01 ทำงานของตัวเซลล์ตัวนี้ถ้ามันเสียไปด้วย
00:13:01 → 00:13:03 ขึ้นอย่างนี้ให้ปกติตัว sale sale sale
00:13:03 → 00:13:06 เนี่ยมันจะมีหน้าที่อย่างหนึ่งก็คือมันจะ
00:13:06 → 00:13:08 สามารถสร้างก๊าซตัวนี้ขึ้นมานะครับที่เรา
00:13:08 → 00:13:11 ว่าที่มีชื่อว่าก๊าซไนตรัสออกไซด์นะครับ
00:13:11 → 00:13:14 ยาวะเก็นตัวใหญ่โคตัวใหญ่นะครับซึ่งการ
00:13:14 → 00:13:16 ส่วนนี้เราเคยคุยกันไปก่อนหน้านะครับว่า
00:13:16 → 00:13:18 เป็นก๊าซที่ทำให้หรือว่าช่วยหล่อลื่น
00:13:18 → 00:13:21 อย่างสามารถขยายตัวได้จะได้พอตัวเซลล์โดย
00:13:21 → 00:13:23 เร็วนะมันเสียหน้าที่ไปเนี่ยมันก็ไม่
00:13:23 → 00:13:25 สามารถจะสร้างการส่วนตัวมาได้หรือว่า
00:13:25 → 00:13:28 สร้างได้น้อยลงผลอย่างแรกก็คือมันจะทำให้
00:13:28 → 00:13:31 หลอดเลือดมันขยายตัวได้ไม่ดีผลอย่างที่ 2
00:13:31 → 00:13:34 ก็คือปกติการส่วนเนี้ยมันจะช่วยให้ไม่มี
00:13:34 → 00:13:37 อะไรเนี่ยมาเกาะที่ผนังเส้นเลือดได้เมื่อ
00:13:37 → 00:13:39 ตัวผนังเส้นเลือดนะครับ Toyo ที่เราเจอ
00:13:39 → 00:13:42 มันสร้างก๊าซโซลีมาน้อยเนี่ยทำให้ความ
00:13:42 → 00:13:44 ลื่นของผนังได้มันหายไปหรือจะพูดว่าผนัง
00:13:44 → 00:13:46 มันเริ่มเหนียวขึ้นก็ได้นะครับก็เริ่มมี
00:13:46 → 00:13:50 อะไรจะมาเกาะที่ผนังเส้นเลือดง่ายขึ้นที่
00:13:50 → 00:13:53 นี่ผลที่ตามมานะครับก็คือว่าให้ตรงไขมัน
00:13:53 → 00:13:57 ก็จะสามารถเข้ามาพอกมาสะสมอยู่ตรงเปลี่ยน
00:13:57 → 00:14:00 ที่มีรอยแตกรอยแยกเนี่ยได้มากขึ้นและตัว L
00:14:00 → 00:14:02 ว่าจะเข้าไปแทรกนะครับก็ต้องบอกว่ามันไม่
00:14:02 → 00:14:04 ใช่เป็นเอาเดียวที่อยู่ในสภาวะปกติด้วย
00:14:04 → 00:14:07 แต่มันเป็นอัลลีอัลที่เสียสภาพไปจะมีคำ
00:14:07 → 00:14:10 ถามว่าถือว่าทำไมเอา dl ที่เข้าไปแทรกมา
00:14:10 → 00:14:13 ถึงเสียสภาพไปคำตอบนะครับก็คือมันเกิดได้
00:14:13 → 00:14:15 จากหลายปัจจัยนะครับปัจจัยนึงก็เป็นพวก
00:14:15 → 00:14:18 สารอนุมูลอิสระต่างๆนะครับมันจะไปทำคลิป
00:14:18 → 00:14:20 ออกซิไดซ์คะก็ทำให้ตัว L มาเสี่ยงสภาพ
00:14:20 → 00:14:23 ปกติของมันไปอย่างที่ 2 ก็คือถ้าในคนที่
00:14:23 → 00:14:25 สูบบุหรี่เนี่ยตัวสารเคมีการบุหรี่ในมัน
00:14:25 → 00:14:28 ก็จะสามารถไปทำลายตัว L D เอาได้อย่าง
00:14:28 → 00:14:30 ที่ 3 นะครับก็จะเป็นอย่างกลไกของภายใน
00:14:30 → 00:14:33 ร่างกายของเราเองนะครับก็คือไม่เอาเดียว
00:14:33 → 00:14:35 เนี่ยมันแทรกก็อยู่ใต้ตัวกระเบื้องเนี่ย
00:14:35 → 00:14:37 นะครับเข้าไปแทรกเข้าไปในตรงรอยผิดเนี่ย
00:14:37 → 00:14:40 เข้าไปสะสมอยู่เนี่ยเซลล์ผมคบกันจะมองว่า
00:14:40 → 00:14:42 เขาดีเอาเดี๋ยวมันไม่ควรมาอยู่ตรงนี้มัน
00:14:42 → 00:14:46 คงจะถูกก็ถูกทำลายหรือถูกโจมตีพวกเซลล์
00:14:46 → 00:14:48 ภูมิคุ้มกันในมักจะสร้างสรรค์เค้กมาเคมี
00:14:48 → 00:14:50 ออกมานะครับเพื่อจะโจมตีพวกเรานี่เอา
00:14:50 → 00:14:52 เพื่อที่จะหาทางกำจัดพวกเรา di พรุ่งนี้
00:14:52 → 00:14:55 ซึ่งผลเนี่ยอ้ะมันไม่สามารถกำจัดไอดีออก
00:14:55 → 00:14:57 ไปได้จำจะทำให้เร็วนะมันเสียสภาพปกติของ
00:14:57 → 00:14:59 พันธุ์ไปที่นี่นะครับมาถึงจุดนี้นะครับ
00:14:59 → 00:15:03 เราขอจองเจตนาการดูนะครับว่าภายใต้คือ
00:15:03 → 00:15:05 ข้างใต้ของผนังเส้นเลือดเนี่ยมันมีอะไร
00:15:05 → 00:15:07 เข้าไปสะสมอยู่มากนะครับมีทั้ง L dl นะ
00:15:07 → 00:15:10 ครับมีทั้งตัวเซลล์ภูมิคุ้มกันนะครับที่
00:15:10 → 00:15:12 นี่เวลามองจากกล้องจุลทรรศน์มันจะเห็นมัน
00:15:12 → 00:15:14 ก็เป็นลักษณะเป็นฟองฟ้องอยู่ข้างใต้ผนัง
00:15:14 → 00:15:16 เส้นเลือดตรงนี้นะครับเขาก็เรียกกันว่า
00:15:16 → 00:15:18 เป็นโฟมเซลล์นะครับเพราะว่าโฟมคันนี้ก็
00:15:18 → 00:15:20 เหมือนโฟมล้างหน้านะครับก็ขึ้นเป็นฟอง
00:15:20 → 00:15:22 สบู่แล้วกลไกเนี่ยมันก็ไม่ได้เส้นชุดคะ
00:15:22 → 00:15:24 ตรงนี้นะครับก็คือเมื่อคับใต้มันพ่อขนาด
00:15:24 → 00:15:26 ขึ้นเรื่อยๆเนี่ยร่างกายก็พยายามที่จะ
00:15:26 → 00:15:29 เหมือนกับพยายามที่จะกลบข้างบนนะครับคือ
00:15:29 → 00:15:31 จะพูดเนี่ยจะนะการเอาชนะภาพเหมือนกันเรา
00:15:31 → 00:15:34 เพียงที่จะเอาตัวปูเนี่ยมันฉาบข้างบน
00:15:34 → 00:15:36 เพื่อจะให้มันเรียบร่างกายเราก็มีคนใจนะ
00:15:36 → 00:15:38 คะที่มันพยายามจะสร้างเสริมขึ้นมาเพื่อมา
00:15:38 → 00:15:40 ออกมาครอบตรงนี้ไว้นะเข้ามาปกคลุมตรงนี้
00:15:40 → 00:15:43 เอาไว้ทำให้บริเวณนี้นะครับเวรที่ที่เกิด
00:15:43 → 00:15:46 การเสื่อมสภาพไปเนี่ยมันค่อยนูนขึ้น
00:15:46 → 00:15:48 เรื่อยๆจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปนะครับเป็น
00:15:48 → 00:15:51 หลักเดือนเป็นปีนะครับขอไปพื้นที่รุนรู้
00:15:51 → 00:15:54 เนี่ยก็จะสูงมากขึ้นเรื่อยๆทำให้ไพรูภาย
00:15:54 → 00:15:57 ในปลอดเลือดมันจะค่อยแคบลงเรื่อยๆจากนั้น
00:15:57 → 00:15:59 ก็จะมีเรื่องของหินปูนนะครับไม่ต้อง
00:15:59 → 00:16:01 Calcium Mag น่าสะสมมากก็ได้เรื่อยๆทำ
00:16:01 → 00:16:04 ให้แบรนด์เส้นตรงนี้มันมีการแข็งขึ้นที่
00:16:04 → 00:16:06 นี้คำถามคือว่าเมื่อเส้นเลือดมันมีการ
00:16:06 → 00:16:11 แข่งตัวขึ้นเนี่ยมันมีข้อเสียอะไร
00:16:11 → 00:16:15 ก็อย่างที่เราเคยคุยกันไปในพิสูจน์กัน
00:16:15 → 00:16:18 ก่อนหน้านะครับว่าตัวเส้นเลือดจริงๆมันมี
00:16:18 → 00:16:20 ความสามารถที่จะขยายตัวได้ทั้งนั้นในช่วง
00:16:20 → 00:16:23 แรกนะครับที่มีการจัดสมของพวกให้ตักการ
00:16:23 → 00:16:26 ต่างๆนะครับมีแคลเซียมเข้าผสมมีใครมาสะสม
00:16:26 → 00:16:29 เนี้ยต่อให้ข้างในมันติดลงเนี่ยเส้นเลือด
00:16:29 → 00:16:31 เนี่ยมันก็พอจะขยายตัวได้เมื่อจะเล่นมัน
00:16:31 → 00:16:33 พอจะขยายตัวได้เนี่ยช่องว่างที่เลือดไหล
00:16:33 → 00:16:36 ผ่านเนี่ยมันก็ยังพอจะมีได้แต่ต่อมานะ
00:16:36 → 00:16:38 ครับเมื่อเส้นเลือดมันแข็งขึ้นความสามารถ
00:16:38 → 00:16:41 หรือว่าความยืนอยู่ในการที่จะขยายเนี่ยก็
00:16:41 → 00:16:45 จะหมดไปดังนั้นเนี่ยไอ้รอยตีบแคบเนี่ยมัน
00:16:45 → 00:16:48 ก็ไม่สามารถที่จะขยายไลค์อีกต่อไปผลก็คือ
00:16:48 → 00:16:51 เลื่อนมาไหลผ่านตัวเสื้อได้น้อยลงจะนี้
00:16:51 → 00:16:53 ตรงนี้ต้องบอกกันนิดนึงนะครับว่าที่เรามา
00:16:53 → 00:16:56 ทั้งหมดนะครับเรื่องของภาวะอาทิตย์ที่เรา
00:16:56 → 00:16:58 คนไทยทั้งหมดที่จนนำมาสู่ภาวะเส้นเลือด
00:16:58 → 00:17:00 แข็งเนี้ยมันไม่ได้เกิดขึ้นก็เพราะเส้น
00:17:00 → 00:17:02 เลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจอย่างเดียวนะครับทำ
00:17:02 → 00:17:04 มันเกิดขึ้นกับเส้นเลือดต้นอื่นๆด้วยเช่น
00:17:04 → 00:17:06 ขอเส้นเลือดที่เลี้ยงสมองนี่ก็เกิดภาวะ
00:17:06 → 00:17:09 นี้ได้นะครับหรือว่าเป็นเรื่องของเส้นจะ
00:17:09 → 00:17:12 เลี้ยงตามแขนขาเกิดได้นะครับทำให้สมองใน
00:17:12 → 00:17:14 ขาดเลือดได้ทำให้ฉันค้าเนี่ยมีเลือดไป
00:17:14 → 00:17:16 เลี้ยงน้อยได้แต่ถ้าหมดนี้นะครับยังไม่
00:17:16 → 00:17:20 ใช่สาเหตุที่สำคัญของการตายนะครับเพราะ
00:17:20 → 00:17:22 ว่าอะไรเพราะขั้นตอนต่างๆที่เราคุยกันมา
00:17:22 → 00:17:23 ทั้งหมดเนี่ยนะครับมันต้องใช้เวลาในการ
00:17:23 → 00:17:26 เกิดคือกว่าที่ endothelial Cell นะครับ
00:17:26 → 00:17:29 จะเริ่มเสียหน้าที่ไปนะครับกว่าที่ใครมัน
00:17:29 → 00:17:31 จะไม่ค่อยพ่อเข้าไปสะสมเรื่อยๆเนี่ยกว่า
00:17:32 → 00:17:34 ที่ตัวแคลเซียมหรือว่าจะพูดหินปูนเข้าไป
00:17:34 → 00:17:38 สะสมเนี่ยมันใช้เวลานานนานเป็นเวลากับราย
00:17:38 → 00:17:40 เดือนรายปีนะครับก็เกิดขึ้นได้น้อยๆแล้ว
00:17:40 → 00:17:42 หลายครั้งและร่างกายเราก็พยายามที่จะหา
00:17:42 → 00:17:45 วิธีแก้ไขโดยที่มันจะสามารถสร้างเส้น
00:17:45 → 00:17:47 เลือดที่มันเป็นเส้นเลือดฝอยเนี่ยเบี่ยง
00:17:47 → 00:17:50 อ้อมรอยอุดตันไปอาจจะนึกภาพนะครับของแม่
00:17:50 → 00:17:53 น้ำก็ได้นะครับที่บางครั้งเวลาเรามีอะไร
00:17:53 → 00:17:55 มาขวางในแม่น้ำเช่นมีก้อนหินก้อนใหญ่อยู่
00:17:55 → 00:17:57 เนี่ยไอ้ตัวน้ำเดี๋ยวมันจะสามารถที่จะ
00:17:57 → 00:18:00 เซาะดินส่วนอื่นเนี่ยเราก็เกิดก็ต้องทาง
00:18:00 → 00:18:03 น้ำเล็กๆน้อยๆเนี่ยพร้อมค่าบริเวณที่ติด
00:18:03 → 00:18:06 ตามไปได้อันนี้ก็เหมือนกันนะครับในร่าง
00:18:06 → 00:18:09 กายของเราแล้วไม่ค่อยมีคนใจนี้ถ้าการอุด
00:18:09 → 00:18:11 ตันของเส้นเลือดมันเกิดขึ้นช้าๆเนี่ยร่าง
00:18:11 → 00:18:14 กายก็สามารถที่จะสร้างสารนะครับให้มีการ
00:18:14 → 00:18:16 พริกเส้นเล็กๆขึ้นมาใหม่แล้วก็วิ่งอ้อม
00:18:16 → 00:18:19 จุดที่มันติดตามเนี่ยไปได้กันนั้นต่อให้
00:18:19 → 00:18:22 เส้นเลือดที่เป็นตัวเส้นเล็กหลักเนี่ยนะ
00:18:22 → 00:18:25 ครับกัปตันไปเลยนะครับถ้าเส้นเลือดฝอยที่
00:18:25 → 00:18:28 อ้อมไปในมันมีมากพอเนี่ยบริเวณส่วนปลาย
00:18:28 → 00:18:30 เนี่ยก็สามารถได้รับเลือกเนี่ยเพียงพอ
00:18:30 → 00:18:32 อยู่ดีแต่ก็จะมีในบางคนนะครับที่สุดท้าย
00:18:32 → 00:18:34 เนี่ยต่อให้สร้างเสื้อมาแล้วนะครับเลือก
00:18:34 → 00:18:36 ที่จะไปเลี้ยงส่วนปลายเนี่ยก็คือเช่นไป
00:18:36 → 00:18:38 เลี้ยงที่หัวใจเนี่ยก็จะยังไม่เพียงพอ
00:18:38 → 00:18:41 อยู่ดีก็จะเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเข้ามา
00:18:41 → 00:18:43 ได้จะได้ฟังมาถึงตรงนี้นะครับผมเชื่อว่า
00:18:43 → 00:18:46 หลายคนก็จะสงสัยจะมาทันทีว่าแล้วอย่างนี้
00:18:46 → 00:18:48 ในบางคนที่มันก็มีเสื้อติดตันขึ้นมาเนี่ย
00:18:48 → 00:18:51 เลยจะอยู่ๆเกิดจะเอาขึ้นมาจากกะทันหัน
00:18:51 → 00:18:54 แล้วต่อมาเกิดจ้าหนูก็จะตายเนี่ยมันเกิด
00:18:54 → 00:18:58 ขึ้นได้ยังไง
00:18:58 → 00:19:01 โอเคแค่นี้จะมาพูดถึงมีปรากฏการณ์นะครับ
00:19:01 → 00:19:03 หรือว่าเหตุการณ์ที่บางครั้งเนี่ยคนที่
00:19:03 → 00:19:05 เป็นโรคนี้นะครับเจริญหัวใจติดตามเนี่ย
00:19:05 → 00:19:08 เกิดเสียชีวิตกะทันหันได้แม้ว่าบางครั้ง
00:19:08 → 00:19:10 นะครับบางคนเนี่ยตัวเส้นเลือดหัวใจเนี่ย
00:19:10 → 00:19:13 มันจะมีการติดตันไม่เยอะเลยนะครับก็คือ
00:19:13 → 00:19:15 ว่าเลื่อนอย่างไรผ่านได้แต่ก็สามารถเสีย
00:19:16 → 00:19:18 ชีวิตคันทานได้มันเกิดขึ้นได้ยังไงขึ้น
00:19:18 → 00:19:20 อย่างนี้ครับที่เราคุยกันมาไม่ใช่นะครับ
00:19:20 → 00:19:22 ไอ้ตัวที่เราเรียกว่าเป็นรุ่นๆขึ้นมานะ
00:19:22 → 00:19:24 ครับที่ขึ้นมานูนขึ้นมาแล้วทำให้เส้น
00:19:24 → 00:19:27 เลือดหัวใจมันติดต่อไปเนี่ยออตัวที่มันรู
00:19:27 → 00:19:29 ด้วยเนี้ยทางภาษาการแพทย์และเราเรียกมัน
00:19:29 → 00:19:33 ว่าพลากที่นี่ตัวพลากเลยนะครับบางครั้ง
00:19:33 → 00:19:35 เนี่ยอาจจะมีเหตุอะไรก็ตามที่ใช้ทำให้ตัว
00:19:35 → 00:19:39 พลางนะมันเกิดปี่แล้วก็แตกออกมาหมายถึง
00:19:39 → 00:19:42 ว่าตัวผนังที่เซลล์ร่างกายนะพยายามที่จะ
00:19:42 → 00:19:45 ได้เคลือบอยู่ข้างบนมันเกิดติดแตกสิ่งที่
00:19:45 → 00:19:47 เกิดขึ้นตามมาก็คือว่าของที่อยู่ข้างในจะ
00:19:47 → 00:19:50 อยู่ภายใต้พลักเนี่ยมันก็จะมาสัมผัสกับ
00:19:50 → 00:19:53 เลือดถูกไหมครับแล้วในเลือดมันจะมีคนไกล
00:19:53 → 00:19:57 การแข็งตัวของเรือนอยู่ที่นี่ให้คนไกลการ
00:19:57 → 00:19:59 แข็งตัวของเลือดที่ว่าเนี่ยมันคือคนไกล
00:19:59 → 00:20:01 ปกติของร่างกายนะครับที่ทำหน้าที่ทำให้
00:20:01 → 00:20:04 เราอ่อนเลือดหยุดไหลเช่นสมมติว่าเรามีไป
00:20:04 → 00:20:06 รับบาดเจ็บมาจะเริ่มฉีดขาดเนี่ยพวกเกล็ด
00:20:06 → 00:20:08 เลือดกับพวกโปรตีนต่างๆเนี่ยมันจะทำงาน
00:20:08 → 00:20:11 ร่วมกันเป็นคนไกลที่ทำให้เลือกเดินทางตัว
00:20:11 → 00:20:13 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือตัวพวกเลื่อนจะไป
00:20:13 → 00:20:16 เพราะบริเวณที่เส้นเลือดแดงปรี๊ดแตกนะ
00:20:16 → 00:20:19 ครับมันก็เป็นการไปอุดรูรั่วเอาไว้ซึ่ง
00:20:19 → 00:20:21 กลไกนี้เป็นการที่มีประโยชน์กับร่างกายนะ
00:20:21 → 00:20:23 ครับก็คือช่วยหยุดเลือดให้เราแต่ที่เรา
00:20:23 → 00:20:25 พูดถึงกันอยู่นี้นะครับจะเป็นพูดถึงภาวะ
00:20:25 → 00:20:27 การแข็งตัวของเลือดที่เกิดขึ้นแบบผิดปกติ
00:20:27 → 00:20:31 ก็คือเมื่อตัวผลักในมันเกิดปิดแตกออกทำ
00:20:31 → 00:20:33 ให้พวกเกร็ดเลือดต่างๆมันเข้าใจผิดคิดว่า
00:20:33 → 00:20:35 เส้นเลือดมันแตกหรือว่ามีเส้นเลือดชี้ขาด
00:20:35 → 00:20:39 เกิดขึ้นพวกเลขต่างๆมึงก็พยายามที่จะโถม
00:20:39 → 00:20:41 ตัวเข้ามานะครับพอๆก็ไม่ได้เรื่อยๆเนี่ย
00:20:41 → 00:20:43 จนเกิดเป็นเลือดขึ้นมาภายในหลอดเลือด
00:20:43 → 00:20:46 ประเด็นก็คือว่ากลไกนี้นะครับเป็นการที่
00:20:46 → 00:20:48 ทำงานเร็วมากเพราะมันคนไกลที่พยายามที่จะ
00:20:48 → 00:20:51 ห้ามเลือดคือเร็วที่ว่าในเขื่อนขึ้นใน
00:20:51 → 00:20:54 หลักวินาทีดังนั้นนะครับภายในเวลาแค่ไม่
00:20:54 → 00:20:56 กี่วินาทีเนี่ยมันก็สามารถที่จะพอตัวเอง
00:20:56 → 00:20:58 ก็ไม่ได้เรื่อยๆจนกระทั่งสามารถหดเส้น
00:20:58 → 00:21:00 เลือดเช่นนั้นเนี่ยให้มันไปเลยได้มาแล้ว
00:21:00 → 00:21:02 ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เกิดภาวะกล้าม
00:21:02 → 00:21:04 เนื้อหัวใจเนี่ยมันขาดเลือดแล้วถึงขั้น
00:21:04 → 00:21:07 ที่กล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยตายได้เลยที่นี่
00:21:07 → 00:21:08 ประเด็นสำคัญก็คืออย่างที่คุยเป็นนัก
00:21:08 → 00:21:10 เรียนนะครับว่าจะเห็นว่าบางครั้งในต่อให้
00:21:10 → 00:21:13 ตัวผลักในมันเล็กอยู่นะครับว่าจะว่าตัว
00:21:13 → 00:21:15 ท่อมันคะจะไม่ได้อุดตันเราไม่ได้ติดตั้ง
00:21:15 → 00:21:17 อะไรมากเลยเนี่ยมันก็สามารถนำไปสู่ภาวะ
00:21:17 → 00:21:20 เส้นเลือดอุดตันอย่างเช่นพลาเนี่ยได้
00:21:20 → 00:21:22 เหมือนกันแล้วก็ทำให้เสียชีวิตได้ดังนั้น
00:21:22 → 00:21:24 นะครับคำถามสำคัญมากเลยนะครับก็คือว่า
00:21:24 → 00:21:27 อะไรที่เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ตัวพลาด
00:21:27 → 00:21:31 เนี่ยมันเกิดปิรับแต่ของมาแบบนี้ได้คำตอบ
00:21:31 → 00:21:33 ก็คือภาวะการเกษตรในเลือดดังนั้นนะครับ
00:21:33 → 00:21:36 ถ้าใครก็ตามนะครับที่มีภาวะพักอยู่นะครับ
00:21:36 → 00:21:38 แล้วก็มีภาวะการเกษตรในเรื่อยๆร่วมด้วย
00:21:38 → 00:21:41 เนี่ยความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะอันนี้ก็จะ
00:21:41 → 00:21:43 สูงมากขึ้นสำหรับเรื่องของภาวะการเกษตรใน
00:21:43 → 00:21:45 เลื่อนนะครับอย่างที่เล่าให้ฟังนะครับเรา
00:21:45 → 00:21:47 เคยคุยกันไปแล้วตอนที่เราคือเรื่องของ
00:21:47 → 00:21:49 ภูมิคุ้มกันนะครับถ้าใครสนใจสามารถย้อน
00:21:49 → 00:21:51 กลับไปดูได้นะครับแต่ตรงนี้ผมจะส่งให้ฟัง
00:21:51 → 00:21:53 ย่อนะครับว่าสิ่งที่ทำให้เกิดภาวะการ
00:21:53 → 00:21:55 เกษตรในเรื่องเนี่ยมันมีอยู่หลายอย่าง
00:21:55 → 00:21:57 ด้วยกันนะครับเช่นเรื่องของการกินเนื้อ
00:21:57 → 00:22:00 แดงนะครับดื่มเหล้าสูบบุหรี่นะครับหนูขอ
00:22:00 → 00:22:02 เรื่องของการอดนอนนะครับเรื่องของความ
00:22:02 → 00:22:05 เครียดนะครับส่วนการลดภาวะการเกษตรที่ดี
00:22:05 → 00:22:07 มากๆนะครับก็จะมีเรื่องของการเช่นขอ
00:22:07 → 00:22:09 เรื่องของการกินผักผลไม้นะครับเรื่องของ
00:22:09 → 00:22:11 น้ำมันปลานะครับเรื่องของการออกกำลังกาย
00:22:11 → 00:22:14 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่สำคัญ
00:22:14 → 00:22:17 มากกับคนที่มีขอเริ่มมีพลาดนะครับและมี
00:22:17 → 00:22:21 เส้นเลือดหัวใจติดตัน
00:22:21 → 00:22:24 เท่านี้เราจะดูเรื่องของอาการกันบ้างนะ
00:22:24 → 00:22:26 ครับว่าถ้าหัวใจนะครับขาดเลือดนะครับหรือ
00:22:26 → 00:22:29 ได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอเนี่ยมันจะ
00:22:29 → 00:22:32 มีอาการอะไรบ้างสำหรับอาการของหัวใจขาด
00:22:32 → 00:22:36 เลือดนะครับที่อยากจะให้จำได้นะครับหรือ
00:22:36 → 00:22:39 ว่านึกถึงไว้นะครับจะมีอยู่ไหมครับ 4 ข้อ
00:22:39 → 00:22:41 ด้วยกันนะครับหรือจะรู้ว่าเป็น 4 สัญญาณ
00:22:41 → 00:22:43 สำคัญก็ได้นะครับและก็คือเรื่องของอาการ
00:22:43 → 00:22:46 แน่นหน้าอกนะครับคนที่ผมจะท่าเรือในเขาจะ
00:22:46 → 00:22:48 บรรยายว่ามีอาการแน่นหน้าอกและอาการแน่น
00:22:48 → 00:22:51 เนี่ยมันจะไม่ใช่เป็นแค่นั้นเหมือนเราจุก
00:22:51 → 00:22:53 เสียดแน่นท้องธรรมดานี่หน่อยนะครับเพราะ
00:22:53 → 00:22:55 ว่าผู้ป่วยชนในใจที่บายว่าเหมือนกับ
00:22:55 → 00:22:58 บรรยายว่ามากันแน่นนะครับมีช้างเลยมานั่ง
00:22:58 → 00:23:00 ทับอยู่บนหน้าอกหรือบางคนบรรยายว่ามันตี
00:23:00 → 00:23:04 สิบล้อเนี่ยมักจะทับอยู่บนหน้าอกจะได้จุด
00:23:04 → 00:23:06 สังเกตคือความรุนแรงของมันเนี่ยคือการที่
00:23:06 → 00:23:08 เราบรรยายวัดช้างให้นั่งทับหรือว่าสิบล้อ
00:23:08 → 00:23:11 มานั้นคำเนี่ยมันต้องไม่ธรรมดาถูกไม่เข้า
00:23:11 → 00:23:13 มันก็ไม่ใช่อาการทั่วๆไปที่เรารู้สึกกัน
00:23:13 → 00:23:15 ต่อในชุดประจำวันหรือว่าจุกเสียดแน่นท้อง
00:23:15 → 00:23:18 ธรรมดามันคงจะเป็นการแน่นปรับพิเศษที่ไม่
00:23:18 → 00:23:21 เคยรู้สรรพากรในชีวิตอย่างที่ 2 นะครับก็
00:23:21 → 00:23:25 คือว่าอาการแน่นเนี่ยมันมักจะนานนะครับก็
00:23:25 → 00:23:27 คืออย่างน้อยก็ประมาณ 15 นาทีหรือ 20
00:23:27 → 00:23:30 นาทีขึ้นไปมันจะไม่ใช่แค่ 1 วินาทีสอง
00:23:30 → 00:23:32 วินาทีนะครับแล้วต้องดูจากนี้สังเกตอยู่
00:23:32 → 00:23:35 อย่างหนึ่งคืออาการจะไม่เป็นลักษณะดับ
00:23:35 → 00:23:37 เจ็บจี๊ดๆๆเหมือนที่หลายคนรู้สึกนะครับ
00:23:37 → 00:23:40 ขึ้นมาแบบชั่วคราวนะครับแค่ 1-2 วินาที
00:23:40 → 00:23:43 ซึ่งอาการเจ็บจี๊ดๆแป๊บๆหรือว่าจะต่างกัน
00:23:43 → 00:23:45 หายใจในบางครั้งมันเป็นจากการพวกการ
00:23:45 → 00:23:47 อักเสบนะครับหรือการว่ามันเจ็บแถวซี่โครง
00:23:47 → 00:23:49 แล้วกล้ามเนื้อที่อยู่ระหว่างที่โครง
00:23:49 → 00:23:51 สัญญาณที่ 2 นะครับหรือว่าลักษณะที่ 2
00:23:51 → 00:23:54 ที่อยากให้สังเกตนะครับก็คือว่าอาการปวด
00:23:54 → 00:23:57 แน่นนะครับก็มันจะปวดหน้าตัวแถวเบลลินปี
00:23:57 → 00:24:00 นะครับหลายคนเนี่ยจะมีการไหมครับร้าวทาง
00:24:00 → 00:24:02 ด้านซ้ายนะครับขึ้นมาที่บริเวณคอด้านซ้าย
00:24:02 → 00:24:05 มาที่กลางด้านซ้ายเรือจะไปที่หัวไหล่หรือ
00:24:05 → 00:24:07 พื้นที่บริเวณต้นแขนส่วนคำอธิบายนะครับ
00:24:07 → 00:24:10 ว่าทำไมอาการที่เกิดจากหัวใจชื่อตรงกลาง
00:24:10 → 00:24:12 หน้าอกเนี่ยมันสามารถที่จะร้าวหรือว่า
00:24:12 → 00:24:15 เดินทางตอบที่ทางด้านหน้าที่คอที่คราวว่า
00:24:15 → 00:24:18 ที่ปลายท้ายเนี่ยมันจะเกิดจากการที่เส้น
00:24:18 → 00:24:21 ประสาทที่ไปเลี้ยงแถวๆหัวใจเนี่ยหรือเรา
00:24:21 → 00:24:23 ความรู้สึกมาจากหัวใจเนี่ยมันแชร์นะครับ
00:24:23 → 00:24:25 หรือเรียกว่าเป็นแขนงร่วมกับเส้นประสาท
00:24:25 → 00:24:28 ที่มาเลี้ยงแถวๆคอด้านซ้ายที่กรามแล้วว่า
00:24:28 → 00:24:31 ที่แถวๆอ๋อไหล่ซ้ายหรือต้นแขนซ้ายด้วย
00:24:31 → 00:24:34 ซึ่งภาษาทางการแพทย์เรือเราจะเรียกลักษณะ
00:24:34 → 00:24:37 การที่ออราลแบบนี้ว่าลูซีเฟอร์เพนะครับ
00:24:37 → 00:24:39 อาการที่สามนะครับหรือสัญญาณที่สามที่
00:24:39 → 00:24:42 อยากให้นึกถึงเอาไว้นะครับก็คือว่าหลายคน
00:24:42 → 00:24:45 นอกเหนือจากการแน่นหน้าอกจะมีลักษณะที่
00:24:45 → 00:24:47 เหมือนกับเหยื่อแตกนะครับทั่วตัวนะครับ
00:24:47 → 00:24:50 มันก็เหมือตัดภาคเลยเนี่ยร่วมด้วยนะครับ
00:24:50 → 00:24:52 บางคนหลายคนน่าจะรู้สึกมันก็มีใจสั่น
00:24:52 → 00:24:55 เหมือนไปออกกำลังกายไปวิ่งมาเนี่ยจนทั้ง
00:24:55 → 00:24:57 ใจสั่นและกันเหงื่อท่วมตัวอาการที่ 4 นะ
00:24:57 → 00:24:59 ครับหรือสัญญาณที่ 4 ที่อยากให้เลือกไว้
00:24:59 → 00:25:01 นะครับก็คือว่าตัวละครเนี่ยจะไม่มีอาการ
00:25:01 → 00:25:04 เจ็บแล้วว่านั้นออกนะครับขึ้นอย่างนี้
00:25:04 → 00:25:06 ครับต้องบอกว่าเหมือนจะคุยก่อนหน้านะครับ
00:25:06 → 00:25:10 โรคเบาหวานเป็นโรคหนึ่งที่เป็นความเสี่ยง
00:25:10 → 00:25:13 สำคัญของการเกิดโรคนี้ที่นี่ผลข้างเคียง
00:25:13 → 00:25:14 อย่างนึงนะครับหรือผลแทรกซ้อนอย่างหนึ่ง
00:25:14 → 00:25:16 ของโรคเบาหวานก็คือมันจะทำให้เส้นประสาท
00:25:16 → 00:25:19 เนี้ยเสียการทำงานไปทำให้เรามีอาการชาตาม
00:25:19 → 00:25:22 ปลายมือปลายเท้าที่นี่ในบางคนนะครับอาการ
00:25:22 → 00:25:24 ชานันท์เกิดขึ้นกับเส้นประสาทที่มาเลี้ยง
00:25:24 → 00:25:26 หัวใจหรือว่ารับความรู้สึกเจ็บปวดจากหัว
00:25:26 → 00:25:29 ใจทำให้คนเหล่านี้เนี่ยไม่รู้สึกอาการ
00:25:29 → 00:25:31 เจ็บหน้าอกขึ้นมาแต่ก็เรานี้นะครับก็จะมา
00:25:31 → 00:25:34 บรรยายด้วยการขออาการอื่นนะครับเช่นอาจจะ
00:25:34 → 00:25:36 บนบอกว่าเป็นเรื่องของหน้ามืดเป็นลมก็ได้
00:25:36 → 00:25:39 นะครับหรือว่าอ่อรู้สึกเหมือนกับหายใจไม่
00:25:39 → 00:25:42 สะดวกนะครับหายใจเข้าหายใจไม่เต็มอิ่มอัน
00:25:42 → 00:25:45 นี้ก็เป็นไปได้นะครับโดยเฉพาะคนที่เป็น
00:25:45 → 00:25:48 โรคเบาหวานที่น้ำตาลคุมได้ไม่ค่อยดีแล้ว 4
00:25:48 → 00:25:50 ลักษณะนี้นะครับก็คืออาการว่าลักษณะสำคัญ
00:25:50 → 00:25:52 นะครับที่อยากเหมือนกับให้ระลึกไว้ใจนะ
00:25:52 → 00:25:54 ครับถ้ามีอาการเหล่านี้เราไม่แน่ใจเนี่ย
00:25:54 → 00:25:57 ก็ควรจะรีบไปโรงพยาบาลแล้วก็บ่อนี้นะครับ
00:25:57 → 00:26:00 ก็คือผ้าบางๆนะครับของโรคเฉลยใจติดนะครับ
00:26:00 → 00:26:03 อยากจะเล่าให้ฟังนะครับคิดว่าอ่อน่าจะพอ
00:26:03 → 00:26:05 เห็นภาพแล้วนะครับว่าให้โรงเรียนมันเกิด
00:26:05 → 00:26:07 ขึ้นได้ยังไงนะครับถ้ากล้ามเนื้อหัวใจที่
00:26:07 → 00:26:10 ตายในมันมีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนะครับหัวใจ
00:26:10 → 00:26:12 ในก็ยังพอจะเต้นต่อไม่ได้นะเพราะจะมีปั้ม
00:26:12 → 00:26:14 เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้แต่
00:26:14 → 00:26:16 ถ้ากล้ามเนื้อหัวใจที่ตายเนี่ยมันกินพื้น
00:26:16 → 00:26:19 ที่กว้างมากเนี่ยมันอาจจะไปกระทบเรามีผล
00:26:19 → 00:26:22 เสียต่อการทำงานของคนใจได้ซึ่งก็จะนำไป
00:26:22 → 00:26:24 สู่ภาวะที่เราจะคุยกันต่อในปีโสดหน้านะ
00:26:24 → 00:26:27 ครับก็คือเรื่องของภาวะหัวใจวายสำหรับวัน
00:26:27 → 00:26:29 นี้นะครับผมก็จะขอเบรกเรื่องไว้ตรงนี้นะ
00:26:29 → 00:26:32 ครับขอจบที่สุดในตรงนี้นะครับแล้วก็จะจาก
00:26:32 → 00:26:34 กันไปก็เช่นเคยนะครับก็อยากจะฝานะครับถ้า
00:26:34 → 00:26:37 ใครชอบสิ่งที่เล่าให้ฟังนะครับชอบ Content
00:26:37 → 00:26:39 แบบนี้นะครับและอยากเป็นกำลังใจให้นะครับ
00:26:39 → 00:26:42 ง่ายก็กดไลค์กดแชร์นะครับกด Subscribe นะ
00:26:42 → 00:26:44 ครับแล้วก็กดกระดิ่งให้ด้วยนะครับก็เตือน
00:26:44 → 00:26:46 พรุ่งนี้พี่โสดมาจะได้แจ้งให้ทราบนะครับ
00:26:46 → 00:26:49 ชนะวันนี้ผมก็ขอลาไปก่อนนะครับเรามาเจอ
00:26:49 → 00:26:52 กันใหม่ในที่โซนหน้าครับสวัสดีครับ
00:26:52 → 00:27:00 [เพลง]
00:27:00 → 00:27:03 พ.ย
00:00:00 → 00:00:02 หน้าเขตข้อส่วนที่คนนะครับยินดีต้อนรับ
00:00:02 → 00:00:03 เข้าสู่เรื่องเล่าจากนะการ Channel นะ
00:00:03 → 00:00:05 ครับผมอ๋อเร็วนะครับนายแพทย์เจตพลใหญ่
00:00:05 → 00:00:08 กระจอนธาดานะครับวันนี้ก็จะเป็นตอนที่ 5
00:00:08 → 00:00:10 นะครับของ CV ใช่เราคุยกันอยู่นะครับก็
00:00:10 → 00:00:12 คือเป็นเรื่องที่เราคุยเรื่องของการทำงาน
00:00:12 → 00:00:16 ของหัวใจและหลอดเลือนะครับในสีเป็นโสดที่
00:00:16 → 00:00:18 ผ่านมานะครับเราคุยกับการทำงานของหัวใจใน
00:00:18 → 00:00:21 ภาวะปกติไปแล้วนะครับคราวนี้เนี่ยเราจะ
00:00:21 → 00:00:24 นอนนำความรู้ที่เราคุยกับมานะครับมาทำ
00:00:24 → 00:00:27 ความเข้าใจโลกของหัวใจกันบ้างนะครับที่
00:00:27 → 00:00:30 นี่หลักๆเราจะพูดถึงโรคทั้งหมด 3 โรคด้วย
00:00:30 → 00:00:32 กันนะครับสำหรับโรงแรมก็อยากจะพูดถึงนะ
00:00:32 → 00:00:34 ครับก็คือเรื่องโรคเส้นเลือดหัวใจตีนะ
00:00:34 → 00:00:37 ครับซึ่งก็คือเส้นเลือดนะครับมันมีการ
00:00:37 → 00:00:39 แข่งแล้วมันก็ติดลงทำให้เลือดไปเลี้ยง
00:00:39 → 00:00:41 กล้ามเนื้อหัวใจได้น้อยแล้วก็ถ้าเป็นมากๆ
00:00:41 → 00:00:45 นำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือดได้นะครับจาก
00:00:45 → 00:00:47 นั้นนะครับถ้าโลกมันเป็นมากขึ้นครับคือมา
00:00:47 → 00:00:49 ถือว่ากล้ามเนื้อมันมีการขาดเลือดมากๆ
00:00:49 → 00:00:53 เนี่ยมันก็จะนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้ซึ่ง
00:00:53 → 00:00:54 นั่นก็คือโรคที่สองที่เราจะคุยกันนะครับ
00:00:54 → 00:00:57 ส่วนโลกที่สามที่ผมอยากจะพูดถึงให้ฟังนะ
00:00:57 → 00:01:00 ครับก็คือภาวะที่ว่าภาวะช็อกนะครับคะ
00:01:00 → 00:01:02 เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังอีกทีนะครับว่าภาวะ
00:01:02 → 00:01:05 หัวใจวายเพราะว่าชอบเนี่ยมันต่างกันยังไง
00:01:05 → 00:01:07 เราทั้ง 3 ก็จะมีความเกี่ยวข้องกันด้วยนะ
00:01:07 → 00:01:09 ครับเพราะว่าเมื่อเกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจ
00:01:09 → 00:01:12 ตีบแล้วก็นำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือดได้
00:01:12 → 00:01:14 เพราะถ้ามากๆนะครับก็เกิดกล้ามเนื้อหัวใจ
00:01:14 → 00:01:17 ตายกำลังจะตายในขณะไปสู่ภาวะหัวใจวายได้
00:01:17 → 00:01:19 ส่วนภาวะช็อกเนี่ยก็มีความเกี่ยวข้องได้
00:01:19 → 00:01:22 เหมือนกันก็คือว่าถ้าหัวใจมันทำงานได้
00:01:22 → 00:01:24 น้อยมากๆนะครับก็จะคนไข้อยากจะนำไปสู่
00:01:25 → 00:01:28 ภาวะช็อกได้โอเคเรามาเริ่มที่โรคแรกเลยนะ
00:01:28 → 00:01:32 ครับคือโรคเส้นเลือดหัวใจตีบนะครับ
00:01:32 → 00:01:35 พูดคำว่าเส้นเลือดหัวใจตีบนะครับผมชื่อ
00:01:35 → 00:01:38 ว่าคนจำนวนมากนะครับจะมีภาพในหัวนะครับ
00:01:38 → 00:01:40 เหมือนเป็นภาพจำว่ามันจะเหมือนกับท่อน้ำ
00:01:40 → 00:01:42 นะครับแล้วก็ข้างในเหมือนก็มีพวกตักการ
00:01:42 → 00:01:45 เนี่ยสะสมมากขึ้นเรื่อยๆถึงจุดหนึ่งเนี่ย
00:01:45 → 00:01:49 ตัวท่อน้ำมันก็จะมีครูข้างในแคบลงทำให้
00:01:49 → 00:01:51 น้ำในผ่านได้ยากขึ้นถ้าเป็นเส้นเลือดก็
00:01:51 → 00:01:55 คือมีไขมันนะครับมาพออยู่ข้างในทำให้ตัว
00:01:55 → 00:01:58 ตัวรู้ข้างในมันแคบลงและนำไปสู่ภาวะที่
00:01:58 → 00:02:01 เส้นหัวใจขาดเลือดมีเส้นภาพแบบนี้จริงมัน
00:02:01 → 00:02:03 ก็ไม่ผิดสักทีเดียวนะครับแต่ว่ามันก็ไม่
00:02:03 → 00:02:06 ถูกเหมือนกันนะครับเพราะว่ามันเป็นภาพที่
00:02:06 → 00:02:08 มันก็ขาด very เอ็ดไปนะครับทำให้เห็นภาพ
00:02:08 → 00:02:11 หรือว่าเห็นว่าปัจจัยเสี่ยงอื่นๆมันเข้า
00:02:11 → 00:02:13 มาเกี่ยวข้องได้ยังไงเพราะสิ่งที่เรานึก
00:02:13 → 00:02:15 ถึงก็คือเรื่องของไขมันที่เข้ามาพ่อไป
00:02:15 → 00:02:17 เรื่อยๆแต่ในความเป็นจริงแล้วก็รู้ปัจจัย
00:02:17 → 00:02:19 เสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันแต่มัน
00:02:19 → 00:02:21 มีเยอะไหมครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
00:02:21 → 00:02:24 บุหรี่นะครับเรื่องของเบาหวานเรื่องของ
00:02:24 → 00:02:26 ปัจจัยสำคัญตนก็คือเรื่องภาวะการอักเสบใน
00:02:26 → 00:02:29 เลือดนะครับซึ่งเราก็เคยคุยกันไปก่อนตอน
00:02:29 → 00:02:31 ที่เราคุยเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันที่นิ
00:02:31 → 00:02:34 เราก็จะเห็นภาพว่าไอ้น้ำตาลในเลือดหรือ
00:02:34 → 00:02:37 บุหรี่หรือว่าตัวเค้าว่ากันเสพแล้วมันไม่
00:02:37 → 00:02:40 เกี่ยวข้องกับโรคนี้ได้ยังไงเราจะเห็นตัว
00:02:40 → 00:02:42 ไขมันอย่างเดียวว่ามันเข้ามาพ่อข้างในใน
00:02:42 → 00:02:44 ส่วนนี้เนี่ยผมก็อยากจะมาเล่าให้ฟังนะ
00:02:44 → 00:02:47 ครับว่ากลไกของมันนะครับในรายละเอียดที่
00:02:47 → 00:02:50 มากกว่านั้นนะครับมันมีมีหน้าตาแบบไหนนะ
00:02:50 → 00:02:52 ครับเพราะผมมีความเชื่ออย่างไรว่าเวลารู้
00:02:52 → 00:02:55 จักอะไรสักอย่างนะครับถ้าเรารู้จักมากพอ
00:02:55 → 00:02:57 ที่จะนึกภาพออกว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ
00:02:57 → 00:03:00 ครับหรือว่ากลไกมันคืออะไรเราจะมีแกล้งก็
00:03:00 → 00:03:02 ได้นะครับที่ครูรู้สึกว่าอยากจะดูแล
00:03:02 → 00:03:04 สุขภาพหรือว่าแก้ปัญหาที่ตรงจุดไหนให้มาก
00:03:04 → 00:03:07 ขึ้นโอเคมาเริ่มจากภาวะเส้นเลือดหัวใจติด
00:03:07 → 00:03:10 กูได้ทางการแพทย์ก่อนนะครับปกติในทางการ
00:03:10 → 00:03:13 แพทย์เนี่ยจะเราจะใช้คำว่าอาทิ roasted
00:03:13 → 00:03:15 นะครับคำว่าอ้ะติโรเนี่ยรากศัพท์ของมันมา
00:03:15 → 00:03:18 จากภาษาอังกฤษโบราณเขาจะหมายถึงหรือว่า
00:03:18 → 00:03:20 ใช้เป็นคำบรรยายที่พูดถึงอะไรที่มันมี
00:03:20 → 00:03:22 ลักษณะมเล่นเร็วๆนะครับเหมือนเป็นข้าวต้ม
00:03:22 → 00:03:25 เหรอพี่โจ๊กนะครับซึ่งในที่นี้จะหมายถึง
00:03:25 → 00:03:29 ตัวไขมันเนี่ยที่มาพอกอยู่ข้างในฉันเลือก
00:03:29 → 00:03:31 นะครับตอนที่หมอสมัยของหมอสมัยโบราณเขา
00:03:31 → 00:03:33 ผ่าเส้นเลือดออกมาดูโกเท็นว่ามีใครมา
00:03:33 → 00:03:35 เนี่ยเป็นนิ่มๆแล้วเนี่ยเคลือบอยู่ภายใน
00:03:35 → 00:03:38 เส้นเลือดส่วนคำว่าสัตว์ urus นะครับมัน
00:03:38 → 00:03:41 แปลว่าแข็งนะครับหรือมันมีความหมายว่าแค่
00:03:41 → 00:03:43 ก็ได้ที่นี่เขามาอะที่ว่า soulless เนี่ย
00:03:43 → 00:03:45 แปลตรงตัวก็จะหมายถึงตัวเส้นเลือดเนี่ย
00:03:45 → 00:03:49 ที่มันมีภาวะแข็งนะครับแล้วก็พิมพ์ด้านใน
00:03:49 → 00:03:51 ของมันเนี่ยมีใครมันเนี่ยมาเคลือบๆอยู่นะ
00:03:51 → 00:03:54 ครับเป็นสีเหลืองนิ่มๆอยู่ซึ่งผลก็คือทำ
00:03:54 → 00:03:56 ให้ตรงช่องภายในตรงกลางของเส้นเลือดเนี่ย
00:03:56 → 00:03:59 มันมีรูที่เล็กลงทำให้เลือดไหลผ่านได้ยาก
00:03:59 → 00:04:02 ขึ้นแต่มันก็เลยนำมาสู่คำถามถัดไปนะครับ
00:04:02 → 00:04:04 ว่าให้ภาวะเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ
00:04:04 → 00:04:07 ครับทำไมมงคลเกิดภาวะนี้ขึ้นเอาทำไมบางคน
00:04:07 → 00:04:11 จะถึงไม่เกิดคำถามว่าคือว่าใครบ้างที่จะ
00:04:11 → 00:04:15 เสี่ยงที่จะเกิดภาวะนี้
00:04:15 → 00:04:18 พูดถึงปัจจัยเสี่ยงนะครับจริงๆไม่ต้องพูด
00:04:18 → 00:04:21 กันมานะครับผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็จะพอมี
00:04:21 → 00:04:23 ไอเดียอยู่แล้วนะครับว่าอะไรบ้างที่ทำให้
00:04:23 → 00:04:25 เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
00:04:25 → 00:04:28 ตันรักๆอย่างแรกสุดก็เป็นเรื่องของอายุนะ
00:04:28 → 00:04:30 ครับเพราะว่าโรคนี้เนี่ยมันเป็นเรื่องของ
00:04:30 → 00:04:32 ความเสื่อมของร่างกายเมื่อเราอายุมากขึ้น
00:04:32 → 00:04:36 นะครับ 50 ปี 60 ปีดีขอตัวผนังเส้นเลือด
00:04:36 → 00:04:39 เนี่ยมันก็จะมีความเสื่อมเกาะมากขึ้นก็
00:04:39 → 00:04:41 การเกิดภาวะนะมันก็จะง่ายขึ้นโดยทั่วไปนะ
00:04:41 → 00:04:43 ครับตัวเลขต่อที่ใช้กันในปัจจุบันนะครับ
00:04:43 → 00:04:45 ตัวเลขที่เป็นจุดตัดว่าคุณจะมีความเสี่ยง
00:04:45 → 00:04:48 เพิ่มขึ้นเนี่ยออกเค้าๆนี้ก็จะบอกว่าถ้า
00:04:48 → 00:04:50 เป็นผู้ชายก็คือเมื่ออายุมากกว่า 45 นะ
00:04:50 → 00:04:52 ครับก็จะมีความเสี่ยงโรคนี้มากขึ้นถ้า
00:04:52 → 00:04:54 เป็นผู้หญิงอย่างก็จะมีความเสี่ยงเมื่อ
00:04:54 → 00:04:57 อายุเกิน 55 ปีนะครับหรือถ้าใครจำไม่ได้
00:04:57 → 00:04:59 นะครับอยากจะเอาตัวเลขง่ายก็จะจำว่าที่
00:04:59 → 00:05:01 ประมาณน่าจะปีหน้าความเสี่ยงก็จะเพิ่ม
00:05:01 → 00:05:03 ขึ้นนะครับที่นี่ฟังมาถึงตรงนี้นะครับมา
00:05:03 → 00:05:05 คุณก็จะสงสัยขึ้นมาว่าเอ๊ะทำไมผู้ชายถึง
00:05:05 → 00:05:08 ได้มีความเสี่ยงเร็วกว่านะครับคือมีความ
00:05:08 → 00:05:10 เสี่ยงตอนที่ยุคแค่ 45 อายุน้อยกว่าผู้
00:05:10 → 00:05:13 หญิงคำตอบนะครับเชื่อว่าส่วนหนึ่งในมัน
00:05:13 → 00:05:15 เป็นจากเรื่องของฮอร์โมนครับเพราะว่าเพศ
00:05:15 → 00:05:17 ชายเนี่ยมันจะมีความเสี่ยงให้เกิดโรคต่าง
00:05:17 → 00:05:20 ๆเนี่ยมากกว่านะครับหลายๆโลกด้วยกันซึ่ง
00:05:20 → 00:05:22 ก็รวมถึงโรคของเส้นเลือดหัวใจตีบนี้ด้วย
00:05:22 → 00:05:25 แล้วก็ในผู้หญิงยาฮอร์โมนเอสโตรเจนนะครับ
00:05:25 → 00:05:28 วันจะมีฤทธิ์ในการที่จะมาป้องกันการเกิด
00:05:28 → 00:05:30 ภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบตันด้วยแต่อย่างไร
00:05:30 → 00:05:33 ก็ตามนะครับมือผู้หญิงเข้าสู่ภาวะหมด
00:05:33 → 00:05:36 ประจำเดือนนะครับพอโมนเพศหญิงเนี่ยมันก็
00:05:36 → 00:05:38 จะลดลงเมื่อถึงเวลานั้นเนี่ยความเสี่ยง
00:05:38 → 00:05:40 ของผู้หญิงเนี่ยมันจะเพิ่มขึ้นนะครับมา
00:05:40 → 00:05:42 เท่ากับผู้ชายสำหรับความเสี่ยงอื่นๆนะ
00:05:42 → 00:05:44 ครับก็ส่วนใหญ่ก็ที่อย่างที่ว่าไปก็คือ
00:05:44 → 00:05:46 รู้จักกันดีนะครับก็จะมีเรื่องของความดัน
00:05:46 → 00:05:49 โลหิตสูงเรื้อรังนะครับเรื่องของการสูบ
00:05:49 → 00:05:51 บุหรี่เรื่องของโรคเบาหวานนะครับเรื่อง
00:05:51 → 00:05:54 ของภาวะไขมันในเลือดสูงเรื่องของโรคควรนะ
00:05:54 → 00:05:56 ครับแล้วก็มีเรื่องของภาวะการเกษตรใน
00:05:56 → 00:05:58 เลือดซึ่งเราเคยคุยกันหรือว่าอธิบายให้
00:05:58 → 00:06:00 ฟังไปแล้วนะครับในตอนที่เราเรื่องของ
00:06:00 → 00:06:03 เรื่องของระบบภูมิคุ้มกันนะครับเท่ากับ
00:06:03 → 00:06:05 ใครยังไม่ได้ฟังนะครับฟังคืนนี้จบเนี่ยก็
00:06:05 → 00:06:07 ลองย้อนกลับฝั่งได้นะครับจะทำให้เข้าใจ
00:06:07 → 00:06:09 เรื่องนี้มากขึ้นด้วยที่มันมีประเด็น
00:06:09 → 00:06:11 สำคัญนะครับที่อยากให้รู้นั้นก็คือว่า
00:06:11 → 00:06:14 ปัจจัยเหล่านี้มันบวกกันนะครับเป็นเสริม
00:06:14 → 00:06:16 กันนะครับมาถึงว่าถ้าคนมีปัจจัยแค่ 1
00:06:16 → 00:06:19 อย่างมีความเสี่ยงคนจะเยอะมากแต่ละคนมี
00:06:19 → 00:06:21 ปัจจัยเสี่ยงและเพิ่มเป็น 2 ยานความ
00:06:21 → 00:06:24 เสี่ยงมันจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณนะครับถ้า
00:06:24 → 00:06:26 มีความเสี่ยงปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้น 3
00:06:26 → 00:06:28 อย่างเนี่ยความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคนี้
00:06:28 → 00:06:31 ก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นได้อีกแต่ถ้าเรามอง
00:06:31 → 00:06:33 ในแง่กลับกันนะครับมันก็เป็นข้อดีเหมือน
00:06:33 → 00:06:35 กันเพราะว่าสมุดแต่เดิมเหรอมีปัจจัย
00:06:35 → 00:06:38 เสี่ยงอยู่ประมาณ 4 5 ข้อนะครับเราก็จะ
00:06:38 → 00:06:40 มีความเสี่ยงที่จะเปิดโลกเนี้ยสูงมากแต่
00:06:40 → 00:06:42 ถ้าเราสามารถที่จะตัดปัจจัยเสี่ยงออกไป
00:06:42 → 00:06:44 ได้เจริญหนึ่งที่นึงนะครับเช่นแต่เดิมบาง
00:06:44 → 00:06:47 คนสูบบุหรี่ถ้าเราสามารถหยุดสูบบุหรี่ได้
00:06:47 → 00:06:49 เนี่ยความเสี่ยงของเราในก็จะลดลงว่าควบ 5
00:06:49 → 00:06:53 นะครับก็จะลดลงเยอะมากถ้าเราตัดปัจจัย
00:06:53 → 00:06:55 เสี่ยงไปได้อีกนะครับจาก 4 และ 3 จาก 3
00:06:55 → 00:06:57 มือสองความเสี่ยงของเรานั้นก็จะลดลงไป
00:06:57 → 00:06:59 เรื่อยๆนะคะลงอย่างรวดเร็วจนกระทั่งถ้า
00:06:59 → 00:07:02 เราอ้างจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆหมดเนี่ยความ
00:07:02 → 00:07:03 เสี่ยงที่จะเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจติดกัน
00:07:03 → 00:07:06 ของเราเนี่ยมันจะเข้าไปใกล้กับคนที่ไม่มี
00:07:06 → 00:07:08 ความเสี่ยงต่างๆเลยความเสี่ยงอาจจะไม่ถึง
00:07:08 → 00:07:10 กับเท่ากับคนที่ไม่มีความเสี่ยงนะครับแต่
00:07:10 → 00:07:12 ว่าอย่างน้อยก็เราไปได้มากและด้วยเหตุนี้
00:07:12 → 00:07:14 นะครับในทางการแพทย์นะครับหมอต่างๆนี้ก็
00:07:14 → 00:07:17 เพียงที่โฟกัสนะครับให้ผู้ป่วยเนี่ยเน้น
00:07:17 → 00:07:19 เป็นเรื่องของการลดปัจจัยสิ่งต่างๆโดยที่
00:07:19 → 00:07:22 ปกติหมอน่าจะพยายามให้มองว่าเอาปัจจัย
00:07:22 → 00:07:24 เสี่ยงมันจะมีแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆด้วย
00:07:24 → 00:07:26 กันก็คือปัจจัยสิ่งที่เรา Mac ทำอะไรมาก
00:07:26 → 00:07:29 ไม่ค่อยได้นะครับปรับแก้ไม่ได้กับปฏิเสธ
00:07:29 → 00:07:31 ที่เราสามารถปรับแก้ได้เข้าใจสิ่งที่เรา
00:07:31 → 00:07:33 ปรับแก้ไม่ค่อยได้ก็คืออะไรก็คือเรื่อง
00:07:33 → 00:07:35 ของอายุถูกไหมครับเราไม่สามารถลดอายุของ
00:07:35 → 00:07:38 เราได้เรื่องของเพศนะครับคือว่าสามารถ
00:07:38 → 00:07:40 เปลี่ยนเพศชายผู้หญิงของเราได้อย่างน้อย
00:07:40 → 00:07:43 ปัจจุบันตอนนี้เราก็เปลี่ยนไม่ได้แล้วเรา
00:07:43 → 00:07:45 Focus ไปเรื่องปัจจัยที่สามารถแก้ไขได้
00:07:45 → 00:07:47 ก็ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสูบบุหรี่นะ
00:07:47 → 00:07:50 ครับการลดความอ้วนของการคมระดับน้ำตาลนะ
00:07:50 → 00:07:53 ครับผมอาหารให้อยู่ในระดับปกติโอเคก็พอจะ
00:07:53 → 00:07:55 เห็นภาพแล้วนะครับก็จะนอนแล้วนะครับว่า
00:07:55 → 00:07:57 ใครกันบ้างนะครับที่มีความเสี่ยงที่จะ
00:07:57 → 00:07:59 เกิดเป็นโรคนี้กันที่นี่เราจะมาดูกันนะ
00:07:59 → 00:08:02 ครับว่าอารายการนะครับหรือว่ากลไกของการ
00:08:02 → 00:08:04 เกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบเนี่ยหรือว่า
00:08:04 → 00:08:07 การมีใครมันไปสะสมอยู่ในผนังเส้นเลือด
00:08:07 → 00:08:12 เนี่ยมันมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
00:08:12 → 00:08:15 เป็นคนไกลกันเกิดนะครับแรกส่วนนี้เราต้อง
00:08:15 → 00:08:18 ภาพก่อนว่าปกติเส้นเลือดที่ทำงานได้ดี
00:08:18 → 00:08:20 เนี่ยผิวด้านในมันจะต้องเรียบนะครับ
00:08:20 → 00:08:22 กระเบื้องปูห้องน้ำนะครับที่มันจะเรียบๆ
00:08:22 → 00:08:24 มันๆเพราะว่าลักษณะประจำจะทำให้ผิวในมัน
00:08:24 → 00:08:27 ลื่นเลือดและสิ่งต่างภายในที่อยู่ในกระแส
00:08:27 → 00:08:29 เลือดเนี่ยก็จะสามารถไหลผ่านไปในเสื้อใน
00:08:29 → 00:08:32 ได้ดีซึ่งเส้นเลือดของเด็กนะครับพอดีเด็ก
00:08:32 → 00:08:35 ต่ออายุสิบขวบ 13 ขวบในประมาณนี้จะมี
00:08:35 → 00:08:37 ลักษณะแบบนี้แต่เมื่ออายุมากขึ้นเนี่ย
00:08:37 → 00:08:39 ขนาดค่อนข้างในของเส้นเลือดเนี่ยมันก็จะ
00:08:39 → 00:08:41 มีความเรียบลื่นเนี่ยน้อยลงที่ในการที่
00:08:41 → 00:08:43 ผิวด้านในของผนังเส้นเลือดมันเรียบลื่น
00:08:43 → 00:08:45 แบบนี้ได้นะครับเพราะว่าตัวขนาดนั้นในมัน
00:08:45 → 00:08:48 จะบูดด้วยเซลล์พิเศษชนิดนึงนะครับอ่อนทาง
00:08:48 → 00:08:50 การแพทย์เราจะเรียกเซลล์ที่บุกว่า
00:08:50 → 00:08:52 endothelial Cell นะครับซึ่งเป็นเซลล์
00:08:52 → 00:08:54 ที่สำคัญมากเพราะว่าค่าตัวเซลล์นี้ได้รับ
00:08:54 → 00:08:57 การบาดเจ็ดมันจะมันเป็นจุดเริ่มต้นที่จะ
00:08:57 → 00:09:00 นำไปสู่ข้อสุดท้ายก็คือในประชุมแต่ละเส้น
00:09:00 → 00:09:02 เลือดติดตามนะครับทำให้เกิดภาวะหัวใจขาด
00:09:02 → 00:09:06 เลือดได้ที่นี่เรามาดูกันว่างว่าอะไรที่
00:09:06 → 00:09:08 ทำให้ตัวเซลล์ตัวนี้หนูที่เร็วได้รับบาด
00:09:08 → 00:09:10 เจ็บอย่างแรกสุดเลยนะครับก็คือเรื่องของ
00:09:10 → 00:09:14 ภาวะความดันโลหิตสูงนะครับออกเขาว่าสูง
00:09:14 → 00:09:16 ยังไม่ใช่สูงชั่วครั้งชั่วคราวนะครับชั่ว
00:09:16 → 00:09:18 คราวหน้าที่เราไม่เป็นไรเช่นเวลาเราออก
00:09:18 → 00:09:21 กำลังกายแต่ว่าพูดถึงภาวะความดันเลือดสูง
00:09:21 → 00:09:23 เรื้อรังนะครับเสื้อกันก็อย่างที่เราคุย
00:09:23 → 00:09:26 กันไปนะครับในตอนที่เราคุยเรื่องของ
00:09:26 → 00:09:28 เรื่องเส้นเลือดแอพพิโสดก่อนหน้านะครับ
00:09:28 → 00:09:31 เราบอกว่าถ้าความดันเลือดที่มันสูงมากๆ
00:09:31 → 00:09:34 หรือว่าเลือดมันไหลๆมากๆมันจะกระแทกเข้า
00:09:34 → 00:09:37 กับผิวด้านในซ้ำๆนะครับอาจจะมาว่ามัน
00:09:37 → 00:09:39 เหมือนเป็นการกระเทาะของกระเบื้องที่บุก
00:09:39 → 00:09:42 ผนังห้องน้ำก็ได้นะครับก็คือทำให้เสริม
00:09:42 → 00:09:44 พวกนี้มันระบาดเจ็บอันที่สองเนี่ยมันก็
00:09:44 → 00:09:46 คือเรื่องของการสูบบุหรี่นะครับเพราะอะไร
00:09:46 → 00:09:49 เพราะจะออกควันบุหรี่นะครับบุหรี่จะสูบ
00:09:49 → 00:09:52 เข้าไปเนี่ยมันจะมีสารเคมีนะครับที่สำคัญ
00:09:52 → 00:09:55 เคยตัวนี้ก็ติดเนี่ยมันสามารถที่จะไปทำ
00:09:55 → 00:09:57 อันตรายกับเซลล์ที่บุเหล่านี้เซลล์อยู่
00:09:57 → 00:10:00 ที่เร็วเน็ตได้โดยตรงทำให้แต่ตอนนี้เกิด
00:10:00 → 00:10:03 การบาดเจ็บอย่างที่ 3 นะครับก็คือปริมาณ
00:10:03 → 00:10:06 ของน้ำตาลในเลือดนะครับน้ำตาเน็ตมันมี
00:10:06 → 00:10:08 ประโยชน์ถูกไหมครับคือมันเป็นอาหารให้กับ
00:10:08 → 00:10:11 เธอต่างๆแต่น้ำตาที่มันไหลเวียนเลือด
00:10:11 → 00:10:13 เนี่ยต้องบอกว่าจริงมีทั้งข้อดีและข้อ
00:10:13 → 00:10:16 เสียอยู่ในตัวมันเองพร้อมกันข้อดีก็คือ
00:10:16 → 00:10:19 เป็นอาหารแต่ข้อเสียก็คือว่าตัวน้ำตา
00:10:19 → 00:10:21 เนี่ยมันสามารถทำให้เซลล์เดียวปากเจ็บได้
00:10:21 → 00:10:24 โดยเฉพาะถ้าตัวน้ำตาลในเลือดเนี่ยมันมี
00:10:24 → 00:10:27 ประมาณที่สูงเพราะมันจะไปทำปฏิกิริยานะ
00:10:27 → 00:10:28 ครับแล้วก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ
00:10:28 → 00:10:31 ผนังเส้นเลือดได้และจริงก็บอกว่ามันก็ได้
00:10:31 → 00:10:33 เมียตลาดแค่เฉพาะกับผนังเสื้อนะครับเป็น
00:10:34 → 00:10:36 จริงมันก็จะมีผลเสียต่อพวกเซลล์ประสาทได้
00:10:36 → 00:10:39 ด้วยนะครับซึ่งพอเส้นประสาทและเส้นเลือด
00:10:39 → 00:10:41 มีปัญหานะมันก็จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไป
00:10:41 → 00:10:43 ต่อซึ่งก็คือภาวะแทรกซ้อนต่างๆของโรคเบา
00:10:43 → 00:10:45 หวานนะครับซึ่งตอนที่เราคุยเรื่องของโรค
00:10:45 → 00:10:47 เบาหวานเนี่ยเดี๋ยวจะเล่าเรื่องผีให้ฟัง
00:10:47 → 00:10:49 หน่อยทีแต่ประเด็นก็คือน้ำตาในวันนี้
00:10:49 → 00:10:51 ประโยชน์แล้วก็มีโทษที่ตนเองเหมือนกันจาก
00:10:51 → 00:10:54 นั้นสมดุลของน้ำตาลเนี่ยออกจึงสำคัญนะ
00:10:54 → 00:10:57 ครับก็คือว่ามีน้ำตาลเพียงพอแต่ไม่มาก
00:10:57 → 00:11:00 เกินไปถ้ามากเกินไปเนี่ยก็จะมีผลเสีย
00:11:00 → 00:11:01 มาซึ่งความเสียเนี่ยมันก็จะค่อยใส่หน้า
00:11:01 → 00:11:04 ประโยชน์ของตามไปแล้วทั้งสามอย่างนี้นะ
00:11:04 → 00:11:06 ครับก็เหมือนเป็นปัจจัยหลักๆนะครับที่จะ
00:11:06 → 00:11:08 ทำอันตรายกับเซลล์ที่บุกด้านในของหลอด
00:11:08 → 00:11:11 เลือดที่คำถามต่อไปที่น่าสนใจก็คือว่า
00:11:11 → 00:11:13 เมื่อเซลล์เนี่ยเกิดการบาดเจ็บแล้วเนี่ย
00:11:13 → 00:11:16 มันมีข้อเสียอะไรนะครับที่เกิดอะไรขึ้น
00:11:16 → 00:11:19 ต่อ
00:11:19 → 00:11:22 เซลล์ที่บุผนังเส้นเลือดนะครับแล้ว I
00:11:22 → 00:11:24 don't tell ได้รับบาดเจ็บนะครับวันอาจ
00:11:24 → 00:11:26 จะถึงขั้นที่ทำให้ตัวขนาดเสื้อในมันเสีย
00:11:26 → 00:11:29 การทำงานไปภาษาทางการแพทย์จะใช้ว่า
00:11:29 → 00:11:31 endothelial this function นะครับก็
00:11:31 → 00:11:33 คือเสียงฟังก์ชันไปนะครับจะได้อย่างที่
00:11:33 → 00:11:35 เราไปเกาะหน้านะครับก็คือว่าปกติตัวผนัง
00:11:35 → 00:11:38 ด้านในของเส้นเลือดจะเรียบลื่นมากนะครับ
00:11:38 → 00:11:40 แต่เมื่อมันเกิดการบาดเจ็บขึ้นเนี่ยก็จะ
00:11:40 → 00:11:43 มีกระเบื้องที่มันถูกกระเทาะให้มีรอยร้าว
00:11:43 → 00:11:45 ขึ้นหรือว่ามีผิวผนังที่ไม่เรียบเหมือน
00:11:45 → 00:11:47 เดิมนะครับทั้งนั้นเวลาเลือดที่ไหลผ่าน
00:11:47 → 00:11:50 เนี่ยมันก็จะไหลไม่ลื่นชาร์จเหมือนเหมือน
00:11:50 → 00:11:52 ปกตินะครับและผนังที่มันไม่ค่อยเริ่มนะ
00:11:52 → 00:11:55 ครับก็จะมีผลกระทบต่อออกกระแสของเรือด้วย
00:11:55 → 00:11:58 นะครับก็เหมือนแม่น้ำนะครับสมุดว่าน้ำได้
00:11:58 → 00:12:00 ทำอะไหล่เรื่อง Dream ก็จะไหล Flow ไปดี
00:12:00 → 00:12:02 โอ้มันเริ่มนะครับมีอะไรที่มาขัดขวาง
00:12:02 → 00:12:04 เนี่ยมันก็จะเกิดแรงกระเพื่อมเกิดเราจะ
00:12:04 → 00:12:07 เป็นคลื่นเป็นน้ำจะชอบไปกระสอบมาได้มาก
00:12:07 → 00:12:10 ขึ้นแล้วแรงกระสอบของน้ำเหล่านี้เนี่ยบวก
00:12:10 → 00:12:12 กับความดันเลือดที่สูงเรียกว่าจะเพิ่มการ
00:12:12 → 00:12:14 บาดเจ็บของผนังให้มันมากขึ้นได้จากนั้นนะ
00:12:14 → 00:12:17 ครับพวกเราบินรอยแตกหรือว่าเราอยากที่
00:12:17 → 00:12:19 เกิดขึ้นเนี่ยมันก็สามารถทำให้อะไรหลายๆ
00:12:19 → 00:12:21 อย่างนะครับที่อยู่ในเรื่องเนี่ยมัน
00:12:21 → 00:12:23 สามารถเข้าไปสะสมตรงนั้นได้โดยเฉพาะตัว
00:12:23 → 00:12:25 สำคัญก็คือเรื่องตัวไขมันนะครับไขมันที่
00:12:25 → 00:12:28 เรารู้จักกันในชื่อว่า ldl เนี่ยมัน
00:12:28 → 00:12:31 สามารถที่จะแทรกเข้าไปในข้างใต้เซลล์นะ
00:12:31 → 00:12:33 ครับคือแทรกจากรอยแยกนะเข้าไปอยู่ข้างใต้
00:12:33 → 00:12:35 เซลล์เหมือนกับว่าถ้านึกภาพจะเทียบได้กับ
00:12:35 → 00:12:37 เหมือนตัวกระเบื้องที่มันมีรอยกระเทาะ
00:12:37 → 00:12:40 แล้วมันมีพวกเหมือนกับเชื้อราหรืออะไร
00:12:40 → 00:12:42 เนี่ยสามารถเข้าไปเติบโตอยู่ข้างใต้หรือ
00:12:42 → 00:12:45 ว่าข้างหลังของแผ่นกระเบื้องได้แล้วสิ่ง
00:12:45 → 00:12:46 ที่แทรกเข้าไปเรื่อยๆนะครับถึงจุดนึง
00:12:46 → 00:12:48 เนี่ยมันจะทำให้ตัวเหมือนกับผนังเซลล์
00:12:48 → 00:12:50 เนี่ยหรือว่าผนังของเส้นเลือดในมันนูน
00:12:50 → 00:12:53 ขึ้นมานะครับต้องเหนือไปจากนั้นนะครับเอา
00:12:53 → 00:12:55 ภาวะที่เรา I don't tell some ชั่น
00:12:55 → 00:12:58 เนี่ยมันยังนำไปสู่ผลเสียหรือว่าทำให้การ
00:12:58 → 00:13:01 ทำงานของตัวเซลล์ตัวนี้ถ้ามันเสียไปด้วย
00:13:01 → 00:13:03 ขึ้นอย่างนี้ให้ปกติตัว sale sale sale
00:13:03 → 00:13:06 เนี่ยมันจะมีหน้าที่อย่างหนึ่งก็คือมันจะ
00:13:06 → 00:13:08 สามารถสร้างก๊าซตัวนี้ขึ้นมานะครับที่เรา
00:13:08 → 00:13:11 ว่าที่มีชื่อว่าก๊าซไนตรัสออกไซด์นะครับ
00:13:11 → 00:13:14 ยาวะเก็นตัวใหญ่โคตัวใหญ่นะครับซึ่งการ
00:13:14 → 00:13:16 ส่วนนี้เราเคยคุยกันไปก่อนหน้านะครับว่า
00:13:16 → 00:13:18 เป็นก๊าซที่ทำให้หรือว่าช่วยหล่อลื่น
00:13:18 → 00:13:21 อย่างสามารถขยายตัวได้จะได้พอตัวเซลล์โดย
00:13:21 → 00:13:23 เร็วนะมันเสียหน้าที่ไปเนี่ยมันก็ไม่
00:13:23 → 00:13:25 สามารถจะสร้างการส่วนตัวมาได้หรือว่า
00:13:25 → 00:13:28 สร้างได้น้อยลงผลอย่างแรกก็คือมันจะทำให้
00:13:28 → 00:13:31 หลอดเลือดมันขยายตัวได้ไม่ดีผลอย่างที่ 2
00:13:31 → 00:13:34 ก็คือปกติการส่วนเนี้ยมันจะช่วยให้ไม่มี
00:13:34 → 00:13:37 อะไรเนี่ยมาเกาะที่ผนังเส้นเลือดได้เมื่อ
00:13:37 → 00:13:39 ตัวผนังเส้นเลือดนะครับ Toyo ที่เราเจอ
00:13:39 → 00:13:42 มันสร้างก๊าซโซลีมาน้อยเนี่ยทำให้ความ
00:13:42 → 00:13:44 ลื่นของผนังได้มันหายไปหรือจะพูดว่าผนัง
00:13:44 → 00:13:46 มันเริ่มเหนียวขึ้นก็ได้นะครับก็เริ่มมี
00:13:46 → 00:13:50 อะไรจะมาเกาะที่ผนังเส้นเลือดง่ายขึ้นที่
00:13:50 → 00:13:53 นี่ผลที่ตามมานะครับก็คือว่าให้ตรงไขมัน
00:13:53 → 00:13:57 ก็จะสามารถเข้ามาพอกมาสะสมอยู่ตรงเปลี่ยน
00:13:57 → 00:14:00 ที่มีรอยแตกรอยแยกเนี่ยได้มากขึ้นและตัว L
00:14:00 → 00:14:02 ว่าจะเข้าไปแทรกนะครับก็ต้องบอกว่ามันไม่
00:14:02 → 00:14:04 ใช่เป็นเอาเดียวที่อยู่ในสภาวะปกติด้วย
00:14:04 → 00:14:07 แต่มันเป็นอัลลีอัลที่เสียสภาพไปจะมีคำ
00:14:07 → 00:14:10 ถามว่าถือว่าทำไมเอา dl ที่เข้าไปแทรกมา
00:14:10 → 00:14:13 ถึงเสียสภาพไปคำตอบนะครับก็คือมันเกิดได้
00:14:13 → 00:14:15 จากหลายปัจจัยนะครับปัจจัยนึงก็เป็นพวก
00:14:15 → 00:14:18 สารอนุมูลอิสระต่างๆนะครับมันจะไปทำคลิป
00:14:18 → 00:14:20 ออกซิไดซ์คะก็ทำให้ตัว L มาเสี่ยงสภาพ
00:14:20 → 00:14:23 ปกติของมันไปอย่างที่ 2 ก็คือถ้าในคนที่
00:14:23 → 00:14:25 สูบบุหรี่เนี่ยตัวสารเคมีการบุหรี่ในมัน
00:14:25 → 00:14:28 ก็จะสามารถไปทำลายตัว L D เอาได้อย่าง
00:14:28 → 00:14:30 ที่ 3 นะครับก็จะเป็นอย่างกลไกของภายใน
00:14:30 → 00:14:33 ร่างกายของเราเองนะครับก็คือไม่เอาเดียว
00:14:33 → 00:14:35 เนี่ยมันแทรกก็อยู่ใต้ตัวกระเบื้องเนี่ย
00:14:35 → 00:14:37 นะครับเข้าไปแทรกเข้าไปในตรงรอยผิดเนี่ย
00:14:37 → 00:14:40 เข้าไปสะสมอยู่เนี่ยเซลล์ผมคบกันจะมองว่า
00:14:40 → 00:14:42 เขาดีเอาเดี๋ยวมันไม่ควรมาอยู่ตรงนี้มัน
00:14:42 → 00:14:46 คงจะถูกก็ถูกทำลายหรือถูกโจมตีพวกเซลล์
00:14:46 → 00:14:48 ภูมิคุ้มกันในมักจะสร้างสรรค์เค้กมาเคมี
00:14:48 → 00:14:50 ออกมานะครับเพื่อจะโจมตีพวกเรานี่เอา
00:14:50 → 00:14:52 เพื่อที่จะหาทางกำจัดพวกเรา di พรุ่งนี้
00:14:52 → 00:14:55 ซึ่งผลเนี่ยอ้ะมันไม่สามารถกำจัดไอดีออก
00:14:55 → 00:14:57 ไปได้จำจะทำให้เร็วนะมันเสียสภาพปกติของ
00:14:57 → 00:14:59 พันธุ์ไปที่นี่นะครับมาถึงจุดนี้นะครับ
00:14:59 → 00:15:03 เราขอจองเจตนาการดูนะครับว่าภายใต้คือ
00:15:03 → 00:15:05 ข้างใต้ของผนังเส้นเลือดเนี่ยมันมีอะไร
00:15:05 → 00:15:07 เข้าไปสะสมอยู่มากนะครับมีทั้ง L dl นะ
00:15:07 → 00:15:10 ครับมีทั้งตัวเซลล์ภูมิคุ้มกันนะครับที่
00:15:10 → 00:15:12 นี่เวลามองจากกล้องจุลทรรศน์มันจะเห็นมัน
00:15:12 → 00:15:14 ก็เป็นลักษณะเป็นฟองฟ้องอยู่ข้างใต้ผนัง
00:15:14 → 00:15:16 เส้นเลือดตรงนี้นะครับเขาก็เรียกกันว่า
00:15:16 → 00:15:18 เป็นโฟมเซลล์นะครับเพราะว่าโฟมคันนี้ก็
00:15:18 → 00:15:20 เหมือนโฟมล้างหน้านะครับก็ขึ้นเป็นฟอง
00:15:20 → 00:15:22 สบู่แล้วกลไกเนี่ยมันก็ไม่ได้เส้นชุดคะ
00:15:22 → 00:15:24 ตรงนี้นะครับก็คือเมื่อคับใต้มันพ่อขนาด
00:15:24 → 00:15:26 ขึ้นเรื่อยๆเนี่ยร่างกายก็พยายามที่จะ
00:15:26 → 00:15:29 เหมือนกับพยายามที่จะกลบข้างบนนะครับคือ
00:15:29 → 00:15:31 จะพูดเนี่ยจะนะการเอาชนะภาพเหมือนกันเรา
00:15:31 → 00:15:34 เพียงที่จะเอาตัวปูเนี่ยมันฉาบข้างบน
00:15:34 → 00:15:36 เพื่อจะให้มันเรียบร่างกายเราก็มีคนใจนะ
00:15:36 → 00:15:38 คะที่มันพยายามจะสร้างเสริมขึ้นมาเพื่อมา
00:15:38 → 00:15:40 ออกมาครอบตรงนี้ไว้นะเข้ามาปกคลุมตรงนี้
00:15:40 → 00:15:43 เอาไว้ทำให้บริเวณนี้นะครับเวรที่ที่เกิด
00:15:43 → 00:15:46 การเสื่อมสภาพไปเนี่ยมันค่อยนูนขึ้น
00:15:46 → 00:15:48 เรื่อยๆจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปนะครับเป็น
00:15:48 → 00:15:51 หลักเดือนเป็นปีนะครับขอไปพื้นที่รุนรู้
00:15:51 → 00:15:54 เนี่ยก็จะสูงมากขึ้นเรื่อยๆทำให้ไพรูภาย
00:15:54 → 00:15:57 ในปลอดเลือดมันจะค่อยแคบลงเรื่อยๆจากนั้น
00:15:57 → 00:15:59 ก็จะมีเรื่องของหินปูนนะครับไม่ต้อง
00:15:59 → 00:16:01 Calcium Mag น่าสะสมมากก็ได้เรื่อยๆทำ
00:16:01 → 00:16:04 ให้แบรนด์เส้นตรงนี้มันมีการแข็งขึ้นที่
00:16:04 → 00:16:06 นี้คำถามคือว่าเมื่อเส้นเลือดมันมีการ
00:16:06 → 00:16:11 แข่งตัวขึ้นเนี่ยมันมีข้อเสียอะไร
00:16:11 → 00:16:15 ก็อย่างที่เราเคยคุยกันไปในพิสูจน์กัน
00:16:15 → 00:16:18 ก่อนหน้านะครับว่าตัวเส้นเลือดจริงๆมันมี
00:16:18 → 00:16:20 ความสามารถที่จะขยายตัวได้ทั้งนั้นในช่วง
00:16:20 → 00:16:23 แรกนะครับที่มีการจัดสมของพวกให้ตักการ
00:16:23 → 00:16:26 ต่างๆนะครับมีแคลเซียมเข้าผสมมีใครมาสะสม
00:16:26 → 00:16:29 เนี้ยต่อให้ข้างในมันติดลงเนี่ยเส้นเลือด
00:16:29 → 00:16:31 เนี่ยมันก็พอจะขยายตัวได้เมื่อจะเล่นมัน
00:16:31 → 00:16:33 พอจะขยายตัวได้เนี่ยช่องว่างที่เลือดไหล
00:16:33 → 00:16:36 ผ่านเนี่ยมันก็ยังพอจะมีได้แต่ต่อมานะ
00:16:36 → 00:16:38 ครับเมื่อเส้นเลือดมันแข็งขึ้นความสามารถ
00:16:38 → 00:16:41 หรือว่าความยืนอยู่ในการที่จะขยายเนี่ยก็
00:16:41 → 00:16:45 จะหมดไปดังนั้นเนี่ยไอ้รอยตีบแคบเนี่ยมัน
00:16:45 → 00:16:48 ก็ไม่สามารถที่จะขยายไลค์อีกต่อไปผลก็คือ
00:16:48 → 00:16:51 เลื่อนมาไหลผ่านตัวเสื้อได้น้อยลงจะนี้
00:16:51 → 00:16:53 ตรงนี้ต้องบอกกันนิดนึงนะครับว่าที่เรามา
00:16:53 → 00:16:56 ทั้งหมดนะครับเรื่องของภาวะอาทิตย์ที่เรา
00:16:56 → 00:16:58 คนไทยทั้งหมดที่จนนำมาสู่ภาวะเส้นเลือด
00:16:58 → 00:17:00 แข็งเนี้ยมันไม่ได้เกิดขึ้นก็เพราะเส้น
00:17:00 → 00:17:02 เลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจอย่างเดียวนะครับทำ
00:17:02 → 00:17:04 มันเกิดขึ้นกับเส้นเลือดต้นอื่นๆด้วยเช่น
00:17:04 → 00:17:06 ขอเส้นเลือดที่เลี้ยงสมองนี่ก็เกิดภาวะ
00:17:06 → 00:17:09 นี้ได้นะครับหรือว่าเป็นเรื่องของเส้นจะ
00:17:09 → 00:17:12 เลี้ยงตามแขนขาเกิดได้นะครับทำให้สมองใน
00:17:12 → 00:17:14 ขาดเลือดได้ทำให้ฉันค้าเนี่ยมีเลือดไป
00:17:14 → 00:17:16 เลี้ยงน้อยได้แต่ถ้าหมดนี้นะครับยังไม่
00:17:16 → 00:17:20 ใช่สาเหตุที่สำคัญของการตายนะครับเพราะ
00:17:20 → 00:17:22 ว่าอะไรเพราะขั้นตอนต่างๆที่เราคุยกันมา
00:17:22 → 00:17:23 ทั้งหมดเนี่ยนะครับมันต้องใช้เวลาในการ
00:17:23 → 00:17:26 เกิดคือกว่าที่ endothelial Cell นะครับ
00:17:26 → 00:17:29 จะเริ่มเสียหน้าที่ไปนะครับกว่าที่ใครมัน
00:17:29 → 00:17:31 จะไม่ค่อยพ่อเข้าไปสะสมเรื่อยๆเนี่ยกว่า
00:17:32 → 00:17:34 ที่ตัวแคลเซียมหรือว่าจะพูดหินปูนเข้าไป
00:17:34 → 00:17:38 สะสมเนี่ยมันใช้เวลานานนานเป็นเวลากับราย
00:17:38 → 00:17:40 เดือนรายปีนะครับก็เกิดขึ้นได้น้อยๆแล้ว
00:17:40 → 00:17:42 หลายครั้งและร่างกายเราก็พยายามที่จะหา
00:17:42 → 00:17:45 วิธีแก้ไขโดยที่มันจะสามารถสร้างเส้น
00:17:45 → 00:17:47 เลือดที่มันเป็นเส้นเลือดฝอยเนี่ยเบี่ยง
00:17:47 → 00:17:50 อ้อมรอยอุดตันไปอาจจะนึกภาพนะครับของแม่
00:17:50 → 00:17:53 น้ำก็ได้นะครับที่บางครั้งเวลาเรามีอะไร
00:17:53 → 00:17:55 มาขวางในแม่น้ำเช่นมีก้อนหินก้อนใหญ่อยู่
00:17:55 → 00:17:57 เนี่ยไอ้ตัวน้ำเดี๋ยวมันจะสามารถที่จะ
00:17:57 → 00:18:00 เซาะดินส่วนอื่นเนี่ยเราก็เกิดก็ต้องทาง
00:18:00 → 00:18:03 น้ำเล็กๆน้อยๆเนี่ยพร้อมค่าบริเวณที่ติด
00:18:03 → 00:18:06 ตามไปได้อันนี้ก็เหมือนกันนะครับในร่าง
00:18:06 → 00:18:09 กายของเราแล้วไม่ค่อยมีคนใจนี้ถ้าการอุด
00:18:09 → 00:18:11 ตันของเส้นเลือดมันเกิดขึ้นช้าๆเนี่ยร่าง
00:18:11 → 00:18:14 กายก็สามารถที่จะสร้างสารนะครับให้มีการ
00:18:14 → 00:18:16 พริกเส้นเล็กๆขึ้นมาใหม่แล้วก็วิ่งอ้อม
00:18:16 → 00:18:19 จุดที่มันติดตามเนี่ยไปได้กันนั้นต่อให้
00:18:19 → 00:18:22 เส้นเลือดที่เป็นตัวเส้นเล็กหลักเนี่ยนะ
00:18:22 → 00:18:25 ครับกัปตันไปเลยนะครับถ้าเส้นเลือดฝอยที่
00:18:25 → 00:18:28 อ้อมไปในมันมีมากพอเนี่ยบริเวณส่วนปลาย
00:18:28 → 00:18:30 เนี่ยก็สามารถได้รับเลือกเนี่ยเพียงพอ
00:18:30 → 00:18:32 อยู่ดีแต่ก็จะมีในบางคนนะครับที่สุดท้าย
00:18:32 → 00:18:34 เนี่ยต่อให้สร้างเสื้อมาแล้วนะครับเลือก
00:18:34 → 00:18:36 ที่จะไปเลี้ยงส่วนปลายเนี่ยก็คือเช่นไป
00:18:36 → 00:18:38 เลี้ยงที่หัวใจเนี่ยก็จะยังไม่เพียงพอ
00:18:38 → 00:18:41 อยู่ดีก็จะเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเข้ามา
00:18:41 → 00:18:43 ได้จะได้ฟังมาถึงตรงนี้นะครับผมเชื่อว่า
00:18:43 → 00:18:46 หลายคนก็จะสงสัยจะมาทันทีว่าแล้วอย่างนี้
00:18:46 → 00:18:48 ในบางคนที่มันก็มีเสื้อติดตันขึ้นมาเนี่ย
00:18:48 → 00:18:51 เลยจะอยู่ๆเกิดจะเอาขึ้นมาจากกะทันหัน
00:18:51 → 00:18:54 แล้วต่อมาเกิดจ้าหนูก็จะตายเนี่ยมันเกิด
00:18:54 → 00:18:58 ขึ้นได้ยังไง
00:18:58 → 00:19:01 โอเคแค่นี้จะมาพูดถึงมีปรากฏการณ์นะครับ
00:19:01 → 00:19:03 หรือว่าเหตุการณ์ที่บางครั้งเนี่ยคนที่
00:19:03 → 00:19:05 เป็นโรคนี้นะครับเจริญหัวใจติดตามเนี่ย
00:19:05 → 00:19:08 เกิดเสียชีวิตกะทันหันได้แม้ว่าบางครั้ง
00:19:08 → 00:19:10 นะครับบางคนเนี่ยตัวเส้นเลือดหัวใจเนี่ย
00:19:10 → 00:19:13 มันจะมีการติดตันไม่เยอะเลยนะครับก็คือ
00:19:13 → 00:19:15 ว่าเลื่อนอย่างไรผ่านได้แต่ก็สามารถเสีย
00:19:16 → 00:19:18 ชีวิตคันทานได้มันเกิดขึ้นได้ยังไงขึ้น
00:19:18 → 00:19:20 อย่างนี้ครับที่เราคุยกันมาไม่ใช่นะครับ
00:19:20 → 00:19:22 ไอ้ตัวที่เราเรียกว่าเป็นรุ่นๆขึ้นมานะ
00:19:22 → 00:19:24 ครับที่ขึ้นมานูนขึ้นมาแล้วทำให้เส้น
00:19:24 → 00:19:27 เลือดหัวใจมันติดต่อไปเนี่ยออตัวที่มันรู
00:19:27 → 00:19:29 ด้วยเนี้ยทางภาษาการแพทย์และเราเรียกมัน
00:19:29 → 00:19:33 ว่าพลากที่นี่ตัวพลากเลยนะครับบางครั้ง
00:19:33 → 00:19:35 เนี่ยอาจจะมีเหตุอะไรก็ตามที่ใช้ทำให้ตัว
00:19:35 → 00:19:39 พลางนะมันเกิดปี่แล้วก็แตกออกมาหมายถึง
00:19:39 → 00:19:42 ว่าตัวผนังที่เซลล์ร่างกายนะพยายามที่จะ
00:19:42 → 00:19:45 ได้เคลือบอยู่ข้างบนมันเกิดติดแตกสิ่งที่
00:19:45 → 00:19:47 เกิดขึ้นตามมาก็คือว่าของที่อยู่ข้างในจะ
00:19:47 → 00:19:50 อยู่ภายใต้พลักเนี่ยมันก็จะมาสัมผัสกับ
00:19:50 → 00:19:53 เลือดถูกไหมครับแล้วในเลือดมันจะมีคนไกล
00:19:53 → 00:19:57 การแข็งตัวของเรือนอยู่ที่นี่ให้คนไกลการ
00:19:57 → 00:19:59 แข็งตัวของเลือดที่ว่าเนี่ยมันคือคนไกล
00:19:59 → 00:20:01 ปกติของร่างกายนะครับที่ทำหน้าที่ทำให้
00:20:01 → 00:20:04 เราอ่อนเลือดหยุดไหลเช่นสมมติว่าเรามีไป
00:20:04 → 00:20:06 รับบาดเจ็บมาจะเริ่มฉีดขาดเนี่ยพวกเกล็ด
00:20:06 → 00:20:08 เลือดกับพวกโปรตีนต่างๆเนี่ยมันจะทำงาน
00:20:08 → 00:20:11 ร่วมกันเป็นคนไกลที่ทำให้เลือกเดินทางตัว
00:20:11 → 00:20:13 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือตัวพวกเลื่อนจะไป
00:20:13 → 00:20:16 เพราะบริเวณที่เส้นเลือดแดงปรี๊ดแตกนะ
00:20:16 → 00:20:19 ครับมันก็เป็นการไปอุดรูรั่วเอาไว้ซึ่ง
00:20:19 → 00:20:21 กลไกนี้เป็นการที่มีประโยชน์กับร่างกายนะ
00:20:21 → 00:20:23 ครับก็คือช่วยหยุดเลือดให้เราแต่ที่เรา
00:20:23 → 00:20:25 พูดถึงกันอยู่นี้นะครับจะเป็นพูดถึงภาวะ
00:20:25 → 00:20:27 การแข็งตัวของเลือดที่เกิดขึ้นแบบผิดปกติ
00:20:27 → 00:20:31 ก็คือเมื่อตัวผลักในมันเกิดปิดแตกออกทำ
00:20:31 → 00:20:33 ให้พวกเกร็ดเลือดต่างๆมันเข้าใจผิดคิดว่า
00:20:33 → 00:20:35 เส้นเลือดมันแตกหรือว่ามีเส้นเลือดชี้ขาด
00:20:35 → 00:20:39 เกิดขึ้นพวกเลขต่างๆมึงก็พยายามที่จะโถม
00:20:39 → 00:20:41 ตัวเข้ามานะครับพอๆก็ไม่ได้เรื่อยๆเนี่ย
00:20:41 → 00:20:43 จนเกิดเป็นเลือดขึ้นมาภายในหลอดเลือด
00:20:43 → 00:20:46 ประเด็นก็คือว่ากลไกนี้นะครับเป็นการที่
00:20:46 → 00:20:48 ทำงานเร็วมากเพราะมันคนไกลที่พยายามที่จะ
00:20:48 → 00:20:51 ห้ามเลือดคือเร็วที่ว่าในเขื่อนขึ้นใน
00:20:51 → 00:20:54 หลักวินาทีดังนั้นนะครับภายในเวลาแค่ไม่
00:20:54 → 00:20:56 กี่วินาทีเนี่ยมันก็สามารถที่จะพอตัวเอง
00:20:56 → 00:20:58 ก็ไม่ได้เรื่อยๆจนกระทั่งสามารถหดเส้น
00:20:58 → 00:21:00 เลือดเช่นนั้นเนี่ยให้มันไปเลยได้มาแล้ว
00:21:00 → 00:21:02 ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เกิดภาวะกล้าม
00:21:02 → 00:21:04 เนื้อหัวใจเนี่ยมันขาดเลือดแล้วถึงขั้น
00:21:04 → 00:21:07 ที่กล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยตายได้เลยที่นี่
00:21:07 → 00:21:08 ประเด็นสำคัญก็คืออย่างที่คุยเป็นนัก
00:21:08 → 00:21:10 เรียนนะครับว่าจะเห็นว่าบางครั้งในต่อให้
00:21:10 → 00:21:13 ตัวผลักในมันเล็กอยู่นะครับว่าจะว่าตัว
00:21:13 → 00:21:15 ท่อมันคะจะไม่ได้อุดตันเราไม่ได้ติดตั้ง
00:21:15 → 00:21:17 อะไรมากเลยเนี่ยมันก็สามารถนำไปสู่ภาวะ
00:21:17 → 00:21:20 เส้นเลือดอุดตันอย่างเช่นพลาเนี่ยได้
00:21:20 → 00:21:22 เหมือนกันแล้วก็ทำให้เสียชีวิตได้ดังนั้น
00:21:22 → 00:21:24 นะครับคำถามสำคัญมากเลยนะครับก็คือว่า
00:21:24 → 00:21:27 อะไรที่เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ตัวพลาด
00:21:27 → 00:21:31 เนี่ยมันเกิดปิรับแต่ของมาแบบนี้ได้คำตอบ
00:21:31 → 00:21:33 ก็คือภาวะการเกษตรในเลือดดังนั้นนะครับ
00:21:33 → 00:21:36 ถ้าใครก็ตามนะครับที่มีภาวะพักอยู่นะครับ
00:21:36 → 00:21:38 แล้วก็มีภาวะการเกษตรในเรื่อยๆร่วมด้วย
00:21:38 → 00:21:41 เนี่ยความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะอันนี้ก็จะ
00:21:41 → 00:21:43 สูงมากขึ้นสำหรับเรื่องของภาวะการเกษตรใน
00:21:43 → 00:21:45 เลื่อนนะครับอย่างที่เล่าให้ฟังนะครับเรา
00:21:45 → 00:21:47 เคยคุยกันไปแล้วตอนที่เราคือเรื่องของ
00:21:47 → 00:21:49 ภูมิคุ้มกันนะครับถ้าใครสนใจสามารถย้อน
00:21:49 → 00:21:51 กลับไปดูได้นะครับแต่ตรงนี้ผมจะส่งให้ฟัง
00:21:51 → 00:21:53 ย่อนะครับว่าสิ่งที่ทำให้เกิดภาวะการ
00:21:53 → 00:21:55 เกษตรในเรื่องเนี่ยมันมีอยู่หลายอย่าง
00:21:55 → 00:21:57 ด้วยกันนะครับเช่นเรื่องของการกินเนื้อ
00:21:57 → 00:22:00 แดงนะครับดื่มเหล้าสูบบุหรี่นะครับหนูขอ
00:22:00 → 00:22:02 เรื่องของการอดนอนนะครับเรื่องของความ
00:22:02 → 00:22:05 เครียดนะครับส่วนการลดภาวะการเกษตรที่ดี
00:22:05 → 00:22:07 มากๆนะครับก็จะมีเรื่องของการเช่นขอ
00:22:07 → 00:22:09 เรื่องของการกินผักผลไม้นะครับเรื่องของ
00:22:09 → 00:22:11 น้ำมันปลานะครับเรื่องของการออกกำลังกาย
00:22:11 → 00:22:14 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่สำคัญ
00:22:14 → 00:22:17 มากกับคนที่มีขอเริ่มมีพลาดนะครับและมี
00:22:17 → 00:22:21 เส้นเลือดหัวใจติดตัน
00:22:21 → 00:22:24 เท่านี้เราจะดูเรื่องของอาการกันบ้างนะ
00:22:24 → 00:22:26 ครับว่าถ้าหัวใจนะครับขาดเลือดนะครับหรือ
00:22:26 → 00:22:29 ได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอเนี่ยมันจะ
00:22:29 → 00:22:32 มีอาการอะไรบ้างสำหรับอาการของหัวใจขาด
00:22:32 → 00:22:36 เลือดนะครับที่อยากจะให้จำได้นะครับหรือ
00:22:36 → 00:22:39 ว่านึกถึงไว้นะครับจะมีอยู่ไหมครับ 4 ข้อ
00:22:39 → 00:22:41 ด้วยกันนะครับหรือจะรู้ว่าเป็น 4 สัญญาณ
00:22:41 → 00:22:43 สำคัญก็ได้นะครับและก็คือเรื่องของอาการ
00:22:43 → 00:22:46 แน่นหน้าอกนะครับคนที่ผมจะท่าเรือในเขาจะ
00:22:46 → 00:22:48 บรรยายว่ามีอาการแน่นหน้าอกและอาการแน่น
00:22:48 → 00:22:51 เนี่ยมันจะไม่ใช่เป็นแค่นั้นเหมือนเราจุก
00:22:51 → 00:22:53 เสียดแน่นท้องธรรมดานี่หน่อยนะครับเพราะ
00:22:53 → 00:22:55 ว่าผู้ป่วยชนในใจที่บายว่าเหมือนกับ
00:22:55 → 00:22:58 บรรยายว่ามากันแน่นนะครับมีช้างเลยมานั่ง
00:22:58 → 00:23:00 ทับอยู่บนหน้าอกหรือบางคนบรรยายว่ามันตี
00:23:00 → 00:23:04 สิบล้อเนี่ยมักจะทับอยู่บนหน้าอกจะได้จุด
00:23:04 → 00:23:06 สังเกตคือความรุนแรงของมันเนี่ยคือการที่
00:23:06 → 00:23:08 เราบรรยายวัดช้างให้นั่งทับหรือว่าสิบล้อ
00:23:08 → 00:23:11 มานั้นคำเนี่ยมันต้องไม่ธรรมดาถูกไม่เข้า
00:23:11 → 00:23:13 มันก็ไม่ใช่อาการทั่วๆไปที่เรารู้สึกกัน
00:23:13 → 00:23:15 ต่อในชุดประจำวันหรือว่าจุกเสียดแน่นท้อง
00:23:15 → 00:23:18 ธรรมดามันคงจะเป็นการแน่นปรับพิเศษที่ไม่
00:23:18 → 00:23:21 เคยรู้สรรพากรในชีวิตอย่างที่ 2 นะครับก็
00:23:21 → 00:23:25 คือว่าอาการแน่นเนี่ยมันมักจะนานนะครับก็
00:23:25 → 00:23:27 คืออย่างน้อยก็ประมาณ 15 นาทีหรือ 20
00:23:27 → 00:23:30 นาทีขึ้นไปมันจะไม่ใช่แค่ 1 วินาทีสอง
00:23:30 → 00:23:32 วินาทีนะครับแล้วต้องดูจากนี้สังเกตอยู่
00:23:32 → 00:23:35 อย่างหนึ่งคืออาการจะไม่เป็นลักษณะดับ
00:23:35 → 00:23:37 เจ็บจี๊ดๆๆเหมือนที่หลายคนรู้สึกนะครับ
00:23:37 → 00:23:40 ขึ้นมาแบบชั่วคราวนะครับแค่ 1-2 วินาที
00:23:40 → 00:23:43 ซึ่งอาการเจ็บจี๊ดๆแป๊บๆหรือว่าจะต่างกัน
00:23:43 → 00:23:45 หายใจในบางครั้งมันเป็นจากการพวกการ
00:23:45 → 00:23:47 อักเสบนะครับหรือการว่ามันเจ็บแถวซี่โครง
00:23:47 → 00:23:49 แล้วกล้ามเนื้อที่อยู่ระหว่างที่โครง
00:23:49 → 00:23:51 สัญญาณที่ 2 นะครับหรือว่าลักษณะที่ 2
00:23:51 → 00:23:54 ที่อยากให้สังเกตนะครับก็คือว่าอาการปวด
00:23:54 → 00:23:57 แน่นนะครับก็มันจะปวดหน้าตัวแถวเบลลินปี
00:23:57 → 00:24:00 นะครับหลายคนเนี่ยจะมีการไหมครับร้าวทาง
00:24:00 → 00:24:02 ด้านซ้ายนะครับขึ้นมาที่บริเวณคอด้านซ้าย
00:24:02 → 00:24:05 มาที่กลางด้านซ้ายเรือจะไปที่หัวไหล่หรือ
00:24:05 → 00:24:07 พื้นที่บริเวณต้นแขนส่วนคำอธิบายนะครับ
00:24:07 → 00:24:10 ว่าทำไมอาการที่เกิดจากหัวใจชื่อตรงกลาง
00:24:10 → 00:24:12 หน้าอกเนี่ยมันสามารถที่จะร้าวหรือว่า
00:24:12 → 00:24:15 เดินทางตอบที่ทางด้านหน้าที่คอที่คราวว่า
00:24:15 → 00:24:18 ที่ปลายท้ายเนี่ยมันจะเกิดจากการที่เส้น
00:24:18 → 00:24:21 ประสาทที่ไปเลี้ยงแถวๆหัวใจเนี่ยหรือเรา
00:24:21 → 00:24:23 ความรู้สึกมาจากหัวใจเนี่ยมันแชร์นะครับ
00:24:23 → 00:24:25 หรือเรียกว่าเป็นแขนงร่วมกับเส้นประสาท
00:24:25 → 00:24:28 ที่มาเลี้ยงแถวๆคอด้านซ้ายที่กรามแล้วว่า
00:24:28 → 00:24:31 ที่แถวๆอ๋อไหล่ซ้ายหรือต้นแขนซ้ายด้วย
00:24:31 → 00:24:34 ซึ่งภาษาทางการแพทย์เรือเราจะเรียกลักษณะ
00:24:34 → 00:24:37 การที่ออราลแบบนี้ว่าลูซีเฟอร์เพนะครับ
00:24:37 → 00:24:39 อาการที่สามนะครับหรือสัญญาณที่สามที่
00:24:39 → 00:24:42 อยากให้นึกถึงเอาไว้นะครับก็คือว่าหลายคน
00:24:42 → 00:24:45 นอกเหนือจากการแน่นหน้าอกจะมีลักษณะที่
00:24:45 → 00:24:47 เหมือนกับเหยื่อแตกนะครับทั่วตัวนะครับ
00:24:47 → 00:24:50 มันก็เหมือตัดภาคเลยเนี่ยร่วมด้วยนะครับ
00:24:50 → 00:24:52 บางคนหลายคนน่าจะรู้สึกมันก็มีใจสั่น
00:24:52 → 00:24:55 เหมือนไปออกกำลังกายไปวิ่งมาเนี่ยจนทั้ง
00:24:55 → 00:24:57 ใจสั่นและกันเหงื่อท่วมตัวอาการที่ 4 นะ
00:24:57 → 00:24:59 ครับหรือสัญญาณที่ 4 ที่อยากให้เลือกไว้
00:24:59 → 00:25:01 นะครับก็คือว่าตัวละครเนี่ยจะไม่มีอาการ
00:25:01 → 00:25:04 เจ็บแล้วว่านั้นออกนะครับขึ้นอย่างนี้
00:25:04 → 00:25:06 ครับต้องบอกว่าเหมือนจะคุยก่อนหน้านะครับ
00:25:06 → 00:25:10 โรคเบาหวานเป็นโรคหนึ่งที่เป็นความเสี่ยง
00:25:10 → 00:25:13 สำคัญของการเกิดโรคนี้ที่นี่ผลข้างเคียง
00:25:13 → 00:25:14 อย่างนึงนะครับหรือผลแทรกซ้อนอย่างหนึ่ง
00:25:14 → 00:25:16 ของโรคเบาหวานก็คือมันจะทำให้เส้นประสาท
00:25:16 → 00:25:19 เนี้ยเสียการทำงานไปทำให้เรามีอาการชาตาม
00:25:19 → 00:25:22 ปลายมือปลายเท้าที่นี่ในบางคนนะครับอาการ
00:25:22 → 00:25:24 ชานันท์เกิดขึ้นกับเส้นประสาทที่มาเลี้ยง
00:25:24 → 00:25:26 หัวใจหรือว่ารับความรู้สึกเจ็บปวดจากหัว
00:25:26 → 00:25:29 ใจทำให้คนเหล่านี้เนี่ยไม่รู้สึกอาการ
00:25:29 → 00:25:31 เจ็บหน้าอกขึ้นมาแต่ก็เรานี้นะครับก็จะมา
00:25:31 → 00:25:34 บรรยายด้วยการขออาการอื่นนะครับเช่นอาจจะ
00:25:34 → 00:25:36 บนบอกว่าเป็นเรื่องของหน้ามืดเป็นลมก็ได้
00:25:36 → 00:25:39 นะครับหรือว่าอ่อรู้สึกเหมือนกับหายใจไม่
00:25:39 → 00:25:42 สะดวกนะครับหายใจเข้าหายใจไม่เต็มอิ่มอัน
00:25:42 → 00:25:45 นี้ก็เป็นไปได้นะครับโดยเฉพาะคนที่เป็น
00:25:45 → 00:25:48 โรคเบาหวานที่น้ำตาลคุมได้ไม่ค่อยดีแล้ว 4
00:25:48 → 00:25:50 ลักษณะนี้นะครับก็คืออาการว่าลักษณะสำคัญ
00:25:50 → 00:25:52 นะครับที่อยากเหมือนกับให้ระลึกไว้ใจนะ
00:25:52 → 00:25:54 ครับถ้ามีอาการเหล่านี้เราไม่แน่ใจเนี่ย
00:25:54 → 00:25:57 ก็ควรจะรีบไปโรงพยาบาลแล้วก็บ่อนี้นะครับ
00:25:57 → 00:26:00 ก็คือผ้าบางๆนะครับของโรคเฉลยใจติดนะครับ
00:26:00 → 00:26:03 อยากจะเล่าให้ฟังนะครับคิดว่าอ่อน่าจะพอ
00:26:03 → 00:26:05 เห็นภาพแล้วนะครับว่าให้โรงเรียนมันเกิด
00:26:05 → 00:26:07 ขึ้นได้ยังไงนะครับถ้ากล้ามเนื้อหัวใจที่
00:26:07 → 00:26:10 ตายในมันมีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนะครับหัวใจ
00:26:10 → 00:26:12 ในก็ยังพอจะเต้นต่อไม่ได้นะเพราะจะมีปั้ม
00:26:12 → 00:26:14 เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้แต่
00:26:14 → 00:26:16 ถ้ากล้ามเนื้อหัวใจที่ตายเนี่ยมันกินพื้น
00:26:16 → 00:26:19 ที่กว้างมากเนี่ยมันอาจจะไปกระทบเรามีผล
00:26:19 → 00:26:22 เสียต่อการทำงานของคนใจได้ซึ่งก็จะนำไป
00:26:22 → 00:26:24 สู่ภาวะที่เราจะคุยกันต่อในปีโสดหน้านะ
00:26:24 → 00:26:27 ครับก็คือเรื่องของภาวะหัวใจวายสำหรับวัน
00:26:27 → 00:26:29 นี้นะครับผมก็จะขอเบรกเรื่องไว้ตรงนี้นะ
00:26:29 → 00:26:32 ครับขอจบที่สุดในตรงนี้นะครับแล้วก็จะจาก
00:26:32 → 00:26:34 กันไปก็เช่นเคยนะครับก็อยากจะฝานะครับถ้า
00:26:34 → 00:26:37 ใครชอบสิ่งที่เล่าให้ฟังนะครับชอบ Content
00:26:37 → 00:26:39 แบบนี้นะครับและอยากเป็นกำลังใจให้นะครับ
00:26:39 → 00:26:42 ง่ายก็กดไลค์กดแชร์นะครับกด Subscribe นะ
00:26:42 → 00:26:44 ครับแล้วก็กดกระดิ่งให้ด้วยนะครับก็เตือน
00:26:44 → 00:26:46 พรุ่งนี้พี่โสดมาจะได้แจ้งให้ทราบนะครับ
00:26:46 → 00:26:49 ชนะวันนี้ผมก็ขอลาไปก่อนนะครับเรามาเจอ
00:26:49 → 00:26:52 กันใหม่ในที่โซนหน้าครับสวัสดีครับ
00:26:52 → 00:27:00 [เพลง]
00:27:00 → 00:27:03 พ.ย