00:00:03 → 00:00:06 ได้เตรียม

00:00:06 → 00:00:08 [เพลง]

00:00:08 → 00:00:11 ปัง for Health

00:00:11 → 00:00:14 รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราวของสุขภาพ

00:00:14 → 00:00:17 และแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์ผู้เชี่ยว

00:00:17 → 00:00:20 ชาญในสาขาต่างๆของคณะแพทยศาสตร์

00:00:20 → 00:00:24 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

00:00:24 → 00:00:30 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา

00:00:30 → 00:00:33 สวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง for

00:00:33 → 00:00:36 Health podcast อยู่กับดิฉันฟ้า

00:00:36 → 00:00:38 ธัญลักษณ์สุดสวยนักประชาสัมพันธ์คณะ

00:00:38 → 00:00:42 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้ฟังทุก

00:00:42 → 00:00:44 ท่านคะปัญหาทางสุขภาพจิตถือเป็นอุปสรรค

00:00:45 → 00:00:47 สำคัญในการดำเนินชีวิตในสังคมให้มีความ

00:00:47 → 00:00:49 สุขปัญหาทางสุขภาพจิตเหล่านี้นะคะแสดง

00:00:49 → 00:00:53 อาการทั้งทางจิตใจและทางร่างกายวันนี้ค่ะ

00:00:53 → 00:00:56 จึงนำเรื่องนี้มาพูดคุยกันมาทำความรู้จัก

00:00:56 → 00:00:58 ว่าโรคทางจิตเวชหรืออาการป่วยทางจิตคือ

00:00:58 → 00:01:02 อะไรโรคทางจิตเวชมีอะไรบ้างที่พบได้บ่อย

00:01:02 → 00:01:05 รวมถึงการป้องกันค่ะเราสามารถป้องกันได้

00:01:05 → 00:01:09 ไหมให้เราห่างไกลจากการป่วยทางจิตซึ่งผู้

00:01:09 → 00:01:11 ที่จะมาให้ข้อมูลในวันนี้นะคะท่านก็พร้อม

00:01:11 → 00:01:14 ที่จะพูดคุยกับผู้ฟังทุกท่านแล้วค่ะขอ

00:01:14 → 00:01:15 ต้อนรับผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง

00:01:15 → 00:01:19 นันทพรการะเวกปัญญาวงศ์อาจารย์ประจำภาค

00:01:19 → 00:01:21 วิชาจิตเวชศาสตร์คณะแพทยศาสตร์

00:01:21 → 00:01:25 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะสวัสดีค่ะสวัสดี

00:01:25 → 00:01:28 ค่ะอาจารย์หมอคะเรื่องของโรคทางจิตเวชค่ะ

00:01:28 → 00:01:30 วันนี้เหมือนเราได้มานั่งคุยระบบจิตแพทย์

00:01:30 → 00:01:33 กันเลยนะคะช่วยผู้ฟังหลายท่านมีคำถามหลาก

00:01:33 → 00:01:37 หลายที่อยากจะถามอยากจะพูดคุยก็ไปหาข้อ

00:01:37 → 00:01:40 มูลจากทางโซเชียลนะคะหลายๆคอมเมนต์ที่ถาม

00:01:40 → 00:01:42 กันเข้ามาค่ะเกี่ยวกับเรื่องของโรคทาง

00:01:42 → 00:01:45 จิตเวชก่อนอื่นโรคทางจิตเวชหรืออาการป่วย

00:01:45 → 00:01:49 ทางจิตคืออะไรคะโรคทางจิตเวชเนี่ยค่ะมัน

00:01:49 → 00:01:52 จะเป็นความผิดปกติของความคิดก็ได้ของ

00:01:52 → 00:01:56 อารมณ์ก็ได้ของพฤติกรรมก็ได้หรือว่าจะ

00:01:56 → 00:01:59 เป็นการตอบสนองทางร่างกายก็ได้ซึ่งการที่

00:01:59 → 00:02:02 เราเรียกว่ามันผิดปกติอ่ะค่ะคือมันอาจจะ

00:02:02 → 00:02:06 ต้องทำให้คนๆนั้นรู้สึกทุกข์ทรมานกับ

00:02:06 → 00:02:09 ประการที่เป็นหรือว่ารู้สึกว่าอาการนั้น

00:02:09 → 00:02:13 มันส่งผลกระทบต่อการทำงานการใช้ชีวิตหรือ

00:02:13 → 00:02:16 ว่าสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นๆอย่างเงี้ยค่ะ

00:02:16 → 00:02:19 แล้วสำหรับโรคทางจิตเวชเนี่ยค่ะสาเหตุมัน

00:02:19 → 00:02:22 เกิดจากอะไรได้บ้างค่ะพลอยทั้งร้อยนะคะ

00:02:22 → 00:02:25 โรคทางจิตเวชเกือบทั้งหมดอธิบายว่าสาเหตุ

00:02:25 → 00:02:29 เนี่ยจะเกิดจากหลายสาเหตุร่วมกันจะไม่มี

00:02:29 → 00:02:32 แบบปัจจัยเดียวที่จะทำให้เกิดโรคทาง

00:02:32 → 00:02:35 จิตเวชได้ค่ะสาเหตุหลายๆปัจจัยร่วมกันถ้า

00:02:35 → 00:02:38 แบ่งง่ายๆก็เป็นสาเหตุทางกายทางจิตใจแล้ว

00:02:39 → 00:02:42 ก็สังคมสาเหตุทางกายก็อย่างเช่นพันธุกรรม

00:02:42 → 00:02:45 เป็นโรคทางสมองหรือว่าเป็นโรคประจำตัว

00:02:45 → 00:02:48 อะไรอย่างนี้ค่ะหรือว่ามีการใช้ยาหรือสาร

00:02:48 → 00:02:51 เสพติดที่ส่งผลกระทบกับการทำงานของสมอง

00:02:51 → 00:02:54 อันนี้คือสาเหตุทางกายอันที่ 2 สาเหตุทาง

00:02:54 → 00:02:58 จิตใจก็อย่างเช่นบุคลิกภาพเดิมนะคะการแก้

00:02:58 → 00:03:02 ปัญหาว่าแบบผ่านการแก้ปัญหามามากน้อยแค่

00:03:02 → 00:03:05 ไหนมีวิธีการรับมือกับปัญหาต่างๆมากน้อย

00:03:05 → 00:03:09 แค่ไหนคะสมมติว่าไปเจอเหตุการณ์ที่แต่

00:03:09 → 00:03:11 ก่อนเนี่ยก็เคยแบบแก้ไขปัญหามาดีมากเลยนะ

00:03:11 → 00:03:14 แต่ว่าพอมาอยู่วันนึงเจอเหตุการณ์ที่ไม่

00:03:14 → 00:03:17 เคยเจอมาก่อนไม่รู้ว่าจะดีลกับเรื่องนี้

00:03:17 → 00:03:20 ยังไงก็ไปไม่เป็นได้เหมือนกันอย่างเงี้ย

00:03:20 → 00:03:22 ค่ะเหมือนกันที่วันใดวันนึงเราอาจจะมี

00:03:22 → 00:03:25 ความรู้สึกนั้นขึ้นมาสุดท้ายคือปัจจัยทาง

00:03:25 → 00:03:30 สังคมค่ะเช่นเศรษฐกิจเนาะการเมือง

00:03:30 → 00:03:33 นะคะหรือมลภาวะอะไรต่างๆก็เป็นปัจจัยทาง

00:03:33 → 00:03:36 สังคมเรียกได้ว่าใช่ที่หลีกเลี่ยงได้ยา

00:03:36 → 00:03:40 ที่ก็จะมีผลต่อการเกิดโรคได้หมดเลยค่ะ

00:03:40 → 00:03:43 สำหรับโรคทางจิตเวชค่ะมีกี่ประเภทแบ่งออก

00:03:43 → 00:03:47 เป็นอะไรบ้างค่ะจริงๆถ้าเกิดว่าแบ่งตาม

00:03:47 → 00:03:50 เกณฑ์การวินิจฉัยหรือว่าการจำแนกโรคที่

00:03:50 → 00:03:55 เราใช้กันของอเมริกานะคะแบ่งเป็น 20 กว่า

00:03:55 → 00:03:57 ชนิดเลยเป็น 20 กลุ่มเลยอย่างนี้ค่ะเยอะ

00:03:57 → 00:04:00 มากค่ะแต่ว่าถ้าเกิดแบ่งแบบง่ายๆเพื่อให้

00:04:00 → 00:04:03 เข้าใจง่ายๆส่วนใหญ่หมอก็จะดูตามว่าโอเค

00:04:03 → 00:04:05 เป็นกลุ่มความผิดปกติของอารมณ์เป็นกลุ่ม

00:04:05 → 00:04:08 ความปกติของความคิดหรือว่าเป็นกลุ่มความ

00:04:08 → 00:04:11 ผิดปกติของพฤติกรรมอะไรอย่างนี้ค่ะสำหรับ

00:04:11 → 00:04:15 อาการค่ะเราจะรู้ตัวได้ยังไงอ่ะคะว่าเรา

00:04:15 → 00:04:17 หรือว่าคนรอบข้างเราเนี่ยเป็นโรคทาง

00:04:18 → 00:04:21 จิตเวชค่ะอาจารย์หมอก่อนอื่นนะคะการที่

00:04:21 → 00:04:23 เราจะรู้ตัวเราอาจจะต้องรู้จักสังเกตนะคะ

00:04:23 → 00:04:26 สังเกตตัวเองเนี่ยชัดที่สุดตอนนี้อารมณ์

00:04:26 → 00:04:28 ของเราเนี่ยมันเป็นไปตามที่เราเคยเป็น

00:04:28 → 00:04:32 หรือเปล่านะคะมีการออนวัยง่าย sensitive

00:04:32 → 00:04:35 ง่ายหงุดหงิดง่ายเศร้าง่ายหรือว่ามีความ

00:04:35 → 00:04:38 สุขได้ยากขึ้นหรือเปล่าอย่างเงี้ยค่ะอัน

00:04:38 → 00:04:40 นี้คือสังเกตตัวเองเพราะคนอื่นไม่มาเห็น

00:04:40 → 00:04:45 กับเรานอกจากว่าคือเราเราไปเผยเค้าเรียก

00:04:45 → 00:04:49 ว่ายังไงเราไปปล่อยปล่อยอารมณ์ใช่มั้ยคะ

00:04:49 → 00:04:52 ใช่ค่ะคนอื่นก็จะรู้ได้ว่าเอออารมณ์เธอดู

00:04:52 → 00:04:54 ไม่ปกตินะอะไรอย่างเงี้ยค่ะแต่ถ้าเราไม่

00:04:54 → 00:04:57 สังเกตตัวเองถึงคนอื่นดูแล้วทักเราแล้ว

00:04:57 → 00:05:00 เราก็ก้าวแรกเราไม่ได้โกรธ

00:05:00 → 00:05:03 เราไม่ได้โกรธเลยทุกคนทั้งห้องรู้หมดแล้ว

00:05:03 → 00:05:05 ว่าเธอโกรธอะไรประมาณนี้เพราะฉะนั้น

00:05:05 → 00:05:08 สังเกตตัวเองง่ายที่สุดค่ะ

00:05:08 → 00:05:11 สำหรับในประเทศไทยเราค่ะโรคทางจิตเวชอะไร

00:05:12 → 00:05:15 ที่พบได้บ่อยที่สุดคะจริงๆที่พบได้บ่อย

00:05:15 → 00:05:17 มากที่สุด

00:05:17 → 00:05:20 เอาตัวเลขก็ไม่ค่อยแน่ใจชัดเจนนะคะแต่ว่า

00:05:20 → 00:05:23 ที่เจอได้เยอะเนี่ยก็จะมีโรคซึมเศร้านะคะ

00:05:23 → 00:05:26 โรคจิตเภทแล้วก็โรคกลุ่มวิตกกังวลแต่ว่า

00:05:26 → 00:05:29 บางทีเนี่ยมันจะไม่ได้มาเดี๋ยวเดียวก็คือ

00:05:29 → 00:05:34 มาร่วมกันแล้วก็ที่มันส่งผลต่อสุขภาพของ

00:05:34 → 00:05:37 คนไทยเยอะก็จะเป็นโรคจิตเภทกับการใช้สาร

00:05:37 → 00:05:40 เสพติดโดยเฉพาะแอลกอฮอล์สำหรับรายละเอียด

00:05:40 → 00:05:43 นะคะอย่างโรคจิตเภทอย่างเงี้ยจริงๆแล้ว

00:05:43 → 00:05:46 มันก็จะคล้ายๆกับโลกที่เรารู้จักว่า

00:05:46 → 00:05:49 เหมือนเป็นคนบ้าใช่ไหมคะก็คือมีการรับรู้

00:05:49 → 00:05:52 ไม่ตรงกับความเป็นจริงแต่ว่าการรับรู้ไม่

00:05:52 → 00:05:55 ตรงความจริงหรือโลกแบบนี้มันมันดูเห็นชัด

00:05:55 → 00:05:57 อ่ะค่ะแต่มันอาจจะไม่ได้ทั้งหมดของโลกทาง

00:05:57 → 00:06:00 จิตวิทยา

00:06:00 → 00:06:03 อีกอันนึงที่เป็นโรคเกี่ยวกับสารเสพติดก็

00:06:03 → 00:06:06 เป็นหนึ่งติดสารเสพติดเลยชัดเจนเลยค่ะ

00:06:06 → 00:06:10 หรือ 2 เป็นภาวะที่เกิดจากการใช้สารเสพ

00:06:10 → 00:06:13 ติดไม่ว่าจะเป็นการภาวะเป็นพิษของสารภาวะ

00:06:13 → 00:06:16 ถอนศาลหรือเสพสารแล้วทำให้เกิดโรคทาง

00:06:16 → 00:06:19 จิตเวชอื่นๆตามมาค่ะเนื่องจากมันกว้างมาก

00:06:19 → 00:06:22 นะคะแล้วก็ประเทศไทยเราก็ชุกชุมที่

00:06:22 → 00:06:24 อาจารย์หมอกล่าวออกมาเนี่ยมีตัวอย่างให้

00:06:24 → 00:06:28 เห็นมีคนไข้จริงๆนะคะสองโลกนี้เนี่ยจริงๆ

00:06:28 → 00:06:32 อาจจะจำนวนไม่ได้เยอะแต่มันส่งผลกระทบกับ

00:06:32 → 00:06:35 สังคมเป็นวงกว้างเขาก็เลยบอกว่า 2 โลกนี้

00:06:35 → 00:06:39 มันส่งผลกับสุขภาวะของคนเยอะอย่างเงี้ย

00:06:39 → 00:06:41 ค่ะคือเป็นทีแล้วลำบาก

00:06:41 → 00:06:45 อาจจะเป็นการหาทางออกให้ตัวเองโดยการอาจ

00:06:45 → 00:06:48 จะเอาสารเสพติดมาใช้หรือเปล่าในระยะแรกนะ

00:06:48 → 00:06:53 คะแล้วก็ส่งผลมาเป็นจนถึงรุนแรงมากขึ้น

00:06:53 → 00:06:57 มีแบบกรณีแบบนั้นก็เยอะอยู่เหมือนกันค่ะ

00:06:57 → 00:07:00 ขอยกอีก 1 อีก 1 เรื่องนะคะปัญหาเรื่อง

00:07:00 → 00:07:02 ของโรคซึมเศร้าค่ะอย่าให้อาจารย์หมอช่วย

00:07:02 → 00:07:05 เล่าให้กับผู้ฟังหลายท่านที่อาจจะกำลัง

00:07:05 → 00:07:07 ประเมินความรู้สึกอารมณ์ตัวเองอยู่ว่า

00:07:07 → 00:07:11 ต้องเศร้าขนาดไหนถึงเรียกว่าตรงนี้คือโรค

00:07:11 → 00:07:14 ซึมเศร้าค่ะเกณฑ์เดียวกันกับความเป็นโรค

00:07:14 → 00:07:18 ทางจิตเวชเลยค่ะอย่างที่บอกว่าโรคทาง

00:07:18 → 00:07:20 จิตเวชคือความผิดปกติของอารมณ์ถูกไหมคะ

00:07:20 → 00:07:23 หนึ่งในความกุฏิของอารมณ์ก็จะเป็นซึม

00:07:23 → 00:07:24 เศร้า

00:07:24 → 00:07:27 ซึ่งถ้าเกิดเศร้าจนทำให้เจ้าตัวทุกข์

00:07:27 → 00:07:32 ทรมานหรือส่งผลต่อการทำงานการเข้าสังคม

00:07:32 → 00:07:35 หรือว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นเช่นพอ

00:07:35 → 00:07:38 เศร้าและเริ่มไม่อยากคุยกับใครเริ่มถอย

00:07:38 → 00:07:40 ห่างจากเพื่อนอันนี้ก็เริ่มและเริ่มบอก

00:07:40 → 00:07:43 แล้วมันเกินเบอร์อย่างเงี้ยค่ะหรืออีกอัน

00:07:43 → 00:07:46 นึงคือมันเกินกว่าเหตุจากที่เคยเจอเรื่อง

00:07:46 → 00:07:48 เนี้ยแต่ก่อนมันไม่ได้เศร้าขนาดเนี้ยทำไม

00:07:48 → 00:07:51 ตอนนี้มันเศร้าจังอันนี้คือเกินกว่าเหตุ

00:07:51 → 00:07:54 หรือยาวนานกว่าที่มันควรจะเป็นอย่างเงี้ย

00:07:54 → 00:07:55 ค่ะอืม

00:07:55 → 00:07:58 อันนี้ก็จะเป็นอาการที่สังเกตง่ายๆว่า

00:07:58 → 00:08:01 ความเศร้านี้น่าจะเกินเบอร์แล้วหลายคนที่

00:08:01 → 00:08:03 กำลังฟัง podcast อยู่อาจจะมีความรู้สึก

00:08:03 → 00:08:05 ว่าฉันอยู่ในจุดเกินเบอร์แล้วค่ะอาจารย์

00:08:06 → 00:08:09 หมอคะอาการที่คุณหมอได้กล่าวมาเนี่ยมัน

00:08:09 → 00:08:13 เข้าข่ายแล้วอ่ะค่ะตรงนี้จะป้องกันก็ไม่

00:08:13 → 00:08:16 ได้แล้วเราควรจะรักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง

00:08:16 → 00:08:17 ค่ะ

00:08:17 → 00:08:20 ถ้าเป็นซึมเศร้าใช่ไหมคะถ้าเป็นซึมเศร้า

00:08:20 → 00:08:23 วิธีการรักษาเนี่ยมันจะมี 2 อย่างด้วยกัน

00:08:23 → 00:08:26 คือรักษาด้วยการใช้ยาแล้วก็รักษาโดยการ

00:08:26 → 00:08:29 ไม่ใช้ยากวนไหมคะมันก็ตรงตัวนะคะอาจารย์

00:08:29 → 00:08:32 หมอค่ะก็ใช้ยากับไม่ใช้ยาเลยการที่ไม่ใช้

00:08:32 → 00:08:35 ยาเนี่ยก็คือการรักษาโดยการทำจิตบำบัดการ

00:08:35 → 00:08:38 พูดคุยให้คำปรึกษาต่างๆหรือการปรับความ

00:08:38 → 00:08:41 คิดปรับพฤติกรรมเพื่อให้อารมณ์ดีขึ้นอะไร

00:08:41 → 00:08:44 อย่างนี้ค่ะโดยทั่วไปแล้วเราแนะนำให้ทำ 2

00:08:44 → 00:08:47 วิธีคู่กันจะได้ผลดีที่สุดใช่ค่ะใครหลาย

00:08:47 → 00:08:50 คนอาจจะมองว่าไม่จำเป็นต้องใช้ยาจริงๆ

00:08:50 → 00:08:53 แล้วอาจจะจำเป็นก็ได้นะคะใช่ค่ะจำเป็น

00:08:53 → 00:08:55 ทั้งหมดทั้งมวลอาจจะประเมินตัวเองไม่ได้

00:08:55 → 00:08:57 ค่ะอาจารย์หมอคะเราไม่สามารถนั่งประเมิน

00:08:57 → 00:09:00 ตัวเองว่าตอนนี้ฉันอยู่ในขั้นไหนถ้าเรา

00:09:00 → 00:09:04 ได้พูดคุยกับใครสักคนนึงหรือจิตแพทย์ก็จะ

00:09:04 → 00:09:07 ชัดเจนมากขึ้นเลยว่าเราอยู่ในขั้นไหนนะคะ

00:09:07 → 00:09:09 ซึ่งเดี๋ยวนี้เนี่ยทางกรมสุขภาพจิตผลิต

00:09:09 → 00:09:13 แอปขึ้นมาค่ะเป็นตรวจสุขภาพใจนะคะซึ่งถ้า

00:09:13 → 00:09:15 เกิดเข้าไปในแอปหมอพร้อมอ่ะค่ะมันก็จะมี

00:09:15 → 00:09:18 ให้กดเข้าไปประเมินตัวเองได้แล้วก็มีผล

00:09:18 → 00:09:21 บอกเราด้วยว่าคุณเสี่ยงแล้วนะคุณต้องเจอ

00:09:21 → 00:09:23 จิตแพทย์แล้วนะอะไรอย่างนี้ค่ะเป็น

00:09:23 → 00:09:27 อุปกรณ์นึงค่ะเข้าถึงง่ายๆใช่ค่ะเชื่อว่า

00:09:27 → 00:09:30 หลายคนที่ลังเลอยู่ในใจมีตอบคำถามตัวเอง

00:09:30 → 00:09:33 ได้ไม่ชัดเจนนะคะลองไปโหลดแอปพลิเคชันนี้

00:09:33 → 00:09:36 แต่ทีนี้ค่ะแบบคัดกรองเนี่ยยังไงมันก็

00:09:36 → 00:09:38 เป็นแบบคัดกรองนะคะมันไม่สามารถวินิจฉัย

00:09:38 → 00:09:41 ได้ 100% เหมือนที่คุณหมอวินิจฉัยมันอาจ

00:09:41 → 00:09:46 จะทำให้สงสัยแต่ว่าคนที่แบบคัดกรองมาแบบ

00:09:46 → 00:09:50 Positive เลยเป็นแน่ๆจากแบบคัดกรองพอเอา

00:09:50 → 00:09:52 มาคุยแล้วอ้าวไม่ใช่ก็มีเหมือนกันนะคะ

00:09:52 → 00:09:57 หรือแบบคัดกรองบอกไม่ใช่นะแต่ว่าพอมาตรวจ

00:09:57 → 00:10:00 แล้วใช่ก็มีได้เหมือนกันเพราะฉะนั้นมัน

00:10:00 → 00:10:03 เป็นแค่แบบคัดกรองค่ะมันมีความจำเพาะมัน

00:10:03 → 00:10:06 มีความไวที่ไม่ได้ 100% ใส่ยังไงก็มาคุย

00:10:06 → 00:10:08 ก็จะได้ประโยชน์มากกว่าได้นั่งคุยกับ

00:10:08 → 00:10:11 จิตแพทย์คือเรื่องที่ดีแต่สอบถามอาจจะ

00:10:11 → 00:10:13 ช่วยคัดกรองระดับหนึ่งค่ะจากการที่ได้พบ

00:10:13 → 00:10:15 กับจิตแพทย์เลยทำให้เราได้เข้าใจตัวเอง

00:10:15 → 00:10:19 จริงๆแล้วก็รักษาอย่างทันเวลาทันในช่วง

00:10:19 → 00:10:22 ที่สภาพจิตใจเรายังไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้น

00:10:22 → 00:10:25 นะคะสำหรับใครที่ฟังอยู่ค่ะอาจารย์หมอคะ

00:10:25 → 00:10:28 เขายังไม่ต้องถึงขั้นรักษาค่ะเราสามารถ

00:10:28 → 00:10:30 ป้องกันได้ไหมคะให้ตัวของเราเนี่ยไม่ป่วย

00:10:30 → 00:10:34 ทางจิตค่ะถ้าเกิดว่าจะป้องกันไปตามสาเหตุ

00:10:34 → 00:10:37 ก็ได้ค่ะขั้นแรกเราป้องกันสมองเราให้มัน

00:10:37 → 00:10:40 แข็งแรงไม่ป่วยเป็นโรคง่ายอย่างเช่นพัก

00:10:40 → 00:10:42 ผ่อนให้เพียงพอ

00:10:42 → 00:10:46 ออกกำลังกายนะคะหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพ

00:10:46 → 00:10:50 ติดต่างๆอ่าง่ายไหมคะง่ายป้องกันทางใจค่ะ

00:10:50 → 00:10:52 ป้องกันทางใจแล้วรู้ว่าวิธีการแก้ปัญหา

00:10:52 → 00:10:56 ที่จำกัดทำให้เราอาจจะหลุดออกจากปัญหายาก

00:10:56 → 00:10:59 แล้วก็ส่งผลต่อการเป็นโรคตามมาเพราะ

00:10:59 → 00:11:01 ฉะนั้นถ้าเมื่อไหร่เริ่มรู้สึกมันติดกับ

00:11:01 → 00:11:04 การแก้ปัญหาบางอย่างลองปรึกษาคนนู้นคนนี้

00:11:04 → 00:11:06 แล้วก็ลองใช้วิธีการแก้ปัญหาที่หลากหลาย

00:11:06 → 00:11:10 ดูก็อาจจะช่วยทำให้เราไม่จำเป็นต้องไป

00:11:10 → 00:11:12 ทุกข์ทรมานกับการเป็นโรคซึมเศร้าก็ได้

00:11:12 → 00:11:17 ส่วนปัจจัยทางสังคมเราเลือกสังคมไม่ได้

00:11:17 → 00:11:21 แต่เราเลือกว่าเราจะให้สังคมนั้นมีผลต่อ

00:11:21 → 00:11:24 ใจเราได้ค่ะอันนี้ชัดเจนมากเลยนะคะ

00:11:24 → 00:11:27 อาจารย์หมอคะยกตัวอย่างสถานการณ์ปัจจุบัน

00:11:27 → 00:11:31 ตอนนี้ค่ะเรื่องของการเมืองมีผลมากๆเรา

00:11:31 → 00:11:32 อาจจะบอกว่าการเมืองไม่ได้เกี่ยวกับเรา

00:11:32 → 00:11:34 หรอกแต่แค่ความคิดเห็นต่างเกิดขึ้นใน

00:11:34 → 00:11:37 สังคมแค่สังคมเล็กๆครอบครัวก็อาจจะทำให้

00:11:37 → 00:11:40 เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นได้ในครอบครัว

00:11:40 → 00:11:43 แล้วการเสพข่าวค่ะอยากให้อาจารย์หมอฝาก

00:11:43 → 00:11:46 ถึงผู้ฟังหลายๆท่านที่เลือกเสพข่าวมีผล

00:11:46 → 00:11:49 ต่อจิตใจของเรายังไงบ้างคะ

00:11:49 → 00:11:52 มันมีนักจิตวิทยานะคะมาพูดถึงเรื่องการ

00:11:52 → 00:11:55 เสพข่าวมากเกินไปมานานแล้วนะคะว่าการเสพ

00:11:55 → 00:11:58 ข่าวทางลบมากเกินไปส่งผลกับทางร่างกายและ

00:11:58 → 00:12:02 จิตใจทางร่างกายนี่อาจจะทำให้ถึงขั้นเป็น

00:12:02 → 00:12:05 โรคความดันโลหิตสูงเป็นเบาหวานอะไรเป็น

00:12:05 → 00:12:08 โรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างนี้นะคะทางด้าน

00:12:08 → 00:12:11 จิตใจก็อาจจะทำให้แบบเป็นโรคซึมเศร้าวิตก

00:12:11 → 00:12:13 กังวลหรือมีอาการคล้ายกับโรคตื่นตระหนก

00:12:13 → 00:12:16 อย่างเงี้ยค่ะได้เหมือนกันเพราะฉะนั้นถ้า

00:12:16 → 00:12:20 เกิดว่าเราเริ่มรู้สึกว่าเราเริ่มหมกมุ่น

00:12:20 → 00:12:22 กับการเซ็ตเค้านั้นคิดถึงว่าจะต้องเปิด

00:12:22 → 00:12:25 ตลอดเวลาหรือเริ่มแบบขึ้นง่ายเวลาที่แบบ

00:12:25 → 00:12:28 ได้ยินอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อาจจะเป็น

00:12:28 → 00:12:31 สัญญาณเตือนก็ได้ค่ะว่าตอนนี้เรากำลังเสพ

00:12:31 → 00:12:34 ข่าวทางลบมากเกินไป

00:12:34 → 00:12:38 ตรงตัวเลยนะคะอยู่ที่เราเลือกเลยว่าการ

00:12:38 → 00:12:41 เสพข่าวแบบไหนนะคะในระยะเวลาซ้ำๆเรื่อง

00:12:41 → 00:12:45 เดิมๆอาจจะทำให้ตัวเราอินมากๆค่ะอินมากๆ

00:12:45 → 00:12:48 แล้วก็ถ้าได้บังเอิญไปได้ยินเนี่ยอารมณ์

00:12:48 → 00:12:50 ขึ้นง่ายๆ

00:12:50 → 00:12:55 แบบบางทีคุณตาคุณยายนะคะที่บ้านเปิดฟัง

00:12:55 → 00:12:57 ข่าวแล้วก็หัวร้อนขึ้นมาอย่างนั้นนะคะมี

00:12:57 → 00:13:00 ผลมากๆค่ะในเรื่องของข่าวลบๆในปัจจุบันนะ

00:13:00 → 00:13:03 คะแต่เชื่อว่าคนที่เรารักรวมถึงตัวเรา

00:13:03 → 00:13:06 เนี่ยอยากจะป้องกันเขาสิ่งนึงที่เราทำได้

00:13:06 → 00:13:09 เลยก็คือเรื่องนี้การเลือกช่องทางการเสพ

00:13:09 → 00:13:11 ข่าวนะคะหรือว่าเป็นไปได้ก็ปิดงดใช้บ้าง

00:13:11 → 00:13:15 ดีกว่านะหรือว่าไปดูหนังด้วยกันใช้เวลา

00:13:15 → 00:13:18 ร่วมกันในทางอื่นนะคะเยี่ยมมากเลยค่ะใน

00:13:18 → 00:13:21 งานวิจัยหลายงานเนี่ยเขาบอกว่าเราควรจะมี

00:13:21 → 00:13:25 เวลาที่ปลอดจากการใช้เสพข่าวใดๆโดยเฉพาะ

00:13:25 → 00:13:29 อย่างยิ่งเวลากินข้าวร่วมกันค่ะก่อนเข้า

00:13:29 → 00:13:31 นอนอะไรอย่างเงี้ยค่ะที่เป็นเวลาที่ไม่

00:13:31 → 00:13:33 ควรจะมานั่งเสพข่าวและเพราะมันจะทำให้

00:13:33 → 00:13:37 อรรถรสหรือว่าความสุขในการใช้เวลาร่วมกัน

00:13:37 → 00:13:41 ของครอบครัวเนี่ยมันสูญเสียไปเคยเห็นหลาย

00:13:41 → 00:13:43 ครอบครัวเขาร้องคาราโอเกะรวมกันค่ะเป็น

00:13:43 → 00:13:47 อะไรที่น่าจะเป็นทางออกที่ดีนะดีกว่านั่ง

00:13:47 → 00:13:49 ดูข่าวแล้วมีความขัดแย้งกันหรืออารมณ์

00:13:49 → 00:13:52 ขึ้นง่ายก็บำบัดนะเลือกกิจกรรมที่ที่บ้าน

00:13:52 → 00:13:55 ชอบนะแต่ละครอบครัวก็ต่างกันออกไปเนาะแต่

00:13:55 → 00:13:57 ว่าน่าจะทำให้เราฮีลใจคนในครอบครัวได้ดี

00:13:57 → 00:14:00 ก็เสริมสร้างความผูกพันด้วยซึ่งเป็นอีก

00:14:00 → 00:14:03 หนึ่งปัจจัยป้องกันที่จะทำให้เราเนี่ยไม่

00:14:03 → 00:14:06 ป่วยเป็นโรคทางจิตเวชได้ง่ายด้วยค่ะค่ะ

00:14:06 → 00:14:08 ถึงช่วงสุดท้ายของรายการแล้วค่ะอย่าให้

00:14:08 → 00:14:10 อาจารย์หมอฝากถึงผู้ฟังที่กำลังฟัง

00:14:10 → 00:14:14 podcast ถึงเรื่องของการดูแลจิตใจค่ะฝาก

00:14:14 → 00:14:17 ในฐานะจิตแพทย์แล้วกันค่ะว่าถ้าเกิดว่า

00:14:17 → 00:14:20 เราป่วยเป็นโรคอื่นๆเนาะเจ็บขาก็ไปหาหมอ

00:14:20 → 00:14:23 กระดูกใช่ไหมคะปวดฟันก็ไปหาหมอฟันมันก็คง

00:14:24 → 00:14:26 ไม่แปลกถ้าเกิดเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกปวด

00:14:26 → 00:14:30 ใจแล้วมาหาจิตแพทย์นะคะค่ะชัดเจนมากเลยนะ

00:14:30 → 00:14:32 คะแล้วก็เรื่องของการพบจิตแพทย์นี่เป็น

00:14:32 → 00:14:34 เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวหรือว่า

00:14:34 → 00:14:38 แปลกในสังคมเราในปัจจุบันนะคะหมอใจดีและ

00:14:38 → 00:14:41 ก็น่ารักมากๆเลยนะคะก็ฝากถึงผู้ฟังทุกๆ

00:14:41 → 00:14:43 ท่านด้วยค่ะวันนี้โชคดีที่เราได้ใช้เวลา

00:14:43 → 00:14:46 ตรงนี้พูดคุยกันค่ะขอบคุณอาจารย์หมอมากๆ

00:14:46 → 00:14:50 เลยนะคะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะค่ะและขอขอบคุณ

00:14:50 → 00:14:53 ผู้ฟังทุกท่านที่อยู่ด้วยกันตรงนี้ค่ะนอก

00:14:53 → 00:14:56 จากนี้นะคะผู้ฟังยังสามารถติดตามข่าวสาร

00:14:56 → 00:14:59 ของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้

00:14:59 → 00:15:01 อีกหลากหลายช่องทางค่ะไม่ว่าจะเป็นบน

00:15:01 → 00:15:04 เว็บไซต์ Facebook YouTube Twitter

00:15:04 → 00:15:09 telegram Instagram podcast PM คำที่

00:15:09 → 00:15:14 ช่องค้นหาว่า metcmu นะคะ med cmu เพียง

00:15:14 → 00:15:16 เท่านี้ค่ะก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการดูแล

00:15:16 → 00:15:19 สุขภาพอีกมากมายเลยค่ะสำหรับวันนี้นะคะ

00:15:19 → 00:15:22 ต้องมาทุกท่านไปก่อนครั้งหน้าจะเป็น

00:15:22 → 00:15:25 เรื่องอะไรอย่าลืมติดตามกันต่อนะคะสวัสดี

00:15:25 → 00:15:28 ค่ะ

00:15:29 → 00:15:34 เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา