00:00:00 → 00:00:04 ค่ะวันนี้อยากจะแลกเปลี่ยนมุมมอง
00:00:04 → 00:00:08 ที่อาจจะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายชีวิต
00:00:08 → 00:00:12 หรือความหมายชีวิตของเรา
00:00:12 → 00:00:15 ตั้งคือ B โค้ด Table
00:00:15 → 00:00:19 ก็มีข้อสาชาวบ้านหรือภาษาบ้านๆเรียกว่า
00:00:19 → 00:00:24 ว่าง่ายสอนง่ายโค้ด Table ก็คือปั้นได้
00:00:24 → 00:00:25 ง่าย
00:00:25 → 00:00:29 อันนี้บุคลิกนี้สำคัญนะ
00:00:29 → 00:00:30 ก็
00:00:30 → 00:00:34 คือปัจจุบันเนี่ยจะเห็นว่ามีคนเก่งเยอะ
00:00:34 → 00:00:39 ที่ออกมาแบ่งปันมุมมองทัศนคติมันเสร็จ
00:00:39 → 00:00:43 หรือ skill ใน
00:00:43 → 00:00:45 มีแต่ปัญหาอยู่ที่ว่า
00:00:45 → 00:00:49 บางทีเนี่ยนะพอเราอ่านเยอะหรือเราฟังเยอะ
00:00:49 → 00:00:50 เนี่ย
00:00:50 → 00:00:55 ก็จะกลายเป็นอาจจะนะครับกลายเป็นคนที่ที่
00:00:55 → 00:00:59 มีความเชื่อความมั่นใจสูงมากจนถึงจุดที่
00:00:59 → 00:01:01 ที่บางทีเนี่ย
00:01:01 → 00:01:06 ครูเราหรือผู้หลักผู้ใหญ่ปั้นเราไม่ขึ้น
00:01:06 → 00:01:10 คือเราโค้ชไม่ได้เอาสอนไม่ได้แล้วสอนยาก
00:01:10 → 00:01:12 ล่ะเพราะว่าเด็ก
00:01:12 → 00:01:16 หรือเราเนี่ยรู้สึกว่าเรารู้แล้ว
00:01:16 → 00:01:21 เรามีความรู้เราอ่านมาบ้างและ
00:01:21 → 00:01:26 อันนี้ผมมองว่าจะเป็นปัญหาได้
00:01:26 → 00:01:32 แต่ถ้าเราอยากจะไปถึงเป้าหมายชีวิตหรือ
00:01:32 → 00:01:38 อยากจะมีความสำเร็จในบริบทเราหรือในนิยาม
00:01:38 → 00:01:41 ของเราหนึ่งในบุคลิกที่ผมอยากจะแบ่งปัน
00:01:41 → 00:01:46 หรือเตือนสติเราในสายักรียญมิธก็คือเรา
00:01:46 → 00:01:50 ควรจะขัดเกลาบุคลิกนี้ด้วยนะครับคือเรา
00:01:50 → 00:01:52 ควรจะเป็นคนที่
00:01:52 → 00:01:58 สอนง่ายหรือตำหนิได้ง่ายหรือว่าง่ายรึ
00:01:58 → 00:02:03 V ghoshal Coast ได้เป็นคนที่โค้ชสอน
00:02:03 → 00:02:05 ได้
00:02:05 → 00:02:09 อันนี้ผมฝากเตือนนิดนึงเพราะเราอยู่ในยุค
00:02:09 → 00:02:11 ของ information
00:02:11 → 00:02:14 เราอยู่ในยุคของ information หมายถึงว่า
00:02:14 → 00:02:18 แม่คิดมุมมองมันเสร็จอะไรต่างๆสมัยก่อน
00:02:18 → 00:02:22 เนี่ยคนทั่วไปอาจจะไม่รู้
00:02:22 → 00:02:27 จะรู้ได้นะน้องเมื่อได้เป็นเรียนจะได้ไป
00:02:27 → 00:02:30 สมัครคอร์สหรือได้อ่านหนังสือแต่ปัจจุบัน
00:02:30 → 00:02:33 เนี่ยมันเสร็จหรือข้อมูลและอย่างเนี่ยเรา
00:02:33 → 00:02:36 หาได้ง่ายมากขึ้นเรื่อยๆนะในช่องทาง
00:02:36 → 00:02:39 YouTube Audio Book ฮะหรือแม้กระทั่ง
00:02:39 → 00:02:42 หนังสือที่เป็นรูปแบบ pdf file เลยเนี้ย
00:02:42 → 00:02:46 ปัญหาได้เยอะนะครับนั่นก็หลายคนก็จะมีข้อ
00:02:46 → 00:02:51 มูลหรือมีความรู้มากขึ้นเรื่อยๆแต่พอเรา
00:02:51 → 00:02:52 รู้เยอะเนี่ย
00:02:52 → 00:02:55 มันก็จะแยกวะ
00:02:55 → 00:02:59 พอเราจะสอนให้คนอื่นมาสอนเรายากขึ้น
00:02:59 → 00:03:02 เรื่อยๆนี้เป็นผมว่าเป็นสัจธรรมแล้วก็
00:03:02 → 00:03:04 เป็นธรรมชาติของมนุษย์เมื่อไหร่เราคิดว่า
00:03:05 → 00:03:06 เรารู้แล้วเนี่ย
00:03:06 → 00:03:11 มันก็จะยากที่จะมีคนอื่นมาสอนเราอันนี้
00:03:11 → 00:03:15 หัวข้อที่หนึ่งที่ผมอยากฝากคือ
00:03:15 → 00:03:20 อาจจะอาจจะขัดเกลาตัวเองนิดนึงว่าเรารู้
00:03:20 → 00:03:24 แล้วเราได้อ่านมาแล้วเราได้ฟังมาแล้วมัน
00:03:24 → 00:03:26 ไม่ต่าง
00:03:26 → 00:03:29 คลิบมันต่างกะคนที่เขาเคยทำมาแล้วคนที่
00:03:29 → 00:03:31 เขาเคยมีประสบการณ์
00:03:31 → 00:03:33 นี้ต่างกันนะครับ
00:03:33 → 00:03:35 รู้
00:03:35 → 00:03:39 อ่านได้รับฟังก็เปรียบเสมือนเราได้รับข้อ
00:03:39 → 00:03:43 มูลแต่คนที่เขาเคยเคยเอาข้อมูลนั้นไปใช้
00:03:43 → 00:03:48 แล้วผ่านการลองผิดลองถูกมาแล้วหรือมี
00:03:48 → 00:03:52 ประสบการณ์มาแล้วเราควรจะอนุญาตให้เขาสอน
00:03:52 → 00:03:54 เราอ่ะ
00:03:54 → 00:03:58 ไอ้ตัวนี้ผมก็บังเอิญกูผมกับครูผมก็มี
00:03:58 → 00:04:00 โอกาส
00:04:00 → 00:04:03 มีเวลานะเราปั่นจักรยานเสร็จก็ได้นั่งคุย
00:04:03 → 00:04:07 กันขึ้นหลายๆอย่างครูผมเขาก็อยู่ในยุคที่
00:04:07 → 00:04:11 อยู่ในช่วงวัยที่จริงๆก็เสียแล้วล่ะแต่
00:04:11 → 00:04:14 เท่าที่ผมดูได้เขาอยากจะส่งต่อให้กับคน
00:04:14 → 00:04:18 รุ่นหลังหรือสร้างเล็คกาซี่ให้ตัวเองคือ
00:04:18 → 00:04:20 เขาก็คงไม่อยากได้ชื่อเสียงอะไรมึงแต่เขา
00:04:20 → 00:04:26 อยากจะบ้านคนหรือส่งแนวความคิดในสิ่งที่
00:04:26 → 00:04:30 เขาตกตะกอนมาเค้าอาจจะเลือกผมเป็นเป็นคน
00:04:30 → 00:04:34 คนนั้นนะครับที่ผมดูผมก็จะแบ่งปันในมุม
00:04:34 → 00:04:37 มองผมว่าเล่นหรืออย่างที่เค้าพูดเนี่ยเขา
00:04:37 → 00:04:40 พยามจะสอนผมเนี่ยหรือแบ่งบันประสบการณ์
00:04:40 → 00:04:44 เนี่ยผมก็อ่านหนังสือหรือได้ฟังมาบ้าง
00:04:44 → 00:04:48 แล้วนะครับแต่ในเวลาเดียวกันเนี่ยผมจะ
00:04:48 → 00:04:51 ต้องเตือนสติตัวเองเสมอว่าทุกครั้งที่ครู
00:04:51 → 00:04:55 สอนเนี่ยเราจะต้องฟังเหมือนมีเรื่องใหม่
00:04:55 → 00:04:59 เราจะต้องพยายามซูทรัพย์มุมมองและ
00:04:59 → 00:05:03 ประสบการณ์ที่เขาต้องการจะส่งให้เราแต่
00:05:03 → 00:05:06 ถ้าเราตั้งต้นด้วยเอ้ยสิ่งที่ครูพูดเนี่ย
00:05:06 → 00:05:09 ก็ผมเคยอ่านมาแล้วครับใช่ครับใช่ครับคุณ
00:05:09 → 00:05:12 ครูพูดอย่างนี้ใช่ครับผมเคยอ่านมาแล้วมัน
00:05:12 → 00:05:13 จะทำให้
00:05:13 → 00:05:17 เราเนี่ยมีบุคลิกที่ปั้นไม่ขึ้นผมเชื่อ
00:05:17 → 00:05:20 ว่าครูหลายคนเนี่ยเขาก็รู้แหละว่าว่าเรา
00:05:20 → 00:05:25 ทุกคนเนี่ยเคยได้ยินหรือได้ฟังแง่คิดพวก
00:05:25 → 00:05:29 นี้มาบ้างแล้วแต่เขาอ่ะได้ใช้ชีวิตบนแง่
00:05:29 → 00:05:32 คิดอย่างนั้นมาแล้วแล้วเขาก็รู้แล้วว่า
00:05:32 → 00:05:35 มันคิดอย่างนี้เนี่ยมันมีรายละเอียดปลีก
00:05:35 → 00:05:40 ย่อยอะไรบ้างนะมันมีจุดทิศ for หรือมันมี
00:05:40 → 00:05:44 จุดจุดที่ต้องระวังอะไรบ้าง
00:05:44 → 00:05:48 อย่างวันนี้เราคุยกันเรื่องผมกับครูกัน
00:05:48 → 00:05:50 บังเอิญคุยกันเรื่อง
00:05:50 → 00:05:53 เรื่องการช่วยเหลือมนุษย์ช่วยเหลือเพื่อน
00:05:53 → 00:05:56 เนี้ยอ่ะและแล้วผมก็ชอบนี้หลายคนที่ชอบ
00:05:56 → 00:06:00 เข้าใจว่าหมอนี่รวยหมอนี่มีเงินแต่เฉพาะ
00:06:00 → 00:06:03 เพื่อนหรือคนญาติสนิทถึงก็โทรมายืมเงิน
00:06:03 → 00:06:07 บ้างอะไรบ้างแล้วก็แลกเปลี่ยนกันในมุมมอง
00:06:07 → 00:06:11 นิซึ่งจากที่สระดีหรือเราก็เคยอ่านมาแล้ว
00:06:11 → 00:06:12 ว่า
00:06:12 → 00:06:19 ถ้ารักญาติรักที่น้องจะให้ยืมตังค์คือถ้า
00:06:19 → 00:06:22 เค้าขอเราให้ไปเลยแต่ให้ในปริมาณที่เรา
00:06:22 → 00:06:25 ยอมรับได้ว่าจะเสียไม่ต้องให้เขายืมหรือ
00:06:25 → 00:06:27 ให้ไปเลยเพราะว่าอะไรที่เราให้เขายืม
00:06:27 → 00:06:30 เนี่ยโอกาสที่ความสัมพันธ์นั้นอ่ะจะเสีย
00:06:30 → 00:06:34 สูงจริงนะครับหัวข้อนี้เราคงเคยได้ยินมา
00:06:34 → 00:06:36 หมดแล้ว
00:06:36 → 00:06:40 แต่ครูผมมันแกก็พูดมากกว่านั้นแกก็ให้
00:06:40 → 00:06:43 ประสบการณ์แล้วก็
00:06:43 → 00:06:47 ขยายความแง่คิดนี้ให้ผมมองเห็นว่ามันมี
00:06:47 → 00:06:50 อะไรซับซ้อนมันมีหลายลึกสึกมากกว่าแค่
00:06:50 → 00:06:54 แค่ข้อคิดนั้น
00:06:54 → 00:06:57 รายการที่เรื่อง V คน Table สำหรับผมนะ
00:06:57 → 00:07:00 ครับแต่ผมจึงที่ผมอยากจะส่งต่อให้กับ
00:07:00 → 00:07:05 คนทุกคนที่ร่วมเดินทางกับผมเป็นเกรียนมิด
00:07:05 → 00:07:08 ผมในช่องทางนี้ก็คือถ้าเราอยากพัฒนาตนเอง
00:07:08 → 00:07:11 อยากไปถึงเป้าหมายอย่างไปถึงความหมาย
00:07:11 → 00:07:13 ชีวิตเรา
00:07:13 → 00:07:17 อย่าลืมนะครับเราอาจจะเก่งนอกจะได้รับฟัง
00:07:17 → 00:07:21 แต่อย่าลืมคะลิคคือเราควรจะเป็นคนที่สอน
00:07:21 → 00:07:24 ง่ายนั้นเมื่อไหร่ใครสอนเลยเนี้ยอย่า
00:07:24 → 00:07:28 เพิ่งไปอย่าเพิ่งรีบไปพูดว่าเราเคยได้ยิน
00:07:28 → 00:07:30 เราเคยฟังพวกนี้มา
00:07:30 → 00:07:33 อยากให้ปล่อยให้คุณครูดูให้เขาสอนในบริบท
00:07:33 → 00:07:37 ของครับ
00:07:37 → 00:07:41 คลิปของผมก็เหมือนกันบางคนก็จะรู้สึกว่า
00:07:41 → 00:07:44 ผมพยายามอธิบายหลายชั้นหลายครั้งเหลือ
00:07:44 → 00:07:48 เกินส่วนตัวของคิดว่าถ้าจะสอนใครเนี่ยมัน
00:07:48 → 00:07:52 สอนด้วยบรรทัดเดียวไม่ได้มันต้องให้เวลา
00:07:52 → 00:07:55 นั้นคลิปที่ผมพยายามจำบขอฝันความรู้สำคัญ
00:07:55 → 00:07:57 แค่เนี่ยก็จะเป็นคลิปที่อย่างน้อย 15
00:07:57 → 00:07:59 นาทียี่สิบนาที
00:07:59 → 00:08:02 ถ้าสอนเร็วในบางทีมันไม่เห็นภาพแล้วครับ
00:08:02 → 00:08:07 โดยเฉพาะคนแรกแย่หรือต่างจังหวัดหรือผู้
00:08:07 → 00:08:12 สูงอายุบางทีอาจจะต้องพูดช้าๆทบทวนเบรค
00:08:12 → 00:08:16 ตรงกลางกลับไปทบทวนอีกรอบนึงเพราะ
00:08:16 → 00:08:18 วัตถุประสงค์เอาคือเราไม่อยากจะแค่พูด
00:08:18 → 00:08:20 แล้วอยากจะสอนให้เขาจำ
00:08:20 → 00:08:24 มันก็มีรายละเอียดปลีกย่อยอันนี้อิอิงั้น
00:08:24 → 00:08:27 อันที่ 1 be called Table
00:08:27 → 00:08:33 ที่นี้คำถามต่อไปหลายคนก็คงสงสัยว่า
00:08:33 → 00:08:37 จริงครับผมเองก็อยากให้พลมาโค้ชผมก็อยาก
00:08:37 → 00:08:39 ให้คนมาสอนผม
00:08:39 → 00:08:44 แต่ผมเนี่ยจะมีปัญหาตรงที่ว่าพอใครจะมา
00:08:44 → 00:08:48 สอนผมเนี่ยผมก็รู้สึกว่าเขาไม่รู้จิกหรือ
00:08:48 → 00:08:53 เขาไม่เป็นในสิ่งที่เขาพูดเขาไม่ได้ Walk
00:08:53 → 00:08:55 the talk อ่ะอ่ะและก็เลยขาดความน่า
00:08:55 → 00:08:59 เชื่อถือในตัวเขาอันนี้เป็นหัวข้อที่ผม
00:08:59 → 00:09:02 อยากจะแตะผิดนิดนึงคือความน่าเชื่อถือของ
00:09:02 → 00:09:04 โค้ชอ่ะ
00:09:04 → 00:09:08 เอาอย่างนี้นะครับเธอส่วนตัวผมเชื่อใน
00:09:08 → 00:09:10 ระบบโคชิเอ็งมากนะครับผมเชื่อว่ามนุษย์
00:09:10 → 00:09:14 เราถ้ามีครูมาสักคนนึงเนี่ยขอแค่คนเดียว
00:09:14 → 00:09:18 ก็พอไม่ต้องสถาบันใหญ่ผมเชื่อว่ามีครู
00:09:18 → 00:09:19 เพียงคนเดียว
00:09:19 → 00:09:23 สามารถบ้านเราได้ผมไม่ค่อยเชื่อในแบรนด์
00:09:23 → 00:09:27 อยู่แล้วเราก็เหมือนกับโรงพยาบาลก็เหมือน
00:09:27 → 00:09:29 กันผมก็ไม่ได้เชื่อในแบรนด์โรงพยาบาล
00:09:29 → 00:09:31 เสื้อผ้าก็เหมือนกันไม่เชื่อในแบรนด์
00:09:31 → 00:09:33 เสื้อผ้า
00:09:33 → 00:09:37 สิ่งที่เราต้องการต้องมีคนที่ตอบโจทย์ได้
00:09:37 → 00:09:42 นะครับไปรักษาที่โรงพยาบาลในแบรนด์ดังแต่
00:09:42 → 00:09:45 ถ้าได้หมอที่ไม่ตอบโจทย์ผมก็ไม่โอเคไป
00:09:45 → 00:09:48 ร้านอาหารที่แบรนด์หรูๆแต่ได้อาหารที่ไม่
00:09:48 → 00:09:51 ตอบโจทย์ก็ไม่โอเคใช่ไหมครับอันสดสไตล์ผม
00:09:51 → 00:09:53 จะไม่ได้พริกที่แบรนด์
00:09:53 → 00:09:57 ฮะโอเคกลับมาที่โค้ชที่มีความน่าเชื่อถือ
00:09:57 → 00:10:01 ของโค้ชเนี่ยสำคัญกับวันที่ตัวเองก่อนนะ
00:10:01 → 00:10:05 ครับอันนี้อันนี้คุณอาจจะต้องคุยกับตนเอง
00:10:05 → 00:10:08 ด้วยว่าไอ้ความน่าเชื่อถือเนี่ยบรรทัดฐาน
00:10:08 → 00:10:10 มาจากไหน
00:10:10 → 00:10:15 ผมไม่รู้นะฮะแต่ว่าว่าหลายคนนะอาจจะมี
00:10:15 → 00:10:17 ความรู้สึกว่า
00:10:17 → 00:10:21 คนที่จะเป็นโค้ชเนี่ยจะต้องเป็นคนที่
00:10:21 → 00:10:25 ที่ดูดีที่เพอร์เฟคอาจจะใช้คำว่า Perfect
00:10:25 → 00:10:27 เลยก็ได้หรือเมีย Perfect ขึ้นเกือบ
00:10:27 → 00:10:28 Perfect
00:10:28 → 00:10:32 อ่ะหมายความว่าโค้ชที่จะมาสอนเราเนี่ย
00:10:32 → 00:10:37 โอ้โหเขาจะต้องเป๊ะบุคลิกดีหน้าตาดีสอน
00:10:37 → 00:10:43 รู้เรื่องเก่งรู้ในสิ่งที่เขาทำแล้วก็
00:10:43 → 00:10:46 ทำในสิ่งที่เขาพูดอ่ะ
00:10:46 → 00:10:51 น่ะคือมีความน่าเชื่อถือสูง
00:10:51 → 00:10:55 อ่าอันนี้ผมแค่สำหรับใครที่มีนะสำหรับใคร
00:10:55 → 00:10:57 ที่เข้าใจแล้วก็โอเคแต่สำหรับใครที่ยัง
00:10:57 → 00:11:01 ไม่เข้าใจอันนี้อยากให้เข้าใจว่าความเป็น
00:11:01 → 00:11:03 โค้ชเนี่ย
00:11:03 → 00:11:07 มันมาจากไมค์เสร็จมันมาจากการที่เขารู้
00:11:07 → 00:11:11 ว่าน่าจะนั้นมาจากการที่เขาตีแตกในหัวข้อ
00:11:11 → 00:11:14 นั้นแต่เขาอาจจะไม่จำเป็นต้อง Walk the
00:11:14 → 00:11:16 talk เค้าอาจจะไม่จำเป็นต้องทำในสิ่ง
00:11:16 → 00:11:17 นั้นก็ได้
00:11:17 → 00:11:21 ขยายความนิดนึงจะยกตัวอย่างก่อนก็ได้ครับ
00:11:21 → 00:11:25 ต้องเคยสังเกตมั๊ยล่ะโค้ชนักกีฬา
00:11:25 → 00:11:28 เอาโค้ดของไมค์ไทสันก็ได้มีเป็น Favorite
00:11:28 → 00:11:31 เป็นคู่ favourite ของผมเลย
00:11:31 → 00:11:34 ค่อยสังเกตนะครับโค้ชของนักกีฬาระดับชาติ
00:11:34 → 00:11:41 เนี่ยแก่ๆตัวอ้วนๆอ้ะบุคคลิกดูก๊องแก๊ง
00:11:41 → 00:11:44 มากเลยถ้าเราดูจากบุคลิกผิวเผินแล้วก็มอง
00:11:44 → 00:11:48 ว่าอันนี้มันจะไปสอนใครคนนี้จะเป็นโค้ช
00:11:48 → 00:11:52 ใครอ่ะดูตัวเค้าเองอ่ะอีกอย่างหนึ่งเขา
00:11:52 → 00:11:56 ยังดูผอมก็ยังลงทุนอยู่เลยเขายังบางทีพูด
00:11:56 → 00:11:59 ไม่รู้เรื่องเลยเถ้าแก่จะขนาดนี้ก็จะไป
00:11:59 → 00:12:03 สอนใครแต่ไหมครับคือเขาดูเหมือนเป็นคนที่
00:12:03 → 00:12:05 ไม่น่าจะเพอร์เฟคหรือไม่เนี่ย Perfect
00:12:05 → 00:12:09 ด้วยในการที่จะเป็นโค้ชแต่ทำไมอ่ะเขาถูก
00:12:09 → 00:12:11 เลือกให้เป็น Coast
00:12:11 → 00:12:15 และเขาปั้นคนธรรมดาที่ติดทุกอย่างเช่นไม้
00:12:15 → 00:12:21 ใจสรรค์ขึ้นมาเป็นนักกีฬาระดับโลกได้นั่ง
00:12:21 → 00:12:23 เลยครับ
00:12:23 → 00:12:26 ในเวลาเดียวกันโค้ชนักกีฬาเช่นใน NBA
00:12:26 → 00:12:30 basketball ซินะหรือโค้ชฟุตบอลเล่นขอว่า
00:12:30 → 00:12:33 จะไม่มีกล้ามเนื้อขายที่แข็งแรงก็จะไม่
00:12:33 → 00:12:36 ได้มีกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เป็นมัดๆอย่าง
00:12:36 → 00:12:39 นั้นเล็กโทสะกูท่านเนี่ยเห็นไหมครับ
00:12:39 → 00:12:42 ความเป็นโค้ชมันไม่ได้อยากจะดูที่ภาพ
00:12:43 → 00:12:46 ลักษณ์ว่าเขา Perfect การเป็นโค้ชก็อาจจะ
00:12:46 → 00:12:49 ไม่ได้ดูที่ว่าเขาวิ่งได้แค่ไหนเขาเตะบอล
00:12:49 → 00:12:53 ได้แรงแค่ไหนอ่ะนี่หรือเขาตื่นมาซ้อมก่อน
00:12:53 → 00:12:56 ที่เขาจะมาสอนคนอื่นแค่ไหนก็จะไม่ได้ Walk
00:12:56 → 00:12:58 the talk ก็ได้ครับเพราะเขาไม่จำเป็น
00:12:58 → 00:13:02 หรือเข้าใจเขาไม่จำเป็น
00:13:02 → 00:13:07 การเป็นโค้ชหมายถึงว่าเขาเอาแง่คิดหรือ
00:13:07 → 00:13:11 สมการที่เขาตีแตกเนี่ยที่อยู่ในสมองเขา
00:13:11 → 00:13:15 เนี่ยออกมาเพื่อที่จะปั้นลูกศิษย์เขาให้
00:13:15 → 00:13:16 โต
00:13:16 → 00:13:19 เพียงแค่นั้นเลยครับ
00:13:19 → 00:13:23 งั้นเราเป็นลูกศิษย์แล้วเรากำลังมองว่า
00:13:23 → 00:13:26 โค้ชของเราที่กำลังจะมาสอนเราปั่นจักรยาน
00:13:26 → 00:13:30 หรือ 2 เซนนิดเนี่ยจะต้องตื่นมาวิดพื้นจะ
00:13:30 → 00:13:35 ต้องหุ่นดีกล้ามเนื้อขาเป็นมัดๆอันนี้ก็
00:13:35 → 00:13:36 อาจจะลำบาก
00:13:36 → 00:13:38 นะครับ
00:13:38 → 00:13:41 เช่นเดียวกันครับโค้ชที่เขาสอนคนเรื่อง
00:13:41 → 00:13:46 สุขภาพหรือสอนคุณเรื่องการลงทุนหรือการ
00:13:46 → 00:13:49 ใช้ชีวิตอย่างนั้นบางทีชีวิตก็อาจจะไม่
00:13:49 → 00:13:51 ได้เพอร์เฟคก็ได้นะ
00:13:51 → 00:13:54 และก็จะมีปัญหากับภรรยากับครอบครัวกับลูก
00:13:54 → 00:13:59 เขาก็ได้แต่เขามาสอนคุณคุณก็จะมองว่าจะมา
00:13:59 → 00:14:02 สอนได้ยังไงคุณกลับไปดูครอบครัวคุณก่อน
00:14:02 → 00:14:04 คุณยังเอาครอบครัวตัวเองไม่รอดเลยคุณจะ
00:14:04 → 00:14:08 เอาอะไรมาสอนหรอกอันนี้ก็ทำให้คุณเนี่ย
00:14:08 → 00:14:13 ปิดโอกาสให้กับตัวเองหรือหมดประโยชน์
00:14:13 → 00:14:17 ด้วยความคิดของตนเอง
00:14:17 → 00:14:20 สิทธิ์สรุปแล้วกันผมไม่รู้ผมพูดยาวไปหรือ
00:14:20 → 00:14:23 เปล่านะฮะแต่ผมก็ยังจะขยายความให้อยู่นี่
00:14:23 → 00:14:26 เห็นภาพว่าคนที่จะเป็นโคชเนี่ยสิ่งที่เรา
00:14:26 → 00:14:30 ต้องโฟกัสในตัวโค้ชคือมันเสร็จเค้าสมการ
00:14:30 → 00:14:35 ที่เขามีเราจะไปโฟกัสชีวิตเขาอยากไปโฟกัส
00:14:35 → 00:14:38 เบื้องหลังเขาหรือวิถีชีวิตเขา
00:14:38 → 00:14:41 เพราะแต่ละคนเนี่ยเขาไม่จำเป็นต้องทำใน
00:14:41 → 00:14:45 สิ่งที่เขาสอนแล้วแต่จุดยืนเขาแล้วแต่นะ
00:14:45 → 00:14:49 เวลาโมเม้นท์นั้นนะครับแต่สิ่งที่กูจะ
00:14:49 → 00:14:52 ต้องได้จากเค้าคือสมการถ้าขยันจะแก้ให้
00:14:52 → 00:14:53 คุณ
00:14:53 → 00:14:57 ขอยกตัวอย่างอันสุดท้ายนะกันที่ผมผมเห็น
00:14:57 → 00:15:03 ใกล้ตัวมากที่สุดก็คือเออพระหรือว่าเธอ
00:15:03 → 00:15:07 creatures คนที่สอนศาสนาอ่างนี้ดีกว่า
00:15:07 → 00:15:11 ครับอันนี้ก็จะโดนมากเลยครับคนที่สอน
00:15:11 → 00:15:15 ศาสนาหรือเผยแพร่ศาสนาเนี่ยอ่ะ
00:15:15 → 00:15:16 แต่พอ
00:15:16 → 00:15:21 คนเนี่ยไปเช็คประวัติเขาเห็นว่าเขาเคย
00:15:21 → 00:15:24 เป็นมาเฟียหรือเป็นนักเลงมาก่อนแล้วกับ
00:15:24 → 00:15:29 เนื้อกับตัวมาเป็นคนที่สอนศาสนานพอเราไป
00:15:29 → 00:15:32 ฟังเขาเนี่ยมันก็มีคนมาบอกว่ารู้ประวัติ
00:15:32 → 00:15:36 คนนี้หรือเปล่าก็เคยเป็นมาเฟียมาก่อนนะก็
00:15:36 → 00:15:39 เคยเป็นนักเลงมาก่อนอ่ะตอนนี้ดูน่าจะไป
00:15:39 → 00:15:41 เชื่อเขาได้ยังไง
00:15:41 → 00:15:45 ใช่ไหมครับหรือนักปรัชญาเล็กคนที่ผมฟังผม
00:15:45 → 00:15:48 ก็จะมีเพื่อนบางคนที่มาคานผมนะเขาไม่ฟัง
00:15:48 → 00:15:52 คนพวกนี้เลยไปดูประวัติคนนี้ไม่ค่อยโอเค
00:15:52 → 00:15:55 ก็สิ่งหนึ่งที่ผมอาจจะแลกเปลี่ยนกับ
00:15:55 → 00:15:56 เพื่อนผมเสมอว่า
00:15:56 → 00:16:01 ผมว่าเราจะไปปิดกั้นโอกาสตนเองที่จะซึม
00:16:01 → 00:16:04 ซับหรือรับความรู้จักคนที่เขาเคยแพร่ดี
00:16:04 → 00:16:07 กว่าเราไม่รู้หรอกว่านี่เค้าเป็นยังไง
00:16:07 → 00:16:10 แล้วเราไม่สนมันไม่สำคัญสิ่งที่เราอยาก
00:16:10 → 00:16:12 ได้คือสิ่งที่เขาสองคืออะไรสาระที่เขา
00:16:12 → 00:16:15 ต้องการจะแบ่งปันคืออะไรอ่ะผมแล้ว
00:16:15 → 00:16:18 ประสบการณ์ที่เขาจะแลกเปลี่ยนใครไม่รู้
00:16:18 → 00:16:21 ล่ะประสบการณ์ที่ไม่ดีของเขาเนี่ยข้อจะ
00:16:21 → 00:16:23 ได้เรียนรู้หรือตกตะกอนอะไรบางอย่างเพื่อ
00:16:23 → 00:16:26 มาสอนเราก็ได้เอามาอยู่ไม่มองอย่างเงี้ยะ
00:16:26 → 00:16:30 เดี๋ยวไปเอาอดีตคนหรือวิถีชีวิตคนมาตั้ง
00:16:30 → 00:16:35 ต้นแล้วไปตีเส้นว่าสิ่งที่เขาสอนมันไม่
00:16:35 → 00:16:37 แวะเล่น
00:16:37 → 00:16:41 เช่นกันครับบางทีหมอที่อาจจะดูไอ้อ้วน
00:16:41 → 00:16:45 ท้วนดูไม่ออกกำลังกายแต่เขาสอนเราเรื่อง
00:16:45 → 00:16:48 ภูมิน้ำหนักเลยเนี่ยแล้วว่าจะมองหมอยัง
00:16:48 → 00:16:51 ไม่คุมเองเลยมาสอนอะไรล่ะแล้วเนี่ยผมว่า
00:16:51 → 00:16:54 อยู่ใกล้จะภาพมันไม่ใช่หน้าที่อยู่ที่จะ
00:16:54 → 00:16:57 ไปติดเขาหรือจะไปไป Just เค้าหรือไป
00:16:57 → 00:17:01 วิเคราะห์เขาหน้าที่เราก็คือเราเป็นไปนัก
00:17:01 → 00:17:03 ศึกษาหรือเป็นคนไข้เราต้องฟังสาระหรือ
00:17:03 → 00:17:06 สิ่งที่เขาต้องการจะผมไม่รู้ว่าจุดยืนของ
00:17:06 → 00:17:10 หมอคนนั้นเกิดอะไรนะพอจะไม่มีแรงบันดาลใจ
00:17:10 → 00:17:13 หรือเปล่าเขารู้แหละทำเป็นหรือไม่รู้ว่า
00:17:13 → 00:17:15 ก่อนหน้านี้ก็อาจจะเคยเป็นคนที่ขอชิมฟิต
00:17:15 → 00:17:19 มาก่อนนะว่าจะผ่านช่วงอะไรในชีวิตกินยา
00:17:19 → 00:17:23 แก้ซึมเศร้าหรือเปล่าไม่รู้ไม่รู้ครับเรา
00:17:23 → 00:17:27 ไม่รู้อะไรเลยทั้งสิ้นนะงั้นหัวข้อที่ 2
00:17:27 → 00:17:30 ที่ผมอยากจะฝากก็คือว่าถ้าเราเปลี่ยน
00:17:30 → 00:17:33 บุคลิกเป็นคนที่โค Table แล้วเนี่ยเรา
00:17:33 → 00:17:37 อย่ามองหาโค้ดที่เพอร์เฟคเราควรจะหา
00:17:37 → 00:17:41 ใบเสร็จหรือสมการที่เพอร์เฟคจากคนคนนั้น
00:17:41 → 00:17:44 ใครล่ะ
00:17:44 → 00:17:49 ค่ะนำไปสู่มุมมองสุดท้ายของผมก็คือ
00:17:49 → 00:17:52 แล้วจะเลือกโค้ชคนไหนดีล่ะอ่า
00:17:52 → 00:17:56 อันนี้ก็อันนี้ผมเองก็
00:17:56 → 00:17:58 พยายาม
00:17:58 → 00:18:04 หาโค้ชในชีวิตดลเองมาตลอดนะครับผมก็
00:18:04 → 00:18:07 ระหว่างที่ผมโตมาเนี่ย
00:18:07 → 00:18:11 ผมก็ต้องดิ้นรนชีวิตพอสมควรนะครับผมก็มี
00:18:11 → 00:18:15 ตัวอย่างหลายอย่างทั้งดีทั้งไม่ดีอ่ะแต่
00:18:15 → 00:18:20 ผมก็ดูมั้ยก็ตั้งสถาบันดูเลยแบบท่าสุด
00:18:20 → 00:18:21 ท้ายเนี่ย
00:18:21 → 00:18:26 การผมพูดได้แค่นี้เลยคุณจะหาโค้ชที่ดีที่
00:18:26 → 00:18:29 สุดให้กับตนเองได้เนี่ยมันเริ่มจากการที่
00:18:29 → 00:18:32 คุณทำการบ้านกับตนเองก่อน
00:18:32 → 00:18:36 นี้ตั้งใจฟังดีๆนะก็คือพยายามจะเปลี่ยน
00:18:36 → 00:18:39 ภาษาอังกฤษให้เป็นภาษาไทยนะฮะอาจจะดูขัดๆ
00:18:39 → 00:18:42 นิดนึงนะก็คืออะนิเมะของมันจะบอกว่าอยู่
00:18:42 → 00:18:44 กำลังจะมองหาโค้ชที่ดีที่สุดให้กับตนเอง
00:18:44 → 00:18:48 เนี่ยมันเริ่มจากคุณเข้าใจตนเองมากแข่ง
00:18:48 → 00:18:53 มันคุ้นเข้าใจบุคลิกของความเป็นโคชแค่ไหน
00:18:53 → 00:18:56 ฮะซึ่งอันนี้มันขึ้นอยู่กันสะสมคุณอ่าน
00:18:56 → 00:19:00 หนังสือคุณฟังคุณอะไรเพราะคุณผ่านคนๆนั้น
00:19:00 → 00:19:02 พวกคุณจะมองออกเลยว่าใช่เลยนี่คือสิ่งที่
00:19:02 → 00:19:05 ผมต้องการกำลังมองหายอ่ะ
00:19:05 → 00:19:09 มีช่วงนึงในชีวิตเนี่ยก่อนที่ผมจะตัดสิน
00:19:09 → 00:19:13 ใจมาเรียนหมอปอดเนี่ยผมเองก็อยากไปเรียน
00:19:13 → 00:19:16 เรียนเริ่มจากหมอหัวใจก็
00:19:16 → 00:19:20 ผมก็ไปอยู่กับอาจารย์ท่านหนึ่งของก็ชอบนะ
00:19:20 → 00:19:23 อยากจะมาเรียนหัวใจมากเลยแต่ว่าถึงจุด
00:19:23 → 00:19:26 หนึ่งก็ไม่ได้ยิน Trace มากคิดว่ามันไม่
00:19:26 → 00:19:30 ตอบจริตตัวเองจนกระทั่งรู้สึกว่าตัวเอง
00:19:30 → 00:19:33 อยากจะเรียนผ่อน
00:19:33 → 00:19:35 แต่ก็ดูสถาบัน
00:19:35 → 00:19:39 ก็จะบังเอิญเนี่ยลิขิตผมเนี่ยพาผมไปเจอ
00:19:39 → 00:19:44 ครูซึ่งเป็นครูที่ผมยอมให้ได้ทุกอย่างเลย
00:19:44 → 00:19:47 ครูด้านนี้ผมรักมาก
00:19:47 → 00:19:50 ซึ่งเขาเป็นมากกว่าแค่ครูเขาเป็นโค้ชไลฟ์
00:19:50 → 00:19:51 ผม
00:19:51 → 00:19:54 เขาเป็นการเรียนมิตรที่ที่ผมไปรู้จัก
00:19:54 → 00:19:57 ขอบคุณพระเจ้าได้คำว่าขอบคุณคงไม่เพียงพอ
00:19:57 → 00:19:59 แต่นี่เหว่
00:19:59 → 00:20:01 และมาถึงจุดหนึ่งที่ผมจะต้องตัดสินแล้ว
00:20:01 → 00:20:05 ว่าผมจะเป็นเลือกสถาบันหรือจะไปเรียนกับ
00:20:05 → 00:20:08 โค้ชตอนนี้ซึ่งมาอยู่ในสถาบันแบรนด์ดัง
00:20:08 → 00:20:12 นั้นผมก็มีคนสนับสนุนที่จะไปส่งผมไปเรียน
00:20:12 → 00:20:14 ในแบรนด์ดังๆ
00:20:14 → 00:20:17 ผมก็ให้เวลาตนเองมากนะครับเพราะมันเป็น
00:20:17 → 00:20:21 การตัดสินที่ค่อนข้าง sensitive มากแล้ว
00:20:21 → 00:20:26 ก็มันจะมีผลตามมาเยอะในเมืองไทยนะหรือจบ
00:20:26 → 00:20:28 หมอแล้วก็อยู่ไม่ได้อยู่ใน ossas กับ
00:20:28 → 00:20:32 แบรนด์ดังๆเนี่ยวิถีชีวิตหรือว่าการงานก็
00:20:32 → 00:20:35 เปลี่ยนช้อยส์มันก็จะลิมิต
00:20:35 → 00:20:40 ผมก็คิดอยู่นานมากเลยนะจนกระทั่ง
00:20:40 → 00:20:42 แต่ผมก็ตกตะกอนคืนนั้นเลย
00:20:42 → 00:20:46 อยู่ระหว่างเรื่องเลือกครูหรือเลือก
00:20:46 → 00:20:49 สถาบันเลือกโค้ชหรือว่าเรื่องอินฟิวชั่น
00:20:49 → 00:20:51 ผมเลือกขน
00:20:51 → 00:20:54 ผมก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร
00:20:54 → 00:20:58 จึงจะทำให้ผมเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นที่มี
00:20:58 → 00:21:01 ศักยภาพมากขึ้น
00:21:01 → 00:21:04 แต่ผมไม่อยากฝากไว้กับสถาบันผมอยากฝากไว้
00:21:04 → 00:21:07 กับมนุษย์กับบุคคล
00:21:07 → 00:21:11 ซึ่งผมมองออกว่าโค้ชคนนี้เนี่ยเป็นสุดยอด
00:21:11 → 00:21:16 ที่ผมจะเจอมาถึงที่ผมมองออก
00:21:17 → 00:21:21 ก็เพราะว่าผมทำการบ้านเรื่องพวกนี้มาสะสม
00:21:21 → 00:21:26 มาพอสมควรจนกระทั่งผมมองออกว่านี่คือเพชร
00:21:26 → 00:21:30 เรียกขึ้น Diamond นี่ขึ้น Diamond ที่
00:21:30 → 00:21:35 แบบผมไม่รู้ว่าคนมองไม่ออกหรือยังไง
00:21:35 → 00:21:39 แต่นี่คือท่านคือ Diamond น่ะ
00:21:39 → 00:21:45 แล้วผมอยากจะไปอยู่กับ Diamond ขั้นนี้
00:21:45 → 00:21:48 และก็กลับมาตอบขออนุญาติแบ่งประสบการณ์ตน
00:21:48 → 00:21:52 เองนะฮะแต่ผมอยากจะแชร์ทุกทีว่าหัวข้อสุด
00:21:52 → 00:21:55 ท้ายคือมักจะถามว่ารับโพสคนนั้นอยู่ที่
00:21:55 → 00:21:59 ไหนล่ะผมก็จะตอบว่าอายุไม่มีวันหาเจอหรอก
00:21:59 → 00:22:01 ถ้าอยู่ไม่รู้ว่าโค้ชฮอลล์นะเนี่ยลักษณะ
00:22:01 → 00:22:04 หรือบุคลิกเป็นยังไง
00:22:04 → 00:22:09 ก็เหมือนกับถ้าผมเอาหินก็นึงมาให้คนเนี่ย
00:22:09 → 00:22:12 แล้วคุณไม่มีความรู้เรื่องหินเลยเนี่ยคุณ
00:22:12 → 00:22:15 ก็จะไม่เห็นค่ามันแต่ถ้าคุณมีความรู้
00:22:15 → 00:22:17 เรื่องเพชรคนก็จะบอกว่าอันนี้มันไม่ใช่
00:22:17 → 00:22:22 หินนะนี่มันคือเพชรนะนั่นแหละคุณก็จะให้
00:22:22 → 00:22:26 คุณค่ากับหินก้อนนั้นมากเลยฉันจะสุดท้าย
00:22:26 → 00:22:29 คุณจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อคุณเองและทำการบ้าน
00:22:29 → 00:22:34 คุณเองต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาบุคลิก
00:22:34 → 00:22:38 มนุษย์การศึกษาพาแล็กเกอร์ที่ดีการศึกษา
00:22:38 → 00:22:43 การศึกษาโพสต์อะไรหลายอย่างอันนี้ Way
00:22:43 → 00:22:47 ก็ผมก็อยากขอแบ่งปันมุมมองนิเผื่อจะเป็น
00:22:47 → 00:22:50 ประโยชน์ให้กับเราทุกคน
00:22:50 → 00:22:52 งั้นวันนี้สรุป
00:22:52 → 00:22:57 ขับรถไปด้วยฟังผมพูดไปด้วยนะก็
00:22:57 → 00:23:00 ผมก็ตั้งใจขับรถนะครับ
00:23:00 → 00:23:04 คือก็อัดไปเรื่อยๆก็ลองดูมันได้ประโยชน์
00:23:04 → 00:23:06 หรือเปล่าแต่ว่าคลิปกลางคืนเนี่ยเดี๋ยว
00:23:06 → 00:23:11 นี้ผมอาจจะอาจจะนะอาจจะเลิกทำนะเพราะว่า
00:23:11 → 00:23:14 ผมก็ฝึกนอนเร็วมากขึ้นเพราะว่าผมตื่นมา
00:23:14 → 00:23:17 ต่อกำลังกายตอนเช้าให้เวลากับตนเองมาก
00:23:17 → 00:23:18 ขึ้น
00:23:19 → 00:23:21 อะนิเมะงั้น
00:23:21 → 00:23:25 ร่วมทางการเราทุกคนจะไปถึงเป้าหมายชีวิต
00:23:25 → 00:23:29 หรือความหมายชีวิตเนี่ยอย่าลืมนะครับมี
00:23:29 → 00:23:33 โค้ด Table เราควรจะ Coach คุณจะเป็นคน
00:23:33 → 00:23:38 ที่ครูสอนได้บ้านได้ถึงแม้เรารู้ก็แล้วก็
00:23:38 → 00:23:42 ตามอย่าเพิ่งปิดตังค์อันที่สองคืออย่ามอง
00:23:42 → 00:23:47 หาโค้ดที่เพอร์เฟคอย่าไปดแล้วสรุปเขาแล้ว
00:23:47 → 00:23:50 ก็อันสุดท้ายคือก่อนที่เราจะหาโค้ดที่
00:23:50 → 00:23:53 เหมาะสำหรับเราเนี่ยเราควรจะรู้สะก่อนว่า
00:23:53 → 00:23:56 บุคลิกอะไรหรือคาแรคเตอร์อะไรที่สำคัญที่
00:23:56 → 00:24:01 สุดในการเป็นโค้ชขอให้โชคดีนะครับไว้เจอ
00:24:01 → 00:24:05 กันใหม่สวัสดีครับอ่า