00:00:00 → 00:00:03 ก็สวัสดีครับมีคนสอบถามกันเข้ามานะครับ
00:00:03 → 00:00:06 ว่าอยากจะให้ผมพูดเรื่องโอทอปสักทีนะครับ
00:00:06 → 00:00:09 ซึ่งตัวนี้นะมันเป็น topic ซึ่งค่อนข้าง
00:00:09 → 00:00:12 ที่จะลึกมากเลยนะครับแล้วก็เห็นว่ามีคน
00:00:12 → 00:00:15 เอามาพูดกันนะฮะผมคิดว่าจริงๆเรื่องนี้
00:00:15 → 00:00:18 มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยากมากจริงๆ
00:00:18 → 00:00:20 ตอนแรกก็ไม่ได้อยากจะเอามาพูดอะไรเยอะ
00:00:20 → 00:00:23 เท่าไหร่นะครับแต่ว่าเนื่องจากว่ามันมี
00:00:23 → 00:00:26 หลายๆคนนะครับพูดถึงเรื่องนี้นะฮะผมก็เลย
00:00:26 → 00:00:28 จะเอามาอธิบายให้ฟังเลยนะครับในช่วงแรก
00:00:28 → 00:00:31 เนี่ยผมจะพูดเรื่องง่ายเกี่ยวข้องกับท็อป
00:00:31 → 00:00:33 G ก่อนว่ามันคืออะไรนะครับมีความสำคัญ
00:00:33 → 00:00:37 อย่างไรนะครับส่วนคนที่ต้องการจะรู้ลึกไป
00:00:37 → 00:00:39 กว่านั้นนะครับรู้ว่าทำไมผมถึงบอกว่ามัน
00:00:39 → 00:00:40 เป็น
00:00:40 → 00:00:43 topic เป็นหัวข้อที่ยากมากๆนะครับแล้ว
00:00:43 → 00:00:47 จริงๆคือจะต้องใช้ช่วงชีวิตคนทั้งชีวิต
00:00:47 → 00:00:50 เลยนะครับในการทำความเข้าใจมันนะครับก็
00:00:50 → 00:00:51 เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะครับเรื่องนี้นะฮะ
00:00:51 → 00:00:54 โอเคพบกับผมนะครับนายธานีธัญญะวันนะครับ
00:00:54 → 00:00:56 เป็นอาจารย์จะอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:00:56 → 00:00:59 นะครับที่จะรั่วปอดการปลูกถ่ายปลอดได้
00:00:59 → 00:01:01 ลิขิตบำบัดนะแต่ก่อนอื่นเลยนะครับคำว่า
00:01:01 → 00:01:05 ออฟฟิศที่เนี่ยมันคือพูดง่ายตรงๆเลยแปล
00:01:05 → 00:01:07 ว่าการกินตัวเองนะครับ Auto คือตัวเองนะ
00:01:07 → 00:01:10 ครับฟาสก็คือการกินนะครับเอาเท่ากับที่
00:01:10 → 00:01:13 การกินตัวเองตัวนี้มันมีความสำคัญก็คือ
00:01:13 → 00:01:15 มันเป็นระบบรีไซเคิลของร่างกายเราในการ
00:01:15 → 00:01:19 ที่อะมันจะกินส่วนต่างๆที่อยู่ในเซลล์ของ
00:01:19 → 00:01:21 คนเราเซลล์เนี่ยมันจะมีอวัยวะที่อยู่ใน
00:01:21 → 00:01:24 เซลล์แล้วก็สามารถย่อยโปรตีนที่มันเสียไป
00:01:24 → 00:01:28 แล้วหรือว่าอายุวอย่างอื่นที่มันหมดคุณ
00:01:28 → 00:01:30 ค่าคุณภาพไม่ดีแล้วนะครับก็จะมีการเอาไป
00:01:30 → 00:01:33 ใช้หรือโปรตีนต่างๆซึ่งอยู่ในเซลล์ที่มัน
00:01:33 → 00:01:35 เสียแล้วเนี่ยก็จะถูกเอาไปรีไซเคิลกลับมา
00:01:35 → 00:01:37 เป็นโปรตีนใหม่สร้างพลังงานให้กับร่างกาย
00:01:37 → 00:01:40 ได้นะครับหรือว่าจะเป็นการย่อยสิ่งต่างๆ
00:01:40 → 00:01:44 ไม่ว่าจะเป็นจ้อยเชื้อโรคนะครับย่อยพวก
00:01:44 → 00:01:48 เอ่อเศษซากต่างๆซึ่งเกิดจากกันแม้แต่
00:01:48 → 00:01:50 บอริซึมของร่างกายนะครับหรือย่อยพวกไขมัน
00:01:50 → 00:01:53 ย่อยอะไรย่อย DNA ของคนละที่มันเสียแล้ว
00:01:53 → 00:01:54 อย่างนี้เป็นต้นนะครับเพื่อที่จะนำพวก
00:01:54 → 00:01:57 เนี้ยกลับมาเป็นวีไซเข้าแล้วมาใช้ใหม่นะ
00:01:57 → 00:02:00 ครับสิ่งนี้มันสำคัญอย่างไรนะครับมันมี
00:02:00 → 00:02:04 การตรงที่ว่าเวลาที่เราอายุเยอะขึ้นนะ
00:02:04 → 00:02:07 ครับตัว R Top G เนี่ยมันจะเสียไปนะคะ
00:02:07 → 00:02:09 มันจะเสียไปเรื่อยๆนะครับก็เท่ากับ G
00:02:09 → 00:02:10 เนี่ยมันมีความเกี่ยวข้องกับโรคหลายๆโรค
00:02:10 → 00:02:13 เช่นโรคอัลไซเมอร์ดิสก์อาหารอัลไซเมอร์
00:02:14 → 00:02:16 โรคพาร์กินสันนะครับโลกทั้งระบบประสาท
00:02:16 → 00:02:18 เช่นฮันติงตัน disease เป็นต้นนะครับซึ่ง
00:02:18 → 00:02:21 ตรงนี้อาจจะอ่ะไม่รู้จักไม่เป็นไรนะครับ
00:02:21 → 00:02:24 ก็พูดเล่นๆให้หลายคนฟังนะครับถ้าเป็นใน
00:02:24 → 00:02:26 แง่ของโรคติดเชื้อนะครับคือมันจะมีเชื้อ
00:02:26 → 00:02:29 บางอย่างสามารถเข้าไปอยู่ในเซลล์ได้เราก็
00:02:29 → 00:02:32 จะใช้อบอวลกระบวนการออนท๊อปบัญชีในการฆ่า
00:02:32 → 00:02:34 เชื้อเหล่านั้นนะครับทำให้มันไม่สามารถ
00:02:34 → 00:02:37 ที่จะมีปัญหาต่อไปได้นะครับในคนที่มีโรค
00:02:37 → 00:02:39 เบาหวานโรคอ้วนนะครับก็จะมีความผิดปกติ
00:02:39 → 00:02:42 ของเท่ากับ G พวกนี้ไปด้วยนะครับนอกเลย
00:02:42 → 00:02:45 ตรงนี้เนี่ยมันจะมีเกี่ยวข้องกับการที่
00:02:45 → 00:02:48 เราใช้เอา Top RG ในการที่เปลี่ยนแปลง
00:02:48 → 00:02:51 เซลล์ต่างๆของคนเรานะครับซึ่งทั้งหมดทั้ง
00:02:51 → 00:02:53 มวลเนี่ยเขาท้อปาร์ตี้ตัวนี้มันมีความ
00:02:53 → 00:02:56 สำคัญในแง่ของการรักษาสมดุลของร่างกายนะ
00:02:56 → 00:02:59 ครับนำเอาพลังงานต่างๆที่ร่างกายใช้แล้ว
00:02:59 → 00:03:02 เอากลับมาใช้ใหม่มาทำการรีไซเคิลนะครับ
00:03:02 → 00:03:05 สิ่งต่างๆซึ่งร่างกายทำแล้วมันเสียไปแล้ว
00:03:05 → 00:03:07 เนี่ยเอากลับมาใช้ใหม่นะครับพรุ่งนี้จะมี
00:03:07 → 00:03:11 ผลประโยชน์มากนะครับและเรารู้ว่ามันมี
00:03:11 → 00:03:14 สิ่งที่เราจะเพิ่มปกติได้การที่เรามี Top
00:03:14 → 00:03:17 อาชีพเพิ่มขึ้นเนี่ยเขาคาดว่ามันน่าจะดี
00:03:17 → 00:03:19 นะครับเพราะว่าในภาวะที่มีโรคต่างๆเนี่ย
00:03:19 → 00:03:22 มันก็เจอว่ามีความผิดปกติของน้องท้องจี้
00:03:22 → 00:03:25 ไปเยอะนะครับอะไรบ้างที่ทำให้เอาท้องฟ้า
00:03:25 → 00:03:28 ที่เพิ่มขึ้นนะครับเรารู้อยู่แล้วว่า 1
00:03:28 → 00:03:30 การออกกำลังกายทำให้ท้องบัญชีเพิ่มขึ้นนะ
00:03:30 → 00:03:33 ครับออกกำลังกายสม่ำเสมอเช่นพวกแอโรบิค
00:03:33 → 00:03:35 พวกวิ่งพวกว่ายน้ำพวกเป็นฟุตบอลอะไรอย่าง
00:03:35 → 00:03:37 นี้นะครับทำให้เราท้อกับที่เพิ่มขึ้นนะ
00:03:37 → 00:03:41 ครับอันที่สองก็คือถ้าเราพักผ่อนให้เต็ม
00:03:41 → 00:03:45 พอถ้าเป็นที่ก็จะเพิ่มขึ้นนะครับหรือถ้า
00:03:45 → 00:03:48 เกิดว่าเราทานของบางอย่างเนี่ยท็อปติก็จะ
00:03:48 → 00:03:51 เพิ่มขึ้นซึ่งตรงนี้มันเป็นที่มาของการ
00:03:51 → 00:03:56 ที่ทำไมคนบางคนเขาถึงพยายามจะชูโรงสิ่ง
00:03:56 → 00:03:57 ต่างๆว่ากินแล้วให้ออกเพราะมันที่มัน
00:03:57 → 00:04:00 เพิ่มขึ้นนะแต่ว่าทั้งหมดทั้งมวลแต่ก็ไม่
00:04:00 → 00:04:03 เสมอไปนะครับแล้วยังต้องศึกษาเพิ่มขึ้น
00:04:03 → 00:04:05 อีกเยอะนะครับแต่สิ่งที่เรารู้แน่ๆก็คือ
00:04:05 → 00:04:08 ถ้าเรากินอาหารไขมันเยอะอาหารของทางตะวัน
00:04:08 → 00:04:11 ตกเยอะก็เนี้ยมันจะไปลด on top จี้นะ
00:04:11 → 00:04:15 ครับจะไปรดเอาทองจี้นะครับก็เขาก็นี่ก็
00:04:15 → 00:04:17 เป็นกระบวนการหนึ่งซึ่งอาจจะมีความเกี่ยว
00:04:17 → 00:04:21 ข้องกับการแก่ของคนเราก็ได้แก่ของเซลล์
00:04:21 → 00:04:23 ต่างๆนะครับพวกนี้ก็จะมีความเกี่ยวข้อง
00:04:23 → 00:04:26 แต่กระบวนการความแก่ของคนเราจริงๆมันไม่
00:04:26 → 00:04:27 ได้เป็นที่เอา Talk ปาร์ตี้อย่างเดียวนะ
00:04:27 → 00:04:30 ครับจะมีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่ง
00:04:30 → 00:04:32 ผมพูดตรงนี้ท่านไม่ต้องไปต้องเข้าใจก็ได้
00:04:32 → 00:04:35 นะครับมันจะมีเรื่องของทีมเมียนะครับที่
00:04:35 → 00:04:39 โรงเรียนจะเป็นเอ่อเป็นตัวที่เอาไว้ปก
00:04:39 → 00:04:41 ป้อง DNA ของคนเอาแล้วกันแล้วเวลาที่เรา
00:04:41 → 00:04:43 แบ่งตัวหลายๆครั้งนะครับที่เราเมียของเรา
00:04:43 → 00:04:45 เนี่ยมันจะสั้นลงไปเรื่อยๆนะครับเวลาที่
00:04:45 → 00:04:47 เราอายุเยอะแล้วเมียมันหายไปนะครับหรือ
00:04:47 → 00:04:50 ว่าสั้นลงบางๆจนไม่สามารถป้อง DNA ของคน
00:04:50 → 00:04:53 เราได้ต่อไปปุ๊บ DNA เรามันก็จะเสียได้นะ
00:04:53 → 00:04:55 ครับคล้ายๆกับเวลาที่เราผูกเชือกรองเท้า
00:04:55 → 00:05:00 ครับอ่าเชือกรองเท้าเราเนี่ยมันจะเป็นแบบ
00:05:00 → 00:05:03 อ่าเห็นไหมครับเราก็ต้องปลายมันจะมีมี
00:05:03 → 00:05:05 พลาสติกอันนึงนะครับเพื่อที่จะป้องกันไม่
00:05:05 → 00:05:09 ให้ตัวเชือกรองเท้าแล้วเนี่ยมันใครตัวมา
00:05:09 → 00:05:11 ได้ไอ้ตัวพลาสติกตรงนี้เนี่ยก็เปรียบ
00:05:11 → 00:05:13 เสมือนกับตัวที่ low เมียนะครับที่ลมเมีย
00:05:13 → 00:05:15 คือตัวนี้
00:05:15 → 00:05:19 ขอรหัสถ้าเกิดว่าตัวนี้มันเสียไปปุ๊บ
00:05:19 → 00:05:21 เนี่ยแล้วเราไม่มีใครพลาสติคตัวนี้อยู่
00:05:21 → 00:05:23 เนี่ยตัว
00:05:23 → 00:05:26 ตัวเนี้ยนะครับซึ่งเป็นเชือกรองเท้าแล้ว
00:05:26 → 00:05:27 ก็เปรียบได้กับดีเอ็นเอของคนเราเนี่ยมัน
00:05:27 → 00:05:30 ก็จะคลายเกลียวเราก็จะเละไปหมดอย่างนี้นะ
00:05:30 → 00:05:32 ครับเป็นเส้นยุ่งเยอะนะครับวันนี้ก็เป็น
00:05:32 → 00:05:35 อีกกลไกหนึ่งซึ่งคนอายุเยอะๆก็จะเจอภาวะ
00:05:35 → 00:05:37 นี้ได้นะครับที่เรามีมันสั้นลงหรือบางคน
00:05:37 → 00:05:39 ดีความผิดปกติเกี่ยวกับที่โรงเรียนก็จะ
00:05:39 → 00:05:42 เกิดภาวะต่างๆเช่นผมขาวก่อนวัยซึ่งพรุ่ง
00:05:42 → 00:05:44 นี้เดี๋ยวไว้วันหลังผมมาเล่าให้ฟังละกัน
00:05:44 → 00:05:47 นะครับมียินบาง gene เกี่ยวข้องกับการ
00:05:47 → 00:05:51 เจริญเติบตัวการแก่ของคนนะครับก็ยกตัว
00:05:51 → 00:05:55 อย่างเช่น eur โรคลบหนึ่งนะครับชื่อโปรที
00:05:55 → 00:05:58 เรียนะครับอันนี้บางคนอาจจะเคยเห็นเด็ก 8
00:05:59 → 00:06:01 ขวบนี้อายุหน้าตาเหมือนเด็ก 80 นะครับแต่
00:06:01 → 00:06:04 มันคนอายุ 80 ก็ก็มีพวกนี้ได้นะครับนอก
00:06:04 → 00:06:06 เหนือจากนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับเรื่อง
00:06:06 → 00:06:09 ของเรียน A เวลาที่มันแบ่งตัวมีการคลาย
00:06:09 → 00:06:12 เกลียวนักเรียวมันมีถ้าถ้าตัวมันคล้ายมาก
00:06:12 → 00:06:15 เกินไปคล้ายบ่อยมันก็จะมีปัญหาได้พวกนั้น
00:06:15 → 00:06:16 ก็จะเกี่ยวข้องมีความแก่ของคนเราเหมือน
00:06:16 → 00:06:21 กันนะฮะนี้พท.จี้เนี่ยมันมีอีกอย่างหนึ่ง
00:06:21 → 00:06:25 ซึ่งเราจะสามารถเพิ่มมันได้นะครับคือการ
00:06:25 → 00:06:29 ที่เราอดอาหารอ้าอันนี้มันเป็นอะไรที่ที่
00:06:29 → 00:06:32 ที่เป็นการศึกษาอย่างชัดเจนนะครับถ้าเรา
00:06:32 → 00:06:35 อดอาหารเนี่ยหรืออยู่ในภาวะที่เราเครียด
00:06:35 → 00:06:37 มากๆที่เราไม่มีอาหารของร่างกายเนี่ยนะ
00:06:37 → 00:06:40 ครับ on top RG นี่มันจะเพิ่มขึ้นมันก็
00:06:40 → 00:06:41 มีเหตุผลนะครับเพราะว่าถ้าเราไม่ได้กิน
00:06:41 → 00:06:44 อาหารอะไรเข้าไปในร่างกายแล้วเนี่ยร่าง
00:06:44 → 00:06:45 กายเราไม่มีความจำเป็นจะต้องสร้างโปรตีน
00:06:45 → 00:06:49 มหาศาลสร้างสิ่งต่างๆมามหาศาลนะครับแล้ว
00:06:49 → 00:06:51 มันจะเอาที่ไหนมาสร้างถ้าเราไม่กินเข้าไป
00:06:51 → 00:06:54 มันก็เลยต้องมีการย่อยตัวเองโดยจะใช้
00:06:54 → 00:06:57 กระบวนการ Top G ในการย่อยสิ่งต่างๆแล้ว
00:06:57 → 00:06:59 เอามารีไซเข้าเล่ามาใช้ใหม่นะครับหน้า
00:06:59 → 00:07:04 จริงๆอันนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆที่นี่
00:07:04 → 00:07:07 ถ้านอกเหนือจากนี้คือก็จะมีคนพูดถึงสาร
00:07:07 → 00:07:10 ต่างๆที่มันสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงทำให้
00:07:10 → 00:07:12 เอาท่อปาร์ตี้มันดีขึ้นได้ตัวที่เราเออ
00:07:12 → 00:07:17 พูดกันบ่อยๆนะครับก็อาจจะมีบางคนเคยได้
00:07:17 → 00:07:19 ยินสารสกัดจากไวน์แดงตัวนึงนะครับที่
00:07:19 → 00:07:24 regulate เท่านะครับเรดบีราช่องนะครับ
00:07:24 → 00:07:26 ตัวนี้เป็นสารสกัดจากไวน์แดงตัวนึงซึ่ง
00:07:26 → 00:07:29 อาจจะมีการเพิ่มทองจี้ให้กับเราได้นะครับ
00:07:29 → 00:07:32 แต่ว่าปัญหาของของตัวนี้ก็ถือว่าเรายัง
00:07:32 → 00:07:34 ไม่ทราบว่าขนาดแค่ไหนมาถึงจะเพิ่มเอา Talk
00:07:34 → 00:07:38 จีของเราได้นะครับมี
00:07:38 → 00:07:41 มียาตัวนึงนะครับชื่อยาเม็ดฟอมินเป็นยา
00:07:41 → 00:07:46 เบาหวานนะครับตัวนี้นะมันก็สามารถเพิ่มมา
00:07:46 → 00:07:48 ท๊อปส์ RG ได้เหมือนกันเพียงแต่ว่าเพิ่ม
00:07:48 → 00:07:51 ได้แค่ไหนแล้วมันดีและมีผลทางทางคลินิก
00:07:51 → 00:07:54 จริงๆหรือเปล่านี้เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
00:07:54 → 00:07:57 นะครับอยากตัวนึงเป็นยากดภูมิต้านทานชื่อ
00:07:57 → 00:08:00 ไซลอนลิมัสนะครับอ่ะ
00:08:00 → 00:08:03 ดีหรือมีตัวมีชื่อหนึ่งชื่อว่าลาป้าใหม่
00:08:03 → 00:08:05 สิ้นนะครับ
00:08:05 → 00:08:08 คือยาตัวนี้ก็เป็นยาที่ผมรู้ดีเพราะว่าผม
00:08:08 → 00:08:11 ก็ใช้อยู่เรื่อยๆนะครับสำหรับคนไข้ก็ที่
00:08:11 → 00:08:14 ต้องใช้ยากดภูมินะฮะแล้วตัวนี้ก็มีหน้า
00:08:14 → 00:08:16 ที่ในการไปยุ่งเกี่ยวข้องกับตัวออโต้
00:08:16 → 00:08:19 ปาร์ตี้นะครับทำให้มันมีการเพิ่มของท้อ
00:08:19 → 00:08:21 กับที่ได้นะครับตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ
00:08:21 → 00:08:25 เหมือนกันนะครับน้องเลยจากนั้นก็มีคน
00:08:25 → 00:08:29 พยายามจะเอาสารต่างๆเช่นเอ่อโสมบ้างอ่ะ
00:08:29 → 00:08:32 เราจะรู้ว่า Jin zheng อ่ะสมก็อาจจะ
00:08:32 → 00:08:34 เพิ่ม autophagy ได้นะครับหรือบางกรณีก็
00:08:34 → 00:08:37 เจอว่ามันลดเอาไปที่ซึ่งตรงนี้มันมีการ
00:08:37 → 00:08:40 ศึกษาที่มันขัดแย้งกันอยู่นะครับเอ่อ
00:08:40 → 00:08:44 ก็อยากกินเซ็งเขียนผิดน่าจะแบบนี้นะครับ
00:08:44 → 00:08:47 คุณเซ็งจิงโกะนะครับ
00:08:47 → 00:08:51 ที่จริงกบกิโลบ้าอะไรงั้นนะครับตัวนี้มัน
00:08:51 → 00:08:53 ก็สามารถที่จะเพิ่มมาท๊อปส์ที่ให้กับเรา
00:08:53 → 00:08:55 ได้นอกเหนือจากนี้ยังมีสารอีกหลายเลยนะ
00:08:55 → 00:08:57 ครับที่มันไม่เกี่ยวข้องกับตอนนี้แล้วก็
00:08:57 → 00:09:00 ตอนช่วงล่างก็เริ่มมีคนเอากันชาวอะไร
00:09:00 → 00:09:02 เงี้ยมาวิวิจัยเพิ่มขึ้นนะครับแต่ว่าพวก
00:09:02 → 00:09:05 เนี้ยยังอยู่ในขั้นแรกเริ่มมากๆนะครับการ
00:09:05 → 00:09:08 ที่เราไปยุ่งอะไรกับของพวกเนี้ยมันไม่ได้
00:09:08 → 00:09:09 ยุ่งกับอย่างเดียวในร่างกายซึ่งเดี๋ยวผม
00:09:09 → 00:09:12 จะอธิบายลงนึกว่าทำไมมันถึงเราไม่สามารถ
00:09:12 → 00:09:14 ที่จะเอาพวกในมาใช้ได้ทันทีตั้งแต่ตอนนี้
00:09:14 → 00:09:16 นะครับเพราะมีปัญหาเยอะมากนะครับดังนั้น
00:09:16 → 00:09:20 ตอนนี้ปัจจุบันสิ่งที่เรารู้แน่ชัดว่าจะ
00:09:20 → 00:09:22 เพิ่ม Top RG ได้อย่างปลอดภัยจริงๆคือ
00:09:22 → 00:09:28 อะไรบ้าง 1 การอ่าน - อาหารนะครับ
00:09:28 → 00:09:31 มีรถฟู้ดลงนะครับรถอาหารเนี่ยมันเพิ่มได้
00:09:31 → 00:09:35 แน่ๆการเพิ่มการออกกำลังกายนะครับถ้าเรา
00:09:35 → 00:09:37 เพิ่มการออกกำลังกายเนี่ยมันได้แน่ๆนะ
00:09:37 → 00:09:40 ครับแล้วก็มีการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพนะ
00:09:40 → 00:09:43 ครับพักผ่อนนอนหลับอย่างมีคุณภาพแล้วก็
00:09:43 → 00:09:47 ให้มันเพียงพอ 3 อันเนี้ยแน่นอนใช้ได้
00:09:47 → 00:09:50 แล้วก็ปลอดภัยนะครับแล้วเดี๋ยวเราจะมาลง
00:09:50 → 00:09:52 ลึกว่าเออพวกนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงแล้ว
00:09:52 → 00:09:56 ทำไมถึงตอบไผ่นะครับที่นี้สำหรับกรณีของ
00:09:56 → 00:09:58 เรื่องอาหารสำหรับคนที่ทำ intermittent
00:09:58 → 00:10:01 fasting หรือไอเอสนั่นเองนะครับ Top G
00:10:01 → 00:10:04 นี่มันมีหลายๆแบบนะครับเราจะเริ่มเห็นการ
00:10:04 → 00:10:06 เพิ่มขึ้นของโอทอปจีเมื่อเราอ่อนอาหารไป
00:10:06 → 00:10:09 อย่างน้อย 4 ชั่วโมงนะครับแต่พอเราอด
00:10:09 → 00:10:11 อาหารไปสักพักนึงเนี่ยประมาณสักสอง
00:10:11 → 00:10:13 ชั่วโมงเราจะมีเอา Top อะที่อีกแบบหนึ่ง
00:10:13 → 00:10:15 นะครับซึ่งเดี๋ยวผมลงไปให้แล้วกันสำหรับ
00:10:15 → 00:10:17 คนที่ต้องการรู้เรื่องนี้มันจะเพิ่มขึ้น
00:10:17 → 00:10:19 ตอนที่เราก่อนอาหารสักประมาณ 12 ชั่วโมง
00:10:19 → 00:10:24 นะครับอ่ะนั้นตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เราอยาก
00:10:24 → 00:10:27 จะบอกสำหรับคนที่ต้องการรู้เอาปั่นที่มี
00:10:27 → 00:10:29 ประโยชน์ยังไงแล้วก็จะแนะนำเพิ่มมาทับไป
00:10:29 → 00:10:31 ที่ได้ก็จะฟังเท่านี้เป็นพอแล้วนะครับก็
00:10:31 → 00:10:34 เข้าไปที่อายุเยอะขึ้นเนี่ยมันจะลดลงนะ
00:10:34 → 00:10:36 ครับทำให้ร่างกายของเราเนี่ยมีการสื่อ
00:10:36 → 00:10:39 เพิ่มขึ้นเกิดโรคต่างๆเพิ่มขึ้นเช่นโรค
00:10:39 → 00:10:42 เบาหวานโรคอ่านความจำเสื่อมนะครับ
00:10:42 → 00:10:44 อัลไซเมอร์โรคพาร์กินสันโรคทางถึงตั้นพวก
00:10:44 → 00:10:46 อะไรพวกเนี้ยมีหลายๆโลกนะครับแล้วก็ติด
00:10:46 → 00:10:48 เชื้อก็จะง่ายขึ้นด้วยเนื่องจากว่าพวกนี้
00:10:48 → 00:10:52 มันมีความเสื่อมไปนะครับเราก็ถ้าเรา
00:10:52 → 00:10:54 สามารถทำได้ดังพวกนี้ที่ผมบอกไปก็จะ
00:10:54 → 00:10:56 สามารถทำให้เรามี on top บัญชีที่มันสูง
00:10:56 → 00:10:58 ขึ้นได้และวิธีพวกนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัย
00:10:58 → 00:11:01 นะครับเราที่สุดมาแล้วมันได้นะครับเมื่อ
00:11:01 → 00:11:03 เทียบกับสิ่งอื่นๆพวกยาพวกอะไรอย่างนี้
00:11:03 → 00:11:06 อาจจะยังไม่ได้ปลอดภัยแล้วก็มันอาจจะ
00:11:06 → 00:11:08 เพิ่มมาท๊อปส์บัญชีได้จริงในหลอดทดลองนะ
00:11:08 → 00:11:11 ครับแต่ในคนจริงๆเนี่ยไม่แน่นะครับอ่ะ
00:11:11 → 00:11:14 โอเคตรงนี้ก็เป็นเข้าๆของทปอ.จี้นะครับ
00:11:14 → 00:11:16 สำหรับคนที่ต้องการฟังลงหรือก็นับตั้งแต่
00:11:16 → 00:11:19 ตรงนี้เป็นต้นไปนะครับอ่ะก่อนอื่นเลยเอา
00:11:19 → 00:11:21 เท่ากับ G เนี่ยมันเป็นอะไรที่คนคนนึงเขา
00:11:21 → 00:11:24 ศึกษามาตลอดชีวิตนะครับแล้วก็เป็นงาน
00:11:24 → 00:11:28 ศึกษาที่ได้รางวัลโนเบลซะด้วยนะครับกับ
00:11:28 → 00:11:32 เธอและต่อไปคือตรงเนี้ยเป็นคนญี่ปุ่นคน
00:11:32 → 00:11:37 นึงนะครับเชื่อผมจำไม่ได้เดี๋ยวนะโยชิโน
00:11:37 → 00:11:40 ริโอซูมินะครับคนนี้เขาได้ได้รางวัลโนเบล
00:11:40 → 00:11:44 ปี 2016 2017 เอานี้รหัสน่าจะ 2016 มาก
00:11:44 → 00:11:46 กว่านะครับโดยเขาศึกษาเรียกว่าท้องก็ตีคน
00:11:46 → 00:11:48 แรกๆแล้วก็เป็นคนที่สามารถบอกได้ว่ามีอก
00:11:48 → 00:11:51 ที่เกิดขึ้นจริงโดยเขาศึกษาใน is ตัวนึง
00:11:51 → 00:11:55 นะครับแล้วก็ศึกษาอะไรตัวนี้มันจะเป็น
00:11:55 → 00:11:59 ยีสต์ตัวหนึ่งยึดทรงกลมๆนะครับแล้วก็ใน
00:11:59 → 00:12:04 เนี่ยมันจะมีอวัยวะหนึ่งนะตัวนี้คือทั้งๆ
00:12:04 → 00:12:07 กลมๆเนี่ยนะครับมันเป็นยีสต์นะครับตัวนี้
00:12:07 → 00:12:09 สิทธิ์เข้าศึกษาอยู่
00:12:09 → 00:12:13 อยู่ในกล่องคมตรงนี้นะครับมันก็เป็นเป็น
00:12:13 → 00:12:16 ตัวที่เขาศึกษาตรงนี้เป็นซิงเกิลนะครับ
00:12:16 → 00:12:18 อ่ะ
00:12:18 → 00:12:22 ฮะซึ่งไอ้เนี่ยจริงๆเหมือนเป็นฟองอากาศ
00:12:22 → 00:12:24 ที่อยู่ในเซลล์ซึ่งไม่มีคนเขาสนใจในตอน
00:12:24 → 00:12:26 นั้นก็คิดว่าเออมันเป็นอะไรก็ไม่รู้ที่
00:12:26 → 00:12:29 มันอยู่ในเซลล์ยีสต์เนี่ยมันกลมๆก็คงไม่
00:12:29 → 00:12:30 มีอะไรสำคัญเพราะว่าข้างในเนี่ยมันก็ว่าง
00:12:30 → 00:12:33 เปล่าไม่มีอะไรไม่มีใครเจออะไรนะคะมี
00:12:33 → 00:12:37 membrane เหลือแผ่นบางๆรอบๆเท่านั้นเอง
00:12:37 → 00:12:41 นะครับแต่คนคนนี้เขาอยู่กับมันเป็นหลาย
00:12:41 → 00:12:44 สิบปีนะครับเขาศึกษาจะ vesicare พวกนี้
00:12:44 → 00:12:46 มันไม่ได้เป็นเป็นๆมันไม่ได้เป็นกลุ่มถุง
00:12:46 → 00:12:50 กลมเปล่าแล้วนะครับมันมีการนำสารต่างๆ
00:12:50 → 00:12:53 เข้าไปนี้เพื่อย่อยนะครับย่อยแล้วออกมา
00:12:53 → 00:12:56 ข้างนอกเพื่อเอามาใช้ซ้ำนะครับเกิดการ
00:12:56 → 00:12:58 วิจัยเข้าและกระบวนการนำของเข้าแต่ละ
00:12:58 → 00:13:00 อย่างเนี้ยมันมีความสลับซับซ้อนหรือมี
00:13:00 → 00:13:02 ความจำเพราะว่ามันจะเอาของอะไรเข้าไปข้าง
00:13:02 → 00:13:06 ในนะครับเช่นว่าสมมุติถ้ามีรูปตัวประหลาด
00:13:06 → 00:13:07 อย่างนี้นะครับมันจะเอาตัวนี้เข้าไปมันจะ
00:13:07 → 00:13:10 ต้องมีสิ่งที่มาดูก่อนว่าเออเราจะรู้ได้
00:13:10 → 00:13:12 ไงว่าเป็นตัวนี้เราต้องเอาตัวนี้เข้าไป
00:13:12 → 00:13:14 มันจะมีกระบวนการรู้รับรู้เสร็จปุ๊บเข้า
00:13:14 → 00:13:17 มาตรงนี้อาจจะเอาเข้าไปยังไงนะครับจะต้อง
00:13:17 → 00:13:19 มีตัวพาไหมจะต้องมีถ้ากูมีข้อให้มาเอา
00:13:19 → 00:13:22 เข้าไปไหมนะครับแล้วเข้าไปนี้เรายังไงต่อ
00:13:22 → 00:13:25 นะครับก็จะมีการนำเอานำเอากดเข้ามานะครับ
00:13:25 → 00:13:27 กดก็เป็นโปรตอนนะครับนำเอาเข้ามาเอาเข้า
00:13:27 → 00:13:29 มาย่อยย่อยเสร็จแล้วยังไงอะไรเงี้ยนะครับ
00:13:29 → 00:13:32 คือมันมีขั้นตอนมากมายมหาศาลจนกระทั่งเขา
00:13:32 → 00:13:35 สามารถที่จะตอบได้ว่าไอ้เบสเข้าเนี่ยมี
00:13:35 → 00:13:38 ความสำคัญมากนะครับแล้วก็มีกระบวนการเอา
00:13:38 → 00:13:41 ของเข้าของออกการย่อยการสลายสิ่งต่างๆ
00:13:41 → 00:13:44 แล้วก็เป็นที่มาของการอธิบายว่าไอ้ทั้ง
00:13:44 → 00:13:47 หมดนะครับมันเป็นกระบวนการที่เรียกว่าออก
00:13:47 → 00:13:51 ทอง g นะครับหน้าถ้าเราไม่มีโอทอปอจี้เรา
00:13:51 → 00:13:53 โทรไปที่ของเราแย่มากๆเนี่ยร่างกายเราก็
00:13:53 → 00:13:56 จะมีความเสื่อมหลายๆอย่างเกิดขึ้นมานะ
00:13:56 → 00:13:58 ครับนั้นตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างที่
00:13:58 → 00:14:01 จะสำคัญที่ทำให้คุณโอโซนนี้นะเค้าได้
00:14:01 → 00:14:05 รางวัลโนเบลนะครับปี 2016 แถวนั้นนะครับ
00:14:05 → 00:14:10 เอ่อที่นี้ผมก็อยากจะให้มาดูว่าเธอมันพูด
00:14:10 → 00:14:14 ว่ายังไงบ้างไอ้ตัวนี้นะครับ
00:14:14 → 00:14:16 ถ้าท่านทุกท่านคงจะรู้จักเซลล์นะครับ
00:14:16 → 00:14:19 เซลล์คนเนี่ยนะครับกลมๆอย่างนี้นะครับมัน
00:14:19 → 00:14:21 จะมีสิ่งที่อยู่ข้างในมากมายนะครับคือ
00:14:21 → 00:14:25 อันเนี้ยมีนิวเคลียสนะครับผมเขียนด้วยตัว
00:14:25 → 00:14:27 เองละกันนะครับนอกเหนือจากนี้ยังมีอวัยวะ
00:14:27 → 00:14:30 ต่างๆเยอะแยะไปหมดเลยนะครับเช่นอ่าหน้าตา
00:14:30 → 00:14:34 แบบนี้ก็คือไมโตคอนเดรียนะครับเป็นแหล่ง
00:14:34 → 00:14:37 พลังงานของร่างกายนะครับอ่ะ
00:14:37 → 00:14:41 มาแล้วมันก็จะมีตรงนี้ยึดยืนอะไรพวกนี้นะ
00:14:41 → 00:14:43 ครับเป็น
00:14:43 → 00:14:46 เอ่อเอนโดพลาสมิกเรติคูลัมนะครับอ่ะ
00:14:46 → 00:14:49 แต่สายวิทย์ที่คุณจะรู้จักตัวนี้นะครับ
00:14:49 → 00:14:53 เออเออ
00:14:53 → 00:14:57 อ่านี่นะครับแล้วก็จะมีหลายๆอย่างแต่ไม่
00:14:57 → 00:15:00 หมดเลยนะครับของพวกนี้มันเป็นของที่สำคัญ
00:15:00 → 00:15:03 แต่ว่ามันไม่สามารถอยู่ได้ตลอดไปแล้วบาง
00:15:03 → 00:15:05 อย่างเวลามันเสียแล้วก็ต้องมีการเอากลับ
00:15:05 → 00:15:09 มาใช้ใหม่นะครับอ่าถามว่า Top G นี่มัน
00:15:09 → 00:15:12 คืออะไรยังไงนะครับคือตัวเมื่อตะกี้นี้นะ
00:15:12 → 00:15:15 ครับพ่อเฒ่าคอร์ด E เนี่ยมีหลายแบบนะครับ
00:15:15 → 00:15:20 แบบอะไรบ้างแม็คโครนะครับแม็คโครทอชี่นะ
00:15:20 → 00:15:22 ครับแล้วก็มี Micro
00:15:22 → 00:15:27 Talk ที่มีแชะโรน
00:15:27 → 00:15:30 อามร์ di เตอร์
00:15:30 → 00:15:34 ก็ขอทองจี้นะครับแล้วก็มีเอ็นโดโซมอลล์นะ
00:15:34 → 00:15:38 ครับพอที่
00:15:38 → 00:15:41 เองซึ่ง r endosome เอาตีในเป็นตัวใหม่
00:15:41 → 00:15:43 ล่าสุดที่เราค้นพบไม่นานแล้วก็ไม่ค่อยรู้
00:15:43 → 00:15:45 จักอะไรมันเท่าไหร่ว่ามันทำงานยังไงนะ
00:15:45 → 00:15:48 ครับไมโครโซมโอ้วเราก็ไม่ค่อยรู้จักมัน
00:15:48 → 00:15:50 เหมือนกันนะครับตัวเดียวรู้จักดีที่สุดก็
00:15:50 → 00:15:52 คือไอ้สองตัวนะครับแม็คโครกับชรวนะครับ
00:15:52 → 00:15:55 โดยแม็คโครน่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเราทำไอเอส
00:15:55 → 00:15:57 ไปนะครับ intermittent fasting เกิน 4
00:15:57 → 00:15:59 ชั่วโมงนะครับว่าจะเจอตัวนี้เพิ่มขึ้นนะ
00:15:59 → 00:16:03 ฮะตัวชาตโรนเนี่ยมันจะทำ I F ก็คือเรา
00:16:03 → 00:16:06 ไม่ได้กินอะไรเข้าไปเกิน 12 ชั่วโมงเป็น
00:16:06 → 00:16:09 ต้นไปนะครับนี่นะฮะเราจะเจอตรงนี้เพิ่ม
00:16:09 → 00:16:11 ขึ้นถ้าคนไหนที่ทำไมเอ๊ะแล้วก็อยากจะได้
00:16:11 → 00:16:14 และพวกมันก็นี้ก็เป็นแบบนี้นะครับโอเค
00:16:14 → 00:16:16 เดี๋ยวต่อไปเราก็มาเข้าเรื่องกันเลยว่า
00:16:16 → 00:16:19 ไอ้พวกนี้มันทำงานยังไงนะครับตรงนี้จะ
00:16:19 → 00:16:22 เริ่มยากแล้วนะครับก็เริ่มจากตรงนี้เลย
00:16:22 → 00:16:26 ครับ 1 เรามีเอนโดพลาสมิกเรติคูลัมนะครับ
00:16:26 → 00:16:29 ก็คือเป็นหน้าตาแบบนี้นะครับมันก็จะมีการ
00:16:29 → 00:16:32 ดึงเอาส่วนนั้นออกมานะครับแล้วก็กลายเป็น
00:16:32 → 00:16:35 เป็น membrane แบบนี้นะคะเป็นเส้นเล็กๆนะ
00:16:35 → 00:16:38 ครับหลังนัดจากนั้นก็จะมีกลไกต่างๆเข้ามี
00:16:38 → 00:16:42 ห้องนะครับทำให้ตัวเนี้ยมันใหญ่ขึ้นนะ
00:16:42 → 00:16:43 ครับอ่ะ
00:16:43 → 00:16:47 แต่ตัวเนี้ยนะฮะแล้วก็มีการนำสิ่งต่างๆ
00:16:47 → 00:16:49 ที่เราต้องการย่อยเข้าไปข้างในนี้โดยเขา
00:16:49 → 00:16:52 จะเรียกว่าเป็น Cargo หรือสินค้านั้นเอง
00:16:52 → 00:16:54 นะครับโดยสมมุติตอนนี้เป็น
00:16:54 → 00:16:57 อากรสี่เหลี่ยมนี้ละกัน Cargo ตัวนี้นะ
00:16:57 → 00:16:58 ครับ
00:16:58 → 00:17:02 มาดูสินค้านะฮะก็จะมีตัวนำตัวนี้เข้ามา
00:17:02 → 00:17:05 โดยเขาต้องรู้แน่ว่าแต่ตัวนำในสิ่งต่างๆ
00:17:05 → 00:17:07 ที่เข้ามาเนี่ยจะมีความเฉพาะเจาะจงสำหรับ
00:17:07 → 00:17:10 ตัวนำพรุ่งนี้นะครับหลังจากนั้นมันก็จะ
00:17:10 → 00:17:13 กลายเป็นก้อนกลมๆนะครับโดยมีอีกสี่
00:17:13 → 00:17:17 เหลี่ยมที่อยู่ข้างในนะครับเออแล้วพอสุด
00:17:17 → 00:17:21 ท้ายปุ๊บเนี่ยมันก็จะไปรวมตัวกับถุงน้ำ
00:17:21 → 00:17:24 ย่อยนะครับอย่างนี้
00:17:24 → 00:17:25 นี้นะครับอันนี้ก็คือไอ้ก้อนสี่เหลี่ยม
00:17:25 → 00:17:29 เมื่อตะกี้นี้นะครับตัวนี้คือ lysosome ๆ
00:17:29 → 00:17:32 นะครับอ่ะ
00:17:32 → 00:17:36 หน้าโทรมหรือโซม่ามันไม่ใช่ไปว่าโทรมนะ
00:17:36 → 00:17:40 ครับซมซมในที่ของของวิทยาศาสตร์นี้คือแปล
00:17:40 → 00:17:44 ว่าบอดี้ก็คือร่างกายนะครับไลฟ์ก็คือเป็น
00:17:44 → 00:17:47 การทำลายทิ้งนะครับเป็นการย่อยนะครับ
00:17:47 → 00:17:50 lysosome ก็คือเป็นอวัยวะหนึ่งซึ่งเอา
00:17:50 → 00:17:52 ไว้ย่อยอะไรซะอย่างนึงนะครับในที่นี้ก็
00:17:52 → 00:17:56 คือตัวนี้นั่นเองนะครับไอ้ก็เนี้ยจะเรียก
00:17:56 → 00:18:01 ว่าว่า Auto บ่อปลากระโสมนะครับ
00:18:01 → 00:18:05 อ่านี่นะครับแล้วก็จะไปรวมแบบนี้ร่วม
00:18:05 → 00:18:06 Facebook ไม่ด้อยสัตว์ปุ๊บเราก็จะปล่อย
00:18:06 → 00:18:09 เอาออกมานะครับเป็นชิ้นเป็นอันเอาไปใช้
00:18:09 → 00:18:12 ต่อนะครับเอาไปใช้อะไรก็ได้ไอ้เกาะเนี่ย
00:18:12 → 00:18:16 Cargo นี้ก็ต่อเมื่อกี้หายไปไอ้ก่อนตัว
00:18:16 → 00:18:19 Cargo ตัวนี้ก็มันเป็นอาจจะเป็น
00:18:19 → 00:18:21 แบคทีเรียที่อยู่ในเซลล์เป็นไวรัสอยู่ใน
00:18:21 → 00:18:25 เซลล์ก็ได้นะครับนิเคเริ่มเดี๋ยวจะเริ่ม
00:18:25 → 00:18:29 เข้าอะไรที่มันอาจจะเข้าใจลำบากนิดนึง
00:18:29 → 00:18:32 แล้วนะครับตรงนี้ผมถึงจะบอกว่าเอ่อทำไม
00:18:32 → 00:18:34 มันถึงยุ่งยากนักหนาในการคำความเข้าใจ
00:18:34 → 00:18:37 เรื่องพวกนี้ให้ทุกท่านรู้จักนะครับเพราะ
00:18:37 → 00:18:41 ว่าตรงนี้เนี่ยไก่อนเวลาที่เราจะมาเริ่ม
00:18:41 → 00:18:44 ดึงตัวนี้ได้จะต้องมี Complex ต่างๆนะ
00:18:44 → 00:18:46 ครับยีนต่างๆจะทำงานตรงนี้หมดเลยนะครับจะ
00:18:46 → 00:18:52 มีตัวชื่อเอ้าวันนะครับจะมีตัวแอมอะ
00:18:52 → 00:18:56 โป้ไทยนีสแล้วก็จะมีตัว M โทร
00:18:56 → 00:18:59 แต่ตอนนี้มาเกี่ยวข้องนะมีตัวหลายอย่าง
00:18:59 → 00:19:02 เกี่ยวข้องแอมป์ใครแนะนำคือ EM คืออะไรนะ
00:19:02 → 00:19:05 ครับ Amp เนี่ยมันเป็นอันเป็นตัวสารตัว
00:19:06 → 00:19:08 หนึ่งและกันที่ให้พลังงานนะครับถ้าตอนแรก
00:19:08 → 00:19:11 เรามีพลังงานเราจะใช้ ATP ก่อนนะครับ
00:19:11 → 00:19:13 เพราะใช้ ATP หมดไปแล้วเนี่ยเราจะกลาย
00:19:13 → 00:19:17 เป็น Amp นะครับ MP เนี่ยมันอยู่ตอนไหนก็
00:19:17 → 00:19:19 คืออยู่ตอนช่วงที่เราได้กินข้าวนะครับมัน
00:19:19 → 00:19:21 ก็ต้องออกมามันก็จะมีเยอะขึ้นในช่วง
00:19:21 → 00:19:23 เที่ยงกินข้าวเราจะมี ATP เยอะแยะไปหมดนะ
00:19:23 → 00:19:25 ครับเราไม่กินข้าวปุ๊บมี Amp เพิ่มขึ้นมา
00:19:25 → 00:19:28 ทันทีนะครับตัวนี้มันมียีนอะไรเกี่ยวข้อง
00:19:28 → 00:19:31 กันเต็มไปหมดนะครับมีเยอะแยะมีอาจจะมี NT
00:19:31 → 00:19:36 จีนมีวีเอสพียืนมีอะไรไปหมดนะครับแต่ละ
00:19:36 → 00:19:38 ตัวก็มีการควบคุมที่แตกต่างกันไปด้วยนะ
00:19:38 → 00:19:42 ครับมาถึงตรงนี้ก็จะมีตัวเกี่ยวข้องศาล
00:19:42 → 00:19:46 เชื่อตัว Black Cream วันนะครับนี่จะมี
00:19:46 → 00:19:49 เพคตินวันเข้ามาเกี่ยวข้องมีอ่ามีบีซีแอล
00:19:49 → 00:19:52 to อะไรนะครับมีของพวกเนี้ยเยอะแยะไปหมด
00:19:52 → 00:19:54 นี่คือสั้นๆเท่านั้นนะครับแล้วก็นอกเหนือ
00:19:54 → 00:19:57 จากนี้มีการรับทำสื่ออื่นเข้ามาเกี่ยว
00:19:57 → 00:20:02 ข้องคือ l c ฟรีวันนะครับอ่ามีของเอทีจี
00:20:02 → 00:20:05 ก็มาเกี่ยวข้อง SCG นี่คือ Auto ฟ้า koso
00:20:05 → 00:20:08 มะลิเลสเตอร์โปรตีนนะครับก็จะมีหลายตัว
00:20:08 → 00:20:12 เช่น raag 4 หรือ 5 หรืออะไรเงี้ยเต็มไป
00:20:12 → 00:20:14 หมดเลยนะครับซึ่งมีความเกี่ยวข้องแล้วก็
00:20:14 → 00:20:16 จะมีความเกี่ยวข้องกับทุกๆกระบวนการที่
00:20:16 → 00:20:19 หมดทั้งหมดทั้งมวลตรงนี้นะครับแล้วก็ได้
00:20:19 → 00:20:21 นี้ก็จะมีตัวอื่นอีกที่มีความเกี่ยวข้อง
00:20:21 → 00:20:24 นะครับตอนมันมารวมกันแล้วเนี่ยตรงนี้ก็จะ
00:20:24 → 00:20:27 มีตัวอื่นที่ต้องควบคุมอีกเช่น
00:20:27 → 00:20:29 เอ่อ
00:20:29 → 00:20:32 vespidae tps นะครับอ่ะ
00:20:32 → 00:20:35 ฮะซึ่งตัวนี้มันเป็นตัวที่นำเอากรดเข้ามา
00:20:35 → 00:20:38 ข้างในนะครับอ่ะนำมากดเข้ามาข้างในนี่เลย
00:20:38 → 00:20:43 นะฮะตรงนี้ก็จะมีโปรตีนอื่นๆเยอะแยะไปหมด
00:20:43 → 00:20:45 นะครับเช่นโปรตีนอ่ะเดี๋ยวผมจำชื่อไม่ได้
00:20:45 → 00:20:48 น่าจะแรกคูเลเตอร์
00:20:48 → 00:20:52 ตัวนี้และกูเลเตอร์นะครับเราก็จะมีเอ็ม
00:20:52 → 00:20:55 โทรเมื่อกี้เข้ามาเกี่ยวข้องกันอีกนะครับ
00:20:55 → 00:21:00 มีทีการ Step ชั่น Factor e d อ่าไม่
00:21:00 → 00:21:05 ตรงนี้มีแถวซิลิน
00:21:05 → 00:21:07 ก็เข้ามาเกี่ยวข้องตรงนี้นะครับจะไป
00:21:07 → 00:21:11 กระตุ้นตัวนี้นะเอ่ออืมมี
00:21:11 → 00:21:15 ตอนนี้ก็จะมีเอ็มพีเคอีกตัวนึง
00:21:15 → 00:21:18 ก็คือสารที่ผมพูดมาทั้งหมดมันยังไม่หมด
00:21:18 → 00:21:21 ด้วยนะครับมันมีทุกอย่างขั้นตอนเลยว่าตัว
00:21:21 → 00:21:23 ไหนทำหน้าที่ไหนอย่างเช่นเอากว่าเนี่ยมัน
00:21:23 → 00:21:26 เป็น Complex ตัวนึงนะครับที่ทำหน้าที่ใน
00:21:26 → 00:21:29 การดึงเอาชิ้นส่วนของตัวเอนโดพลาสมิกฤดู
00:21:29 → 00:21:32 กล้ามนี่ออกมาแต่มันดึงออกมาแล้วไม่พอมัน
00:21:32 → 00:21:34 จะต้องมีการทำให้มันยาวขึ้นนะครับตัวนี้
00:21:34 → 00:21:37 จะต้องกลายเป็นกลมๆนะครับโดยมีความเกี่ยว
00:21:37 → 00:21:39 ข้องกับตัวโปรตีนชื่อว่า Baking วันนะ
00:21:39 → 00:21:41 ครับ Big in one คอมเพล็กซ์แล้วก็
00:21:41 → 00:21:45 เอทีจีกับตัว psg ตัวอื่นๆนะครับพอมีแต่
00:21:45 → 00:21:47 ปุ๊บเนี่ยมันก็จะต้องมีการเอา Cargo เข้า
00:21:47 → 00:21:49 มานะครับคือนำเอาสิ่งที่ต้องการย่อยเข้า
00:21:49 → 00:21:52 ไปในนั้นแล้วเราก็ต้องรู้ว่าเออเราจะต้อง
00:21:52 → 00:21:55 ใช้อะไรในการจำว่าให้ Cargo ตัวนี้คือตัว
00:21:55 → 00:21:57 ไหนนะครับในแต่ละตัวรับนั้นก็จะไม่เหมือน
00:21:57 → 00:22:00 กันที่ผมพูดทั้งหมดเนี่ยคือตัวคำว่า
00:22:00 → 00:22:02 แม็คโคร
00:22:02 → 00:22:04 องค์ประกอบบัญชีหน่อยครับ
00:22:04 → 00:22:06 ม.ค
00:22:06 → 00:22:09 โอ้นี่ทั้งหมดคือแม็คโครโอทอปจี้นะฮะตัว
00:22:09 → 00:22:12 นี้ก็มีความสำคัญเลยนะครับเพราะว่าแต่ละ
00:22:12 → 00:22:14 อย่างในมันควบคุมได้ด้วยหลายๆอย่างนะครับ
00:22:14 → 00:22:16 และ
00:22:16 → 00:22:19 ของที่ผมบอกไปทั้งหมดเมื่อกี้นี่มันคือ
00:22:19 → 00:22:21 ท่านจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้
00:22:21 → 00:22:26 โดยที่ไม่มีผลต่อตัวอื่นเช่นเอ่อยกตัว
00:22:26 → 00:22:30 อย่างเช่นตัวนี้แคลเซีรินตัวนี้นะครับมัน
00:22:30 → 00:22:33 เป็นยามันเป็นสารอย่างหนึ่งซึ่งมีความ
00:22:33 → 00:22:36 สำคัญในแง่ของการไปกระตุ้นทองปราจีนนะ
00:22:36 → 00:22:38 ครับในทาง
00:22:38 → 00:22:42 คนที่ปลูกถ่ายอวัยวะเราจะให้ยาชนิดที่ไป
00:22:42 → 00:22:45 ต่อต้าน chousen นะครับเช่นยาแท้ coli
00:22:45 → 00:22:48 Mask นะครับอ่ะ
00:22:48 → 00:22:51 โอ้นี่มันจะไปยับยั้งชวนชาวสินรินทร์ดัง
00:22:51 → 00:22:53 นั้นแต่พอหลายมาสเมื่อจะยับยั้งเจ้าสิริน
00:22:53 → 00:22:57 ก็ยังก็ทำให้ออกทองจี้มันลดลงนะครับซึ่ง
00:22:57 → 00:22:59 มันลดลงเราไม่ชอบนะครับแต่มันทำอะไรไม่
00:22:59 → 00:23:01 ได้เพราะว่ามันจำเป็นจะต้องทำแบบนั้น
00:23:01 → 00:23:03 เนี่ยภูมิต้านทานของเราก็จะต่อต้านเนื้อ
00:23:03 → 00:23:06 เยื่อที่เราถูกใครไปนะครับนี่ก็คือการที่
00:23:06 → 00:23:09 เราจะบอกว่าเออเราจะมาจากการศาลหนู 1 ตัว
00:23:09 → 00:23:11 มันก็มีปัญหาเรามาทำเอาซอฟแวร์ที่เรา
00:23:11 → 00:23:14 เพิ่มขึ้นไม่ใช่ครับเราไปออกผลกับอะไรอีก
00:23:14 → 00:23:19 หลายๆอย่างเลยนะครับเป็นพอตัวนี้ก็ถ้า n
00:23:19 → 00:23:22 ทอตัวนี้นะครับมันก็เป็นอะไรที่เราสามารถ
00:23:22 → 00:23:24 เปลี่ยนแปลงได้นะฮะ
00:23:24 → 00:23:27 M for ตอนนี้เราก็จะมียาที่มากินผมบอก
00:23:27 → 00:23:30 ก็คือไซรไล Must
00:23:30 → 00:23:33 ขอรหัสไซรไล Mask นี่มันจะไปยับยั้งนะ
00:23:33 → 00:23:37 ครับไปจับยับยั้ง M ทอพ่อมันจะยับยั้ง M
00:23:37 → 00:23:40 ทอปุ๊บเนี่ยนะครับมันก็จะทำให้ตัวเนี้ย
00:23:40 → 00:23:46 เอ่อมีพ่อทบจิที่มากขึ้นนะครับมากขึ้นนะ
00:23:46 → 00:23:49 ครับอย่างทรายลอย Mask เพิ่มพท.ปัดจี้นะ
00:23:49 → 00:23:52 ครับ
00:23:52 → 00:23:55 มีแต่ว่าถ่ายใครมาซึ่งเป็นยากดภูมิเหมือน
00:23:55 → 00:24:00 กันมันกลับไปลดอทบจีนะครับ
00:24:00 → 00:24:04 โอ้นี่แค่ฟังมาถึงตรงนี้ผมว่าหลายๆคนก็จะ
00:24:04 → 00:24:06 รู้สึกว่าให้มันทำไมวุ่นวายอะไรขนาดนี้นะ
00:24:06 → 00:24:09 ครับแล้วนี่ก็คือยังไม่หมดด้วยนะครับมัน
00:24:09 → 00:24:12 มีอีกเยอะแยะเลยนะครับแล้วผมก็จะลงไปให้
00:24:12 → 00:24:14 บ้างในรายละเอียดบ้างเพราะอันนี้คือเป็น
00:24:14 → 00:24:16 อะไรที่คนเขาต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิตในการ
00:24:16 → 00:24:19 ศึกษาเรื่องการเรื่องนี้หลายสิบปีนั้น
00:24:19 → 00:24:21 กว่าเขาจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ผมมาพูดให้
00:24:21 → 00:24:25 ท่านฟังนะครับนอนเดี๋ยวจากนี้อันนี้อัน
00:24:25 → 00:24:27 นี้นิวเคลียส
00:24:27 → 00:24:30 แต่มันก็มีดีเอ็นเอที่อยู่ในนี้แล้วเดือน
00:24:30 → 00:24:31 เอกหน้าตาประมาณนี้แล้วกันนะครับในแต่ละ
00:24:31 → 00:24:35 เดือนเองก็จะมีมียีนสักที่นึงอยู่ในนี้นะ
00:24:35 → 00:24:38 ครับที่มันจะมีผลต่อพอทองจี้ทั้งหมดนะ
00:24:38 → 00:24:41 ครับสารต่างๆเหล่านี้อย่างเช่นตัว T F
00:24:41 → 00:24:43 BB เนี่ยมันก็จะต้องพยายามเข้าไปข้างใน
00:24:43 → 00:24:46 นิวเคลียสตัวนี้เพื่อไปส่งผลต่อยีนเหล่า
00:24:46 → 00:24:49 นี้นะครับให้ยินเหล่านี้มันสร้างสารที่มี
00:24:49 → 00:24:51 ความจำเป็นต่อการเพิ่มทองปัดจี้ออกมานะ
00:24:51 → 00:24:54 ครับยีนเหล่านี้ก็จะมีเยอะแยะไปหมดแล้วก็
00:24:54 → 00:24:57 มียืนตัวอื่นซึ่งมาเกี่ยวข้องนะครับมันจะ
00:24:57 → 00:25:00 มีความเกี่ยวข้องที่ว่าให้ t f e d นะ
00:25:00 → 00:25:01 เข้าไปตรงนี้มันต้องไปจับตรงไหนมันจะรู้
00:25:01 → 00:25:05 ได้ไงว่าต้องจับตรงไหนนะครับสำหรับคนที่
00:25:05 → 00:25:08 อยากรู้อะไรลึกๆผมก็จะพูดให้ฟังลึกเพิ่ม
00:25:08 → 00:25:10 ขึ้นไปเลยมันจะมีคำว่า Clear ซีเควนซ์นะ
00:25:10 → 00:25:13 ครับอ่ะขอเคลียร์ซีเคว้นเนี่ยมันมีอยู่ใน
00:25:13 → 00:25:16 ยินหลายๆตัวแล้วมันเป็นตัวที่ตัว T F BB
00:25:16 → 00:25:18 นะเข้ามาแล้วมันจะพยายามหาตัวเกลียวสี
00:25:18 → 00:25:22 เป็นซึ่งก็เป็นลักษณะของกฎเบสของ Base
00:25:22 → 00:25:26 ที่อยู่บนตัว DNA ของคนเรานะครับว่าอ้อม
00:25:26 → 00:25:28 ถ้ามันมี Base รูปร่างหน้าตาแบบนี้เนี้ย
00:25:28 → 00:25:31 ให้เอาตัว t f e d มาแปะได้ซึ่งมันก็
00:25:31 → 00:25:33 มีอยู่หลายยืนซึ่งมันมีเคลียร์ซีเควนซ์
00:25:33 → 00:25:36 ตรงนี้นะครับพอเราได้ยินตรงนี้เอามาปุ๊บ
00:25:36 → 00:25:38 ยืนตรงนั้นพอมันมี th G B มาเกาะมันก็
00:25:38 → 00:25:41 จะเป็นการเพิ่มการทำงานของยีนเหล่านั้นนะ
00:25:41 → 00:25:44 ครับเพิ่มการทำงานของดีเหล่านั้นทำให้
00:25:44 → 00:25:46 สร้างเอาโปรตีนต่างๆที่มีความจำเป็น
00:25:46 → 00:25:50 เกี่ยวข้องกับตัวแม็คโคร Top RG เพิ่ม
00:25:50 → 00:25:52 ขึ้นนะครับตัวนี้ก็จะเป็นสิ่งสำคัญนะฮะ
00:25:52 → 00:25:57 อ่ะทีนี้อันนี้คือแม็คโครอทบ g นะครับมัน
00:25:57 → 00:26:01 ก็มีอันที่ว่าใช้ป่ะรนไม่ละเอียดออกทอป
00:26:01 → 00:26:04 อติที่ผมบอกว่าพอเราทำฟาสติ้งไปซัก 12
00:26:04 → 00:26:09 ชั่วโมงนะครับมันก็จะมีผลมากขึ้นนะนะครับ
00:26:09 → 00:26:15 คะทีนี้เราจะพูดถึงแชมป์ prone
00:26:15 → 00:26:18 เอมิเรตส์เจ็ด
00:26:18 → 00:26:23 ทอตัดทีนะครับอ่ะ
00:26:23 → 00:26:29 ไอ้ตัวนี้แชทโปรดแปลว่าคนที่ผ่านนะครับก็
00:26:29 → 00:26:34 คือมันมีอะไรนะครับนี้คือ lysosome แล้ว
00:26:34 → 00:26:36 เมื่อตะกี้นี้
00:26:36 → 00:26:39 เราต้องการเอาของเข้าไปย่อยนี้ถูกไหมครับ
00:26:39 → 00:26:44 ย่อยนี้เนี่ยมันก็จะต้องมีช่องทางนะครับ
00:26:44 → 00:26:48 มีช่องทางแบบนี้นะครับมีหางด้วยจริงมัน
00:26:48 → 00:26:54 ต้องมีหานะตัวนี้คืออาบน้ำสี toa นี้คือ
00:26:54 → 00:26:58 Ram To Be Able To See A
00:26:58 → 00:27:00 พี่
00:27:00 → 00:27:04 แล้มมันก็คือเป็นช่องทางที่เราจะเอาของ
00:27:04 → 00:27:08 เข้าไปในไลโซโซมโดยที่โดยมีตัวผ่านนะครับ
00:27:08 → 00:27:11 และมย่อมาจากคำว่าไลโซโซม at socius
00:27:11 → 00:27:13 membrane Protein นะครับ TOA ก็คือเป็น
00:27:13 → 00:27:16 อันตัวที่เขาค้นพบและกันไม่มี To A B C
00:27:16 → 00:27:18 To Be เนี่ยเราไม่รู้จักนะครับไม่ค่อย
00:27:18 → 00:27:21 รู้ว่าฟังก์ชั่นมันทำนะที่อะไรแต่รู้จัก
00:27:21 → 00:27:23 kuai มากที่สุดแล้วก็ to see ตามมานะ
00:27:23 → 00:27:24 ครับอ่ะ
00:27:24 → 00:27:29 ทีนี้สมมติว่ามีของอย่างหนึ่งเช่นเป็น
00:27:29 → 00:27:32 ก้อนๆก็ไม่รู้นะครับก้อนกลมๆอย่างนี้นะ
00:27:32 → 00:27:35 ครับมันก็จะมีตัวชัด pronpros เช่นหน้าตา
00:27:35 → 00:27:36 เหมือน
00:27:36 → 00:27:40 ก็เป็นคนอย่างนี้ละกันนะฮะอ้าเราต้องการ
00:27:40 → 00:27:42 พร้าวของชิ้นนี้เข้าไปในเซลล์แล้วก็จะ
00:27:42 → 00:27:46 เดินๆแล้วก็เอาไอ้กลมๆนี้เข้าไปในเซลล์
00:27:46 → 00:27:49 ได้เข้าไปในล่าสุดสมได้นะครับ
00:27:49 → 00:27:54 ถ้าไม่มีชะโอนตัวนี้ไม่มีคนคนนี้ไอ้ก็
00:27:54 → 00:27:56 เนี่ยจะไม่สามารถเข้าไปสู่ตัวนี้ได้นะ
00:27:56 → 00:28:00 ครับอ่ะแล้วก็น้ำ to see นี้ก็จะเป็นตัว
00:28:00 → 00:28:03 ที่รีไซเคิล DNA นะครับก็คือถ้าเรามี DNA
00:28:03 → 00:28:06 นะครับหรือว่าพวกอ่านเองเนี่ยมันจะเข้า
00:28:06 → 00:28:09 ช่องนี้โดยตรงเลยนะฮะและช่องนี้ต้องมีคน
00:28:09 → 00:28:13 พาเข้านะครับคือมันเหมือนกับว่าเราเป็น
00:28:13 → 00:28:16 ค่าเราไปสนามบินน่ะแล้วเราจะต้องเข้าไป
00:28:16 → 00:28:19 ข้างในนะครับถ้ามีคนพาเราเข้าไปมันก็จะ
00:28:19 → 00:28:21 เข้าไปได้ง่ายร้อนไม่ต้องตรวจอะไรเยอะนะ
00:28:21 → 00:28:23 ครับนี่ก็คือเป็นช่องทางเท่ากันและไม่มี
00:28:23 → 00:28:25 คนพาเข้าไปนี่บัตรผ่านปุ๊ปนี่มันเข้าตรง
00:28:25 → 00:28:28 นี้ได้นะครับนี่ก็เป็นชัดตรงนี้เนี่ยจะ
00:28:28 → 00:28:30 นอนท้องจึงมีความสำคัญค่อนข้างที่จะเยอะ
00:28:30 → 00:28:32 เลยเพราะว่ามันจะเลือกเอาสิ่งที่เรา
00:28:32 → 00:28:35 ต้องการเอาเข้าไปข้างในนี้นะฮะอ่ะนี้
00:28:35 → 00:28:40 เนี่ยก็จะมีผลหลายๆอย่างนะอย่างที่ผมเล่า
00:28:40 → 00:28:43 ให้ฟังตรงนี้นะครับมันมีความผิดปกติได้
00:28:43 → 00:28:46 หลายอย่างนะครับเช่นว่าถ้าสมมติตรงนี้มี b
00:28:46 → 00:28:50 a t p a s นะครับซึ่งเป็นตัวที่นำ
00:28:50 → 00:28:53 เอากดเข้าไปนี้นะครับกดก็คือตัวโปรตอน
00:28:53 → 00:28:56 ขึ้น h+ เนี่ยจะย่อยของนะครับถ้าตัวนี้
00:28:56 → 00:29:00 มันเสียไปนะมันเอากดเข้ามาไม่ได้ในนี้ก็
00:29:00 → 00:29:02 จะมีของเหลือเยอะแยะไปหมดแล้วเพราะของ
00:29:02 → 00:29:04 เหลือเยอะมันก็ระเบิดแตกแล้วก็เซลล์ก็ตาย
00:29:04 → 00:29:08 นะครับน่ะอาจจะมีอะไรที่มันไปเกี่ยวข้อง
00:29:08 → 00:29:09 กับพวกนี้ยาหรืออาหารหรืออะไรก็แล้วแต่
00:29:09 → 00:29:13 แต่ว่าการที่เราไปยุ่งกับของชิ้นนึงนะ
00:29:13 → 00:29:16 ครับในเซลล์ยุ่งกับตัวใดตัวหนึ่งตัวรับ
00:29:16 → 00:29:18 ตัวหนึ่งยุ่งกับพวกเนี้ยนะฮะมันจะมีผล
00:29:18 → 00:29:21 ยงค์ใหญ่เยอะแยะไปหมดเลยนะครับอันเท่าที่
00:29:21 → 00:29:25 ผมผมทำให้ท่านดูตรงเนี้ยอันนี้คือยังไม่
00:29:25 → 00:29:27 ละเอียดด้วยนะครับมันมีละเอียดลงไปลึก
00:29:27 → 00:29:29 กว่านี้นะครับแต่ผมว่าแค่นี้ก็หลายๆคนก็
00:29:29 → 00:29:32 คงหัวหมุนไปแล้วเออห๊ะพอทบจี้ทำไมมันวุ่น
00:29:32 → 00:29:35 วายขนาดนี้นะครับแล้วก็ทำไม
00:29:35 → 00:29:38 ผมถึงเวลาฟังคนอื่นเรื่องพูดว่าเออเนี่ย
00:29:38 → 00:29:41 อยากให้เอา Top ที่มาพูดให้ฟังหน่อยนะ
00:29:41 → 00:29:44 ครับผมก็ไปที่มันเข้ามันเข้าใจยากมากๆเลย
00:29:44 → 00:29:47 นะคะมันเยอะและแยกแล้วมันไม่ตรงไปตรงมา
00:29:47 → 00:29:50 ท่านไปยุ่งกับสารอย่างหนึ่งของร่างกายมัน
00:29:50 → 00:29:52 จะยุ่งกับสารทั้งหมดแล้วนี้คือแค่ 1 กลไก
00:29:52 → 00:29:54 เท่านั้นคือ or Top G แค่หนึ่งคนไกล
00:29:54 → 00:29:57 ร่างกายมีกลไกอะไรมากมายเป็นเป็นพันเป็น
00:29:57 → 00:29:59 ล้านนะครับอยู่ใน 1 เซลล์นะครับดังนั้น
00:29:59 → 00:30:03 ถ้าท่านยุ่งกับสารซึ่งมีผลต่อทอจี้นะครับ
00:30:03 → 00:30:06 ประสานนั้นบังเอิญมันไม่มีผลกับวงจรอื่นๆ
00:30:06 → 00:30:08 ด้วยนะครับนั่นหมายความว่าถ้าท่านไปยุ่ง
00:30:08 → 00:30:11 กับสารตัวนี้ทำให้วงจรนะครับที่มันดีขึ้น
00:30:11 → 00:30:14 แต่มันอาจจะไปทำให้วงจรอย่างอื่นมันแย่ลง
00:30:14 → 00:30:19 ก็ได้นะครับอ่ะนี่ก็ปัญหานะฮะอ่านั้นโดย
00:30:19 → 00:30:22 สรุปแล้วเนี่ยเวลาที่ใครเขาบอกว่าเออกิน
00:30:22 → 00:30:26 ไอ้นี่สินะครับกินตัวนะอาหารเสริมแบบนี้
00:30:26 → 00:30:29 ทำอย่างโน้นอย่างนี้สิเดี๋ยวเอาเข้าไปที่
00:30:29 → 00:30:31 เราจะเพิ่มขึ้นเราจะแข็งแรงมันเป็นการที่
00:30:31 → 00:30:36 เอาคำพูดพวกนี้นะฮะมามามาหลอกที่เป็นเชิง
00:30:36 → 00:30:38 การตลาดทำให้ท่านรู้สึกว่าเออมันมีเหตุผล
00:30:38 → 00:30:41 ทางวิทยาศาสตร์นะทำให้ท่านต้องมาหันมากิน
00:30:41 → 00:30:45 ในของที่เขากินกันนะครับแต่ส่วนสิ่งที่
00:30:45 → 00:30:48 มันได้ผลจริงๆคืออะไรบ้างหนึ่งการทำ
00:30:48 → 00:30:50 intermittent fasting ได้แน่ๆนะครับ
00:30:50 → 00:30:53 เวลาที่คนมันไม่คนเราไม่มีอะไรจะกินนะ
00:30:53 → 00:30:56 ครับมันก็จะมีการย่อยเอา 2 พวกเนี่ยหรือ
00:30:56 → 00:30:58 ใส่เข้ามาแล้วก็ใช้เพิ่มเติมนะครับตัวนี้
00:30:58 → 00:31:00 ก็ช่วยได้นะครับโดยเฉพาะถ้าเราทำ
00:31:00 → 00:31:02 intervention fasting 12 ชั่วโมงขึ้น
00:31:02 → 00:31:05 ไปนะครับก็มีส่วนช่วยรับการพักผ่อนให้
00:31:05 → 00:31:08 เพียงพอนะครับก็มีส่วนช่วยมากๆในการเพิ่ม
00:31:08 → 00:31:10 Top RG นะครับอย่างที่เรารู้คือของพวก
00:31:10 → 00:31:13 นี้มันไม่ใช่ของแปลกอะไรนะครับคือถ้าเรา
00:31:13 → 00:31:15 กินเยอะจนเราอ้วนมากๆแล้วก็มีโรคภัยถามหา
00:31:15 → 00:31:17 ถูกไหมครับการที่เราไม่ค่อยกินเนี่ยนะคะ
00:31:17 → 00:31:20 แล้วเราตั้งเป็นเวลาให้มันสม่ำเสมอนะครับ
00:31:20 → 00:31:23 มาก็สามารถฝึกร่างกายให้มีความ
00:31:23 → 00:31:26 ตรงต่อเวลาว่าเออช่วงนี้เราควรจะกินช่วง
00:31:26 → 00:31:28 นี้เราไม่ควรกินก็ได้นะครับเราก็จะช่วย
00:31:28 → 00:31:30 เรื่องนี้ได้นะครับการพักผ่อนให้เพียงพอ
00:31:30 → 00:31:32 นี้ไงใครก็รู้ว่ามันดีต่อร่างกายแต่ว่า
00:31:32 → 00:31:34 ถ้าเราจะมาอธิบายเชิง on top G เนี่ยก็
00:31:34 → 00:31:37 เป็นเหตุถ้าอย่างนี้นะครับแต่ว่าการพัก
00:31:37 → 00:31:39 ผ่อนให้ดีให้เต็มพอในมันก็มีผลอย่างอื่น
00:31:39 → 00:31:41 ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเขาเป็นที่เหมือนกัน
00:31:41 → 00:31:43 เช่นการที่เรามีการหลั่งโกรทฮอร์โมนเพิ่ม
00:31:43 → 00:31:45 ขึ้นนะครับเราพักผ่อนให้เพียงพอเพราะทอง
00:31:45 → 00:31:48 มนต์ก็เอามาสมาเสริมสร้างส่วนต่างๆของ
00:31:48 → 00:31:50 ร่างกายให้มันแข็งแรงขึ้นไปซ่อมแซมอะไร
00:31:50 → 00:31:53 ที่มันไม่ดีให้มันดีขึ้นเลยอย่างนี้เป็น
00:31:53 → 00:31:55 ต้นนะครับทำให้เรามีความอ่อนไหวอ่อนเยาว์
00:31:55 → 00:31:58 ขึ้นนะครับงั้นการพักผ่อนให้เพียงพอแน่
00:31:58 → 00:32:00 นอนนะวันต้องดีนะครับถ้าผ่อนที่เพียงพอ
00:32:00 → 00:32:02 ไม่ได้หมายขอท่านนอนให้นอนให้นานๆนะครับ
00:32:02 → 00:32:05 นั่นหมายความว่าการนอนนั้นจะต้องเป็นการ
00:32:05 → 00:32:07 นอนที่มีคุณภาพถ้าท่านบัตรหยุดหายใจขณะ
00:32:07 → 00:32:09 หลับอย่างเงี้ยปล่อยให้นอน 10 ชั่วโมงมัน
00:32:09 → 00:32:12 ก็ไม่ได้เป็นการนอนที่มันเปลี่ยนพอนะครับ
00:32:12 → 00:32:14 อ่าตรงนี้เกี่ยวข้องกับพวกนี้ด้วยเนาะ
00:32:14 → 00:32:16 เดี๋ยวเจ้านั้นคือการออกกำลังกายแน่ว่า
00:32:16 → 00:32:19 การออกกำลังกายมันทำให้สุขภาพโดยรวมดี
00:32:19 → 00:32:21 ขึ้นแล้วมันก็ทำให้เอา Top ที่พรุ่งนี้
00:32:21 → 00:32:24 มันทำงานดีขึ้นด้วยนะครับโอเควันนี้ก็
00:32:24 → 00:32:28 เท่านี้นะครับคาดว่าคงจะเข้าใจลำบากหน่อย
00:32:28 → 00:32:30 นะครับแต่ว่าต้องขออภัยไว้ณที่นี้ด้วยนะ
00:32:30 → 00:32:34 ฮะถ้าใครที่มีเวลาใครพูดเอากระบวนการทาง
00:32:34 → 00:32:36 วิทยาศาสตร์ชื่อก็แปลกเนี่ยนะครับมา
00:32:36 → 00:32:39 เกี่ยวข้องกับอาหารเสริมอาหารที่ทานหรือ
00:32:39 → 00:32:41 อะไรก็แล้วแต่เนี่ยผมให้ท่านสงสัยไว้ก่อน
00:32:41 → 00:32:45 เลยนะครับว่ามันไม่ตรงไปตรงมาละนะครับเขา
00:32:45 → 00:32:47 เอาคำพวกนั้นมาเพื่อที่จะมีผลทางการตลาด
00:32:47 → 00:32:49 อะไรสักอย่างเกี่ยวกับท่านนะครับเพื่อให้
00:32:49 → 00:32:52 ท่านใช้ผลิตภัณฑ์ของเค้าให้ท่านทำตามเขา
00:32:52 → 00:32:56 อย่าเพิ่งได้ส่งอย่าเพิ่งไปคิดนะครับเช่น
00:32:56 → 00:32:58 ง่ายเลยนะอย่าง Race you เท่าเนี่ยเรา
00:32:58 → 00:33:01 รู้ว่ามันสามารถที่จะช่วยทำให้อ๊อฟจิมัน
00:33:01 → 00:33:04 ดีขึ้นแต่ว่าปริมาณของเร็วเท่าที่มันต้อง
00:33:04 → 00:33:06 เข้าไปในร่างกายให้เพียงพอเนี่ยเราไม่รู้
00:33:06 → 00:33:09 นะครับว่าเท่าไหร่กันแน่นะถึงจะดีนะยาพวก
00:33:09 → 00:33:11 นี้ก็จะมีผลเหมือนกันนะครับโอเควันนี้ก็
00:33:11 → 00:33:15 เท่านี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ