00:00:17 → 00:00:18 ปกติแล้วแลคโตสนะคะ
00:00:18 → 00:00:22 เป็นน้ำตาลชนิดนึงที่พบได้ปกติในนมวัวทั่วไปค่ะ
00:00:22 → 00:00:24 เวลาที่เรารับประทานนมวัวเข้าไปเนี่ย
00:00:24 → 00:00:26 ร่างกายก็จะต้องหลั่งเอนไซม์น้ำย่อย
00:00:26 → 00:00:28 ที่ชื่อว่าแลคเตสออกมา
00:00:28 → 00:00:30 เพื่อที่จะย่อยตัวน้ำตาลแลคโตสนี้นะคะ
00:00:30 → 00:00:32 แต่เราพบว่าในคนกลุ่มนึงเนี่ย
00:00:32 → 00:00:36 จะมีปัญหาที่ร่างกายไม่สามารถที่จะผลิตเอนไซม์ตัวแลคเตสได้
00:00:37 → 00:00:38 ทำให้เวลาที่รับประทานนมเข้าไปเนี่ย
00:00:39 → 00:00:42 คนกลุ่มนี้ก็มักจะมีอาการท้องอืดแน่นท้อง
00:00:42 → 00:00:43 มีแก๊สในท้องเยอะ
00:00:43 → 00:00:46 หรือว่ามีอาการท้องเสียตามหลังการดื่มนม
00:00:46 → 00:00:47 จากการที่ร่างกายเนี่ย
00:00:47 → 00:00:50 ไม่สามารถที่จะย่อยตัวน้ำตาลแลคโตสในนมได้
00:00:50 → 00:00:53 ในปัจจุบันเราจะมีการผลิตนมชนิดนึงขึ้นมาค่ะ
00:00:53 → 00:00:54 เรียกว่าแลคโตสฟรี
00:00:55 → 00:00:56 นมกลุ่มแลคโตสฟรีเนี่ยค่ะ
00:00:56 → 00:00:58 ก็จะมีการเติมเอนไซม์ตัวแลคเตสเข้าไป
00:00:58 → 00:01:01 เพื่อที่จะย่อยตัวน้ำตาลแลคโตสในนมเรียบร้อยแล้ว
00:01:01 → 00:01:04 ทำให้เวลาที่เราดื่มนมประเภทนี้เข้าไปเนี่ยค่ะ
00:01:04 → 00:01:08 ร่างกายก็จะได้ไม่มีอาการของการที่ย่อยตัวน้ำตาลแลคโตสไม่ได้
00:01:08 → 00:01:12 ถ้าเกิดว่าใครสังเกตที่มักจะมีอาการท้องอืดแน่นท้อง
00:01:12 → 00:01:14 หรือว่ามีอาการท้องเสียตามหลังการดื่มนมเนี่ย
00:01:15 → 00:01:17 ก็อาจจะลองหาตัวนมที่ข้างกล่อง
00:01:17 → 00:01:19 มีเขียนว่าแลคโตสฟรีมาดื่มแทนได้ค่ะ
00:01:20 → 00:01:23 ดังนั้นหากใครที่มักจะมีอาการตามหลังการดื่มนมวัว
00:01:24 → 00:01:26 ยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากการที่ร่างกายเนี่ย
00:01:27 → 00:01:28 ย่อยตัวน้ำตาลแลคโตสไม่ได้
00:01:29 → 00:01:31 หรือว่าเป็นอาการจากการแพ้นมวัวเลย
00:01:31 → 00:01:33 หมอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์นะคะ
00:01:33 → 00:01:36 แล้วก็เพื่อที่จะตรวจเลือดยืนยันสาเหตุอีกทีนึง
00:01:36 → 00:01:39 จะได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานให้ถูกค่ะ