00:00:00 → 00:00:02 บรรยากาศมันพาไปค่ะครับบรรยากาศมันเป็นใจ
00:00:02 → 00:00:06 อะไรเงี้นะฮะค่ะเอ่ออย่างงี้ครับเอ่อเ่อ
00:00:06 → 00:00:09 เทศกาลวันวาเลนไทน์เนี่ยเราก็คงจะมาคุย
00:00:09 → 00:00:12 กันใน 2 หัวข้อเนี้ยนะครับค่ะเอ่อจริง
00:00:12 → 00:00:15 อยู่นะครับทุกๆท่านก็คงทราบแหละว่าอืถ้า
00:00:15 → 00:00:17 เราจะไปมีเพศสัมพันธ์เนี่ยนะครับแล้วเรา
00:00:17 → 00:00:20 ยังไม่ได้แต่งงานยังไม่ได้อยู่ในช่วงที่
00:00:20 → 00:00:23 พร้อมจะมีบุตรอย่างอย่างพูดง่ายๆว่าก็
00:00:23 → 00:00:25 ต้องวางแผนครอบครัวให้ดีถ้ายังไม่ได้อยู่
00:00:25 → 00:00:27 ในช่วงที่พร้อมเนี่ยนะครับแล้วเราไปพลาด
00:00:27 → 00:00:29 พลั้งเกิดมีเพสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
00:00:29 → 00:00:31 แล้วเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมาเนี่ยอันเนี้ย
00:00:31 → 00:00:34 เรื่องใหญ่เลยนะครับมันจะกระทบกระเทือน
00:00:34 → 00:00:37 กับชีวิตแผนชีวิตหรืออะไรของเราหลายๆ
00:00:37 → 00:00:39 อย่างค่ะ
00:00:39 → 00:00:43 เอ่อสำหรับท่านที่ฟังหัวข้อวันนี้นะครับ
00:00:43 → 00:00:45 แล้วก็รู้สึกว่ามันเกี่ยวข้องกับตัวเองก็
00:00:45 → 00:00:47 คือเมื่อเมื่อวานมันวาเลนไทน์หรือว่าจริง
00:00:48 → 00:00:49 ๆแล้วจะไม่วาเลนไทน์ก็ได้ครับเมื่อไหร่ก็
00:00:49 → 00:00:52 ตามอ่ะแต่ว่าไปพลาดพลั้งเนี่ยมี
00:00:52 → 00:00:54 เพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ป้องกันไว้ก่อน
00:00:54 → 00:00:56 เนี่ยนะครับค่ะอ่าประเด็นที่ 1 ที่เราจะ
00:00:56 → 00:00:59 คุยกันเี่ก็คือของเราก็จะเริ่มจากคุย
00:00:59 → 00:01:01 เรื่องเอ่อเรื่องของความเสี่ยงเรื่องการ
00:01:01 → 00:01:06 มีบุตรกันนะครับพูดถึงประเด็นเนี้ยหขอทบ
00:01:06 → 00:01:09 ทวนนะครับเอธิบายเกี่กับเรื่องระบบใน
00:01:09 → 00:01:11 เรื่องของการเจริญพันธุของมนุษย์เราซะ
00:01:11 → 00:01:13 ก่อนนะครับสำหรับที่จะพูดต่อไปจะได้เข้า
00:01:13 → 00:01:16 ใจกันได้ง่ายขึ้นนะครับค่ะคนเราเนี่ยจะ
00:01:16 → 00:01:18 ตั้งครรภ์ได้เนะครับก็จะต้องมี
00:01:18 → 00:01:22 เพศสัมพันธ์แล้วเอ่อมีการหลั่งน้ำอสุจินะ
00:01:22 → 00:01:25 ครับผ่านเข้าไปในช่องคลอดแล้วก็เอ่อมันก็
00:01:25 → 00:01:27 มีความเสี่ยงที่น้ำจิเนี้ยมันก็จะไหลผ่าน
00:01:27 → 00:01:30 บริเวณโครงงดลูกนะครับเอ่อเอ่อผ่านไปที่
00:01:30 → 00:01:33 ปีกมัดลูกทั้ง 2 ข้างแล้วก็เขาก็จะไปพบ
00:01:33 → 00:01:36 กับไข่ที่ตกออกมาจากหลังไข่เนี่ยในบริเวณ
00:01:36 → 00:01:39 ปีกมัดลูกนี่แหละค่ะถ้าไปพบกันแล้วเกิด
00:01:39 → 00:01:41 ปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อนเนี่ยนะครับตัว
00:01:41 → 00:01:44 อ่อนก็จะมีการเ่อเดินทางย้อนกลับมาแล้วก็
00:01:44 → 00:01:47 มาฝังตัวในของลูกก็เกิดเป็นการตั้งครรภ์
00:01:47 → 00:01:50 นะครับซึ่งตรงนี้เนี่ยนะครับเอ่อจริงๆ
00:01:50 → 00:01:54 แล้วเนี่ยในแต่ละรอบเดือนของคุณผู้หญิง
00:01:54 → 00:01:56 เราเนี่ยนะฮะโอกาสในการตั้งครรภ์จริงๆ
00:01:56 → 00:01:59 เนี่ยมีไม่เยอะนะฮะในแต่ละรอบเรือนเนี่ย
00:01:59 → 00:02:02 เ่อในที่เราเคยศึกษากันมาเนี่ยพบว่าโอกาส
00:02:02 → 00:02:05 ในการตั้งครรภเนี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 5-7
00:02:05 → 00:02:08 per ต่อเดือนเท่านั้นอืนะครับเพราะ
00:02:08 → 00:02:09 ฉะนั้นท่านไหนที่มีเพศสัมพันธ์แล้วมัน
00:02:10 → 00:02:13 บังเอิญตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงๆเนี่ยต้อง
00:02:13 → 00:02:15 ต้องพูดง่ายๆว่าต้องเป็นแบบนอกจากเขกหัว
00:02:15 → 00:02:17 ตัวเองที่ไม่ได้ป้องกันแล้วก็คือต้องต้อง
00:02:17 → 00:02:20 แบบโชคโชคโชคเป็นแจ็คพอตจริงๆอ่ะซื้อ
00:02:20 → 00:02:22 รถรี่ไม่ถูกแบบนี้บ้างอะไรอย่าเงี้ยนะฮะ
00:02:23 → 00:02:27 นะครับก็คือเอ่อในตลอด 28 วันของรอบประจำ
00:02:27 → 00:02:29 เดือนของผู้หญิงเนี่ยนะครับสมมุติตอนช่วง
00:02:29 → 00:02:31 ที่เริ่มมีประจำเดือนเนี่ยตอนระหว่างมี
00:02:31 → 00:02:33 ประจำเดือนเนี่ยนะครับจะเป็นจุดกำเนิดของ
00:02:33 → 00:02:35 การที่รังไข่เนี่ยจะเริ่มค่อยๆมีการพัฒนา
00:02:35 → 00:02:38 เซลล์ไข่อืนะครับเซลล์ไข่ก็จะเจริญเติบโต
00:02:38 → 00:02:41 ขึ้นมาเรื่อยๆนะครับแล้วก็เขาจะพัฒนามาจน
00:02:41 → 00:02:43 เป็นไข่สุกเนี่ยประมาณกลางๆรอบเดือนอย่าง
00:02:43 → 00:02:46 รอบเดือนเราเนี่ยมีประมาณ 28 วันก็มักจะ
00:02:46 → 00:02:48 มีไข่สุกเนี่ยประมาณวันที่ 13 หรือ 14
00:02:48 → 00:02:50 ของรอบเดือนค่ะเวลาเราพูดถึงวันที่เท่า
00:02:50 → 00:02:53 ไหร่เนี่ยเรานับตั้งแต่วันแรกของประจำ
00:02:53 → 00:02:55 เดือนนะครับอือเพราะฉะนั้นเราก็ถือว่า
00:02:55 → 00:02:57 ประจำเดือนมาวันแรกเมื่อไหร่ปุ๊บก็นับ
00:02:57 → 00:03:00 เรียงไปเรื่อยๆปกติเไข่จะไม่ค่อเจริญเติบ
00:03:00 → 00:03:02 โไปจนกระทั่งกลายเป็นไข่ที่สุกประมาณสัก
00:03:02 → 00:03:04 วันที่ 13 14 นะครับพอเ้าสุกแล้วเนี่ย
00:03:04 → 00:03:06 มันก็จะมีกระบวนการของการตกไข่ออกมาจาก
00:03:06 → 00:03:09 รังไข่นะครับพอตกไข่ออกมาปุ๊บเนี่ยข่อนำ
00:03:09 → 00:03:11 ไข่หรือปีกมัดรู่เนี่ยจะเป็นตัวไปตามจับ
00:03:11 → 00:03:13 เอาเซลล์ไข่เนี่ยให้ไหลเข้ามาข้างในแล้ว
00:03:13 → 00:03:16 ก็ถึงเวลาที่จะมาได้สำได้มาเจอกับอสุจิ
00:03:16 → 00:03:19 แล้วก็เกิดการการปฏิสทธิขึ้นได้ค่ะนะครับ
00:03:19 → 00:03:22 เอ่อเวลาไข่ตกออกมาจากรังไข่เนะครับไข่จะ
00:03:22 → 00:03:25 มีชีวิตอยู่นะครับในร่างกายมนุษย์เราได้
00:03:25 → 00:03:29 เนี่ยประมาณ 24 ชมอือเพราะฉะนั้นถ้าพูด
00:03:29 → 00:03:31 จริงๆนะในรอบเดือนของเราเนี่ยนะครับ
00:03:31 → 00:03:34 สำหรับคนที่มีรอบเดือน 28 วันเนี่ยนะครับ
00:03:34 → 00:03:36 ค่ะโอกาสในการตั้งครรภ์จริงๆเนี่ยมันก็
00:03:36 → 00:03:39 คือวันเดียวเองอืก็คือวันไข่ตกนั่นเองนะ
00:03:39 → 00:03:43 ครับค่ะซึ่งซึ่งถ้าจะถ้าจะขยายความอีกนิด
00:03:43 → 00:03:46 นึงนะครับเเรารู้ว่าไข่เนี่ยอยู่ได้ 24
00:03:46 → 00:03:49 ชมงนะครับค่ะในส่วนของอสุจินั้นเป็นยังไง
00:03:49 → 00:03:51 อสุจิเนี่ยเมื่อหลั่งเข้าสู่ร่างกายของ
00:03:51 → 00:03:53 ผู้หญิงเข้าตกลงมดลูกแล้วเนี่ยนะครับเขา
00:03:53 → 00:03:56 จะสามารถเอ่ออยู่ในโพรงัรูนะครับเอ่อได้
00:03:56 → 00:04:00 ประมาณ 48 ชมงอืนะครับ 48 ชั่วโมงก็คือ
00:04:00 → 00:04:03 โอกาสสมมติอ่าสมมติยกตัวอย่างง่ายๆสมมุติ
00:04:03 → 00:04:05 เลยนะครับสมมติวันเนี้เป็นวันไข่ตกคอีนะ
00:04:05 → 00:04:09 ครับเรามีเพศสัมพันธ์เมื่อวานเนี้ยอสุจิ
00:04:09 → 00:04:11 มันยังหลงเหลือมาถึงวันนี้แล้วมาปฏิสนธิ
00:04:11 → 00:04:14 ได้เหมือนกันค่ะโออ่านะครับหรือว่าพอเรา
00:04:14 → 00:04:16 สมมุติเรามีไข่ตกวันนี้ปุ๊บเรามีเพศ
00:04:16 → 00:04:18 สัมพันธ์วันเนี้ยไข่มันยังมีชีวิตอยู่ได้
00:04:18 → 00:04:21 24 ชั่วโมงเพราะฉะนั้นสมมุติไข่ตกวันนี้
00:04:21 → 00:04:23 แล้วไปมีเพศสัมพันธ์วันพรุ่งเนี้ยอสุจิ
00:04:23 → 00:04:25 เข้ามาปุ๊บไข่นั้นยังอยู่เนี่ยก็ยังมี
00:04:25 → 00:04:28 โอกาสที่จะปฏิสนธิแล้วก็เกิดการตั้งัน
00:04:28 → 00:04:30 ขึ้นมาได้เหมือนกัน
00:04:30 → 00:04:33 แสดงว่ามีมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันไข่ตกสัก 3
00:04:33 → 00:04:36 วันเนี่ยก็ยังมีโอกาสท้องเงี้ยหรอคะก็จะ
00:04:36 → 00:04:37 มันก็จะเป็นช่วงอย่างเงี้ครับก็กลายเป็น
00:04:38 → 00:04:40 ว่าสมมุติถ้าเรามีตรงๆกับวันไข่ตกจริงๆ
00:04:40 → 00:04:42 แล้วอ่าอันนั้นอันนั้นโอกาสโอกาสท้องก็
00:04:42 → 00:04:45 สูงหน่อยนะครับแต่ว่าถ้าเรามีก่อนสักวัน
00:04:45 → 00:04:48 นึงนะครับก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยนะครับก่อน
00:04:48 → 00:04:51 สักวันนึงเนี่ยอสุติอาจจะยังคงค้างอยู่
00:04:51 → 00:04:53 แล้วก็มันมีชีวิตอยู่ 48 ชั่วโมงใช่่มั้ย
00:04:53 → 00:04:55 สมมุติเรามีตั้งแต่เมื่อวานเนี่ยนะมีเพ
00:04:55 → 00:04:57 เมื่อวานเนี่ยไข่ยังไม่ตกก็จริงแต่ว่าจิ
00:04:57 → 00:04:59 บางส่วนที่ยังหลงเหลือมาถึงวันเนี้ยก็จะ
00:04:59 → 00:05:03 ยังทำให้เกิดการทั้งคันได้ค่ะหรือในทาง
00:05:03 → 00:05:06 กลับกันวันนี้ไข่ตกนะครับนะยังไม่ได้เพัน
00:05:06 → 00:05:08 วันนี้หรอกแต่ว่าไข่เนี่ยเขายังมีชีวิต
00:05:08 → 00:05:11 อยู่ไป 24 ชั่มถึงวันพรุ่งนี้ถ้าเราไปมี
00:05:11 → 00:05:13 เพศสัมพันธ์วันพรุ่งเนี้ยอสุจิเข้าไปพอดี
00:05:14 → 00:05:16 ไข่นั้นยังมีชีวิตอยู่ก็เกิดการปฏิสนธิ
00:05:16 → 00:05:18 และเกิดตั่งคันได้เหมือนกันอืเพราะฉะนั้น
00:05:18 → 00:05:20 ถ้าเรามองว่าสมมุติวันเนี้วันเป็นวันตรง
00:05:20 → 00:05:22 กลางว่าไข่ตกใช่มั้ยฮะันพฤหัสดีอย่าง
00:05:23 → 00:05:26 เงี้ยเรามีเพสพันพุธพฤหัสหรือศุกร์เนี่ย
00:05:26 → 00:05:28 ก็ก็ยังอยู่ถือว่าอยู่ในช่วงที่มีความ
00:05:28 → 00:05:31 เสี่ยงสูงอยู่ค่ะก็แปลว่าในแต่ละรอบเดือน
00:05:31 → 00:05:33 เนี่ยถึงเราจะรู้ว่าไข่ตกแล้วอยู่ได้ 24
00:05:33 → 00:05:36 ชั่วโมงแต่ว่าช่วงเวลาที่เรามีความเสี่ยง
00:05:36 → 00:05:38 สูงมากๆในการตั้งครรภ์ก็จะอยู่ในช่วง 3
00:05:38 → 00:05:43 วันอ่าก็ 3 วันก็คือเ่อก่อนวันไข่ตก 1
00:05:43 → 00:05:45 วันวันไข่ตกพอดีแล้วก็หลังวันไข่ตก 1 วัน
00:05:45 → 00:05:50 อืนะครับซึ่งระยะเวลาตรงนี้เนะครับจริงๆ
00:05:50 → 00:05:52 แล้วเนี่ยความเสี่ยงก็จะมีเพิ่มขึ้นใน
00:05:52 → 00:05:55 กรณีที่ไม่มีใครกำหนดได้ว่าไข่มันจะตกวัน
00:05:55 → 00:05:58 ที่ 14 เสมอไปไครับอ๋อนะอย่าอย่าอย่ารอบ
00:05:58 → 00:06:01 เดือนของเราบางทีก็ไม่ได้มา 28 วันด้วย
00:06:01 → 00:06:03 ซ้ำไปใช่มั้ยครับบางทีก็อาจจะมาเร็วขึ้น
00:06:03 → 00:06:06 หน่อยหรือบางทีอาจจะมาช้าลงหน่อยเพราะ
00:06:06 → 00:06:09 ฉะนั้นช่วงระยะเวลาเนี่ยเราก็ถือซะว่า
00:06:09 → 00:06:11 สมมุติถ้าเรามีรอบประจำ 28 วันเนี่ยนะ
00:06:11 → 00:06:14 ครับวันตรงกลางเนี่ยนะครับวันตรงกลาง
00:06:14 → 00:06:16 เนี่ยเป็นวันที่เสี่ยงไข่ตกแล้วเราบอกว่า
00:06:16 → 00:06:18 หน้าหลังก็เสี่ยงเนี่ยนะครับนะจริงๆทาง
00:06:18 → 00:06:21 การแพทย์เราก็เลยมีคำแนะนำกว้างๆว่าถ้า
00:06:21 → 00:06:23 งั้นก็ถือซะว่าตรงกลางเนี่ยบวกลบไปสัก
00:06:23 → 00:06:26 อาทิตย์นึงเลยแล้วกันนะครับนะสมมุติเราจะ
00:06:26 → 00:06:29 มีไข่ตกเร็วขึ้นหรือว่าไข่ตกช้าลงเนี่ยก็
00:06:29 → 00:06:31 นจะอยู่ในช่วงเนี่ยเร็วขึ้นไม่เกิน 1 ไม่
00:06:31 → 00:06:35 เกิน 7 วันหรือช้าลงไม่เกิน 7 วันอันนี้
00:06:35 → 00:06:37 แหละครับถึงเป็นที่มาของข้อความที่ว่า
00:06:37 → 00:06:41 ทำไมเราถึงบอกว่าไอ้ก่อน 7 หลัง 7 อเวไอ้
00:06:41 → 00:06:44 ช่วงระยะปลอดภัยในการมีเพียสัมพันธ์ไม่
00:06:44 → 00:06:46 ให้ตั้งครร์เนี่ยนะครับก็คือเราก็ถือว่า
00:06:46 → 00:06:49 ถ้าเรามองว่าประจำเดือนเรามา 28 วันเนี่ย
00:06:49 → 00:06:51 นะครับค่ะตั้งแต่ประจำเดือนมาวันนี้นะ
00:06:51 → 00:06:54 ครับไปจนถึง 7 วันแรกเนี่ยอันเนี้ยยัง
00:06:54 → 00:06:56 เป็นช่วงที่ไข่ยังไม่น่าจะสุกค่ะนะครับ
00:06:56 → 00:06:58 ต่อให้เค้าสุกเคให้ตกเนี่ยมันควรจะไปอยู่
00:06:58 → 00:07:01 วันที่ 14 หรือถ้ามันย่นมาล่นเกิดวันนี้
00:07:01 → 00:07:03 เดือนนี้เรามันตกไข่เร็วเนี่ยมันก็ไม่น่า
00:07:03 → 00:07:05 จะเร็วกว่า 7 วันเพราะฉะนั้นตั้งแต่วัน
00:07:05 → 00:07:07 ที่ 1 ถึงวันที่ 7 เนี่ยเรายังถือว่าเออ
00:07:07 → 00:07:10 ก็ยังเป็นวันที่น่าจะปลอดภัยอยู่ค่ะอัน
00:07:10 → 00:07:12 นี้แหละครับที่เราเรียกว่าหลัง 7 ก็คือ
00:07:12 → 00:07:15 หลังมีประจำเดือนมา 7 วันซึ่งหมายความว่า
00:07:15 → 00:07:18 เราต้องนับเอ่อตั้งแต่วันแรกของประจำ
00:07:18 → 00:07:20 เดือนนะครับบางบางคนจะเข้าใจเรื่องหลัง 7
00:07:20 → 00:07:22 ว่าพอประจำเดือนหมดแล้วนับไปอีก 7 วันยัง
00:07:22 → 00:07:25 ปลอดภัยอันนั้นไม่ใช่นะครับเราเราต้องนับ
00:07:25 → 00:07:28 ตั้งแต่ประจำเดนมาวันแรกไปเลยอบางบางท่าน
00:07:28 → 00:07:30 มีบางท่านมีประจำเดือน 7 วันก็จบกันนะฮะ
00:07:31 → 00:07:34 ก็ว่าไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากไอ้หลัง 7
00:07:34 → 00:07:37 นี้เลยนะฮะค่ะส่วนส่วนพอเราไปถึง 7 วัน
00:07:37 → 00:07:39 ใช่มั้ครับเราถือว่าอ่าตั้งแต่วันที่ 7 -
00:07:39 → 00:07:42 144 เนี่ย 14 วันไข่ตก 7 -1 อาเสี่ยง
00:07:42 → 00:07:45 เราอย่าไปยุ่ง 14 เลยไปเกิดไข่มันตกช้าไป
00:07:45 → 00:07:47 ถึงอีก 7 วันเป็นวันที่ 21 ก็ยังถือว่า
00:07:47 → 00:07:49 เป็นช่วงเสี่ยงใช่มครับและหลังจากนั้น
00:07:49 → 00:07:52 เนี่ยพอวันที่ 21 ไปจนถึงวันที่ 28 ประจำ
00:07:52 → 00:07:54 เดือนจะมาเนี่ยนะครับก็คือ 7 วันก่อน
00:07:54 → 00:07:57 ประจำเดือนมาช่วงนั้นเนี่ยไขน่าจะตกเรียบ
00:07:57 → 00:07:59 ร้อยไปแล้วเพราะฉนั้นมีเพศสัมพันธ์เนี่ย
00:07:59 → 00:08:01 ก็โอกาสที่จะไปเกิดการประิที่ก็น่าจะ
00:08:01 → 00:08:04 โอกาสน้อยมากๆนะครับแต่ก็อีกนั่นแหละเรา
00:08:04 → 00:08:06 ไม่มีทางรู้นะครับว่าประจำเดือนมันจะมา
00:08:06 → 00:08:08 เร็วมาช้าในเดือนนั้นถูกมั้ยครับเพราะเรา
00:08:08 → 00:08:11 ไม่สามารถรู้ว่าใครปกในเดือนนั้นยังไงถ้า
00:08:11 → 00:08:13 ถ้าเป็นเรื่องธรรมชาติเพราะฉะนั้นไอ้ก่อน
00:08:13 → 00:08:16 7 เนี่ยมันก็นับยากอีกเพราะเราก็ไม่รู้
00:08:16 → 00:08:18 ว่าไอ้ก่อนที่เรามีก่อนเี่มันก่อน 7 จริง
00:08:18 → 00:08:21 หรือเปล่าออาจจะมาช้ากว่าอะไรเงี้ก็ทำให้
00:08:21 → 00:08:24 เราเกิดความกังวลมีความเสี่ยงได้นะครับ
00:08:24 → 00:08:27 ดังนั้นกลไกในการตั้งครรภ์ของมนุษย์เรา
00:08:27 → 00:08:30 เนี่ยนะครับก็คือพูดง่ายๆว่าเอ่อถ้าเรา
00:08:30 → 00:08:32 นับจากรอบประจำเดือนเนี่ยนะครับนะวันแรก
00:08:32 → 00:08:35 เนี่ยมีพลภัณฑ์ในช่วง 7 วันแรกหรือว่า
00:08:35 → 00:08:37 ก่อนประจำเดือนจะมาภายใน 7 วันเนี่ยมัน
00:08:37 → 00:08:41 น่าจะห่างจากวันไข่ตกพอสมควรอืนะครับซึ่ง
00:08:41 → 00:08:44 ถ้าเราเข้าใจตรงนี้นะครับมากลับมาสู่หัว
00:08:44 → 00:08:48 ข้อของเราเลยนะครับเอ่อบังเอิญเอ่อวัน
00:08:49 → 00:08:51 วาเลนไทน์ฉลองเพลินไปหน่อยนะครับบางทีอาจ
00:08:51 → 00:08:54 จะฉลองจนเมาหรือว่าขาดสติแล้วไปพลาดพั้ง
00:08:54 → 00:08:56 มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้โดยไม่ได้ป้องกัน
00:08:56 → 00:08:59 เนี่ยสิ่งแรกที่เราทำเมื่อเรานึกออกเหนะ
00:08:59 → 00:09:03 ครับค่ะตั้งสติให้ดีแล้วก็เอาปฏิทินมากาง
00:09:03 → 00:09:05 แล้วก็นับเลยครับว่าไอ้ที่เรามีเพศ
00:09:05 → 00:09:09 สัมพันธ์ไปเนี่ยมันอยู่ตรงวันไหนค่ะอือ่า
00:09:09 → 00:09:11 ตรงนี้ก่อนเลยถ้าเกิดไปปกอยู่ในช่วงวัน
00:09:11 → 00:09:15 ที่ก่อน 7 หลัง 7 พอดีนะครับอันนั้นก็ถือ
00:09:15 → 00:09:18 ว่าโชคดีไปฮะก็คือว่าโอกาสตั้งครรภ์ก็ต่ำ
00:09:18 → 00:09:20 มากๆครับแต่ถ้าเราหลุดจากช่วงนี้ไปเช่น
00:09:20 → 00:09:23 เลยวันที่ 7 ไปแล้วเนี่ยไปจนกระทั่งข้าม
00:09:23 → 00:09:25 ไปถึงวันที่ 21 ของรอบเนี่ยอันนี้ถือว่า
00:09:25 → 00:09:27 ถ้าเป็นช่วงกลางของรอบเนี่ยให้ถือว่ามี
00:09:27 → 00:09:29 ความเสี่ยงไว้ก่อนเลยอื
00:09:29 → 00:09:34 ออวันที่ 7 ถึงวันที่ 21 ค่ะครับอย่างได้
00:09:34 → 00:09:36 ที่สุดเพราะฉะนั้นตรงนี้แหละครับท่านที่
00:09:36 → 00:09:39 ฟังรายการอยู่บ่อยๆเนี่ยจะจะเห็นว่าหมอ
00:09:39 → 00:09:40 มักจะทิ้งท้ายด้วยเรื่องเยครับจะต้องมี
00:09:40 → 00:09:43 อะไรฝากทิ้งท้ายคผู้หญิงทุกท่านเนี่ยควร
00:09:43 → 00:09:45 จะบันทึกประจำเดือนตัวเองอืนะครับเนี่ย
00:09:45 → 00:09:47 ครับมันจะมีมีประโยชน์เมื่อเวลาเราลำบาก
00:09:47 → 00:09:50 เนี่ยนะฮะเกิดอะไรขึ้นมาพมาช่วยระบาย
00:09:50 → 00:09:54 ปฏิทินนะครับเพราะฉะนั้นอันส่วนที่อันที่
00:09:54 → 00:09:57 1 นะครับเราพลาดพ้างอะไรไปนะครับควันหลง
00:09:57 → 00:10:00 ตรงเนะครับค่ะลุกขึ้นมาตั้งสติแล้วนั่ง
00:10:00 → 00:10:01 นึกก่อนว่าเนี่ยมันอยู่ในวันที่เท่าไหร่
00:10:01 → 00:10:04 ของรอบเดือนนะครับถ้ามันไม่ได้อยู่ในช่วง
00:10:04 → 00:10:07 กลางนะครับนะก็ถือว่าความเสี่ยงก็น่าจะ
00:10:07 → 00:10:11 ต่ำลงก็น่าจะพอสบายใจไปได้บ้างคราวนี้ถ้า
00:10:11 → 00:10:14 ไม่ใช่นะครับหรือเป็นคนที่ประจำเินก็ไม่
00:10:14 → 00:10:16 ได้จำไว้เลยงงไปหมดเลยหรือว่าเป็นคนที่
00:10:16 → 00:10:19 ประจำเรียนมาไม่สม่ำเสมอเลยนะครับถ้าเป็น
00:10:19 → 00:10:23 กรณีอย่างเนี้ยเราจำเป็นที่จะต้องรีบหา
00:10:23 → 00:10:27 วิธีคุมกำเนิดที่จะช่วยเหลือเราอวิธีคุณ
00:10:27 → 00:10:29 กำเนิดนะครับคราวนี้คพูดถึงเรื่องวิธีคุณ
00:10:30 → 00:10:32 กำเนิดอันนี้จริงๆในรายละเอียดหมอคงไม่ลง
00:10:32 → 00:10:34 ในรายละเอียดเพราะว่าเราได้พูดไปแล้ว
00:10:34 → 00:10:37 เมื่อวันพฤหัสที่แล้วนะครับก็ท่านไหนที่
00:10:37 → 00:10:39 มีความสนใจอาจจะย้อนไปฟังเทปเ่อเก่าๆของ
00:10:39 → 00:10:43 เราเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมานะครับค่ะแต่
00:10:43 → 00:10:45 ว่าในแง่ของกลไกในการคุมกำเนิดเนี่ยนะ
00:10:45 → 00:10:47 ครับวิธีการคุมกำเนิดเนี่ยมันจะมีกลการ
00:10:47 → 00:10:50 การคมกำเนิดหลักๆอยู่ 4 ประการนะครับ
00:10:50 → 00:10:53 ประการที่ 1 ก็คือเอ่อกลการการคมกำเนิด
00:10:53 → 00:10:56 นั้นเนี่ยจะไปออกฤทธิ์เพื่อยับยั้งไม่ให้
00:10:56 → 00:10:58 รังไข่เราสร้างไข่ในเดือนนั้นค่ะเหมือน
00:10:58 → 00:11:01 กับเป็นไปบล็อกเต้นทางเลยไม่ให้มีไข่มานะ
00:11:01 → 00:11:05 ครับนะกลไกที่ 2 นะครับต่อให้มีไข่มาแล้ว
00:11:05 → 00:11:07 เนี่ยไข่นั้นก็จะเจริญเติบตัวไม่ดีนะครับ
00:11:07 → 00:11:11 ยับยั้งไม่ให้เกิดการตกไขไม่ให้เป็นไขที่
00:11:11 → 00:11:15 สูงนะครับกลไกที่ 3 นะครับถ้าบังเอิญพลา
00:11:15 → 00:11:17 พั้ยับยั้งไม่อยู่ไข่มันตกไปแล้วนะครับ
00:11:17 → 00:11:21 เกิดไปปฏิสทิกับอสุจิเนี่ยนะครับก็จะ
00:11:21 → 00:11:24 พยายามเอ่อสกัดกั้นที่อสุจิเอาไว้โดยมี
00:11:25 → 00:11:26 เ่อกลไกของการคุมกำเนิดเนี่ยนะครับ
00:11:27 → 00:11:29 ฮอร์โมนจากยาคุมเนี่ยก็จะไปช่วยเปลี่ยน
00:11:29 → 00:11:33 สภาพของมูกตรงปากมดลูกทำให้เอ่อเวลาอาจิต
00:11:33 → 00:11:35 จะผ่านปากมดลูกเข้าไปสู่โพรงมดลูกแล้วไป
00:11:35 → 00:11:38 เจอกับไข่เนี่ยมันเข้าไปได้ยากขึ้นอันนี้
00:11:38 → 00:11:40 ก็เป็นกลไกที่ 3 ในการคุมกำเนิดนะครับและ
00:11:40 → 00:11:43 กลไกที่ 4 สมมุติท้ายที่สุดป้องกันอะไร
00:11:43 → 00:11:46 ไม่ทันละมีไข่ตกมาเรียบร้อยนะครับมีอสุจิ
00:11:46 → 00:11:48 ผ่านก็ไปปฏิสนธิกันเสร็จแล้วเนี่ยนะครับ
00:11:48 → 00:11:51 หลังจากปฏิสนธิซึ่งเกิดขึ้นในบริเวณท่อนำ
00:11:51 → 00:11:54 ไข่นะครับค่ะเอ่อตัวอ่อนนะครับจะค่อยๆ
00:11:54 → 00:11:57 แบ่งตัวเพิ่มจำนวนเซลล์มากขึ้นพร้อมๆกับ
00:11:57 → 00:11:59 ค่อยๆเดินทางย้อนกลับมาเพื่อมาฝังตัวใน
00:11:59 → 00:12:02 โพรงมดลูกซึ่งกระบวนการตรงเนี้ยกว่าตัวง
00:12:02 → 00:12:04 อ่อนจะเดินทางมาถึงโพรงมดลูกแล้วพร้อมจะ
00:12:04 → 00:12:07 ฝังตัวเนี่ยจะใช้เวลาประมาณ 5 วันนะครับอ
00:12:07 → 00:12:10 เมื่อฝังตัวเนี่ยตัวอ่อนจำเป็นจะต้องใช้
00:12:10 → 00:12:13 สารอาหารที่อยู่ในชั้นเยื่อบุโพงมดลูกก็
00:12:13 → 00:12:15 คือชั้นในสุดของโพงมดลูกนะครับที่หมอมัก
00:12:15 → 00:12:17 จะเคยพุยแบบว่านึกถึงเป็นวอเปอร์ของของ
00:12:17 → 00:12:20 พวงัดลูกของเราเนี่ยนะครับใช้ชั้นตรง
00:12:20 → 00:12:23 เนี้ยเป็นที่ในการฝังตัวแล้วก็เอ่อดูดซับ
00:12:23 → 00:12:25 อาหารแล้วก็เจริญเติบโตกลายเป็นพารกขึ้น
00:12:25 → 00:12:28 มาเพราะฉะนั้นกลไกอันที่ 4 อันสุดท้ายถ้า
00:12:28 → 00:12:30 เราพลาดพังป้องกันอะไรไม่ได้มีตัวอ่อน
00:12:30 → 00:12:32 หลุดมาเนี่ยนะครับการคุกำเนิดจะมุ่งไปที่
00:12:32 → 00:12:35 การเปลี่ยนแปลงสภาพของเยื่อบุกพงวลูกนะ
00:12:35 → 00:12:37 ครับให้ผนังชั้นเนี้ยมันมีการเสียสภาพไป
00:12:37 → 00:12:41 มีภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการฝัตัวของตัวออก
00:12:41 → 00:12:44 อ่าอันนี้เป็น 4 กลไกในการคุมกำเนิดนะ
00:12:44 → 00:12:47 ครับค่ะเพราะฉะนั้นถ้าเราพูดถึงในเรื่อง
00:12:47 → 00:12:50 กลการคกำเนิดนะครับถ้าตรงกับหัวข้อของเรา
00:12:50 → 00:12:53 เนี่ยนะครับแน่นอนครับเอ่อเรามีพสพันโดย
00:12:53 → 00:12:55 ไม่ได้ป้องกันไม่ได้เตรียมตัวบังเอิญเ่อ
00:12:55 → 00:12:58 บรรยากาศพาไปเนี่ยแน่นอนเราย่อมไม่ได้ไป
00:12:58 → 00:13:02 คุมแบบยับยั้งการสร้างไข่การตกไข่หรือว่า
00:13:02 → 00:13:04 ไปป้องกันเปลี่ยนมวกปากมะรูกให้อสุจิผ่าน
00:13:04 → 00:13:06 เข้าไปไม่ได้อันนั้นเราไม่ได้ทำละเราก็
00:13:06 → 00:13:08 ต้องมาเขที่กระบวนการสุดท้ายเนี่ยนะครับ
00:13:08 → 00:13:10 คือไปเปลี่ยนแปลงสภาพของโพงมลูกของเรา
00:13:10 → 00:13:13 เนี่ยให้ไม่พร้อมจากการฝังตัวครับซึ่ง
00:13:14 → 00:13:16 กระบวนการตรงเนี้ยเราทำได้โดยการให้
00:13:16 → 00:13:19 ฮอร์โมนนะครับซึ่งปัจจุบันที่เรานิยมใช้
00:13:19 → 00:13:21 เนี่ยเราก็เรียกว่าฮอร์โมนชนิดเป็นยาคุม
00:13:21 → 00:13:24 กำเนิดแบบฉุกเฉินก็คือยากำเนิดแบบหลังจาก
00:13:24 → 00:13:27 มีเพศสไปแล้วเราเรียกว่า po coal P นะ
00:13:27 → 00:13:31 ครับซึ่งอันเนี้ยเที่เรานิยมใช้ก็จริงๆ
00:13:31 → 00:13:33 จริงๆมีวิธีใช้ได้หลายอย่างนะครับมีทั้ง
00:13:33 → 00:13:36 การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนขนาดสูงนะครับหรือ
00:13:36 → 00:13:38 ว่าเป็นการใช้ฮอร์โมนรวมเหมือนกับยาคุม
00:13:38 → 00:13:41 เนี่ยในขนาดสูงนะครับทั้งเอนกนแต่อันที่
00:13:41 → 00:13:44 เรานิยมใช้กันอยู่ในท้องตลาดแล้วก็มีมี
00:13:44 → 00:13:46 ขายกันอยู่เป็นสสำหรับยาเม็ดคุมกำเนิด
00:13:46 → 00:13:49 หลังร่วมเพศเลยเนี่ยอันเนี้ยก็จะเป็นอ่า
00:13:49 → 00:13:53 ฮอร์โมนชนิดโปรเจสเตอโรนขนาดสูงครับค่ะ
00:13:53 → 00:13:57 ฮอร์โมนตัวนี้เนี่ยนะครับนะเอ่อจะเมื่อ
00:13:57 → 00:13:59 เราเมื่อเราเอ่อรับเข้าสู่ร่างกายนะครับ
00:13:59 → 00:14:02 ทานทานยาเคุมฉุกเฉินที่เข้าไปเนี่ยมันจะ
00:14:02 → 00:14:05 ไปออกฤทธิ์เปลี่ยนแปลงสภาพของโพรมมลูกตรง
00:14:05 → 00:14:08 เนี้ยครับให้มันมีสภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อ
00:14:08 → 00:14:10 ให้มีตัวอ่อนหลุดมาเนี่ยเก็จะฝังตัวไม่
00:14:11 → 00:14:15 ได้ก็จะไม่เกิดเป็นการตั้งครันอออ่านะ
00:14:15 → 00:14:18 ครับเพราะฉะนั้นอันนี้ก็เป็นกลไกที่เหมน
00:14:18 → 00:14:19 เหมือนกับว่ามาป้องกันตามหลังอ่ะถ้ามัน
00:14:19 → 00:14:23 คลาดไปแล้วจริงๆนะครับซึ่งในส่วนของยาคุม
00:14:24 → 00:14:27 กำเนิดแบบฉุกเฉินเนี่ยนะครับในแง่ของวิธี
00:14:27 → 00:14:30 การใช้เนะครับเ่อยสฉุกเฉินที่มีจำหน่าย
00:14:30 → 00:14:32 อยู่เนี่ยก็ใน 1 กล่องเนี่ก็จะมีบรรจุ 2
00:14:32 → 00:14:35 เม็ดนะครับขอย้ำไว้้ก่อนว่าฉุกเฉินคือ
00:14:35 → 00:14:37 ฉุกเฉินนะครับไม่ใช่เอามาใช้เป็นวิธีการ
00:14:37 → 00:14:40 คูมกำเนิดแบบสำหรับมีเพศพัณฑ์ทั่วๆไปก็
00:14:40 → 00:14:42 เอามาแบบทานหลังร่วมเพศตลอดเลยอย่างเงี้ย
00:14:42 → 00:14:44 อันนี้ไม่ไม่ดีเพราะว่าเมื่อเป็นฮอร์โมน
00:14:44 → 00:14:46 ขนาดสูงเนี่ยมันจะมีผลไปเปลี่ยนแปลงสภาพ
00:14:46 → 00:14:48 เยี่บู่แล้วก็จะไปรบกวนต่อรอบประจำเดือน
00:14:48 → 00:14:51 ของเราทำให้รอบประจำเดือนรอบต่อไปที่มา
00:14:51 → 00:14:54 เนี่ยอาจจะมาช้าลงหรือมาไม่ทือกลายเป็น
00:14:54 → 00:14:56 ว่าหลังจากทานยาแล้วก็จะมีเลือดออกกระปิ
00:14:56 → 00:14:59 กระปอยได้อะไรอย่างเงี้ยนะครับอเพราะ
00:14:59 → 00:15:01 ฉะนั้นเอ่อจึงควรใช้เมื่อเป็นกรณีฉุกเฉิน
00:15:01 → 00:15:04 แต่ห้ามเอามาใช้แบบมีสัมพันธ์เป็นประจำ
00:15:04 → 00:15:07 ปกติก็ไม่อยากกินยาคุมแบบแบบที่เป็นแผง
00:15:07 → 00:15:09 ที่ต้องกินทุกวันก็เลยมากินแบบฉุกเฉินเอา
00:15:09 → 00:15:11 เม็ดเดียว 2 เม็ดอะไรเงี้ยอันนี้ไม่ถูก
00:15:11 → 00:15:15 ต้องนะครับคราวนี้ถ้าเราพลาดพั้งไปเนี่ย
00:15:15 → 00:15:18 นะครับถามว่ายาเมคุกำหนิดแบบฉุกเฉินเนี่ย
00:15:18 → 00:15:20 หรือแบบหลังมีเพศสัญไปแล้วเนี่ยนะครับ
00:15:20 → 00:15:24 เอ่อข้อกำหนดก็คือเราควรจะรีบทานเม็ดแรก
00:15:24 → 00:15:28 นะครับให้เร็วที่สุดเร็วที่สุดเท่าที่จะ
00:15:28 → 00:15:30 ทำได้มันต้องแข่งกับเวลาแล้วครับเราต้อง
00:15:30 → 00:15:32 รีบไปเปลี่ยนแปลงสภาพวงลูกให้ให้ตัวอ่อน
00:15:32 → 00:15:35 ฝั่งตัวไม่ได้เพราะฉะนั้นยิ่งเราทานเร็ว
00:15:35 → 00:15:37 ขึ้นเท่าไหร่นะครับมันก็จะออกฤทธิ์ไปป้อง
00:15:38 → 00:15:40 กันตรงนี้ได้เ่อประสิทธิภาพดีขึ้นเท่า
00:15:40 → 00:15:44 นั้นนะครับในในทางคำแนะนำนะครับของบริษัท
00:15:44 → 00:15:47 ผู้ผลิตยาเนะครับที่ทำวิจัยมาเเพบว่าถ้า
00:15:47 → 00:15:49 เกิดเป็นไปได้เนี่ยนะครับถ้าสามารถทาน
00:15:49 → 00:15:52 เม็ดแรกได้ทันทีภายใน 1 ชั่วโมงเนี่ยจะ
00:15:52 → 00:15:54 ถือว่าประสิทธิภาพในการำนวยยังค่อนข้าง
00:15:54 → 00:15:58 สูงครับโอกาสผิดพลาดอยู่อค่ะนะครับแต่ถ้า
00:15:58 → 00:16:01 เกิดเราทานช้ากว่า 1 ชั่วโมงไปเนี่ย
00:16:01 → 00:16:05 ประสิทธิภาพจะเริ่มไม่แน่นอนมากๆะออและ
00:16:05 → 00:16:08 อย่างไงก็ตามนะครับเ้าเช้าเพิ่งรู้สึกตัว
00:16:08 → 00:16:11 อะไรอย่าเงี้ยก็ก็ต้องไปให้เร็วที่สุด
00:16:11 → 00:16:15 ครับอันนั้นจะค่อใ 1 ช่มสมมติทำไปไปไปิง
00:16:15 → 00:16:19 ไปสังสรรค์กันมาเสร็จผับ 2:00 3 โอ้โห
00:16:19 → 00:16:22 ตอนนั้นก็เมาด้วยเมาก็ข้าขับด้วยืกว่าจะ
00:16:22 → 00:16:26 ฟื้นกว่าจะไปซื้อยาซื้อยาก็ลำบากก็ลำบาก
00:16:26 → 00:16:29 ใช่มฮะแต่ว่ายังไงก็ตามตามทฤษคืออย่างงี้
00:16:29 → 00:16:31 นะครับแต่ว่าถ้าในทางปฏิบัติจริงๆเนี่ยก็
00:16:31 → 00:16:34 ขอให้ก็เมื่อรู้เมื่อไหร่เนี่ยก็รีบไปไป
00:16:34 → 00:16:37 ซื้อแล้วรีบทานเม็ดแรกให้เร็วที่สุดมันมี
00:16:37 → 00:16:40 มันมีกำหนดมั้ยคะคุณหมอว่ามันควรจะต้อง
00:16:40 → 00:16:43 ทานภายในกี่ชั่วโมงเงี้ยค่ะเม็ดแรกอ่ะคะ
00:16:43 → 00:16:45 ก็อย่างที่เราบอกครับประสิทธิภาพจะยัง
00:16:45 → 00:16:47 ค่อนข้างดีถ้าเราทานทันภายใน 1 ชั่วโมง
00:16:47 → 00:16:49 แต่ว่าถ้าไม่ทันจริงๆเนี่ยนะครับทานให้
00:16:49 → 00:16:53 เร็วที่สุดแต่ต้องภายใน 72 ชมงนะครับค่ะ
00:16:53 → 00:16:56 ถ้าเกิน 7 ชมถึ 72 ชัมเป็น 3 วัน่นะครับโ
00:16:56 → 00:17:01 เราคงจะไม่อยู่ครั้งควันหลงครับควันหลง
00:17:01 → 00:17:05 อยู่ 3 วันนะครับเจะไปหายาเนี่ยอันนี้หมอ
00:17:05 → 00:17:09 ว่าถ้าเราเป็นถแล้วเราจะค้องไปเถอะฮะไม่
00:17:09 → 00:17:12 อะไรแล้วนะฮะค่ะนะครับเพราะฉะนั้นดีที่
00:17:12 → 00:17:14 สุดเอาให้เร็วที่สุดแล้วหลังจากที่เรารับ
00:17:14 → 00:17:16 ประทานเม็ดแรกแล้วเนี่ยนะครับเพื่อ
00:17:16 → 00:17:19 ประสิทธิภาพที่ดีนะครับ 12 ชมงให้หลัง
00:17:19 → 00:17:22 เนี่ยควรจะรับประทานอีก 1 เม็ดค่ะออ่านะ
00:17:22 → 00:17:25 ครับเพราะฉะนั้นไม่ว่าเราเราจะเริ่มเม็ด
00:17:25 → 00:17:27 แรกเมื่อไหร่เนี่ยก็ 12 ชมงให้หลังก็ให้
00:17:27 → 00:17:29 เริ่มอีก 1 เม็ดค่ะคราวที่พอได้ยินแบบนี้
00:17:29 → 00:17:32 เนี่ยนะครับให้เราถือว่าการป้องกันโดย
00:17:32 → 00:17:34 เม็ดแรกเนี่ยเป็นเป็นจุดตั้งต้นหลักที่
00:17:34 → 00:17:37 สำคัญนะครับเ่อเราอย่าไปมองว่าเ้ยในเมื่อ
00:17:37 → 00:17:39 สูตรการกินเป็นว่าเดี๋ยวเราทานเม็ดนึงอีก
00:17:39 → 00:17:41 12 ชั่วโมงทานอีกเม็ดนึงเพราะฉะนั้นหลัง
00:17:41 → 00:17:43 จากนั้นปึ๊บเราก็มีเพศสัมพันธ์ต่อไป
00:17:43 → 00:17:47 เรื่อยๆสิหลายๆรอบนะครับแล้วก็มันมียาคุม
00:17:47 → 00:17:49 ไเราเราไม่แนะนำให้ทำอย่างงั้นนะครับ
00:17:49 → 00:17:52 เพราะว่ามันจะเหมือนกับว่าเราไปนับเราไป
00:17:52 → 00:17:54 เพิ่มโอกาสความเสี่ยงจำนวนครั้งของการเพศ
00:17:54 → 00:17:56 สพันธ์ที่ที่เพิ่มขึ้นเนี่ยมันก็มีความ
00:17:56 → 00:17:59 เสี่ยงที่สักตัวปติได้สำเร็จค่ะเพราะ
00:17:59 → 00:18:01 ฉะนั้นฉุกเฉินไปลว่ามันพลาดไปครั้งเดียว
00:18:02 → 00:18:04 แล้วรีบป้องกันอนะฮะไม่ใช่พอป้องกันเสร็จ
00:18:04 → 00:18:07 ปุ๊บอ้าวเธอไหนๆได้กินเม็ดแรกไปแล้วงั้น
00:18:07 → 00:18:10 เรามาฉุกเฉินกันต่อดีกว่าอันนี้ไม่ได้นะ
00:18:10 → 00:18:12 ครับนะถ้าเป็นอย่างเงี้ยแนะนำว่าควรจะ
00:18:12 → 00:18:14 ต้องใช้วิธีคูมกำเนิดอื่นร่วมด้วยะเช่น
00:18:15 → 00:18:18 ใช้ถ่วยงานอมร่วมด้วยะค่ะนะครับแล้วก็ใน
00:18:18 → 00:18:20 เมื่อเป็นฮอร์โมนขนาดสูงเนี่ยนะครับเมื่อ
00:18:20 → 00:18:23 เรารับประทานเครับอาการที่ผู้หญิงมักจะพบ
00:18:23 → 00:18:26 ได้ก็คือมักจะมีอาการเวียนศีรษะคึ้นใช้อจ
00:18:26 → 00:18:29 อันนี้เจอได้บ่อยเลยครับค่ะแต่แต่ก็ต้อง
00:18:29 → 00:18:31 รอรับว่าก็ต้องทนกับมันครับถ้าเราไม่อยาก
00:18:31 → 00:18:36 พลาดไปไปตั้งครรภ์ครับนะก็ก็ทนเอาถ้ามี
00:18:36 → 00:18:39 อาการก็มาประคับประคองมันไปนะครับหรือว่า
00:18:39 → 00:18:42 เ่ออาการที่เราบอกเนี่ยนะครับผลข้างเคียง
00:18:42 → 00:18:44 ของยาก็คือยาจะไปทำให้โรคประจำเดือนรอบ
00:18:44 → 00:18:47 ต่อไปเนี่ยมันมาช้าลงนะครับหรือว่าอาจจะ
00:18:47 → 00:18:49 มีเลือดออกกระปิดกระปอยที่มันไม่ใช่รอบ
00:18:49 → 00:18:52 ประจำเดือนหลุดออกมาปัญหาที่เราพูดถึงตรง
00:18:52 → 00:18:55 นี้ก็คือเวลาเราบอกว่ายาเนี่ยทำให้ประจำ
00:18:55 → 00:18:59 เดือนมาช้าลงก็แย่ล่ะสิครับเรากำลังกลัว
00:18:59 → 00:19:00 อยู่ว่าเรามีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ได้ป้อง
00:19:00 → 00:19:03 กันแล้วมากินยาตามหลังเนี่ยใช่มครับแล้ว
00:19:03 → 00:19:06 มันจะท้องหรือเปล่าใช่มยครับอืแล้วไอ้
00:19:06 → 00:19:09 เจ้ายาเยดันทำให้ประจำเดือนมาช้าลงอืคราว
00:19:09 → 00:19:11 นี้แะครับเราก็จะตุ้มๆต่อมๆแล้วครับว่า
00:19:11 → 00:19:14 เอ๊ะทำไมประจำเดือนมันยังไม่มาซักทีค่ะ
00:19:14 → 00:19:17 มันพลาดมยมันท้องมยนะครับเพราะฉะนั้น
00:19:17 → 00:19:19 สำหรับผู้ที่ใช้ยาคามกำเน็จแบบฉุกเฉิน
00:19:19 → 00:19:23 เนี่ยนะครับนะหลังจากผ่านไป 3 สัปดาห์นะ
00:19:23 → 00:19:26 ครับถ้าประจำเดือนยังไม่มาเนี่ยต้องตรวจ
00:19:26 → 00:19:28 ปัสสาวะเช็คดูด้วยนะครับว่ามีการผิดพลาด
00:19:28 → 00:19:32 แลเกิดการตั้งคันขึ้นหรือเปล่าอือสาเหตุ
00:19:32 → 00:19:34 ที่ต้องรอ 3 สัปดาห์เพราะว่าสมมุติเรา
00:19:34 → 00:19:36 เริ่มมีการปฏิสนธิในการมีเพศสัมพันธ์
00:19:36 → 00:19:38 ครั้งนั้นนะครับตัวอ่อนจะไปฝังตัวอย่าง
00:19:38 → 00:19:40 ที่หมอบอกะเดินทางมาประมาณ 5 วันมาฝังตัว
00:19:40 → 00:19:43 ที่พงวัดลูกใช่มั้ครับฝังตัวเสร็จปุ๊บ
00:19:43 → 00:19:45 กว่าตัวอ่อนเนี่ยนะครับจะฝังตัวแล้วแบ่ง
00:19:45 → 00:19:49 เซลล์ไปจนกระทั่งเไปสามารถเชื่อมกับเป็น
00:19:49 → 00:19:50 พูดง่ายๆว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่มั่นคง
00:19:50 → 00:19:53 เนี่ยนะครับจะมีการเชื่อมกันระหว่างเซลล์
00:19:53 → 00:19:56 รกกับเส้นเลือดของคุณแม่ฮอร์โมนจากเซลล์
00:19:56 → 00:19:58 รกเนี่ยก็จะผ่านเข้ามาในกระแสเลือดของคุณ
00:19:58 → 00:20:00 แม่แม่ทำให้เราสามารถเจาะเลือดคุณแม่แล้ว
00:20:00 → 00:20:02 ตรวจพบฮอร์โมนฮอร์โมนรกที่เราเรียกว่า
00:20:02 → 00:20:05 ฮอร์โมนเบต SCG เนี่ยก็จะตรวจพบการตั้งรภ
00:20:05 → 00:20:07 ได้เนี่ยอันเนี้ยจะเริ่มที่ 14 วันหลังมี
00:20:07 → 00:20:12 เพศสัมพันธ์อืครับแต่ถ้าเราจะตรวจปัสสาวะ
00:20:12 → 00:20:15 เนี่ยจะต้องรอไปอีก 7 อีก 7 วันครับต้อง
00:20:15 → 00:20:18 ไปกลายเป็น 21 วันอืเพราะฉะนั้นถ้าเราจะ
00:20:18 → 00:20:20 ดูจากการตรวจปัสสาวะเนี่ยนะครับก็แปลว่า
00:20:20 → 00:20:22 ถ้าเรามีเพศอ่ามีเพศพันธโดยไม่ได้ป้องกัน
00:20:22 → 00:20:26 แล้วมาใช้ยางเหชนิดฉุกเฉินเนี่ยนะครับครบ
00:20:26 → 00:20:29 3 สัปดาห์เนี่ยนะครับควรจะตรวจปัสสวะ
00:20:29 → 00:20:31 ด้วยอืยกเว้นถ้าเราแบบมีประจำเดือนมาให้
00:20:31 → 00:20:33 เห็นชัดๆก่อนหน้านั้นว่าเป็นประจำเดือน
00:20:33 → 00:20:35 ที่มาเยอะๆเลยเหมือนประจำเดือนปกติอัน
00:20:35 → 00:20:38 นั้นเนี่ยเราถึงจะวางใจได้ว่าอ่าโอเคยา
00:20:38 → 00:20:41 ได้ผลละเราไม่ตั้งคำมีประจำเดือนมาแล้วอื
00:20:41 → 00:20:43 นะครับถ้าเกิดระหว่างที่เรารอ 3 สัปดาห์
00:20:44 → 00:20:46 เนี้ยมีเลือดออกก็จริงแต่ดันเป็นเลือดออก
00:20:46 → 00:20:48 ที่ออกกระปิดกระปอยนิดๆหน่อยๆเนี่ยอันนี้
00:20:48 → 00:20:50 ให้สงสัยไว้ก่อนนะครับว่าอาจจะเป็นเลือด
00:20:50 → 00:20:52 ออกที่มาจากวิกของยาก็ได้ไม่ใช่ประจำ
00:20:52 → 00:20:55 เดือนก็ได้ครับค่ะคือเราก็ยังมีความ
00:20:55 → 00:20:57 เสี่ยงว่าเราอาจจะท้องอยู่ก็เป็นไปได้นะ
00:20:57 → 00:21:00 ครับเพราะฉะนั้นถ้า้ยาคุมคุณฉุเฉือแล้ว
00:21:00 → 00:21:03 ตามไปดูไป 3 สัปดาห์คือ 21 วันแล้วเนี่ย
00:21:03 → 00:21:05 นะครับยังไม่เห็นประจำเดือนที่มาจริงๆจัง
00:21:05 → 00:21:08 ๆเนี่ยควรจะตรวจปัสสาวะเช็คซ้ำอีกทีนึง
00:21:08 → 00:21:10 ถ้าตรวจปัสสาวะตรงนี้แล้วผลไม่ขึ้น
00:21:10 → 00:21:12 อันเนี้ยอันนี้ถึงจะยืนยันได้ว่าโอเคเรา
00:21:12 → 00:21:15 ไม่ท้องละนะครับไอ้ที่ประจำเดือนมาช้า
00:21:15 → 00:21:17 เป็นเพราะยานั่นเองเพราะฉะนั้นเราก็จะไม่
00:21:17 → 00:21:22 ต้องไปกวลอะไรค่ะนะครับอันนี้คือหลักการ
00:21:22 → 00:21:25 ในการใช้ยาแมคนิแบบฉุกเฉินนะครับในคำแนะ
00:21:25 → 00:21:29 นำทั่วๆไปนะครับคำว่าฉุกเฉินเนี่ยไม่ควร
00:21:29 → 00:21:32 จะฉุกเฉินบ่อยนะฮะเอ่อใน 1 เดือนนะครับ
00:21:32 → 00:21:34 เพื่อความปลอดภัยนะครับไม่ให้มีผลข้าง
00:21:34 → 00:21:37 เคียงต่อยาซึ่งถ้าเราได้รับฮอร์โมนขนาด
00:21:37 → 00:21:39 สูงเนี่ยมันอาจจะไปกระตุ้นทำให้รังไข่เรา
00:21:39 → 00:21:41 เนี่ยเกิดมีการมีถุงน้ำหรือมีซีสต่างๆที่
00:21:41 → 00:21:43 เป็นความผิดปกติตามมาได้นะครับเพราะ
00:21:43 → 00:21:46 ฉะนั้นในคำแนะนำของผู้ผลิตยาเนี่ยที่เทำ
00:21:46 → 00:21:48 วิจัยมาแล้วเเแนะนำว่าใน 1 เดือนเนี่ยไม่
00:21:48 → 00:21:52 ควรจะรับประทานยาเยเกิน 4 เม็ดอืออ 4 เม
00:21:52 → 00:21:54 ก็อย่างที่เราเรียนไปแล้วว่าเราทเม็ดแรก
00:21:55 → 00:21:57 เนี่ย 12 ชั่วโมงเราต้องทาใช่เพราะฉะนั้น
00:21:57 → 00:22:00 เราฉุกเฉิไม่เกิน 2 รอบต่อเดือนนะฮะนะ
00:22:00 → 00:22:02 ครับถ้าเกอนี้มันน่าจะไม่ฉุกเฉินแล้วใช่
00:22:02 → 00:22:04 มั้ถ้าถ้าถ้าฉุกเฉินถึงครั้งที่ 3 เนี่ย
00:22:04 → 00:22:07 มันไม่ใช่ฉุกเฉินแล้วแหลอันนี้คือทำไม่
00:22:07 → 00:22:11 รับผิดชอบอย่างมากะก็เสี่ยงไปนะครับคราว
00:22:11 → 00:22:15 นี้อย่างที่เราคุยกันครับถ้าเป็นกรณี
00:22:15 → 00:22:18 อันเนี้ยเราพูดถึงควันหลงแบบเราเป็นพเ
00:22:18 → 00:22:20 เพศสัมพันธ์แล้วเผลอไผใจไปแล้วไปเกิดกรณี
00:22:20 → 00:22:23 แบบนี้ค่ะแต่ก็จะมีบางครั้งครับที่มันไป
00:22:23 → 00:22:26 เกิดกรณีฉุกเฉินแบบซึ่งซึ่งบางทีเหมือนม
00:22:26 → 00:22:28 เราไปถูกกระทำไปถูกขืนไม่ถูกอะไรอย่าง
00:22:28 → 00:22:32 เงี้ยสนใจมานะครับนะครับวิธีป้องกันการ
00:22:32 → 00:22:34 ตั้งครรภ์นะครับถ้ามันพลาดไปแล้วนะครับ
00:22:34 → 00:22:36 แล้วก็อยู่ในช่วงที่มีความเสี่ยงเช่นเรา
00:22:36 → 00:22:38 นับดูแล้วเอมาอยู่ช่วงกลางของรอบเดือนนะ
00:22:38 → 00:22:41 ครับแล้วเราก็ประเมินดูแล้วสมมุติเป็นคน
00:22:41 → 00:22:45 ที่ทานยาคุณกำเนิดก็ไม่ได้ผลแบบอาจจะมี
00:22:45 → 00:22:47 อาการข้างเคียงเยอะเวียนหวเยอะจนทานไม่
00:22:47 → 00:22:49 ได้อะไรเงี้ยนะครับทานไปอาเจียนออกมาอะไร
00:22:49 → 00:22:51 เงี้ยนะครับถ้าเป็นกรณีแบบนี้เนี่ยนะครับ
00:22:51 → 00:22:54 หรือเป็นคนที่มีผลข้างเคียงเช่นคนที่จะทา
00:22:54 → 00:22:56 ยังไม่คุมกำเนิดได้เนี่ยต้องไม่มีภาวะผิด
00:22:56 → 00:23:00 ปกติในเรื่องของของการการมีลิ่มเลือดอุ
00:23:00 → 00:23:03 ตันนะครับอืซึ่งตรงเนะครับเ่อถ้าเป็นคน
00:23:03 → 00:23:06 ที่ใช้ยาคุงกำเนิดไม่ได้เนี่ยนะครับวิธี
00:23:06 → 00:23:08 การคุมกำเนิดที่แนะนำที่สุดเลยนะครับหลัง
00:23:08 → 00:23:12 จากพาดไปแล้วก็คือให้ไปพบคุณหมอนะครับ
00:23:12 → 00:23:16 แล้วไปขอรับบริการใส่ห่วงอนามัยครับอือื
00:23:16 → 00:23:18 ห่วงอนามัยเี่นะครับก็คือวัสดุแตกปลอมอัน
00:23:18 → 00:23:21 นึงนะครับทำจากพลาสติกแล้วก็มักจะมีส่วน
00:23:21 → 00:23:23 ของคอปเปอร์หรือทองแดงเนี่ยหอหุ้มเอาไว้
00:23:23 → 00:23:26 นะครับห่วงอนามัยเนี่ยนะครับเราจะใส่ผ่าน
00:23:26 → 00:23:28 ทางช่องคลอดนะครับผ่านปากมดลูกเข้าไปแล้ว
00:23:28 → 00:23:32 ไปวางตัวเอยู่ในโพงมดลูกเมื่อห่วงอนามัยเ
00:23:32 → 00:23:34 ไปอยู่ในโพงมัดลูกเนี่ยตัวห่วงอนามัยเอง
00:23:34 → 00:23:36 เนี่ยจะไปเปลี่ยนแปลงสภาพของโพงมลูกและ
00:23:36 → 00:23:39 เยืดโพงมลูกให้มันมีสภาพที่ไม่เหมาะสมต่อ
00:23:39 → 00:23:43 การฝังตัวค่ะอ่าเพราะฉะนั้นอันนี้ก็จะออก
00:23:43 → 00:23:45 ฤทธิ์เหมือนกับการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด
00:23:46 → 00:23:49 ฉุกเฉินนั่นเองนะครับแต่ข้อดีก็คือมันก็
00:23:49 → 00:23:51 จะไม่ค่อยมีอาการค่าเคนเนื่องจากมันไม่
00:23:51 → 00:23:54 ได้มีผลจากฮอร์โมนขนาดสูงนะครับแล้วก็
00:23:54 → 00:23:58 เอ่อหวงอนามัยเนี่ยนะครับถ้าเราจะใส่เนะ
00:23:58 → 00:24:01 ครับเราต้องใส่ให้ทันภายใน 5 วันค่ะอก็
00:24:01 → 00:24:03 คือจะเห็นได้ว่าช่วงเวลามันจะนานกว่าไอ้
00:24:03 → 00:24:05 ยำไม่คงจะฉุกเฉินที่เราบอกว่าต้องไม่เกิน
00:24:05 → 00:24:08 72 ชมใช่มั้ยครับแต่ว่าอ่าห่วงอนามัย
00:24:08 → 00:24:10 เนี่ยขอให้ใส่ให้ทันอย่างน้อยๆที่บบอกว่า
00:24:10 → 00:24:13 ตัวปฏิสนธิเสร็จปุ๊บเนี่ยเขาจะใช้เวลา 5
00:24:13 → 00:24:15 วันกว่านจะเดินทางกลับมาฝังตัวที่พงพลูก
00:24:15 → 00:24:17 เพราะฉะนั้นถ้าเราใส่ทันภายใน 5 วันเนี่ย
00:24:17 → 00:24:20 มันก็น่าจะทันพอที่จะขัดขวางการฝังตัว
00:24:20 → 00:24:23 นั้นได้ค่ะตอนนี้ห่วงอนามัยเนี่ยจะมีห่วง
00:24:23 → 00:24:25 อนามัย 2 แบบนะครับก็คือหวงอนามัยแบบแบบ
00:24:26 → 00:24:29 ปกติเลยคือทำจากพลาสติกเฉยๆกับหในแบบที่
00:24:29 → 00:24:31 หมอบอกไ้เมื่อสักครู่คือมีการเคลือบสาร
00:24:31 → 00:24:33 คอปเปอร์เคือบสารทองแดงไว้เนี่ยนะครับ
00:24:33 → 00:24:36 เอ่อถ้าเป็นกรณีที่ต้องใช้วิธีคุงฉุกเฉิน
00:24:36 → 00:24:38 นะครับเช่นบางทีถูกข่มขืนมาหรืออะไรอย่า
00:24:38 → 00:24:41 งี้ปุ๊บมีดำเนินคดีมาเสร็จปุ๊บเนี่ยเวลา
00:24:41 → 00:24:43 มาเจอหมอหมอตรวจร่างกายเสร็จปุ๊บเนี่ยหมอ
00:24:43 → 00:24:45 จะต้องรีบคุงกำเนิดให้โดยใช้หัวงอนามัย
00:24:45 → 00:24:47 ซึ่งแนะนำให้เป็นแบบคอปเปอร์ครับแบบที่มี
00:24:47 → 00:24:50 พแดงอยู่เพราะว่ามันจะทำให้มีการออกฤทธ์
00:24:50 → 00:24:52 ฤทธิ์ของคอเปอร์เนี่ยจะทำให้มันไปเปลี่ยน
00:24:52 → 00:24:55 แปลงสภาพของงวัดลูกได้ได้เร็วกว่าค่ะก็จะ
00:24:55 → 00:24:58 มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรได้
00:24:58 → 00:25:02 ดีกว่าค่ะนะครับเพราะฉะนั้นข้อดีของอมัย
00:25:02 → 00:25:04 ก็คือมันมันยังเหมือนกับว่าอเป็นด่านสุด
00:25:04 → 00:25:07 ท้ายอ่ะัก 3 วันแรกทานยาไม่ทันเกิน 7-2
00:25:07 → 00:25:09 ชั่วโมงมาแล้วเนี่ยใส่หวงอนามัยก็ยังพอ
00:25:09 → 00:25:12 ไหวนะครับอแต่ว่าก็อย่างที่เราเรียนก็คือ
00:25:12 → 00:25:14 ก็จริงๆถ้าสามารถใส่ให้เร็วที่สุดได้ก็ดี
00:25:14 → 00:25:17 ที่สุดนะครับข้อดีของหัวอนามัยก็คือมัน
00:25:17 → 00:25:19 ไม่ค่อยมีอาการข้างเคียงจากอาการที่ต้อง
00:25:20 → 00:25:22 รับฮอร์โมนขนาดสูงเหมือนอย่างยาไม่คุม
00:25:22 → 00:25:26 กำเนิดแบบฉุกเฉินแต่ข้อเสียก็คือเราทำเอง
00:25:26 → 00:25:30 ไม่ได้ไงไยาอซืนเองว่าอันแปลว่าเราต้อง
00:25:30 → 00:25:33 เดินหน้าไปหาคุณหมอนะครับแล้วก็ไปขอรับ
00:25:33 → 00:25:37 บริการนะครับซึ่งซึก็ควรควรจะทำดีกว่า
00:25:37 → 00:25:39 ปล่อยให้ตั้งันขึ้นมานะครับเพราะฉะนั้น
00:25:39 → 00:25:41 ที่เราคุยกันมาถึงตรงเนี้ยอันนี้จะเป็นใน
00:25:41 → 00:25:44 แง่ของการเอ่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่
00:25:44 → 00:25:49 คุณประสงค์นะครับคเราพลาดไปแล้วนะครับ
00:25:49 → 00:25:52 ส่วนอีกหัวข้อนึงนะครับที่เมื่อสักครู่
00:25:52 → 00:25:55 คุณเักเกริไปแล้วก็คือนอกจากเรื่องการส่ง
00:25:55 → 00:25:57 แล้วเนี่ยถ้าเราไม่ได้ป้องกันตัวเองดีเนะ
00:25:57 → 00:25:59 ครับมันก็มีโอกาสที่การมีเพศสัมพันธ์ที่
00:25:59 → 00:26:02 ผ่านมาของเราในวันไทเนี่ยอาจจะมี
00:26:02 → 00:26:05 เพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงเสี่ยงต่อการติด
00:26:05 → 00:26:07 เชื้อได้ออย่างที่เราพูดว่าเคือโรคติด
00:26:08 → 00:26:10 เชื้อที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์นะครับโรค
00:26:11 → 00:26:12 ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เรารู้จักกัน
00:26:12 → 00:26:15 เนี่ยนะครับโมีเยอะมากนะครับเรียงไปเลยนะ
00:26:15 → 00:26:18 ครับที่หมอเกริ่นไปคงไม่ลงในรายละเอียด
00:26:18 → 00:26:21 แต่ว่าก็เรียงไปตามที่แต่ละท่านเคยได้ยิน
00:26:21 → 00:26:23 นะครับโรคติดเชื้อทสำคัญเนี่ยก็มีตั้งแต่
00:26:23 → 00:26:27 นะครับติดเชื้อแบคทีเรียนะครับนะทำให้ตก
00:26:27 → 00:26:30 ขาวเรามีกลิ่นเหม้นมีมีอาการแบบเหมือนกับ
00:26:30 → 00:26:33 ปวดท้องน้อยอย่างเงี้ยนะครับหรือว่าเ่า
00:26:33 → 00:26:36 ติดเชื้อในกลุ่มของเชื้อรานะครับทำให้มี
00:26:36 → 00:26:40 อาการคันนะครับติดเชื้อในกลุ่มของพยาธ
00:26:40 → 00:26:43 หรือโปรโตซัวนะครับนะครับก็อันนี้เป็น
00:26:43 → 00:26:46 กลุ่มที่เรียกว่าเกลุ่มเชื้อของทิสนะครับ
00:26:46 → 00:26:48 แล้วก็ยังมีการติดเชื้อพวกไวรัสซึ่งไวรัส
00:26:48 → 00:26:50 นี่ก็มีหลายอย่างครับอาจจะเป็นพวกไวรัส
00:26:50 → 00:26:54 พวกเริมก็ได้นะครับหรือไวรัสที่ทำให้เกิด
00:26:54 → 00:26:55 เป็นลักษณะเป็นหูดนะครับที่เราเรียกว่า
00:26:55 → 00:26:58 หูดหงอนไก่หรือหูดข้าวสุกอืนะครับค่ะนอก
00:26:58 → 00:27:01 จากนี้เนี่ยนะครับการติดเชื้อเนี่ยยังอาจ
00:27:01 → 00:27:03 จะเป็นการติดเชื้อที่ทำให้เกิดเหมือนกับ
00:27:04 → 00:27:07 ร่องรอยแผลต่างๆที่อวเพศนะครับที่เรา
00:27:07 → 00:27:10 เรียกรู้จากกันว่าแผลริมอ่อนนะครับแผริม
00:27:10 → 00:27:14 แผลริมแข็งนะครับหรือว่าเกิดการอักเสบติด
00:27:14 → 00:27:17 เชื้อแล้วก็มีมีตกขาวเป็นสีเหลืองๆเหมือน
00:27:17 → 00:27:19 หนองที่เราเรียกว่าเป็นหนองในนะครับซึ่ง
00:27:20 → 00:27:22 หนองในนี่ก็จะแบ่งเป็นหนองในแท้กับหนองน
00:27:22 → 00:27:24 เทียมซึ่งมันแยกกันที่ชนิดของเชื้อนะครับ
00:27:24 → 00:27:27 อนอกเหนือจากนี้นะครับถ้าหนองเป็นมาเนี่ย
00:27:28 → 00:27:31 อาจจะไปลุกลามไปติดเชื้อที่บริเวณป่อมน้ำ
00:27:31 → 00:27:33 เหลืองบริเวณขาเหนี่ทำให้เกิดการบวมกลาย
00:27:33 → 00:27:35 เป็นฝีขนมาใช่แล้วเรียกว่าเป็นฝีมะม่วง
00:27:35 → 00:27:37 อย่างเงี้ยนะครับหรือว่าติดเชื้อเอาจจะ
00:27:37 → 00:27:40 ลุกลามไปทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นอุใน
00:27:40 → 00:27:43 อุ้งเชิงกของเราที่ปีกมดลูกอักเสบหรือว่า
00:27:43 → 00:27:47 เกิดการเป็นฝีหนองที่ปีกมดลูกได้นะครับ
00:27:47 → 00:27:49 นอกจากนี้นะครับการติดเชื้อเนี่ยไม่ใช่
00:27:49 → 00:27:52 แค่ติดเชื้อในบริเวณอวัยเพศเท่านั้นหรือ
00:27:52 → 00:27:54 ว่ามันมีอาการอย่างที่เราพูดมากันทั้งหมด
00:27:55 → 00:27:57 เนี่ยการติดเชื้อนั้นยังอาจจะติดเชื้อลุก
00:27:57 → 00:28:00 ลามไปสู่กระแสเลือดทำให้ทำให้เกิดโรคที่
00:28:00 → 00:28:02 อันตรายอย่างที่เรากลัวกันที่สุดก็คือการ
00:28:02 → 00:28:05 ติดเชื้อไวรัส HIV เนี่ยนะครับมันก็จะ
00:28:05 → 00:28:07 แพร่ทำให้เอ่อติดเชื้อเข้าไปในกระแสเลือด
00:28:07 → 00:28:10 ได้หรือว่าการติดเชื้อในกลุ่มของิิินะ
00:28:10 → 00:28:13 ครับในกลุ่มของตับอักเสบชนิด B หรือชนิด C
00:28:13 → 00:28:15 เนี่ยก็เกิดจากการสัมผัสจากเลือดเพราะ
00:28:15 → 00:28:17 ฉะนั้นเวลาเพศสัมพันธ์เนี่ยบางทีมีการ
00:28:17 → 00:28:20 เสียบสีหยเพศคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเนี่ย
00:28:20 → 00:28:22 นะครับเกิดแผลเกิดรอยถลอกมีเลือดออกเนี่ย
00:28:22 → 00:28:25 มันก็จะมีการปนเปืนถ้าฝ่ายนแมีเชื้ออยู่
00:28:25 → 00:28:28 ก็จะมีการถ่ายทอดเชื้อได้อันเนี้ยก็เป็น
00:28:28 → 00:28:30 รวมๆของโรคเต่อทประทศสัมพันธ์ซึ่งมันจะ
00:28:30 → 00:28:33 เกิดขึ้นได้ในกรณีที่ถ้าเราพลาดพั้งไป
00:28:33 → 00:28:35 เกิดศสัมพันธ์แล้วไม่ได้ป้องกันนะครับ
00:28:35 → 00:28:39 ซึ่งการป้องกันในกรณีนี้เนี่ยเ่อไม่ไม่
00:28:39 → 00:28:41 เหมือนกับการป้องกันในการคุมกำเนิดะคุม
00:28:41 → 00:28:43 กำเนิดนี่เราใช้ยาไม่คุมกำเนิดก็ได้ใช้
00:28:43 → 00:28:46 ห่วงอน้ก็ได้นะครับหรือว่าจะใช้เป็นที่
00:28:46 → 00:28:48 เราเคยคุยกันสัปดาห์ก่อนเป็นแผ่นแปะก็มี
00:28:48 → 00:28:51 เป็นห่วงวงคุมกำเนิดอะไรก็มีนะฮะแต่ถ้าจะ
00:28:52 → 00:28:54 คุณกำเนิดแล้วให้ได้ประสิทธิภาพในแง่ของ
00:28:54 → 00:28:57 การป้องกันการติดโรคจศสัมพันธ์ด้วยเนี่ย
00:28:57 → 00:29:00 จำเป็นจะต้องใช้ถุงยางงอนามัยครับค่ะ
00:29:00 → 00:29:02 เพราะถุงยางอนามัยเนี่ยมันจะห่อหุ้มทั้ง
00:29:02 → 00:29:04 ส่วนเอาไวประเภคุณผู้ชายเอาไว้นะครับแล้ว
00:29:04 → 00:29:07 ก็การใช้อยู่งานอนามัยก็ต้องคล้ายๆกับที่
00:29:07 → 00:29:10 เราเคยอธิบายไปเมื่อสัปดาห์ก่อนก็คือจะ
00:29:10 → 00:29:12 ต้องใช้อย่างถูกต้องด้วยนะครับออยู่งาน
00:29:12 → 00:29:15 อนามัยนั้นอันที่ 1 นะครับเ่อถ้าเราจะใช้
00:29:15 → 00:29:18 เนี่ยจะต้องเป็นถุมัยที่ยังไม่หมดอายุนะ
00:29:18 → 00:29:20 ครับซื้อมาเนี่ยดูซองก่อนเลยว่ามันมัน
00:29:20 → 00:29:23 เป็นถุาไมที่ที่ดูอายุวันหมดอายุซะก่อน
00:29:24 → 00:29:25 ต้องถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีนะครับไม่ใช่
00:29:26 → 00:29:28 เอาไปไว้หลังรถแล้วมันตแดดมาเป็นเดือนๆ
00:29:28 → 00:29:30 แล้วหยิบมาใช้เนี่ยยังอาจจะเสื่อมสภาพไป
00:29:30 → 00:29:34 ก็ได้นะครับก็อไมเวลาเราฉีกออกจากซอง
00:29:34 → 00:29:36 เนี่ยนะครับส่วนใหญ่ 1 ก่องก็จะมีอยู่ 3
00:29:36 → 00:29:39 3 ซองนะครับมี 3 ชิ้นเราฉีกออกเนี่ยนะ
00:29:39 → 00:29:42 ครับควรจะใช้มือฉีกนะครับตามรอยบาตอย่าไป
00:29:42 → 00:29:45 ใช้กรรไกรตัดชกอาจจะไปทำให้ถุงยางเนี่ย
00:29:45 → 00:29:48 มันแตกออกได้แล้วก็เวลาเราจะใสกถุงยาง
00:29:48 → 00:29:50 เนี่ยนะครับเ่อปลายถุงยางเนี่ยมันจะมี
00:29:50 → 00:29:53 เป็นกระเปาะที่เอาไว้สมมเป็นเป็นส่วนที่
00:29:53 → 00:29:56 จะใช้บรรจุเอ่อน้ำจิตที่หลังออกมานะครับ
00:29:56 → 00:29:59 เราจำเป็นจะต้องตอนจะใส่เข้ากับอเพศของ
00:29:59 → 00:30:01 ผู้ชายเนี่ยนะครับ 1 ต้องใส่ในขณะที่อเพศ
00:30:01 → 00:30:03 แข็งตัวนะครับไม่อย่างั้นมันมัน 1 มันใส่
00:30:03 → 00:30:05 ไม่เข้ากับ 2 คือมันจะเกิดช่องว่างทำให้
00:30:05 → 00:30:08 เกิดการรั่วได้นะครับแล้วก็ตอนใส่ขนาดที่
00:30:08 → 00:30:12 แข็งตัวเนี่ยตอนที่เราจะเครอบเอาไอ้ตัว
00:30:12 → 00:30:15 ถุงยาอนามัยไปที่ส่วนปายของอเเพศเนี่ยเรา
00:30:15 → 00:30:18 จะต้องบีบนะครับใช้นิ้ว 2 นิ้วเนี่ยบีบ
00:30:18 → 00:30:20 กระเปาะที่บอกว่าเป็นกระเปาะที่อยู่ตรง
00:30:21 → 00:30:24 ปลายของถุงยางเนี่ยเพื่อเอาไว้บรรจุน้ำอี
00:30:24 → 00:30:27 เนี่ยบีบเข้าไว้ด้วยนะครับเกิดเกิดอากาศ
00:30:27 → 00:30:29 อยู่ข้างในไม่งั้นพอเราไม่ได้บีบแล้วมัน
00:30:29 → 00:30:32 ใส่ขอกงไปเนี่ยมันจะเกิดเป็นอ่าเป็นอากาศ
00:30:32 → 00:30:34 อยู่ที่บริเวณปลายอว้ประเภทนะครับเหมือน
00:30:34 → 00:30:37 ลูกโป่งนะครับเพราะฉะนั้นเวพพันธ์ไปไป
00:30:37 → 00:30:39 เกิดการเสียดสีปุ๊บไอ้ลูกโป่งนี้แตกได้ก็
00:30:39 → 00:30:42 กลายเป็นถุงยางก็อาจจะรั่วได้นะเราต้อง
00:30:42 → 00:30:45 บีดกระเปาะนี้ไว้ก่อนนะครับแล้วก็รูดลงไป
00:30:45 → 00:30:48 จากส่วนปลายไปจนถึงทั่วสุดโคนอวยเพศของ
00:30:48 → 00:30:50 ผู้ชายแล้วก็ถ้ามีเพศสพันธ์เสร็จปุ๊บ
00:30:50 → 00:30:53 เนี่ยนะครับอย่าไปอย่าไปทิ้งไว้นานจน
00:30:53 → 00:30:56 กระทั่งอวยเพศอ่อนตัวนะครับจะต้องรีบอ่า
00:30:56 → 00:30:59 เ่อถอนประเเพศออกมาจากช่องคลอดแล้วก็เอ่อ
00:30:59 → 00:31:02 ใช้กระดาษทิชชู่หรือผ้าอะไรต่างๆสะอาดคือ
00:31:02 → 00:31:04 ไม่ให้มือเราไปสัมผัสกสัคัดหลักนะครับ
00:31:04 → 00:31:08 เสร็จแล้วก็เอ่อรูดออกทางปลายแล้วก็เอ่อ
00:31:08 → 00:31:11 เก็บทิ้งนะครับให้มันปัดจากเชื้อก็คือ
00:31:11 → 00:31:13 เก็บทิ้งอาจจะใส่ถุงพลาสติก้วรแล้วห่อไว้
00:31:13 → 00:31:16 เพื่อไม่ให้เกิดการกระจายไปค่ะนะครับ
00:31:16 → 00:31:19 อันเนี้ยครับก็จะเป็นเอ่อกระบวนการในการ
00:31:19 → 00:31:22 ป้องกันการติดเชื้อคราวนี้ถ้าเราพูด
00:31:22 → 00:31:24 เหมือนกับหัวข้อแรกนะครับถ้ามันพลาดไป
00:31:24 → 00:31:27 แล้วล่ะหัวข้อแรกเราก็มาคุมกำเนิดตามหลัง
00:31:27 → 00:31:29 ถ้าเราเกิดการติดเชื้อมีเพศสัมพันธ์โดย
00:31:29 → 00:31:31 ไม่ได้ต้องกแล้วมันเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
00:31:31 → 00:31:33 ไม่ได้ใส่แมเนี่ยเราต้องทำอะไรบ้างนะครับ
00:31:33 → 00:31:37 อันที่ 1 นะครับเอ่อควรจะรีบไปปรึกษาคุณ
00:31:37 → 00:31:39 หมอนะครับนะโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรา
00:31:39 → 00:31:42 สังเกตเห็นว่ามันมีลักษณะมีแผลนะครับมี
00:31:42 → 00:31:45 เลือดออกหรือว่ามีลักษณะมันพูดง่ายๆเวลา
00:31:45 → 00:31:48 เราอ่าเข้าวงน้ำปัสสาวะแล้วเราล้างความ
00:31:48 → 00:31:50 สะอาดเนี่ยมันมีการแฝบอะไรอย่าเงี้ยเวลา
00:31:50 → 00:31:52 โดนน้ำเนี่ยอันนี้สงสัยว่าอาจจะมีรอยถลอก
00:31:52 → 00:31:54 เป็นแผลซึ่งตรงเนี้ยจะยิ่งเพิ่มความ
00:31:54 → 00:31:57 เสี่ยงต่อการที่จะติดเชื้อได้มากขึ้นเพ
00:31:57 → 00:31:59 มันมีช่องทางที่เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายได้
00:31:59 → 00:32:02 มากขึ้นนะครับนอกเหนือจากนี้เนี่ยนะครับ
00:32:02 → 00:32:06 ถ้าเกิดพลาดพักเนะครับเราสามารถไปติดตาม
00:32:06 → 00:32:09 ให้คุณหมอนะครับเอ่อคุณหมอเจะมีอุปกรณ์
00:32:09 → 00:32:11 ที่จะย้อมเชื้อบริเวณในช่องทอดของเรา
00:32:11 → 00:32:14 เพื่อไปดูว่ามันมีเ่อส่วนของเชื้อที่เป็น
00:32:14 → 00:32:17 โรคจเพศสัมพันธ์ต่างๆเนี่ยไปสัมผัสอยู่
00:32:17 → 00:32:19 บ้างหรรือเปล่าค่ะถ้าเราตรวจพบเนี่ยจะได้
00:32:19 → 00:32:22 รีบให้ยารักษาเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
00:32:22 → 00:32:24 ที่รุกรามนะครับนอกเหนือจากนี้เนี่ยนะ
00:32:24 → 00:32:27 ครับถ้าเป็นกลุ่มของโรคที่หมอบอกแล้วว่า
00:32:27 → 00:32:29 มันเป็นโรคที่จะอาจจะแพร่กระจายติดต่อไป
00:32:29 → 00:32:32 ในกระแสเลือดอย่างอย่างเ่อฟิินะครับอย่าง
00:32:32 → 00:32:35 ตับอักเสบ B ตับอักเสบ C หรือว่าที่เรา
00:32:35 → 00:32:38 กลัวกันก็คือโรคเสหรือ HIV เนี่ยนะครับ
00:32:38 → 00:32:40 ค่ะเ่อเมื่อเรารับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
00:32:40 → 00:32:43 เนี่ยนะครับโรคพวกเนี้ยมันจะมีระยะของโรค
00:32:43 → 00:32:46 ที่ว่าเป็นระยะที่เรายังตรวจไม่พบคือ
00:32:46 → 00:32:48 เชื้อมันเข้าไปแล้วยังปริมาณน้อยเนี่ยมัน
00:32:48 → 00:32:51 ยังไม่กระตุ้นเจนทำให้เราสามารถตรวจพบได้
00:32:52 → 00:32:55 นะครับเ่อระยะเวลาตรงเเราเรียกว่า Window
00:32:55 → 00:32:57 Period ก็คือเป็นระยะที่มันกับเราติด
00:32:57 → 00:33:00 เชื้อไปแล้วล่ะแต่ว่าเ่อตรวจยังไงเราก็
00:33:00 → 00:33:02 ไม่รู้อันนี้จะอยู่โดยเฉลี่ยก็คือประมาณ
00:33:02 → 00:33:06 สัก 3 เดือนครับหรือ 14 นะครับเพราะ
00:33:06 → 00:33:08 ฉะนั้นถ้าถ้าเป็นตรงนี้เนี่ยนะครับนะหลัง
00:33:08 → 00:33:11 จากที่เราเอ่อมีพสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้อง
00:33:11 → 00:33:14 กันไปแล้วเนี่ยนะครับนะครบครบประมาณสัก 3
00:33:14 → 00:33:17 เดือนเนี่ยนะครับนะเราก็ควรจะไปเจาะเลือด
00:33:17 → 00:33:20 ดูนะครับอย่างน้อยเจาะไว้ก่อนว่าเอ๊ะมัน
00:33:20 → 00:33:22 มีอะไรผิดปกติหรือเปล่านะครับเสร็จแล้วก็
00:33:22 → 00:33:24 ถ้าเจาแล้วมันยังไม่ขึ้นเนี่ยนะครับนะ
00:33:24 → 00:33:27 เอ่ออีก 3 เดือนถัดไปเนี่ยควรจะเจาะซ้ำ
00:33:27 → 00:33:30 อีกทีนึงถ้าผลไม่ขึ้นทั้ง 2 ครั้งเนี่ย
00:33:30 → 00:33:33 เราถึงจะถึงจะค่อนข้างสบายใจว่าเราเอ่อ
00:33:33 → 00:33:35 ไม่ไม่มีโอกาสติดพวกโรคร้ายแรงพวกนี้แล้ว
00:33:35 → 00:33:39 ค่ะอเหตุที่เราต้องไปเจาะเลือดเพราะว่า
00:33:39 → 00:33:41 ถ้าเราทราบโดยเฉพาะอย่ายิ่งถ้าเป็นโรค
00:33:41 → 00:33:43 อย่าง HIV นะครับทันทีที่เราทราบปุ๊บ
00:33:43 → 00:33:46 เนี่ยเราจะได้รีบให้ยาต้านไวรัสนะครับ
00:33:46 → 00:33:48 ยิ่งให้เร็วเท่าไหร่มันก็ช่วยลดปริมาณ
00:33:48 → 00:33:52 ไวรัสได้ได้ดีขึ้นเท่านั้นนะครับอืเพราะ
00:33:52 → 00:33:57 ฉะนั้นการในแง่ของในแง่ของเอ่อการคุมคุม
00:33:57 → 00:34:00 กำเนิดนั้นนะครับจะเห็นได้ว่าการใช้ยาเม
00:34:00 → 00:34:02 คุมกำเนิดชนิดหลังมีเพศสัมพันธ์นะครับ
00:34:02 → 00:34:05 หรือว่าการใช้ห่วงอนามัยแบบใส่ภายใน 5
00:34:05 → 00:34:08 วันหลังนี้พศสัมพันธ์เนี่ยอันนั้นก็ยัง
00:34:08 → 00:34:10 ถือว่าเป็นการป้องกันตามหลังแต่มันก็ยัง
00:34:10 → 00:34:13 ไปดักหน้าก่อนที่ตัวอ่อนจะฝังตัวได้ใช่ม
00:34:13 → 00:34:16 ครับค่ะแต่กรณีของเรื่องของโรคติดต่อเพศ
00:34:16 → 00:34:18 สัมพันธ์ทั้งหมดที่เราพูดมาเนี่ยนะครับ
00:34:18 → 00:34:20 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเป็นแผลเป็นการติด
00:34:20 → 00:34:22 เชื้อเฉพาะที่หรือติดเชื้อในกระแสเลือด
00:34:22 → 00:34:24 ที่เราพูดไปแล้วที่เรากลัว HIV อย่างเงี้
00:34:24 → 00:34:27 นะครับค่ะเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการป้อง
00:34:27 → 00:34:29 กันตามหลังทั้งชิ้นครับเพราะว่านั่นคือ
00:34:30 → 00:34:32 เรารับเชื้อเสร็จไปแล้วทั้งนั้นเลยแค่มา
00:34:32 → 00:34:34 ตามดูว่าเราจะตรวจเจอเา้าให้เร็วที่สุด
00:34:34 → 00:34:36 ได้ยังไงแล้วก็จะได้รักษาให้เร็วอิ้ม
00:34:36 → 00:34:39 รักษาได้เร็วก็โอกาสที่จะอันตรายก็จะน้อย
00:34:39 → 00:34:42 ลง
00:34:42 → 00:34:47 ออก็จะเห็นได้ว่าเราเราพลาดพลั้งเผลอไผนะ
00:34:47 → 00:34:49 ครับตามไจตามอารมณ์เราไปอย่างเดียวโดยที่
00:34:49 → 00:34:51 ไม่ไม่ยับยั้งแชงใจไม่ป้องกันเนี่ยเยจะ
00:34:51 → 00:34:54 ก่อปัญหาาร์มาเยอะแยะเลยเรื่องท้องยังไม่
00:34:54 → 00:34:57 ค่อยน่ากังวลเท่ากับเรื่องของโรคโคติด
00:34:57 → 00:34:59 เชื้อนะคะเพราะว่ามันไม่สามารถป้องกันตาม
00:34:59 → 00:35:02 หลังได้เนี่ยคะใช่ครับเพราะว่ามันมันก็
00:35:02 → 00:35:04 คือทันทีที่เราสัมผัสก็คือเราก็เริ่มรับ
00:35:04 → 00:35:06 เชื้อแล้วซึ่งตรงเนี้ยเราหมายความรวมไป
00:35:06 → 00:35:08 ถึงว่าเหตุผลว่าทำไมเราถึงบอกว่าต้องมี
00:35:08 → 00:35:11 เพศสัมพันธ์มีอย่างปลอดภัยที่เราเรียกว่า
00:35:11 → 00:35:14 เฟ SE เพราว่าคนที่เรามีเพศสัมพันธ์ด้วย
00:35:14 → 00:35:17 เนี่ยเราจะไปรู้ได้ยังไงว่าว่าคนเนี้ยไม่
00:35:17 → 00:35:20 มีเชื้ออยู่ค่ะถูกมั้ยครับคนคนสมมุติอ่า
00:35:20 → 00:35:22 เราอันนี้เรามองในแง่คุณผู้หญิงนะเพราะ
00:35:22 → 00:35:25 รายการของเราก็พูดถึงในฝั่งผู้หญิงนะครับ
00:35:25 → 00:35:27 เราจะรู้ได้ไงครับเราจะมีสัันกับผู้ชาย
00:35:27 → 00:35:30 สักคนเนี่ยเราเราไม่ได้แบบเออเธอเดี๋ยว
00:35:30 → 00:35:33 ก่อนจะนายขอนายถอดกางเกงลงมาขอฉันตรวจเอา
00:35:33 → 00:35:36 ว่าเธอหน่อยมันไม่มีอยู่แล้วถูกมั้ยฮะ
00:35:36 → 00:35:38 แล้วก็เราตให้เราทำอย่างงั้นปุ๊บเนี่ยนะ
00:35:39 → 00:35:42 ครับสมมุติเราบอกะมันเราจะตรวจเจอก็เฉพาะ
00:35:42 → 00:35:44 โรคที่เป็นแผลเช่นแผลริมอ่อนแผลริมแข็ง
00:35:44 → 00:35:46 เป็นแผลเริมเป็นตุ่มอะไรพวกเนี้ยเราเจอ
00:35:47 → 00:35:49 เป็นหูดเงี้ยโอเคเราเห็นละคนนี้มีแต่ไอ้
00:35:49 → 00:35:53 โรคไม่มีรอยโลกใช่มั้ยครับ HIV เนี่ยเรา
00:35:53 → 00:35:56 ไปส่องดูยังไงเนี่ยเราก็ไม่เห็นหรอกคือ
00:35:56 → 00:36:00 ไม่มีทางรู้ได้เลยถูกมคะแบบถ้าเรื่อง HIV
00:36:00 → 00:36:03 เพราะบางคนเขก็คือสมัยนี้คือมันก็ไม่ได้
00:36:03 → 00:36:07 แบบแสดงอาการแบบตามมายาคติที่เราความ
00:36:07 → 00:36:10 เชื่อของเราที่แบบเป็น HIV จะต้องแสดง
00:36:10 → 00:36:14 อาการออกมาอะไรอย่างเงี้ยค่ะเราไป SV แบบ
00:36:14 → 00:36:17 ที่แบบที่มีตุ่มมีแผลทั่วตัวอันนั้นคือ
00:36:17 → 00:36:20 ระยะสุดท้ายละนะครับแต่ในคนที่รับเชื้อมา
00:36:20 → 00:36:22 อย่างที่มอบอกมันมี Window per หรือช่วง
00:36:22 → 00:36:24 ที่ช่วงที่เราจะตรวจเชื้อไม่เจอเนี่ยใน
00:36:24 → 00:36:27 ช่วง 3 เดือนเยอันเนี้ยอันตรายมาก้วนะอาจ
00:36:27 → 00:36:29 จะมีเพศสัมพันธไปแล้วเนี่ยเราไม่เจอก็ได้
00:36:29 → 00:36:32 นะครับั้นพอพูดถึงตรงเนี้ยเราถึงต้องโยง
00:36:32 → 00:36:35 ไปถึงเอ่อเดี๋ยวนี้หมอได้ยินเยอะขึ้นมา
00:36:35 → 00:36:38 เรื่อยๆนะครับมีมีคนที่นิยมไปมีเพศ
00:36:38 → 00:36:42 สัมพันธ์แบบแบบ one night stand อ่ะออ
00:36:42 → 00:36:44 แยกแยกกว่าหัวข้อเราอีกที่เราแบบหัวข้อ
00:36:44 → 00:36:47 เรายังแบเอเราพลาดพั้งไปนะวนพลาดพั้งค่ะ
00:36:47 → 00:36:50 ใช่มั้เมาไปบ้างอะไรอย่าเงี้ปอารมณ์พแต่
00:36:50 → 00:36:53 นี่คือบางทีตั้งใจเลยฮะตั้งใจจะมีเพสพัน
00:36:53 → 00:36:57 Night สนอืนะครับแล้วแล้วเยังมีอะไรแบบ
00:36:57 → 00:37:00 นี้ใช่แล้วเยังมีวิธีคิดของเานะฮะที่หมอ
00:37:00 → 00:37:03 ได้ยินมาที่ที่จากคุณแ่เล่าให้ฟังเก็คือ
00:37:03 → 00:37:06 ค่ะค่ะเค้ามีวิธีการคือเจะนัดกันนะฮะไป
00:37:06 → 00:37:10 ตรวจเลือดก่อนอ่าอ๋อั้เขาไปตรวจเลือดไป
00:37:10 → 00:37:12 ตรวจเลือตรวจเลือดออมึงไปตรวจเลือดกันเลย
00:37:12 → 00:37:15 ครับจุมมือไปจดเลือกใสกันปึ๊บอุ้ยผลเพอ
00:37:15 → 00:37:17 ไม่ขึ้นไม่ขึ้นฟิไม่ขึ้น svr เดี๋ยววัน
00:37:17 → 00:37:20 วันนี้พรุ่งนี้เราไปต่างจังหวัดกันก็ไปไป
00:37:20 → 00:37:22 one night stand กันอะไรอย่างเงี้ยอนะ
00:37:22 → 00:37:25 ครับซึ่งอันเนี้ยเป็นการกระทำที่ผิดนะ
00:37:25 → 00:37:28 ครับค่ะเพราะอย่างที่เราพูดกันไปไงมันมี
00:37:28 → 00:37:31 ช่วง Window พียที่ตรวจไม่ขึ้นแต่คนนั้น
00:37:31 → 00:37:34 อาจจะมีเชื้ออยู่นะครับแล้วพอเราตรวจ
00:37:34 → 00:37:36 เสร็จปุ๊บเชื้อมันผลผลมันเป็น Negative
00:37:36 → 00:37:38 ผลไม่ขึ้นต่างฝ่ายต่างสบายใจเลยคราวนี้
00:37:38 → 00:37:41 ยิ่งไม่ป้องกันยเลยยิ่งยิ่งยิ่งเละเทะเลย
00:37:41 → 00:37:44 คราวนี้ฮะเพราะฉะนั้นตรงเนะครับต้องเรียน
00:37:44 → 00:37:47 ให้ทราบไว้ก่อนว่าไม่มีนะครับเจาะเลือด
00:37:47 → 00:37:50 แล้วเจาะเลือดแล้วเราจะยืนยันผลได้นะครับ
00:37:50 → 00:37:52 ถ้าเราจะทำแบบนั้นจริงๆเนี่ยนะอย่างที่
00:37:52 → 00:37:53 อย่างที่มีคนมาเล่าให้หมอฟังเนี่ยนะว่า
00:37:53 → 00:37:55 เดี๋ยวนี้ one night stand เาเชื่อกัน
00:37:56 → 00:37:59 แบบนี้นะค่ะเราต้องอย่างงี้จาะเลือกตอน
00:37:59 → 00:38:03 นี้ก่อนนะผลไม่มีปัดจากเชื้อหมดไม่มี SV
00:38:03 → 00:38:07 ไม่มีไม่มีต่ำเเ็จใชมครับนับจากนี้ไปอีก 3
00:38:07 → 00:38:10 เดือนทั้ง 2 ฝ่ายต้องสัญญาแล้วจะไม่มี
00:38:10 → 00:38:13 เพศสัมพันธ์อีกกับคนอื่นอีกไม่งั้นมันก็
00:38:13 → 00:38:15 จะเป็นการไปรับเชื้อมาใหม่ถูกมั้ยฮะสมมติ
00:38:15 → 00:38:18 ไม่มีเลยนะเอาหนังสติ๊กรัดไว้เลยนะฮะไม่
00:38:18 → 00:38:21 เอาใส่กุญแจล็อกไว้เลยไม่มีเพิ่มเลยเนะฮะ
00:38:21 → 00:38:24 อือีก 3 เดือนจอดเลือดซ้ำอีกทีนึงถ้าผล
00:38:24 → 00:38:26 มันยัง Negative อยู่ไม่มีเชื้อเนี่ยอ่า
00:38:27 → 00:38:31 อันเนี้ยถึงจะถือว่าเซฟละค่ะอ๋อนะฮะซึ่ง
00:38:31 → 00:38:33 แค่ฟังดูก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
00:38:33 → 00:38:36 ครับจะมาวันไสนใครมันจะมารอเราหรือมันจะ
00:38:36 → 00:38:39 ไปแบบไม่มีเพศสัมพันธ์แล้วอั้นไว้อีก 3
00:38:39 → 00:38:41 เดือนนัดๆกันร่วงหน้าเอีก 3 เดือนเราจะมี
00:38:42 → 00:38:44 ว Night ST กันนะเธอเตรียมตัวมาให้ดีมัน
00:38:44 → 00:38:47 ไม่มีอยู่แล้วครับเพราะฉะนั้นเราต้องพวก
00:38:47 → 00:38:49 งานตัวเราเองนะครับใส่สอนามัยอ่ะเนี่ย
00:38:49 → 00:38:52 สำคัญที่สุดอเดี๋ยวนี้เมีแบบนี้หรอคะคุณ
00:38:52 → 00:38:55 หมอครับอันนี้คนซึ่งเป็นผู้หญิงด้วยนะ
00:38:55 → 00:38:58 ครับมาเล่าให้หมอฟังค่ะอโอคือเหมือนแบบ
00:38:58 → 00:39:01 เค้าก็คิดว่าเออเราก็้องกันแล้วนะคือไป
00:39:01 → 00:39:05 ตรวจเลือดไปอะไรแล้วโอมันยิ่งเป็นแนวทาง
00:39:05 → 00:39:08 ที่ผิดเนาะเพราะมันยิ่งทำให้แบบไม่ใส่ถุง
00:39:08 → 00:39:11 ยางไม่ป้องกันอะไรเลยอย่างเงี้ยใช่ครับผล
00:39:11 → 00:39:13 ผลที่เป็นลบนั่นน่ะจะยิ่งทำให้เราสบายใจ
00:39:14 → 00:39:16 อย่างไม่ถูกต้องอ่ะซึ่งจริงๆมันไม่ใช่ฮะ
00:39:16 → 00:39:19 ผลลบน่าจะเป็นผลที่ลวงเราได้ครับค่ะค
00:39:19 → 00:39:23 เพราะฉะนั้นดีที่สุดถ้าไม่ใช่สามีไม่ใช่
00:39:23 → 00:39:25 ภรรยาของเรานะครับที่เราอยู่กันเป็น
00:39:25 → 00:39:28 ครอบครัวรักเดียวใจเดียวไม่ได้จริงๆสามี
00:39:28 → 00:39:30 ภรรยาเรายังไม่รู้เลยนะลับตากันไปเนี่ยไป
00:39:30 → 00:39:32 แอบมีกุ๊งมีกิ๊กอะไรรึเปล่าถูกมั้ยฮะ
00:39:32 → 00:39:36 เพราะฉะนั้นจริเจะเราเรื่องเพศโรคในตเพศ
00:39:36 → 00:39:38 สัมพันธ์เนี่ยมันก็ทำได้วิธีเดียวครับก็
00:39:38 → 00:39:40 ต้องใส่สิมป้องกันไว้แหละค่ะเพไม่ให้มี
00:39:40 → 00:39:43 การสัมผัสของศารคัดหลั่งอการสพัของเลือด
00:39:43 → 00:39:46 หรือมูกต่างๆนะครับก็จะเกิดโอกาสการติด
00:39:46 → 00:39:48 เชื้อไปได้ปลอดภัยที่สุดเลยอย่างที่เรา
00:39:48 → 00:39:50 ใช่และที่สำคัญที่สุดก็คืออย่างที่เราบอก
00:39:50 → 00:39:52 เชื้อตัวนึงที่เรามักจะลืมแล้วคือเชื้อ
00:39:52 → 00:39:55 ไวรัส hpv ที่ทำให้เป็นมะเร็งปากมลูกอ่ะ
00:39:55 → 00:39:58 อืนะครับถ้าเราใส่ใสอย่างน้อยใส่สญญาทำไม
00:39:58 → 00:40:01 มันก็ลดโอกาสการติดเชื้อลงไปได้ก็ลดโอกาส
00:40:01 → 00:40:05 การเป็นมะเร็งปากมลูกไปได้ด้วยค่ะอโหไป
00:40:05 → 00:40:09 ไกลกันมากนะคะไปไกลกับหัวข้อวาเลนไทน์ของ
00:40:09 → 00:40:11 เราซะอีกครับเพราะฉะนั้นเห็นมั้ยครับว่า
00:40:11 → 00:40:14 พลาดครั้งเดียวตอนวาเลนไทนแล้วไม่ได้ป้อง
00:40:14 → 00:40:16 กันโอมีเรื่องให้ปวดหัวอีกยาวฮะอย่างน้อย
00:40:16 → 00:40:18 ๆก็อีก 3 เดือนเี่ที่ต้องมาลุ้นว่าไอ้
00:40:18 → 00:40:20 เจาะเลือดครั้งที่ 2 ผลมันจะยังเกติอยู่
00:40:20 → 00:40:23 หรือเปล่าค่ะนะครับซึ่งช่วงนั้นน่ะชีวิต
00:40:23 → 00:40:28 ไม่เป็นสุขนะครับอือือตายละไม่ได้ไม่ได้
00:40:28 → 00:40:30 อยู่แบบเป็นสุขเหมือนตอนที่สนุกกันน่ะนะ
00:40:30 → 00:40:33 คะใช่ครับเพราะฉะนั้นหลังจากนั้นคือมา
00:40:33 → 00:40:35 สนุกแป๊บเดียวครับอย่าั้นทุกไปอีก 3
00:40:35 → 00:40:37 เดือนนะครับเพราะฉะนั้นหลายๆท่านที่ไป
00:40:37 → 00:40:40 พลาดพั้งมาแล้วเี่คงจะอยากจะเขกหัวตัวเอง
00:40:40 → 00:40:43 ที่ไม่รู้จะฟั่งรายการเราก่อนตั้งแต่ค่ะ
00:40:43 → 00:40:45 ที่มีคุณผู้ฟังบอกมาเหมือนกันค่ะบอกว่า
00:40:45 → 00:40:47 อยากให้พวกที่พลาดพลังงไปแล้วได้มาฟังคุณ
00:40:48 → 00:40:50 หมอในวันนี้จริงๆ
00:40:50 → 00:40:55 เลยครับก็ก็ถ้ามีโอกาสนะครับบอกต่อกันไป
00:40:55 → 00:40:57 นะครับ้าติดตามตามมาฟังย้อนหลังก็ได้
00:40:57 → 00:41:00 สำหรับท่านที่พลาดไปค่ะอ่ะถึงจะพลาดพังไป
00:41:00 → 00:41:03 แล้วเนาะก็เนี่ยค่ะมันก็ยังพอที่จะมีวิธี
00:41:03 → 00:41:05 กันอยู่ในเรื่องของการป้องกันการตั้ง
00:41:05 → 00:41:07 ครรภ์แต่ว่าอย่างเรื่องของโรคติดต่อน้ำ
00:41:08 → 00:41:09 เพศสัมพันธ์ก็อย่างที่คุณหมอแนะนำนะต้อง
00:41:09 → 00:41:12 สังเกตว่ามันมีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือ
00:41:12 → 00:41:16 เปล่าอนะคะครับอืคุณหมอคะมีคุณผู้ฟังฝาก
00:41:16 → 00:41:19 มา 1 คำถามค่ะอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับควัน
00:41:19 → 00:41:22 หลงวาเลนไทน์แต่น่าคิดว่าน่าจะอยู่
00:41:22 → 00:41:26 ระหว่างการวางแผนตั้งครรภ์อยากจะมีลูกแต่
00:41:26 → 00:41:31 ทีนี้ว่าสามีค่ะติดโควิดแล้วกินยาต้าน
00:41:31 → 00:41:33 ไวรัสอันนี้หลังจากที่หายจากโควิดแล้ว
00:41:33 → 00:41:36 เนี่ยสามารถที่จะเอิ่มเค้าเรียกนะคะ
00:41:36 → 00:41:39 ปฏิสนธิกันได้เลยมั้ยคะหรือว่าต้องรอไปส 3
00:41:39 → 00:41:41 เดือน 6 เดือนอะไรเลยมั้ยคะอ่าอย่างงี้
00:41:41 → 00:41:44 ครับปปัจจุบันเนี่ยนะครับเชื้อโควิดถ้า
00:41:44 → 00:41:47 ติดกันอยู่ในช่วงเยเราจะพบว่าเชื้อไวรัส
00:41:47 → 00:41:50 โควิดพัฒนาตัวเองให้มีความรุนแรงน้อยลง
00:41:50 → 00:41:51 ค่ะเห็นมั้ยครับมันจะไม่เหมือนช่วงช่วง
00:41:52 → 00:41:54 แรกะที่เชื้อแบบสายันใหม่ๆแล้วมาแบบมา
00:41:54 → 00:41:56 แล้วในอัลฟ่าอะไรที่แบบตายกันทั้งโลกซึ่ง
00:41:57 → 00:41:59 เพราะว่าถ้าถ้าไวรัสทำแบบนั้นเนี่ยไวรัส
00:41:59 → 00:42:02 ก็จะตายไปด้วยเหมือนกันไวรัสก็จะปรับตัว
00:42:02 → 00:42:04 ให้ความรุนแรงมันลดลงมันถึงจะอยู่ร่วมกับ
00:42:04 → 00:42:06 เราไปได้ใช่มั้ยครับเพราะฉะนั้นเอ่อถ้า
00:42:06 → 00:42:09 เป็นช่วงที่เราติดเชื้อนะครับนะก็ต้อง
00:42:09 → 00:42:11 ต้องได้รับยาส้านไวรัสนะครับเมื่อเราได้
00:42:11 → 00:42:14 รับยาครบคอร์สแล้วนะครับเมื่อตรวจติดตาม
00:42:14 → 00:42:17 แล้วผลเชื้อที่เราตรวจเนี่ยมันขึ้นผลไม่
00:42:17 → 00:42:19 ขึ้นแล้วไม่มีไม่มีเชื้อแล้วเนี่ยค่ะเรา
00:42:19 → 00:42:22 สามารถกลับมาใช้ชีวิตแล้วก็สามารถมามี
00:42:22 → 00:42:24 เพศสัมพันธ์แล้วก็มีการเจริญพันธ์ได้ตาม
00:42:24 → 00:42:27 ปกตินะครับอ๋อแต่ว่าว่ายาที่เขาสงสัยอ่ะ
00:42:27 → 00:42:31 คะคือยาต้านไวรัสที่ทานเข้าไปเนี่ยค่ะมัน
00:42:31 → 00:42:34 จะมีผลต่อเรื่องของความสมบูรณ์ของสเปิร์ม
00:42:34 → 00:42:36 หรือของอะไรด้วยมั้ยคะอ่าตรงนี้เนี่ยต้อง
00:42:36 → 00:42:39 เรียนให้ทราบว่าเนื่องจากยาต้นไวรัสใน
00:42:39 → 00:42:41 กลุ่มของโควิดเนี่ยก็ยังต้องเรียนถึงเรา
00:42:41 → 00:42:44 จะรู้จักประมาณตั้งแต่ 2 ปี 2019 นะครับ
00:42:44 → 00:42:46 ผ่านมาตั้ง 4-5 ปีแล้วเนี่ยนะครับแต่ข้อ
00:42:46 → 00:42:49 มูลที่เราเก็บรวบรวมตรงเนี้ยก็ยังมีอยู่
00:42:49 → 00:42:51 ค่อนข้างน้อยนะครับค่ะส่วนใหญ่เราจะมุ่ง
00:42:51 → 00:42:54 ไปแน่ๆของการว่าวัคซีนเนี่ยมันป้องกันได้
00:42:54 → 00:42:57 มั้ยยาต้านไวรัสนี่ข้าไวรัสได้จริงมั้ย
00:42:57 → 00:42:59 แล้วก็มองในแง่ของสุขภาพของคนคนนั้นมาก
00:42:59 → 00:43:01 กว่าแต่ในเชิงที่ว่าในเชิงของการเจริญ
00:43:01 → 00:43:04 พันธุ์เนี่ยเรายังอาจจะต้องต้องการการรวบ
00:43:04 → 00:43:06 รวมข้อมูลเพิ่มเติมอีกสักนิดนึงนะครับอค
00:43:06 → 00:43:09 ก็เลยเรียนได้ว่าตอบคำถามท่านนี้ได้ว่าใน
00:43:09 → 00:43:11 เมื่อยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ได้ชัดเจนเนี่ย
00:43:11 → 00:43:14 นะครับเราก็ต้องถือไว้ก่อนว่าก็ยังไม่
00:43:14 → 00:43:16 เชื่อไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีผลอะไรค่ะนะ
00:43:16 → 00:43:19 ครับอเพราะว่าถ้ามีผลในเชิงที่ว่าจะไปทำ
00:43:19 → 00:43:22 ให้ประสิทธิภาพของการเ่อการมีบุตรลดลง
00:43:22 → 00:43:24 เนี่ยมันก็จะลงเอยยด้วยการไม่ตั้งครรภ์ไป
00:43:24 → 00:43:26 เองนะครับค่ะอนะครับซึ่งพอไม่ตั้งันเราก็
00:43:26 → 00:43:29 ไม่ต้องไปห่วงว่าจะมีผลอะไรกับลูกใช่มย
00:43:29 → 00:43:30 ครับแต่ว่าที่เราจะเป็นกังวลกันต่อก็คือ
00:43:31 → 00:43:33 ว่าเอ๊ะถ้ามันเกิดไปตั้งครรภ์อยู่แล้วไอ้
00:43:33 → 00:43:35 ตัวยาเนี่ยยมันจะส่งผลในระยะยาวต่อทารกใน
00:43:35 → 00:43:39 คันไม้แบบอจิที่มีเชื้ออยู่แล้วมียานอยู่
00:43:39 → 00:43:41 เนี่ยมันจะไปส่งผลเสียอะไรที่เราเห็นที่
00:43:41 → 00:43:43 เรารู้จักกันว่าเป็นรองโควิดหายแล้วส่งผล
00:43:43 → 00:43:46 เสียตามมาอันนี้ต้องเรียนว่ายังต้องมีการ
00:43:46 → 00:43:48 ศึกษาในระยะยาวครับเพราะว่าโรคเนี้ยึง
00:43:48 → 00:43:50 เป็นมันก็ยังเป็นโรคอุบัติใหม่เพิ่งเกิด
00:43:50 → 00:43:52 มาในโลกนี้ 4-5 ปีเค่านั้นเองค่ะเรายัง
00:43:52 → 00:43:56 ไม่ทราบผลระยะยาวๆอ่ะก็ได้คำตอบที่ชัดเจน
00:43:56 → 00:44:00 จคุณหมอก็แล้วนะคะก็น่าจะอยู่ระหว่างการ
00:44:00 → 00:44:03 วางแผนมีลูกค่ะแล้วเผอิญสามีติดโควิดค่ะ
00:44:03 → 00:44:06 ก็เลยมาถามคุณหมอค่ะหายจากโควิดนะครับ
00:44:06 → 00:44:08 รักษาหายเสร็จแล้วปุ๊บเนี่ยนะครับถ้าเรา
00:44:09 → 00:44:11 อยากจะทราบว่าเอ๊ะงั้นประสิทธิภาพของอุจิ
00:44:11 → 00:44:13 มันเป็นยังไงบ้างเนี่ยอาจจะไปปรึกษาคุณ
00:44:13 → 00:44:16 หมอนะครับคุณหมอสุตินรเวทแล้วก็เก็บตัว
00:44:16 → 00:44:20 อย่างอาสิตรวจดูครับอือ่าเพื่อดูคุณภาพอิ
00:44:20 → 00:44:22 ว่าเรายังมีปริมาณัสุจิอัตราการเคลื่อน
00:44:22 → 00:44:25 ไหวของอจิหรือรูปร่างอสิที่ปกติดีหรือไม่
00:44:25 → 00:44:27 ค่ะถ้าผลการตรวจนั้นยังเป็นไปตามเกณฑ์ก็
00:44:27 → 00:44:30 คือคุณภาพษิยังดีก็เป็นที่น่าเชื่อได้ว่า
00:44:30 → 00:44:33 ก็ไม่น่าจะกระทบกับความสามารถในการเจริญ
00:44:33 → 00:44:36 พัน์ของเราอืค่ะนี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่
00:44:36 → 00:44:40 สร้างความมั่นใจกันได้นะคะครับผมค่ะแต่
00:44:40 → 00:44:42 อย่าลืมนะครับจะจะเตรียมแต่งงานจะเตรียม
00:44:42 → 00:44:45 มีบุตรอะไรเงี้ยอย่าลืมไปตรวจสุขภาพก่อน
00:44:45 → 00:44:48 แต่งงานหรือก่อนมีบุตรนะครับเพราะว่ามัน
00:44:48 → 00:44:50 จะเป็นการตรวจเพื่อแยกพวกโรคติดเชื้อต่าง
00:44:50 → 00:44:53 ๆที่เราพูดกันไปแล้วด้วยเพื่อไม่ให้ว่าจะ
00:44:53 → 00:44:56 มีการถ่ายทอดเชื้อเอ่อโรคตสัมพันธ์ในู
00:44:56 → 00:45:02 สามีภรรยาเองอืค่ะค่ะอวันนี้ครบถ้วนนะคะ
00:45:02 → 00:45:06 นอกจากควันหลงนะก็ยังได้ตอบคำถามคุณผู้
00:45:06 → 00:45:08 ฟังเนาะเกี่ยวกับเเรื่องของการเตรียมมี
00:45:08 → 00:45:11 บุตรด้วยคุณหมออยากฝากอะไรทิ้งท้ายอีกสัก
00:45:11 → 00:45:15 นิดนึงมคะครับที่อยากฝากิ้ง้าคือ
00:45:15 → 00:45:18 วาเลนไทน์ไม่ได้มีหนเดียวนะครับ้าถ้าปี
00:45:18 → 00:45:22 นี้เราพลาดไปแล้วค่ะปีหน้าอย่าบานะครับขอ
00:45:22 → 00:45:24 ขอความกรุณาปีนี้พลาดไปแล้วแล้วโชคดีไม่
00:45:24 → 00:45:26 ติดโรคติดต่ออะไรไม่ไม่พลาดพั้งตั้งครรภ
00:45:27 → 00:45:29 ขึ้นมาเนี่ยนะครับค่ะปีหน้าตั้งหลักไว้
00:45:29 → 00:45:31 เลยครับเตรียมตัวไว้เลยซื้อสุยาอนามัยรอ
00:45:31 → 00:45:34 ไว้เลยครับอย่าอย่าไปเผลอไผเราไม่ไม่ได้
00:45:34 → 00:45:36 ป้องกันอย่างเดี๋ยวก็จะมาเกิดวันหลงของปี
00:45:37 → 00:45:40 ได้อีกครับค่ะจะได้ไม่ต้องมาเครียดกันที
00:45:40 → 00:45:42 หลังนะคะค่ะใช่ครับให้วันวาเลนไทน์เป็น
00:45:42 → 00:45:44 วันแห่งความรักเป็นบรรยากาศที่มีความสุข
00:45:44 → 00:45:46 นะครับดีกว่าต้องทุกข์ไปอีก 3 เดือนครับ
00:45:46 → 00:45:50 อืค่ะอ่ะวันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆ
00:45:50 → 00:45:55 เลยค่ะสวัสดีค่ะครับสวัสดีครับค่ะนาย
00:45:55 → 00:45:58 แพทย์แพูนศักดิ์สุชนวณิชสูตินารีแพทย์
00:45:58 → 00:46:00 ประจำรายการของเรานะคะคุณหมอก็มาอธิบาย
00:46:01 → 00:46:05 กันแบบละเอียดยิบเลยค่ะสำหรับแนวทางนะคะ
00:46:05 → 00:46:07 สำหรับคนที่พลาดพลั้งไปแล้วเมื่อคืนที่
00:46:07 → 00:46:12 ผ่านมาควันลงวันวาเลนไทน์นะคะตั๊กนะ
00:46:12 → 00:46:15 คะค่ะอ่ะสำหรับช่วงนี้ไปพักกันสักครู่
00:46:15 → 00:46:20 ก่อน
00:46:20 → 00:46:23 ค่ะร่มแสดงความเห็นผ่านทาง facebook แน
00:46:23 → 00:46:27 เพจ MCOT News FM 100.5 และ LINE
00:46:27 → 00:46:31 official @m cot
00:46:31 → 00:46:36 News หอมกาแฟปรุงสำเร็จ 32 in one
00:46:36 → 00:46:40 อร่อยเข้มจากกาแฟอบิแท้ fy กาแฟปรุง
00:46:40 → 00:46:45 สำเร็จ 32 in1 0% คอเลสเตอรอลและไม่มี
00:46:45 → 00:46:49 น้ำตาลมอบสิ่งดีๆเพื่อคุณด้วยสารสกัดจาก
00:46:49 → 00:46:53 โสมรังนกเห็ดหลินจื่อคอลลาเจนเปปไทและ
00:46:53 → 00:46:56 มะขามป้อมเติมความสดชื่นจากการทำงานด้วย
00:46:56 → 00:47:02 กาแฟที่มีแกูแคนทีทับทิมและสารสกัดจากซร
00:47:02 → 00:47:07 เชลี่แค่ฉีกชงดื่มอืฟินกับรสชาติที่กลม
00:47:07 → 00:47:11 กล่อมต้องฟินี้วันนี้ฟินกว่าเดิมกับ
00:47:11 → 00:47:15 โปรโมชั่นสุดคุ้มรับ 2 กล่องปกติราคา
00:47:15 → 00:47:19 1,8 บาทพิเศษเหลือเพียง 750 บาทเท่านั้น
00:47:19 → 00:47:23 ยังไม่จบแค่นี้มีเพิ่มให้อีก 2 ซองสนใจ
00:47:23 → 00:47:26 ติดต่อ @line Shop mania หรือโทร
00:47:26 → 00:47:29
00:47:29 → 00:47:31 [เพลง]
00:47:31 → 00:47:37 3299 100.5 คืบหน้าข่าวนิวสอัพเดตช่วง
00:47:37 → 00:47:41 สุขภาพดี 22:00 นโดยทีมกองบรรณาธิการข่าว
00:47:41 → 00:47:44 สังคมสำนักข่าว
00:47:44 → 00:47:46 [เพลง]
00:47:46 → 00:47:50 ไทยกลับเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของสุขภาพดี
00:47:50 → 00:47:53 22:00 นกับเรา 2 คนนะคะเจี๊ยบตั๊กนะคะ
00:47:53 → 00:47:57 ยังอยู่กับคุณผู้ฟังนะคะก็ก็อาจจะสรุปกัน
00:47:57 → 00:48:00 อีกสักนิดนึงค่ะสำหรับคนที่พลาดพ้างไป
00:48:00 → 00:48:02 เมื่อคืนนะคะในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา
00:48:02 → 00:48:05 เนี่ยคุณหมอก็บอกไ้แล้วว่าจริงๆแล้วถ้า
00:48:05 → 00:48:08 กังวลเรื่องของการตั้งครรภ์เนี่ยก็สามารถ
00:48:08 → 00:48:12 ที่จะใช้ยาคุมฉุกเฉินได้คุณหมอก็แนะนำไว้
00:48:12 → 00:48:16 นะคะว่าหลังที่เ่อมีเพศสัมพันธ์เนี่ยวิธี
00:48:16 → 00:48:19 การที่จะทานอย่างถูกต้องก็คือควรจะทานภาย
00:48:19 → 00:48:22 ใน 1 ชั่วโมงจะมีประสิทธิภาพสูงสุดยาจะ
00:48:22 → 00:48:25 ให้ประสิทธิภาพสูงสุดแต่ว่าไม่ควรเกิน 72
00:48:25 → 00:48:28 ชั่วโมงนะคะก็ยังทานกันได้อยู่หลังจาก
00:48:28 → 00:48:31 นั้นก็พอทานเม็ดแรกไปแล้วผ่านไป 12
00:48:31 → 00:48:33 ชั่วโมงก็ให้ทานอีกเม็ดนึงอันเนี้ยจะช่วย
00:48:33 → 00:48:36 ในเรื่องของการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทำ
00:48:36 → 00:48:39 ให้ผนังมดลูกของเราไม่พร้อมที่จะอ่าเกิด
00:48:39 → 00:48:44 การฝังตัวเนาะค่ะค่ะ