00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice สวัสดีครับผมวีรพงษ์ทวีศักดิ์
00:00:08 → 00:00:12 ดิฉันสุธิราพรปรีเปรมและนี่คือศัลยกรรม
00:00:12 → 00:00:15 ความสุขรายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความ
00:00:15 → 00:00:20 สุขมากขึ้นมีความทุกข์น้อยลงคุณผู้ฟัง
00:00:20 → 00:00:22 ครับวันนี้ผมมีคำถามที่จริงอยากถามคุณผู้
00:00:22 → 00:00:26 ฟังนะครับผมถามพี่อ้อยดีกว่าค่ะพี่อ้อย
00:00:26 → 00:00:29 เคยถูกเข้าใจผิดมั้ยเคยค่ะเคยใช่มั้ยฮะ
00:00:29 → 00:00:32 แล้วพี่อ้อยเคยเข้าใจคนอื่นผิดมั้ยเคยค่ะ
00:00:32 → 00:00:36 โอ้โหโดน 2 คดีเลยนะฮะใช่ค่ะซึ่งทั้ง 2
00:00:36 → 00:00:39 กรณีเเนี่ยล้วนแล้วแต่ทำให้เราอยู่ในสภาพ
00:00:39 → 00:00:42 ของสภาวะทุกข์ใจทั้งสิ้นใช่เลยแต่ข่าวดี
00:00:42 → 00:00:45 ครับคุณผู้ฟังวันนี้พี่อ้อยมีอะไรอยากจะ
00:00:45 → 00:00:50 บอกครับทำอย่างไรเมื่อเขาเข้าใจเรา
00:00:50 → 00:00:52 ผิด
00:00:52 → 00:00:58 อ่าโอ้โหคุณผู้ฟังครับอันนี้เนี่ยเป็น
00:00:58 → 00:01:01 ข่าวดีมากๆใช่มยแต่ว่าพี่อ้อยจริงๆใช่มย
00:01:01 → 00:01:04 ว่าจริงๆมนุษย์เราทุกคนนะใช่ไม่ว่าจะเป็น
00:01:04 → 00:01:06 พี่อ้อยหรือผมหรือคุณผู้ฟังทุกคนนะค่ะ
00:01:06 → 00:01:11 ล้วนแล้วแต่ต้องเคยเข้าใจผิดเข้าใจถูก
00:01:11 → 00:01:13 เข้าใจผิดแล้วก็เข้าใจคนอื่นผิดอ่าใช่
00:01:13 → 00:01:16 หมายถึงว่าถูกเข้าใจหมายถึงว่าเอ่อเป็นคน
00:01:16 → 00:01:20 ที่ถูกเข้าใจผิดค่ะและก็เข้าใจคนอื่นผิด
00:01:20 → 00:01:24 ฟังดูงงๆงงๆนะฮะหมายถึงทั้งทั้ง 2 กรณีนะ
00:01:24 → 00:01:27 ซึ่งในความเป็นจริงนะพี่อ้อยทั้ง 2 กรณี
00:01:27 → 00:01:30 นี้มันทำให้เราอยู่ในสภาวะทุกข์นะใช่ค่ะ
00:01:30 → 00:01:33 ขุ่นมัวแล้วแบบเศร้าหมองอ่ะเออแล้วพี่
00:01:33 → 00:01:35 อ้อยเมื่อกี้นี้บอกว่ามีแค่ลาบจบอกใช่
00:01:35 → 00:01:38 มั้ยฮะอืมค่ะโอ้โหข่าวดีแล้วผมรอฟังเลย
00:01:38 → 00:01:42 พูดู้ฟังคุณผู้ฟังน่าจะรอฟังด้วยใช่มั้ย
00:01:42 → 00:01:44 ครับค่ะเคล็ดลับที่ว่าคืออะไรครับเนี่ย
00:01:44 → 00:01:48 จริงๆคำว่าเข้าใจผิดเนี่ยมันมันคือมีคำ
00:01:48 → 00:01:51 ว่าใจอยู่ในนั้นด้วยเนาะอ๋อเข้าใจผิด
00:01:51 → 00:01:55 เนี่ยก็คือความเข้าใจที่อยู่ในใจเนี่ยมัน
00:01:55 → 00:02:01 ผิดพลาดอืแล้วถ้ามันอยู่ในใจอ่ะมันก็จบไป
00:02:01 → 00:02:04 ก็คือเข้าใจจผิดพี่อ้อยเข้าใจพี่วีผิดเอ
00:02:04 → 00:02:06 พี่อ้อยก็เฉยๆก็คือความเข้าใจผิดนั้นอยู่
00:02:06 → 00:02:10 ในใจพี่อ้อยพี่ก็ไม่ได้มีเอ่อการแสดงออก
00:02:10 → 00:02:15 คำพูดอะไรก็ตามเนี่ยที่ไปกระทบกับพี่วีอ
00:02:15 → 00:02:18 อ่าๆเพราะมันอยู่ในใจนะคะแต่ว่าเมื่อไหร่
00:02:18 → 00:02:22 มันออกจากใจเนี่ยอมันเกิดการแสดงออกละโอ
00:02:22 → 00:02:26 มันจะมีเป็นสารพัดอย่างที่เป็นเอ่อคำพูด
00:02:26 → 00:02:30 สายตาสีหน้าท่าทางการ
00:02:30 → 00:02:33 ออกหมดเลยเออความเข้าใจผิดเนี่ยเมื่อไหร่
00:02:33 → 00:02:36 ที่มันปรากฏออกมานอกใจเนี่ยอันนั้นแหละ
00:02:37 → 00:02:40 มันจะเป็นเรื่องอ๋อแล้วมันก็มาได้ตั้งแต่
00:02:40 → 00:02:43 เรื่องเล็กเรื่องน้อยเรื่องใหญ่กระทบกับ
00:02:43 → 00:02:47 ชีวิตมากมายเยอะไปหมดเลยอืวันนึงเนี่ยมา
00:02:47 → 00:02:51 ได้หลายๆครั้งด้วยซ้ำไปฮะๆในถ้าพูดถึงเอา
00:02:51 → 00:02:55 แบบภาพรวมนะคะในชีวิตพี่อ้อยเนี่ยโอ้โหมา
00:02:55 → 00:03:01 ตั้งแต่สมัยไหนๆเลยเด็กเติบโตมาทำงานจน
00:03:01 → 00:03:04 เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาจนมีครอบครัวจนเอ่อ
00:03:04 → 00:03:08 โอ้โหทุกระยะจนปัจจุบันฮะฮก็ยังมีอยู่
00:03:08 → 00:03:13 ตลอดออือค่ะซึ่งเอ่อในมุมตรงนี้เนี่ยพี่
00:03:13 → 00:03:15 อยก็มองว่ามันเป็นเรื่องของที่ทุกคนต้อง
00:03:15 → 00:03:19 เจอเนาะพี่วีเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเราไม่
00:03:19 → 00:03:22 เข้าใจมันเนี่ยจัดการมันไม่ได้เนี่ยเราก็
00:03:22 → 00:03:25 จะเป็นทุกข์กลับมาเราก็จะกังวลแล้วก็อยาก
00:03:25 → 00:03:29 จะไปชี้แจงกับคนนั้นน่ะอืเออว่าไม่ใช่เรา
00:03:29 → 00:03:32 ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเข้าใจฮะซึ่งพี่ก็
00:03:32 → 00:03:38 พบว่าการที่ไปพูดอธิบายเออไม่เคยได้ผลเออ
00:03:38 → 00:03:41 ใช่ยิ่งทำให้หนักยิ่งทำให้หนักยิ่งไป
00:03:41 → 00:03:44 เหมือนกับต่อความเ้าเรียกว่าเป็นแก้ตัว
00:03:44 → 00:03:48 อ้าใช่ค่ะคนคนหลายๆคนจะใช้คำนี้ว่ามาแก้
00:03:48 → 00:03:52 ตัวแล้วก็ไม่เชื่อด้วยอือืมันมันยิ่งหนัก
00:03:52 → 00:03:56 กว่าไม่ได้แก้ตัวนะคะเค้าเพราะเคไม่เชื่อ
00:03:56 → 00:03:58 อยู่แล้วเคคิดว่าเราผิดครับอ่าแต่ผิดแล้ว
00:03:59 → 00:04:02 ยังจะมแก้ตัวอีกหนักไปอีกค่ะครับอืพี่
00:04:02 → 00:04:05 อ้อยก็เลยไม่เคยใช้วิธีการในการที่จะไป
00:04:05 → 00:04:09 พูดอธิบายเลยอ๋อเออพี่พี่วีว่าพี่อ้อยน่า
00:04:09 → 00:04:13 จะใช้วิธีการอะไรเออใช้วิธีไม่อธิบายใช่
00:04:13 → 00:04:17 มั้ยครับค่ะไม่อธิบายค่ะใช้วิธีเราก็ทำ
00:04:17 → 00:04:21 ตัวเหมือนกับเหมือนกับทำตัวกับเค้าเหมือน
00:04:21 → 00:04:26 ปกติแล้วก็รอโอกาสมั้ยอหืสุดยอดยอดเยี่ยม
00:04:26 → 00:04:30 มากฮะค่ะคือคำว่ารอโอกาสของพี่วีเนี่ยน่า
00:04:30 → 00:04:32 สนใจมากเออ
00:04:32 → 00:04:37 เอ่อรอโอกาสอันเนี้ยหมายถึงว่าวันที่เรา
00:04:37 → 00:04:40 จะไปคุยกับเค้าเนี่ยเอ่อเค้าเนี่ยถ้าเค้า
00:04:40 → 00:04:45 ไม่เปิดใจฮะเพราะว่าเค้าเข้าใจเราผิดอื
00:04:45 → 00:04:49 เค้าปิดใจอยู่กับเราถ้าเขาคไม่เปิดใจเขา
00:04:49 → 00:04:53 ไม่มีวันที่จะรับฟังหรืออะไรก็ตามเลยทั้ง
00:04:53 → 00:04:57 สิ้นถึงบอกว่าไม่ไปอธิบายออือเราปล่อยให้
00:04:57 → 00:05:00 เวลาดำเนินไปโดยเราเนี่ยเนี่ยดำเอ่อ
00:05:00 → 00:05:04 ปฏิบัติตัวกับเค้าเหมือนเดิมค่ะอืมันมี
00:05:04 → 00:05:08 เคสนึงที่เอ่อน้องคนเนี้ยเค้าก็ยังไม่
00:05:08 → 00:05:11 เข้าใจเรื่องราวเหล่านี้เค้าถูกเข้าใจผิด
00:05:11 → 00:05:14 อือแล้วแล้วคนที่เข้าใจผิดเค้าน่ะต่อว่า
00:05:14 → 00:05:18 เค้าบนโลกโซเชียลฮะๆเค้าบอกว่าเค้าก็ไม่
00:05:18 → 00:05:22 ได้แบบไปเกลียดน้องคนนี้หรอกนะแต่เขาคก็
00:05:22 → 00:05:27 มีความรู้สึกว่ามันมันกระทบตัวเค้าอืเขาค
00:05:27 → 00:05:32 ก็เลยบล็อกอือ่าน้องคนนั้นไปซึ่งตรงเนี้ย
00:05:32 → 00:05:36 พี่อ้อยก็เลยบอกว่าจริงๆเนี่ยความเข้าใจ
00:05:36 → 00:05:40 ผิดของน้องเเนี่ยมันคือแยกไว้ว่ามันคือ
00:05:40 → 00:05:44 ความเข้าใจผิดแต่เราอ่ะยังคงหวังดียังคง
00:05:44 → 00:05:48 เหมือนเดิมเราคือเราคนเดิมเพราะฉะนั้นเรา
00:05:48 → 00:05:51 จะไปทำอะไรให้มันแตกต่างเออจากเดิมล่ะเออ
00:05:51 → 00:05:55 อ่าเราก็เจอก็ทักทายแต่มันคงไม่ใช่ว่าเจอ
00:05:55 → 00:05:58 หน้าแล้วต้องวิ่งเข้าไปหาว่าเออน้องสบาย
00:05:58 → 00:06:01 ดีหรือเปล่าอะไรอย่างงี้คงไม่ใช่เราก็
00:06:01 → 00:06:05 ปกติของเรานะคะห่วงใยเเหมือนเดิมดูแลเ
00:06:05 → 00:06:07 เหมือนเดิมพูดคุยกับเขาเหมือนเดิมอื
00:06:07 → 00:06:12 ประมาณนั้นจนเวลาที่พี่วีพูดเมื่อกี้มา
00:06:12 → 00:06:16 ถึงอมันอาจจะมีหรืออาจจะไม่มีซึ่งเดี๋ยว
00:06:16 → 00:06:20 พี่อ้อยค่อยคุยต่อว่าจะยังไงต่อไปโอ้โห
00:06:20 → 00:06:23 ค่ะนี่เลยครับแล้วทำไมทำไมผมถึงบอกว่ารอ
00:06:23 → 00:06:26 เวลารู้มั้ยพี่อ้อยค่ะบางครั้งเนี่ยเรา
00:06:26 → 00:06:30 เนี่ยไม่ได้รอเวลาอืคือเรื่องนี้ผมเรียน
00:06:30 → 00:06:33 รู้มาจากประสบการณ์ตัวเองอีกนะฮะค่ะคือ
00:06:33 → 00:06:35 สมัยที่ผมเป็นเด็กนักเรียนเนี่ยพี่อ้อย
00:06:35 → 00:06:40 ค่ะผมเป็นเด็กที่สมัยเรียนนี้ค่อนข้างแบบ
00:06:40 → 00:06:44 จะเรียกว่าขยันก็ไม่ได้ขยันนะแต่เราเป็น
00:06:44 → 00:06:48 เด็กที่เข้าใจอะไรง่ายๆอ่ะอืค่ะแล้วมันทำ
00:06:48 → 00:06:50 ให้เราเหมือนกับเวลาที่เราเรียนแล้วเรา
00:06:50 → 00:06:53 เข้าใจง่ายๆเนี่ยพี่ห้อยเวลาสอบอ่ะเราก็
00:06:53 → 00:06:57 จะได้คะแนนดีอือฮึในในมุมมองของแว่าหัวดี
00:06:57 → 00:06:59 มั้ยคะประมาณอย่างงั้นน่ะอือแต่เราไม่
00:06:59 → 00:07:01 อยากใช้คำนั้นเพราเราไม่อยากเป็นคนฉลาด
00:07:01 → 00:07:04 เก่งเท่าไหร่เราก็เฉยๆนี่แหละแต่อยู่ดีๆ
00:07:04 → 00:07:07 เราก็เข้าใจง่ายๆอ่ะแล้วเราก็พอเราเข้าใจ
00:07:07 → 00:07:11 ง่ายๆปุ๊บมันก็จำได้ง่ายๆอืแล้วเวลาสอบก็
00:07:11 → 00:07:14 ได้คะแนนดีพี่ไอ้นี่เข้าใจยากพี่วเสร็จ
00:07:14 → 00:07:20 แล้วมันก็เลยภาพลักษณ์เราต่อต่อครูอ่ะค่ะ
00:07:20 → 00:07:24 ก็เลยเราเป็นคนเก่งดีอ่าคพอพอภาพรักเรา
00:07:24 → 00:07:27 เป็นอย่างงั้นปุ๊บเราก็เลยยอมไม่ได้อไม่
00:07:27 → 00:07:29 อยากให้เขาไม่อยากให้เขาแบบเสียใจอ๋อไม่
00:07:29 → 00:07:33 อยากให้เผิดหวังค่ะมีอยู่วันนึงนะพี่อ้อย
00:07:33 → 00:07:38 มันก็มีการแบบเค้าเรียกทดสอบด้วยการให้
00:07:38 → 00:07:43 ท่องกฎระเบียบวินัยเป็นเล่มโอโหเป็นสมุด
00:07:43 → 00:07:46 พกเล่มเล็กๆอ่ะค่ะความหนาก็ประมาณซักไม่
00:07:46 → 00:07:50 ถึงไม่ถึง 1 เซมหรอกครึ่งเซมมั้งค่ะ
00:07:50 → 00:07:52 pocketbook เล็กๆอ่ะแล้วก็กดระเบียบ
00:07:52 → 00:07:55 วินัยของการเป็นนักเรียนที่ดีอะไรประมาณ
00:07:55 → 00:07:57 อย่างเงี้ยนะของการปฏิบัติตัวเรื่อง
00:07:57 → 00:08:00 คุณธรรมจริยธรรมอะไรอย่างเงี้ยเก็มีเล่ม
00:08:00 → 00:08:03 เยให้อ่านสมัยที่ผมเรียนมัธยมนะค่ะแล้วก็
00:08:03 → 00:08:08 ก็ให้เราทุกคนเนี่ยท่องอืว่าอะไรควรอะไร
00:08:08 → 00:08:11 ไม่ควรอะไรอย่างเงี้นะอแล้วท่องเสร็จปุ๊บ
00:08:11 → 00:08:16 เนี่ยเค้าก็จะมีการเอ่อทำแบบทดสอบค่ะทำ
00:08:16 → 00:08:19 แบบทดสอบเค้าก็จะมาถึงนั่งในห้องเลย
00:08:19 → 00:08:23 เหมือนสอบเลยนะค่ะแล้วก็บอกว่าเค้าก็จะ
00:08:23 → 00:08:28 บอกว่าอ้าวกฎระเบียบเรื่องนี้ข้อที่ 3
00:08:28 → 00:08:31 ว่าอย่างไรเขียนเลยอือย่างงี้เลยนะต้อง
00:08:31 → 00:08:34 นั่งเป็นตัวเลขตัวเลขข้อเลยเออแล้วเราก็
00:08:34 → 00:08:38 แบบต้องท่องให้ได้ไงเราก็ค่ะแล้วพอนั่น
00:08:38 → 00:08:42 ปุ๊บเนี่ยความที่เราเรามีภาพลักษณ์ว่า
00:08:42 → 00:08:45 เป็นเด็กเรียนเก่งอ่ะเป็นเด็กเก่งอะไร
00:08:45 → 00:08:48 อย่าเงี้ยนะเราก็ไม่อยากให้เสียภาพลักษณ์
00:08:48 → 00:08:53 นี้ค่ะกลัวว่าจะพลาดไงอือต้องท่องให้ได้
00:08:53 → 00:08:58 เป๊ะๆอืเพราะฉะนั้นผมเนี่ยจึงพยายามทบทวน
00:08:58 → 00:09:02 จนวินาทีสุดท้ายอืวินาทีสุดท้ายหมายถึง
00:09:02 → 00:09:06 ว่าอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มการสอบผมก็ดูหมก
00:09:06 → 00:09:09 มุ่นจดจออยู่กับหนังสือเล่มเยครับพี่อ้อย
00:09:09 → 00:09:12 อืค่ะท่องๆๆๆไอ้หน้าบทที่เรายังจำไม่ได้
00:09:12 → 00:09:17 อ่ะครับค่ะท่องๆๆๆฟึบจนไม่นสสุดท้ายเบอก
00:09:17 → 00:09:20 อ้าเราจะเริ่มสอบปุ๊บจะแจกกระดาษข้อสอบ
00:09:20 → 00:09:22 ปุ๊บเนี่ยค่ะผมก็เอาหนังสือคู่มือ
00:09:22 → 00:09:23 อันเนี้ย
00:09:23 → 00:09:28 วางไว้ในเก๊ะหนังสืออโดยที่มันยังเปิด
00:09:28 → 00:09:31 หน้านั้นอยู่อยู่เลยอืเพราะเราท่องจนไป
00:09:31 → 00:09:35 ที่สุดท้ายไงแล้วก็ปิดเก๊ะเลยอืปิดเก๊ะ
00:09:35 → 00:09:39 ค่ะแล้วก็แจกกระดาษข้อสอบค่ะแกะกระดาษข้อ
00:09:39 → 00:09:42 สอบแล้วก็โดยบังเอิญครับข้อสอบเนี่ยถาม
00:09:42 → 00:09:46 เกี่ยวกับบทนั้นข้อนั้นเลยออืค่ะบทนั้น
00:09:46 → 00:09:50 ข้อนั้นเลยแล้วผมก็โหโชคดีมากเลยเราท่อง
00:09:50 → 00:09:54 มาพอดีเลยอะไรอย่างเงี้นะคเขียนๆๆว่าเป๊ะ
00:09:54 → 00:09:59 ทุกคำอ่ะครับพี่อ้อยอืโหอันนี้เห็นความจะ
00:09:59 → 00:10:02 บอกว่าความชัดเจนในตัวพี่วีมากเลยนะใน
00:10:03 → 00:10:08 ความใส่ใจเพราะว่าเอ่อตรงเนี้ยรู้ว่านี่
00:10:08 → 00:10:11 คือสิ่งที่จะต้องท่องอืเอ่อเป็นโรงเรียน
00:10:11 → 00:10:15 ให้ท่องในขณะเดียวกันจะมีสอบแล้วก็สิ่ง
00:10:15 → 00:10:18 ที่อยู่เบื้องหลังก็คือไม่อยากเสียภาพ
00:10:18 → 00:10:22 ลักษณในการที่ว่าครูมองว่าเราเป็นเด็ก
00:10:22 → 00:10:26 เรียนดีเราก็เลยต้องทำจนวินาทีสุดท้ายถ้า
00:10:26 → 00:10:29 คนทุกคนน่ะทำจนวินาทีสุดท้ายด้วยวิธีคิด
00:10:29 → 00:10:33 แบบนี้ฮะยังไงมันก็ต้องดีกว่ากว่าแบบไม่
00:10:33 → 00:10:37 แบบเดิมๆอ่ะใช่ใช่ค่ะแต่ว่าเหตุการณ์มัน
00:10:37 → 00:10:41 มาพลิกคดีพลิกตอนเยครับค่ะเราก็เขียนเป๊ะ
00:10:41 → 00:10:45 เลยนะแต่มันก็ยังแบบไม่ค่อยมั่นใจนิดนึง
00:10:45 → 00:10:48 อ๋อเพะเราไม่แม่นแต่แรกมันก็แบบประมาณนึง
00:10:48 → 00:10:50 แต่ว่ามันเป็นข้อที่เราไม่ค่อยแม่นแต่แรก
00:10:50 → 00:10:53 แต่เราก็ท่องจแต่ว่าก็เขียนไปนะค่ะจนจบ
00:10:53 → 00:10:58 ปุ๊บเก็บกระดาษข้อสอบอืเก็บกระดาษข้อสอบ
00:10:58 → 00:11:02 ปึ๊บเราก็ส่งกระดดข้อสอบเลยแต่พอส่งปุ๊บ
00:11:02 → 00:11:05 เนี่ยความที่แบบอยากรู้ว่าไอ้ที่เราเขียน
00:11:05 → 00:11:08 ไปมันถูกเปิดโต๊ะเปิดโต๊ะมาปึ๊บ
00:11:08 → 00:11:13 อ๋อแล้วก็ดูเลยว่ามันตรงมั้ยมแต่ว่าเปิด
00:11:13 → 00:11:17 โต๊ะมาปึ๊บก็เห็นหนังสือคู่มือนี้แบร์
00:11:17 → 00:11:22 อยู่หน้านั้นเลยค่ะอืแล้วก็ครูก็เดินมาพอ
00:11:22 → 00:11:26 ดีเลยอืพี่อ้อยลองนึกดูว่าเ้าจะเข้าใจผิด
00:11:26 → 00:11:32 ว่าอะไรก็เนี่ยเหมือนเอาอะไรนะหนังสือแอบ
00:11:32 → 00:11:35 เข้ามาแล้วก็มาอ่าแล้วคือแบบนี้นี่ก็คือ
00:11:35 → 00:11:38 จากรูปการแล้วเนี่ยทุจริตแน่นอนอ่าๆ
00:11:38 → 00:11:41 ทุจจริตไม่ใช่เข้าใจผิดเลยละมันจับได้คา
00:11:41 → 00:11:46 หนังคาเข่าอ่ะใช่ป่ะอคค่ะมันแต่เราแต่เรา
00:11:46 → 00:11:50 ไม่ได้ทำค่ะค่ะเราไม่ได้ทำปึ๊บค่ะแต่เรา
00:11:50 → 00:11:54 ก็ไม่รู้นะว่าเค้าเก็ไม่ได้ว่าอะไรตรงเ
00:11:54 → 00:11:56 ไม่ได้ว่าอะไรทั้งสิ้นเลยนะครับแล้วเก็
00:11:56 → 00:11:59 ไม่ได้มีจังครูไม่มีฟีดแบคอะไรทั้งทั้ง
00:11:59 → 00:12:03 สิ้นฉากนั้นจบไปครับออืแต่ว่าเรามานึกถึง
00:12:03 → 00:12:06 ฉากนั้นอีกทีนึงตอนไหนรู้มั้ยครับ
00:12:06 → 00:12:10 ค่ะเวลาที่เราจะต้องแบบอยู่กันแบบอย่าง
00:12:10 → 00:12:12 งั้นเนี่ยเราก็มีหน้าที่ต้องทำความสะอาด
00:12:12 → 00:12:16 บ้านเนี่ยแล้วเราก็จะต้องเอาพวกเศษขยะไป
00:12:16 → 00:12:20 ทิ้งเศษขยะเศษกระดาษอะไรเงี้ยไปทิ้งที่
00:12:20 → 00:12:25 เต่าเผาที่อยู่ปลายสนามฟุตบอลน่ะฮะค่ะ
00:12:25 → 00:12:27 เข็นไปแล้วก็เอาไปเกาะรวมกันตรงนั้นแล้ว
00:12:27 → 00:12:31 ก็เป็นเป็นเตาเผาขยะอครับค่ะผมก็มีหน้า
00:12:31 → 00:12:35 ที่เอาขยะเยไปมีวันก็เอาขยะไปทิ้งค่ะขยะ
00:12:35 → 00:12:39 นี้ก็จะถูกรวบรวมมาจากทั้งบ้านอืค่ะ
00:12:39 → 00:12:42 ระหว่างที่กำลังเอาขยะนั้นเทเข้าไปเนี่ย
00:12:42 → 00:12:46 มันก็มีกระดาษอยู่ 2-3 ใบปลิวออกมาอืเรา
00:12:46 → 00:12:48 ก็กำลังจะหยิบกระดาษเนี่ยเพื่อโยนกลับ
00:12:48 → 00:12:51 เข้าไปในเตากระดาษในเตาเผากระดาษค่ะค่ะ
00:12:51 → 00:12:54 เผอิญกระดาษนั้นเี่มันเป็นกระดาษข้อสอบออ
00:12:54 → 00:12:58 ค่ะของวันนั้นออค่ะแล้วมันเป็นกระดาษข้อ
00:12:58 → 00:12:59 สอบของผมเองเอง
00:12:59 → 00:13:02 โอ้ค่ะของผม
00:13:02 → 00:13:08 เองซึ่งที่หัวกระดาษเเขียนว่า 10 เต็ม 10
00:13:08 → 00:13:14 หืคือเป๊ะไงค่ะได้คะแนน 10 เต็ม 10 ค่ะ
00:13:14 → 00:13:18 แต่มีคำเขียนกำกับไว้ว่าค่ะทุจริต
00:13:19 → 00:13:26 โอโอ้โหโอหพี่อ้อยคือเออถูกตีตราคือถูกตี
00:13:26 → 00:13:31 ตราว่าทุจริตน่ะค่ะโดยที่แล้วทำให้ฉาก
00:13:31 → 00:13:34 นั้นเนี่ยมันหวนกลับมาคือโดนเข้าใจผิด
00:13:34 → 00:13:37 อย่างแรงเลยแล้วเราก็อแล้วเราก็ไม่ได้รู้
00:13:37 → 00:13:41 สึกผิดที่เาเข้าใจเราผิดเพราะว่าอโอ้โห
00:13:41 → 00:13:45 รูปการมันมันบอกว่าทุจริตอืเราจำได้เลย
00:13:45 → 00:13:49 แล้วพี่วีทำยังไง่ะคะคิดยังไงก็วินาที
00:13:49 → 00:13:53 นั้นก็เสียใจนะอืที่ถูกตีตราว่าทุจริต
00:13:53 → 00:13:57 เนี่ยค่ะแต่ว่าผมก็ไม่ได้ไปอธิบายอะไรค่ะ
00:13:57 → 00:14:05 ผมรอออค่ะรอเวลาผ่านไปประมาณ 3-4 ปี
00:14:05 → 00:14:08 เออนี่แต่แต่ความโชคดีของผมนิดนึงตรงที่
00:14:08 → 00:14:14 ว่าสมัยที่เรียนมัธยมเนี่ยผมอยู่กับบาท
00:14:14 → 00:14:17 หลวงชาวอิตาเลียนน่ะอืชาวยุโรปก็จะมี
00:14:18 → 00:14:20 นิสัยอยู่อย่างหนึ่งก็คือจะเรียกว่าเป็น
00:14:20 → 00:14:25 วัฒนธรรมหรือเปล่าเวลาที่เค้าเห็นว่าอะไร
00:14:26 → 00:14:30 ผิดอะไรถูกเนี่ยเค้าจะพูดตรงๆนะ
00:14:30 → 00:14:36 อืแต่ว่าเขาคจะเคจะไม่เก็บเอามาเขาคจะไม่
00:14:36 → 00:14:39 เก็บเอามาคือพูดแล้วจบไปเออเหมือนกับที่
00:14:39 → 00:14:42 พี่อ้อยบอกอ่ะค่ะเค้าอยู่ในใจแล้วมันก็
00:14:42 → 00:14:47 หายไปค่ะมันไม่แสดงออกมาทางอากัปกิริยาออ
00:14:47 → 00:14:51 ไม่ออกมาทางคือเขาคเห็นตรงนั้นแล้วเขาก็
00:14:51 → 00:14:54 ตีตาว่าเนี่ยทุจจริตทุจจริตแล้วจบแต่เขา
00:14:54 → 00:14:56 ก็ไม่ได้เอาสิ่งเนี้ยมามาแปะที่หน้าเรา
00:14:56 → 00:15:01 ตลอดเวลาอืค่ะค่ะพูดง่ายๆว่ามันเกิดขึ้น
00:15:01 → 00:15:06 ตั้งอยู่ระดับไปแล้วก็หายไปจากใจเาอ่าค่ะ
00:15:06 → 00:15:10 แล้วเาก็ลืมไปแล้วค่ะเออเค้าลืมไปแล้วค่ะ
00:15:10 → 00:15:13 สิ่งนั้นก็เลยไม่มีผลอืแต่คนที่แบกมาจน
00:15:13 → 00:15:17 ถึง 4-5 ปีคือคือเราคือเราเองค่ะแบกด้วย
00:15:17 → 00:15:21 ความทุกข์ว่าเค้าเข้าใจเราผิดอ่าแล้วเรา
00:15:21 → 00:15:25 รู้สึกว่าแบกมาจนกระทั่งแล้วทำไมถึงรอถึง
00:15:25 → 00:15:31 3-4 ปีเออนานจังค่ะรอพอจนกระทั่งเราจบ
00:15:31 → 00:15:34 มัธยมปลายแล้ว่ะครับอืเหตุการณ์นี้ตอน
00:15:34 → 00:15:38 มัธยมต้นนะฮะโอรอจนจบมัธยมปลายแล้ววันที่
00:15:38 → 00:15:41 เราจะจบมัธยมปายเนี่ยก็จะต้องร่ำลจากกัน
00:15:41 → 00:15:46 ก็จะมีการพูดคุยแบบมีการพูดคุยกันแบบลึกๆ
00:15:46 → 00:15:49 เป็นการส่วนตัวทุกคนนะฮะค่ะว่าเป็นยังไง
00:15:49 → 00:15:51 นู่นนี่นั่นอะไรอย่างเงี้ยอค่ะและนี่คือ
00:15:51 → 00:15:54 เรื่องหนึงที่ผมหยิบยกขึ้นมาเป็นงพูดคุย
00:15:54 → 00:15:59 กับอบาทหลวงท่านนี้อืว่าเราเเรียกบาดหลวง
00:15:59 → 00:16:02 ว่าคุณพ่อนะครับค่ะคุณพ่อจำได้มั้ยครับ
00:16:02 → 00:16:10 ว่าอืแล้วก็ึๆเบอกเฮ้ยจำไม่ได้เลยอืจำไม่
00:16:10 → 00:16:13 ได้เลยค่ะลืมไปหมดแล้วค่ะแล้วเราก็เลยบอก
00:16:13 → 00:16:15 โอ้ลืมไปหมดแล้วก็งั้นก็ไม่เป็นไรงั้นผม
00:16:16 → 00:16:19 ก็ขอเล่าให้ฟังแล้วกันว่ามันมันเป็นยังไง
00:16:19 → 00:16:22 แล้วผมก็แบกมาจนถึงวันนี้แหละอแล้วผมก็
00:16:22 → 00:16:26 แค่อยากจะบอกว่าผมไม่ได้ทุจริตอ๋อค่ะอือ
00:16:26 → 00:16:31 ฮึจริงๆเอ่อบาทหลวงลืมไปเรียบร้อยละลืมไป
00:16:31 → 00:16:33 แล้วใช่ลืมไปแล้วใช่แต่ใจเราเนี่ยมันยัง
00:16:33 → 00:16:37 แบกอยู่แบกอยู่ใช่ใช่ค่ะนี่ไอ้ตรงใจแบก
00:16:37 → 00:16:41 อยู่เนี่ยพี่วีอืคือจริงๆคำนึงเนี่ยที่
00:16:41 → 00:16:46 สำคัญก็คือเรื่องรอเวลาออเออที่ที่เราพูด
00:16:46 → 00:16:49 กันแต่แล้วเราไม่ไปพยายามอธิบายหรอกเพราะ
00:16:49 → 00:16:51 ว่าเยังไม่เปิดใจเนาะเพราะฉะนั้นตรงนี้
00:16:51 → 00:16:55 เนี่ยไอ้ระยะทางของการรอเวลาเนี่ยมัน
00:16:55 → 00:16:59 สำคัญมากเลยนะคะพี่วีว่าเพราะว่าเราอ่ะ
00:16:59 → 00:17:03 เอ่อจะทนความอึดอัดใจตัวเองไม่ได้ไม่สบาย
00:17:03 → 00:17:07 ใจกังวลใจแล้วถ้าสมมุติว่ามีเหตุให้อีก
00:17:07 → 00:17:10 ฝ่ายนึงที่เขาไม่เข้าใจชีวิตเหมือนบาด
00:17:11 → 00:17:14 หลวงของพี่วีเขาก็จะแสดงอากัปกิริยาทุก
00:17:14 → 00:17:18 อย่างอือในการที่ให้เรารู้ว่าเขาไม่พอใจ
00:17:18 → 00:17:22 กับความที่เขาเข้าใจเราผิดอันนั้นน่ะอใช่
00:17:22 → 00:17:25 พี่วีมีคำแนะนำอะไรมั้ยคะว่าเส้นทางเนี้ย
00:17:25 → 00:17:29 มันจะทนอยู่กับความอึดอัดใจตรงเยได้ยังไง
00:17:29 → 00:17:33 อ่าคือผมผม
00:17:33 → 00:17:38 เคยเคยเห็นข้อความข้อความหนึงค่ะประมาณ
00:17:38 → 00:17:43 นี้ว่าเวลาที่เราทำอะไรผิดนะค่ะคนส่วน
00:17:43 → 00:17:46 ใหญ่มักจะแบบว่าอย่างกรณีของผมเนี่ยอถ้า
00:17:46 → 00:17:49 ผมแบบไม่เก็บไว้แบบ 3-4 ปีแบกไว้นี่นะ
00:17:49 → 00:17:53 แล้วรอเวลานี่นะอือเราก็จะแบบรีบไปอธิบาย
00:17:53 → 00:17:57 อ่ะค่ะทีนี้พอเป็นการอธิบายปุ๊บเสำหรับ
00:17:57 → 00:17:59 เค้าเนี่ยสำหรับคนทั่วไปไปนะก็จะกลายเป็น
00:18:00 → 00:18:05 การแก้ตัวทันทีอทีนี้แต่ว่ามันมีคำผมก็
00:18:05 → 00:18:07 ไม่รู้ว่าใครพูดนะในผมอ่านใน
00:18:07 → 00:18:09 โซเชียลมีเดียเนี่ยเพูด
00:18:09 → 00:18:14 ว่าเวลาที่เราทำความผิดนะไม่ต้องอธิบาย
00:18:14 → 00:18:16 เพราะอะไรรู้มั้ยครับ
00:18:16 → 00:18:23 เพราะคนที่ไม่รักเรานะเราอธิบายไปนะเค้า
00:18:23 → 00:18:26 ก็เรียกว่าเป็นการแก้ตัวค่ะเค้าไม่เชื่อ
00:18:26 → 00:18:31 อืส่วนคนที่เราส่วนคนที่รักเรานะถึงเรา
00:18:31 → 00:18:35 ผิดถึงเราผิดเค้าก็ไม่ต้องการคำอธิบาย
00:18:35 → 00:18:39 ด้วยอืไม่เป็นไรไม่เป็นไรค่ะซึ่งของผม
00:18:39 → 00:18:42 เนี่ยเซึ่งของผมนี่เข้าเกณฑ์ที่ 2 นะอื
00:18:42 → 00:18:45 ค่ะคือเค้ามีความรักมีความปรารถนาดีต่อ
00:18:45 → 00:18:48 เราอือฮึเพราะฉะนั้นเค้าไม่ต้องการคำ
00:18:48 → 00:18:53 อธิบายค่ะแต่ว่าเวลาที่เราทำความผิดหรือ
00:18:53 → 00:18:57 อะไรก็ตามทีถ้าเราแบบไปอธิบายเนี่ยคนที่
00:18:57 → 00:18:59 ไม่รักเราไม่เชื่อเราก็ไม่เชื่ออยู่ดีใช่
00:18:59 → 00:19:04 ๆส่วนคนที่รักเราไม่ต้องคำอธิบายการใช้คำ
00:19:04 → 00:19:07 พูดมันก็เลยไม่ได้ผลเพราะเหตุนี้ใช่แล้ว
00:19:07 → 00:19:10 พี่อ้อยก็ใช้วิธีนี้มาเช่นเดียวกันเลยค่ะ
00:19:10 → 00:19:14 พี่อ้อยมีความรู้สึกว่าจริงๆแล้วอ่ะใช้
00:19:14 → 00:19:18 ใช้สุภาษิตโบราณหน่อยนะคะตามตามไว้หนทาง
00:19:18 → 00:19:22 พิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คนอ่าใช่อใช้อัน
00:19:22 → 00:19:25 นี้เลยค่ะใช้มาตลอดแล้วก็จากสิ่งที่เรา
00:19:25 → 00:19:29 เคยเจอมาเราก็คงใช้อันเนี้ยมาตลอดอืจน
00:19:29 → 00:19:33 กระทั่งลูกบอกทำไมแม่อดทนจังกับการที่ว่า
00:19:33 → 00:19:38 รอเวลาแล้วจนกระทั่งถึงจุดนึงที่ที่เขา
00:19:38 → 00:19:42 เคลียร์ในตัวเราอืนะคะที่ที่ตอนแรกพูดว่า
00:19:42 → 00:19:46 มันมี 2 แบบแบบที่ 1 ก็คือเขาอ่ะกลับมา
00:19:46 → 00:19:48 เข้าใจเราเมื่อถึงเวลาฮะเพราะฉะนั้นตรง
00:19:48 → 00:19:52 เนี้ยตอนนั้นน่ะคุยได้จะคุยจะเคลียร์
00:19:52 → 00:19:55 เหมือนที่พี่วีคุยกับบาดหลวงฮะแต่ถ้าเวลา
00:19:55 → 00:19:59 นั้นไม่มาถึงอืพี่ออยคิดยังไงรู้มั้ยคะ
00:19:59 → 00:20:03 ก็อยคิดว่าออ่าอันนี้เป็นเป็นพุทธเนาะก็
00:20:03 → 00:20:06 จะบอกว่าคนเรามันมีกรรมต่อกันแหละเออ
00:20:06 → 00:20:08 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราอ่ะคงไปทำอะไรบาง
00:20:08 → 00:20:11 อย่างไว้แหละแต่มันยังไม่ถึงเวลาในการที่
00:20:12 → 00:20:15 ปลดล็อคระหว่างเรากับเคออมันก็คงยังต้อง
00:20:15 → 00:20:20 มีต่อไปอือๆแต่เราอ่ะไม่ไปโกรธเกลียดหรือ
00:20:20 → 00:20:21 ว่า
00:20:21 → 00:20:25 เอ่อตอบโต้กับปฏิกิริยาของเา้าเออที่เขาค
00:20:25 → 00:20:29 ทำไม่ดีกับเราเราก็นิ่งเฉยเสียเออรอเวลา
00:20:29 → 00:20:33 ต่อไปซึ่งมันจะมาถึงหรือไม่ก็ช่างมันโอ
00:20:33 → 00:20:36 แล้วทำทำให้ผมนึกอีกอีกวิธีนึงครับพี่
00:20:36 → 00:20:39 อ้อยไม่ใช่รอเวลาเฉยๆนะคค่ะในระหว่างนั้น
00:20:39 → 00:20:42 น่ะเรามีหน้าที่รอด้วยความอดทนหนึ่งนะ
00:20:42 → 00:20:46 แล้วก็ต้องพิสูจน์ตัวใช่ๆเหมือนพิสูจน์
00:20:46 → 00:20:48 ตัวเองใช่แล้วก็มาทำให้ผมนึกถึงอีกเรื่อง
00:20:48 → 00:20:51 นึงเลยฮพี่อ้อยเรามีเวลาสั้นๆนี่นะค่ะผม
00:20:51 → 00:20:54 ไปเป็นวิทยากรในที่ผมบอกเนี่ยเป็นจิตอาสา
00:20:54 → 00:20:57 ในเรือนจำเนี่ยนะค่ะมีอยู่วันนึงผมก็ไป
00:20:57 → 00:21:00 บรรยายในเรือนจำแล้วระหว่างที่กำลังจะ
00:21:00 → 00:21:04 กลับออกมาเนี่ยค่ะผู้บัญชาการเรือนจำก็
00:21:04 → 00:21:08 เชิญให้ผมเข้าไปพูดคุยพิเศษกับผู้ต้องขัง
00:21:08 → 00:21:11 อีกประมาณสัก 10 คนอืซึ่งวันนั้นเนี่ยพวก
00:21:11 → 00:21:15 เขากำลังจะพ้นโทษพอดีค่ะกำลังจะได้รับ
00:21:15 → 00:21:17 อิสรภาพวันนั้นเลยก็เลยให้ผมไปเหมือนกับ
00:21:17 → 00:21:18 ไป
00:21:18 → 00:21:23 อพูดคุยครั้งสุดท้ายก่อนออกจากเรือนจำค่ะ
00:21:23 → 00:21:25 ผมก็เลยบอกว่าเอ๊ะเค้าจะพ้นโทษเนี่ยผมก็
00:21:25 → 00:21:29 ถาเบอกว่าพวกคุณทำความผิดติดคุกมาเนี่ยนะ
00:21:30 → 00:21:32 แล้วเดี๋ยวคุณจะกลับบ้านแล้วค่ะถ้าคุณออก
00:21:32 → 00:21:37 ไปอือแล้วคนข้างนอกทั่วไปเนี่ยเค้ามองเรา
00:21:37 → 00:21:41 ด้วยความที่เไม่ไว้ใจเราค่ะเพราะว่าเรา
00:21:41 → 00:21:45 เป็นอดีตผู้ต้องขังเนี่ยค่ะผมถามว่าเาผิด
00:21:45 → 00:21:49 มั้ยอืคนอื่นเนี่ยจะเรียกว่าเข้าใจผิด
00:21:49 → 00:21:52 หรือแล้วแล้วแต่เนี่ยแต่เมีเ้ามองเราผิด
00:21:52 → 00:21:55 ไปเนี่ยอือเค้ามองเราแบบนั้นเนี่ยค่ะตีตา
00:21:55 → 00:21:58 เราแบบเนี้ยผมถามว่าเค้าผิดมั้ยค่ะคุณึง
00:21:58 → 00:22:01 ามบอกก็ไม่ผิดนะครับอาจารย์บอกทำไมล่ะก็
00:22:01 → 00:22:03 เพราะว่าอดีตเราเคยเป็นอย่างงั้นจริงๆ
00:22:03 → 00:22:06 จริงอูถามข้อถามที่ 2 ว่าแล้วถ้าอย่าง
00:22:06 → 00:22:09 งั้นในชีวิตเราเราเคยทำความผิดแล้วเรา
00:22:09 → 00:22:14 อยากจะกลับตัวแล้วเนี่ยเราผิดมั้ยอืเราก็
00:22:14 → 00:22:17 ไม่ผิดองั้นผมก็เลยบอกเบอกว่าสุดท้ายเลย
00:22:17 → 00:22:20 นะก่อนที่คุณจะกลับบ้านรอบนี้ผมจะบอกว่า
00:22:20 → 00:22:24 ออกไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอใครจะยังไงกับ
00:22:24 → 00:22:28 เราก็ตามทีนะไม่ต้องไปหาว่าใครผิดอืพวก
00:22:28 → 00:22:32 เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือพิสูจน์ตัวเอง
00:22:32 → 00:22:36 อืค่ะพอผมสอนเรื่องนี้กลับไปนะครับหลัง
00:22:36 → 00:22:40 จากนั้นผู้ท้องขังก็กลับบ้านไปแล้วมีผู้ท
00:22:40 → 00:22:44 ขังคนนึงครับค่ะโทรมาหาผมแล้วเบอกว่าเค้า
00:22:44 → 00:22:47 มีความรู้สึกว่าเอยากจะกลับตัวเป็นคนดีอื
00:22:47 → 00:22:50 และสิ่งนึ่งที่เขาตั้งใจเลยว่าถ้าเกิดว่า
00:22:50 → 00:22:52 เขาจะกลับตัวเป็นคนดีนัหมายความว่าหนึ่ง
00:22:52 → 00:22:56 ในคุณธรรมของคนดีก็คือต้องไม่โกหกอืเพราะ
00:22:56 → 00:22:58 ฉะนั้นเวลาที่เขาไปสมัครงานที่ไหนเนี่ย
00:22:58 → 00:23:01 เค้าเป็นคนที่เชี่ยวชาญเรื่องการซ่อมรถนะ
00:23:01 → 00:23:05 ฮะอค่ะไปสมัครงานที่ไหนก็ตามเจ้าของอู่ก็
00:23:05 → 00:23:08 จะถามว่ามาจากไหนอืคือคนดีต้องไม่โกหกไง
00:23:08 → 00:23:12 ค่ะๆเค้าก็บอกว่าผมมาจากคุกครับค่ะค่ะ
00:23:12 → 00:23:15 พิ่งพ้นโทษมาครับค่ะอู่ที่ 1 เครับก็ไม่
00:23:15 → 00:23:19 รับรับอืเพราะว่าความรู้มาจากคุูไม่รับ
00:23:19 → 00:23:22 เลยค่ะแต่เขาคก็ยืนยันที่จะพูดความจริง
00:23:22 → 00:23:27 เพราะว่าคนดีต้องไม่โกหกค่ะอู่ที่ 2 ถาม
00:23:27 → 00:23:30 เหมือนเดิมเมเตอบเหมือนเดิมอือู่ที่ 2 ก็
00:23:30 → 00:23:35 ไม่รับอือู่ที่ 3 ก็ไม่รับ 4 5 6 7 8
00:23:35 → 00:23:42 9 โหไม่รับ 10 ไม่รับเ้าบอกผมบอกว่า
00:23:42 → 00:23:45 อาจารย์บอกว่าผมมีหน้าที่อย่างเดียวต้อง
00:23:45 → 00:23:49 พิสูจน์ตัวเพิสูจน์ตัวอืผมจะผมจะสมัคร
00:23:49 → 00:23:54 อย่างนี้ไปเรื่อยๆอืโชคดีอู่ที่ 11 รับอื
00:23:54 → 00:23:57 แล้วผมถามว่าแล้วทำไมเถึงรับ่ะอืเค้าบอก
00:23:57 → 00:24:02 ว่าที่รับเพราะว่าคุณซื่อสัตย์อืะหลังจาก
00:24:02 → 00:24:04 นั้นเก็โทรมาแล้วโทรมาเล่าให้ฟังค่ะค่ะ
00:24:04 → 00:24:08 ผ่านไปอีก 2-3 เดือนนะครับเบอกว่าอาจารย์
00:24:08 → 00:24:12 ครับตอนนี้ผมเป็นลูกน้องคนสนิทของเถ้าแก่
00:24:12 → 00:24:16 แล้วครับอืดีใจด้วยเลยอันเนี่ยก็คือเขาก็
00:24:16 → 00:24:19 ใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวค่ะซึ่งเรื่องแบบ
00:24:19 → 00:24:22 นี้มันต้องใช้เวลานะครับพี่อ้อยใช่มัน
00:24:22 → 00:24:26 แล้วแต่มันคุ้มค่ามากใช่กับผลที่ได้รับ
00:24:26 → 00:24:29 ใช่ครับค่ะเพราะฉะนั้นก็คุณผู้ฟังครับราย
00:24:29 → 00:24:33 การศัลกรรมคววามสุขเราก็มีเรื่องมาเล่า
00:24:33 → 00:24:35 เยอะแยะนะครับจากประสบการณ์ของเรา 2 คน
00:24:35 → 00:24:38 ครับผมแล้วก็พี่อ้อยนะครับค่ะเพื่อที่จะ
00:24:38 → 00:24:41 แบ่งปันแง่คิดมุมมองในเรื่องราวต่างๆที่
00:24:41 → 00:24:45 เรานำมาแบ่งปันก็โดยคาดหวังว่าเรื่องราว
00:24:45 → 00:24:48 เหล่านี้นี่จะส่งมอบแง่คิดมุมมองให้เรา
00:24:48 → 00:24:51 แต่ละคนมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้นแล้วก็
00:24:51 → 00:24:55 มีความทุกข์น้อยลงค่ะแต่เรื่องนี้ออย่า
00:24:55 → 00:24:59 คาดหวังอย่าคาดหวังเรื่องนี้คือเรื่องว่า
00:24:59 → 00:25:03 จะไม่มีใครเข้าใจเราผิดอือันเนี้ยอย่าคาด
00:25:03 → 00:25:06 หวังไม่มีไม่มีต้องมีแน่นอนใช่ค่ะเพราะ
00:25:06 → 00:25:08 ฉะนั้นเมื่อไหร่ที่เราโดนเข้าใจผิดก็เรา
00:25:08 → 00:25:12 ก็ทำตัวปกติทำตัวปกติค่ะแล้วก็ร่อเวลาึง
00:25:12 → 00:25:16 เวลาเราจะได้เปิดใจพิสูจน์ตัวแล้วก็
00:25:16 → 00:25:18 พิสูจน์ตัวเองค่ะอีกอย่างแล้วก็จะดีมาก
00:25:18 → 00:25:21 เลยถ้าระมัดระวังไม่ไปเข้าใจคนอื่นผิด
00:25:21 → 00:25:23 ด้วยเหมือนกันใช่ๆอันนี้สำคัญอ่าเพราะ
00:25:23 → 00:25:26 ฉะนั้นวันนี้สันกรรมความสุขครับผมวีรพงษ์
00:25:26 → 00:25:28 ทวีศักดิ์และพี่ค้อยต้องหรับลาไปก่อนครับ
00:25:28 → 00:25:31 สวัสดีครับสวัสดี
00:25:31 → 00:25:34 ค่ะติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:25:34 → 00:25:37 แอปพลิเคชันของ thi PBS podcast
00:25:37 → 00:25:40 spotify soundcloud Google podcast
00:25:40 → 00:25:43 Apple podcast และ YouTube Channel
00:25:43 → 00:25:47 Thai PBS podcast tha PBS podcast
00:25:47 → 00:25:51 View the world via The
00:25:51 → 00:25:56 [เพลง]
00:25:56 → 00:25:59 Voice
00:25:59 → 00:26:02 y