00:00:00 → 00:00:03 Single Being podcast about Living
00:00:03 → 00:00:07 your Best Single Life โดยหมอผิง
00:00:07 → 00:00:12 แพทย์หญิงธิดารุจิพัฒนกุล
00:00:12 → 00:00:15 หลายๆครั้งเวลาเราพูดถึงฝุ่น PM 2.5 มัน
00:00:15 → 00:00:19 ยังมีหลายๆความเข้าใจผิดอยู่เช่นเข้าใจ
00:00:19 → 00:00:22 ว่ามันจะมีผลกระทบแค่ในเรื่องของระบบทาง
00:00:22 → 00:00:25 เดือนหายใจเรื่องปอดซึ่งจริงๆแล้วมันไม่
00:00:25 → 00:00:28 ใช่แบบนั้นมันเป็นอะไรที่ไม่ได้แค่ทำให้
00:00:28 → 00:00:31 เรามีปัญหากับเรื่องของระบบเดินหายใจแต่
00:00:31 → 00:00:34 มันไปถึงเรื่องของมะเร็งเรื่องของสมอง
00:00:34 → 00:00:37 เรื่องของหัวใจเรื่องของความแก่ซึ่งวัน
00:00:37 → 00:00:39 นี้ค่ะหมออยากจะมา correct ความเข้าใจผิด
00:00:40 → 00:00:43 ๆเหล่านี้นะคะว่าจริงๆแล้วฝุ่น PM 2.5
00:00:43 → 00:00:46 มีผลกระทบอะไรบ้างกับสุขภาพของเราแล้วก็
00:00:46 → 00:00:48 พวกเราควรลุกขึ้นมาทำอะไรบ้างมกับ
00:00:48 → 00:00:51 สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้หมอมีข้อเสนอ
00:00:51 → 00:00:55 ค่ะดีที่อยู่เดียว Presented by ไทย
00:00:55 → 00:00:59 ประกันชีวิตเพื่อให้ชีวิตคุณฟิตได้ครบรอบ
00:00:59 → 00:01:00 ด้าน
00:01:00 → 00:01:04 [เพลง]
00:01:04 → 00:01:07 สวัสดีค่ะคุณกำลังอยู่กับหมอผิงแพทย์หญิง
00:01:07 → 00:01:10 ธิดาการรุจิพัฒนกุลและ Single be
00:01:10 → 00:01:13 podcast ที่อยากให้คุณฟังแล้วสนุกมีความ
00:01:13 → 00:01:16 สุขกับการอยู่ตัวคนเดียวมากขึ้นค่ะวันนี้
00:01:16 → 00:01:20 หมออยากจะชวนคุณผู้ฟังมาคุยถึงสิ่งเล็กๆ
00:01:20 → 00:01:24 ที่อยู่รอบตัวพวกเรานั่นก็คือฝุ่น PM 2.5
00:01:24 → 00:01:27 ค่ะหมอเชื่อว่าจนถึงทุกวันเนี้ยทุกคนน่ะ
00:01:27 → 00:01:30 น่าจะเคยได้ยินน่าจะรู้จักคำว่าว่าฝุ่น PM
00:01:30 → 00:01:33 2.5 ทราบดีว่ามันเป็นมลพิษทางอากาศอัน
00:01:33 → 00:01:36 นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลยนะคะเพราะว่า
00:01:36 → 00:01:39 มันก็เป็นเรื่องที่มาหาเราทุกปีแล้วก็ทวี
00:01:39 → 00:01:42 ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆนะคะสื่อต่างๆก็
00:01:42 → 00:01:46 มีพูดถึงกันเยอะแต่หมอก็สังเกตได้ว่าหลาย
00:01:46 → 00:01:49 ๆครั้งเวลาเราพูดถึงฝุ่น PM 2.5 มันยัง
00:01:49 → 00:01:52 มีหลายๆความเข้าใจผิดอยู่เช่นเข้าใจว่า
00:01:52 → 00:01:55 มันจะมีผลกระทบแค่ในเรื่องของระบบทาง
00:01:55 → 00:01:59 เดือนหายใจเรื่องปอดมีผลกระทบแค่กับคนที่
00:01:59 → 00:02:03 เป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นเป็นโรคปอดเป็นโรคหอบ
00:02:03 → 00:02:06 หืดหรือว่าอายุมากหรือว่าเด็กซึ่งจริงๆ
00:02:06 → 00:02:09 แล้วมันไม่ใช่แบบนั้นจริงๆแล้วฝุ่น PM
00:02:09 → 00:02:12 2.5 เนี่ยมันเป็นปัญหาของทุกคนเป็นปัญหา
00:02:12 → 00:02:16 ของพวกเรามันเป็นอะไรที่ไม่ได้แค่ทำให้
00:02:16 → 00:02:18 เรามีปัญหากับเรื่องของระบบทางเดินหายใจ
00:02:18 → 00:02:22 แต่มันไปถึงเรื่องของมะเร็งเรื่องของสมอง
00:02:22 → 00:02:25 เรื่องของหัวใจเรื่องของความแก่และที่
00:02:25 → 00:02:28 สำคัญก็คือฝุ่น PM 2.5 เนี่ยเป็นสาเหตุ
00:02:28 → 00:02:32 การตายของคนเป็นล้านล้านคนนทั่วโลกซึ่ง
00:02:32 → 00:02:34 วันเยค่ะหมออยากจะมา correct ความเข้าใจ
00:02:35 → 00:02:38 ผิดๆเหล่านี้นะคะว่าจริงๆแล้วฝุ่น PM 2.5
00:02:38 → 00:02:41 มีผลกระทบอะไรบ้างกับสุขภาพของเราแล้วก็
00:02:41 → 00:02:43 พวกเราควรลุกขึ้นมาทำอะไรบ้างมยกับ
00:02:44 → 00:02:46 สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้หมอมีข้อเสนอ
00:02:46 → 00:02:49 ค่ะก่อนอื่นเลยอนะคะทุกคนน่าจะเข้าใจแหละ
00:02:49 → 00:02:52 แต่หมอทบทวนนิดนึงว่าฝุ่น PM 2.5 เนาะ
00:02:52 → 00:02:55 จริงๆเอาแบบนิยามง่ายๆเลยนะมันก็คือเป็น
00:02:55 → 00:02:59 ฝุ่นละอองขนาดจิ๋วเลยที่มีขนาดไม่เกิน 2.5
00:02:59 → 00:03:02 ไมครอนนะนะคะซึ่งจริงๆตัวฝุ่นละอองเนี่ย
00:03:02 → 00:03:04 เวลาเขาวัดแยกเนี่ยมันก็จะมีตั้งแต่ PM
00:03:04 → 00:03:07 10 นะคะก็คือขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนอัน
00:03:07 → 00:03:09 นี้หมายถึงขนาดตัวเส้นผ่าศูนย์กลางนะคะ
00:03:09 → 00:03:12 ของเจ้าตัวฝุ่นเนาะ 2.5 ก็คือไม่เกิน 2.5
00:03:12 → 00:03:15 ไมครอนแล้วมันก็จะมีขนาดเล็กจิ๋วๆไปอีก PM
00:03:15 → 00:03:18 0.1 ก็คือขนาดไม่เกินน้อยกว่าหรือเท่า
00:03:18 → 00:03:21 กับ 0.1 ไมครอนซึ่งเจ้า PM 2.5 เนี่ยที่
00:03:21 → 00:03:24 มันถูกกล่าวถึงเยอะหรือพูดถึงกันเยอะ
00:03:24 → 00:03:27 เนี่ยเพราะว่าไอ้ด้วยไซส์ของมันมันช่าง
00:03:27 → 00:03:30 แบบเป็นไซส์ที่พอเหมาะพอเจาะกับการที่จะ
00:03:30 → 00:03:32 มารุกรานทำร้ายสุขภาพเราเหลือเกินนะคะ
00:03:33 → 00:03:35 เป็นไซส์ที่มันจะมีพื้นที่ผิวมากมัน
00:03:35 → 00:03:39 สามารถที่จะเหมือนแขวนลอยอยู่ในอากาศลอย
00:03:39 → 00:03:42 อยู่ในอากาศได้นานสามารถที่จะเคลื่อนตัว
00:03:42 → 00:03:44 ไปได้ไกลนะคะแล้วก็สามารถที่จะเข้าสู่
00:03:44 → 00:03:48 ร่างกายเรานำสารพิษสารเคมีต่างๆเนี่ยเข้า
00:03:48 → 00:03:51 สู่ร่างกายเราได้ดีเลยทีเดียวดีของคุ่นนะ
00:03:51 → 00:03:54 ไม่ดีสำหรับเรานะถามว่าไอ้เจ้าฝุ่น Km
00:03:54 → 00:03:57 2.5 จริงๆแล้วมันเกิดจากอะไรเนาะตอนเด็ก
00:03:58 → 00:04:01 ๆเงี้ยเวลาแบบช่วงธันวาคมหน้าหนาวมันก็จะ
00:04:01 → 00:04:04 เป็นหมอกนะคะตอนนั้นน่ะมันไม่มีเลยแต่พอ
00:04:04 → 00:04:08 มาถึงตอนเนี้ยนะคะมันก็ผ่านมาหลายสบปี
00:04:08 → 00:04:11 เวลาวันไหนที่หมอเห็นอากาศแบบขมุกขมัวหมอ
00:04:11 → 00:04:13 ก็จะต้องคิดแล้วนี่มันหมอกหรือว่ามันฝุ่น
00:04:13 → 00:04:15 วะนะคะหมอเชื่อว่าทุกคนก็คิดเหมือนกันนะ
00:04:15 → 00:04:18 คะแล้วก็จะต้องเช็คถามว่ามันเกิดจากอะไร
00:04:18 → 00:04:20 ทำไมมันถึงแบบเราถึงต้องมาอยู่ในโลกที่
00:04:20 → 00:04:25 มันแบบมี PM 2.5 เยอะในหลายๆวันต่อปี
00:04:25 → 00:04:28 ขนาดนี้นะคะคือต้องเข้าใจว่าจริงๆโดย
00:04:28 → 00:04:31 ธรรมชาติเองเองเนี่ยมันก็จะมีกระบวนการ
00:04:31 → 00:04:34 ธรรมชาติที่มีการเกิดขึ้นของพวกมลพิษทาง
00:04:34 → 00:04:37 อากาศอยู่แล้วแต่มันมีสิ่งที่เกินจาก
00:04:37 → 00:04:39 ธรรมชาติก็คือสิ่งที่มนุษย์เราทำการกระทำ
00:04:39 → 00:04:42 ของมนุษย์เราหลายๆอย่างนะคะไม่ว่าจะเป็น
00:04:42 → 00:04:46 การที่เราใช้เชื้อเพลิงในการที่ทำให้เกิด
00:04:46 → 00:04:50 การขับเคลื่อนของยานพาหนะการเผาผลาญเชื้อ
00:04:50 → 00:04:53 เพลิงต่างๆเพื่อโรงงานอุตสาหกรรมหรือว่า
00:04:53 → 00:04:57 การที่เรามีในส่วนของการเลี้ยงสัตว์
00:04:57 → 00:04:59 ปริมาณมากๆเพื่อที่จะเอนำมาใช้ที่เป็น
00:04:59 → 00:05:02 เนื้อสัตว์แล้วมันก็มีส่วนของมูลสัตว์
00:05:02 → 00:05:07 ต่างๆที่ออกมานะคะมีการใช้สารเคมีต่างๆใน
00:05:07 → 00:05:11 การก่อสร้างในการสร้างบ้านในการตกแต่งนะ
00:05:11 → 00:05:13 คะทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยมันก็จะนำมาสู่การ
00:05:13 → 00:05:17 เกิดมลพิษทางอากาศต่างๆรวมถึงเจ้า PM 2.5
00:05:17 → 00:05:21 ด้วยสำหรับในเมืองไทยเองเนี่ยจริงๆเคยมี
00:05:21 → 00:05:25 งานวิจัยหลายๆงานที่จะหาสาเหตุของ PM 2.5
00:05:25 → 00:05:28 ในกรุงเทพฯเหมือนกันซึ่งส่วนใหญ่ละที่ทำ
00:05:28 → 00:05:31 มาผลมันก็จะซ้ำๆกันว่าอันดับ 1 ทสิคะจาก
00:05:31 → 00:05:35 อะไรจากรถค่ะจากยานพาหนะเนี่ยแหละค่ะรถ
00:05:35 → 00:05:39 ที่ปล่อยแก๊สพิษออกมารถดีเซลโดยเฉพาะ
00:05:39 → 00:05:41 อย่างยิ่งยิ่งวันรถยิ่งติดมากขึ้นปริมาณ
00:05:41 → 00:05:44 รถเยอะขึ้นเนี่ยในการผลิตมลพิษทางอากาศ
00:05:44 → 00:05:46 จากส่วนเนี้ยคือส่วนของยานพานะต่างๆก็
00:05:46 → 00:05:49 เยอะขึ้นต่อมาคือส่วนของโรงงานอุตสาหกรรม
00:05:49 → 00:05:52 นะคะที่อยู่รอบๆตะเข็บของกรุงเทพฯแล้วก็
00:05:52 → 00:05:56 ต่อมาคือส่วนของการเผาไหม้นะคะการเผาใน
00:05:56 → 00:05:59 ที่โล่งการเผาหญ้าพวกเจะเป็นสาเหตุหลักๆ
00:05:59 → 00:06:02 ที่วนวนไปวนมาทำให้เกิดเพียม 2.5 หนาแน่น
00:06:02 → 00:06:05 นะคะโดยเดือนที่จะหนาแน่นในเมืองไทยเนี่ย
00:06:05 → 00:06:08 ก็คือช่วงปลายปีเแหละค่ะช่วงที่แทนที่มัน
00:06:08 → 00:06:10 จะอากาศเย็นๆและอากาศดีนะกลายเป็นว่า
00:06:10 → 00:06:11 อากาศเย็นแล้วก็ฝุ่นเยอะก็คือพฤศจิกายน
00:06:11 → 00:06:14 ธันวาคมมกราคมนะคะเพราะว่ามันจะเป็นช่วง
00:06:14 → 00:06:17 ที่ลมสงบจะมีปรากฏการณ์ฝาชีครอบอากาศอุ่น
00:06:17 → 00:06:19 เนี่ยแทรกอยู่ระหว่างชั้นอากาศเย็นนะคะ
00:06:19 → 00:06:22 ฝุ่นก็แขวนลอยอยู่ตรงนั้นแหละพวกเราก็ออก
00:06:22 → 00:06:24 มาสูดอากาศเย็นๆแล้วเราก็สูดฝุ่นเข้าไป
00:06:24 → 00:06:27 ด้วยถามว่ามันเกิดผลอะไรกับร่างกายเรา
00:06:27 → 00:06:31 บ้างแน่นอนผลระยะสั้นคนที่เป็นหอบผืดหรือ
00:06:31 → 00:06:33 เป็นภูมิแพ้นะจะรู้สึกได้อยู่แล้วว่าโห
00:06:33 → 00:06:36 วันไหนฝุ่นเยอะก็ภูมิแพ้มาเลยคันตาคัน
00:06:36 → 00:06:40 จมูกอาจจะภูมิแพ้กำเริบมีไอมีหอบผืด
00:06:40 → 00:06:42 สำหรับคนที่เป็นผิวหนังจริงๆก็ชัดนะคนที่
00:06:42 → 00:06:44 เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนังบางทีก็จะรู้สึก
00:06:44 → 00:06:46 เลยหรือคนที่เป็นเซบเดิมก็จะรู้สึกเลยว่า
00:06:46 → 00:06:50 โอ๊ยคันขึ้นมาเลยนะคะเวลาเจอฝุ่นซึ่งอัน
00:06:50 → 00:06:52 นั้นเนี่ยเป็นผลกระทบระยะสั้นหมอว่าทุกคน
00:06:52 → 00:06:55 ทราบดีหลายๆคนทราบดีแต่หลายคนไม่ทราบว่า
00:06:55 → 00:06:59 มันมีผลกระทบระยะยาวนะคะที่เกิดขึ้นไล่
00:06:59 → 00:07:01 เรียงมาเลยอ่ะตั้งแต่แน่นอนระบบทางเดิน
00:07:01 → 00:07:05 หายใจการทำให้โรคที่เป็นอยู่แล้วเช่นห่อ
00:07:05 → 00:07:09 ผืดคุมอาการยากขึ้นการเพิ่มความเสี่ยงของ
00:07:09 → 00:07:11 มะเร็งปอดซึ่งอันเนี้ยที่ผ่านมาไม่นานก็
00:07:11 → 00:07:14 มีข่าวที่หลายๆท่านก็อาจจะเคยได้ยินใน
00:07:14 → 00:07:17 ประเด็นนี้อยู่ในเด็กๆเนี่ยเาก็พบว่ามัน
00:07:17 → 00:07:19 ส่งผลถึงพัฒนาการของปอดในเด็กทำให้
00:07:19 → 00:07:24 พัฒนาการแย่ลงมาที่หัวใจนะคะพบว่าเพิ่ม
00:07:24 → 00:07:27 เรทของการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
00:07:27 → 00:07:31 เร่งการเกิดหลอดเลือดเลือดแข็งตัวมาที่
00:07:31 → 00:07:34 ระบบสมองนะคะพบว่าเพิ่มความเสี่ยงของ
00:07:34 → 00:07:37 อัลไซเมอร์เพิ่มความเสี่ยงของ Parkinson
00:07:38 → 00:07:40 เพิ่มความเสี่ยงต่อการที่สมองของเรา
00:07:40 → 00:07:43 เสื่อมมาถึงระบบสืบพันธุ์นะคะก็พบว่ามัน
00:07:43 → 00:07:47 เพิ่มโอกาสของการที่เด็กจะคลอดก่อนกำหนด
00:07:47 → 00:07:49 แล้วก็คลอดออกมาตัวเล็กส่วนในแง่ของผิว
00:07:49 → 00:07:53 พรรณนะคะแน่นอนค่ะทำให้ผิวแก่เร็วขึ้นนะ
00:07:53 → 00:07:56 คะเพิ่มโอกาสของการเกิดจุดด่างดำจริงๆหมอ
00:07:57 → 00:07:59 เคยเขียนบทความเรื่อง PM 2.5 ทำรอยชรา
00:07:59 → 00:08:02 ไวัเหมือนกันนะเป็นเพราะว่าหมอตอนนั้น
00:08:02 → 00:08:06 อ่านงานวิจัยของประเทศจีนนะคะที่ไทโจนะคะ
00:08:06 → 00:08:08 เคก็ทำในครัวเรือนประมาณ 30 ครัวเรือน
00:08:08 → 00:08:11 เทียบระหว่างพื้นที่ที่มี PM 2.5 เยอะ
00:08:11 → 00:08:15 กับพื้นที่ที่มี PM 2.5 น้อยเพบว่าคนที่
00:08:15 → 00:08:18 จะต้องแบบสูตรดมเพียม 2.5 ทุกวันเนี่ยมี
00:08:18 → 00:08:21 ในส่วนของผิวพรรณนะคะที่มีจุดด่างดำแล้ว
00:08:21 → 00:08:24 ก็ริ้วรอยที่เยอะกว่าถามว่าเอ๊ะเจ้าแค่
00:08:24 → 00:08:27 ฝุ่นเนี่ยทำไมมันถึงได้ทำให้เกิดผลกระทบ
00:08:27 → 00:08:31 ต่อหลายๆอวัยวะมากมายขนาดนั้นจริงๆกลไก
00:08:31 → 00:08:34 ที่มันทำให้เกิดผลกระทบกับแต่ละอวัยวะอ่ะ
00:08:34 → 00:08:38 มันคล้ายๆกันนะคะหมอจะเล่ารวบยอดเลยว่า
00:08:38 → 00:08:41 จริงๆแล้วหลักๆมันก็จะมาจากหนเรื่องของ
00:08:41 → 00:08:45 อนุมูลอิสระคือตัว PM 2.5 มันเร่งเรื่อง
00:08:45 → 00:08:47 ของ oxidative stress หรือว่าการเกิด
00:08:47 → 00:08:50 ขึ้นของอนุมูลอิสระซึ่งตัวอนุมูลอิสระเอง
00:08:50 → 00:08:53 เนี่ยก็ไปส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ต่างๆ
00:08:53 → 00:08:56 ในร่างกายมันทำให้เกิดการอักเสบในระดับ
00:08:56 → 00:08:58 โมเลกุลหรือว่า inflammation ที่ทำให้
00:08:58 → 00:09:01 เซลล์ต่างๆ่าเนี่ยมีความผิดปกติเกิดขึ้น
00:09:01 → 00:09:04 ได้แล้วก็มันก็ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยน
00:09:04 → 00:09:06 แปลงในระดับยีนนะคะหรือว่า epigenetic
00:09:06 → 00:09:10 Change นะคะก็ตรงเนี้ยก็ส่งผลเพิ่มความ
00:09:10 → 00:09:13 เสี่ยงต่อโรคต่างๆเช่นกันซึ่งไอ้เจ้าการ
00:09:13 → 00:09:15 เปลี่ยนแปลงในระดับยีนเนี่ยมันจะส่งผล
00:09:15 → 00:09:19 กระทบกับมะเร็งอย่างที่บอกไปว่ามะเร็งปอด
00:09:19 → 00:09:21 แต่มันไม่ใช่แค่มะเร็งปอดนะคะจริงๆมันมี
00:09:21 → 00:09:24 งานวิจัยในสัตว์ทดลองในอะไรต่างๆเนี่ยพบ
00:09:24 → 00:09:28 ว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่เองมะเร็งกระเพาะอาหาร
00:09:28 → 00:09:31 หรือว่ามะเร็งกระเพาะปัสสาวะก็มีโอกาสที่
00:09:31 → 00:09:34 จะเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้ถ้าเราเนี่ยจะต้อง
00:09:34 → 00:09:38 สูดดม PM 2.5 เรื้อรังไปเรื่อยๆในปริมาณ
00:09:38 → 00:09:41 สูงแล้วก็ในส่วนของเด็กๆเองก็มีงานวิจัย
00:09:41 → 00:09:44 จากเม็กซิโกนะคะที่พบว่า p 2.5 เนี่ยส่ง
00:09:44 → 00:09:48 ผลกับการพัฒนาของสมองของเด็กนะคะแล้วก็จะ
00:09:48 → 00:09:51 ทำให้แบบพัฒนาได้ไม่เต็มที่รวมถึงเพิ่ม
00:09:51 → 00:09:54 ความเสี่ยงเรื่องของ adhd ด้วยซึ่งก็เป็น
00:09:54 → 00:09:57 อะไรที่น่าสนใจมากดังนั้นเนี่ยแปลว่าไอ้
00:09:57 → 00:10:00 เจ้า PM 2.5 เวลาที่เราบอกว่าเอ้ยอย่าไป
00:10:00 → 00:10:03 สูดดมเยอะนะเดี๋ยวมันคันตัวเดี๋ยวเป็นหอบ
00:10:03 → 00:10:05 ฝืดจริงๆมันไม่ใช่แค่นั้นนะคะแต่การที่
00:10:05 → 00:10:08 พวกเราทุกคนน่ะต้องอยู่ในอากาศที่มันมี
00:10:08 → 00:10:12 เพียม 2.5 เยอะอยู่เรื่อยๆจำนวนวันต่อปี
00:10:12 → 00:10:14 ที่มันมากเกินไปหลายๆวันเนี่ยมันเพิ่ม
00:10:14 → 00:10:17 ความเสี่ยงต่อโรคต่างๆทั่วร่างกายเราไป
00:10:17 → 00:10:20 หมดเลยนะคะเหมือนเป็นฆาตกรเงียบอ่ะที่ส่ง
00:10:20 → 00:10:24 ผลร้ายกับสุขภาพของเราทีนี้ถามว่าแล้ววัน
00:10:24 → 00:10:26 ๆนึงจริงๆการที่เราอยู่ในเมืองไทยเนี่ย
00:10:26 → 00:10:30 ถ้าเราเช็คเกณฑ์ของภาครัฐเนาะของกรมควบ
00:10:30 → 00:10:32 คุมมลพิษอะไรต่างๆอ่ะเราก็จะพบว่าเอ๊ยวัน
00:10:32 → 00:10:34 นี้ก็สีเขียวนี่วันนี้ก็สีเขียวเออแต่ถ้า
00:10:34 → 00:10:37 เกิดเราไปดูตัวเลขจริงๆอ่ะจริงๆมันอาจจะ
00:10:37 → 00:10:41 ไม่ใช่สีเขียวก็ได้นะคะเพราะว่าอะไรคือ
00:10:41 → 00:10:43 เกณฑ์ของ PM 2.5 จริงๆขององค์การอนามัย
00:10:43 → 00:10:47 โลกออนะคะ Who เนี่ยเขาบอกว่ายอมรับใน
00:10:47 → 00:10:50 ระดับของเพียม 2.5 ในช่วง 24 ชมงเนี่ยไม่
00:10:50 → 00:10:53 ควรจะเกิน 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาทเมตรใน
00:10:53 → 00:10:55 ขณะที่ถ้าวัดรายปีเนี่ยไม่ควรจะเกิน 5
00:10:55 → 00:10:58 ไมโครกรัมต่อลูกบาทเมตรส่วนอย่างประเทศ
00:10:58 → 00:11:02 อย่างแบบออสเตรเลียนะคะก็จะบอกว่าปลายปี
00:11:02 → 00:11:05 ไม่ควรจะเกิน 8 ไมโครกรัมต่อลูกบาทเมตร
00:11:05 → 00:11:08 หรืออเมริกาเอง epa ของอเมริกาก็บอกว่า
00:11:08 → 00:11:10 ไม่ควรจะเกิน 12 ไมโครกรัมต่อลูกบาทเมตร
00:11:10 → 00:11:14 แล้วถามว่าของไทยเราล่ะ actual หรือจริงๆ
00:11:14 → 00:11:17 แล้วอ่ะเฉลี่ยรายปีของเราเนี่ย PM 2.5
00:11:17 → 00:11:20 อยู่ที่เท่าไหร่นะมันอยู่ที่ประมาณ 30
00:11:20 → 00:11:23 ไมโครกรัมต่อลูกบาทเมตนะคะซึ่งมันมากกว่า
00:11:23 → 00:11:26 เกณฑ์มากเลยถ้าแบบวัดแบบ 24 ชมเนี่ยมันก็
00:11:26 → 00:11:28 จะอยู่ที่ประมาณ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาท
00:11:28 → 00:11:32 เมตแต่เกณฑ์ของกรมควบคุมมลพิษของไทยอ่ะ
00:11:32 → 00:11:35 ค่ะเขาบอกว่าสำหรับไทยเราเองเนี่ยจุดที่
00:11:35 → 00:11:38 ยอมรับนะคะก็คืออยู่ที่ไม่เกิน 15
00:11:38 → 00:11:41 ไมโครกรัมต่อลูกบาทเมตรซึ่งนั่นก็คือมาก
00:11:41 → 00:11:44 กว่าเกณฑ์ของ Who ถึง 3 เท่านะคะเออซึ่ง
00:11:44 → 00:11:46 ไอ้เกณฑ 15 ไมโครกรัมต่อลูบาเมตรเนี่ย
00:11:46 → 00:11:49 เป็นเกณฑ์ที่ปรับใหม่เมื่อไม่นานมานี้
00:11:49 → 00:11:51 แล้วนะคะเกณฑ์เดิมคือ 25 ดังนั้นเวลาที่
00:11:51 → 00:11:54 เราแบบอาจจะดูรายงานข่าวแล้วก็บอกว่าเออ
00:11:54 → 00:11:56 วันนี้อากาศดีสีเขียวอ่ะหมอแนะนำว่าให้ดู
00:11:56 → 00:11:59 ตัวเลขด้วยดีกว่าบางทีบอกสีเขียวแต่แต่
00:11:59 → 00:12:01 จริงๆแล้วมันอาจจะสูงเกินเกณฑก็ได้นะคะ
00:12:01 → 00:12:03 หมอคิดว่าเอาเกณฑ์ของอะไรดีถ้าส่วนตัวหมอ
00:12:03 → 00:12:06 ก็เชื่อเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกก็ได้ก็
00:12:06 → 00:12:09 คือว่าถ้าในแบบ 24 ชมก็คือไม่เกิน 15
00:12:09 → 00:12:12 ไมโครกรัมต่อลูกบาทเมตรนะคะส่วนแบบลายปี
00:12:12 → 00:12:14 ก็คือไม่เกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาทเมตร
00:12:14 → 00:12:17 น่าจะดีกว่าแสดงว่าถ้าจากตัวเลขที่หมอ
00:12:17 → 00:12:21 โชว์ให้ดูเนี่ยก็แปลว่าโดยเฉลี่ยในแต่ละ
00:12:21 → 00:12:24 วันของเราหลายๆวันมันเกินกว่าเกณฑ์มาก
00:12:24 → 00:12:26 แล้วเราจะทำยังไงนะเราจะแบบสูดดงมันไป
00:12:27 → 00:12:28 เรื่อยๆแล้วก็ยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิด
00:12:28 → 00:12:32 ขึ้นกับสมองกับหัวใจหรือกับลูกหลานของเรา
00:12:32 → 00:12:35 มยเอ่อหมอคิดว่าไม่นะคะจริงๆสิ่งที่หมอ
00:12:35 → 00:12:37 อยากจะมาเล่าในวันเนี้ยถึงผลกระทบต่อ
00:12:37 → 00:12:41 สุขภาพแล้วก็ถึงตัวเลขของ PM 2.5 ก็คือ
00:12:41 → 00:12:43 อยากจะให้เราอ่ะคุณผู้ฟังทุกท่านที่ฟัง
00:12:44 → 00:12:46 อยู่อ่ะช่วยกันลุกขึ้นมาว่าเราจะทำอะไร
00:12:46 → 00:12:49 ให้มันดีกว่านี้ได้มยแน่นอนที่สุดในภาค
00:12:49 → 00:12:52 ส่วนตัวสิ่งที่เราจะทำได้ก็คือว่าพยายาม
00:12:52 → 00:12:55 มอนิเตอร์ทุกวันเนี้ยเวลาหมอตื่นมาก่อน
00:12:55 → 00:12:57 ที่จะเปิดหน้าต่างหมอก็จะดูก่อนว่าเวัน
00:12:57 → 00:12:59 นี้ PM 2.5 เป็นยังไงก่อนที่จะออกไปวิ่ง
00:12:59 → 00:13:03 Outdoor ก็ดูเช็คนิดนึงถ้ามันสูงก็ไม่ไป
00:13:03 → 00:13:06 นะคะแล้วก็นอกจากนี้เนี่ยการมีในส่วนของ
00:13:06 → 00:13:09 พยายามดูแลสภาพแวดล้อมในบ้านนะปิด
00:13:09 → 00:13:11 หน้าต่างเปิดเครื่องกรองอากาศอะไรอย่าง
00:13:11 → 00:13:14 เงี้ยหรือว่าถ้าต้องออกไปนอกบ้านในวันที่
00:13:14 → 00:13:16 ฝุ่นเยอะก็ใส่หน้ากากอนามัยพวกนี้ก็ช่วย
00:13:16 → 00:13:19 ได้หมดแล้วก็แน่นอนที่สุดค่ะเวลาถ้าเรา
00:13:19 → 00:13:22 อยากออกไปวิ่งนะคะบางทีการวิ่งเนี่ยมันดี
00:13:22 → 00:13:24 แต่ถ้าไปวิ่งแล้วสูตรดม PM 2.5 ด้วยอ่ะ
00:13:24 → 00:13:27 มันไม่ดีแน่นอนดังนั้นน่ะก็เช็คก่อนนี้ใน
00:13:27 → 00:13:30 ภาคของส่วนตัวนะนะคะส่วนครอบครัวแต่ในภาค
00:13:30 → 00:13:33 ของภาคใหญ่ซึ่งหมอว่าจริงๆมีความสำคัญมาก
00:13:33 → 00:13:38 ๆอ่ะก็คือเราน่าจะพยายามผลักดันนะคะใคร
00:13:38 → 00:13:40 ที่จะสามารถที่จะส่งเสียงออกไปได้เนี่ย
00:13:40 → 00:13:44 ส่งเสียงผลักดันให้ภาครัฐนมีความตื่นตัว
00:13:44 → 00:13:47 ในเรื่องของเพียม 2.5 มากกว่านี้ไม่ว่าจะ
00:13:47 → 00:13:49 เป็นเกณฑ์ที่เราจะยอมรับได้เราควรจะใช้
00:13:49 → 00:13:51 เกณฑ์ที่มันใกล้เคียงกับองการอนามัยโลก
00:13:51 → 00:13:53 หรือใกล้เคียงกับประเทศอย่างอเมริกาหรือ
00:13:53 → 00:13:56 ออสเตรเลียประเทศที่พัฒนาแล้วเราควรจะมี
00:13:56 → 00:14:00 กฎหมายที่ควบคุมการปล่อยของมลพิษทางอากาศ
00:14:00 → 00:14:03 ไม่ว่าจะจากโรงงานนะคะจากยานพาหนะการ
00:14:03 → 00:14:06 สนับสนุนยานพาหนะที่เป็นพลังงานสะอาดการ
00:14:06 → 00:14:09 ควบคุมแล้วก็ลงโทษอย่างจริงจังกับการเผา
00:14:09 → 00:14:13 กลังแจ้งโดยไม่ได้มีเหตุผลอะไรบอกว่า
00:14:13 → 00:14:15 เมื่อเราก็รู้ตระหนักแล้วว่าเพียม 2.5
00:14:16 → 00:14:18 มันเป็นปัญหาแล้วมันก็มีงานวิจัยแล้วว่า
00:14:18 → 00:14:21 มันเกิดจากอะไรบ้างที่เป็นแหล่งของการที่
00:14:21 → 00:14:24 ทำให้เกิดภาครัฐเองก็น่าที่จะ Take
00:14:24 → 00:14:26 Action กับสิ่งนี้ดีกว่าที่จะปล่อยให้
00:14:27 → 00:14:30 เพม 2.5 มัน่าชีวิตพวกเราในทุกๆวันทำให้
00:14:30 → 00:14:33 พวกเราอายุสั้นลงทำให้ลูกหลานของเรามี
00:14:33 → 00:14:35 ปัญหากับสมองกับร่างกายเพิ่มความเสี่ยง
00:14:35 → 00:14:38 ต่อมะเร็งนะคะหมอคิดว่าอันนี้เป็นสิ่งที่
00:14:38 → 00:14:41 อยากจะฝากให้ภาครัฐแล้วก็ผู้มีอำนาจนะคะ
00:14:41 → 00:14:43 ช่วยกันดูแลตรงนี้เพื่อสุขภาพของประชาชน
00:14:43 → 00:14:46 คนไทยใครที่ฟังแล้วเห็นด้วยกับไอเดียของ
00:14:46 → 00:14:50 หมอนะคะก็ฝากกดไลค์ฝากแชร์นะคะไปให้ถึง
00:14:50 → 00:14:52 ผู้ที่สามารถที่จะเท Action ตรงนี้ได้
00:14:52 → 00:14:56 จริงๆเรามาช่วยกันดูแลประเทศของเราดูแล
00:14:56 → 00:14:59 ครอบครัวของเรานะคะดูแลคนที่เรารักให้รัก
00:14:59 → 00:15:02 ดูแลชีวิตไปด้วยกัน
00:15:02 → 00:15:05 ค่ะขอบคุณมากนะคะสำหรับการรับฟังในวันนี้
00:15:06 → 00:15:08 แล้วพบกันใหม่ในวันศุกร์หน้ากับเรื่องราว
00:15:08 → 00:15:10 สุขภาพดีๆในสไตล์ Single Being ค่ะ
00:15:10 → 00:15:12 ขอบคุณมาก
00:15:12 → 00:15:17 ค่ะ Single Being podcast about
00:15:17 → 00:15:20 Living your Best Single Life โดย
00:15:20 → 00:15:24 หมอผิงแพทย์หญิงธิดาการรุจิพัฒนกุล
00:15:24 → 00:15:29 ดีที่อยู่เดียว Presented by ให้รักดูแล
00:15:29 → 00:15:33 ชีวิตไทยประกัน
00:15:33 → 00:15:36 ชีวิต