00:00:00 → 00:00:02 อาจารย์คะหยกกับดรีมรบกวนอาจารย์นิดนึง
00:00:02 → 00:00:06 ค่ะอาจารย์คะขอสอบถามนิดนึงค่ะสภาพที่แบบ
00:00:06 → 00:00:08 ว่าไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหรือว่าความอับชื้น
00:00:08 → 00:00:11 ในช่วงฤดูฝนทำไมมันถึงเราถึงมาเจอนี้มัน
00:00:11 → 00:00:13 ต่างกับตอนฤดูร้อนที่เวลาเราได้กลิ่นตัว
00:00:13 → 00:00:17 ผู้คนไหมคะอาจารย์มันเหมือนกันไหมคะ
00:00:17 → 00:00:21 ก็เลยตัดใจในหน้าฝนเหมือนกันค่ะที่ทำให้
00:00:21 → 00:00:25 ให้เราโคลนที่จะมีตัวเหม็นมากกว่ามากกว่า
00:00:25 → 00:00:27 ฤดูหนาวอย่างนี้ค่ะ
00:00:27 → 00:00:30 เพราะว่าเพราะว่าคือเหมือนภูมิอากาศเป็น
00:00:30 → 00:00:34 แบบเป็นแบบร้อนชื้นแล้วก็ทำให้
00:00:34 → 00:00:39 ตัวตัวแบคทีเรียเนี่ยมันสะสมมากกว่าหรือ
00:00:39 → 00:00:42 ดูอื่นนะคะ
00:00:42 → 00:00:46 ดูสาเหตุว่าว่าทำไมถึงตัวเหม็นนะคะ
00:00:46 → 00:00:49 คืออากาศร้อนชื้นเนี่ยมันมีปัจจัยที่ง่าย
00:00:49 → 00:00:52 กว่าหรือดูการอื่นถูกไหมคะ
00:00:52 → 00:00:56 ใช่ค่ะก็คือพอชื้นปุ๊บเนี่ยก็แบคทีเรีย
00:00:56 → 00:01:01 มันก็โตเร็วก็เชื้อราด้วยเงี้ยค่ะก็จะทำ
00:01:01 → 00:01:01 ให้
00:01:01 → 00:01:04 เอ่อมีเป็นหนึ่งในปัจจัยนะคะแต่ปัจจัย
00:01:04 → 00:01:07 หลักเนี่ยเอ่อไม่ได้เป็นจากแบคทีเรีย
00:01:07 → 00:01:11 อย่างเดียวอ่ะค่ะเป็นเป็นเป็นจากสารที่
00:01:11 → 00:01:15 สร้างมาจากต่อมกลิ่นด้วยอ่ะค่ะ
00:01:15 → 00:01:18 ต่อมกลิ่นนี้ก็ก็คือภาษาอังกฤษก็คือ
00:01:18 → 00:01:22 อาโพไคน์ apocide Grand นะคะก็เป็นพริก
00:01:22 → 00:01:25 ให้ต่อมเหงื่อเป็นต่อมที่อยู่ตามรักแร้
00:01:25 → 00:01:28 ตามหลังหูตามขาหนีบนะคะแล้วก็จะสร้าง
00:01:28 → 00:01:32 สร้างสรรค์คล้ายๆกรดไขมันออกมาซึ่งไอ้ตัว
00:01:32 → 00:01:35 สารนี้ถ้าเกิดว่าไปเจอแบคทีเรียที่ว่ามัน
00:01:35 → 00:01:37 ก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นสารที่มีกลิ่นเป็น
00:01:37 → 00:01:41 กลิ่นคล้ายๆแอมโมเนียๆ
00:01:41 → 00:01:45 ที่มันจะสร้างกลิ่นเนี่ยคือก็หมายความว่า
00:01:45 → 00:01:48 คนเราทุกคนมันก็จะมีกลิ่นตัวกันทั้งหมด
00:01:48 → 00:01:52 ใช่ไหมครับคุณหมอครับทุกคนเลยเกิดมามีทุก
00:01:52 → 00:01:55 คนเลยค่ะแต่ว่าจะ Active ทำงานเยอะตอน
00:01:55 → 00:01:59 เข้าวัยรุ่นเป็นต้นไปนะคะคือจะเป็นคนละ
00:02:00 → 00:02:03 ส่วนกับต่อมเหงื่อค่ะตัวเหงื่อที่ก็จะออก
00:02:03 → 00:02:06 จากส่องเหงื่อก็จะเป็นเป็นไม่มีกลิ่นตัว
00:02:06 → 00:02:07 เหงื่อนะคะ
00:02:07 → 00:02:09 แตกต่างที่มาจากกล่องกลิ่นเนี้ยก็จะมี
00:02:09 → 00:02:12 กลิ่นเมื่อโดยเฉพาะเมื่อไปเจอกับ
00:02:12 → 00:02:13 แบคทีเรีย
00:02:13 → 00:02:15 บนผิวอย่างเงี้ยค่ะ
00:02:15 → 00:02:21 คือกลิ่นกายของแต่ละบุคคลที่เรารู้สึก
00:02:21 → 00:02:24 สัมผัสกลิ่นได้ไม่เท่ากันคุณหมอครับมัน
00:02:24 → 00:02:27 มันเกิดขึ้นจากอะไรคือมีเยอะมีน้อยหรือ
00:02:27 → 00:02:30 ว่าจริงๆมันมีเท่ากันแต่ว่าแต่ละคนมันเจอ
00:02:30 → 00:02:32 ปัจจัยแตกต่างกันนะครับมันก็เลยส่งผล
00:02:32 → 00:02:35 กระทบต่อความรุนแรงของกลิ่นแต่ละคนที่มัน
00:02:35 → 00:02:36 ออกมา
00:02:36 → 00:02:41 ต่างกันแน่นอนค่ะ
00:02:41 → 00:02:46 เช่นว่าความอ้วนตัวอย่างคนอ้วนก็จะมีซอก
00:02:46 → 00:02:49 นี้ลืมที่มันอับชื้นมากกว่าคนปกตินะคะ
00:02:49 → 00:02:53 แล้วก็เป็นคนที่แบบร้อนร้อนง่ายเหงื่อออก
00:02:53 → 00:02:57 มากกว่าคนอื่นก็ดับชื้นมาก
00:02:57 → 00:03:00 ลักษณะนิสัยการทานรับประทานอาหารด้วย
00:03:00 → 00:03:03 สถานที่ชอบ
00:03:03 → 00:03:07 หรือบางคนก็แบบเอ่อรับประทานยาบางอย่าง
00:03:07 → 00:03:10 เช่นยาต้านซึมเศร้าเนี่ยคือยาที่บางอย่าง
00:03:10 → 00:03:13 ทำให้กลิ่นได้เหมือนกันหรือเครียดอย่าง
00:03:13 → 00:03:18 เงี้ยบางครั้งแบบเครียดและตัวเหม็น
00:03:18 → 00:03:24 ไปกระตุ้นให้ต่อมัน Active ขึ้นมา
00:03:24 → 00:03:29 นี่ทำให้มีกลิ่นด้วยหรอคะบางอย่างค่ะ
00:03:29 → 00:03:32 แล้วหมวดอาหารนะคะอาจารย์
00:03:32 → 00:03:35 อาหารก็จะเป็นตระกูลรสจัดๆนะคะที่ใส่
00:03:35 → 00:03:38 เครื่องเทศพริกแกง
00:03:38 → 00:03:40 กระเทียม
00:03:40 → 00:03:42 สะตอชัดๆ
00:03:42 → 00:03:46 สะตอชะอมอย่างเงี้ยค่ะ
00:03:46 → 00:03:50 ตอนกำลังอึๆอันนี้อาจจะได้กินแต่ว่ามัน
00:03:50 → 00:03:57 ออกทางต่อมเหงื่อทางเหงื่อก็ได้ค่ะ
00:03:57 → 00:04:01 คุณหมอครับคือมันจะต้องอยู่เฉยๆมันก็จะ
00:04:01 → 00:04:05 ออกมาเองหรือว่าเราจะต้องขยับเขยื้อน
00:04:05 → 00:04:07 เคลื่อนตัวจนมันมีเหงื่อออกมาแล้วก็กลิ่น
00:04:07 → 00:04:10 เนี่ยมันก็จะที่เรากินไปมันไหลออกมาพร้อม
00:04:10 → 00:04:12 กับเหยื่อ
00:04:12 → 00:04:16 ทำไมเชิงขนาดนั้นไม่ใช่คือคือมันจะต้อง
00:04:16 → 00:04:18 คือปัจจัยต้องครบด้วยอ่ะค่ะไม่ใช่ว่าเออ
00:04:18 → 00:04:23 เราแบบอนามัยดีทุกอย่างเลยใช้โรลออนทำตัว
00:04:23 → 00:04:26 ดีทุกอย่างแล้วไปทันๆเผ็ดมันก็อาจจะตัว
00:04:26 → 00:04:29 ไม่เหม็นก็ได้นะคะคือจะต้องมีมีเขาเรียก
00:04:29 → 00:04:32 มีปัจจัยเสี่ยงครบด้วยอ่ะค่ะจะก่อให้เกิด
00:04:33 → 00:04:35 ความเหม็นอับชื้นนี้ขึ้นมาได้อ่ะค่ะคือ
00:04:35 → 00:04:38 ถ้าปัจจัยเดียวนี้ไม่น่ามาต้องมาคู่ถูก
00:04:38 → 00:04:40 ไหมคะ
00:04:40 → 00:04:44 ก็คือว่ามีมีสารที่มาจากต่อมเหม็นเนี่ย
00:04:44 → 00:04:53 ขอโทษค่ะต่อมกลิ่นบวกกับแบคทีเรียค่ะ
00:04:53 → 00:04:56 แต่ละคนอันนี้ถามเป็นความรู้นี้คืออันนี้
00:04:56 → 00:04:59 ด้วยความไม่รู้เลยต่อมกลิ่นของแต่ทุกคน
00:04:59 → 00:05:02 นี่มันมีเท่ากันนะครับผมอย่างสมมุติอ่า 10
00:05:02 → 00:05:06 ผมก็มีสิทธิ์พี่หยกก็มีสิทธิ์คุณหมอก็มี
00:05:06 → 00:05:07 10 อย่างนี้ไหมครับคุณหมอแล้วก็มันขึ้น
00:05:07 → 00:05:09 อยู่กับ
00:05:09 → 00:05:13 ดีไซน์มาผิวหนังเป็นแบบนี้ค่ะทุกคนแต่ว่า
00:05:13 → 00:05:16 ความเค้าเรียกว่า activity อ่ะความการทำ
00:05:16 → 00:05:19 งานของมันน่ะค่ะใครจะทำงานมากน้อยไม่เท่า
00:05:19 → 00:05:20 กัน
00:05:20 → 00:05:24 อ่าขึ้นกับปัจจัยเสี่ยงด้วยเหมือนกับคน
00:05:24 → 00:05:25 เหนือออกเยอะเหงื่อออกน้อยอย่างเงี้ยใช่
00:05:25 → 00:05:30 ไหมคะ
00:05:30 → 00:05:36 ในแง่ของของอ่าหน้าที่การทำงานมากน้อยนะ
00:05:36 → 00:05:38 คะ
00:05:38 → 00:05:43 อันนี้ไม่ได้จำนวนมีหมดมีทุกคน
00:05:43 → 00:05:46 อันนี้ค่ะเลยถามแบบบางครั้งเราจะได้กลิ่น
00:05:46 → 00:05:50 ชาวต่างชาติเราจะได้กลิ่นไม่เหมือนอันนี้
00:05:50 → 00:05:52 ไม่ได้บูลลี่นะคะอันนี้ขอโทษจริงๆอันนี้
00:05:52 → 00:05:55 ถามเฉยๆว่าทำไมเราแบบเขาเดินผ่านไปปุ๊บ
00:05:55 → 00:05:58 แล้วแบบโอ้โหมันช่างแบบกวนเหลือเกินมัน
00:05:58 → 00:06:00 กลิ่นเหมือนแบบเป็นเครื่องเทศเลยหรือบาง
00:06:00 → 00:06:03 คนทำไมเขาฉีดน้ำหอมแบบโอ้โหติดตัวเดิน
00:06:03 → 00:06:06 ผ่านไปเป็น 10 ลี้เราก็ยังได้กินอยู่ยิ้ม
00:06:06 → 00:06:08 จะขำอะไรนักหนาคะเดี๋ยวเอาปืนยิง
00:06:08 → 00:06:12 ผมกำลังนึกภาพอยู่กำลังนึกภาพตามผม
00:06:12 → 00:06:16 ทำไมบางคนคือกลิ่นเนี่ยมันยังอยู่เค้าว่า
00:06:16 → 00:06:17 เค้าเดินผ่านไปก็ยังอยู่อันนี้มันเกิดจาก
00:06:17 → 00:06:21 อะไรจมูกเราติดเองหรือว่าเขาแรงจริงคือ
00:06:21 → 00:06:24 กลิ่นแรงของจริงอ่ะค่ะคืออ่าต่างชาติบาง
00:06:24 → 00:06:27 ชาติเขาจะมีวัฒนธรรมรับประทานอาหารที่ที่
00:06:27 → 00:06:29 มันเฉพาะอาหาร
00:06:29 → 00:06:34 เอเชียใต้แบบเขาก็จะมะเขือเทศหรือว่าพริก
00:06:34 → 00:06:37 แกงแบบเยอะๆหากินรับประทานเป็นประจำ
00:06:37 → 00:06:38 [เพลง]
00:06:38 → 00:06:42 แบบกลิ่นเยอะแล้วก็บางทีเขาก็จะแก้ปัญหา
00:06:42 → 00:06:46 โดยการฉีดน้ำหอมไปกลบกลิ่นนั้นนะคะซึ่ง
00:06:46 → 00:06:50 มันเป็นการแก้ที่แบบที่ที่ทำให้กลิ่นมัน
00:06:50 → 00:06:52 จะแย่ลงไปได้อีกอ่ะ
00:06:52 → 00:06:55 น้ำหอมไปรวมกับความเหม็นที่มันเยอะอ่ะค่ะ
00:06:55 → 00:06:58 เหมือนกับไม่ได้แก้เหตุเพราะเราทำให้ได้
00:06:58 → 00:07:03 กลิ่นเฉพาะที่มันเป็นเหม็น + น้ำหอม
00:07:03 → 00:07:06 ทางตะวันออกกลางก็จะชอบน้ำหอมกันมากก็ฉีด
00:07:06 → 00:07:08 กัน
00:07:08 → 00:07:13 เลยทีเดียว
00:07:13 → 00:07:16 น้ำหอมมันมันไม่ได้ไปช่วยเขาเลยใช่ไหมคะ
00:07:16 → 00:07:20 ยิ่งทำให้แรงขึ้นคือช่วยค่ะแต่ว่ามันจะ
00:07:20 → 00:07:24 เขาเรียกว่าเป็นการกลบกลบกลิ่นนะคะเหมือน
00:07:24 → 00:07:27 เรากลบดินอย่างนี้คือถ้าถ้าเหตุมันไม่ได้
00:07:27 → 00:07:29 เยอะมันก็กลบได้ไงคะ
00:07:29 → 00:07:32 แต่ทีนี้ถ้าเหตุมันเยอะมันก็มันก็กดไม่
00:07:32 → 00:07:35 ได้คือมันต้องแก้ไขด้วย
00:07:35 → 00:07:39 อ่าสาเหตุเกิดจากอะไรเกิดจากว่ามีมี
00:07:39 → 00:07:44 เหงื่อมีแบคทีเรียแล้วก็ไปแก้ตรงนั้นนะคะ
00:07:44 → 00:07:48 ส่วนประกอบของของพวกที่ออเดอร์นั้นพวกพวก
00:07:48 → 00:07:52 เอ่อที่ผลิตภัณฑ์ที่ขายในท้องตลาดนะคะพวก
00:07:52 → 00:07:55 นี้มาคือถ้าอย่างกรณีอาหารนะครับคุณหมอ
00:07:55 → 00:07:58 อ่ะถ้าผมผมอย่างยกกรณีตัวอย่างชาวตะวัน
00:07:58 → 00:08:00 ออกกลางนั่นเองที่คุณหมอบอกเนี่ยคือถ้า
00:08:00 → 00:08:02 เขาทานกันเป็นประจำเนี่ยโอเคเข้าใจได้ก็
00:08:02 → 00:08:05 คืออยู่ในพื้นที่บ้านของเขาแต่ว่าเวลาเขา
00:08:05 → 00:08:07 มาเที่ยวอ่าอย่างกรณีมาเที่ยวประเทศไทย
00:08:07 → 00:08:10 เค้าอาจจะไม่ได้กินอาหารในลักษณะแบบนั้น
00:08:10 → 00:08:14 เนี่ยในช่วง 3 4 5 วันที่เข้ามาเนี่ย
00:08:14 → 00:08:17 กลิ่นมันก็ยังคงสะสมอยู่ในร่างกายแล้วมัน
00:08:17 → 00:08:20 พร้อมที่จะกระจอนขจรขจายกลิ่นออกมาของ
00:08:20 → 00:08:23 เดิมออกมาอยู่ฮะคุณหมอ
00:08:23 → 00:08:26 คือต้องบอกว่ามันคือปัจจัยเสี่ยงมันไม่
00:08:26 → 00:08:28 ใช่เหตุตรงๆ
00:08:28 → 00:08:31 คือการรับประทานอาหารแบบนี้เป็นปัจจัย
00:08:31 → 00:08:33 เสี่ยงที่ทำให้ให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้น
00:08:33 → 00:08:35 ง่ายขึ้นเงี้ยค่ะ
00:08:35 → 00:08:39 แต่ว่าคือคนที่จะเป็นอยู่แล้วเนี่ยคือบาง
00:08:39 → 00:08:42 คนก็คือไม่ต้องทานอาหารอย่างนี้ก็ได้ก็
00:08:42 → 00:08:45 เหม็นเพราะว่าตัวต่อมกลิ่นเขาอ่ะมันผลิต
00:08:45 → 00:08:50 ผลิตสารนี้ออกมาเจอแบคทีเรียก็เกิด
00:08:50 → 00:08:53 แต่ว่าพอไปไปรับประทานอาหารก็อาจจะทำให้
00:08:53 → 00:08:54 แย่ลง
00:08:55 → 00:08:56 [เพลง]
00:08:56 → 00:08:58 เหมือนยังไงดีเหมือนเราเหมือนเราเป็นฝ้า
00:08:58 → 00:09:01 แล้วโดนแดดใช่ไหมถ้าเราก็เลือกสักแดดแล้ว
00:09:01 → 00:09:03 เราสร้างนี่หายอ่ะค่ะ
00:09:03 → 00:09:05 เพราะว่า
00:09:05 → 00:09:08 เพราะว่าคือควรจะเป็นฝ้าก็คือเป็นเป็นมา
00:09:08 → 00:09:09 แล้วไงคะ
00:09:09 → 00:09:14 ถ้ามันแค่ทำให้ดำขึ้นเงี้ยค่ะ
00:09:14 → 00:09:17 หยุดๆเพราะหยุดแล้วก็ดันน้อยลงแต่ไม่หาย
00:09:18 → 00:09:20 นะคะ
00:09:20 → 00:09:24 อาจารย์คะแล้ววิธีการแก้นะคะอาจารย์เรา
00:09:24 → 00:09:27 แบบพอเรารู้แล้วว่าก่อนสมมุติตอนนี้เรา
00:09:27 → 00:09:31 เราจะวิธีมีการแก้ไขยังไงคะคือลดทั้ง
00:09:31 → 00:09:33 แบคทีเรียและกลิ่นในต่อมกลิ่นเราเนี่ยค่ะ
00:09:33 → 00:09:37 เราต้องทำยังไงได้บ้างล่ะคะอาจารย์อันนี้
00:09:37 → 00:09:40 ก็อันที่ 1 เลยนะง่ายๆที่สุดเลยก็คือ
00:09:40 → 00:09:44 สุขอนามัยค่ะเหมือนวิชาสุขศึกษาเลยอาบน้ำ
00:09:44 → 00:09:47 อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
00:09:47 → 00:09:52 แต่เสื้อผ้าที่เนื้อผ้าโปร่งสบายไม่รับนะ
00:09:52 → 00:09:56 คะไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำซักผ้าให้สะอาดอย่าง
00:09:57 → 00:09:59 เงี้ยค่ะถ้าเกิดว่าเล่นกีฬาเหงื่อออกก็
00:09:59 → 00:10:01 รีบไปอาบน้ำ
00:10:01 → 00:10:05 คือทำอย่างไรให้ให้ไม่มีแบคทีเรียสะสม
00:10:05 → 00:10:09 บนผิวหนังของเรามากเกินไปคือแบคทีเรียมัน
00:10:09 → 00:10:14 ก็ดีนะคะแต่ว่าคือเสียมากไปอ่ะค่ะ
00:10:14 → 00:10:19 อาจจะใช้สบู่ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อเป็นครั้ง
00:10:19 → 00:10:21 คราวนี้ทุกวันนะคะ
00:10:21 → 00:10:24 คือแบคทีเรียอย่างที่เรียนก็คือว่า
00:10:24 → 00:10:27 แบคทีเรียมันก็บนผิวหนังเนี่ยบางทีมันก็
00:10:27 → 00:10:30 ช่วยปกป้องผิวเราเหมือนกันก็คือถ้าเราไป
00:10:30 → 00:10:33 ฆ่ามันมากๆเดี๋ยวบางทีก็ราขึ้นมันควรจะ
00:10:33 → 00:10:35 เอาเอาแอลกอฮอล์เช็ดทั้งตัวอย่างเงี้ยก็
00:10:35 → 00:10:40 บางทีราขึ้นได้มันก็ต้องขามันป้องกันมัน
00:10:40 → 00:10:43 เหมือนๆทหารป้องกันเชื้อโรคอื่นด้วยอย่าง
00:10:43 → 00:10:47 เงี้ยค่ะก็คือมีไว้บ้างแต่ว่าเกลี่ยมากไป
00:10:47 → 00:10:49 ก็เลยใช้เป็นครั้งคราว
00:10:49 → 00:10:52 นี้คืออย่างในกรณีที่คนที่อาจจะมีกลิ่น
00:10:52 → 00:10:55 ตัวค่อนข้างจะชัดอย่างนี้หรอที่จะต้องใช้
00:10:55 → 00:10:58 สบู่พวกค่าใช้เป็นครั้งเป็นคราวหรือว่า
00:10:58 → 00:11:01 สามารถใช้ได้กับคนที่อาจจะมีกลิ่นมากหรือ
00:11:01 → 00:11:05 ว่าอาจจะมีกลิ่นน้อยก็ได้ใช้เป็นในแง่
00:11:05 → 00:11:08 ป้องกันก็ได้ค่ะถ้ายังไม่ได้เป็นแต่ว่า
00:11:08 → 00:11:11 เอ่อกลัวว่าตัวจะเหม็นก็ใช้ได้ทั้งนั้นๆ
00:11:11 → 00:11:16 ใช้ทีนึงได้ค่ะ
00:11:16 → 00:11:20 ว่าความร้อนความชื้นอยู่ในที่เย็นๆค่ะ
00:11:20 → 00:11:24 แล้วก็มันจะมีผลิตภัณฑ์ขายสมมุติว่าเอ่อ
00:11:24 → 00:11:27 เราจะเหมือนเป็นแล้วเราก็เดี๋ยวเราจะป้อง
00:11:27 → 00:11:30 กันเราก็ใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้ได้
00:11:30 → 00:11:34 อ่ามันจะมีส่วนประกอบแบบอ่าที่มันไปลดๆ
00:11:34 → 00:11:38 ไม่ให้ไม่ให้ไม่ให้เหงื่อออกมาค่ะนี่ต้าน
00:11:38 → 00:11:40 แบคทีเรียแล้วก็บางทีก็จะใส่น้ำหอมส่วน
00:11:40 → 00:11:42 ใหญ่จะใส่น้ำหอมอ่ะค่ะ
00:11:42 → 00:11:45 เพื่อเพื่อจะกลบกลิ่นนี่แหละค่ะแต่ก็น้ำ
00:11:45 → 00:11:48 หอมก็ต้องระวังแพ้นะคะบางคนก็ใช้ไม่ได้
00:11:48 → 00:11:50 [เพลง]
00:11:50 → 00:11:54 ต้องการการโกนขนก็มีประโยชน์ค่ะมันก็จะลด
00:11:54 → 00:11:57 ลดการสะสมของแบคทีเรีย
00:11:57 → 00:11:59 ทีนี้ถ้าไม่ไหวแล้ว
00:11:59 → 00:12:02 ช่วยตัวช่วยแบบซื้อของอะไรมาใช้แล้วก็ไม่
00:12:03 → 00:12:07 ดีขึ้นอันนี้ก็พบแพทย์
00:12:07 → 00:12:11 เป็นต้นนะคะสูงนะคะ
00:12:11 → 00:12:14 ไม่ไหวจริงๆก็มีการผ่าตัด
00:12:14 → 00:12:21 ทิ้งเลยตรงไหนเหม็น
00:12:21 → 00:12:25 กรณีเรื่องของขนที่มันจะทำให้เกิดพวกความ
00:12:25 → 00:12:27 อับชื้นอะไรอย่างนี้ถ้าอย่างในกรณีคุณผู้
00:12:27 → 00:12:30 ชายทั้งหลายทั้งแหล่คนจักแร้จำเป็นต้องมี
00:12:30 → 00:12:34 ไหมครับมันแสดงถึงความเป็นชาติใช้อะไร
00:12:34 → 00:12:36 แหมผมนี่โดนไล่ไปกวนประจำเลยครับคุณหมอ
00:12:36 → 00:12:41 ครับเก็บไว้ทำไมเก็บไว้เพื่ออะไรเอออะไร
00:12:41 → 00:12:43 อย่างนี้คุณหมอฮะจำเป็นไหมครับถ้าคุณหมอ
00:12:43 → 00:12:44 พูดมาขนาดนี้ผมก็เริ่มคิดแล้วครับคุณหมอ
00:12:44 → 00:12:50 ฮะคิดว่าเอ่อถ้าทำทำกรรมวิธีอื่นทั้งหมด
00:12:50 → 00:12:54 น่ะคิดว่าเอ่อจะทำให้กลิ่นบรรเทาลงได้มาก
00:12:54 → 00:12:57 ค่ะอาจจะไม่จำเป็นต้องโอนค่ะ
00:12:57 → 00:13:00 คือคือการโกนมันเป็นการลดปัจจัยเสี่ยงว่า
00:13:00 → 00:13:04 มีขนแล้วแบบแบคทีเรียมันก็จะมาสะสมตรง
00:13:04 → 00:13:09 ขนนะคะแบบนั้นมากกว่า
00:13:09 → 00:13:12 โอ้มันก็ไม่ไม่ใช่เป็นตัวเหม็นเลยแบบนั้น
00:13:12 → 00:13:16 ค่ะ
00:13:16 → 00:13:23 แต่มันไม่ใช่แบบต้องทำทุกคน
00:13:23 → 00:13:25 ผู้หญิงเขาก็ไม่ได้ชอบผลอยู่แล้วอย่าง
00:13:25 → 00:13:28 เงี้ย
00:13:28 → 00:13:31 อ๋อก็แสดงว่าถ้าในส่วนของคุณผู้ชายก็ก็
00:13:31 → 00:13:35 ถ้าไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ก็ก็เก็บ
00:13:35 → 00:13:39 ไว้ได้ไม่มีปัญหา
00:13:39 → 00:13:41 อะไรอย่างนี้ไป
00:13:41 → 00:13:47 ใช่ค่ะ
00:13:47 → 00:13:53 ด้วยกรรมวิธีอื่นที่เรียนไปอยู่ได้ค่ะ
00:13:53 → 00:13:57 อาจารย์คะเคยได้ยินอันนี้แบบสอดคล้องกับ
00:13:57 → 00:13:59 ที่อาจารย์บอกเลยว่าถ้าสมมุติว่าเราใช้
00:13:59 → 00:14:04 สบู่หรือครีมอาบน้ำที่ผสมแบบการแบบกำจัด
00:14:04 → 00:14:06 เชื้อแบคทีเรียมากเกินไปเนี่ยนอกจากนั้น
00:14:06 → 00:14:09 มันทำให้เราผิวแห้งถ้ามันเป็นเชื้อราได้
00:14:09 → 00:14:12 ยังไงคะอาจารย์อันนี้ถามด้วยความสงสัย
00:14:12 → 00:14:16 ก็คือเขาเรียกว่ามันจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย
00:14:16 → 00:14:19 บนผิวหนังของเราอ่ะค่ะมันจะมีเชื้อประจำ
00:14:19 → 00:14:21 ถิ่นอยู่อ่ะค่ะ
00:14:21 → 00:14:24 เรียกว่าภาษาอังกฤษเป็น comment เศร้า
00:14:24 → 00:14:28 แบคทีเรียคือเป็นเป็นเชื้อที่เหมือนทหาร
00:14:28 → 00:14:32 ป้องกันไม่ให้ไม่ให้เชื้ออื่นๆมารุกรานนะ
00:14:32 → 00:14:33 คะ
00:14:33 → 00:14:37 ซึ่งอาหารนี้ถ้าไปไปกำจัดมันจะหมดเราก็จะ
00:14:37 → 00:14:39 ถูกเชื้ออื่นรุกรานค่ะ
00:14:39 → 00:14:44 ก็จะเกิดเชื้อราขึ้นมา
00:14:44 → 00:14:49 สะอาดเกินไปก็ไม่ดีแต่สกปรก
00:14:49 → 00:14:53 มากๆเลยก็ส่วนใหญ่ก็ถ้าใช้บ่อยๆจะมีการ
00:14:53 → 00:14:56 ระคายเคืองได้ด้วยค่ะ
00:14:56 → 00:14:58 จะมีความแรงอ่ะค่ะ
00:14:58 → 00:15:01 [เพลง]
00:15:01 → 00:15:04 แต่ว่าต้องหยุดต้องมีความพอดีเป็นกลางนิด
00:15:04 → 00:15:05 นึง
00:15:05 → 00:15:07 มีความพอดีอ่ะค่ะ
00:15:07 → 00:15:11 คุณหมอครับ
00:15:11 → 00:15:13 มันมันมี
00:15:13 → 00:15:17 กลิ่นอะไรที่มันออกมาเหมือนหรือแตกต่าง
00:15:17 → 00:15:19 กันยังไงนะครับคุณหมอหรือว่ามันมันจะเป็น
00:15:19 → 00:15:23 ปัจจัยที่ไปช่วยส่งเสริมให้ต่อมกลิ่น
00:15:23 → 00:15:28 เนี่ยมันทำงานได้มากขึ้นนะครับคุณหมอ
00:15:28 → 00:15:36 รบกวนถามอีกทีได้ไหมคะ
00:15:36 → 00:15:39 คุณหมอครับหรือว่ามันมันกลิ่นที่ออกมาจาก
00:15:39 → 00:15:41 ตัวเรานี่คือมันมาจากต่อมกลิ่นอย่างเดียว
00:15:41 → 00:15:43 หรือว่าอาจจะเป็นเพราะว่าไอ้ตัวเหงื่อที่
00:15:43 → 00:15:46 มันออกมาคือมันไปช่วยส่งให้ไอ้ต่อมกลิ่น
00:15:46 → 00:15:53 เนี่ยทำงานได้มากขึ้นนะคุณหมอฮะ
00:15:53 → 00:15:57 แสดงว่าไอ้ที่เขาหลายคนก็พูดไอ้กลิ่น
00:15:57 → 00:15:59 เหงื่อกลิ่นเหงื่อนี่ก็คือมันมันมาจาก
00:15:59 → 00:16:00 ต่อมกลิ่น
00:16:00 → 00:16:02 ก็คือมีความ
00:16:02 → 00:16:06 สับสนุนเรียกรวมกันไปค่ะ
00:16:06 → 00:16:09 ก็คือมันเป็นต่อมคล้ายๆกันน่ะมันอยู่ด้วย
00:16:09 → 00:16:11 กันไง
00:16:11 → 00:16:15 มันอยู่ได้อยู่ใกล้ๆกันไงคะแล้วก็คิดว่า
00:16:15 → 00:16:18 มันจะเป็นความเร็วกัน
00:16:18 → 00:16:20 ก็คือ
00:16:20 → 00:16:24 คนทั่วไปก็จริงๆก็ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ต้องแยก
00:16:24 → 00:16:28 ก็ได้ก็คือมันก็จริงๆมันก็ออกออกมาเพราะ
00:16:28 → 00:16:31 ด้วยการอย่างเงี้ยค่ะแต่ว่าตำแหน่งไหนของ
00:16:31 → 00:16:34 ร่างกายจะมี 2 สิ่งเยอะมากกว่า
00:16:34 → 00:16:37 ก็มีมีทั่วไปหมด
00:16:37 → 00:16:42 จุดที่มันจะมีต่อมกลิ่นผลิตกลิ่นออกมาได้
00:16:42 → 00:16:44 เยอะที่สุดในร่างกายเราในส่วนใหญ่มันจะ
00:16:44 → 00:16:47 อยู่ตรงจุดไหนครับคุณหมอครับ
00:16:47 → 00:16:50 ก็จะมีมีรักแท้
00:16:50 → 00:16:53 เป็นหลักเลยใช่ไหมครับรักแร้
00:16:53 → 00:17:10 หลังหูนะคะบางคนก็ศรีษะก็มีค่ะ
00:17:10 → 00:17:25 [เพลง]
00:17:25 → 00:17:29 เรียกๆให้ตรงข้ามอ่ะค่ะ
00:17:29 → 00:17:35 แต่ว่ากลายเป็นไร่มากกว่า
00:17:35 → 00:17:38 [เสียงหัวเราะ]
00:17:38 → 00:17:43 ค่ะ
00:17:43 → 00:17:46 พอเมื่อกี้เราถามไปแล้วว่าทำไมเหม็นถึง
00:17:46 → 00:17:49 เหม็นนานกลิ่นถึงอยู่ค้างแล้วถ้าหอมนะคะ
00:17:49 → 00:17:52 อาจารย์วิธีทำไมบางคนเหมือนเราเข้าลิฟต์
00:17:52 → 00:17:55 นี้ค่ะอาจารย์อู้หูออกมาแล้วเราก็หากลิ่น
00:17:55 → 00:17:57 ไม่เจอนี่จะเริ่มสยองแล้วถ้าเกิดอยู่ใน
00:17:57 → 00:17:59 ลิฟท์คนเดียวแล้วเกิดไฟดับแล้วมีกลิ่นหอม
00:17:59 → 00:18:01 ๆมาอย่างนี้ค่ะเพราะเราไม่รู้ว่ากลิ่น
00:18:01 → 00:18:03 นั้นมาจากไหนแต่ว่าจริงๆแล้วมันเป็นของคน
00:18:03 → 00:18:06 ก่อนหน้านั้นที่เขาทิ้งทิ้งกลิ่นไว้อ่ะ
00:18:06 → 00:18:09 ค่ะการของติดตัวอย่างเงี้ยค่ะอาจารย์ทำไม
00:18:09 → 00:18:11 บางคนดูเหมือนแบบฉีดไปทั้งตัวหรือบางคน
00:18:11 → 00:18:15 อันนี้มันเป็นเพราะว่ากลิ่นเค้าเอ่อเค้า
00:18:15 → 00:18:18 เรียกว่าคะดูดซึมได้ดีหรอคะรูขุมขนเรา
00:18:18 → 00:18:20 หรือว่าอะไรอย่างเงี้ยน่าจะเป็นรสนิยมการ
00:18:20 → 00:18:23 ใช้น้ำหอมของคนคนนั้นน่ะค่ะ
00:18:23 → 00:18:26 แล้วก็มันก็ผนวกกับกลิ่นตัวด้วยอ่ะค่ะโอ้
00:18:26 → 00:18:29 มีกินเออหมายถึงว่ากลิ่นตัวอาจจะไม่ได้
00:18:29 → 00:18:31 เยอะ
00:18:31 → 00:18:35 คือน้ำหอมที่ไปรวมกับกิ่งตัวค่ะมันก็จะ
00:18:35 → 00:18:38 ได้ได้กลิ่นที่มันที่มันแรงอ่ะเฉพาะขึ้น
00:18:38 → 00:18:39 มา
00:18:39 → 00:18:42 คือคนพวกนี้ก็จะใส่น้ำหอมเยอะอ่ะเยอะจริง
00:18:42 → 00:18:45 ๆอ่ะค่ะอ๋อมันก็เลยจะส่งให้กลิ่นเนี่ยมัน
00:18:45 → 00:18:48 สามารถทำงานได้ดีขึ้นถ้าเราไปเจอน้ำหอม
00:18:48 → 00:18:51 ที่มันถูกกับตัวต่อมกลิ่นของเราอย่างนี้
00:18:51 → 00:18:55 เหรอฮะแต่ว่าเขาฉีดเยอะด้วย
00:18:55 → 00:18:58 มันก็ระเหยเยอะ
00:18:58 → 00:19:02 ตรงไหนมันก็ระเหยมาอยู่ในอากาศ
00:19:02 → 00:19:06 เหมือนเราเข้าไปในห้องที่ฉีดน้ำหอมแต่ว่า
00:19:06 → 00:19:11 เป็นน้ำหอมที่ระเหยออกมาจากตัวคน
00:19:11 → 00:19:15 มันมีคำถามคำถามนึงครับที่มันอาจจะดูดู
00:19:15 → 00:19:17 บื้อๆบ้างแต่ว่ามันผมก็อยากถามเหมือนกัน
00:19:17 → 00:19:20 เพราะว่าถ้าคุณหมอบอกว่าอาหารที่เรากินไป
00:19:20 → 00:19:23 มันส่งผลให้มันมีกลิ่นตัวออกมาแล้วมันมี
00:19:23 → 00:19:26 อาหารอะไรที่มันจะทำให้เราตัวหอมๆได้บ้าง
00:19:26 → 00:19:28 ไหมครับกินใบเตยอย่างนี้มันทำให้ตัวเรา
00:19:28 → 00:19:31 หอมใบเตยอย่างนี้ได้บ้างแม่กิ่งเก๊กฮวย
00:19:31 → 00:19:34 เออมันจะหอมเออหอมๆอ่อนๆอะไรอย่างเงี้ยฮะ
00:19:34 → 00:19:38 คุณหมอฮะไม่อันนี้ไม่มีความรู้เลยค่ะแต่
00:19:38 → 00:19:41 ว่าต้องเบี่ยงเบี่ยงแล้วก็ก็จะได้ความไม่
00:19:41 → 00:19:44 เหม็นแต่ทานอะไรแล้วหอมนี่ไม่เคยได้ยิน
00:19:44 → 00:19:48 เออพอดีมีคุณผู้ฟังทางบ้านเพราะว่าเขาจะ
00:19:48 → 00:19:50 แซวมาเหมือนกันกลิ่นแรงถูกไหมมัน
00:19:50 → 00:19:54 ออกมามันน่าจะเป็นความเป็นความจริงเหม็น
00:19:54 → 00:19:56 อยู่ดีอ่ะกินยังไงได้หอม
00:19:56 → 00:19:59 น่าจะเป็นบุญกุศลที่ทำมาตั้งแต่ชาติก่อน
00:19:59 → 00:20:03 แบบว่าอ้าวเหมือนหนังจักรๆวงๆหนังไทยพื้น
00:20:03 → 00:20:05 บ้านที่แบบกลิ่นตัวหอม
00:20:05 → 00:20:09 นางในวรรณคดีทั้งหลายนะน่าจะเป็นเยี่ยง
00:20:09 → 00:20:12 นั้นไม่มีนะไม่มีไม่มีคุณผู้ฟังทางบ้าน
00:20:12 → 00:20:15 ที่ถามเข้ามาบวกกับความสงสัยของผมเหมือน
00:20:15 → 00:20:17 กันก็จะได้สบายใจว่ามันไม่มีเพราะฉะนั้น
00:20:18 → 00:20:20 สิ่งที่สำคัญก็คือหลีกเลี่ยงการกินอาหาร
00:20:20 → 00:20:24 ที่มันอาจจะเป็นเป็นทำให้เกิดกลิ่นได้ใช่
00:20:24 → 00:20:25 ไหมคุณหมอฮะ
00:20:25 → 00:20:28 คือทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยคือมันก็มีความ
00:20:28 → 00:20:31 ตัดใจแต่ละคนไม่เหมือนกันอย่างที่เรียน
00:20:31 → 00:20:33 คือจะเห็นว่าบางท่านเนี่ยไม่ได้จำเป็น
00:20:33 → 00:20:38 ต้องใช้สารลดกลิ่นอะไรเลยอยู่มาได้จนโตจน
00:20:38 → 00:20:41 อายุมากก็ไม่เคยต้องใช้ไม่เคยเห็นตัว
00:20:41 → 00:20:45 เหม็นก็เคยเห็นนะคะคุณเป็นคนมีบุญแบบแท้
00:20:45 → 00:20:47 ครับคุณหมอนะคะ
00:20:47 → 00:20:54 เขาดีอ่ะเขาไม่เหม็นนะ
00:20:54 → 00:20:59 คะคำว่าต๋องกลิ่นดีเนี่ยมันหมายความว่าไง
00:20:59 → 00:21:02 มันไม่ได้ทำงานเยอะมากอะไรคุณหมอฮะ
00:21:02 → 00:21:06 บัญญัติเอง
00:21:06 → 00:21:11 สร้างออกมาเนี่ยมันมันอาจจะแบบไม่ไม่ไม่
00:21:11 → 00:21:13 ไปเปลี่ยนแปลงเป็นแอมโมเนีย
00:21:13 → 00:21:18 หรือว่ามันไม่เจอแบคทีเรีย
00:21:18 → 00:21:22 อันนี้ก็คือคนมันจะมีกรดไขมันไหลชนิดออก
00:21:22 → 00:21:24 มาแบบนี้ค่ะ
00:21:24 → 00:21:26 ถ้ามันเป็นอาจจะเป็นแบบที่มันไม่ไม่
00:21:26 → 00:21:29 เปลี่ยนเป็น
00:21:29 → 00:21:32 สร้างน้อย
00:21:32 → 00:21:37 ก็แสดงว่าแหมคนนั้นก็ถือว่ามีบุญกุศลใช่
00:21:37 → 00:21:43 ในการที่ไม่ต้องส่งกลิ่นรบกวนคนอื่น
00:21:43 → 00:21:46 แล้วคือคนที่แบบคนที่จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์
00:21:46 → 00:21:52 ดับกลิ่นก็จะมีความทุกข์
00:21:52 → 00:21:56 ไปเรื่อยๆกว่าจะไปเจออันที่ใช่แบบนี้ค่ะ
00:21:56 → 00:22:00 อาจารย์ส่วนใหญ่ก็จะแทนน้ำหอมเลยค่ะที่
00:22:00 → 00:22:03 อยู่ใน
00:22:03 → 00:22:06 ความหวังดีใช่ไหมคะในผลิตภัณฑ์นั้นเพื่อ
00:22:06 → 00:22:07 แบบ
00:22:07 → 00:22:10 ทั้งจากกระจัดกินแล้วเราก็ยังจะให้มันหอม
00:22:10 → 00:22:13 ด้วยใช่ไหมคะแต่ส่วนใหญ่ก็แพงผลิตภัณฑ์ใน
00:22:13 → 00:22:14 ท้องตลาด
00:22:14 → 00:22:18 เป็นส่วนใหญ่เลยใส่ทั้งนั้นเลยอ่ะค่ะยก
00:22:18 → 00:22:21 เว้นยกเว้นฉันส้ม
00:22:21 → 00:22:25 ผัก
00:22:25 → 00:22:29 อันนั้นก็จะมีรุ่นที่ไม่มีน้ำหอมเลยก็มี
00:22:29 → 00:22:34 แต่ว่าบางรุ่นก็มีน้ำหอมจะอยู่ดีนะคะ
00:22:34 → 00:22:39 พวกขายยาจีนโบราณหรือเครื่องเทศอย่างใช่
00:22:39 → 00:22:48 ไหมคะบอกเขาว่าอ๋อขอบคุณครับ
00:22:48 → 00:22:57 คุณหมอครับ
00:22:57 → 00:23:01 ถ้าสำหรับคนแพ้เนาะ
00:23:01 → 00:23:10 เออถ้าเป็นผงมันจะไม่ใช่ค่ะ
00:23:10 → 00:23:12 เหมือนเราเรียนวิทยาศาสตร์คุณหมอครับ
00:23:12 → 00:23:17 กลิ่นที่ออกมาตามตัวเนี่ยกับกลิ่นที่มัน
00:23:17 → 00:23:19 อยู่ที่เท้าของเราเนี่ยมันมาจากต่อมกลิ่น
00:23:19 → 00:23:22 เหมือนกันนะครับคุณหมอครับหรือว่ามันคนละ
00:23:22 → 00:23:23 ส่วนกันครับผมครับ
00:23:23 → 00:23:26 เออมันเกี่ยวข้องกับแบคทีเรียชนิดเดียว
00:23:26 → 00:23:27 กันค่ะ
00:23:27 → 00:23:40 [เพลง]
00:23:40 → 00:23:43 ใช่แต่ว่ามันจะมีโรคผิวหนังบางโรคของเท้า
00:23:43 → 00:23:46 ด้วยอ่ะค่ะที่ที่จะทำให้เท้าเหม็นเท้า
00:23:46 → 00:23:50 เหม็นเป็นรูใช่ไหมคะใช่ค่ะ
00:23:50 → 00:23:55 แพทย์ก็จะให้ให้ยาไปรักษาแบคทีเรียตัวนี้
00:23:55 → 00:24:02 ก็จะดีขึ้นค่ะ
00:24:02 → 00:24:06 ทำความสะอาดตามที่คุณหมอบอกก็แล้วใช้สาร
00:24:06 → 00:24:09 ส้มก็แล้วหรือว่าใช้โรลออนก็แล้วกลิ่นมัน
00:24:09 → 00:24:13 ยังมีอยู่ครับทางทางเลือกต่อไปที่คุณหมอ
00:24:13 → 00:24:14 แนะนำเนี่ย
00:24:14 → 00:24:16 มันควรจะต้องไปถึงถึงขั้นไหนครับผมหมอ
00:24:16 → 00:24:19 ครับเพราะว่าผมมีคนข้างเคียงผมนี่ก็คือ
00:24:19 → 00:24:20 แบบอื้อหือ
00:24:21 → 00:24:23 ดูในห้องแอร์ก็แล้วเปิดพัดลมก็แล้วเหงื่อ
00:24:23 → 00:24:25 ไม่มีเลยโอ้โหสาปดีเหลือเกินคุณหมอครับ
00:24:25 → 00:24:29 ต้องต้องจัดการยังไงดีครับคุณหมอฮะ
00:24:29 → 00:24:32 ก็อาจจะมาพบแพทย์ก่อนค่ะปกติแล้วเราก็จะ
00:24:32 → 00:24:35 ประเมินก่อนว่าเขามีเหงื่อออกคือเขาแก้
00:24:35 → 00:24:38 ปัญหาเรื่องเรื่องเหงื่อออกเยอะได้หรือ
00:24:38 → 00:24:39 เปล่าอ่ะค่ะ
00:24:39 → 00:24:41 เพราะว่าเหงื่อมันก็จะทำให้อับชื้นก็
00:24:41 → 00:24:45 แบคทีเรียโตอีกก็ถ้ายังแก้เรื่องๆเหงื่อ
00:24:45 → 00:24:48 ออกไม่ได้เนี่ยคืออย่างสถาบันโรคผิวหนัง
00:24:48 → 00:24:52 ก็คือทำทำยาเองอ่ะค่ะ
00:24:52 → 00:24:55 ขายปลาอยู่ในห้องยาก็คือแพทย์สั่งให้ใช้
00:24:55 → 00:24:59 ได้จะเป็นเป็นอลูมิเนียมคลอไรด์อ่ะค่ะ
00:24:59 → 00:25:02 เป็นสารเคมีที่เอาไปพัฒนาไปแล้วมันจะไป
00:25:02 → 00:25:04 อุดต่อเหงื่อ
00:25:04 → 00:25:07 อุดมเนื้อก็ทำให้เหงื่อไม่ออกก็ตรงนั้นก็
00:25:07 → 00:25:11 จะแห้งแบคทีเรียก็จะตรงนี้ได้
00:25:11 → 00:25:15 อลูมิเนียมมันก็อยู่ในพวกโรลออนนะ
00:25:15 → 00:25:19 อันนี้จะดีไซน์มาเฉพาะเลยว่ามีเป็น
00:25:19 → 00:25:21 อลูมิเนียมคลอไรด์ที่ไม่มีอย่างอื่นหรือ
00:25:21 → 00:25:24 ไม่มีน้ำหอมไม่มีอย่างอื่นเลยตั้งใจทานลด
00:25:24 → 00:25:27 เหงื่อจริงๆ
00:25:27 → 00:25:31 ค่ะแล้วก็ดูการตอบสนองถ้าเกิดยังไม่ดีเรา
00:25:31 → 00:25:33 ก็จะไปเสด็จถัดไป
00:25:33 → 00:25:36 อันนี้คืออุดถาวรเลยป่ะคะหรือว่าแบบชั่ว
00:25:36 → 00:25:49 คราว
00:25:49 → 00:25:53 มันเหลือไม่ออกมันก็จะเสมือนของท่อนั้น
00:25:53 → 00:25:54 มันก็จะสอบไป
00:25:54 → 00:26:00 แต่ว่ามันก็ถ้าเราหยุดทาค่ะมันก็จะกลับมา
00:26:00 → 00:26:04 อีกก็คือมีกลิ่นตรงไหนทาตรงนั้นหัวเหม็น
00:26:04 → 00:26:06 ทาตรงหัวจั๊กแร้เหม็นทาตรงจั๊กแร้แบบนั้น
00:26:06 → 00:26:10 แหละครับคุณหมอ
00:26:10 → 00:26:13 ขึ้นค่ะเพราะว่ามันจะทายยาก
00:26:13 → 00:26:18 ไม่ได้ให้ทาสีแต่ว่าอย่างมือเท้าเนี่ยก็
00:26:18 → 00:26:24 มีให้ทานคนที่เหงื่อเหงื่อออกมากๆค่ะ
00:26:24 → 00:26:30 [เพลง]
00:26:38 → 00:26:41 บริเวณที่มันมี
00:26:41 → 00:26:46 กลิ่นก็ก็ช่วยได้อย่างนั้นเหรอฮะแต่ช่วย
00:26:46 → 00:26:51 ได้แต่ก็ชั่วคราวเช่นเดียวกันค่ะ
00:26:51 → 00:26:54 ผมยัง 6 เดือน 3 เดือนอะไรประมาณเนี้ย
00:26:54 → 00:26:58 ครับจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน
00:26:58 → 00:27:02 แต่ว่าราคาก็ใช้ได้เอาเรื่องค่ะ
00:27:02 → 00:27:07 เป็นหลัก
00:27:07 → 00:27:11 กรณีอ่ะโบท็อกแล้วยังไม่อยู่คุณหมอบอกว่า
00:27:11 → 00:27:13 ถึงขั้นต้องไปผ่าตัดเลยใช่ไหมครับคุณหมอ
00:27:13 → 00:27:13 ครับ
00:27:14 → 00:27:16 ก็คือถ้าสมมุติว่าตรงนั้นคือเป็นบริเวณ
00:27:16 → 00:27:20 ที่ดื้อต่อการรักษาจริงๆอ่ะค่ะ
00:27:20 → 00:27:24 เป็นอาจจะเป็น area เล็กๆตรงนั้นที่ที่
00:27:24 → 00:27:28 ดื้อจริงๆนะคะก็จะมีพิจารณาทำ
00:27:28 → 00:27:51 คืออันนี้ไม่เคยไม่เคยไปถึงจุดนั้นเลยค่ะ
00:27:51 → 00:27:54 คือว่าเราได้ฟังจากอาจารย์แล้วก็อ๋อมันมี
00:27:54 → 00:27:58 อย่างนี้ด้วยเนาะว่าถ้าเราแบบไม่แน่นแบบ
00:27:58 → 00:28:02 น้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเกินไปก็ไม่ดี
00:28:02 → 00:28:05 ปล่อยให้เท้าเหม็นเป็นรูก็ไม่ได้แต่ว่า
00:28:05 → 00:28:08 การรักษาก็มีหลากหลายแล้วก็รวมถึงเรื่อง
00:28:08 → 00:28:11 ของการเรียกอาจารย์คะแต่ว่าอยากให้ช่วง
00:28:11 → 00:28:13 ท้ายรายการแล้วใครอยากให้อาจารย์ให้คำแนะ
00:28:13 → 00:28:15 นำนิดนึงค่ะเพราะช่วงหน้าฝนเพื่อป้องกัน
00:28:15 → 00:28:18 แบบสภาวะการอับชื้นของตนเองเราไม่ทำกลิ่น
00:28:18 → 00:28:22 เราไปรบกวนคนอื่นแล้วเพื่อเพื่อเริ่มต้น
00:28:22 → 00:28:23 จากตัวเราค่ะเริ่มต้นจากตัวเราว่าเราควร
00:28:24 → 00:28:26 ทำตัวยังไงลดกลิ่นแล้วเราจะถ้าเราไม่
00:28:26 → 00:28:29 สามารถเพิ่มความหอมโดย
00:28:29 → 00:28:33 เอ่อเขาเรียกว่าบุญของเราที่เราทำมาใน
00:28:33 → 00:28:35 ชาติก่อนแล้วเราอาจจะไม่มีทางเข้าเราต้อง
00:28:35 → 00:28:37 ทำยังไงบ้าง
00:28:37 → 00:28:40 แล้วเราจะเหมือนแบบเอ่อเอเชียใต้หรือ
00:28:40 → 00:28:42 เปล่าที่ว่ามันก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น
00:28:42 → 00:28:44 อะไรเงี้ยค่ะอาจารย์อยากให้อาจารย์ให้คำ
00:28:44 → 00:28:46 แนะนำตอนสุดท้ายนิดนึงค่ะ
00:28:46 → 00:28:49 ก็คือคือจำง่ายๆค่ะก็คือกลิ่นตัวนี้มันมา
00:28:49 → 00:28:53 จากมีสาเหตุภายในกับสาเหตุภายนอกหรือ
00:28:53 → 00:28:55 สาเหตุภายในก็คือแบบสารที่สร้างจากต่อม
00:28:55 → 00:28:58 เหงื่อซึ่งเราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อัน
00:28:58 → 00:29:01 นี้คือบุญเก่าถูกไหมคะอ่าทีนี้ปัจจัยภาย
00:29:01 → 00:29:03 นอกนี่เรา Modify ได้อ่ะค่ะก็คือ
00:29:03 → 00:29:08 แบคทีเรียใช่ไหมคะเอ่อหรือความอับชื้นพวก
00:29:08 → 00:29:10 เนี้ยคือแบคทีเรียแล้วก็รักษาสุขภาพ
00:29:10 → 00:29:14 อนามัยให้ดีอ่ะค่ะซักเสื้อผ้าให้สะอาดไม่
00:29:14 → 00:29:17 ใส่ซ้ำอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง
00:29:17 → 00:29:22 ใส่เสื้อผ้าที่ไม่อับชื้นให้มันตรงโปร่ง
00:29:22 → 00:29:23 ผ้าระบายอากาศ
00:29:23 → 00:29:29 แล้วก็ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ที่ดับกลิ่นคือโดย
00:29:29 → 00:29:32 ทั่วไปทำแบบนี้คนส่วนใหญ่ก็จะแก้ปัญหาได้
00:29:32 → 00:29:33 ค่ะ
00:29:33 → 00:29:43 นะคะเบื้องต้นเลยเนาะคุณหมอนะ
00:29:43 → 00:30:21 ให้ดีมันก็จะอยู่ได้ค่ะ
00:30:21 → 00:30:25 อืมครับได้ครับวันนี้ก็เรียกว่าได้ฟังคุณ
00:30:25 → 00:30:29 หมอแล้วก็ผมเชื่อว่าน่าจะผลบุญที่คุณหมอ
00:30:29 → 00:30:32 ได้มาบอกกล่าวและน่าจะทำให้เราสองคนรวม
00:30:32 → 00:30:35 ทั้งคุณผู้ฟังหลายๆท่านเนี่ยมีกลิ่นตัว
00:30:35 → 00:30:39 ที่หอมหวนชวนฝันกันมากขึ้นนะฮะเออแนวทาง
00:30:39 → 00:30:40 ในการปฏิบัติตัวนะครับวันนี้ต้องกราบ
00:30:40 → 00:30:43 ขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะคุณหมอครับ
00:30:43 → 00:30:47 ขอบคุณครับคุณหมอครับ