00:00:00 → 00:00:03 ถ้าเราเป็นเบาหวานชนิดไหนกันแน่หลายท่าน
00:00:03 → 00:00:06 จะได้ยินประโยคที่หมอสรุปให้ฟังหลายคลิป
00:00:06 → 00:00:09 แล้วนะครับว่าเบาหวานเป็นโรคที่เกิดจาก
00:00:09 → 00:00:13 น้ำตาลค้างในเลือดเยอะจนไปทำลายอวัยวะ
00:00:13 → 00:00:16 อื่นๆส่วนคนที่ไม่ได้เป็นเบาหวานเกิดจาก
00:00:16 → 00:00:19 การที่ร่างกายเขาสามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้
00:00:19 → 00:00:22 ตามปกติก็เลยไม่เกิดภาวะน้ำตาลค้างในหลอด
00:00:22 → 00:00:25 เลือดข้าวนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราเป็น
00:00:25 → 00:00:27 เบาหวานชนิดไหนก่อนอื่นเลยอยากให้ทุกท่าน
00:00:27 → 00:00:31 ตั้งใจดูภาพนี้นะครับคันแรกเวลาที่เราทาน
00:00:31 → 00:00:35 อาหารไปเรากินข้าวกระเพราหมูสับไข่ดาว
00:00:35 → 00:00:38 เข้าไปเราก็ต้องเคี้ยวแล้วก็ย่อยให้อาหาร
00:00:38 → 00:00:41 เล็กลงจนสามารถดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด
00:00:41 → 00:00:46 ได้คราวนี้อาหารที่เข้าไปในหลอดเลือดเวลา
00:00:46 → 00:00:50 เราจะเอาพลังงานจากอาหารเนี่ยมาใช้เราจะ
00:00:50 → 00:00:54 ต้องนำเข้าสู่เซลล์ก่อนครับร่างกายเราไม่
00:00:54 → 00:00:56 สามารถเอาน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้เลยโดยตรง
00:00:56 → 00:01:01 เราจะต้องอาศัยคนพาน้ำตาลเสียดายคนพาเข้า
00:01:01 → 00:01:04 ไปเนี่ยจะได้มาจากอวัยวะหนึ่งชื่อว่าตับ
00:01:04 → 00:01:07 อ่อนเป็นอวัยวะที่อยู่ตรงกลางนะครับตับ
00:01:07 → 00:01:12 อ่อนมีหน้าที่ที่ผลิตคนพาน้ำตาลเข้าไปสู่
00:01:12 → 00:01:16 เซลล์เพื่อนำไปใช้คนพาคนนี้ชื่อว่า Inn
00:01:16 → 00:01:19 สุรินทร์ให้ทุกท่านจำแค่สองคำนี้นะครับ
00:01:19 → 00:01:24 ตับอ่อนมีหน้าที่ผลิตคนพาน้ำตาลเข้าไปสู่
00:01:24 → 00:01:27 เซลล์ส่วนคนพาน้ำตาลเข้าไปสู่เซลล์ชื่อ
00:01:27 → 00:01:31 ว่าอินซูลินข้าวนี้กระบวนการเบาหวานเกิด
00:01:31 → 00:01:34 ขึ้นตอนไหนเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากตับ
00:01:34 → 00:01:39 อ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินขึ้นมาได้ทำให้
00:01:39 → 00:01:43 ไม่มีคนพาน้ำตาลเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็น
00:01:43 → 00:01:46 พลังงานน้ำตาลก็เลยค้างในหลอดเลือดเยอะไป
00:01:46 → 00:01:50 ทำลายอวัยวะต่างๆการรักษาก็ต้องฉีด
00:01:50 → 00:01:53 อินซูลินเข้าไปเพื่อพาน้ำตาลเข้าไปอันนี้
00:01:53 → 00:01:56 คือเบาหวานชนิดที่ 1 ส่วนเบาหวานชนิดที่ 2
00:01:56 → 00:02:00 เกิดจากตับอ่อนสามารถผลิตอินซูลินได้มี
00:02:00 → 00:02:04 แต่อินซูลินหรือคนพาน้ำตาลเข้าสู่เซลล์
00:02:04 → 00:02:07 เนี่ยไม่สามารถผ่าเข้าไปได้เนื่องจากมี
00:02:07 → 00:02:11 ภาวะต้านอินซูลินน้ำตาลก็เลยไม่สามารถ
00:02:11 → 00:02:14 เข้าสู่เซลล์ได้น้ำตาลก็เลยค้างในหลอด
00:02:14 → 00:02:16 เลือดแบบที่ 2 นะครับตับอ่อนยังคงผลิต
00:02:16 → 00:02:20 อินซูลินได้แต่ไม่สามารถออกฤทธิ์ได้คราว
00:02:20 → 00:02:22 นี้เราจะรู้ได้ยังไงล่ะแล้วตัวเราเป็นแบบ
00:02:22 → 00:02:26 ไหนผลิตอินซูลินไม่ได้หรือว่าผลิตได้แต่
00:02:26 → 00:02:29 ไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ถ้าเราอยากรู้แบบชัด
00:02:29 → 00:02:31 เจนเลยต้องไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาลนะครับ
00:02:31 → 00:02:35 อันนี้ก็จะมีค่าความแม่นยำมากถึง 99% เลย
00:02:35 → 00:02:38 เราจะตรวจการทำงานของตับอ่อนแล้วก็ตรวจ
00:02:38 → 00:02:40 ภูมิคุ้มกันว่ามีอะไรไปทำลายตับอ่อนเรา
00:02:41 → 00:02:43 หรือเปล่าแต่ทางที่สะดวกกว่านั้นหมออยาก
00:02:43 → 00:02:46 จะแนะนำแบบนี้ให้ดูจากประวัติและความ
00:02:46 → 00:02:48 เสี่ยงเป็นหลักอันนี้ก็มีความแม่นยำถึง
00:02:48 → 00:02:51 90% เลยนะครับในเบาหวานชนิดที่ 1 ส่วน
00:02:51 → 00:02:55 ใหญ่แล้วคนไข้จะเป็นกลุ่มอายุน้อยๆตัวผอม
00:02:55 → 00:02:58 ๆต้องฉีดอินซูลินเลยไม่สามารถกินยาได้
00:02:58 → 00:03:02 หลังฉีดอินซูลินออกจากตัวผอมๆก็จำดูมีน้ำ
00:03:02 → 00:03:05 มีนวลขึ้นและสามารถเกิดขึ้นได้ในอายุเยอะ
00:03:05 → 00:03:07 ๆได้เช่นเดียวกันนะครับส่วนแบบที่ 2
00:03:07 → 00:03:11 ประวัติก็คือคนไข้ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่น้ำ
00:03:11 → 00:03:14 หนักตัวเยอะพฤติกรรมการทานไม่ดีกินยา 1
00:03:14 → 00:03:16 เม็ดเพิ่มเป็น 2 เม็ดเพิ่มเป็น 3 เม็ด
00:03:16 → 00:03:19 หรือบางคนถึงขนาดต้องฉีดอินซูลินเลยกลุ่ม
00:03:19 → 00:03:22 นี้จะมีมากถึง 90% อย่างที่บ่ได้บอกไปนะ
00:03:22 → 00:03:26 ครับแล้วคุณหลังจากฟังคลิปนี้จบคุณเป็น
00:03:26 → 00:03:28 แบบไหนครับหลังจากเรารู้ว่าเราเป็นชนิด
00:03:28 → 00:03:32 ไหนแล้วเราก็จะเลือกการรักษาได้ถูกต้อง
00:03:32 → 00:03:35 สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกท่านหายจากเบาหวาน
00:03:35 → 00:03:38 การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐอยู่กับผม
00:03:38 → 00:03:42 หมอแบงค์รสยาว