00:00:00 → 00:00:22 สวัสดีครับวันนี้ผมจะพูดเกี่ยวข้องกับเรื่องของกาแฟนะครับว่ากินแค่ไหนถึงจะมีประโยชน์กินแค่ไหนแล้วมันมีโทษนะครับคนไหนที่ควรไม่ควรกินแล้วกาแฟมันไปทำอะไรในร่างกายเราบ้างนะครับก็เดี๋ยวเราคุยกันเรื่องนี้นะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ธานีธนียวรรณนะครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานะครับเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัด
00:00:22 → 00:00:43 สำหรับเรื่องของกาแฟนั้นผมเคยเอามาคุยเมื่อนานมากแล้วนะครับก็เลยอยากจะเอามารื้อฟื้นอีกรอบนึงนะครับกาแฟเนี่ยมันมีสารตัวหนึ่งในนั้นที่เรียกว่าคาเฟอีนนะครับจริงๆแล้วก็มีเครื่องดื่มหลายประเภทนะครับซึ่งมีคาเฟอีนอยู่นะฮะ
00:00:43 → 00:00:44 คาเฟอีนเหล่านี้เนี่ยครับเข้าไปในร่างกายเรามันก็จะไปยับยั้งตัวรับตัวนึงนะครับในสมองเราซึ่งเรียกว่า
00:00:44 → 00:00:48 adenosine resetter
00:00:48 → 00:00:49 มันก็จะมีชนิดต่างๆนะครับเช่นชนิดอ่าที่ 1
00:00:49 → 00:01:13 ชนิดที่ 2a
00:01:13 → 00:01:14 นะครับอันนี้เป็นต้นมันก็จะไปจับกับตัวรับตัวนี้ทำให้สมองของเรามีการตื่นตัวนะครับเพราะว่าถ้ามีสารอะดรีโนซีนมาจับกับตัวรับของมันเราก็จะมีอาการตรงกันข้ามนะครับคืออาการง่วงเหงาหาวนอนนะครับซึ่งสารแอนิโนซีนเนี่ยถ้ามันมากขึ้นเรื่อยๆมันจะทำให้เราง่วงนอนนั่นเองนะครับแล้วนั่นก็เป็นกลไกอย่างหนึ่งที่ร่างกายบอกว่าเออเราควรจะนอนได้แล้วคาเฟอีนเนี่ยมันไปจับกับตัวรับตัวนี้แทนทำให้ตัว
00:01:14 → 00:01:15 adenosine
00:01:15 → 00:01:25 มันไม่สามารถจับกับตัวรับได้ดังนั้นเราก็จะมีการตื่นตัวนั่นเองนะครับแต่ผลของมันก็จะไม่ใช่มีแค่การตื่นตัวอย่างเดียวนะครับมันก็จะมีผลอื่นๆตามมาด้วยเช่น
00:01:25 → 00:01:28 ในระยะที่เรากินเข้าไปใหม่ๆเราจะสังเกต
00:01:28 → 00:01:31 ว่าเรารู้สึกมีสมาธิมากขึ้นนะครับเรา
00:01:31 → 00:01:34 โฟกัสกับงานได้มากขึ้นแต่ผลเสียของมันก็
00:01:34 → 00:01:36 มีเหมือนกันนะครับก็คือเราอาจจะมีการใจ
00:01:36 → 00:01:40 สั่นได้คนที่มีโรคหัวใจที่ทำให้ใจสั่น
00:01:40 → 00:01:42 แล้วมันมีปัญหาต่างๆเนี่ยเช่นคนที่เป็น
00:01:42 → 00:01:45 Panic นะครับคนที่มีการเต้นผิดปกติต่างๆ
00:01:45 → 00:01:47 ของหัวใจพวกนี้ก็จะเป็นมากขึ้นได้นะครับ
00:01:47 → 00:01:50 บางคนก็จะมีการเคลื่อนไหวของลำไส้มากขึ้น
00:01:50 → 00:01:52 นะครับการเคลื่อนไหวของลำไส้มันจะทำให้
00:01:52 → 00:01:56 เราเกิดอะไรขึ้นมาบ้างนะครับอย่างแรกบาง
00:01:56 → 00:01:58 คนอาจจะทำให้ขับถ่ายได้ดีขึ้นแต่ถ้ามัน
00:01:58 → 00:02:01 มากเกินไปบางคนก็อาจจะท้องเสียนะครับหรือ
00:02:01 → 00:02:04 บางคนก็อาจจะมีอาการกรดไหลย้อนดังนั้นคน
00:02:04 → 00:02:06 ไหนที่มีโรคกรดไหลย้อนโรคกระเพาะเนี่ยนะ
00:02:06 → 00:02:09 ครับควรจะต้องเลี่ยงกาแฟนะครับถ้าจะกินก็
00:02:09 → 00:02:11 ควรจะไปกินหลังอาหารนะครับแบบนี้เป็นต้น
00:02:11 → 00:02:12 นะฮะ
00:02:12 → 00:02:15 นอกเหนือจากนี้มันยังทำให้เราปัสสาวะบ่อย
00:02:15 → 00:02:18 มากขึ้นนะครับตัวมันเองเนี่ยจะเป็นตัวขับ
00:02:18 → 00:02:22 ปัสสาวะนะฮะแล้วมันไม่ใช่คือมันอาจจะช่วย
00:02:22 → 00:02:24 ในแง่ของการขับปัสสาวะแต่ข้อเสียของมันก็
00:02:24 → 00:02:28 มีนะครับก็คือบางคนจะเกิดการขาดน้ำได้นะ
00:02:28 → 00:02:30 ครับถ้าเราดื่มน้ำเข้าไปไม่เพียงพอเพราะ
00:02:30 → 00:02:33 ว่าบางคนก็อาจจะบอกว่าปัสสาวะเราเนี่ยเรา
00:02:33 → 00:02:36 จะดื่มน้ำแค่ไหนเราก็ดื่มน้ำที่ทำให้
00:02:36 → 00:02:39 ปัสสาวะของเรามันใสเป็นใช้ได้แต่ว่ามัน
00:02:39 → 00:02:41 ใช้ไม่ได้ในกรณีที่เราดื่มกาแฟครับเพราะ
00:02:41 → 00:02:44 ว่ากาแฟมันเป็นยาขับปัสสาวะอย่างหนึ่งจะ
00:02:44 → 00:02:46 ทำให้ปัสสาวะของเรามันรู้สึกใสนะครับแล้ว
00:02:46 → 00:02:49 มันก็จะไม่เป็นถ้าเราจะเอาความใสของ
00:02:49 → 00:02:51 ปัสสาวะเป็นตัวบ่งบอกว่าเราดื่มน้ำเพียง
00:02:51 → 00:02:54 พอไม่ได้แล้วครับในกรณีที่ท่านดื่มกาแฟนะ
00:02:54 → 00:02:56 ครับเพราะว่ามันจะเป็นการขับปัสสาวะออกไป
00:02:56 → 00:02:59 เยอะทำให้ปัสสาวะมันดูใสแต่ว่าจริงๆตัว
00:02:59 → 00:03:02 ท่านนี้ขาดน้ำครับท่านก็ต้องดื่มน้ำเข้า
00:03:02 → 00:03:05 ไปเพิ่มกว่าปกตินั่นเองนะครับอ่า
00:03:05 → 00:03:09 ต่อมาก็คือว่านี่เป็นผลระยะสั้นนะครับผล
00:03:09 → 00:03:11 ระยะยาวที่มันมีข้อดีแล้วก็ข้อเสียนะครับ
00:03:12 → 00:03:15 ข้อดีของมันอย่างนึงก็คือมันเป็นเอ่อ
00:03:15 → 00:03:17 คาเฟอีนเนี่ยมันเป็นตัวที่ทำให้เราขยาย
00:03:17 → 00:03:19 หลอดลมการหายใจเราก็จะโล่งขึ้นนะครับอ่า
00:03:19 → 00:03:22 ระยะยาวมันจะเปลี่ยนแปลงกระบวนการเอ่อ
00:03:22 → 00:03:25 เรื่องของน้ำตาลร่างกายของเรานะครับก็อาจ
00:03:25 → 00:03:27 จะทำให้เราเป็นเบาหวานได้ยากขึ้นบางคนก็
00:03:27 → 00:03:29 มีปัญหาทางด้านของอัลไซเมอร์ได้น้อยลง
00:03:30 → 00:03:32 ความจำเสื่อมบางคนก็อาจจะดีขึ้นบ้างนะ
00:03:32 → 00:03:34 ครับแต่ว่ามันไม่ได้มากขนาดนั้นนะครับแต่
00:03:34 → 00:03:37 อย่างไรก็ตามอาจจะมีผลช่วยนะได้ด้านพวก
00:03:37 → 00:03:41 นั้นด้วยไม่มากก็น้อยนะครับอ่าการทานกาแฟ
00:03:41 → 00:03:44 ที่มากเกินไปนั้นบางคนก็มีโรคกระดูกพรุน
00:03:44 → 00:03:47 โดยเฉพาะถ้าการทานคาเฟอีนเกิน 800 mg
00:03:47 → 00:03:50 ต่อวันซึ่งถือว่าเยอะมากๆนะครับกาแฟแก้ว
00:03:50 → 00:03:52 นึงเนี่ยก็มีตั้งแต่ประมาณสัก 50
00:03:52 → 00:03:53 มิลลิกรัมจนถึง 100 มิลลิกรัมหรือ
00:03:53 → 00:03:56 บางยี่ห้อมันอาจจะมากกว่านั้นนะครับถ้า
00:03:56 → 00:03:59 ท่านเกินทานแบบ 8-9 ต่อวันนะครับมีปัญหา
00:03:59 → 00:04:04 แน่ๆนะครับส่วนใหญ่แล้วเราจะแนะนำว่าถ้า
00:04:04 → 00:04:07 ท่านดื่มกาแฟนะครับหรือท่านได้คาเฟอีน
00:04:07 → 00:04:09 เข้าไปด้วยวิธีอะไรก็แล้วแต่นะครับอย่า
00:04:09 → 00:04:13 ให้มันเกิน 400 mg ต่อวันอย่าเกิน 400
00:04:13 → 00:04:14 มิลลิกรัมต่อวันนั่นคือปลอดภัยที่สุดแล้ว
00:04:14 → 00:04:17 ถ้าเกิน 400 mg ต่อวันเนี่ยมันมักจะมี
00:04:17 → 00:04:19 ปัญหาแล้วนะครับ
00:04:19 → 00:04:22 คาเฟอีนมันมาจากไหนได้บ้างนะครับนอกเหนือ
00:04:22 → 00:04:23 จากกาแฟแล้วมันจะมีที่มาอย่างอื่นกาแฟ
00:04:24 → 00:04:25 เนี่ยอย่างที่เมื่อกี้ผมบอกมันมีตั้งแต่
00:04:25 → 00:04:28 แก้วละประมาณ 50 มิลลิกรัมจนถึงประมาณ 100
00:04:28 → 00:04:29 กว่านะครับแต่ส่วนใหญ่จะเฉลี่ยอยู่ที่
00:04:29 → 00:04:33 ประมาณสัก 75-95 มิลลิกรัมต่อแก้วนะครับ
00:04:33 → 00:04:36 อ่านั้นโดยเฉลี่ยนะนี่คือกาแฟดำแล้วถ้า
00:04:36 → 00:04:38 เราจะดื่มแนะนำว่าต้องเป็นกาแฟดำนะครับ
00:04:38 → 00:04:40 เพราะว่าถ้าเราใส่อย่างอื่นอย่างเช่นน้ำ
00:04:40 → 00:04:43 ตาลครีมเทียมอะไรพวกนี้ต่างๆลงไปก็จะได้
00:04:43 → 00:04:46 ทำให้เราได้แคลอรี่มากขึ้นบางคนดื่มมากๆ
00:04:46 → 00:04:49 ก็จะเป็นเบาหวานที่มากกว่าปกตินะครับดัง
00:04:49 → 00:04:51 นั้นกาแฟที่ปลอดภัยที่สุดแล้วมันมีผลดีก็
00:04:51 → 00:04:54 คือกาแฟดำนั่นเองเพราะว่าในตัวกาแฟดำนั้น
00:04:54 → 00:04:56 นอกเหนือจากมันมีสารคาเฟอีนซึ่งกระตุ้น
00:04:56 → 00:04:59 ร่างกายในทางที่ดีแล้วนะครับมันก็ยังมี
00:04:59 → 00:05:01 สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆอยู่ในนั้นมี
00:05:01 → 00:05:03 โพแทสเซียมมีฟอสฟอรัสบางอย่างอยู่ในนั้น
00:05:03 → 00:05:05 ที่ทำให้เราได้เกลือแร่เข้าไปด้วยเช่นกัน
00:05:05 → 00:05:08 นะครับดังนั้นถ้าเราจะดื่มดื่มกาแฟดำแล้ว
00:05:08 → 00:05:11 ก็คาเฟอีนเนี่ยไม่ควรจะเกิน 400 mg ต่อ
00:05:11 → 00:05:13 วันก็คือเทียบเท่ากับกาแฟประมาณ 4-5 แก้ว
00:05:13 → 00:05:15 ต่อวันนั้นเองนะครับ
00:05:15 → 00:05:19 เวลาดื่มเราควรจะดื่มโดยการจิบทีละน้อยที
00:05:19 → 00:05:21 ละน้อยอย่าไปดื่มรวดเดียวหมดนะครับการ
00:05:21 → 00:05:24 ดื่มรวดเดียวหมดนี้มันทำให้เกิดปัญหาอยู่
00:05:24 → 00:05:26 2-3 อย่างอย่างแรกคือเราจะดื้อกาแฟแล้ว
00:05:26 → 00:05:28 เราจะต้องดื่มมันมากขึ้นเรื่อยๆนะครับอ่า
00:05:28 → 00:05:30 นะฮะแล้วยิ่งดื่มมากขึ้นเรื่อยๆผลเสียก็
00:05:30 → 00:05:32 จะมากตามไปด้วยนะครับเราจะดื่มแต่พอ
00:05:33 → 00:05:35 ประมาณนะฮะถ้าเราดื่มแบบรวดเดียวหมดเนี่ย
00:05:35 → 00:05:38 อ่าโอเคเราตื่นตัวแต่สักพักมันจะลงมา
00:05:38 → 00:05:39 เหมือนเดิมแล้วเราต้องดื่มเข้าไปใหม่มัน
00:05:39 → 00:05:41 ก็ตื่นตัวใหม่แล้วเดี๋ยวเราก็ลงไปเหมือน
00:05:41 → 00:05:43 เดิมมันจะยิ่งทำให้เราดื้อกับแฟนเราต้อง
00:05:43 → 00:05:45 ดื่มมากขึ้นเรื่อยๆดังนั้นการที่จะดื่ม
00:05:45 → 00:05:47 กาแฟให้มีประโยชน์เราก็ได้ผลจริงๆคือการ
00:05:47 → 00:05:50 ค่อยๆจิบครับนะแล้วหลังจากเที่ยงเป็นต้น
00:05:50 → 00:05:53 ไปแล้วอย่าพยายามดื่มกาแฟเพราะว่ามันมัก
00:05:53 → 00:05:55 จะมีผลต่อการนอนหลับเราไม่มากก็น้อยนะ
00:05:55 → 00:05:58 ครับอันนี้ถ้าคนไหนที่ดื่มกาแฟแล้วไม่มี
00:05:58 → 00:06:00 ผลอะไรเลยก็ไม่มีปัญหานะครับอย่างผมเนี่ย
00:06:00 → 00:06:02 ถ้าผมดื่มกาแฟก่อนนอนผมไม่เกิดปัญหาอะไร
00:06:02 → 00:06:05 ขึ้นมาแต่ท่านที่มีปัญหาด้านการนอนหลับมี
00:06:05 → 00:06:08 ปัญหาด้านเครียดวิตกกังวลแพนิคง่ายตื่นตก
00:06:08 → 00:06:10 ใจง่ายอย่าดื่มหลังเที่ยงครับเพราะว่า
00:06:10 → 00:06:12 ท่านจะยิ่งมีปัญหาพวกนี้มากขึ้นกว่าปกติ
00:06:12 → 00:06:15 ด้วยซ้ำไปนะครับ
00:06:15 → 00:06:18 แล้วกาแฟเนี่ยนะครับแน่นอนครับคาเฟอีนมัน
00:06:18 → 00:06:20 มีแหล่งที่มาอย่างอื่นเช่นน้ำอัดลมนะครับ
00:06:20 → 00:06:23 น้ำอัดลมนี่ก็ในโค้กกระป๋องนึงหรือว่าใน
00:06:23 → 00:06:26 อะไรพวกนั้นมาลงพวกนี้จะมีประมาณสัก 35
00:06:26 → 00:06:29 mg หรือ 37 มิลลิกรัมต่อกระป๋องนะครับ
00:06:29 → 00:06:32 ดังนั้นพวกนี้ก็จะเป็นสิ่งที่เด็กที่เขา
00:06:32 → 00:06:35 ชอบกินของพวกนี้ก็จะได้ไปด้วยในชาก็จะมี
00:06:35 → 00:06:39 นะครับชาก็จะมีประมาณสักอ่า 48-50 mg
00:06:39 → 00:06:43 ต่อแก้วนะครับประมาณนั้นนะฮะแล้วนอกเหนือ
00:06:43 → 00:06:45 จากนั้นคือท่านบางท่านก็ถามว่าอ้าวแล้ว
00:06:45 → 00:06:50 พวกกาแฟดีครับดีแคทมีคาเฟอีนไหมมีครับมี
00:06:50 → 00:06:52 ประมาณสัก 2 มิลลิกรัมนะฮะต่อแก้ว 2
00:06:52 → 00:06:54 มิลลิกรัมคือไม่ได้เป็น 0 นะครับมี 2
00:06:54 → 00:06:55 มิลลิกรัมนะ
00:06:55 → 00:06:58 ช็อกโกแลตก็มีมีนะครับมีประมาณสักบางทีก็
00:06:58 → 00:07:00 10 มิลลิกรบางทีก็อาจจะน้อยกว่านั้นแล้ว
00:07:00 → 00:07:01 แต่ว่ายี่ห้อไหนนะครับยิ่ง Dark
00:07:01 → 00:07:04 Chocolate ก็อาจจะมีเยอะหน่อยนะครับอ่า
00:07:04 → 00:07:08 คำถามก็เลยมาที่ว่าเออในเมื่อเรารู้แล้ว
00:07:08 → 00:07:10 ว่าเราไม่ควรจะกิน
00:07:10 → 00:07:14 คาเฟอีนเกิน 400 mg ต่อวันแล้วมันมีคน
00:07:14 → 00:07:17 รันนีไหนไหมที่ไม่ควรกินแล้วก็อายุแค่ไหน
00:07:17 → 00:07:20 เราไม่ควรกินคาเฟอีนนะครับคือโดยทั่วไป
00:07:20 → 00:07:23 แล้วในเด็กต่ำกว่า 12 ปีเนี่ยนะครับไม่
00:07:23 → 00:07:26 ควรกินคาเฟอีนนะครับไม่ควรกินแต่ว่าเด็ก
00:07:26 → 00:07:28 เดี๋ยวนี้ก็จะได้คาเฟอีนได้มาจากไหนครับ
00:07:28 → 00:07:30 น้ำอัดลมไงครับ
00:07:30 → 00:07:34 น้ำอัดลมช็อคโกแลตขนมที่มันมีคาบูอีนพวก
00:07:34 → 00:07:36 นี้ก็จะมาที่เด็กเขาชอบพวกน้ำอัดลมเนี่ย
00:07:36 → 00:07:40 ได้ไปเต็มๆนะครับคือได้อะไรบ้างในน้ำอัด
00:07:40 → 00:07:44 ลมได้คาเฟอีนใต้อะไรอีกครับน้ำตาลแล้ว
00:07:44 → 00:07:47 เด็กเกิดอะไรขึ้นครับอ้วนเป็นเบาหวานไข
00:07:47 → 00:07:49 มันสูงนะครับจากพวกน้ำตาลที่เรากินเข้าไป
00:07:49 → 00:07:52 นี่แหละครับยิ่งกินมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งมี
00:07:52 → 00:07:52 ปัญหานะครับ
00:07:52 → 00:07:54 แล้วถามว่าเออทำไมเด็กถึงไม่ควรกิน
00:07:54 → 00:07:56 คาเฟอีนนะครับ
00:07:56 → 00:07:58 เด็กเวลากินคาเฟอีนเข้าไปแล้วเนี่ยนะครับ
00:07:58 → 00:08:02 มันจะมีปัญหาต่างๆเช่นการตื่นตัวมากจน
00:08:02 → 00:08:04 เกินปกตินะครับก็จะเป็นเด็กไฮเปอร์ได้นะ
00:08:04 → 00:08:07 ครับบางคนก็จะมีทางด้านของความคิดความ
00:08:07 → 00:08:09 อ่านซึ่งมันแยกไปนะครับแล้วเด็กพวกนี้
00:08:09 → 00:08:12 เนี่ยมันเป็นวัยซึ่งกำลังเจริญเติบโตสมอง
00:08:12 → 00:08:14 กำลังเจริญเติบโตต้องการการนอนหลับถ้า
00:08:14 → 00:08:17 เกิดเขาได้คาเฟอีนเข้าไปแล้วแล้วก็อาจจะ
00:08:17 → 00:08:19 ไปรบกวนการนอนหลับทำให้พัฒนาการเนี่ยมัน
00:08:19 → 00:08:21 มีปัญหาได้ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการที่
00:08:21 → 00:08:24 บอกว่าเออเด็กๆเนี่ยไม่ควรจะกินคาเฟอีน
00:08:24 → 00:08:27 เข้าไปนะฮะอีกอย่างหนึ่งซึ่งบางคนอาจจะ
00:08:27 → 00:08:30 เคยได้ยินบอกว่ากินแล้วคาเฟอีนมันจะไป
00:08:30 → 00:08:32 หยุดสูงหรือเปล่าทำให้เด็กไม่สูงอันนี้
00:08:32 → 00:08:34 ไม่จริงนะครับเด็กยังสูงได้ปกตินะครับไม่
00:08:34 → 00:08:37 เกี่ยวอะไรกับคาเฟอีน
00:08:37 → 00:08:39 สำหรับวัยไหนบ้างที่สามารถจะกินคาเฟอีน
00:08:39 → 00:08:42 ได้คือเกิน 12 ปีขึ้นไปหรือในถ้าภาษา
00:08:42 → 00:08:44 อังกฤษอะไรที่ลงท้ายด้วยธีมส์เนี่ยครับ
00:08:44 → 00:08:47 คือวัยรุ่นภาษาอังกฤษก็จะเป็น teenager
00:08:47 → 00:08:50 ก็คืออายุเท่าไหร่ก็ได้ที่ลงท้ายด้วยทีม
00:08:50 → 00:08:50 เช่น
00:08:50 → 00:08:55 แต่จีนนะครับ 4 ทีมถึงในทีมนะครับพวกนี้
00:08:55 → 00:08:58 ก็เป็นวัยรุ่นของฝรั่งก็พวกนี้ก็สามารถ
00:08:58 → 00:09:01 ที่จะดื่มกาแฟได้แต่ว่าคาเฟอีนในช่วงอายุ
00:09:01 → 00:09:03 นี้เนี่ยส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่ค่อยให้เกิน
00:09:03 → 00:09:06 100 มิลลิกรัมนะในบางคนก็เลยมันเกินก็
00:09:06 → 00:09:09 อาจจะเกิดปัญหาขึ้นบ้างนะครับแล้วก็วัย
00:09:09 → 00:09:11 รุ่นนี้เป็นวัยที่ชอบถลอกดังนั้นเนี่ยเขา
00:09:11 → 00:09:13 ก็มักจะเอาคาเฟอีนไปผสมกับอย่างอื่นเช่น
00:09:13 → 00:09:16 ผสมกับอ่าเหล้านะครับเป็นเหล้าคาลัวแล้ว
00:09:16 → 00:09:18 มีคาเฟอีนอยู่ในนั้นอะไรอย่างเงี้ยพวกนี้
00:09:18 → 00:09:20 ก็ต้องระวังนะครับเพราะบางครั้งการเอาไป
00:09:20 → 00:09:21 ผสมกันเยอะๆเนี่ยก็เกิดเรื่องขึ้นมาได้นะ
00:09:21 → 00:09:25 ครับเกิดอ่าหัวใจเต้นผิดปกติอาจจะเสีย
00:09:25 → 00:09:27 ชีวิตก็ได้นะครับถ้าเขาไปผสมกับยาเสพติด
00:09:27 → 00:09:29 ชนิดต่างๆดังนั้นพวกนี้ก็ต้องระวังเป็น
00:09:29 → 00:09:33 พิเศษนะครับในคนท้องอ่ะจะต้องระวังมันอาจ
00:09:33 → 00:10:01 จะไปกระตุ้นอะไรบางอย่างได้นะฮะ
00:10:01 → 00:10:03 เพราะว่าในเด็กที่คลอดก่อนกำหนดโดยเฉพาะ
00:10:03 → 00:10:07 เด็กที่คลอดก่อน 28 สัปดาห์หรือเด็กที่
00:10:07 → 00:10:10 น้ำหนักตัวน้อยมากๆเช่นน้อยกว่า 1,000
00:10:10 → 00:10:13 กรัมพวกนี้เนี่ยเขาจะมีปัญหาทางด้านศูนย์
00:10:13 → 00:10:15 ควบคุมการหายใจเนี่ยเขาจะไม่หายใจนะครับ
00:10:15 → 00:10:18 เราจะเรียกเป็นภาษาทางการแพทย์ว่า
00:10:18 → 00:10:21 แอปเนี่ย off prematurality แอปเนี่ยคือ
00:10:21 → 00:10:24 การไม่หายใจนะครับ opinionity ก็คือเกิด
00:10:24 → 00:10:27 มาคลอดก่อนกำหนดนะครับในเด็กกลุ่มพวก
00:10:27 → 00:10:29 เนี้ยสูตรหายใจเขายังไม่ค่อยดีเท่าไหร่
00:10:29 → 00:10:32 เขาก็จะไม่ค่อยหายใจนะครับสมัยก่อนเราก็
00:10:32 → 00:10:35 จะให้ยาตัวนึงชื่อว่าธีโอไฟลีนหรือว่าอีก
00:10:35 → 00:10:38 กลุ่มนึงคือเอาไปน็อคแต่ว่าพวกนั้นเนี่ย
00:10:38 → 00:10:41 มันมีปัญหาเช่นว่ามันเกิดพิษได้ง่ายกว่า
00:10:42 → 00:10:44 คาเฟอีนเดี๋ยวนี้เราก็มักจะเปลี่ยนมาให้
00:10:44 → 00:10:47 คาเฟอีนในเด็กแล้วนะครับเราจะให้ในเด็ก
00:10:47 → 00:10:49 และคลอดกลุ่มพวกนั้นน่ะให้คาเฟอีนเลยนะ
00:10:49 → 00:10:51 แต่เราไม่ได้ให้กาแฟเข้าให้เด็กกินนะครับ
00:10:51 → 00:10:53 แล้วให้คาเฟอีนเพียวๆเนี่ยฮะเรามีเป็น
00:10:54 → 00:10:56 เป็นยาเป็นคาเฟอีนนะฮะให้เข้าไปในเด็กพวก
00:10:56 → 00:10:59 นี้แล้วเขาก็จะมีการหายใจได้ดีขึ้นนะครับ
00:10:59 → 00:11:02 ทำให้ปอดของเขาได้รับออกซิเจนดีขึ้นพวก
00:11:02 → 00:11:04 นี้มันไม่ได้ไปทำอันตรายต่อระบบประสาท
00:11:04 → 00:11:07 อะไรของเด็กเขานะครับแต่มันจะไปกระตุ้นทำ
00:11:07 → 00:11:08 ให้เด็กเขาหายใจซึ่งมันเป็นผลดีต่อเด็ก
00:11:08 → 00:11:12 พวกนี้นะแล้วเราไม่ได้ให้ไปตลอดนะครับเรา
00:11:12 → 00:11:15 ให้จนถึงว่าเออถ้าเราสมมุติว่าเด็กเขา
00:11:15 → 00:11:18 คลอดออกมาเช่นคลอดออกมา 25 สัปดาห์นะครับ
00:11:18 → 00:11:21 คือคนปกติเนี่ยมันควรจะคลอด 37 สัปดาห์
00:11:21 → 00:11:23 หรือ 40 สัปดาห์อย่างนั้นเป็นต้นแต่ไอ้
00:11:23 → 00:11:25 เด็กเนี่ยมันคลอดออกมาก่อนกำหนด 25
00:11:25 → 00:11:28 สัปดาห์ก็คือมันไวเกินไปนะครับเราจะให้
00:11:28 → 00:11:31 คาเฟอีนไปจนถึงเมื่อเด็ก
00:11:31 → 00:11:34 อายุครรภ์ประมาณสัก 36 สัปดาห์เนี่ยถ้า
00:11:34 → 00:11:36 เราคำนวณจริงๆแล้วเนี่ยเด็กตัวเนี้ยควรจะ
00:11:36 → 00:11:38 อายุครรภ์ 36 สัปดาห์เราก็จะเริ่มหยุดให้
00:11:38 → 00:11:41 ละนะครับโดยที่เราจะต้องแน่ใจว่าเด็กไม่
00:11:41 → 00:11:43 มีการหยุดหายใจนะฮะเป็นเวลาสักประมาณ
00:11:43 → 00:11:46 อาทิตย์นึงนะครับพออาทิตย์นึงเนี่ยเด็ก
00:11:46 → 00:11:48 เขาไม่มีการอยู่ในใจเราเราหยุดให้คาเฟอีน
00:11:48 → 00:11:50 วันนี้เราดูเพียงอาทิตย์สองอาทิตย์เนี่ย
00:11:50 → 00:11:52 เด็กเขาอาจจะได้ปกติและโอเคเราแปลว่าเรา
00:11:52 → 00:11:55 หยุดคาเฟอีนได้นะครับอันนั้นก็เป็นที่มา
00:11:55 → 00:11:59 ของการมันใช้คาเฟอีนในเด็กที่รอบแรกคลอด
00:11:59 → 00:12:01 คลอดก่อนกำหนดนะครับเราก็จะมีการใช้นะ
00:12:01 → 00:12:02 ครับ
00:12:02 → 00:12:05 งั้นตอนนี้เรารู้แล้วว่าคาเฟอีนในคนทั่ว
00:12:05 → 00:12:08 ไปไม่ควรกินเกิน 400 นะครับในวัยรุ่นอาจ
00:12:08 → 00:12:10 จะไม่เกินร้อยนะครับวัยรุ่นหมายความว่า
00:12:10 → 00:12:13 ตั้งแต่อายุประมาณสัก 13 อย่างนี้นะครับ
00:12:13 → 00:12:15 จริงๆมันก็ตลกอย่างหนึ่งนะครับวัยรุ่นของ
00:12:15 → 00:12:17 ฝรั่งเนี่ยคืออะไรก็แล้วแต่ที่ลงท้ายด้วย
00:12:17 → 00:12:21 ทีมนะครับเช่น 13 จนถึง 19 เป็นทีมที่
00:12:21 → 00:12:25 Nature คือช่วงนั้นแล้ว 20 กว่าผู้ที่
00:12:25 → 00:12:26 เขาถือไว้เป็นผู้ใหญ่แล้วนะครับเป็นอันโต
00:12:27 → 00:12:29 สั้นนะครับเป็นผู้ใหญ่นะแต่ในประเทศไทย
00:12:29 → 00:12:33 วัยรุ่นคืออะไรครับมันมันไม่มีอะไรที่
00:12:33 → 00:12:35 เรียกเฉพาะนะครับถามว่า 25 เป็นวัยรุ่น
00:12:36 → 00:12:38 ไหมก็ยังเรียกกันวัยรุ่นอยู่เลยนะครับอ่า
00:12:38 → 00:12:40 บินวัยรุ่นตอนปลายอะไรอย่างนี้ก็ได้นะ
00:12:40 → 00:12:42 ครับว่า 30 ยังบางคนจะเรียกเป็นวัยรุ่น
00:12:42 → 00:12:44 ตอนปลายอยู่เลยนะครับคือเรื่องจริงก็เป็น
00:12:44 → 00:12:46 ผู้ใหญ่แล้วนะครับก็อาจจะแตกต่างจากฝรั่ง
00:12:46 → 00:12:49 เขานิดหน่อยนะครับในแง่ของว่าเออใครเรียก
00:12:49 → 00:12:53 เป็นทีมเนเจอร์คนไหนเป็นเป็นฝรั่งใน
00:12:53 → 00:12:55 gnature ก็คือถึง 19 20 เขาไม่ใช่ทีเน
00:12:55 → 00:12:58 เจอร์แล้วนะครับอ่าพวกนั้นนะครับก็ตลกนิด
00:12:58 → 00:13:02 หน่อยนะฮะในเด็กไม่ควรกินนะครับแต่ว่าถ้า
00:13:02 → 00:13:05 จะกินมันก็ต้องจำกัดนะครับยิ่งจำกัดเราก็
00:13:05 → 00:13:07 ต้องระวังเรื่องของน้ำอัดลมนะเป็น
00:13:08 → 00:13:11 อันนึงที่เด็กเขาได้คาเฟอีนเข้าไปเต็มๆ
00:13:11 → 00:13:14 เลยนะครับพวกนี้ก็จะมีปัญหาได้ในเวลาถัด
00:13:14 → 00:13:18 มานะครับทีนี้ในคนที่ติดกาแฟล่ะกินเข้าไป
00:13:18 → 00:13:21 เยอะๆนะครับแล้วมันวันไหนไม่กินอ่ะจะรู้
00:13:21 → 00:13:25 เลยว่าตัวเองปวดหัวปวดหัวเพลียง่วงนอนแต่
00:13:25 → 00:13:28 ว่าเรากินเยอะเกินไปแล้วรู้ว่าเนี่ยเรา
00:13:28 → 00:13:31 กินแบบวันละ 8 แก้ว 10 แก้วแล้วมันไม่ได้
00:13:31 → 00:13:33 แล้วอ่ะเราทำไงดีเราอยากลดได้ไหมได้ครับ
00:13:33 → 00:13:37 วิธีในการที่จะลดลงมาเนี่ยคือท่านจะต้อง
00:13:37 → 00:13:40 เปลี่ยนวิธีการกินครับแทนที่จะรวดเดียว
00:13:40 → 00:13:42 หมดแก้วแล้วก็ไปรวดเดียวอีกแก้วนึงอย่าทำ
00:13:42 → 00:13:46 แบบนั้นครับให้ท่านจิบเอานะฮะโอเคแก้วแรก
00:13:46 → 00:13:47 ท่านอาจจะดื่มรวดเดียวหมดแต่หลังจากนั้น
00:13:47 → 00:13:50 เนี่ยให้พยายามจิตจิตเรื่อยๆเมื่อเรารู้
00:13:50 → 00:13:52 สึกว่าเอ้ยสมาธิมันเริ่มถดถอยแล้วเรา
00:13:52 → 00:13:55 เริ่มเพลียๆจิบเข้าไปครับอ่าจีบเข้าไปตอน
00:13:55 → 00:13:57 นั้นแล้วก็อีกอย่างนึงซึ่งสามารถช่วยท่าน
00:13:57 → 00:14:01 ได้คือน้ำ