00:00:00 → 00:00:10 [เพลง]
00:00:10 → 00:00:16 คุณสมบัตเก็ครบคันพี่หมอบอกว่าการการถ้า กินน้ำมันสกัดเย็นเป็นนี่มีผลต่อคีโตน
00:00:16 → 00:00:23 adap ด้วยใช่มั้ยฮะพี่ หมอให้ร่างกายใช้คีโตนคือคนเราจะคีน adap
00:00:23 → 00:00:32 เนี่ยที่สำคัญก็คืออินซูลินจะต้องต่ำนะ ต้องต่ำแต่ไม่หายไปนะฮะต่ำต่ำอยู่ในเป็น
00:00:32 → 00:00:39 low Normal นะฮะก็คืออยู่ในระดับประมาณ 2-3 และมีประสิทธิภาพด้วยเออแต่เป็น
00:00:39 → 00:00:49 อินซูลินที่ยังขยันนะแล้วก็ยังคือคือยัง เก่งนะฮะยังเก่งอยู่นะอืเก่งที่จะเอาสาร
00:00:49 → 00:00:56 อาหารอะไรต่างๆเข้าเซลล์อ่ะแม้ว่าจะน้อย นิดก็ตามนะครับไม่ใช่มีอินซูลินเยอะๆนะนะ
00:00:56 → 00:01:03 แล้วก็ขี้เกียจหรือว่างอแงไม่ทำงงานอะไร อย่างงี้
00:01:04 → 00:01:12 อเนี่ยแล้วก็การจะเกิดคีโตนเนี่ยนอกจาก อินซูลินต่ำแล้วเนี่ยอ่าๆตับต้องสะอาดนะ
00:01:12 → 00:01:20 ตับอต้องมีความสะอาดนะแล้วก็พลังงานที่จะ มาให้เซลล์ตับที่สะอาดๆหรือไมโตคอนเดรีย
00:01:20 → 00:01:27 ของตับเนี่ยเปลี่ยนเป็นคีโตนเนี่ยนะก็จะ ต้องเป็นไขมันดีตามกฎเกณฑ์ที่พูดกันไป
00:01:27 → 00:01:33 เมื่อกี้นี้ตับสะอาดนี่นี่มันต้องสมมุติ ค่าแลบมันต้องประมาณไหนอ่ะครับพี่หมอตับ
00:01:33 → 00:01:42 สะอาดเอนไซมตับก็อยู่ในเกณฑ์ 2 หน่วยต้นๆ หรือต่ำกว่า 2 หน่วยตัว sgpt หรือ alt นะ
00:01:42 → 00:01:50 ฮแล้วก็เปอร์เซ็นต์แฟตที่สะสมในตับไม่ เกิน 5% อทำไมต้องสะอาด่ะครับพี่หมอถ้า
00:01:50 → 00:01:55 ไม่สะอาดมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่สะอาด ส่วนใหญ่ตับเนี่ยมันเป็นแหล่งของการกัด
00:01:55 → 00:02:00 เก็บพิษนะฮะนะอ๋อกเก็บพิษเก็บท็อกซินอะไร ต่างๆ
00:02:00 → 00:02:07 นะฮะครับคือคือร่างกายเนี่ยเวลารับสิ่ง เหล่านี้จากอาหารเข้าไปเนี่ยอ่าไอ้โรงงาน
00:02:07 → 00:02:13 แรกเลยที่สิ่งเหล่านี้มันจะไปก็คือตับนะ แล้วก็ตับจะต้องเสียสละตัวเองในการเก็บกั
00:02:13 → 00:02:19 ไว้ก่อน อืคือคนเราอ่ะแรกๆถ้ากินลค High Fat
00:02:19 → 00:02:26 เนี่ยนะในช่วงที่ตับยังเป็นอ่า Sugar เนอรยังไม่สะอาดยังอักเสบยังมีไขมันเกิน
00:02:26 → 00:02:32 อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะครับเอ่อเราก็กิน โลค High Fat ไปอ่ะนะแล้วเดี๋ยวไอ้ไอ้
00:02:32 → 00:02:39 คุณสมบัติต่างๆจากอาหารแบบโค High Fat เนี่ยเขาจะค่อยๆไปจูนไปปรับไอ้เรื่องการ
00:02:39 → 00:02:45 ทำงานของตับและประสิทธิภาพของไอ้ตัวเซลล์ ตับเนี่ยขึ้นมาเองนะฮะไม่ต้องกลัวนะคือ
00:02:45 → 00:02:53 เราต้องพยายามยืนกรานนะแล้วก็แน่วแน่แล้ว ก็ตั้งใจมั่นนะนะแล้วก็มี mindset อย่าง
00:02:53 → 00:03:02 แรงกล้าที่จะอยู่ในแนวทางนี้นะเ่อไประยะ นึงจริงๆระยะนึงอ่ะเกณฑ์เฉลี่ยก็คือ
00:03:02 → 00:03:09 ประมาณ 3 สัปดาห์นี่แหละนะฮะแค่เนี้ยมัน ก็เคลียร์อะไรต่างๆไปได้แต่แต่ถ้ากินไม่
00:03:09 → 00:03:18 เป็นนี่ค่าตับค่าตายขึ้นนะพี่หมอก็ใช่ถ้า กินไม่เป็นค่าโปรตีนไม่ถูกไขมันไม่ไม่รู้
00:03:18 → 00:03:26 นะคาฟแฝงเฝิงอะไรต่างๆนี่ไงเพะว่าดูดู หลายคนแล้วพูดพูดรายละเอียดแบบเนี้ยนะไอ้
00:03:26 → 00:03:32 สิ่งที่คุณจะกินไม่เป็นก็คือคุณกินอะไร ไม่เป็นน่ะคุณกินคาฟคือคุณไม่รู้จักคาฟ
00:03:32 → 00:03:38 ที่ที่ที่ดีอ่ะคุณไม่รู้จักคาฟคุณไม่รู้ จักโปรตีนคุณไม่รู้จักไขมันโดยเฉพาะอีไข
00:03:38 → 00:03:44 มันนี่แหละนะครับมันมันรู้จักยากเย็นเข็น ใจเหลือเกินนะฮโหหลาย Episode นะพี่หมอ
00:03:44 → 00:03:50 ที่เราคุยกันเรื่องไขมันน่ะเออแค่อิ่มตัว นี้ก็รู้ยังอ่ะเออก็น่าจะต้องรู้อ่ะนะฮะ
00:03:50 → 00:04:00 นะรู้รู้แล้วก็มาปรับมากินอ่าให้มันเป็น ให้มันถูกแล้วค่อยวัดกันว่าเออผลที่ออกมา
00:04:00 → 00:04:07 ดีไม่ดีอะไรอย่างงี้เอ่อใช่ไม่ใช่ถูกต้อง มั้ยกับการที่จะมากินแนวทางนี้อืถ้าไม่
00:04:07 → 00:04:16 ถูกต้องก็เอ่อก็ต้องเปลี่ยนต้องไปอีกใน กลุ่มอื่นแนวทางอื่นก็ว่าไปครับเมื่อกี้
00:04:16 → 00:04:25 อ่ามีเรื่องของตับต้องสะอาดอินซูลินต่ำ เออเรื่องคีโตนอดับอ่ะครับอ๋อแล้วก็พลัง
00:04:25 → 00:04:32 งานต้องถูกต้องก็คือไขมัน อ๋อไขมันเพราะว่าไมโทคอนเดรียเนี่ยเขา
00:04:32 → 00:04:39 อยากจะเผาไข มันอือือเอ่ออย่างนี้นะจะมีคำว่า basal
00:04:39 → 00:04:45 metabolic Rate นะฮะครับ basal metabolic ถามว่า basal metabolic Rate
00:04:45 → 00:04:50 เนี่ยนะมันก็คือภาวะที่เราอยู่นิ่งๆ เหมือนนอนติดเตียงอ่ะนะฮะแล้วเราก็
00:04:50 → 00:04:59 ต้องการพลังงานนะฮะนะแล้วพลังงานจาก Bal metabolic Rate เนี่ยนะหลักๆเลยอนะผู้
00:04:59 → 00:05:04 ที่จะเป็นตัวเผาผลาญพลังงานอะไรต่างๆ เนี่ยนะก็คือไมโทคอนเดรีย
00:05:04 → 00:05:11 ไมโทคอนเดรียครับเอ่อไอ้ bmr ใช่มั้ย bmr ที่เราพูดๆกันเนี่ยฮะใช่ฮะนะอ๋อ
00:05:11 → 00:05:19 ไมโทคอนเดรียแล้วไมโตคอนเดรียที่ไหนนะที่ จะเป็นตัวหลักเลยในการเ่อเผาผลาญพลังงาน
00:05:19 → 00:05:30 ให้ได้ในระดับเซอก็คือตับตับอือตับนี่ แหละจะเป็นเป็นอวัยวะหลักเลยนะฮะครับ
00:05:30 → 00:05:38 แล้วทีนี้ไมโตคอนเดรียเนี่ยในการจะเผา ผลาญพลังงานเนี่ยนะเค้าเจะทำงานได้ดีๆได้
00:05:38 → 00:05:46 เก่งๆอ่ะ นะพลังงานที่ว่าเนี่ยนะก็คือคีโตนนะคีโตน
00:05:46 → 00:05:55 อเพราะฉะนั้นไตกเดี่จะเผาผลาญพลังงานให้ ได้คีโตนอันที่ 1 นะก็คือต้องมี
00:05:55 → 00:06:00 ออกซิเจนต้องมีออกซิเจนไปให้เค้านะฮะนะ เพราะขบกระบวนการเผ่าผันพลังงานมันต้อง
00:06:00 → 00:06:06 ใช้ออกซิเจนปฏิกิริยาอ่าเบต้าออกซิเดชัน เนี่ยมันต้องใช้ออกซิเจนนะอันที่ 1 อัน
00:06:06 → 00:06:14 ที่ 2 ถ้าเตาเผาอ่ะมันมีเยอะๆนะมันมี จำนวนมันมีปริมาณไมโทคอนเดรียเยอะๆนะมัน
00:06:14 → 00:06:23 ก็เผาผาได้ดีอ่ะใช่มั้ยล่ะนะครับอันที่ 3 นะมันต้องมีตัวพลังงานไปให้เขาเผาก็คือ
00:06:23 → 00:06:33 เป็นไขมันที่ดีอ๋ออันที่ 4 มันต้องมีตัว ฮอร์โมนโมนะที่จะไปทำงานนะในการเผาก็คือ
00:06:33 → 00:06:43 ไทรรอยด์ไทรรอยด์มันจะต้องมี 4 ประสานนี้ นะฮะอันที่ 1 มีออกซิเจนอันที่ 2 เอ่อมี
00:06:43 → 00:06:50 จำนวนหรือปริมาณเตาเผาไม่ตกคเดยเยอะๆอ่าๆ ๆที่มีประสิทธิภาพนะมันจะมีประสิทธิภาพ
00:06:50 → 00:06:59 ได้เนี่ยนะมันก็จะต้องอะไรอ่ะสะอาดนะแล้ว ก็อ่าพื้นที่อ่ะนะมันจะต้องไม่มีไขมันมา
00:06:59 → 00:07:08 สะสมเกะกะมากมายจเกินไปนักนะแล้วก็มันไม่ มีกระบวนการอะไรอักเสบจากอะไรก็ไม่รู้อ่ะ
00:07:08 → 00:07:15 จากท็อกซินจากอาหารเสริมจากกินโน่นนี่ อะไรอย่างเงี้ยอ่าๆๆๆๆๆอ่านั้นเป็นราย
00:07:15 → 00:07:22 ละเอียดนะฮะนะแล้วอันต่อมาก็คือต้องมี พลังงานคือต้องใส่พลังงานไปให้เเผานะเคค
00:07:22 → 00:07:29 ก็อยากได้พลังงานแบบที่เซลล์ร่างกายสะสม นี่แหละก็คืออิ่มเดี่ยวซ้อน 30 50 20
00:07:29 → 00:07:37 นะหรือในช่วงแรกๆเนี่ยถ้าจะให้เ้าลดภาระ การทำงานในการเผาเนี่ยคุณก็ส่งอันนี้เข้า
00:07:37 → 00:07:45 ไปเลยนะฮะส่งไอ้ตัว mct อ่ะไปให้เค้าเป็น พลังงานเชื้อเพลิงเลยนะเเผาทันทีทันใดอ่ะ
00:07:45 → 00:07:52 เไม่ต้องการตัวแคตตาลไม่ต้องการตัวมัน โน่นนี่นั่นมาอะไรนะเข้าไปปุ๊บก็เผาเลย 15
00:07:52 → 00:08:00 นาทีก็เผาก็รร้อนแล้วนะฮะอย่างเงี้ยออกมา เป็นคีโนอันต่อมาก็คือเ่อโมนไทรรอยด์
00:08:00 → 00:08:06 เนี่ยนะต้องมีนะทั้งกลางวันหรือกลางคืนนะ อย่าเดี้ยงอย่าเดี้ยง
00:08:06 → 00:08:17 อไทลอยไจะต้องเ่อไม่งอแงจะต้องเอ่อเ่อชอบ ที่อยากจะทำงานขยันๆอะไอย่าเงี้ยอืๆๆ
00:08:17 → 00:08:19 เดี๋วต้องมาลงลึกเรื่องฮอร์โมนอีกทีนึงนะ พี่
00:08:19 → 00:08:25 หมอก็มีเเิ Rate เนี่ยมันก็อาศัย 4 เรื่องเนี่ยฮะ
00:08:25 → 00:08:31 อืแต่ถาม ว่าเรืื่องเหล่าเนี้ยเรื่องเหล่าเนี้ยนะ
00:08:31 → 00:08:38 ฮะอ่าเรื่องที่สำคัญที่สุดคือพลังงานพลัง งานนะฮะหัวข้อที่ 3 เนี่ยพลังงานเก็คือ
00:08:38 → 00:08:46 High Good Fat เนี่ยสำคัญมากที่สุด อืส่วนเรื่องออกซิเจนเนี่ยอือๆๆๆๆๆ
00:08:46 → 00:08:52 ออกซิเจนเนี่ยมันก็เกี่ยวข้องกับเรื่อง ของกลไกการหายจงหายใจอะไรต่างๆเนี่ยก็คือ
00:08:52 → 00:09:01 คุณต้องหายใจเป็นหายใจถูกอะไรอย่างเงี้ย นะเค้าก็บอกว่าอ่าร่างกายอ่ะจะมีธาตุ
00:09:01 → 00:09:09 ออกซิเจนน่ะเข้าไปได้เนี่ยร่างกายเนี่ยก็ จะต้องจะต้อง was Out คาร์บอนออกมาให้
00:09:09 → 00:09:16 เยอะครับนะถ้าเกิดมีการสร้าง คาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเยอะๆนะนะ
00:09:16 → 00:09:24 คาร์บอนไดออกไซด์ที่ข้างข้างเนี่ยจะถูก กลไกการหายใจอ่ะนะหายใจออกเอ่อพอหายใจออก
00:09:24 → 00:09:31 เยอะๆดีบๆมันก็จะสูดออกซิเจนเข้าไปคือมัน เป็น 2 แนวทางอ่ะพอออกแล้วมันก็ต้องเข้า
00:09:31 → 00:09:35 ไอ้ตัวออกคือคาร์บอนไดออกไซด์ไอ้ตัวเข้า คือ
00:09:35 → 00:09:42 ออกซิเจนนะแล้วออกซิเจนเยอะๆไมโตคอนเดรีย มันก็จะเผาได้เยอะๆอไมโตคอนเดรียมันเผา
00:09:42 → 00:09:48 เยอะๆมันก็จะได้คาร์ไดออกไซด์เยอะๆนะแล้ว มันก็ไปแลกเปลี่ยนกับออกซิเจนเข้าออกเยอะ
00:09:48 → 00:09:54 ๆอัน เนี้ยอืเอ่อแล้วไมโตคอนเดรียที่จะเพิ่ม
00:09:54 → 00:10:01 ขึ้นเนี่ยนะยิ่งถ้าเกิดมันมีวัตถุดิบน่ะ ทั้งออกซิเช่นทั้งพลังงานทั้งไทรรอยด์อ่ะ
00:10:01 → 00:10:08 ครับมันก็จะเป็นธรรมชาติเลยอ่ะที่ว่าไอ้ ตัวเตาเผา่ะมันจะถูกสร้างขึ้นมาเยอะๆถ้า
00:10:08 → 00:10:17 มันมีแหล่งอ่าทั้งพลังงานทั้งออกซิเจน ทั้งฮอร์โมนพร้อมแล้วนะอืก็จะเป็นโยงกัน
00:10:17 → 00:10:23 ไปโยงกันมาอย่างเงี้ยครับนะเพราะฉะนั้น อย่างเนี้ย basal metabolic Rate คุณก็
00:10:23 → 00:10:29 จะมี ประสิทธิภาพถ้ามีประสิทธิภาพร่างกายคุณก็
00:10:29 → 00:10:34 จะจะอยู่ได้นะ ฮะนี้ถ้าเกิดว่าคุณ
00:10:34 → 00:10:44 เอ่อมี activity มีอะไรตอะไรอย่างเงี้ยนะ ฮะคุณก็จะเพิ่มอ่าพลังงานน่ะที่จะใส่เข้า
00:10:44 → 00:10:54 ไปให้ได้มากขึ้นนะจะเพิ่มคาฟนะเพิ่ม โปรตีนเพิ่มไขมันอะไรเงี้ยก็บวกๆๆเข้าไปอ
00:10:54 → 00:11:00 แต่ในเบื้องต้นเนี่ยนะเอาเรื่องของ Bal metabolic Rate ให้ผ่านก่อน
00:11:00 → 00:11:12 ครับ [เพลง]