อาหารประเภทไหนที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดสมองเสื่อม และควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง

ชัวร์ก่อนแชร์ : เสาหลักแห่งการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ จริงหรือ?

จากช่อง : ชัวร์ก่อนแชร์ Sure And Share


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0100:00:04 บนโซเชียลมีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับเสาหลักแห่งการป้องกันอัลไซเมอร์

00:00:0400:00:10 ตั้งแต่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไปจนถึงให้อยู่ในสภาวะเครียดน้อยที่สุด

00:00:1000:00:11 หืม! ชัวร์เหรอ?

00:00:1700:00:19 เรื่องนี้ถ้าจริงก็มีประโยชน์และควรรีบบอกกันครับ

00:00:1900:00:21 แต่ก่อนจะแชร์ต่อต้องเช็กให้ถูกชัวร์

00:00:2100:00:25 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท สอบถามกับ

00:00:2500:00:27 อาจารย์ที่ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม

00:00:2700:00:30 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

00:00:3000:00:34 ข้อความเรื่อง เสาหลักแห่งการป้องกันอัลไซเมอร์ ที่เขาแชร์กันนี้จริงไหมครับ

00:00:3400:00:35 โดยภาพรวมก็ใช้ได้นะครับ

00:00:3500:00:39 เป็นแนวทางการป้องกันที่ทุกข้อก็มีหลักฐานอยู่

00:00:3900:00:43 ข้อแรก ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

00:00:4300:00:46 จะป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ 50 เปอร์เซนต์

00:00:4600:00:49 ตั้งต้นก่อนว่าโดยปกติแล้วแต่ละข้อมีน้ำหนักในการป้องกัน

00:00:4900:00:52 โดยเฉลี่ยประมาณเท่ากว่า ๆ ถึง 2 เท่า

00:00:5200:00:55 ถ้าจะบอกว่าลดลงมา 50 เปอร์เซนต์ แปลว่าต้องลดลงไป 2 เท่า

00:00:5500:00:57 ทุกข้อจริง ๆ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น

00:00:5700:00:59 แต่ว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

00:00:5900:01:02 โดยเฉพาะสัปดาห์ละ 3-5 ครั้งขึ้นไป ก็จะช่วยได้

00:01:0200:01:05 เป็นการสะสมกันประมาณสัปดาห์ละ 150 นาที

00:01:0500:01:08 ถ้าออก 3 ครั้ง (ต่อสัปดาห์) ครั้งนึงอาจจะประมาณ 45-50 นาที

00:01:0800:01:11 ถ้าออก 5 ครั้ง (ต่อสัปดาห์) ก็อาจจะเป็นครั้งละประมาณ 30 นาที

00:01:1100:01:14 เขาบอกอีกว่า สำหรับผู้สูงอายุ การทำงานบ้าน

00:01:1400:01:18 ทำสวน ดูแลสวน หรือการขยับร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

00:01:1800:01:21 ก็เป็นการออกกำลังกายที่ดีและเหมาะสมแล้ว

00:01:2100:01:23 คือการที่ทำงานบ้านก็ช่วยได้ระดับนึง

00:01:2300:01:26 เพียงแต่ว่ามันใช้พลังงานออกไปไม่มากนัก

00:01:2600:01:29 เพียงแต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ถ้าออกกำลังกายที่เหมาะ

00:01:2900:01:32 ก็มักจะต้องเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเรื่องของหัวใจ

00:01:3200:01:35 หลอดเลือด แล้วก็เมตาบอลิซึมของร่างกาย

00:01:3500:01:40 เช่นการเดินเร็ว การวิ่งเหยาะ การเต้นรำ อะไรต่าง ๆ

00:01:4000:01:43 2.อ่านหนังสือและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา

00:01:4300:01:48 ใช้สมองให้มากขึ้น เพราะเมื่อเราไม่ใช้สมองเราจะเสียมันไป

00:01:4800:01:50 เรื่องเกี่ยวกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ รวมจนถึงการศึกษา

00:01:5000:01:52 อันนี้มีผลมาตั้งแต่วัยเด็กเลย

00:01:5200:01:56 ถ้าเด็ก ๆ ที่ได้รับการเรียนรู้กระตุ้น การเรียนรู้พัฒนาการต่าง ๆ

00:01:5600:02:00 ก็จะช่วยทำให้สมองมีกำลังสำรองค่อนข้างที่จะมาก

00:02:0000:02:04 ฉะนั้นการฝึกฝนสมองบ่อย ๆ การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นสิ่งที่ดี

00:02:0400:02:05 ก็ช่วยป้องกันได้

00:02:0500:02:08 3.ทานผักและอาหารสดต้องเยอะ

00:02:0800:02:13 เขาพบว่ากลุ่มอาหารที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดสมองเสื่อมที่สำคัญ

00:02:1300:02:15 ก็คือทานอาหารที่มีผักมาก ๆ

00:02:1500:02:18 แล้วก็ทานปลา ทานผลไม้ ทานเมล็ดธัญพืช

00:02:1800:02:21 น้ำมันก็เป็นน้ำมันที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว

00:02:2100:02:23 เช่น น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันจากพืชต่าง ๆ

00:02:2300:02:27 แล้วก็เลี่ยงพวกไขมันอิ่มตัว เช่น เครื่องใน สัตว์เนื้อแดง

00:02:2700:02:28 หรือว่าเนื้อติดมัน ติดหนัง

00:02:2800:02:30 แล้วก็พวกครีม พวกเนย

00:02:3000:02:33 ถ้าทานนมก็ทานเป็นนมที่พร่องไขมันเนย

00:02:3300:02:37 ก็พบว่าถ้ากลุ่มที่ทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวลดลง

00:02:3700:02:40 แล้วก็ทานผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืชมาก ๆ ทานปลามาก ๆ

00:02:4000:02:41 ทานไขมันไม่อิ่มตัวมาก ๆ

00:02:4100:02:44 ก็จะลดความเสี่ยงของการเกิดสมองเสื่อมลงได้

00:02:4400:02:48 เขายังบอกอีกว่า น้ำมันปลา หรือ fish oil เป็นอาหารเสริมที่ดี

00:02:4800:02:52 ถ้าทานที่เป็นแบบเม็ด ๆ เลยในการป้องกัน ข้อมูลยังค่อนข้างจะบวกลบ

00:02:5200:02:54 ส่วนใหญ่ก็จะเป็นมาจากธรรมชาติ

00:02:5400:02:57 เช่นเขาก็พบว่าคนที่ทานปลาชนิดที่มีไขมันปลาค่อนข้างมาก

00:02:5700:03:00 เช่นปลาทะเลน้ำลึก หรืออะไรต่าง ๆ

00:03:0000:03:02 ก็จะลดความเสี่ยงของการเกิดโรคสมองเสื่อมลงได้

00:03:0200:03:04 เทียบกับคนที่ไม่ได้ทาน

00:03:0400:03:06 ก็คือมีความเสี่ยงต่างกันอยู่บ้าง

00:03:0600:03:12 4.นอนวันละ 7-8 ชั่วโมง เพราะการนอนน้อยเป็นการสั่งสมองให้ทำลายตัวเอง

00:03:1200:03:15 คือความพอดีของการนอนกลางคืนของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน

00:03:1500:03:17 แต่ว่าโดยเฉลี่ยก็ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ได้

00:03:1700:03:20 การนอนน้อยมีผลกระทบกับสมองนะครับ

00:03:2000:03:24 คนที่นอนไม่ค่อยหลับ หรือว่าบางคนที่หลับแล้วมีการอุดกั้นของทางเดินหายใจ

00:03:2400:03:28 เช่น กรน หรือว่ามีการหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ในช่วงที่นอน

00:03:2800:03:32 พบว่าจะมีระดับการทำงานของสมองที่ลดลง เทียบกับคนที่นอนปกติ

00:03:3200:03:35 เขาบอกอีกว่าผู้สูงอายุควรนอนกลางวันด้วย

00:03:3500:03:39 เพราะสมองของผู้สูงอายุ ต้องการการพักผ่อนมากกว่าวัยรุ่นหรือวัยทำงาน

00:03:3900:03:42 อันนี้จริง ๆ ก็ค่อนข้างที่จะเป็นธรรมชาตินิดนึงอยู่แล้วนะครับว่า

00:03:4200:03:46 พออายุมากขึ้น กลางคืนก็อาจจะหลับได้ไม่ลึก แล้วก็ไม่ได้ยาวมากนัก

00:03:4600:03:48 เทียบกับคนที่เป็นวัยรุ่น หนุ่มสาว

00:03:4800:03:51 แต่จะมีลักษณะของการง่วงบ่อย เช่นในช่วงกลางวัน

00:03:5100:03:53 ฉะนั้นก็มีการนอนพักบ้างในช่วงกลางวัน

00:03:5300:03:57 แต่ว่าถ้านอนนานเกินไป หรือนอนกลางวันหลังบ่ายสาม

00:03:5700:03:59 ก็อาจจะมีผลกระทบต่อการนอนหลับตอนกลางคืนอีก

00:03:5900:04:01 ฉะนั้นถ้าเกิดว่านอนในตอนกลางวัน

00:04:0100:04:05 ก็พยายามนอนก่อนบ่ายสาม แล้วก็งีบหลับเป็นระยะเวลาสั้น ๆ

00:04:0500:04:07 ครึ่ง-1 ชั่วโมง ก็อาจจะโอเคนะครับ

00:04:0700:04:11 5.พยายามทำให้ตัวเองอยู่ในสภาวะที่เครียดน้อยที่สุด

00:04:1100:04:14 เมื่อเราเครียดเซลล์สมองจะทำลายตัวเองเร็วมาก

00:04:1400:04:17 คือคงไม่ถึงกับว่าเซลล์สมองทำลายตัวเองนะครับ

00:04:1700:04:20 เพียงแต่ว่าเป็นลักษณะที่ว่าความเครียดกับอารมณ์ซึมเศร้า

00:04:2000:04:25 เขาพบว่าเป็นความเสี่ยงอันนึงที่อนาคตการทำงานของสมองอาจจะถดถอยลง

00:04:2500:04:28 ข้อ 6.อยู่กับคน เมื่อไหร่ที่เราไม่ได้เข้าสังคม

00:04:2800:04:32 หรือขาดการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นบ่อย ๆ จะทำให้สมองฝ่อ

00:04:3200:04:34 อาจจะไม่ได้ถึงกับทำให้สมองฝ่อนะครับ

00:04:3400:04:39 เพียงแต่ว่าการเข้าสังคม การพบปะสังสรรค์ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

00:04:3900:04:41 ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง

00:04:4100:04:45 ก็จะมีส่วนในการที่จะลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะสมองเสื่อมลงได้

00:04:4500:04:47 อันนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี

00:04:4700:04:50 เขาบอกอีกว่าหากเป็นโรคอัลไซเมอร์แล้ว

00:04:5000:04:53 วิธีเหล่านี้ก็จะช่วยให้ใช้ชีวิตไปจนถึงบั้นปลายได้

00:04:5300:04:56 การที่เราดูแลสิ่งเหล่านี้จริง ๆ เป็นการป้องกันก่อนเกิดโรค

00:04:5600:05:00 แต่เมื่อเกิดโรคขึ้นแล้ว การชะลอการถดถอยต่าง ๆ

00:05:0000:05:04 ก็อาจช่วยประคับประคอง แต่จะไม่สามารถที่จะหยุดยั้งได้

00:05:0400:05:07 ยังไง ณ เวลาที่ผ่านไป ก็คงจะค่อย ๆ มีการถดถอยไป

00:05:0700:05:11 คุณหมอบอกว่ายังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรระวังในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์

00:05:1100:05:15 คนที่มีการบกพร่องการได้ยิน ก็พบว่าก็จะไม่ค่อยได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

00:05:1500:05:18 ฉะนั้นคนที่มีปัญหาเรื่องการได้ยินก็จะต้องพยายามแก้ไข

00:05:1800:05:20 เรื่องของเบาหวาน ความดัน

00:05:2000:05:23 เพราะว่าคนที่สมองเสื่อม บางคนเสื่อมจากหลอดเลือด

00:05:2300:05:24 เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ค่อยดี

00:05:2400:05:27 ฉะนั้นการคุมปัจจัยเสี่ยงของหลอดเลือด เช่น เบาหวาน ความดัน

00:05:2700:05:29 ก็จะช่วยในกรณีนี้

00:05:2900:05:31 อีก 2 อัน ก็คือบุหรี่กับเหล้า

00:05:3100:05:37 เหล้านี่ก็คือถ้าดื่มเกินสัปดาห์ละ 21 ดริ๊งก์ ก็คือวันละไม่เกิน 3 ดริ๊งก์

00:05:3700:05:39 1 ดริ๊งก์ ก็ประมาณเบียร์ 1 กระป๋อง

00:05:3900:05:42 คือถ้าดื่มมากเกินไปพบว่ากลายเป็นผลเสียกับสมอง

00:05:4200:05:45 น้ำหนักตัวเกินก็เป็นปัจจัยเสี่ยงอีกข้อนึง

00:05:4500:05:50 ฉะนั้นก็ต้องพยายามควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินตั้งแต่วัยรุ่น วัยกลางคน

00:05:5000:05:54 มลพิษทางอากาศ เช่น PM 2.5 จะมีผลกระทบอยู่เหมือนกัน

00:05:5400:05:57 นอกจากนั้นก็จะมีเรื่องของอุบัติเหตุที่สมอง

00:05:5700:05:59 สมองได้รับการกระทบกระเทือน

00:05:5900:06:03 แต่สรุปแล้วเรื่องเสาหลักป้องกันอัลไซเมอร์ที่เขาแชร์กันนี้เป็นยังไงครับ

00:06:0300:06:07 คือทั้ง 6 ข้อ ก็เป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดภาวะสมองเสื่อม

00:06:0700:06:09 ซึ่งควรที่จะปฏิบัติตามนั้น

00:06:0900:06:14 เพียงแต่อาจจะมีบางคำที่อาจจะไม่ได้ 100 เปอร์เซนต์ตามนั้นทีเดียว

00:06:1500:06:19 การดูแลสุขภาพให้ดี เป็นพื้นฐานในการป้องกันโรคต่าง ๆ ได้นะครับ

00:06:1900:06:22 ยังมีอีกหลายเรื่องน่าสงสัยบนสังคมออนไลน์

00:06:2200:06:24 หากได้รับอะไรมาอย่าเพิ่งแชร์ต่อ

00:06:2400:06:25 ร่วมตรวจสอบไปด้วยกันกับ

00:06:2500:06:26 ชัวร์ก่อนแชร์