00:00:04 → 00:00:06 You're listening to Sad X channel
00:00:06 → 00:00:07 podcast
00:00:07 → 00:00:10 >> สวัสดีครับและนี่คือรายการพcastสุขภาพดี
00:00:10 → 00:00:13 ชีวิตดีสร้างได้พื้นที่แบ่งปันความรู้
00:00:13 → 00:00:20 สำหรับคนรักสุขภาพทุกท่าน
00:00:21 → 00:00:24 เคยสงสัยมั้ครับว่าทำไมพออายุมากขึ้นเรา
00:00:24 → 00:00:27 ถึงป่วยง่ายขึ้นหลายคนอาจคิดว่าเป็น
00:00:27 → 00:00:31 เรื่องปกติของวัยแต่ถ้าผมบอกว่านั่นคือ
00:00:31 → 00:00:36 ความเชื่อที่ผิดมหันงานวิจัยล่าสุดปี 2025
00:00:36 → 00:00:40 ช็อกวงการแพทย์เผยว่าคนไทยกว่า 99% กำลัง
00:00:40 → 00:00:43 กินอาหารบางอย่างที่เหมือนยาพิษทำลายภูมิ
00:00:43 → 00:00:46 คุ้มกันตัวเองทุกวันโดยไม่รู้ตัวและรู้
00:00:46 → 00:00:50 หรือไม่ว่าแค่หยุดกิน 4 สิ่งนี้คุณอาจลด
00:00:50 → 00:00:53 การติดเชื้อได้มากถึง 70% ภายใน 6 เดือน
00:00:53 → 00:00:56 ถ้าคุณไม่อยากให้คนที่คุณรักหรือแม้
00:00:56 → 00:00:59 กระทั่งตัวคุณเองยิ่งกินยิ่งป่วยห้ามพลาด
00:00:59 → 00:01:02 แม้แต่วินาทีเดียวครับเพราะวันนี้เราจะมา
00:01:02 → 00:01:05 เปิดเผย 4 อาหารพิษที่คุณหมอแนะนำให้หลีก
00:01:05 → 00:01:08 เลี่ยงถ้าคุณไม่อยากเสี่ยงอายุสั้นเราไป
00:01:08 → 00:01:13 ดูพร้อมๆกันเลยครับ 1 อาหารเค็มจัดระเบิด
00:01:13 → 00:01:17 โซเดียมที่ทำลายภูมิคุ้มกันข้อแรกเลยคือ
00:01:17 → 00:01:20 อาหารเค็มจัดครับนี่คือภัยเงียบที่หลายคน
00:01:20 → 00:01:23 มองข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูง
00:01:23 → 00:01:26 อายุเพราะเมื่ออายุมากขึ้นปราสาทรับรสของ
00:01:26 → 00:01:29 เราจะเริ่มเสื่อมลงทำให้ความสัสามารถใน
00:01:29 → 00:01:33 การรับรู้รสเค็มลดลงส่งผลให้หลายท่านเผลอ
00:01:33 → 00:01:35 ใส่เกลือหรือเครื่องปรุงรสที่มีโซเดียม
00:01:35 → 00:01:38 สูงเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังทำร้าย
00:01:38 → 00:01:42 สุขภาพตัวเองอย่างร้ายแรงจากสถิติข้อมูล
00:01:42 → 00:01:45 ด้านสุขภาพในไทยได้เปิดเผยตัวเลขที่น่าตก
00:01:45 → 00:01:49 ใจว่าคนไทยเราบริโภคเกลือเกินกว่ามาตรฐาน
00:01:49 → 00:01:53 ที่แนะนำถึง 2 เท่าในแต่ละวันลองนึกดูนะ
00:01:53 → 00:01:56 ครับว่าร่างกายเราต้องแบกรับภาระหนักขนาด
00:01:56 → 00:02:00 ไหนจากปริมาณโซเดียมที่มากเกินจำเป็นนี้
00:02:00 → 00:02:03 การบริโภคเกลือที่มากเกินไปไม่เพียงแค่ทำ
00:02:03 → 00:02:05 ให้ไตทำงานหนักแต่ยังเป็นตัวกระตุ้นหลัก
00:02:06 → 00:02:08 ของการอักเสบในเนื้อเยื่อทั่วร่างกายและ
00:02:08 → 00:02:11 ที่สำคัญอย่างยิ่งคือมันเพิ่มความเสี่ยง
00:02:11 → 00:02:14 ของโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองหรือที่เรา
00:02:14 → 00:02:18 คุ้นเคยกันในชื่อโรคภูมิต้านตนเองอโต
00:02:18 → 00:02:20 immมู disease ซึ่งเป็นภาวะที่ระบบภูมิ
00:02:20 → 00:02:23 คุ้มกันของร่างกายหันมาโจมตีเซลล์และ
00:02:23 → 00:02:26 เนื้อเยื่อของตัวเองการสะสมของโซเดียมใน
00:02:26 → 00:02:30 เซลล์ต่างๆจะไปรบกวนการทำงานปกติของระบบ
00:02:30 → 00:02:33 ภูมิคุ้มกันโดยตรงยับยั้งการทำงานของเม็ด
00:02:33 → 00:02:36 เลือดขาวซึ่งเป็นกองทัพหลักที่คอยปกป้อง
00:02:36 → 00:02:38 ร่างกายเราจากเชื้อโรคต่างๆและยังส่ง
00:02:39 → 00:02:41 เสริมการสร้างเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับโรค
00:02:41 → 00:02:44 ภูมิต้านตนเองอีกด้วยครับนอกจากนี้
00:02:44 → 00:02:46 โซเดียมส่วนเกินยังเข้าไปแทรกแซงความ
00:02:46 → 00:02:49 สมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ลดจำนวน
00:02:49 → 00:02:52 แบคทีเรียดีที่ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน
00:02:52 → 00:02:54 และเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ก่อโรคซึ่ง
00:02:54 → 00:02:57 อย่างที่เราทราบกันดีว่าลำไส้คือศูนย์รวม
00:02:57 → 00:03:01 ภูมิคุ้มกันของเราถึง 80% ดังนั้นการลด
00:03:01 → 00:03:04 เค็มจึงเป็นสิ่งแรกที่คุณควรทำเพื่อฟื้น
00:03:04 → 00:03:08 ฟูภูมิคุ้มกันครับ 2 อาหารทอดกรอบไขมัน
00:03:09 → 00:03:12 อิ่มตัวสูงและเนื้อแปรรูปตัวการสร้างสาร
00:03:12 → 00:03:15 พิษมาต่อกันที่ข้อ 2 ครับอาหารทอดกรอบ
00:03:15 → 00:03:18 อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงและเนื้อแปรรูป
00:03:19 → 00:03:23 ต่างๆเช่นไก่ทอดหมูกรอบเบคอนไส้กรอกแฮม
00:03:24 → 00:03:26 อาหารเหล่านี้เป็นที่โปรดปรานของใครหลาย
00:03:26 → 00:03:29 คนแต่เบื้องหลังความอร่อยนั้นกลับแฝงไป
00:03:29 → 00:03:32 ด้วยอันตรายร้ายแรงต่อภูมิคุ้มกันของเรา
00:03:32 → 00:03:35 ครับเมื่ออาหารเหล่านี้ถูกนำไปทอดหรือ
00:03:35 → 00:03:38 ผ่านความร้อนสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการ
00:03:38 → 00:03:41 ทอดกรอบหรือการย่างเกรียมจะเกิดปฏิกิริยา
00:03:41 → 00:03:43 ทางเคมีที่สร้างโมเลกุลที่เป็นพิษต่อ
00:03:43 → 00:03:47 เซลล์ในร่างกายที่เรียกว่า AGes Advance
00:03:47 → 00:03:50 Glication and Products สาร AGes
00:03:50 → 00:03:53 เหล่านี้จะเข้าไปจับกับโปรตีนและไขมันใน
00:03:53 → 00:03:56 ร่างกายก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและ
00:03:56 → 00:04:00 ทำลายเซลล์ต่างๆในร่างกายของเราโดยตรงมี
00:04:00 → 00:04:03 การศึกษาที่น่าสนใจที่วัดปริมาณ AGES ใน
00:04:03 → 00:04:07 อาหารมากกว่า 500 ชนิดและพบว่าอาหารยอด
00:04:07 → 00:04:11 นิยมอย่างเบคอนทอดฮอตดอกปิ้งไก่อบหนังและ
00:04:11 → 00:04:14 สเตกย่างเป็นกลุ่มอาหารที่ AGS สูงที่สุด
00:04:14 → 00:04:17 ซึ่งหมายความว่าทุกคำที่คุณกินเข้าไปอาจ
00:04:17 → 00:04:20 กำลังทำร้ายภูมิคุ้มกันของคุณอยู่งาน
00:04:20 → 00:04:23 วิจัยยังยืนยันว่าการบริโภคอาหารที่มีไข
00:04:23 → 00:04:26 มันอิ่มตัวสูงสัมพันธ์กับการทำงานของระบบ
00:04:26 → 00:04:30 ภูมิคุ้มกันที่แย่ลงอย่างชัดเจนการกินไข
00:04:30 → 00:04:33 มันอิ่มตัวมากเกินไปและกินไขมันดีน้อยลง
00:04:33 → 00:04:36 อาจจะกดการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกาย
00:04:36 → 00:04:40 และเพิ่มการอักเสบทั่วร่างกายนอกจากนี้
00:04:40 → 00:04:43 สิ่งที่น่ากังวลอีกอย่างคืออาหารfastฟู้ด
00:04:43 → 00:04:45 และขนมขบเคี้ยวหลายชนิดที่บรรจุอยู่ใน
00:04:45 → 00:04:48 บรรจุพันธุ์พลาสติกมักจะมีสารเคมีที่
00:04:48 → 00:04:51 เรียกว่าพาทาลateซึ่งสามารถซึมเข้าสู่
00:04:51 → 00:04:55 อาหารได้สารพาทาลนี้จะรบกวนระบบฮอร์โมนใน
00:04:55 → 00:04:57 ร่างร่างกายและกระตุ้นการสร้างโปรตีนที่
00:04:57 → 00:05:01 ก่อให้เกิดการอักเสบไขมันทรไขมันอิ่มตัว
00:05:02 → 00:05:04 ยังเข้าไปสะสมในเยื่อหุ้มเซลล์ทำให้เซลล์
00:05:04 → 00:05:07 ภูมิคุ้มกันทำงานช้าลงตอบสนองต่อเชื้อโรค
00:05:07 → 00:05:11 ได้แย่ลงและสารพาทาเลตยังมีผลโดยตรงในการ
00:05:11 → 00:05:14 ลดจำนวนแบคทีเรียดีในลำไส้ซึ่งอย่างที่
00:05:14 → 00:05:17 กล่าวไปแล้วว่าลำไส้คือหัวใจสำคัญของภูมิ
00:05:17 → 00:05:21 คุ้มกันครับดังนั้นการลดอาหารทอดและแปร
00:05:21 → 00:05:23 รูปจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องเซลล์
00:05:23 → 00:05:27 ภูมิคุ้มกันของคุณครับ 3 น้ำตาลและ
00:05:27 → 00:05:30 คาร์โบไฮเดรตขัดสีศัตรูตัวฉะกาดของเม็ด
00:05:30 → 00:05:33 เลือดขาวข้อ 3 คือน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต
00:05:33 → 00:05:37 ขัดสีครับไม่ว่าจะเป็นขนมหวานชานมไขมุก
00:05:37 → 00:05:41 ข้าวขาวหรือขนมปังขาวอาหารเหล่านี้ล้วนมี
00:05:41 → 00:05:44 ผลโดยตรงและรุนแรงต่อระบบภูมิคุ้มกันของ
00:05:44 → 00:05:48 เราครับลองนึกภาพดูนะครับการศึกษาในปี
00:05:48 → 00:05:51 2012 กับผู้สูงอายุจำนวนกว่า 500 คนพบ
00:05:51 → 00:05:54 ว่าผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมีการ
00:05:54 → 00:05:57 ตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่ต่ำลงอย่างมีใน
00:05:57 → 00:06:00 สำคัญและมีระดับการอักเสบ CRP C
00:06:00 → 00:06:03 Reactive โปรteซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการ
00:06:03 → 00:06:06 อักเสบในร่างกายสูงขึ้นอย่างชัดเจนการ
00:06:06 → 00:06:09 บริโภคน้ำตาลมากเกินไปจะทำให้ระดับน้ำตาล
00:06:09 → 00:06:12 ในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็วซึ่งกระตุ้น
00:06:12 → 00:06:14 ให้ร่างกายหลั่งโปรตีนที่ก่อการอักเสบมาก
00:06:14 → 00:06:17 ขึ้นและโปรตีนเหล่านี้ล้วนบั่นทอนการทำ
00:06:17 → 00:06:21 งานของภูมิคุ้มกันทั้งสิ้นนอกจากนี้ระดับ
00:06:21 → 00:06:23 น้ำตาลที่สูงยังยับยั้งการตอบสนองของเม็ด
00:06:23 → 00:06:27 เลือดเลือดขาวบางชนิดเช่นเซลล์ฟาโกไซที่
00:06:27 → 00:06:30 ทำหน้าที่กลืนกินและทำลายเชื้อโรคทำให้
00:06:30 → 00:06:32 ร่างกายจัดการกับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
00:06:32 → 00:06:35 ได้ไม่ดีเท่าที่ควรและที่อันตรายอย่าง
00:06:35 → 00:06:38 ยิ่งคือน้ำตาลส่วนเกินในกระแสเลือดจะไป
00:06:38 → 00:06:41 เกาะติดกับโปรตีนในเลือดกลายเป็นสารพิษ
00:06:41 → 00:06:44 ที่เรียกว่าน้ำตาลเหนียวซึ่งจะไปอุดตัน
00:06:44 → 00:06:46 หลอดเลือดเล็กๆทั่วร่างกายและทำลายเซลล์
00:06:46 → 00:06:49 ภูมิคุ้มกันในที่สุดภาวะน้ำตาลสูงเรื้อ
00:06:49 → 00:06:53 รังยังส่งผลให้ผนังลำไส้เกิดการเสียสมดุล
00:06:53 → 00:06:56 หรือที่เรียกว่าลำไส้รั่วแบคทีเรียดีในลำ
00:06:56 → 00:06:59 ไส้ลดลงเปิดช่องให้เชื้อก่อโรคและสารพิษ
00:06:59 → 00:07:02 เข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายขึ้นส่งผลให้
00:07:02 → 00:07:05 ร่างกายอ่อนแอและป่วยง่ายในระยะยาวการลด
00:07:05 → 00:07:08 น้ำตาลและเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจึง
00:07:08 → 00:07:10 เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาภูมิ
00:07:10 → 00:07:14 คุ้มกันให้แข็งแรงครับ 4 เครื่องดื่ม
00:07:14 → 00:07:17 แอลกอฮอล์ทำลายภูมิคุ้มกันปอดและลำไส้และ
00:07:18 → 00:07:20 ข้อสุดท้ายครับที่หลายคนอาจมองข้ามหรือ
00:07:20 → 00:07:23 ไม่คิดว่าจะส่งผลโดยตรงต่อภูมิคุ้มกัน
00:07:23 → 00:07:26 นั่นก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครับสำหรับ
00:07:26 → 00:07:29 คนวัย 60 ขึ้นไปร่างกายจะจัดการกับ
00:07:29 → 00:07:32 แอลกอฮอล์ได้ช้าลงมากเมื่อดื่มเข้าไป
00:07:32 → 00:07:35 แอลกอฮอล์จะตกค้างในร่างกายนานขึ้นการ
00:07:35 → 00:07:38 วิจัยล่าสุดปี 2025 จาก University of
00:07:38 → 00:07:41 Colorado ได้เปิดเผยผลกระทบของแอลกอฮอล์
00:07:41 → 00:07:44 ต่อผู้สูงอายุหลายด้านโดยเฉพาะการทำลาย
00:07:44 → 00:07:48 เซลล์ภูมิคุ้มกันชนิดแมคโครฟาช
00:07:48 → 00:07:51 ของเราเซลล์แมคโครฟาชเหล่านี้ทำหน้าที่
00:07:51 → 00:07:53 เหมือนด่านหน้าในการกำจัดเชื้อโรคฝุ่น
00:07:53 → 00:07:56 ละอองหรือสิ่งแปลกปลอมที่เราสูดหายใจเข้า
00:07:56 → 00:07:59 ไปในปอดหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณ
00:07:59 → 00:08:02 มากหรือแม้แต่การดื่มปานกลางอย่างต่อ
00:08:02 → 00:08:04 เนื่องเซลล์แมคโครฟาชเหล่านี้จะเคลื่อน
00:08:04 → 00:08:07 ที่ช้าลงและความสามารถในการกลืนกินและ
00:08:07 → 00:08:11 ทำลายเชื้อโรคก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทำให้
00:08:11 → 00:08:13 ปอดของเราไม่สามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมได้
00:08:13 → 00:08:16 อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้เสี่ยงต่อการ
00:08:16 → 00:08:19 ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น
00:08:19 → 00:08:22 และที่น่ากังวลคือผลกระทบนี้อาจคงอยู่นาน
00:08:22 → 00:08:25 หลายวันหลังการดื่มเลยครับนอกจากนี้
00:08:25 → 00:08:28 แอลกอฮอล์ยังส่งผลกระทบต่อลำไส้และตับ
00:08:28 → 00:08:31 อย่างรุนแรงทำให้เยื่อบุลำไส้เกิดช่องโว
00:08:31 → 00:08:34 หรือที่เราเรียกว่าลำไส้รั่ว Ley กัสด
00:08:34 → 00:08:37 syนrมซึ่งจะปล่อยให้แบคทีเรียสารพิษและ
00:08:37 → 00:08:39 อนุภาพอาหารที่ยังย่อยไม่สมบูรณ์เข้าสู่
00:08:39 → 00:08:42 กระแสเลือดและส่งตรงไปที่ตับซึ่งจะเพิ่ม
00:08:42 → 00:08:46 ภาระให้กับตับในการกำจัดสารพิษแอลกอฮอล์
00:08:46 → 00:08:48 ยังเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของจูลินทรีย์ใน
00:08:48 → 00:08:50 ลำไส้ลดจำนวนแบคทีเรียดีและเพิ่ม
00:08:50 → 00:08:53 แบคทีเรียก่อโรคทำให้ภูมิต้านทานของเรา
00:08:53 → 00:08:57 แย่ลงในระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุแอลกอฮอล์
00:08:57 → 00:08:59 ยังกดการสร้างภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะทำให้
00:08:59 → 00:09:02 ร่างกายติดเชื้อซ้ำง่ายและประสิทธิภาพของ
00:09:02 → 00:09:05 วัคซีนที่ฉีดไปก็อาจทำงานได้ไม่เต็มที่
00:09:05 → 00:09:08 ด้วยครับดังนั้นการจำกัดหรือหลีกเลี่ยง
00:09:08 → 00:09:11 แอลกอฮอล์จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาระบบ
00:09:11 → 00:09:14 ภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงสมบูรณ์ครับคุณผู้
00:09:14 → 00:09:18 ฟังครับการที่เรายิ่งกินยิ่งป่วยเป็นผลมา
00:09:18 → 00:09:21 จากการเลือกบริโภคของเราเองครับการเลี่ยง
00:09:21 → 00:09:23 อาหารทั้ง 4 ชนิดนี้อาจจะเป็นก้าวแรกที่
00:09:23 → 00:09:26 สำคัญที่สุดในการฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน
00:09:26 → 00:09:29 ของตัวเราเองให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
00:09:29 → 00:09:32 ร่างกายของเราพยายามรักษาตัวเองอยู่เสมอ
00:09:32 → 00:09:35 ครับแม้ว่าอายุจะเพิ่มขึ้นทุกปีแต่สุขภาพ
00:09:35 → 00:09:39 ที่ดีเราสามารถสร้างได้ไม่ว่าวัยไหนขอแค่
00:09:39 → 00:09:41 คุณเริ่มต้นเปลี่ยนอาหารเพียง 1 อย่างก็
00:09:42 → 00:09:44 สามารถเปลี่ยนชีวิตได้แล้วครับลองเริ่ม
00:09:44 → 00:09:48 จากง่ายๆเช่นวันนี้กินผลไม้แทนขนมหวาน
00:09:48 → 00:09:51 พรุ่งนี้ดื่มชาอุ่นๆแทนน้ำหวานหรือมะรือ
00:09:51 → 00:09:54 นี้กลิ่นปลาแทนหมูกรอบเพียงแค่นี้ภูมิ
00:09:54 → 00:09:57 คุ้มกันของคุณจะเริ่มฟื้นตัวภายใน 1-2
00:09:57 → 00:10:00 สัปดาห์แล้วครับหากคุณผู้ฟังมีคำถามเพิ่ม
00:10:00 → 00:10:02 เติมหรืออยากให้เราพูดถึงเรื่องสุขภาพ
00:10:02 → 00:10:05 เรื่องไหนเป็นพิเศษสามารถคอมเมนต์มาได้
00:10:05 → 00:10:08 เลยนะครับก่อนจะปิดรายการในวันนี้ขอเรียน
00:10:08 → 00:10:12 ให้คุณผู้ฟังทราบว่าเนื้อหาในพcสนี้จัดทำ
00:10:12 → 00:10:14 ขึ้นเพื่อให้ข้อมูลและความรู้ทั่วไปเท่า
00:10:14 → 00:10:17 นั้นและหากมีข้อสงสัยหรือปัญหาด้านสุขภาพ
00:10:17 → 00:10:20 ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการ
00:10:20 → 00:10:23 แพทย์ทุกครั้งนะครับหากคุณชื่นชอบพcส.นี้
00:10:23 → 00:10:26 อย่าลืมกดติดตามและแชร์ให้เพื่อนๆหรือคน
00:10:26 → 00:10:29 ในครอบครัวที่คุณรักนะครับเพราะการแบ่ง
00:10:29 → 00:10:31 ปันความรู้เป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง
00:10:32 → 00:10:35 ขอบคุณที่รับฟังแล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า
00:10:35 → 00:10:38 สวัสดีครับ