00:00:00 → 00:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอพัทรพcast Talk ความรู้
00:00:03 → 00:00:06 สุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่
00:00:06 → 00:00:09 >> เคยรู้สึกกันไหมครับว่าเอ๊ะทำไมเราก็ดูแล
00:00:09 → 00:00:12 สุขภาพดีแล้วนะแต่น้ำหนักก็ยังไม่ลงสักที
00:00:12 → 00:00:15 หรือบางทีก็รู้สึกอ่อนเพลียเหนื่อยง่าย
00:00:15 → 00:00:18 แบบไม่มีสาเหตุบางทีคำตอบของเรื่องทั้ง
00:00:18 → 00:00:21 หมดนี้อาจจะซ่อนอยู่ที่ต่อมเล็กๆรูปทรง
00:00:21 → 00:00:23 คล้ายผีเสื้อตรงคอของเรานี่เองครับใช่
00:00:23 → 00:00:26 แล้วครับต่อมไทรอยด์วันนี้เราจะมาไข่ทุก
00:00:26 → 00:00:29 ความลับของมันกันคือต้องบอกว่าตัวเลขนี้
00:00:30 → 00:00:33 น่าตกใจมากเลยนะครับกว่า 60% ของผู้ที่มี
00:00:33 → 00:00:36 ปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์อาจจะไม่รู้ตัว
00:00:36 → 00:00:38 เลยด้วยซ้ำไปเพราะว่าอาการมันไม่ได้แสดง
00:00:38 → 00:00:42 ออกมาแบบชัดๆนะครับนั่นก็แปลว่าปัญหานี้
00:00:42 → 00:00:44 อาจจะกำลังแฝงตัวอยู่ในร่างกายของใครหลาย
00:00:44 → 00:00:48 คนแบบเงียบๆก็เป็นได้คำถามสำคัญเลยก็คือ
00:00:48 → 00:00:51 อ้าวแล้วแบบนี้เราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าเรา
00:00:51 → 00:00:54 กำลังมีปัญหาอยู่หรือเปล่าไม่ต้องกังวลไป
00:00:54 → 00:00:56 ครับในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้เราจะมา
00:00:56 → 00:00:59 ส่องหาสัญญาณเตือนที่ซ่อนอยู่แล้วก็มาแยก
00:00:59 → 00:01:01 ข้อเท็จจริงออกจากความเชื่อผิดๆที่ได้ยิน
00:01:01 → 00:01:05 กันมาไปพร้อมๆกันเลยครับโอเคครับก่อนที่
00:01:05 → 00:01:08 เราจะไปเจาะลึกเรื่องจริงกันเนี่ยเรามา
00:01:08 → 00:01:11 เริ่มจากการทลายความเชื่อผิดๆที่หลายคน
00:01:12 → 00:01:13 อาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับต่อมไทรรอยด์กัน
00:01:13 → 00:01:16 ก่อนเลยดีกว่าครับอันนี้เป็นความเชื่อที่
00:01:16 → 00:01:19 ฮิตที่สุดเลยก็ว่าได้ครับพอน้ำหนักขึ้น
00:01:19 → 00:01:24 ปุ๊บสิ่งแรกที่โทษเลยก็คือไทรอยด์แน่ๆ
00:01:24 → 00:01:26 หลายคนมักจะพุ่งเป้าไปที่เรื่องนี้เป็น
00:01:26 → 00:01:29 อย่างแรกเลยใช่มั้ล่ะครับแต่ในความเป็น
00:01:29 → 00:01:31 จริงแล้วบ่อยครั้งเลยนะครับที่ต่อม
00:01:31 → 00:01:34 ไทรรอยด์กลายเป็นเหมือนเอ่อแพะรับบาปไป
00:01:34 → 00:01:37 ซะงั้นเพราะว่าตัวการที่แท้จริงที่ซ่อน
00:01:37 → 00:01:40 อยู่เบื้องหลังเนี่ยมักจะเป็นฮอร์โมนตัว
00:01:40 → 00:01:43 อื่นๆครับไม่ว่าจะเป็นอินซูลินคอร์ติซอล
00:01:43 → 00:01:45 หรือฮอร์โมนความเครียดแล้วก็เอสโตรเจนนี่
00:01:46 → 00:01:49 แหละค่ะอีกเรื่องนึงที่หลายคนเข้าใจก็คือ
00:01:49 → 00:01:52 แค่กินยาตามที่คุณหมอให้มาก็น่าจะแก้
00:01:52 → 00:01:55 ปัญหาได้ทุกอย่างแล้วแต่จริงๆแล้วเรื่อง
00:01:55 → 00:01:57 มันอาจจะซับซ้อนกว่านั้นนิดนึงครับและนี่
00:01:58 → 00:02:01 แหละครับคือจุดที่หลายคนอาจจะพลาดไปยา
00:02:01 → 00:02:03 ไทรอยด์ส่วนใหญ่ที่เรากินเข้าไปเนี่ยมัน
00:02:03 → 00:02:06 คือฮอร์โมน T4 ซึ่งมันยังไม่ออกฤทธิ์นะ
00:02:06 → 00:02:09 ครับร่างกายเราต้องอาศัยอวัยวะสำคัญอย่าง
00:02:09 → 00:02:11 ตับเพื่อเปลี่ยนเจ้า T4 เนี่ยให้กลายเป็น
00:02:12 → 00:02:15 T3 ซึ่งเป็นฮอร์โมนรูปแบบที่พร้อมใช้งาน
00:02:15 → 00:02:18 จริงๆเพราะฉะนั้นก็แปลว่าถ้าตับเรามี
00:02:18 → 00:02:21 ปัญหายาที่กินเข้าไปก็อาจจะไม่ได้ผลเต็ม
00:02:21 → 00:02:24 ที่อย่างที่ควรจะเป็นครับเอาล่ะครับเมื่อ
00:02:24 → 00:02:27 กี้เราพูดถึง T4 กับ T3 ไปแล้วใช่มั้ย
00:02:27 → 00:02:30 ครับทีนี้เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นเนี่ยเรา
00:02:30 → 00:02:33 ลองไปติดตามการเดินทางของฮอร์โมนไทรรอยด์
00:02:33 → 00:02:35 ในร่างกายเรากันดีกว่าครับว่ามันเป็นยัง
00:02:35 → 00:02:38 ไงถ้าให้สรุปง่ายๆนะครับการเดินทางของ
00:02:38 → 00:02:41 ฮอร์โมนไทรรอยด์เนี่ยมี 3 ขั้นตอนหลักๆ
00:02:41 → 00:02:44 ครับขั้นแรกเลยต่อมไทรอยด์ของเราจะสร้าง
00:02:44 → 00:02:47 ฮอร์โมน T4 ขึ้นมาซึ่งเปลี่ยนไปก็เหมือน
00:02:47 → 00:02:50 วัตถุดิบที่เก็บสำรองเอาไว้จากนั้นในขั้น
00:02:50 → 00:02:53 ที่ 2 ตับจะทำหน้าที่เหมือนโรงงานครับคือ
00:02:53 → 00:02:56 แปรรูป T4 ให้กลายเป็น T3 ที่พร้อมใช้งาน
00:02:56 → 00:03:00 และสุดท้ายTล
00:03:00 → 00:03:03 ต่างๆทั่วร่างกายเพื่อควบคุมระบบการเผา
00:03:03 → 00:03:07 พลาของเรานั่นเองครับแล้วทีนี้คำถามก็คือ
00:03:07 → 00:03:10 ถ้าเกิดว่ากระบวนการที่ว่ามาเนี่ยมันเกิด
00:03:10 → 00:03:14 สะดุดขึ้นมาล่ะครับจะเกิดอะไรขึ้นเรื่อง
00:03:14 → 00:03:16 นี้ล่ะครับที่จะพาเราไปเจอกับความเชื่อม
00:03:16 → 00:03:19 โยงที่โอ้โหหลายคนอาจจะคาดไม่ถึงเลยที
00:03:19 → 00:03:22 เดียวและนี่คือความเชื่อมโยงที่น่าทึ่ง
00:03:22 → 00:03:25 มากๆครับปัญหาไทรรอยด์เนี่ยอาจจะเป็นต้น
00:03:25 → 00:03:28 ตอของภาวะคอเลสเตอรอลสูงก็ได้คือพอ
00:03:28 → 00:03:31 ไทรอยด์ทำงานผิดปกติมันจะไปรบกวนการทำงาน
00:03:31 → 00:03:34 ของตับในการจัดการกับคอเลสเตอรอลไปด้วยผล
00:03:34 → 00:03:36 ก็คือค่าไขมันต่างๆอาจจะพุ่งสูงขึ้นได้
00:03:37 → 00:03:39 ทั้งหมดเลยครับนี่เป็นจุดที่มักจะถูกมอง
00:03:39 → 00:03:42 ข้ามไปนะครับแม้แต่ในคนที่กำลังทานยาลดไข
00:03:42 → 00:03:45 มันอยู่แล้วก็ตามทีนี้นะครับนอกจากเรื่อง
00:03:45 → 00:03:48 กลไกภายในร่างกายแล้วเนี่ยมันยังมีผู้
00:03:48 → 00:03:51 ร้ายที่แฝงตัวมากับอาหารบางอย่างด้วยนะ
00:03:51 → 00:03:54 ครับที่คอยจะมาขัดขวางการทำงานของไทรอยด์
00:03:54 → 00:03:58 เราแบบเงียบๆเลยโอ้โหไม่น่าเชื่อเลยนะ
00:03:58 → 00:04:01 ครับว่าอาหารที่ดูเหมือนจะดีต่อสุขภาพ
00:04:01 → 00:04:04 หลายๆอย่างก็อาจจะส่งผลกระทบได้เหมือนกัน
00:04:04 → 00:04:06 อย่างพวกกลุ่มถั่วเหลืองที่อาจไปบล็อกการ
00:04:06 → 00:04:09 ซ่านฮอร์โมนหรือแม้กระทั่งของใกล้ตัว
00:04:09 → 00:04:11 อย่างหอมกับกระเทียมก็อาจจะไปชะลอการ
00:04:11 → 00:04:14 เปลี่ยน T4 ไปเป็น T3 ที่ตับได้เหมือนกัน
00:04:14 → 00:04:16 นี่เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นเลยนะครับว่า
00:04:16 → 00:04:19 เรื่องอาหารเนี่ยมันซับซ้อนกว่าที่เราคิด
00:04:19 → 00:04:22 ไว้เยอะเลยพอเรารู้จักฝั่งผู้ร้ายไปแล้ว
00:04:22 → 00:04:24 ก็ต้องมาทำความรู้จักกับฝั่งพระเอกกัน
00:04:25 → 00:04:28 บ้างครับมาดูกันว่ามีอาหารอะไรบ้างที่จะ
00:04:28 → 00:04:31 มาช่วยบำรุงแล้วก็สนับสนุนการทำงานของ
00:04:31 → 00:04:34 ต่อมไทรอยด์ของเราสำหรับฝั่งพระเอกนี้ก็
00:04:34 → 00:04:37 มีของดีๆเพียบเลยครับไม่ว่าจะเป็นพวก
00:04:37 → 00:04:39 สาหร่ายทะเลที่เป็นเหมือนขุมทรัพย์ของ
00:04:39 → 00:04:43 ไอโอดีนปลาทะเลอย่างแซลมอนหรือซาดีนที่มี
00:04:43 → 00:04:47 โอเมก้า 3 สูงช่วยลดการอักเสบหรืออย่าง
00:04:47 → 00:04:49 ถั่วบราซิลนี่ก็สุดยอดเลยครับแค่วันละไม่
00:04:50 → 00:04:52 กี่เม็ดก็ได้แร่ธาตุซีลิเนียมที่จำเป็น
00:04:52 → 00:04:55 มากๆต่อการสร้างฮอร์โมนไทรรอยด์แล้วครับ
00:04:55 → 00:04:58 เอาล่ะครับพอเราได้รู้ข้อมูลทั้งหมดนี้
00:04:58 → 00:05:01 แล้วเนี่ยมาถึงคำถามสุดท้ายที่สำคัญที่
00:05:01 → 00:05:04 สุดเลยก็คือแล้วเมื่อไหร่ล่ะที่เราควรจะ
00:05:04 → 00:05:08 ไปตรวจเช็คค่าไทรรอยด์ของตัวเองโดยเฉพาะ
00:05:08 → 00:05:11 เลยนะครับสำหรับคนที่กำลังคุมอาหารแบบ
00:05:11 → 00:05:14 คาร์โบไฮเดรตต่ำอยู่หรือทานคีโตแล้วพบว่า
00:05:14 → 00:05:17 ตัวเองมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วยไม่ว่าจะ
00:05:17 → 00:05:20 เป็นผมร่วงเยอะผิดปกติเล็บเปราะบางน้ำ
00:05:20 → 00:05:24 หนักนิ่งลดไม่ลงสักทีหรือรู้สึกสมองตื้อ
00:05:24 → 00:05:27 เบลอๆหลังกินข้าวอาการเหล่านี้อาจเป็น
00:05:27 → 00:05:30 สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่ควรไปเช็คการทำ
00:05:30 → 00:05:33 งานของต่อมไทรอยด์ดูแล้วล่ะครับเวลาไป
00:05:33 → 00:05:36 ตรวจเลือดนะครับการตรวจแค่ค่า TSH อย่าง
00:05:36 → 00:05:39 เดียวเนี่ยก็ถือว่าดีในระดับนึงแต่ถ้า
00:05:39 → 00:05:42 อยากให้เห็นภาพที่ครบถ้วนจริงๆชัดเจนกว่า
00:05:43 → 00:05:47 เดิมการตรวจ TSH คู่ไปกับค่าฟรี T3 เนี่ย
00:05:47 → 00:05:49 จะช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมได้ดีกว่ามากๆ
00:05:49 → 00:05:52 เลยครับเพราะมันทำให้เรารู้ว่าร่างกาย
00:05:52 → 00:05:54 เปลี่ยนฮอร์โมนไปใช้งานได้ดีแค่แค่ไหน
00:05:54 → 00:05:57 ด้วยและสุดท้ายนี้เลยนะครับอยากจะฝากคำ
00:05:57 → 00:06:00 ถามไว้ให้เราได้กลับไปคิดกันนิดนึงว่าทุก
00:06:00 → 00:06:02 วันนี้ที่เราดูแลสุขภาพกันอยู่เนี่ยเรา
00:06:02 → 00:06:05 กำลังจัดการที่ปลายเหตุหรือว่าเรากำลัง
00:06:05 → 00:06:08 มองลึกลงไปเพื่อแก้ที่ต้นตอของปัญหากัน
00:06:08 → 00:06:11 แน่เพราะการเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงนี่
00:06:11 → 00:06:14 แหละครับคือกุญแจที่สำคัญที่สุดในการดูแล
00:06:14 → 00:06:18 สุขภาพไทรรอยด์ของเราในระยะยาว
00:06:18 → 00:06:22 สวัสดีค่ะมาเจาะลึกข้อมูลสุขภาพน่ารู้กัน
00:06:22 → 00:06:25 อีกครั้งนะคะวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง
00:06:25 → 00:06:29 อวัยวะเล็กๆค่ะแต่ว่าสำคัญมากเลยอย่าง
00:06:29 → 00:06:32 ต่อมไทรอยด์นี่แหละค่ะคือหลายคนอาจจะยัง
00:06:32 → 00:06:34 มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือรู้ข้อมูลแค่
00:06:34 → 00:06:38 แบบผิวเผินมากๆวันนี้เราก็เลยรวบรวมข้อ
00:06:38 → 00:06:40 มูลจากหลายแหล่งเลยค่ะทั้งเรื่องความ
00:06:40 → 00:06:44 เชื่อผิดๆนะคะผลกระทบจากอาหารการตรวจ
00:06:44 → 00:06:48 สุขภาพมาคุยกันให้เห็นภาพรวมชัดๆไปเลยค่ะ
00:06:48 → 00:06:51 >> ใช่ครับคือสุขภาพต่อมไทรรอยด์เนี่ยเป็น
00:06:51 → 00:06:53 เรื่องที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิดเยอะเลยนะ
00:06:53 → 00:06:56 ครับเพราะว่ามันเชื่อมโยงกับการทำงานส่วน
00:06:56 → 00:06:59 อื่นๆของร่างกายเอ่อเยอะมากๆเลยการทำความ
00:06:59 → 00:07:01 เข้าใจให้ถูกต้องเนี่ยก็เลยเป็นเรื่องที่
00:07:01 → 00:07:03 ไม่ควรมองข้ามเลยจริงๆครับ
00:07:03 → 00:07:06 >> โอเคค่ะงั้นเรามาเริ่มด้วยการไขความเข้า
00:07:06 → 00:07:09 ใจผิดที่พบบ่อยๆกันก่อนเลยดีมั้ยคะมีความ
00:07:09 → 00:07:12 เชื่ออะไรบ้างคะเกี่ยวกับไชรอยด์ที่มักจะ
00:07:12 → 00:07:14 ได้ยินกันบ่อยๆแต่จริงๆแล้วอาจจะไม่ถูก
00:07:14 → 00:07:15 ต้องทั้งหมด
00:07:15 → 00:07:17 >> โหมีหลายอย่างเลยครับจากข้อมูลที่รวบรวม
00:07:17 → 00:07:21 มานะข้อแรกที่น่าสนใจมากๆคือคนส่วนใหญ่
00:07:21 → 00:07:24 มักจะคิดว่าถ้าไทรอยด์มีปัญหาเนี่ยจะต้อง
00:07:24 → 00:07:27 มีอาการป่วยชัดเจนออกมาเลยแต่จริงๆแล้ว
00:07:27 → 00:07:30 เอ่อกว่า 60% ของความผิดปกติของต่อม
00:07:30 → 00:07:32 ไทรอยด์นะครับอาจจะไม่มีอาการแสดงที่ชัด
00:07:32 → 00:07:34 เจนออกมาเลยก็ได้
00:07:34 → 00:07:36 >> 60% เลยหรอคะ
00:07:36 → 00:07:38 >> ครับหรืออาจจะเป็นแค่อาการเล็กๆน้อยๆที่
00:07:38 → 00:07:40 คนมักจะมองข้ามไปครับ
00:07:40 → 00:07:43 >> หมายความว่าอาจจะมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่
00:07:43 → 00:07:46 มีปัญหาไทรรอยด์แฝงอยู่แบบไม่รู้ตัว
00:07:46 → 00:07:48 >> ใช่ครับมีความเป็นไปได้สูงเลยครับ
00:07:48 → 00:07:49 >> น่าคิดเหมือนกันนะคะเนี่ย
00:07:49 → 00:07:52 >> แล้วก็เรื่องการรักษาก็มีความเข้าใจผิด
00:07:52 → 00:07:56 คล้ายๆกันครับคือมองว่าการใช้ยาการผ่าตัด
00:07:56 → 00:07:59 หรือว่าการกลื่นแร่เนี่ยเป็นการรักษาให้
00:07:59 → 00:08:02 หายขาดไปเลยแต่จริงๆแล้ววิธีเหล่านี้ส่วน
00:08:02 → 00:08:04 ใหญ่เป็นการจัดการตามอาการนะครับไม่ได้
00:08:05 → 00:08:07 แก้ที่ต้นตอของปัญหาโดยตรง
00:08:07 → 00:08:08 >> อ๋อค่ะ
00:08:08 → 00:08:11 >> และที่สำคัญนะครับน้อยคนมากที่จำเป็นต้อง
00:08:11 → 00:08:14 กินยาไปตลอดชีวิตนะครับถ้าเราสามารถหา
00:08:14 → 00:08:16 แล้วก็แก้ไขสาเหตุที่แท้จริงได้เนี่ยเอ่อ
00:08:16 → 00:08:19 ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องพึ่งยาในระยะยาวเลย
00:08:19 → 00:08:19 ก็ได้
00:08:19 → 00:08:21 >> จริงหรอคะนึกว่าต้องกินตลอดซะอีก
00:08:22 → 00:08:25 >> ครับแล้วก็อีกอย่างคือถ้าอาการมันไม่ได้
00:08:25 → 00:08:28 รบกวนชีวิตประจำวันมากนักนะครับการมุ่ง
00:08:28 → 00:08:31 เน้นไปที่การหาและแก้สาเหตุอาจจะสำคัญ
00:08:31 → 00:08:34 กว่าการเริ่มรักษาด้วยยาด้วยซ้ำไปครับ
00:08:34 → 00:08:37 >> เป็นมุมมองเรื่องการรักษาที่น่าสนใจมากๆ
00:08:37 → 00:08:39 เลยค่ะไม่ใช่แค่จัดการอาการแต่ต้องมองลึก
00:08:40 → 00:08:43 ไปถึงต้นตอจริงๆแล้วเรื่องเพศกับอายุล่ะ
00:08:43 → 00:08:45 คะมีผลต่อความเสี่ยงเรื่องไทรรอยด์ต่าง
00:08:45 → 00:08:46 กันมั้คะ
00:08:46 → 00:08:49 >> โอ้อันนี้มีความแตกต่างชัดเจนเลยครับข้อ
00:08:49 → 00:08:52 มูลชี้ว่าผู้หญิงถึงมีโอกาสพบความผิดปกติ
00:08:52 → 00:08:55 ของต่อมไทรอยด์มากกว่าผู้ชายถึง 5 เท่า
00:08:55 → 00:08:55 เลยครับ
00:08:55 → 00:08:56 >> 5 เท่า
00:08:56 → 00:08:59 >> ใช่ครับซึ่งเขาเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับ
00:08:59 → 00:09:02 ฮอร์โมนเอสโตรเจนนะครับส่วนเรื่องอายุก็
00:09:02 → 00:09:05 มักจะพบความผิดปกติได้บ่อยใน 2 ช่วงวัย
00:09:05 → 00:09:08 ครับคือช่วงอายุ 20-40 ปีมักจะพบภาวะ
00:09:08 → 00:09:11 ไทรรอยด์ทำงานเกินหรือไฮเปอรไทroidิึม
00:09:11 → 00:09:14 แล้วก็ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไปมักจะพบภาวะ
00:09:14 → 00:09:17 ไทรรอยด์ทำงานต่ำหรือไฮโปไทroidิหรืออาจ
00:09:17 → 00:09:20 จะเป็นแบบแฝงก็ได้รวมถึงการเกิดก้อนหรือ
00:09:20 → 00:09:21 ว่าถุงน้ำที่ต่อมไทรรอยด์ครับ
00:09:21 → 00:09:24 >> ผู้หญิงเสี่ยงกว่า 5 เท่าเลยอันนี้น่าจะ
00:09:24 → 00:09:27 ทำให้หลายคนต้องหันมาใส่ใจมากขึ้นจริงๆนะ
00:09:27 → 00:09:30 คะแล้วเรื่องอาหารราคาที่เคยได้ยินกัน
00:09:30 → 00:09:33 บ่อยๆว่าเอ่อกินกะหล่ำปลีเยอะๆไม่ดีนะ
00:09:33 → 00:09:35 หรือว่าห้ามกินถั่วเหลืองเด็ดขาดเลยอัน
00:09:35 → 00:09:37 นี้จริงเท็จแค่ไหนคะ
00:09:37 → 00:09:39 >> อันนี้ก็เป็นอีกประเด็นที่คนถามกันเยอะ
00:09:39 → 00:09:42 มากครับความเข้าใจผิดคือคิดว่าต้องงด
00:09:42 → 00:09:45 อาหารเหล่านี้ไปเลยจริงๆแล้วเนี่ยอาหาร
00:09:45 → 00:09:49 บางชนิดเช่นเอ่อกลูเต้นในกลุ่มข้าวสาลี
00:09:49 → 00:09:50 เข้าบาเล่์
00:09:50 → 00:09:53 หรือถั่วเหลืองหรือว่าผักตระกูลกะหล่ำ
00:09:53 → 00:09:56 อย่างกะลำปลีบร็อกโเคอรี่คะน้าพวกเนี้ยมี
00:09:56 → 00:09:59 ผลต่อการทำงานของไทรอยด์ได้จริงครับแต่
00:10:00 → 00:10:02 ว่าไม่ได้หมายความว่าต้องห้ามกินเด็ดขาด
00:10:02 → 00:10:06 นะครับเรายังสามารถกินได้แต่ต้องกินให้
00:10:06 → 00:10:07 เป็นครับ
00:10:07 → 00:10:10 >> คำว่ากินให้เป็นนี่มันยังไงคะอย่างเช่น
00:10:10 → 00:10:13 การปรุงผักตระกูลกะหล่ำให้สุกอาจจะช่วยลด
00:10:13 → 00:10:15 ผลกระทบบางอย่างได้หรือเปล่าคะแบบนี้
00:10:15 → 00:10:18 >> ใช่เลยครับนั่นเป็นส่วนหนึ่งของการกินให้
00:10:18 → 00:10:20 เป็นเลยครับการปรุงให้สุกด้วยความร้อน
00:10:20 → 00:10:23 เนี่ยสามารถลดสารบางชนิดที่อาจจะรบกวน
00:10:23 → 00:10:26 ไทรอยด์ได้หรือการรู้จักปริมาณที่เหมาะสม
00:10:26 → 00:10:29 ไม่กินมากจนเกินไปก็ถือเป็นการจัดการที่
00:10:29 → 00:10:32 ดีครับเดี๋ยวเราจะลงรายละเอียดเรื่องกลไก
00:10:32 → 00:10:34 ของอาหารกันต่อนะครับแต่ขอเสริมอีกนิดนึง
00:10:34 → 00:10:36 เรื่องยาไทรรอยด์ก่อน
00:10:36 → 00:10:38 >> ได้เลยค่ะเรื่องยาวเป็นยังไงคะ
00:10:39 → 00:10:41 >> คือยาไทรอยด์ส่วนใหญ่ที่ใช้กันอยู่เนี่ย
00:10:41 → 00:10:44 มันคือฮอร์โมน T4 สังเคราะห์ครับประเด็น
00:10:44 → 00:10:47 คือ T4 เนี่ยมันยังไม่ใช่ฮอร์โมนตัวที่
00:10:47 → 00:10:50 ออกฤทธิ์โดยตรงนะครับร่างกายเราต้องเอา T4
00:10:50 → 00:10:53 เนี่ยไปเปลี่ยนเป็น T3 ที่ตับก่อน T3 ถึง
00:10:53 → 00:10:55 จะทำงานได้จริงๆ
00:10:55 → 00:10:57 >> อ๋อต้องไปเปลี่ยนที่ตับก่อน
00:10:57 → 00:11:00 >> ใช่ครับทีนี้ถ้าใครมีปัญหาเรื่องตับตับทำ
00:11:00 → 00:11:03 งานได้ไม่เต็มที่การกินยา T4 เข้าไป
00:11:03 → 00:11:06 ประสิทธิภาพมันก็อาจจะลดลงได้เพราะว่า
00:11:06 → 00:11:08 กระบวนการเปลี่ยนเป็น T3 เนี่ยมันติดขัด
00:11:08 → 00:11:09 นะครับ
00:11:09 → 00:11:12 >> เข้าใจแล้วค่ะแสดงว่าสุขภาพตับก็มีส่วน
00:11:12 → 00:11:15 สำคัญมากๆต่อการตอบสนองต่อยาไทรอยด์ด้วย
00:11:15 → 00:11:18 นะคะแล้วเรื่อง IOD ล่ะคะที่ว่าจำเป็น
00:11:18 → 00:11:20 เนี่ยเราจำเป็นต้องกินเสริมเยอะๆมั้คะ
00:11:20 → 00:11:22 >> อันนี้ก็เป็นอีกจุดที่ต้องระวังเหมือนกัน
00:11:22 → 00:11:26 ครับไอโอดีนเนี่ยจำเป็นต่อไทรอยด์จริงแต่
00:11:26 → 00:11:29 ไม่ใช่ว่ายิ่งมากยิ่งดีนะครับร่างกาย
00:11:29 → 00:11:32 ต้องการแค่เพียงพอเท่านั้นการได้รับมาก
00:11:32 → 00:11:34 เกินไปก็อาจทรงผลเสียได้เหมือนกัน
00:11:34 → 00:11:36 >> อืค่ะ
00:11:36 → 00:11:38 >> และทางที่ดีที่สุดนะครับควรจะได้รับจาก
00:11:38 → 00:11:42 แหล่งอาหารธรรมชาติเช่นสาหร่ทะเลปลาทะเล
00:11:42 → 00:11:45 ซึ่งมักจะดีกว่าการกินในรูปแบบเม็ดยา
00:11:45 → 00:11:46 สังเคราะห์ครับ
00:11:46 → 00:11:49 >> ชัดเจนเรื่องไอโอดีนเลยค่ะทีนี้ประเด็น
00:11:49 → 00:11:51 สุดท้ายของความเข้าใจผิดที่มักได้ยินบ่อย
00:11:51 → 00:11:54 ๆเลยคือเวลาใครน้ำหนักขึ้นมักจะโทษว่า
00:11:54 → 00:11:57 เป็นเพราะไทรอยด์อันนี้เกี่ยวข้องกันโดย
00:11:57 → 00:11:59 ตรงขนาดนั้นเลยมั้ยคะ
00:11:59 → 00:12:02 >> เอ่อการโทษไทรอยด์โดยตรงเลยอาจจะไม่ถูก
00:12:02 → 00:12:04 ทั้งหมดนะครับจริงอยู่ที่ว่าภาวะไทรรอยด์
00:12:04 → 00:12:08 ทำงานน้อยหรือไฮโปไทรอยด์เนี่ยสามารถทำ
00:12:08 → 00:12:11 ให้อัตราการเผาผลาญลดลงได้จริงแต่สาเหตุ
00:12:11 → 00:12:14 หลักๆที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มหรือว่าลดน้ำ
00:12:14 → 00:12:16 หนักยากเนี่ยมักจะมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย
00:12:16 → 00:12:19 เสมอครับโดยเฉพาะเรื่องความสมดุลของ
00:12:19 → 00:12:20 ฮอร์โมนตัวอื่นๆ
00:12:20 → 00:12:22 >> ฮอร์โมนตัวอื่นอย่างเช่น
00:12:22 → 00:12:24 >> อย่างเช่นอินซูลินที่เกี่ยวกับภาวะดื้อ
00:12:24 → 00:12:27 อินซูลินนะครับหรือคอร์ติซึ่งเป็นฮอร์โมน
00:12:27 → 00:12:30 ความเครียดแล้วก็เอสโตรเจนโดยเฉพาะในผู้
00:12:30 → 00:12:33 หญิงนะครับฮอร์โมนพวกนี้แหละครับที่มักจะ
00:12:33 → 00:12:36 มีบทบาทมากกว่าในการควบคุมน้ำหนักตัวครับ
00:12:36 → 00:12:37 ผม
00:12:37 → 00:12:39 >> ขอบคุณที่ช่วยเคลียร์หลายประเด็นเลยค่ะทำ
00:12:39 → 00:12:41 ให้เห็นเลยว่าเรื่องน้ำหนักนี่ซับซ้อน
00:12:41 → 00:12:44 กว่าแค่โทษไทรอยด์อย่างเดียวนะคะทีนี้
00:12:44 → 00:12:46 กลับมาที่เรื่องอาหารที่เราแตะไปนิดนิด
00:12:46 → 00:12:49 หน่อยตอนพูดถึงความเข้าใจผิดอย่างพวก
00:12:49 → 00:12:51 กะหล่ำปลีหรือถั่วเหลือมอยากจะชวนคุยต่อ
00:12:51 → 00:12:55 ว่าจริงๆแล้วอาหารมันส่งผลต่อการทำงานของ
00:12:55 → 00:12:57 ต่อมไทรรอยด์ในเชิงลึกยังไงบ้างคะ
00:12:57 → 00:13:00 >> ได้เลยครับอาหารส่งผลต่อไทรอยด์ได้หลาย
00:13:00 → 00:13:04 กลไกเลยครับกลไกแรกเลยก็คือการเข้าไปยับ
00:13:04 → 00:13:07 ยั้งกระบวนการสร้างฮอร์โมนไทรรอยด์โดยตรง
00:13:07 → 00:13:07 เลยครับ
00:13:07 → 00:13:10 >> มันไปยับยั้งขั้นตอนไหนได้บ้างคะ
00:13:10 → 00:13:12 >> มีสารประกอบในอาหารบางชนิดครับที่เข้าไป
00:13:12 → 00:13:15 รบกวนเอนไซม์สำคัญในการสร้างฮอร์โมนเช่น
00:13:15 → 00:13:19 สารกลุ่มไซฟาวอย่างเจนที่พบมากในถั่ว
00:13:19 → 00:13:22 เหลืองแล้วก็ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองนะ
00:13:22 → 00:13:25 ครับสารตัวนี้สามารถยัดยั้งการทำงานของ
00:13:25 → 00:13:27 เอนไซมไทroอยอกส
00:13:27 → 00:13:28 หรือ TPO
00:13:28 → 00:13:29 >> TPO นะคะ
00:13:29 → 00:13:32 >> ครับซึ่งเป็นเอนไซม์หลักเลยในการสร้าง
00:13:32 → 00:13:37 ฮอร์โมน T4 นอกจากนี้สารเควสิตที่พบในหอม
00:13:37 → 00:13:40 กับกระเทียมก็มีรายงานว่าอาจจะยับยั้ง TPO
00:13:40 → 00:13:42 ได้เหมือนกันครับ
00:13:42 → 00:13:44 >> แสดงว่ามันไปขัดขวางตั้งแต่ขั้นตอนการ
00:13:44 → 00:13:48 ผลิตฮอร์โมนเลยนะคะแล้วกลุ่มผักกะหล่ำล่ะ
00:13:48 → 00:13:51 คะที่บอกว่ามีสารกอยเจนอันนั้นเป็นยังไง
00:13:51 → 00:13:52 คะ
00:13:52 → 00:13:55 >> ใช่ครับกลุ่มผักตระกูลกะหล่ำอย่างที่ว่า
00:13:55 → 00:14:00 ไปกะหล่ำปลีบรโคลี่คะคน้ารวมถึงผลไม้บาง
00:14:00 → 00:14:04 ชนิดในตระกูลโรเซเซอย่างสตรอเบอร์รี่แพ
00:14:04 → 00:14:08 พวกนี้มีสารที่เรียกว่ากอยเจนสารตัวนี้จะ
00:14:08 → 00:14:11 ออกฤทธิ์ต่างออกไปนิดนึงครับคือมันจะไป
00:14:11 → 00:14:14 ยับยั้งการนำไอโอดีนเข้าสู่เซลล์ต่อม
00:14:14 → 00:14:15 ไทรรอยด์
00:14:15 → 00:14:17 >> อ๋ออ๋อขาดขวางวัตถุดิบ
00:14:17 → 00:14:19 >> ถูกต้องครับพอต่อมไทรรอยด์จับไอโอดีนได้
00:14:19 → 00:14:22 น้อยลงมันก็ส่งผลต่อการสร้างฮอร์โมนได้
00:14:22 → 00:14:26 เหมือนกันนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการกิน
00:14:26 → 00:14:30 ผักกลุ่มนี้ดิบๆในปริมาณมากๆอาจจะไม่แนะ
00:14:30 → 00:14:33 นำสำหรับบางคนแต่การปรุงสุกอย่างที่บอกไป
00:14:33 → 00:14:36 ก็จะช่วยลดปริมาณกอยเจนลงได้มากครับ
00:14:36 → 00:14:39 >> น่าสนใจค่ะคือมีทั้งรบกวนเอนไซม์สร้าง
00:14:39 → 00:14:43 ฮอร์โมนโดยตรงแล้วก็ขัดขวางการนำวัตถุดิบ
00:14:43 → 00:14:46 หรือไอโอดินเข้าไปใช้แล้วมีผลกระทบทาง
00:14:46 → 00:14:49 อ้อมอื่นๆอีกมคะนอกเหนือจาก 2 กลไกนี้
00:14:49 → 00:14:53 >> มีครับและสำคัญมากๆด้วยครับคือกลไกการ
00:14:53 → 00:14:57 กระตุ้นให้เกิดภาวะลำไส้รั่วลิกัสและก็
00:14:57 → 00:15:00 ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของเราครับอาหาร
00:15:00 → 00:15:03 บางอย่างเช่นกลูเต้นในข้าวสาลีบาเล่์หรือ
00:15:03 → 00:15:07 น้ำตาลปริมาณสูงๆโปรตีนในนมวัวบางชนิด
00:15:07 → 00:15:11 แอลกอฮอล์หรือสารปรุงแต่งบางอย่างนะครับ
00:15:11 → 00:15:14 พวกนี้อาจไปทำลายเยื่อบุกผนังลำไส้
00:15:14 → 00:15:17 ทำให้เกิดการอักเสบแล้วก็เกิดช่องว่าง
00:15:17 → 00:15:19 หรือที่เรียกว่ารูรั่วขึ้นมาครับ
00:15:19 → 00:15:22 >> เรื่องลำไส้รั่วนี่น่าสนใจนะคะเหมือนเคย
00:15:22 → 00:15:24 ได้ยินบ่อยๆมันเชื่อมโยงกับเรื่องระบบ
00:15:24 → 00:15:27 ภูมิคุ้มกันโดยตรงเลยแล้วมันมาเกี่ยวกับ
00:15:27 → 00:15:29 ไทรอยด์ได้ยังไงคะ
00:15:29 → 00:15:31 >> เกี่ยวข้องกันอย่างมากเลยครับเพราะว่า
00:15:31 → 00:15:33 เมื่อลำไส้รั่วเนี่ยโมเลกุลอาหารที่ยัง
00:15:33 → 00:15:36 ย่อยไม่สมบูรณ์หรือว่าสารพิษต่างๆมัน
00:15:36 → 00:15:39 สามารถเล็ดลอดผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแส
00:15:39 → 00:15:42 เลือดได้ทีนี้ร่างกายเราจะมองสิ่งเหล่า
00:15:42 → 00:15:43 นี้เป็นสิ่งแปลกปลอม
00:15:43 → 00:15:46 แล้วก็จะสร้างแอนติบอดี้ขึ้นมาต่อต้าน
00:15:46 → 00:15:46 ครับ
00:15:47 → 00:15:47 >> ค่ะ
00:15:47 → 00:15:50 >> ปัญหาคือบางครั้งโครงสร้างโมเลกุลของสิ่ง
00:15:50 → 00:15:52 แปลกปลอมเหล่านี้เนี่ยมันดันไปคล้ายกับ
00:15:52 → 00:15:54 โครงสร้างของโปรตีนในเนื้อเยื่อต่อม
00:15:54 → 00:15:55 ไทรรอยด์ของเราเอง
00:15:55 → 00:15:56 >> อ้าเหรอคะ
00:15:56 → 00:15:59 >> ครับทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเกิดความสับสน
00:15:59 → 00:16:02 หรือที่เรียกว่าmolecคular memicry แล้ว
00:16:02 → 00:16:05 ก็อาหารไปโจมตีต่อมไทรรอยดของตัวเองแทน
00:16:05 → 00:16:07 ซึ่งก็จะก่อให้เกิดภาวะไทรรอยด์อักเสบจาก
00:16:07 → 00:16:09 ภูมิแพ้ตัวเองเช่นโรคาชิโมโตะ
00:16:09 → 00:16:13 >> ฮาชิโมโตสไทรอยisที่พบบ่อยมากค่ะโหจับ
00:16:13 → 00:16:16 ปัญหาแค่ที่ลำไส้ลามไปถึงการที่ร่างกาย
00:16:16 → 00:16:19 โจมตีต่อมไทรรอยด์ตัวเองได้เลยเป็นความ
00:16:19 → 00:16:22 เชื่อมโยงที่ซับซ้อนจริงๆค่ะยังมีกลไก
00:16:22 → 00:16:24 อื่นอีกมั้คะที่อาหารส่งผลได้
00:16:24 → 00:16:26 >> มีอีกกลไกนึงครับคือการรบกวนการเปลี่ยน
00:16:26 → 00:16:29 ฮอร์โมน T4 เป็น T3 ที่ตัดอย่างที่บอกไป
00:16:29 → 00:16:32 ตอนต้นว่า T4 ต้องเปลี่ยนเป็น T3 ซึ่ง
00:16:32 → 00:16:34 เป็นตัวออกฤทธิ์ที่ตับก่อนใช่มั้ครับ
00:16:34 → 00:16:35 >> ค่ะ
00:16:35 → 00:16:37 >> มีสารบางอย่างในอาหารเช่นสาร proper
00:16:37 → 00:16:40 ไดซัลไฟที่อยู่ในกลุ่มหอมกระเทียมที่อาจ
00:16:40 → 00:16:42 จะไปยับยั้งกระบวนการเปลี่ยนนี้ได้เหมือน
00:16:42 → 00:16:43 กันครับ
00:16:43 → 00:16:45 >> ฟังดูแล้วหอมกระเทียงนี่เหมือนดาบ 2 คม
00:16:45 → 00:16:48 เลยนะคะมีทั้งสารที่ดีอย่างเควลซิทินแต่
00:16:48 → 00:16:51 ก็มีสารที่อาจจะรบกวนไทรรอยด์ได้เหมือน
00:16:51 → 00:16:51 กัน
00:16:51 → 00:16:54 >> ตามว่าการกินให้เป็นเนี่ยคือหัวใจสำคัญ
00:16:54 → 00:16:57 เลยไม่จำเป็นต้องโมดทุกอย่างนะครับแต่
00:16:57 → 00:17:00 ต้องรู้จักเลือกรู้จักปริมาณรู้จักการ
00:17:00 → 00:17:03 ปรุงและที่สำคัญมากๆคือการดูแลสุขภาพองค์
00:17:03 → 00:17:07 รวมทั้งลำไส้ทั้งตับให้แข็งแรงอยู่เสมอ
00:17:07 → 00:17:09 เพื่อให้ร่างกายจัดการกับสิ่งต่างๆได้ดี
00:17:09 → 00:17:11 ขึ้นครับ
00:17:11 → 00:17:13 >> เคลียร์เรื่องอาหารมากขึ้นเยอะเลยค่ะที
00:17:13 → 00:17:15 นี้ขอไปต่ออีกประเด็นที่เกี่ยวข้องกันคือ
00:17:15 → 00:17:18 เรื่องของพลังงานกับความเครียดค่ะที่ว่า
00:17:18 → 00:17:20 กันว่าการที่ร่างกายได้รับพลังงานไม่
00:17:20 → 00:17:22 เพียงพออย่างเช่นจากการคุมอาหารแบบ
00:17:22 → 00:17:25 คาร์โบไฮเดรตต่ำมากๆนานๆหรือว่าภาวะ
00:17:25 → 00:17:27 เครียดเรื้อรังที่ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอล
00:17:27 → 00:17:30 สูงตลอดเวลาเนี่ยมันส่งผลต่อมไทรรอยด์
00:17:30 → 00:17:31 อย่างไรบ้างคะ
00:17:31 → 00:17:33 >> เป็นประเด็นที่เชื่อมโยงกันอย่างมากเลย
00:17:33 → 00:17:36 ครับเมื่อร่างกายรับรู้ว่ากำลังอยู่ใน
00:17:36 → 00:17:39 ภาวะขาดแคลนพลังงานไม่ว่าจะจากการกินน้อย
00:17:39 → 00:17:42 ไปจริงๆหรือจำกัดคราบเข้มงวดนานๆจนร่าง
00:17:42 → 00:17:45 กายปรับตัวไม่ทันหรือว่าตกอยู่ในภาวะ
00:17:45 → 00:17:47 เคลียดเรื้อรังซึ่งร่างกายก็จะตีความว่า
00:17:48 → 00:17:51 เป็นภาวะวิกฤตต้องสงวนพลังงานไว้นะครับ
00:17:51 → 00:17:54 สมองส่วนไฮโพธาลามัสแล้วก็ต่อมไตสมองจะลด
00:17:54 → 00:17:56 การส่งสัญญาณกระตุ้นไปยังต่อมไทรรอยด์
00:17:56 → 00:17:57 ครับ
00:17:57 → 00:18:00 >> ผลก็คือทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยลงหรอคะ
00:18:00 → 00:18:04 >> ใช่ครับอาจส่งผลได้ 2 ลักษณะหลักๆเลยแบบ
00:18:04 → 00:18:07 แรกคือทำให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมน T4
00:18:07 → 00:18:10 และ T3 ลดลงจริงๆซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะ
00:18:10 → 00:18:12 ไฮโปไทรอยด์
00:18:12 → 00:18:14 หรือถ้ายังไม่รุนแรงมากก็อาจจะเรียกว่า
00:18:14 → 00:18:17 subclinical hyphyroidism
00:18:17 → 00:18:20 ถ้าไปตรวจเลือดก็อาจจะพบค่า thsh ซึ่ง
00:18:20 → 00:18:22 เป็นฮอร์โมนกระตุ้นไทรอยด์จากต่อมใต้สมอง
00:18:22 → 00:18:24 สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อพยายามจะเร่งให้
00:18:24 → 00:18:26 ไทรอยด์ทำงานมากขึ้นครับ
00:18:26 → 00:18:29 >> อ๋อค่ะแล้วอีกลักษณะนึงล่ะคะ
00:18:29 → 00:18:31 >> ส่วนอีกลักษณะหนึ่งซึ่งอาจจะซับซ้อนกว่า
00:18:31 → 00:18:34 คือต่อมไทรรอยด์อาจจะงันผลิต T4 ได้ปกติ
00:18:34 → 00:18:37 นะครับแต่กระบวนการเปลี่ยน T4 ไปเป็น T3
00:18:37 → 00:18:39 ที่เป็นตัวออกฤทธิ์จริงๆที่เนื้อเยื่อ
00:18:39 → 00:18:43 ต่างๆโดยเฉพาะที่ตัเกิดติดขัดขึ้นมาหรือ
00:18:43 → 00:18:46 อาจจะมีการสร้าง reverse T3 หรือ RT3
00:18:46 → 00:18:48 ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ไม่มีฤทธิ์เพิ่มมาก
00:18:48 → 00:18:50 ขึ้นแทน
00:18:50 → 00:18:51 >> Reverse T3
00:18:51 → 00:18:55 >> ครับในกรณีนี้เนี่ยผลตรวจ THH และ T4 อาจ
00:18:55 → 00:18:58 จะยังดูปกติดีนะครับแต่ค่าฟรี T3 อาจจะ
00:18:58 → 00:19:01 ต่ำแล้วคนนั้นก็ยังคงมีอาการของภาวะ
00:19:01 → 00:19:03 ไทรรอยด์ทำงานน้อยได้ครบถ้วนเลย
00:19:03 → 00:19:06 >> หมายความว่าต่อให้ระดับฮอร์โมน T4 ดูปกติ
00:19:06 → 00:19:09 แต่ถ้ามันเปลี่ยนไปเป็น T3 ที่ใช้งานได้
00:19:09 → 00:19:11 จริงน้อยลงก็เหมือนไม่มีประโยชน์เท่าที่
00:19:11 → 00:19:12 คุณอย่างี้หรอคะ
00:19:12 → 00:19:13 >> ถูกต้องครับ
00:19:13 → 00:19:16 >> ดูแค่ TSHS อย่างเดียวอาจจะไม่พอจริงๆ
00:19:16 → 00:19:19 ด้วยสินะคะแบบนี้แล้วผลกระทบต่อเนื่องจาก
00:19:19 → 00:19:22 ที่ไทรรอยด์ทำงานน้อยลงหรือทำงานเพี้ยนไป
00:19:22 → 00:19:25 นี่มีอะไรที่น่ากังวลอีกบ้างคะเห็นในข้อ
00:19:25 → 00:19:27 มูลที่รวบรวมมามีการพูดถึงเรื่อง
00:19:27 → 00:19:28 คอเลสเตอรอลด้วยค่ะ
00:19:28 → 00:19:31 >> ใช่ครับเรื่องเนี้สำคัญมากเลยและมักจะถูก
00:19:31 → 00:19:35 มองข้ามไปบ่อยๆฮอร์โมนไทรรอยด์โดยเฉพาะ T3
00:19:35 → 00:19:38 นะครับมีบทบาทสำคัญมากในการควบคุม
00:19:38 → 00:19:41 เมทาบอลิึมของไขมันพอฮอร์โมนไทรรอยด์ต่ำ
00:19:41 → 00:19:45 ลงหรือทำงานได้ไม่ดีมันจะส่งผลกระทบต่อ
00:19:45 → 00:19:47 ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดอย่างชัดเจนเลย
00:19:47 → 00:19:50 ครับมันไปกระทบกลไกไหนบ้างคะถึงทำให้
00:19:50 → 00:19:52 คอเลสเตอรอลสูงขึ้นได้ขนาดนั้น
00:19:52 → 00:19:55 >> มีหลายกลไกเลยครับอย่างแรกเลยคือมันทำให้
00:19:55 → 00:19:58 จำนวนตัวรับ LDL หรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่
00:19:58 → 00:20:03 ดีบนผิวเซลล์ตับลดลงปกติตัวรับนี้จะคอย
00:20:03 → 00:20:05 จับ LDL หรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีออกจาก
00:20:05 → 00:20:09 เลือดไปกำจัดที่ตับพอตัวรับมันน้อยลงตับ
00:20:09 → 00:20:12 ก็ดึง LDL ออกไปได้น้อยลงทำให้ระดับ LDL
00:20:12 → 00:20:13 ในเลือดสูงขึ้นครับ
00:20:13 → 00:20:14 >> อ๋ออย่างี้เอง
00:20:14 → 00:20:17 >> อย่างที่ 2 คือฮอร์โมนไทรอยด์เนี่ยจำเป็น
00:20:17 → 00:20:19 ต่อการทำงานของเอนไซม์หลักที่ใช้เปลี่ยน
00:20:19 → 00:20:22 คอเลสเตอรอลไปเป็นน้ำดีชื่อ Cholesterol
00:20:22 → 00:20:25 7 Alpha Hydroxy เพื่อขับทิ้งออกจาก
00:20:25 → 00:20:27 ร่างกายพอเอนไซมนี้ทำงานได้น้อยลง
00:20:27 → 00:20:30 คอเลสเตอรอลก็สะสมในร่างกายมากขึ้นนอกจาก
00:20:30 → 00:20:33 นี้ยังมีผลต่อเอนไซม์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
00:20:33 → 00:20:35 กับการจัดการไขมันในเลือดอีกหลายตัวเลย
00:20:35 → 00:20:35 ครับ
00:20:35 → 00:20:38 >> โหกระทบหลายจุดเลยนะคะสรุปแล้วมันทำให้
00:20:38 → 00:20:40 ค่าไขมันตัวไหนสูงขึ้นได้บ้างคะ
00:20:40 → 00:20:43 >> ผลรวมก็คือสามารถทำให้ค่าไขมันในเลือดสูง
00:20:43 → 00:20:45 ขึ้นได้เกือบทุกตัวเลยครับทั้ง
00:20:45 → 00:20:49 คอเลสเตอรอลรวม Total คอเลสเตอรอล LDL
00:20:49 → 00:20:53 หรือไขมันไม่ดีแล้วก็ไตรซ์Triตซerส่วน HDL
00:20:53 → 00:20:55 หรือไขมันดีอาจจะสูงขึ้นหรือปกติก็ได้
00:20:55 → 00:20:58 ครับขึ้นอยู่กับกลไกที่ได้รับผลกระทบมาก
00:20:58 → 00:20:59 กว่า
00:20:59 → 00:21:02 >> ข้อมูลนี้น่าสนใจมากเลยค่ะแสดงว่าในกลุ่ม
00:21:02 → 00:21:06 คนที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูงมากๆหรือบางคน
00:21:06 → 00:21:08 ที่ใช้ยาลดไขมันกลุ่มสตาตินแล้วบอกว่าไม่
00:21:09 → 00:21:11 ค่อยตอบสนองเท่าที่ควรบางทีอาจจะต้องลอง
00:21:11 → 00:21:14 พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะมีปัญหา
00:21:14 → 00:21:16 เรื่องการทำงานของต่อมไทรอยด์หรือการทำ
00:21:16 → 00:21:18 งานของฮอร์โมนไทรอยด์แฝงอยู่ด้วยใช่มั้ย
00:21:18 → 00:21:18 คะ
00:21:18 → 00:21:21 >> ถูกต้องเลยครับเป็นข้อสังเกตที่สำคัญมาก
00:21:21 → 00:21:24 ในการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและรักษาเลยนะ
00:21:24 → 00:21:27 ครับบางครั้งการแก้ไขปัญหาที่ไทรรอยด์อาจ
00:21:27 → 00:21:29 จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้การควบคุม
00:21:29 → 00:21:31 ระดับคอเลสเตอรอลดีขึ้นได้อย่างไม่น่า
00:21:31 → 00:21:32 เชื่อเลยครับ
00:21:32 → 00:21:35 >> คุยกันมาถึงกรงนี้หลายคนคงอยากรู้แล้วล่ะ
00:21:35 → 00:21:37 ค่ะว่าแล้วควรจะตรวจเช็คการทำงานของต่อม
00:21:37 → 00:21:40 ไทรรอยด์เมื่อไหร่หรือว่าใครที่ควรให้
00:21:40 → 00:21:42 ความสนใจตรวจเป็นพิเศษบ้างคะ
00:21:42 → 00:21:45 >> ครับสำหรับการตรวจคัดกรองเบื้องต้นนะครับ
00:21:45 → 00:21:49 การตรวจ TSH ก็ถือเป็นตัวเริ่มต้นที่ดี
00:21:49 → 00:21:51 แล้วก็ใช้กันแพร่หลายครับแต่เพื่อให้ได้
00:21:51 → 00:21:54 ภาพที่สมบูรณ์ขึ้นโดยเฉพาะในรายที่สงสัย
00:21:54 → 00:21:57 ว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องการเปลี่ยน T4 เป็น
00:21:57 → 00:22:01 T3 หรือว่ามีอาการแต่ TSH ปกติการตรวจ
00:22:01 → 00:22:04 TSH ควบคู่ไปกับ Free T3 ซึ่งเป็น
00:22:04 → 00:22:07 ฮอร์โมนตัวออกฤทธิ์จริงๆและอาจจะตรวจฟรี
00:22:07 → 00:22:10 T4 ด้วยก็จะให้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นครับ
00:22:10 → 00:22:13 >> แล้วกลุ่มไหนบ้างคะที่ควรพิจารณาตรวจ
00:22:13 → 00:22:15 เรื่องไทรรย์ด์เป็นพิเศษ
00:22:15 → 00:22:17 >> กลุ่มแรกที่น่าพิจารณาเลยคือผู้ที่ควบคุม
00:22:17 → 00:22:20 อาหารแบบโลขาบนะครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า
00:22:20 → 00:22:23 รู้สึกว่าทำไม่ถูกวิธีหรือว่าทำแบบเข้ม
00:22:23 → 00:22:26 งวดมากๆเป็นเวลานานร่วมกับเริ่มมีอาการ
00:22:26 → 00:22:29 ที่ชวนสงสัยว่าเป็นภาวะไทรรอยด์ทำงานน้อย
00:22:29 → 00:22:32 เช่นผมร่วงผิดปกติเล็บเปราะง่ายน้ำหนัก
00:22:32 → 00:22:35 ตัวนิ่งหรือค้างลดไม่ลงทั้งๆที่คุมอาหาร
00:22:35 → 00:22:39 ออกกำลังกายแล้วหรือประจำเดือนมาผิดปกติ
00:22:39 → 00:22:43 ผิวแห้งหนาวง่ายบวมตามหน้าแข้งท้องผูก
00:22:43 → 00:22:47 ท้องอืดบ่อยๆนอนหลับแยกรู้สึกสมองล้าคิด
00:22:47 → 00:22:50 อะไรช้าโดยเฉพาะหลังมื้ออาหารอะไรแบบนี้
00:22:50 → 00:22:51 ครับ
00:22:51 → 00:22:54 >> โหอาการดูเหมือนจะครอบคลุมหลายระบบในร่าง
00:22:54 → 00:22:57 กายเลยนะคะเนี่ยมีกลุ่มอื่นอีกมั้คะ
00:22:57 → 00:23:00 >> ครับกลุ่มที่ 2 ก็ชัดเจนครับคือผู้ที่มี
00:23:00 → 00:23:03 ประวัติหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค
00:23:03 → 00:23:05 ต่อมไทรรอยด์อยู่แล้วอันนี้ก็ควรตรวจติด
00:23:05 → 00:23:08 ตามคำแนะนำของแพทย์เป็นประจำอยู่แล้วนะ
00:23:08 → 00:23:11 ครับส่วนกลุ่มที่ 3 คือผู้ที่ไม่ค่อย
00:23:11 → 00:23:14 บริโภคอาหารทะเลหรือสาหร่ายทะเลเลยซึ่ง
00:23:14 → 00:23:16 เป็นแหล่งไอโอดินหลักตามธรรมชาติแล้วก็
00:23:16 → 00:23:19 อาจจะไม่ได้ใส่ใจเสริมสารอาหารอื่นๆที่
00:23:19 → 00:23:21 จำเป็นต่อการทำงานของไทรอยด์กลุ่มนี้ก็
00:23:21 → 00:23:23 อาจพิจารณาตรวจเพื่อประเมินความเสี่ยงได้
00:23:24 → 00:23:24 ครับ
00:23:24 → 00:23:27 >> แล้วถ้าสมมุติตรวจพบว่ามีแนวโน้มผิดปกติ
00:23:27 → 00:23:30 แล้วเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดูแลตัวเอง
00:23:30 → 00:23:33 ต้องใช้เวลานานแค่ไหนคะกว่าจะเห็นผลหรือ
00:23:33 → 00:23:34 ค่าต่างๆจะดีขึ้น
00:23:34 → 00:23:37 >> โดยทั่วไปนะครับถ้าได้รับการดูแลที่ถูก
00:23:37 → 00:23:40 ต้องแล้วก็ตรงจุดทั้งการปรับอาหารการจัด
00:23:40 → 00:23:42 การความเครียดการนอนหลับหรือปัจจัยอื่นๆ
00:23:42 → 00:23:45 ที่เกี่ยวข้องเนี่ยค่าการทำงานของไทรอยด์
00:23:45 → 00:23:47 มักจะค่อยๆตอบสนองแล้วก็กลับเข้าสู่สมดุล
00:23:48 → 00:23:50 ได้ภายในระยะเวลาประมาณ 1-3 เดือนครับ
00:23:50 → 00:23:52 >> อืม 1-3 เดือน
00:23:52 → 00:23:55 >> ครับการติดตามผลก็อาจจะดูจากอาการที่ดี
00:23:55 → 00:23:57 ขึ้นเป็นหลักร่วมกับการตรวจเลือดซ้ำเพื่อ
00:23:57 → 00:23:59 ยืนยันผลตามความเหมาะสมครับผม
00:23:59 → 00:24:02 >> เข้าใจแล้วค่ะทีนี้เราคุยถึงปัจจัยที่อาจ
00:24:02 → 00:24:05 ส่งผลเสียหรือสิ่งที่ต้องระวังกันมาพอสม
00:24:05 → 00:24:07 ควรแล้วขอเปลี่ยนมาคุยเรื่องการส่งเสริม
00:24:07 → 00:24:10 สุขภาพไทรอยด์บ้างมีอาหารอะไรที่แนะนำ
00:24:10 → 00:24:13 เป็นพิเศษมั้ยคะที่จะช่วยบำรุงหรือ
00:24:13 → 00:24:16 สนับสนุนการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้บ้างคะ
00:24:16 → 00:24:18 >> มีหลายอย่างเลยครับที่มักจะถูกพูดถึงใน
00:24:18 → 00:24:21 แหล่งข้อมูลต่างๆว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ
00:24:21 → 00:24:25 ไทรอยด์นะครับอย่างเช่นกลุ่มแรกเลยก็คือ
00:24:25 → 00:24:28 สาหร่ายทะเลแล้วก็ผักทะเลต่างๆ Seaweed
00:24:28 → 00:24:30 and Sea Vegetables เพราะว่าเป็นแหล่ง
00:24:30 → 00:24:33 ไอโอดีนธรรมชาติแล้วก็แร่ธาตุอื่นๆที่ดี
00:24:33 → 00:24:34 มากๆ
00:24:34 → 00:24:36 >> ค่ะสาหร่ายทะเล
00:24:36 → 00:24:40 ครับแล้วก็ปลาทะเลที่มีไขมันดีโดยเฉพาะ
00:24:40 → 00:24:44 ปลาจากแหล่งธรรมชาติเช่นปลาซาดีนปลาซมอน
00:24:44 → 00:24:48 แหล่งไขมันดีโอเมก้า 3 อื่นๆเช่นอะโวคาโด
00:24:48 → 00:24:51 เมล็ดแฟกบดใหม่ๆไข่จากแม่ไก่ที่เลี้ยง
00:24:51 → 00:24:55 ปล่อยอิสระหรือ pasture Race X แล้วก็
00:24:55 → 00:24:58 เนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าหรือGLสเฟดMeด
00:24:58 → 00:24:58 ครับ
00:24:58 → 00:25:01 >> อืมพวกไขมันดีๆทั้งนั้นเลยนะคะ
00:25:01 → 00:25:04 >> ใช่ครับนอกจากนั้นก็มีผักใบเขียวเข้มบาง
00:25:04 → 00:25:08 ชนิดเช่น Dandyion Mustard Greens พวก
00:25:08 → 00:25:11 นี้ก็จะให้วิตามินแล้วก็แร่ธาตุหลากหลาย
00:25:11 → 00:25:13 และที่สำคัญไม่แพ้กันเลยนะครับคือถั่ว
00:25:13 → 00:25:14 บราซิลครับ
00:25:15 → 00:25:16 >> ถั่วบราซิลค่ะ
00:25:16 → 00:25:18 >> ครับซึ่งเป็นแหล่งของแร่ธาตุซิลิเนียมที่
00:25:18 → 00:25:21 ยอดเยี่ยมมากๆเลยซิลิเนียมเนี่ยจำเป็นต่อ
00:25:21 → 00:25:24 เอนไซม์ที่ใช้เปลี่ยน T4 เป็น T3 แล้วก็
00:25:24 → 00:25:26 ยังช่วยปกป้องต่อมไทรรอยด์จากความเสียหาย
00:25:26 → 00:25:27 ด้วยครับ
00:25:27 → 00:25:31 >> โอ้โหมีตัวเรื่องน่าสนใจเยอะเลยนะคะทั้ง
00:25:31 → 00:25:34 จากทะเลจากพืชบกไขมันดีแล้วก็ถั่ว
00:25:34 → 00:25:38 ดูเป็นอาหารที่หาไม่ยากแล้วก็ดีต่อสุขภาพ
00:25:38 → 00:25:39 โดยรวมด้วยนะคะ
00:25:39 → 00:25:42 >> ใช่เลยครับการผสมผสานอาหารเหล่านี้เข้าไป
00:25:42 → 00:25:45 ในมื้ออาหารเป็นประจำก็เป็นส่วนนึงของการ
00:25:45 → 00:25:46 สร้างพื้นฐานสุขภาพที่ดีให้กับต่อม
00:25:47 → 00:25:48 ไทรรอยด์ของเราด้วยครับ
00:25:48 → 00:25:51 >> เอตั้งแต่การทำความเข้าใจที่ถูกต้องลด
00:25:51 → 00:25:55 ความเชื่อผิดๆผลกระทบที่ซับซ้อนจากอาหาร
00:25:55 → 00:25:58 การขาดพลังงานความเครียดไปจนถึงแนวคางการ
00:25:58 → 00:26:02 ตรวจติดตามแล้วก็อาหารที่ช่วยส่งเสริมทำ
00:26:02 → 00:26:05 ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นมากๆเลยว่าสุขภาพ
00:26:05 → 00:26:08 ไทรรอยด์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆแค่ดูค่า TSS
00:26:08 → 00:26:10 อย่างเดียวจริงๆแต่มันเชื่อมโยงกับระบบ
00:26:10 → 00:26:14 อื่นๆในร่างกายเราเยอะมากทั้งฮอร์โมนระบบ
00:26:14 → 00:26:17 เผาผลาญภูมิคุ้มกันลำไส้การเข้าใจความ
00:26:17 → 00:26:19 เชื่อมโยงอย่าความเชื่อมโยงเหล่าเนี้ย
00:26:19 → 00:26:22 สำคัญมากเลยค่ะต่อการดูแลสุขภาพแบบองค์
00:26:22 → 00:26:22 รวม
00:26:22 → 00:26:25 >> ถูกต้องเลยครับและอยากจะทิ้งท้ายเป็นคำ
00:26:25 → 00:26:28 ถามให้ลองนำกลับไปคิดต่อกันดูนะครับว่า
00:26:28 → 00:26:30 นอกเหนือจากการดูแลเรื่องอาหารหรือสาร
00:26:30 → 00:26:32 อาหารที่เกี่ยวข้องกับไทรรอยด์โดยตรงแล้ว
00:26:32 → 00:26:35 เนี่ยการที่เราหันมาให้ความสำคัญกับการ
00:26:35 → 00:26:37 จัดการความเครียดให้ดีขึ้นหรือการนอนหลับ
00:26:37 → 00:26:40 ให้มีคุณภาพหรือการดูแลสุขภาพลำไส้ให้
00:26:40 → 00:26:43 แข็งแรงอยู่เสมอสิ่งเหล่านี้ที่ดูเหมือน
00:26:43 → 00:26:46 จะเป็นเรื่องทั่วไปมากๆเนี่ยอาจจะส่งผลดี
00:26:46 → 00:26:48 ต่อการทำงานของต่อมไทรรอยด์ของเราในทาง
00:26:48 → 00:26:51 อ้อมได้อย่างไรบ้างการมองภาพใหญ่แล้วก็ดู
00:26:51 → 00:26:54 แลร่างกายแบบองค์รวมอาจจะเป็นกุญแจสำคัญ
00:26:54 → 00:26:57 ที่ไม่ควรมองข้ามเลยนะครับในการรักษา
00:26:57 → 00:26:59 สมดุลของต่อมไทรอยด์แล้วก็สุขภาพที่ดีใน
00:26:59 → 00:27:02 ระยะยาวของเราครับ
00:27:02 → 00:27:19 [เพลง]