00:00:00 → 00:00:02 เดี๋ยวขออนุญาตกลับมาที่เรื่องราวสุขภาพ
00:00:02 → 00:00:04 วันนี้ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องของระบบ
00:00:04 → 00:00:06 ประสาทเหมือนกันครับอ่าใช่ครับเป็นภาวะ
00:00:06 → 00:00:09 ที่โอ้โหพี่ขวัญเลือกมาใช่มั้ยครับภาภาวะ
00:00:09 → 00:00:14 นี้ใช่ค่ะก็คือเราดูละครดูซีรีส์อะไร
00:00:14 → 00:00:17 อย่างเงี้ยมันจะบยังไงยังไงครับพี่ยังไง
00:00:18 → 00:00:20 ครับมันยังไงครับผมเราก็มักจะเห็นว่าตัว
00:00:20 → 00:00:23 ละครแบบว่าคุณปู่คุณย่าเริ่มต้นเป็นอาการ
00:00:23 → 00:00:26 ของโรคพาคินสันเนี่ยคุณปู่คุณย่าก็จะแสดง
00:00:26 → 00:00:30 ให้เราเห็นเลยว่ามือสั่นมาแล้วล่ะอาการสั
00:00:30 → 00:00:32 อย่าอย่าเรียกว่าอย่าเรียกว่าพิสันเลย
00:00:32 → 00:00:34 ครับผมถ้าเกิดว่าจะมาแบบคุณปู่คุณย่า
00:00:34 → 00:00:37 ซีรีสเนี่ยให้ใช้คำว่าโรคสันนิบาตลูกนก
00:00:37 → 00:00:41 เลยดีกว่าเฮ้ยแปลว่าอะไรวะพี่หอแปว่าอะไ
00:00:41 → 00:00:44 มันคือคำแปลหรือคำเรียกชื่อพิสันภาษาไทย
00:00:44 → 00:00:48 ในสมัยก่อนครับใช่ครับโรคพิสันเอ่อโรค
00:00:48 → 00:00:51 สันนิบาตลูกนกสันนิบาตลูกนกโอความรู้เคย
00:00:51 → 00:00:53 ได้ยินเลยอผมเคยได้ยินคำว่าสันนิบาตแต่
00:00:53 → 00:00:56 ว่าสโมสรสันนิบาตพี่ีมฮะแต่ไอคำว่าไอ้
00:00:56 → 00:00:59 สันนิบาตลูกนกเนี่ยผมผมผมไม่เคยได้ยินผม
00:00:59 → 00:01:02 ผมเข้าใจว่าหนึ่งในอาการของพาร์กินสันที่
00:01:02 → 00:01:04 ทุกคนจะเห็นได้ชัดคืออาการสั่นถูกต้องม
00:01:04 → 00:01:06 ครับอาการสั่นที่ทุกคนเห็นได้ชัดแล้วนึก
00:01:06 → 00:01:09 ถึงลูกนกเวลาอยู่ในหลังมันสั่นสั่นเป็น
00:01:09 → 00:01:13 เจ้าเข้าสั่นเป็นสันนิบาตน่ะเอออๆๆคือ
00:01:13 → 00:01:15 ชื่อสมัยก่อนออย่างเช่นโรคลมชักเราก็
00:01:15 → 00:01:18 เรียกว่าโรคลมบ้าหมูอ่ะใช่อันนี้เหอันนี้
00:01:18 → 00:01:20 คุ้นหูอยู่เออไม่รู้เกี่ยวอะไรกับลมเออ
00:01:20 → 00:01:21 ทำไมอ่ะทำไมต้องไปลมบ้าหมูอะไรก็ไม่รู้
00:01:21 → 00:01:23 เหมือนกันซึ่งชื่อในปัจจุบันก็คือโรคลม
00:01:23 → 00:01:26 ชักแต่ว่าชื่อักอินสันในสมัยก่อนภาษาไทย
00:01:26 → 00:01:28 คือใช้คำว่าโรคสันนิบาตลูกนกแต่ว่าคำว่า
00:01:28 → 00:01:30 ักอินสันเองเนี่ยมาจากจากชื่อของคุณหมอ
00:01:30 → 00:01:33 ชาวอังกฤษที่เป็นคน define หรือเป็นคนที่
00:01:33 → 00:01:36 เ่อให้คำจำกัดความของโลกนี้ครั้งแรกเมื่อ
00:01:37 → 00:01:40 นานไปแล้วผมจำปีค.ศไม่ได้ครับอ๋อคุณหมอ
00:01:40 → 00:01:43 ท่านชื่อพิสันอ๋อพิสันรู้สึกจะเป็นชื่อ
00:01:43 → 00:01:46 ว่าดร James พิสันมั้งถ้าถ้าเกิดผมจำไม่
00:01:46 → 00:01:48 ผิดนะครับเออค่ะเป็นชาวอังกฤษครับคือ
00:01:48 → 00:01:51 อาการที่เด่นชัดอย่างที่พี่ขวัญบอกก็คือ
00:01:51 → 00:01:53 มันจะมีอาการสั่นใช่ครับสั่นที่ว่านั่น
00:01:53 → 00:01:55 คือมาจากโรคไม่ใช่เพราะว่าหิวข้าวไม่ใช่
00:01:55 → 00:02:01 นะโอ้โมโหฮะโกรธฮะไม่แต่แต่เป็น
00:02:01 → 00:02:03 กรณีคนหนุ่มสาวสั่นนี่บางทีเบอก
00:02:03 → 00:02:06 แอลกอฮอลิคหรรือเปล่าอะไรอย่างงี้นอ๋อเอ้
00:02:06 → 00:02:09 เอ่อตอนนี้พี่ดรีมสั่นอยู่นะฮะเอาไม่ใช่ฮ
00:02:09 → 00:02:13 อย่างงี้ครับผมผมต้องบอกว่าทุกคนจะรู้จัก
00:02:13 → 00:02:15 พากกินสันในนาของคำว่าโรคที่มันทำให้โรค
00:02:15 → 00:02:19 ที่มีอาการสั่นเด่นใช่พี่แต่ว่าจริงๆแล้ว
00:02:19 → 00:02:21 โดยเนื้อแท้เลยนะครับอาการสั่นเป็นอาการ
00:02:21 → 00:02:24 รองของปารกินสันเอ้ยจริงดิจริงเป็นอาการ
00:02:24 → 00:02:27 รองแต่ว่าอาการรองที่คนอื่นมักจะเห็นเป็น
00:02:27 → 00:02:30 อย่างแรกแต่ว่าอาการหลักของกินสันเนี่ย
00:02:30 → 00:02:33 คือความฝืดเกร็งความเฉื่อยซึ่งคนอื่นมัก
00:02:33 → 00:02:36 จะมองไม่ค่อยเห็นอุ้ยเออใครอยู่ใครอยู่
00:02:36 → 00:02:39 เฉยๆชาๆเราเราไม่ได้สนใจเแต่ถ้าเกิดเขาค
00:02:39 → 00:02:41 จุดีเคสั่นขึ้นมาอย่าเงี้ยเราก็จะเห็น
00:02:41 → 00:02:43 เา้าได้ชัดเธอเป็นพระอินสันหรือเปล่าอะไร
00:02:43 → 00:02:46 ประมาณนี้ใช่มั้ยเอใช่ครับผมขออนุญาตเล่า
00:02:46 → 00:02:47 ให้ฟังก่อนต้องออกตัวก่อนว่าเดี๋ยววัน
00:02:47 → 00:02:50 เนี้ยผมจะพยายามใช้ศัพท์แพทย์ให้น้อยที่
00:02:50 → 00:02:52 สุดฮะแปลไทยเป็นไทยแล้วก็แปลไทยเป็นไทย
00:02:52 → 00:02:55 อีกทีนึงเพราะฉะนั้นอาจจะไม่ตรงกับ
00:02:55 → 00:02:58 วิชาการทั้ง 100% แต่ว่าเน้นความเข้าถึง
00:02:58 → 00:03:01 เข้าใจง่ายเข้าใจง่ายใช่ๆๆซึ่งทุกคนจะ
00:03:01 → 00:03:03 เห็นว่าปากกินสันเนี่ยมาหาหมอหรือมาเจอ
00:03:03 → 00:03:06 ด้วยอาการสั่นก่อนแล้วถามว่าแล้วมันมีโรค
00:03:06 → 00:03:09 อื่นที่มันสั่นเหมือนกันมั้ยอ่ะไม่ใช่ว่า
00:03:09 → 00:03:12 สั่นปุ๊บเท่ากับพิสันทั้งหมดสั 100 คน
00:03:12 → 00:03:14 เท่ากับพิสันไม่ใช่อันเนี่ยอย่างอย่าที่
00:03:14 → 00:03:15 พี่ขวัญยกตัวอย่างอ่ะใช่มั้ยฮะไอ้เรื่อง
00:03:15 → 00:03:18 ของแอลกอฮอล์อ่าแอลกอฮอล์นี่ถูกต้องเลย
00:03:18 → 00:03:23 นี่คือภาษาไทยก็คือพวกโรงแดงออยากเล่าถูก
00:03:23 → 00:03:25 มฮะใช่อาการอยากเห้าหรือว่า
00:03:25 → 00:03:27 แอลกอฮอลิซึมอาการอยากเห้าคือคนที่กิน
00:03:27 → 00:03:30 เหล้ามานานกินดื่มดื่มแอลกอฮอลมาเรื้อรัง
00:03:30 → 00:03:32 นานๆแล้วพอไม่ได้กินน่ะมือไม้มันสั่นน่ะ
00:03:32 → 00:03:35 อ้าเอแต่พอกินปุ๊บมือไม้มันก็หยุดสั่นอัน
00:03:35 → 00:03:37 นี้คืออันนี้คืออันที่ 1 นะครับครับอัน
00:03:37 → 00:03:40 ที่ 2 ครับคนที่เป็นไฮเปอร์ไทรรอยด์หรือ
00:03:40 → 00:03:43 ว่าภาวะไทรรอยด์เป็นพิษไฮเปอร์ไทรอยดไรอย
00:03:43 → 00:03:46 สูงไทรรอยด์สูงเนี่ยเขาก็มือสั่นได้นะ
00:03:46 → 00:03:49 ครับเหรอนอกจากมือสั่นแล้วเมีใจสั่น
00:03:49 → 00:03:53 เหงื่อแตกขี้หงุดหงิดท้องเสียกินจุแต่น้ำ
00:03:53 → 00:03:58 หนักลดอ่าแอันนี้คือไทรรอยซึ่งอาการมือสั
00:03:58 → 00:04:00 ก็เป็นหนึในนั้นอ่าเพราะฉะนั้นย้ำว่ามือ
00:04:01 → 00:04:03 สั่นไม่เท่ากับพิสันมือสั่นยังมีโรคอื่นๆ
00:04:03 → 00:04:07 ได้ด้วยนะครับอ๋อไปอีกฮะเช่นอ่าโรคอะไรดี
00:04:07 → 00:04:09 อ่าหิวข้าวน้ำตาลต่ำน้ำตาลตกเงี้ยมือก็
00:04:09 → 00:04:13 สั่นอ่าอันนี้เป็นอันนี้เป็นโมโหเงี้ย
00:04:13 → 00:04:15 ภาวะทางอารมณ์มือก็สั่นได้หรือบางคนเป็น
00:04:15 → 00:04:18 โรคสั่นจทำพันธุกรรมโรค essential tram
00:04:18 → 00:04:21 อันนี้ไม่มีชื่อภาษาไทยเป็นมือสั่นครับ
00:04:21 → 00:04:23 ถ้าเกิดสืบย้อนประวัติสืบย้อนประวัติ
00:04:23 → 00:04:25 ครอบครัวไปออาจจะมีฝั่งคุณพ่อหรือฝั่งคุณ
00:04:25 → 00:04:28 แม่ครับมีอาการมือสั่นตอนที่อายุเริ่ม
00:04:28 → 00:04:32 เยอะขึ้นเช่น 4 50 อือันนี้มีเจตอยู่นิด
00:04:32 → 00:04:34 นึงถ้าเป็นโรค essential trem เนี่ยหรือ
00:04:34 → 00:04:38 ว่า ET นะครับเอ่อถ้าเกิดว่าคนคนนั้นได้
00:04:38 → 00:04:40 มีโอกาสจิบแอลกอฮอล์มีแอลกอฮอล์อยู่ใน
00:04:40 → 00:04:44 กระแสเลือดนิดนึงมือมันนิ่งเอ้ยแล้วมัน
00:04:44 → 00:04:47 มันแล้วมันจะมันต่างกันใชเป็นแอลกอฮอลิค
00:04:47 → 00:04:49 เหรอมันต้องบอกว่าอันนี้เป็นแค่วิธี
00:04:49 → 00:04:51 พิสูจน์หรือวิธีช่วยหมอวินิฉัยไม่ได้หมอ
00:04:51 → 00:04:53 บอกว่าอ้าคุณดรีมเป็นมือสั่นคุณดรีมไป
00:04:53 → 00:04:56 ดื่มแอลกอฮอล์นะฮะคุณขวัญไปดื่มแอลกอฮอล์
00:04:56 → 00:04:58 นะฮะไม่ใช่เป็นแค่แบบเชิงถามประวัติเพิ่ม
00:04:58 → 00:05:02 เติมเฉยๆอ๋อค่ะก็จริงๆสัตเองก็มีอีกอีก
00:05:02 → 00:05:06 หลายอย่างหรือบางทีสัตจากการใช้ยาการกิน
00:05:06 → 00:05:09 ยาบางชนิดที่มันมีไซสเอฟเฟคมีอาการสั่นนะ
00:05:09 → 00:05:12 ครับก็เป็นไปได้อืพอมาพูดถึงเรื่องของ
00:05:12 → 00:05:14 พิสันครับต้องบอกว่าอาการสั่นที่บอกว่า
00:05:14 → 00:05:17 เป็นเรื่องของรองหลักคือความฝืดความเกร็ง
00:05:17 → 00:05:20 ใช่มั้ยฮะฝืดเกรงฝืดเกร็งความเฉื่อยความ
00:05:20 → 00:05:23 ช้าหมายความว่าคือยังไงคือแบบเราจะทำอะไร
00:05:23 → 00:05:27 มันก็ช้ามันเฉื่อยไปหมดเลยเป็นป้าเฉื่อย
00:05:27 → 00:05:30 ทุกคนเป็นลุงเฉื่อยทุกคนเลยจะคิดจะพูดจะ
00:05:30 → 00:05:34 เอื้อมไปหยิบอะไรทำอะไรช้าหมดนี่คืออาการ
00:05:34 → 00:05:36 หลักก่อนเลยเหรอใช่ครับอาการหลักแต่ว่า
00:05:36 → 00:05:39 อาการหลักตรงนี้นะฮะต้องบอกว่ามันจะเจอ
00:05:39 → 00:05:42 ได้ก็ตอนเมื่อคุณเป็นปากกินสันแล้วครับ
00:05:42 → 00:05:45 แล้วมันมีอาการอะไรที่แบบเป็นคำใบ้หรือ
00:05:45 → 00:05:48 ว่านำมาก่อนอืเป็นสัญญาณบอกล่วงหน้านะอ่า
00:05:48 → 00:05:50 สัญญาณบอกล่วงหน้าเอาซักกี่ปีหรือกี่
00:05:50 → 00:05:53 เดือนกี่วันดีครับพี่ดรมพี่ขวัญผมขอซักัก
00:05:53 → 00:05:55 เดือนนึงได้มั้ยพี่หมอักเดือนนึงเดือนนึง
00:05:55 → 00:05:57 ถือว่าเร็วเยอะไปมั้ยอ่ะพี่ดรีมเดือนนึง
00:05:57 → 00:06:00 พี่ี่ขวัญเท่าไหร่ดีครับขอสักปีแล้วกัน
00:06:00 → 00:06:02 เพราะว่าคือเวลาเราอยู่กับผู้สูงอายุเยอะ
00:06:02 → 00:06:05 ๆเราอยากเห็นสัญญาณแบบเร็วๆเพื่อที่จะได้
00:06:05 → 00:06:07 ไปหาคุณหมอเร็วๆอะไรเงี้ยปีนึงเออผมให้
00:06:07 → 00:06:11 มากกว่านั้นเลยครับเฮ้ยผมให้ 10 ปีเลยบ้า
00:06:11 → 00:06:13 อุยจริง 10 ปีมันเห็นมันเห็นยาวขนาดนั้น
00:06:13 → 00:06:15 เลยเหรอคะมันอาจแต่ว่า 10 ปีตรงนี้คือ
00:06:16 → 00:06:17 เป็นสิ่งที่พอคนไข้วินิจฉัยแล้วเราถาม
00:06:17 → 00:06:21 ย้อนกลับไปคนที่ไปเป็นพิสันมักจะมีสิ่ง
00:06:21 → 00:06:23 เหล่านี้เกิดขึ้นล่วงหน้าก่อนที่หมอจะฟัน
00:06:23 → 00:06:27 งว่าคุณเป็นปากีสถานประมาณ 10 ปี 10 ปรอ
00:06:27 → 00:06:29 10 ปีแต่อาการเหล่านั้นที่ผมกำลังจะพูด
00:06:29 → 00:06:30 ตรงนี้
00:06:30 → 00:06:35 ภวะนคุณีอีก 10 ปีข้างหน้าอาจจะไม่ใช่ก็
00:06:35 → 00:06:38 ได้แต่คนที่เป็นากิมักจะมีสิ่งเหล่านี้
00:06:38 → 00:06:40 ประมาณสักกี่เปอร์เซ็นต์สิ่งที่ทาง
00:06:40 → 00:06:43 วิชาการเขาบอกมาล่วงหน้าตัวเลขผมอาจจะตอบ
00:06:43 → 00:06:45 ไม่ได้แต่ผมว่าเกินครึ่งอ๋อโอเค
00:06:45 → 00:06:50 เครึ 1 จะบูกได้กลิ่นลดลง้ยถามว่าได้
00:06:50 → 00:06:53 กลิ่นลดลงเป็นยังไงนึกนึกถึงตอนนึกถึงตอน
00:06:53 → 00:06:56 แต่ละคนเป็นโควิดอ่ะครับฟิวอย่างงั้นเลย
00:06:56 → 00:06:58 อ่ะได้กลิ่นลดลงได้กลิ่นที่มันเพี้ยนไป
00:06:58 → 00:07:00 หรือรู้สึกกลิ่นมันไม่มันไม่เหมือนเดิม
00:07:00 → 00:07:03 ครับแต่กลิ่นของปากิคือกลิ่นเหมือนเดิม
00:07:03 → 00:07:08 แต่ความเซ้นของจมูกมันจะลดลงหอมยังหอม
00:07:08 → 00:07:11 อยู่แต่มันหอมน้อยลงได้กลิ่นชัดมันชัด
00:07:12 → 00:07:14 น้อยลงนี่คือเรื่องได้กลิ่นนะครับอือัน
00:07:14 → 00:07:17 ที่ 2 ครับเรื่องของท้องผูกครับท้องผูก
00:07:17 → 00:07:19 ครับอ่าท้องผูกเป็นสิ่งที่เราพอเวลาเรา
00:07:19 → 00:07:22 ถามหรือสอบสวนโลกย้อนกลับไปเนี่ยคนไข้
00:07:22 → 00:07:24 ส่วนใหญ่เลยจะมีปัญหาเรื่องของท้องผูก
00:07:24 → 00:07:27 เรื้อรังนำมาก่อนอยู่แล้วเป็นเกือบ 10 ปี
00:07:27 → 00:07:29 โอ้โห
00:07:29 → 00:07:33 อ่าแล้วก็สิ่งที่กระเถิบเข้ามาใกล้สุด
00:07:33 → 00:07:35 หน่อยมีมีการได้กลิ่นลดลงใช่มั้ยฮะมี
00:07:35 → 00:07:38 เรื่องของท้องผูกนะครับใกล้หน่อยในระยะ
00:07:38 → 00:07:41 ที่หย่อน 10 ปีลงมาจะเป็นเรื่องของภาวะ
00:07:41 → 00:07:44 การนอนไม่หลับกว่าการนอนละเมออค่ะบางคน
00:07:44 → 00:07:47 เนี่ยบางคนนอนละเมอถึงขั้นแบบว่าขออภัยนะ
00:07:47 → 00:07:50 ฮะสามีภรรยาที่ที่สูงวัยหน่อยเนอนแยก
00:07:50 → 00:07:54 เตียงกันเพราะว่าสามีเนี่ยตีอกชกลมมือไม้
00:07:54 → 00:07:57 ฟาดไปโดนภรรยาตาเขียวตาปูดมอ่าอันนี้คือ
00:07:57 → 00:08:01 เรื่องจริงซึ่งพอย้อนกลับไปอ่ะคนใน
00:08:01 → 00:08:03 ครอบครัวก็คือมีคุณปู่หรืออากงเนี่ยฟาด
00:08:04 → 00:08:06 อาม่าหน้าเขียวมาแล้วเ้ยจริงป่ะเนี่ยจริง
00:08:06 → 00:08:09 ๆครับผมสุดสุดท้ายเขาต้องแบบว่าแบ่งเตียง
00:08:09 → 00:08:12 กันนอนเพราะว่าอาม่าโดนทำลายร่างกายเออ
00:08:12 → 00:08:15 โอโหอันอันอันนี้อาจจะเป็นปัญหาที่หลายๆ
00:08:15 → 00:08:19 คนรู้สึกว่าเอ้ยมันก็คนแก่นอนไม่หลับคน
00:08:19 → 00:08:22 แก่นอนละเมอมันอาจจะฟังดูเป็นเป็นโรคคน
00:08:22 → 00:08:24 แก่หรือเปล่าซึ่งจริงๆมันอาจจะเป็นหนึ่ง
00:08:24 → 00:08:27 ในสัญญาณของตัวากกินสันก็เป็นไปได้อือัน
00:08:27 → 00:08:30 นี้ผมผมเล่าตามไทม์ไลนครับพอถึงเวลาที่
00:08:30 → 00:08:32 อาการมันเริ่มชัดขึ้นแต่รถากินสันเป็น
00:08:32 → 00:08:34 เรื่องของความเสื่อมของสมองนะครับแล้วก็
00:08:34 → 00:08:38 มันจะกินระยะเวลาค่อยๆเป็นค่อยๆไปในหลัก
00:08:38 → 00:08:41 ปีพอเริ่มมีอาการที่เห็นะหรือว่าเริ่ม
00:08:41 → 00:08:43 สงสัยว่าเป็นากินสันแล้วมันใช้ระยะเวลา
00:08:43 → 00:08:46 เป็นหลักปีๆไม่ได้แบบว่า 2 วัน 3 วันหรือ
00:08:46 → 00:08:48 เดือนนึงใช้เวลาเป็นหลักปีก็จะเริ่มตั้ง
00:08:49 → 00:08:52 แต่อาการเคลื่อนไหวที่ช้าลงเช่นจะทำอะไร
00:08:52 → 00:08:55 ก็เฉื่อยทำอะไรก็ช้าเดินไปหยิบของก็ช้า
00:08:55 → 00:08:58 กำลังวังชามีนะครับแต่ว่ามันเหมือนมันไม่
00:08:58 → 00:09:00 ค่อยออกแรงไม่ค่อยอยากจะออกออกแรงคิดช้า
00:09:00 → 00:09:05 พูดช้าหน้าบึ้งหน้าตึงเดินช้าอืเวลาเวลา
00:09:05 → 00:09:08 ต่อมาการเดินเริ่มมีปัญหามากขึ้นเดินช้า
00:09:08 → 00:09:12 ไปช้ามาเริ่มเดินติดเดินฝืดหรือบางคนมี
00:09:12 → 00:09:14 ปัญหาว่าตอนจะเริ่มออกสตาร์ทตัวครับเดิน
00:09:14 → 00:09:18 ซอยเท้าทีๆอีแล้วถึงจะเดินได้ปกติแล้วพอ
00:09:18 → 00:09:20 จะหยุดมันเบรกไม่ทันมันก็ซอยเท้าอีกรอบ
00:09:20 → 00:09:22 นึงอันนี้คืออาการของ
00:09:22 → 00:09:27 พิสันค่ะแล้วค่อยจะเห็นภาวะเรื่องของมือ
00:09:27 → 00:09:31 สัตว์โอหภาวการนำมาเนี่ยกว่าจะถึงมือสั่น
00:09:31 → 00:09:35 เนี่ยโอโหมีตั้ง 6 ส 6 ภาวะเลยทีเดียวโอ
00:09:35 → 00:09:39 พี่ขวัญนับอยู่เหรอใช่ประมาณนั้นเลยฮะ
00:09:39 → 00:09:41 ประมาณนั้นเลยแต่แต่ผมต้องบอกว่าส่วนใหญ่
00:09:41 → 00:09:44 ไอ้ 1-6 ที่ว่าเนี่ยยังไม่ค่อยพากันมาหา
00:09:44 → 00:09:48 หมออันเนี้ยคืออาการเหล่าเนี้ยที่พี่หมอ
00:09:48 → 00:09:51 บอกก็คือมันมันเห็นล่วงหน้ากันเป็นร่วมๆ
00:09:51 → 00:09:54 10 ปีเลยเหรอ 10 ปีใช่ครับเฮ้ยเฮ้ยมีอัน
00:09:54 → 00:09:56 นึงน่าสนใจมากผมอ่านใน Instagram อ่านใน
00:09:56 → 00:09:58 Facebook บอกว่ามีผู้หญิงคนนึงที่เมือง
00:09:58 → 00:10:00 นอกอันนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันนะเป็น
00:10:00 → 00:10:02 ข่าวไม่รู้เป็นเฟกนิวหรรือเปล่านะบอกว่า
00:10:02 → 00:10:05 ผู้หญิงคนนึงเนี่ยเอยู่กับสามีแล้วเขาได้
00:10:05 → 00:10:08 กลิ่นตัวสามีที่มันเปลี่ยนไปมันเหม็นมาก
00:10:08 → 00:10:10 เลยเป็นกลิ่นที่เขาอ่ะสัมผัสได้แค่คน
00:10:10 → 00:10:14 เดียวอืในเวลาต่อมาสามีเนี่ยเป็นโรคพิสัน
00:10:14 → 00:10:17 แล้วเขาก็ไปเข้าชมรมเหมือนกายภาพบำบัด
00:10:17 → 00:10:19 หรืออะไรสักอย่างกับกลุ่มคนที่เป็นปากีส
00:10:19 → 00:10:22 เหมือนกันแล้วเขารู้สึกว่าที่สถานที่นี้
00:10:22 → 00:10:25 เนี่ยมันโคตรเหม็นเลยคือมันมีกลิ่นเหมือน
00:10:25 → 00:10:28 กลิ่นตัวเหมือนสามีเค้าอ่ะครับอ่าๆๆๆค่ะ
00:10:28 → 00:10:31 อยู่อออบอวนไปหมดเลยเพราะทุกคนเป็นพิสัน
00:10:31 → 00:10:35 หมดอ่าเค้าบอกไปก็ไม่มีใครเชื่ออือแล้วก็
00:10:35 → 00:10:38 สุดท้ายเนี่ยเา้าก็ได้รับการเอาตัวเ้าอ่ะ
00:10:38 → 00:10:41 ไปทดลองคือให้ไปดมเสื้อผ้าของคนที่เป็น
00:10:42 → 00:10:45 พิสันและคนที่ไม่เป็นไม่เป็นพิสันครับเ้า
00:10:45 → 00:10:47 วินิจฉัยได้หมดเลยว่าคนไหนเป็นคนไหนไม่
00:10:47 → 00:10:51 เป็นโอจกลิ่นตัวที่ติดอยู่ที่เสื้อผ้าเออ
00:10:51 → 00:10:53 เฮ้ยอันนี้แโอเฮ้ยอันอันนี้อันนี้ถือว่า
00:10:53 → 00:10:56 แบบเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่าวงการแพทย์
00:10:56 → 00:10:59 เนี่ยยังยังหาคำตอบไม่ได้อันนี้อาจจะต้อง
00:10:59 → 00:11:02 ไปรองานวิชาการเเช่นหมอปลาหมอปลาเป็นต้น
00:11:02 → 00:11:04 อ่ะไม่ใช่เยไม่ใช่ลอเล่นลเล่นอันนั้นใจ
00:11:04 → 00:11:07 คอยคาอย่างเดียวบ้าบอีกอันนึงฮะอีกอันนึง
00:11:07 → 00:11:10 ฮะเาบอกว่ามีอยู่เคสนึงที่เขาดมแล้วเขา
00:11:10 → 00:11:11 บอกว่าคนเนี้ยเป็น
00:11:11 → 00:11:14 พิสันแต่ผู้ป่วยคนเนี้ยที่เอาเสื้อมาให้
00:11:14 → 00:11:18 เาดมอ่ะเขไม่เป็นก็คือวินิจฉัยพลาดไป 1
00:11:18 → 00:11:20 เคสจากประมาณ 8 หรือ 10 เคสประมาณนี้ฮะก็
00:11:20 → 00:11:23 ตีว่าประมาณ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์อ่าที่ที่
00:11:23 → 00:11:26 ถูกนะทที่ถูกนะแต่ในระยะเวลา 8 เดือนต่อ
00:11:26 → 00:11:28 มาคนนั้นน่ะถูกวินิจฉัยว่าเป็นพากกินสัน
00:11:28 → 00:11:31 อ้าวเฮ้ยเออนั่นแสดงว่าจมูกเขาอไวกว่าหมอ
00:11:31 → 00:11:32 อีกอ่ะ
00:11:32 → 00:11:35 โอ้โหเค้าทำอาชีพอะไรเนี่ยภรรยาของพีู่้
00:11:35 → 00:11:38 ป่วยคนนี้เนี่ยผมเป็นเอ่อกู้ระเบิดผมพูด
00:11:38 → 00:11:41 เล่นนะผมไม่รู้เทำอาชีพอะไรแต่ว่าข้อมูล
00:11:41 → 00:11:43 ตัวเนี้ยของเมืองนอกมันมันมีข่าวเหถึง
00:11:43 → 00:11:45 เมืองไทยแต่ว่ายังไม่ได้รับการแบบยังไม่
00:11:45 → 00:11:49 เห็นอะไรที่เป็นอจริเอ๊ะแล้วเอาจริงๆพี่
00:11:49 → 00:11:52 หมอคนที่เขาเป็นโรคพาร์กินสันเขามีกลิ่น
00:11:52 → 00:11:57 กายกลิ่นตัวอะไรที่มันจะออกมาเฉพาะช่วง
00:11:57 → 00:11:59 เวลาที่เป็นในโรคนี้มผมไม่รู้รู้แต่จมูก
00:11:59 → 00:12:01 ผม่ะไม่ได้กลิ่นแบบนั้นนะจากที่ตรวจคนไข้
00:12:01 → 00:12:04 มาิสันผมผมไม่ได้กลิ่นแต่ว่าจังหวะที่คน
00:12:04 → 00:12:08 ไข้เดินเข้าห้องตรวจมามองหน้าปุ๊บรู้เลย
00:12:08 → 00:12:11 ว่าคนเนี้ยสงสัยไว้เป็นพาร์กินสันออมันมี
00:12:11 → 00:12:15 สัญญาณอะไรที่แบบผู้เชี่ยวชาญแบบคุณหมอ
00:12:15 → 00:12:18 อะไรอย่าเงี้ยรู้เลยครับคือหน้านิ่งน่า
00:12:18 → 00:12:22 ไร้อารมณ์อน้านิ่งภาษาอังกฤษจะเรียกว่ามา
00:12:22 → 00:12:25 เก็คือเหมือนใส่หน้ากากครับใส่หน้ากากที่
00:12:25 → 00:12:27 นี้คือไม่ไม่ไม่ใช่หน้ากากอนามัยนะครับ
00:12:27 → 00:12:29 เหมือนแบบเป็นคนที่ใส่แบบหน้ากากอะไรอ่ะ
00:12:30 → 00:12:33 หน้ากากที่หน้ากากสมมอหน้ากากเอ่อมดแดง
00:12:33 → 00:12:35 อะไรก็ว่าก็คือหน้าหน้าเคจะอยู่อย่างงั้น
00:12:35 → 00:12:38 ตลอดซึ่งหน้ามันจะนิ่งตลอดคือมีหน้าเดียว
00:12:38 → 00:12:40 หน้าตายหน้าเดียวนั่นคือมาร์คเฟซของตัว
00:12:40 → 00:12:45 พิสันครับคนไข้จะแบบหน้านิ่งๆอตาลอยๆแบบ
00:12:45 → 00:12:47 ใครจะหือใครทำอะไรก็ไม่หือไม่อือด้วยไม่
00:12:47 → 00:12:50 ไม่ได้เอ๊ะอออะไรกับเขาจังหวะที่คนไข้
00:12:50 → 00:12:52 เดินเปิดประตูห้องเห็นภาพแรกเนี่ยซึ่ง
00:12:52 → 00:12:54 สมัยก่อนคนไข้ยังไม่ได้ใส่แมสเนาะที่ไม่
00:12:54 → 00:12:57 ใช่ช่วงโควิดก็จะเห็นหน้าตาว่าอึดูเหมือน
00:12:57 → 00:12:59 พากกินสันเนาะแล้วหลังจากนั้นก็ก็มอง
00:12:59 → 00:13:02 เหลือบตามองจังหวะก้าวเดินเข้ามาอืตั้ง
00:13:02 → 00:13:05 แต่คนไข้เปิดประตูห้องปุ๊บหมอมองเลยว่า
00:13:05 → 00:13:07 จังหวะการเดินหรือลักษณะการเดินเาเป็นยัง
00:13:07 → 00:13:10 ไงบ้างครับซึ่งพิสันเราเราต้องดูท่าเดิน
00:13:10 → 00:13:12 ของเขาด้วยครับเพราะเป็นหนึ่งในเกณฑ์ใน
00:13:12 → 00:13:15 การวินิจฉัยของปากกินสันท่าเดินเขาจะมี
00:13:15 → 00:13:19 ลักษณะที่เอ่อแปลกไปจากคนปกติธรรมดายไง
00:13:19 → 00:13:22 เดินไม่ปกติฮะมันมีมีได้หลายรูปแบบมีตั้ง
00:13:22 → 00:13:25 แต่เดินซอยเท้าพอจังหวะที่เล่าให้ฟังว่า
00:13:25 → 00:13:28 พอเค้ายุยืนยืยืนอยู่กับที่นะฮะจังหวะส
00:13:28 → 00:13:31 ออกตัวครับมันไม่ได้ออกตัวเลยทันทีอแต่
00:13:31 → 00:13:34 มันจะแบบเหมือนแบบกำลังกระดึ๊บกระดึบ
00:13:34 → 00:13:36 กระดึ๊บกระดึ๊บอยู่กำลังหาหาจังหวะให้มัน
00:13:36 → 00:13:40 ลงล็อคอยู่อ่ะๆอ้าฟิลเหมือนเวลาคนที่ขี่
00:13:40 → 00:13:43 จักรยานจักรยานเวลาขึ้นจักรยานมี 2 แบบ
00:13:43 → 00:13:45 เนาะก็คือขึ้นจักรยานแบบว่านั่งค่อมไปเลย
00:13:45 → 00:13:48 ครับแล้วก็แล้วก็ถีบขาแล้วก็ปั่นออกไปกับ
00:13:48 → 00:13:51 คนที่เอาขาเกี่ยวจักรยานข้างนึงก่อนแล้ว
00:13:51 → 00:13:54 ก็สไลด์ไปก่อนแล้วก็ึบขึ้นมาอ่ะทุกคนลอง
00:13:54 → 00:13:56 นึกภาพคนที่ขึ้นจักรยานแบบเอาขาเกี่ยวไป
00:13:56 → 00:13:59 ข้างนึงก่อนแล้วค่อยสไลด์จังหวะเริ่มต้น
00:13:59 → 00:14:01 มันจะแบบติดๆขัดๆนิดนึงเนาะแล้วพอมันฟว
00:14:02 → 00:14:04 ปุ๊บแล้วเเค่อยขึ้นครอบจักรยานทั้งตัว
00:14:04 → 00:14:07 แล้วก็ค่อยขี่เขไปได้อ๋อคือแบบนั้นตอน
00:14:07 → 00:14:11 เริ่มอ่ะก็จะก็จะยากตอนหยุดตอนเบรกจะเบรค
00:14:11 → 00:14:14 ก็เบรคยากเบรกแล้วเลยบ้างหรือว่าเบรกได้
00:14:14 → 00:14:18 ไม่ไม่ทันทีอือันนี้ถืออันนี้อาการที่คุณ
00:14:18 → 00:14:20 หมอบอกก็คือมันจะเป็นค่อนข้างเยอะแล้ว
00:14:20 → 00:14:23 เหรอครับคือตอนที่เราที่เราเห็นแล้วครับ
00:14:23 → 00:14:26 ไม่ไม่ใช่อาการนำแบบน้มนำอันนี้คือตอนที่
00:14:26 → 00:14:29 เราเป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัยแล้วครับออใชั
00:14:29 → 00:14:31 พิสันหลักๆก็จะมี 1 แบบกล้ามเนื้อฝืด
00:14:31 → 00:14:34 เกร็งเช่นหมอหมอจะจับแขนคนไข้ครับแล้วก็
00:14:34 → 00:14:37 หมุนมือหมุนแขนดูแรงต้านถ้าเกิดแบบให้ให้
00:14:38 → 00:14:40 ปล่อยปกติแล้วมันก็หมุนได้อย่างเงี้ยหมุน
00:14:40 → 00:14:42 ได้ฟรีเลยแต่ถ้าเกิดว่าคนไข้ก็จะมีความ
00:14:42 → 00:14:47 แบบฝืดเกร็งต้านโดยที่เขาเคแบบเไม่ได้
00:14:47 → 00:14:50 ตั้งใจอ่ะต่อให้เขาคแบบรีแลกแล้วเขาก็ยัง
00:14:50 → 00:14:53 ฝืดอยู่อาการฝืดคืออาการหลักครับอาการ
00:14:53 → 00:14:56 สั่นคืออาการรองแล้วก็การเดินที่มันไม่คง
00:14:56 → 00:14:59 ที่เนี่ยหรือไม่ไม่ stable ไม่ไม่มั่นคง
00:14:59 → 00:15:01 เนี่ยก็จะเป็นอาการรองช่วยในการวินิจฉัย
00:15:01 → 00:15:05 ครับอือ๋อแล้วพอคนไข้มาถึงมือคุณหมอโดย
00:15:05 → 00:15:07 โดยอาการที่แบบคุณหมอเห็นด้วยตาแล้วล่ะ
00:15:07 → 00:15:11 ว่ามันเป็นประมาณเนี้ยขั้นตอนในการรักษาเ
00:15:11 → 00:15:14 ยังพอจะกู้กู้กลับมาเพื่อที่จะมาเป็นปกติ
00:15:15 → 00:15:18 ได้มั้ยหรือว่าออพาคินสันมันหายมั้ยหรือ
00:15:18 → 00:15:21 แค่ชะลอไม่ให้มันทรุดลงไปเพราะมันคือโรค
00:15:21 → 00:15:23 ที่เกี่ยวกับสมองอย่างเงี้ยค่ะครับโดย
00:15:23 → 00:15:25 Parkinson เองก็อาจจะแบ่งย่อยได้หลายแบบ
00:15:25 → 00:15:27 นะครับแต่ถ้าเกิดเป็น Parkinson ที่เป็น
00:15:27 → 00:15:29 Parkinson แท้เลยนะครับ
00:15:29 → 00:15:31 มันรักษาไม่หายเพราะมันอยู่ในกลุ่มของโรค
00:15:31 → 00:15:34 สมองเสื่อมที่มันจะเสื่อมมากขึ้นไปทุกวัน
00:15:34 → 00:15:37 ทุกวันอืเพราะฉะนั้นหน้าที่ของพวกเราทั้ง
00:15:37 → 00:15:41 เป็นญาติทั้งคนไข้แล้วก็หมอคือชะลอความ
00:15:41 → 00:15:44 เสื่อมนั้นให้เสื่อมช้าที่สุดมันยังคง
00:15:44 → 00:15:46 เดินหน้าอยู่ครับแต่เราพยายามรั้งมันไว้
00:15:46 → 00:15:50 เปรบเสเหมือนรถคันนึงกำลังลงเขาอ่ะอืหมอ
00:15:50 → 00:15:53 บอกคนไเหยียบเบรกครับญาติบอกว่าฉันฉุดรถ
00:15:53 → 00:15:56 ไว้ครับหมอก็ไปยันรถไว้ข้างล่างไม่ให้รถ
00:15:56 → 00:15:59 คันนั้นไหลลงเขาแต่สุดท้ายรถคันนั้นก็ชนะ
00:15:59 → 00:16:03 แรงโน้มถ่วงอยู่ดีแต่มันจะชะลอลงได้ด้วย
00:16:03 → 00:16:06 ยาด้วยคำแนะนำด้วยการปฏิบัติตัวอแต่ใน
00:16:07 → 00:16:10 กรณีที่ไม่ใช่พิสันที่เป็นกลุ่มของพิสัน
00:16:10 → 00:16:12 แท้เป็นกลุ่มของพิสันอื่นๆนะครับเช่นเกิด
00:16:12 → 00:16:15 จากการกินยาบางทีก็ต้องเอายาที่กินอยู่
00:16:15 → 00:16:18 อ่ะมารีวิวหรือมาดูทั้งหมดเลยว่ามียาตัว
00:16:18 → 00:16:24 ไหนมยที่หลอกทำให้อาการคล้ายพิสันมันโผล่
00:16:24 → 00:16:26 ออกมาอืหรือยาบางตัวเนี่ยมันไปสวิช on
00:16:26 → 00:16:29 หรือไปกระตุ้นให้จากคนที่
00:16:29 → 00:16:32 คนเนี้ยควรจะเป็นากิสันนี้อีกในตอนอายุ 65
00:16:32 → 00:16:35 แต่กระตุ้นให้เา้าเป็นตอน 60 อย่างเงี้ย
00:16:35 → 00:16:37 ครับก็ต้องเอายากลุ่มนั้นออกเพราะฉะนั้น
00:16:37 → 00:16:40 ยาบางอย่างเนี่ยมีมีข้อจำกัดในผู้สูงอายุ
00:16:40 → 00:16:43 นะครับแล้วก็ปากีสเป็นโองของผู้สูงอายุ
00:16:43 → 00:16:46 เป็นของความเสื่อมดังนั้นมักมักจะพบและ
00:16:46 → 00:16:49 ควรจะพบตั้งแต่วัยเกษียณเป็นต้นไป 60 65
00:16:49 → 00:16:53 บวกๆขึ้นไป 60 บวกบครับคือถ้าบอกว่าเจอใน
00:16:53 → 00:16:57 ช่วงตั้งแต่อ่าวัยในเกษียณเป็นต้นไปนะ 60
00:16:57 → 00:17:00 แสดงว่าในช่วงวทำงานก่อนประมาณซักอตีว่า
00:17:00 → 00:17:04 50 อ่ะก่อนเกษียณ 10 ปีใช่มั้ยพี่แมอ่า
00:17:04 → 00:17:08 ถ้าคนจะเป็นมันก็จะเริ่มมีสัญญาณให้เรา
00:17:08 → 00:17:11 เห็นแล้วมยหรือว่าครับมันอาจจะไม่ถึง 10
00:17:11 → 00:17:14 ปีทุกกรณีไปคุณอาจจะไม่ถึง 10 ปีแต่ว่า
00:17:14 → 00:17:16 สัญญาณต้องบอกตามจว่าสัญญาณมันเป็นสัญญาณ
00:17:16 → 00:17:18 ที่มันไม่ได้ชัดและไม่ได้เป็นเกณฑ์ในการ
00:17:18 → 00:17:22 วินิจฉัยแค่สงสัยว่าเอ้ยเผื่อใจไว้นะอาจ
00:17:22 → 00:17:25 จะเป็นก็ได้ในอีกหลายๆปีข้างหน้านอนไม่
00:17:25 → 00:17:28 หลับจมูกไม่ค่อยได้กลิ่นหรือว่าเ่อท้อง
00:17:28 → 00:17:31 ผูกแบบนี้ครับแต่ผมก็ยืนยันว่าไม่ได้หมาย
00:17:31 → 00:17:34 ความว่าถ้าจมูกฉันได้กลิ่นลดลงชันท้อง
00:17:34 → 00:17:39 ท้องผูกหรือว่าฉันนอนไม่ดีสุดท้ายแล้วแกะ
00:17:39 → 00:17:42 แล้วต้องเป็นปากินสันไม่ใช่นะครับแค่ต้อง
00:17:42 → 00:17:44 ต้องต้องต้องต้องแปลประโยคภาษาไทยให้เข้า
00:17:44 → 00:17:46 ใจว่าเดี๋ยวแบบโอโหตายละนอนไม่หลับมาก
00:17:46 → 00:17:49 กว่าเดิมอีกหมอพูดอย่างงี้นะฮะแล้วก็ก็จะ
00:17:49 → 00:17:52 สตาร์ทในช่วงแบบ 60 65 เป็นต้นไปแต่มัน
00:17:52 → 00:17:54 ก็มีกลุ่มพาร์กินสันบางอันฮพี่ขวัญที่คน
00:17:54 → 00:17:57 ไข้อ่ะเป็นพิสันตั้งแต่ตอนอายุยังน้อยๆ
00:17:57 → 00:18:00 น้อยน้อยที่ว่าว่านี่คือน้อยแค่ไหนพี่ 30
00:18:00 → 00:18:02 40 ก็มีครับบ้าจริงดิจริงแต่อันนั้นจะ
00:18:02 → 00:18:05 เป็นในกลุ่มที่จะเป็นอีกสาเหตุนึงเลยคือ
00:18:05 → 00:18:09 เป็นในกลุ่มที่เป็นสาเหตุแบบเอ่อจาก
00:18:09 → 00:18:12 พันธุกรรมพันธุกรรมหรือว่าได้รับได้รับ
00:18:12 → 00:18:16 พวกสารเคมียาฆ่ามรงหรือได้รับสารเคมีหรือ
00:18:16 → 00:18:19 มีเหตุต่างๆครับอ๋อมีอมีอีกหนึอาชีพครับ
00:18:19 → 00:18:22 ที่มีความเสี่ยงในการเป็นปากกินสันอะไร
00:18:22 → 00:18:24 ทายกันดูฮะทายกันดูถ้าพี่หมอบอกว่าเกี่ยว
00:18:24 → 00:18:26 กับเรื่องของใบนิดนึงใบนิดนึงใบ้นิดนึง
00:18:26 → 00:18:30 เหรอฮของพวสารเคมีพวกเกษตรกรมั้พี่ๆน้องๆ
00:18:30 → 00:18:32 เกษตรกรมั้ยอันนั้นอันนั้นก็ใช่แต่อีก
00:18:32 → 00:18:35 อาชีพนึงที่แบบโอยมีข่าวดังมากอไม่ข่าว
00:18:35 → 00:18:40 ดังอาชีพไปโอลิมปิกฮะอาชีพนักกีฬาบาอย่า
00:18:40 → 00:18:43 บางอย่างอชกีฬามวยเหรอคะถูกต้องครับผม
00:18:43 → 00:18:46 ทำไมอ่ะเพราะว่าอได้รับการกระทบกระเทือน
00:18:46 → 00:18:49 ใช่เลยอ๋อออเวลาต่อยเอาแต้มมันต้องต่อย
00:18:49 → 00:18:51 โดนหัวโดนหน้าใช่มั้ยพี่ดรมเอ้ยใช่ไอ้นี่
00:18:51 → 00:18:54 ผมพูดจริงๆนะผมไปเจอนักกีฬาหลายคนตอนที่
00:18:54 → 00:18:58 ผมเคยสัมภาษณ์เนี่ยไม่ว่าจะเป็นเอ่อคนที่
00:18:58 → 00:19:02 เพิ่งจะจะเลิกต่อยหรือว่าอายุเยอะๆแล้ว
00:19:02 → 00:19:05 เนี่ยโหมันมีความชัดเจนมากเรื่องของสภาพ
00:19:05 → 00:19:09 ร่างกายพี่หมอพี่ขวัญครับคือค่ะเค้าจะพูด
00:19:09 → 00:19:11 ได้ไม่เหมือนเดิมไม่เหมือนคนปกติอ่ะพี่
00:19:11 → 00:19:14 หมอเเหมือนคิดช้าลงแล้วพูดออกมาช้าลงเหรอ
00:19:14 → 00:19:16 ดรมมันจะเป็นอย่างงั้นนะพี่มันจะพูดแบบ
00:19:16 → 00:19:20 ติดๆขัดๆมันไม่ฟวเหมือนคนที่แบบว่าอาจจะ
00:19:20 → 00:19:23 ไม่ได้ต่อยมวยกับกีฬาอื่นๆมันมันคนที่
00:19:23 → 00:19:26 อายุเยอะๆเนี่ยครับผมไม่ได้มีโอกาสไปคุย
00:19:26 → 00:19:29 เค้าก็ยังคุยได้ปกติทั่วไปแต่ว่ามันไม่
00:19:29 → 00:19:32 ใช่กับนักกีฬามวยเพราะเราเข้าใโดยเฉพาะคน
00:19:32 → 00:19:35 ที่แบบมีพื้นฐานการต่อยมวยไทยอ่ะมวยอาชีพ
00:19:35 → 00:19:39 อ่ามวยอาชีพมวยไทยอาชีพมาตั้งแต่เด็กๆอ่ะ
00:19:39 → 00:19:42 ครับคนพวกเนี้ยมีความกระทบกระเทือนโดนชก
00:19:42 → 00:19:46 หัวตีต่อยอะไรเงี้ยจนทำให้รู้สึกว่าอัน
00:19:46 → 00:19:48 นี้ไม่ได้ว่านะพูดจริงๆนักมวยหลายคนเนี่ย
00:19:48 → 00:19:52 ยังไม่ต้องวัยแก่นะลักษณะท่าทางการพูด
00:19:52 → 00:19:55 เนี่ยมันเกมันจะไม่เหมือนคนปกติเออใช่มัน
00:19:55 → 00:19:58 จะไม่เหมือนคนปกติมันจะไปไกลกว่าอายุครับ
00:19:58 → 00:20:01 ใช่คือค่ะมันจะแบบกึ๊กๆกั๊กๆอันนี้จริง
00:20:01 → 00:20:04 อันนี้จริงใช่มหลายๆคนอาจจะรู้จักนักมวย
00:20:04 → 00:20:06 ชื่อชื่อดังระดับโลกอย่างเช่นมูฮัมหมัด
00:20:06 → 00:20:09 อาลีอมูฮัมหมัดอารีใช่เเป็นพิสันเออๆคุณ
00:20:09 → 00:20:11 ผู้ฟังจากทางบ้านก็บอกมาเหมือนกันคุณแม้ว
00:20:11 → 00:20:16 คุณรักแมวอ่าบอกว่ามูฮัมหมัดฮเอารีอารีไง
00:20:16 → 00:20:19 ครับเอ่อเป็นปิสาใช่เลยครับนี่แหละครับก็
00:20:19 → 00:20:23 คือหนึ่งในสาเหตุคือโดนโดนตีหัวนะฮะโดนตี
00:20:23 → 00:20:27 หัวเยอะๆครับก็เเป็นพากกินสันได้ออนะครับ
00:20:27 → 00:20:32 อโอก็อาชพมีมีอีกอันนึงที่เป็นปัจจัยป้อง
00:20:32 → 00:20:35 กันการเป็นพิสันแต่ผมออกตัวก่อนเลยว่าไม่
00:20:35 → 00:20:39 แนะนำให้ทำเพราะว่าโทษมากกว่าประโยชน์ฮะ
00:20:39 → 00:20:43 ลองทายดูฮะพี่ดรมกินไววายพี่ดรมตอบว่ากิน
00:20:43 → 00:20:45 ไววายฮะพี่ขวัญเอาไงดีฮะพี่ดิมมาสาย
00:20:45 → 00:20:48 แอลกอฮอล์พี่ขวัญต้องไปสายอื่นแล้วฮะมี
00:20:48 → 00:20:50 สายอื่นมั้ยฮะ
00:20:50 → 00:20:54 เอิ่มอยู่กับสารเคมีเยอะๆหรอปัจจัยป้อง
00:20:54 → 00:20:57 กันนะฮะเออปัจจัยป้องกันป้องกันคือทำแบบ
00:20:57 → 00:21:01 เนี้ยแล้วมันจะมีมีมีมีข้อมูลวิจัยว่าเออ
00:21:01 → 00:21:03 มันมันช่วยป้องกันหรือลดโอกาสการเป็น
00:21:03 → 00:21:06 พิสันได้แต่หมอไม่แนะนำครับป้องกันแต่หมอ
00:21:06 → 00:21:09 ไม่แนะนำอ่ะคุณผู้ฟังลองทายกันมานะฮะ
00:21:09 → 00:21:12 เดี๋ยว๋อีกสัก 10 นาทีมาเฉลยนะฮะดีมดีมๆๆ
00:21:12 → 00:21:15 ๆอได้ๆๆเบียร์เอ่อไม่ได้แล้วมันแอลกอฮอล์
00:21:15 → 00:21:17 ไปแล้วด้วนาแอลกอฮอล์ไปแล้วฮะต้องต้องไม่
00:21:17 → 00:21:20 ซ้ำฮะเออก็
00:21:20 → 00:21:23 อะไรคำใบ้คือมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีหมอไม่
00:21:23 → 00:21:26 อยากให้ทำแต่มันดั้นไปช่วยโทคหรือว่าลด
00:21:26 → 00:21:29 อากาศการเป็นปาร์กินสันได้อ่ะติดไว้
00:21:29 → 00:21:32 ก่อนหรือใครคิดคำตอบไว้ในใจเดี๋ยวเรามา
00:21:32 → 00:21:34 เฉลยนะอีกประมาณสัก 5 นาที 10 นาทีเดี๋ยว
00:21:34 → 00:21:38 มาเฉลยเพราะฉะนั้นคคนที่รับการกระทบ
00:21:38 → 00:21:40 กระแทกไม่ว่าจะเป็นนักมวยอาชีพหรือเคยได้
00:21:40 → 00:21:43 รับอุบัติเหตุทางสมองหรือการโดนตีซ้ำๆที่
00:21:43 → 00:21:46 หัวนะฮะก็มีโอกาสที่จะมีปัญหาได้ในระดับ
00:21:47 → 00:21:49 สารเคมีของพิสันเองเนี่ยสิ่งที่ผิดปกติ
00:21:49 → 00:21:52 คือโดปามีนโดปามีนภาษาไทยก็คือโดปามีนไม่
00:21:52 → 00:21:55 ไม่ไม่ไม่มีชื่ออื่นโดปามีนนะครับมันจะ
00:21:55 → 00:21:58 อยู่ในตำแหน่งของการสมองเซลล์ในแต่ละ
00:21:58 → 00:22:00 ตำแหน่งของสมองเนี่ยมีชื่อเรียกที่ไม่
00:22:00 → 00:22:02 เหมือนกันแล้วก็มีหน้าที่ที่ไม่เหมือนกัน
00:22:02 → 00:22:05 นะครับเซลล์ในของก้านสมองทำหน้าที่ในการ
00:22:05 → 00:22:09 สร้างสารสืบประสาทอยู่ชนิดนึงสารสืประสาท
00:22:09 → 00:22:11 ชนิดนี้ก็คือโดปามีนโดปามีนจะทำให้การ
00:22:11 → 00:22:15 เคลื่อนไหวของเราเนี่ยมันสมูทสมทก็คือ
00:22:15 → 00:22:18 เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติจะหยิบจะจับ
00:22:18 → 00:22:22 อะไรได้คล่องแคล่วมือสั่นมือสั่นเลยนะฮะ
00:22:22 → 00:22:25 ก็คือหิวข้าวพี่บีมทำขนน้ำหล่นนะคุณผู้
00:22:25 → 00:22:28 ฟังหยิบจับอะไรเนี่ยได้มีความแม่นยำยำไม่
00:22:29 → 00:22:33 ฝืดไม่เกร็งแล้วก็มีความลื่นปรื๊ดลืปืด
00:22:33 → 00:22:35 อ่าค่ะอืฟิลเหมือนเป็นสารหล่อลื่นนะครับ
00:22:35 → 00:22:37 เหมือนหยอดน้ำมันน่ะอ่ะถ้าเกิดภาษาคนสูง
00:22:37 → 00:22:39 อยู่ก็คือเหมือนหยอดน้ำมันให้มันให้มัน
00:22:39 → 00:22:42 คล่องตัวหน่อยอพอมันเป็นโรคของความเสื่อม
00:22:42 → 00:22:45 นะครับมันก็จะตัวโดปามีนเนี่ยก็จะผลิตออก
00:22:45 → 00:22:48 มาน้อยลงครับพอโดปามีนผลิตออกมาน้อยลงก็
00:22:48 → 00:22:51 เหมือนเครื่องจักรที่มันฝืดแล้วไม่ได้
00:22:51 → 00:22:55 หยอดน้ำมันการหยอดน้ำมันหรือการรักษานะฮะ
00:22:55 → 00:22:58 ก็มีได้หลายวิธีวิธีที่เบสิคที่สุดเริ่ม
00:22:58 → 00:23:01 ต้นที่สุดและไม่เจ็บตัวที่สุดคือการกินยา
00:23:01 → 00:23:05 กินยาใช่ครับกินยาการกินยากินยา
00:23:05 → 00:23:11 พิสันในตกุก็คือไปเติมไปเติมโดปามีนอื
00:23:12 → 00:23:15 เฮ้ยเนี่ยแป๊บนึงนะฮะคุณผู้ฟังฮะมีเพื่อน
00:23:15 → 00:23:17 Instagram มาบอก
00:23:17 → 00:23:20 ว่าเพื่อนเพื่อตอบถูกด้วยเพื่อนตอบถูก
00:23:20 → 00:23:23 ด้วยเดี๋วก่อนอย่าพเเฉยยังเฉนะเพราะมีคุณ
00:23:23 → 00:23:25 ผู้ฟังทางบ้านเนี่ยหลายท่านก็ตอบมาเหมือน
00:23:25 → 00:23:28 กันนะใช่แอบดูหน่อยนะฮพี่มีคุณพี่่าบอก
00:23:29 → 00:23:31 ว่าเนี่ยดื่มไววายเห็นมั้ยคิดเหมนผมเลย
00:23:31 → 00:23:35 ดื่มวายดืวดื่มวนี่มาแนวสสวยงามะฉีด
00:23:35 → 00:23:38 กรูต้าฉีดกูต้ายังไม่ใช่นะฮะอ่าอ่าแล้วก็
00:23:38 → 00:23:42 มีบอกนี่กัญชาครับกัญชากัญชาสายเขียวเหรอ
00:23:42 → 00:23:44 ครับกัญชาสายเขียวสายเขียวครับอ่าสาย
00:23:44 → 00:23:48 เขียวก็มาเพื่อนตอบว่าอะไรพี่หมอผมยังไม่
00:23:48 → 00:23:51 เฉลยอ่าเดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อนโอหคุณนี่ใจ
00:23:51 → 00:23:53 ร้ายจริงๆเลยคุณผู้ฟังรอฟังอยู่เนี่ยเอ
00:23:53 → 00:23:55 แต่ว่าเพื่อนเพื่อนที่ฟังอยู่เนี่ยเค้า
00:23:55 → 00:23:59 เป็นเภสัชไงเคก็แบบว่าอ่ะะมีต้องมันต้อง
00:23:59 → 00:24:02 เป็นวิธีการที่ทางการแพทย์ก็ไม่แนะนำทาง
00:24:02 → 00:24:04 การแพทย์ไม่แนะนำครับทางการแพทย์ไม่แนะนำ
00:24:04 → 00:24:06 เราก็ไปทางสายเขียวแล้วก็ไปทางเครื่อง
00:24:06 → 00:24:08 ดื่มแอลกอฮอล์อย่างเดียวเลยสายองุ่นนะคะ
00:24:08 → 00:24:12 เข้าไล่องุ่นใช่ๆๆๆๆกลับมาต่อกลับมาต่อ
00:24:12 → 00:24:14 การการรักษาเบื้องต้นเราก็จะเป็นการกินยา
00:24:14 → 00:24:17 กินยาซึ่งการกินยาเองเนี่ยยาในกลุ่มที่
00:24:17 → 00:24:20 เบสิคสุดนะครับสมองขาดโดปามีนแล้วก็กิน
00:24:20 → 00:24:23 แล้วก็เติมโดปามีนเข้าไปสารโดปามีนสาร
00:24:23 → 00:24:24 โดปามีนใช่่ครับแล้วก็เติมโดปามีนเข้าไป
00:24:24 → 00:24:27 นี่คือเบสิคสุดแต่ากกินสันเองเนี่ยครับ
00:24:27 → 00:24:29 มันจะมีชช่วงที่เรียกว่า Honey Moon
00:24:29 → 00:24:33 peri ช่วงการรักษาแบบน้ำผึ้งพระจันทร์
00:24:33 → 00:24:36 คือช่วงการรักษาแบบหวานชื่นคือ 5 ปีแรก
00:24:36 → 00:24:39 หลังจากการวินิจฉัยแล้วก็การเริ่มยาการ
00:24:39 → 00:24:42 ปรับยาต่างๆมันจะดุยดูตอบสนองดีไปหมดเลย
00:24:42 → 00:24:46 ทกอย่าจะดีหมอคนนี้เก่งมากปรับยาทุอย่าง
00:24:46 → 00:24:50 ดีมากอๆคือใช้ชีวิตได้แทบจะเหมือนปกติเลย
00:24:50 → 00:24:52 ใช่อ่าใกล้เคียงปกติใกล้เคียงอ่าใช่แต่พอ
00:24:53 → 00:24:55 ค้น 5 ปีไปแล้วเนี่ยรักมันไม่หวานชื่นะ
00:24:55 → 00:24:58 มันหมดฮันนีมูนไปละอ้าการปรับยาจะยากขึ้น
00:24:58 → 00:25:01 เพราะอะไรร่างกายดื้อยาเหรอพี่หมอมันจะ
00:25:01 → 00:25:03 ใช้คำว่าดื้อยาก็ไม่เชิงครับพี่ดรีม
00:25:03 → 00:25:06 เนื่องจากว่ามันเป็นภาวะสมองเสื่อมใช่
00:25:06 → 00:25:08 มั้ยฮะมันถูกเซตโปรแกรมไว้แล้วว่าปีนี้
00:25:08 → 00:25:10 มันเสื่อมเท่านี้ปีหน้ามันเสื่อมมากกว่า
00:25:10 → 00:25:14 เดิมพอผ่านพนไป 5 ปีอ่ะมันถึงจุดที่มัน
00:25:14 → 00:25:16 มันไม่สามารถเวลาเวลาเรากินโดปามีนเข้าไป
00:25:17 → 00:25:19 สมองมันเสื่อมก็จริงมันมันสร้างโดปามีน
00:25:19 → 00:25:22 ไม่ได้แต่มันยังพอโอบอุ้มและพยุงโดปามีน
00:25:22 → 00:25:25 ไว้ได้แล้วมันยังพออุ้มไว้แล้วมันค่อยๆ
00:25:25 → 00:25:28 ปล่อยออกไปแต่พอผ่านพ้น 5 ปีไปแล้วอ่ะแรง
00:25:28 → 00:25:30 แจะอุ้มมันก็ไม่เหลือแล้วอ่ะเข้ามาปุ๊บก็
00:25:30 → 00:25:33 ผ่านฉันไปเลยเข้ามาก็ผ่านฉันไปเลยทำให้
00:25:33 → 00:25:36 โดปามีนที่กินเป็นมื้อๆเนี่ยเข้ามาแล้วก็
00:25:36 → 00:25:40 ผ่านไปมันไม่สามารถเก็บไว้จนถึงอิ่มจนถึง
00:25:40 → 00:25:43 มื้อต่อไปได้อุ้ยนึกออกมครับมันเหมือนกิน
00:25:43 → 00:25:47 ปุ๊บออกปั๊บแล้วก็หิวต่อเลยทันทีมันไม่
00:25:47 → 00:25:49 เหมือนสมัยเมื่อ 5 ปีแรกที่กินปุ๊บแล้ว
00:25:49 → 00:25:52 อิ่มท้องพอถึงมื้อต่อไปค่อยเติมโดประมิน
00:25:52 → 00:25:54 เข้าไปมันจะเปรียบเสมือนประมาณนี้ครับ
00:25:54 → 00:25:56 นั่นหมายความว่าพอ 5 ปีไปแล้วเนี่ยจะ
00:25:56 → 00:25:59 เริ่มรักษายากขึ้นดังนั้นการรักษาภัก
00:25:59 → 00:26:01 กินสันเองเนี่ยผมแนะนำว่าควรอยู่ในมือของ
00:26:01 → 00:26:04 คุณหมอระบบประสาทและสมองเพราะ 5 ปีแรกคุณ
00:26:04 → 00:26:10 หมอจะหวงยาแปลว่าแปลว่าจะให้ยาไม่ได้ฟุ้ง
00:26:10 → 00:26:13 เฟ้อมากไม่ได้ตามใจคนไข้มากเพราะเรา
00:26:13 → 00:26:17 ต้องการยืดช่วงคมนให้นานกว่า 5 ปีถ้าเกิด
00:26:17 → 00:26:20 ให้ยาแบบเต็มที่เลยเต็มเหเต็มเหนี่ยวไป
00:26:20 → 00:26:23 เลยอยากปรับฝืดใช่มยเติมฝืดเติมฝืดเติม 5
00:26:23 → 00:26:28 ปีปุ๊บเละรักษายากมากถ้าเกิดรักษาด้วยการ
00:26:28 → 00:26:30 ินยาตัวเบสิคไม่ได้แล้วก็ต้องเป็นยาที่
00:26:30 → 00:26:33 แวานมากขึ้นซึ่งยาแวานมากขึ้นสิทธิ์
00:26:33 → 00:26:37 ประกันสังคมสิทธิ์ 30 บาทอไม่คยครอบคลุม
00:26:37 → 00:26:39 สิทธิ์ข้าราชการเบิกได้จ่ายตรงครอบคลุม
00:26:39 → 00:26:42 บ้างบางตัวอืนะครับมันมีกลไกหรือมียาหลาย
00:26:42 → 00:26:44 อย่างซึ่งต้องบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ประเทศ
00:26:44 → 00:26:47 ไทยตามหลังากเมืองนอกอยู่แต่เราก็ไม่ได้
00:26:47 → 00:26:50 ตามหลังแบบตามแบบล้าหลังมากนะครับเราก็
00:26:50 → 00:26:52 ยังมีการพัฒนาเรื่อยๆเรามีศูนยความเป็น
00:26:52 → 00:26:55 เลิศพาร์กินสันของงโรงพยาบาลจุฬาเงี้ยมี
00:26:55 → 00:26:57 อาจารย์ที่แบบเก่งระดับท็อปประเทศอยู่ที่
00:26:57 → 00:26:59 นั่นอย่างเงี้ยครับครับมีสถาบันประสาท
00:26:59 → 00:27:02 วิทยาที่เป็นโรงพยาบาลของรัฐในการดูแลโรค
00:27:02 → 00:27:07 ต่างๆนะครับของที่เกตระบบประสาทอืแล้วก็
00:27:07 → 00:27:10 เอ่อพูดถึงยาไปแล้วเนาะมากกว่านั้นก็จะ
00:27:10 → 00:27:14 เป็นการผ่าตัดลครับากิสันผ่าตัดได้นะครับ
00:27:14 → 00:27:17 มีการลงไม้ลงมือลงมีดกับคนไครมีผ่าตัด
00:27:17 → 00:27:19 ตั้งแต่ฝั่งอิเล็กโทรดเข้าไปในสมอง
00:27:19 → 00:27:21 อิเล็กโทรดคืออิเล็กโทรดคือเหมือนขั้วไฟ
00:27:21 → 00:27:25 ฟ้าครับครับเปิดสมองแล้วก็จิ้มจิ้มฟิล
00:27:25 → 00:27:26 เหมือนเสียบเสียบเหล็กแล้วแล้วใส่ไฟเข้า
00:27:26 → 00:27:29 ไปในสมองอ่ะแล้วก็รอยทุกอย่างไว้ใต้หนัง
00:27:29 → 00:27:31 หัวแล้วก็มีเครื่องอ่ะมาเก็บไว้ที่หน้าอก
00:27:31 → 00:27:33 เหมือนคนใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจอครับแต่
00:27:33 → 00:27:34 อันนี้เคกระตุ้นที่หัวใจเนาะอันเนี้ย
00:27:34 → 00:27:38 กระตุ้นที่สมองแล้วรอยผ่านที่เ่อหนังหัว
00:27:38 → 00:27:42 ร้อยผ่านหนังตรงในคออแล้วก็มาเคื่องมา
00:27:42 → 00:27:45 อยู่ที่หน้าอกนะครับก็จะไว้ปรับจูน
00:27:45 → 00:27:48 อิเล็กโทรดไฟฟ้าอ่าอิเล็กโทรดไฟฟ้าทำให้
00:27:48 → 00:27:51 ที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆตามที่เราปรับไว้
00:27:51 → 00:27:54 ให้คนไข้ลดอาการฝืดเกร็งมันเหมือนแบบดีด
00:27:54 → 00:27:56 นิ้วอ่ะเราเปิดสวิตช์ปิดสวิตช์อย่างงั้น
00:27:56 → 00:27:59 เลยคนไข้เดินไม่ได้อาจจะมาถึงปรับเครื่อง
00:27:59 → 00:28:01 เอาเครื่องเป็นเหมือนแม่เหล็กครับไปจูน
00:28:01 → 00:28:03 กับตัวที่อยู่ที่หน้าอกคนไข้ตึ๊ดปุ๊บคน
00:28:03 → 00:28:05 ไข้ลุกเดินได้เลยโหนี่อารมณ์มันเหมือน
00:28:05 → 00:28:07 กลายเป็นหุ่นยนต์เลยนะพี่หมอแต่ต้องมี
00:28:07 → 00:28:11 ตังค์นะล้านกว่าบาทบวกๆหะโอไเครื่อง
00:28:11 → 00:28:13 เครื่องที่ว่านี้ใช่มั้ยคะการผ่าตัดแล
00:28:13 → 00:28:17 ฝั่งเครื่องล้านกว่าบาทอืคือนอกจากคุณจะึ
00:28:17 → 00:28:20 แพงมากฮะนอกจากคุณจะเป็นพิสันแล้วคุณจะ
00:28:20 → 00:28:24 ต้องถด้วยเป็นคนมีเงินด้วยใช่ด้วยซึ่งผม
00:28:24 → 00:28:26 ต้องบอกว่าสิ่งเหล่านี้เนี่ยเราไม่อยาก
00:28:26 → 00:28:30 ให้ค่าไปถึงจุดนั้นใช่
00:28:30 → 00:28:36 พดยเต็ะสสุอาไม่ได้เต็มในความต้องของคนไข
00:28:36 → 00:28:39 แต่ว่าเหมาะสมในแต่ละบริบทครับแล้วก็นอก
00:28:39 → 00:28:42 จากการผาตัดฝั่งอิเล็กโทรดในหัวแล้วนะฮะ
00:28:42 → 00:28:45 เราก็มีการใช้เครื่องแบบเป็นเข็มจิ้มเข้า
00:28:45 → 00:28:48 ไปที่ผิวหนังเป็นการปล่อยยาโดปามีนเข้าไป
00:28:48 → 00:28:52 แบบเรื่อยๆในเมื่อสมองมันไม่มีแรงหรือมัน
00:28:52 → 00:28:54 ไม่มีความสามารถในการอุ้มหรือพยุงโดปามีน
00:28:55 → 00:28:57 ได้แล้วเนี่ยค่ะเพราะฉะนั้นก็ใช้วิธีการ
00:28:57 → 00:28:59 เข็มจิ้มใต้ผิวหนังแล้วค่อยๆปล่อยทีละ
00:28:59 → 00:29:03 น้อยทีละน้อยเลี้ยงไว้ตลอดเวลาได้ครับนะ
00:29:03 → 00:29:06 ครับมากกว่านั้นอีกอ่ะมีการผ่าตัดแล้วก็
00:29:06 → 00:29:11 ฝังเ่าท่อเข้าไปจ่อตรงลำไส้เล็กฝังท่ออ่า
00:29:11 → 00:29:16 เพื่อที่จะดันยาที่เป็นเจลเข้าไปในลำไส้
00:29:16 → 00:29:19 ไม่ต้องผ่านปากไม่ต้องผ่านกระเพาะฝาก dir
00:29:19 → 00:29:22 ตรงไปที่ลำไส้เลยแล้วค่อยๆปล่อยรีลีสมาที
00:29:22 → 00:29:24 ละน้อยเลี้ยงไปตลอดทั้งวันอเพื่อให้คนไข้
00:29:24 → 00:29:28 มีอาการฝืดเกรงที่นดลงนี่เราพูดกันถจ
00:29:28 → 00:29:30 เพราะอาการฝืดเกร็งนะครับภาษาแพทย์เราจะ
00:29:30 → 00:29:32 เรียกว่าอาการเป็น M symptom คืออาการ
00:29:32 → 00:29:35 ฝืดเกร็งออาการแรกเริ่มด้วยนะอาการฝืด
00:29:35 → 00:29:37 เกร็งหรือการเคลื่อนไหวที่คนอื่นจะทักแต่
00:29:37 → 00:29:41 สิ่งที่คนอื่นเห็นแต่อาจจะไม่ได้ทักคือ
00:29:41 → 00:29:45 ภาวะเรื่องของอารมณ์อารมณ์อารมณ์เพิกเฉย
00:29:45 → 00:29:48 เป็นซึมเศร้าได้นะครับออทำให้เซึมเศร้า
00:29:48 → 00:29:51 ได้ทำให้เวตกกังวลได้ไปส่งผลต่อสารในสมอง
00:29:51 → 00:29:55 ซึนึกถึงสิเราเป็นคนแอคทีฟอ่ะแต่วันนึง
00:29:55 → 00:29:57 สมองเรายังความคิดได้อยู่แต่ร่างกายมัน
00:29:57 → 00:30:00 ไม่แีถีบตามมันเหมือนนกที่โดนขังอยู่ใน
00:30:00 → 00:30:04 กรงอ้อแล้วจะเป็นคนโมโหง่ายด้วยหรือเปล่า
00:30:04 → 00:30:07 ถ้าเป็นภาวะแบบเยภาวะทางอารมณ์เป็นไปได้
00:30:07 → 00:30:11 ครับมีทั้งวิตกกังวลโมโหง่ายโมโหร้ายเอ่อ
00:30:11 → 00:30:15 อะไรอีกล่ะซึมเศร้าก็ได้พูดถึงการนอนนอน
00:30:15 → 00:30:19 ไม่หลับก็ก็ก็เป็นปัญหานอกจากนอนไม่หลับ
00:30:20 → 00:30:24 มีปัญหานอนละเมออีกชบภรรยาอีกตีกันหน้า
00:30:24 → 00:30:29 เขียวอีกนะฮะแล้วก็อะไรอีกนะเอ่อภาวะการ
00:30:29 → 00:30:32 ขับถ่ายอีกท้องผูกอีกท้องผูกบางคนก็ติด
00:30:32 → 00:30:35 สายสวนบางคนต้องกินยาระบายทุกวันอกินยา
00:30:35 → 00:30:37 ระบายหลายขนานสลับผัดเปลี่ยนกันไปเพื่อ
00:30:37 → 00:30:41 ให้มันระบายออกมาได้โหฟังดูแล้วมันดูเป็น
00:30:41 → 00:30:45 โรคที่ผลตามมาเยอะเหมือนกันนะพี่ใช่ฮะเรา
00:30:45 → 00:30:48 เรียกเป็น Multi System คือโดนโดนหลายๆ
00:30:48 → 00:30:52 โรคยังไม่รวมถึงพิสันในระยะที่มันมากกว่า
00:30:52 → 00:30:54 นั้นคือระยะท้ายๆครับฝืดเกรงเป็นท่อนไม้
00:30:55 → 00:30:59 ผมเคยเจอคนไข้นะผมเคยเจอคนไข้ที่ที่มาหา
00:30:59 → 00:31:05 หมอเพราะว่าแขนชาค่าแขนชาแขนชาแขน
00:31:05 → 00:31:09 ชาสุดท้ายแล้วอ่ะเดินเข้ามาปุ๊บมันไม่ใช่
00:31:09 → 00:31:12 แขนชาคนไข้ผิดคนป่ะเนี่ยเออคนไข้เดินเข้า
00:31:12 → 00:31:14 มาคือเดินฝืดมาเลยคือคนไข้เป็นพากินสัน
00:31:14 → 00:31:18 แล้วที่แขนชาเพราะว่านอนท่าไหนตื่นมาท่า
00:31:18 → 00:31:20 นั้นไม่มีการพลิกตัวแล้วมันนอนทับแขนจน
00:31:20 → 00:31:24 แขนชาจนเส้นประสาทโดนกดทับอ่ะปกติเวลาคน
00:31:24 → 00:31:26 เรานอนหลับเราต้องมีการพลิกตัวเป็นเป็น
00:31:26 → 00:31:30 สัญชาตญาณเป็นอปครับแต่คนเป็นีเหมือนท่อน
00:31:30 → 00:31:36 ไม้วางนอนท่าไหนก็ตื่นมาด้วยท่านึงูโอบาง
00:31:36 → 00:31:39 คนมันฝืดถึงขนาดนั้นเลยนะฮะอันนี้คือระยะ
00:31:39 → 00:31:42 ระยะที่มันค่อนข้างจะแอดวานบางคนคิดว่าอ
00:31:42 → 00:31:44 เป็นโรคคนแก่เฉยๆช้าๆอย่างเงี้ยไม่ใช่โรก
00:31:45 → 00:31:49 คนแก่ฮะไม่มีโฟังๆังแล้วดูน่ากลัวนะพี่
00:31:49 → 00:31:51 หมอครับแล้วถ้าเกิดว่าเป็นมากกว่านั้นนะ
00:31:51 → 00:31:55 ฮะเป็นมากกว่านั้นมีภาวะติดเตียงออติด
00:31:55 → 00:31:57 เตียงติดเตียงพอติดเตียงปุ๊บมาครบสูตร
00:31:57 → 00:31:58 แล้วฮะ
00:31:58 → 00:32:02 เบสซอเอ่อแพกกทับครับติดเชื้อปัสสาวะครับ
00:32:02 → 00:32:05 ติดเชื้อในปอดแล้วก็จะสุดท้ายคือติดเชื้อ
00:32:05 → 00:32:07 ในกระแสเลือแล้วก็จะเสียชีวิตได้อ๋อมัน
00:32:07 → 00:32:10 สามารถไปถึงขั้นทำให้เราเสียชีวิตได้ตัว
00:32:10 → 00:32:12 พิสันต้องบอกตามตรงว่าพิสันไม่ทำให้คุณ
00:32:12 → 00:32:14 ตายไม่ได้เป็นเหมือนกับมะเร็งหรือว่า
00:32:14 → 00:32:18 เลือดออกอะไรบางอย่างที่ที่ที่ที่ที่ตาย
00:32:18 → 00:32:21 แต่มันตายจากภาวะแทรกซ้อนเชพากกินสันที่
00:32:21 → 00:32:24 มันแอดวหรือพิสริยะท้ายๆมากๆก็จะมีภาวะ
00:32:24 → 00:32:27 ติดเตียงหรือภาวะติดเชื้อตามมาด้วยโอโห
00:32:27 → 00:32:29 ฟังแล้วดูน่ากลัวน่าโดหูมากครับเดี๋ยว
00:32:29 → 00:32:33 ช่วงนี้เราขอพักสักครู่ก่อนนะเมาเฉลยนะมา
00:32:33 → 00:32:37 เฉลยเพราะมีหลายท่านก็ก็ตอบกันเข้ามาเยอะ
00:32:37 → 00:32:40 เหมือนกันว่าเอ๊ะอ่าขขอทั่วคำถามก่อน
00:32:40 → 00:32:42 เมื่อสักครู่นี้ผมผมจั่วคำถามไว้ว่ามี
00:32:43 → 00:32:45 อยู่สิ่งนึงที่เป็นสิ่งที่หมอไม่แนะนำให้
00:32:45 → 00:32:48 ทำไม่อยากให้ทำเลยแต่สิ่งนั้นน่ะมันช่วย
00:32:48 → 00:32:50 โทคหรือช่วยลดโอกาสการเป็นปารกินสันแต่
00:32:50 → 00:32:53 เติมคุณผู้ฟังไว้นะครับว่าสุดท้ายแล้วหมอ
00:32:53 → 00:32:56 ก็ไม่อยากให้ทำพี่ดรมตอบมาแล้วว่าดื่มวาย
00:32:56 → 00:32:58 อ่าซึ่งก็มีหลายคนเห็นเห็นพร้องต้องกัน
00:32:58 → 00:33:00 กับผมด้วยแสดงว่าเป็นสายองุ่นเหมือนกัน
00:33:00 → 00:33:03 อโอสายองุ่นนะฮะใช่ๆๆอ่ะเดี๋ยวช่วงหน้า
00:33:03 → 00:33:05 เ่อมามาเฉลยฟังเฉลยกับพี่หมอบิคกันนะครับ
00:33:05 → 00:33:07 ครับผมช่วงหน้าครับ
00:33:07 → 00:33:10 ค่ะมาแล้วเดี๋ยวเราจะมาเฉลยกันนะครับสิ่ง
00:33:10 → 00:33:14 ที่มันจะช่วยลดทอนนะครับการเกิดเรื่องของ
00:33:14 → 00:33:16 พิสันใช่มั้ยครับแต่หมอไม่แนะนำนะฮะย้ำ
00:33:16 → 00:33:19 รอบที่ 100 อ่ะมาดูคุณผู้ฟังว่าคุณผู้ฟัง
00:33:19 → 00:33:22 เราจั่วหัวเอ้ยเราทายกันมาอะไรบ้างฮะดรีม
00:33:22 → 00:33:24 คือดื่มวายนะดื่มวายอุ้ยมีคนดื่มวาย
00:33:24 → 00:33:27 เหมือนพี่มด้วยดืวนี่ก็ดื่มวายพี่ปาริชาต
00:33:27 → 00:33:33 ดื่มวายพี่แนนบอฉีดกูต้าเอ่อพี่วิเชียพี่
00:33:33 → 00:33:35 ไม่เป็นไรขอบคุณบอกว่าสูบซิกก้าพี่สูบ
00:33:35 → 00:33:39 ซิกก้าอ่านี่มาทางเจ้าพ่อซะแล้วพวกเราอ่า
00:33:39 → 00:33:42 แล้วก็มีเรื่องของกัญชาครับกัญชาอ่าพี่
00:33:42 → 00:33:46 ขวัญได้รือยังพี่ขวัญเอ่อ 2 ใจระหว่างยา
00:33:46 → 00:33:49 หม้อกับชีสอุ้ยโหนี่ไปทางชีสซะแล้วอ่ะ
00:33:49 → 00:33:51 เดี๋ยวแป๊บนึงยายาหม้อนี่หม้อหม้อแบบหม้อ
00:33:51 → 00:33:52 หม้อแม่นาคหรือหม้อ
00:33:52 → 00:33:56 อะไรคือแบบอารมณ์แบบยาหม้อยาสมุนไพรอะไร
00:33:56 → 00:34:00 อย่างเงี้ยโอยาสมุนไพรต้องอยู่ในทุก
00:34:00 → 00:34:04 ช้อยส์ตอบจอจานกทุกข้อไม่ใช่ใช่ๆๆๆๆแต่
00:34:04 → 00:34:06 ว่าคือด้วยความที่แบบพอพพาร์กินสันอารมณ์
00:34:06 → 00:34:08 ฟิวมันเป็นฝรั่งฝรั่งอะไรอย่างเงี้ยก็เลย
00:34:08 → 00:34:10 นึกถึงชีสหรือเพราะว่าตัวเองอ่ะเป็น
00:34:10 → 00:34:13 ไมเกรนแล้วก็จะมีคำแนะนำนึงที่เหมาะกับ
00:34:13 → 00:34:16 ตัวเองอ่ะเนาะว่าเออถ้ากินชีสเมื่อไหร่
00:34:16 → 00:34:18 เนี่ยอาการไมเกรนมันมาก็เลยอ่ะๆเอาเอามา
00:34:18 → 00:34:22 เชื่อมโยงกันเผื่อเดี๋ยวก่อนนะพี่ขวัเป็น
00:34:22 → 00:34:24 คนที่กินชีสแล้วไมเกรนขึ้นเหรอฮะใช่ค่ะๆ
00:34:24 → 00:34:27 ค่ะโหมันเป็นยังไงพี่ส่วนตัวผมเจอน้อยน
00:34:27 → 00:34:30 มากเลยนะเหรอผมเจอน้อยมากสำหรับคนไทย
00:34:30 → 00:34:34 เพราะว่าเพราะว่าเพราะว่าส่วนใหญ่จะเจอ
00:34:34 → 00:34:38 แบบความร้อนการอดนอนประจำเดือนวันตกไข่
00:34:38 → 00:34:41 แบบเนี้ยไมเกรนจะมาหรือความเครียดแบบ
00:34:41 → 00:34:44 เนี้ยชีนี่แบบน้อยมากถือว่าพี่ขวัญเก่ง
00:34:44 → 00:34:46 มากในการหาตัวเองเจอว่ากินอะไรแล้วเป็น
00:34:47 → 00:34:49 เอออันนี้ดีซึ่งซึ่งอันนี้ต้องชมไวยากนะ
00:34:49 → 00:34:51 ยากคืออย่างน้อยหาเจอแล้วเราก็เลี่ยงได้
00:34:51 → 00:34:54 ไงไม่ใช่แบบไปกินเบหาอยู่นานเหมือนกันนะค
00:34:54 → 00:34:56 หมอบิก็คือเราผิดเราถุงมาเยอะใช่มั้ยฮะ
00:34:56 → 00:35:00 อุยค่ะอก็ลองผิดลองถูกมานับ 10 ปีกว่าจะ
00:35:00 → 00:35:02 เจอว่าออมันเป็นชีสอ่าพี่ขัญพี่ขัญเลือก
00:35:03 → 00:35:05 ว่าชีสแล้วกันนะฮะอ่าค่ะมีคนถูกครับพี่
00:35:05 → 00:35:08 ดรีมเฮ้ยจริงมีคนถูกนะฮะเดี๋ยวๆๆๆๆๆมีคน
00:35:08 → 00:35:11 ถูกนะฮะในนี้เหรอในที่อ่าในนี้ที่เราพูด
00:35:11 → 00:35:15 มามีคนถูกนะฮะวายนี่พี่หมอบิหน้าตาไม่เอา
00:35:15 → 00:35:18 กับผมด้วยเลยน่าจะไม่ใช่กูต้านี่ไม่รู้
00:35:18 → 00:35:22 ซิกก้านี่ไปทางเจ้าพ่อนี่ไม่แน่ใจกัญชาก็
00:35:22 → 00:35:25 น่ามีเออสายเขียวเออสายเขียวก็อาจจะเป็น
00:35:25 → 00:35:28 ไปได้เหมือนกันนะเออนี่มีคนบอกกระโดด
00:35:28 → 00:35:31 บันจี้จั๊มด้วยกระโดดบันจี้จั๊มทำไมฮะ
00:35:31 → 00:35:34 ทำไมคือโอใจคอบันจี้จั๊มคือแบบกระดโจะให้
00:35:34 → 00:35:36 พ่อกับแม่ไปกระโดดบันจี้จัมไม่ได้ล่ะ
00:35:36 → 00:35:38 กระโดดแล้วแบบว่าเชือกหลุดก็คือไม่ทันแก่
00:35:38 → 00:35:41 เป็นากิคือตุยก่อนเป็นอาตุยอะไรครับเนี่ย
00:35:41 → 00:35:45 พี่หมอเอออ่ะเฉลยฮะคือการสูบบุหรี่ครับ
00:35:46 → 00:35:49 เฮ้ยโอ้มีงานวิจัยของต่างประเทศบอกว่าการ
00:35:49 → 00:35:53 สูบบุหรี่เนี่ยลดโอกาสการเป็นพิสันบุหรี่
00:35:53 → 00:35:56 เฉยๆนะครับสมัยนั้นยังไม่มีเรื่องของอิต
00:35:56 → 00:35:58 หรือว่าบุหรี่ไฟฟ้าครับเราไม่รู้นะฮะแต่
00:35:58 → 00:36:00 ว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นบุหรี่หรือ
00:36:00 → 00:36:04 บุหรี่ไฟฟ้าหรือสูบกัญชาสูบกระท่อมสูบยา
00:36:04 → 00:36:06 เส้นสูบอะไร
00:36:06 → 00:36:10 มีซๆก็รู้นแล้วแต่ไม่ดีจากไม่ดีกับปอดและ
00:36:10 → 00:36:13 สมองทั้งนั้นคือในแง่ของสมองเสื่อมคนที่
00:36:13 → 00:36:16 สูบบุหรี่จัดๆสูบสารเสพติดต่างๆเนี่ยสมอง
00:36:16 → 00:36:19 มันเหี่ยวกว่าเหี่ยวกว่าคนที่อายุเท่ากัน
00:36:19 → 00:36:22 จริงๆนะอันเนี้ยผมผมเคยเห็นเคสที่แบบคน
00:36:22 → 00:36:25 ที่กินเหล้าเยอะคนที่สูบบุหรี่หรือใช้
00:36:25 → 00:36:29 หรือเล่นยาครับมาสแกนสมองอ่ะถ้าไม่ถ้าไม่
00:36:29 → 00:36:32 ดูชื่อคนไข้ตรงตคอมพิวเตอร์ครับผมนึกว่า
00:36:32 → 00:36:36 คนเนี้ยอายุประมาณ 50 แต่หน้าคนไข้อ่ะคือ
00:36:36 → 00:36:40 26 ออคนอยู่ 26 สมองสมองมันเหี่ยวไปไกล
00:36:40 → 00:36:45 แล้วเพราะว่ามันผ่านมันผ่านอบมุกมาเยอะ
00:36:45 → 00:36:49 ใช้คำนี้ได้มั้ยคำรวมๆผ่าอบมุกมาเยอะเออ
00:36:49 → 00:36:51 นั่นแหละครับหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของ
00:36:51 → 00:36:53 การสูบบุหรี่อุ๊ยตายะอืยังไม่ตายยังไม่
00:36:53 → 00:36:57 ตายนี่แสดงว่าคนที่เฟังอยู่แล้วก็อาจจะ
00:36:57 → 00:37:00 ชื่นชอบการสูบุหรี่เติดเทอร์โบเลยฮตอนนี้
00:37:00 → 00:37:05 เก็อาจจะมีมีมีข้ออ้างอ่ามีคำแก้ต่างไป
00:37:05 → 00:37:08 พูดว่าเนี่ยที่กูสูบเนี่ยเพราะกูไม่อยาก
00:37:08 → 00:37:11 เป็นากกินสันเว้ยอ๋อก็อาจจะอยู่ไม่ถึง
00:37:11 → 00:37:14 เป็นพากกินสันไงมันเป็นอย่างอื่นได้ออ
00:37:14 → 00:37:19 โอเคอาจจะจบว่าเจอก้อนที่ปอดก่อนอย่างงี้
00:37:19 → 00:37:21 เป็นต้นโอเคโอเคโอคโอนะครับเพราะฉะนั้นผม
00:37:21 → 00:37:24 เลยจหัวไว้เลยว่าอ่ะบอกตามตรงว่าเราไม่
00:37:24 → 00:37:28 ไม่แนะนำอไม่แนะนำไม่แนะนำใช่มยคือถ้ามัน
00:37:28 → 00:37:30 จะช่วยรถได้พี่หมอมันจะช่วยรถกันได้กี่
00:37:30 → 00:37:33 มากน้อยกันเชียวผมจำตัวเลขไม่ได้นะแต่รู้
00:37:33 → 00:37:34 สึกว่าเป็นเป็นเหมือนเป็นเหมือนเอาไว้คำ
00:37:34 → 00:37:38 พูดแบบเออเล่นๆกันน่ะว่านี่สุบบหรี่คือ
00:37:38 → 00:37:41 แบบพากกินสันเหรอแต่ว่าในทางการแพทย์มัน
00:37:41 → 00:37:43 ก็มีเนาะมันก็มีข้อมูลอะไรอย่างเงี้ยเนาะ
00:37:43 → 00:37:47 เออใช่พี่หมอแล้วคือเรื่องของการการรักษา
00:37:47 → 00:37:50 เนี่ยคือนอกจากการทันยาการฝังแล้วเนี่ย
00:37:50 → 00:37:53 มันมีวิธีการอื่นมเรื่องของอาหารการกิน
00:37:53 → 00:37:56 อะไรอย่างเงี้ยมันจะช่วยทำให้เราเนี่ย
00:37:56 → 00:37:58 ห่างไกลจากเรื่องเรื่องของเจ้าพาร์คินสัน
00:37:58 → 00:38:01 ได้มากน้อยขนาดไหนไอ้โดปามีนเนี่ยมันมี
00:38:01 → 00:38:04 อยู่ในพวกอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำ
00:38:04 → 00:38:06 วันด้วยมครับพี่หมอครับเอาเป็นว่าอาหาร
00:38:06 → 00:38:09 สมมุติว่าเป็นพิสันแล้วนะครับอาหารที่ผม
00:38:09 → 00:38:13 แนะนำคงเป็นอาหารที่มีกากใยมากกว่ากากใยค
00:38:13 → 00:38:14 คงไม่ได้ช่วยเรื่องภคินสารใช่ฮะแต่ช่วย
00:38:14 → 00:38:16 เรื่องท้องผูกครับพี่ขวถูกต้องเลยช่วย
00:38:16 → 00:38:19 เรื่องของท้องผูกเพราะว่าอาหารเองต่อให้
00:38:19 → 00:38:23 มีโดปามีนมากขนาดไหนยังไงก็ยังน้อยกว่ายา
00:38:23 → 00:38:27 ที่ให้อ๋อเพราะยาเพราะยามันเป็นสารสกัด
00:38:27 → 00:38:29 ที่มันโดยเียวหรือบริสุทธิ์แล้วแล้วก็ให้
00:38:29 → 00:38:33 ในปริมาณที่ควบคุมได้แต่ขอมาร์คไว้นิดนึง
00:38:33 → 00:38:35 ครับว่าคนที่เป็นพาร์กินสันนะครับหรือใคร
00:38:35 → 00:38:38 ที่ฟังอยู่เป็นพาร์กินสันส่วนนึงเนี่ยอาจ
00:38:38 → 00:38:41 จะได้รับการรักษาโดยที่คุณหมอเป็นคุณหมอ
00:38:41 → 00:38:43 อายุรกรรมหรือไม่ใช่คุณหมอที่เป็นคุณหมอ
00:38:43 → 00:38:46 เฉพาะทางระบบประสาทและสมองยาบางตัวของ
00:38:46 → 00:38:49 ปาริสามีความจำเป็นมากๆต้องกินห่างจาก
00:38:49 → 00:38:53 มื้ออาหารโดยเฉพาะยาในกลุ่มของโดปามีน
00:38:53 → 00:38:56 มาด้าโดป้าสังเกตเม็ดจะเป็นเม็ดเหมือนรูป
00:38:56 → 00:38:59 ดอกไม้คือมันมันมีขีดมันมีแบ่งแบ่ง 4
00:38:59 → 00:39:02 ส่วนได้มันจะเหมือนรูปดอกไม้ครับถ้าเกิด
00:39:02 → 00:39:05 ว่าใครที่กินเป็นหลังอาหารอยู่ผมแนะนำให้
00:39:05 → 00:39:07 ลองคุยกับคุณหมอดูนะครับว่าเอ๊ะใช่ยาตัว
00:39:07 → 00:39:11 นี้หรือเปล่าที่ควรเปลี่ยนเป็นก่อนอาหาร
00:39:11 → 00:39:15 เพราะยาตัวนี้ไม่ควรเจอกับอาหารในในทาง
00:39:15 → 00:39:18 เดินอาหารของเราเพราะว่ายาอาหารมันจะไล่
00:39:18 → 00:39:21 ยาทันและยาจะเสื่อมสภาพเร็วมากอืคือมัน
00:39:21 → 00:39:24 มันจะดูดซึมได้น้อยมากนะครับเพราะฉะนั้น
00:39:24 → 00:39:26 เชื่อว่าตามต่างจังหวัดเอยหรือตามตำรา
00:39:26 → 00:39:29 เก่านะอืบางคนอาจจะได้รับการรักษาแบบตาม
00:39:29 → 00:39:33 ตำราเก่าว่าเป็นหลังอาหารครับทำให้ยาเที่
00:39:33 → 00:39:35 กินอยู่เนี่ยมันเข้าถึงสมองได้น้อยมากอาจ
00:39:35 → 00:39:38 จะไม่ถึง 10% แต่ถ้าเกิดเปลี่ยนมากินเป็น
00:39:38 → 00:39:42 ก่อนอาหารนะครับก่อนอาหารอย่างน้อยครึ่ง
00:39:42 → 00:39:46 ถึง 1 ชมงง่ายๆเลยคือให้ข้าวอ่ะมันไล่ไล่
00:39:46 → 00:39:49 ยาไม่ทันคือให้ยาออกตัวนำไปก่อนน่ะแล้ว
00:39:49 → 00:39:51 ค่อยกินข้าวตามเนี่ยอย่างน้อยครึ่งถึง 1
00:39:51 → 00:39:55 ชมเนี่ยเพอเฟคที่สุดดีที่สุดอเพราะว่ามัน
00:39:55 → 00:39:58 จะไม่รบกวนการดูซึมแล้วก็ต้องกินยากับน้ำ
00:39:58 → 00:40:00 เปล่าไม่กินกับน้ำหวานไม่กินกับนมน้ำ
00:40:00 → 00:40:03 เปล่าเท่านั้นนะครับเพราะฉะนั้นใครที่ฟัง
00:40:03 → 00:40:05 ตรงนี้แล้วมีใครที่บ้านเป็นพิสันหรือกิน
00:40:05 → 00:40:07 ยาอยู่ลองกลับไปดูยานิดนึงว่าเอ้ยเป็น
00:40:07 → 00:40:09 ก่อนอาหารหรือเปล่าถ้าเกิดว่าไม่ใช่ลองนำ
00:40:09 → 00:40:11 ยาไปปรึกษาคุณหมอก่อนนะครับอย่าเพิ่ง
00:40:11 → 00:40:13 เปลี่ยนตามที่ผมแนะนำนะเพราะว่าต้องดู
00:40:13 → 00:40:15 ก่อนว่ายาตัวนั้นเป็นยาที่ที่ผมพูดถึง
00:40:15 → 00:40:18 หรือเปล่าพวกมาด้าวด้าพวกนี้เป็นต้นนะ
00:40:18 → 00:40:20 ครับแต่ที่แน่ๆคือถ้าเป็น Parkinson
00:40:20 → 00:40:23 เนี่ยสิ่งที่พี่หมอบิคแนะนำก็คือควรจะ
00:40:23 → 00:40:27 ต้องไปหาหมอเฉพาะทางอ่าก็ถือว่าถือว่าเจอ
00:40:27 → 00:40:29 เร็วได้รับการวินิจฉัยที่เร็วแล้วก็ได้
00:40:29 → 00:40:32 รับคำแนะนำที่เป็นเฉพาะบุคคลครับเพราะแต่
00:40:32 → 00:40:34 ละคนอาจจะมีปัญหาไม่เหมือนกันคุณไม่
00:40:34 → 00:40:37 จำเป็นว่าจะต้องมีจมูกไม่ได้กลิ่นท้องผูก
00:40:37 → 00:40:41 หรือว่าเอ่อมือสั่นหรือว่านอนฝันร้ายซะที
00:40:41 → 00:40:44 เดียวครับอาจจะต้องอาจจะมีมีมีไม่ได้ครบ
00:40:44 → 00:40:47 ทุกอาการนะครับแล้วก็สิ่งนึงที่อยากจะฝาก
00:40:47 → 00:40:50 ไว้เลยคือผมเข้าใจว่าบางบ้านน่ะเป็นคือ
00:40:50 → 00:40:53 เราสังคมสังคมครอบครัวมันเล็กลงเนาะทุกคน
00:40:53 → 00:40:55 ออกไปทำงานกันหมดขนาดครอบครัวเล็กลงเพราะ
00:40:55 → 00:40:58 ฉะนั้นอาจจะไม่มีคนที่ที่ดูแลผู้สูงอายุ
00:40:58 → 00:41:02 นะครับก็จะมีศูนย์เนาะหรือว่ามีโรงพยาบาล
00:41:02 → 00:41:06 ที่สามารถที่จะเอ่อมาช่วยดูแลในผู้สูง
00:41:06 → 00:41:10 อายุตรงนี้ได้ก็ต้องเลือกที่มีทั้งกายภาพ
00:41:10 → 00:41:13 มีการดูแลอาหารมีขคอยมอนิเตอร์อาจจะหมอ
00:41:13 → 00:41:15 อาจจะมาเข่าทุกวันก็ได้เข่าอาทิตย์ละ
00:41:15 → 00:41:17 ครั้ง 2 ครั้งเพื่อที่จะติดตามหรือว่าดู
00:41:17 → 00:41:20 อาการคนไข้เหล่านี้ได้อืก็ก็มีช้อยส์ให้
00:41:21 → 00:41:25 เลือกค่ะแต่พี่ขอความรู้นิดนึงค่ะหมอบิ้ว
00:41:25 → 00:41:27 ว่าในกรณีที่บางครอบครัวอาจจะไม่ได้มี
00:41:27 → 00:41:30 ทุนทรัพย์ที่จะส่งไปสถานพยาบาลเหล่าเนี้ย
00:41:30 → 00:41:33 ค่ะแต่ว่าคือลูกหลานอาจจะดูแลคนไข้เอง
00:41:33 → 00:41:36 เนี่ยเควรจะดูแลอย่างไรบ้างเงี้ยค่ะอย่าง
00:41:36 → 00:41:40 แรกเลยครับเรื่องของยายาก็ต้องกินยาให้
00:41:40 → 00:41:43 ตรงตามมื้ออาหารเวลาของยาอาจจะแปลกๆกว่า
00:41:43 → 00:41:45 กว่าโรคอื่นๆนิดนึงไม่ได้แบบก่อนอาหารแบบ
00:41:45 → 00:41:48 กินก่อนอาหารปุ๊บกินข้าวตามหรือกินข้าว
00:41:48 → 00:41:52 เสร็จกินหลังอาหารทันทีไม่ใช่อาจจะแบ่งใน
00:41:52 → 00:41:55 ระยะเริ่มต้นจะแบ่งตามมื้ออาหารก่อนถ้าใน
00:41:55 → 00:41:57 ระยะที่แวาหรือโรคที่มันยากขึ้นนะครับ
00:41:57 → 00:42:01 ครับเราจะแบ่งเป็นช่วงเวลาหมออาจจะต้อง
00:42:01 → 00:42:03 บังคับหรือปรับเวลาการกินของคนไข้ด้วย
00:42:03 → 00:42:05 เพราะฉะนั้นต้องมีคนกำกับอยู่แลเรื่องยา
00:42:05 → 00:42:09 อย่างอย่างเข้มงวดนิดนึงอ่าอาจจะเข้มงวด
00:42:09 → 00:42:11 กว่ากว่าโรคอื่นนิดนึงครับการดูแลเรื่อง
00:42:11 → 00:42:15 ของภาวะทางอารมณ์อารมณ์เขาจะเพิกเฉยเขาจะ
00:42:15 → 00:42:18 นิ่งเฉยนะฮหรือบางคนเนี่ยเ่อต้องพาไปทำ
00:42:18 → 00:42:21 กิจกรรมกลุ่มเพื่อให้มีมีวุฒิภาวะทาง
00:42:21 → 00:42:24 อารมณ์ที่ดีนะครับการทำกายภาพบำบัดเพราะ
00:42:24 → 00:42:27 ร่างกายมันฝืดเกร็งเก็ไม่ค่อยอยากเดไม่
00:42:27 → 00:42:30 ค่อยอยากขยับครก็จะตัวรีบกลายเป็นท่อนไม้
00:42:30 → 00:42:33 ไปแบบนี้เป็นต้นนะครับก็ต้องช่วยกันดูแล
00:42:33 → 00:42:35 แต่สำรสำหรับว่าอ่ะถ้าเกิดคนไหนมี
00:42:35 → 00:42:38 ทุนทรัพย์หน่อยแล้วไม่สะดวกก็มีศูนย์หรือ
00:42:38 → 00:42:41 มีโรงพยาบาลที่จะฝากเลี้ยงหรือเป็นดูแล
00:42:41 → 00:42:43 หรือว่าอยู่ด้วยแล้วก็มีญาติอยู่ตรงนั้น
00:42:43 → 00:42:46 ด้วยแต่แล้วก็มีหมอมีพยาบาลมอนิเตอร์ให้
00:42:46 → 00:42:49 หรือการดูแลก็แบบนี้ก็ทำได้ก็จะเป็นการ
00:42:49 → 00:42:52 แบ่งเบาภาระเนาะลูกหลานไปทำงานหาเงินเอา
00:42:52 → 00:42:55 มาซัพพอร์ตตรงนี้แต่ซัพพอร์ตในจุดที่แบบ
00:42:55 → 00:42:59 ครบวงจรก็อ่ะคุ้มหน่อยมีคนช่วยดูแลให้แต่
00:42:59 → 00:43:02 ว่าก็ต้องใช้พอสมควรเหมือนกันใช้พอสมควร
00:43:02 → 00:43:05 ครับอย่างอย่างอย่างที่ผมอยู่ที่โรง
00:43:05 → 00:43:08 พยาบาลวิมุติมันก็มีแพ็คเกจที่ที่ขายเป็น
00:43:08 → 00:43:11 สัปดาห์ในการดูแลอย่าเงี้ยแล้วก็มีญาติมา
00:43:11 → 00:43:15 เฝ้า 1 คนมีพยาบาลดูจัดยามีอาหารมีกายภาพ
00:43:15 → 00:43:17 มีหมอเข้าเยี่ยมอาทิตย์ละครั้ง 2 ครั้ง
00:43:18 → 00:43:20 แล้วแต่แพ็คเกจซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวก
00:43:20 → 00:43:23 ครับหรือบางคนก็จะอยู่สูตรผู้สูงอายุก็
00:43:23 → 00:43:25 ได้อืเพราะว่าก็ต้องบอกว่าปัจจุบันสังคม
00:43:25 → 00:43:28 ผู้สูงอายุเยอะขึ้นครับแล้วก็คนที่เป็น
00:43:28 → 00:43:31 ผู้สูงอายุก็เยอะขึ้นเหมือนกันบางคนก็แบบ
00:43:31 → 00:43:34 อ่ะรีบทำงานเก็บเงินเดี๋ยวเอาไว้รักษาตัว
00:43:34 → 00:43:37 เองผอายุเยอะขึ้นโอ้มันมันดูฟังฟังดูดูหด
00:43:37 → 00:43:40 หูเหรอเออมันดูหดหูเอนะตอนเผมต้องบอกว่า
00:43:40 → 00:43:43 เราไม่มีทางรู้หรอกว่าคนวัยทำงานอย่างพวก
00:43:43 → 00:43:45 เราเนี่ยอนาคตจะเป็นภาคิสรือเปล่าใช่มัน
00:43:45 → 00:43:47 จะเป็นอย่างอื่นรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะ
00:43:47 → 00:43:50 ฉะนั้นเราทำสิ่งที่ดีเข้าตัวไว้ก่อนกิน
00:43:50 → 00:43:53 ร้อนช้อนกลางรลักมือสุขสดสะอาดได้มาตรฐาน
00:43:53 → 00:43:56 ออกกำลังกายสม่ำเสมอด็กเรียกอบายมุขโอ้โห
00:43:56 → 00:44:01 ครสิ่งที่ที่ถูกปลูกฝังถูกสอนถูกบอกกันมา
00:44:01 → 00:44:04 ตั้งแต่อ้อนแต่อ่อนนะมันก็ยังใช้ได้อยู่
00:44:04 → 00:44:06 จนถึงมันก็ยังใช้ได้ครับก็คือเลือกแต่
00:44:06 → 00:44:08 สิ่งที่ดีเข้าตัวแล้วก็หลีกเลี่ยงสิ่งที่
00:44:08 → 00:44:12 ไม่ดีออกไปเออส่วนสุดท้ายแล้วอนาคตมันจะ
00:44:12 → 00:44:14 เป็นหรือเปล่าบางอย่างเราก็ไม่รู้แต่เรา
00:44:14 → 00:44:17 แต่เรารู้ว่าถ้าเกิดณตอนเเราทำไม่ดีอ่ะ
00:44:17 → 00:44:19 อนาคตที่เป็นถ้ามันไม่ดีนะมันน่าจะหนัก
00:44:19 → 00:44:22 กว่านั้นอีกอ่ะมันน่าจะแย่กว่านั้นีเออ
00:44:22 → 00:44:25 เงินที่เราหากันมาทั้งหมดทั้งชีวิตมันก็
00:44:25 → 00:44:27 เลยต้องเอามาแทนที่จะเอามาสบาลในช่วงบ้าน
00:44:27 → 00:44:29 ปลายก็ต้องเอามารักษาตัวเองอะไรอย่างงี้
00:44:29 → 00:44:31 ใช่มั้พี่หมอใช่ครับก็ต้องเอามาใช้ในการ
00:44:31 → 00:44:34 รักษาสรุปสุดท้ายคือโรคนี้เนี่ยรักษาไม่
00:44:34 → 00:44:40 หายไม่หายแต่ว่าการรักษาสามารถที่จะชะลอ
00:44:40 → 00:44:44 ความเสื่อมของพิสันสามารถที่จะเอ่อเพิ่ม
00:44:44 → 00:44:47 คณแก้ไขหรือปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
00:44:47 → 00:44:52 ได้อืดีกว่าพี่หมอขอพี่หมอช่วยช่วยแจ้ง
00:44:52 → 00:44:55 คุณผู้ฟังอีกสักรอบนึงได้มั้ยว่าทนสำคัญ
00:44:55 → 00:44:57 หรือว่าสัญญาณสำคัญอะไรที่เราควรจะต้องไป
00:44:57 → 00:45:00 พบแพทย์ได้และเพื่อที่จะให้แพทย์วินิจฉัย
00:45:00 → 00:45:02 ว่าเราอาจจะมีความเสี่ยงแล้วนะกับการเป็น
00:45:02 → 00:45:05 พาร์คินสันครับอ่ามีตั้งแต่เรื่องของเอา
00:45:05 → 00:45:07 แบบที่เห็นเริ่มเห็นชัดเจนนะครับส่วนใหญ่
00:45:07 → 00:45:10 ก็จะเห็นเรื่องของอาการมือสั่นสั่นเกร็ง
00:45:10 → 00:45:13 สั่นนะฮะแล้วก็เดินเกร็งๆเดินฝึดฝืดเดิน
00:45:13 → 00:45:15 ติดๆทรงตัวไม่ค่อยดีอันนี้ถือว่าเป็นแล้ว
00:45:15 → 00:45:17 ใช่มั้อันนี้ถือว่าเป็นแล้วแล้วมักจะเป็น
00:45:17 → 00:45:22 อาการที่มักจะพากันหอบหิ้วกันมาหามหอๆมือ
00:45:22 → 00:45:24 สั่นเนี่ยสิ่งที่จริงๆผมลืมพูดไปว่ามือ
00:45:24 → 00:45:28 สั่นมันจะมีคำภาษาไทยมันจะสั่นแบบอย่าง
00:45:28 → 00:45:32 เงี้ฮะทำทำให้ดูหน้ากล้องนะฮะออแบบเนี้ย
00:45:32 → 00:45:34 มือมันจะสั่นข้างเดียวนะไม่ได้สั่น 2
00:45:34 → 00:45:36 ข้างนะากิสันเวลาเป็นมันจะเป็นทีละข้าง
00:45:36 → 00:45:38 เป็นเบอร์ 1 ก่อนแล้วค่อยเป็นเบอร์ 2 คือ
00:45:38 → 00:45:41 เป็นข้างเดียวก่อนซีกเดียวก่อนอุสั่นแบบ
00:45:41 → 00:45:45 นี้มันเหมือนกับาปั้นยาลูกกลอนอ๋อภาษา
00:45:45 → 00:45:47 อังกฤษคือ PE Rolling PE ก็คือเม็ดยา
00:45:47 → 00:45:51 Rolling ก็คือหมุนก็คือหมุนปั้นเม็ดยาก็
00:45:51 → 00:45:53 เหมือนเราเรากำลังแบบเหมือนดิคล้ายๆคล้าย
00:45:53 → 00:45:56 ๆดิดนิ้วแต่ว่าเป็นการถูไปถูมาสั่นมัน
00:45:56 → 00:45:59 เป็นักแบบนี้อนะฮะ่ะอ่านี่คือลักษณะของ
00:45:59 → 00:46:01 ประการมือสันที่แบบเอ้ยพาร์กินสันหรือ
00:46:01 → 00:46:03 เปล่านะครับอการเขียนหนังสือครับเขียน
00:46:04 → 00:46:06 หนังสือเนี่ยเขียนไปเรื่อยๆหัวประโยคกับ
00:46:06 → 00:46:09 ท้ายประโยคอ่ะตัวมันจะค่อยๆตีบเล็กลงเล็ก
00:46:09 → 00:46:13 ลงเล็กลงเล็กลงคือจากใหญ่แล้วมันค่อยๆฝืด
00:46:13 → 00:46:16 ย่อลงย่อลงย่อลงนี่คือเรื่องของการเขียน
00:46:16 → 00:46:19 การออกเสียงมฮะคุยไปคุยมาเสียงมันก็เหลือ
00:46:19 → 00:46:22 ตะบุ๊บตะมิบเบาลงเบาลงเสียงจากดังฟังชัด
00:46:22 → 00:46:26 มันก็จะค่อยๆแผ่วลงแผ่วลงช้าๆนะครับค่ะสิ
00:46:26 → 00:46:29 หน้าก็จะจะนิ่งๆไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมอการ
00:46:29 → 00:46:33 เดินก็จะก้าวออกเ่อออกตัวยากหยุดได้ลำบาก
00:46:33 → 00:46:36 นะครับการได้กลิ่นลดลงท้องผูกการนอนมี
00:46:36 → 00:46:40 ปัญหาอหรือว่ามีการตีอกชกลมระหว่างการนอน
00:46:40 → 00:46:43 หลับแบบนี้เป็นต้นนะครับออืออันนี้คือคือ
00:46:43 → 00:46:46 คือถ้าเป็นแล้วแล้วก่อนก่อนที่จะเป็น
00:46:46 → 00:46:49 สัญญาณก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่การเป็นโรค
00:46:49 → 00:46:52 เนี่ยก็คืออย่างที่พี่หมอบอกไว้ไว้ก่อน
00:46:52 → 00:46:54 อันนี้ก็คือเรื่องมุกไม่ได้กรีนอ่าท้อง
00:46:54 → 00:46:58 ผูกฮะแล้วก็เรื่องของนอนร้ายอันนี้คือ
00:46:58 → 00:47:00 ก่อนที่จะเป็นนะร้าก่อนที่ก่อนก่อนก่อน
00:47:00 → 00:47:02 ที่จะถูกวินิจฉัยว่าเป็นถูกวินิจฉัยว่า
00:47:02 → 00:47:05 เป็นมักมักจะใช้คำว่ามักจะนะฮะต้องฟังดี
00:47:05 → 00:47:08 นะฮะมักจะคืออาจจะเฉยๆไม่ได้เป็นทุกคนมัก
00:47:08 → 00:47:12 จะมีอาการเหล่านี้พบได้นั่นเองครับอค่ะ
00:47:12 → 00:47:15 เอ๊ะคุณหมอคะถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เป็น
00:47:15 → 00:47:18 พาร์คินสันลูกหมายถึงว่าจะเป็นพาร์กินสัน
00:47:18 → 00:47:21 ได้มั้ยไม่มีพันธุกรรมเกี่ยวเนื่องแค่ไหน
00:47:21 → 00:47:23 คะอ๋อโอเคครับตรงนี้พันธุกรรมเองเป็นส่วน
00:47:23 → 00:47:25 ที่ค่อนข้างจะน้อยเพราะพาร์กินสันโดยโดย
00:47:25 → 00:47:27 สาเหตุที่แท้จริงเรารู้ว่ามันเป็นการ
00:47:28 → 00:47:29 เสื่อมของเซลล์ที่มันผลิตหรือสร้าง
00:47:29 → 00:47:32 โดปามีนครับแล้วสาเหตุของการที่มันเสื่อม
00:47:32 → 00:47:34 ล่ะทางการแพทย์ก็หงายการ์ดเลยครับ
00:47:34 → 00:47:37 ปัจจุบันยยังไม่ทราบสาเหตุครับอครับอือ
00:47:37 → 00:47:39 ตอบได้แค่นี้เลยอ๋อยกเว้นว่ากลุ่มกลุ่มคน
00:47:39 → 00:47:41 อื่นที่มีสาเหตุชัดเจนเช่นอ่ะนักมวยอย่าง
00:47:41 → 00:47:44 เงี้ยมีการกระทบกระแทกโดนสารเคมีกลุ่มของ
00:47:44 → 00:47:47 ยาฆ่าแมลงหรือว่ากินยาบางตัวอ้อมีอันนึง
00:47:47 → 00:47:49 อยากฝากไว้ครับบางคนเนี่ยมีปัญหาเรื่อง
00:47:49 → 00:47:52 เวียนหัวแล้วก็ชอบไปซื้อยาที่ร้านยาครับ
00:47:52 → 00:47:55 อ่าหรือว่าไปกินยาของคนข้างบ้านเกินแล้ว
00:47:55 → 00:47:59 ว่าดีอๆแล้วก็เอามาให้เออมันดีมันหายกิน
00:47:59 → 00:48:03 ตัวนี้สิอเปิดมาอืมโอเคมันเป็นยาแก้เวร
00:48:03 → 00:48:06 หัวครับแต่ว่ายาแก้เวรหัวบางชนิดเนาะโดย
00:48:06 → 00:48:10 เฉพาะตัวที่มันเป็นแคปซูลสีเทาแดงครับไม่
00:48:10 → 00:48:13 แนะนำให้กินระยะยาวในผู้ที่อายุเยอะแต่
00:48:13 → 00:48:17 แบบสัก 50 60 ปีขึ้นไปแแคปซูลสีเทาแดงสี
00:48:17 → 00:48:20 เทาแดงออ่ะบอกไว้ประมาณนี้แคปซูลสีเทาแดง
00:48:21 → 00:48:24 ยาแก้เวียนหัวกินก่อนนอนถ้าเกิดว่าคุณ
00:48:24 → 00:48:27 อายุแบบ 50 - 60 ปีขึ้นไปต้องกินระยะ
00:48:27 → 00:48:30 สั้นในหลักแบบสัปดาห์พอแต่ที่สำคัญเลย
00:48:30 → 00:48:33 ครับถ้าเกิดจ่ายออกจากหมอสมองหมอสมองจะ
00:48:33 → 00:48:35 บอกว่าอันนี้หมอตั้งใจให้กินระยะสั้นนะ
00:48:35 → 00:48:37 อย่าไปหาซื้อเพิ่มเพราะหมอตั้งใจให้แค่
00:48:37 → 00:48:41 นี้เพราะยาตัวนี้ครับมันสามารถไปกระตุ้น
00:48:41 → 00:48:44 หรือทำให้คนที่คิดว่าอนาคตจะเป็นปากินสัน
00:48:44 → 00:48:48 น่ะอ่ะงั้นไปเลยตอนนี้ถ้ากินยาวเป็นเลย
00:48:48 → 00:48:52 หรือมีอาการหลอกหรือคล้ายภากีสาได้อ๋อ
00:48:52 → 00:48:54 ต้องพาอย่ามีความรู้ความเข้าใจก่อนจะจบ
00:48:54 → 00:48:59 รายการมีคำถามจากคุณผู้ฟังทางบ้านมาเลย
00:48:59 → 00:49:04 ครับทบบว่าหลับไปพมกมือือแล้วก็ทกวืสประณ
00:49:04 → 00:49:07 10 จะมีผลต่อระบบสมองด้านใดบ้างคะตอนนี้
00:49:07 → 00:49:11 อายุ 73 ปีแล้วพี่หมอโเดี๋ยวก่อนนะ 73 ปี
00:49:11 → 00:49:16 ใช้มือถือถือว่าผมถือว่าถือว่าแอยู่นะ 73
00:49:16 → 00:49:18 สุดยอดอย่างนึงผมต้องบอกก่อนครับว่าผู้
00:49:18 → 00:49:21 สูงอายุครับธรรมชาติของผู้สูงอายุคือเขา
00:49:21 → 00:49:24 ต้องการเวลาการพักผ่อนน้อยลงอซึ่งมันขัด
00:49:24 → 00:49:27 กับกำลังวังชาของร่างกายเกำลังาวางชาร่าง
00:49:27 → 00:49:29 กายมันทำอะไรไม่ได้แล้วอ่ะมันทำอะไรได้
00:49:29 → 00:49:32 ไม่เยอะแต่ว่าค่ะทำไมให้ฉันนอนนอนแค่นี้
00:49:32 → 00:49:35 บางคนนอน 4 ช่มคืออิ่มแล้วอือเพราะว่าแบต
00:49:35 → 00:49:37 มันเต็มที่ 4 ชมนะครับเพราะฉะนั้นผู้สูง
00:49:37 → 00:49:39 อายุแนะนำให้นอนดึกหน่อยแล้วก็ตื่นเช้า
00:49:39 → 00:49:42 หน่อยจะพอดีออแต่นี่คือตื่น 10:00 นส่วน
00:49:42 → 00:49:44 อันนี้ไม่เป็นไรฮะถ้าเกิดว่านอนเพียงพอ
00:49:44 → 00:49:46 และสม่ำเสมอเรื่องของระยะเวลาตื่นอันนี้
00:49:46 → 00:49:49 ขึ้นอยู่กับตารางเวลาชีวิตของแต่ละคนอ
00:49:49 → 00:49:52 ครับๆถ้าเกิดนอนดึกแต่ตื่นสายนอนเพียงพอ
00:49:52 → 00:49:54 ไม่เป็นปัญหาครับแต่การที่ดูโทรศัพท์มือ
00:49:54 → 00:49:57 ถือก่อนนอนเนี่ยมันเหมือนกับเอาเอาไฟฉาย
00:49:57 → 00:50:00 หรือเอาพระอาทิตย์มาส่องตาออจะทำให้เวลา
00:50:00 → 00:50:03 ที่คุณตัดสินใจเอเคถึงเวลานอนละมันจะ
00:50:03 → 00:50:07 เริ่มหลับยากอ๋อมันจะข่มตาหลับยากเพราะ
00:50:07 → 00:50:10 ว่าตาเพิ่งได้รับแสงหรือรังสีมาซึ่งสมอง
00:50:10 → 00:50:14 เราก็จะรู้ว่าอ้ามีแสงหรอออกพระอาทิตย์
00:50:14 → 00:50:17 ขึ้นออกหากินอ่าจริงๆคือพระอาทิตย์คือมือ
00:50:17 → 00:50:19 ถือส่องตาเราอยู่แบบนี้ครับอเพราะฉะนั้น
00:50:19 → 00:50:22 ก็สบายใจกันได้นะครับก็วันนี้ต้องขอบคุณ
00:50:22 → 00:50:24 พี่หมอมากๆเลยนะครับที่กลาหมดเร็วมากเลย
00:50:24 → 00:50:26 อ่ะใช่มาให้ความรู้กับเรานะครับในเรื่อง
00:50:27 → 00:50:29 ของพิสันในรายการสุขภาพดี 2 นวันนี้ต้อง
00:50:29 → 00:50:31 ขอกราบขอบพระคุณพี่หมอมากๆนะครับขอบคุณนะ
00:50:31 → 00:50:35 ฮะฝากไว้ด้วยมีโอกาสหน้าจะเชิญมาอีกนะได้
00:50:35 → 00:50:37 ครับวันนี้มาในนามของโรงพยาบาลวิมุตินะ
00:50:37 → 00:50:40 ครับอยู่ที่ผลโยทินแถวๆสะพานขวายนะครับ
00:50:40 → 00:50:42 ใครอยากจะไปหาพี่หมอไปทักทายนะไม่ต้องถึง
00:50:42 → 00:50:45 ขั้นป่วยนะไม่ต้องไปหาพี่พี่หมอโรคอื่น
00:50:45 → 00:50:47 ทางระบบประสาทก็รักษาได้ไม่ได้เป็นฟัง
00:50:47 → 00:50:50 อย่างเดียวปวดหัวเวียนหัวลมชักอันหน้า
00:50:50 → 00:50:52 เบี้ยวหน้ากระตุกไปไปเจอกันได้ไปหาพี่หมอ
00:50:52 → 00:50:55 ได้ที่โรงพยาบาลวิมุตนะครับผมอ่ะค่ำคืน
00:50:55 → 00:50:57 นี้เหมือดเวลาของสุขภาพดี 22:00 นแล้วพี่
00:50:57 → 00:51:00 ขวัญพี่หมอบิและผมดรีมลากันไปก่อนฝันดี
00:51:00 → 00:51:06 ทุกท่านสวัสดีนะครับสวัสดีค่ะสวัสดีครับ