00:00:00 → 00:00:03 สำหรับวันนี้นะคะก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่
00:00:03 → 00:00:07 ผู้หญิงหลายคนประสบพบเจอปัญหานี้แล้วเรา
00:00:07 → 00:00:09 ก็จะได้พูดคุยกับคุณหมอพูนศักดิ์
00:00:09 → 00:00:14 สุชนวณิชนะคะเป็นสูตินรีแพทย์ที่ประจำราย
00:00:14 → 00:00:16 การของเราในวันพฤหัสบดีสวัสดีค่ะคุณหมอ
00:00:16 → 00:00:20 ต้นคะสวัสดีครับสวัสดีครับสวัสดีคุณขวัญ
00:00:20 → 00:00:23 คุณโอ๊คนะครับก็พบกันเป็น
00:00:23 → 00:00:27 เอ่อต่อไปจากนี้จะเป็นประจำค่ะหมอต้นอัน
00:00:27 → 00:00:30 แรกของเดือนมีนาคมนะครับค่ะค่ะสำหรับ
00:00:30 → 00:00:35 ประจำเดือนเนี่ยผู้หญิงหลายคนก็ปวดมากจน
00:00:35 → 00:00:38 แบบต้องลางานกระทบกระเทือนชีวิตอย่าง
00:00:38 → 00:00:41 เงี้ยค่ะหมอต้นบางคนก็ปวดน้อยเอ๊ะทำไมบาง
00:00:41 → 00:00:45 คนปวดมากปวดน้อยไม่เท่ากันแล้วปวดมากแค่
00:00:45 → 00:00:48 ไหนถึงจะรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวด
00:00:48 → 00:00:51 หรือต้องอดทนแค่ไหนสำหรับผู้หญิงหลายคนอด
00:00:51 → 00:00:56 ทนมากเลยนะคะหมอต้นครับก็เรื่องกวดประจำ
00:00:56 → 00:00:59 เดือนเนี่ยนะครับจะว่ามันเป็นเรื่องปกติต
00:00:59 → 00:01:03 ธรรมชาติมันก็ใช่นะครับแต่ว่าเดี๋ยวฟัง
00:01:03 → 00:01:05 รายการนี้ไปจนตลอดนะครับคุณผู้ฟังก็จะพบ
00:01:05 → 00:01:10 ว่าเอ่อบางครั้งมันก็มีอันสิ่งที่เป็นโรค
00:01:10 → 00:01:13 หรือภาวะแทรกซ้อนต่อสุขภาพเนี่ยที่ซ่อนมา
00:01:13 → 00:01:15 กับอาการปวดประจำเดินได้เหมือนกันค่ะ
00:01:16 → 00:01:17 เพราะฉะนั้นเราอาจจะไม่ได้มองมันเป็นแบบ
00:01:17 → 00:01:20 เรื่องเอ๊ะธรรมชาติออวันนี้เราปวดก็ทนเอา
00:01:20 → 00:01:23 เดี๋ยวไม่กี่วันประจำเดือนหมดก็จบคแต่ว่า
00:01:23 → 00:01:25 หากเราไม่รู้จักสังเกตนะครับแล้วก็ไม่
00:01:25 → 00:01:27 เข้าใจว่าอาการปวดเนี้ยมันมีความสัมพันธ์
00:01:27 → 00:01:30 ยังไงเนี่ยบางครั้งเราอาจจะพลาดในการตรวจ
00:01:30 → 00:01:32 วินิจฉัยโรคที่สำคัญแล้วก็อาจจะนำไปสู่
00:01:32 → 00:01:35 อันตรายต่อสุขภาพได้นะครับเพราะฉะนั้นก็ 1
00:01:35 → 00:01:38 ชั่วโมงวันนี้ก็จะมาติดตามกันดูกันนะครับ
00:01:39 → 00:01:41 สำหรับคำถามที่คุณขวัญถามมาว่าเอ๊ปวด
00:01:41 → 00:01:43 ประจำเดือนเนี่ยมันปวดมากปวดน้อยอะไรยัง
00:01:43 → 00:01:46 ไงเราจะทำยังไงดีจะต้องทานยาดีหรือ
00:01:46 → 00:01:49 ปฏิบัติตัวยังไงนะครับย้อนมาที่อันแรก
00:01:49 → 00:01:53 ก่อนเลยการปวดเนี่ยนะครับปวดเวลาเราพูด
00:01:53 → 00:01:55 ถึงปวดประจำเดือนเนี่ยแน่นอนครับอันนี้
00:01:55 → 00:01:58 เราพูดถึงการปวดในช่องท้องนะครับครับ
00:01:58 → 00:02:00 เพราะฉะนั้นอาการปวดในช่องท้องเนี่ยนะ
00:02:00 → 00:02:03 ครับเอ่อปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเอ่อระบบ
00:02:03 → 00:02:06 การปวดเนี่ยมันอาจจะเป็นการปวดที่สมมุติ
00:02:06 → 00:02:09 ถ้าเราแยกเนี่ยนะครับอ่าว่ามันมีการสัคัญ
00:02:09 → 00:02:11 กับรอบประจำเดือนหรือไม่เนี่ยนะครับก็คือ
00:02:11 → 00:02:14 ถ้าเราปวดพร้อมๆกับช่วงที่มีประจำเดือน
00:02:14 → 00:02:16 เนี่ยนะครับก็อย่างที่เราบอกก็เรียกว่า
00:02:16 → 00:02:19 ปวดประจำเดือนซึ่งปวดประจำเดือนจริงๆ
00:02:19 → 00:02:21 เนี่ยถ้ามองในทางการแพทย์เนี่ยเราก็แบ่ง
00:02:21 → 00:02:25 เป็นปวดประจำเดือนแบบปฐมภูมินะครับหรือ
00:02:25 → 00:02:28 ทุติยภูมินะครับอ้าฟังฟังเอาให้มันงงเข้า
00:02:28 → 00:02:31 ไปอีกนะฮะคือปวดแบบปฐมภูมภูมิก็คือมัน
00:02:31 → 00:02:33 เป็นการปวดที่พื้นฐานนะฮะอาจจะอาจะเป็น
00:02:33 → 00:02:36 เรื่องธรรมชาติที่ติดกันกับตัวเรานะครับ
00:02:36 → 00:02:38 แต่ปวดแบบทุติยภูมิเดี๋ยวเราจะมาลงราย
00:02:38 → 00:02:41 ละเอียดกันอันนี้จะเป็นการปวดที่อาจจะมี
00:02:41 → 00:02:43 ภาวะของโรคต่างๆที่มาแทรกซ้อนก็ได้นะครับ
00:02:43 → 00:02:45 เพียงแต่ว่าลักษณะอย่างเงี้ยเราก็จะเรียก
00:02:45 → 00:02:47 ว่าเป็นการตรวจที่สัมพันธ์กับรอบประจำ
00:02:47 → 00:02:49 เดือนคือก็จะมาพร้อมๆกับช่วงที่มีประจำ
00:02:49 → 00:02:52 เดือนเพราะฉะนั้นเวลาพ้นจากช่วงประจำ
00:02:52 → 00:02:56 เดือนไปอ่ะอาการปวดก็จะหายไปไงอืนะครับ
00:02:56 → 00:02:59 เราถึงได้เรียกว่าปวดประจำเดือนอาการปวด
00:02:59 → 00:03:01 ในกลุ่มที่ 2 เนี่ยนะครับจะเป็นการปวดอัน
00:03:01 → 00:03:03 นี้เราพูดถึงการปวดที่สัมพันธ์กับรอบ
00:03:03 → 00:03:06 ประจำเดือนนะครับกลุ่มที่ 2 เนี่ยจะเป็น
00:03:06 → 00:03:09 การปวดในช่วงกลางรอบประจำเดือนนะครับ
00:03:09 → 00:03:12 อย่างสมมุติว่าเรามีรอบประจำเดือน 28 วัน
00:03:12 → 00:03:15 นะครับรอบประจำเดือนเราก็นับยังไงก็นับ
00:03:15 → 00:03:18 จากวันวันแรกของประจำเดือนรอบนี้นะครับ
00:03:18 → 00:03:21 ไล่ไปจนถึงวันวันแรกของประจำเดือนรอบถัด
00:03:21 → 00:03:24 ไปนะครับเรานับไล่ไปเนี่ยว่าเอ๊ะรอบประจำ
00:03:24 → 00:03:26 เดือนเนี่ยมันกี่วันถึงจะมาอีกรอบนึงนะ
00:03:26 → 00:03:29 ครับก็โดยทั่วไปเนี่ยเฉลี่ยของผู้หญิงก็
00:03:29 → 00:03:31 จะอยู่ที่ประมาณ 28 วันนะครับหรือว่าบาง
00:03:31 → 00:03:33 คนก็อาจจะคลาดเคลื่อนได้นิดหน่อยแต่ว่า
00:03:33 → 00:03:35 ทางการแพทย์เนี่ยถ้าจะคลาดเคลื่อนเนี่ย
00:03:35 → 00:03:37 เราให้อนุญาตให้คลาดเคลื่อนได้ไม่เกิน 1
00:03:37 → 00:03:40 สัปดาห์ก็คือบางท่านอาจจะไม่ได้มาทุก 28
00:03:40 → 00:03:43 วันแต่อาจจะมาสั้นลงเป็นทุกๆ 21 วันก็ได้
00:03:43 → 00:03:47 ก็คือลบไป 7 วันนะครับหรืออาจจะมานานขึ้น
00:03:47 → 00:03:49 อีก 7 วันกลายเป็นทุกๆ 35 วันก็ได้นะครับ
00:03:49 → 00:03:51 อันนี้ก็เป็นลักษณะของรอบประจำเดือนมัน
00:03:51 → 00:03:54 ไม่ได้เป็นแปลว่าตง 28 วันตลอดแต่ว่าอาจ
00:03:54 → 00:03:56 จะ 28 วันแล้วบวกลบได้ 7 นะครับเพียงแต่
00:03:56 → 00:03:59 ว่าถ้าจะเป็นลักษณะที่ปกติเนี่ยก็ควรจะ
00:03:59 → 00:04:02 เ่อเ่อปวดไอ้คควรจะรอบประจำเดือนเนี่ยมัน
00:04:02 → 00:04:04 ก็ควรจะมาเท่ากันทุกวันนะไอ้ทุกๆเดือนไม่
00:04:04 → 00:04:06 ใช่ว่าเดือนนี้ 28 เดือนหน้า 21 เดือนถัด
00:04:06 → 00:04:08 ไป 35 อะไรอย่าเงี้ยอันนี้ไม่ใช่อันนี้
00:04:08 → 00:04:12 ผิดปกตินะครับคราวนี้ครับการปวดที่เรา
00:04:12 → 00:04:14 เรียกว่ากลางของรอบประจำเดือนเนี่ยก็คือ
00:04:14 → 00:04:17 สมมุติเรามีประจำเดือน 28 วันเนี่ยอาจจะ
00:04:17 → 00:04:20 ไปปวดตรงแถววันที่ 13 14 15 ตกกลางพอดี
00:04:20 → 00:04:23 นะครับซึ่งตรงเนี้ยมักจะเป็นอาการปวดที่
00:04:23 → 00:04:25 เกี่ยวข้องกับกระบวนการตกไข่เพราะว่าช่วง
00:04:25 → 00:04:26 กลางของรอบประจำเดือนเนี่ยมันจะเป็นช่วง
00:04:27 → 00:04:29 ที่ตกไข่พอดีนะครับซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า
00:04:29 → 00:04:32 ใไข่ตกแล้วตำแหน่งการตกนั้นไปอยู่ใกล้ๆ
00:04:32 → 00:04:35 กับเ่อเส้นเลือดเล็กๆนะครับแล้วก็ทำให้
00:04:35 → 00:04:38 เกิดพอไข่ตกทีเนี่ก็มีเลือดเล็กๆปริมาณ
00:04:38 → 00:04:40 น้อยๆนี่หยดไปในช่องท้องเราก็ทำให้เราปวด
00:04:40 → 00:04:44 ท้องได้นะครับส่วนการปวดที่สำคัญกับรอบ
00:04:44 → 00:04:46 ประจำเดือนอีกชนิดหนึ่งนะครับซึ่งเราต้อง
00:04:46 → 00:04:50 ให้ความสนใจก็คือการปวดโดยที่เกิดขึ้นตาม
00:04:50 → 00:04:52 หลังคนที่สมมติรอบประจำเดือนเนี่ยเคยมา
00:04:52 → 00:04:55 ปกติแล้วจู่ๆหายไปนะครับพอหายไปเนี่ยนะ
00:04:55 → 00:04:59 ครับรอบประจำจะไม่มาตามนับเนี่ยปรากฏว่าห
00:04:59 → 00:05:02 หังจากนั้นมีอาการปวดอันเนี้ยเราต้องคิด
00:05:02 → 00:05:04 ถึงคือถ้าเราประจำเดือนขาดไปนะครับสิ่ง
00:05:04 → 00:05:07 แรกที่ต้องคิดถึงก็คือเราอยู่ในภาวะที่
00:05:07 → 00:05:08 เสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้หรือเปล่านะครับ
00:05:08 → 00:05:10 เช่นมีเพศสำคัญมั้ยไม่ได้ป้องกันมั้ยได้
00:05:10 → 00:05:13 คมกำเนิดเนี่ยถ้าอย่างเงี้ยการปวดที่ตาม
00:05:13 → 00:05:16 หลังจากภาวะของการขาดประจำเดือนเนี่ยเรา
00:05:16 → 00:05:18 จะคิดถึงเรื่องของการเ่อตั้งครรภ์ที่ผิด
00:05:18 → 00:05:21 ปกตินะครับก็คือเป็นภาวะแทรกซ้อนเช่นมี
00:05:21 → 00:05:24 การตั้งครรภ์นอกงดลูกนะครับมีการตั้ง
00:05:24 → 00:05:27 ครรภ์แล้วอาจจะมีลักษณะที่เอ่อจะแท้งบุตร
00:05:28 → 00:05:30 หรืออะไรต่างๆเหล่านี้เพราะฉะนั้นการปวด
00:05:30 → 00:05:32 ที่สัมพันธ์กับรอบประจำเดือนเนี่ยนะครับ
00:05:32 → 00:05:34 ในส่วนที่เรามักจะให้ความสนใจมากที่สุดก็
00:05:34 → 00:05:36 หัวข้อของเราวันนี้คือปวดประจำเดือนเนี่ย
00:05:36 → 00:05:39 มันก็จะอย่างที่บอกครับมันก็จะแบ่งเป็น
00:05:39 → 00:05:42 อาการปวดที่เ่อเรียกว่าปวดประจำเดือนแบบ
00:05:42 → 00:05:45 ปฐมภูมิอธิบายเรื่องประจำเดือนนิดนึงนะ
00:05:45 → 00:05:49 ครับประจำเดือนเนี่ยมันก็คือชั้นในสุดของ
00:05:49 → 00:05:50 โครงวัดลูกของเรานะครับเราจะเรียกว่า
00:05:50 → 00:05:53 เยื่อบุโครงวัดลูกซึ่งจริงๆเยื่อบุ
00:05:53 → 00:05:55 อันเนี้ยนะครับเขาจะเหมือนกับถ้าเราคิด
00:05:55 → 00:05:58 ว่ารงลูกเราเนี่ยนะครับเป็นห้องห้องหนึง
00:05:58 → 00:06:00 เยื่อบวกอันนี้ก็จะเหมือนวอเปอร์ที่ที่
00:06:00 → 00:06:03 อยู่ทุกๆผนังทุกๆด้านของผนังของห้องนั้น
00:06:03 → 00:06:06 นะครับในทุกๆเดือนเนี่ยนะครับเวลา
00:06:06 → 00:06:08 ธรรมชาติมีการตกไข่นะครับธรรมชาติรู้อยู่
00:06:08 → 00:06:11 แล้วว่าพอไข่ตกเนี่ยถ้าเกิดการปฏิสนธิกับ
00:06:11 → 00:06:13 อสุจินะครับเกิดเป็นตัวอ่อนตัวอ่อนเนี่ย
00:06:13 → 00:06:16 จะต้องเดินทางมาฝัตัวที่เอ่อในโพงมดลูก
00:06:16 → 00:06:18 แล้วเขาก็จะใช้โพรงมดลูกเนี่แหครับเป็น
00:06:18 → 00:06:21 แหล่งอาหารเป็นแหล่งที่จะเอ่อเจริญเติบโต
00:06:21 → 00:06:23 กลายเป็นเกิดเกิดเป็นการตั้งครรภ์เป็น
00:06:23 → 00:06:26 พารกต่อไปไอ้เจ้าวอเปเปอร์หรือเยื่อบุก
00:06:26 → 00:06:28 ของโพงพระลูกเนี่ยนะครับเอ่อในทุกๆรอบ
00:06:28 → 00:06:30 เดือนเนี่ยก็จะมีการหนาตัวขึ้นนะครับแล้ว
00:06:30 → 00:06:33 ก็จะมีการเหมือนกับมีการสะสมเลือดสะสม
00:06:33 → 00:06:36 อาหารต่างๆไว้เพื่อเตรียมตัวที่จะรับตัว
00:06:36 → 00:06:40 อ่อนที่มาฝังตัวนะครับถ้าเดือนไหนเรามี
00:06:40 → 00:06:43 ตัวอ่อนมาฝังตัวนะครับเยื่อบุเหล่าเนี้ย
00:06:43 → 00:06:46 ก็จะเหมือนกับเป็นแหล่งอาหารที่จะใช้
00:06:46 → 00:06:48 เลี้ยงลูกไปตลอด 9 เดือนเลยนะครับค่ะใน
00:06:48 → 00:06:50 ทางกลับกันถ้าเกิดสมมุติว่าเราไม่มีการ
00:06:50 → 00:06:54 ตั้งครรภ์เกิดขึ้นนะครับพอผ่านมาถึงช่วง
00:06:54 → 00:06:57 ปลายของรอบประจำเดือนเช่นเรามีรอบ 28 วัน
00:06:57 → 00:06:59 อย่างเงี้ยอาจจะประมาณสักวัน 24 25
00:06:59 → 00:07:02 เนี่ยธรรมชาติเจะตรวจพบแล้วว่าเอ๊ะเราไม่
00:07:02 → 00:07:04 ต้องเลี้ยงไข่เหนาไม่จำเป็นต้องสะสมเลือด
00:07:04 → 00:07:08 ไว้แล้วนะครับเจ้าชั้นของเยืบุของโพรมลูก
00:07:08 → 00:07:10 หรือวอปเปอร์พวกเยมันก็จะหลุดลอกแล้วก็
00:07:10 → 00:07:13 ไหลเป็นเลือดประจำเดือนออกมาอือค่ะอือ
00:07:13 → 00:07:15 เพราะฉะนั้นเวลาเราปวดประจำเดือนเนี่ยนะ
00:07:15 → 00:07:17 ครับสาเหตุอันที่ 1 ที่เราบอกว่าอาจจะปวด
00:07:17 → 00:07:20 แบบปฐมภูมิก็คือมันปวดโดยที่เป็นการปวด
00:07:21 → 00:07:24 ตามปกติก็คือเมื่อเราเรามีเลือดเนี่ยที่
00:07:24 → 00:07:27 มันค้างอยู่ในโพงบดลูกนะครับการที่เอ่อ
00:07:27 → 00:07:29 เลือดจะไหลจากโรงดลูกแล้วก็ไหลออกมาทาง
00:07:29 → 00:07:31 ช่องคลอดแล้วก็ออกมาสู่ประเภทภายนอกให้
00:07:31 → 00:07:33 เราเห็นว่าเป็นประจำเดือนเนี่ยตัวมู่เอง
00:07:33 → 00:07:35 เนี่ยนะครับก็มักจะต้องมีการบีบตัวเล็ก
00:07:35 → 00:07:38 น้อยนะครับมันบีบตัวเหมือนกับเหมือนกับ
00:07:38 → 00:07:40 คั้นเอาไอ้เลือดที่อยู่ข้างในเนี่ยเหมือน
00:07:40 → 00:07:42 เค้นมันออกมาใช่มั้ยคะหมอต้นอ่าคล้ายๆ
00:07:42 → 00:07:44 อย่างงั้นก็เหมือนกับว่าเหมือนกับเราถ้า
00:07:44 → 00:07:46 เราคิดว่ามดมดลูกเราเป็นเหมือนฟองน้ำที่
00:07:46 → 00:07:49 ชุ่มน้ำฮะเพราะช่วงที่มีประจำเดือนเนี่ย
00:07:49 → 00:07:51 มันมีเลือดมาสะสมอยู่มันก็จะเหมือนชุ่ม
00:07:51 → 00:07:53 น้ำอยู่นะครับแล้วก็มันก็ต้องบีบฟองน้ำ
00:07:53 → 00:07:55 นั้นนิดนึงเพื่อให้น้ำเมันไหลออกมาก็คือ
00:07:55 → 00:07:57 เหมือนกับรดลูกบีบตัวเพื่อให้ประจำเดือน
00:07:57 → 00:08:00 เนี่ยไหลออกมาได้นะครับเพราะฉะนั้นการปวด
00:08:00 → 00:08:03 แบบเจริงๆเป็นกลไกของธรรมชาติหลายๆท่านจะ
00:08:03 → 00:08:05 สังเกตได้เลยครับว่าเวลาช่วงที่ใกล้ๆจะมี
00:08:06 → 00:08:07 ประจำเดือนมาเนี่ยเราจะรู้สึกว่าเหมือน
00:08:07 → 00:08:10 กับตรงกลางของท้องน้อยนะครับก็คือช่อง
00:08:10 → 00:08:13 ท้องส่วนล่างที่อยู่ใต้สะดืออกไปนะครับ
00:08:13 → 00:08:15 เราจะรู้สึกเหมือนกับมันแบบหน่วงๆนะครับ
00:08:15 → 00:08:17 ผมว่าคุณผู้ฟังหลายๆท่านจะรู้สึกมันหน่วง
00:08:17 → 00:08:21 ๆหน่วงๆแล้วก็บางคนก็เอ่อพอเอ๊มันใกล้ๆจะ
00:08:21 → 00:08:22 มาปุ๊บเนี่ยมันก็อาจจะเหมือนแบบบีบๆตัว
00:08:22 → 00:08:25 เล็กน้อยแต่ว่าก็อาจจะไม่ได้ไม่ได้รุนแรง
00:08:25 → 00:08:27 ถึงขั้นที่เราเรียกว่าเอมันถึงกับขั้นปวด
00:08:27 → 00:08:29 แต่ว่ามันก็แบบอาจจะหน่วงๆและน่ารำคาญ
00:08:29 → 00:08:31 แล้วก็พอประจำเดือนออกจนหมดก็คือเหมือน
00:08:31 → 00:08:34 ฟองน้ำนั้นถูกรีดจนหมดแล้วเนี่ยอาการ
00:08:34 → 00:08:37 หน่วงๆนั้นมันก็จะดีขึ้นนะครับเพราะฉนั้น
00:08:37 → 00:08:40 อาการปวดเนี่ยจริงๆก็อาจจะเป็นกลไกปกติ
00:08:40 → 00:08:41 ของธรรมชาติในการที่เขาจะขับประจำเดือน
00:08:42 → 00:08:44 ออกมาก็ได้ค่ะครับนะครับงั้นการปวดแบบ
00:08:44 → 00:08:48 เนี้ยถ้าจะว่าไปเนี่ยนะครับเอ่อเราก็มัก
00:08:48 → 00:08:50 จะไม่ต้องไปเดืดร้อนกับมันมากนะครับค่ะ
00:08:50 → 00:08:53 เพียงแต่ว่าก็ถ้าเกิดสมมุติมีอาการเช่นอา
00:08:53 → 00:08:55 ปวดอบางเบางเดือนมันก็อาจจะไม่มากแต่บาง
00:08:55 → 00:08:57 เดือนเกิดมากขึ้นมาเกิดเลือดเยอะหน่อย
00:08:57 → 00:09:00 เกิดมดลูกบีบตัวแรงหน่อยเราก็อาจจะผ่อน
00:09:00 → 00:09:03 คลายด้วยการใช้ยาแก้ปวดต่างๆนะครับอาจจะ
00:09:03 → 00:09:05 รับประทานยาแก้ปวดไม่ว่าจะเป็น
00:09:05 → 00:09:09 พาราเซตามอลไอบูเฟนพสแตนนะครับหรือยาแก้
00:09:09 → 00:09:12 ปวดที่ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆนะครับถ้าเกิด
00:09:12 → 00:09:14 สมมติว่ายาแกปวดพื้นฐานทานแล้วไม่หายนะ
00:09:14 → 00:09:17 ครับแต่ถามว่ามันจะมีอันตรายมจากการทานยา
00:09:17 → 00:09:19 แกปวดเอ่อเมื่อการปวดเยมันเกิดโดย
00:09:20 → 00:09:22 ธรรมชาติและเป็นการปวดที่ไม่ใช่โรคร้ายก็
00:09:22 → 00:09:24 คือเกิดจากการบีบตัวของประจำเดือนช่วงของ
00:09:24 → 00:09:27 พลุกในช่วงประจำเดือนก็แปลว่าต่อให้เรา
00:09:27 → 00:09:29 ใช้ยาแก้ปวดเนี่ยก็จะใช้เพียงไม่กี่วัน
00:09:29 → 00:09:31 เพราะเดี๋ยวพอประจำเดือนหมดเนี่ยมันก็
00:09:31 → 00:09:34 หยุดบีบตัวแล้วถูกมฟองน้ำมันแห้งกแล้วก็
00:09:34 → 00:09:37 ไม่ต้องบีบแล้วนะครับก็มันก็จะเหมือนกับ
00:09:37 → 00:09:39 ว่าเราใช้ยาแกปวดก็แค่ในช่วงที่มีประจำ
00:09:39 → 00:09:42 เดือนไม่กี่วัน 3 วัน 4 วัน 5 วันนะครับ
00:09:42 → 00:09:44 ในขณะที่รอบประจำเดือนเราทั้ง 28 วัน
00:09:44 → 00:09:46 เนี่ยวันที่เหลือเนี่เราไม่ได้ทานยาแก้
00:09:46 → 00:09:48 ปวดค่ะดังนั้นกรณีแบบนี้นะครับถ้าเราถือ
00:09:48 → 00:09:51 ว่าเป็นการปวดแบบปฐมภูมิเนี่ยนะครับจะทาน
00:09:51 → 00:09:54 ยาแก้ปวดหรือไม่เนะครับเราก็ดูตามความรุน
00:09:54 → 00:09:57 แรงอือค่ะเดือนไหนทนได้ไม่ทานก็ได้เดือน
00:09:57 → 00:10:00 ไหนมันปวดเยอะทนไม่ไหวมาตฐานเพื่อผ่อนคาย
00:10:00 → 00:10:02 อากาศไอ้ตรงเนี้ยเราสามารถดูแลตัวเองได้
00:10:02 → 00:10:05 โดยไม่ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งคุณหมอเพราะว่า
00:10:05 → 00:10:06 เราก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องเอ่อผิด
00:10:07 → 00:10:09 ธรรมชาติอย่างแต่อย่างใดค่ะหมอต้นคะขอ
00:10:09 → 00:10:12 ความรู้นิดนึงค่ะว่าเรื่องของการรับเ่อยา
00:10:12 → 00:10:15 แก้ปวดเนี่ยผู้หญิงบางคนที่ขวัญเคยเจอนะ
00:10:15 → 00:10:19 คะเอ่อรู้ว่าประจำเดือนจะมาวันอีกวัน 2
00:10:19 → 00:10:22 วันเนี่ยกินยาแก้ปวดดักไว้ก่อนเลยอันนี้
00:10:22 → 00:10:25 คือวิธีที่ถูกมั้ยคะอหรือว่าต้องรอปวด
00:10:25 → 00:10:28 แล้วค่อยๆกินจริงๆคำถามของขวัญเดีมากมี
00:10:28 → 00:10:31 ประโยชน์มากนะครับคืออย่างงี้เอ่อเวลาที่
00:10:31 → 00:10:33 อวัยวะส่วนไหนของเรามีอาการปวดเนี่ยนะ
00:10:33 → 00:10:35 ครับเส้นประสาทของเราเนี่ยนะครับมันก็จะ
00:10:35 → 00:10:38 ส่งความรู้สึกปวดเนี่ยยผ่านไขสันหลังของ
00:10:38 → 00:10:42 เรานะครับขึ้นไปสู่สมองนะครับพอสมองแปรผล
00:10:42 → 00:10:44 จากไอ้ไอเส้นประสาทอันเนี้ยรับรู้ว่าเป็น
00:10:44 → 00:10:47 ลักษณะของความเจ็บปวดมันก็จะส่งความรู้
00:10:47 → 00:10:49 สึกปวดออกมาทำให้เรารู้สึกว่าอ๋อนี่มัน
00:10:49 → 00:10:53 คือการปวดนะครับเอ่อกลไกในการรับรู้
00:10:53 → 00:10:55 เรื่องเอ่อความรู้สึกเนี่ยนะครับเรื่อง
00:10:55 → 00:10:58 การปวดเนี่ยก็เป็นเอ่อขั้นตอนวิธีการนึง
00:10:58 → 00:11:01 ที่ในทางการแพทย์เราเมื่อเราเข้าใจกลไก
00:11:01 → 00:11:03 เนี่ยการจะระงับปวดของใครสักคนเนี่ยนะ
00:11:03 → 00:11:07 ครับการผลิตยาออกมาเนี่ยวงจรของยาก็คือ
00:11:07 → 00:11:10 มันก็จะมาตัดวงจรของการสื่อนำไอ้ความรู้
00:11:10 → 00:11:14 สึกปวดเนี่ยไปที่สมองเราค่ะก็จะทำให้เรา
00:11:14 → 00:11:17 รู้สึกปวดน้อยลงอันเนี้ยครับเป็นกว้างๆ
00:11:17 → 00:11:20 เป็นลักษณะกว้างๆของลักษณะของยาแก้ปวด
00:11:20 → 00:11:24 หรือยาช่วยลดอาการปวดดังนั้นครับสมมุติ
00:11:24 → 00:11:28 เรารอให้ปวดก่อนแล้วค่อยมาทานยานะครับค่ะ
00:11:28 → 00:11:30 สมองของเราเนี่ยเค้าได้รับรู้ความรู้สึก
00:11:30 → 00:11:33 ปวดอันนี้ไปแล้วนะครับพอรับรู้ความรู้สึก
00:11:33 → 00:11:35 ปวดอันนี้ไปแล้วเนี่ยเวลาเราทานยาเนี่ย
00:11:35 → 00:11:38 บางทีเอ่อมันจะใช้เวลานานขึ้นกว่าจะทำให้
00:11:38 → 00:11:40 หายปวดค่ะเหมือนสมองเรามันจำได้แล้วว่า
00:11:40 → 00:11:42 เฮ้ยตอนนี้เราปวดอยู่นะครับพอเราเราจะไป
00:11:42 → 00:11:45 ทานยาเพื่อไปตัดวงจรของการส่งความรู้สึก
00:11:45 → 00:11:48 ทางเส้นประสาทขึ้นไปเนี่ยสมองเรามันจำได้
00:11:48 → 00:11:50 ส่วนหนึ่งแล้วค่ะเพราะฉะนั้นยามันมักจะ
00:11:50 → 00:11:52 คุมการปวดได้ไม่ค่อยดีนะครับหรือว่าเรา
00:11:52 → 00:11:55 อาจจะต้องใช้ยาในปริมาณสูงขึ้นหรือใช้ยา
00:11:55 → 00:11:58 ที่มีประสิทธิภาพรุนแรงขึ้นในขณะที่อย่าง
00:11:58 → 00:12:00 ที่คุณคคุณคทำตามมาก็คือเอ่อคณไข้บางท่าน
00:12:00 → 00:12:02 เนี่ยนะครับเอ่อรู้สึกว่าคุณผู้หญิงรู้
00:12:02 → 00:12:05 สึกว่าเฮ้ยอาการปวดเนี่ยพอพอเป็นเวลง
00:12:05 → 00:12:07 เดือนปวดเยอะงั้นพอเรารู้สึกเราไม่อยาก
00:12:07 → 00:12:09 ปวดเยอะอย่างงั้นน่ะก่อนมันจะมานิดๆหน่อย
00:12:09 → 00:12:12 ๆรู้สึกมันคล้ายๆจะมาแล้วเนี่ยเราทานดัก
00:12:12 → 00:12:15 ไว้เลยอันเนี้ยอืครับเอ่อมันจะช่วยไปตัด
00:12:15 → 00:12:18 วงจรเหมือนกับมันตัดความรู้สึกการปรวดอัน
00:12:18 → 00:12:21 แรกที่จะส่งไปให้สมองรับรู้นะครับเพราะ
00:12:21 → 00:12:24 ฉะนั้นหากเราทราบว่าอาการปวดเนี้ยมันเป็น
00:12:24 → 00:12:27 อาการปวดที่อันนี้หมอต้องย้ำว่าจะต้องเรา
00:12:27 → 00:12:29 ต้องถือว่าเป็นการปวดที่เป็นปฐมภูมิก่อน
00:12:29 → 00:12:31 ก็คือเป็นการปวดที่มันเกิดตามกลไกการบีบ
00:12:31 → 00:12:33 ตัวของมดลูกโดยธรรมชาติไม่ได้มีโรคร้าย
00:12:33 → 00:12:36 อะไรนะครับถ้าเป็นแบบเนี้ยเราจะสังเกตได้
00:12:36 → 00:12:38 เลยว่าอ่าเดี๋ยววันเนี้ยพอครบรอบประจำ
00:12:38 → 00:12:39 เดือนเดี๋ยวมันใกล้จะมาใกล้จะปวดแล้ว
00:12:39 → 00:12:42 เนี่ยนะครับถ้าเรารู้อย่างนั้นเราทานดัก
00:12:42 → 00:12:46 ไว้ก่อนได้นะครับและมันก็จะช่วยกดเอ่อการ
00:12:46 → 00:12:49 รู้สึกปวดเนี่ยได้ดีกว่าไปทานตอนที่ปวดไป
00:12:49 → 00:12:52 แล้วอืค่ะครับครับแล้วอย่างที่หมอบอกครับ
00:12:52 → 00:12:55 ถ้าไม่มันเป็นการปรวดแบบปฐมภูมิก็คือมัน
00:12:55 → 00:12:58 ไม่ได้มีโรคร้ายอะไรอ่ะนะครับการทานยาแบบ
00:12:58 → 00:13:00 เนี้ยเราก็จะทานอยู่ในช่วงมีประจำเดือน
00:13:00 → 00:13:03 ไม่กี่วันนะครับเพราะฉะนั้นมันมันไม่ส่ง
00:13:03 → 00:13:05 ผลเสียต่อร่างกายทำให้เกิดอันตรายอะไรใน
00:13:05 → 00:13:08 ระยะแบบว่าเราทานยามากจนกระทั่งสะสมเกิด
00:13:08 → 00:13:10 อันตรายจากสุขภาพอันนี้จะไม่เป็นอย่าง
00:13:10 → 00:13:13 งั้นนะครับเพียงแต่ว่าต้องแน่ใจนะว่ามัน
00:13:13 → 00:13:15 เป็นการปวดที่มันเกิดจากอย่างนี้เ่อเป็น
00:13:15 → 00:13:17 ปฐมภูมิไม่ได้มีโรคต่างๆอยู่จริงๆหรือว่า
00:13:17 → 00:13:20 ถ้าเราสงสัยเนี่ยเราก็ไปปรึกษาคุณหมอซะ
00:13:20 → 00:13:23 ก่อนนะครับเพไม่งั้นบางทีเราทานดักไว้จน
00:13:23 → 00:13:25 กระทั่งเกิดอาการปวดนั้นเกิดจากภาวะการ
00:13:25 → 00:13:29 ปวดแบบที่ 2 คือแบบทุติยภูมิก็คือเป็น
00:13:29 → 00:13:32 เป็นการปวดที่มันไม่ใช่ปวดเอ่อจากเรื่อง
00:13:32 → 00:13:35 ของประจำเดือนเองแต่มันมีโรคอื่นๆแทรกซอน
00:13:35 → 00:13:36 อยู่แล้วทำให้ปวดพอเราไปทานยาแก้วปวด
00:13:36 → 00:13:39 เนี่ยบางทีมันไปกดไปตัดวงจรความรู้สึกที่
00:13:39 → 00:13:42 รับรู้เรื่องการปวดจากสมองเราเพราะฉะนั้น
00:13:42 → 00:13:45 โรคร้ายนั้นส่งผลกับเราอยู่ค่ะแต่เราปวด
00:13:45 → 00:13:48 น้อยลงไงเพราะเราทานยาดักไว้อันนั้นน่ะ
00:13:48 → 00:13:50 อาจจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพได้เพราะว่าก็จะ
00:13:50 → 00:13:52 ทำให้เราไม่รู้ว่าเรากำลังเป็นโรคที่
00:13:52 → 00:13:54 อันตรายอยู่หรือไม่เพราะว่ามันไม่ปวดแต่
00:13:54 → 00:13:57 แยกยากนะคะหมอต้นว่าอันไหนปวดธรรมดาคือ
00:13:57 → 00:14:00 หมายถึงว่าคนทั่วๆไปอ่ะนะคะคือแบบอันนี้
00:14:00 → 00:14:03 ปวดธรรมดาอันนี้ปวดเพราะจะประจำเดือนหรือ
00:14:03 → 00:14:05 เอ๊ะอันนี้ปวดเพราะว่าเรามีสัญญาณของโรค
00:14:06 → 00:14:09 ร้ายมันมันแยกยังไงคะหมต้นใช่ครับก็อาการ
00:14:09 → 00:14:11 ปวดอย่างที่บอกครับถ้าเป็นการปวดแบบ
00:14:11 → 00:14:14 ปฐมภูมิก็คือมันเกิดแค่มดลูกบีบตัวเนี่ย
00:14:14 → 00:14:17 นะครับคเอ่อเราสังเกตได้เลยว่าเราจะควบ
00:14:17 → 00:14:20 คุมอาการปวดนั้นไม่ยากให้ยาแก้ปวดเนี่ยนะ
00:14:20 → 00:14:22 ครับโอเคอาจจะอาจจะเม็ดเดียวไม่อยู่หรือ
00:14:22 → 00:14:25 ว่าอาจจะต้องเพิ่มเพิ่มเ่ามื้อที่ทานขึ้น
00:14:25 → 00:14:27 หน่อยแต่ว่าพอสักพักนึงเนี่ยอาการป่วดมัน
00:14:27 → 00:14:30 ก็จะคุมได้เราก็จะสสามารถดำรงชีวิตทำงาน
00:14:30 → 00:14:33 ทำการอะไรได้ตามปกติแต่ถ้าอาการเดนั้นมัน
00:14:33 → 00:14:35 ดูแล้วค่อนข้างจะรุนแรงทานยาแล้วแบบเอ๊ะ
00:14:35 → 00:14:38 ชักเอาไม่ค่อยอยู่พอเวลาผ่านไปเนี่ยปีที่
00:14:38 → 00:14:40 แล้วทานตัวนี้ยังได้เลยพอผ่านมาปีนี้ทำไม
00:14:40 → 00:14:42 มันทานไม่ค่อยอยู่ะต้องเพิ่มยาขึ้นอันนี้
00:14:42 → 00:14:45 ต้องสงสัยนะครับว่าว่ามันไม่ใช่การบีบตัว
00:14:45 → 00:14:48 ปกติละอาจจะมีโรคต่างๆแทรกซ้อนอยู่นะครับ
00:14:49 → 00:14:51 มันก็เลยมาถึงเรื่องของการป่วดประจำเดือน
00:14:51 → 00:14:54 แบบทุติยภูมิซึ่งตรงเนี้ยโรคที่เราเจอได้
00:14:54 → 00:14:56 บ่อยๆนะครับและแลหลายๆท่านก็จะได้ยินเป็น
00:14:56 → 00:14:59 ประจำก็คือการปวดประจำเดือนจากการมีโรค
00:14:59 → 00:15:02 ที่เราเรียกว่าช็อกโกแลตีสนะครับออ
00:15:02 → 00:15:05 ช็อกโกแลตีสคืออะไรช็อกโกแลตีสก็คือเอ่อ
00:15:05 → 00:15:08 ถ้าเราแปลเป็นเป็นภาษาปกติเนี่ยนะครับนะ
00:15:08 → 00:15:11 ก็คือภาวะของการมีเยื่อบุกโงพลูกที่ไป
00:15:11 → 00:15:14 เจริญอยู่ผิดที่อ่ากลับมาถึงตอนที่เราบอก
00:15:14 → 00:15:17 ตอนต้นประจำเดือนก็คือเยื่อบุพลูกอันนี้
00:15:17 → 00:15:19 แหละค่ะที่มันเป็นเหมือนกับวอเปเปอร์ที่
00:15:19 → 00:15:22 บุผนังของอ่าห้องที่เป็นเ่อพรมลูกของเรา
00:15:22 → 00:15:25 อยู่เนี่ยยนะครับเพราะฉะนั้นเยื่อบุโงวด
00:15:25 → 00:15:28 ลูกก็ต้องบุโพงวดลูกไงบุแค่ผนังโพงวดลูกอ
00:15:28 → 00:15:31 ค่ะแต่ว่าจากการเจริญผิดปกติของชั้นเยื่อ
00:15:31 → 00:15:33 บุกคงลูกเนี่ยนะครับมันจะมีบางครั้งเนี่ย
00:15:33 → 00:15:36 จะมีการเจริญที่เหมือนกับเหมือนกับมัน
00:15:36 → 00:15:39 เหมือนกับบุกลึกแทรกซึมเข้าไปถึงชั้นของ
00:15:39 → 00:15:42 กล้ามเนื้อมดลูกเหมือนกว่าการที่จะอยู่
00:15:42 → 00:15:45 แค่ผิวๆแค่วอปเปอร์มันจะลึกเข้าไปผนังปูน
00:15:45 → 00:15:48 ละนะครับตรงเนะครับเอ่อถ้าเป็นลักษณะ
00:15:48 → 00:15:51 อย่างเงี้ยมันก็จะทำให้ช่วงที่มีอ่าประจำ
00:15:52 → 00:15:54 เดือนเนี่ยมีอาการปวดประจำเดือนได้รุนแรง
00:15:54 → 00:15:56 ขึ้นค่ะนะครับหรือว่าถ้าเยื่อบวอันเนี้ย
00:15:56 → 00:15:59 มันเจริญผิดที่นอกจากนอกจากได้อยู่ในพวง
00:15:59 → 00:16:01 ลูกออกไปอยู่ในกล้ามเนื้อเนี่ยบางครั้ง
00:16:01 → 00:16:03 มันไปเจริญอยู่ข้างนอกด้วยเช่นไปอยู่ใน
00:16:03 → 00:16:05 บริเวณรังไข่เกิดเป็นถุงน้ำของช็อกโกแลต
00:16:05 → 00:16:08 ฟีที่รังไข่หรือว่ากระจายไปในเยื่อบู่
00:16:08 → 00:16:10 ช่องท้องนะครับทุกครั้งที่มีประจำเดือน
00:16:10 → 00:16:12 เนี่ยเราก็จะปวดรุนแรงไปตามบริเวณที่มัน
00:16:12 → 00:16:15 กระจายไปด้วยบางคนบางคนปวดประจำเดือน
00:16:15 → 00:16:17 เนี่ยปวดไปที่เอ๊ทำไมปวดหลังเพราะว่าบาง
00:16:17 → 00:16:19 ทีเนี่ยเจ้ายืหัวลูกเยมันกระจายไปที่หลัง
00:16:19 → 00:16:22 ได้เพราะฉะนั้นอารที่ปวดประจำเดือนที่เรา
00:16:22 → 00:16:24 เจอได้มากที่สุดเนี่ยนะครับก็คือลักษณะ
00:16:24 → 00:16:26 ของการมีเยื่อบลูกเจริญพิที่หรือการเป็น
00:16:26 → 00:16:30 ช็อกโกแลตซีนั่นเองนะครับอันที่ 2 เนี่ย
00:16:30 → 00:16:32 นะครับอาการปวดที่เป็นในช่วงประจำเดือน
00:16:32 → 00:16:35 เนี่ยอาจจะมาพร้อมๆกับการที่มีเนื้องอก
00:16:35 → 00:16:39 บางอย่างนะครับที่อยู่ในบริเวณมดลูกปีกมด
00:16:39 → 00:16:43 ลูกหรือว่าตัวรังไข่นะครับพอเามีเนื้องอก
00:16:43 → 00:16:44 อยู่เนี่ยนะครับเวลาผ่านไปเนื้องอกนี้อาจ
00:16:44 → 00:16:47 จะโตขึ้นพอมันโตขึ้นเนี่ยนะครับมันก็จะ
00:16:47 → 00:16:50 เกิดการกดเบียดทำให้เวลาที่มีเลือดมาสะสม
00:16:50 → 00:16:52 เป็นช่วงที่เป็นประจำเดือนเนี่ยมันไปทำ
00:16:52 → 00:16:56 ให้เกิดอาการปวดบีบๆที่ตัวมดลูกได้นะครับ
00:16:56 → 00:16:58 นอกจากนั้นเนี่ยนะครับนอกจากเยรผิดที่
00:16:58 → 00:17:01 หรือมีเนื้องอกแล้วเนี่ยลักษณะของการเกิด
00:17:01 → 00:17:04 การอักเสบนะครับในบริเวณช่องท้องหรืออุ้ง
00:17:04 → 00:17:06 เชียงกของเราจากการติดเชื้อต่างๆนะครับ
00:17:06 → 00:17:08 พวกเนี้ก็อาจจะทำให้มีอาการปวดตามมานะ
00:17:08 → 00:17:11 ครับและการติดเชื้อนั้นถ้าถ้าหากเราไม่
00:17:11 → 00:17:13 ได้วินิจฉัยหรือว่าให้การรักษาที่ถูกต้อง
00:17:13 → 00:17:16 เนี่ยนะครับคหลังจากการติดเชื้อนั้น
00:17:16 → 00:17:18 กระจายไปเนี่ยนะครับธรรมชาติเนี่ยเขาก็จะ
00:17:18 → 00:17:21 มีระบบป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้เชื้อโรค
00:17:21 → 00:17:24 เี่กระจายลึกเข้าไปโดยการสร้างเยื่อ
00:17:24 → 00:17:26 เหมือนกับสร้างเหมือนกับเยื่ออันนึงมากัน
00:17:26 → 00:17:28 เอาไว้อ่ะเหมือนกับมาห่อหุ้มไว้ไม่ให้การ
00:17:29 → 00:17:30 ติดเชื้อหรือการอักเสบกระจายออกไปซึ่ง
00:17:30 → 00:17:33 เยื่อพวกเนี้ยพอมันสร้างขึ้นมาแล้วเนี่ย
00:17:33 → 00:17:36 มันจะไปเกาะเกี่ยวอวัยวะที่อยู่ข้างๆกัน
00:17:36 → 00:17:38 น่ะให้มันติดกันเราอาจจะเคยได้ยินคำนี้
00:17:38 → 00:17:41 เราเรียกกันติดปากเลยว่าพังผืดนะครับพวก
00:17:41 → 00:17:44 นี้ก็จะเกิดจากภายหลังจากกระบวนการที่มี
00:17:44 → 00:17:46 การอักเสบการติดเชื้ออะไรต่างๆนะครับ
00:17:46 → 00:17:48 เพราะฉะนั้นถ้ามีพังผืดอยู่เนี่ยก็อาจจะ
00:17:49 → 00:17:50 เป็นอาการนึงที่ทำให้เราปวดนะครับโดยเฉพะ
00:17:51 → 00:17:52 ยิ่งในช่วงที่เรามีประจำเดือนมดลูกมันบีบ
00:17:53 → 00:17:55 ตัวพอมันมีการเคลื่อนไหวมีการบีบตัวมันก็
00:17:55 → 00:17:58 ไปดึงล้างพังผืดก็ทำให้มีอาการปวดตมาได้
00:17:58 → 00:18:02 นะครับครับคราวนี้ถ้าเราจะแยกว่าเป็นแบบ
00:18:02 → 00:18:05 ปฐมภูมิหรือแบบทุติยภูมินะครับเป็นแบบที่
00:18:05 → 00:18:08 เราปล่อยที่ก็ได้ทานยาแก้ป่วดไปเองหรือ
00:18:08 → 00:18:11 ว่าเป็นแบบที่เราควรจะเข้ารับการรักษาที่
00:18:11 → 00:18:13 ถูกต้องเนี่ยอันนี้นะครับอย่างที่บอกแล้ว
00:18:13 → 00:18:17 เราดูจากลักษณะของอาการปวดค่ะอันที่ 1
00:18:17 → 00:18:19 ลักษณะของการปวดนั้นเนี่ยมันปวดแบบเ่อ
00:18:19 → 00:18:21 ค่อยๆเป็นค่อยๆไปหรือว่าปวดแล้วทีมัน
00:18:21 → 00:18:25 เฉียบผลัดนะครับถ้าการปวดเกิดจากการมีปวด
00:18:25 → 00:18:27 ประจำเดือนแบบปฐมภูมิเนี่ยมันมันควรจะปวด
00:18:27 → 00:18:29 แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปพอประจำเดือนมาเต็ม
00:18:29 → 00:18:33 ที่บีบตัวก็จะปวดมากหน่อยวันวันต้นๆใช่ม
00:18:33 → 00:18:35 ครับพอประจำเดือนเริ่มออกน้อยลงวันท้ายๆ
00:18:35 → 00:18:38 เนี่ยอาการปวดต้องเบาลงแต่ถ้าการปวดเป็น
00:18:38 → 00:18:40 แบบอุยเฉียบพันนะครับเปิดปวดแล้วรุนแรง
00:18:40 → 00:18:43 ทันทีเนี่ยนะครับหรือว่าปวดแล้วลักษณะมี
00:18:43 → 00:18:47 การแบบเ่อมีอาการข้างเคียงอื่นๆเช่นมี
00:18:47 → 00:18:50 อาการทางระบบทางเดินปัสสาวะมีอาการของการ
00:18:50 → 00:18:53 เอ่อมีตกขาวมีอะไรผิดปกติอันนี้ก็จะทำให้
00:18:53 → 00:18:55 เราคิดถึงโรคอื่นๆเช่นอย่างที่เราบอกมี
00:18:55 → 00:18:58 อักเสษติดเชื้ออะไรต่างๆได้มากขึ้นนะครับ
00:18:58 → 00:19:00 ที่ปวดแล้วเนี่ยมันคำที่ได้ที่ท้องน้อย
00:19:00 → 00:19:03 เหมือนคำมีก้อนใหญ่ๆอย่างเงี้ยอันนี้เจะ
00:19:03 → 00:19:06 คิดถึงเมืองได้มากขึ้นเพราะฉะนั้นเอ่อตัว
00:19:06 → 00:19:08 คุณผู้หญิงเองอาจจะสังเกตเองได้นะครับแต่
00:19:08 → 00:19:11 ว่าสิ่งนึงที่หมอมักจะแนะนำไว้เสมอก็คือ
00:19:11 → 00:19:14 ในฐานะที่เป็นคุณผู้หญิงเนี่ยนะครับเ
00:19:14 → 00:19:16 อวัยวะส่วนอวัยวะสืพันธ์เนี่ยมันเป็น
00:19:16 → 00:19:18 อวัยวะที่อยู่ลึกเข้าไปในร่างกายผู้หญิง
00:19:18 → 00:19:20 ต่างคุณผู้ชายคุณผู้ชายนี่อวัยวะสศพันธ์
00:19:20 → 00:19:23 มันยื่นออกมาข้างนอกนะครับเพราะฉะนั้นถ้า
00:19:23 → 00:19:25 อสุพันธ์เนี่ยเอ่อของคุณผู้ชายมีปัญหา
00:19:25 → 00:19:28 อะไรเนี่ยเมองเห็นได้ก็ตาอยู่ะนะครับรู้พ
00:19:28 → 00:19:31 แล้วมันมีก้อนเนื้อมีอะไรผิดปกติมันเห็น
00:19:31 → 00:19:33 ละแต่อวยวะสื่อพันธุ์ของคุณผู้หญิงเนี่ย
00:19:33 → 00:19:36 นะครับนะนอกจากอประเภศภายนอกแล้วเนี่ยเรา
00:19:36 → 00:19:38 มองไม่เห็นอะไรเลยไอ้ที่ลึกเข้าไปเป็น
00:19:38 → 00:19:40 ช่องทอดเข้าไปเป็นปากมดลูกเป็นมดลูกเป็น
00:19:40 → 00:19:42 ปีกมดลูกเป็นรังไข่เนี่ยเรามองไม่เห็น
00:19:42 → 00:19:46 ทั้งสิ้นดังนั้นเราต้องถือว่ามันมีความ
00:19:46 → 00:19:48 สำคัญอย่างยิ่งครับที่เราจำเป็นจะต้องไป
00:19:48 → 00:19:51 พบคุณหมอสูตินลีแพทย์นะครับแล้วก็ไปให้
00:19:51 → 00:19:55 คุณหมอท่านตรวจภายในนะครับประจำปีสักปีละ
00:19:55 → 00:19:59 ครั้งนะครับค่ะนะหลายๆท่านก็รู้ว่าโคการ
00:19:59 → 00:20:01 ตรวจนี้มันอาจจะเอเราอายจเรากลัวเป็น
00:20:01 → 00:20:03 อันตรายแต่ว่าเราต้องเข้าใจไว้ด้วยว่าโรค
00:20:03 → 00:20:06 อันนึงที่เรากลัวมากๆนะครับในในส่วนคนผู้
00:20:06 → 00:20:08 หญิงเที่เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้มาก
00:20:08 → 00:20:11 ก็คือโรคมะเร็งของเ่อบริเวณปากมดลูกเพราะ
00:20:11 → 00:20:14 ฉะนั้นทุกๆปีนะครับเราจึงควรจะไปตรวจภาย
00:20:14 → 00:20:17 ในแล้วก็เอ่อเก็บเซลล์เพื่อไปเช็คมะเร็งผ
00:20:17 → 00:20:19 ลูกซึ่งระหว่างที่เราไปตรวจเนี่ยคุณหมอจะ
00:20:19 → 00:20:21 ได้มีโอกาสแยกไอ้โรคพวกนี้แะครับว่ามันมี
00:20:22 → 00:20:25 เนื้องอกมมีพังผืดมนะครับแล้วก็เวลาซัก
00:20:25 → 00:20:27 ถามกันเนี่ยคุณหมอจะได้มีอาการตรวจสอบว่า
00:20:27 → 00:20:29 ลักษณะการปวดประจำถ้าเรามีเนี่ยมันมีแบบ
00:20:29 → 00:20:32 ไหนมันน่าจะเป็นลักษณะของการเป็นโรคหรือ
00:20:32 → 00:20:34 ไม่ซึ่งถ้ามีเนี่ยแล้วสงสัยเนี่ยคุณบอกก็
00:20:34 → 00:20:36 จะมีเครื่องมือในการตรวจวินิจฉัยนะครับ
00:20:36 → 00:20:38 เช่นอาจจะมีการตรวจอัตราซาวเพื่อดูว่ามี
00:20:38 → 00:20:41 เนื้องอกอะไรมยนะครับมีพวกเยื่อบุกปงลูก
00:20:41 → 00:20:44 เจริญผิดที่อยู่มนะครับแล้วก็จะให้การ
00:20:44 → 00:20:46 รักษาที่ถูกต้องเพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว
00:20:46 → 00:20:50 เนี่ยเราจะแยกได้ 100% ว่ามันเป็นแบบปกติ
00:20:50 → 00:20:54 ปฐมภูมิหรือเป็นแบบโรคอันๆอื่นๆนะครับที่
00:20:54 → 00:20:57 เป็นทุติยภูมิเนี่ยค่ะเราแยกได้ไม่ 100%
00:20:57 → 00:20:59 หรอกแต่การไปตรวจประจำปีเนี่ยมันจะมี
00:20:59 → 00:21:02 โอกาสทำให้คุณหมอช่วยช่เราแยกได้ด้วยนะ
00:21:02 → 00:21:07 ครับอค่ะอืเอ่อคุณหมอต้นคะมีคำถามจากคุณ
00:21:07 → 00:21:11 พูนสุขค่ะบอกว่าเอ่อมีหลานสาวอายุ 30 ปี
00:21:11 → 00:21:14 ปวดประจำเดือนเนี่ยทุกเดือนแล้วก็มีประจำ
00:21:14 → 00:21:17 เดือนเนี่ยมีแบบออกมาเยอะมากแล้วก็ตอนเ
00:21:17 → 00:21:20 ได้รับคำปรึกษาจากแพทย์แล้วแล้วก็ให้ยามา
00:21:20 → 00:21:24 รับประทานบรรเทาอาการปวดได้ซึ่งตรงนี้
00:21:24 → 00:21:27 เนี่ยถามว่าผิดปกติยแล้วก็ตอนเนี้ยเอ่อ
00:21:27 → 00:21:30 หลานสาวคนเนะคะอายุ 30 เนี่ยแต่งงานแล้ว
00:21:30 → 00:21:33 แล้วก็อยากที่จะมีบุตรอาการอาการที่เกิด
00:21:33 → 00:21:35 ขึ้นจากการมีประจำเดือนมากปวดมากๆเนี่ยมี
00:21:35 → 00:21:38 ผลต่อการมีบุตรยากมั้ยหรือว่าเป็นเรื่อง
00:21:38 → 00:21:41 ที่สามารถเ่อเค้าเรียกว่าอะไรตั้งครรภ์
00:21:41 → 00:21:45 ได้ตามธรรมชาติปกติคะครับเอ่อคำถามที่ถาม
00:21:45 → 00:21:47 มาเนี่ยนะครับอันแรกก็คือในส่วนของอาการ
00:21:47 → 00:21:50 ปวดเนี่ยนะครับถ้าเกิดได้ไปพบคุณหมอมา
00:21:50 → 00:21:52 แล้วนะครับอันนี้หมอเชื่อว่าคุณหมอท่านคง
00:21:52 → 00:21:54 ได้ตรวจวินิจฉัยะแล้วท่านอาจจะพบว่า
00:21:54 → 00:21:56 ลักษณะที่เป็นเนี่ยนะครับมันอาจจะไม่ได้
00:21:56 → 00:21:58 เป็นโรคที่เราสงสัยเป็นเนื้องอกเป็นเยี่
00:21:58 → 00:22:01 บกพมโรคเจริญผิดที่มยเป็นพังผืดมยนะครับ
00:22:01 → 00:22:04 ถ้าตรงเนี้ยเมื่อไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร
00:22:04 → 00:22:07 เนี่ยแต่ว่าอาการปวดมันแรงค่ะคุณหมอก็จะเ
00:22:08 → 00:22:10 ให้คำแนะนำเรื่องยาแก้ปวดที่เหมาะสมมาก
00:22:10 → 00:22:12 ขึ้นนะครับแทนที่เราจะทานพมออยู่เฉยๆ
00:22:12 → 00:22:14 เนี่ยก็จะมียาแก้ปวดที่เหมือนกับ
00:22:14 → 00:22:16 ประสิทธิภาพมันสูงขึ้นในการควบคุมอาการ
00:22:16 → 00:22:18 ปวดก็จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตในช่วง
00:22:18 → 00:22:22 ประจำเดือนได้ดีขึ้นนะครับแต่ว่าถามว่า
00:22:22 → 00:22:25 เอ่อเราทแกปวดไปเรื่อยๆถ้าอยู่ในการดูแล
00:22:25 → 00:22:27 ของคุณหมอเนี่ยอันเนี้ยหมอคิดว่าไม่น่าจะ
00:22:27 → 00:22:29 มีอันตรายอะไรหเพราะว่าคุณหมอท่านก็คง
00:22:29 → 00:22:32 เป็นคนควบคุมให้อยู่แล้วนะครับส่วนกรณี
00:22:32 → 00:22:35 ที่เราเ่อโอเคตอนนี้เราแต่งงานะเราปวด
00:22:35 → 00:22:37 ประจำเดือนเนี่ยมันมีปัญหากับเกี่ยวกับ
00:22:37 → 00:22:40 เรื่องเ่อการเจริญพันธุ์มั้ยค่ะโรคที่เรา
00:22:40 → 00:22:42 บอกว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการปวดประจำ
00:22:42 → 00:22:44 เดือนมากๆก็คือโรคที่เราบอกว่าอย่าเป็น
00:22:44 → 00:22:46 เยื่อบุคงลูกไปเจริญผิดที่นะครับหรือที่
00:22:46 → 00:22:49 เราเรียกว่าช็อกโกแลตซีสเนี่ยอันเนี้ยจะ
00:22:49 → 00:22:52 เป็นสาเหตุอันดับ 1 ของการมีบุกยากในฝ่าย
00:22:52 → 00:22:55 ผู้หญิงอืครับอ่าเพราะอะไรเพราะว่าไอ้
00:22:56 → 00:22:57 เซลล์เยื่อบุอันเนี้ยพะมันเจริญออกไปที่
00:22:57 → 00:22:59 อื่นเนี่ยนะครับครับสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
00:22:59 → 00:23:02 ถ้ามันไปเกาะอยู่บนรังไข่นะครับมันจะไป
00:23:02 → 00:23:04 แย่งพื้นที่ของรังไข่ทำให้เนื้อรังไข่
00:23:04 → 00:23:07 ปกติเนี่ยเหลือน้อยลงค่ะรังไข่มันก็สร้าง
00:23:07 → 00:23:09 ไข่ไม่ได้พอสร้างไข่ไม่ได้ก็สร้างฮอร์โมน
00:23:09 → 00:23:11 ไม่ได้นะครับหรือได้แล้วคุณภาพไม่ดีเนี่ย
00:23:11 → 00:23:13 ก็ทำให้ประสิทธิภาพคือเราจะตั้งครรภ์ได้
00:23:13 → 00:23:15 เราก็ต้องมีไขที่ดีต้องมีฮอร์โมนที่ดี
00:23:15 → 00:23:18 เพราะฉะนั้นโอกาสในการตั้งคันก็จะลดลงนะ
00:23:18 → 00:23:21 ครับอย่างที่ 2 นะครับโรคช็อกโกซิหรือโพุ
00:23:21 → 00:23:25 จรพิธิเนี่ยเวลาเไปอยู่ที่ไหนนะครับนะมัน
00:23:26 → 00:23:28 มีโอกาสจะทำให้เกิดพังผืดที่อวัยยวะนั้น
00:23:28 → 00:23:30 นะครับอย่างยกตัวอย่างสมมติเลามไปอยู่ที่
00:23:30 → 00:23:33 รังไข่ก็อาจจะเกิดพังผืนไปเกาะที่รังไข่
00:23:33 → 00:23:35 แล้วเกาะไปติดกับตัวมดลูกนะครับไปติดกับ
00:23:35 → 00:23:38 ลำไส้รอบๆนั้นหรือพังผืดนอาจจะไปเกาะที่
00:23:38 → 00:23:41 ปีกมดลูกหรือท่อนำไข่ทำให้เกิดการอุดปัน
00:23:41 → 00:23:44 ได้เพราะฉะนั้นถ้าพังผืดทำให้ท่อเ่อปีกมด
00:23:44 → 00:23:48 ลูกหรือท่องไข่อุดตันหนทางที่อสุจิจะไปพบ
00:23:48 → 00:23:51 กับไข่เนี่ยมันก็จะถูกปิดลงก็จะนะครับ
00:23:51 → 00:23:54 เพราะฉะนั้นอย่างกรณีที่ถามมาเนี่ยนะครับ
00:23:54 → 00:23:57 นะถ้ามีอาการปวดนะครับปวดประจำเดือนแล้ว
00:23:57 → 00:23:59 ปวดค่อนข้างจะรุแรงแล้วก็กำลังวางแผนที่
00:23:59 → 00:24:02 ยังมีบุตรเนี่ยให้คิดถึงภาวะนี้ไว้เลยนะ
00:24:02 → 00:24:04 ครับแล้วก็ไปปรึกษาคุณหมอแต่คราวนี้
00:24:04 → 00:24:06 เปลี่ยนวิธีปรึกษาะคือบางทีตอนแรเราไป
00:24:06 → 00:24:08 ปรึกษาเราอาจจะไปเน้นหนักในเรื่องของการ
00:24:08 → 00:24:10 ป่วดประจำเดือนคุณหมอท่านก็ไปเน้นที่การ
00:24:10 → 00:24:12 รักษาการปวดแต่ว่าถ้าเราแจ้งคจำนงว่าคุณ
00:24:12 → 00:24:15 หมอคะอันนี้ตั้งใจแล้วว่าอยากจะมีบุตร
00:24:15 → 00:24:17 แล้วเรามีอาการป่วดประจำเดือนมากเนี่ย
00:24:17 → 00:24:19 อันเนี้ยคุณหมอจะตรวจวินิฉัยเพิ่มเติม
00:24:19 → 00:24:21 เพื่อดูว่ามันมีภาวะของที่เจริญปิดที่
00:24:21 → 00:24:24 เนี่ยอยู่มแล้วมีเนี่ยมีเยอะแค่ไหนแล้ว
00:24:24 → 00:24:26 เราต้องรักษายังไงเพื่อช่วยให้เจริญพันดี
00:24:26 → 00:24:29 ขึ้นอืค่ะอือื
00:24:29 → 00:24:32 อ่ามีอีกการดูแลตัวเองเรื่องการปวดเนี่ย
00:24:32 → 00:24:35 นะครับนอกจะทานยาเนี่ยเราอาจจะมีวิธีการ
00:24:35 → 00:24:37 ผ่อนคลายการปวดด้วยกันบางทีเราก็ใช้
00:24:37 → 00:24:40 กระเป๋าน้ำร้อนครับมาอังที่บริเวณเท้อง
00:24:40 → 00:24:44 น้อยนะครับพอกพอความร้อนเนี่ยมันทำให้ตัว
00:24:44 → 00:24:46 เอ่อกล้ามเนื้อเนี่ยมันคลายตัวเพราะ
00:24:46 → 00:24:48 ฉะนั้นการบีบตัวของไอ้ตัวมดลูกที่เราบีบ
00:24:48 → 00:24:50 ตัวมันก็จะค่อนข้างคลายลงด้วยก็ทำให้
00:24:50 → 00:24:54 อาการปวดลงนะครับอีกอย่างนึงความร้อนทำ
00:24:54 → 00:24:56 ให้เอ่อการเ่อไหลเวียนของเส้นเลือดใน
00:24:56 → 00:24:59 บริเวณที่มีความร้อนอยู่เนี่ยไหลเวียนดี
00:24:59 → 00:25:01 ขึ้นนะครับเพราะฉะนั้นเมื่อไหลเวียนดี
00:25:01 → 00:25:04 ขึ้นเนี่ยนะครับเอ่อมันก็จะนำพาออกซิเจน
00:25:04 → 00:25:07 ไปเลี้ยงบริเวณเซลล์ตรงตรงอ่ามดลูกที่บีบ
00:25:07 → 00:25:10 ตัวนั้นให้ดีขึ้นนะครับอาการปวดอันนึงของ
00:25:10 → 00:25:12 ตัวมดลูกเนี่ยมันเกิดจากการมดลูกเนี่ยมัน
00:25:12 → 00:25:14 บีบตัวจนกระทั่งเ่อเหมือนกับมันใช้
00:25:14 → 00:25:17 ออกซิเจนจดหมดก็ทำให้เกิดการป่วยเหมือน
00:25:17 → 00:25:19 เราออกกำลังกายแล้ววิ่งเยอะๆเนี่ยบางที
00:25:19 → 00:25:21 มันเอ่อออกซิเจนใช้หมดแล้วเนี่ยมันจะเกิด
00:25:21 → 00:25:23 เป็นตะคิวที่ขาอะไรได้ิเราต้องนวดมาทาย
00:25:23 → 00:25:25 หรือว่าให้ให้กล้ามเนื้อมันมีการไหลเวียน
00:25:25 → 00:25:28 ของเลือดอันนี้ก็เช่นกันถ้าเรามีอ่า
00:25:28 → 00:25:31 กระเบาน้ำร้อนนะครับมีอาการเ่อคลายตัวแบบ
00:25:31 → 00:25:34 นอนให้คลายตัวไม่ไม่ได้เกิดการเกร็งท้อง
00:25:34 → 00:25:36 มากเนี่ยมันก็จะเป็นการดูแลที่จะช่วยลด
00:25:36 → 00:25:40 การใช้ยาแก้ปวดลงได้นะครับอืนะส่วนการทำ
00:25:40 → 00:25:42 ยาแก้ปวดนะครับาอย่างที่เราบอกหัวข้อเรา
00:25:42 → 00:25:45 วันนี้ว่าทานดีหรือไม่หรือไม่ทานดีนะครับ
00:25:45 → 00:25:50 ถ้าการทานนั้นอ่าทานเพื่อเรักษาเฉพาะ
00:25:50 → 00:25:52 อาการปวดที่ไม่ได้เป็นโรคทุติยภูมินะครับ
00:25:52 → 00:25:55 ค่ะเ่าหมอแนะนำให้ทานเพราะว่าดีกว่าเราไป
00:25:55 → 00:25:57 ทนนะครับนะเพียงว่าก็ต้องมั่นใจด้วยว่าจะ
00:25:57 → 00:26:01 ทานยาเนี่ยต้องไม่มีพวกภาวะโรคตับนะครับ
00:26:01 → 00:26:04 ยาทุกอย่างที่เราทานเนี่ยมันจะไปเหมือน
00:26:04 → 00:26:06 กับไปไปถูกย่อยสลายที่ตับแล้วก็เปลี่ยน
00:26:06 → 00:26:08 เป็นฟอร์มที่ออกฤทธิ์เพราะฉะนั้นต้องมั่น
00:26:08 → 00:26:10 ใจว่าเราไม่มีโรคตับที่ถ้าเกิดทานยาไปนาน
00:26:10 → 00:26:12 ๆแล้วเกิดอันตรายต่อตับแล้วก็ยาส่วนใหญ่
00:26:12 → 00:26:15 ก็มักจะถูกขับออกจากร่างกายทางไตเพราะ
00:26:15 → 00:26:17 งั้นก็ต้องมั่นใจด้วยว่าเราไม่มีโรคไต
00:26:17 → 00:26:19 อยู่นะครับเพราะฉะนั้นโยงมาถึงตรงเเราจะ
00:26:19 → 00:26:21 ใช้ยาแก้ปวดได้อย่างปลอดภัยหรือไม่เนี่ย
00:26:21 → 00:26:23 ตรงนี้ก็ต้องดูด้วยว่าสุขภาพโดยรวมของเรา
00:26:24 → 00:26:26 ทั้งตัดทั้งไตเราสมบูรณ์ดีมอันนี้ก็จะนำ
00:26:26 → 00:26:28 ไปสู่เหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องตจตรวจ
00:26:28 → 00:26:31 สุขภาพประจำปีด้วยนะครับถึงจะมั่นใจว่าทา
00:26:31 → 00:26:34 ยแกปวดได้โดยที่ไม่มีอันตรายนะครับค่ะคุณ
00:26:34 → 00:26:37 หมอคะอีกคำถามนึงก่อนจะพักเบรกครึ่งราย
00:26:37 → 00:26:41 การนะคะคุณศุภลักษ์สอบถามมาว่าถ้ากรณีที่
00:26:41 → 00:26:43 รับประทานยาแก้ปวดดักไว้ก่อนเนี่ยเอ่อ
00:26:43 → 00:26:46 เป็นเรื่องที่ถูกต้องในเรื่องของการระงับ
00:26:46 → 00:26:50 ปวดประจำเดือนถ้าอย่างนั้นการกินยาดักไข้
00:26:50 → 00:26:52 ไว้ก่อนเนี่ยจะช่วยได้ในเช่นเดียวกันมย
00:26:52 → 00:26:56 อันเนี้ยแค่แบบให้เปรียบเลยใช่อออันนี้ก็
00:26:56 → 00:26:58 เป็นเรื่องต่างกันครับคเวลาเราดักเรื่อง
00:26:59 → 00:27:01 อาการปวดเพราะว่าเราต้องการอ่ายาแก้ปวด
00:27:01 → 00:27:04 มันออกฤทธิ์โดยการไปตัดวงจรที่อ่าอ่า
00:27:04 → 00:27:07 ประสาทเส้นประสาทเราจะส่งสัญญาณไปบอกสมอง
00:27:07 → 00:27:09 เราว่าเรามีการปวดค่ะไปตัดวงจรตรงนั้น
00:27:09 → 00:27:11 ก่อนใช่มั้ยฮะเพราะฉะนั้นการกินดักไว้
00:27:11 → 00:27:14 ก่อนเนี่ยมันจะควบคุมการปวดได้ดีกว่าแต่
00:27:14 → 00:27:16 แน่นอนครับในยาแก้ปวดเราก็พูดกันติดปาก
00:27:16 → 00:27:19 ว่ายาแก้ปวดลดไข้มันก็มีส่วนควบคุมเรื่อง
00:27:19 → 00:27:22 การการมีไข้ได้ด้วยค่ะแต่การมีไข้นะครับ
00:27:22 → 00:27:24 สิ่งที่เราต้องคิดต่อก็คือการมีไข้อาจจะ
00:27:24 → 00:27:27 เกี่ยวโยงกับโรคสัมพันธ์เช่นเอ่อมีเรื่อง
00:27:27 → 00:27:30 ของการติดเชืเชนะครับซึ่งติดเชื้อในส่วน
00:27:30 → 00:27:32 ต่างๆของอวัยวะนะครับซึ่งตรงเนี้ยครับการ
00:27:32 → 00:27:34 รักษาที่ดีเนี่ยเราต้องไปรักษาการติด
00:27:34 → 00:27:37 เชื้อนั้นด้วยไม่ใช่แค่มาควบคุมเรื่องไข้
00:27:37 → 00:27:40 ดังนั้นการทานยาลดไข้โดยที่เรายังไม่มี
00:27:40 → 00:27:43 ไข้อยู่ก่อนเนี่ยนะครับนอกจากเป็นข้อเสีย
00:27:43 → 00:27:45 ทำให้เราไม่สามารถสังเกตอาการว่าเอ๊ะเรา
00:27:45 → 00:27:47 มีการติดเชื้อต่างๆลุกรามหรือไม่แล้ว
00:27:47 → 00:27:50 เนี่ยนะครับสิ่งที่ตามมาก็คือเราอาจจะ
00:27:50 → 00:27:54 เกิดการลักษณะของเอ่อการใช้ยาเอ่อลดไข้
00:27:54 → 00:27:57 โดยเกินความจำเป็นอย่างแค่ปประจำเดือนทาน
00:27:57 → 00:27:59 แค่ในช่วงประจำเดือนแต่ว่าไข้มันจะมีช่วง
00:27:59 → 00:28:02 ไหนก็ได้ใช่มั้ยครับเราเล่นทานยารดไข้ไป
00:28:02 → 00:28:04 เรื่อยๆตลอดทั้งช่วงการดำเนินชีวิตของเรา
00:28:04 → 00:28:06 เนี่ยอันนี้ไม่ดีแน่นะครับและจริงๆเนี่ย
00:28:06 → 00:28:09 อือเวลาติดตามรักษาคนไข้ที่มีการติดเชื้อ
00:28:09 → 00:28:12 นะครับนะเราใช้ไข้เป็นการดูอาการด้วยว่า
00:28:12 → 00:28:15 เรารักษาได้ผลหรือไม่หรือว่าโรคนั้นรม
00:28:15 → 00:28:17 หรือไม่เราดันไปกินยารถไข้ตลอดเลยจนไม่มี
00:28:17 → 00:28:20 ไข้สักักเวลาเดียวเราก็เลยไม่รู้เลยว่า
00:28:20 → 00:28:21 การติดเชื้อข้างในเนี่ยมันรุนแรงอยู่หรือ
00:28:21 → 00:28:24 มันดีขึ้นแล้วเพราะฉะนั้นเรื่องไข้ไม่แนะ
00:28:24 → 00:28:28 นำนะครับนะควรจะทานเมื่อมีไข้นะครับควรจะ
00:28:28 → 00:28:31 ทานเมื่อมีไข้นะคะเดี๋ยวช่วงนี้เราพักกัน
00:28:31 → 00:28:33 สักครู่ก่อนค่ะเดี๋ยวช่วงหน้ามาพูดคุยกัน
00:28:33 → 00:28:36 ต่อเกี่ยวกับเรื่องการอาการปวดประจำเดือน
00:28:36 → 00:28:38 แล้วก็ปวดแบบทุติยภูมิเนี่ยมีอะไรอีกบ้าง
00:28:38 → 00:28:41 เพิ่มเติมที่เราต้องเฝ้าระวังโรคต่างๆนะ
00:28:41 → 00:28:44 คะครับเรามาคุยกันต่อกับคุณหมอพูนศักดิ์
00:28:44 → 00:28:47 เลยค่ะว่าปวดประจำเดือนเนี่ยปวดแบบ
00:28:47 → 00:28:50 ทุติยภูมิเนี่ยมันนำมาซึ่งโรคร้ายอะไรได้
00:28:50 → 00:28:54 อีกบ้างสำหรับผู้หญิงค่ะครับนอกจากที่เรา
00:28:54 → 00:28:56 พูดถึงโรคที่สัมพันธ์กับรอบประจำเดือนนะ
00:28:56 → 00:28:59 ครับค่ะโรคที่ไม่สัมพันธก็อาจจะอยากบอก
00:28:59 → 00:29:02 บอกว่าเอ่อมีเยื่อบุครูดอยู่ที่การมี
00:29:02 → 00:29:05 เนื้องอกนะครับนะหรือว่าการมีพังผืดนะ
00:29:05 → 00:29:08 ครับมาพูดถึงเนื้องอกบ้างนะครับการเกิด
00:29:08 → 00:29:11 เนื้องอกที่มดลูกเนี่ยนะครับหรือที่
00:29:11 → 00:29:13 บริเวณปีกมดลูกหรือแม้กระทั่งที่รังไข่
00:29:13 → 00:29:16 ทั้ง 2 ข้างเนี่ยนะครับค่ะมันมีโอกาสเกิด
00:29:16 → 00:29:18 แล้วเนื้องอกนั้นจะพัฒนามีขนาดใหญ่ขึ้น
00:29:18 → 00:29:21 เรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปตอนเนื้องอกขนาด
00:29:21 → 00:29:23 เล็กๆเนี่ยอาจจะไม่รบกวนเราแลไม่ทำให้
00:29:23 → 00:29:26 เกิดอาการปวดแต่พอเนื้องอกอาการอ่ามีขนาด
00:29:26 → 00:29:29 ใหญ่เนี่ยเวลามดลูกจะบีบตัวเนี่ยมันก็จะ
00:29:29 → 00:29:31 ขัดขวางการบีบตัวของมดลูกเพราะฉะนั้นมด
00:29:31 → 00:29:33 ลูกก็ต้องบีบตัวแรงขึ้นอย่างที่เราบอกบีบ
00:29:33 → 00:29:35 ตัวเพื่อไล่เลือดเรือนออกมาเนี่ยมันก็จะ
00:29:35 → 00:29:38 บีบตัวแรงขึ้นเราก็จะปวดมากขึ้นตามขนาด
00:29:38 → 00:29:41 ของก้อนที่ใหญ่ขึ้นตัวขนาดของก้อนเนื้อ
00:29:41 → 00:29:43 งอกที่ใหญ่ขึ้นนั้นเองก็จะไปกดเบียดด้วย
00:29:43 → 00:29:45 ครับพอเนื้อว่ามันใหญ่มันก็ไปกดเบียด
00:29:45 → 00:29:47 อวัยวะรอบๆนะครับไม่ว่าจะเป็นกดเบียดคาพา
00:29:47 → 00:29:50 ปัสสวะที่อยู่ด้านหน้าของของตัวมัดลูก
00:29:50 → 00:29:54 หรือกดเบียดที่เอ่อทางลำไส้ลำไส้ใหญ่ส่วน
00:29:54 → 00:29:57 ปลายที่อยู่ด้านหลังของตัววัดรูกพอมัน
00:29:57 → 00:29:58 ใหญ่นะครับนึว่านอกที่ใหญ่ขึ้นเป็นกด
00:29:58 → 00:30:02 เบียดเนี่ยนอกนอกจากเราจะมีอาการในระบบ
00:30:02 → 00:30:04 เจริญพันธุของเราแล้วปวดตท้องน้อยแล้ว
00:30:04 → 00:30:06 เนี่ยมันยังอาจไปมีอาการของทางเดิน
00:30:06 → 00:30:09 ปัสสาวะเช่นเป็นกดเบียดทำให้เราปัสสาวะ
00:30:09 → 00:30:12 ไม่สุดปัสสาวะปวดปัสสาวะบ่อยผิดปกติเกิด
00:30:12 → 00:30:14 การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนะครับไปกด
00:30:15 → 00:30:17 เบียบทางด้านทวารหนักก็ทำให้อุจาระ
00:30:17 → 00:30:19 เคลื่อนมาไม่ได้ก็อาจจะทำให้เกิดลักษณะ
00:30:19 → 00:30:22 การท้องผูกสายท้องไม่สะดวกอะไรต่างๆเหล่า
00:30:22 → 00:30:25 นี้หรือปวดแล้วมันร้าวไปที่ด้านหลังนะ
00:30:25 → 00:30:27 ครับอันนี้ก็เป็นลักษณะอันนึงที่เวลาเรา
00:30:27 → 00:30:30 พิจารณาเรื่องการปวดนะครับนอกจากพิจารณา
00:30:30 → 00:30:32 เรื่องปวดประจำเดือนแล้วเนี่ยลักษณะการ
00:30:32 → 00:30:36 ปวดในท้องน้อยเนี่ยนะครับเอ่อเรายยังอาจ
00:30:36 → 00:30:39 แยกโรคที่เกี่ยวข้องได้จากตำแหน่งของการ
00:30:39 → 00:30:42 ปวดอย่างยกตัวอย่างถ้าเราปวดท้องน้อยแล้ว
00:30:42 → 00:30:44 ปวดตรงกลางนะครับเราก็นึกถึงอวัยวะที่
00:30:44 → 00:30:47 อยู่ตรงบริเวณช้องน้อยทั้งหมดนะครับเอ่อ
00:30:47 → 00:30:49 นอกจากระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของเราแล้ว
00:30:49 → 00:30:51 เนี่ยระบบที่เกี่ยวข้องก็คือระบบทางเดือน
00:30:51 → 00:30:53 อาหารครับลำไส้ทั้งหมดที่อยู่รอบๆลำไส้
00:30:53 → 00:30:56 เล็กลำไส้ใหญ่ไปจนถึงทวารหนักระบบต่อไปก็
00:30:56 → 00:30:59 คือระบบเอ่อทางปัสสวะทั้งส่วนของไตนะครับ
00:30:59 → 00:31:03 ท่อไตกพาปัสสาวะแล้วก็ท่อปัสสาวะนะครับ
00:31:03 → 00:31:06 อวัยวะต่างๆเหล่านี้เนี่ยนะครับอ่า
00:31:06 → 00:31:09 ตำแหน่งของการปวดเนี่ยมันจะบ่งชี้ได้ด้วย
00:31:09 → 00:31:11 ว่าเราเราจะสงสัยอะไรได้บ้างอย่างยตัว
00:31:11 → 00:31:12 อย่างถ้าเราปวดท้องน้อยแล้วมันอยู่ตรง
00:31:13 → 00:31:15 กลางเนี่ยนะครับนอกจากการปวดที่ตัวมดลูก
00:31:15 → 00:31:17 แล้วเนี่ยอาจจะเกิดจากการปวดที่กระเพาะ
00:31:17 → 00:31:20 ปัสสาวะก็ได้ซึ่งถ้าปวดกระเพาะปัสสาวะ
00:31:20 → 00:31:21 เนี่ยก็อาจจะเป็นลักษณะของการที่กระเพาะ
00:31:21 → 00:31:24 ปัสสาวะเกิดการอักเสบนะครับนะหรือกระเพาะ
00:31:24 → 00:31:26 ปัสวะมันแบบเกิดมีการแบบไหลเวียนปัสสาวะ
00:31:26 → 00:31:28 ไม่สะดวกทำให้มันโปร่งก็คือเหมือนกับ
00:31:28 → 00:31:30 ปัสสาวะอดปันปัสสวะไม่ออกพวกนี้ก็ทำให้
00:31:30 → 00:31:33 ปวดได้โดยที่ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับระบบ
00:31:33 → 00:31:36 เจริญพันธุของเราเลยนะครับใช่แต่ถ้าปวด
00:31:36 → 00:31:39 ตรงกลางเนี่ยเป็นกพวะเฉยๆก็ได้แต่ถ้าเป็น
00:31:39 → 00:31:41 เรื่องของตัวมดลูกเนี่ยนอกจากการมีเยี่ยว
00:31:41 → 00:31:44 บกงมลกเจริญผิดที่แล้วเนี่ยนะครับอาจจะมี
00:31:44 → 00:31:46 ลักษณะของเนื้องอกแล้วเนี่ยนะครับมันอาจ
00:31:46 → 00:31:50 จะมีการอักเสบของตัวมดลูกหรือในโพรงมดลูก
00:31:50 → 00:31:52 นะครับอาจจะเกิดมีเลือดมาคั่งอยู่หรือมี
00:31:52 → 00:31:54 หนองมีการอักเสบเกิดขึ้นก็จะมีอาการปวด
00:31:54 → 00:31:57 ตรงกลางท้องน้อยได้รวมไปถึงการปวดที่
00:31:57 → 00:31:59 เกี่ยวข้องกับกับการตั้งครร์ที่ผิดปกติ
00:31:59 → 00:32:01 เช่นอย่างที่เราบอกแล้วตั้งคันแล้วเกิด
00:32:01 → 00:32:03 การแท้งเนี่ยมันก็จะเกิดการปวดที่ตรงกลาง
00:32:03 → 00:32:06 ท้องน้อยแต่ถ้าการปวดนั้นไม่ได้อยู่ตรง
00:32:06 → 00:32:09 กลางแต่มันเอียงไปด้านข้างนะครับข้างซ้าย
00:32:09 → 00:32:12 หรือข้างขวาเนี่ยก็แสดงว่าถ้าเรามอง
00:32:12 → 00:32:14 เหมือนกับที่เราบอกว่าเมื่อกี้ถ้าปวดตรง
00:32:14 → 00:32:16 กลางเนี่ยมดลูกอาจจะมีเลือดหรือมีหนองมี
00:32:16 → 00:32:19 การอักเสบอยู่ในโพรงมลูกถ้าการอักเสบนั้น
00:32:19 → 00:32:21 มันไม่ได้อยู่ในโพรงลูกแต่มันอยู่ข้างๆไป
00:32:21 → 00:32:24 อยู่ที่ิมดลูกหรือว่าอุ้งเชิงกราเนี่ยนะ
00:32:24 → 00:32:26 ครับเกิดการอักเสบเนี่ยเราก็จะไปปวดด้าน
00:32:26 → 00:32:30 ข้างแทนนะครับบางคนปวดมากๆเนี่ยอาจจะเกิด
00:32:30 → 00:32:32 การอักเสบรุนแรงจนเป็นฝีหนองที่บริเวณปีก
00:32:33 → 00:32:35 มดลูกได้นะครับซึ่งพวกนี้เป็นภาวะที่รุน
00:32:35 → 00:32:37 แรงต้องให้ยาปฏิชีวนะต้องมีการผ่าตัด
00:32:37 → 00:32:40 รักษานะครับรวมถึงนะครับอย่างที่เราบอก
00:32:40 → 00:32:42 แล้วเยื่อบุคคลูกเจริญผิดที่ก็คือมัน
00:32:42 → 00:32:45 เจริญไปอยู่นอกมดลูกมันก็อาจจะไปอยู่ด้าน
00:32:45 → 00:32:47 ข้างของมดลูกนะครับเพราะฉะนั้นเราก็อาจจะ
00:32:47 → 00:32:49 ปวดจากไอ้ที่มลูกเจริญปิดที่หรือช็อก
00:32:49 → 00:32:52 แลกซิสเนี่ยแล้วไปปวดทางด้านข้างๆแทนก็
00:32:52 → 00:32:55 ได้นะครับรวมถึงถ้าการปวดตรงท้องน้อยไป
00:32:55 → 00:32:58 เกิดที่ด้านขวาเนี่ยอันนึงที่เราเคยได้
00:32:58 → 00:33:00 ยินกันบ่อยๆนี่คือต้องคิดถึงโรคไส้ติ่ง
00:33:00 → 00:33:02 อักเสบเพราะว่าตำแหน่งตรงนั้นน่ะเป็น
00:33:02 → 00:33:04 ตำแหน่งของไส้ติ่งนะครับมันจะอยู่ที่ท้อง
00:33:04 → 00:33:07 น้อยเนี่ยแล้วอยู่ทางด้านขวางนะครับครับ
00:33:07 → 00:33:10 คราวนี้การปวดเนี่ยนะครับเอ่อสมมุติเรา
00:33:10 → 00:33:13 ปวดที่ด้านข้างของท้องน้อยเนี่ยเอ่อเรา
00:33:13 → 00:33:15 ต้องคิดด้วยว่าปวดกี่ข้างนะครับถ้ามันปวด
00:33:15 → 00:33:17 ข้างเดียวก็อย่างที่บอกครับเราเป็นไส้
00:33:17 → 00:33:19 ติ่งได้ถ้าเป็นข้างขวานะครับหรือว่าอาจจะ
00:33:19 → 00:33:23 เป็นนิ่วในท่อไตก็ได้นะครับซึ่งถ้าเป็น
00:33:23 → 00:33:25 ข้างขวาก็ปวดข้างขวาเป็นข้างซ้ายก็ปวด
00:33:25 → 00:33:28 ข้างซ้ายนะครับหรือว่าอาจจะมีเนื้อรอก
00:33:28 → 00:33:30 หรือถุงน้ำของมดลูกหรือรังไข่เนี่ยที่มัน
00:33:30 → 00:33:33 เป็นข้างใดข้างหนึ่งเราก็จะปวดข้างเดียว
00:33:33 → 00:33:36 นะครับเพราะฉะนั้นปัจจุบันเถ้าเราเห็นว่า
00:33:36 → 00:33:38 มันมีลักษณะอาการป่วดที่ิดปกติเนี่ยมันมี
00:33:38 → 00:33:40 โรคที่เกี่ยวข้องอยู่หลายอย่างแบบเนะครับ
00:33:40 → 00:33:43 ดีที่สุดก็คือปัจจุบันมันมีเครื่องมือใน
00:33:43 → 00:33:45 การตรวจวินิจฉัยด้วยการทำอัตซาวนะครับ
00:33:45 → 00:33:47 ซึ่งอัตซาวเนี่ยเราสามารถเมันเป็นคลื่น
00:33:47 → 00:33:49 เสียงความถี่สูงนะครับซึ่งเรามีเครื่อง
00:33:49 → 00:33:51 มือเนี่ยถ้าเราตรวจทางหน้าท้องเราก็ไปวาง
00:33:51 → 00:33:54 ที่บริเวณหน้าท้องก็จะมีการทาเจลแล้วก็
00:33:54 → 00:33:57 วางหัวอันตาเอาไว้ค่ะถ้าอวัยวะนั้นอยู่
00:33:57 → 00:34:00 ลึกเราสสสเช่นในมดลูกหรือปีกมดลูกหรือลึก
00:34:00 → 00:34:03 ๆเนี่ยมันก็จะมีอัตซาวที่เอ่อสามารถใช้
00:34:03 → 00:34:06 ตรวจผ่านทางช่องคลอดได้นะครับนะก็จะก็จะ
00:34:06 → 00:34:09 เอ่อทำให้เราเห็นอวัยวะนั้นได้ชัดเจนขึ้น
00:34:09 → 00:34:12 นะครับครับการปรวจต่างๆเหล่านี้นะครับ
00:34:12 → 00:34:15 เอ่อส่วนใหญ่เนี่ยถ้ามันเป็นเยอะแล้วเรา
00:34:15 → 00:34:17 ทานยาแก้ปวดแล้วมันไม่หายเก็อย่างที่หมอ
00:34:17 → 00:34:20 เรียนไว้ตอนต้นก็คือว่าดีที่สุดเนี่ยเรา
00:34:20 → 00:34:22 อย่าพยายามรักษาเองไปเรื่อยๆครับเพราะว่า
00:34:22 → 00:34:24 เครื่องมือในการตรวจวินิจฉัยในปัจจุบัน
00:34:24 → 00:34:26 เนี่ยจะทำให้เราสามารถทราบโรคที่เได้
00:34:26 → 00:34:28 อย่างรวดเร็วแล้วก็ทำให้เรารักษาได้ตรง
00:34:28 → 00:34:31 กับภาวะนั้นได้เร็วขึ้นนะครับเพราะฉะนั้น
00:34:31 → 00:34:34 ต้องคิดถึง 3 ระบบนะไม่ว่าจะเป็นระบบสืบ
00:34:34 → 00:34:37 พันธุ์ของเรานะครับระบบเอ่อทางเดิน
00:34:37 → 00:34:40 ปัสสาวะหรือรวมไปถึงระบบทางเดินอาหารนะ
00:34:40 → 00:34:42 ครับอย่างสมมติท้องผูกปวดร้าไปด้านหลัง
00:34:42 → 00:34:45 เนี่ยเราก็ต้องคิดถึงเอ๊ะมันมีอาจจะมี
00:34:45 → 00:34:47 เนื้องอกที่ลำไส้มนะครับแล้วมันทำให้เรา
00:34:48 → 00:34:52 ปวดก็ได้นะครับค่ะอืก็จะมีหลายโรคที่
00:34:52 → 00:34:54 เกี่ยวข้องนะครับก็ขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่ง
00:34:54 → 00:34:56 ของการปวดลักษณะของการปวดนั้นๆนะครับซึ่ง
00:34:56 → 00:34:59 โดยทั่วไปเนี่ยเนี่ยเอ่อถ้าจะวินิจฉัย
00:34:59 → 00:35:01 จริงๆเนี่ยต้องอาศัยการตรวจร่างกายของคุณ
00:35:01 → 00:35:04 หมอนะครับซักประวัติของลักษณะการปวดแล้ว
00:35:04 → 00:35:06 ก็ก็จะมีเครื่องมือต่างๆที่ช่วยเราให้
00:35:06 → 00:35:08 วินิจฉัยได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็น xray
00:35:08 → 00:35:11 หรือการเอ่อตรวจน้ำักสาวนะครับอแสดงว่า
00:35:11 → 00:35:14 แสดงว่าโดยปกติแล้วอ่ะเอ่อการปวดประจำ
00:35:14 → 00:35:17 เดือนมันจะมีระยะเวลาที่ปวดเอ่ออาจจะ 3
00:35:17 → 00:35:20 วัน 5 วันอะไรงี้ใช่มั้ยคุณหมอแต่ว่าถ้า
00:35:20 → 00:35:24 ปวดด้วยสาเหตุเอ่อโรคอื่นมันจะปวดบ่อย
00:35:24 → 00:35:28 กว่านั้นหรือถี่กว่านั้นใช่ครับเราอาจ
00:35:28 → 00:35:30 เวลาเราพูดถึงการปวดประจำเดือนเนี่ยนะ
00:35:30 → 00:35:32 ครับครับถ้าเป็นปวดประจำเดือนเพียวๆเนี่ย
00:35:32 → 00:35:34 ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วปวดประจำเดือนเพราะ
00:35:34 → 00:35:36 ฉะนั้นตอนไม่มีประจำเดือนก็ไม่ควรจะป่วด
00:35:36 → 00:35:38 ค่ะเพราะมันสัมพันธ์กันประจำเดือนนะครับ
00:35:38 → 00:35:40 แต่แน่นอนการมีเนื้องอกหรือโรคอื่นๆอย่าง
00:35:41 → 00:35:43 เช่นอย่างเช่นช็อกโกแลคซีที่เราบอกเยที่
00:35:44 → 00:35:46 เนี่ยนะครับมันเกิดอาการปวดในช่วงประจำ
00:35:46 → 00:35:49 เดือนได้นะครับแต่ช่วงอื่นนั้นเราต้องไม่
00:35:49 → 00:35:51 ลืมว่าถ้าพ้นจากช่วงประจำเดือนไปแล้ว
00:35:51 → 00:35:54 เนี่ยไอ้เจ้าเนื้องอกที่มีอยู่นะครับมัน
00:35:54 → 00:35:57 ไม่ได้หายไปไหนไอ้เจ้าเอ่อีฟหรือถุงนน้ำ
00:35:57 → 00:36:00 ที่มีอยู่ไม่ได้หายไปไหนเพราะฉะนั้นมันก็
00:36:00 → 00:36:02 จะมีโอกาสปวดในเวลาอื่นที่นอกจากรอบประจำ
00:36:02 → 00:36:05 เดือนไปด้วยค่ะโดยเฉพาะยิ่งถ้ามันปวดตรง
00:36:05 → 00:36:09 นั้นซ้ำๆซๆแล้วก็อ่าสมมติออย่างอันนึงที่
00:36:09 → 00:36:11 เราพูดกันถึงว่าปวดเนี่ยมันอาจจะเกิดจาก
00:36:11 → 00:36:14 พังผืดนะครับพังผืดมันดึงรังอวยวะเนี่ย
00:36:14 → 00:36:17 มันมามายึดติดกันนะครับเพราะฉะนั้นเวลา
00:36:17 → 00:36:19 เราเคลื่อนไหวเนี่ยมันก็จะเกิดการดึงรัง
00:36:20 → 00:36:22 บางคนแบบจะรู้สึกเลยว่าปวดเนี่ยมันปวดมาก
00:36:22 → 00:36:24 ขึ้นเเราเปลี่ยนอิริยาบถอะไรอย่างเงี้ย
00:36:24 → 00:36:27 เราก็จะคิดถึงลักษณะของโรคที่ผิดปกติหรือ
00:36:27 → 00:36:30 พังได้มากขึ้นเพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงการปวด
00:36:30 → 00:36:32 เนี่ยนะครับลักษณะการปวดตำแหน่งการปวดนะ
00:36:32 → 00:36:37 ครับเอ่อการปวดนั้นสัมพันธ์กับอ่ากิจวัตร
00:36:37 → 00:36:39 ประจำวันที่เราทำหรือไม่นะครับเช่นบางคน
00:36:39 → 00:36:41 เนี่ยอย่างที่บอกเวลาเคลื่อนไหวปิยบทปวด
00:36:42 → 00:36:43 มากขึ้นเวลาพักมันปวดน้อยลงอันนี้เราก็
00:36:43 → 00:36:46 คิดถึงพวกลักษณะของการอักเสบการมีผืๆราย
00:36:46 → 00:36:49 ได้นะครับค่ะนะนอกเหนือจากนั้นเนี่ยนะ
00:36:49 → 00:36:52 ครับการปวดเนี่ยนะครับถ้าเราสังเกตได้ว่า
00:36:52 → 00:36:54 การปวดเนี่ยนะครับ
00:36:54 → 00:36:57 มันมีลักษณะที่ว่ามันเป็นการปวดที่เฉียบ
00:36:58 → 00:37:00 พลันนะครับเฉียบพลันเนี่ยมันก็อาจจะเป็น
00:37:00 → 00:37:03 ลักษณะของการมีพวกถุงน้ำซีสอะไรต่างๆที่
00:37:03 → 00:37:07 อยู่ในเ่าปิ่งมดลูกหรือรังไข่แล้วมันเกิด
00:37:07 → 00:37:10 การแตกเวลามันแตกออกเนี่ยนะครับนะมันมัน
00:37:10 → 00:37:13 เกิดมันจะเกิดมีการรั่วของของของเหลียว
00:37:13 → 00:37:16 ที่อยู่ในไอ้เจ้าซีสหรือถุงน้ำนั้นค่ะพอ
00:37:16 → 00:37:18 ของเหลวนั้นรั่วลงไปในช่องท้องเนี่ยเราจะ
00:37:18 → 00:37:21 มีอาการปวดอย่างรุนแรงนะครับเหตุผลก็คือ
00:37:21 → 00:37:23 ว่ามันเป็นระบบป้องกันของร่างกายเราไงถ้า
00:37:23 → 00:37:26 ยวะอะไรฉีกขาดหรือแตกหรือว่าอะไรเกิด
00:37:26 → 00:37:29 เงี้ยมันมีมีเลือดออกมีมีอะไรต่างๆไหล
00:37:29 → 00:37:31 อยู่ในท้องเราเนี่ยธรรมชาติมันจะเตือนเรา
00:37:31 → 00:37:33 ให้รู้ว่าเฮ้ยมันเกิดความผิดปกติขึ้นนะ
00:37:33 → 00:37:38 โดยโดยที่ทำให้ปวดดดแรงขึ้นมาอืค่ะครับ
00:37:38 → 00:37:41 การรับประทานยาแก้ปวดในช่วงปวดประจำเดือน
00:37:41 → 00:37:46 เนี่ยคือมันไม่ได้อันตรายหรือว่าไม่ไม่
00:37:46 → 00:37:48 ได้มีผลอะไรกับร่างกายใช่มั้ยคะหมอครับ
00:37:49 → 00:37:51 การทันในระยะสั้นในช่วงไม่กี่วันของการมี
00:37:51 → 00:37:54 มีประจำเดือนแล้วก็ถ้าเราไม่ได้มีลักษณะ
00:37:54 → 00:37:56 ของการแพ้ยานั้นเราไม่ได้มีโรคตับอยู่นะ
00:37:56 → 00:37:59 ครับซึ่งซึ่งเราทานยาไปเรๆมันอาจจะสะสมค
00:37:59 → 00:38:01 ให้ตับเสียหรือว่าเราไม่ได้มีโรคไตหรือ
00:38:01 → 00:38:04 การทำงานผิดปกติโรไตที่ทำให้การกำจัดยา
00:38:04 → 00:38:07 เนี่ยทำได้ไม่เต็มที่อันเนี้ยก็จะถือว่า
00:38:07 → 00:38:11 ทานได้โดยไม่มีอันตรายนะครับอืค่ะนะครับ
00:38:11 → 00:38:13 แต่ว่าดีที่สุดเนี่ยนะครับหมอก็อยากถ้า
00:38:13 → 00:38:16 ท่านที่ทานแล้วเห็นว่าเอ๊ะมันต้องทานต่อ
00:38:16 → 00:38:18 เนื่องเรื้อรังเรื่อยๆเนี่ยนะครับวิธีการ
00:38:18 → 00:38:21 อันนึงที่เราใช้กันเนี่ยนะครับก็คือถ้า
00:38:21 → 00:38:23 หากเราให้ยาแก้ปวดแล้วรู้สึกว่าต้องเพิ่ม
00:38:23 → 00:38:25 ขนาดยาไปเรื่อยๆแล้วอาการปวดนั้นมันไม่ดี
00:38:25 → 00:38:28 ขึ้นนะครับนะหรือว่าขึ้นแต่ก็ต้องบางที
00:38:28 → 00:38:31 บางทีทานยาแก้ปวดอยู่อ่ะแต่ก็ก็เหมือนกับ
00:38:31 → 00:38:33 มันไม่หายขาดอ่ะคนที่เป็นเยอะๆเนี่ยจะ
00:38:33 → 00:38:35 เข้าใจนะฮบางทีกินยาแก้ปวดแรงๆแล้วเนี่ย
00:38:35 → 00:38:37 แต่มันเหมือนกับแค่ทุเราลงแต่ก็ยังต้อง
00:38:37 → 00:38:40 นอนตัวงอเราอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมนะฮะใน
00:38:40 → 00:38:42 ลักษณะแบบนี้เนี่ยทางการแพทย์เราจะมองไป
00:38:42 → 00:38:44 ถึงว่าเมื่อมันเป็นอาการปวดที่เกิดจาก
00:38:44 → 00:38:48 ประจำเดือนเราก็ไปหยุดที่ต้นเหตุมันเลยดี
00:38:48 → 00:38:50 กว่านะครับเราก็จะไปมองถึงการถ้าอย่าง
00:38:50 → 00:38:53 งั้นเนี่ยหาวิธีทำให้คนนั้นไม่มีประจำ
00:38:53 → 00:38:56 เดือนอือ่าพอเไม่มีประจำเดือนก็มันป่วย
00:38:56 → 00:39:00 ประจำเดือนไงคอารปประจำเดือนมันก็จะหายไป
00:39:00 → 00:39:03 นะครับครับนะวิธีที่ทำให้มีประจำเดือน
00:39:03 → 00:39:07 วิธีที่ 1 ก็ทำให้คนนั้นท้องซะอออ่าถ้า
00:39:07 → 00:39:11 ถ้าเราท้องซะเราก็ไม่ยังไม่มีคู่คที่หมอ
00:39:11 → 00:39:13 บอกก็คือไอ้เยื้องไอ้บวกงลูกเนี่ยมันเป็น
00:39:13 → 00:39:16 ที่ที่สะสมเลือดเอาไว้ให้ลูกตัวดังนั้น
00:39:16 → 00:39:19 ถ้าเราตั้งครรภ์ขึ้นมาเนี่ยเยื่อบุเนี่ย
00:39:19 → 00:39:22 ก็จะยังคงหนาตัวอยู่เพื่อเพื่อส่งอาหารไป
00:39:22 → 00:39:25 เลี้ยงลูกแล้วก็จะไม่ล่อมาเดือนนะครับ
00:39:25 → 00:39:27 อาการป่วดประจำเดือนก็จะหายไปเพราะมันไม่
00:39:27 → 00:39:31 มีประจำเดือนที่ 2 นะครับจะเป็นการให้ยา
00:39:31 → 00:39:34 ครับให้ฮอร์โมนเพื่อไปทำให้เอ่อระบบประจำ
00:39:34 → 00:39:36 เดือนเนี่ยมันไม่มีการไหลของประจำเดือน
00:39:36 → 00:39:39 ออกมาค่ะฮอร์โมนที่เรานิยมใช้ก็เป็น
00:39:39 → 00:39:41 ฮอร์โมนที่เกิดในร่างกายของเรานะครับเป็น
00:39:41 → 00:39:43 ฮอร์โมนที่ชื่อว่าโปรเจสเตอโรนนะครับซึ่ง
00:39:43 → 00:39:45 การให้จสนแบบนี้นะครับเราอาจจะมีทั้งรูป
00:39:45 → 00:39:49 แบบในการฉีดนะครับฉีด 1 เข็มเนี่ยจะ
00:39:49 → 00:39:52 สามารถควบคุมประจำเดือนไปได้ 3 เดือนเลย
00:39:52 → 00:39:54 ให้ไม่มีประจำเดือนหรือประจำเดือนมาน้อย
00:39:54 → 00:39:57 ลงนะครับครับหรืออาจจะมาในรูปแบบของยารับ
00:39:57 → 00:39:59 ประทานที่เป็นโปรเจสเตอโรนเพียวๆเลยนะ
00:39:59 → 00:40:02 ครับก็ทำให้ประจำเดือนเนี่ยมันมาน้อยลง
00:40:02 → 00:40:04 หรือขาดหายไปเพราะฉะนั้นอาการปวดประจำ
00:40:04 → 00:40:07 เดือนก็จะดีขึ้นไปด้วยนะครับอือหรืออาจจะ
00:40:07 → 00:40:10 เป็นลักษณะของการให้เอ่อนอกจาก
00:40:10 → 00:40:12 โปรเจสเตอโรนแล้วเนี่ยอาจจะให้ฮอร์โมน
00:40:12 → 00:40:14 เอสโตรเจนร่วมด้วยเหมือนกับการรับประทาน
00:40:14 → 00:40:16 ยาไม่คุมกำเนิดน่ะที่มันจะมีทั้ง
00:40:16 → 00:40:19 เอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรนอยู่แต่พอเราทาน
00:40:19 → 00:40:21 ยาไม่คุมกำเนิดเนี่ยนะครับมันจะมีผลทำให้
00:40:21 → 00:40:23 เยื่อปกพงลูกเนี่ยที่ธรรมชาติมันหนาตัว
00:40:23 → 00:40:25 เกินแล้วทำให้เราปวดท้องเนี่ยนะครับเพราะ
00:40:25 → 00:40:28 มีเลือดออกเยอะเนี่ยมันจะหนาตัวน้อยลงพอ
00:40:28 → 00:40:30 มันหาตัวน้อยลงนะครับเลือดประจำเดินออก
00:40:30 → 00:40:33 น้อยลงเลือดประจำเดินออกน้อยลงมดลุกก็บีบ
00:40:33 → 00:40:35 ตัวน้อยลงไงเพราะมันไม่ต้องไล่เลือดเยอะ
00:40:35 → 00:40:37 นะครับอาการปวก็จะดีขึ้นเพราะฉะนั้นทานยา
00:40:37 → 00:40:40 ทานยาคุมกำเนิดเนี่ยนะครับช่วยควบคุมให้
00:40:40 → 00:40:42 ประจำเดือนมาสม่ำเสมอขึ้นปริมาณประจำ
00:40:42 → 00:40:46 เดือนมาน้อยลงและปวดท้องน้อยลงอืนะครับ
00:40:46 → 00:40:49 ครับท้ายที่สุดถ้าเราต้องการหยุดสาเหตุ
00:40:49 → 00:40:51 ของการมีประจำเดือนนั้นเนี่ยนะครับนะก็
00:40:51 → 00:40:54 คือง่ายๆประจำเดือนมันออกมาจากมดลูกใช่
00:40:54 → 00:40:58 มั้ยครับค่ะเราก็ตัดมลูออกอือนะครับแต่
00:40:59 → 00:41:00 อันนั้นกรณีนั้นมันมักจะเป็นลักษณะของการ
00:41:01 → 00:41:03 ปวดประจำเดือนที่มันมากับการมีเนื้องอก
00:41:03 → 00:41:05 อะไรต่างๆแล้วที่เราพิจารณาดูแล้วว่ามัน
00:41:05 → 00:41:07 จำเป็นต้องผ่าตัดและใช้ฮอร์โมนใช้ยาแล้ว
00:41:07 → 00:41:09 มันไม่ค่อยได้ผลนะครับหรือว่าเนื้องอกมัน
00:41:09 → 00:41:13 มีขนาดใหญ่มากนะครับก็เราผ่าตัดมดลูกออก
00:41:13 → 00:41:15 มดลูกเป็นที่ผลิตประจำเดือนเราก็จะไม่มี
00:41:15 → 00:41:17 ประจำเดือนเราไม่มีประจำเดือนมันก็เรื่อง
00:41:17 → 00:41:20 เรื่องปดประจำเดือนก็จบไปนะครับค่ะครับ
00:41:20 → 00:41:22 แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วเนี่ยนะครับเวลาเราจะ
00:41:22 → 00:41:24 พิจารณาว่าคนไหนถึงขั้นจะต้องไปผ่าตัดอ่า
00:41:24 → 00:41:27 มดลูกออกมก็อย่างที่บอกครับมันจะต้อง
00:41:27 → 00:41:29 รักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผลหรือว่าเอ่อมดลูก
00:41:29 → 00:41:31 นั้นเกิดอาการปวดจากการมีเนื้องอกหรือยื
00:41:31 → 00:41:34 ลูกจริญผิดที่ที่มันเอ่อเนื้องอกขนาดใหญ่
00:41:34 → 00:41:36 มากละซึ่งเราคิดว่าการให้ยาเนี่ยมันไม่
00:41:36 → 00:41:39 ได้ผละเราจำเป็นต้องผ่าออกดีกว่านะครับ
00:41:39 → 00:41:41 แล้วก็คนๆนั้นเนี่ยจะต้องไม่มีความ
00:41:41 → 00:41:43 ประสงค์จะมีบุตรแล้วด้วยเพราะว่าถ้าเรา
00:41:43 → 00:41:45 ผ่าตัดมดลูกออกเนี่ยเราก็ไม่มีทางมีบุตร
00:41:45 → 00:41:48 ด้วยตัวเองได้แล้วไงสมมติจะมีบุตรก็ต้อง
00:41:48 → 00:41:50 เอาเอาไปฝากมดลูกคนอื่นก็จะกลายเป็นการ
00:41:50 → 00:41:53 อุ้มบุญไปนะครับครับแล้วก็อีกอันนึงถ้า
00:41:53 → 00:41:55 เราจะพิจารณาว่าเรามีงนปวดประจำเดือนจะ
00:41:55 → 00:41:58 ต้องพาสมดลูกออกมอะไรอย่าเงี้ยนะครับเรา
00:41:58 → 00:42:02 พิจารณาอายุด้วยสมมุติอายุเราเนี่ยนะครับ
00:42:02 → 00:42:04 ของของที่ปวดประจำเดือนมากๆเราคิดว่าโอ
00:42:04 → 00:42:06 ไม่ไหวแล้วต้องผ่าตัดเนื้องอกผ่าตัดตัวมด
00:42:07 → 00:42:10 ลูกทั้งมดลูกออกดีมั้ยเนี่ยนะฮะเราดูอายุ
00:42:10 → 00:42:13 ว่าอายุเราใกล้ไวหมดประจำเดือนหรือยังถ้า
00:42:13 → 00:42:15 มันใกล้ไหมดประจำเดือนมากๆแล้วอ่ะครับค่ะ
00:42:15 → 00:42:20 นะเอ่อสุเราประคับประคองไปให้ยาแก้ปวดที่
00:42:20 → 00:42:23 มันอ่ารุนแรงขึ้นที่มันออกรได้ดีขึ้นนะ
00:42:23 → 00:42:25 ครับแล้วก็ให้ฮอร์โมนต่างๆไปลดประจำเดือน
00:42:25 → 00:42:27 ให้ปริมาณน้อยลงอย่างที่เรายกตัวอย่างจะ
00:42:27 → 00:42:29 เป็นชนิดรับประทานหรือฉีดก็ได้เนะครับ
00:42:29 → 00:42:33 แล้วก็เหมือนดึงมันไปนะครับจนกระทั่งอายุ
00:42:33 → 00:42:35 เราไปเข้าสู่ช่วงหมวดประจำเดือนปวดประจำ
00:42:36 → 00:42:38 เดือนก็จบไงฮะอาการป่วดประจำเดือนก็หายไป
00:42:38 → 00:42:40 เพราะว่ามันไม่มีประจำเดือนมาอีกแล้วอื
00:42:40 → 00:42:42 ค่ะนะครับแต่ว่าวิธีนี้มันจะใช้ไม่ได้ใน
00:42:42 → 00:42:44 คนที่สมมติว่ามีเนื้องอกใหญ่ๆปวดจากเนื้อ
00:42:44 → 00:42:47 งอกแต่อายุรเพึ่ง 30 เองโหกว่าเราจะหมด
00:42:47 → 00:42:49 ประจำเดือนมัน 48-50 มันจะทนไปอีก 18 ปี
00:42:49 → 00:42:52 20 ปีอันนั้นมันไม่ไหวหรอกก็อาจจะมีแนว
00:42:52 → 00:42:56 โน้มจะไปสู่การผ่าตัดมากขึ้นอืนะครับค่ะ
00:42:56 → 00:42:59 ถ้าอืนี้หัวข้อของเราที่วันเราพูดแบบเนะ
00:42:59 → 00:43:02 ครับสิ่งนึงที่คนจะสงสัยอยู่ว่าปวดประจำ
00:43:02 → 00:43:05 เดือนเนี่ยงั้นสรุปแล้วเนี่ยโอเคเราไม่
00:43:05 → 00:43:08 ว่ามันจะแยกก็เป็นปฐมภูมิทุติยภูมิอะไรก็
00:43:08 → 00:43:10 ตามเนี่ยนะครับแล้วเราถ้าเราบอกว่าอย่าง
00:43:10 → 00:43:14 ที่บอกอ่ะเราทนปวดดีมั้ยหรือว่าเราทานยา
00:43:14 → 00:43:17 อีอนะครับอจริงๆแล้วเนี่ยนะครับถ้าเราพูด
00:43:17 → 00:43:21 ถึงเอ่อข้อความนี้ก็คือมันไม่มีอะไรผิด
00:43:21 → 00:43:22 ไม่มีอะไรถูกก็คือ
00:43:22 → 00:43:26 เอ่อทนปวดเนี่ยนะครับอาการปวดเนี่ยมันส่ง
00:43:26 → 00:43:30 ผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไรรบ้างนะครับมัน
00:43:30 → 00:43:33 นอกจากส่งผลกระทบทำให้เอ่อเราอาจจะมีโรค
00:43:33 → 00:43:35 ร้ายต่างๆอย่างที่บอกไปแล้วต่างๆตาเนี่ย
00:43:35 → 00:43:37 นะครับสิ่งนึงก็คือมันกระทบกับการดำเนิน
00:43:37 → 00:43:39 ชีวิตนะครับบางท่านเนี่ยเราจะเห็นว่ามัน
00:43:40 → 00:43:42 จะปวดประจำเดือนเนี่ยต้องลาโรงเรียนหรือ
00:43:42 → 00:43:46 ลางานเลยถ้าเป่วดใช่ๆใช่มครับซึ่งมันมัน
00:43:46 → 00:43:48 มันก็จะไม่มีนายจ้างไหนอ่ะครับที่แบบจะ
00:43:48 → 00:43:51 ให้เราลาทุกเดือนแต่เออเอ่อเห็นใจเรา
00:43:51 → 00:43:53 หน่อยว่าบวดประจำเดือนประเดือน 2 เดือนก็
00:43:53 → 00:43:56 พอทนนะแต่ถ้าลาทุกเดือนเป็นกิจวัตรเนี่ย
00:43:56 → 00:43:59 ขืนืนายจ้างท่านให้ลาตลอดเนี่ยมันก็จะ
00:43:59 → 00:44:00 เป็นตัวอย่างกับเพื่อนคนอื่นเนี่ยเดี๋ยว
00:44:00 → 00:44:03 อีกต่อไปทุกคนก็ลาเพราะว่าระบบจำเดือนมัน
00:44:03 → 00:44:05 เป็นอาการที่มันไม่มีมาตรวัดขึ้นมาฮะว่า
00:44:05 → 00:44:08 เป็นตัวเลขขึ้นมาบนหน้าเรามันแบบเราแบบทำ
00:44:08 → 00:44:11 หน้าเหเกมาบอกันนี้ป่วดประจำเดือนขอลางาน
00:44:11 → 00:44:13 ไงมันจะไปรู้ได้ไงว่าปวดไม่ปวดแค่ไหนถูก
00:44:13 → 00:44:16 มั้ยฮะเพราะฉะนั้นเอ่ออาการปวดเนี่ยมัน
00:44:16 → 00:44:19 อาจจะรุนแรงจนกระทั่งไปรบกวนการดำเนิน
00:44:19 → 00:44:22 ชีวิตของเราเพราะฉะนั้นแทนที่เราจะถามว่า
00:44:22 → 00:44:25 ทนปวดหรือกินยาดีเนี่ยการกินยาเนี่ยครับ
00:44:25 → 00:44:27 ถ้าเราไม่มีโรคแทรกซ้อนตับเราดีไปเราดีซะ
00:44:27 → 00:44:29 อย่างแล้วการกินมันเป็นระยะสั้นๆเนี่ย
00:44:29 → 00:44:32 เอ่อการกินยาก็คงจะดีกว่าไปทน
00:44:32 → 00:44:37 ปวดนะครับแต่ว่าการกินยานั้นก็ไม่ควรจะ
00:44:37 → 00:44:41 กินยานานเกินไปไม่ควรกิติดต่อกันนานเกิน
00:44:41 → 00:44:45 ไปใช่มนานเกินไปใช่ครับติดต่อกันไปดที่
00:44:45 → 00:44:48 เราไม่ได้หาสาเหตุเลยอืครับอันนี้เราพูด
00:44:48 → 00:44:49 ถึงในกรณีที่เรามั่นใจว่าการป่วยประจำ
00:44:50 → 00:44:52 เดือนของเรานั้นน่ะมันไม่มีโรคอื่นๆแทรก
00:44:52 → 00:44:54 ซ้อนอยู่เนี่ยเราจะทานทุกๆเดือนเนี่ยที่
00:44:54 → 00:44:56 หมอบอกไว้แล้วมันก็ไม่ได้มีอันตรายอะไร
00:44:56 → 00:44:59 มากมายนะครับแต่ว่านะครับเราบอกว่าทนมไม่
00:44:59 → 00:45:02 ควรทนปวดก็กินยาให้มันหายทนหายปวดซอย่าไป
00:45:02 → 00:45:06 ทนแต่ควรจะกินยาดีหรือไม่ก็ถ้ามันกินยา
00:45:06 → 00:45:09 แล้วมันเกิดต่อเนื่องนานจนเกินไปเนี่ย
00:45:09 → 00:45:11 หรือต้องเพิ่มขนดยาขึ้นเรื่อยๆเนี่ยเอ่อ
00:45:11 → 00:45:13 อย่าอยู่เฉยๆครับให้ไปปรึกษาคุณหมอเพราะ
00:45:13 → 00:45:15 ว่าเอ่อเราจะต้องตรวจให้เจอแล้วว่ามัน
00:45:15 → 00:45:18 เป็นสาเหตุจากอะไรแล้วก็แทนที่จะมารักษา
00:45:18 → 00:45:20 ด้วยปลายเหตุคือให้ยาแก้ปวดมันเหมือน
00:45:20 → 00:45:23 รักษาปลายเหตุฮะเ่อถ้าเราเิงสาเหตุเราไป
00:45:23 → 00:45:27 รักษาที่สาเหตุนมันเช่นเกิดยรู้จผิดที่
00:45:27 → 00:45:30 อ่าจัดการมันมีซีมีถุงน้ำอยู่ผ่าตัดออกมย
00:45:30 → 00:45:32 นะครับหรือว่ามีเนื้องอกอยู่กำจัดมันออก
00:45:32 → 00:45:35 มยอันเนี้ยครับอ่าก็จะเป็นการรักษาเรื่อง
00:45:35 → 00:45:38 อาการป่วดประจำเดือนที่ดีกว่าและตรงจุด
00:45:38 → 00:45:42 มากกว่านะครับอืค่ะคุณหมอขาขนขอความรู้
00:45:42 → 00:45:44 หน่อยค่ะว่าการที่ผู้หญิงแบบเอ่อเหมือน
00:45:44 → 00:45:48 คุมกำเนิดโดยการใส่ห่วงอนามัยเข้าไปใน
00:45:48 → 00:45:51 เอ่อตัวเอ่อมดลูกอย่างเงี้ยค่ะที่คุณหมอ
00:45:51 → 00:45:54 บอกว่าเวลาเรามีประจำเดือนน่ะมดลูกเขาจะ
00:45:54 → 00:45:56 บีบตัวมากขึ้นแล้วเมื่อไปเจอกับห่วง
00:45:56 → 00:45:58 อนามัยที่เขาอยู่ข้างในอ่ะมันจะทำให้ผู้
00:45:58 → 00:46:01 หญิงเจ็บมากกว่าคนที่ไม่ใส่ห่วงมคะอ่า
00:46:02 → 00:46:04 ห่วงอนามัยเนะครับจะเป็นวัสดุที่เป็น
00:46:04 → 00:46:07 วัสดุที่เหมือนกับจะทำด้วยลักษณะคล้ายๆ
00:46:07 → 00:46:09 พลาสติกเนะครับนะอาจจะมีการหุ้มสารที่
00:46:10 → 00:46:11 เรียกว่าคอปเปอร์อยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม
00:46:11 → 00:46:14 หรือว่าหรือว่าไอ้วัสดุพวกเนี้ยหลักการ
00:46:14 → 00:46:16 ของมันก็คือเอาไปวางอยู่ในช่องว่างในโรม
00:46:16 → 00:46:19 ลูกของเราเนี่ยนะครับจะทำให้สภาพของโพลูก
00:46:19 → 00:46:21 เนี่ยมันไม่เหมาะสมกับการฝั่งตัวของตัว
00:46:21 → 00:46:24 อ่อนมันก็เลยเป็นกลไกในการคุมกำเนิดเพราะ
00:46:24 → 00:46:26 ฉะนั้นการการคุมกำเนิด้วหงอนามัยเนี่ยจ
00:46:27 → 00:46:29 เป็นวิธีการที่มันมีข้อดีในเชิงที่ว่าเรา
00:46:29 → 00:46:31 ใส่ไปครั้งเดียวเนี่ยเราสามารถคุมได้นาน
00:46:31 → 00:46:35 เลยนะครับหุมเนี่ยอาจจะวางไว้ถึง 5 ปีนะ
00:46:35 → 00:46:36 ครับค่อยเปลี่ยนครั้งนึงก็ได้มันก็สะดวก
00:46:36 → 00:46:39 กว่าการต้องมานั่งทานยาคุกำเนิดทุกวันใช่
00:46:39 → 00:46:42 มั้ยฮะแล้วก็หวงอนามัยเนี่ยนะครับเอ่อมัน
00:46:43 → 00:46:45 เป็นเอ่อวิธีการคุณกำเนิดที่ไม่มีผลกระทบ
00:46:45 → 00:46:47 กับรอบประจำเดือนของเราอย่างสมมุติเราทาน
00:46:47 → 00:46:49 ยาคุณกำเนิดฉีดยาคุณกำเนิดเนี่ยมันมี
00:46:49 → 00:46:51 ฮอร์โมนมันจะไปลบควนรอบประจินปกติของเรา
00:46:51 → 00:46:54 ได้แต่ว่าห่อนามัยเนี่ยมันเป็นแค่วัสดุ
00:46:54 → 00:46:57 ที่ไปวางขวางพื้นที่ฝัตัวไว้เฉยๆ
00:46:57 → 00:46:59 นะครับคราวนี้พุงมลูกของเรานั้นเนี่ยนะ
00:46:59 → 00:47:03 ครับนะมันมีช่องว่างอยู่เพียงพอที่ว่าถ้า
00:47:03 → 00:47:06 มีห่วงอนามัยไปอยู่เนี่ยนะครับนะเอ่อมัน
00:47:06 → 00:47:08 เหมือนกับว่าอ่ะห้องอันเนี้ยนะครับเรา
00:47:08 → 00:47:10 นั่งอยู่บนในห้องเนี่ยนะครับเราไม่ได้ติด
00:47:10 → 00:47:13 กับผนังห้องมากจนเกินไปจนที่ถึงขั้นจะมี
00:47:13 → 00:47:16 การบีบแล้วทำให้เกิดการปวดการเกร็งได้อ่ะ
00:47:16 → 00:47:19 ค่ะเพราะฉะนั้นเราใส่หัวอนามัยเนี่ยเ่อ
00:47:19 → 00:47:21 ทุกๆท่านที่ใส่เนี่ยให้ให้รู้ไปเลยครับ
00:47:21 → 00:47:23 เราจะรู้สึกว่าเอ๊ะเราใส่หัวมยเนี่ยเราจะ
00:47:23 → 00:47:25 รู้สึกมว่ามีไอ้ห่วงนี้ตลอดเวลาเนี่ยพอ
00:47:25 → 00:47:28 ใส่ไปจริงๆก็จะไม่รู้สึกเลยครับอือเพราะ
00:47:28 → 00:47:30 ว่าเ้าไม่วางตัวอยู่ในช่องว่างเฉยๆอ่ะเ้า
00:47:30 → 00:47:32 ไม่ได้แทรกไม่ได้ฝังตัวอยู่กับกับอวัยวะ
00:47:32 → 00:47:35 ของเราแค่ไปอยู่ตรงพื้นที่ว่างนะครับดัง
00:47:35 → 00:47:38 นั้นการวอนามัยเนี่ยเราจะปวดประจำเดือน
00:47:38 → 00:47:42 เนี่ยเราก็ปวดเท่าเดิมกับที่เราปวดครับอื
00:47:42 → 00:47:44 อ่ามันไม่ได้ไอ้การมีห่วงอยู่หรือไม่มี
00:47:44 → 00:47:46 ห่วงอยู่เนี่ยอันนี้ไม่ได้ส่งผลอะไรนะ
00:47:46 → 00:47:49 ครับอืตอนแรกงั้นถ้าเป็นท่านที่อยากคุม
00:47:49 → 00:47:51 กำเนิดก็ให้คุมกำเนิดด้วยห่วงเพราะเหตุผล
00:47:51 → 00:47:53 ทการคุงกำเนิดอย่าไปกลัวไอเรื่องว่าปวด
00:47:53 → 00:47:57 ประจำเดือนมากขึ้นนะครับอืค่ะอือ้อที่คุณ
00:47:57 → 00:47:59 ขวัญถามมาอาจจะเป็นกรณีอย่างนี้ด้วยครับ
00:47:59 → 00:48:01 เดี๋ยวนี้จะมีห่วงอนามัยชนิดนึงที่มีการ
00:48:01 → 00:48:03 เคลือบฮอร์โมนไว้ด้วยครับมันเป็นฮอร์โมน
00:48:03 → 00:48:06 โสโนที่เหมือนกับว่าไปช่วยกลไกการคุม
00:48:06 → 00:48:09 กำเนิดอครับค่ะเอ่อคุมกำเนิดอันที่ 1
00:48:09 → 00:48:12 ห่วงอนามัยเนี่ยมันไปขวางไว้ให้ฝังตัวไม่
00:48:12 → 00:48:14 ได้ใช่มยแต่ว่าการคุณกำเนิดอย่างอื่นก็
00:48:14 → 00:48:16 คือถ้ามีฮอร์โมนอย่างเช่นยาคุณกำเนิด
00:48:16 → 00:48:18 เนี่ยมันไปป้องกันตั้งแต่ไม่ให้มีการ
00:48:18 → 00:48:20 สร้างไข่หรือสร้างไข่มาแล้วไข่ก็ตกไม่ดี
00:48:20 → 00:48:23 ไปป้องกันการตกไข่นะครับหือตกไข่เสร็จ
00:48:23 → 00:48:25 ปุ๊บมันไปเปลี่ยนแปลงสภาพของมูกที่ปากลูก
00:48:26 → 00:48:29 ทำให้อสุจิมันว่ายเข้ามาหาไข่ได้ยากขึ้น
00:48:29 → 00:48:31 นะครับหรือท้ายที่สุดเกิดปฏิสนธิกลายเป็น
00:48:31 → 00:48:34 ตัวอ่อนแล้วมาฝังตัวก็พื้นขวัดขัดขวาง
00:48:34 → 00:48:36 พื้นที่ฝังตัวอันนี้เป็นกลไกการควบคุม
00:48:36 → 00:48:38 ทั้งหมดดังนั้นห่วงอนามัยเนี่ยมันควบคุม
00:48:38 → 00:48:40 อันสุดท้ายคือเรื่องการพื้นที่ฝังตัวใช่
00:48:40 → 00:48:43 มั้ยครับแต่ว่ามันก็จะมีกระบวนการของการ
00:48:43 → 00:48:46 ใช้หอนมัยที่มีฮอร์โมนอยู่ด้วยมันก็
00:48:46 → 00:48:48 เหมือนกับประยุกต์ 2 อย่างเลยก็คือในห่วง
00:48:48 → 00:48:52 เนี่ยอ่ามีนอกจากขวางการฝังตัวแล้วมันยัง
00:48:52 → 00:48:55 ไปควบคุมในเรื่องของระบบการตกไข่ระบบการ
00:48:55 → 00:48:57 สร้างประจำเดือนเท่าๆกับเราที่เราเหมือน
00:48:57 → 00:48:59 กับเรากินยาคุมกำเนิดหรือฉีดยาคุมที่มี
00:48:59 → 00:49:02 ฮอร์โมนเพราะฉะนั้นถ้าเป็นห่วงอนามัยชนิด
00:49:02 → 00:49:04 ที่มีฮอร์โมนอยู่ด้วยเนี่ยนะครับมันจะส่ง
00:49:04 → 00:49:07 ผลคล้ายๆกับเราได้ใช้ยาคุมก็คือทำให้
00:49:07 → 00:49:09 ประจำเดือนนั้นมาปริมาณน้อยลงเพราะมันไป
00:49:09 → 00:49:12 มันไปยับยั้งฮอร์โมนไปยับยั้งการตกไข่ไ
00:49:12 → 00:49:15 ครับเพราะฉะนั้นก็อาจจะส่งผลให้คนที่ใส่
00:49:15 → 00:49:18 หนอนามัยชนิดที่มีฮอร์โมนเนี่ยนะครับปวด
00:49:18 → 00:49:21 ประจำเดือนน้อยลงได้ครับอือ่าเพราะงั้น
00:49:21 → 00:49:23 มันไปรักษาอาการตรงนี้ไปรักษาอาการพวก
00:49:23 → 00:49:26 เยื่อปุคคลพรูกเจริญผิดที่ทำให้อ่าอาการ
00:49:26 → 00:49:28 ปวดประประจำเดือนของคนไคนไขเอ่อคนผู้หญิง
00:49:28 → 00:49:31 คนนั้นเนี่ยดีขนได้ค่ะครับดังนั้นใส่ห่วง
00:49:31 → 00:49:33 ไม่ได้ปวดมากขึ้นนะครับแต่ว่าถ้าใส่ห่วง
00:49:33 → 00:49:35 แบบมีฮอร์โมนเนี่ยน่าจะช่ให้ปวดน้อยลงซะ
00:49:35 → 00:49:39 มากกว่าโอ้โหอืเพราะความเข้าใจตอนแรกก็
00:49:39 → 00:49:42 ใส่เข้าไปข้างในแล้วมันบีบบีบบีบรัดตอน
00:49:42 → 00:49:45 ที่กำลังจะมีประจำเดือนเอ๊ะมันจะปวดมาก
00:49:45 → 00:49:48 ขึ้นหรือเปล่าอมันเป็นบีบไปโดนมใช่ครับ
00:49:48 → 00:49:51 นี้เราจะเราจะคิดอย่างงั้นกันแต่ว่าอย่าง
00:49:51 → 00:49:53 อย่างให้รู้สึกว่าอะไครับในทุกท่านที่ไป
00:49:53 → 00:49:55 ใส่ห่วงนมัยจะรู้เลยครับพอเราใส่ห่วงไป
00:49:55 → 00:49:57 เนี่ยห่วงมันอยู่กับเราทุกวันนะครับเรา
00:49:57 → 00:49:59 เดินเหินใช้ชประจำวันเนี่ยเราไม่รู้สึก
00:49:59 → 00:50:02 ว่ามีอะไรอยู่เลยนะครับค่ะอืเพราะฉะนั้น
00:50:02 → 00:50:04 หลายๆคนเนี่ยนะครับเวลาใส่หวน้ำไมเนี่ย
00:50:04 → 00:50:07 แล้วถามว่าเรารู้ได้ไงว่าห่วงยังอยู่นะ
00:50:07 → 00:50:09 ครับอันที่ 1 ครับการไปตรวจเนี่ยนะครับ
00:50:09 → 00:50:11 คุณหมอจะสามารถตรวจด้วยการอัตซาวดูได้ว่า
00:50:11 → 00:50:14 ห่วงอยู่ข้างในใหค่ะอ่าอันที่ 2 ก็คือ
00:50:14 → 00:50:17 เวลาเราใส่ห่วงเนี่ยห่วงอนามัยเนี่ยมันจะ
00:50:17 → 00:50:19 มีเหมือนกับหางของมันครับเป็นสายที่อยู่
00:50:19 → 00:50:21 ที่ปลายห่วงอนามัยเนี่ยแล้วโผล่พ้นปากบ
00:50:21 → 00:50:24 ลูกมาโผล่พ้นมาทำไมมีประโยชน์ 2 อย่าง
00:50:24 → 00:50:28 อย่างที่ 1 นะครับใช้เป็นที่ที่เวลาพอเรา
00:50:28 → 00:50:30 ห่วงข้อกำหนดเงี้เราต้องถอดออกเนี่ยเราก็
00:50:30 → 00:50:33 จะดึงแบบจับไอ้สายเนี่ยแล้วดึงห่วงออกมา
00:50:33 → 00:50:36 ทางช่องคลอดได้ค่ะนะครับประโยชน์อันที่ 2
00:50:36 → 00:50:39 ก็คือใช้สำหรับการติดตามดูนั่นแหละครับ
00:50:39 → 00:50:42 ว่าห่มันยังอยู่หรือเปล่าอือเพราะฉะนั้น
00:50:42 → 00:50:44 ใส่หัวทำไมเนี่ยเราไม่รู้สึกว่ามีอะไร
00:50:44 → 00:50:47 อยู่ในตัวเราเลยนะครับค่ะนะเพราะฉะนั้น
00:50:47 → 00:50:49 มันจะไม่สามารถถามได้เอ๊ะวันนี้คุณรู้สึก
00:50:49 → 00:50:52 ว่าไอ้ที่มันอยู่ในตัวหายไปมั้ยอะไรเงี้ย
00:50:52 → 00:50:54 นะครับมันมันไม่มีทางเพราะงั้นคนนิใส่จะ
00:50:54 → 00:50:55 ไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าเราจะรู้ว่ามีห่วง
00:50:55 → 00:50:57 หรือไม่มีห่วงเนี่ยเราต้องไปส่องดูว่าสาย
00:50:57 → 00:51:00 มันยังอยู่หรือเปล่าเท่านั้นเองเพราะ
00:51:00 → 00:51:02 ฉะนั้นไม่ต้องกลัวครับใส่ห่วงเนี่ยเราใช้
00:51:02 → 00:51:05 ชีวิตปกติเลยครับไม่รู้สึกว่ามีอะไรค่ะ
00:51:05 → 00:51:08 ครับพอพูดถึงการคุมกำเนิดโดยใช้การใช้
00:51:08 → 00:51:10 ห่วงอนามัยอีกเรื่องนึงที่ขวัญสงสัยนิด
00:51:10 → 00:51:14 นึงค่ะคุณหมอว่าการกินยาพวกยาคุมฉุกเฉิน
00:51:14 → 00:51:17 ไอ้เพื่อการคุมกำเนิดอ่ะนะคะแต่ว่าตัวนี้
00:51:17 → 00:51:19 มันก็จะทำให้มี
00:51:19 → 00:51:23 เอ่อรอบเดือนที่อาจจะไม่เลื่อนไปไม่ตรง
00:51:23 → 00:51:26 อย่างเงี้ยค่ะตัวยาคุมฉุกเฉินน่ะมีผลต่อ
00:51:26 → 00:51:28 อารปวดประจำเดือนมยหรือไม่เกี่ยวข้องกัน
00:51:28 → 00:51:32 คะครับเอ่อยาคนกำเนิดเนี่ยที่เราต้องกิน
00:51:32 → 00:51:34 ทุกวันใช่มั้ยครับหรือว่าเราต้องฉีดเข้า
00:51:34 → 00:51:35 ไปเพื่อให้มันอยู่ในร่างกายเราทุกวัน
00:51:35 → 00:51:37 สมมติฉีดเข็มนึงอยู่ได้ 3 เดือนอย่างที่
00:51:37 → 00:51:39 ว่าเนี่ยนะครับนะเหตุผลเพว่ามันจะมีการ
00:51:39 → 00:51:41 ปลดปล่อยฮอร์โมนมาในร่างกายเราทุกวันใน
00:51:41 → 00:51:44 ปริมาณน้อยพอมันออกมาทุกวันเนี่ยมันจะควบ
00:51:44 → 00:51:46 คุมทุกอย่างเลยครับควบคุมการสร้างไข่การ
00:51:46 → 00:51:49 ตกไข่เปลี่ยนแปลงมูกที่ปากมดลูกทำให้พื้น
00:51:49 → 00:51:51 ที่ของเยื่อปคุมรุกไม่เหมาะสมกับการฝั่ง
00:51:51 → 00:51:55 ตัวต่างๆเงยระบบของยาคูมันป้องกันให้เรา
00:51:55 → 00:51:58 แต่ว่าถ้ามันเป็นการใช้ยาคุมที่เรียกว่า
00:51:58 → 00:52:01 ฉุกเฉินเนี่ยนั่นหมายถึงว่าเราไม่ได้ป้อง
00:52:01 → 00:52:02 กันมันไว้ทุกวันแต่วันนั้นดันพลาดแต่เกิด
00:52:03 → 00:52:04 มีเพศอพันโดยไม่ได้ป้องกันแล้วอาตายแล้ว
00:52:04 → 00:52:07 เรากลัวจะตั้งครร์ขึ้นมาทำไงดีล่ะจะต้อง
00:52:07 → 00:52:09 รีบป้องกันครับวิธีอย่างเงี้ยนะครับเราจะ
00:52:09 → 00:52:12 ใช้ฮอร์โมนที่มีขนาดสูงมากๆค่ะบรรจุไว้ใน
00:52:12 → 00:52:14 เมยาแล้วรีบทานทันทีที่เรารู้สึกว่าเอ้ย
00:52:14 → 00:52:16 เราไปพลาดแล้วไปมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้อง
00:52:16 → 00:52:18 กันอย่างน้อยๆมันก็ไปส่งผลทำให้ป้องกัน
00:52:18 → 00:52:21 ไม่ให้เอ่อทำให้เยื่อบุลมันไม่เหมาะที่
00:52:21 → 00:52:23 ตัวอ่อนจะมาฝัตัวได้เพราะว่ามันไปตนั้น
00:52:23 → 00:52:25 มันยับยั้งการไข่ตกอะไรไม่ทันแล้วเพราะ
00:52:25 → 00:52:27 มันถ้าไข่ตกปฏิที่อะไรเกิดเป็นตัวอ่อนไป
00:52:27 → 00:52:30 แล้วก็ไปป้องกันไม่ให้มันมาฝัตัวนี้พอมัน
00:52:30 → 00:52:33 มีฮอร์โมนขนาดสูงเนี่ย 1 มันจะไปรบกดรอบ
00:52:33 → 00:52:36 ประจำเดือนปกติของเราคนที่ทานยาคุฉุกเฉิน
00:52:36 → 00:52:37 เนี่ยนะครับสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือรอบประจำ
00:52:37 → 00:52:40 เดือนมันจะเคลื่อนไปค่ะหรือกลายเป็นมี
00:52:40 → 00:52:42 เลือดออกกระปิกระปอยนะครับแล้วคราวนี้
00:52:42 → 00:52:45 สิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยมันจะสร้างความทุกข์
00:52:45 → 00:52:47 ใจให้กับคนที่ใช้ยาคุนกับฉุกเฉินฉุกเฉิน
00:52:47 → 00:52:49 แปลว่าอะไรไม่ได้ป้องกันไว้ก่อนแล้วกลัว
00:52:49 → 00:52:51 ท้องใช่มั้ครับค่ะตอนนี้พเราไปทานมันมัน
00:52:51 → 00:52:54 ดันไปทำให้ประดินเราไม่มาอีกไงไอ้เราก็
00:52:54 → 00:52:57 ตุ้มๆต่อมๆอยู่แล้วมันว่าเราจะท้องมยยิ่ง
00:52:57 → 00:53:00 ปวดหัวอยู่เลยว่าตายแล้วมันไม่มาใช่ว่า
00:53:00 → 00:53:03 ตายแล้วท้องแล้วแงๆเลยพลาดจริงๆว่าเราไป
00:53:03 → 00:53:06 กินมันก็เลยเลื่อนไปนะครับครับเพราะ
00:53:06 → 00:53:08 ฉะนั้นสิ่งที่ฮอร์โมนขนาดสูงเนี่ยนะครับ
00:53:09 → 00:53:11 จะทำให้เกิดความผิดปกติของรอบประจำเดือน
00:53:11 → 00:53:14 มาไม่ตรงกำหนดปริมาณประจำเดือนปกติเช่นมา
00:53:14 → 00:53:17 กระปกระปอยนะครับนะแล้วมากระจระจนกระทั่ง
00:53:17 → 00:53:19 เอ่อหมดฤทธิ์ของยาเี่นะครับซึ่งบางทีมัน
00:53:19 → 00:53:21 อาจจะต้องกินเวลาไปถึงอีก 1 รอบเดือนกว่า
00:53:21 → 00:53:24 มันจะกลับไปเป็นรอบเดือนปกติในเดือนถัดไป
00:53:24 → 00:53:28 ค่ะครับนะครับจึงไม่ควรใช้บ่อยๆนะครับอือ
00:53:28 → 00:53:31 ใช้มันเค้าเรียกว่าฉุกเฉินน่ะก็ต้องใช้
00:53:31 → 00:53:33 ตัวฉุกเฉินไม่ใช่ฉุกเฉินทุกเดือนเลยนะฮะ
00:53:33 → 00:53:35 ฉุกเฉินทุกอาทิตย์เลยเนี่ยอันนี้ไม่ใช่ะ
00:53:35 → 00:53:37 อันนี้คือเราไม่รู้จักป้องกันตัวเองเพราะ
00:53:37 → 00:53:40 ว่าถ้าเราใช้ฮอร์โมนในขนาดสูงไปเรื่อยๆ
00:53:40 → 00:53:43 บ่อยๆอาจจะทำให้เกิดซีสเกิดเนื้องอกอะไร
00:53:43 → 00:53:47 โตขึ้นได้อือค่ะแต่จะไม่ส่งผลกับการป่วย
00:53:47 → 00:53:50 ประจำเดือนนะค่ะอ่าเพราะฉะนั้นไอ้ไอไอตรง
00:53:50 → 00:53:52 นี้ไม่ต้องห่วงครับมันไปส่งผลเรื่องอื่น
00:53:52 → 00:53:54 เรื่องรอบประจำเดือนกับเรื่องของการเกิด
00:53:54 → 00:53:57 ซีสเกิดเืงอกมากกว่าอืค่ะครับก็ถือว่าครบ
00:53:57 → 00:54:01 ข้อมูลในเรื่องของการปวดประจำเดือนว่าควร
00:54:01 → 00:54:04 ทนปวดหรือว่าทานยาก็คือต้องแยกให้ออกว่า
00:54:04 → 00:54:07 เราเนี่ยปวดประจำเดือนแบบปฐมภูมิหรือ
00:54:07 → 00:54:11 ทุติยภูมิแล้วก็ถ้าลักษณะการปวดที่รับ
00:54:11 → 00:54:14 ประทานยาแล้วยังไม่ดีขึ้นการไปตรวจพบ
00:54:14 → 00:54:16 แพทย์เนี่ยถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
00:54:16 → 00:54:20 นะคะวันนี้ขอบคุณบต้นมากเลยค่ะครับผมก็
00:54:20 → 00:54:23 ทิ้งท้ายไว้นะครับอย่าลืมนะครับเอ่อถึง
00:54:23 → 00:54:25 แม้เราจะทำปนแล้วดีขึ้นครบปีนึงต้องตรวจ
00:54:25 → 00:54:30 ภายในประจำปีด้วยนะอ่าสำคัญนะปกันครับค่ะ
00:54:30 → 00:54:33 ขอบคุณหมอต้นครับค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับ
00:54:33 → 00:54:37 คุณปสวัสดีครับครับค่ะสวัสดีค่ะนายแพทย์
00:54:37 → 00:54:41 พูลศักดิ์สุชนวณิชนะคะสูตินารีแพทย์ที่
00:54:41 → 00:54:46 ประจำรายการของเราในคืนวันพฤหัสบดีค่ะ