00:00:12 → 00:00:19 สวัสดีครับ ขอต้อนรับสู่โรงพยาบาลลานนา ช่องที่จะให้ความรู้ในเรื่องทางการแพทย์และสุขภาพ
00:00:19 → 00:00:23 นพ.ประทีป มัลโฮตรา เชี่ยวชาญเรื่องโรคทางเดินอาหารและตับ
00:00:23 → 00:00:30 คําถามคือ เมื่อคนไข้มีอาการปวดท้องเมื่อไหร่ผมถึงจะทําการส่องกล้องทางเดินอาหาร
00:00:30 → 00:00:36 ปกติเราจะต้องเข้าใจกันก่อนในเรื่องของกายวิภาคของร่างกาย ถ้าเราเปรียบช่องท้องของเรา
00:00:36 → 00:00:45 เปรียบเสมือนแก้วที่ซ้อนกันอยู่สองใบ แก้วด้านนอกจะเปรียบเสมือนผิวด้านนอกช่องท้องของเรา
00:00:45 → 00:00:54 ส่วนแก้วด้านในเปรียบเสมือนลําไส้ พื้นที่ที่อยู่ระหว่างแก้วสองใบคือพื้นที่ที่อยู่ระหว่างผิวด้านนอก
00:00:54 → 00:01:03 ของลําไส้และตัวผนังหน้าท้องช่องว่างจะประกอบไปด้วยอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ไต ม้าม หรือมดลูก
00:01:03 → 00:01:12 แล้วเวลาที่เราปวดท้องถ้าเกิดสงสัยว่าความผิดปกติอยู่ในลําไส้เราก็จะทําการส่องกล้องทางเดินอาหารดู
00:01:12 → 00:01:21 แต่ถ้าเราสงสัยว่าเกิดความผิดปกติ เช่น ไส้ติ่ง หรือถุงน้ำดีก็จะเลือกทําการตรวจโดยใช้เรื่องของ CT สแกน
00:01:21 → 00:01:26 หรือว่าอัลตร้าซาวด์เพื่อให้ได้คําตอบ ส่วนอาการที่บ่งชี้เรื่องของความผิดปกติในลําไส้
00:01:26 → 00:01:33 ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารแล้วปวดท้อง หิวก็ปวด อิ่มก็ปวด กลืนอาหารแล้วรู้สึกว่าติดบริเวณลําคอ
00:01:33 → 00:01:38 อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด หรือบางครั้งถ่ายมีมูกปน
00:01:38 → 00:01:46 ถือว่าเป็นอาการที่เราจะต้องทําการส่องกล้องทางเดินอาหารดูเพื่อดูผิวด้านในของลําไส้ว่ามีความผิดปกติอะไร
00:01:46 → 00:01:53 ส่วนใหญ่ความผิดปกติก็มักจะมีตั้งแต่ความปกติ(ที่ไม่ปกติ)สองคือมีการอักเสบ สามก็คือแผล
00:01:53 → 00:01:59 และสี่คือ สิ่งที่ทุกคนไม่อยากเห็นคือเรื่องของมะเร็งลําไส้ที่บอกว่าส่องกล้องแล้วปกติ
00:01:59 → 00:02:04 คือเป็นกลุ่มโรคลําไส้แปรปรวน กระเพาะแปรปรวนซึ่งกลุ่มโรคนี้ปัจจุบันเราพบมากขึ้น
00:02:04 → 00:02:14 ซึ่งส่วนใหญ่พบในวัยทํางาน กลุ่มโรคลําไส้แปรปรวนข้อมูลทางการแพทย์ปัจจุบันชี้ว่าส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความเครียดเป็นหลัก
00:02:15 → 00:02:27 ยกตัวอย่างมีคนไข้ 2 คน คนมีอาการกินอาหารแล้วแสบยอดอก แสบลิ้นปี่ แบบนี้ความผิดปกติน่าจะอยู่ที่บริเวณกระเพาะ
00:02:27 → 00:02:33 ผมก็จะเลือกใช้การส่องกล้องเป็นหลัก เพื่อดูว่ามีการอักเสบหรือว่าเป็นแผล
00:02:33 → 00:02:39 ส่วนอีกคนมีอาการท้องอืดแน่นท้อง กินอาหารมันมันแล้วปวดชายโครงด้านขวาเป็นหลัก
00:02:39 → 00:02:47 อาการแบบนี้อาจเข้าข่ายของนิ่วในถุงน้ำดี ฉะนั้นอาการแบบนี้อาจจะไม่จําเป็นต้องมาส่องกล้องทางเดินอาหาร
00:02:47 → 00:02:52 เราจะเลือกใช้วิธีการตรวจคือการทําอัลตร้าซาวด์เพื่อดูนิ่วในถุงน้ำดี
00:02:52 → 00:02:55 อีกอาการที่เจอบ่อย
00:02:55 → 00:03:01 คือมีอาการปวดท้องน้อยด้านขวา ไปตรวจร่างกายแล้วมีการกดเจ็บก็สงสัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ
00:03:01 → 00:03:07 แบบนี้ไม่ต้องส่องกล้องไปทํา CT สแกน เพื่อจะได้ดูความผิดปกติของไส้ติ่งอักเสบหรือไม่
00:03:08 → 00:03:17 แล้วโรคปวดท้องหรืออาการปวดท้องมีได้หลายสาเหตุมากการวินิจฉัยล่าช้าส่วนใหญ่มาจากการที่เราเข้าใจตัวเองผิดไป
00:03:17 → 00:03:25 อย่างเช่นว่า เรามีอาการปวดท้องเราจะสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะแล้วพอมาตรวจกลายว่าเป็นมะเร็งกระเพาะ
00:03:25 → 00:03:31 อีกกรณีเจอบ่อยมากครับ คือการถ่ายเป็นเลือดซึ่งส่วนใหญ่จะคิดว่าตัวเองเป็นริดสีดวง
00:03:31 → 00:03:42 แต่เมื่อมาทําการตรวจพบว่าเป็นมะเร็งลําไส้ใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมะเร็งลําไส้ใหญ่ใประเทศไทยพบมากในคนอายุน้อยมากขึ้น
00:03:42 → 00:03:49 ฉะนั้นแล้วถ้าท่านมีอาการปวดท้องหรือว่ามีความผิดปกติแล้วไม่แน่ใจควรรีบมาปรึกษาแพทย์
00:03:49 → 00:03:52 เพื่อได้รับการวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้อง