00:00:04 → 00:00:06 สวัสดีคุณผู้ชมทุกท่านนะครับต้อนรับอยู่
00:00:06 → 00:00:09 ด้วยกันกับรายการสุขภาพดีกับหมอสวนดอก
00:00:09 → 00:00:11 ครับรายการสุขภาพประจำคณะแพทยวิทยาศาสตร์
00:00:12 → 00:00:14 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับวันนี้อยู่กับผม
00:00:14 → 00:00:16 นะครับนรพลคำวาจากงานศึกษาองกร์คณะแพทย์
00:00:16 → 00:00:19 วิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับคุณ
00:00:19 → 00:00:22 ผู้ชมครับเรื่องราวในวันนี้หลายๆท่านติด
00:00:22 → 00:00:24 ตามอยากจะรับฟังหัวข้อนี้กันมานะครับมี
00:00:24 → 00:00:27 การ inbox ส่งเข้ามาหลายๆประเด็นหลายๆคำ
00:00:27 → 00:00:31 ถามในเรื่องของโรคที่คนไทยเป็นกันเยอะเลย
00:00:31 → 00:00:34 นั่นก็คือในเรื่องของโรคไตวันนี้กับหัว
00:00:34 → 00:00:37 ข้อเลือกกินอย่างไรให้ห่างไกลโรคไตโรคที่
00:00:37 → 00:00:40 คนไทยเป็นเยอะนะครับแล้วก็ที่สำคัญวันนี้
00:00:40 → 00:00:43 เราได้เรียนเชิญอาจารย์แพทย์ของเรานะครับ
00:00:43 → 00:00:46 ซึ่งท่านเป็นอายุรแพทย์โรคไตประจำคณะ
00:00:46 → 00:00:49 แพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะได้มา
00:00:49 → 00:00:51 พูดคุยกับคุณผู้ชมทุกท่านครับวันนี้เรา
00:00:51 → 00:00:53 ถ่ายทอดสดผ่านทาง 2 ช่องทางด้วยกันไม่ว่า
00:00:53 → 00:00:55 จะเป็นใน Facebook เพจคณะแพทยยศาสตร์
00:00:55 → 00:00:58 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และใน Facebook เพจ
00:00:58 → 00:01:00 สุขภาพดีกับหมอสวนดอกนะครับคุณผู้ชมที่
00:01:00 → 00:01:03 กำลังรับชมอยู่ด้วยกันตอนนี้สามารถพิมพ์
00:01:03 → 00:01:05 คอมเมนต์พูดคุยกันเข้ามาได้ไม่ว่าจะมีคำ
00:01:05 → 00:01:08 ถามหรือว่าอยากจะร่วมแชร์ประสบการณ์ต่างๆ
00:01:08 → 00:01:11 นะครับอยากจะพูดคุยกับอาจารย์แพทย์ของเรา
00:01:11 → 00:01:14 อาจารย์หมอของเราหรือใครที่กำลังรับชม
00:01:14 → 00:01:16 อยู่ที่จังหวัดไหนกันบ้างก็สามารถพิมพ์
00:01:16 → 00:01:18 คอมเมนต์พูดคุยกันเข้ามาได้ที่สำคัญนะ
00:01:18 → 00:01:21 ครับฝากกดไลค์กดแชร์แล้วก็กดติดตาม
00:01:21 → 00:01:23 Facebook แฟนเพจของทางทั้งช่อง 2 ช่อง
00:01:23 → 00:01:25 ทางของทางคณะแพทย์ยศาสตร์นะครับแล้วก็
00:01:25 → 00:01:28 Facebook แฟนเพจสุขภาพดีกับหมอสวนดอกของ
00:01:28 → 00:01:31 เราด้วยนะครับโดยเฉพาะวันนี้ครับเราจะมา
00:01:31 → 00:01:34 ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร
00:01:34 → 00:01:38 การเลือกกินยังไงให้เอ๊ห่างไกลจากโรคไต
00:01:38 → 00:01:41 ซึ่งต้องบอกว่าเป็นโรคที่คนไทยเป็นค่อน
00:01:41 → 00:01:44 ข้างจะเยอะวันนี้เราจะมาพูดคุยกับอาจารย์
00:01:44 → 00:01:46 หมอของเรานะครับซึ่งท่านเป็นอายุรแพทย์
00:01:46 → 00:01:50 โรคไตภาควิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์
00:01:50 → 00:01:52 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นะครับรวมถึงท่านยัง
00:01:52 → 00:01:54 เป็นท่านรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช
00:01:54 → 00:01:57 นครเชียงใหม่ด้วยนะครับต้อนรับอาจารย์หมอ
00:01:57 → 00:02:00 อยู่ด้วยกันนะครับผมกับท่านองศย์ดรนาย
00:02:00 → 00:02:03 แพทยขจรศักดิ์นพคุณครับสวัสดีครับอาจารย์
00:02:03 → 00:02:06 หมอครับสวัสดีครับสวต้อนรับอยู่ด้วยกัน
00:02:06 → 00:02:08 กับสุขภาพดีกับหมอสวนดอกนะครับอาจารย์
00:02:08 → 00:02:11 ครับวันนี้ก็บรรยากาศจังหวัดเชียงใหม่
00:02:11 → 00:02:14 ช่วงนี้กำลังอากาศหนาวเย็นอากาศดีเลยนะ
00:02:14 → 00:02:16 ครับแต่วันนี้ครับอาจารย์หมอครับเราจะมา
00:02:16 → 00:02:21 พูดคุยถึงโรคที่คนไทยเป็นเยอะตามหัวข้อ
00:02:21 → 00:02:24 ที่เราได้ประชาสัมพันธ์ให้คุณผู้ชมได้มา
00:02:24 → 00:02:27 ร่วมรับชมกันในวันนี้สอบถามอาจารย์หมอ
00:02:27 → 00:02:30 ก่อนเลยว่าคนไทยเป็นเยอะนี่เยอะยังไงครับ
00:02:30 → 00:02:33 อาจารย์หมอครับครับคือโรคไตเรื้อรังเนี่ย
00:02:33 → 00:02:36 นะครับเราแบ่งเป็นระยะเนาะนะครับเริ่มแต่
00:02:36 → 00:02:38 ระยะที่ 1 2 3 4 ไปถึงระยะที่ 5 นะ
00:02:38 → 00:02:41 ครับระยะที่ 5 คือระยะที่คนไข้ต้องได้รับ
00:02:41 → 00:02:44 การล้างไตคือจะฟอกเลือดล้างไตด้วยทางหน้า
00:02:44 → 00:02:46 ท้องก็แล้วแต่นะครับแล้วมีข้อมูลค่อนข้าง
00:02:46 → 00:02:49 ชัดเจนครับนะครับว่าคนไข้ที่เป็นโรคไต
00:02:49 → 00:02:52 เรื้อหลังนนะครับตั้งแต่ระยะที่ 1 2 1-4
00:02:52 → 00:02:54 เนี่ยนะครับคือก่อนที่จะต้องฟอกเลือดหรือ
00:02:54 → 00:02:56 ล้างไตทางหน้าท้องเนี่ยอ่าคนไทยเป็นอยู่
00:02:56 → 00:03:00 ประมาณสัก 17% ครับนะครับ 17 ถ17ถ 18 88%
00:03:00 → 00:03:02 นะครับเพราะนั้นถือว่าไม่น้อยนะครับเนาะ
00:03:02 → 00:03:04 นะครับแล้วก็แต่ถ้าสไข้ที่ถึงขั้นที่ต้อง
00:03:04 → 00:03:07 ล้างไตด้วยการฟอกเลือดหรือล้างไตทางหน้า
00:03:07 → 00:03:09 ท้องเนี่ยทั้งประเทศตอนนี้นะครับมีอยู่
00:03:09 → 00:03:12 ประมาณสัก 150,000 170,000 คนนะครับนะ
00:03:12 → 00:03:15 รวมกันทั้งประเทศนะครับแล้วก็จะมีอีกส่วน
00:03:15 → 00:03:17 นึงครับคือคนไข้ที่ได้รับการปลูกถ่ายไตนะ
00:03:17 → 00:03:20 ครับปลูกถ่ายไตนี่มีประมาณสัก 5,000 นะ
00:03:20 → 00:03:22 ครับ 5,000 - 6,000 คนนะครับที่มีชีวิต
00:03:22 → 00:03:25 อยู่แล้วก็รักษาอยู่ในประเทศเรานะครับ
00:03:25 → 00:03:29 ครับผมออ่ะคุณผู้ชมแสดงว่าจริงๆแล้วก็ถือ
00:03:29 → 00:03:32 ว่ายังยังมีสถิติที่จำนวนเยอะอยู่ครับ
00:03:32 → 00:03:35 ครับถูกต้องแล้วก็ยังเป็นเรื่อยๆตอนนี้ก็
00:03:35 → 00:03:39 ยังมีมีคนไข้ที่ที่เข้ามารับการรักษาที่
00:03:39 → 00:03:41 โรงพยาบาลของเราก็ค่อนข้างที่จะเยอะอยู่
00:03:41 → 00:03:42 ใช่มั้ยครับอาจารย์ถูต้องครับนะครับคือ
00:03:42 → 00:03:44 เนื่องจากสาเหตุอันดับ 1 เนี่ยนะครับของ
00:03:44 → 00:03:46 การเป็นโรคไตที่ผมบอกวได้นะครับเนาะ
00:03:46 → 00:03:49 สาเหตุอันดับ 1 คือเบาหวานครับนะครับเนาะ
00:03:49 → 00:03:52 นะฮะรองลงมาอันดับ 2 ก็คือความดันโลหิต
00:03:52 → 00:03:54 สูงนะครับ 2 อันนี้เนี่ยรวมกันผมคิดว่า
00:03:55 → 00:03:58 น่าจะรวมอยู่ประมาณซัก 70 ถึงเกือบ 80%
00:03:58 → 00:04:00 เลยของคนไขที่เป็นโรอทั้งหมดในประเทศเรา
00:04:00 → 00:04:03 นะครับเพราะฉะนั้นหมอเบาหวานรักษาเบาหวาน
00:04:03 → 00:04:06 ได้ดีขึ้นนะครับเอ่อหมอเอ่ออ่าความดัน
00:04:06 → 00:04:08 รักษาความดันได้ดีขึ้นนะครับทีนี้คนไข้
00:04:08 → 00:04:10 โรคไตเรื้อรังเนี่ยจะเสียชีวิตเวลาเสีย
00:04:11 → 00:04:13 ชีวิตเนี่ยเาเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอด
00:04:13 → 00:04:15 เลือดเไม่ได้ให้ไตวายแล้วตายไม่ใช่นะครับ
00:04:16 → 00:04:18 เนาะเจะไปเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอด
00:04:18 → 00:04:19 เลือดครับเพราะฉะนั้นเนี่ยเมื่อเมื่อหมอ
00:04:19 → 00:04:22 เบาหวานรักษาเขาได้ดีขึ้นหมอโรคหัวใจ
00:04:22 → 00:04:25 รักษาเขาได้ดีขึ้นสุดท้ายไตเก็จะเมื่อเขา
00:04:25 → 00:04:28 อยู่นานขึ้นโอกาสที่จะเกิดไตวายก็จะมาก
00:04:28 → 00:04:31 ขึ้นครับนะครับฮะอ้อนี่นะคุณผู้ชมครับ
00:04:31 → 00:04:34 แล้วก็วันนี้ที่สำคัญอาจารย์หมอครับจริงๆ
00:04:34 → 00:04:36 หลายท่านอยากรู้ว่าเอ๊บางคนยังไม่เป็นโรค
00:04:36 → 00:04:39 ไตส่วนใหญ่ที่รับชมอาจจะยังไม่ได้เป็นโรค
00:04:39 → 00:04:43 ตายแล้วก็อาจจะมีบางท่านที่อาจจะมีภาวะ
00:04:43 → 00:04:45 เสี่ยงหรือว่ามีความเสี่ยงยังไงที่จะเป็น
00:04:45 → 00:04:47 โรคไตวันนี้เราจะมาคุยกับอาจารย์หมอแล้ว
00:04:47 → 00:04:50 ก็ที่สำคัญคือเลือกกินอย่างไรให้ห่างไกล
00:04:50 → 00:04:52 โรคไตวันนี้อาจารย์หมอมีมาฝากให้กับคุณ
00:04:52 → 00:04:55 ผู้ชมด้วยใช่มั้ยครับก่อนอื่นอ่าถาม
00:04:55 → 00:04:59 อาจารย์หมอสักนิดนึงครับว่าโรคไต่มีกี่
00:04:59 → 00:05:02 ประเภทมีอะไรบ้างระยะความรุนแรงมีแบบไหน
00:05:02 → 00:05:05 บ้างเรามาทำความเข้าใจกับคุณผู้ชมก่อนที่
00:05:05 → 00:05:07 เราจะไปดูว่าเราจะกินยังไงให้ห่างไกลโรค
00:05:07 → 00:05:10 ไตครับอาจารย์หมอครับครับผมครับคือความ
00:05:10 → 00:05:13 ยากของโรคไตก็คือว่าโรคไตเนี่ยสาเหตุมี
00:05:13 → 00:05:15 เยอะแยะไปหมดเลยครับที่จะทำให้ไตเสื่อม
00:05:15 → 00:05:17 เพราะว่าโรคไตเรื้อหลังนี่คือหมายถึงว่า
00:05:17 → 00:05:19 เป็นจุดสุดท้ายละนะครับเริ่มต้นจากสาเหตุ
00:05:19 → 00:05:21 ต่างๆอย่างที่ผมได้เรียนไปแล้วเมื่อกี้
00:05:21 → 00:05:24 ว่าสาเหตุอันดับ 1 เนี่ยคือเกิดจากเรื่อง
00:05:24 → 00:05:27 ของอ่าเบาหวานแล้วก็ความดันโลหิตสูงแต่
00:05:27 → 00:05:29 อย่างไรก็ตามเนี่ยนะครับมีสาเหตุอื่นๆอีก
00:05:30 → 00:05:32 ครับนะครับเช่นผมยกตัวอย่างนะครับเช่นไต
00:05:32 → 00:05:37 อักเสบนะครับโรคนิ่วที่ไตนะครับโรคไตเป็น
00:05:37 → 00:05:40 ถุงน้ำหรือที่สำคัญบ้านเราครับคือยาครับ
00:05:40 → 00:05:43 นะครับนะยาแก้ปวดยาสมุนไพรต่างๆเนี่ยนะ
00:05:44 → 00:05:47 ครับบางส่วนเนี่ยสามารถทำให้ไตเนี่ย
00:05:47 → 00:05:50 เสื่อมลงได้นะครับดังนั้นความยากของโรคไต
00:05:50 → 00:05:53 ก็คือว่ามันสามารถเป็นได้กับทุกอายุครับ
00:05:53 → 00:05:55 ขึ้นอยู่กับว่าสาเหตุเนี่ยเป็นอะไรเพราะ
00:05:55 → 00:05:58 สาเหตุในแต่ละช่วงอายุเนี่ยอาจจะพบได้
00:05:58 → 00:06:02 บ่อยไม่เท่ากันอั้นคำแนะนำของผมก็คือว่า
00:06:02 → 00:06:05 ถ้าทุกคนที่มีรู้ว่าตัวเองมีโรคประจำตัว
00:06:05 → 00:06:08 ไม่ว่าจะเป็นเบาหวานความดันโรคหัวใจอะไร
00:06:08 → 00:06:10 อย่างเงี้ยนะครับกลุ่มพวกเนี้ยควรต้องได้
00:06:10 → 00:06:13 รับการตรวจไตนะครับการตรวจไตก็คือเจาะ
00:06:13 → 00:06:16 เลือดเช็คการทำงานของไตแล้วก็ตรวจปัสสาวะ
00:06:16 → 00:06:19 นะครับอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งนะครับเนาะนะ
00:06:19 → 00:06:22 ครับอันนี้คือกลุ่มที่มีโรคแต่กลุ่มที่
00:06:22 → 00:06:24 ไม่มีโรคคือโรคไตบางทีเนี่ยอาจจะทุกคนอาจ
00:06:24 → 00:06:27 จะมีประสบการณ์ว่าเอบางคนเนี่ยนะครับเอ่อ
00:06:27 → 00:06:30 อาการสบายดีเลยวันดีคืดีเคลียร์นิดนึงไป
00:06:30 → 00:06:32 ที่โรงพยาบาลเจาะเลือดปุ๊บอ้าวไตวายต้อง
00:06:32 → 00:06:34 ฟอกเลือดอันเนี้ยอันนี้คือกลุ่มที่เป็น
00:06:34 → 00:06:37 โรคไตอักเสบซึ่งบางทีเนี่ยกลุ่มพวกนี้
00:06:37 → 00:06:39 เนี่ยเขาจะไม่รู้ตัวเลยงั้นถามว่าพวกนี้
00:06:39 → 00:06:42 จะรู้ได้ยังไงก็คือจะรู้ได้จากการเอ่อ
00:06:42 → 00:06:45 เจาะเลือดนะครับการตรวจปัสสาวะแล้วก็การ
00:06:45 → 00:06:47 วัดความดันครับเพราะงั้นในคำแนะนำของผม
00:06:48 → 00:06:50 เนี่ยผมคิดว่าสำหรับคนที่อายุเกิน 35 ปี
00:06:50 → 00:06:53 ขึ้นไปถึงแม้จะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีโรค
00:06:53 → 00:06:55 ประจำตัวอะไรสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีอย่าง
00:06:55 → 00:06:59 น้อยควรจะต้องมีการวัดความดันเป็นระยะๆ
00:06:59 → 00:07:02 ถ้าความดโลหิตสูงปึ๊บบางทีจะมีโรคไตซ่อน
00:07:02 → 00:07:05 อยู่ครับนะครับอ่าแล้วถ้าอายุเกิน 45 ปี
00:07:06 → 00:07:08 พวกนี้ก็ควรต้องเช็คสุขภาพประจำปีนะครับ
00:07:08 → 00:07:11 ปีละ 1 ครั้งซึ่ง 1 ในนั้นหนในการเช็ค
00:07:11 → 00:07:13 สุขภาพประจำปีเนี่ยคือมีการตรวจปัสสาวะ
00:07:13 → 00:07:16 แล้วก็ตรวจค่าการทำงานของไตอยู่แล้วผมอ
00:07:16 → 00:07:19 อ่ะคุณผู้ชมนี่ก็เป็นรายละเอียดที่เราอาจ
00:07:19 → 00:07:21 จะต้องให้ความสำคัญโดยเฉพาะคนที่เขบอกว่า
00:07:21 → 00:07:24 อาจารย์หมอบอกว่ามีโรคประจำตัวนี่น่า
00:07:24 → 00:07:27 กังวลน่าเป็นห่วงแต่ใครที่ยังไม่มีแต่ว่า
00:07:27 → 00:07:30 อายุ 35 ปีขึ้นไปอาจจะต้องมีการวัดความ
00:07:30 → 00:07:33 ดันตรวจเช็คเป็นระยะนะครับอาจารย์หมอเนาะ
00:07:33 → 00:07:36 นะครับแล้วก็คนที่สูงวัยหน่อยอาจจะต้องมี
00:07:36 → 00:07:38 การตรวจบ่อยหน่อยมั้ยครับออนแน่นอนครับนะ
00:07:38 → 00:07:40 ครับถ้าสูงวัยเนี่ยนะครับอย่างน้อยเนี่ย
00:07:40 → 00:07:42 ปีละครั้งหรือว่าปีละครั้งนี่เป็นอย่าง
00:07:42 → 00:07:45 น้อยละนะครับอ่าอาจจะปีละ 2 ครั้งคือจริง
00:07:45 → 00:07:47 ๆง่ายๆครับคือในปัจจุบันเนี่ยเครื่องวัด
00:07:47 → 00:07:50 ความดันเนี่ยสามารถหาได้ทั่วไปไม่จำเป็น
00:07:50 → 00:07:53 ต้องซื้อนะครับเราไปคลินิกพายาทไปโรง
00:07:53 → 00:07:56 พยาบาลก็ขอวัดความดันดูครับนะครับเนาะนะ
00:07:56 → 00:07:58 ฮะถ้าเจอว่าสูงโอ้วัดหลายๆครั้งสูงอันนี้
00:07:58 → 00:08:02 ก็ต้องตรวจต่อละนะครับผมนี่ครับผมอ่ะคุณ
00:08:02 → 00:08:04 ผู้ชมครับใครที่เคยมีประสบการณ์หรือว่า
00:08:04 → 00:08:08 เอ๊ะสงสัยว่าตัวเองกลัวจังเลยว่าอยากกลัว
00:08:08 → 00:08:11 ไม่อยากเป็นอาจารย์หมอหลคนเริ่มกลัวกันก็
00:08:11 → 00:08:13 วันนี้พิมพ์คอมเมนต์พูดคุยกันเข้ามาแล้ว
00:08:13 → 00:08:16 ก็อาจจะมีหลายๆคำถามที่ inbox กันเข้ามา
00:08:16 → 00:08:18 นะครับเพื่อส่งให้อาจารย์หมอแล้วก็วันนี้
00:08:18 → 00:08:20 เราจะมีในเรื่องของการเลือกกินอย่างไรให้
00:08:20 → 00:08:23 ห่างไกลโลกไปนะครับอาจารย์หมอครับไปที่คำ
00:08:23 → 00:08:26 ถามต่อไปหลายคนฝากมาว่าเอ๊ะโรคไตเนี่ย
00:08:26 → 00:08:28 เป็นแล้วหายได้มั้ยครับอาจารย์หมอเรา
00:08:28 → 00:08:31 รักษาให้หายขาดไปเลยมั้ยหรือว่าเป็นแล้ว
00:08:31 → 00:08:34 เป็นเลยต้องรักษาตลอดชีวิตมั้ยอาจารย์หมอ
00:08:34 → 00:08:37 ครับครับทีนี้ในเรื่องของถ้าในแง่ของการ
00:08:37 → 00:08:40 เสื่อมของไตเนี่ยนะครับเราแบ่งหลักๆเป็น 2
00:08:40 → 00:08:43 อันครับนะครับคือโรคไตเรื้อรังซึ่งเราคุย
00:08:43 → 00:08:45 กันในวันนี้นะครับกับอันที่ 2 คือโรคไต
00:08:45 → 00:08:48 ที่เราเรียกว่าไตบาดเจ็บเฉียบพลันนะครับ
00:08:48 → 00:08:51 ไตบาดเจ็บเฉียบพลันเนี่ยหายได้นะครับเนาะ
00:08:51 → 00:08:54 นะครับคือแย่ลงรักษาดีรักษาแล้วก็มัน
00:08:54 → 00:08:57 สามารถหายได้นะครับแต่ถ้าเป็นโรคไตเรื้อ
00:08:57 → 00:09:00 รังแล้วนะครับถ้าบอกว่าเป็นโรคไตเรื้อรัง
00:09:00 → 00:09:04 แล้วเนี่ยเอ่อตัวไตก็จะไม่ไม่สามารถเอ่อ
00:09:04 → 00:09:06 ย้อนคืนมาได้นะครับนะครับผมเปรียบเทียบ
00:09:06 → 00:09:09 เสมอว่าไตเสื่อมเรื้อรังหรือโรคไตเรื้อ
00:09:09 → 00:09:11 รังเนี่ยก็เหมือนเรานิ้วขาดอ่ะครับนะครับ
00:09:11 → 00:09:14 งั้นนิ้วขาดเนี่ยเราไม่สามารถนิ้วงอกมา
00:09:14 → 00:09:16 ไม่ได้ถูกมั้ยครับเนางั้นเช่นเดียวกันถ้า
00:09:16 → 00:09:18 ไตเป็นโรคไตเรื้อรังแล้วเสื่อมแล้วเสื่อม
00:09:18 → 00:09:21 เลยการรักษาโรคไตเรื้อรังจึงเป็นการรักษา
00:09:22 → 00:09:25 เพื่อป้องกันให้ไตเสื่อมให้ช้าที่สุดหรือ
00:09:25 → 00:09:29 ไม่เสื่อมเลยนะครับเนาะนะครับผม
00:09:29 → 00:09:32 นี่คุณผู้ชมคือมีวิธีการรักษาแหละดูแล
00:09:32 → 00:09:34 แหละแต่ว่าอาจจะต้องมีมีรายละเอียดค่อน
00:09:34 → 00:09:37 ข้างที่จะเยอะนิดนึงนะครับในการดูแลกันไป
00:09:37 → 00:09:41 นะครับแล้วก็คุณผู้ชมครับวันนี้เราจะมาดู
00:09:41 → 00:09:44 ว่าเลือกกินอย่างไรให้ห่างไกลโรคไต
00:09:44 → 00:09:48 อาจารย์หมอครับครับคนที่ไม่เป็นโรคไตมี
00:09:48 → 00:09:52 ความเสี่ยงที่จะเป็นแล้วก็เราจะต้องเลือก
00:09:52 → 00:09:54 กินยังไงรวมถึงคนที่อาจจะเป็นแล้วเเป็น
00:09:54 → 00:09:56 โรคไตแล้วเนี่ยเราจะต้องมีวิธีการดูแล
00:09:56 → 00:09:59 รักษาประคับประคองการเลือกรับประทานอาหาร
00:09:59 → 00:10:01 อย่างไรวันนี้อาจารย์หมอมีมีมาฝากคุณผู้
00:10:01 → 00:10:03 ชมก่อนอื่นเราไปดูในเรื่องของคนที่ยังไม่
00:10:03 → 00:10:06 เป็นเนาะอาจารย์หมอใช่มั้ยครับจะกินยังไง
00:10:06 → 00:10:09 ให้ให้ห่างไกลอ่าครับหลายๆคำถามบอกว่า
00:10:09 → 00:10:12 เอ๊ะกินเค็มบางคนบอกว่ากินเค็มนี่เสี่ยง
00:10:12 → 00:10:14 เป็นโรคไตแล้วถ้าสมมุติไม่กินเค็มแล้ว
00:10:14 → 00:10:16 ครับอาจารย์หมอเสี่ยงเป็นโรคไตมั้ยอันนี้
00:10:16 → 00:10:18 รายละเอียดเดี๋ยวอาจารย์หมอพูดพูดวันนี้
00:10:18 → 00:10:21 เรามีภาพให้คุณผู้ชมดูด้วยนะครับอ่ะไปดู
00:10:21 → 00:10:23 กันเลยครับครับเอาเอาเป็นว่าเอาสำหรับคน
00:10:23 → 00:10:26 ที่ยังไม่เป็นโรคไตก่อนนะครับเนาะคนส่วน
00:10:26 → 00:10:30 ใหญ่จะเข้าใจว่าการกินเค็มเยอะจะส่งผลทำ
00:10:30 → 00:10:33 ให้เป็นโรคตายมากขึ้นจริงๆแล้วไม่ใช่
00:10:33 → 00:10:36 อย่างนั้นต้องทราบก่อนว่าการกินเค็มสิ่ง
00:10:36 → 00:10:38 ที่ส่งผลนะครับการกินเคมคือทำให้ความดัน
00:10:38 → 00:10:41 โลหิตสูงนี่อ่าพอความดันโลหิตสูงปึ๊บแน่
00:10:41 → 00:10:44 นอนส่งผลทำให้มีโอกาสเกิดโรคไตได้มากขึ้น
00:10:44 → 00:10:47 นะครับครับการกินเค็มจะทำอันนี้กรณีถ้า
00:10:47 → 00:10:49 เป็นโรคไตแล้วการกินเค็มทำให้เราบวมครับ
00:10:49 → 00:10:52 จะทำให้เราคุมความดันยากขึ้นเพรางั้นพ
00:10:52 → 00:10:55 เอ่อจุดประสงค์ของการว่าไม่กินเค็มเนี่ย
00:10:55 → 00:10:58 นะครับเนาะนะฮะก็คือจุดประสงค์คือเพื่อ
00:10:58 → 00:11:01 ไม่ให้ความดันสูงดนั้นสคนปกิวัดความดัน
00:11:02 → 00:11:05 แล้วปกติตลอดเลยนะครับเนาจะไปบอกว่าโอไม่
00:11:05 → 00:11:07 กินเค็มเลยแล้วจะได้ไม่เป็นโรคไตอันนี้
00:11:08 → 00:11:09 ไม่เกี่ยวข้องกันแล้วครับนะครับเพราะโรค
00:11:09 → 00:11:11 ไตหลายๆอย่างไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกิน
00:11:11 → 00:11:15 เค็มนะครับงั้นผมอยากจะให้อยากจะให้คซไว้
00:11:15 → 00:11:19 ว่าคือการกินเค็มส่งผลต่อเรื่องคววามดัน
00:11:19 → 00:11:21 ความดันต้องอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสูงไป
00:11:21 → 00:11:25 ไม่ดีต่ำไปก็ไม่ดีเพราะไตความดันต่ำไป
00:11:25 → 00:11:27 เลือดก็ไปเลี้ยงไตน้อยนะครับเนั้นเราก็
00:11:28 → 00:11:30 ต้องกินให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมนะครับ
00:11:30 → 00:11:32 เพราะฉนั้นสรุปคือว่าคนที่ยังไม่เป็นโรค
00:11:32 → 00:11:36 ไตการกินการไม่กินเค็มคงไม่ได้ช่วยป้อง
00:11:36 → 00:11:38 กันขึ้นอยู่กับความดันของเขาว่าเขามีความ
00:11:38 → 00:11:41 ดันโลหิตสูงหรือไม่นะครับและที่สำคัญคือ
00:11:41 → 00:11:44 อยากจะย้ำทุกคนว่าไม่มีอาหารอะไรที่บำรุง
00:11:44 → 00:11:48 ไตนะครับงั้นวิตามินบำรุงไตอาหารบำรุงไต
00:11:48 → 00:11:51 อะไรอย่างเงี้ยผมบอกได้เลยสมุนไพรบำรุงไต
00:11:51 → 00:11:53 นี่โอ้โหนี่ไปใหญ่เลยนะครับเนาะนะครับไม่
00:11:53 → 00:11:57 มีอะไรที่บำรุงไตมีแต่กินแล้วอาหารที่
00:11:57 → 00:12:00 หรือยาหรือเอ่อของอะไรที่กินแล้วไตจะ
00:12:00 → 00:12:02 เสื่อมครับที่เมื่อกี้ผมกล่าวไปแล้ว 1
00:12:02 → 00:12:04 ที่สำคัญเลยก็คือยาสมุนไพรต่างๆผมไม่ได้
00:12:04 → 00:12:07 หมาความสมุนไพรห้ามกินนะครับต้องแต่แต่
00:12:07 → 00:12:10 สมุนไพรที่ต้องรู้ที่มาที่ไปชัดเจนนะครับ
00:12:10 → 00:12:13 สมุนไพรที่มีอยรับรองหรือเป็นสมุนไพรที่
00:12:13 → 00:12:16 อ้าเราเก็บเออะไรล่ะฮะเอาผักนั้นมาต้มกับ
00:12:16 → 00:12:18 ผักนี้มาเงี้เราเห็นต่อหน้าต่อตาว่ามัน
00:12:18 → 00:12:21 ใส่อะไรลงไปบ้างนี่โอเคแต่ถ้าสมุนไพรมา
00:12:21 → 00:12:23 แบบเป็นซองทำมาจากที่ไหนก็ไม่รู้อะไร
00:12:24 → 00:12:26 อย่างเงี้ยนะครับมาเป็นแคปซูลอะไรอย่าง
00:12:26 → 00:12:28 เงี้ยนะครับไอ้อย่างงี้เนี่ยต้องระวังมาก
00:12:28 → 00:12:30 ๆนะครับไม่ได้หมายถึงสมุนไพรทุกอย่างที่
00:12:30 → 00:12:34 ทำให้ตัวไตเสื่อม 2 ที่สำคัญคือยาแก้ปวด
00:12:34 → 00:12:36 ครับยาแก้ปวดสิ่งที่ผมจะพูดบอกกับคนไข้
00:12:36 → 00:12:39 เสมอคือยาแก้ปวดพารากับยาแก้ปวดที่ถูนึก
00:12:39 → 00:12:42 ว่าตามตัวนะครับอันนี้ใช้ได้ไม่มีปัญหากต
00:12:42 → 00:12:45 แต่ยาแก้ปวดอื่นๆที่เรามักจะไปซื้อเองตาม
00:12:45 → 00:12:48 ร้านขายยาหรือไปที่คลินิกบอกว่าเอปวดตรง
00:12:48 → 00:12:50 นั้นหมอฉีดยาแกปวดหายเลยอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:12:50 → 00:12:53 ครับเอออย่างงั้นฮะขอแบบฉีดปุ๊บอีก 3
00:12:53 → 00:12:56 ชั่วโมงหายอะไรเงี้ยนะฮะก็ไอ้พวกนี้เนี่ย
00:12:56 → 00:12:58 ฮะส่วนใหญ่ผมใช้คำว่าส่วนใหญ่นะไม่ได้ทุก
00:12:58 → 00:13:01 ตัวนะครับมีผลที่อาจจะทำให้ไตเสื่อมได้
00:13:02 → 00:13:04 ที่ต้องระวังมากๆครับนะครับผมคุณผู้ชม
00:13:04 → 00:13:06 อาจารย์หมอพูดในเรื่องของอาจจะต้องเป็น
00:13:06 → 00:13:09 สิ่งที่ระมัดระวังหลีกเลี่ยงกันสักนิดนึง
00:13:09 → 00:13:12 นะครับที่พูดมาแล้วก็วันนี้อาจารย์หมอ
00:13:12 → 00:13:14 ครับรับประทานยังไงเมื่อกี้อาจารย์หมอพูด
00:13:14 → 00:13:18 ไปข้างต้นแล้วว่าการที่เรากินเค็มมากๆอาจ
00:13:18 → 00:13:20 จะไม่ได้ส่งผลโดยตรงให้เป็นโรคไตเลยแต่
00:13:20 → 00:13:22 ว่ามีความเสี่ยงในเรื่องของความดันต่างๆ
00:13:22 → 00:13:26 เนาอาจารย์ผมครับแล้วเราควรที่จะกินอะไร
00:13:26 → 00:13:28 สำหรับคนที่อาจจะเป็นโรคตายอยู่แล้ว
00:13:28 → 00:13:29 อาจาร์
00:13:29 → 00:13:33 รับประทานยังไงดีหรือเอเรารับประทานคนที่
00:13:33 → 00:13:35 ไม่เป็นก็สามารับประทานได้ใช่มครับ
00:13:35 → 00:13:37 อาจารย์ใช่ครับนะครับเนาะครับครับก็คือ
00:13:37 → 00:13:40 หลักการอย่างนี้นะครับคนที่เป็นโรคไต
00:13:40 → 00:13:42 เนี่ยปัญหาที่เกิดขึ้นอันที่ 1 ก็คือ
00:13:42 → 00:13:44 เรื่องของความดันนะครับเนาะนะฮะถ้าความ
00:13:44 → 00:13:47 ดันสูงเขาจะต้องจำกัดอาหารพวกเกลือหรือ
00:13:47 → 00:13:49 พวกโซเดียมซึ่งเดี๋ยวผมจะพูดต่อไปนะครับ
00:13:49 → 00:13:51 อันที่ 2 ผมขอพูดไปก่อนเลยคือคนที่เป็น
00:13:51 → 00:13:54 โรคไตถ้าไตเสื่อมมากๆครับต้องเสื่อมมากนะ
00:13:54 → 00:13:58 โปแตสเซียมในเลือดจะสูงขึึ้นนะครับเต้อง
00:13:58 → 00:14:01 จำกัดหรืออาารที่โปเซสูงซึเดี๋ยวผมจะพูด
00:14:01 → 00:14:04 ต่อไปนะครับเนาะนะครับและอันที่ 3 ครับคน
00:14:04 → 00:14:06 ที่ไตเสื่อมเยอะๆถึงบางคนที่ส่วนใหญ่จะ
00:14:06 → 00:14:09 เป็นกลุ่มที่ล้างไตแล้วนะครับจะฟอกเลือด
00:14:09 → 00:14:11 หรือล้างไตทางหน้าท้องก็แล้วแต่จะมี
00:14:11 → 00:14:14 ฟอสฟอรัสในเลือดสูงขึ้นนะครับถ้าฟอสฟอรัส
00:14:14 → 00:14:17 ในเลือดสูงก็จะต้องลดอาหารพวกฟอสฟอรัสนะ
00:14:17 → 00:14:19 ครับงั้นผมต้องบอกก่อนว่าเดี๋ยวผมที่ผมจะ
00:14:19 → 00:14:21 พูดต่อไปเนี่ยอาหารที่ผมว่าอาหารที่
00:14:21 → 00:14:25 โซเดียมสูงโปแตสเซียมสูงและฟอสฟอรัสสูงจะ
00:14:25 → 00:14:30 ต้องลดเมื่อความดันสูงลดโซเดียมครับซม
00:14:31 → 00:14:34 เลเซียฟอสฟอรัสในเลือดสูงดฟอสฟอรัสอันนี้
00:14:34 → 00:14:37 คือสิ่งผมต้องให้ได้ตรงนี้ก่อนเพราะอะไร
00:14:37 → 00:14:40 เพราะว่าคนไข้ส่วนใหญ่ครับเวลามาเจอผมบอก
00:14:40 → 00:14:42 อ่ะเป็นโรคไตสมมติไตเสื่อมเหลือประมาณสัก
00:14:42 → 00:14:46 50% 40% โปแตสเซียมในเลือดก็ไม่สูงฟัส
00:14:46 → 00:14:48 ในเลือดก็ไม่สูงแต่ไปอ่านเจอทาง
00:14:48 → 00:14:51 อินเทอร์เน็ตว่าต้องจำกัดโปแทสเซียมถูก
00:14:51 → 00:14:53 ต้องไม่กินอะไรสักอย่างเลยอย่างเงี้นะ
00:14:53 → 00:14:56 ครับอันนี้ก็เป็นประเด็นนะนั้นก็คือผมจะ
00:14:56 → 00:14:59 บอกคนไข้เสมอว่าต้องอยู่บนทางสายก
00:14:59 → 00:15:03 ต้องดูคนไขโรคไแต่ละคนรักษาไม่ได้เหมือน
00:15:03 → 00:15:06 กันทั้งหมดครับนะครับมันมีแค่หลักการเฉยๆ
00:15:06 → 00:15:09 ั้นคนไขแต่ละคนก็ต้องดูผลเลือดของตัวเอง
00:15:09 → 00:15:12 ดูความดันของตัวเองแล้วถึงจะมาปรับอาหาร
00:15:12 → 00:15:15 ครับผมครับนะครับหมายความว่าเราอาจจะรับ
00:15:15 → 00:15:19 ประทานได้ตามปกติแต่ว่าต้องดูก่อนว่าอะไร
00:15:19 → 00:15:22 มันสูงแล้วเราก็จะลดตัวนั้นอาจารย์หมอ
00:15:22 → 00:15:24 ครับอย่างแรกเลยในเรื่องของมีเกลือมี
00:15:24 → 00:15:27 โพแทสเซียมมีฟอสฟอรัสอาจารย์หมอจะได้เปิด
00:15:27 → 00:15:31 ภาพให้คุณผู้ชมดูว่าอาหารแบบไหนบ้างที่มี
00:15:31 → 00:15:35 อ่าในเรื่องของธาตุต่างๆเหล่านี้นะครับ
00:15:35 → 00:15:38 ครับอ่าอันนี้เป็นหนังสือนะครับเนาะนะฮ
00:15:38 → 00:15:40 หนังสือสำหรับประชาชนทั่วไปเลยครับนะครับ
00:15:40 → 00:15:43 เก็คือโภชนาการสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อ
00:15:43 → 00:15:45 ลังนะครับอันนี้เป็นหนังสือที่เ่อเขียน
00:15:45 → 00:15:48 โดยสมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทยร่วม
00:15:48 → 00:15:50 กับสมาคมโลกไตยแห่งประเทศไทยกระทรวง
00:15:50 → 00:15:53 สาธารณสุขมหาวิทยาลัยมหิดลนะครับอันนี้
00:15:53 → 00:15:55 เนี่ยสามารถเคือฮะไปเสิร์ชอย่างงี้ได้เลย
00:15:55 → 00:15:58 ครับดาวน์โหลดมาได้เลยฟรีนะครับ 170 หน้า
00:15:58 → 00:16:05 ครับโงยๆพูันอาจารยหมอมาย่อยให้ฟังย่อย
00:16:05 → 00:16:07 น้อยมากนะครับอรูปเดียวเลยครับนี่คือรูป
00:16:07 → 00:16:10 นี้ครับนะครับเนาะก็คือว่าอาหารที่ควรจะ
00:16:10 → 00:16:13 ต้องเอ่อหลีกเลี่ยงคือแน่นอนคือหลักการ
00:16:13 → 00:16:16 คือว่ายังไงเราก็ต้องทานอาหารให้ครบ 5
00:16:16 → 00:16:18 หมู่ครับนะครับเนาะนะครับแต่ว่าก็จะมี
00:16:18 → 00:16:21 อาหารที่แนะนำนะครับแล้วก็อาหารที่หลีก
00:16:21 → 00:16:24 เลี่ยงนะครับเนาะนะครับเช่นนะครับเสมมุติ
00:16:24 → 00:16:28 ว่าในกลุ่มของอาหารพวกเดี๋ยเช่นนะครับ
00:16:28 → 00:16:30 อาหารพวกอะไรล่ะฮะผลไม้นะครับเนาะนะครับ
00:16:30 → 00:16:32 ที่หลีกเลี่ยงข้างบนเนี่ยเพราะว่าเป็น
00:16:32 → 00:16:34 กลุ่มผลไม้ที่โปแตสเซียมสูงครับนะครับ
00:16:34 → 00:16:37 เนาะแล้วก็อ่าถ้าโปแตสเซียมต่ำอันนี้ก็
00:16:37 → 00:16:39 คือสามารถทานได้แต่อย่างที่ผมย้ำนะผมย้
00:16:39 → 00:16:41 อีกครั้งนึงนะขึ้นอยู่กับปริมาณ
00:16:41 → 00:16:43 โปแตสเซียมในร่างกายครับทางผักก็เช่น
00:16:43 → 00:16:45 เดียวกันนะครับกลุ่มที่หลีกเลี่ยงก็คือ
00:16:45 → 00:16:48 กลุ่มที่มีโปแตสเซียมในผักเรานี้สูงนะ
00:16:48 → 00:16:50 ครับเนาะนะครับส่วนเนื้อสัตว์ครับนะครับ
00:16:50 → 00:16:53 ยังไงก็ตามคนไข้โรคไตเนี่ยควรต้องจำกัด
00:16:53 → 00:16:56 อาหารโปรตีนแต่จำกัดเนี่ยสิ่งที่ผมเจอก็
00:16:56 → 00:16:59 คือว่าคนไข้ส่วนใหญ่ครับไม่กินเลย
00:16:59 → 00:17:03 กิก็ทำเกิดภาวะทุชนาการภาวะทุโชนาการนะ
00:17:03 → 00:17:06 ครับก็จะทำให้ตายไวเช่นเดีวกันผมถึงบอกไง
00:17:06 → 00:17:09 ครับว่ามันจะต้องห่างสายกลางข้างบนเ
00:17:09 → 00:17:11 โปรตีนเป็นโปรตีนที่ควรจะรับประทานนะครับ
00:17:12 → 00:17:14 เนาส่วนโปรตีนบางอย่างไอ้โปรตีนข้างล่าง
00:17:14 → 00:17:16 เนี่ควรรับประทานส่วนข้างบนนี่คือโปรตีน
00:17:16 → 00:17:18 ที่ควรจะหลีกเลี่ยงนะครับผมไปรายละเอียด
00:17:18 → 00:17:20 นิดหน่อยนะครับเนาครับนี่คือเริ่มด้วย
00:17:20 → 00:17:23 โซเดียมก่อนนะครับผมย้ำอีกครั้งนึงนะคน
00:17:23 → 00:17:25 ที่จะจำกัดโซเดียมคือคนที่ความดันโลหิต
00:17:25 → 00:17:28 สูงคนที่บวมอันนี้พวกต้องจำกัดโซเดียมนะ
00:17:28 → 00:17:30 ครับอาหารที่โซเดียมสูงก็ตามเนี่ยฮะส่วน
00:17:30 → 00:17:34 ใหญ่ก็แน่นอนเกลือตรงไปตรงมาเครื่องปรุง
00:17:34 → 00:17:38 รสต่างๆนะครับเนาะอ่าผงปรุงรสกะปิน้ำปลา
00:17:38 → 00:17:41 ซอสหอยนางลมต่างๆพวกนี้ก็จะต้องพยายามลด
00:17:41 → 00:17:45 ลงนะครับเนาหรือทานให้น้อยถ้าความดันสูง
00:17:45 → 00:17:48 หรือมีอาการบวมนะครับต้องจำกัดโซเดียม
00:17:48 → 00:17:51 โปรตีนครับนะครับเนาะโดยหลักการเคนไข้โรค
00:17:51 → 00:17:53 ไตรั้วรังเนี่ยควรต้องทานโปรตีนลดลงแต่
00:17:53 → 00:17:56 เน้นไปเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูงมากขึ้นนะ
00:17:57 → 00:18:00 ครับเนานะฮั้นโปรตีนคุณภาสูงก็เนื้อสัตว์
00:18:00 → 00:18:03 ต่างๆนะครับเนาะนะฮะเนื้อสัตว์ไข่ไข่นี่
00:18:03 → 00:18:05 จะขอเน้นเป็นไข่ขาวแล้วกันนะครับเพราะว่า
00:18:05 → 00:18:08 ไข่แดงเนี่ยจะมีคอเลสเตอรอลสูงฟอสฟอรัส
00:18:08 → 00:18:10 สูงเพราะฉะนั้นควรจะหลีกเลี่ยงนะครับเนาะ
00:18:10 → 00:18:13 นะฮะโปรตีนเหล่านี้นะครับคุณภาพสูงก็จริง
00:18:13 → 00:18:17 แต่ฟอสฟอรัสสูงด้วยน่านั้นขึ้นอยู่กับว่า
00:18:17 → 00:18:20 ฟอสฟอรัสในเลือดของเราเป็นอย่างไรถ้า
00:18:20 → 00:18:23 ฟอสฟอรัสในเลือดสูงเนี่ยนะครับเนาะนะฮะ
00:18:23 → 00:18:25 เราก็ไม่ควรทานโปรตีนเหล่านี้นะครับเช่น
00:18:25 → 00:18:29 นมนะครับหรือว่าพวกอาหารแปรรูปต่างๆอมี
00:18:29 → 00:18:31 หนอนรถด่วนด้วยอาจารยมีรถด่วนด้วยนะครับ
00:18:31 → 00:18:33 เนารถด่วนนี่โปรตีนสูงมากนะครับเนาะนะฮะ
00:18:33 → 00:18:36 แต่ฟอสฟอรัสสูงด้วยงั้นอย่างที่ผมย้ำอ
00:18:36 → 00:18:38 ขึ้นอยู่กับฟอสฟอรัสในเลือดครับถ้า
00:18:38 → 00:18:40 ฟอสฟอรัสในเลือดไม่สูงก็ยังคงทานได้ครับ
00:18:40 → 00:18:43 นะครับเนาะนะครับอ่าทีนี้มาเลือก
00:18:43 → 00:18:45 โพแทสเซียมครับอันนี้เป็นกลุ่มอาหารกลุ่ม
00:18:45 → 00:18:48 ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงนะครับเช่นส้ม
00:18:48 → 00:18:50 กล้วยอ่าสตรอเบอร์รี่เป็นต้นนะครับแตง
00:18:50 → 00:18:53 ต่างๆเป็นต้นนะครับงั้นผลไม้พวกนี้ถ้า
00:18:53 → 00:18:57 โพแตสเซียมในเลือดสูงไม่ควรทานแต่ถ้า
00:18:57 → 00:19:00 โพแทสเซียมในเลือดปกติจะทานบ้างก็ได้นะ
00:19:00 → 00:19:02 ครับเนาะทนี้ถ้าโปแตสเซียมในเลือดสูงแล้ว
00:19:03 → 00:19:05 อยากทานผลไม้ก็ให้เน้นไปทางเนี้ยฮะ
00:19:05 → 00:19:08 สับปะรดงุ่นอะไรอย่างเงี้ยนะครับกลุ่มพวก
00:19:08 → 00:19:11 เยโปแทสเซียมจะไม่สูงนะครับผมอ่าทนี้มา
00:19:11 → 00:19:14 สุดท้ายครับก็คือฟอสฟอรัสครับนะครับเนาะ
00:19:14 → 00:19:17 กลุ่มฟอสฟอรัสเนี่ยความยากนิดนึงคือ
00:19:17 → 00:19:20 ฟอสฟอรัสในอาหารแต่ละชนิดเนี่ยมันดูดซึม
00:19:20 → 00:19:22 ได้ไม่เท่ากันนะครับเนาะนะเราเรียกเป็น
00:19:22 → 00:19:25 ฟอสฟอรัสอินทรีย์กับฟอสฟอรัสอนินทรีย์
00:19:25 → 00:19:27 งั้นจะเห็นว่ากลุ่มอาหารพวกนี้เป็นกลุ่ม
00:19:27 → 00:19:30 ที่เป็นฟอสฟอรัสอินทรีย์พกเพอรับประานได้
00:19:30 → 00:19:33 เช่นนมนะครับบางคนจะมาบอกผมว่าโอ๊ยไม่
00:19:33 → 00:19:35 อยากทานนมเลยเพราะว่าฟอสฟอรัสสูงกลัว
00:19:35 → 00:19:39 ฟอสฟอรัสคื่นความจริงคือนมเนี่ยให้โปรตีน
00:19:39 → 00:19:42 ในขณะที่ฟอสฟอรัสดูดซึมไม่มากสิ่งที่คุณ
00:19:42 → 00:19:44 เหลียกลิ่งเลยคือพวกนี้ครับนะครับกลุ่มเ
00:19:44 → 00:19:47 อันนี้ไม่ควรเลยนะครับเนาะเครื่องดื่มโชง
00:19:47 → 00:19:50 ชากาแฟไมโลโอวันตินโกโก้น้ำอัดลมรวมถึง
00:19:51 → 00:19:53 เครื่องดื่มบำรุงกำลังทั้งหลายพวกเนี้ย
00:19:53 → 00:19:55 เป็นกลุ่มที่ทำให้ฟอสฟอรัสในเลือดสูงได้
00:19:55 → 00:19:58 นะครับแต่ถ้าสมมุติเราเป็นโรคไตในระยะ
00:19:58 → 00:20:00 ที่ัก 3 ฟอสฟอรัสเรือ่องยังไม่สูงอะไร
00:20:00 → 00:20:03 อย่างเงี้นะครับ 2 3 อ่าอยากจะทานพวกนี้
00:20:03 → 00:20:05 บางคนอยากทานกาแฟต้องทานกาแฟวันละ 1 แก้ว
00:20:05 → 00:20:08 อ่าอย่างงี้พอไหวแต่ถ้าฟอสฟอรัสในเลือด
00:20:08 → 00:20:10 สูงะแพทย์บอกจำกัดต้องจำกัดฟอสฟอรัสอัน
00:20:10 → 00:20:13 นี้อาจจะต้องลดลงนิดนึงครับนะครับเนาะ
00:20:13 → 00:20:15 โอเคครับก็หมดแล้วครับนะครับส่วนอันอัน
00:20:15 → 00:20:18 อื่นอาหารแปรรูปควรจะหลีกเลี่ยงนะครับ
00:20:18 → 00:20:20 เนาะเพราะพวกนี้ก็มีฟอสฟอรัสสูงเช่นเดียว
00:20:20 → 00:20:23 กันครับผมนี่อ่ะคุณผู้ชมหลายคนฟังมาแล้ว
00:20:23 → 00:20:26 เอ๊อาจารย์บอกเป็นสิ่งที่ชอบหมดเลยบางคน
00:20:26 → 00:20:28 บอกว่ายังไม่เป็นโรคไตแต่ว่าอย่างที่
00:20:29 → 00:20:31 อาจารย์หมอย้ำว่าไม่จำเป็นที่เราอาจจะ
00:20:31 → 00:20:35 ต้องงดหรือลดในขณะที่เรามีภาวะปกติคือรับ
00:20:35 → 00:20:37 ประทานได้ปกติแหละอาจารย์หมอใช่มั้ยครับ
00:20:37 → 00:20:40 แต่ว่าอาจจะต้องมีการวัดดูว่าเ่อตัวไหน
00:20:40 → 00:20:44 สูงถูกต้องครับแล้วก็จะลดตัวนั้นถูกนะ
00:20:44 → 00:20:47 ครับอย่าเพวไปใช่ครับนะคะเพราะว่าพอบางคน
00:20:47 → 00:20:50 เนี่ยไปอ่านหรือไปฟังหมอไตคนนั้นพูดฟัง
00:20:50 → 00:20:52 พยาบาลคนนั้นว่าอ่านหนังสือเสร็จแล้วก็
00:20:52 → 00:20:54 กลับมาถามผมว่าตกลงจะกินอะไรได้บ้างนะ
00:20:54 → 00:20:56 ครับเนาะเพราะว่าไอ้นั้นก็ห้ามนู่นก็ห้าม
00:20:56 → 00:20:59 นี่ห้าเพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่าแต่ละคนไม่
00:20:59 → 00:21:02 เหมือนกันครับนะครับขึ้นอยู่กับผลเลือด
00:21:02 → 00:21:04 ขึ้นอยู่กับความดันขึ้นอยู่กับว่าเบวม
00:21:04 → 00:21:07 หรือเปล่าครับผมครับอ่ะอาจารย์หมอครับพอ
00:21:07 → 00:21:10 อาจารย์หมอพูดมาถึงตรงนี้มีคุณผู้ชมหลายๆ
00:21:10 → 00:21:12 ท่านถามคำถามกันเข้ามาผ่านทางช่องทาง
00:21:12 → 00:21:15 คอมเมนต์ของทางไลฟ์สดของเรานะครับจะได้
00:21:15 → 00:21:17 ร่วมพูดคุยกับคุณผู้ชมไปเลยนะครับคำถาม
00:21:17 → 00:21:20 แรกจากคุณมิ้นนะครับคุณมิ้นถามอาจารย์หมอ
00:21:20 → 00:21:22 ว่าจะที่อาจารย์หมอพูดไปในเรื่องของการ
00:21:22 → 00:21:25 อ่ารับประทานอาหารคุณมิ้นถามว่าดื่ม
00:21:25 → 00:21:30 โปรตีนเชคครับอ้าอ่าฮะทุกๆวันวันละ 1
00:21:30 → 00:21:32 มื้อติดต่อกันมานานอเสี่ยงเป็นโรคไตมั้ย
00:21:32 → 00:21:34 ครับอาจารย์ครับออไม่เสี่ยงค่ะคุณต้อง 1
00:21:34 → 00:21:36 ต้องบอกว่าคุณมิ้นต้องต้องเป็นต้องแยก
00:21:36 → 00:21:38 ก่อนนะว่าคุณมิ้นเป็นโรคไตหรือไม่เป็นโรค
00:21:38 → 00:21:42 ไตอ่าถ้าคุณมิ้นไม่เป็นโรคไตอ่าเช็คเลือด
00:21:42 → 00:21:45 แล้วไตคุณมิ้นดีแน่นอนนะครับการดื่ม
00:21:45 → 00:21:47 โปรตีนนะครับเนาะอ่าที่โปรตีนเชคเนี่ยวัน
00:21:47 → 00:21:49 ละ 1 ขวดวันละ 1 แก้วอะไรก็แล้วแต่เนี่ย
00:21:50 → 00:21:52 ไม่มีผลเลยทำให้คุณไม่มีผลทำให้คุณมิ้น
00:21:52 → 00:21:55 เป็นโรคไตมากขึ้นไม่มีผลครับแต่ถ้าคุณ
00:21:55 → 00:21:57 มิ้นเป็นโรคไตแล้วนะครับก็คือเป็นโรคไตใน
00:21:57 → 00:22:00 ระยะที่ 3 ไประยะที่ 3 ขึ้นไปคือค่าการทำ
00:22:00 → 00:22:04 งานของไตเนี่ยเหลือต่ำกว่า 60% กลุ่มพวก
00:22:04 → 00:22:07 นี้คนไข้กลุ่มพวกนี้ต้องลดอาหารโปรตีน
00:22:07 → 00:22:10 เพื่อชะลอการเสื่อมของไตครับงั้นอ่าอะไร
00:22:10 → 00:22:12 ล่ะโปรตีนเชคของคุณวิ้นก็อาจจะไม่เหมาะ
00:22:12 → 00:22:16 ถ้าคุณิ้นเป็นโรคไตแล้วนะครับผมแต่หมาย
00:22:16 → 00:22:18 ความว่ากินเยอะๆแล้วเสี่ยงเป็นโรคไตมครับ
00:22:18 → 00:22:21 อาจารย์หมอเอ่ากินเยอะๆแล้วไม่ได้ไม่ได้
00:22:21 → 00:22:24 เพิ่มความเสี่ยงครับนะครับเนาะนะฮะก็ต้อง
00:22:24 → 00:22:26 ยอมรับว่าไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงนะครับแต่
00:22:26 → 00:22:29 คำว่าเยอะของคุณมิ้นเนี่ยอวันขวนนี่โอเค
00:22:29 → 00:22:31 แต่ถ้าคุณมิกินวันละ 10 ขวนนี่อาจจะไปได้
00:22:31 → 00:22:34 อย่างอื่นแทนนะครับเนาะนะครับผมครับผมรวม
00:22:34 → 00:22:37 ถึงผงผักด้วยนะครับอาจารย์หมอที่เป็นผง
00:22:37 → 00:22:40 ผักเชคอ่าผงผักเชคนี้ไม่น่ามีปัญหาหมาย
00:22:40 → 00:22:41 ถึงว่ากินแล้วไม่น่ามีปัญหากับโรคไตนะ
00:22:41 → 00:22:43 ครับถ้ามัน้างหมดในนั้นมันเป็นผักจริงนะ
00:22:43 → 00:22:45 ไม่มีผสมอย่างอื่นนะคือเบสออนทุุกอย่าง
00:22:45 → 00:22:47 เนี่ยที่ผมพูดเนี่ยก็คือว่าต้องไม่ผสม
00:22:48 → 00:22:50 อย่างอื่นแน่นอนไม่มีการผสมยาแก้ปวดไม่มี
00:22:50 → 00:22:53 การผสมสมุนไพรที่มีปัญหากับไตนะครับงั้น
00:22:53 → 00:22:56 ผงผักเชกเนี่ยนะครับทานแล้วไม่คิดว่าจะมี
00:22:56 → 00:22:58 ปัญหากับไตครับแต่ที่มาที่ไปชัดเจนนะครับ
00:22:58 → 00:23:01 อย่างที่ผมเรียนในช่วงแรกครับผมใช่อ่ะวัน
00:23:01 → 00:23:03 นี้มีคุณผู้ชมรับชมจากหลายหลายๆจังหวัด
00:23:03 → 00:23:06 เลยครับอาจารย์หมอมีอำเภอหางดงมีจังหวัด
00:23:06 → 00:23:09 กรุงเทพฯด้วยมี FC จากกรุงเทพฯด้วยครับ
00:23:09 → 00:23:12 อาจารย์หมอวันนี้ถามคำถามกันเข้ามาได้
00:23:12 → 00:23:14 ครับคุณผู้ชมครับเรื่องของเลือกกินอย่าง
00:23:14 → 00:23:17 ไรให้ห่างไกลโรคไตตอนที่อาจารย์หมอพูดใน
00:23:17 → 00:23:19 เรื่องของการเลือกรับประทานในสิ่งต่างๆ
00:23:19 → 00:23:23 เนี่ยมีอาการคนที่มีอาการควรที่จะลด
00:23:24 → 00:23:26 อาจารย์หมอพูดว่ามีอาการบวมอันนี้อยากให้
00:23:26 → 00:23:28 อาจารย์หมอได้ลงรายละเอียดสักนิดนึงว่า
00:23:28 → 00:23:31 อาการบวมที่ว่านี้มันมีอาการยังไงแล้ว
00:23:31 → 00:23:34 สามารถแสดงออกให้เห็นชัดเจนได้เลยมั้ย
00:23:34 → 00:23:38 หรือมีเค้าเรียกว่าอาการที่สามารถเช็คได้
00:23:38 → 00:23:40 เลยมยว่าอันเนี้ยต้องบวมละหมายถึงว่าต้อง
00:23:41 → 00:23:43 ที่จะต้องหลีกเลี่ยงพวกนี้แล้วผมคืออย่าง
00:23:43 → 00:23:45 งี้นะครับก็อันที่ 1 เราต้องทราบก่อนว่า
00:23:45 → 00:23:49 โรคไตเนี่ยนะครับเนาะนะครับถ้ามีอาการนะ
00:23:49 → 00:23:53 ครับเนาะถ้ามีอาการก็มักจะมีอาการบวมนะ
00:23:53 → 00:23:55 ครับเนาะนะฮะแต่อาการบวมอันนี้เนี่ยก็จะ
00:23:55 → 00:23:59 พบในช่วงระยะที่ค่าไตเสื่อมเยอะละนะครับ
00:23:59 → 00:24:03 เนาะดังนั้นการที่ไม่บวมไม่ได้แปลว่าไม่
00:24:03 → 00:24:05 เป็นโรคตตโอเคมั้ครับนะครับแต่ถ้าเป็นถ้า
00:24:05 → 00:24:09 มีบวมปุ๊บมีความเสี่ยงนะครับเพียงแต่ว่า
00:24:09 → 00:24:12 การบวมเนี่ยสาเหตุการบวมนอกจากโรคไตแล้ว
00:24:12 → 00:24:15 โรคหัวใจก็ทำให้เราบวมได้ยาบางชนิดก็ทำ
00:24:15 → 00:24:18 ให้เราบวมได้เพราะฉะนั้นเมื่อบวมปุ๊บก็
00:24:18 → 00:24:20 ต้องรีบไปตรวจเลยว่าตัวเองเป็นโรคไตหรือ
00:24:20 → 00:24:23 เปล่านะครับเนาะนะครับแต่ถึงไม่บวมก็ควร
00:24:23 → 00:24:25 ต้องตรวจสุขภาพอย่างที่ผมพูดในช่วงแรกนะ
00:24:25 → 00:24:27 ครับเนาะวัดความดันเช็สุขภาพเป็นระยะระ
00:24:28 → 00:24:30 เพราะไม่บวมเลยไม่เคยบวมเลยไม่ได้แปลว่า
00:24:30 → 00:24:33 คุณจะไม่เป็นโรคไตนะครับเนาะนะครับโอเคท
00:24:33 → 00:24:36 ถามว่าแล้วบวมแบบไหนถึงจะต้องโอ้ยรีบ
00:24:36 → 00:24:38 กังวลว่าจะเป็นโรคไตโดยส่วนใหญ่พวกนี้จะ
00:24:38 → 00:24:41 บวมที่ส่วนล่างของร่างกายก่อนก็คือบวมที่
00:24:42 → 00:24:46 ข้อเท้าบวมที่ฝ่าเท้าและเป็นบวมที่กดบุ๋ม
00:24:46 → 00:24:49 ครับเราเราเอานิ้วเราเคกดลงไปสักประมาณ 10
00:24:49 → 00:24:52 วินาทีแล้วก็ปล่อยดูครับถ้ามันบุ๋มเป็น
00:24:52 → 00:24:54 รอยบุ๋มลงไปอ่าอันนี้แสดงว่าเป็นการบวม
00:24:55 → 00:24:57 น้ำละซึ่งหนึ่งในสาเหตุนั้นก็คือโรคไตอัน
00:24:57 → 00:25:00 นี้ต้องไปพแพทยล่ะครับนะครับเพื่ออย่าง
00:25:00 → 00:25:03 น้อยเช็คตายดูว่ามีโรคหัวใจอะไรมยนะครับ
00:25:03 → 00:25:06 แล้วก็ดูว่ามียาอะไรมยที่จะทำให้บวมได้นะ
00:25:06 → 00:25:10 ครับยาที่มักจะทำให้บวมบ่อยๆนะครับก็คือ
00:25:10 → 00:25:13 ยาลดความดันโลหิตสูงบางกลุ่มครับพวกนี้จะ
00:25:13 → 00:25:15 ทำให้บวมได้แต่ไม่มีผลกับไตนะครับแค่ทำ
00:25:15 → 00:25:20 ให้บวมเฉยๆอ่ายาแก้ปวดครับอืยาแก้ปวดนี่
00:25:20 → 00:25:22 ก็ทำให้บวมได้นะครับเนาะนะครับยาแปดที่
00:25:22 → 00:25:25 ไม่ใช่พาราพวกนี้ก็บวมได้และพวกนี้มีผล
00:25:25 → 00:25:27 กับไตด้วยอย่างเงี้นะครับเพราะฉะนั้นต้อง
00:25:27 → 00:25:30 แยกชชนิดยาก็ถึงเป็นที่มาว่าผมได้เรียนใน
00:25:30 → 00:25:34 ตอนแรกแล้วว่ายาแก้ปวดที่ไม่ใช่าราต้อง
00:25:34 → 00:25:37 พยายามหลีกเลี่ยงนะครับเนาะเลยอ่านะครับ
00:25:37 → 00:25:39 มีคุณผู้ชมคอมเมนต์เข้ามาบอกว่าเป็นเ
00:25:40 → 00:25:43 เรียกว่ารักษากับอาจารย์หมออยู่อาจารย์
00:25:43 → 00:25:46 หมอใจดีมากๆเลยครับจนะครับรับชมจาก
00:25:46 → 00:25:50 นครสวรรค์ครับจากแม่แตงคุณสุรทินบอกว่า
00:25:50 → 00:25:53 อยากได้หนังสือครับอาจารย์หมอที่อาจารย์
00:25:53 → 00:25:56 หมอพูดในเรื่องของที่มี 170 กว่าหน้าอ่า
00:25:56 → 00:25:58 ฮะครับอาจารย์หมอโชว์รูปอีกักนิดนึงขอทาง
00:25:58 → 00:26:01 ิชรูปสักครั้งนึงฮะเนี่ยสาหาได้ที่ไหน
00:26:01 → 00:26:03 ครับอาจารย์ออเสิร์ชอินเทอร์เน็ตได้เลย
00:26:03 → 00:26:05 ครับนะครับเนาะนะครับก็พิมพ์คำเฮะ
00:26:05 → 00:26:08 โภชนาการสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังแค่
00:26:08 → 00:26:10 นี้ก็จะเจอแล้วก็มันก็จะเป็นหนังสือ
00:26:10 → 00:26:12 อิเล็กทรอนิกส์อนะครับเป็น PDF ไฟล์
00:26:12 → 00:26:14 ดาวน์โหลดมาได้เลยครับนะครับในหนังสือ
00:26:15 → 00:26:16 ฉบับนี้เนี่ยนอกจากมีวิธีแนะนำเรื่อง
00:26:16 → 00:26:20 อาหารละยังมีเามีอะไรฮะอาหาร 4 ภาคครับ
00:26:20 → 00:26:23 ตัวอย่างอาหาร 4 ภาคว่าในแต่ละภาคเนี่ย
00:26:23 → 00:26:26 อาหาร 10 ชนิดที่เหมาะกับคนไข้โรกไตเนี่ย
00:26:26 → 00:26:28 จะปรุงอย่างไรอันนี้จะมีรายละเอียดเยอะ
00:26:28 → 00:26:31 มากอืดีเลยครับจริงๆอาหารแต่ละพื้นถิ่นก็
00:26:31 → 00:26:34 จะแตกต่างกันมีเวอร์ชั่นในแต่ละท้องถิ่น
00:26:34 → 00:26:37 ด้วยวันนี้มีคุณผู้ชมหลายๆายจังหวัดรับชม
00:26:37 → 00:26:39 อยู่ด้วยกันก็สามารถดาวน์โหลดเข้าไปพิมพ์
00:26:39 → 00:26:43 ว่าโภชนาการสำหรับผู้ป่วยโรโรคไตนะครับ
00:26:43 → 00:26:45 แล้วก็ดาวน์โหลดได้เลยเก็บไว้เซฟไว้อ่าน
00:26:45 → 00:26:49 ได้นะครับผมมีรูปภาพให้ดูด้วยดีเลยนะครับ
00:26:49 → 00:26:52 มีคุณผู้ชมถามเข้ามาครับอาจารย์หมอครับใน
00:26:52 → 00:26:56 เรื่องของโรคไตอักเสบซึ่งกินยาอ่ายาที่
00:26:56 → 00:26:58 เรียกว่าซ่าถูกต้องมั้ยครับอาจารย์หมอ
00:26:58 → 00:27:01 ครับอ่าซ่าเป็นยาความดันครับนะครับเนาะ
00:27:01 → 00:27:04 เป็นยาลดความดันเพียงแต่ว่าแน่นอนคนที่
00:27:04 → 00:27:06 เป็นโรคไตเราต้องลดความดันให้เหมาะสมแล้ว
00:27:06 → 00:27:10 ก็ช่แล้วเราต้องลดโปรตีนในปัสสาวะซ่า
00:27:10 → 00:27:12 เนี่ยเป็นยาที่ช่วยลดโปรตีนในปัสสาวะนะ
00:27:12 → 00:27:15 ครับการลดโปรตีนในสปัสสาวะก็จะช่วยป้อง
00:27:15 → 00:27:18 กันไตเสื่อมได้ในระยะยาวครับผมอแล้วอย่าง
00:27:18 → 00:27:20 งี้ไตไตเราจะทำงานหนักขึ้นมั้ยครับ
00:27:20 → 00:27:22 อาจารย์หมอครับถ้าเราก็ทำยาตัวถ้าถาอย่า
00:27:23 → 00:27:25 ออไม่ได้ทำงานหนักขึ้นครับผมอาจจะให้คน
00:27:25 → 00:27:27 อยากให้คอนเซปอย่างงี้ไว้นะครับคนไข้ส่วน
00:27:27 → 00:27:30 นึงที่มันเจอผมเช่นคนไข้เบาหวานความดัน
00:27:30 → 00:27:34 บอกว่าไม่กินยาเพราะว่ากลัวว่ายานี้จะมี
00:27:34 → 00:27:37 ผลต่อไตไม่ใช่แล้วนะครับนะขอกรี๊ด 1 ทีนะ
00:27:37 → 00:27:39 ครับเนาะไม่ใช่แล้วคือว่าอันนี้เป็น
00:27:39 → 00:27:42 คอนเซปต์ที่ผิดเลยครับยิ่งไม่กินยาสิเบา
00:27:42 → 00:27:45 หวานคุมไม่ได้ความดันคุมไม่ได้ยิ่งจะทำ
00:27:46 → 00:27:49 ให้ตัวไตเนี่ยเ่าตัวไตแย่ลงนะครับความยาก
00:27:49 → 00:27:51 มีอยู่นิดนึงครับยกตัวอย่างเช่น lansa
00:27:51 → 00:27:54 ที่มีท่านถามมาเนี่ยนะครับถ้าไปเสิร์ชใน
00:27:54 → 00:27:57 อินเทอร์เน็ตดูไปหาใน Google ดูนะจะเจอ
00:27:57 → 00:28:01 ว่าแนซ่าหรือยากลุ่มเนี้ยทำให้ไตวายคนไข้
00:28:01 → 00:28:04 ก็ไม่ยอมกินถามว่าเออถามว่าจริงมั้ยคำตอบ
00:28:04 → 00:28:08 คือถ้าใช้นะครับความดันต่ำเกินไปหรือคน
00:28:08 → 00:28:11 ไข้ขาดน้ำยากลุ่มนี้จะทำให้่าการทำงานแย่
00:28:11 → 00:28:15 ของไตเนี่ยแย่ลงช่วงนึงได้ถึงทานยาแบบนี้
00:28:15 → 00:28:17 ถึงต้องติดตามกับคุณหมออย่างน้อยต้องเป็น
00:28:17 → 00:28:20 หมออายุรกรรมหมอโรคตตนะครับหมอที่ดูแล
00:28:20 → 00:28:23 เป็นนะครับเนาะถึงจะไม่ใช่ว่าโอซื้อยาทาน
00:28:23 → 00:28:25 เองไปเรื่อยๆมันถึงไม่ได้นะครับเนาะครับ
00:28:25 → 00:28:29 ผมครับอืครับผมอ่ะคุณผู้ชมถามคำถามกัน
00:28:29 → 00:28:31 เข้ามาได้เรื่อยๆตอนนี้เรายังมีเวลาเหลือ
00:28:31 → 00:28:33 อีกเยอะอยู่อีกประมาณครึ่งชั่วโมงหลังนะ
00:28:33 → 00:28:36 ครับในรายการของเรามีคุณผู้ชมนะครับถาม
00:28:36 → 00:28:39 กันเข้ามาในเรื่องของเอ่อบอกว่าขอบคุณ
00:28:39 → 00:28:42 อาจารย์หมอนะครับได้ความรู้กำลังรับชมจาก
00:28:42 → 00:28:45 เ่อสวนดอกจาก LINE แอดสวนดอกอยู่ลำลูกกา
00:28:45 → 00:28:47 ครับอาจารย์หมอลำลูกกาปทุมธานีใช่มั้ย
00:28:47 → 00:28:50 ครับอ่านะครับผมจริงๆสามารถดาวน์โหลด
00:28:50 → 00:28:52 หนังสือที่อาจารย์หมอนำเสนอไปได้มีอาหาร
00:28:52 → 00:28:55 พื้นถิ่นโภชนาการสำหรับผู้ป่วยโรคไตนะ
00:28:55 → 00:28:56 ครับหรือว่าใครที่ยังไม่เป็นก็สามารถอ่าน
00:28:56 → 00:28:58 ได้เหมือนกันเนาะอาจารย์หมอ
00:28:58 → 00:29:01 ไปศึกษาหาความรู้กันก่อนได้นะครับผม
00:29:01 → 00:29:03 ขอบคุณอาจารย์หมอนะครับได้ความรู้มากๆเลย
00:29:03 → 00:29:06 รับชมจากดอยสะเก็ดครับคุณนิกกี้ครับผมรับ
00:29:06 → 00:29:10 ชมจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ครับคุณคุณพัคุณ
00:29:10 → 00:29:13 ัชนะครับใช่ไหมครับแล้วก็มีคุณพรพิมนถาม
00:29:13 → 00:29:16 กันเข้ามาครับอาจารย์หมอครับว่าคุณแม่
00:29:16 → 00:29:19 ครับเป็นโรคไตระยะที่ 4 อโรคไตมีทั้งหมด
00:29:19 → 00:29:23 มี 5 ระยะอันนี้เป็นระยะที่ 4 ค่าไตเหลือ
00:29:23 → 00:29:27 20 จะต้องฟอกไตทีนี้ค่าไตจะต้องเหลือ
00:29:27 → 00:29:31 เท่าไหร่โอเคครับโดยหลักการนะครับเนาะนะ
00:29:31 → 00:29:34 ฮะเราจะเริ่มฟอกไตเนี่ยเมื่อ่าไเมื่อคน
00:29:34 → 00:29:37 ไข้เนี่ยฆ่าไตเข้าสู่ระยะที่ 5 ระยะที่ 5
00:29:37 → 00:29:42 คือต่ำกว่า 15% 1 ต่ำกว่า 15% และมี
00:29:42 → 00:29:46 อาการอาการก็คืออาการที่เกิดจากของเสีย
00:29:46 → 00:29:49 คั่งในร่างกายเพราะว่าเวลาไตเนี่ยนอกจาก
00:29:49 → 00:29:52 ขับน้ำแล้วเนี่ยนะครับไตยังขับเกลือแร่
00:29:52 → 00:29:55 ถูกมั้ยครับเนาะนะฮะอ่าไตขับของเสียเพราะ
00:29:55 → 00:29:58 ฉะนั้นเนี่ยเวลาไตเสื่อมของเสียขับไม่ได้
00:29:58 → 00:30:00 ของเสียก็จะสูงขึ้นในร่างกายของเสียที่
00:30:00 → 00:30:03 สูงขึ้นจะส่งผลทำให้คนไข้มีอาการอ่อน
00:30:03 → 00:30:07 เพลียเบื่ออาหารคืนใส่อาเจียนเป็นเยอะๆก็
00:30:07 → 00:30:11 ทำให้ซึมหมดสติชักนะครับเนาะนะครับงั้น
00:30:11 → 00:30:14 อันที่ 1 ถามว่าเมื่อไหร่จะต้องฟอก 1 คือ
00:30:14 → 00:30:18 ถ้าค่าไตเนี่ยต่ำกว่า 15% ร่วมกับมีอาการ
00:30:18 → 00:30:20 ที่ผมเล่าไปเมื่อกี้ถูกต้องอาการจากของ
00:30:21 → 00:30:24 เสียข้างนะครับ 2 ครับถ้าไม่มีอาการเราจะ
00:30:25 → 00:30:28 พิจารณาฟอกไตเมื่อค่าไตต่ำกว่า 5 ถึง 7%
00:30:28 → 00:30:31 ครับนะครับเนาะนะครับนก็ควรจะพิจารณาฟอก
00:30:31 → 00:30:34 แต่โดยส่วนใหญ่เวลาหมอไตดูคนไข้เนี่ยถ้า
00:30:34 → 00:30:38 เข้าสู่ระยะที่ 4 ระยะที่ 4 คือค่าตาย 15
00:30:38 → 00:30:41 -30% อย่างอ่าคุณแม่ของคนที่ถามเข้ามา
00:30:41 → 00:30:43 เนี่ยนะครับก็อยู่ที่ 20 เนาะหมอหมอเขา
00:30:43 → 00:30:47 มักจะคุยละว่าโอเคถ้าจะต้องฟอกไตเนี่ยมัน
00:30:47 → 00:30:49 จะมีทางเลือกอะไรบ้างล้างไตทางหน้าท้องนะ
00:30:50 → 00:30:52 เ่ารายการฟอกเลือดนะอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:30:52 → 00:30:54 เพื่อให้คนไข้ได้รับทราบไว้ว่าจะต้อง
00:30:54 → 00:30:57 เตรียมตัวอย่างไรยิ่งถ้าสมมุติคนไข้ตัด
00:30:57 → 00:31:00 สินใจว่าเออถ้าสมมติไตเแย่ลงต้องล้างไต
00:31:00 → 00:31:03 จริงๆเนี่ยเจะฟอกเลือดเราก็อยากจะส่งเจอ
00:31:03 → 00:31:06 หมอผ่าตัดให้ผ่าตัดเส้นเลือดครับเตรียม
00:31:06 → 00:31:08 ไว้ก่อนนะครับเพราะว่าถ้าเกิดไตเสื่อม
00:31:08 → 00:31:11 ปุ๊บไตถึงระยะที่ต้องฟอกจริงๆมีข้อบ่งชี้
00:31:11 → 00:31:13 อย่างที่ผมว่าไป 2 ข้อเมื่อกี้ก็จะได้ใช้
00:31:13 → 00:31:16 ตรงเงี้ยในการฟอกเลือดได้เลยไม่ต้องต้อง
00:31:16 → 00:31:19 ใส่สายที่คอให้ลุงรังครับนะครับเนาะครับ
00:31:19 → 00:31:22 ผมครับผมขอบพระคุณคุณผู้ชมที่ถามกันเข้า
00:31:22 → 00:31:24 มาอีกคำถามครับอาจารย์หมอครับในเรื่องของ
00:31:24 → 00:31:28 การรับประทานยาเหมือนกันเป็นยาอัตรอัลต
00:31:28 → 00:31:31 เซตอัลตเซตครับอ่าอัลตเซนะครับซึ่งมีส่วน
00:31:31 → 00:31:36 ผสมพาราอยู่ด้วยคุณผู้ชมคุณคุณชุอารีนะ
00:31:36 → 00:31:39 ครับบอกว่าแก้ปวดนะครับแก้ปวดบ่อยแล้วก็
00:31:39 → 00:31:41 ทานยาตัวนี้มีส่วนผสมของยาพาราอยู่ด้วยมี
00:31:41 → 00:31:44 ผลกลับไปมครับอาถเสร็จไม่มีผกับไตครับนะ
00:31:44 → 00:31:47 ครับอเสษจะผสมกับยาพาราแล้วก็ยากลุ่มที่
00:31:47 → 00:31:51 เป็นเ่ออนุพันธ์ของกลุ่มพวกอ่าเราเรียก
00:31:51 → 00:31:53 ว่าเป็นกลุ่มของมอร์ฟีนกลุ่มยาแก้ปวดพวก
00:31:53 → 00:31:55 นั้นงั้น 1 อัตรเส็จไม่มีผลกับไตนะครับ
00:31:55 → 00:31:59 เนางั้นทานได้ไม่ทำให้ไตเสื่อมแต่แต่อัต
00:31:59 → 00:32:01 ที่มีผลก็คือว่าเนื่องจากกลุ่มอนุพันธ์
00:32:01 → 00:32:04 ของยากลุ่มพวกโอออยหรือกลุ่มมอร์ฟีนเนี่ย
00:32:04 → 00:32:06 นะครับที่เราเลือกเรียกเนี่ยนะครับถ้าคน
00:32:06 → 00:32:09 สูงอายุมากๆหรือถ้าไตเสื่อมในระยะนึงแล้ว
00:32:09 → 00:32:12 เนี่ยเช่นตัวค่าไตต่ำกว่า 30% แล้วการทาน
00:32:12 → 00:32:15 อัตเเอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงจากอัตเซต
00:32:15 → 00:32:18 ได้ผลข้างเคียงที่สำคัญคือคลื่นไส้
00:32:18 → 00:32:21 อาเจียนบางคนมีมึนศีรษะครับนะครับงั้นไม่
00:32:21 → 00:32:25 ทำให้ไตแย่ลงแต่ผลข้างเคียงเจอได้บ่อย
00:32:25 → 00:32:27 ขึ้นเท่านั้นเองในไข้ที่ไตเสื่อมครับผม
00:32:27 → 00:32:31 อ่าชัดเจนนะครับคุณผู้ชมครับมีคำถามหลายๆ
00:32:31 → 00:32:33 คำถามอาจารย์หมอวันนี้ถามกันเข้ามาขอบพระ
00:32:33 → 00:32:36 คุณคุณผู้ชมนะครับเราฝากกดไลก์กดแชร์กด
00:32:36 → 00:32:38 ติดตามด้วยเราจะมีรายการสุขภาพดีในทุกๆ
00:32:39 → 00:32:41 ประจำสัปดาห์คุณผู้ชมสามารถพิมพ์คอมเมนต์
00:32:41 → 00:32:43 พูดคุยกันเข้ามาแบบนี้จะพบกับอาจารย์หมอ
00:32:43 → 00:32:45 ในทุกๆสัปดาห์แบบนี้นะครับวันนี้เป็น
00:32:45 → 00:32:48 เรื่องของโรคไตคำถามต่อมาครับอาจารย์หมอ
00:32:48 → 00:32:53 ครับจากคุณอ่าคุณประพนะครับคุณประไพถาม
00:32:53 → 00:32:54 ว่า
00:32:54 → 00:33:00 เ่อในส่วนของค่าโพแทสเซียมครับอยู่ที่ 5.1
00:33:00 → 00:33:03 สูงไปมครับอาจารย์หมออ่าถือว่าเริ่มสูง
00:33:03 → 00:33:05 อย่างงี้ดีกว่านะครับโพแทสเซียมเนี่ยนะ
00:33:06 → 00:33:09 ครับค่าปกติก็คืออ่าค่าปกติเนี่ยอยู่ที่
00:33:09 → 00:33:13 ระหว่าง 3.5 - 5.5 ครับอ่านะครับเกิน
00:33:13 → 00:33:16 5.0 ถือว่าเริ่มสูงะถ้าอย่างเงี้ยคุณ
00:33:16 → 00:33:19 ประไพเนี่ยควรจะต้องเริ่มดูเรื่องอาหารละ
00:33:19 → 00:33:21 แล้วก็ลดอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงก็ต้องไป
00:33:21 → 00:33:23 ดูละมีทานอาหารที่โพแทสเซียมสูงที่ผม
00:33:23 → 00:33:26 กล่าวไปมั้ยถ้ามีคุณประไพก็ควรจะหยุดก่อน
00:33:26 → 00:33:29 หรือลดลงอย่าง
00:33:29 → 00:33:35 ครในครึ่ง 25 อย่าครับเนาต้องเร่มลครับ
00:33:35 → 00:33:37 แล้วถ้าคุณประพกินกล้วยวันละ 1-2 ลูกครับ
00:33:37 → 00:33:40 อาจารย์โอคุณประพต้องลดครับผมก็จะบอกคุณ
00:33:40 → 00:33:43 ประพว่าคุณประพครับเหลือขอกล้วยนึงเือ
00:33:43 → 00:33:46 เหลือสัปดาห์ละ 2 ลูกหรือ 3 ลูกก็พออะไร
00:33:46 → 00:33:49 อย่าเงี้นะครับแล้วจะทำให้ไม่ต้องไปกินยา
00:33:49 → 00:33:51 เพื่อรักษาโปแตสเซียมสูงไงครับเราปรับ
00:33:51 → 00:33:54 อาหารเอานี่แสดงว่ากล้วยมีโพเทสเซียมสูง
00:33:54 → 00:33:57 ใช่ครับกล้วยมีโพแทสเซียมสูงครับนะครับเ
00:33:57 → 00:34:02 ปรับการรับประทานนะครับผมคุณพิยาวัรับชม
00:34:02 → 00:34:04 จากอำเภอเชียงคำจังหวัดพะเยาครับอาจารย์
00:34:04 → 00:34:07 หมอครับต่อมาคำถามจากคุณสุธินันท์ครับผม
00:34:07 → 00:34:11 ถามในเรื่องของฟอกไตอาทิตย์ละ 2 ครั้งถือ
00:34:11 → 00:34:13 ว่าอยู่ในระยะที่เท่าไหร่ครับอาจารย์อ๋อ
00:34:13 → 00:34:15 ถ้าฟอกไตแล้วต้องเป็นระยะที่ 5 แล้วครับ
00:34:15 → 00:34:17 นะครับเนาะนะฮะระยะที่ 5 แล้วก็ค่าการทำ
00:34:17 → 00:34:20 งานของไตเสื่อมมากจนไม่ไหวละนะครับเนาะนะ
00:34:20 → 00:34:23 ครับก็คือก็ถึงจะต้องเริ่มฟอกไตนะครับวัน
00:34:23 → 00:34:26 นี้ก็เป็นการฟอกเลือดอนะครับสัปดาห์ละ 2
00:34:26 → 00:34:28 จริงๆแล้วเนี่ยดีที่สุดสุดควรบางคนอาจจะ
00:34:28 → 00:34:31 ต้องไปถึงสัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นอยู่กับ
00:34:31 → 00:34:33 ปริมาณปัสสาวะของคนไข้ว่าเหลืออยู่เยอะ
00:34:33 → 00:34:37 มากน้อยแค่ไหนนะครับถ้าไม่มีปัสสาวะเลย
00:34:37 → 00:34:40 โดยส่วนใหญ่เราแนะนำควรจะเป็น 3 ครั้งต่อ
00:34:40 → 00:34:41 สัปดาห์นะครับเนาะเพราะะนั้นจะได้
00:34:41 → 00:34:44 ประสิทธิภาพดีที่สุดกำจัดของเสียได้เยอะ
00:34:44 → 00:34:46 ที่สุดครับผมอหมายความว่าการปัสสาวะหมาย
00:34:46 → 00:34:50 ถึงถ้าอ่าผู้ป่วยโรคไตในการปัสสาวะคือ
00:34:50 → 00:34:52 เป็นเป็นสัญญาณที่ดีเพื่อขับของเสียออก
00:34:52 → 00:34:54 อันนี้หมายถึงไวายระยะสุดท้ายแล้วนะครับ
00:34:54 → 00:34:57 แล้วก็ฟอกไตอยู่ละนะครับถ้ามีปัสสาวะเกิน
00:34:57 → 00:35:00 1 แก้วต่อวันก็ยังพอไหวถ้าจะถ้าจะฟอก
00:35:00 → 00:35:03 สัปดาห์ละ 2 ครั้งแต่ถ้าปัสสาวะน้อยกว่า 1
00:35:03 → 00:35:06 แก้วน้ำคือ 250 ซีซีเนี่ยนะครับต่อวันละ
00:35:06 → 00:35:09 อันนี้โดยส่วนใหญ่เรามักจะแนะนำให้ฟอก
00:35:09 → 00:35:11 สัปดาห์ละ 3 ครั้งละแต่ทีนี้ยังขึ้นอยู่
00:35:11 → 00:35:14 กับขนาดร่างกายด้วยนะครับถ้าสมมุติอายุ
00:35:14 → 00:35:17 เยอะมากๆผู้หญิงตัวเล็กๆอ่าไม่มีปัสสาวะ
00:35:17 → 00:35:20 ก็จริงแต่อาจจะฟอก 2 ครั้งพอไหวครับนะ
00:35:20 → 00:35:23 ครับแต่ถ้าเป็นโอ้โหผู้ชายหรือผู้หญิงวัย
00:35:23 → 00:35:26 ทำงานไม่มีปัสสาวะแล้ว 2 ครั้งต่อสัปดาห์
00:35:26 → 00:35:31 นี่ไม่น่าจะไวอืจะถึง 3 ไปเลยนะครับอ่ะคำ
00:35:31 → 00:35:35 ถามต่อมานะครับจากคุณชัชวาลครับอาจารย์
00:35:35 → 00:35:37 หมออันนี้เป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร
00:35:37 → 00:35:41 ที่เป็นธัญพืชซึ่งคุณชัชว์อ่าถามกันเข้า
00:35:41 → 00:35:45 มาว่า sle กินธัญพืชประเภทถั่วปั่นทุกวัน
00:35:45 → 00:35:48 อันตรายต่อไตมั้ยครับไม่น่าจะมีปัญหาครับ
00:35:48 → 00:35:51 นะครับเนาะนะครับเอ่อถั่วก็คือแน่นอนถั่ว
00:35:51 → 00:35:54 มีโปรตีนนะครับเนาะ 2 ถั่วมีฟอสฟอรัสที่
00:35:54 → 00:35:57 ผมบอกไปนะครับแต่เป็นฟอสฟอรัสกลุ่มที่ไม่
00:35:57 → 00:36:00 ดูจูดซึมครับนะครับเนเพราฉะนั้นถั่วเนี่ย
00:36:00 → 00:36:04 สามารถทานได้แล้วผมไม่ไม่คิดว่าถั่วเนี่ย
00:36:04 → 00:36:07 จะกระตุ้นทำให้ SL กำเริบมากขึ้นนะครับ
00:36:07 → 00:36:09 เนาะนะครับนะครับงั้นถั่วปั่นสามารถทาน
00:36:10 → 00:36:13 ได้ครับผมครับผมอ่ะชัดเจนนะครับคุณผู้ชม
00:36:13 → 00:36:15 ครับถามกันเข้ามาได้ตอนนี้เราเหลือเวลา
00:36:15 → 00:36:19 อีกประมาณ 15 นาทีก่อนที่จะจบรายการในวัน
00:36:19 → 00:36:21 นี้นะครับผมคำถามต่อมาเป็นเรื่องของการ
00:36:21 → 00:36:24 รับประทานอาหารเช่นกันครับอาจารย์หมอครับ
00:36:24 → 00:36:26 อันนี้อาจจะในเรื่องของคนที่ชอบรับประทาน
00:36:26 → 00:36:31 อาหารกับเพื่อนแ่าในเรื่องของการทานส้มตำ
00:36:31 → 00:36:34 ครับอาจารย์หมอจริงๆเป็นอาหารยอดิของคน
00:36:34 → 00:36:39 ไทยเลยครับทานติดๆกันรู้สึกตัวบวมนี่รู้
00:36:39 → 00:36:41 สึกได้ดยการที่เพื่อนทักครับอาจารย์หมอ
00:36:41 → 00:36:44 เพื่อนไม่อ้วนนะครับเไม่ใช่อ้วนนะต้องบวม
00:36:44 → 00:36:47 นะอ่ายืนยันว่าบวมแล้วไม่ได้วมแล้วโอเอ
00:36:47 → 00:36:48 ไม่เหมือนกันบวมกับอ้วนนี่ไม่เหมือนกันนะ
00:36:48 → 00:36:51 ครับครับผมอาจจะบวมที่บริเวณหน้าครับรู้
00:36:51 → 00:36:55 สึกว่าหน้าบวมอ่าแล้วก็โดนทักอยู่สักพัก
00:36:55 → 00:36:58 นึงเป็นแบบนี้มาสักพักนึงแล้วก็เกิดจาก
00:36:58 → 00:37:00 อาหารจริงๆยหรือว่าร่างกายเนี่ยกำลัง
00:37:01 → 00:37:05 กำจัดเอ่อหรือร่างกายกำลังมีปฏิกิริยาต่อ
00:37:05 → 00:37:07 การรับประทานอาหารยังไงบ้างอ่าคือส้มตำ
00:37:08 → 00:37:11 เนี่ยหลักๆของส้มตำเนี่ยนะครับ 1 คือแน่
00:37:11 → 00:37:13 นอนส้มตำเค็มครับนะครับแล้วส้มตำนี่มี
00:37:13 → 00:37:16 เกลือเยอะั้นส้มตำเนี่ยมีมันก็จะเป็น
00:37:16 → 00:37:18 กลุ่มที่อาหารที่โซเดียมสูงที่ผมได้กล่าว
00:37:18 → 00:37:20 ไปนะครับเพราะงั้นจะเสี่ยงทำให้ความดัน
00:37:21 → 00:37:24 ขึ้นได้ทำให้บวมได้เนาะแต่การบวมเนี่ย
00:37:24 → 00:37:27 เวลาบวมจากโรคไตหรือบวมจากเกลือโซเดียมเม
00:37:27 → 00:37:29 ทั้งหลายอย่างที่ผมบอกอ่ะครับมักจะบวมที่
00:37:29 → 00:37:32 ส่วนข้างล่างก่อนนะครับถ้าบวมแต่หน้า
00:37:32 → 00:37:34 อย่างเดียวโดยที่ขาไม่บวมเลยหรือเท้าไม่
00:37:34 → 00:37:36 บวมเลยอย่างที่ผมบอกแนะนำวิธีตรวจเลยนะ
00:37:36 → 00:37:39 ครับเนาะอันนี้อาจจะไม่ใช่ละว่าจะเป็นจาก
00:37:39 → 00:37:41 โซเดียมนะครับคงจะต้องไปดูอย่างอื่นละนะ
00:37:41 → 00:37:45 ครับเช่นไม่อ้วนแน่นะเข็มกางเกงใส่ได้
00:37:45 → 00:37:47 หรือชุดใส่ได้ตามปกติใช่มยไปแต่หน้าอย่าง
00:37:47 → 00:37:49 เดียวอ่าถ้าไปแต่หน้าอย่างเดียวยืนยันว่า
00:37:49 → 00:37:50 บวมจริงๆแต่หน้าอย่างเดียวอันนี้ก็ต้องไป
00:37:50 → 00:37:54 ตรวจเพื่อหาสาเหตุนะครับผมนะครับ 2 ส้มตำ
00:37:54 → 00:37:57 ก็แน่นอนส้มตำนี่ถือว่าเป็นอาหารดิบเนาะ
00:37:57 → 00:38:01 คนไข้ที่เป็นโรคตายที่กินยากดภูมิต้านทาน
00:38:01 → 00:38:04 พวกเควรต้องหลีกเลี่ยงแน่นอนส้มตำเพราะ
00:38:04 → 00:38:06 ว่ามีความเสี่ยงที่จะเนื่องจากส้มตำถือ
00:38:06 → 00:38:08 ว่าไม่ได้ผ่านความร้อนนะครับเนาะนะครับ
00:38:08 → 00:38:11 เพราอ่าเพราะะนั้นก็ถือว่ามีโอกาสที่ทำ
00:38:11 → 00:38:14 ให้มีเชื้อโรคในนั้นได้นะครับเนาะแต่ถ้า
00:38:14 → 00:38:17 สมมุติว่าเป็นคนปกติเลยนะครับเนาะหรือ
00:38:17 → 00:38:19 เป็นโรคไตที่ไม่ได้ยะไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้
00:38:19 → 00:38:24 สูงมากคือ่าไตยังดีอยู่ไม่บวมความดันดี
00:38:24 → 00:38:26 ไม่ได้กินยากดภูมิคุ้มกันส้มตำกินได้แน่
00:38:26 → 00:38:28 นอนครับนะครับเพราะเป็นอาหารที่มีวิตามิน
00:38:28 → 00:38:32 สูงมากครับผมอือ่าคุณผู้ชมมีรายละเอียด
00:38:32 → 00:38:35 ที่จะต้องอาจจะต้องดูกันสักนิดนึงนะครับ
00:38:35 → 00:38:38 ว่าเอ๊ะมันเป็นยังไงบวมจริงหรือเปล่าจะำ
00:38:38 → 00:38:40 บอกว่าถ้าเป็นโรคไตต้องบวมช่วงล่างอย่า
00:38:40 → 00:38:44 นอยต้องบวมขาก่อนถูกกดบุ๋มใช่ครับอ่าเช็ค
00:38:44 → 00:38:47 กันได้ครับครับคำถามต่อมาครับอาจารย์หมอ
00:38:47 → 00:38:51 จากคุณจนัญญาครับบอกว่าคุณจนัญญาเปลี่ยน
00:38:51 → 00:38:56 ไตครับแล้วก็อยากดื่มกาแฟอ่าฮะได้ยครับ
00:38:56 → 00:38:58 ได้สิครับนะครับพิจารณานี้ Follow อยู่
00:38:58 → 00:39:00 เอ้ติดตามอยู่กับผมรึเปล่าเนี่ยครับบ้าน
00:39:00 → 00:39:02 อยู่ลำปางรเป่านะใช่นะครับนะครับเอ่อคือ
00:39:02 → 00:39:06 คือได้ครับนะครับผมบอกนะเอ่อกาแฟมีผล
00:39:06 → 00:39:08 อย่างเดียวคือเรื่องของฟอสฟอรัสถ้า
00:39:08 → 00:39:11 ฟอสฟอรัสไม่สูงสามารถทานได้ครับนะครับ
00:39:11 → 00:39:14 เหมือนที่อาจารย์หมอพูดไปต้นรายการว่ามี
00:39:14 → 00:39:17 เกลือโพแทสเซียมฟอสฟอรัสตัวไหนสูงลดตัว
00:39:17 → 00:39:20 นั้นถูกต้องดูเป็นตัวเป็นตัวไปนะครับน้อง
00:39:20 → 00:39:22 นะครับผมเราจะรู้ว่าเราสูงนี่เอาจจะต้อง
00:39:22 → 00:39:25 ไปตรวจเจาะเลือดอย่างเดียวเจาเลือดตรวจดู
00:39:25 → 00:39:28 นะครับคุณผู้ชมครับอ่าต่อไปครับผมจากคุณ
00:39:29 → 00:39:31 ไทยอาจารย์หมอยังเหลืออีกประมาณ 3 คำถาม
00:39:31 → 00:39:33 ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่นะครับจากคุณไทยนะ
00:39:34 → 00:39:37 ครับถามว่าทานยาความดันโลหิตสูงกับไขมัน
00:39:37 → 00:39:39 มานานมีโอกาสไตเสื่อมมั้ยครับเนี่ยแหละ
00:39:39 → 00:39:42 ครับนะครับเนาถ้าไม่ทานสิไตจะเสื่อมเอ
00:39:42 → 00:39:45 คล้ายๆกันที่จำตัวถูกต้องครับนะครับความ
00:39:45 → 00:39:48 ดันโลหิตสูงเนี่ยต้องทานยาเลยครับนะครับ
00:39:48 → 00:39:50 ยาความดันเนี่ยก็คือก็คือแน่นอนหวังเพื่อ
00:39:51 → 00:39:53 ลดความดันเพื่อป้องกันไม่ให้ไตเสื่อมที่
00:39:53 → 00:39:55 ผมเรียนไปแล้วว่าความดันุสูงเป็นสาเหตุ
00:39:55 → 00:39:58 อันดับ 2 เลยนะครับของประเทศเราที่ทำให้ไ
00:39:58 → 00:40:01 เสื่อมครับงั้นต้องคุมความดันให้ดีนะครับ
00:40:01 → 00:40:03 ความดันเนี่ยคนไข้ความดันความดันโลหิตสูง
00:40:03 → 00:40:06 เนี่ยเราแนะนำว่าควรจะวัดความดันเองที่
00:40:06 → 00:40:09 บ้านถ้ามีเครื่องถ้าไม่มีเครื่องก็วัด
00:40:09 → 00:40:11 ความดันทุกครั้งที่มีโอกาสครับอนามัยใกล้
00:40:11 → 00:40:14 บ้านไปคลินิกไปส่งใครไปตรวจอะไรอย่าเงี้
00:40:14 → 00:40:18 นะครับลองวัดดูความดันเนี่ยเราอยากให้ต่ำ
00:40:18 → 00:40:22 กว่าตัวบนนะครับ 135 -10 อันนี้ควรจะต่ำ
00:40:22 → 00:40:25 กว่านั้นครับนะครับผมออ่ะดังนั้นจริงๆ
00:40:25 → 00:40:29 เรื่องการทานยาก็ก็ถือว่ามีความสำคัญมี
00:40:29 → 00:40:31 ความจำเป็นแหละสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
00:40:31 → 00:40:33 ก็อาจจะไม่ได้ส่งผลให้ไทำงานหนักแต่ว่า
00:40:34 → 00:40:36 อย่างถ้าไม่ทานที่อาจารย์บอกไม่ทานก็ครับ
00:40:36 → 00:40:39 อาจจะแย่ได้ครับครับผมคำถามต่อมานะครับ
00:40:39 → 00:40:43 จากคุณสานิตครับคุณสานิตรับชมจากอำเภอ
00:40:43 → 00:40:45 หางดงครับบอกว่าขอบคุณอาจารย์หมอครับ
00:40:45 → 00:40:49 รักษากับอาจารย์หมอตั้งแต่ปี 45 โอ้โห
00:40:49 → 00:40:53 ผ่านมาหลายปีอาจารย์หมอใจดีรักษาดีมากนะ
00:40:53 → 00:40:55 ครับที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ของ
00:40:55 → 00:40:57 เรานะครับต่อไปจากคุณ
00:40:58 → 00:41:01 คุณปรัชญานะครับคุณปรัชญาบอกว่าอ่าเป็น
00:41:01 → 00:41:07 เบาหวานครับอาจารย์หมอค่าเรชายอ่ามีค่า
00:41:07 → 00:41:09 อยู่
00:41:09 → 00:41:13 0.75 ค่าเติอันนี้คือค่าไตครับอ่าค่า
00:41:13 → 00:41:18 เตินครับ 0.75 อ่าครับค่าน้ำตาลสะสม 6.7
00:41:18 → 00:41:22 กลูโคสในเลือดรอครับเสี่ยงเป็นโรคไตมั้
00:41:22 → 00:41:24 ครับอาจารย์อายุ 43 ด้วยโอเคอันนี้อันนี้
00:41:24 → 00:41:26 ยังถือว่าอันนี้ยังถือว่าเสียงน้อยครับผม
00:41:26 → 00:41:29 นะครับเนาะ 0.75 นี่ยังถือว่าเวลาเราเรา
00:41:29 → 00:41:33 เราดูค่าไตเนี่ยเราดูค่าเตินที่ที่คุณถาม
00:41:33 → 00:41:36 มาเนี่ยนะครับ 0.75 แล้วมันจะเอาคำนวณ
00:41:36 → 00:41:38 เป็นค่าไตขึ้นอยู่กับอายุขึ้นอยู่กับเพศ
00:41:38 → 00:41:40 ครับว่าค่าไตกี่เปอร์เซ็นต์แต่ผมคิดว่า
00:41:40 → 00:41:44 0.75 เนี่ยค่าไตเนี่ยควรจะเกิน 70 80%
00:41:44 → 00:41:47 แน่นอนคนที่เป็นเบาหวานครับโดยเฉพาะเบา
00:41:47 → 00:41:50 หวานที่ไม่เกิน 10 ปีครับควรคุมน้ำตาลให้
00:41:50 → 00:41:52 ดีเพราะอันนี้จะข้อมูลชัดเจนแล้วว่าช่วย
00:41:52 → 00:41:55 ป้องกันการเสื่อมของไตได้ดีแค่ไหนครับน้ำ
00:41:55 → 00:41:59 ตาลสะสมควรต้องน้อยกว่า 6.5% ครับนะครับ
00:41:59 → 00:42:02 เนาะถ้าเบาหวาดไม่เกิน 10 ปีนะตสสมให้
00:42:02 → 00:42:04 น้อยกว่า 6.5% จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิด
00:42:04 → 00:42:07 โรคไตจากเบาหวานและที่สำคัญคือลดความ
00:42:07 → 00:42:11 เสี่ยงเกิดโรคตาจากเบาหวานด้วยครับผมอนี่
00:42:11 → 00:42:15 นะครับอ่ะมี FC คุณหมอเยอะมากเลยนะครับมา
00:42:15 → 00:42:17 รับชมด้วยกันทั้งในส่วนของคนที่ติดตาม
00:42:17 → 00:42:20 อาจารย์หมอนะครับแล้วก็เป็นผู้ป่วยที่ได้
00:42:20 → 00:42:23 รับการรักษาจากโรงพยาบาลของเรารงบัมหาราช
00:42:23 → 00:42:25 นครเชียงใหม่คณะแพทยศาสตรมหาวิทยาลัย
00:42:25 → 00:42:27 เชียงใหม่นะครับเอาล่ะครับอาจารย์หมอครับ
00:42:27 → 00:42:30 คำถามสุดท้ายครับมาแล้วนะครับจากคุณโยโย
00:42:30 → 00:42:34 อ่าคุณโยโยถามว่าตอนนี้อยู่โรงพยาบาลครับ
00:42:34 → 00:42:37 รู้สึกกังวลเพราะว่าเป็นในเรื่องของ sle
00:42:37 → 00:42:42 ลงไตตอนนี้หน้าบวมความดันสูงจะทำยังไงดี
00:42:42 → 00:42:45 ครับอาจารย์นี้ครับนะครับเนาะก็ในทางการ
00:42:45 → 00:42:49 รักษาเนาะเราคงต้องลดการอักเสบในร่างกาย
00:42:49 → 00:42:52 นะครับผมผมผมเข้าใจว่าคุณโยโยเนี่ยตัว sle
00:42:52 → 00:42:54 เนี่ยเนื่องจาก sle เป็นโรคที่ร่างกาย
00:42:54 → 00:42:58 สร้างภูมิต้านทานมาทำลายทุกอวัยวะครับหนึ
00:42:58 → 00:43:00 ในนั้นก็คือไตนะครับเนาะนะครับเพราะ
00:43:00 → 00:43:03 ฉะนั้นคืออ่าเราก็ต้องรักษาโดยการที่ลด
00:43:03 → 00:43:06 ภูมิต้านทานเหล่านี้โดยการให้กินยาหรือ
00:43:06 → 00:43:09 ฉีดยากดภูมิคุ้มกันนะครับเนาะความดันเริต
00:43:09 → 00:43:11 สูงก็ต้องคุมความดันให้ดีเพราะว่าไม่งั้น
00:43:12 → 00:43:14 ก็ไม่งั้นก็คือสามารถจะกระตุ้นทำให้ตัวไต
00:43:14 → 00:43:17 แย่ลงได้หรือทำให้เกิดเปัญหากับสมองและทำ
00:43:17 → 00:43:20 ให้เกิดการชักได้ครับงั้นตอนนี้คุณโยโย
00:43:20 → 00:43:22 อยู่โรงพยาบาลอยู่แล้วนะครับก็สบายใจได้
00:43:22 → 00:43:25 ครับนะครับว่าดูอยู่ในมือดูแลโดยในมือคุณ
00:43:25 → 00:43:28 หมออยู่แล้วนะดูเต็มที่แน่นอนครับผมครับ
00:43:28 → 00:43:33 ผมสบายใจได้นะครับคำถามต่อมานะครับ
00:43:33 → 00:43:37 อ่าคุณคุณคุณวาวคุณวาวๆบอกว่าอบอุ่นใจที่
00:43:37 → 00:43:40 ได้ความรู้จากอาจารย์หมอจริงๆเรื่อง
00:43:40 → 00:43:41 เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอาจารย์
00:43:41 → 00:43:44 หมอเพว่าคนไทยเป็นเยอะเนาะอาจารย์หมอครับ
00:43:44 → 00:43:49 หลายคนกังวลจนอาจจะรู้สึกรับประทานอะไร
00:43:49 → 00:43:51 ไม่อยากกินนในสิ่งที่อาจจะเป็นเสียงเป็น
00:43:52 → 00:43:55 โรคไตบางคนกังวลถึงขนาดนั้นแล้วก็คนที่
00:43:55 → 00:43:57 เป็นผู้ป่วยโรคไตก็ได้รับความรู้ไปด้วย
00:43:57 → 00:44:00 ครับครับคำถามต่อมาครับอาจารหมอครับจาก
00:44:00 → 00:44:03 คุณภาวีครับไม่มีโอกาสเจออาจารย์หมอเลย
00:44:03 → 00:44:10 แต่ว่าค่าไตอ่าอยู่ที่ 3B ทานนมได้มโอเค
00:44:10 → 00:44:13 ฮะ 3B นี่คงหมายถึงระยะนะครับเนาะนะฮะ
00:44:13 → 00:44:17 ระยะไที่เป็น 1 2 3 4 5 นะครับ 3 นี่
00:44:17 → 00:44:20 จะแบ่งเป็น 3A กับ 3B นะครับ 3B เนี่ยก็
00:44:20 → 00:44:23 คือค่าตอยู่ระหว่าง 30 - 45% นะครับ
00:44:23 → 00:44:27 เนาะถามว่าระยะเมื่อค่าตายต่ำกว่า 60%
00:44:27 → 00:44:29 ต้องจำกัดโปรตีนนะครับเนาะนะฮะในหลักการ
00:44:29 → 00:44:31 คือ 1 คือต้องจำกัดโปรตีนแล้วล่ะครับถาม
00:44:31 → 00:44:34 ว่าทานนมได้มยเราก็ยังคงให้ทานนมนะครับ
00:44:34 → 00:44:36 คือแน่นอนจำกัดไม่ได้แปลว่าห้ามทานนะครับ
00:44:36 → 00:44:40 ผมนะครับงั้นทานได้ครับนะครับเพียงแต่ว่า
00:44:40 → 00:44:42 มันคงต้องมาดูว่าปริมาณโปรถ้าจะเอาราย
00:44:42 → 00:44:44 ละเอียดเนี่ยมันต้องมานั่งคำนวณว่าโปรตีน
00:44:44 → 00:44:47 กี่กรัมกี่กรัมอันนี้จะยากไปะนะครับเนาะ
00:44:47 → 00:44:49 สามารถไปดูในหนังสือโภชนาการเล่มนี้ได้นะ
00:44:49 → 00:44:51 ครับเนาะนะฮะแต่ว่าผมจะให้คอนเซปง่ายๆเลย
00:44:52 → 00:44:54 ครับก็คือว่าผมก็มักจะบอกคนไข้ว่าแน่นอน
00:44:54 → 00:44:57 ทานนมยังคงสามารถทานได้แต่อย่าทานเยอะ
00:44:57 → 00:45:00 เยอะแค่ไหนครับผมก็จะแนะนำว่าสัปดาห์นึง
00:45:00 → 00:45:03 ก็อาจจะซักอ่าประมาณซัก 2 แก้วถึง 3 แก้ว
00:45:03 → 00:45:07 คือ 250 - 344 ครับต่อสัปดาห์ครับผมอ
00:45:07 → 00:45:10 ครับผมอ่ะคุณผู้ชมครับมีมาอีก 1 คำถาม
00:45:10 → 00:45:13 ครับอาจารย์หมอก่อนที่เราจะได้ให้อาจารย์
00:45:13 → 00:45:15 หมอได้ปิดท้ายในรายการในวันนี้นะครับจาก
00:45:15 → 00:45:19 คุณกาเทวีครับบอกว่าอาจารย์พูดได้สนุกมาก
00:45:19 → 00:45:22 เลยอธิบายได้ชัดเจนนะครับแต่ว่าตอนนี้ยัง
00:45:22 → 00:45:25 ไม่เป็นโรคไตสนใจฟังอธิบายฟังได้ง่ายมากๆ
00:45:25 → 00:45:28 อาจจะไม่ใช่คำถามอ๋อครับขอบคุณครับผมเอา
00:45:28 → 00:45:31 ล่ะครับสุดท้ายครับอาจารย์หมอครับอยากจะ
00:45:31 → 00:45:34 ให้อาจารย์หมอได้ฝากถึงคุณผู้ชมที่กำลัง
00:45:34 → 00:45:37 รับชมอยู่ด้วยกันตอนนี้สำหรับผู้ที่ยัง
00:45:37 → 00:45:40 ไม่เป็นโรคไตและสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรค
00:45:40 → 00:45:43 ไตในเรื่องของการดูแลรักษาไตของเราให้
00:45:43 → 00:45:46 อยู่กับเราได้นานๆครับอาจารย์หมอกับหัว
00:45:46 → 00:45:48 ข้อในวันนี้เลือกกินอย่างไรให้ห่างไกลโรค
00:45:48 → 00:45:51 ไตโรคที่คนไทยเป็นเยอะครับเชิญครับสำหรับ
00:45:51 → 00:45:54 คนที่ยังไม่เป็นโรคตตนะครับผมก็แนะนำว่า
00:45:54 → 00:45:57 อ่าควรจะต้องมีการวัดความดันนะครับเป็น
00:45:57 → 00:46:01 ระยะๆะนะครับเนาะนะฮะเอ่อก็คือเป็นการ
00:46:01 → 00:46:03 เช็คสุขภาพตัวเองเนาะนะครับอายุเกิน 45
00:46:03 → 00:46:05 ปีต้องมีการเจาะเลือดตรวจปัสสาวะทุก 1 ปี
00:46:05 → 00:46:08 อยู่ในโปรแกรมตรวจสุขภาพตามปกติครับนะ
00:46:08 → 00:46:10 ครับแล้วก็เรื่องอาหารไม่ต้องกังวลครับ
00:46:11 → 00:46:14 ไม่มีอาหารอะไรที่ทำให้ไตวายตัวที่ทำให้
00:46:14 → 00:46:18 ไตวายคือยาแก้ปวดที่ไม่ใช่พารานะครับยา
00:46:18 → 00:46:21 สมุนไพรบางชนิดนะครับเนาะนะครับอันนี้อัน
00:46:21 → 00:46:23 นี้เป็นสิ่งที่จะต้องระวังนะครับอ่าไม่มี
00:46:23 → 00:46:26 อาหารบำรุงไตนะครับคนที่ไม่เป็นโรคไตนะนะ
00:46:26 → 00:46:30 ครับคนที่เป็นโรคไตแล้วการจะปรับอาหารเรา
00:46:30 → 00:46:33 ดูเป็นเป็นรายเป็นรายไปแต่โดยคอนเซปต์ก็
00:46:33 → 00:46:35 คือว่าถ้าไตเสื่อมเยอะค่าไตต่ำกว่า 60%
00:46:35 → 00:46:39 ลดอาหารโปรตีนนะครับลดโปรตีนเน้นทาน
00:46:39 → 00:46:42 โปรตีนที่มีคุณภาพมากขึ้นเช่นโปรตีนจาก
00:46:42 → 00:46:45 พืชนะครับนะโปรตีนเนื้อสัตว์นะครับหรือนม
00:46:45 → 00:46:48 ได้บ้างแต่ว่าต้องโดยคอนเซปต้องลดลงส่วน
00:46:48 → 00:46:51 โปแตสเซียมนะครับเนาะต้องดูผลเลือดครับ
00:46:51 → 00:46:54 ถึงค่อยมาดูว่าตัวเองจะปรับอาหารอย่างไร
00:46:54 → 00:46:58 นะครับโซเดียมดูความดันแล้วก็ดูเรื่องของ
00:46:58 → 00:47:00 อาการบวมนะครับถ้ามีอาการบวมคววามดัน
00:47:00 → 00:47:03 โลหิตสูงนะครับต้องลดโซเดียมนะครับแต่้า
00:47:04 → 00:47:06 ความดันคบางคนนะโลกไตบางคนความันต่ำไปเลย
00:47:06 → 00:47:08 อันนี้ไม่ต้องลดโซเดียมครับผมนะครับส่วน
00:47:09 → 00:47:12 ฟอสฟอรัสที่สูงจะพบในคนไ้ที่เป็นไตไต
00:47:12 → 00:47:15 เสื่อมระยะหลังๆส่วนใหญ่จะเป็นระยะที่ 4
00:47:15 → 00:47:17 ปลายๆเข้าระยะที่ 5 ละพวกนั้นก็ถึงจะมา
00:47:17 → 00:47:20 จำกัดอาหารฟอสฟอรัสสูงครับครับผมขอบพระ
00:47:20 → 00:47:22 คุณอาจารย์หมอครับสุดท้ายครับอาจารย์
00:47:22 → 00:47:25 สำหรับท่านที่อยากจะได้รับการตรวจรักษา
00:47:25 → 00:47:28 ครับผมโรคตายครับจะต้องไปที่ไหนของโรง
00:47:28 → 00:47:31 พยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ครับคณะแพทย
00:47:31 → 00:47:34 ยาศาสตร์มหาเชียงใหของเราไปคือกคนไขมา
00:47:34 → 00:47:35 เยอะ
00:47:35 → 00:47:38 ครับัวค่อมาเยอะคือบอกว่าโรกไตอ่ะตรวจ
00:47:38 → 00:47:41 คร่าวๆตรวจที่ไหนก็ได้คือหมายถึงว่าโรง
00:47:41 → 00:47:43 พยาบาลใกล้บ้านหรือเราอยากจะไปเจาะเลือด
00:47:43 → 00:47:46 เองเนี่ยก็สามารถทำได้คือแค่ 1 ก็ต้องการ
00:47:46 → 00:47:49 ตรวจรถไตคือวัดความดันนะครับตรวจปัสสาวะ
00:47:49 → 00:47:51 เจาะเลือดเช็คการทำงานของไตแค่นี้เองครับ
00:47:52 → 00:47:53 ไม่ต้องมุ่งมาที่โรงพาบาลมหาราชก็ได้ครับ
00:47:53 → 00:47:57 เอาแบบเราเราดูแหนักๆก็พอนะครับที่ไหนก็
00:47:57 → 00:47:59 ตรวจได้ครับนะครับ
00:47:59 → 00:48:03 เนาอย่าลืมตรวจสุขภาพประจำปีอย่างที่
00:48:03 → 00:48:05 อาจารย์หมอพูดไปนะครับตรวจวัดความดันตรวจ
00:48:05 → 00:48:09 เช็คกันเป็นระยะๆะเพื่อป้องกันความเสี่ยง
00:48:09 → 00:48:11 นะครับแต่ถ้าถ้าสมมุติอย่างคำถามที่ต้า
00:48:12 → 00:48:14 ถามไว้ก็คือว่าถ้าสมมุติว่าเป็นโรคไตแล้ว
00:48:14 → 00:48:16 คลินิกโรคไตของโรงพยาบาลมหาราชเนี่ยนะ
00:48:16 → 00:48:19 ครับก็จะอ่าปปีวันพุธครับนะครับเนาะนะ
00:48:19 → 00:48:21 ครับคลินิกปลูกถ่ายไตก็เป็นวันจันทร์ใน
00:48:21 → 00:48:24 ช่วงเช้าครับนะครับแล้วก็มีคลินิกพิเศษ
00:48:24 → 00:48:27 นอกเวลาราชการสำหรับคนที่ไม่สดวกที่จะ
00:48:27 → 00:48:32 ครับเาครับสามาติดต่อแล้วก็หาข้อมูได้ผม
00:48:32 → 00:48:35 ครับผมก็ติดตามช่องทางในข่าว
00:48:35 → 00:48:37 ประชาสัมพันธ์ต่างๆนะครับการให้บริการ
00:48:37 → 00:48:39 รักษาพยาบาลไม่ว่าจะเป็นใน Facebook เพจ
00:48:39 → 00:48:42 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่รวมถึง
00:48:42 → 00:48:44 ทางในเว็บไซต์ของทางคณะแพทย์ด้วยนะครับผม
00:48:44 → 00:48:47 ก็ฝากกดติดตามกันด้วยนะครับวันนี้ครับ
00:48:47 → 00:48:49 ต้องขอขอบพระคุณอาจารย์หมอของเรานะครับ
00:48:49 → 00:48:52 รองศาสตราจารย์ดรนายแพทย์ขจรศักดิ์นพคุณ
00:48:52 → 00:48:55 ครับอายุรแพทย์โรคไตภาควิชาอายุรศาสตร์
00:48:55 → 00:48:57 คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่รวมถึง
00:48:57 → 00:48:59 ท่านยังเป็นท่านรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล
00:48:59 → 00:49:01 มหาราชนครเชียงใหม่ด้วยนะครับขอบพระคุณ
00:49:01 → 00:49:04 อาจารย์หมออีกครั้งนึงครับขอบพระคุณครับ
00:49:04 → 00:49:06 แล้วก็ที่สำคัญขอบพระคุณคุณผู้ชมทุกท่าน
00:49:06 → 00:49:08 ที่รับชมอยู่ด้วยกันตอนนี้นะครับผม
00:49:08 → 00:49:12 สัปดาห์หน้าจะเป็นเรื่องอะไรฝากกดติดตาม
00:49:12 → 00:49:14 นะครับ Facebook เพจคณะแพทยศาสตร์
00:49:14 → 00:49:16 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สุขภาพดีกับหมอสวน
00:49:16 → 00:49:18 ดอกของเราไว้ด้วยจะเป็นเรื่องราวที่น่าสน
00:49:18 → 00:49:21 ใจในวันนี้เรื่องอะไรสัปดาห์หน้ามาพบกัน
00:49:21 → 00:49:23 ใหม่นะครับวันนี้ผมณัฐพลคำวังจากงานสื่อ
00:49:23 → 00:49:25 สารวงกรนะครับพร้อมกับอาจารย์หมอต้องขอ
00:49:25 → 00:49:27 ตัวลาไปก่อนพบพบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
00:49:27 → 00:49:32 วันนี้ขอบคุณแล้วสวัสดีครับสวัสดีครับ
00:49:32 → 00:49:44 [เพลง]
00:49:44 → 00:49:47