00:00:00 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:17 → 00:00:20 ภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นกับระบบทางเดินหาย
00:00:20 → 00:00:24 ใจการไหลเวียนเลือดการชีคาดของอวัยวะต่าง
00:00:24 → 00:00:27 ๆอาการเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องรับการ
00:00:27 → 00:00:30 รักษาอย่างทานท่วงทีซึ่งหากไม่ได้รับการ
00:00:30 → 00:00:33 รักษาแล้วนั้นส่งผลอันตรายต่อชีวิตของผู้
00:00:33 → 00:00:37 ป่วยค่ะซึ่งหนึ่งในนั้นมีผู้ป่วยที่มี
00:00:37 → 00:00:40 ภาวะฉุกเฉินไม่น้อย่าภาวะอื่นๆนั่นก็คือ
00:00:40 → 00:00:43 ภาวะฉุกเฉินจากภาวะหัวใจ
00:00:43 → 00:00:47 ค่ะหัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดเพื่อไป
00:00:47 → 00:00:50 เลี้ยงอวัยวะต่างๆภายในร่างกายโดยมีอัตรา
00:00:50 → 00:00:53 การเต้นเป็นจังหวะต่อเนื่องตลอดเวลา
00:00:53 → 00:00:58 เฉลี่ยปีละประมาณ
00:00:58 → 00:01:02 36-40 การเต้นของหัวใจอย่างกระทันหันหัว
00:01:02 → 00:01:05 ใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย
00:01:05 → 00:01:09 ได้เราเรียกอาการนี้ว่า Zen cict al
00:01:09 → 00:01:12 หรือภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพันนั่นเอง
00:01:12 → 00:01:17 ค่ะซึ่งภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพันมักเกิด
00:01:17 → 00:01:20 ขึ้นทันทีโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆทำให้ผู้
00:01:20 → 00:01:24 ป่วยมีอาการหมดสติวูบฟังดูน่ากลัวมากเลย
00:01:24 → 00:01:27 ใช่ไหมคะเพราะฉะนั้นเราไม่ควรใช้ชีวิต
00:01:27 → 00:01:30 ด้วยความประมาทคอยหมั่นสังเกตอาการและ
00:01:30 → 00:01:33 ประเมินตนเองและบุคคลใกล้ตัวอย่างใกล้ชิด
00:01:33 → 00:01:35 การช่วยเหลือเบื้องต้นนั้นเป็นสิ่งที่
00:01:35 → 00:01:39 สำคัญมากที่สุดค่ะและวันนี้รายการ Say H
00:01:39 → 00:01:42 สายสุขภาพจะพาไปรู้จักกับภาวะหัวใจอยู่
00:01:42 → 00:01:46 เต้นเฉียบพันธุหรือ Sent ci al รวมไป
00:01:46 → 00:01:49 ถึงที่มาของการเกิดอาการและวิธีการป้อง
00:01:49 → 00:01:54 กันดูแลตนเองค่ะลองไปฟังกันนะคะ
00:01:54 → 00:02:03 [เพลง]
00:02:03 → 00:02:06 เพราะหัวใจหยุดเต้นฉับพันธก็คือภาวะที่
00:02:06 → 00:02:10 ตรงตัวเลยหัวใจหยุดเต้นกระทันหันทำให้หัว
00:02:10 → 00:02:12 ใจเไม่สามารถที่จะบีบเลือดไปเรียนส่วน
00:02:12 → 00:02:14 ต่างของร่างกายได้อววที่สำคัญที่สุดของ
00:02:14 → 00:02:18 ร่างกายเราก็คือสมองมันก็เลยทำให้คนไข้
00:02:18 → 00:02:21 หรือว่าคนผู้ป่วยที่แบบบภาวะแบบเนี้ยคือ
00:02:21 → 00:02:24 ทำให้เขาหมดสติกระทันหันอืแสดงว่าจะมี
00:02:24 → 00:02:28 อาการวูบนำมาอืมอาจจะไม่ต้องนำมาอาจจะแบบ
00:02:28 → 00:02:30 อยู่ดีๆหมดสติไปเลยอย่างเงี้ยก็ได้เพราะ
00:02:30 → 00:02:34 ว่ามันเกิดภาวะหัวใจแบบหยุดการทำงานอืม
00:02:34 → 00:02:38 แล้วก็เลือดไม่ไปเลี้ยงค่ะอาจารย์คะแล้ว
00:02:38 → 00:02:40 จริงๆแล้วภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
00:02:40 → 00:02:42 เฉียบพันธุ์ไค่ะอาจารย์ก็เป็นอาการ
00:02:42 → 00:02:44 ฉุกเฉินเหมือนกันเนาะึก็ต้องรีบมาโรง
00:02:44 → 00:02:47 พยาบาลแล้วภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
00:02:47 → 00:02:49 เฉียบพันธุ์กับภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบ
00:02:49 → 00:02:51 พันธุ์เงี้ยค่ะอาจารย์มันมีความเหมือน
00:02:51 → 00:02:53 หรือว่ามีความแตกต่างกันยังไงอ่ะคะจริงๆ
00:02:53 → 00:02:56 ฟังดูแรกๆเนาะมันอาจจะแบบเหมือนเหมือนจะ
00:02:56 → 00:02:59 เป็นโรคเดียวกันแต่จะบอกว่าเพราะกล้าม
00:02:59 → 00:03:01 เนื้อหัวใจใจขาเลือดฉับพันธุ์เนี่ยเป็น
00:03:01 → 00:03:04 เหมือนกับส่วนหนึ่งของภาวะหัวใจเต้นฉับ
00:03:04 → 00:03:06 พันธ์ดีกว่าเพราะว่าภาวะหัวใจอยู่เต้นฉับ
00:03:06 → 00:03:09 พันธ์น่ะมีหลายสาเหตุมากแล้วภาวะหัวเอ่อ
00:03:09 → 00:03:11 กล้ามเนื้อหัวใจขาเลือดฉับพันธเนี่ยมันก็
00:03:11 → 00:03:13 เป็นหนึ่งในสาเหตุนั้นที่จะทำให้เกิดภาวะ
00:03:13 → 00:03:16 หัวใจหยุดเต้นฉับพันธอาจารย์คะแล้วมันเรา
00:03:16 → 00:03:19 สามารถรู้ได้ไมยคะว่าเนี่ยเรามีภาวะหัวใจ
00:03:19 → 00:03:21 หยุดเต้นเฉียบพันธแล้วค่ะมันมีอาการนำ
00:03:21 → 00:03:23 หรือว่าอาการแสดงอะไรมั้ยคะที่บ่งบอกถึง
00:03:23 → 00:03:26 ภาวะหัวใจอยู่เต้นเฉียบพานค่ะสำหรับอาการ
00:03:26 → 00:03:28 นำของภาวะหัวใจหยุเต้นฉาพาธเนี่ยอาจจะไม่
00:03:29 → 00:03:32 ได้มีทุกคนไปเนาะเพราะว่าเอ่อสาเหตุของ
00:03:32 → 00:03:35 ภาวะใจเต้นสพันธ์มีตั้งหลายอย่างอืบาง
00:03:35 → 00:03:39 ครั้งก็จะเกิดกระทันหันไปเลยไม่ไม่ไม่มี
00:03:39 → 00:03:42 อากาศอะไรนำมาก่อนหรือบางคนถ้าเขามีภาวะ
00:03:42 → 00:03:45 อ่าหลอดเลือดหัวใจตีบอยู่เดิมเขาก็อาจจะ
00:03:45 → 00:03:49 มีอาการนำมาก่อนเป็นแบบระยะระะอยู่แล้วก็
00:03:49 → 00:03:51 ได้เหมือนเป็นสัญญาณเตือนน่ะว่าว่าเขามี
00:03:51 → 00:03:54 แบบภาวะนี้อยู่แล้วถ้าเกิดสมมุติว่าเราพบ
00:03:54 → 00:03:56 ว่าเราเริ่มมีอาการเงี้ค่ะเราจะมีอาการ
00:03:56 → 00:03:58 อะไรที่แบบสังเกตได้มั้ยคะอาจารย์ถ้าเกิด
00:03:58 → 00:04:01 ว่ายกตัวอย่างดีกว่าว่าสมมุติถ้าเรามี
00:04:01 → 00:04:05 ภาวะเหลาเลือดหัวใจตีบเนาะหรือว่าเอิ่มี
00:04:05 → 00:04:07 แบบพวกหินปูนเนี่ยไปเกาะอยู่เป็นระยะเวลา
00:04:07 → 00:04:10 นานๆเนี่ยเวลาที่เขาออกแรงเยอะๆอ่ะเขาคก็
00:04:10 → 00:04:12 จะเริ่มมีอาการเจ็บหน้าอกโดยเฉพาะถ้ายิ่ง
00:04:12 → 00:04:14 ออกแรงเยอะขึ้นเยขึ้นอาการเจ็บหน้าอกก็จะ
00:04:14 → 00:04:17 อาจจะรุนแรงขึ้นพอนั่งพักแล้วออาการเหล่า
00:04:17 → 00:04:20 เยก็จะดีขึ้นอือันเนี้ยมันเป็นสัญญาณ
00:04:20 → 00:04:22 เตือนหรือบางคนอาจจะไม่ได้มีอาการเจ็บ
00:04:22 → 00:04:23 หน้าอกอย่างชัดเจนแต่ก็เริ่มมีอาการ
00:04:24 → 00:04:26 เหนื่อยง่ายเอ๊ะทำไมของเดิมเคยออกกำลัง
00:04:27 → 00:04:30 กายได้เคยเดินขึ้นบันได 2 ชั้นคือเคยจะ
00:04:30 → 00:04:33 ขึ้นสะพานลอยได้แต่ครั้งนี้อืไม่ไหวต้อง
00:04:33 → 00:04:35 หยุดพักกลางันอย่างเงี้ยอือมันอาจจะมา
00:04:35 → 00:04:38 ด้วยอาการเหนื่อยง่ายอย่างก็ได้แล้วถ้า
00:04:38 → 00:04:40 เกิดสมมุติว่าเราเริ่มมีอาการแล้วค่ะ
00:04:40 → 00:04:42 อาจารย์สิ่งแรกที่เราควรจะทำนี่คือควรทำ
00:04:42 → 00:04:45 อะไรหรือว่าถ้าเราพบเห็นบุคคลใกล้ตัวของ
00:04:45 → 00:04:47 เราเงี้ค่ะเริ่มมีอาการผิดปกติแล้วอย่าง
00:04:47 → 00:04:50 เงี้ยค่ะเราควรทำยังไงดีคะอาจารย์แนะนำ
00:04:50 → 00:04:53 ให้มาหาหมอค่ะแนะนำให้มาโรงพยาบาลค่ะอืม
00:04:53 → 00:04:56 เพื่อตรวจหาโรคที่เขาอาจจะไม่รู้ว่าเขา
00:04:56 → 00:04:59 เป็นอยู่หรือเปล่าอืแต่ถ้าเกิดเรามีอาการ
00:04:59 → 00:05:01 ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพันธเลยวูบกระทัน
00:05:01 → 00:05:04 หันไปเลยค่ะอาจารย์อืมถ้าเกิดว่าภาวะหัว
00:05:04 → 00:05:07 ใจหยุดเต้นฉับพันธวูบหมดสติกระทันหัน
00:05:07 → 00:05:10 อย่างเงี้ยส่วนตัวคนไข้เองอ่ะคงไม่สามารถ
00:05:10 → 00:05:12 ทำอะไรได้แล้วเนาะก็ต้องเป็นคนรอบข้างที่
00:05:12 → 00:05:15 จะเข้าไปช่วยเหลือเราก็เข้าไปดูว่าเอ้ย
00:05:15 → 00:05:19 เขาเป็นยังไงหมดสติหรือเปล่าขั้นแรกเนาะ
00:05:19 → 00:05:22 เราก็เข้าไปแล้วก็ไปดูเ้าว่าเอ๊ะเค้าหมด
00:05:22 → 00:05:26 สติจริงมั้ยอ่ะปลุกเค้าก่อนคุณๆเป็นยังไง
00:05:26 → 00:05:28 อาการเป็นยังไงอะไรอย่างเงี้ยถ้าเาสามารถ
00:05:28 → 00:05:31 พูดคุยกับเราได้อะไรเงี้ยไม่หมดสติแน่นอน
00:05:31 → 00:05:33 เคนิ่งไปอันเนี้ยก็ต้องระวังแล้วเพอาจจะ
00:05:33 → 00:05:35 มีความหมดสติซึ่งเราก็ต้องเรียกคนช่วย
00:05:35 → 00:05:38 เนาะเราคงทำเองทั้งหมดไม่ได้เก็จะเรียกคน
00:05:38 → 00:05:41 รอบๆข้างช่วยหรือว่าโทรเรียกรถพยาบาลที่
00:05:41 → 00:05:44 เป็น 1669 มาช่วยเหลือถ้าเกิดว่าคนที่เขา
00:05:44 → 00:05:48 อ่ะเรียนเรียนแบบการช่วยชีวิตเบื้องต้นมา
00:05:48 → 00:05:51 ก็อาจจะเข้าไปการเข้าช่วยเหลือโดยการปั๊ม
00:05:51 → 00:05:54 หัวใจเบื้องต้นได้แต่ถ้าเกิดเราผู้ซึ่ง
00:05:54 → 00:05:56 แบบไม่ไม่ได้เรียนมาเราก็อาจจะเหมือนเข้า
00:05:56 → 00:05:58 ไปช่วยเหลือเบื้องต้นได้โดยโดยเช่นแบบ
00:05:58 → 00:06:01 เอ่อเรียกดูเค้าว่าเค้ามีภาวะหมดสติหรือ
00:06:01 → 00:06:05 เปล่าเรียกคนช่วยโทรโทรศัพท์หา 1669 หรือ
00:06:05 → 00:06:07 ว่าอาจจะบอกเจ้าหน้าที่แถวนั้นว่าเออมี
00:06:07 → 00:06:09 เครื่อง aed มยเครื่อง aed เป็นเครื่อง
00:06:09 → 00:06:12 กระตุกหัวใจที่เอาไว้ใช้ช่วยผู้ป่วยในยาม
00:06:12 → 00:06:15 ฉุกเฉินอืเราก็จะขอเครื่องมือเหล่านี้มา
00:06:15 → 00:06:18 ติดแล้วก็ดูว่าคนไข้เนี่ยจำเป็นต้องใช้
00:06:18 → 00:06:20 เครื่องตรงนี้หรือเปล่าโดยเครื่องมันก็จะ
00:06:20 → 00:06:24 ทำงานง่ายมากจะพูดภาษาไทยแล้วก็บอกเราโดย
00:06:24 → 00:06:27 ที่เราไม่ต้องทำอะไรมันจะมีขั้นตอนตามตาม
00:06:27 → 00:06:30 ข้างหน้ากล่องเลยแล้วถ้าถ้าเกิดเราจะมี
00:06:30 → 00:06:32 วิธีการป้องกันตัวเองยคะหรือว่ามีการวิธี
00:06:32 → 00:06:35 การดูแลตัวเองยังไงบ้างนะคะให้ห่างไกลจาก
00:06:35 → 00:06:39 โลกภาวะหัวใจอยู่เต้นเชียพันธ์อืก็ถ้าถ้า
00:06:39 → 00:06:42 พูดโดยรวมเนาะว่าเออเพราะว่าอย่างที่บอก
00:06:42 → 00:06:44 ว่าภาวะหัวใจอยู่เต้นฉับพันธเนี่ยมันมี
00:06:44 → 00:06:48 เหตุได้หลายเหตุมากอืถ้าพูดโดยโดยภาพรวม
00:06:48 → 00:06:52 เราก็จะแนะนำว่าในคนที่ไม่เคยมีโรคประจำ
00:06:52 → 00:06:55 ตัวมาก่อนเราก็จะแนะนำให้ตรวจสุขภาพอืแนะ
00:06:55 → 00:06:58 นำให้เช็คอัพอย่างน้อยปีละครั้งเพื่อหา
00:06:58 → 00:07:01 ว่าเขาอาจจะมีโรคบางอย่างที่เขาไม่ทราบมา
00:07:01 → 00:07:04 ก่อนอืเพอเขาได้ได้รู้ว่าเขามีโรคอะไรเขา
00:07:04 → 00:07:08 จะได้ทำการรักษาตั้งแต่แรกๆอันนี้ก็จะ
00:07:08 → 00:07:10 เป็นประโยชน์กับเขาแต่สำหรับคนที่มีโรค
00:07:10 → 00:07:13 ประจำตัวแล้วก็อยากจะให้ใส่ใจในเรื่องการ
00:07:13 → 00:07:16 ดูแลรักษาตัวเองอย่างน้อยก็คือต้องมาพบ
00:07:16 → 00:07:20 แพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอกินยาสั่งสม่ำ
00:07:20 → 00:07:25 เสมอไม่ขาดยาไม่ซื้อยาเองเนาะแล้วก็อ่า
00:07:25 → 00:07:28 ติดตามโรคต่างๆเพื่อที่จะคุมโลคให้อยู่ใน
00:07:28 → 00:07:32 ภาวะคงที่เมื่อเราปฏิบัติตัวอย่างเแล้ว
00:07:32 → 00:07:34 เนี่ยพยายามเฝ้าระวังแล้วโอกาสที่เราจะ
00:07:34 → 00:07:37 เกิดพาใจเต้นสัพันธ์ก็จะน้อยลงแล้วถ้า
00:07:37 → 00:07:39 เกิดเป็นพวกการออกกำลังกายอย่างเงี้ยค่ะ
00:07:39 → 00:07:42 มีส่วนช่วยมยคะอ่ามีส่วนช่วยอยู่แล้วเรา
00:07:42 → 00:07:45 ควรจะต้องออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นอืในใน
00:07:45 → 00:07:47 แบบวัยไหนหรือแม้กระทั่งมีหรือไม่มีโรค
00:07:47 → 00:07:49 ประจำตัวอย่างเงี้ยเราก็ควรออกกำลังกาย
00:07:49 → 00:07:52 แต่โน้ตไว้นิดนึงว่าถ้าคนไข้ที่แบบเออ
00:07:52 → 00:07:54 หรือใครที่มันมีโรคประจำตัวอยู่แล้วอ่ะ
00:07:54 → 00:07:57 เราก็อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนว่าเขาอ่ะ
00:07:57 → 00:08:00 เหมาะสมในการออกกำลังกายแบบไหนยังไงแล้ว
00:08:00 → 00:08:03 ก็อ่าความรุนแรงมากน้อยแค่ไหนหรือแข่งขัน
00:08:03 → 00:08:05 ได้หรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ยเนาะแนะนำให้
00:08:05 → 00:08:07 ให้ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนก็ดีแล้วการ
00:08:07 → 00:08:10 สูกบุหรี่คะอาจารย์มันส่งผลต่อภาวะหัวใจ
00:08:10 → 00:08:13 อยู่เต้นเฉียพันธุ์มั้ยคะโอส่งผลมากเลย
00:08:13 → 00:08:15 โดยเฉพาะโรคกล้ามหัวใจคาเลือดเฉพันธ์เนาะ
00:08:15 → 00:08:19 ที่น้ำซุปพุ่นถามเมื่อตอนช่วงแรกอื
00:08:19 → 00:08:21 อันเนี้ยมันเป็นสาเหตุหลักเลยที่ทำให้
00:08:21 → 00:08:24 หลอดเลือดหัวใจเรามีปัญหามีความขรุขระมี
00:08:24 → 00:08:27 หินปูนมีคราบอะไรอย่างเงี้ยเพราะฉะนั้น
00:08:27 → 00:08:30 ไม่แนะนำเลยให้สุมบุรีเนี่ยไม่แนะนำเลย
00:08:30 → 00:08:33 ถ้าใครสูบอยู่ก็คือต้องเลิกแล้วถ้าเกิด
00:08:33 → 00:08:35 สมมุติว่าเราไม่ได้สูบแต่ว่าพ่อแม่เราสูบ
00:08:35 → 00:08:38 คนคนใกล้ใกล้ตัวเราสูบเงี้ยค่ะอันนี้เขา
00:08:38 → 00:08:40 เรียกว่า Second Hand smoker เนาะก็คือ
00:08:40 → 00:08:42 คนที่อยู่รอบๆข้างของคนที่สูบบุหรี่อ่ะก็
00:08:43 → 00:08:45 จะได้รับสารเหล่านี้ไปด้วยเพราะฉะนั้นเคย
00:08:45 → 00:08:48 ได้ยินมั้ยที่แบบมีสตสเทำโฆษณาเนอเบอกว่า
00:08:48 → 00:08:51 เออเนี่ยคุณแบบไม่ได้เป็นอะไรกับฉันทำไม
00:08:51 → 00:08:53 แบบคุณมาทำร้ายฉันทำไมอย่างเงี้ยเออ
00:08:53 → 00:08:56 อันเนี้ยแหละคือถูกต้องเลยว่าเราแบบไม่
00:08:56 → 00:08:58 ควรทำร้ายคนอื่นด้วยการที่เราไปซุปบุหรี่
00:08:58 → 00:09:00 แล้วก็เอาสารพิษให้ให้เขา
00:09:00 → 00:09:04 ด้วยค่ะวันนี้นะคะก็ขอขอบคุณอาจารย์ธิดาน
00:09:04 → 00:09:06 นันท์วนิดอนันตกุลนะคะที่ให้ความรู้
00:09:06 → 00:09:09 เกี่ยวกับโรคภาวะหัวใจอยู่เต้นเฉียบพันธ์
00:09:09 → 00:09:11 ค่ะและก่อนจากกันไปเพื่อไม่ให้เป็นการ
00:09:11 → 00:09:14 คลาดข่าวสารที่น่ารู้ของโรงพยาบาลนะคะ
00:09:14 → 00:09:16 อย่าลืมติดตามช่อง YouTube ของโรงพยาบาล
00:09:16 → 00:09:20 เซษหลุยด้วยเช่นกันอย่าลืมกดไลคกดแชร์กด
00:09:20 → 00:09:22 Subscribe นะคะและกดกระดิ่งกุ๊งกิ๊ง
00:09:22 → 00:09:25 กุ๊งกิ๊งด้วยนะคะและหากท่านใดมีข้อสงสัย
00:09:25 → 00:09:27 เพิ่มเติมอยากสอบถามสามารถติดต่อสอบถาม
00:09:27 → 00:09:30 ได้ที่สถาบันหัวใจโรงพยาบาลเซนหลุยค่ะ
00:09:30 → 00:09:34 แล้วพบกันใหม่ในรายการ Say High สาย
00:09:34 → 00:09:36 สุขภาพค่ะบ๊าย
00:09:36 → 00:09:58 [เพลง]
00:09:58 → 00:10:02 บาย e