00:00:16 → 00:00:20 สำหรับอาการแน่นจุกรู้สึกเหมือนมีลมในท้องเยอะนะคะ
00:00:21 → 00:00:23 บางคนรู้สึกเหมือนอยากผายลมอยากเรอ
00:00:24 → 00:00:26 สำหรับสาเหตุในทางการแพทย์นั้นเนี่ย
00:00:27 → 00:00:31 จริงๆแล้วค่อนข้างยากที่จะชี้ชัดไปยังสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง
00:00:31 → 00:00:33 ที่แน่นอนที่ทำให้เกิดอาการนะคะ
00:00:33 → 00:00:38 แต่มักพบว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
00:00:38 → 00:00:41 หรือที่ฝรั่งเรียกว่าfood intoleranceค่ะ
00:00:41 → 00:00:47 นั่นก็คือเป็นอาการที่อาจจะเกิดจากอาหารย่อยได้ไม่สมบูรณ์นั่นเองนะคะ
00:00:47 → 00:00:50 โดยอาหารที่มักก่อให้เกิดปัญหานะคะ
00:00:50 → 00:00:53 ก็มักเป็นกลุ่มพวกผลิตภัณฑ์นมหรือว่าDairy Product
00:00:54 → 00:00:57 รวมไปจนถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของกลูเตน
00:00:57 → 00:01:00 หรือว่าโปรตีนที่มักพบในแป้งสาลีเนี่ยนะคะ
00:01:00 → 00:01:04 นอกจากนี้อาหารในกลุ่มอื่นๆนะคะที่มักก่อให้เกิดอาการ
00:01:04 → 00:01:08 ก็เช่น อาหารกลุ่มถั่ว ผักบางชนิดนะคะ
00:01:08 → 00:01:10 เช่นหน่อไม้ฝรั่งนะคะ
00:01:10 → 00:01:14 ผลไม้บางชนิดก็เป็นได้เช่น Apricot ลูกพรุน
00:01:15 → 00:01:18 รวมไปจนถึงสารให้ความหวานชนิดsorbitol
00:01:18 → 00:01:20 แล้วก็เครื่องดื่มพวกกลุ่ม Soda
00:01:20 → 00:01:22 นอกจากนี้อาการดังกล่าวเหล่านี้เนี่ย
00:01:22 → 00:01:25 อาจจะเกิดจากการรับประทานอาหารมื้อใหญ่
00:01:25 → 00:01:27 หรือว่ามื้อหนักมากจนเกินไปก็ได้นะคะ
00:01:27 → 00:01:30 พฤติกรรมการรับประทานอาหารในบางรูปแบบ
00:01:30 → 00:01:34 ที่ทำให้มีอากาศเข้าไปในช่องท้องหรือเข้าไปในลำไส้เยอะ
00:01:34 → 00:01:37 ยกตัวอย่างเช่นอาจจะทานอาหารเร็วจนเกินไป
00:01:38 → 00:01:41 การใช้หลอดดูดน้ำอะไรแบบนี้เป็นต้นนะคะ
00:01:42 → 00:01:44 อีกประเด็นหนึ่งที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้นะคะ
00:01:45 → 00:01:49 ก็คือปริมาณของแบคทีเรียตัวจำเป็นหรือว่าตัวดีในลำไส้เนี่ย
00:01:49 → 00:01:50 อาจจะมีไม่เพียงพอ
00:01:51 → 00:01:54 ซึ่งก็มักจะเกิดตามหลังการรับประทานยาฆ่าเชื้อ
00:01:55 → 00:01:56 อีกประเด็นนึงค่ะ
00:01:56 → 00:01:58 ผู้หญิงมักจะมีอาการแบบเนี้ย
00:01:58 → 00:02:02 ในช่วงระหว่างก่อนหรือว่าระหว่างมีประจำเดือนนะคะ
00:02:02 → 00:02:05 เนื่องจากฮอร์โมนในช่วงรอบเดือนเนี่ยค่ะ
00:02:05 → 00:02:08 อาจจะส่งผลทำให้เซลล์ต่างๆบวม
00:02:08 → 00:02:11 แล้วก็ทำให้มีอาการท้องอืดแน่นท้องแบบนี้ได้ค่ะ
00:02:12 → 00:02:16 ภาวะจุกแน่นท้องนี้เนี่ยถ้าสมมุติว่าเป็นเรื้อรังยาวนานเนี่ยค่ะ
00:02:16 → 00:02:20 อันที่จริงอาจจะบ่งชี้ถึงภาวะทางสุภาพบางอย่างได้นะคะ
00:02:21 → 00:02:26 ยกตัวอย่างเช่นโรค IBS หรือว่า Irritable Bowel Syndrome นะคะ
00:02:26 → 00:02:31 หรือว่าที่เราเรียกกันเป็นภาษาไทยว่าโรคลำไส้แปรปรวนเนี่ยค่ะ
00:02:31 → 00:02:33 โรคลำไส้แปรปรวนนี้เนี่ยค่ะ
00:02:34 → 00:02:37 คนไข้อาจจะมีอาการจุกแน่นท้องเหมือนมีลมในท้องนะคะ
00:02:37 → 00:02:40 ร่วมกับมีอาการปวดเกร็งในช่องท้อง
00:02:40 → 00:02:44 ร่วมกับมีท้องผูกหรือว่าท้องเสียนะคะ
00:02:44 → 00:02:48 แล้วก็เป็นกลุ่มอาการที่ต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป
00:02:49 → 00:02:52 อีกโรคนึงก็คือ inflammatory bowel disease นะคะ
00:02:52 → 00:02:54 หรือภาวะลำไส้อักเสบ
00:02:54 → 00:02:58 นอกจากนี้นะคะอาการจุกแน่นท้องเนี่ยค่ะ
00:02:58 → 00:03:01 อาจจะพบร่วมกับในคนที่มีภาวะท้องผูกเรื้อรัง
00:03:02 → 00:03:05 หรือว่ามีภาวะที่ลำไส้เนี่ยบีบตัวไม่เป็นปกติ
00:03:05 → 00:03:08 หรือที่เรียกว่าแก๊สไพโรไลซิสนะคะ
00:03:09 → 00:03:12 อีกภาวะนึงก็คือโรคมะเร็งในช่องทองค่ะ
00:03:12 → 00:03:15 โรคมะเร็งในช่องท้องบางชนิดนะคะ
00:03:15 → 00:03:19 อย่างเช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะ มะเร็งตับอ่อน
00:03:19 → 00:03:21 รวมไปจนถึงมะเร็งรังไข่เนี่ย
00:03:21 → 00:03:24 ก็อาจจะทำให้มีอาการจุกแน่นท้อง
00:03:24 → 00:03:27 หรือว่าอืดแน่นลงในท้องได้เหมือนกัน
00:03:27 → 00:03:30 ถ้าสมมุติว่าสังเกตได้ชัดเจนเลยว่าอาการเนี่ย
00:03:31 → 00:03:34 มีเฉพาะเวลารับประทานอาหารบางชนิด
00:03:34 → 00:03:38 หรือว่าสัมพันธ์กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารบางอย่างเนี่ยค่ะ
00:03:38 → 00:03:43 หมอแนะนำว่าให้ลองงดหรือว่าหลีกเลี่ยงอาหารแล้วก็พฤติกรรม
00:03:43 → 00:03:45 การรับประทานอาหารแบบนั้นไปก่อนนะคะ
00:03:46 → 00:03:47 ถ้าสมมุติว่าอาการดีขึ้นเนี่ย
00:03:47 → 00:03:49 หมอคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
00:03:50 → 00:03:55 แต่ว่าถ้าอาการเป็นเรื้อรังต่อเนื่องมากกว่า 3 เดือนนะคะ
00:03:55 → 00:03:58 หรืออาจจะมีอาการอื่นๆที่ไม่แน่ใจร่วมด้วยเนี่ยค่ะ
00:03:59 → 00:04:01 หมอแนะนำว่าไม่ควรจะรอช้าค่ะ
00:04:01 → 00:04:04 ควรจะรีบเข้าไปปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ
00:04:04 → 00:04:06 ทางด้านระบบทางเดินอาหารนะคะ
00:04:06 → 00:04:10 เพื่อที่จะรับการวินิจฉัยแล้วก็รักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ