00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:04 world vi The
00:00:04 → 00:00:08 Voice วรรณโรคเนี่ยเป็นเป็นการติดเชื้อ
00:00:08 → 00:00:10 ประเภทหนึงจริงๆวรรณโรคเนี่ยมันกินตั้ง
00:00:10 → 00:00:13 แต่ัวตดเท้าเลยผมก็เจอตั้งแต่อ่าวัณโรค
00:00:13 → 00:00:16 ต่อมน้ำเหลืองวัณโรคกระดูกวัณโรคลำำไส้
00:00:16 → 00:00:18 วรรณโรคโอเป็นได้ทุกอย่างในโลกใบนี้เลย
00:00:18 → 00:00:20 แต่ว่ามักจะเจอบ่อยคือวรรณโรคปอดปกติแล้ว
00:00:20 → 00:00:22 วรรณโรคเมันจะมีทั้งหมด 2 ประเภทเ้าเรียก
00:00:22 → 00:00:26 ว่าวรรณโรคแฝงกับวัณโรคที่แสดงอาการใน
00:00:26 → 00:00:28 วัณโรคแฝงเนี่ยโดยส่วนมากผู้ป่วยก็จะไม่
00:00:28 → 00:00:30 มีอาการแล้วมันก็จะไม่แพร่กระจายออกไปแต่
00:00:30 → 00:00:32 พวกนี้เนี่ยเราจะเจอโดยบังเอิญมากกว่า
00:00:32 → 00:00:34 อาการเนี่ยมันจะเป็นหนักเลยส่วนมากก็จะ
00:00:34 → 00:00:37 เริ่มตั้งแต่ 1 ไอเรื้อรังเริ่มไอมีเสมหะ
00:00:37 → 00:00:39 มีเจ็บแน่นหน้าอกหรือมีอาการเหนื่อยง่าย
00:00:39 → 00:00:43 กว่าปกติอ่อนแรงนะครับอ่าน้ำหนักลดแบบไม่
00:00:43 → 00:00:46 ทราบสาเหตุหรือมีไข้สูงหนาว
00:00:46 → 00:00:50 สั่นฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัย
00:00:50 → 00:00:54 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิพรค่ะ
00:00:54 → 00:00:58 This Is tha PBS podcast เอาล่ะค่ะ
00:00:58 → 00:01:00 วันนี้คุณผู้ฟังเรามาติดตามถึงเรื่องของ
00:01:00 → 00:01:03 วัณโรคนะคะวัณโรคเนี่ยเป็นได้ก็หายได้
00:01:04 → 00:01:07 เอ๊ะจริงหรือเปล่านะผมก็คือมันก็เป็นอะไร
00:01:07 → 00:01:10 ที่รู้สึกว่าเอ่อเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวนะ
00:01:10 → 00:01:13 คะแล้วก็มีความเสี่ยงกับใครหลายๆคนได้
00:01:13 → 00:01:15 เหมือนกันโดยเฉพาะใครที่จะต้องระวังเป็น
00:01:15 → 00:01:18 พิเศษเดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์นาย
00:01:18 → 00:01:20 แพทย์ศิลลหไทัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
00:01:20 → 00:01:22 ศัลยศาสตร์ทรงอกเฉพาะทางด้านโรคปอดโรง
00:01:22 → 00:01:26 พยาบาลวชิรพยาบาลค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอขา
00:01:26 → 00:01:28 ครับสวัสดีครับมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ
00:01:28 → 00:01:31 เรื่องของวัณโรคกันก่อนพอพูดถึงวรรณโรคก็
00:01:31 → 00:01:33 จะไออย่างเดียวเลยรู้สึกว่าจะแบบเกี่ยว
00:01:33 → 00:01:36 กับเรื่องของการไอวัณโรคคืออะไรนะคะแล้ว
00:01:36 → 00:01:39 ก็มันเป็นได้ยังไงอ่ะจริงๆแล้วเนี่ยต้อง
00:01:39 → 00:01:42 บอกเลยว่าวัณโรคเนี่ยนะครับมันเป็นการติด
00:01:42 → 00:01:45 เชื้อประเภทหนึ่งนะครับซึ่งการติดเชื้อ
00:01:45 → 00:01:46 ประเภทนี้เนี่ยจริงๆแล้วมันเป็นได้หลาย
00:01:47 → 00:01:50 อวัยวะนะบางคนบางคนคิดว่าเฮ้ยวรรณโรค
00:01:50 → 00:01:53 เนี่ยมันต้องเป็นเป็นปอดจริงๆไม่ใช่อ้า
00:01:53 → 00:01:56 จริงๆวรณโลกเนี่ยมันกินนั่นแหโหจดเท้าเลย
00:01:56 → 00:02:00 เหรอใช่จริงนะแต่ว่ามันมักเจอที่ปอดอือ่า
00:02:00 → 00:02:03 โอเคเวลาเราเจอบ่อยเนี่ยเราจะเจอที่ปอด
00:02:03 → 00:02:06 แต่ว่าจริงๆแล้วเนี่ยมันเจอได้เช่นผมเเจอ
00:02:06 → 00:02:08 ตั้งแต่วัณโรคต่อมน้ำเหลืองวัณโรคกระดูก
00:02:08 → 00:02:11 วัณโรคลำไส้วรรณโรคโอหเป็นได้ทุกอย่างใน
00:02:11 → 00:02:14 โลกใบนี้เลยกินได้ดแต่ว่ามักจะเจอบ่อยคือ
00:02:14 → 00:02:18 วัณโรคปอดคือมันเป็นตำแหน่งที่มันชอบมามา
00:02:18 → 00:02:21 มาเกาะอยู่นะครับเนาะโดยปกติแล้วในวรรณ
00:02:21 → 00:02:23 โลกเมันจะมีทั้งหมด 2 ประเภทนะครับมันจะ
00:02:23 → 00:02:28 มีเค้าเรียกว่าวัณโรคแฝงกับวัณโรคที่แสดง
00:02:28 → 00:02:31 อาการนะครับในวัณโรคแฝงเโดยส่วนมากผู้
00:02:31 → 00:02:33 ป่วยก็จะไม่มีอาการแล้วมันก็จะไม่แพร่
00:02:33 → 00:02:36 กระจายออกไปนะครับแต่ว่าบางทีเนี่ย
00:02:36 → 00:02:39 อ่าบางครั้งเนี่ยไอ้ตัวแฝงอาจจะกลายเป็น
00:02:39 → 00:02:41 ระยะมีอาการก็ได้นะครับแล้วอาจจะทำให้
00:02:41 → 00:02:44 แพร่เชื้อได้นะครับแต่แต่พวกนี้เนี่ยเรา
00:02:44 → 00:02:46 จะเจอโดยบังเอิญมากกว่าพวกวัณโรคแฟงอย่าง
00:02:46 → 00:02:49 เช่นอ่าผมผ่าตัดคนไข้ไปแล้วเหมือนเจอก้อน
00:02:49 → 00:02:53 ในปอดแล้วไปตัดไปปุ๊บกเป็นวรรณโรคอ้าอยู่
00:02:53 → 00:02:56 ๆก็เจออใช่ก็สงสัยว่าเอ๊ะมันเป็นมะเร็ง
00:02:56 → 00:02:58 หรือเปล่าหรือเป็นโลตัดไปปุ๊บเจอณโรคแต่
00:02:58 → 00:03:01 ลักษณะมจะพบ่งบอกได้อยู่เช่นเป็นก้อน
00:03:01 → 00:03:05 ลักษณะเป็นแบบกลมอ่าไม่มีอ่ารอยหยักไม่มี
00:03:05 → 00:03:08 อะไรพวกนี้ก็เราสงสัยได้วัณโรคกับมะเร็ง
00:03:08 → 00:03:11 มันต่างกันมั้ยหมายถึงเวลาที่เจอก้อนหรือ
00:03:12 → 00:03:15 อะไรพวกเนี้ยมันมันวรรณโรคมันชอบทำตัว
00:03:15 → 00:03:19 คล้ายๆแต่ว่าข้อดีของมันก็คือมันจะไม่โต
00:03:19 → 00:03:23 ขึ้นอือ่าถ้ามันแฝงนะมันจะไม่โตขึ้นแต่
00:03:23 → 00:03:26 ถ้าเป็นมะเร็งมันจะโตขึ้นอ่านะครับทีนี้
00:03:26 → 00:03:29 อ่าตัวแฟงคืออย่างที่เราคุยกันไปคือไม่มี
00:03:30 → 00:03:32 แต่ในังกลับกันเนี่ยตัววัณโรคนะครับที่
00:03:32 → 00:03:34 เป็นระยะมีอาการเพวกนี้เนี่ยมันจะให้มี
00:03:34 → 00:03:37 โอกาสแพร่เชื้อได้อาการเนี่ยมันจะเป็น
00:03:37 → 00:03:39 หนักเลยส่วนมากก็จะเริ่มตั้งแต่ 1 ไอ
00:03:40 → 00:03:45 เรื้อรังค่ะโอเค 2 เริ่มไอมีเสมหะอ่ามี
00:03:45 → 00:03:48 เจ็บแน่นหน้าอกนะครับเนาะหรือมีอาการ
00:03:48 → 00:03:51 เหนื่อยง่ายกว่าปกตินะครับหลายๆคนอาจจะมี
00:03:51 → 00:03:55 อาการแบบอ่อนแรงนะครับอ่าน้ำหนักลดแบบไม่
00:03:55 → 00:03:58 ทราบสาเหตุหรือมีไข้สูงหนาวสั่นอืนะครับ
00:03:58 → 00:04:01 พวกนี้เนี่ยอ่าส่งผลทำให้เหมือนกับว่าอาจ
00:04:01 → 00:04:04 จะมีการกระจายไปที่ตามอวัยวะต่างๆได้นะ
00:04:04 → 00:04:06 ครับอย่างที่เราคุยไปว่าเฮยอาจจะไปกระดูด
00:04:06 → 00:04:09 สลังก็ได้อาจจะไปสมองก็ได้นะครับฉะนั้น
00:04:09 → 00:04:12 เนี่ยผู้ป่วยนะครับเนาะต้องสังเกตตัวเอง
00:04:12 → 00:04:15 นะฮะเมื่อใก็ตามที่คนไข้เนี่ยนะครับมี
00:04:15 → 00:04:18 อาการที่เราพูดไปนะครับก็แนะนำว่าเอ้ยเรา
00:04:18 → 00:04:21 อาจจะต้องคิดถึงสที่สุดก็คือมีประวัติ
00:04:21 → 00:04:24 ครอบครัวหรือคนใกล้ชิดเป็นวัณโรคด้วยหรือ
00:04:24 → 00:04:27 เปล่าเพราะพวกนี้สามารถติดต่อกันได้อืมัน
00:04:27 → 00:04:29 เกิดจากอะไรสาเหตุพวกนี้มันเป็นการติดติด
00:04:29 → 00:04:32 เชื้อแล้วมันไปอเพาะบริเวณที่ปอดแล้วพวก
00:04:32 → 00:04:36 นี้มันสามารถติดผ่านทางการหายใจได้นะครับ
00:04:36 → 00:04:40 เนาะฉะนั้นเนี่ยมักจะเจอในกลุ่มอ่าอ่า
00:04:40 → 00:04:42 เค้าเรียกว่าอะไรอ่ะเรียกว่าเป็นกลุ่มแถว
00:04:43 → 00:04:46 ชุมชนไอัดอ๋อเพราะแบบว่าอยู่แออัดใกล้ชิด
00:04:46 → 00:04:50 กันใช่่หรือว่าที่จะบ่อยคือเจอในพวกเอ่อ
00:04:50 → 00:04:54 อยู่ในคุกอ่ะเออฮออเพราะว่าที่มันแออัด
00:04:54 → 00:04:57 ถ้าคนนึงติดปุ๊บมันก็เลยติดๆๆใช่มันก็จะ
00:04:57 → 00:05:00 ลามกันต่อเ้ยมันติดง่ายขนาดนเหรใช่เพราะ
00:05:00 → 00:05:04 ว่ามันมันมันสามารถผ่านทางการหายใจได้เ้า
00:05:04 → 00:05:06 ฉะนั้นเนี่ยมันต้องอยู่ห้องแยกเมื่อใก็
00:05:06 → 00:05:09 ตามที่เราเจอจะต้องกินยาประมาณสักถ้า
00:05:09 → 00:05:11 สมมุติว่าอะไรก็ตามที่วินิจฉัยเนาะต้อง
00:05:11 → 00:05:13 กินยาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ถึงจะลดอาการการ
00:05:13 → 00:05:16 แพร่เชื้อได้พจะกินยาปุ๊บวันนี้ทุกเอ้ย
00:05:16 → 00:05:19 วันรุ่งขึ้นฉันเดินสบายไม่แพร่ไม่ได้นะ
00:05:19 → 00:05:22 ต้องกินอย่างน้อย 2 สัปดาห์มันไม่ใช่ยา
00:05:22 → 00:05:24 แก้ไอหือใช่ยแกคนละเรื่องฉะนั้นคือจริงๆ
00:05:24 → 00:05:27 ยามันยาวนะ 6 6 เดือนแต่ว่าต้องกิน 2
00:05:27 → 00:05:30 สัปดาห์เพื่อลดการแพร่ถึงจะมีสิทธิ์เข้า
00:05:30 → 00:05:33 สู่แบบชุมชนอะไรพวกนี้ที่จะไม่เสี่ยงต่อ
00:05:33 → 00:05:36 การแพร่เชีย์ของคนอื่นๆได้อ่ะถ้าอย่างปอด
00:05:36 → 00:05:39 อย่างยเออเ่อหายใจลำบากเหนื่อยไอหรืออะไร
00:05:39 → 00:05:42 อย่างเงี้ยแล้วถ้าเกิดมันไปตรงเป็นกระ
00:05:42 → 00:05:44 ต่อมน้ำเหลืองหรืออะไรพวกเงี้ยกระดูก
00:05:44 → 00:05:46 อย่างเงี้ยแล้วมันจะมีอาการยังไงอ่ะคะ
00:05:46 → 00:05:48 อย่างเช่นยกตัวอย่างว่าถ้าเป็นนกระดูกคู่
00:05:48 → 00:05:51 ป่วยก็จะมาได้ปวดหลังเพราะมันกินกระดูก
00:05:51 → 00:05:53 หรือว่าถ้าสมมุติว่าไปกินที่ไตก็อาจจะมา
00:05:53 → 00:05:56 ด้วยฉีบเป็นเลือดได้อ๋ออ่าหรือว่าถ้า
00:05:56 → 00:05:58 สมมติว่าเป็นที่ต่ำน้ำเหลืองเนี่ยก็อยาก
00:05:58 → 00:06:01 จะมาด้วยคำด้วยก้อนยที่คอพออ่ามีก้อนคำ
00:06:01 → 00:06:05 ได้ก้อนก้อนโตๆหน่อยแต่ไม่มีอาการหรือว่า
00:06:05 → 00:06:07 อาจจะมีบางคนอาจจะมีกดเจ็บได้แล้วก็พอเรา
00:06:07 → 00:06:11 เอาชิ้นเนื้อไปตรวจก็กดปรากฏปุ๊บเป็นวาโร
00:06:11 → 00:06:13 ทำไมมันดูเป็นง่ายอย่างงั้นจังเลยอ่ะง่าย
00:06:13 → 00:06:15 พวกนี้เจอได้บ่อยจริงๆคนไทยเจอเยอะมาก
00:06:16 → 00:06:18 ฉะนั้นปัจจุบันเนี่ยแนวทางการรักษาใน
00:06:18 → 00:06:20 ประเทศไทยเราค่อนข้างที่จะเค้าเรียกอะไร
00:06:20 → 00:06:22 นะรุกสุดรุกสุดฤทธิ์เพราะมันแพร่ง่าย
00:06:22 → 00:06:25 ฉะนั้นก็จะมีการจัดตั้งสูวรณโลกหรือมีการ
00:06:25 → 00:06:27 ลงเข้าไปเยี่ยมบ้านเข้าไป 1 ชุมชนเพื่อทำ
00:06:27 → 00:06:30 การคัดกองวรณโลกอเฉาะกลุมขที่เราคุยกัน
00:06:30 → 00:06:33 คือพวกเอ่อสถานที่ที่แออัดที่มีคนอยู่
00:06:33 → 00:06:35 จำนวนมากเพราะว่ามันมีโอกาสที่มันจะ
00:06:35 → 00:06:37 สัมผัสกันเยอะฉะนั้นเพื่อป้องกันการแพร่
00:06:37 → 00:06:40 ระบาดวัณโรคก็จะมีจัดตั้งทีมในโรงพยาบาล
00:06:40 → 00:06:42 ต่างๆเพื่อเข้าไปเฟ้นหาผู้ป่วยตามสถานที่
00:06:42 → 00:06:45 ต่างๆนะครับหรือที่ตามบ้านนะครับคือดูฟัง
00:06:45 → 00:06:48 ดูแล้วเนี่ยเ่าถ้าบอกว่าเป็นมะเร็งดูน่า
00:06:48 → 00:06:50 กลัวนะพอมามาฟังอย่างงี้เอ้าวรรณโลกก็ดู
00:06:50 → 00:06:53 น่ากลัวเนาะเพราะมันติดเชื้อแล้วก็แค่หาย
00:06:53 → 00:06:56 ใจใส่กันก็เป็นแล้วแต่ว่าข้อดีก็คือวันใน
00:06:56 → 00:06:58 โลกมันหายขาดได้นะออแต่มะเร็งมันหายมัน
00:06:59 → 00:07:02 ไม่หายขดอฉะนั้นให้เลือกให้เลือกนะอาจจะ
00:07:02 → 00:07:07 เชียร์ตูเป็นวัณโรคกเป็นมเร็งเพอเออแต่
00:07:07 → 00:07:11 แต่ว่าถ้าเกิดสมมุติอ่าอย่างๆเป็นต่อมน้ำ
00:07:11 → 00:07:14 เหลืองหายใจกันไปอีกคนนึงเป็นมะเร็งเอ้ย
00:07:14 → 00:07:18 ไม่ใช่มะเร็งเอ่อวัณโรคกระดูกได้มั้ยไม่
00:07:18 → 00:07:20 ได้ฉะนั้นเนี่ยถ้าสมมุติจะแพ่กระจานต้อง
00:07:20 → 00:07:23 เป็นวัณโรคปอดมันึงจะแพร่ผ่านทางการาจก็
00:07:23 → 00:07:26 เหมือนกันอ๋อแต่ถ้าเกิดเป็นตรงต่อมน้ำ
00:07:26 → 00:07:27 เหลืองน้้ำเหลืองกระดูกหรืออะไรอย่าง
00:07:27 → 00:07:31 เงี้ยไม่ไม่ไม่ไม่ค่อยแพ่อ๋อไม่ค่อยแพ่
00:07:31 → 00:07:33 อ้าแสดงว่าคนเป็นตรงปอดกันเยอะอ่ะดิถ้า
00:07:33 → 00:07:36 งั้นน่ะแบบว่ามันก็เลยทำให้แบบการแพร่
00:07:36 → 00:07:38 กระจายแล้วที่คุณหมอบอกว่าคนไทยเป็นกัน
00:07:38 → 00:07:41 เยอะอ่ะใช่เพราะว่าอ่าอวัยวะส่วนมากนี่
00:07:41 → 00:07:45 มันชอบไปก็คือปอดมันไปง่ายหรอใช่โยจะว่า
00:07:45 → 00:07:48 ในกลุ่มคนไข้ไม่ใช่ธรรมดานะกลุ่มคนไข้ที่
00:07:48 → 00:07:51 อ่าภูมิต้านทานค่อนข้างต่ำอืนะครับภูมิ
00:07:51 → 00:07:53 ต้านทานค่อนข้างต่ำก็ได้แก่กลุ่มคนไข้ที่
00:07:53 → 00:07:56 อาจจะต้องอ่าเค้าเรียกว่าอะไรอ่ะต้องกิน
00:07:56 → 00:07:59 ยากดภูมินะครับอย่างเช่นอะไรกลุ่มบนใ่ที่
00:07:59 → 00:08:02 ต้องกินสเตรอยด์เช่นอ่ะเป็นโรคอแพ้ภูมิ
00:08:02 → 00:08:05 อ่าหรือว่าต้องกินอ่าโรคอะไรก็ตามที่กิน
00:08:05 → 00:08:08 ยากดภูมิเช่นอ่ะเคยเปลี่ยนปลูกถ่ายมาก่อน
00:08:08 → 00:08:11 นะเช่นมีไตพังแล้วต้องปลูกถ่ายตับปลูก
00:08:11 → 00:08:14 ถ่ายตตมาก็ต้องกินยากดภูมินะครับหรือแม้
00:08:14 → 00:08:19 แต่คนไข้ที่เป็นโรคอ่า HIV หรือว่าภูมิม
00:08:19 → 00:08:22 กันต่ำออพวกนี้ภูมิต้านทานเต่ำอยู่ะ
00:08:22 → 00:08:24 ฉะนั้นมันจะมีความเสี่ยงที่มันจะโอกาสที่
00:08:24 → 00:08:27 มันจะเป็นโรคนี้ยิ่งง่ายขึ้นกว่าเดิมอีก
00:08:27 → 00:08:30 อืกำลังสงสัยว่าอยู่เชื้อมันมาจากไหนใน
00:08:30 → 00:08:33 เมื่อแบบพอคนนึงเป็นอ่ะคนนึงไอ้คนที่ต้น
00:08:34 → 00:08:36 ทางที่ได้รับเชื้อมาแล้วแพร่สู่คนอื่นไป
00:08:36 → 00:08:39 เอามาจากตรงไหนก่อนมันเลยรมันการหายใจนี่
00:08:39 → 00:08:42 แหละเอ้าอย่างงี้คือเดินไปไหนใครเป็นเรา
00:08:42 → 00:08:44 ก็ไม่รู้เลยอ่ะดิใช่ฉะนั้นเราบอกไม่ได้
00:08:44 → 00:08:48 เลยอ้าฉะนั้นมันมันถึงว่าเราจะต้องเข้า
00:08:49 → 00:08:52 สู่กระบวนการอ่าเค้าเรียกอะไรนะเฟ้นหาผู้
00:08:52 → 00:08:54 ป่วยฉะนั้นนั่นเป็นสาเหตุที่ทำไมเวลา
00:08:54 → 00:08:59 สมัครงานอือฮึต้องฟิลไซเลก่อนอ๋อตัววร่าง
00:09:00 → 00:09:04 กายนู่นนี่นั่นเพื่อต้องดูว่าคุณเนี่ยมี
00:09:04 → 00:09:08 เป็นวัณโรคมั้ยสมตว่าถ้าเป็นโรครีบไป
00:09:08 → 00:09:11 รักษาก่อนอแล้วค่อยมาทำงานแล้วก็ป๊บยุไม่
00:09:11 → 00:09:14 ตรวจปุ๊บเข้ามาทำงานเป็นไงโอ้โหที่ทำงาน
00:09:14 → 00:09:19 เฮลั่นเลยถูกมั้ยเออฉากนั้นเป็นสาเหตุที่
00:09:19 → 00:09:22 เให้ฟิลมิเลก่อนไม่ว่าจะไม่ว่าจะเป็นการ
00:09:22 → 00:09:24 ทำงานหรือว่าแม้แต่จะสมัครเรียนอะไรก็ตาม
00:09:25 → 00:09:27 ถูกป่ะเพราะมันไปโรงเรียนอย่างนี้ก็ต้อง
00:09:27 → 00:09:30 มีฟิลมเซลอ้าหรอจริงป่ะเดี๋ยวนี้เดี๋ยว
00:09:30 → 00:09:33 นี้ทำมั้ยผมก็จำไม่ได้แต่ตอนผมจำได้ตอนผม
00:09:33 → 00:09:35 จะเข้ามหาลัยเนี่ยผมยังต้องทำอยู่นะตอน
00:09:35 → 00:09:38 สมัครเรียนมหาลัยเนี่ยอเพว่าเรียนหมอหรือ
00:09:38 → 00:09:42 เปล่าเกี่ยวมยไม่รู้ฮะแต่ว่าแต่ว่าก็ก็
00:09:42 → 00:09:45 ต้องทำอยู่นะแต่ว่าเดี๋ยวนี้เขียนว่าขนาด
00:09:45 → 00:09:47 ผมว่าเดี๋ยวนี้ผมเห็นรถโรงเรียนเดี๋ยวนี้
00:09:47 → 00:09:50 เคก็ทำกันนะเหมือนตรจสุขภาพประจำปีพวกนี้
00:09:50 → 00:09:52 ก็เป็นการคัดกรองอีกส่วนนึงคือการคัดกรอง
00:09:52 → 00:09:55 ร่กมะเร็งปอดคือวรรณโรคสามารถไปสู่การ
00:09:55 → 00:09:58 เป็นมะเร็งได้ไม่ได้คนละเรื่องกันได้แต่
00:09:58 → 00:10:03 มโลเมันตายยากมันรออยู่บนอากาศยาวนานดู
00:10:03 → 00:10:06 ได้เป็นชั่วโมงเลยนะฉะนั้นเนี่ยแต่ถ้า
00:10:06 → 00:10:08 สมมุติถ้าเราเป็นโฮสที่แข็งแรงเหมือนว่า
00:10:08 → 00:10:10 เรามีภูมิกันเช่นเชเๆผมหรือว่าตัวพี่
00:10:10 → 00:10:13 เนี่ยถ้าเราแข็งแรงดีโอกาสที่มันจะติดอ่ะ
00:10:13 → 00:10:15 มันก็ต่ำอแต่มันจะไปซวนในกลุ่มที่เราคุย
00:10:15 → 00:10:17 กันไปตกีนี้เนาะก็คือควบคุมกันใช่ที่มัน
00:10:17 → 00:10:20 ต่ำกว่าปกติหรือมีปัญหาสุขภาพเช่นเบาหวาน
00:10:20 → 00:10:22 แล้วแบบว่าร่างกายอ่อนแอหรือว่าแม้แต่ผู้
00:10:22 → 00:10:24 ป่วยที่สูงอายุมากๆพว่งนี้ก็มีโอกาสติด
00:10:24 → 00:10:27 มากๆโฟังแล้วไม่อยากแก่เลยอ่ะ
00:10:27 → 00:10:30 ก็อยากจะไปอย่านะเหมือนกันแต่ก็ต้องไปกัน
00:10:30 → 00:10:33 ต่อไม่ได้ใช่มั้ยเออแต่แปลกดีคือกำลัง
00:10:33 → 00:10:36 พยายามที่จะนึกถึงว่ามันมาจากตรงไหนมัน
00:10:36 → 00:10:39 มันมันรออยู่ในเราสูดหายใจเข้าไปซึ่งเรา
00:10:39 → 00:10:41 ไม่รู้ใครเพราะว่ามันไม่ได้เดินมาแล้วบอก
00:10:41 → 00:10:44 ว่าคนนี้บนหน้าผากสลักว่าฉันเป็นวรรณโลก
00:10:44 → 00:10:47 ฉันมีเชื้ออยู่นะเราจะได้ห่างๆได้มันก็
00:10:47 → 00:10:50 ไม่ใช่มันไม่เชื้อพวกเนี้ยมันไม่สามารถ
00:10:50 → 00:10:53 เค้าเรียกอะไรเจออากาศบ้านเราร้อนๆนี่มัน
00:10:53 → 00:10:57 ก็ยังอยู่ได้หรอใช่โถมันอึดโหอสาหบ้านเรา
00:10:57 → 00:11:01 อุส่าห์ร้อนแล้วนะเชื้อน่าจะตายง่ายๆไม่
00:11:01 → 00:11:04 มีหรอกตัวนโรนี่ตัวตัวดุเลยมันมันแพร่
00:11:04 → 00:11:08 ระบาดในช่วงแบบฤดูกาลมั้ยแบบว่าเออช่วงฝน
00:11:08 → 00:11:11 ตกปลายฝนต้นหนาวอะไรเงี้มันอะไรที่มัน
00:11:11 → 00:11:13 เกี่ยวกับปอดมันชื้นมันอะไรอย่างเงี้ย
00:11:13 → 00:11:15 เกี่ยวมไม่มีหรอกมาหมดเลยจช่วงหน้าไหนก็
00:11:15 → 00:11:18 มาหมดอือหือแต่ส่วนมากอย่างที่ผมบอกไปก็
00:11:18 → 00:11:22 คือส่วนมากอยู่ในพวกอ่าอ่าชุมชนไอันะครับ
00:11:22 → 00:11:26 ปกงพกันที่มันจะต่ำนะครับเะพวกนี้ก็มี
00:11:26 → 00:11:28 โอกาสอ๋อแล้วที่เจอส่วนใหญ่เจอผู้หญิงผู้
00:11:28 → 00:11:32 ชายเจอหมดเจอหมดทุกเพศทุกวัยได้หมทไม่เคย
00:11:32 → 00:11:35 เลือกอ๋อเด็กก็อ่าแต่ถ้าแข็งแรงก็ความ
00:11:35 → 00:11:39 เสี่ยงก็น้อยลงหน่อยใช่อืมแล้วมันในใน
00:11:39 → 00:11:42 ช่วงที่เป็นวรรณโรคเนี่ยเราอาจจะไม่ได้
00:11:42 → 00:11:45 คิดว่ามันเป็นวรรณโรคอ่ะใช่นั่นแหละคือ
00:11:45 → 00:11:48 ความน่ากลัวที่สุดอ่าเคิดว่าไอเอยนู่น
00:11:48 → 00:11:52 นั่นนี่แล้วก็ไม่มีอะไรปรากฏมมาแพร่คนรอบ
00:11:52 → 00:11:59 ข้างถูกมยครับกินยาแก้ไอเอ่อใดๆก็ไม่ไม่
00:11:59 → 00:12:02 เราจะเข้าใจผิดคิดว่าเราแค่แบบแค่ไอแล้ว
00:12:02 → 00:12:05 ก็ไปดีเราลเซมนิดๆหน่อยๆดูมรอะไรแค่นั้น
00:12:05 → 00:12:07 นี่แหละแต่ว่าแต่ว่าอาการมันจะต่างกันไง
00:12:07 → 00:12:08 อาการที่ต่างกันก็คือในกลุ่มของไขที่เป็น
00:12:08 → 00:12:11 รณโรคเนี่ยคนไข้อาจจะมีไอเป็นเลือดได้มี
00:12:11 → 00:12:15 ไข้สูงหนาวสั่นมีไข้เป็นเหมดหายๆแล้วก็มี
00:12:15 → 00:12:17 น้ำหนักลดอือฮนะครับพวกนี้ก็คือน้ำหนัก
00:12:17 → 00:12:20 มันจะลดเลยนะครับแล้วก็อาจจะมีต่อมน้ำ
00:12:20 → 00:12:23 เหลืองโตได้พวกนี้เนี่ยมันจะมีหลายอาการ
00:12:23 → 00:12:25 มันจะไม่เหมือนหลอดลมอักเสบธรรมดาที่เฮ้ย
00:12:25 → 00:12:27 ไอเรื้อรังออันจะมีเป็นเลือดได้โอเคแต่
00:12:27 → 00:12:29 มันก็จะไม่มีไข้สูงหนาวสั
00:12:29 → 00:12:33 นะครับอืแล้วก็ไม่มีอ่าอ่อนเพียน้ำหนักลด
00:12:33 → 00:12:35 นะครับแต่ว่าในกลุ่มมคได้เป็นวรรณโรคจะมี
00:12:35 → 00:12:38 ครบชุดเลยจะพร้อมส่วนมากก็คือแบบผอมแบบ
00:12:38 → 00:12:42 ผอมแบบเป็นกระดูกเลยอ่ะแต่ละคนที่มาโอ้โห
00:12:42 → 00:12:45 คือกินอะไรไม่ได้กินอะไรไม่ลงใช่อายอย่าง
00:12:45 → 00:12:49 เดียวอายจนอายจนเหนื่อยขนาดนี้ไปหาหมอ
00:12:49 → 00:12:52 เถอะใชใช่ถูกต้องมันแต่พวกนี้เนี่ยมันมัน
00:12:52 → 00:12:55 บอกเลยว่าเป็นอ่าตัวชี้วัดเลยที่ว่ามัน
00:12:55 → 00:12:58 เป็นมันมันไม่ใช่เรื่องที่เจอทำไม่บ่อย
00:12:58 → 00:13:02 บางกมันบ่อยมากๆโดยเฉพาะเอ่อในบ้านเราอนะ
00:13:02 → 00:13:04 ครับในบ้านเราเนี่ยเราตัวนี้เเรียกว่า
00:13:04 → 00:13:07 เป็นมหากาของการรักษาเพราะว่าเมได้ก็ตาม
00:13:07 → 00:13:09 ที่เรากินยาไม่ครบแล้วมันการรักษามันใช้
00:13:09 → 00:13:13 ระยะเวลานานมีการอ่าตรวจเนี่ยนะครับเนาะ
00:13:13 → 00:13:15 เมื่อใดก็ตามที่มันดื้อยาเนี่ยมันปูดหัว
00:13:15 → 00:13:18 หนักเลยเพราะยาต้องกินเป็นปี
00:13:18 → 00:13:21 โอหใช่ต้องยาวเป็น 9 เดือนถึงปีนึงเลย
00:13:21 → 00:13:23 เมื่อใดก็ตามนแลเชรืยาพวกนี้มันมันคุมมัน
00:13:24 → 00:13:26 คุมลำบากมากอือฮึนะครับยาเนี่ยมันให้ได้
00:13:26 → 00:13:29 ยากมากเพราะยามันมีจำกัดนะครับครับฉะนั้น
00:13:29 → 00:13:31 เนี่ยมันถึงค่อนข้างที่จะเป็นหนึ่งในโรก
00:13:31 → 00:13:34 ที่คนให้ความสนใจเยอะในการที่จะพยายามรน
00:13:34 → 00:13:37 ลงหรือเข้าไปตามหาว่าคุณเป็นโรคอะไรมันมี
00:13:37 → 00:13:40 เป็นระยะมยวรรณโรคระยะ 1 2 3 4 เหมือน
00:13:40 → 00:13:43 มะเร็งมั้ยไม่มีไม่มีมีแต่แค่เนี่ยแฟง
00:13:43 → 00:13:46 หรือกในระยะที่มันมีอาการก็อ่ะแต่ก็กินยา
00:13:46 → 00:13:50 แบบว่า 9 เดือนขึ้นไปเหมือนกันหมดใช่แต่
00:13:50 → 00:13:54 ก็ถึงบอกเลยว่าอย่างน้อยก็ขอเป็นมณโรคก็
00:13:54 → 00:13:57 ยงดีกเป็นมะเร็งอ้าแต่จริงๆคือพอฟังแกิน
00:13:57 → 00:14:00 ยาเป็นเกือบปีขนาดนี้ก็ขี้เกียจกินแล้วนะ
00:14:00 → 00:14:03 ใช่ฉะนั้นแต่ว่าขี้เกียจไปหาหมอแล้วอ่ะ
00:14:03 → 00:14:06 ฉะนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไงอ่ะมันอย่างเดีย
00:14:06 → 00:14:09 เป็นมเร็งแล้วมันจากปอดแล้วมันกระจายไป
00:14:09 → 00:14:15 อื่นๆได้มยแบบได้อ่ะได้อีกโอ๊ใช่งที่บอก
00:14:15 → 00:14:18 ไปมันไปกระจายที่กระดูก็ได้กระจายที่ไตก็
00:14:18 → 00:14:20 ได้กระจายที่สมองก็ได้มันมีคนๆนึงสามารถ
00:14:20 → 00:14:24 แบบว่าชั้นที่ปอดด้วยกระดูกด้วยน้ำเหลือง
00:14:24 → 00:14:27 ด้วยได้แต่ส่วนมากกลุ่มคนไข้ที่กระจาย
00:14:27 → 00:14:29 หนักๆมักจะเป็นกลุ่มคนไข้ที่มีภูมิกันบก
00:14:29 → 00:14:32 พร่องคือว่ากินยาสเตียรอยด์หรือว่ากิน
00:14:32 → 00:14:34 อะไรอยู่ที่มันแบบอ่อนไหวง่ายกว่าปกติ
00:14:34 → 00:14:37 อยู่แล้วพวกนี้เนี่ยมีโอกาสเป็นได้แต่ถ้า
00:14:37 → 00:14:39 คนทั่วไปส่วนมากมันโดนแค่อวัยวะเดียวก็
00:14:39 → 00:14:41 หนักละเาก็คงไม่ปล่อยเป็นหลายอวัยวะแล้ว
00:14:41 → 00:14:44 ค่อยมาแต่มันในกลุ่มค่อที่มีภูมิกันที่
00:14:44 → 00:14:46 มันสู้รงพวกนี้ก็จะมีโอกาสที่จะโดนหลาย
00:14:46 → 00:14:51 อวัยวะถ้ารว่าโอกาสโอสู้ึกหนักอันนี้ก็จะ
00:14:51 → 00:14:54 ลำบากหน่อยเหนื่อยเนาะแค่โรคเดียวแค่ภูมิ
00:14:54 → 00:14:56 คุ้มกันตัวเองไม่ค่อยดีก็เหนื่อยแล้วนะ
00:14:56 → 00:14:58 ยังมาเจอวรรณโรคเข้าไปได้ง่ายๆอีกเพราะ
00:14:58 → 00:15:01 ว่ามันแบบหายใจก็ได้แล้วอ่ะใช่ฉะนั้น
00:15:01 → 00:15:03 กลุ่มของในี่มีความเสี่ยงเนี่ยเคจะบอกว่า
00:15:03 → 00:15:06 เวลาใหลีกเลี่ยงอะไรมันที่มาหลีกเลี่ยง
00:15:06 → 00:15:09 ชุมชนในอัดเเลกสัอัดถ้าจะจะเป็นน้องข้าว
00:15:09 → 00:15:11 หรืออะไรก็ตามต้องใส่หมวกหน้ากากป้องกัน
00:15:11 → 00:15:14 ให้มิชิดอ๋อแต่ว่านั้นก็ได้เป็นอีกสาเหตุ
00:15:14 → 00:15:17 นึงที่ที่ทำไมเราถึงใส่เพื่อป้องกันไม่
00:15:17 → 00:15:19 ให้มันเกิดความเสี่ยงที่จะติดหนึ่งในโรค
00:15:19 → 00:15:22 ที่เรากังวลกันมากๆคือโรควัณโรคอ่าแล้ว
00:15:22 → 00:15:25 ถ้าคนเป็นไม่ใส่หรอคนไม่เป็นใส่แทนเเง
00:15:25 → 00:15:28 เหรอคือฉันต้องระวังแทนเราห้ามอีกคนไม่
00:15:28 → 00:15:31 ใส่ไม่ได้ตแต่เราก็แนะนำให้ใส่อยู่แล้วนะ
00:15:31 → 00:15:33 แต่ถ้ามันไม่ใส่เราก็ไม่รู้ว่าใส่ไม่แต่
00:15:33 → 00:15:35 เราเอาป้องกันเราก่อนคนอื่นไม่รู้แล้ว
00:15:35 → 00:15:36 อย่าน้อยตัวเราเองป้องกันเราก่อนเพราะ
00:15:36 → 00:15:38 อย่างอย่าก่อนที่จะเกิดโควิดขึ้นมาน่ะ
00:15:38 → 00:15:40 เมื่อก่อนเนี่ยเราก็จะเป็นภาพคือว่าถ้าคน
00:15:40 → 00:15:45 ป่วยคือจะใส่แสถูกมใช่เออแต่อ่าถ้าคนไม่
00:15:45 → 00:15:47 ป่วยใส่แมสมันจะดูแปลกๆเพราะฉะนั้นคนป่วย
00:15:47 → 00:15:50 ต้องเป็นคนใส่สิคนไม่ป่วยต้องแต่ถ้าเาไม่
00:15:50 → 00:15:53 ใส่ก็ไม่รู้จะทำยังไงอ่ะแล้วก็ป้องกันตัว
00:15:53 → 00:15:54 เราเองก่อนที่จะไปป้องกันคนอื่นแล้วกันนะ
00:15:54 → 00:15:57 เออยังยังว่าอยู่ว่าทุกวันนี้ยังเห็นเวลา
00:15:57 → 00:16:01 ที่ไปในจุดที่มีคนเยอะๆอ่ะก็ยังมีคนบางคน
00:16:01 → 00:16:04 เยังใส่แมสอยู่นะเอใช่จริงๆแล้วผมว่าการ
00:16:04 → 00:16:06 ใส่เนี่ยมัน
00:16:06 → 00:16:10 มันมันมีแต่ได้อ่ะถูกมั้ยมันต้องากจะป้อง
00:16:10 → 00:16:12 กันโรคติดเชื้อป้องกันหวัดป้องกันไข่หวัด
00:16:12 → 00:16:16 ใหญ่ป้องกันถูกป่ะต้องกันอะไรก็ตามที่มัน
00:16:16 → 00:16:20 สามารถส่งต่อหรือว่าสามารถอ่าแพร่เชื้อ
00:16:20 → 00:16:22 ผ่านทางการหายใจได้อือฉะนั้นน่ะไม่ว่า
00:16:22 → 00:16:24 อะไรก็ตามผมว่าใส่มันไม่มีคำว่าขาดทุน
00:16:24 → 00:16:26 หรอกใช่เพราะตอนนั้นที่ใส่อ่ะเราไม่ได้
00:16:26 → 00:16:29 เป็นหวัดเป็นไข้เป็นอะไรเลยเนาะใช่เออมัน
00:16:29 → 00:16:32 กันได้จริงๆใช่ฉะนั้นการใส่ผมว่ามันปลอด
00:16:32 → 00:16:37 ภักว่าเยอะอ่ะอืแล้วเอ่ออย่างพวกฝุ่น PM
00:16:37 → 00:16:40 2.5 อย่างเงี้ยมันทำให้เป็นวัณโรคได้
00:16:40 → 00:16:43 มั้ยไม่เกี่ยวไม่เกี่ยวอีกมันมาจากไหเกว
00:16:43 → 00:16:45 เพราะว่าวัณโรคมันการติดเชื้อชนิดนึง
00:16:45 → 00:16:46 เชื้อใช่มันเป็นเชื้อเรียกว่า
00:16:47 → 00:16:49 ไมโครแบคทีเรียนะครับพวกนี้เนี่ยมันเป็น
00:16:49 → 00:16:52 การติดเชื้อของเชื้อโรคชนิดนึงฉะนั้นมัน
00:16:52 → 00:16:54 ก็จะไม่เกี่ยวพวกฝุ่นพวกอะไรพวกนี้หฝุ่น
00:16:54 → 00:16:57 ไม่เกี่ยวอะไรแบบเธอมาจากไหนก่อนเชื้อ
00:16:57 → 00:16:59 เนี่ยอยากรู้แล้วถ้าถ้าเกิดว่าเราใน
00:16:59 → 00:17:03 ระหว่างที่เราต้องรักษาเนี่ยกินยาไม่ครบ
00:17:03 → 00:17:06 ขี้เกียจไปหาหมอและขี้เกียจกินยาะมันต้อง
00:17:06 → 00:17:11 กินทุกวันเลยใช่ป่ะใช่ทำไงมันก็ลูกก็จะ
00:17:11 → 00:17:15 ดื้อยาดื้อยาอ๋อ้าดื้อยานี่ก็ยาวก็กลาย
00:17:15 → 00:17:16 เป็นต้องปรับสูตรจะปรับสูตรก็กลายเป็น
00:17:16 → 00:17:19 อยาก 6 เดือนก็จะกลายเป็น 9 เดือนึงปีนึง
00:17:19 → 00:17:22 น้ำเสียน้อยเสียมากเสียยากเสียง่ายฉะนั้น
00:17:22 → 00:17:25 ถ้าไม่อยากจะต้องยาวกินยาเป็นปีก็ต้องกิน
00:17:25 → 00:17:28 ยาให้สม่ำเสมอสูตรสูตยาที่ว่านี้ก็สูตร
00:17:28 → 00:17:30 ใครสูตรมันด้วยหรึเปล่าหรือว่าแบบเหมือนๆ
00:17:30 → 00:17:33 กันนั่นแหละมันอ้ามันมีสูตรสูตรมันด้วย
00:17:33 → 00:17:36 แต่กินยาทีกระบุงนึงเลยนะออเหรอไม่ได้กิน
00:17:36 → 00:17:40 ยาวอลเม็ดนะมันกินเตู้ม 4 สูตร 4 เม็ด 4
00:17:40 → 00:17:43 ตัวนะครับมันจะมียาวิตามินอีกเป็น 5 ตัว 2
00:17:43 → 00:17:45 เดือนแรกแล้วจากนั้นค่อยลดเป็นเหลือแค่ 2
00:17:45 → 00:17:48 ตัวนี่กินยาเป็นอาหารเหรอโอแน่นอนเเรียก
00:17:48 → 00:17:50 ว่าโอ้โหแต่ละแต่ละอันก็กิน 3 เม็ด 2
00:17:50 → 00:17:53 เม็ดคือกินปุ๊บโอ้โหได้ยาเป็นกระบุงบๆ
00:17:53 → 00:17:58 อิ่มเลยนะฉะนั้นใสหน้ากากก่อนโอ๊ยอ่ะแล้ว
00:17:58 → 00:18:00 ถ้าเกิดเกิดสมมุติว่าอ่ะฉันอยู่ในระหว่าง
00:18:00 → 00:18:04 การรักษาชันอะไรอย่างเงี้ยฉันต้องทำยังไง
00:18:04 → 00:18:07 ้ากางไไม่แพรเชื้อให้คน
00:18:07 → 00:18:10 อื่นแล้วก็ทานยาให้ตรงแค่นั้นเองแล้วก็มา
00:18:10 → 00:18:13 ตรวจนะครับตามนัดพวกนี้มีโอกาสหายขาดสูง
00:18:13 → 00:18:16 มากถ้าเราไม่ดื้อหมายถึงว่าตัวเราไม่ดื้อ
00:18:16 → 00:18:18 ที่จะไม่กินยาถูกต้องครับไม่ใช่ดื้อยาถูก
00:18:18 → 00:18:21 ต้องแล้วเราต้องอยู่กับคนในครอบครัวทำไง
00:18:21 → 00:18:25 อ่ะก็อย่างที่บอกไปว่าปกติแล้วเนี่ยอ่า
00:18:25 → 00:18:27 เมื่อไรก็ตามที่เราเป็นวัณโรคเนี่ยโอกาส
00:18:27 → 00:18:29 แพร่เชื้อสูงสุดอยู่ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
00:18:29 → 00:18:31 ถ้าในช่วง 2 สัปดาห์แรกเนี่ยเราแนะนำว่า
00:18:31 → 00:18:33 ต้องอาจจะต้องแยกหรือว่าทำไงก็ได้ให้มัน
00:18:33 → 00:18:36 ไม่เจอหน้ากันนะครับอแล้วก็หลัง 2
00:18:36 → 00:18:38 สัปดาห์หลังจากที่กินยาครบนะครับเราตรวจ
00:18:38 → 00:18:40 เช็คเสมหะอะไรกันอีกทีนึงถ้ามันไม่มีการ
00:18:40 → 00:18:42 ขึ้นเชื้อพวกนี้สามารถเข้ามาสู่คนปกติได้
00:18:42 → 00:18:45 ละเพราะว่ามันมันมันเหมือนเรากินยาลดการ
00:18:45 → 00:18:48 โอกาสการแพร่ไปหมดละอฉะนั้นต้องอย่างน้อย
00:18:48 → 00:18:51 2 สัปดาห์นะครับอืแล้วก็ใช้ชีวิตแต่แต่
00:18:51 → 00:18:56 ว่าจะปกติจะใส่แมสต่อก็ได้โอเคเลยน่าก็
00:18:56 → 00:19:01 โอเคแล้วก็คนที่เอ่อไม่ได้เป็นจะหลีก
00:19:01 → 00:19:05 เลี่ยงยังไงใส่หน้ากลางไงสรุปใส่หน้ากลาง
00:19:05 → 00:19:07 อยู่ดีไม่มองใส่หน้ากลางแล้วไม่ไม่นั่น
00:19:07 → 00:19:09 แล้วก็หลีกเลี่ยงตำแหน่งที่มันแอร์อัดแค่
00:19:09 → 00:19:12 นั้นเองตอนนี้อ่าอยู่ในห้องแอร์อย่างงี้
00:19:12 → 00:19:17 ได้มยได้ไม่มีผลอยู่แล้วเสี่ยงมยเสี่ยง
00:19:17 → 00:19:21 มั้ยก็ต้องขึ้นอยู่นั่งอยู่ข้างๆใครเป็น
00:19:21 → 00:19:23 หรือเปล่าก็ไม่รู้แล้วจะอยู่จะไปถามว่า
00:19:23 → 00:19:25 เธอเป็นมะเร็งเอ้ยไม่ใช่เป็นวัณโรคหรรือ
00:19:25 → 00:19:28 เปล่าเจะรู้มั้ยไม่ใช่ไงแต่ว่า้าแต่ไม่มใ
00:19:28 → 00:19:30 ก็ตามที่เรามีอาการหรือแล้วมีประวัติ
00:19:30 → 00:19:33 สัมผัสอหรือว่าเรามีสัมผัสใกล้ชิดกับไขณ
00:19:33 → 00:19:36 โลกเราอาจะต้องเข้าไปสู่กระบวนการคัดกรอง
00:19:36 → 00:19:39 นะครับเพื่อจะดูว่าเอ้ยเรามีเป็นมั้ยอะไร
00:19:39 → 00:19:42 ยังไงมยต้องทานยาใหนะครับแล้วถ้าดื้อยาก็
00:19:42 → 00:19:44 ต้องไปปรับสูตรใหม่ก็เริ่มต้นน้ำหนึ่ง
00:19:44 → 00:19:46 ใหม่เลยอ่าไม่ๆอาจจะไม่ถึงขนาดนั้นแต่ว่า
00:19:46 → 00:19:50 ก็ต้องมีการปรับสูดยานะครับว่าจะให้ยาตัว
00:19:50 → 00:19:52 ไหนอะไรยังไงนะครับนอกจากกินยาแล้วมันไม่
00:19:52 → 00:19:55 มีอย่างอื่นแล้วหรอคะไม่มีไม่มียกเว้นว่า
00:19:55 → 00:19:58 ตัววรรณโรคมันไปมันไปส่งผลทำให้มันเกิด
00:19:58 → 00:20:01 อ่าภาวะแซกซอนอย่างอื่นเราถึงจะเข้ามา
00:20:01 → 00:20:04 เช่นยกตัวอย่างว่าถ้าตัวโรคปอดเนี่ยมันทำ
00:20:04 → 00:20:07 ให้เกิดปอดรั่วอ่าเกิดไอ้เป็นเลือดพวกนี้
00:20:07 → 00:20:10 มันทำได้เพราะมันไปทำลายปอนดไงมันในก็ตัด
00:20:10 → 00:20:12 เกิดภาวะเซกซ้อนตามตำแหน่งหรือเกิดเป็น
00:20:12 → 00:20:15 หนองขึ้นมาพวกนี้เนี่ยเราอาจจะต้องตามมา
00:20:15 → 00:20:19 ผ่าตัดแก้ไขไอ้ตัวปลายเหตุอ้าวแต่ว่ามัน
00:20:19 → 00:20:22 เป็นก้อนเราไปผ่ามันเลยไม่ได้หรอไม่มัน
00:20:22 → 00:20:24 กระจายสำมามันเต็มปอด 2 ข้างเลยมันตัดไม่
00:20:24 → 00:20:28 ได้อืตัดไม่ได้ยเป็นว่ามันแบบรักษาดีแล้ว
00:20:28 → 00:20:32 เหมือนทิ้งซากผังผืดไว้หรือว่ามันปอมน
00:20:32 → 00:20:35 ทำลายแล้วกลายเป็นอ่าเป็นลาที่เจอได้บ่อย
00:20:35 → 00:20:37 ที่สมมาผ่าตัดก็คือเเป็นวลโรคปุ๊บรักษา
00:20:37 → 00:20:40 หายใช่มั้ย 6 เดือนไอ้ปอดที่มันพังอ่ะมัน
00:20:40 → 00:20:43 กลายเหมือนขนมปังผุๆลาก็เลยขึ้นเอแล้วตรง
00:20:43 → 00:20:46 ลตรงนี้มันส่งนว่าไอเป็นเลือดเก็จะส่งมา
00:20:46 → 00:20:49 เข้ามาปรึกษากันผ่าตัดอ้ามันไม่ได้แบบหาย
00:20:49 → 00:20:53 คือหายแบบไม่หายมันก็จะทิ้งสร้างรอยฝัง
00:20:53 → 00:20:56 ผืดหรว่ารอยแผลเป็นของตัวเนื้อปอดไวทีนี้
00:20:56 → 00:20:57 มันเป็นมากมันก็มีโอกาสเป็นลาแต่โดยทั่ว
00:20:58 → 00:21:00 ไปบางคนก็ไม่ไม่เป็นอะไรก็ปกติดีนะครับ
00:21:00 → 00:21:04 โอ้โหเป็นราในปอดแล้วทำไงอ่ะก็ตัดตัดตัด
00:21:04 → 00:21:08 ราหรือตัดปอดตัดราในปอดก็คือตัดปอดนั่น
00:21:08 → 00:21:11 แหละก็ต้องตัดอยู่ดีเพื่อเอาออกเพราะว่า
00:21:11 → 00:21:14 พวกนี้ยามันให้ไม่ค่อยได้ผลนะครับเอ้า
00:21:14 → 00:21:17 เป็นเชื้อราในปอดเออแต่เคยได้ยินแว่วๆ
00:21:17 → 00:21:19 อยู่เหมือนกันนะแต่ว่าเรานึกภาพไม่ออกคือ
00:21:19 → 00:21:21 มันก็จะเหมือนเชื้อราในขนมปังอย่างงี้เลย
00:21:21 → 00:21:24 เหรอใช่แบบเกาะไปตามแบบใช่เกาะเป็นลูกกลม
00:21:24 → 00:21:27 ๆมันจะเป็นลูกกลมๆแบบเห็นฟิล์มเป็นลูกกลม
00:21:27 → 00:21:30 ๆในปอดอะไรพวกนี้คือลาในปอดและสาเหตุที่
00:21:30 → 00:21:34 เจอบ่อยมาที่สุดก็คือจากโร่อ๋อหรออ้าแล้ว
00:21:34 → 00:21:38 อย่างถ้าปอดรั่วอย่างเงี้ยมันก็จะฟีบๆมัน
00:21:38 → 00:21:40 คือแบบใช่มีมีแต่ว่าปอดปอดรั่วมันมีได้
00:21:41 → 00:21:43 หลายอย่างแต่ว่าหนึ่งในนั้นก็คือจวนโลคก็
00:21:43 → 00:21:46 ทำได้เช่นเดียวกันอ๋อนี่คือการแทรกซ้อน
00:21:46 → 00:21:49 ของวรรณโรคตัวอารวตัวอาการวรรณโรคโห
00:21:50 → 00:21:52 ฉะนั้นมันมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่
00:21:52 → 00:21:56 แล้วก็เป็นเรื่องที่ควนก็ค่อนควรจะต้อง
00:21:56 → 00:21:59 ให้ความสำคัญเพได้มากอืมันมีเปลี่ยนชีวิต
00:21:59 → 00:22:02 ไปเลยถูกมั้นอกจากจะกินยา 6 เดือนอถูก
00:22:02 → 00:22:04 มั้ยครับปลอดพังตลอดชีวิตก็ยังมีพแซซ้อน
00:22:04 → 00:22:06 ตามมาเยอะนั่นคือสาเหตุที่ทำไมเราถึงต้อง
00:22:06 → 00:22:11 มาอ่าคัดกรองหาผู้ป่วยที่เป็นโรคโรคอืและ
00:22:12 → 00:22:14 ส่วนท้ายที่สุดป้องกันไม่ให้เกิดภาวะดื้อ
00:22:14 → 00:22:18 ยาเกิดขึ้นในโลกอันนี้เเยได้ได้เห็นเลย
00:22:18 → 00:22:23 เห็นเลยตเสมหะได้อ๋อต๋วเสมหะได้ใช่แล้ว
00:22:23 → 00:22:28 สิทธิ์การรักษาเนี่ยมันเอ่อควอร์ครอบคลุม
00:22:28 → 00:22:30 แค่ไหนเรื่องของการที่แบบบางคนอาจจะกังวล
00:22:30 → 00:22:33 ไงว่าแบบโหวรรณโลกเลยนะอันนี้สิทธิได้
00:22:33 → 00:22:36 สิทธการรักษารักษาได้หมดอยู่แล้วเมื่อสั
00:22:36 → 00:22:38 ตามสิทธิ์ใช่นะเมื่อไเราเจอเราสงสัยเรา
00:22:38 → 00:22:41 สามารถไปรักษาตามสิทธิ์ของคนไข้ที่ที่ที่
00:22:41 → 00:22:44 เขามีสิทธิ์ตามนั้นเช่นเขามีบัตรทอง 30
00:22:44 → 00:22:46 บาทก็ไปรักษา 30 บาทได้เมีบังการสังคมก็
00:22:46 → 00:22:49 ไปรักษาสังคมเมีข้าราชการก็ไปที่ไหนก็ได้
00:22:49 → 00:22:51 คือบางคนอาจจะบอกว่าอุ๊ยสิทธิ์ราชการมัน
00:22:51 → 00:22:54 ก็จะแบบนึงการรักษาก็จะแบบนึงเ่อบัตทอง
00:22:54 → 00:22:56 เขาก็จะรักษาในอีกแบบนึงเฮ้ยไม่เกี่ยว
00:22:56 → 00:22:58 จริงๆแล้วรักษาได้หมดรักษาได้ททุกที่
00:22:58 → 00:23:00 เหมือนกันแล้วแล้วเหมือนกันเหมือนกันขึ้น
00:23:00 → 00:23:03 เคุณหมอที่ที่เราเจอเท่านั้นเองอุ๊ยนะ
00:23:03 → 00:23:07 ครับเนาะว่าว่าว่าคุณหมอเ้าอ่านั่นแแต่
00:23:07 → 00:23:09 ว่าทุกที่ทำได้หมดทุกที่ทำได้หมดออถ้า
00:23:09 → 00:23:11 เป็นแล้วคือมันปอดมันไม่สามารถจะกลับมา
00:23:11 → 00:23:13 เป็นเหมือนเดิมได้อย่างเงี้ยเฮ้ยบางคน
00:23:13 → 00:23:15 กลับมาเหมือนเดิมเราพูดแค่บางรายที่มัน
00:23:15 → 00:23:17 เป็นรุนแรงหนังมากๆอ๋อแล้วอย่างคนที่เขา
00:23:17 → 00:23:19 แบบว่าเอ่อน้ำหนักลดนู่นนี่นั่นอะไรอย่า
00:23:19 → 00:23:22 เงี้ยเขาจะกลับมาแบบกลกินข้าวได้มีุดได้
00:23:22 → 00:23:27 อ๋อโหผมเคยเจอคนไข้คนนึงือโหดมากเ่อเค้า
00:23:27 → 00:23:30 เนี่ยนะเป็นภูมการบกพร่องนะครับอายุ
00:23:30 → 00:23:33 ประมาณซัก 30 กว่าเฮ้ย 30 กว่าเองอ่าภูม
00:23:33 → 00:23:38 การบกพร่องแล้วก็เป็นวรรณโรคโอ้ยโอเค
00:23:38 → 00:23:42 โอ้โหตแล้วเป็นปอดรั่วปอดรั่วปอดพังเข้า
00:23:42 → 00:23:45 ไปผ่าตัดกัน 4 รอบโโอ้ยนะครับกว่าจะแก้
00:23:45 → 00:23:48 ออกมาได้ออหลังจากแก้ออกมาเก็เริ่มกินยา
00:23:48 → 00:23:51 แล้วก็กินยาพูมิการปกพร่องนะครับตอนนี้
00:23:51 → 00:23:53 ผ่านมาได้สักปีนึงน้ำหนักประมาณเกือบ 50
00:23:53 → 00:23:58 ะเดินมาจะอีกทีนึงเกือบจำไม่ได้อ๋อเมี
00:23:58 → 00:24:00 วินัยในการกินยาดูแลตัวเองเนาะอ่าโอ้โห
00:24:00 → 00:24:02 ตอนนั้นคือเดินไม่ได้นอนติดเกงอยู่ 4
00:24:02 → 00:24:06 เดือนอ้อแต่ก็เค้ามีแฟนมาดูแลเค้าตลอดนะ
00:24:06 → 00:24:09 ผมก็ดูแบบคิดในใจจะรอดได้ยังไงวะเนี่ยคือ
00:24:09 → 00:24:11 เหมือนกับว่าโอ้โหดูผอมแล้วแบบเหลือ 30
00:24:11 → 00:24:14 กว่ากลเองอ่ะความหวังมันน้อยเนาะเออตอน
00:24:14 → 00:24:16 กี่เท่าของผมเนี่ยนั่งนึกอยู่ 30 กว่ากล
00:24:16 → 00:24:21 บางมากแล้วก็แบบโอ้โหแล้วก็แบบเออืขยับ
00:24:21 → 00:24:24 ไม่ได้อ่ะคือแบบเค้าแบบร่างกายเออร้งมาก
00:24:24 → 00:24:28 จนแบบนอนติดเตียงเอนสงสารโยนคก็คกินยยานะ
00:24:28 → 00:24:32 ครับเกินยาโอ้โหเป็นกำมือเลยอ่ะอือนะแก้
00:24:32 → 00:24:35 นู่นแก้นี่พูมพมกันเเริ่มกลับมาออร่างกาย
00:24:35 → 00:24:39 เริ่มปรับตัวเข้ามาสู่ปกติใช้ได้ผลยาแล้ว
00:24:39 → 00:24:40 หลังจากนั้นปุ๊บอ่าเขาก็เริ่มทานได้มาก
00:24:40 → 00:24:44 ขึ้นทตอนนี้เนี่ยผ่านมาปีเเดินมาหาผมได้
00:24:44 → 00:24:47 ผมก็แบบโอ้โหโอเยี่ยมเลยสุดยอดผมก็แบบ
00:24:47 → 00:24:50 เฮ้ยตอนแรกก็ถามก่อน
00:24:50 → 00:24:53 เอ๊ะเราเคยเจอกันรึเปล่านะใช่คนไข้คนนัน
00:24:53 → 00:24:56 รือเปล่าเออแต่เราก็หมองดูไม่เหมือนเใช่
00:24:56 → 00:25:02 หมอเนี่ยอ๋อกินยาครบตรวจเช็คมาทุกครั้งดี
00:25:02 → 00:25:06 จังเลยฉะนั้นเมก็ตามที่เราเ่อเจอแล้วเรา
00:25:06 → 00:25:08 รักษาเนี่ยพวอย่างที่บอกมันดีกว่ามะเรงอ
00:25:08 → 00:25:11 อือๆมันรักษาหายอือแต่สเป็นมะเร็งมันอาจ
00:25:11 → 00:25:14 จะแบบโอ้ถ้าเจอระยะ 4 มันก็จะยากออนะครับ
00:25:14 → 00:25:17 อ่าคัดกรองดีที่สุดนะะถูกต้องครับอ่ะนี้
00:25:17 → 00:25:20 ก็เป็นให้เราได้รู้นะวรรณโรคมันยังมีอยู่
00:25:20 → 00:25:22 นะคะแล้วก็เป็นกันได้ง่ายๆด้วยก็ใส่แมส
00:25:22 → 00:25:25 กันถ้าเกิดว่าต้องไปในที่ที่มีคนเยอะๆแอ
00:25:25 → 00:25:27 อัดหรืออะไรแบบนี้เพื่อความปลอดภัยเรา
00:25:27 → 00:25:29 เพราะเราไม่รู้มันไม่ได้ขขึ้นมาบนหน้าผาก
00:25:29 → 00:25:32 ว่ามีเชื้อหรือว่าอะไรยังไงสู้เราป้องกัน
00:25:32 → 00:25:34 ตัวเองไว้ก่อนดีกว่าขอบคุณคุณหมอค่ะ
00:25:34 → 00:25:37 สวัสดีค่ะขคหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกัน
00:25:37 → 00:25:39 ใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย PBS
00:25:39 → 00:25:43 podcast ค่ะวันนี้ลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ
00:25:43 → 00:25:46 This Is tha PBS podcast โรคที่เกิด
00:25:46 → 00:25:49 จากการทำงานมีปัจจัยอะไรบ้างและสาเหตุที่
00:25:49 → 00:25:51 ทำให้เกิด Office syndrome มาจากอะไร
00:25:51 → 00:25:54 แพทย์หญิงชวรัฐปราสาแพทย์ชำนาญการพิเศษ
00:25:54 → 00:25:57 จากโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีมาเล่าให้ฟัง
00:25:57 → 00:25:58 ครับ
00:25:58 → 00:26:02 โรคจากการทำงานมันจะไม่เหมือนกับโรคอื่นๆ
00:26:02 → 00:26:06 นะคะคือการทำงานเนี่ยมันจะทำงานแล้วมีการ
00:26:06 → 00:26:08 สัมผัสความเสี่ยงด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็น
00:26:08 → 00:26:13 ด้านกายภาพเสียงแสงความร้อนนะคะด้านสาร
00:26:13 → 00:26:17 เคมีชนิดต่างๆหรือว่าเชื้อโรคต่างๆอ่าการ
00:26:17 → 00:26:20 อ่ามีท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสมหรือมี
00:26:20 → 00:26:23 ความเครียดมันก็จะสะสมความเสี่ยงเนี้ยไป
00:26:23 → 00:26:27 เรื่อยๆจนถึงระยะเวลานึงอ่ะค่ะก็จะทำให้
00:26:27 → 00:26:29 เกิดอาการซึ่งระยะเวลาเนี่ยก็ขึ้นอยู่กับ
00:26:29 → 00:26:33 สภาพร่างกายของแต่ละคนนะคะแล้วก็ขึ้นอยู่
00:26:33 → 00:26:36 กับลักษณะงานความเสี่ยงสภาพแวดล้อมในงาน
00:26:36 → 00:26:38 ค่ะเพราะฉะนั้นคือระยะเวลานานเลยกว่าจะ
00:26:39 → 00:26:41 เกิดอาการอาการก็จะเริ่มต้นตั้งแต่อาการ
00:26:41 → 00:26:45 เล็กน้อยเช่นระคายเครื่องนะคะหรือว่า
00:26:45 → 00:26:47 อาการเหนื่อยกว่าปกติหรืออาการในระบบต่าง
00:26:47 → 00:26:50 ๆในระยะเริ่มต้นและถ้ารุนแรงที่สุดถ้าสาร
00:26:50 → 00:26:53 นั้นเนี่ยมันเป็นสารก่อมะเร็งอ่ายกตัว
00:26:53 → 00:26:56 อย่างเช่นแร่ใยหินแร่ยหินเนี่ยค่ะจะอยู่
00:26:56 → 00:27:00 ในพวกผ้าเบรกอุตสาหกรรมที่ทำฉนวนกันความ
00:27:00 → 00:27:03 ร้อนถ้าคนงานเนี่ยสัมผัสสารเหล่าเนี้ยไป
00:27:03 → 00:27:07 ในระยะเวลานึง 10 20 ปีส่วนใหญ่จะ 20-30
00:27:07 → 00:27:10 ปีขึ้นไปอ่ะค่ะก็จะเกิดเป็นโรคมะเร็งขึ้น
00:27:10 → 00:27:13 มาอเนี่ยค่ะมันอาการเนี่ยได้ตั้งแต่เล็ก
00:27:13 → 00:27:16 น้อยจนถึงรุนแรงถึงโรคมะเร็งเลยอ่ะค่ะโรค
00:27:16 → 00:27:19 ออฟิ Syndrome ก็เป็นโรคที่จากการทำงาน
00:27:19 → 00:27:22 เหมือนกันนะคะเป็นเกี่ยวกับระบบกระดูกและ
00:27:22 → 00:27:25 กล้ามเนื้อความเสี่ยงคืออะไรความเสี่ยงก็
00:27:25 → 00:27:28 คือเรื่องของท่าทางการนั่งหรือว่าสฐานี
00:27:28 → 00:27:31 งานที่ไม่เหมาะสมตามหลัก ergonomic หรือ
00:27:31 → 00:27:34 ตามหลักกยาศาสตร์นะคะอ่ายกตัวอย่างเช่น
00:27:34 → 00:27:37 คอมพิวเตอร์อย่างเงี้ยค่ะทุกคนลองสังเกต
00:27:37 → 00:27:40 ดูว่าที่เรามองอยู่เนี่ยเราก้มเยอะเกินไป
00:27:40 → 00:27:44 มจออยู่ระดับสายตามนั่งเนี่ยเก้าอี้พิง
00:27:44 → 00:27:48 พนักหรือเปล่าเท้าแตะพื้นมั้ยค่ะเพราะว่า
00:27:48 → 00:27:50 ถ้าเรานั่งเท้าไม่แตะพื้นตามหลักหรือว่า
00:27:50 → 00:27:53 หลังไม่พิงพนักตามหลักประมาณ 90 องศาหรือ
00:27:53 → 00:27:56 ว่าประมาณ 100 องศาเนี่ยมันก็ทำให้เราปวด
00:27:56 → 00:28:00 เมื่อยได้ถ้าเรานั่งแบบท่าที่ผิดท่าตลอด 8
00:28:00 → 00:28:04 ชมงเนี่ยค่ะจะทำให้มีอาการปวดคอบ่าไหล่
00:28:04 → 00:28:06 แล้วก็การทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นระยะ
00:28:06 → 00:28:10 เวลานานค่ะจะทำให้มีอาการตาแห้งได้ค่ะก็
00:28:10 → 00:28:14 ต้องมีการพักสายตามองต้นไม้สีเขียวหรือ
00:28:14 → 00:28:17 มองวิวภายนอกหรือว่าเปลี่ยนอิริยาบถมีการ
00:28:17 → 00:28:20 ยืดเหยียดกล้ามเนื้อระหว่างทำงานก็จะช่วย
00:28:20 → 00:28:23 ลดความเสี่ยงอ่าในเรื่องของการอยู่ท่าทาง
00:28:23 → 00:28:26 ที่ไม่เหมาะสมนานๆได้พอเราทำงานไปเพลิน
00:28:26 → 00:28:29 อย่างเงี้ยค่ะก็จะรู้สึกรสึกว่าเอ่อมัน
00:28:29 → 00:28:32 มันมันไม่เป็นไรหรอกแต่ว่าพอถึงระยะเวลา
00:28:32 → 00:28:35 นึงพอมันเป็นแล้วเนี่ยมันจะหายยากมากเลย
00:28:35 → 00:28:38 เริ่มมีการปวดเรื้อรังหรือบางคนเป็นรุน
00:28:38 → 00:28:41 แรงก็อาจจะเป็นถึงหมอนรองกระดูกกดทับเส้น
00:28:41 → 00:28:44 ประสาทหรือว่าอ่ามีอาการอ่าหมอนรองคอกด
00:28:45 → 00:28:48 ทับเส้นประสาทมีอาการชาชาแขนหรือปวดเรื้อ
00:28:48 → 00:28:51 รังเงี้ย
00:28:51 → 00:28:56 ค่ะ This Is Thai PBS
00:28:56 → 00:28:59 podcast ติดตามรรายการของ Thai PBS
00:28:59 → 00:29:01 podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:29:01 → 00:29:16 www.thaipbs.or.th
00:29:16 → 00:29:19 [เพลง]