00:00:00 → 00:00:18 [เพลง]
00:01:50 → 00:01:51 [ปรบมือ]
00:01:51 → 00:02:21 [เพลง]
00:02:21 → 00:02:43
00:02:43 → 00:02:50 [เพลง]
00:02:50 → 00:03:06
00:03:06 → 00:03:12 [เพลง]
00:03:12 → 00:03:30
00:03:30 → 00:03:30 [เพลง]
00:03:30 → 00:03:32 สวัสดีครับคุณผู้ชมครับยินดีต้อนรับสู่
00:03:33 → 00:03:35 มหิดล Channel Life วันนี้อยู่กับ
00:03:35 → 00:03:38 อาจารย์เต้รพีบุญเกื้อจากภาควิชาชีววิทยา
00:03:38 → 00:03:40 คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลครับคุณ
00:03:40 → 00:03:42 ผู้ชมครับดวงตาของเราเนี่ยนอกจากจะเป็น
00:03:42 → 00:03:47 หน้าต่างของหัวใจผมเชื่อว่าดวงตาอวัยวะ
00:03:48 → 00:03:50 ที่สำคัญที่เราใช้ในการที่จะรับรู้ความ
00:03:50 → 00:03:54 เป็นไปที่อยู่รอบตัวเราว่ากันว่า 90% ของ
00:03:54 → 00:03:57 ข้อมูลต่างๆเรารับผ่านดวงตาของเรานี่แหละ
00:03:57 → 00:04:00 แต่ด้วยพฤติกรรมของเราที่เปลี่ยนไปด้วย
00:04:00 → 00:04:03 การใช้เทคโนโลยีอย่างเต็มที่ทั้งวันทั้ง
00:04:03 → 00:04:07 คืนบวกกับสุขภาพบวกกับอายุของเราที่เพิ่ม
00:04:07 → 00:04:09 มากขึ้นก็จะทำให้สุขภาพของดวงตาของเรา
00:04:09 → 00:04:12 เนี่ยมันค่อยๆเสื่อมถอยลงในวันนี้ครับเรา
00:04:12 → 00:04:16 จะมาพูดคุยกันเรื่อง 4 โรคตาที่คุณเป็น
00:04:16 → 00:04:20 กันมากเลยนั่นก็คือโรคต้อครับได้แก่ต้อลม
00:04:20 → 00:04:24 ต้อเนื้อต้อหินแล้วก็ต้อกระจกเรามาดูกัน
00:04:24 → 00:04:27 ว่าต้อแต่ละประเภทเนี่ยมันแตกต่างต่างกัน
00:04:27 → 00:04:30 อย่างไรมันมีวิธีในการรักษามีวิธีในการ
00:04:30 → 00:04:33 ป้องกันอย่างไรโดยที่วันนี้ครับเราจะมา
00:04:33 → 00:04:36 พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญคนเก่งของเรานั่นก็
00:04:36 → 00:04:39 คือแพทย์หญิงประกายรัตน์ทองผิวหรือคุณหมอ
00:04:39 → 00:04:43 พิงกี้บอกเป็นอาจเป็นจากสุแพทย์อยู่ที่
00:04:43 → 00:04:46 ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกคณะแพทยศาสตร์
00:04:46 → 00:04:48 ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดลครับสวัสดี
00:04:48 → 00:04:50 ครับคุณหมอพิ้งกี้ครับสวัสดีครับ
00:04:50 → 00:04:53 สวัสดีค่ะอาจารย์เป้แล้วก็ขออนุญาตสวัสดี
00:04:53 → 00:04:57 ท่านผู้ชมนะคะทั้งทาง facebook แล้วก็ทาง
00:04:57 → 00:04:59 YouTube ด้วยค่ะครับวันนี้ผมเชื่อว่า
00:04:59 → 00:05:02 แฟนคลับของหมอพิ้งกี้คงจะตามดูไลฟ์นี้แน่
00:05:02 → 00:05:05 นอนแล้วผมก็เชื่อว่าคงจะมีคุณผู้ชมหลายๆ
00:05:05 → 00:05:08 ท่านครับก็เป็นห่วงในเรื่องของสุขภาพของ
00:05:08 → 00:05:12 ดวงตาโดยเฉพาะเรื่องของโรคต้อเนี่ยครับรถ
00:05:12 → 00:05:14 ต้อมันก็มีอยู่ด้วยกันหลายชนิดวันนี้เรา
00:05:15 → 00:05:18 จะมาคุยกันว่า 4 ชนิดของต้อเนี่ยมันมี
00:05:18 → 00:05:20 ลักษณะอย่างไรมันมีความแตกต่างกันอย่างไร
00:05:20 → 00:05:23 รักษาอย่างไรแล้วก็ป้องกันอย่างไรตอนนี้
00:05:23 → 00:05:25 คุณผู้ชมที่รับชมผ่านทาง facebook Live
00:05:25 → 00:05:28 แล้วก็ YouTube นะครับคุณผู้ชมสามารถที่
00:05:28 → 00:05:31 จะฝากคำถามที่เกี่ยวเนื่องกับต้อทั้ง 4
00:05:31 → 00:05:33 ประเภทนี้เข้ามาได้ผมเชื่อว่าคุณหมอ
00:05:33 → 00:05:35 พิ้งกี้ถ้าผมเชื่อว่าเรามีเวลาในการที่จะ
00:05:35 → 00:05:39 พอที่จะตอบคำถามของคุณผู้ชมที่อาจจะมี
00:05:39 → 00:05:41 ความกังวลหรืออาจจะอยากจะได้ข้อมูลเพิ่ม
00:05:41 → 00:05:44 เติมเกี่ยวกับต้อทั้ง 4 ชนิดนะครับคุณหมอ
00:05:44 → 00:05:46 ครับคุณหมอพริตตี้ครับคุณหมอสบายดีนะ
00:05:46 → 00:05:47 อันดับแรกต้องถามก่อน
00:05:47 → 00:05:52 จะไปครับโรคต้อหน่อยครับอันดับแรกพอพูด
00:05:52 → 00:05:56 ถึงคำว่าต้อต้อเนี่ยมันคืออะไรมันมันน่า
00:05:56 → 00:06:05 กลัวไหมครับ
00:06:05 → 00:06:09 ทำให้ตาพิการมองอะไรไม่ชัดเจนหรืออาจจะทำ
00:06:09 → 00:06:12 ให้ตาบอดได้ค่ะซึ่งในวันนี้เนี่ยเราจะมา
00:06:12 → 00:06:14 พูดถึงโรคต้อสิ่งโลกอย่างที่อาจารย์เต้น
00:06:14 → 00:06:17 ได้เสนอไปแล้วนะคะคือมีเรื่องของต้อลมต้อ
00:06:17 → 00:06:20 เนื้อต้อกระจกแล้วก็ต้อหินนะคะวันนี้เรา
00:06:20 → 00:06:22 จะมาขออนุญาตพูดถึงโรคต้อลมกับต้อเนื้อ
00:06:22 → 00:06:25 ก่อนเพราะว่าเป็นโรคที่สามารถมองเห็นจาก
00:06:25 → 00:06:28 ภายนอกได้นะคะแล้วก็ก็คือพวกพูดถึงเรื่อง
00:06:28 → 00:06:32 ของต้อกระจกกับต้อหินซึ่งมันจะเป็นอวัยวะ
00:06:32 → 00:06:35 ที่อยู่ภายในลูกตาของเรานะคะเราไม่สามารถ
00:06:35 → 00:06:37 ที่จะมองเห็นจากข้างนอกได้ต้องใช้เครื่อง
00:06:37 → 00:06:40 มือสองเข้าไปตรวจพื้นที่ใช้ค่ะ
00:06:41 → 00:06:44 ถ้างั้นเราจะเริ่มจากต้ออะไรดีเอาเป็นต้อ
00:06:44 → 00:06:49 ลมดีกว่าครับ
00:06:50 → 00:06:54 ที่นูนขึ้นมานะคะอยู่บริเวณเยื่อบุตานะคะ
00:06:54 → 00:06:57 อาจจะเกิดที่หัวตาก็ได้หรือว่าที่หางตาก็
00:06:57 → 00:07:00 ได้หรืออาจจะเกิดวันที่หัวตาแล้วก็ที่หา
00:07:00 → 00:07:03 ปลาพวกนี้เกิดจากการอักเสบแล้วก็เกิดจาก
00:07:03 → 00:07:06 การเสียดสีระหว่างเยื่อบุตาที่เรากระพริบ
00:07:06 → 00:07:10 ตาถ้าสมมติว่าเราปล่อยให้ต้อลมเนี่ยเป็น
00:07:10 → 00:07:13 ไปเรื่อยๆไม่ได้รักษาเนี่ยมันก็อาจจะขยาย
00:07:13 → 00:07:16 ขนาดและก็เจริญเติบโตเข้าไปเข้าไปใน
00:07:16 → 00:07:19 บริเวณที่เป็นตาดำของเรานะคะซึ่งพอมัน
00:07:19 → 00:07:21 เข้าไปในตาดำของเราเนี่ยเราจะเปลี่ยนชื่อ
00:07:21 → 00:07:25 และต้อลมกลายเป็นต้อเนื้อค่ะ
00:07:25 → 00:07:29 ก็คือต้อลมคำที่มันแย่ลงแย่ลงมันก็จะกลาย
00:07:29 → 00:07:31 เป็นเปลี่ยนชื่อเรียกเป็นต้อเนื้อใช่ไหม
00:07:31 → 00:07:34 ครับใช่ค่ะหลักการที่สำคัญก็คือจะดูว่า
00:07:34 → 00:07:37 มันมีเยื่อพังผืดเมื่อสักครู่นี้ครับผมจำ
00:07:37 → 00:07:39 ไม่ผิดหมอเป็นที่ใช้คำว่าเยื่อหรือว่า
00:07:39 → 00:07:42 พังผืดใช่ไหมครับ
00:07:42 → 00:07:44 เส้นเลือดค่ะ
00:07:44 → 00:07:47 มันถูกกระตุ้นให้เกิดขึ้นมาได้ยังไงจาก
00:07:47 → 00:07:50 การขยี้เนี่ยแหละครับคุณหมอมันคือเกิดจาก
00:07:50 → 00:07:53 การเสียดสีเหมือนกับเวลาที่เราใส่รองเท้า
00:07:53 → 00:07:57 คับๆนานๆแล้วมันก็จะด้านขึ้นที่เยื่อบุตา
00:07:57 → 00:08:00 เราก็จะเกิดคล้ายๆเกิดจากการเสียดสีแล้ว
00:08:00 → 00:08:02 ก็เกิดอาการอักเสบนะฮะเกิดจากการเสียคือ
00:08:02 → 00:08:05 เป็นระหว่างกระพริบตามันจะมีการเสียดสี
00:08:05 → 00:08:08 กันระหว่างเยื่อบุตาแล้วก็ถูกกระตุ้นให้
00:08:08 → 00:08:12 อักเสบจากการที่เราโดนลมค่ะโดยแสง UV โดน
00:08:12 → 00:08:15 ฝุ่นแล้วก็โดนข้อความรวมทั้งพวกอากาศเย็น
00:08:15 → 00:08:17 ต่างๆค่ะ
00:08:17 → 00:08:20 ถ้าดูตามในรูปกราฟิกที่ขึ้นมานะครับเป็น
00:08:20 → 00:08:23 การเปรียบเทียบกันระหว่างต้อลมกับต้อ
00:08:23 → 00:08:25 เนื้อเห็นได้ชัดเจนเลยเผื่อเห็นต้อลมนี่
00:08:25 → 00:08:28 ก็คือบริเวณที่เป็นวงสีแดงๆนั่นก็คือเป็น
00:08:28 → 00:08:30 บริเวณที่เป็นเป็นเนื้อเยื่อที่ที่คุณหมอ
00:08:30 → 00:08:34 ไปกิน
00:08:34 → 00:08:38 ที่มันนูนขึ้นมาอย่างนั้นใช่ไหมฮะใช่ค่ะ
00:08:38 → 00:08:41 แล้วหลังจากนั้นพอมันค่อยๆความรุนแรงของ
00:08:41 → 00:08:44 มันใหญ่มันมากขึ้นมากขึ้นมันก็เริ่มที่จะ
00:08:44 → 00:08:47 โตขึ้นโตขึ้นแล้วก็ลามเข้ามาถึงบริเวณตา
00:08:47 → 00:08:49 ดำอย่างนั้นใช่ไหมครับ
00:08:49 → 00:08:52 อาการของมันเป็นยังไงครับเริ่มจากต้อลม
00:08:52 → 00:08:55 ก่อนก็ได้ถ้าเผื่อสมมุติว่าคนถ้าเผื่อคน
00:08:55 → 00:08:58 ทั่วๆไปผู้ชมทั่วๆไปเอ๊ะมันมีอาการนำมา
00:08:58 → 00:09:01 ยังไงที่ที่อาจจะต้องเฮ้ยนี่แหละควรจะ
00:09:01 → 00:09:03 ต้องไปปรึกษาคุณหมอพิ้งกี้หรือว่าจากสุข
00:09:03 → 00:09:07 แพทย์แล้วอ่ะครับ
00:09:07 → 00:09:10 ชั้นอากาศของมันก็จะคืนเหมือนอาการตาแห้ง
00:09:10 → 00:09:13 ก็คือมีแสบและคลายเคืองคันแล้วก็น้ำตาไหล
00:09:13 → 00:09:16 นะฮะรู้สึกเหมือนมีอะไรค้าอยู่ในป่านะคะ
00:09:16 → 00:09:19 ถ้าเป็นมากๆเงี้ยมันอาจจะทำให้มีอาการตา
00:09:19 → 00:09:22 มัวได้นะคะหรือว่าในกรณีที่จะต้อลม
00:09:22 → 00:09:24 เปลี่ยนเป็นต้อเนื้อแล้วเนี่ยมันเข้าไปใน
00:09:24 → 00:09:26 ตาดำแล้วเนี่ยเวลาที่มันโตขึ้นเนี่ยมันก็
00:09:26 → 00:09:29 จะค่อยเข้าไปตรงกลางมากขึ้นเรื่อยๆถ้ามัน
00:09:29 → 00:09:31 เป็นบางบริเวณที่มันเป็นรูม่านตาเนี่ยก็
00:09:31 → 00:09:34 จะทำให้ภาพแล้วก็แสงเนี่ยเข้าไปในตาได้
00:09:34 → 00:09:37 น้อยลงนะคะอาจจะทำให้คนไข้เนี่ยมองไม่
00:09:37 → 00:09:41 เห็นก็ได้หรือว่าตัวต้อเนื้อเองเนี่ยด้วย
00:09:41 → 00:09:44 ความที่กำลังเข้าไปในกระจกตาเราซึ่งมันมี
00:09:44 → 00:09:46 ความโค้งอยู่ความโค้งเนี่ยมันอาจจะผิด
00:09:46 → 00:09:49 ปกติแล้วก็ทำให้เกิดเป็นสายตาที่ผิดปกติ
00:09:49 → 00:09:52 ที่เรียกว่าสายตาเอียงได้ค่ะ
00:09:52 → 00:09:54 คุณผู้ชมหลายท่านอาจจะนึกไม่ออกว่าสายตา
00:09:54 → 00:09:56 เอียงนี่มันคือยังไงดูแล้วเป็นภาพเป็น
00:09:56 → 00:09:59 เอียงหรือยังไงคุณหมอลองอธิบายให้พวกเรา
00:09:59 → 00:10:01 ได้เห็นพอเห็นภาพได้ไหมครับว่าสายตาเอียง
00:10:01 → 00:10:04 นี่คือยังไงใส่ตัวเองก็คือการที่ภาพเนี่ย
00:10:04 → 00:10:07 มันไม่ได้ตกโฟกัสอยู่บนจุดเดียวบนจอ
00:10:07 → 00:10:11 ประสาทตานะคะในกรณีที่มีสายตาเอียงเนี่ย
00:10:11 → 00:10:14 ก็จะมองคล้ายๆเหมือนภาพที่มีภาพซ้อน
00:10:14 → 00:10:17 เหมือนเป็นเงาซ้อนอยู่นะฮะหรือที่เราไป
00:10:17 → 00:10:19 มองดวงไฟในเวลากลางคืนเนี่ยเวลาขับรถ
00:10:19 → 00:10:22 เนี่ยป้าจะเห็นเป็นแสนๆคือเหมือนเหมือน
00:10:22 → 00:10:24 เห็นเป็นภาพแหละแต่ว่าเหมือนมีเงาแก้
00:10:24 → 00:10:28 กล้ามออกมาครับเมื่อสักครู่ตอนที่พูดถึง
00:10:28 → 00:10:32 อาการนำของของต้อของต้อลมนะครับอาการ
00:10:32 → 00:10:36 ระคายเคืองอาการตาแห้งแสบตาคันตาเหมือนมี
00:10:36 → 00:10:38 อะไรอยู่ในตาขาวเนี่ยมันต้องเป็นอยู่ยาว
00:10:38 → 00:10:40 นานขนาดไหนครับหรือว่าเป็นสักครั้งหนึ่ง
00:10:40 → 00:10:43 เอ๊ะฉันจะเป็นหรือเปล่าหรือว่ามันต้องต่อ
00:10:43 → 00:10:45 เนื่องกันสักสัปดาห์สองสัปดาห์หรือเป็น
00:10:45 → 00:10:46 เดือนไหมครับ
00:10:46 → 00:10:50 ก็ส่วนใหญ่นะคะมันก็จะมีการถูกกระตุ้นก็
00:10:50 → 00:10:53 อย่างที่บอกก็คือแสง UV นะคะฝุ่นควันต่าง
00:10:53 → 00:10:56 ๆแล้วมันมีการกระตุ้นทีนึงก็จะมีอาการที
00:10:56 → 00:10:58 นึงแต่ถ้าเกิดว่าปล่อยเป็นให้มันเป็น
00:10:58 → 00:11:00 เรื้อรังแต่บางทีอาการพวกนี้มันจะเกิด
00:11:00 → 00:11:03 ขึ้นทุกวันแล้วก็ทำให้ต้อลมขยายขนาดขึ้น
00:11:03 → 00:11:05 กลายเป็นต้น
00:11:05 → 00:11:09 พอคุณหมอพูดถึงว่าพอได้รับคุณได้รับควัน
00:11:09 → 00:11:13 ได้รับแสง UV แสดงว่ามันเกี่ยวข้องกับเอา
00:11:13 → 00:11:15 ตัวเองเข้าไปอยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นมีควัน
00:11:15 → 00:11:17 มีแสง UV นั่นเองมันพูดง่ายๆก็คือมันเป็น
00:11:17 → 00:11:19 เรื่องของพฤติกรรมนั่นแหละถูกไหมครับ
00:11:19 → 00:11:22 พฤติกรรมประมาณไหนครับพฤติกรรมและสิ่งแวด
00:11:22 → 00:11:25 ล้อมแบบไหนครับที่มันจะทำให้ความเสี่ยงใน
00:11:25 → 00:11:40 การที่จะเป็น
00:11:40 → 00:12:26 [เพลง]
00:12:26 → 00:12:29 แต่เรากระพริบตาน้อยลงก็จะเกิดน้ำตาของ
00:12:29 → 00:12:32 เราระเหยออกไปก็ทำให้เกิดการเสียดสีในตา
00:12:32 → 00:12:35 เรามากขึ้นก็อาจจะทำให้เกิดต้อลมได้เร็ว
00:12:35 → 00:12:38 ขึ้นแล้วก็รวมทั้งคนที่ชอบขยี้ตาบ่อยๆอัน
00:12:38 → 00:12:41 นั้นคือแน่นอนอยู่แล้วว่าเกิดการเสียดสี
00:12:41 → 00:12:42 แน่นอนนะคะเพราะฉะนั้นคนที่ใส่
00:12:42 → 00:12:44 คอนแทคเลนส์นานๆแล้วก็นึกภาพเราใส่
00:12:44 → 00:12:47 คอนแทควายอยู่บนกระจกตาดำแล้วก็กระพริบตา
00:12:47 → 00:12:50 ถูไถมันไปทั้งวันยิ่งใส่อยู่นาก็ยิ่งมี
00:12:50 → 00:12:54 โอกาสจะมีปลาแห้งแล้วก็ลมได้มากขึ้นดื่ม
00:12:54 → 00:12:57 น้ำน้อยด้วยเพราะว่าเราดื่มน้ำน้อยก็ไม่
00:12:57 → 00:12:59 รู้จะเอาน้ำจากไหลไปผลิตเป็นน้ำตาถูกไหม
00:12:59 → 00:13:01 คะแบบก็จะแห้งแล้วเกิดการเสียภาษีมากขึ้น
00:13:01 → 00:13:03 เช่นเดียวกัน
00:13:03 → 00:13:07 อย่างนี้ก็แสดงว่าคงจะมีกลุ่มคนบางบาง
00:13:07 → 00:13:10 อาชีพบางกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงกับการ
00:13:10 → 00:13:12 เป็นต้อลมแล้วก็ต้อเนื้อมากกว่า Group
00:13:12 → 00:13:15 บางกลุ่มคนบางกลุ่มใช่มั้ยฮะจะเป็นกลุ่ม
00:13:15 → 00:13:19 คนประมาณไหนครับขออนุญาตสรุป
00:13:19 → 00:13:22 คนที่ต้องทำงานกันแจ้งนะคะกลุ่มที่ต้อง
00:13:22 → 00:14:26 โดนลงโดนฝุ่นโดนควันตลอดนะคะกลุ่มที่มี
00:14:26 → 00:14:28 อีกอย่างหนึ่งก็คือพยายามที่อยากขยี้ตา
00:14:28 → 00:14:54 อันนี้มีส่วนช่วยไหมครับ
00:14:54 → 00:15:15 [เพลง]
00:15:15 → 00:15:18 ขอถามคุณหมอเรื่องของการเลือกเลือกแว่น
00:15:18 → 00:15:22 กันแดดว่าแว่นกันแดดเนี่ยมันเป็นรูปทรง
00:15:22 → 00:15:24 แบบเท่ๆหรือว่าคนจะเป็นอันใหญ่ๆที่แบบ
00:15:24 → 00:15:26 ป้องกันได้แบบเต็มที่เลย
00:15:26 → 00:15:28 มีวิธีเลือกหรือว่าวิธีการตัดสินใจยังไง
00:15:28 → 00:15:29 นะครับ
00:15:29 → 00:15:33 ถ้าจุดประสงค์ก็คือสำหรับกันลมนะคะก็ขอ
00:15:33 → 00:15:36 ให้เป็นแว่นใหญ่แล้วก็ครอบดวงตาให้ให้มี
00:15:36 → 00:15:39 รูที่ลมมันจะผ่านเข้าไปในตาของเราเนี่ย
00:15:39 → 00:15:43 ให้น้อยที่สุด
00:15:43 → 00:15:47 ขอให้เคลือบสารป้องกันดีๆ
00:15:47 → 00:15:50 ขอเน้นตรงนี้แล้วกันจะเป็นสีอะไรรูปร่าง
00:15:50 → 00:15:52 แบบไหนก็ได้ค่ะแต่ถ้ามันใหญ่มันก็จะ
00:15:52 → 00:15:56 สามารถป้องกัน UV ได้มากกว่าอันเล็ก
00:15:56 → 00:16:01 แต่ว่าแต่ว่ารูปร่างนี้แต่แล้วแต่สไตล์
00:16:01 → 00:16:05 ตอนนี้ครับคุณหมอหลายๆคนก็คิดตัดแว่นแบบ
00:16:05 → 00:16:09 ที่มันสามารถจะตัดแสงสีฟ้าได้การใช้ใช้
00:16:09 → 00:16:11 เลนส์ที่มันตัดแสงสีฟ้าได้เนี่ยมันจะมี
00:16:11 → 00:16:14 ส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงในการเป็นต้อ
00:16:14 → 00:16:15 เนื้อได้ไหม
00:16:15 → 00:16:19 ปัจจุบันก็ยังไม่มีการศึกษาที่สรุปได้นะ
00:16:19 → 00:16:21 คะว่าแสงสีฟ้าทำให้เกิดต้อลมหรือว่าต้อ
00:16:21 → 00:16:24 แต่ว่าบางคนที่เป็นรองแล้วก็เออใส่สบายตา
00:16:24 → 00:16:28 ดีสามารถทำงานได้สามารถใช้ชีวิตประจำวัน
00:16:28 → 00:16:30 ได้ดีกว่าเราไม่ใส่แว่นจริงๆอันนี้เราก็
00:16:30 → 00:16:34 ไม่ได้มีข้อห้ามว่าห้ามห้ามใช้แว่นตัดแสง
00:16:34 → 00:16:37 สีฟ้าแต่ว่าถามว่ามันป้องกันต้องได้ไหมณ
00:16:37 → 00:16:41 วันนี้ยังยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดค่ะ
00:16:41 → 00:16:45 เรารู้แล้วล่ะว่าอะไรที่ทำให้ความเสี่ยง
00:16:45 → 00:16:48 มันเพิ่มขึ้นเรารู้แล้วล่ะว่าเราจะลดความ
00:16:48 → 00:16:50 เสี่ยงเหล่านั้นได้อย่างไรแต่ถ้าเป็นไป
00:16:50 → 00:16:52 แล้วครับหมอพิ้งกี้ครับถ้าเป็นแล้วเนี่ย
00:16:52 → 00:16:55 วิธีในการรักษามันจะเป็นยังไง
00:16:55 → 00:16:58 สิ่งแรกคือต้องตัดความเสี่ยงออกก่อนใช่
00:16:58 → 00:17:00 ไหมคะสิ่งแวดล้อมเราปรับสิ่งแวดล้อมปรับ
00:17:00 → 00:17:03 พฤติกรรมแล้วก็ถ้าตายเมื่อรุนแรงมากเรา
00:17:03 → 00:17:04 อาจจะแนะนำว่าโอเคซื้อน้ำตาลกระเทียมมา
00:17:04 → 00:17:07 หยอดในเบื้องต้นก่อนนะแต่บางคนที่มัน
00:17:07 → 00:17:09 อักเสบเยอะมากเดี๋ยวมันกระเทียมมันจะเอา
00:17:09 → 00:17:13 ไม่อยู่แล้วเราก็ต้องมาหาหมอตานี่แหละค่ะ
00:17:13 → 00:17:15 เพื่อจะให้ยาเพื่อลดการอักเสบนะคะอาจจะ
00:17:15 → 00:17:17 เป็นยากลุ่มสเตียรอยด์หรือยากลุ่มในที่
00:17:17 → 00:17:19 วิตามินซึ่งเดี๋ยวคุณหมอเขาจะพิจารณาเอง
00:17:19 → 00:17:23 ว่าตัวไหนที่เหมาะสมนะคะหรือในบางรายที่
00:17:23 → 00:17:26 เป็นเยอะๆนะคะแล้วก็บาง
00:17:26 → 00:17:29 หรือว่าทำให้เกิด
00:17:29 → 00:17:32 พิจารณาผ่าตัดได้แต่ว่าไม่จำเป็นต้องผ่า
00:17:32 → 00:17:34 ตัดทุกคนเพราะว่าหลังจากที่ผ่าตัดไปแล้ว
00:17:34 → 00:17:37 มันมีโอกาสที่กำลังจะเกิดซ้ำได้แล้วเกิด
00:17:37 → 00:17:40 ซ้ำได้ค่อนข้างบ่อยด้วยแต่การลอกในครั้ง
00:17:40 → 00:17:44 ต่อไปมันจะยากขึ้นทำให้เกิดพังผืดมากขึ้น
00:17:44 → 00:17:46 เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าไม่จำเป็นจริงๆเราก็
00:17:46 → 00:17:48 อาจจะยังไม่ได้นำแนะนำว่าให้ให้ต้องลอก
00:17:48 → 00:17:50 ทุกคน
00:17:50 → 00:17:54 การตัดสินใจว่าจะลอกจะพาเนี่ยมันขึ้นอยู่
00:17:54 → 00:17:56 กับใครขึ้นอยู่กับคนไข้เองนะว่าขึ้นอยู่
00:17:57 → 00:18:01 กับหมอครับก็จริงๆคนไข้ในสามารถมาบอกความ
00:18:01 → 00:18:04 ต้องการได้ว่าเราอยากผ่าแต่หน้าที่ของหมอ
00:18:04 → 00:18:08 คือให้ข้อมูลถ้าลอกแล้วมันเกิดซ้ำนะถ้า
00:18:09 → 00:18:11 เกิดซ้ำแล้วมันจะยากขึ้นเรื่อยๆมีคนไข้ก็
00:18:12 → 00:18:14 ต้องพิจารณาเองว่าหลังจากที่รอบแล้วเรา
00:18:14 → 00:18:16 สามารถดูแลตัวเองแล้วก็ป้องกันไม่ให้ไป
00:18:16 → 00:18:19 โดนกับความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดต้อลมหรือ
00:18:19 → 00:18:22 ต้อเนื้อขึ้นใหม่อีกรอบนึงได้ไหมถ้าดูทรง
00:18:22 → 00:18:26 แล้วยังจะต้องอยู่ในที่แสงแดดเยอะๆน้ำตา
00:18:26 → 00:18:29 ก็ไม่ค่อยได้ยอดไม่ค่อยมีวินัยโอกาสที่
00:18:29 → 00:18:31 ว่าจะเป็นซ้ำมันก็เยอะอาจจะต้องแนะนำว่า
00:18:31 → 00:18:33 งั้นเดี๋ยวรอก่อนเราปรับพฤติกรรมอะไรให้
00:18:33 → 00:18:36 เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยเราค่อยออกมันไม่
00:18:36 → 00:18:40 ยากแต่การที่จะลอกแล้วก็คนไข้ต้องอยู่กับ
00:18:40 → 00:18:44 ความทรมานหลังจากผ่าตัดอยู่ที่คนไข้มาก
00:18:44 → 00:18:48 กว่าค่ะถ้าในกรณีที่เป็นต้อลมไม่ยังไม่
00:18:48 → 00:18:50 รุนแรงนักแล้วใช้วิธีในการที่จะหยอดตา
00:18:50 → 00:18:53 อย่างนี้มันช่วยบรรเทาอาการหรือมันทำให้
00:18:53 → 00:18:55 หายไปเลยอ่ะครับ
00:18:55 → 00:18:58 ตัวตลกถ้ามันเกิดขึ้นแล้วมันจะไม่ได้หาย
00:18:58 → 00:19:01 ไปแต่หมายอาจจะรู้สึกว่ามันเหมือนจางลง
00:19:01 → 00:19:04 เพราะเส้นเลือดมันไม่ได้อักเสบซึ่งก็จะ
00:19:04 → 00:19:06 ไม่ได้เข้มเหมือนตอนที่เราอักเสบแต่ว่า
00:19:06 → 00:19:10 ตัวเนื้อนุ่มๆอันนี้มันจะอยู่กับเราไป
00:19:10 → 00:19:13 เรื่อยๆแต่มันแค่ไม่อักเสบแล้วก็ไม่ได้
00:19:13 → 00:19:16 รู้สึกว่ามันระคายเกินไปเราแค่ไปเพิ่ม
00:19:16 → 00:19:17 ขนาดมาแล้วก็อยากจะกระตุ้นให้มันเกิดการ
00:19:17 → 00:19:20 อักเสบก็เพียงพอแล้วค่ะเพราะฉะนั้นการ
00:19:20 → 00:19:23 เปลี่ยนพฤติกรรมเขาจะช่วยลดการอักเสบลง
00:19:23 → 00:19:26 ได้ส่วนหนึ่งใช่ไหมฮะแน่นอน
00:19:26 → 00:19:28 ครับตอนนี้เริ่มมีคำถามเข้ามาแล้วครับ
00:19:28 → 00:19:30 สำหรับคุณผู้ชมที่สนใจนะฮะไม่ว่าจะรับชม
00:19:30 → 00:19:32 ผ่าน YouTube Live หรือว่า Facebook
00:19:32 → 00:19:34 Live สามารถที่จะฝากคำถามเกี่ยวกับโรค
00:19:34 → 00:19:37 ต้อทั้ง 4 ชนิดเข้ามาได้มีคุณผู้ชมถามมา
00:19:37 → 00:19:40 ครับน่าจะอ่านว่า Park ชมดาวครับถามว่า
00:19:40 → 00:19:50 เป็นต้อเนื้อทำเลสิกได้ไหมคะ
00:19:50 → 00:19:52 แล้วก็
00:19:52 → 00:19:55 กระจกตาแล้วมันอาจจะไปโดนบริเวณที่เป็น
00:19:55 → 00:19:58 ต้อเนื้อซึ่งเราทำไม่ได้
00:19:58 → 00:20:02 แต่ว่าการที่มีต้นเองก็ต้องดูว่ามันทำให้
00:20:02 → 00:20:04 เกิดสายตาเอียงเยอะไหมเพราะบางทีแค่เรา
00:20:04 → 00:20:08 เอาต้อเนื้อออกค่าสายตาเราอาจจะดีขึ้นโดย
00:20:08 → 00:20:12 ที่แล้วก็ค่าใช้จ่ายของเรามันก็จะเปลี่ยน
00:20:12 → 00:20:16 คือการทำเป็นต้อเนื้อเนี่ยทำให้เปลี่ยนไป
00:20:16 → 00:20:20 เรื่อยๆแม้ว่าณตอนนี้เราทำให้มันชัดแต่
00:20:20 → 00:20:23 ถ้ามันใหญ่ขึ้นมันก็จะเกิดสายตาเอียงขึ้น
00:20:23 → 00:20:27 มีจิตที่เราทำไปมันก็อาจจะกลับมาไม่ชัด
00:20:27 → 00:20:32 ถ้าเอาออกได้จะดีกว่าเอาออกก่อนว่าจะดี
00:20:32 → 00:20:34 กว่าค่ะดูแลมันแล้วว่าแล้วก็หลังจากที่
00:20:34 → 00:20:36 เราก็เดี๋ยวมันอาจจะเกิดแผลเป็นซึ่งอาจจะ
00:20:36 → 00:20:39 ทำให้ข้าเจ็บตามันจะไม่นิ่งต้องรอให้ข้า
00:20:39 → 00:20:47 ราชการวิ่งที่สุดก่อนแล้วค่อยทำดูสิคะ
00:20:47 → 00:20:51 คุณวนัสนันท์ว่าใช้น้ำตาเทียมแล้วรู้สึก
00:20:51 → 00:20:55 แสบตาอันนี้เป็นเรื่องปกติไหมแล้วก็ควร
00:20:55 → 00:20:58 ใช้บ่อยหรือว่ายาวนานแค่ไหนคะ
00:20:58 → 00:21:02 มันก็ขึ้นอยู่กับว่าชนิดที่เราใช้เนี่ย
00:21:02 → 00:21:02 มันเป็น
00:21:02 → 00:21:07 เป็นน้ำตาเทียมกลุ่มไหนแล้วก็มีสารกัน
00:21:07 → 00:21:11 เสียหรือเปล่าบางคนอาจจะแสบ
00:21:11 → 00:21:16 ของของน้ำตาลเพียงตัวนั้นหรือว่าอ่าคิด
00:21:16 → 00:21:20 ว่าตัวยาที่ผสมอยู่ในน้ำตาลเข้มอาจจะยัง
00:21:20 → 00:21:23 ไม่เหมาะสมกับคนไข้นะคะถ้าสมมุติว่าเรา
00:21:23 → 00:21:25 ลองหยอดไปสักยี่ห้อ 2 ยี่ห้อแล้วมันยัง
00:21:25 → 00:21:27 ไม่ได้ได้ผลอาจจะไม่ได้เป็นจากตัวน้ำตาล
00:21:27 → 00:21:29 คืนซะทีเดียวอาจจะเป็นเพราะว่าตาเราแห้ง
00:21:29 → 00:21:30 มาก
00:21:30 → 00:21:33 ตาเราแห้งมากเดี๋ยวหยอดอะไรไปก็จะแสบไป
00:21:33 → 00:21:35 หมดเลยค่ะเพราะมันอาจจะต้องมาดูสาเหตุว่า
00:21:35 → 00:21:39 ทำไมตาถึงได้แห้งซึ่งอาการตาแห้งมันไม่
00:21:39 → 00:21:41 ได้เกิดจากน้ำตาลน้อยอย่างเดียวอาจจะเกิด
00:21:41 → 00:21:43 จากต่อมไขมันที่ขอบตาเหมือนกันอะไรอย่าง
00:21:43 → 00:21:45 นี้ค่ะซึ่งเราต้องมาแก้ที่สาเหตุตรงนั้น
00:21:45 → 00:21:48 ด้วยถ้าจากที่ดีก็คือมาตรวจกับแพทย์เพื่อ
00:21:48 → 00:21:52 เคลียร์สาเหตุก่อนว่ามันไม่ได้เกิดจากโรค
00:21:52 → 00:21:53 อื่นๆ
00:21:53 → 00:21:57 เกิดจากน้ำตาเทียมเราแค่จะเกิดจากน้ำตาล
00:21:57 → 00:21:59 เทียมเราเปลี่ยนยี่ห้อก็จบแต่ถ้ามีสาเหตุ
00:21:59 → 00:22:03 ที่มันแฝงอยู่อ่ะต้องแก้สาเหตุนั้นด้วย
00:22:03 → 00:22:07 คุณนพรัตน์ครับถามมาว่าอาการต้อทั้ง 4
00:22:07 → 00:22:10 โรคที่เรากำลังคุยอยู่เนี่ยมีแต่คนแก่
00:22:10 → 00:22:14 หรือเปล่าคนทั่วไปเป็นได้ไหมอาจจะเริ่ม
00:22:14 → 00:22:16 จากต้อลมเอาเรือก่อน
00:22:16 → 00:22:20 เริ่มเป็นกันแล้วเพราะคนปัจจุบันเนี่ยใช้
00:22:20 → 00:22:23 สายตาเยอะแล้วก็อยู่ในห้องแอร์กันเยอะก็
00:22:23 → 00:22:25 มีโอกาสที่จะเกิดก่อน
00:22:25 → 00:22:29 ได้แน่นอนค่ะส่วนต้อกระจกเนี่ยในบางรายก็
00:22:29 → 00:22:31 อาจจะเกิดก่อน 40 ได้
00:22:31 → 00:22:34 นะครับอาจจะ 35 ก็เริ่มเป็นกันได้แล้ว
00:22:34 → 00:22:36 เพราะฉะนั้นถ้ารู้สึกว่ามันมีอาการไม่
00:22:36 → 00:22:39 ปกติอาจจะขอได้ให้มาตรวจตาก่อนเพราะเราก็
00:22:39 → 00:22:42 บอกไม่ได้หรอกว่ามันจะคัดพลอยที่ 40 มัน
00:22:42 → 00:22:44 อาจจะเกิดก่อนนะส่วนต้อหินจำเป็นตั้งแต่
00:22:44 → 00:22:46 อายุน้อยเป็นตั้งแต่เกิดเลยก็ได้ค่ะ
00:22:46 → 00:22:49 เดี๋ยวเราค่อยมาดูรายละเอียดกันใช่ครับ
00:22:49 → 00:22:52 ได้ครับเราพูดถึงต้อลมกับต้อเนื้อไปแล้ว
00:22:52 → 00:22:56 เราคงจะ Move ไปที่อีกชนิดหนึ่งก็คือต้อ
00:22:56 → 00:22:59 กระจกครับต้อกระจกเนี่ยมันมีอาการเป็นยัง
00:22:59 → 00:23:01 ไงแล้วก็ความเสี่ยงของมันเป็นอย่างไร
00:23:01 → 00:23:04 เมื่อสักครู่คุณหมอแตะไปนิดนึงว่าคนที่
00:23:04 → 00:23:07 อายุ 40 ขึ้นไปเนี่ยน่าอาจจะเริ่มเห็น
00:23:07 → 00:23:09 แล้วแหละว่าอาจจะมีโอกาสเป็นต้อกระจกครับ
00:23:09 → 00:23:18 อาการเป็นยังไงครับ
00:23:18 → 00:23:21 ที่ทำหน้าที่กรองแสงที่มันอยู่ภายในตาของ
00:23:21 → 00:23:25 เราเดิมทีเราเกิดมาคนปกติเค้าจะใส่ข้างใน
00:23:25 → 00:23:28 เราจะประกอบด้วยโปรตีนใช่ไหมคะมันเป็น
00:23:28 → 00:23:30 ชนิดที่ละลายน้ำได้แล้วพอในอายุมากขึ้น
00:23:30 → 00:23:32 โปรตีนก็จะเปลี่ยนไปกลายเป็นชนิดที่ไม่
00:23:33 → 00:23:35 ละลายน้ำแล้วก็จะขุ่นขึ้นนะคะหลังจากที่
00:23:35 → 00:23:37 มันขุ่นขึ้นเนี่ยเราก็เรียกกันว่าต้อ
00:23:37 → 00:23:41 กระจกทำให้เกิดอาการพร่ามัวซึ่งโดยมากเรา
00:23:41 → 00:23:44 ก็จะพบหลังจากที่อายุ 40 ขึ้นไปค่ะ
00:23:44 → 00:23:49 อย่างในภาพที่โชว์อยู่ในจอตอนนี้ครับนี่
00:23:49 → 00:23:52 คือตัวอย่างของอาการของโรคต้อกระจกใช่ไหม
00:23:52 → 00:23:55 ครับที่เราเห็นสีขาวเนี่ยคือถ้าเป็นคน
00:23:55 → 00:23:57 ปกติอายุน้อยๆเนี่ยเรามองเข้าไปในตาเนี่ย
00:23:57 → 00:24:02 เราจะเห็นเป็นดำไปหมดเลยใช่ไหมคะ
00:24:02 → 00:24:05 แต่ว่าคนที่เริ่มมีต้อกระจกเนี่ยมันก็จะ
00:24:05 → 00:24:08 ขุดมันก็จะเห็นเป็นแสงสีขาวเป็นสีขาวๆแบบ
00:24:08 → 00:24:11 นี้ค่ะซึ่งอันที่คนไข้นี่คือลักษณะของดิน
00:24:11 → 00:24:12 ที่คุณ
00:24:12 → 00:24:17 ครับการที่เลนส์มันขุ่นจะทำให้ภาพที่คนคน
00:24:17 → 00:24:21 ไข้เห็นเนี่ยมันเปลี่ยนไปยังไงครับก็คือ
00:24:21 → 00:25:25 มันจะพลาดรายละเอียดจะไม่ชัดค่ะอืม
00:25:25 → 00:25:28 มีความเสี่ยงในการเป็นต้อกระจก
00:25:28 → 00:25:31 ก็คือในคนบางคนที่ได้รับจาสสเตียรอยด์
00:25:31 → 00:25:35 ทั้งยากินยาหยอดก็มีโอกาสที่จะกระตุ้นให้
00:25:35 → 00:25:38 เกิดต้อกระจกเร็วกว่าวัยอันควรได้นะคะรวม
00:25:38 → 00:25:41 ทั้งคนที่เป็นโรคเบาหวานแล้วคุมไม่ค่อยดี
00:25:41 → 00:25:43 นะเพราะว่าการที่เป็นเบาหวานมีน้ำตาลใน
00:25:43 → 00:25:46 เลือดเยอะบางทีน้ำตาลก็จะแอบ
00:25:46 → 00:25:49 เข้าไปในเลนได้นะครับโดยที่มันมีการ
00:25:49 → 00:25:51 เปลี่ยนแปลงรูปร่างเล็กน้อยแล้วมันจะ
00:25:51 → 00:25:53 สามารถที่จะเข้าไปเป็นสารประกอบในเลนส์
00:25:53 → 00:25:56 แล้วก็ดูดน้ำเข้าไปทำให้เป็นคุณได้รวม
00:25:56 → 00:25:58 ทั้งกรรมพันธุ์แต่กรรมพันธุ์ส่วนใหญ่เรา
00:25:58 → 00:26:00 จะเจอต้อกระจกตั้งแต่อายุน้อยๆค่ะแล้วก็
00:26:00 → 00:26:04 มีความผิดปกติของระบบอื่นๆร่วมด้วยนะคะ
00:26:04 → 00:26:07 รวมทั้งกดที่เคยมีอุบัติเหตุซึ่งมีการ
00:26:07 → 00:26:11 กระแทกหรือว่ามีเลนส์ที่เอ่อถูกผู้เรียน
00:26:11 → 00:26:12 ฉีกขาด
00:26:12 → 00:26:16 โดยกระแทกแรงๆเนี่ยมันก็จะเกิดการบวมน้ำ
00:26:16 → 00:26:18 แล้วก็เกิดเป็นกระจกได้ลงทั้งคนที่เคยมี
00:26:18 → 00:26:20 การอักเสบอย่างเช่นมาตรฐานอักเสบในตา
00:26:20 → 00:26:23 เนี่ยเขามีโอกาสที่จะเกิดต้อกระจกก่อนไว้
00:26:23 → 00:26:26 ได้คงสนใจเรื่องของอุบัติเหตุครับอย่าง
00:26:26 → 00:26:28 นี้ถ้าเผื่อการเล่นกีฬาบางชนิดแล้วมีการ
00:26:28 → 00:26:31 กระทบกระเทือนที่ดวงตาโดยตรงเนี่ยมันถือ
00:26:31 → 00:26:32 ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเสียหาย
00:26:32 → 00:26:36 กับเลนส์ด้วยไหมครับมันต้องแรงประมาณนึง
00:26:36 → 00:26:38 เลยค่ะมันต้องแรงมากพอประมาณนึงเลยอาจจะ
00:26:38 → 00:26:39 ต้องแบบ
00:26:39 → 00:26:43 กระแทกชนิดที่แบบมีการเสียหายของอวัยวะ
00:26:43 → 00:26:46 อื่นอาจจะเกิดตาแตกอะไรอย่างนี้ร่วมด้วย
00:26:46 → 00:26:50 แต่ถ้าเกิดว่ามีการกระแทกของของ
00:26:50 → 00:26:54 การเล่นกีฬาแนะนำว่าให้ไปตรวจพระบางทีมัน
00:26:54 → 00:26:57 จะมีพวกเลือดออกในช่องหน้าลูกตาอะไรอย่าง
00:26:57 → 00:26:59 นี้ได้ค่ะก็ถ้ามีการกระแทกไปดูหน่อยดี
00:26:59 → 00:27:01 กว่าว่าทุกอย่างมันโอเคมันอาจจะมีเลือด
00:27:01 → 00:27:04 ออกด้านหลังในมดลูกกาจอประสาทตาฉีกขาดได้
00:27:04 → 00:27:06 ถ้ามีอาการผิดปกติหลังเด้งกีฬานะคะก็รบ
00:27:06 → 00:27:10 กวนตรวจเพื่อความสบายใจดีกว่าครับถ้า
00:27:10 → 00:27:12 อย่างนั้นถ้าเรารู้ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งก็
00:27:12 → 00:27:14 คือเรื่องของอายุสาเหตุนึงก็อาจจะเป็น
00:27:15 → 00:27:17 เรื่องของการใช้ยาเรื่องของ
00:27:17 → 00:27:19 กรรมพันธุ์เรื่องของการอักเสบหรือว่า
00:27:19 → 00:27:22 อุบัติเหตุเราจะมีวิธีในการป้องกันโรคฟอก
00:27:22 → 00:27:24 กระจกได้บ้างไหมครับหรือว่าทำให้มันเป็น
00:27:24 → 00:27:26 ช้าลงได้ไหม
00:27:26 → 00:27:29 ตอนนี้เนี่ยการการป้องกันถ้าที่เราเห็น
00:27:29 → 00:27:33 เห็นชัดๆเลยก็คือเบาหวานแล้วคุมเบาหวานดี
00:27:33 → 00:27:36 ๆให้ระดับน้ำตาลมันปกติเราจะได้ไม่เหลือ
00:27:36 → 00:27:40 เกินแล้วก็เข้ามาอยู่ในเลนส์
00:27:40 → 00:27:43 ด้วยความดูแลของแพทย์อย่าไปซื้อมาใช้เอง
00:27:43 → 00:27:47 นะคะแล้วก็ส่วนอีกอันนึงที่เป็นเรื่องของ
00:27:47 → 00:27:50 ทางอ้อมก็คือว่าเขาเชื่อกันว่ารังสี UV
00:27:50 → 00:27:53 เนี่ยมันจะทำให้เซลล์ทั่วร่างกายเสื่อม
00:27:53 → 00:27:57 และที่เลนส์ตาเราโดนแสง UV เนี่ยมันก็จะ
00:27:57 → 00:28:00 เกิดความเสื่อมของโปรตีนได้เร็วกว่าคน
00:28:00 → 00:28:02 ปกติค่ะรวมทั้งเรื่องของการสูบบุหรี่ด้วย
00:28:02 → 00:28:05 การสูบบุหรี่จะทำให้ดินเนี่ยขุ่นขึ้นเร็ว
00:28:05 → 00:28:10 กว่าปกติถึง 10%
00:28:10 → 00:28:19 มันก็อาจจะช่วยชะลอลงได้ถูกไหมครับ
00:28:19 → 00:28:23 สมมุติคุณแม่ผมเป็นพ่อก็จบวิธีในการรักษา
00:28:23 → 00:28:26 ในคนจะมันจะมีขั้นตอนการเป็นอย่างไรครับ
00:28:26 → 00:28:28 ในการรักษาต้อกระจก
00:28:28 → 00:28:32 จริงถ้าเป็นต้อกระจกวิธีการรักษาคือแค่
00:28:32 → 00:28:36 เปลี่ยนเมนูก็คือดูดเลนส์
00:28:36 → 00:28:39 เทียมเข้าไปในถุงหุ้มเหล็กอันเดิมเพียง
00:28:39 → 00:28:43 แต่ว่าคนทุกคนที่เป็นต้อกระจกเนี่ยเราไม่
00:28:43 → 00:28:46 จำเป็นต้องผ่าตัดทุกคน
00:28:46 → 00:28:49 ถึงระดับที่รบกวนชีวิตประจำวันเราสามารถ
00:28:49 → 00:28:51 อยู่กับมันได้แบบคนบางคนอยู่กับต้อกระจก
00:28:51 → 00:28:54 ไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตโดยที่ไม่
00:28:54 → 00:28:57 จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นก็ได้เพราะว่าการ
00:28:57 → 00:29:00 ผ่าตัดทุกชนิดเนี่ยมันมีความเสี่ยงมีภาวะ
00:29:00 → 00:29:04 แทรกซ้อนอาจจะผ่านไปแล้วไม่ได้เห็นดีกว่า
00:29:04 → 00:29:07 เดิมผ่านไปแล้วเห็นแย่งลงบางคนโชคร้าย
00:29:07 → 00:29:10 ผ่านภารกิจเชื้อมีจอประสาทตาฉีกขาดอาจจะ
00:29:10 → 00:29:13 ทำให้การมองเห็นแย่หรืออาจจะทำให้ตาบอด
00:29:13 → 00:29:15 ได้เลยเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าไม่จำเป็นเราก็
00:29:15 → 00:29:19 ไม่เอาตามคนไข้มามาเสียเราต้องคุยกัน
00:29:19 → 00:29:21 เรื่องของภาวะแทรกซ้อนให้เคลียร์เพราะคน
00:29:21 → 00:29:25 ไข้พร้อมที่จะผ่าตัดไหมคะอย่างนี้ก็เป็น
00:29:25 → 00:29:28 การตัดสินใจร่วมกันระหว่างแพทย์ผู้ให้การ
00:29:28 → 00:29:32 รักษาแล้วก็ตัวผู้ป่วยเองด้วยว่าตอนนี้
00:29:32 → 00:29:35 มันรบกวนชีวิตประจำวันของผู้ป่วยขนาดไหน
00:29:35 → 00:29:39 แล้วเมื่อเข้ามาปรึกษากับแพทย์แพทย์ก็ชี้
00:29:39 → 00:29:41 เห็นว่าถ้ามันสำเร็จดีมันจะเป็นอย่างนี้
00:29:41 → 00:29:45 อย่างนี้มันก็อาจจะนอกจากจะมีผลในแง่บวก
00:29:45 → 00:29:47 แล้วอาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องของบาง
00:29:47 → 00:29:50 อย่างนั่นก็แปลว่าต้องมีการตัดสินใจร่วม
00:29:50 → 00:29:52 กันคนไข้เองก็คงจะต้องยอมรับความเสี่ยง
00:29:52 → 00:29:56 นั้นได้เช่นกันอย่างนั้นถูกต้องไหมครับ
00:29:56 → 00:30:00 ต้องบอกหมอพิ้งกี้คุณแม่ผมผ่ามาแล้วทั้ง 2
00:30:00 → 00:30:03 ข้างคุณแม่ผมบอกว่าฝากครั้งแรกก็คือผ่า
00:30:03 → 00:30:06 ข้างหนึ่งครับหลังจากผ่าแล้วคุณแม่ตัดสิน
00:30:06 → 00:30:08 ใจทันทีว่าจะผ่าอีกข้างเพราะว่าใช้เวลา
00:30:09 → 00:30:14 ไม่นานเลยแล้วก็แล้วก็ทำให้โลกสดใสขึ้นมา
00:30:14 → 00:30:17 ขึ้นมาได้แต่นั่นก็แปลว่าคงจะได้มีการ
00:30:17 → 00:30:19 ปรึกษากับคุณหมอละแล้วก็รับทราบแล้วล่ะ
00:30:19 → 00:30:22 ว่าว่าความเสี่ยงมันเป็นอย่างไรแล้วก็ข้อ
00:30:22 → 00:30:24 ดีของมันคืออย่างไรแอบถามคุณหมอพิงกี้
00:30:24 → 00:30:27 ความเสี่ยงหนึ่งที่ว่าที่คุณหมอพูดมาสอง
00:30:27 → 00:30:28 สามอย่างเมื่อสักครู่นี้มันเป็นความ
00:30:28 → 00:30:31 เสี่ยงขนาดใหญ่ขนาดไหนเปอร์เซ็นต์ของมัน
00:30:31 → 00:30:33 เป็นยังไงเปอร์เซ็นต์ไม่ได้เยอะมากเลยค่ะ
00:30:33 → 00:30:35 อันนี้ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของยา
00:30:35 → 00:30:38 สมุนไพรที่ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือพากันมามาก
00:30:38 → 00:30:40 มายล่าส่วนใหญ่ทำแล้วไม่มีปัญหาแล้วค่ะ
00:30:40 → 00:30:44 เพียงแต่ว่าคนไข้มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ถึง
00:30:44 → 00:30:46 ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่ว่านั้นได้
00:30:46 → 00:30:48 เพราะว่าถ้ามันเกิดขึ้นมาแล้วเนี่ยบางที
00:30:48 → 00:30:50 คนไข้เตรียมใจมาว่าโอ้โหเราต้องเห็นชัด
00:30:50 → 00:30:53 100% อะไรอย่างนี้แล้วเกิดขึ้นมาเนี่ยคน
00:30:53 → 00:30:57 ไข้บางทีช็อกไปเลยเพราะฉะนั้นคนไข้มี
00:30:57 → 00:30:59 สิทธิ์ที่จะรู้เราจะได้ตัดสินใจว่าโอเค
00:30:59 → 00:31:02 เราอยากทำละนะแต่ก็จะได้คนละที่มันเกิด
00:31:02 → 00:31:04 อะไรขึ้นมาเราจะได้เหมือนกับว่าเราเตรียม
00:31:04 → 00:31:05 ไว้แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมาเราจะได้มี
00:31:05 → 00:31:08 สเต็ป 2 3 4 ต่อไป
00:31:08 → 00:31:11 คุณผู้ชมชื่อคุณผึ้งครับเข้าใจว่าชื่อคุณ
00:31:12 → 00:31:15 ผึ้งบอกว่ากลัวการผ่าตัดตามากเลยค่ะคุณ
00:31:15 → 00:31:17 หมอลองเล่าให้ฟังนิดนึงครับว่าการผ่าตัด
00:31:17 → 00:31:19 ที่ว่าเนี่ยมันใช้เวลานานขนาดไหนเพราะว่า
00:31:19 → 00:31:22 ถ้าจำไม่ผิดเนี่ยคุณแม่ผมใช้เวลาในห้อง
00:31:22 → 00:31:24 ผ่าตัดนั้นน่าจะซักไม่ให้เกิน 20 นาทีก็
00:31:24 → 00:31:25 เสร็จแล้ว
00:31:25 → 00:31:28 ค่ะก็ก็สิ่งแรกคือเราก็ต้องเปิดแผลผ่าตัด
00:31:28 → 00:31:31 เข้าไปก่อนแต่พอตัดนี่ปัจจุบันเราขนาด
00:31:31 → 00:31:39 เล็กมาก 2.75 มิลลิเมตรเท่านั้นเอง
00:31:39 → 00:31:45 ใช่ไหมเหมือนลูกอมแล้วอยู่ในถุงลูกอมอ่ะ
00:31:45 → 00:31:49 ค่ะเราก็เปิดให้มันมีดูเพื่อที่จะให้เอา
00:31:49 → 00:31:54 เลนส์ออกมาได้แล้วตัวเองเราก็ใช้เครื่อง
00:31:54 → 00:31:56 อัลตร้าซาวด์กับอุปกรณ์อีกชิ้นนึงเนี่ยใน
00:31:56 → 00:31:58 การที่จะแยกให้เลนส์ออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ
00:31:58 → 00:32:01 จาก 2 ชิ้นเป็น 4 ชิ้นแล้วก็ใช้เครื่อง
00:32:01 → 00:32:04 อัลตร้าซาวด์นี้แหละค่ะดูดทีละชิ้นละชิ้น
00:32:04 → 00:32:08 ให้ออกมาเลนส์ก็จะเข้าไปอยู่ในเครื่องและ
00:32:08 → 00:32:10 เราจะไม่สามารถเอาเลนออกมาเป็นก้อนทำให้
00:32:10 → 00:32:12 กลิ่นนะว่าโอเคเราเป็นทั้งก้อนอยู่ตรงนี้
00:32:12 → 00:32:14 นะเพราะว่าเดี๋ยวมันจะถูกค่อยๆดูเรื่อยๆ
00:32:14 → 00:32:18 อาจจะไม่ถูกก็จะว่างแล้วเราก็จะสามารถ
00:32:18 → 00:32:21 เขียนเข้าไปได้เรียนก็คือเราม้วนเข้าไป
00:32:21 → 00:32:24 เหมือนโรตีอ่ะค่ะใส่เข้าไปแล้วก็ไปตามออก
00:32:24 → 00:32:28 ก็เสร็จเราก็ปิดแผลก็ประมาณ 15 นาทีบางคน
00:32:28 → 00:32:30 45 นาทีก็เสร็จค่ะบางคนครึ่งชั่วโมงแล้ว
00:32:30 → 00:32:31 แต่ความยากง่าย
00:32:31 → 00:32:35 ฟังดูแล้วแผลก็เล็กใช้เวลานิดเดียวก็น่า
00:32:36 → 00:32:39 จะทำให้น่าจะทำให้กระบวนการมันไม่ไม่รู้
00:32:39 → 00:32:42 สึกว่ามันหนักหนาเกินไปสำหรับคนไข้ใช่ไหม
00:32:42 → 00:32:45 ครับใช่ค่ะแต่ว่าข้อควรระวังคือถุงหุ้ม
00:32:45 → 00:32:48 เรียนบางๆระหว่างที่เรากำลังกินเล่นฉีด
00:32:48 → 00:32:52 กันมันอาจจะมีการฉีกขาดของถุงทำให้เกิด
00:32:52 → 00:32:59 ภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวต่างๆตามมาได้ค่ะ
00:32:59 → 00:33:04 คุณเข้าใจว่าชื่อว่าเหรียญอัศนีนะครับขอ
00:33:04 → 00:33:08 อภัยทานถ้าไม่ผ่าตัดมีสิทธิ์ที่จะลามจนทำ
00:33:08 → 00:33:17 ให้ตาปอดไหมครับในกรณีของต้อกระจกครับ
00:33:17 → 00:33:21 ซึ่งถามว่ามันจะทำให้ตาบอดมั้ยอันนี้บอก
00:33:21 → 00:33:25 ยากแต่มันพอจะบอกแล้วบางคนเร็วมาก
00:33:25 → 00:33:28 คนขุ่นสามารถนี้แล้วแต่คนต้องมาตรวจแล้ว
00:33:28 → 00:33:31 จะรู้ว่าของเราเป็นแบบไหนจริงๆแล้วเนี่ย
00:33:31 → 00:33:33 ถ้ามันไม่ได้คุณเยอะเราก็จะไม่ได้บังคับ
00:33:33 → 00:33:37 ให้คนไข้ผ่าแต่ถ้าบุคคลคุณเยอะแต่ต้องมา
00:33:37 → 00:33:40 ตรวจเบาหวานขึ้นตาทุกปีอย่างนี้หมอส่อง
00:33:40 → 00:33:41 เข้าไปหมอไม่เห็นแล้วว่าเบาหวานขึ้นตา
00:33:42 → 00:33:44 หรือเปล่าหรือว่ามีโรคของจอประสาทตาอื่นๆ
00:33:44 → 00:33:47 ที่เราจะต้องติดตามอาการอาจจะต้องขออภัย
00:33:47 → 00:33:49 ว่าโอเคเราต้องผ่าตัดแล้วเพราะงั้นเราจะ
00:33:49 → 00:33:52 ตรวจตาไม่ได้นะอันนี้อาจจะต้องให้คนไข้
00:33:52 → 00:33:54 เขาอาจจะต้องขัดใจกันนิดนึง
00:33:54 → 00:33:58 ก็ขอผ่าตัดแต่ถ้าไม่ผ่าตัดจริงก็ก็อาจจะ
00:33:58 → 00:34:07 ก็อาจจะหาไม่ได้นะคะต้องแล้วแต่คนไข้
00:34:07 → 00:34:11 คุณขึ้นแต่ว่าไม่ได้แข็งเราก็ยังรอได้
00:34:11 → 00:34:14 อยู่แต่ถ้านักเรียนมันขุ่นแล้วมันแข็งมัน
00:34:14 → 00:34:18 จะแข็งขึ้นเรื่อยๆมันจะมีความแข็งประมาณ
00:34:18 → 00:34:21 เลเวล 4 เลเวล 5 นะคะซึ่งเราไม่สามารถใช้
00:34:21 → 00:34:25 อัลตร้าซาวด์เฉาะในการดูได้และเราต้องเอา
00:34:25 → 00:34:28 เลนออกมาทั้งก้อนและแผลก็จะใหญ่และจาก
00:34:28 → 00:34:31 เดิมแผลจุด 2.75 มิลลิเมตรก็จะกลายเป็น
00:34:31 → 00:34:34 แผลประมาณเกือบครึ่งตาแล้วก็ผ่าตัดเสร็จ
00:34:34 → 00:34:37 แล้วก็ต้องเย็บเหมือนการถ่ายของแสงก็อาจ
00:34:37 → 00:34:39 จะช้ากว่าแต่แผลเล็กค่ะครับ
00:34:39 → 00:34:43 เพราะฉะนั้นถ้าสามารถที่จะจัดการได้ตั้ง
00:34:43 → 00:34:47 แต่ตอนที่ยังไม่แข็งก็ก็อาจจะเป็น Option
00:34:47 → 00:34:51 ที่ดีกว่ารอจนกระทั่งถึงเลนส์มันแข็งนะ
00:34:51 → 00:35:00 ครับมันคืออะไรครับ
00:35:00 → 00:35:04 มองไม่ชัดหรือมองแทบไม่เก่งแล้วซึ่งคำว่า
00:35:04 → 00:35:07 ข้อสุดเนี่ยเลนส์อาจจะแข็งหรือไม่แข็งก็
00:35:07 → 00:35:10 ได้บางคนเล่นขุ่นมากแต่ข้างในเป็นน้ำนมไป
00:35:10 → 00:35:13 หมดเลยนิ่มเลยแต่ว่าแต่ว่ามองไม่เห็นและ
00:35:13 → 00:35:15 อันนี้ก็คือเป็นตอนสุดแบบเดียวแต่ต้องแบบ
00:35:15 → 00:35:18 นี้คือแบบเลนส์แข็งโป๊กเลยแข็งมากเลยนะคะ
00:35:18 → 00:35:23 อันนี้ก็ๆก็คือแบบนึงนะคะซึ่งก็สุกสามารถ
00:35:24 → 00:35:55 ผ่าตัดได้ถ้าเป็น
00:35:55 → 00:36:25 [เพลง]
00:36:25 → 00:36:25 นะครับ
00:36:26 → 00:36:29 เราพูดถึงต้อลมละพูดถึงต้อเนื้อละแล้วก็
00:36:29 → 00:36:32 ต้อกระจกนะครับมีต้อยชนิดหนึ่งซึ่งผมเคย
00:36:32 → 00:36:35 ได้ยินมาว่าโอ้โหเป็นแล้วมันมันมันน่า
00:36:36 → 00:36:38 กลัวอาจจะทำให้ตาบอดได้ซึ่งไม่แน่ใจว่า
00:36:38 → 00:36:41 ถูกต้องขนาดไหนผมมาถามหมอพิ้งกี้เลยต้อ
00:36:41 → 00:36:45 หินครับต้อหินเนี่ยมันมันน่ากลัวขนาดไหน
00:36:45 → 00:36:48 แล้วคนไทยเป็นกันเยอะขนาดไหนครับ
00:36:48 → 00:36:51 ก็คือในปัจจุบันนะคะถ้าเราตรวจตาคนไข้ที่
00:36:51 → 00:36:53 อายุเกิน 40 ขึ้นไปนะคะเดินมาด้วยโรคอื่น
00:36:53 → 00:36:57 อย่างเช่นตาแห้งเคืองตาพันตาตามมั่วอะไร
00:36:57 → 00:36:59 อย่างเงี้ยค่ะ 100 คนก็จะพบว่ามีคนเป็น
00:37:00 → 00:37:03 ต้อหินประมาณ 10 คนอะไรประมาณ 10% ของคน
00:37:03 → 00:37:05 ที่ไม่มีอาการนะคะซึ่งความน่ากลัวของโรค
00:37:05 → 00:37:10 ต้อหินก็คือว่ามันจะค่อยๆสูญเสียการมอง
00:37:10 → 00:37:14 เห็นไปทีละน้อยโดยเริ่มจากตรงขอบก็ซึ่งคน
00:37:15 → 00:37:17 ปกติถ้าเรามองตรงกลางเห็นชัดเนี่ยเราก็จะ
00:37:17 → 00:37:20 สบายใจแล้วถูกไหมคะเราไม่เคยไปสังเกตแล้ว
00:37:20 → 00:37:23 ว่าขอบเราหายไปแล้วเนาะถูกไหมคะเราจะไม่
00:37:23 → 00:37:26 ค่อยรู้ตัวแต่ก็ตรวจแล้วเหมาะกับการสงสัย
00:37:26 → 00:37:28 ว่าเป็นต้อหินหรือเปล่าเราจะต้องมีการไป
00:37:28 → 00:37:32 ทำลายสายตาเพื่อยืนยันว่าการมองเห็นว่า
00:37:32 → 00:37:34 ผิดปกติไหมถ้ามีการมองเห็นที่ผิดปกติทาง
00:37:34 → 00:37:39 สายตาที่แคบลงก็ต้องนึกถึงโรคต้อหินค่ะ
00:37:39 → 00:37:42 อย่างนี้ถ้าดูจากภาพประกอบเนี่ยครับก็จะ
00:37:42 → 00:37:45 มีสายตาปกติแล้วก็ลานสายตาซึ่งเริ่มเริ่ม
00:37:45 → 00:37:49 แคบลงเริ่มผิดปกติถ้าดูจากภาพประกอบเนี้ย
00:37:49 → 00:37:52 ผู้ป่วยจะเริ่มรู้สึกตัวเองตอนไหนครับว่า
00:37:52 → 00:37:54 ว่าตอนนี้มันเริ่มผิดปกติแล้วตั้งแต่ตอน
00:37:54 → 00:37:57 ที่มันขอบๆมันเริ่มมัวๆหรือว่ามันเริ่ม
00:37:57 → 00:38:00 มืดแล้วครับถึงจะเริ่มรู้สึกตัวนะครับ
00:38:00 → 00:38:03 ส่วนใหญ่นะคะถ้ามาด้วยเรื่องตามมัวเองนะ
00:38:03 → 00:38:09 คะของหมอจะเจอแบบที่ 4 แบบสุดท้าย
00:38:09 → 00:38:13 ก็คือก็คือเป็นเป็นระยะท้ายๆเลยหรือเปล่า
00:38:13 → 00:38:16 ครับหรือว่า
00:38:16 → 00:38:19 คือเราไม่เคยสังเกตหรอกว่าขอบเราเคยเห็น
00:38:19 → 00:38:21 อะไรถูกไหมคะ
00:38:21 → 00:38:24 แต่เรามองหน้าคนเราเห็นว่าเป็นหน้าคนแล้ว
00:38:24 → 00:38:28 ก็จบจบแล้วเราไม่เคยมองว่าส่วนประกอบของ
00:38:28 → 00:38:31 ด้านล่างหรือว่าด้านบนจากหน้าเนี่ยมัน
00:38:31 → 00:38:34 เป็นยังไงเพราะเราแค่มองหน้าชัดเราก็เรา
00:38:34 → 00:38:35 ก็สบายใจแล้ว
00:38:35 → 00:38:39 ครับถ้าอย่างนั้นแล้วเนี่ยพอพูดถึงโรคต้อ
00:38:39 → 00:38:43 หินสาเหตุสำคัญของการที่ทำให้เกิดโรคต้อ
00:38:43 → 00:38:45 หินเนี่ยมันคืออะไร
00:38:45 → 00:38:48 คือตอนนี้นะคะเรายังไม่สามารถสรุปแน่ชัด
00:38:48 → 00:38:51 ได้ว่าต้อหินเกิดจากอะไรแต่ว่าที่แน่ๆคือ
00:38:51 → 00:38:54 เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมแน่นอนโรคนี้ก็จะ
00:38:54 → 00:38:56 มีการสูญเสียของเส้นประสาทตาไปเรื่อยๆนะ
00:38:56 → 00:39:00 คะทำให้พวกสัตว์ป่าที่เป็นที่รวมของเส้น
00:39:00 → 00:39:03 ประสาทตาเนี่ยมันบางลงซึ่งของทุกคนก็จะ
00:39:03 → 00:39:07 เป็นรูปคล้ายๆโดนัทเมื่อหมอตาตรวจแล้วคน
00:39:07 → 00:39:09 ของคนนี้
00:39:09 → 00:39:14 ตาก็ยิงยันว่าพี่คนไข้บางโรงเรียนการมอง
00:39:15 → 00:39:18 เห็นผิดปกติไปด้วยซึ่งถ้าบางด้วยอาจจะทำ
00:39:18 → 00:39:20 ผิดปกติไปด้วยอันนั้นก็คือวินิจฉัยว่า
00:39:20 → 00:39:24 เป็นต้อหินได้เลยค่ะครับ
00:39:24 → 00:39:28 รูปวงกลมสีแดงนั่นคือเป็นคนสายตาปกติใช่
00:39:28 → 00:39:32 ไหมครับคือวงตรงกลางที่เป็นวงที่มีเส้น
00:39:32 → 00:39:34 เลือดวิ่งออกมาค่ะอันนั้นจะเป็นรูปโดนัท
00:39:34 → 00:39:37 ซึ่งของคนปกติเนี่ยความหนาของขอบเนี่ยก็
00:39:37 → 00:39:41 จะประมาณไม่น้อยกว่า 50% ของพื้นที่ของวง
00:39:41 → 00:39:42 กลมทั้งหมด
00:39:42 → 00:39:47 ถ้าคนที่มันบางกว่า 50% ก็อาจจะต้องสงสัย
00:39:47 → 00:39:49 ว่าที่ผ่านมาเนี่ยมันหายไปไหน
00:39:50 → 00:39:52 โรคที่ทำให้เซลล์สัตว์ตาหายไปเนี่ยคือโรค
00:39:52 → 00:39:53 ต้อหิน
00:39:53 → 00:39:56 แล้วก็ต้องเอาไปวัดปริมาตรดูว่าปริมาตร
00:39:56 → 00:39:58 ที่ของคนไข้ที่เหลืออยู่เนี่ยเป็นปริมาตร
00:39:58 → 00:40:00 ที่น้อยจริงๆ
00:40:00 → 00:40:05 ถ้าเกิดว่ามีการปริมาณอะไรเพราะว่ามัน
00:40:05 → 00:40:08 น้อยจริงๆเราก็ไปทำการสายตาต่อค่ะ
00:40:08 → 00:40:11 นอกจากครับ
00:40:11 → 00:40:14 ผมเคยได้ยินมาว่าเรื่องของความดันของลูก
00:40:14 → 00:40:17 ตามันคงจะต้องมีการรักษาไว้ให้ระดับที่
00:40:17 → 00:40:23 มันปกติคำว่าความดันลูกตาที่มันคืออะไร
00:40:23 → 00:40:24 [เพลง]
00:40:24 → 00:40:27 เป็นลูกบอลใช่ไหมคะซึ่งปกติมันจะไม่ได้
00:40:27 → 00:40:30 แข็งหรอกค่ะมันก็จะเป็นผิวเหี่ยวๆนี่แหละ
00:40:30 → 00:40:33 ที่มันแข็งได้เพราะว่าข้างในมันมีน้ำอยู่
00:40:33 → 00:40:35 นี่น้ำในตาเราเนี่ยก็ถูกสร้างออกมาเรื่อย
00:40:35 → 00:40:39 ๆแล้วก็จะมีการระบายออกไปเรื่อยๆได้สมดุล
00:40:39 → 00:40:42 ที่ปกตินะคะทีนี้เมื่อสมัยก่อนเราเชื่อ
00:40:42 → 00:40:43 กันว่า
00:40:44 → 00:40:46 ความเป็นรูปแบบที่ปกติเนี่ยไม่ควรจะเกิน
00:40:46 → 00:40:50 21 ก็ว่าไปแต่ว่าในปัจจุบันเนี่ยไม่ใช่
00:40:50 → 00:40:52 อย่างนั้นแหละคนที่ความดันลูกตาเกิน 21
00:40:52 → 00:40:57 บางคนก็ยังไม่เป็นต้อหินครับ
00:40:57 → 00:41:00 อยู่ได้เพราะฉะนั้นเนี่ย
00:41:00 → 00:41:04 ตอนเนี้ยเราเราไม่สามารถใช้พลังปาเป็น
00:41:04 → 00:41:06 เป็นการวินิจฉัยแต่เป็นการบอกความเสี่ยง
00:41:06 → 00:41:09 ได้ว่ามนุษย์ต่างดาวที่มันสูงเนี่ยก็มี
00:41:09 → 00:41:11 โอกาสที่จะไปเบียดกับเส้นประสาทตาทั้ง
00:41:11 → 00:41:14 สิ้นอัตราเกิดความเครียดแล้วก็ตายไปเร็ว
00:41:14 → 00:41:16 กว่าคนปกติได้
00:41:16 → 00:41:20 การเป็นต้อหินเนี่ยมันจะค่อยๆเป็นค่อยๆ
00:41:20 → 00:41:23 ความรุนแรงของมันค่อยๆเพิ่มขึ้นเพียงนิด
00:41:23 → 00:41:26 หรือว่าเป็นเปรี้ยงเดียวก็ก็เกิดเป็นต้อ
00:41:26 → 00:41:29 หินได้เลยนะครับจะมี 2 แบบค่ะก็คือต้อหิน
00:41:30 → 00:41:33 มุมเปิดกับต้อหินมุมปิดก็คือเป็นต้อหิน
00:41:33 → 00:41:35 ที่เรารู้จักกันก็คือว่าความดันลูกตาที่
00:41:35 → 00:41:38 เกินกว่าที่จำศาสตราจารย์จะรับได้ประสาท
00:41:38 → 00:41:42 ตามันเสียหายไปแล้วก็ค่อยๆมัวลงเรื่อยๆ
00:41:42 → 00:41:47 นะคะอันนี้ก็เรียกว่าก้อนหินก็คือเป็นต้อ
00:41:47 → 00:41:50 หินที่มุมตาแค่
00:41:50 → 00:41:54 การสร้างน้ำในลูกตาปกติแต่ว่าน้ำที่ระบาย
00:41:54 → 00:41:57 ออกมันผิดปกติเพราะว่าบริเวณที่มันจะเป็น
00:41:57 → 00:42:01 ที่ระบายน้ำอ่ะมันเล็กมันระบายไม่ทันผม
00:42:01 → 00:42:03 เป็นลูกตาก็จะสูงขึ้นซึ่ง
00:42:03 → 00:42:07 ก็จะมีชนิดที่แบบคนละลูกตาไม่ได้สูงปรี๊ด
00:42:07 → 00:42:11 กับแบบที่เฉียบพลันซึ่งในคนไข้ก็จะมาโรง
00:42:11 → 00:42:14 พยาบาลด้วยอาการอื่นๆและที่ไม่ใช่เรื่อง
00:42:14 → 00:42:17 ของมาจนเกินไปบังเอิญแล้วเพราะการที่เกิด
00:42:17 → 00:42:20 ใต้ปีเฉียบพลันเป็นน้ำตาลจะสูงมากตาปวด
00:42:20 → 00:42:22 เบ้าตาปวดศีรษะ
00:42:22 → 00:42:24 เห็นแสงสีรุ้ง
00:42:24 → 00:42:28 ในคนไข้จะมาโรงพยาบาลด้วยอาการนี้ค่ะซึ่ง
00:42:28 → 00:42:30 เราก็สามารถที่จะรักษาด้วยการลดความดัน
00:42:30 → 00:42:32 ลูกตาแล้วก็ทำทางระบายน้ำ
00:42:32 → 00:42:37 ผมผมสงสัยด้วยความสงสัยส่วนตัวเราจะวัด
00:42:37 → 00:42:40 ได้ยังไงว่าความดันลูกตามันเราจะหาค่า
00:42:40 → 00:42:42 ความดันของลูกตาได้ยังไงครับถ้าเผื่อถ้า
00:42:42 → 00:42:44 เผื่อนึกถึงคอนโดก็จะมีอุปกรณ์ในการรัด
00:42:44 → 00:42:47 ต้นแขนเนี่ยครับมันก็จะวัดมาเป็นค่าความ
00:42:47 → 00:42:49 ดันโลหิตแต่ว่าความดันลูกตาที่วัดยังไง
00:42:49 → 00:42:58 ครับก็คือมันก็จะมีเครื่องวัดค่ะ
00:42:58 → 00:43:03 เป็นการดูว่าเราเราให้เราส่งแรงออกไปแล้ว
00:43:03 → 00:43:07 ก็เอ่อเขาเรียกว่าเป็นตัวกระจกตาแบบมันจะ
00:43:07 → 00:43:11 สะท้อนกลับมาด้วยแรงประมาณไหนคือถ้าคนไข้
00:43:11 → 00:43:14 ที่คนบรรลุตาสูงเอ่อการสะท้อนกลับของ
00:43:14 → 00:43:17 กระจกตามมันก็จะค่อนข้างแข็งเพราะว่ามัน
00:43:17 → 00:43:20 มันถึงเรียกว่าโรคต้อหินเพราะว่า
00:43:20 → 00:43:26 เรากดลงไปบนบนลูกตาเนี่ยมันจะดูแข็งแต่ใน
00:43:26 → 00:43:27 ปัจจุบันก็คืออย่างที่บอกก็คือมันไม่
00:43:27 → 00:43:30 จำเป็นต้องความดันลูกตาสูงแล้ว
00:43:30 → 00:43:33 ทีนี้ก็จะมีเครื่องที่เป่าลมด้วยก็มีหรือ
00:43:33 → 00:43:36 ว่าเป็นเครื่องที่หมอเอาอุปกรณ์ไปแปะตา
00:43:36 → 00:43:42 แล้วก็ดูว่าแรงที่สะท้อนปักตามมันแค่ไหน
00:43:42 → 00:43:44 แล้วเราก็จดบันทึกไปเป็นค่าความดันลูกตา
00:43:44 → 00:43:48 ค่ะผมถามเยอะเพราะว่าดูเหมือนว่าอายุผมจะ
00:43:48 → 00:43:50 เข้าข่ายที่ควรจะต้องตรวจตาทุกปีอย่างที่
00:43:50 → 00:43:53 อย่างที่คุณหมอพิงกี้พูดถึงแล้วดูเหมือน
00:43:53 → 00:43:55 ว่าผมจะต้องไปตรวจตาทุกปีอย่างที่คุณบอก
00:43:55 → 00:43:57 เวลาจริงๆแล้ว
00:43:57 → 00:44:00 เขาพูดถึงอายุแล้วเนี่ยมันจะมีคนกลุ่ม
00:44:00 → 00:44:03 เสี่ยงไหมครับที่เนี่ยนอกจากอายุที่สูง
00:44:03 → 00:44:05 ขึ้นแล้วเนี่ยมีกลุ่มไหนที่เป็นกลุ่ม
00:44:05 → 00:44:09 เสี่ยงอีกไหมที่ที่อาจจะต้องระวังในการ
00:44:09 → 00:44:10 ที่จะเป็นต้อหินหรือว่ามีความเสี่ยงในการ
00:44:10 → 00:44:14 เป็นต้อหินนะฮะโอ้โหกลุ่มแรกนะคะคือกลุ่ม
00:44:14 → 00:44:16 ที่มีความดันลูกตาสูงเพราะถึงแม้ว่าเรา
00:44:16 → 00:44:20 ตรวจปีนี้ไม่เป็นแต่ก็ไม่ได้แปลว่ามีนั่น
00:44:20 → 00:44:23 น่าปีหน้าปีหน้าเราจะปลอดภัยเพราะว่าวัน
00:44:23 → 00:44:27 ดีคืนดีมันอาจจะเกิด
00:44:27 → 00:44:31 เกิดความเครียดแรงกดต่อเส้นประสาทตามาก
00:44:31 → 00:44:34 กว่าคนที่คุณบรรลุตาต่ำอยู่แล้วคือแต่อาจ
00:44:34 → 00:44:36 จะยังไม่มีอาการอะไรที่แสดงออกว่าเป็นต้อ
00:44:36 → 00:44:38 หินแต่ต้องระวังค่ะเพราะวันดีคืนดีอาจจะ
00:44:38 → 00:44:41 เป็นก็ได้อันที่ 2 คือคนที่มีประวัติ
00:44:41 → 00:44:44 ครอบครัวที่บอกไปแล้วอันนี้อาจจะไม่แน่นะ
00:44:44 → 00:44:47 คะว่าบางทีคุณพ่อเป็นบางทีลูกสาวกับไปที่
00:44:47 → 00:44:50 ลูกชายกลับไปบางคนก็ไม่เป็นเลย
00:44:50 → 00:44:54 แนะนำว่าคนไหนที่มีประวัติเป็นต้อหินแนะ
00:44:54 → 00:44:57 นำให้ลูกหลานมาตรวจหรือคนที่มีบทว่าพี่
00:44:57 → 00:45:00 น้องเป็นก็แปลว่าต้องรับมาจากคุณพ่อหรือ
00:45:00 → 00:45:04 คุณแม่น่าจะอย่างนั้นแล้วก็เราก็มีโอกาส
00:45:04 → 00:45:07 ที่จะรับมาได้เหมือนกันหรือให้ประโยชน์นะ
00:45:07 → 00:45:09 คะแล้วก็คนที่มีโรคประจำตัวที่มีเส้น
00:45:09 → 00:45:12 เลือดผิดปกติอย่างเช่นพวกเบาหวานความดัน
00:45:12 → 00:45:14 สูงหรือเป็นโรคพวก sle ต่างๆซึ่งมันมี
00:45:14 → 00:45:17 โอกาสที่จะเกิดพวกเส้นเลือดที่ผิดปกติ
00:45:17 → 00:45:19 เส้นเลือดที่อักเสบหรือว่าชนิดที่ปลูกแคบ
00:45:19 → 00:45:22 ลงพวกนี้ก็จะทำให้เลือดมันมาเลี้ยงสัตว์
00:45:22 → 00:46:17 ป่าได้น้อยลงก็มีโอกาส
00:46:17 → 00:46:24 [เพลง]
00:46:24 → 00:46:27 ก็คือคุณทัศนีย์ครับถามมาเกี่ยวเนื่องกับ
00:46:27 → 00:46:30 เรื่องของความดันลูกตาครับอาการเป็นอย่าง
00:46:30 → 00:46:33 ไรคะที่จะทำให้ผู้ป่วยรู้ว่าความดันลูกตา
00:46:33 → 00:46:34 สูง
00:46:34 → 00:46:37 ส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้สูงปรี๊ดคนไข้จะไม่ค่อย
00:46:37 → 00:46:41 รู้ว่ามาตรวจโรคอื่นแล้วถึงเจอว่าความดัน
00:46:41 → 00:46:45 สูงแล้วค่อยตอบไปว่าคนไข้มีลักษณะของการ
00:46:45 → 00:46:50 เป็นลักษณะของต้อหินไหมมีฉายเป้าอยู่ไหม
00:46:50 → 00:46:53 ว่าโอเคยังไม่เป็นต้อหินก็แนะนำว่าให้มา
00:46:53 → 00:46:57 ตรวจตามทุกปีค่ะเพราะว่ามันก็ไม่แน่เนาะ
00:46:57 → 00:47:01 อาจจะเป็นไปได้ค่ะคำถามต่อเนื่องครับถ้า
00:47:01 → 00:47:03 พบว่าความดันลูกตาสูงแล้วจะทำยังไงถึงจะ
00:47:03 → 00:47:06 ลดลงหรือว่าหรือว่าก็ดูอาการไปเรื่อยๆอ่ะ
00:47:06 → 00:47:09 ครับคุณไม่ต้องการสูงก็อย่างที่บอกคือมัน
00:47:09 → 00:47:12 ไม่จำเป็นต้องเป็นต้อหินทุกคนบางคนอาจจะ
00:47:12 → 00:47:14 ไม่จำเป็นต้องรักษาอะไรเลยแค่มาตามดู
00:47:14 → 00:47:18 อาการแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีทรายว่าอาจจะ
00:47:18 → 00:47:20 เป็นต้อหินระยะเริ่มต้นเราค่อยเริ่มรักษา
00:47:20 → 00:47:22 ได้นะคะ
00:47:22 → 00:47:26 มีคำถามจากคุณเป็นนักวสาครับขออภัยถ้า
00:47:26 → 00:47:28 อ่านผิดนะครับถามเกี่ยวข้องกับเรื่องของ
00:47:28 → 00:47:30 เมื่อสักครู่หมอพิ้งกี้พูดถึงเรื่องของ
00:47:30 → 00:47:35 เบาหวานคุณนักภาษาถามว่าเบาหวานขึ้นตาคือ
00:47:35 → 00:47:38 อะไรมีอาการแบบเดียวกับต้อหินใช่ไหมจะ
00:47:38 → 00:47:40 ระวังรักษาอย่างไร
00:47:40 → 00:47:43 อากาศเมื่อวานขึ้นตากับต้อหินคนละเรื่อง
00:47:43 → 00:47:45 กันโดยสิ้นเชิงนะคะ
00:47:45 → 00:47:48 เส้นเลือดของคนที่เป็นเบาหวานจะค่อยๆดี
00:47:48 → 00:47:51 เพราะฉะนั้นเนี่ยมันอาจจะทำให้เส้นเลือด
00:47:51 → 00:47:57 มันมีการรั่วของตัวเลือดออกมาทำให้มีจุด
00:47:57 → 00:48:01 เลือดออกอยู่บนบริเวณจอประสาทตาซึ่งไม่
00:48:01 → 00:48:05 เกี่ยวกับพวกประสาทตาเลยนะคะ
00:48:05 → 00:48:09 หรืออาจจะทำให้เส้นประสาทตามันขาดเลือดทำ
00:48:09 → 00:48:12 ให้เกิดเส้นเลือดฝอยเส้นเลือดใหม่เกิด
00:48:12 → 00:48:14 ขึ้นมาซึ่งจะได้ฝ่ายพวกนี้มันไม่แข็งแรง
00:48:14 → 00:48:17 อาจจะเกิดขึ้นมานะคะทำให้เกิดมูลนิธิลูก
00:48:17 → 00:48:18 ตามีเลือดออก
00:48:18 → 00:48:23 หรือถ้ามันไปขยุ้มบริเวณตัวเจาะกษัตริย์
00:48:23 → 00:48:27 ปะก็จะจบชะตาฉีกขาดได้ถ้าเส้นเลือดบริเวณ
00:48:27 → 00:48:30 ที่ไปยังจุดภาพชัดมันรั่วกัดแต่ไม่เกิด
00:48:30 → 00:48:34 จุดภาพชัดบวมทำให้มีตามัวได้
00:48:34 → 00:48:37 คนละโรคกันเลยแต่เกิดจากเบาหวานได้ทั้ง
00:48:37 → 00:48:37 คู่
00:48:37 → 00:48:41 ชัดเจนครับทีนี้พอพูดถึงกลับมาพูดถึง
00:48:41 → 00:48:44 เรื่องของต้อหินนะครับต้อหินเนี่ยมันก็
00:48:44 → 00:48:47 เป็นๆโรคที่ฟังดูค่อนข้างจะน่ากลัวเหมือน
00:48:47 → 00:48:50 กันมันมีระยะของมันไหมครับว่าต้อหินเนี่ย
00:48:50 → 00:48:52 มันมีระยะหนึ่งระยะสองระยะสามอะไรอย่าง
00:48:52 → 00:48:55 นี้ไหม
00:48:55 → 00:49:00 ระยะที่คนไข้มาเร็วเรียกว่าระยะเออ
00:49:00 → 00:49:04 มาเร็วรักษาเร็ววินิจฉัยเร็วก็มีโอกาสที่
00:49:04 → 00:49:06 บางทีเนี่ยเวลาสายตาที่บางทีมันเสียไป
00:49:06 → 00:49:08 เนี่ยหมอเคยเจอว่าเขาหยอดยาไปแล้วเนี่ย
00:49:08 → 00:49:12 บางทีกลับมามองเห็นดีขึ้นแต่ยังไงก็ตามคง
00:49:12 → 00:49:14 ต้องย่ออย่าต่อเนื่องนะคะเพราะว่าที่ดี
00:49:14 → 00:49:17 ขึ้นเพราะว่ายาหยอดมันโรคเรื้อรังคงต้อง
00:49:17 → 00:49:24 หยอดไปตลอดชีวิตและ
00:49:24 → 00:49:27 จะหายไปมากและเราจะไปคาดหวังให้กลับมามอง
00:49:27 → 00:49:32 เห็นเหมือนคนปกติอาจจะไม่ได้แล้วนะคะบาง
00:49:32 → 00:49:35 คนเนี่ยใช้ยาหยอดต้อหิน 1 ตัวไม่พอต้อง
00:49:35 → 00:49:37 ใช้ 2 ตัว
00:49:37 → 00:49:40 ใช้ 3 ตัวอาจจะยังไม่พอต้องใช้ Maximum
00:49:40 → 00:49:43 คือ 4 ตัวถ้าใช้ 4 ตัวแล้วการมองเห็นก็
00:49:43 → 00:49:46 ยังแย่ลงแล้วตามมาตรวจแต่ละครั้งการมอง
00:49:46 → 00:49:48 เห็นแย่ลงพื้นที่อาจจะต้องใช้วิธีการผ่า
00:49:48 → 00:49:50 ตัดได้เพื่อทำทางระบายน้ำเพื่อลดความดัน
00:49:50 → 00:49:54 ลูกตาโดยที่โดยที่ใช้ยาแล้วร่วมกับทางโรง
00:49:54 → 00:49:58 พยาบาลในน้ำซึ่งพวกนี้เราเราไม่ได้เริ่ม
00:49:58 → 00:50:00 ต้นด้วยการผ่าตัดทุกคนนะคะหลังจากใช้ยา
00:50:00 → 00:50:02 หยอดก่อน
00:50:02 → 00:50:05 ยาหยอดที่หมอพิ้งกี้ว่านี่ก็คือเพื่อนจะ
00:50:05 → 00:50:10 ลดความดันลูกตาลงใช่ไหมครับใช่
00:50:10 → 00:50:15 ได้ถือระดับที่ไม่มีการทำลายเพิ่มเติมควร
00:50:15 → 00:50:18 ใช้ตัวเดียวพอบางคนต้องใช้ 2 ตัวบางคน
00:50:18 → 00:50:22 ต้องใช้ 3 คนต้องใช้สีแล้วก็ต้องผ่าตัด
00:50:22 → 00:50:25 ตอนนี้ครับคุณหมอพิ้งกี้ครับมีคำถามหลั่ง
00:50:25 → 00:50:29 ไหลเข้ามาเยอะมากนะครับผมขออนุญาตลองไล่
00:50:29 → 00:50:32 อ่านดูนะครับคำถามนี้เกี่ยวเนื่องกับ
00:50:32 → 00:50:33 เรื่องของการรักษา
00:50:33 → 00:50:38 คุณสิริมาครับถามดิฉันดวงตาด้านซ้ายมีต้อ
00:50:38 → 00:50:42 เนื้อและมีต้อกระจกประมาณ 50% ส่วนตาด้าน
00:50:42 → 00:50:44 ขวามีต้อกระจกอย่างเดียวประมาณ 50%
00:50:44 → 00:50:47 ปัจจุบันการมองเห็นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
00:50:47 → 00:50:50 กับชีวิตประจำวันควรจะทำการผ่าตัดหรือไม่
00:50:50 → 00:50:55 คะหรือยังคะ
00:50:55 → 00:50:59 คือสำหรับหมอนะแต่ถ้าอาจารย์บางท่านต้อ
00:50:59 → 00:51:01 เนื้อมันอักเสบเยอะไปเราก็นึกก่อนแล้ว
00:51:01 → 00:51:04 ค่อยกลับมาล็อคต้อกระจกมันมาผลักแล้วก็จบ
00:51:04 → 00:51:07 หรือบางคนถ้าต้องนั้นมันไม่ได้ใหญ่มากเรา
00:51:07 → 00:51:09 ผ่าต้องอย่างเดียวก็พอค่ะอันนี้อยู่ที่
00:51:09 → 00:51:12 วิจารณญาณของจากศูนย์แพทย์ซึ่งแนะนำให้
00:51:12 → 00:51:15 เชื่อว่าเราไม่ได้เห็นตาคนไข้เราไม่
00:51:15 → 00:51:19 สามารถวินิจฉัยไม่สามารถ management นะ
00:51:19 → 00:51:24 และ Live นะคะคุณ
00:51:24 → 00:51:27 แทนศุภลักษณ์ครับถามมาว่าคุณป้าอายุ 70
00:51:27 → 00:51:31 กว่าปีมีอาการลมเวียนบ้านหมุนเป็นๆหายๆ
00:51:31 → 00:51:36 สามารถผ่าตัดต้อกระจกได้ไหม
00:51:36 → 00:51:39 บ้านหมุนใช่ไหมคะ
00:51:39 → 00:51:43 เรามั่นใจไหมว่าควบคุมโรคได้ระหว่างที่
00:51:43 → 00:51:51 ผ่าตัดห้ามมีบ้านหมุนนะ
00:51:51 → 00:52:04 ใช่ค่ะ
00:52:04 → 00:52:08 ก็นำให้คุมโรคประจำตัวให้ดีก่อนคุณหมอหู
00:52:08 → 00:52:11 บอกโอเคผ่าได้ไม่ได้เกิดบ้านหมุนทุกวัน
00:52:11 → 00:52:15 อย่างเงี้ยค่ะก็มีโอกาสที่จะผ่านแล้วดี
00:52:15 → 00:52:17 แต่ถ้าเกิดว่าระหว่างที่ทำผ่าตัดเพราะว่า
00:52:17 → 00:52:29 ระหว่างย้ายเตียง
00:52:29 → 00:52:32 ฝากถามคุณหมอให้คุณหมอช่วยแนะนำการดูแล
00:52:32 → 00:52:35 ดวงตาหลังผ่าตัดต้อกระจกด้วยค่ะครับ
00:52:35 → 00:52:37 อาจารย์ครับ
00:52:37 → 00:52:40 เดือนหน้าแต่ละโรงพยาบาลว่าจะมีวิธีการ
00:52:40 → 00:52:44 เป็นวีดีโอหรือวิธีการสอนอยู่แล้วรู้สึก
00:52:44 → 00:52:46 อันไหนบอกไม่ค่อยเหมาะค่ะแต่ว่าถ้าคนไข้
00:52:46 → 00:52:47 ยังไม่เคยผ่าตัดไม่อยากรู้ว่าต้องทำยังไง
00:52:47 → 00:52:52 ก็คือว่าหนึ่งก็คือต้องหยอดยาอย่างที่คุณ
00:52:52 → 00:52:55 หมอแนะนำหลังผ่าตัดข้อ 2 คือว่าต้องมีการ
00:52:55 → 00:52:59 เช็ดตาอย่างสะอาดมีวิธีการเช็ดตาแบบ
00:52:59 → 00:53:02 เซอร์ไลน์ให้ให้มีการปนเปื้อนของเชื้อ
00:53:02 → 00:53:04 น้อยที่สุดเพราะว่าเวลาที่มันมีเชื้อโรค
00:53:04 → 00:53:09 เข้าไปโดนตาเราที่พึ่งผ่าตัด
00:53:09 → 00:53:11 การติดเชื้อซึ่งกันในเรื่องใหญ่มากโอกาส
00:53:11 → 00:53:15 ตาบอดค่อนข้างเยอะเพราะฉะนั้นหลังผ่าตัด
00:53:15 → 00:53:17 ประมาณอย่างน้อย
00:53:17 → 00:53:24 3 มาคิดถึง 1 เดือน
00:53:24 → 00:53:26 ไปสระที่ร้านหรือว่าให้ญาติสระให้ห้ามน้ำ
00:53:26 → 00:53:27 เข้าตา
00:53:27 → 00:53:31 หลังผ่าตัดใช้ชีวิตประจำวันปกติได้ค่ะแต่
00:53:31 → 00:53:33 ว่าแนะนำให้เล่นกีฬาเพราะว่าเหงื่อที่มัน
00:53:33 → 00:53:36 จะเข้าตายังไม่สกปรกยุคของหนักนิดหน่อย
00:53:36 → 00:53:38 ได้ไม่ให้เกิน 5 กิโลเพราะการเบ่งจะทำให้
00:53:38 → 00:53:42 มีการเคลื่อนที่อยู่ในอยู่ในถุงหุ้มเลน
00:53:42 → 00:53:43 แต่มันจะไม่ได้ฟิกเพราะฉะนั้นมันจะมี
00:53:43 → 00:53:47 โอกาสที่มันจะยังขยับได้คนไข้
00:53:47 → 00:53:50 บางทีพอนอนหงายไปเอามันไม่ชัดแล้วเพราะ
00:53:50 → 00:53:53 ว่าเล็งจะมีการเคลื่อนที่และนิดหน่อยแล้ว
00:53:53 → 00:53:55 เลนส์ถ้าสมมุติว่าเรามีการผ่าตัดแทรกซ้อน
00:53:55 → 00:53:58 อย่างเช่นถุงเป็นฉีกขาดการเบ่งอะไรต่างๆ
00:53:58 → 00:54:01 ทำให้เด็กหลุดออกไปหยุดด้านหลังต่างกัน
00:54:01 → 00:54:04 ได้เลยเพราะฉะนั้นถ้ามีภาวะแทรกซ้อนเนี่ย
00:54:04 → 00:54:06 คุณหมอก็จะบอกเลยว่าห้ามดื่มแต่ถ้าเกิด
00:54:06 → 00:54:08 ว่าผ่าตัดแล้วปกติดีไม่ได้มีภาวะแทรกซ้อน
00:54:08 → 00:54:10 อะไรอาจจะยกของหนักนิดหน่อย
00:54:10 → 00:54:15 แล้วก็พยายามไม่ให้ก้มเยอะเขามีจะงงแล้ว
00:54:15 → 00:54:18 มันจะมึนนะฮะขับรถถ้าอยากขับแล้วรู้สึก
00:54:18 → 00:54:21 ว่ามันเห็นชัดดีขับได้นะหมอหมอให้ขับนะ
00:54:21 → 00:54:25 แล้วก็จริงๆชีวิตวันนี้คือถ้าไม่นับ
00:54:25 → 00:54:27 เรื่องของความสะอาดเรื่องของการเช็ดตา
00:54:27 → 00:54:31 ต่างๆหมอจะค่อนข้างฟรีให้คนไข้ทำปกติได้
00:54:31 → 00:54:32 เลยค่ะ
00:54:32 → 00:54:36 พอคุณหมอพูดถึงเรื่องของถุงหุ้มเลนส์ฉีก
00:54:36 → 00:54:38 ขาดมีคำถามเข้ามาพอดีครับคุณแคนดี้ครับ
00:54:38 → 00:54:41 ถามว่าผ่าตัดต้อกระจกเมื่อเดือนพฤษภาคม
00:54:41 → 00:54:44 หมอบอกว่าระหว่างผ่าตัดถุงหุ้มเลนขาด
00:54:44 → 00:54:47 เพราะรูม่านตาแคบไม่ทราบว่าระยะยาวจะมีผล
00:54:47 → 00:54:51 กระทบอะไรหรือเปล่าคะ
00:54:51 → 00:54:54 เดือนพฤษภาคมครับก็ประมาณ 5 เดือนที่แล้ว
00:54:54 → 00:55:12 ครับ
00:55:12 → 00:55:15 ก็ต้องก็ต้องถามอาจต้องถามคุณหมอที่เขา
00:55:15 → 00:55:19 เป็นเจ้าของค่ายแต่ส่วนใหญ่ถ้าเกิน 5 มัก
00:55:19 → 00:56:23 จะไม่ค่อยมีปัญหายกเว้นว่าโอ้โห
00:56:23 → 00:56:26 แต่ว่าเราอาจจะไม่เห็นเพราะว่ามันไม่ลอย
00:56:26 → 00:56:31 พอเราก็เลยเห็นถ้าจะแกล้งว่าไปตรวจตาดี
00:56:31 → 00:56:33 กว่าดูว่ามันมีมันเป็นชิ้นส่วนของจอ
00:56:33 → 00:56:36 ประสาทตาไม้ถ้าไปส่งจอประสาทตาก็จะได้ไป
00:56:36 → 00:56:39 ยิงเลเซอร์ไปแก้ไขไปเรียบร้อยแต่พอจาก
00:56:39 → 00:56:41 อาการดูเหมือนจะเป็นลูกตาเสื่อมกับเต่า
00:56:41 → 00:56:44 แต่ก็อย่างที่บอกก็คือหมอไม่ได้ตรวจไตหมอ
00:56:44 → 00:56:46 จะขออนุญาตไม่ยืนยัน
00:56:46 → 00:56:50 เวลาที่ตรวจตรวจตาครับอันนี้แอบถามแทนทุก
00:56:50 → 00:56:54 ๆคนที่อาจจะเริ่มคิดในการที่จะไปตรวจตา
00:56:54 → 00:56:57 เวลาไปตรวจตานี้ต้องมีกระบวนการยังไงบ้าง
00:56:57 → 00:57:00 ครับใช้เวลานานไหมและเจ็บไป
00:57:00 → 00:57:03 ก็อยู่ที่ว่ามาตรวจด้วยโรคหรือมาตรวจ
00:57:03 → 00:57:05 สุขภาพตา
00:57:05 → 00:57:08 ถ้าเราตรวจด้วยโรคก็คือมาถึงปุ๊บเขาจะให้
00:57:08 → 00:57:09 อ่านตรงนี้
00:57:09 → 00:57:13 เราแค่ไหนถ้าสามารถลดน้ำตาลได้โดยที่ไม่
00:57:13 → 00:57:15 มีไม่มีข้อบ่งชี้ว่าห้ามไว้อย่างเช่น
00:57:15 → 00:57:19 อัตราแดนติดเชื้อไง
00:57:19 → 00:57:22 ได้เราก็จะวัดคนละลูกค้าเพื่อเช็คดูว่า
00:57:22 → 00:57:23 สูงไม่สูง
00:57:23 → 00:58:23 [เพลง]
00:58:23 → 00:58:25
00:58:25 → 00:58:25 [เพลง]
00:58:25 → 00:58:28 ให้คิดไว้เลยว่าหมอต้องขยายม่านตาแน่นอน
00:58:28 → 00:58:33 ให้พายาทมาให้มีคนมาขับรถให้หรือว่าอยาก
00:58:33 → 00:58:35 เอารถมานั่งแท็กซี่กลับใส่อย่างแว่นกัน
00:58:35 → 00:58:37 แดดมาด้วยเพราะว่าเวลาเราออกแดดเราจะสู้
00:58:37 → 00:58:40 แสงไม่ได้เพราะม่านตาเราขยายแสงจะเข้ามา
00:58:40 → 00:58:42 ได้เต็มที่แล้วจะแสบตา
00:58:42 → 00:58:45 ตอนนี้คำถามยังคงหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ
00:58:45 → 00:58:48 ครับบางคำถามก็เป็นคำถามที่คุณหมอได้ตอบ
00:58:48 → 00:58:51 ไปแล้วเพราะฉะนั้นก็ขอย้ำว่าไลฟ์นี้เรา
00:58:51 → 00:58:53 ไม่เราไม่ลบนะครับเพราะฉะนั้นอาจจะลอง
00:58:53 → 00:58:56 ย้อนกลับไปดูครับว่าต้อลมต้อเนื้อต้อ
00:58:56 → 00:58:59 กระจกแล้วต้อหินที่เราพูดคุยกันมาเนี่ย
00:58:59 → 00:59:02 มันมีอาการอย่างไรพฤติกรรมแบบไหนหรืออะไร
00:59:02 → 00:59:05 ที่เป็นสาเหตุมีวิธีในการที่จะป้องกันและ
00:59:05 → 00:59:07 ลดความเสี่ยงจะเป็นอย่างไรรวมไปถึงเรื่อง
00:59:07 → 00:59:10 ของการรักษาว่าแนวทางการรักษานั้นเป็น
00:59:10 → 00:59:12 อย่างไรและมาถึงช่วงสุดท้ายกับหมอพิ้งกี้
00:59:12 → 00:59:15 อย่างที่จะชวนให้คุณหมอพิ้งกี้ครับได้ลอง
00:59:15 → 00:59:19 แนะวิธีในการดูแลดวงตาของเราครับถ้าอยาก
00:59:19 → 01:00:23 จะห่างไกลจากทั้ง 4 โรคต้อนี้ครับ
01:00:23 → 01:00:25 แล้วก็ต้อกระจกได้
01:00:25 → 01:00:29 หากต้องใช้สายตาดูคอมนานๆแนะนำว่าควรจะ
01:00:29 → 01:00:32 ต้องมีการพักสายตาด้วยขอมองง่ายๆโดยกด 20
01:00:32 → 01:00:37 20 คือทุกๆ 20 นาทีนะคะในการใช้สายตาให้
01:00:37 → 01:00:41 พัก 20 วินาทีเวลาพักก็คือการมองไกลไปที่
01:00:41 → 01:00:46 ระยะประมาณ 20 เมตร
01:00:46 → 01:00:49 แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ก็หาน้ำตาเทียมมาหยอด
01:00:49 → 01:00:51 หน่อยเพราะว่าการที่ใช้คอมเล่นโทรศัพท์
01:00:51 → 01:00:54 นานๆ
01:00:54 → 01:00:57 แล้วก็ท่านผู้หญิงคุณผู้หญิงต่างๆที่
01:00:57 → 01:01:03 แต่งหน้าแนะนำว่าเครื่องสำอาง
01:01:03 → 01:01:14 อักเสบ
01:01:14 → 01:01:19 ไปผลิตน้ำตาให้เราเราจะได้ไม่แห้งนะคะการ
01:01:19 → 01:01:23 สูบบุหรี่นะ
01:01:23 → 01:01:28 ให้ลดให้น้อยที่สุดขอร้องเพราะว่าโรคทุก
01:01:28 → 01:01:31 ชนิดของตาเนี่ยจริงๆมีบุหรี่เข้ามาเกี่ยว
01:01:31 → 01:01:34 ข้องเพราะมันกระตุ้นการเสื่อมอาจจะเกี่ยว
01:01:34 → 01:01:37 มากเกี่ยวน้อยแต่งดเนี่ยดีกว่าไม่งดแน่
01:01:37 → 01:01:41 นอนนะคะทีนี้ขอสุดท้ายแล้วขออายุ 40 ปี
01:01:41 → 01:01:44 ขึ้นไปนะคะถึงแม้ว่าจะมีเวลาหรือไม่มี
01:01:44 → 01:01:46 เวลาแนะนำให้มาตรวจตาทุกปีค่ะเพราะว่า
01:01:46 → 01:01:49 ไอศกรีมที่อยากจะเป็นการที่จะช่วยบอก
01:01:49 → 01:01:53 เรื่องของต้อกระจกต้อหินได้แน่ๆนะคะถ้า
01:01:53 → 01:01:55 เป็นต้อหินแล้วรอให้อาการ
01:01:55 → 01:01:58 เกินไปแล้วการมองเห็นจะแย่ลงแล้วแล้วก็
01:01:58 → 01:02:03 อาจจะไม่สามารถกลับมาเห็นปกติได้มีโอกาส
01:02:03 → 01:02:06 ที่สูงมากเพราะฉะนั้นเนี่ยเราต้องการเรา
01:02:06 → 01:02:09 สตรีไว้จะดีกว่าทั้งคนที่มีประวัติต้อหิน
01:02:09 → 01:02:13 ถ้าเรารู้ว่าเราสามารถส่งต่อให้ลูกหลาน
01:02:13 → 01:02:14 ได้หรือเราสามารถรับจากคุณพ่อคุณแม่ได้
01:02:14 → 01:02:18 แล้วมีพี่น้องที่เป็นเรามีโอกาสเป็นละเรา
01:02:18 → 01:02:21 ควรจะมาตรวจเลยโดยที่ไม่ต้องรออายุ 40 ปี
01:02:21 → 01:02:23 นะคะรวมแล้วถ้ามีอาการผิดปกติก็อย่าซื้อ
01:02:24 → 01:02:26 ยามาหยอดเองทำให้ชัวร์มาผมจะฝึกแพทย์จะดี
01:02:26 → 01:02:27 ที่สุดค่ะ
01:02:27 → 01:02:31 ชัดเจนครับวันนี้ได้ทิปได้ทริคจากคุณหมอ
01:02:31 → 01:02:34 คุณหมอพิ้งกี้ไปเยอะเลยสิ่งหนึ่งที่ผมจำ
01:02:34 → 01:02:37 ได้แม่นก็คือดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญใน
01:02:37 → 01:02:40 การที่เราจะใช้ในการที่จะรับรู้โลกที่
01:02:40 → 01:02:43 อยู่รอบตัวเรานั่นก็คือถ้าอายุเกิน 40
01:02:43 → 01:02:46 แล้วหรือมีประวัติในครอบครัวที่มีโรค
01:02:46 → 01:02:49 เกี่ยวกับดวงตาไปตรวจกับจากสู่แพทย์เถอะ
01:02:49 → 01:02:53 เป็นประจำทุกปีเริ่มตั้งแต่ปีนี้เลยก็ได้
01:02:53 → 01:02:55 ไม่ต้องไปเสียไม่ต้องไปเสียใจว่าเฮ้ยเรา
01:02:55 → 01:02:57 ไม่ได้ไปตรวจไปเลยเริ่มจากวันนี้เริ่มจาก
01:02:57 → 01:03:00 ปีนี้ไปตรวจกับจากสู่แพทย์ตรวจสุขภาพดวง
01:03:00 → 01:03:03 ตาเป็นประจำทุกปีครับมีคุณผู้ชมมีคำถาม
01:03:03 → 01:03:06 หลั่งไหลมาตลอดเลยนะครับผมดูเวลาแล้ว
01:03:06 → 01:03:09 เนี่ยเวลาอาจจะไม่เพียงพอหลายๆท่านถามมา
01:03:09 → 01:03:12 เลยว่าหมอพิ้งกี้อยู่ที่ไหนอยู่ที่โรง
01:03:12 → 01:03:14 พยาบาลไหนออกตรวจเวลาไหนเอาอย่างนี้ผมบอก
01:03:14 → 01:03:17 สังกัดของคุณหมอพิ้งกี้อีกทีนึงคุณหมอ
01:03:17 → 01:03:19 พิ้งกี้หรือแพทย์หญิงประกายรัตน์ทองผิว
01:03:19 → 01:03:22 เป็นจากสุภาพอยู่ที่ศูนย์การแพทย์
01:03:22 → 01:03:23 กาญจนาภิเษก
01:03:23 → 01:03:25 แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล
01:03:25 → 01:03:28 ครับถ้าต้องการที่จะทราบว่าคุณหมอพิ้งกี้
01:03:28 → 01:03:30 ออกตรวจวันไหนเวลาไหนลองเข้าไปดูใน
01:03:30 → 01:03:32 เว็บไซต์เพื่อจะหาข้อมูลเหล่านั้นนะครับ
01:03:32 → 01:03:36 วันนี้ครับมหิดล Channel Live ของเราได้
01:03:36 → 01:03:39 ข้อมูลดีมากและผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์
01:03:39 → 01:03:42 กับทุกๆท่านที่เข้ามารับชมรวมถึงเป็น
01:03:42 → 01:03:44 ประโยชน์สำหรับคนที่อยู่รอบตัวท่านด้วย
01:03:44 → 01:03:48 วันนี้ Key Point ที่สำคัญที่สุดก็คือ
01:03:48 → 01:03:51 ตรวจสุขภาพดวงตาทุกปีนะครับวันนี้ขอบคุณ
01:03:51 → 01:03:53 หมอพิ้งกี้มากครับโอกาสหน้าคงจะได้มี
01:03:53 → 01:03:56 โอกาสได้พูดคุยกับคุณหมอคุณกี้ในหัวข้อ
01:03:56 → 01:03:58 อื่นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพดวงตากันเอง
01:03:58 → 01:04:00 อีกครั้งนึงนะครับขอบพระคุณครับคุณหมอ
01:04:00 → 01:04:03 พิ้งกี้ครับสวัสดีค่ะยินดีมากค่ะ
01:04:03 → 01:04:07 คุณผู้ชมครับมหิดลแชนเนลไลฟ์จะกลับมาพบ
01:04:07 → 01:04:10 กับคุณผู้ชมในทุกๆครั้งที่มีเรื่องเด่น
01:04:10 → 01:04:13 ประเด็นร้อนที่เราจะใช้ความเชี่ยวชาญความ
01:04:13 → 01:04:16 รู้ความสามารถของบุคลากรของมหาวิทยาลัย
01:04:16 → 01:04:20 มหิดลในการที่จะช่วยไขปัญหาหรือให้ข้อมูล
01:04:20 → 01:04:23 กับคุณผู้ชมในการที่จะตัดสินใจเลือกที่จะ
01:04:23 → 01:04:26 จะทำหรือเลือกที่จะไม่ทำในบางสิ่งบาง
01:04:26 → 01:04:28 อย่างครับจนกว่าจะพบกันใหม่ครับวันนี้ผม
01:04:28 → 01:04:30 อาจารย์เต้รพีบุญเกื้อมจากคณะวิทยาศาสตร์
01:04:30 → 01:04:33 มหาวิทยาลัยมหิดลขอลาไปก่อนรับสมัคร
01:04:33 → 01:04:38 สุขภาพจนกว่าจะพบกันใหม่ครับสวัสดีครับ
01:04:38 → 01:04:46 [เพลง]