00:00:00 → 00:00:01 คำว่า work Life Balance คำว่า work
00:00:01 → 00:00:02 Life Balance ที่ไม่ค่อยมี work Life
00:00:03 → 00:00:04 Balance ถามว่าคนที่ประสบความสำเร็จ
00:00:04 → 00:00:06 ระดับโลกมีใครบ้างครับมี work Life
00:00:06 → 00:00:08 Balance work Life Balance เนี่ยมัน
00:00:08 → 00:00:10 เป็นคอนเซปของยุคที่เราทำงานหนักมากๆแล้ว
00:00:10 → 00:00:12 เราอยากมี Balance ในชีวิตบางทีการพักก็
00:00:12 → 00:00:15 คือสิ่งที่โปรดักทีฟที่สุดที่เราจะทำได้
00:00:15 → 00:00:18 เลยนะโฟกัสทำงานหาเงินไม่ได้ดูแลสุขภาพ
00:00:18 → 00:00:20 เลยแล้วก็อยู่ดีๆก็ป่วยค่ะพอเราหายป่วย
00:00:21 → 00:00:23 เฮ้ยฉันต้องกลับมาดูแลตัวเองแล้วนะมนุษย์
00:00:23 → 00:00:28 เราพยายามหาให้ฐานะตัวเองดีแต่มนุษย์เรา
00:00:28 → 00:00:32 ไม่เคยคิดถึงสุขภาพตัว
00:00:32 → 00:00:36 เองก่อนเข้าสู่เนื้อหาอย่าลืมกดไลคกดแชร์
00:00:36 → 00:00:38 และกดกระดิ่งจะได้ไม่พลาดคลิปเก่าที่จะทำ
00:00:38 → 00:00:40 ให้คุณเป็น Better Version of yourself
00:00:40 → 00:00:43 ในทุกๆวันนะคะพี่มีมุมมองกับเรื่อง work
00:00:43 → 00:00:45 Life Balance ยังไงบ้างคะไม่มีคำว่า
00:00:45 → 00:00:46 work Life Balance me the work
00:00:46 → 00:00:48 Life Harmony มันก็ต้องสมดุลกันครับมัน
00:00:48 → 00:00:50 ไม่ใช่ว่าจันทร์ถึงศุกร์คืองานเสาร์ที่ิ
00:00:51 → 00:00:52 คือชีวิตฟังดูมันแย่มากเลยอ่ะก็คือวัน
00:00:52 → 00:00:54 จันทร์ถึงศุกร์ไม่ใช่ชีวิตอย่างนี้เหรอ
00:00:54 → 00:00:55 เราควรรู้สึกตื่นเต้นกับการมีชีวิตทุกวัน
00:00:56 → 00:00:58 ทำไมเราถึงมีตื่นเต้นเฉพาะแค่ศุกร์เสาร์
00:00:58 → 00:01:00 อาทิตย์ล่ะ Sound weird
00:01:00 → 00:01:02 Sounds weird สจริงๆคำว่า work Life
00:01:02 → 00:01:03 Finance ไม่ดีครับแต่ว่า There's
00:01:03 → 00:01:05 Something Wrong With it แต่ลว่ามัน
00:01:05 → 00:01:07 ยังมีช่วงในเวลาของอาทิตย์ที่มันรู้สึก
00:01:07 → 00:01:09 ว่ามันไม่ใช่ชีวิต That's Bad มันควร
00:01:09 → 00:01:11 เป็น Harmony ครับมันไม่ทุคนเป็นขาวกว่า
00:01:11 → 00:01:15 ดำทำงานหนักอย่างไรไม่ให้เครียดจากพ้า
00:01:15 → 00:01:18 Studio เอาจริงๆก็ก็ค่อนข้างชัดเจนเนาะ
00:01:18 → 00:01:19 ว่าพี่ไม่ค่อยมี work Life Balance
00:01:19 → 00:01:22 เนาะซึ่งส่วนตัวพี่ไม่ติดปัญหามันจะเป็น
00:01:22 → 00:01:25 คนรอบข้างเรามากกว่าที่เราต้อง maintain
00:01:25 → 00:01:27 ความสัมพันธ์เนาะครอบครัวพ่อแม่บางทีเรา
00:01:27 → 00:01:30 ก็เอ้ยเราก็ทำงานเยอะไปหน่อยนึงแต่ว่า
00:01:30 → 00:01:32 สิ่งที่สุดท้ายเรา Enjoy คือเรามองว่ามัน
00:01:32 → 00:01:34 เป็น work Life
00:01:34 → 00:01:37 integration เรามองว่ามันเป็น work Life
00:01:37 → 00:01:40 Harmony คือเรารู้สึกว่าบางทีเสาร์
00:01:40 → 00:01:43 อาทิตย์น่ะให้นั่งดูทีวีเฉยๆ 3 ช่วโมงพี่
00:01:43 → 00:01:46 ก็ทำไม่ได้นะแต่ถ้านั่งดูทีวีซักครึ่ง
00:01:46 → 00:01:49 ชั่วโมงขอหยิบคอมพิวเตอร์มานั่งตอบอีเมล
00:01:49 → 00:01:51 อะไรนิดนึงขอนั่งดูสไลด์ที่น้องทำส่งมา
00:01:51 → 00:01:54 หน่อยคือมันก็เหมือนมันก็สามารถแทรกเข้า
00:01:54 → 00:01:57 ไปในชีวิตเราได้ไม่ยากเนาะแล้วเราก็เราก็
00:01:57 → 00:02:00 Enjoy ที่จะทำนะครับเพราะฉะนั้นพอมัน
00:02:00 → 00:02:03 อินทิเกรตกันสุดท้ายข้อดีคือสุดท้ายชีวิต
00:02:03 → 00:02:05 เรามันก็ flexible มากขึ้นบางทีเราก็แบบ
00:02:05 → 00:02:07 เอ้ยเสาร์อาทิตย์ทำงานเยอะแล้ววันจันทร์
00:02:07 → 00:02:10 ขอ slow Life นิดนึงนะเออเราขอตอนเช้า
00:02:10 → 00:02:12 เข้าสายหน่อยอะไรอย่างเงี้ยคือสุดท้ายมัน
00:02:12 → 00:02:15 ก็แลกมากับ flexibility ในชีวิตที่เราก็
00:02:15 → 00:02:17 ได้เหมือนกันคือสุดท้ายพอมันเป็นส่วน
00:02:17 → 00:02:19 เดียวกันมันแปลว่าเราไม่ได้ต้องจัดว่าตอน
00:02:19 → 00:02:21 ไหนเราจะทำงานเราไม่ได้ต้องจัดว่าตอนไหน
00:02:21 → 00:02:24 เราจะพักสุดท้ายมันคือหว่างกพักมีงานก็ทำ
00:02:24 → 00:02:27 อ่ะแล้วสุดท้ายก็ค่อยๆปรับไปตามความเหมาะ
00:02:27 → 00:02:30 สมนะครับก็ส่วนตัว Enjoy กับไลฟ์สไตล์แบบ
00:02:30 → 00:02:33 นี้มากนะครับน้องๆในทีมพี่หลายคนก็ก็จะ
00:02:33 → 00:02:35 เป็นประมาณเนี้ยเสาร์อาทิตย์ก็จะมีคนตอบ
00:02:35 → 00:02:39 เมจตอบอะไรตลอดเวลาเนาะคือเนี่ยล่าสุด
00:02:39 → 00:02:41 เพิ่งมีน้องคนนึงมาจอยบริษัทพี่แล้วเาก็
00:02:41 → 00:02:44 ถามว่าทำไมน้องบริษัทพี่ขยันขนาดนี้พี่
00:02:45 → 00:02:48 ต้องไปทำอะไรเถึงจะมิทขนาดนี้มีจัด
00:02:48 → 00:02:50 เวิร์คชอปเสาร์อาทิตย์ใช่มั้ยน้องเค้าก็
00:02:50 → 00:02:52 มานั่งเฝ้าเวิร์คชอปเสาร์อาทิตย์อยู่ดีๆ
00:02:52 → 00:02:54 พนักงานคนนั้นก็มาอ๋อแวะมาเจอเพื่อนที่
00:02:54 → 00:02:56 สยามแต่ขอมานั่งทำงานแป๊บนึงเพื่อนยังไม่
00:02:56 → 00:02:59 มาอีกคนนึงแวะมาเอออยากมาดูบรรยากาศอยาก
00:02:59 → 00:03:00 มานั่งฟังเว work Shop ว่างเสาร์อาทิตย์
00:03:00 → 00:03:03 ไม่มีอะไรทำก็แบบเออทำไมสุดท้ายกลายเป็น
00:03:03 → 00:03:06 วันหยุดแล้วก็มีคนเข้ามาออฟฟิศแบบเต็มใจ
00:03:06 → 00:03:08 เต็มไปหมดหรือบางทีเสาร์อาทิตย์อ่าไม่
00:03:08 → 00:03:11 ต้องเสาร์อาทิตย์ก็ได้วันธรรมดาดึกๆนะมี
00:03:11 → 00:03:13 คนต้องการความช่วยเหลือด่วนทักเข้ามาใน
00:03:13 → 00:03:16 กรุ๊ปแชทก็มีคนตอบ 21-2 นเพราะทุกคนไม่
00:03:16 → 00:03:18 ได้รู้สึกว่านี่ไม่ใช่เวลางานฉันฉันจะไม่
00:03:18 → 00:03:21 ทำถ้าฉันมานั่งตอบเพื่อน 1 ประโยคแล้ว
00:03:21 → 00:03:24 เพื่อนจะสามารถเอาตรงนี้ไปคิดต่อทำอะไร
00:03:24 → 00:03:26 ต่อได้อีกหลายชั่วโมงในคืนนั้นเอ้ยทำไม
00:03:26 → 00:03:28 เราไม่ช่วยเพื่อนเราล่ะนะครับเพราะฉะนั้น
00:03:28 → 00:03:30 ก็คือคียมันคือทำยังไงให้สุดท้ายทุกอย่าง
00:03:30 → 00:03:34 มันมันเป็นส่วนเดียวกันให้ได้มากที่สุดนะ
00:03:34 → 00:03:36 ครับแล้วแล้วสุดท้ายเราก็จะมีความสุข
00:03:36 → 00:03:39 เองคนสำเร็จไม่มี work Life Balance
00:03:39 → 00:03:41 จากพี่ท็อปปิดครับเอาจริงๆผมไม่เคยเห็น
00:03:42 → 00:03:44 ใครในชีวิตผมที่ประสบความสำเร็จแบบมหาศาล
00:03:44 → 00:03:46 ครับแล้วชิลในยุคนี้เมีคนพูดเยอะมากเลย
00:03:46 → 00:03:47 ครับเรื่อง work Life Balance แต่ถาม
00:03:48 → 00:03:49 ว่าคนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกมีใคร
00:03:49 → 00:03:51 บ้างครับมี work Life Balance
00:03:51 → 00:03:53 Christian Ronaldo เนี่ยเาซ้อมหนักกว่า
00:03:53 → 00:03:55 นักฟุตบอลคนอื่นเขถึงเป็นนักฟุตบอลที่
00:03:55 → 00:03:57 เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกคนนึเไม่
00:03:57 → 00:03:59 ได้มีแค่พรสวรรค์อย่างเดียวเซ้อมหนักมากๆ
00:03:59 → 00:04:02 คุณคมศ 3 อีกคนนึงครับ co ของแชเด็กลำปาง
00:04:02 → 00:04:04 อายุ 29 เกิดมาไม่มีไฟฟ้าใช้เข้ามาถึงจุด
00:04:05 → 00:04:07 นี้ได้เนี่ยคิดว่าเชิลแล้วครับเคจะเป็น
00:04:07 → 00:04:09 ยูนิคอร์ตัวแรกของประเทศไทยอีกไม่นานมี
00:04:09 → 00:04:11 อยู่ครั้งนึงผมได้ไปฟังคุณคมสันพูดไม่
00:04:11 → 00:04:13 บ่อยนะครับที่ผมจะรู้สึก inspire ได้จาก
00:04:13 → 00:04:16 ใครบางคนพอไปฟังเนี่ inspire มากๆเลยเบอก
00:04:16 → 00:04:18 พนักงานเขาทุกคนที่ทำงานที่แฟชเนี่ยต้อง
00:04:18 → 00:04:22 996 คือทำงานตั้งแต่ 99:00 นถึง 21:00 น
00:04:22 → 00:04:24 99 6 วันต่อสัปดาห์ fer ครับผู้ก่อตั้ง
00:04:24 → 00:04:27 คุณคมสัน 997 สำหรับบิ Cup เนี่ยผมเปิดมา
00:04:28 → 00:04:30 3 ปี 2 เดือนก็คือ 1 ในไม่กี่สตัในเมือง
00:04:30 → 00:04:33 ไทยตอนนี้ที่จะมีโอกาสเป็นยูนิคอร์นเร็วๆ
00:04:33 → 00:04:34 นี้เหมือนกันแต่แฟชเนี่ยเปิดมาน้อยกว่า
00:04:34 → 00:04:36 with Cup อีกน้อยกว่าผมอีก 3 ปี 2
00:04:36 → 00:04:38 เดือนแต่เขาจะเป็นยูนิคอร์นตัวแรกเสมควร
00:04:39 → 00:04:40 ที่จะได้มงกุฎนี้เพราะเขาทำงานหนักมาก
00:04:40 → 00:04:42 อย่างผมเนี่ยโชคดีกับเขาเยอะผมเรียกว่า
00:04:42 → 00:04:44 Lucky spm Club คือเกิดมาครอบครัวที่
00:04:44 → 00:04:46 พ่อแม่ไม่ได้ต้องการเงินจากเราเราไม่ต้อง
00:04:46 → 00:04:48 เลี้ยงดูพ่อแม่เราเสี่ยงได้แต่คุณคมสัน
00:04:48 → 00:04:51 ที่เกิดมาไม่ไม่มีไฟฟ้าใช้ครับเขกว่าจะมา
00:04:51 → 00:04:53 ถึงจุดนี้ได้เเชิลหรอครับทุกโชคชะตามัน
00:04:53 → 00:04:55 ตรงข้ามกับเาหมดเลยแต่เขาสามารถที่จะฝ่า
00:04:55 → 00:04:57 ฟันทุกอย่างจดถึงจุดนี้ได้เนี่ยเขาต้องมี
00:04:57 → 00:05:00 วินัยสุดๆแล้วเขาต้องเสียสละสุดๆเพื่อที่
00:05:00 → 00:05:02 จะมาถึงจุดนี้ได้ชีวิตเ้าไม่เหมือนคนทั่ว
00:05:02 → 00:05:04 ไปแน่นอนซึ่งเราจะทำยังไงให้เรามีนิสัย
00:05:04 → 00:05:07 ที่แตกต่างจากคนทั่วไปนิสัยเนี่ยถ้าเราทำ
00:05:07 → 00:05:09 มันนานานผลลัพธ์มันจะออกครับแล้วผลลัพธ์
00:05:09 → 00:05:12 เนี่ยมันจะแตกต่างจากคนทั่วไปในระยะยาวผม
00:05:12 → 00:05:13 มองว่าการที่จะเป็นผู้ประกอบการที่ดี
00:05:13 → 00:05:16 เนี่ย 1 คือต้องทำงานหนักผมว่าคนไม่ควร
00:05:16 → 00:05:18 พูด work Life Balance เยอะเกินไปรุ่น
00:05:18 → 00:05:20 คุณพ่อคุณแม่เราช่วงก่อตั้งธุรกิจเนี่ย
00:05:20 → 00:05:22 ไม่มีใครชิลครับทำงานหนักกันหมดทุกคนคน
00:05:22 → 00:05:24 ส่วนใหญ่คิดเหมือนกันทำเหมือนกันคือค่า
00:05:24 → 00:05:26 เฉลี่ยแต่เราห้ามเป็นค่าเฉลี่ย work กับ
00:05:26 → 00:05:27 Life มันเป็นอันเดียวกันไปแล้วสำหรับคน
00:05:27 → 00:05:30 ที่สร้างสิ่งที่มันมหัศจ
00:05:30 → 00:05:32 คนสำเร็จไม่มี work Life Balance จริง
00:05:32 → 00:05:35 หรอในมุมมองของพี่เหมง KT venger KTB
00:05:35 → 00:05:37 คิดว่าความสำเร็จของแต่ละคนมันไม่เหมือน
00:05:37 → 00:05:39 กันแต่พี่มองภาพอย่างงี้หลายๆคนมันเามี
00:05:39 → 00:05:41 ชุดความคิดอย่างที่น้องบอกมี work Heart
00:05:41 → 00:05:44 ใช่มยที่แบบทำอะไรนะ 96 97 98 ไปเลยบาง
00:05:45 → 00:05:47 วันเงี้ยแต่พี่เชื่อในแง่ของ work Life
00:05:47 → 00:05:49 integration work Life Balance เนี่ย
00:05:49 → 00:05:51 มันเป็น Concept ของยุคที่เราทำงานหนัก
00:05:51 → 00:05:53 มากๆแล้วเราอยากมี Balance ในในในชีวิต
00:05:54 → 00:05:55 ตอนสมัยก่อนพี่อยู่แบงค์เนี่ยพี่ก็จะมี
00:05:55 → 00:05:57 ชุดความคิดที่พี่เชื่อ work Life
00:05:57 → 00:05:58 Balance นะจริงๆเรา Work Hard เรา Play
00:05:58 → 00:06:01 harder ด้วยสซ้ำนะยุคนั้นนะแต่พอเริ่มมี
00:06:01 → 00:06:04 ครอบครัวเริ่มมีอะไรต่างๆพี่คิดว่าตาช่าง
00:06:04 → 00:06:06 จริงๆมันไม่ได้มีอยู่จริงในโลกของความ
00:06:06 → 00:06:08 เป็นจริงอยู่จะ work กับ Life เท่ากันไป
00:06:08 → 00:06:10 พี่ว่าเป็นไปแทบจะไม่ได้เลยแต่ถ้ากลับกัน
00:06:10 → 00:06:12 เรา steep Back อมาแล้วเรามองเขว่าเฮ้ย
00:06:12 → 00:06:13 ถ้าเราสามารถทำให้มันเป็น work Life
00:06:13 → 00:06:15 indication ได้ล่ะเราสามารถเอา 2 อย่าง
00:06:15 → 00:06:17 นี้มาเบนได้ล่ะเราไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็น
00:06:17 → 00:06:19 การทำงานเราไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่อง
00:06:19 → 00:06:20 ครอบครัวแต่มันเป็นรู้สึกมันเป็นเรื่อง
00:06:20 → 00:06:22 เดียวกันพี่ว่าอันนี้น่าจะเป็นคียมั้งคือ
00:06:22 → 00:06:24 มันจะทำให้เรารู้สึกว่าทุกวันเราตื่นเช้า
00:06:24 → 00:06:26 มาเราไม่ได้รู้สึกว่าเหมือนเราต้องตื่นไป
00:06:26 → 00:06:29 ทำงานเรามีชีวิตครอบครัวอยู่ในทุกสารระบบ
00:06:29 → 00:06:32 ในการทำงานของเราก็ได้หรือเรามีชีวิตการ
00:06:32 → 00:06:34 ทำงานอยู่ในชีวิตครอบครัวทุก 3 ระบบของ
00:06:34 → 00:06:36 ของชีวิตครอบครัวก็ได้เงอย่างวันเยกตัว
00:06:36 → 00:06:37 อย่างจริงๆพี่ไม่รู้วันนี้เป็นวันหยุดนะ
00:06:37 → 00:06:40 อันนี้สาบานได้จนลูกหยุดเออโอเคงั้นก็มา
00:06:40 → 00:06:42 ด้วยกันอย่างเงี้ยแล้ววันนี้เราก็มีมา
00:06:42 → 00:06:43 นั่งคุยกันอย่างเงี้ยพี่ว่าเนี่ยมันเพ
00:06:43 → 00:06:45 work indication แล้วเราก็ไม่ได้รู้สึก
00:06:45 → 00:06:47 ว่าเราต้องแบ่งซ้ายขวาแต่เราเอา 2 อย่าง
00:06:47 → 00:06:49 มารวมกันได้ในแต่ละคนมันไม่เหมือนกันนะ
00:06:49 → 00:06:51 เออจริงๆมีทิกนึงอันนี้ที่ได้มาจากคนชื่อ
00:06:51 → 00:06:54 เนียอาถ้าน้องไปลองเสิร์ชดูนะครับว่า ne
00:06:54 → 00:06:56 เนี่ยเคทำเกี่ยวกับเรื่องแบบว่าทำ Hook
00:06:56 → 00:06:58 โมเดลเนาะทำไงให้คนติดแอปพลิเคชันต่างๆ
00:06:58 → 00:07:00 ตอนเนี้ยหลังจหลังจากทำอันนั้นสำเร็จปุ๊บ
00:07:00 → 00:07:02 เนี่ยเาทำเเรียกว่า indestructible ทำไง
00:07:02 → 00:07:04 ให้คนเลิกติดบางอย่างโคตร Inception เลย
00:07:04 → 00:07:06 อันนี้ทำให้คนติดอันนี้ทำให้คนไม่ติดพอ
00:07:06 → 00:07:08 เราไปได้ดูตรงนี้ปุ๊บเนี่ยมีอันนึงที่พี่
00:07:08 → 00:07:12 ชอบมากเลยาสอนว่าคน้าของเราอ่ะมันเป็นของ
00:07:12 → 00:07:14 เราแต่ถ้าเราไม่ใส่อะไรลงไปมันจะเป็นของ
00:07:14 → 00:07:16 คนอื่นนึกภาพนะถ้าเราไม่ใส่ลงไปของหมาย
00:07:16 → 00:07:19 ความว่าไงจะมีคนส่ง Meeting นัดมาหาเราะ
00:07:19 → 00:07:21 แล้วเราต้อง accept ถูกมยแต่ถ้าเกิดคน้า
00:07:21 → 00:07:23 ของเราเราล็อคไว้เลยว่าในแต่ละวันเราอยาก
00:07:23 → 00:07:25 ทำอะไรเราใส่เวลาของเราไว้ก่อนเวลาอยู่
00:07:25 → 00:07:27 กับลูกใส่ไว้เวลาอยู่กับคนนั้นคนนี้ใส่
00:07:27 → 00:07:29 ไว้มันจะเหลือเวลาว่างแล้วคนหนึ่งเจะนัด
00:07:29 → 00:07:32 meing ก็จะดูตามเวลาว่างของเราพูดง่ายนะ
00:07:32 → 00:07:34 แต่พอเรามาทำจริงๆมันฮต้องปรับเหมือนกัน
00:07:34 → 00:07:36 แต่ว่าก็คี่ว่ามันเป็นพื้นฐานที่ดีเวลา
00:07:37 → 00:07:39 มันเป็นของเราเราใส่ไว้ก่อนเราอยากทำอะไร
00:07:39 → 00:07:41 แล้วที่เหลือก็จะเป็นเรื่องเราวอื่นๆที่
00:07:41 → 00:07:44 เรามีเวลาให้กับอื่นๆครับ work Life
00:07:44 → 00:07:46 Balance ในมุมมองของหมอท็อปเป็นยังไงถาม
00:07:46 → 00:07:50 ถึงผมตอนนี้เลยนะผมคิดว่างานกับชีวิตผม
00:07:50 → 00:07:53 อ่ะมันค่อนข้างที่จะกลมกลืนกันพอสมควร
00:07:53 → 00:07:57 แล้วคือแต่ว่าก็ต้องบอกงี้ฮะว่าจริงๆแล้ว
00:07:57 → 00:07:59 คำว่า work Life Balance เนี่ยในใน
00:07:59 → 00:08:02 ปัจจุบันเนี่ยจริงๆแล้วมันก็เหมือนกับว่า
00:08:02 → 00:08:08 แยกงานใช่มยกับแยกการพักผ่อนออกจากกันเลย
00:08:08 → 00:08:12 ถ้าทำงานฉันทำงานถ้าพักผ่อนฉันพักผ่อน
00:08:12 → 00:08:15 ซึ่งในสมัยเนี้ยถ้าจะแยกกันอย่างเงี้ยถ้า
00:08:15 → 00:08:17 อยากแบบสำเร็จเหนือคนอื่นเนี่ยผมบอกเลย
00:08:17 → 00:08:21 ยากนะคือถ้าเราต้องการที่จะเป็นคน
00:08:21 → 00:08:24 1% ที่แบบมีความสำเร็จอ่ะทุกคนอยากมี
00:08:24 → 00:08:27 ความสำเร็จถูกต้องมั้ครับแต่ถ้าเราบอกว่า
00:08:27 → 00:08:28 เราอยากเป็นคนสำเร็จน่ะแต่ฉันก็อยากแบบ
00:08:28 → 00:08:31 พักผ่อนสบายมากในชีวิตฉันเลยจันทร์ถึง
00:08:31 → 00:08:34 ศุกร์ฉันจะทำงาน 800 นเลิก 16:00 นหลัง
00:08:34 → 00:08:36 จากนั้นห้ามยุ่งกับชีวิตฉันนะฉันจะ Life
00:08:36 → 00:08:39 Balance และเสาร์อาทิตย์อย่าโทร
00:08:39 → 00:08:43 มาก็ยากที่จะเป็น 1% แต่สามารถจะเป็น
00:08:43 → 00:08:46 everage ได้ถ้าแฮปปี้ที่จะเลือกไม่มี
00:08:46 → 00:08:50 ปัญหาความชอบใครความชอบมันไม่ผิดแต่ถ้า
00:08:50 → 00:08:55 อยากจะมากกว่านั้นหรืออยากจะพัฒนาตัวเอง
00:08:55 → 00:08:58 ท้าทายชีวิตตัวเองซะหน่อยให้ดูซิว่าจริงๆ
00:08:59 → 00:09:00 แล้วแล้วเรามีศักยภาพแค่ไหนผมบอกเลยบอก
00:09:00 → 00:09:03 ว่าทุกๆคนมีศักยภาพสูงมากเพียงแต่ว่าเรา
00:09:04 → 00:09:07 ไม่ได้เค้นมันออกมาเท่านั้นเองนะครับคือ
00:09:07 → 00:09:10 จริงๆเนี่ย IQ ของเราเนี่ยแทบจะไม่แตก
00:09:10 → 00:09:13 ต่างกันเลยเต็มที่ + 10 - 10 แค่นี้
00:09:13 → 00:09:16 เองเพราะฉะนั้นเนี่ยเพราะฉะนั้นคนที่เก่ง
00:09:16 → 00:09:18 ที่สุดหรือร่ำรวยที่สุดหรือประสบความ
00:09:18 → 00:09:20 สำเร็จมากที่สุดเนี่ยเอาว่า IQ เนี่ยก็
00:09:20 → 00:09:22 ไม่ได้จะสูงกว่าเราหรืออาจจะเท่าเราหรือ
00:09:22 → 00:09:25 อาจะต่ำกว่าเราด้วยเพราะฉนั้นแล้วทุกคนมี
00:09:25 → 00:09:27 โอกาสประสบความสำเร็จแต่จะต้องมีเป้าหมาย
00:09:27 → 00:09:29 ที่ถูกต้องและตั้งใจ
00:09:29 → 00:09:33 ดังนั้นเนี่ยถ้าให้ผมแนะนำถ้าอยากสำเร็จ
00:09:33 → 00:09:36 ก็ควรจะมี work Life Flow หมายความว่า
00:09:36 → 00:09:40 เป็นอะไรที่มันสอดคล้องไปกับชีวิตประจำ
00:09:40 → 00:09:44 วันอย่างเช่นถ้าเราดีไซน์ให้งานกับชีวิต
00:09:44 → 00:09:48 ประจำวันเนี่ยมันไปด้วยกันหรือว่ามัน
00:09:48 → 00:09:53 สามารถที่จะไม่ทุกข์ทรมานเช่นอย่างผมผมยก
00:09:53 → 00:09:56 ตัวอย่างผมเลยผมเนี่ยเป็นคนที่ไม่ชอบขับ
00:09:56 → 00:10:00 รถเป็นคนที่ถึงจะมีคนขับรถให้นั่งก็ไม่
00:10:00 → 00:10:03 ชอบถึงจะมีคนขับรถก็ขี้เกียจไปเกลียดรถ
00:10:03 → 00:10:06 ติดอันนี้ชัดเจนมากเห็นรถติดแล้วไมเกรนจะ
00:10:06 → 00:10:09 ขึ้นเพราะฉะนั้นผมก็ต้องดีไซน์ให้ชีวิตผม
00:10:09 → 00:10:11 ไม่ยุ่งกับรถติดถูกต้องมยเพื่อจะดึง
00:10:11 → 00:10:14 ศักยภาพผมให้มากที่สุดเพราะฉะนั้นผมจึง
00:10:14 → 00:10:17 เปิดศูนย์ผ่าตัดที่บ้านเป็นศูนย์ผ่าตัด
00:10:17 → 00:10:19 แบบเส้นฟอกไตหรือผ่าตัดเส้นเลือดที่ไม่
00:10:19 → 00:10:21 เคยมีมาก่อนในประเทศไทยก็เปิดเลยศูนย์แรก
00:10:21 → 00:10:24 เพราะว่าผมอยากจะผ่าตัดที่บ้านเป็นต้นอัน
00:10:24 → 00:10:27 นี้อันดับแรกอันที่ 2 ผมคิดว่าเฮ้ยช่วง
00:10:27 → 00:10:30 สมัยนี้มันเป็นยุคออนไลน์นี่หว่าเราก็
00:10:30 → 00:10:35 สามารถที่จะทำอะไรก็ได้จากหน้าจอโทรศัพท์
00:10:35 → 00:10:38 เราจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เราถ้าเมื่อไหร่
00:10:39 → 00:10:41 ก็ตามที่เราอยากจะไปอยู่ต่างประเทศหรือ
00:10:41 → 00:10:43 ว่าอยากจะทำงานที่ต่างประเทศอยากจะพัก
00:10:43 → 00:10:46 พอร์จากการผ่าตัดเราก็ยังจะสามารถทำงาน
00:10:46 → 00:10:49 ผ่านออนไลน์ได้มันก็จะยิ่งดีอย่างเงี้ยผม
00:10:49 → 00:10:54 ก็จะดีไซน์เลยว่าเออผมจะทำงานแบบเนี้ยและ
00:10:54 → 00:10:57 อะไรที่สำคัญผมจะมีความชัดเจนอย่างเช่นผม
00:10:57 → 00:11:01 จะให้ความสำคัญกับสุขภาพอันดับ 1 ดังนั้น
00:11:01 → 00:11:04 ถ้าตารางสุขภาพของผมโดน invest โดยงาน
00:11:04 → 00:11:07 อะไรก็ตามแล้วถ้างานนั้นเนี่ยมันไม่ใช่
00:11:07 → 00:11:09 งานที่แบบเร่งด่วนหรือสำคัญสุดๆผมจะตัด
00:11:09 → 00:11:12 ออกทันทีเพราะถือว่ามัน interf สิ่งที่
00:11:13 → 00:11:17 สำคัญเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราให้สิ่ง
00:11:17 → 00:11:19 ที่ไม่สำคัญเนี่ยมาวุ่นวายกับสิ่งสำคัญ
00:11:19 → 00:11:21 เราเรื่อยๆเนี่ยเราจะรู้สึกว่าเราไม่มี
00:11:21 → 00:11:25 เวลาเราจะรู้สึกว่าทำอะไรก็ไม่ทันเพราะ
00:11:25 → 00:11:29 ฉะนั้นเนี่ยการที่เราทำเราออกแบบงานให้
00:11:29 → 00:11:30 เข้ากับชีวิตประจำวันเราได้เนี่ยจะเป็น
00:11:30 → 00:11:33 อะไรที่ง่ายที่สุดนะครับแล้วก็สามารถที่
00:11:33 → 00:11:36 จะทำได้ทุกวันไม่ว่าจะเป็นวันจันทร์ไม่
00:11:36 → 00:11:39 ว่าจะเป็นวันเสาร์ไม่ว่าจะเป็นวันอาทิตย์
00:11:39 → 00:11:41 คือสำหรับผมเนี่ยวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์
00:11:41 → 00:11:43 เนี่ยบางทีผมไม่รู้เลยวันดุจมันคืออะไร
00:11:43 → 00:11:46 แต่ถามบอกว่าเออผมเหนื่อยจนแบบไม่ได้อยู่
00:11:46 → 00:11:49 กับครอบครัวเลยมั้ยผมบอกไม่ใช่ตอนเช้าผม
00:11:49 → 00:11:52 ก็ยังเตรียมอาหารไปให้ลูกได้ตอนเย็นผมกิน
00:11:52 → 00:11:56 ข้าวกับลูกทุกวันซึ่งผมว่ามันผม
00:11:56 → 00:11:59 ดีไซนผมตั้งใจผมอยากให้ให้มันเป็นอย่าง
00:11:59 → 00:12:02 นี้เป็นต้นเราก็จะต้องทำออกมาให้ได้โดย
00:12:02 → 00:12:05 การวางแผนว่า 1 2 3 4 แต่ไม่ใช่อยู่
00:12:05 → 00:12:08 เฉยๆบอกว่าโอ้ฉันอยากจะมี work Life
00:12:08 → 00:12:11 Balance ฉันอยากจะมี work Life Flow
00:12:11 → 00:12:13 ฉันอยากจะมี work Life integration แต่
00:12:13 → 00:12:16 อยู่เฉยๆทำแบบเดิมมันก็ไม่มีมันก็ไม่ได้
00:12:16 → 00:12:20 นะเออมันก็ต้องวางแผนและแผนงานของแต่ละคน
00:12:20 → 00:12:24 ต่างกันก็ต้องลองดูว่าเราเหมาะกับอะไรแต่
00:12:24 → 00:12:28 สิ่งที่สำคัญคือตอบหัวใจเราให้แน่นอนว่า
00:12:28 → 00:12:31 เฮ้ยไอ้สิ่งเนี้ยเราอยากทำจริงป่ะเราชอบ
00:12:31 → 00:12:34 จริงหรือเปล่าแล้วสิ่งเนี้ยมันสามารถที่
00:12:34 → 00:12:37 จะทำมาหาเลี้ยงชีพเราได้เปล่าถ้าเกิดสิ่ง
00:12:37 → 00:12:40 ที่เราทำเนี่ยเราชอบก็จริงนะแต่เผอิญไม่
00:12:40 → 00:12:42 มีคนชอบกับเราเลยเนี่ยอย่างนี้เเรียกงาน
00:12:42 → 00:12:46 อิกก็ทำได้แต่ว่ามันก็หาเลี้ยงชีพไม่ได้
00:12:46 → 00:12:49 มันก็ไม่ใช่เวิร์คไงมันก็แค่เป็นงานอิเลก
00:12:49 → 00:12:52 เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะมีงานที่แฮปปี้ก็
00:12:52 → 00:12:55 พยายามหาทางทำงานอดิเรกให้มันสร้างรายได้
00:12:55 → 00:12:59 ได้อ่ะมันก็จะดีอย่างเช่นผมชอบสอนหนังสือ
00:12:59 → 00:13:01 ถือว่าเป็นงาน AD อย่างเงี้ยผมไม่รู้สึก
00:13:01 → 00:13:04 ว่ามันเป็นงานผมชอบสอนคนนู้นสอนคนนี้สอน
00:13:04 → 00:13:08 ความรู้แล้วทำยังไงล่ะให้มันได้ตังค์ให้
00:13:08 → 00:13:10 มันเลี้ยงชีพได้ก็ให้ YouTube อ่ะค่า
00:13:10 → 00:13:14 โฆษณามาจ่ายตังค์เราแค่นี้เองคิดง่ายๆอ้อ
00:13:14 → 00:13:17 ทำอย่างงี้ทำที่ไหนก็ได้ในโลกอ่ะงั้นก็
00:13:17 → 00:13:20 เปิดช่อง YouTube สิสอนคนแฮปปี้มีความสุข
00:13:20 → 00:13:23 เป็นงานอดิเรกต่อมาได้ตังค์เข้ามาด้วย
00:13:23 → 00:13:25 เลี้ยงชีพได้ด้วยทำที่ไหนก็ได้ในโลกใบนี้
00:13:25 → 00:13:28 ผมว่ามันก็เหมาะกับยุคสมัยนี้ไม่เลวเลยก็
00:13:28 → 00:13:30 ลองดูนะครับมีหลากหลายให้เลือกอย่าไปคิด
00:13:30 → 00:13:32 ว่าเราเรียนจบอะไรมาแล้วต้องทำอย่างงั้น
00:13:32 → 00:13:34 อย่าไปคิดว่าเรียนจบหมอมาแล้วก็ต้องเป็น
00:13:34 → 00:13:38 หมอคือเป็นหมอมันก็ดีไม่ได้เลวร้ายอะไร
00:13:38 → 00:13:40 เลยผมก็ชอบแต่ถามบอกว่าทำไมต้องมีอาชีพ
00:13:40 → 00:13:43 เดียวอ่ะทำไมต้องมี 2 อาชีพมี 5 อาชีพได้
00:13:43 → 00:13:46 มั้ยถ้า 5 อาชีพนั้นเราชอบเหมือนกันอิเก 5
00:13:46 → 00:13:48 อย่างเรามี 5 อาชีพก็ได้นะไม่เห็นมันจะ
00:13:48 → 00:13:51 ยากอะไรเลยใช่มยมันก็ง่ายๆไม่มีอะไรครับ
00:13:51 → 00:13:54 พักบ้างการพักก็ถือว่าเป็นการโปรดักทีฟ
00:13:54 → 00:13:56 อย่างนึงนะจากมุมมองของมินชี่เราไม่
00:13:56 → 00:13:59 จำเป็นต้องเก่งตลอดไม่จำเป็นต้องเก่งทุก
00:13:59 → 00:14:02 เรื่องโดยเฉพาะอะไรที่เราทำแล้วเรารู้สึก
00:14:02 → 00:14:05 ว่ามีความสุขอ่ะขอให้รักษาความสุขนั้นไว้
00:14:05 → 00:14:08 สัญญาณที่บ่งบอกได้ดีมากๆเลยว่าเราทำเกิน
00:14:08 → 00:14:10 ไปแล้วอ่ะก็คือการหมดไฟนี่แหละเพราะว่า
00:14:10 → 00:14:13 ถ้าเราหมดไฟแปลว่าเราทำมันมากเกินไปหรือ
00:14:13 → 00:14:16 ว่าทำไปในทางที่เราไม่ชอบบางทีมิ้นชอบติด
00:14:16 → 00:14:19 อยู่ในวังวนของความโปรดักทีฟมากเกินไปคือ
00:14:19 → 00:14:21 ถ้าวันไหนที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรก็จะรู้สึก
00:14:21 → 00:14:23 แบบวันนี้ไม่มีค่าเลยทำไมวันนี้เราขี้
00:14:23 → 00:14:25 เกียจขนาดนี้อะไรแบบเนี้ยทั้งๆที่จริงๆ
00:14:25 → 00:14:28 บางทีการพักก็คือสิ่งที่โปรดักทีฟที่สุด
00:14:28 → 00:14:31 ที่เราจะทำได้เลยนะมิ้นก็เลยฟังเสียงตัว
00:14:31 → 00:14:34 เองมากขึ้นตอนไหนอยากงีบก็งีบคืออะไรแบบ
00:14:34 → 00:14:37 เนี้ยแค่นี้มันก็ช่วยแล้วนะเพราะว่าสิ่ง
00:14:37 → 00:14:39 ที่ทำให้เรา burn Out อ่ะก็คือการที่แบบ
00:14:39 → 00:14:41 ต้องทำอีกต้องทำอีกแล้วต้องดีกว่านี้ต้อง
00:14:41 → 00:14:43 ทำให้ได้เยอะกว่านี้ซึ่งมันไม่ใช่
00:14:43 → 00:14:46 ธรรมชาติของมนุษย์เลยสิ่งที่มิ้นทำช่วง
00:14:46 → 00:14:49 ที่หยุดพักจากการทำ YouTube ไปก็คือการ
00:14:49 → 00:14:52 กลับมาดูแลตัวเองมากขึ้นเพราะว่าการหยุด
00:14:52 → 00:14:54 พักในครั้งนั้นน่ะทำให้มินรู้เลยว่ามิน
00:14:54 → 00:14:56 ไม่ดูแลตัวเองเลยคือการแต่งหน้าของมินคือ
00:14:56 → 00:14:59 แต่งให้คนอื่นดูแต่ไม่ใช่การแบบแบบทำ
00:14:59 → 00:15:01 เพื่อตัวเองรู้สึกสวยเออทาโลชั่นเพื่อตัว
00:15:01 → 00:15:03 เองรู้สึกดีคือมิ้นมิ้นทำแค่สิ่งที่รู้
00:15:04 → 00:15:06 สึกว่าคนภายนอกเห็นน่ะแค่นั้นเลยอ่ะณตอน
00:15:06 → 00:15:09 นั้นนะก็คือไม่มีเซลฟ care เลยเล็บคนไม่
00:15:09 → 00:15:12 ค่อยเห็นไม่ทำเล็บเท้าไม่ทำโลชั่นไม่ทา
00:15:12 → 00:15:15 มารคหน้าไม่มาร์คคือทำอะไรที่คนเห็นจาก
00:15:15 → 00:15:18 ภายนอกอย่างเดียวอ่ะช่วงนั้นมิก็เลยกลับ
00:15:18 → 00:15:20 มาดูแลตัวเองมากขึ้นฟังเสียงตัวเองมาก
00:15:20 → 00:15:23 ขึ้นแล้วก็ใจดีกับตัวเองขึ้นสำคัญมากๆเลย
00:15:23 → 00:15:26 ค่ะมินจะชอบแบ่งอยู่ 2 อย่างคืออะไรก็ตาม
00:15:26 → 00:15:28 ที่มินรู้ว่ามันทำแล้วดีกับมิ้นเราขี้
00:15:29 → 00:15:31 เกียจเช่นการออกกำลังกายอย่างเงี้ยมิ้นจะ
00:15:31 → 00:15:34 เขียนเป็นตารางแล้วบังคับตัวเองทำแต่ว่า
00:15:34 → 00:15:37 กับอะไรที่มันเลือกได้อ่ะที่คำว่าขี้
00:15:37 → 00:15:39 เกียจคือไม่จำเป็นต้องใช้ด้วยซ้ำอันนี้ก็
00:15:39 → 00:15:41 จะให้เวลาตัวเองอะไรอย่างเงี้ยแบบอย่าง
00:15:41 → 00:15:45 คทนบางช่วงก็คือไม่ออกเลยตันมากช่วงนั้น
00:15:45 → 00:15:47 ทำงานหนักแล้วไม่ได้นอนแล้วมันคิดไม่ออก
00:15:47 → 00:15:50 ก็พยายามเข้าใจตัวเองว่าเออเราต้องการพัก
00:15:50 → 00:15:52 แหละบางทีมันก็อาจจะไม่ใช่ความขี้เกียจ
00:15:52 → 00:15:54 เสมอไปเราอาจจะแค่ต้องการการพักอยู่จริงๆ
00:15:55 → 00:15:57 ก็ได้แล้วก็ค่อยๆให้เวลาตัวเองแล้วเดี๋ยว
00:15:57 → 00:16:00 มันมาเองเพราะว่าจริงๆไอเดียทุกอย่างอะไร
00:16:00 → 00:16:02 มันจะมาตอนที่เรารู้สึกผ่อนคลายที่สุด
00:16:02 → 00:16:04 อยู่แล้วหลังจากที่พักมาแล้วเรากลับมาทำ
00:16:04 → 00:16:06 ต่อทั้งๆงที่เรารู้สึกว่าเรายังไม่ได้
00:16:06 → 00:16:08 พร้อมขนาดนั้นเนี่ยจริงๆมันก็ไม่ควรทำ
00:16:08 → 00:16:10 อย่างงั้นหรอกมิ้นควรพักให้เต็มที่ก่อน
00:16:11 → 00:16:13 มันมันจะได้ดีกับคนดูและดีต่อเราที่สุด
00:16:13 → 00:16:16 ด้วยถ้าเรากลับมาทำแบบเต็มที่ที่สุดแต่
00:16:16 → 00:16:18 ว่าณตอนนั้นมินมินก็ยังมีระบบให้ตัวเอง
00:16:18 → 00:16:20 แหละก็เลยแบบเอ้ยไม่อยากพักนานอยากกลับมา
00:16:20 → 00:16:22 ทำเลยอะไรอย่าเงี้ยแต่ว่าถามว่ามันรู้สึก
00:16:22 → 00:16:27 ทรมานรู้สึกไม่ดีบ้างมยจริงๆมันตอนก่อน
00:16:27 → 00:16:29 เลิกทำอ่ะมันู้รู้สึกแย่กว่าไงมันก็เลย
00:16:29 → 00:16:31 รู้สึกว่าตอนที่กลับมาทำอีกรอบอ่ะมันดี
00:16:31 → 00:16:32 กว่าเพราะอย่างน้อยเรารู้จักตัวเองมาก
00:16:32 → 00:16:35 ขึ้นแล้วเรารู้แล้วว่าคทนไหนที่เราทำแล้ว
00:16:35 → 00:16:37 มันฝืนตัวเองมากๆอะไรเงี้ยแล้วเราก็เลย
00:16:37 → 00:16:40 ได้ปรับระหว่างทางไปเพราะว่าทีนี้เราก็จะ
00:16:40 → 00:16:42 รู้และว่าอันนี้เราทำแล้วเรารู้สึกไม่ดี
00:16:42 → 00:16:44 หรือเราไม่เป็นตัวเองหรือว่าช่วงไหนที่
00:16:44 → 00:16:47 เราต้องการพักมากๆแล้วก็พักระยะสั้นๆไป
00:16:47 → 00:16:50 ก่อนอะไรแบบเนี้ยค่อยๆถ่ายคลิปไปแล้วก็
00:16:50 → 00:16:52 โอเคขอพักสัก 2 วันแล้วกันขอนานหน่อยมัน
00:16:52 → 00:16:55 จะได้จูนตัวเองได้มากขึ้นก็พยายามพักเล็ก
00:16:55 → 00:16:57 ๆน้อยๆแบบนี้มาเรื่อยๆค่ะแล้วก็จูนตัวเอง
00:16:57 → 00:17:00 เรื่อยๆแล้วก็จริงๆก็ทำมาจนถึงทุกวันนี้
00:17:00 → 00:17:02 เลยถ้าฝืนทำในสิ่งที่ไม่ชอบเนี่ยทุกครั้ง
00:17:02 → 00:17:05 ที่ต้องทำมันจะเหนื่อยมากเลยแรงเราจะหมด
00:17:05 → 00:17:07 ไวมากทั้งๆที่แทบไม่ได้ทำอะไรแล้วก็จะรู้
00:17:07 → 00:17:10 สึกไม่มีแรงบันดาลใจไม่ครีเอทีฟคิดอะไร
00:17:10 → 00:17:14 ไม่ค่อยออกแต่ถ้าเรากำลังพยายามทำอะไรสัก
00:17:14 → 00:17:16 อย่างเพื่อพัฒนาตัวเองให้มันดีขึ้นเนี่ย
00:17:16 → 00:17:19 อย่างน้อยเราจะอยากทำอย่างน้อยเราจะอยาก
00:17:19 → 00:17:22 สู้เพื่อมันอดทนเพื่อมันมิ้นว่ามันเป็น
00:17:22 → 00:17:24 ฟีลลิ่งที่ต่างกันมากเลยเพราะว่าเราจะ
00:17:24 → 00:17:26 เห็นเป้าหมายที่อยู่ข้างหน้าเราว่ามันคือ
00:17:26 → 00:17:29 อะไรมันเลยทำให้เราอยากสู้มากพอเพื่อสิ่ง
00:17:29 → 00:17:32 นั้นน่ะค่ะก็ก็มีคิดอยู่บ่อยๆว่าตัวเอง
00:17:32 → 00:17:36 น่าจะใจดีกับตัวเองเหมือนที่ใจดีกับคน
00:17:36 → 00:17:39 อื่นบ้างนะมีมีคิดอย่างนั้นจริงๆก็เป็น
00:17:39 → 00:17:41 เรื่องที่พยายามเกลานิสัยอยู่เหมือนกัน
00:17:41 → 00:17:43 คือพยายามใจดีกับตัวเองให้ได้มากกว่านี้
00:17:43 → 00:17:46 พยายามไม่กดดันตัวเองให้เวลาตัวเองแล้วก็
00:17:46 → 00:17:47 ฟังเสียงร่างกายตัวเองเพราะว่าทุกวันนี้
00:17:47 → 00:17:51 ก็ยังยังมีความอย่างนั้นอยู่นิดนึงว่าแบบ
00:17:51 → 00:17:53 ต้องทำให้ได้สิทำไมทำไม่ได้ทำไมทำไม่ได้
00:17:54 → 00:17:56 ตามตารางอะไรแบบเยค่ะแต่ก็ไม่ได้หมายความ
00:17:56 → 00:17:58 ว่าใจร้ายกับตัวเองมากนะแค่รู้สึกว่าใจดี
00:17:58 → 00:18:01 กับตัวเองมากกว่านี้น่าจะดีถ้ากำลังจะเน
00:18:01 → 00:18:03 Out ถ้าเราฟังเสียงตัวเองอยู่ตลอดเราจะ
00:18:03 → 00:18:06 รู้แล้วว่าเอ๊ะทำไมอยู่ดีๆเราเริ่มขี้
00:18:06 → 00:18:08 เกียจทำอันนี้ขึ้นมาทั้งๆที่ปกติเราจะทำ
00:18:08 → 00:18:10 ได้สบายอะไรเงี้ยมันจะมีสัญญาณบอกมาก่อน
00:18:10 → 00:18:12 อยู่แล้วไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆเราเบิรน Out ไป
00:18:12 → 00:18:14 เลยแบบก่อนหน้านี้มีความสุขมากเราเบิร Out
00:18:14 → 00:18:16 ไปเลยไม่มีทางคือมันจะมีอะไรนิดนึงอ่ะที่
00:18:16 → 00:18:20 มันค่อยๆขึ้นมาทำไมอยู่ดีๆเป็นอยู่ดีๆก็
00:18:20 → 00:18:22 คิดอะไรไม่ค่อยออกอะไรแบบเยค่ะอยู่ดีๆก็
00:18:22 → 00:18:24 เหนื่อยไม่ค่อยอยากทำขี้เกียจมันจะมีอะไร
00:18:24 → 00:18:26 แบบนี้แทรกมาอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเราจะรู้
00:18:26 → 00:18:28 ได้ก่อนหน้านั้นแล้วเราต้องพักก่อนเลยไป
00:18:28 → 00:18:31 หาอะไรที่ทำแล้วสบายใจจแล้วก็อย่าลืม
00:18:31 → 00:18:33 เตือนตัวเองบ่อยๆว่าเราทำสิ่งนั้นเพราะ
00:18:33 → 00:18:36 อะไรเราชอบมันที่ตรงไหนแล้วเรากำลังทำ
00:18:36 → 00:18:39 อะไรเกินไปอยู่คือต้องเตือนตัวเองตลอดเลย
00:18:39 → 00:18:41 สุดท้ายทั้งหมดมันคือ awareness เลยจริงๆ
00:18:41 → 00:18:43 ก่อนที่เราจะ burn Out เพราะว่าพอ burn
00:18:43 → 00:18:46 Out ปุ๊บสำหรับบางคนมันกู้กลับมาไม่ได้
00:18:46 → 00:18:49 ด้วยซ้ำเราจะเบื่อสิ่งนั้นไปเลยเราอาจจะ
00:18:49 → 00:18:50 อยากไปทำอย่างอื่นเลยเพราะฉะนั้นก่อนที่
00:18:50 → 00:18:53 จะเบรน Out อย่าลืม
00:18:53 → 00:18:57 พักเราให้คะแนน 4 สมดุลของชีวิตกี่คะแนน
00:18:57 → 00:19:00 จากพี่เบเบนซ์ Fit Well Healthy ตัวพี่
00:19:00 → 00:19:02 เบนซ์เองเนี่ยเป็นพยาบาลเนาะตั้งแต่เรียน
00:19:02 → 00:19:05 จบมาเราก็ทำงานในสายแบบตรงเลยทำงานประมาณ
00:19:05 → 00:19:09 10 กว่าปีนะคะตอนนั้นเราตั้งใจทำงานมาก
00:19:09 → 00:19:12 ขึ้น OT อะไรแบบนี้โฟกัสทำงานหาเงินไม่
00:19:12 → 00:19:15 ได้ดูแลสุขภาพเลยแล้วก็อยู่ดีๆก็ป่วยค่ะ
00:19:15 → 00:19:17 พอเราหายป่วยเราก็เหมือนโหขอบคุณตัวเอง
00:19:18 → 00:19:20 จังเลยที่ฉันหายแล้วก็เฮ้ยฉันต้องกลับมา
00:19:20 → 00:19:23 ดูแลตัวเองแล้วนะลงมือทำทุกวันให้มันดี
00:19:23 → 00:19:25 ที่สุดจนวันนี้ก็ 5 ปีแล้วค่ะที่ออกมาตอน
00:19:25 → 00:19:28 ที่พี่จบมาใหม่ๆนะเป้าหมายของพี่ๆจะบอก
00:19:28 → 00:19:32 ว่าพี่อยากสำเร็จมีบ้านมีรถมีงานทำแล้วก็
00:19:32 → 00:19:36 มีเงินเยอะๆจนวันนึงเนี่ยเราก็เลยกลับมา
00:19:36 → 00:19:39 หาคำตอบให้กับตัวเองสุดท้ายแล้วเป้าหมาย
00:19:39 → 00:19:42 ของพี่อ่ะพี่อยากมีชีวิตที่สมดุลพอเรา
00:19:42 → 00:19:44 อยากมีชีวิตที่สมดุลก็เลยมาให้คำถามตัว
00:19:44 → 00:19:46 เองนี่แหละแล้วก็ตอบตัวเองว่าสมดุลคือ
00:19:47 → 00:19:50 อะไรพี่อยากมีแบบงานที่ดีรายได้ดีอยากมี
00:19:50 → 00:19:53 ความสัมพันธ์ที่ดีแล้วก็มีสุขภาพที่ดีคิด
00:19:53 → 00:19:56 ว่าถ้าเรามีเป้าหมาย 4 อย่างเนี้ยพี่ก็
00:19:56 → 00:19:58 บอกกับตัวเองว่ามันคือ 4 เสาหลักของของ
00:19:58 → 00:20:01 พี่ถ้า 4 อย่างนี้สมดุลนี่แหละคือเป้า
00:20:01 → 00:20:04 หมายที่ชีวิตเราสำเร็จและแล้วทำยังไงล่ะ
00:20:04 → 00:20:07 สมดุลก็เลยออมันต้องให้คะแนนตัวเองนะคะ
00:20:07 → 00:20:09 เรื่องงานตอนเนี้ยเราให้คะแนนตัวเองเท่า
00:20:09 → 00:20:13 ไหร่งานเราดีมยทำแล้วมีความสุขหรือเปล่า
00:20:13 → 00:20:15 ตอบโจทย์เราหรือเปล่าใช้เวลาในการทำงาน
00:20:15 → 00:20:18 แต่ละวันเหมาะสมมแล้วมันก็สอดคล้องไปข้อ
00:20:18 → 00:20:22 ที่ 2 งานดีแล้วผลลัพธ์ดีมล่ะรายได้ดีตอบ
00:20:22 → 00:20:26 โจทย์กับงานที่เราทำมหลายคนบอกว่างานดี
00:20:26 → 00:20:29 มากเลยแต่เงินไม่พอใช้ไม่พอเก็บสำหรับพี่
00:20:29 → 00:20:32 แบบนี้คือไม่ดีงานดีแล้วต้องมีเงินพอใช้
00:20:32 → 00:20:35 มีเก็บให้เราแบบอุ่นใจแล้วก็แบบวางแผน
00:20:35 → 00:20:38 เกษียณอายุเนาะให้คะแนนตัวเองลงไปสมมุติ
00:20:38 → 00:20:40 ว่าเต็ม 10 เราให้เท่าไหร่ส่วนข้อที่ 3
00:20:40 → 00:20:43 เรื่องความสัมพันธ์เนี่ยหลายคนพอพูดถึง
00:20:43 → 00:20:46 ความสัมพันธ์ก็จะนึกถึงแฟนหรือว่าคู่
00:20:46 → 00:20:48 ชีวิตแต่จริงๆสำหรับพี่ความสัมพันธ์มัน
00:20:49 → 00:20:52 มากไปกว่านั้นความสัมพันธ์กับพ่อแม่พี่
00:20:52 → 00:20:55 น้องลูกน้องเจ้านายเพื่อนเป็นยังไงเราลอง
00:20:55 → 00:20:58 ให้คะแนนลงไปว่าเอ้ยเราทำงานเก็บเงินนะ
00:20:58 → 00:21:00 เรามีเวลาให้ครอบครัวบ้างหรือเปล่ามี
00:21:00 → 00:21:03 โอกาสได้จุนเจือช่วยเหลือครอบครัวเรามย
00:21:03 → 00:21:05 แบบเนี้ยค่ะแล้วก็ส่วนข้อสุดท้ายก็คือ
00:21:05 → 00:21:08 เรื่องสุขภาพหลายๆคนพอเรียนจบมาน่ะพี่
00:21:08 → 00:21:11 เชื่อว่าเรื่องสุขภาพส่วนใหญ่เราจะไม่
00:21:11 → 00:21:13 ค่อยโฟกัสกันเท่าไหร่เพราะว่าตอนที่เรา
00:21:13 → 00:21:16 อายุน้อยๆอ่ะเราใช้ร่างกายแบบเต็มที่มัน
00:21:16 → 00:21:19 ก็ไม่ค่อยป่วยแต่บางทีพอถึงจุดนึงที่เรา
00:21:19 → 00:21:22 ลืมไปเนาะเวลาเราป่วยอ่ะมันไม่ค่อยมีแบบ
00:21:22 → 00:21:25 บ่งชี้มาก่อนว่าฉันจะป่วยนะหลายคนก็ป่วย
00:21:25 → 00:21:28 หนักเลยแบบเนี้ยค่ะก็ลองให้คะแนนตัวเองไป
00:21:28 → 00:21:32 ฉันสุขภาพดีมยสดชื่นดีอยู่หรือเปล่ามีแรง
00:21:32 → 00:21:35 ทำงานมยเคยตรวจสุขภาพประจำปีบ้างมยเลือก
00:21:35 → 00:21:38 กินมยนอนพอมออกกำลังกายหรือเปล่าพอให้
00:21:38 → 00:21:41 คะแนนตัวเองลงไปปุ๊บปรากฏว่าข้อไหนน้อย
00:21:42 → 00:21:45 เราก็เพิ่มข้อไหนเยอะอยู่แล้วก็ทำดีต่อไป
00:21:45 → 00:21:47 อันเนี้ยค่ะคือเป้าหมายในชีวิตของพี่ว่า
00:21:47 → 00:21:50 อยากให้ 4 อย่างนี้มันสมดุลแล้วชีวิตมัน
00:21:50 → 00:21:53 ก็จะสำเร็จแล้วก็มีความสุขไปในทุกๆวันแบบ
00:21:53 → 00:21:56 ง่ายเลยไม่ต้องหลงทางว่าโหเป้าหมายฉันคือ
00:21:56 → 00:21:59 อะไรน้อมันดูใหญ่มันดูหักไกลเหลือเกินแค่
00:21:59 → 00:22:01 ทำ 4 อย่างนี้ให้สมดุลเราก็รู้สึกว่าเรา
00:22:01 → 00:22:04 มีความสุขแล้วก็สำเร็จได้ในทุกวันค่ะสิ่ง
00:22:04 → 00:22:07 ที่สอนคุณมานิชอุดมคุณธรรมเจ้าของน้ำแร่
00:22:07 → 00:22:11 6ดีในวันที่สำเร็จมนุษย์เราพยายามหาให้
00:22:11 → 00:22:16 ฐานะตัวเองดีแต่มนุษย์เราไม่เคยคิดถึง
00:22:16 → 00:22:20 สุขภาพตัวเองไม่เคยดูแลตัวเองไม่เคยใส่ใจ
00:22:20 → 00:22:23 ที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงบ่อยครั้งเนี่ย
00:22:23 → 00:22:26 โดยพฤติกรรมของมนุษย์มนุษย์เราให้กับคำ
00:22:26 → 00:22:29 ว่าพ่อแม่เป็นสิ่งสสำคัญที่สุดรองลงมาคือ
00:22:29 → 00:22:33 ลูกเมียนะเป็นอนัน 2 แต่จริงๆอ่ะมาถึงณ
00:22:33 → 00:22:36 ตอนนี้เนี่ยคำถามผมว่าไม่ใช่ทั้ง 2 อย่าง
00:22:36 → 00:22:39 ความรักและความผูกพันพ่อแม่มันเป็นสิ่ง
00:22:39 → 00:22:42 หนึ่งที่เราต้องรับแต่ตัวเราตั้งหาก่ะใาย
00:22:42 → 00:22:46 ของเราคุณเคยดูแลกายมยคุณเคยใส่ใจมว่าให้
00:22:46 → 00:22:50 กายของคุณแข็งแรงบ่อยครั้งที่คุณเอา
00:22:50 → 00:22:53 บุหรี่เผาปอดบ่อยครั้งคุณเอาแอลกอฮอล์ทำล
00:22:53 → 00:22:57 ต่บ่อยครั้งจากน้ำหนักหนุ่มๆของคุณดีแต่
00:22:57 → 00:23:00 พอแก่แกตัวพะน้ำหนักเพิ่มอีก 1030 กล
00:23:00 → 00:23:03 อย่างเงี้ยคุณไม่เคยคิดถึงเลยเรื่องกาย
00:23:03 → 00:23:07 ของคุณคุณหาเงินทำไมอ่ะในเมื่อร่างกายคุณ
00:23:07 → 00:23:11 หาเงินมาเพื่อให้หมอทรมานจริงๆเวลาญาติไป
00:23:11 → 00:23:15 โรงพยาบาลนะตอนที่กินไม่ได้ต้องใส่หรือ
00:23:15 → 00:23:20 ออกซิเจนน่ะอู้หแกบอกอู้หมันทรมานมันขูด
00:23:20 → 00:23:23 ไอ้ไอหลอดลงมาถึงขนาดว่าปล่อยฉันไปเถิด
00:23:23 → 00:23:26 ฉันไม่เอาแล้วทรมานขนาดนี้มนุษย์ไม่เคย
00:23:26 → 00:23:30 มองสิ่งเไม่เคยคิดถึงว่าทำยังไงถึงจะทำ
00:23:30 → 00:23:34 ให้สุขภาพคุณเป็นหนึ่งไม่ใช่เงินเงินไม่
00:23:34 → 00:23:38 สำคัญการหาเงินมาแล้วไปให้หมอทรมานเรานะ
00:23:38 → 00:23:42 จะตายก็ยังตายไม่ได้มันไม่คุ้มอ่ะเราไม่
00:23:42 → 00:23:46 เคยดูตัวเองเราไม่เคยคิดถึงตัวเองว่าเรา
00:23:46 → 00:23:49 อ่ะหาเงินเพื่ออะไรหาเงินเพื่อให้หมอมาทำ
00:23:49 → 00:23:54 ให้เราตายยากและทรมานมากนี่คือภาพจริงนะ
00:23:54 → 00:23:57 คล้ายกับจิตอสำคัญที่สุดตอนนี้ผมไปถึงจิต
00:23:57 → 00:24:01 แล้วแล้วนะว่าพระพุทธเจ้าสละราชสมบัติสละ
00:24:01 → 00:24:04 ความเป็นกษัตริย์มาศึกษาเรื่องจิตแล้วก็
00:24:05 → 00:24:08 แนะนำเรื่องจิตแต่ปรากฏว่าคนไทยอ่ะเป็น
00:24:08 → 00:24:12 พุทธในลักษณะสัมโนครัวไกลๆเกิดมาก็พุทธ
00:24:12 → 00:24:15 แล้วเพราะในทะเบียนใส่ให้แต่เปอร์เซ็นต์
00:24:15 → 00:24:18 ที่เป็นพุทธจริงๆอ่ะน้อยมากแม้กระทั่ง
00:24:18 → 00:24:21 เรื่องสติพลังสติก็ยังน้อยมากเลยมีแต่ตัว
00:24:21 → 00:24:25 กูของกูมากที่สุดนี่คือชีวิตมนุษย์เรานะต
00:24:25 → 00:24:30 ตอนนี้บทเรียนของสตกทำให้ผมที่สวรเล็กทำ
00:24:30 → 00:24:33 เนี่ยมันไม่ใช่ทำเพื่อเงินนะแต่ทำเพื่อ
00:24:33 → 00:24:36 สอนนักธุรกิจว่าคุณหาเงินมาเยอะแล้วคุณ
00:24:36 → 00:24:39 ให้อะไรกับชีวิตเราคุณเคยว่าธรรมชาติ
00:24:39 → 00:24:42 เนี่ยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดต้นไม้ความร่ม
00:24:42 → 00:24:45 รื่นการไม่นอนแอร์นี้น่ะมันเป็นสิ่งที่
00:24:45 → 00:24:48 เราควรจะผมไปวเลกนะไม่เคยเปิดแอร์เลยกลาง
00:24:48 → 00:24:52 มุ้งนอนตรงตรงข้างนอกระเบียงทุกครั้งไป
00:24:52 → 00:24:54 อย่างนี้เลยเพราะว่ามันมีโอโซน 7 มันมี
00:24:54 → 00:24:57 สิ่งดีที่สุดแต่คุณยกห้องนอนที่กุ
00:24:57 → 00:25:00 กรุงเทพฯอ่ะไปถึงเขาใหญ่ก็อยู่นี่คือภาพ
00:25:00 → 00:25:03 จริงๆนะฮะมันเปลี่ยนหมดเปลี่ยน Attitude
00:25:03 → 00:25:07 อะไรก็กูถูก่ะอะไรกูก็ดีหมดอะไรก็มึงผิด
00:25:07 → 00:25:10 หมดกูดีสักอย่างเดียวการคิดเช่นนั้นเนี่ย
00:25:10 → 00:25:14 แม่ทั้งป่วยเราก็ยังคิดว่าโชคชะตาเอ่ย
00:25:14 → 00:25:17 หรือฟ้าลิขิตเ่ยแต่ไม่เคยโทษว่าเราบก
00:25:17 → 00:25:21 พร่องเราควรจะเสริมหรือควรจะพัฒนาหรือควร
00:25:21 → 00:25:23 จะเปลี่ยนแปลงวิธีการกินหรือควรจะเปลี่ยน
00:25:23 → 00:25:26 แปลง Attitude ของความคิดเพื่อให้เพราว
00:25:26 → 00:25:29 กับอารมณ์ของความโกธอารมณ์ของความไม่พอใจ
00:25:29 → 00:25:32 เราไม่เคยคิดแต่เราคิดแต่พยายามที่จะปิด
00:25:32 → 00:25:35 บังตัวเองปิดบังข้อบกพร่องตัวเองเพื่อให้
00:25:35 → 00:25:38 เราถูกคุณรวยแล้วนะคุณไม่ต้องไปแข่ง
00:25:38 → 00:25:41 เรื่องว่าฉันรวยหรือชั้นอะไรผมว่าคุณอยู่
00:25:41 → 00:25:45 สบายๆและพักผ่อนชีวิตสิ่งสำคัญที่สุดคุณ
00:25:45 → 00:25:49 หันมาดูตัวเองมาดูการออกกำลังกายเดี๋ยว
00:25:49 → 00:25:52 นี้ผมขี่จักรยานเจอใครก็ชวนที 100 กล 100
00:25:52 → 00:25:55 กลอย่างเงี้ยแล้วคุณมีโอกาสไปขี่เมืองนอก
00:25:55 → 00:25:59 นะ edom กว่าเยอะขี่จักรยานผมว่ามีความ
00:25:59 → 00:26:02 สุขมากกว่าวิ่งมาราธอนวิ่งมาราธอนถึงจุด
00:26:02 → 00:26:06 นึง 40 กมันเอาใจวิ่งอ่ะกายมันวิ่งไม่ไหว
00:26:06 → 00:26:10 โดยโดยคิมันนะแต่ขี่จักรยานคุณขี่ได้ถึง
00:26:10 → 00:26:15 200 กลและยิ่งขี่ตาคุณมองวิสัยทัศน์คุณ
00:26:15 → 00:26:20 ได้เห็นเอ่อทุกอย่างของบรรยากาศสวยหมดเลย
00:26:20 → 00:26:23 นะแล้วก็ปลอดภัยที่สุดด้วยถ้าไม่ประมาทนะ
00:26:23 → 00:26:26 คุณต้องการร่างกายแข็งแรงหรือคุณต้องการ
00:26:26 → 00:26:28 อวด
00:26:28 → 00:26:31 ถ้าคุณต้องการอวดคุณก็อวดเพราะว่าคุณอวด
00:26:31 → 00:26:34 ได้อยู่แล้วแต่การอวดกับการร่างกายแข็ง
00:26:34 → 00:26:37 แรงมันต่างกันนะร่างกายแข็งแรงมันมีคุณ
00:26:37 → 00:26:40 ประโยชน์สูงสำหรับอนาคตคุณการอวดโดยไม่
00:26:40 → 00:26:43 มองร่างกายเนี่ยอนาคตคุณจะต้องไปอวดกับ
00:26:43 → 00:26:46 หมอตลอดอชีวิตคุณจะเปลี่ยนเป็นหมอล่ะใน
00:26:46 → 00:26:50 ฐานะที่คุณฉลาดคุณทำธุรกิจดีแต่คุณไม่ให้
00:26:50 → 00:26:53 รางวัลชีวิตตัวเองคุณเอาความจอมปลอมแล้ว
00:26:54 → 00:26:57 ก็มาหลอกตัวเองมาสร้างตัวเองมนุษย์เรานี่
00:26:57 → 00:27:00 นะสิ่งสำคัญคือกายกับจิตความแข็งแรงของ
00:27:00 → 00:27:03 ร่างกายอ่ะเป็นตัวที่ทำให้คุณมีชีวิตที่
00:27:03 → 00:27:07 ยืนอยู่ยาวนานและอยู่อย่างมีความสุขไอ้
00:27:07 → 00:27:10 ของจอมปลอมไอ้ไม่ว่าจะรดคันละ 100 ล้าน
00:27:10 → 00:27:12 หรืออะไรต่างๆมันจอมปลอมทั้งนั้นนะมันไม่
00:27:12 → 00:27:15 ได้ช่วยทำให้ร่างกายคุณสบายบางทีนอนไม่
00:27:15 → 00:27:18 หลับด้วยซ้ำไปไม่ว่าใครจะมีมุมมองเรื่อง
00:27:18 → 00:27:21 work Life Balance และการพักยังไงสิ่ง
00:27:21 → 00:27:24 หนึ่งที่เราควรทำคือการเคารพในเวลาและมุม
00:27:24 → 00:27:26 มองที่แตกต่างกันไม่มีมุมมองที่เป็นสูตร
00:27:26 → 00:27:28 สำเร็จทั้งหมดขอให้ทุกคนที่ฟังได้
00:27:28 → 00:27:31 ประโยชน์จากคลิปนี้และมีสุขภาพกายใจที่ดี
00:27:31 → 00:27:33 ด้วยนะคะเมื่อคุณดูคลิปนี้จบแล้วอย่าลืม
00:27:33 → 00:27:36 กดไลค์กดแชร์และกด Subscribe เพื่อเป็น
00:27:36 → 00:27:39 กำลังใจให้ทีมงานผลิตคทนดีๆและถ้าคุณอยาก
00:27:39 → 00:27:42 ให้เราไปสัมภาษณ์ใครสามารถคอมเมนต์เข้ามา
00:27:42 → 00:27:43 ใต้คลิปนี้ได้เลยนะ
00:27:43 → 00:27:52 [เพลง]
00:27:52 → 00:27:55 คะ