อะไรคือปริมาณโซเดียมที่แนะนำให้ทานต่อวันเพื่อสุขภาพดี

EP156 : 7 สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อท่านกินเค็มมากเกินไป

จากช่อง : Doctor Top


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:01 การกินเค็มกันครับ

00:00:0100:00:06 7 สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อท่านกินเค็มมากเกินไปครับ

00:00:0600:00:09 อันตรายกันแบบสุดๆ เลยทีเดียวสำหรับวันนี้นะครับ

00:00:1700:00:19 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อปนะครับ

00:00:1900:00:20 และนี่คือ DOCTOR TOP Channel

00:00:2000:00:24 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระครับ

00:00:2500:00:29 วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง การกินเค็ม

00:00:2900:00:34 7 สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อท่านกินเค็มมากเกินไปครับ

00:00:3400:00:37 อันตรายกันแบบสุดๆ เลยทีเดียวสำหรับวันนี้

00:00:3700:00:38 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share

00:00:3800:00:41 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ

00:00:4100:00:44 ก่อนที่เราจะไปกันครับ ท่านไหนมีเวลาน้อย

00:00:4400:00:47 ข้ามไปที่ 3 นาทีสุดท้าย ผมสรุปไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

00:00:4700:00:49 แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านมีเวลานะครับ

00:00:4900:00:51 ขอแนะนำให้ย้อนกลับ มาดูมาลงรายละเอียดกัน

00:00:5100:00:56 เพราะว่าบางทีมันมีรายละเอียดบางอย่างที่สำคัญ

00:00:5600:00:58 ที่สำคัญและจะนำไปใช้ได้จริงนะครับ

00:00:5800:01:02 สำหรับท่านที่มีเวลา จิตใจพร้อมแล้ว เราไปพร้อมๆ กัน

00:01:0200:01:04 สำหรับเรื่องของการกินเค็มเนี่ยครับ

00:01:0400:01:06 เขาเรียกว่าเป็นสิ่งที่คู่คนไทยเลย

00:01:0600:01:07 ต้องบอกงี้ครับ

00:01:0700:01:13 คนไทยกินเค็มมากกว่ามาตรฐานประมาณ 2-3 เท่า

00:01:1300:01:15 แล้วมาตรฐานคืออะไร

00:01:1500:01:18 โดยปกติแล้วเนี่ยมีการแนะนำ

00:01:1800:01:22 มีข้อแนะนำว่าไม่ควรทานโซเดียมนะครับ

00:01:2200:01:25 ใช้คำว่า "โซเดียม" เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน

00:01:2500:01:30 เมื่อโซเดียม 2,000 มิลลิกรัม ก็เทียบกับเกลือ 1 ช้อนชา

00:01:3000:01:35 ก็คือ 5 กรัม เกลือ 5 กรัม มีโซเดียมประมาณ 2,000 มิลลิกรัม

00:01:3500:01:39 แปลว่านี่คือความเค็มที่แนะนำให้เราทานครับ

00:01:3900:01:40 ก็คือเกลือ 1 ช้อนชาเท่านั้นเอง

00:01:4000:01:44 ถ้าท่านทานมากกว่านี้ ก็แปลว่าฐานมากเกินไปแล้ว

00:01:4400:01:46 ซึ่งค่าเฉลี่ยคนไทยก็คือ

00:01:4600:01:49 ความเค็มก็คือประมาณทานเกลือวันละ 3 ช้อนชา

00:01:4900:01:52 ก็คือมื้อละ 1 ช้อนชา เต็มๆ นั่นเองครับ

00:01:5300:01:57 ซึ่งทำให้โรคต่างๆ เป็นขึ้นมากเลยก็อันตรายนิดนึง

00:01:5700:01:59 ถ้าเทียบกับน้ำปลานะครับ

00:01:5900:02:03 น้ำปลาหรือซีอิ๊วเนี่ย 2 ช้อนชา

00:02:0300:02:06 ถ้าน้ำจิ้มต่างๆ เนี่ย 4-5 ช้อนโต๊ะ

00:02:0600:02:08 โอเคนะครับ ขอย้ำอีกครั้งนะครับ

00:02:0800:02:10 ถ้าเป็นเกลือ 1 ช้อนชา

00:02:1000:02:13 ถ้าเป็นน้ำปลาหรือน้ำซีอิ๊ว 2 ช้อนชา

00:02:1300:02:17 ถ้าเป็นน้ำจิ้ม น้ำจิ้มสุกี้ น้ําจิ้มข้าวมันไก่

00:02:1700:02:21 น้ำจิ้มต่างๆ คือ 4-5 ช้อนโต๊ะ อันนี้ใหญ่ขึ้นมานิดหนึ่ง

00:02:2100:02:22 ช้อนโต๊ะนะครับ

00:02:2200:02:24 ถ้าท่านทานเกินนี้แปลว่าถ้าเค็มมากเกินไป

00:02:2400:02:28 และเมื่อทานเค็มมากเกินไปก็จะเกิด 7 สิ่งนี้เกิดขึ้นครับ

00:02:2800:02:31 จะแบ่งเป็นแบบชั่วคราว 3 อย่าง

00:02:3100:02:35 และจะแบ่งเป็นแบบระยะยาว 4 อย่างนะครับ

00:02:3500:02:38 เมื่อท่านทานเค็มช่วงแรกๆ ก็คือว่า

00:02:3800:02:41 ทานภายในแบบ วันนี้กินเค็มมากๆ เลย

00:02:4100:02:42 ใน 24 ชั่วโมง กินเค็มมากๆ เลย

00:02:4200:02:44 หรือในสัปดาห์นี้ กินเค็มมากๆ เลย

00:02:4400:02:46 จะเกิด 3 อย่าง นี้ครับ

00:02:4600:02:49 อย่างแรกก็คืออาการบวมน้ำครับ

00:02:4900:02:52 ตัวเราก็จะบวม หนังตาเราก็จะบวมนะครับ

00:02:5200:02:55 โดยเฉพาะมือเท้าก็จะบวมมาก

00:02:5500:02:59 บางท่านอาจสังเกตว่าบางครั้ง ทำไมมันบวมไปทั้งตัวเลย

00:02:5900:03:01 ผมมีวิธีเทคนิคสังเกตง่ายๆ ครับ

00:03:0100:03:04 ให้นำนิ้วของท่านไปกดที่หน้าแข้งของท่าน

00:03:0400:03:08 เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านกดหน้าแข้งของท่านแล้วมันบุ๋มลงไป

00:03:0800:03:13 เราเรียกภาษาแพทย์ว่าบวมกดบุ๋มนะครับ

00:03:1300:03:16 และเราปล่อยมือออกมาไอ้รอยบุ๋มนั้นเนี่ยยังคงอยู่

00:03:1600:03:20 ไม่เด้งกลับมาแปลว่าท่านมีอาการบวมน้ำอย่างชัดเจน

00:03:2000:03:23 ซึ่งอาการบวมน้ำอย่างชัดเจนเนี่ย

00:03:2300:03:27 ก็จะทำให้เกิดผลเสียแล้วก็เป็นโรคหลายๆ อย่างตามมาเลย

00:03:2700:03:28 อันนี้อันตรายมากๆ นะครับ

00:03:2800:03:34 นี่ก็คือภาวะอาการบวมน้ำที่เกิดจากการทานเค็มมากเกินไป

00:03:3500:03:37 มาต่อกันที่อาการอย่างที่ 2 ครับ

00:03:3700:03:44 ก็คือมีภาวะความดันสูงขึ้นอย่างเฉียบพลัน

00:03:4400:03:47 คือเมื่อเราทานเค็มมากในวันเนี้ยเนี่ย

00:03:4700:03:50 ร่างกายของเราเนี่ยว่าจะมีเกลืออยู่ในร่างกายมาก

00:03:5000:03:52 ซึ่งภาวะการเกลืออยู่ในร่างกายมาก

00:03:5200:03:54 เขาเรียกว่าค่าโซเดียมในร่างกายจะสูง

00:03:5400:03:56 ร่างกายเราจะพยายามทำให้โซเดียมต่ำ

00:03:5600:04:00 เพราะโซเดียมสูงจะเกิดภาวะชัก ภาวะมึนงง สับสน

00:04:0000:04:03 พูดจาไม่รู้เรื่อง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

00:04:0300:04:04 เพราะฉะนั้นร่างกายเราจะทำยังไง

00:04:0400:04:06 ร่างกายเราจะบอกว่างั้นดึงน้ำเข้ามา

00:04:0600:04:08 ดูดน้ำเข้ามาในร่างกาย

00:04:0800:04:11 เพื่อละลายให้โซเดียมไม่เข้มข้นจนเกินไป

00:04:1100:04:15 สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเลือดหรือน้ำเข้ามาในร่างกาย

00:04:1500:04:18 มาในเส้นเลือดมาก ความดันจะพุ่งขึ้นสูงขึ้น

00:04:1800:04:21 ถ้าท่านโดยส่วนใหญ่มีความดันทั่วไปมันพุ่งสูงนิดนึง

00:04:2100:04:22 มันก็ไม่เป็นไรหรอกครับ

00:04:2200:04:25 แต่ถ้าท่านเป็นคนมีภาวะความดันสูงอยู่แล้ว

00:04:2500:04:29 แล้วท่านสูงขึ้นไปอีก มันสูงทะลุเพดานขึ้นไปอย่างนี้

00:04:2900:04:34 สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะโชคร้ายจนเส้นเลือดในสมองแตกได้

00:04:3400:04:37 ซึ่งเส้นเลือดในสมองแตกอย่างเบาะๆ ก็พิการครับ

00:04:3800:04:41 อยากแย่ก็เสียชีวิต เป็นเจ้าชายนิทรานะครับ

00:04:4100:04:44 อันตรายมากๆ และนี่ก็คืออย่างที่ 2 ครับ

00:04:4500:04:48 มาต่อกันที่อาการอย่างที่ 3 ครับ

00:04:4800:04:51 เมื่อท่านทานเกลือหรือทานเค็มมากเกินไป

00:04:5100:04:54 นั่นคือท่านจะมีภาวะหิวน้ำมากๆ นะครับ

00:04:5400:04:59 ภาวะหิวน้ำมากๆ เนี่ยก็จะมีข้อเสียด้วยนะครับ

00:04:5900:05:04 ให้ท่านนึกถึงภาวะที่ท่านกำลังนั่งดู Netflix ตอนกลางคืน

00:05:0400:05:09 แล้วก็มีมันฝรั่งอบกรอบนั่นแหละครับ

00:05:0900:05:12 แหมะ มันอร่อย มันมัน มันเค็ม

00:05:1200:05:14 ท่านกินไปน้ำก็ต้องตาม

00:05:1400:05:17 ท่านกินมันฝรั่งอบกรอบ น้ำก็ต้องตาม

00:05:1700:05:19 เพราะว่ามีเกลือสูงมากๆ เลยนะครับ

00:05:2000:05:24 คือในมันฝรั่งอบกรอบถุงนึงคือถ้าท่านทานหมดถุง

00:05:2400:05:28 วันนั้นปริมาณเกลือในร่างกายของท่านน่าจะสูงมากๆ เลย

00:05:2800:05:30 ก็คือเกินค่ากำหนดไปแล้วนะครับ

00:05:3000:05:33 ถ้าบอกว่าทานตอนเช้าเนี่ยมันก็อาจจะไม่เท่าไหร่

00:05:3300:05:35 แต่ถ้าท่านทานก่อนนอนนะครับ

00:05:3500:05:39 และมีภาวะหิวน้ำมาก ท่านต้องทานน้ำเข้าไปเยอะ

00:05:3900:05:41 ทานน้ำเข้าไปเยอะ แล้วท่านก็เข้านอน

00:05:4100:05:45 ตอนกลางคืนท่านก็ต้องตื่นมาปัสสาวะหลายๆ รอบนะครับ

00:05:4500:05:47 คืนนึงอาจจะ 2 รอบ 3 รอบ 4 รอบ

00:05:4700:05:49 ก็ทำให้การนอนของท่านแย่ลงนะครับ

00:05:4900:05:53 เพียงแค่การดื่มน้ำมากจะทำให้ภาวะการนอนของท่านแย่ลง

00:05:5300:05:57 และเมื่อการนำของท่านแย่ลง สิ่งแย่ๆ ต่างๆ ก็ตามมา

00:05:5700:06:00 เพราะว่าการนอนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิตเลยครับ

00:06:0000:06:02 เพราะมันคือ 1 ใน 3 ของชีวิต

00:06:0200:06:05 ถ้าท่านนอนดี ชีวิตท่านก็ดี

00:06:0500:06:09 เพราะฉะนั้นการทานเกลือมากๆ ก่อนนอน

00:06:0900:06:11 หรือการทานน้ำมากๆ จนเกินไปก่อนเข้านอน

00:06:1100:06:13 ก็จะทำให้ท่านปัสสาวะบ่อยมากๆ

00:06:1300:06:17 และทำให้การหลับของท่านมีปัญหานั่นเองครับ

00:06:1700:06:20 คราวนี้เรามาต่อกันที่ข้อที่ 4 ถึงข้อที่ 7 กันครับ

00:06:2100:06:23 ข้อที่ 4 ถึง ข้อที่ 7 จะเกิดขึ้น

00:06:2300:06:28 เมื่อท่านทานเค็มมาเป็นระยะเวลายาวนานนะครับ

00:06:2800:06:30 และน่ากลัวมากๆ ครับ

00:06:3000:06:32 มาดูข้อแรกกันก่อนข้อที่ 4 นะครับ

00:06:3200:06:36 ก็คือภาวะความดันขึ้นแบบเรื้อรัง

00:06:3600:06:40 เมื่อท่านทานเกลือหรือทานเค็มมากๆ เนี่ย

00:06:4000:06:42 ท่านก็จะมีภาวะความดันสูงแบบเรื้อรัง

00:06:4200:06:45 ก็คือสูงไปตลอด ไม่ใช่แค่สูงวันเดียวอีกวันปกติ

00:06:4500:06:47 คือสูงทุกๆ วัน

00:06:4700:06:50 และเมื่อไหร่ก็ตามที่มีความดันสูงไปตลอด

00:06:5000:06:53 เส้นเลือดเราก็ต้องรับภาระจากแรงดันที่มากขึ้น

00:06:5300:06:56 เส้นเลือดเราจะเสื่อมจะตีบ

00:06:5600:07:00 เมื่อเส้นเลือดตีบที่สมองเป็นไงครับ อัมพาต

00:07:0000:07:03 ตีบที่หัวใจเป็นไงครับ หัวใจขาดเลือด

00:07:0300:07:06 ตีบที่แขนที่ขาโดนตัดแขนตัดขาครับ

00:07:0600:07:10 อันตรายมากๆ สำหรับโรคภาวะความดันโลหิตสูงแบบเรื้อรัง

00:07:1000:07:12 เพราะฉะนั้นแล้วถ้าท่านไหนกินเค็มมาก

00:07:1300:07:14 จนมีภาวะความดันสูงแบบเรื้อรัง

00:07:1400:07:20 1.ต้องรักษาภาวะความดันสูง 2. ต้องลดเค็มอย่างเร่งด่วน

00:07:2000:07:22 มาต่อกันที่ข้อที่ 5 ครับ

00:07:2200:07:28 ข้อที่ 5 ก็คือมีความเสี่ยงของมะเร็งกระเพาะอาหารสูงมากขึ้น

00:07:2900:07:31 ก็ต้องบอกว่ามีการวิจัยและการเก็บข้อมูลครับ

00:07:3100:07:37 ถ้าท่านทานโซเดียมมากกว่า 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน

00:07:3700:07:42 มากกว่า 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณเกลือ 1 ช้อนชาครึ่ง

00:07:4200:07:46 มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นถึง 68%

00:07:4600:07:51 อันนี้วิจัยในคนถึงประมาณ 268,000 คน

00:07:5100:07:53 ไม่น้อยนะครับ

00:07:5300:07:56 ถ้าเทียบกับคนที่กินเพียงแค่ 1,000 มิลลิกรัม

00:07:5600:07:58 หรือครึ่งช้อนชาต่อวัน

00:07:5800:08:02 คือเขามีความเชื่อว่าตัวเกลือหรือตัวโซเดียมที่มากเนี่ย

00:08:0200:08:04 มันจะไปทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหาร

00:08:0400:08:08 และทำให้กระเพาะอาหารของท่านเกิดอาการอักเสบขึ้นมาเรื้อรัง

00:08:0800:08:12 เป็นๆ หายๆ จนมันเปลี่ยนกลายเป็นมะเร็งขึ้นนะครับ

00:08:1200:08:15 เพราะฉะนั้นแล้วก็พยายามที่จะลดเค็มเท่าที่เป็นไปได้

00:08:1500:08:20 ชีวิตของท่านก็จะห่างไกลจากมะเร็งกระเพาะอาหารนั่นเองครับ

00:08:2000:08:22 มาต่อกันที่ข้อที่ 6 ครับ

00:08:2200:08:27 ข้อที่ 6 ก็คือมีความเสี่ยงของโรคหัวใจมากขึ้น

00:08:2700:08:30 เรื่องของการกินเค็มเนี่ยนะครับ

00:08:3000:08:35 ก็จะทำให้เรามีภาวะน้ำคั่งในร่างกาย มีความดันโลหิตสูง

00:08:3500:08:37 มีหลายๆ อย่างปนกันมา

00:08:3700:08:40 ซึ่งทำให้หัวใจของเราต้องทำงานหนักมากกว่าเดิม

00:08:4000:08:42 เมื่อหัวใจของเราทำงานหนักมากกว่าเดิม

00:08:4200:08:47 โอกาสที่หัวใจขาดเลือดเพราะต้องใช้พลังงานมากก็เป็นไปได้

00:08:4700:08:50 เกิดหัวใจวาย เพราะทำงานหนักเกินไปก็เป็นไปได้

00:08:5000:08:53 เพราะฉะนั้นการกินเค็มเป็นระยะเวลายาวนาน

00:08:5300:08:56 ก็จะทำให้ท่านมีปัญหาโรคหัวใจ

00:08:5600:09:01 และถ้าโชคร้ายอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ครับ

00:09:0100:09:03 มาต่อกันที่ข้อที่ 7 ครับ

00:09:0300:09:06 ข้อสุดท้ายเมื่อท่านกินเค็มเป็นระยะเวลายาวนาน

00:09:0600:09:08 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากครับ

00:09:0800:09:12 นั่นก็คือไตวายเรื้อรังนั่นเองครับ

00:09:1200:09:15 สำหรับโรคไตเสื่อมหรือไตวายเรื้อรังนั้นเนี่ย

00:09:1500:09:19 จริงๆ แล้วมีสาเหตุมากมายมาปะปนกันหลายอย่าง

00:09:1900:09:22 แต่สาเหตุหลักๆ ก็คือเรื่องของภาวะความดันโลหิตสูง

00:09:2200:09:25 เบาหวาน ไขมันสูงนะครับ

00:09:2500:09:26 ซึ่งความดันโลหิตสูงเกิดจากอะไรล่ะครับ

00:09:2600:09:29 ก็เกิดจากการกินเค็มที่มากเกินไป

00:09:2900:09:34 และการกินเค็มที่มากเกินไปก็จะบีบบังคับให้ไตเราทำงานหนัก

00:09:3400:09:36 เมื่อไตเราทำงานหนักทุกวันเป็นไงครับ

00:09:3600:09:40 มันก็ไม่ไหวครับ มันก็เสื่อมลงทีละนิดๆ

00:09:4000:09:41 และโรคไตนี้น่ากลัวมากครับ

00:09:4100:09:43 ถ้ามันเต็ม 100% เนี่ยเราจะไม่รู้เลย

00:09:4300:09:45 ไตทำงานได้ 100% เนี่ยเราก็ปกติ

00:09:4500:09:48 ไตทำงานได้ 30% เนี่ยก็ยังปกติดีนะครับ

00:09:4800:09:50 มันจะเตือนเรา จะมาบอกเรา

00:09:5000:09:53 ว่ามันแย่แล้วตอนเหลือสัก 10-20%

00:09:5300:09:55 ซึ่งตอนนั้นเนี่ยก็เกือบจะต้องฟอกไตแล้ว

00:09:5500:10:00 เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังตัวสำหรับเรื่องไตวายเรื้อรัง

00:10:0000:10:02 หรือไตเสื่อมจากการกินเค็มเยอะ

00:10:0200:10:05 เป็นความดันสูงมานาน เป็นเบาหวานมานานนะครับ

00:10:0500:10:10 ต้องดูแลตัวเองดีๆ ถ้าท่านไม่อยากต้องฟอกไตตลอดชีวิต

00:10:1000:10:17 และนี่ก็คือ 7 ข้อที่จะเกิดขึ้นเมื่อท่านทานเค็มมากเกินไป

00:10:1700:10:20 คราวนี้ครับ ผมขออนุญาตสรุปนะครับ

00:10:2000:10:24 7 สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อท่านทานเค็มมากเกินไปครับ

00:10:2400:10:30 ก็จะแบ่งเป็น 3 ข้อ สำหรับการกินเค็มมากเกินไปแบบชั่วคราว

00:10:3000:10:35 และ 4 ข้อ สำหรับการกินเค็มแบบมายาวนานจนเป็นโรคเรื้อรัง

00:10:3500:10:41 สำหรับ 3 ข้อแรก ข้อที่ 1 ก็คือมีภาวะบวมน้ำครับ

00:10:4100:10:42 ซึ่งภาวะบวมน้ำเนี่ย

00:10:4200:10:46 ก็เกิดจากเมื่อเราทานเกลือเข้าไปในร่างกายเรามากๆ

00:10:4600:10:49 ก็จะทำให้ร่างกายเราบอกว่าต้องดึงน้ำเข้ามาหน่อยนะ

00:10:5000:10:51 ต้องสงวนน้ำเอาไว้

00:10:5100:10:54 เพราะว่าไม่อย่างนั้นโซเดียมในร่างกายจะสูง

00:10:5400:10:59 และทำให้เราเกิดภาวะชักได้ สับสนได้ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

00:10:5900:11:02 พอเรามีน้ำในร่างกายมากตัวเราก็บวมครับ

00:11:0200:11:04 ตัวบวมดูยังไงครับ

00:11:0400:11:07 เอานิ้วชี้ของท่านกดไปที่หน้าแข้งของท่าน

00:11:0700:11:11 เมื่อไหร่ก็ตามที่กดแล้วเนื้อของท่านบุ๋มลงไป

00:11:1100:11:14 ชนกับกระดูกหน้าแข้งแล้วดึงนิ้วออกมา

00:11:1400:11:17 แล้วไอ้รอยบุ๋มนั้นยังไม่หดกลับมา

00:11:1700:11:21 เขาเรียกว่าบวมกดบุ๋ม แบบนี้อันตรายแปลว่าบวมแล้ว

00:11:2100:11:23 ถ้าท่านปล่อยให้ภาวะนี้เป็นนานๆ

00:11:2300:11:25 ก็จะเริ่มมีภาวะความดันโลหิตสูง

00:11:2500:11:31 เริ่มมีภาวะไตเสื่อมตามมาจนเกิดไตวายเรื้อรังได้

00:11:3100:11:35 อันนี้ก็อันตรายจริงๆ บางท่านก็เป็นโรคหัวใจ น้ำท่วมปอด

00:11:3500:11:37 โอ้โห มากมายนะครับ

00:11:3700:11:43 มาต่อกันข้อที่ 2 ก็คือภาวะความดันโลหิตสูงขึ้นแบบเฉียบพลัน

00:11:4300:11:45 ถ้าสำหรับคนปกติแล้วเนี่ย

00:11:4500:11:48 จากความดันโลหิตปกติขึ้นแบบเฉียบพลัน

00:11:4800:11:50 มันก็อาจจะไม่ได้เป็นอะไรมากนะครับ

00:11:5000:11:52 แต่ถ้าเกิดคนที่มีความดันสูงอยู่แล้ว

00:11:5200:11:56 แล้วขึ้นมากผิดปกติ มันทะลุเพดานไปเลย

00:11:5600:11:58 แล้วเกิดอะไรขึ้นครับ? เส้นเลือดในสมองแตกครับ

00:11:5900:12:00 ถึงกับเสียชีวิตนะครับ

00:12:0000:12:03 เบาะๆ เส้นเลือดในสมองแตก พิการนะครับ

00:12:0300:12:06 ขยับมือขยับขาไม่ได้นะครับ

00:12:0600:12:10 ถ้าหนักๆ ก็ถึงขึ้นเสียชีวิตหรือเป็นเจ้าชายนิทราไปเลยทีเดียว

00:12:1000:12:14 มาต่อกันที่ข้อที่ 3 ก็เกิดภาวะหิวน้ำอย่างรุนแรง

00:12:1400:12:16 ถ้าท่านทานเกลือมาก

00:12:1600:12:20 ให้นึกถึงภาวะที่ท่านนั่งดู Netflix ตอนกลางคืน

00:12:2000:12:24 กินมันฝรั่งอบกรอบที่มีความเค็ม หอม มันมาก

00:12:2400:12:26 ท่านจะกินน้ำอยู่ตลอดเวลา

00:12:2600:12:27 ถ้าแค่นี้มันก็ไม่เป็นอะไรหรอกครับ

00:12:2700:12:30 เพียงแต่ว่าท่านทานก่อนนอน ทานเยอะ

00:12:3000:12:33 แล้วพอท่านเข้านอนปุ๊บเกิดอะไรขึ้นครับ

00:12:3300:12:35 ท้ายก็ต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำ ตื่นมาปัสสาวะ

00:12:3500:12:38 คืนนึงตื่น 3 รอบ ตื่น 4 รอบนะครับ

00:12:3800:12:40 ทำให้การนอนของท่านมีปัญหา

00:12:4000:12:43 เมื่อการนำของท่านมีปัญหาทุกอย่างจะมีปัญหาตามมาครับ

00:12:4300:12:45 เพราะการนอนคือสิ่งสำคัญของสุขภาพ

00:12:4500:12:49 เป็น 1 ใน 3 ของชีวิต สำคัญมากๆ นะครับ

00:12:4900:12:52 โอเคครับ เรามาต่อกันที่ข้อที่ 4 ถึง ข้อที่ 7

00:12:5200:12:58 ซึ่งเป็นภาวะที่เราทานเกลือหรือว่าทานเค็มมาเป็นระยะยาวนาน

00:12:5800:13:03 สำหรับข้อที่ 4 ก็คือมีภาวะความดันสูงแบบเรื้อรัง

00:13:0400:13:05 เนื่องจากการทานเค็มมายาวนาน

00:13:0500:13:07 ส่งผลให้มีความดันสูงแบบเรื้อรัง

00:13:0700:13:10 และความดันสูงแบบเรื้อรังมันมีผลเสียอย่างไร

00:13:1000:13:14 เมื่อมีความดันสูงแบบเรื้อรังเส้นเลือดของเราจะเสื่อมลง

00:13:1400:13:17 จะตีบแคบลง จะมีปัญหานะครับ

00:13:1700:13:22 เมื่อเส้นเลือดตีบบริเวณที่เราไปเลี้ยงสมองเป็นไงครับ

00:13:2200:13:25 สมองขาดเลือด พิการ เสียชีวิตนะครับ

00:13:2500:13:29 เส้นเลือดตีบบริเวณไปเลี้ยงหัวใจ หัวใจขาดเลือด

00:13:2900:13:32 เจ็บปวดหน้าอก ทุกข์ทรมาน เสียชีวิตนะครับ

00:13:3200:13:35 เส้นเลือดไปเลี้ยงมือเท้าตีบเป็นไงครับ

00:13:3500:13:38 แขน ขา หน้าอก โดนตัดมือตัดเท้า

00:13:3800:13:41 อันตราย เพราะฉะนั้นระมัดระวังนะครับ

00:13:4200:13:47 ต่อมาข้อที่ 5 เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

00:13:4700:13:52 เพราะว่าเชื่อว่าเกลือที่มากเกินไปจะไปทำลายเยื่อหุ้มนะครับ

00:13:5200:13:57 เยื่อเคลือบของกระเพาะอาหารและทำให้เกิดการอักเสบซ้ำไปซ้ำมา

00:13:5700:14:00 ของเยื่อบุกระเพาะอาหาร จนเกิดกลายเป็นเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น

00:14:0000:14:03 ก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 68% เลย

00:14:0300:14:07 ถ้าท่านทานเกลือมากกว่าวันละ 300 มิลลิกรัม

00:14:0700:14:11 หรือเทียบกับเกลือ 1 ช้อนชาครึ่งครับ

00:14:1100:14:14 ไม่ธรรมดาเลยครับ น่ากลัวมากๆ

00:14:1400:14:20 มาต่อกันที่ข้อที่ 6 ก็คือเสี่ยงเป็นโรคหัวใจนั่นเองนะครับ

00:14:2000:14:23 เพราะว่าเมื่อท่านทานเกลือหรือทานเค็มมากๆ เนี่ย

00:14:2300:14:27 บางทีเนี่ยแล้วก็จะบวมน้ำบ้างเป็นโรคความดันสูงบ้าง

00:14:2700:14:34 ซึ่งทุกอย่างมันก็กระทำสิ่งที่ทำให้หัวใจของเราทำงานหนัก

00:14:3400:14:36 พอหัวใจทำงานหนักก็เป็นไงครับ

00:14:3600:14:39 ก็อาจจะมีภาวะหัวใจวายหรือหัวใจขาดเลือดได้

00:14:3900:14:42 ก็ทำให้เป็นโรคหัวใจนะครับ

00:14:4200:14:44 และข้อที่ 7 ข้อสุดท้ายอันนี้น่ากลัวมากครับ

00:14:4400:14:48 ก็คือไตเสื่อมหรือไตวายเรื้อรังจนต้องฟอกไต

00:14:4800:14:53 เนื่องจากไตต้องทำงานหนักในการที่เรากินเกลือเข้าไปมาก

00:14:5300:14:56 ต้องการที่จะขับเกลือทิ้งบ้างนะ ทำงานหนักบ้าง

00:14:5600:14:58 หรือเป็นความดันสูงมายาวนาน

00:14:5800:15:00 เส้นเลือดไปที่ไตก็แย่ลงนะครับ

00:15:0000:15:04 พวกนี้ก็ส่งผลให้ไตวายเรื้อรังและต้องฟอกไต

00:15:0400:15:09 และนี่ก็คือ 7 ข้อที่จะเกิดขึ้นเมื่อท่านทานเค็มมากเกินไปครับ

00:15:0900:15:11 ก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี

00:15:1100:15:12 แล้วเจอกันใหม่ครับ

00:15:1200:15:14 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share

00:15:1400:15:16 กด Subscribe และกดกระดิ่ง สวัสดีครับ