00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องของ
00:00:03 → 00:00:06 อาหารอย่างหนึ่งซึ่งหลายคนน่าจะรู้จักดี
00:00:06 → 00:00:10 นะครับก็คือผลอะโวคาโดนั่นเองนะครับตอน
00:00:10 → 00:00:13 นี้เนี่ยหลายคนที่ดูแลสุขภาพตัวเองเนี่ย
00:00:13 → 00:00:16 แล้วก็หันมารับประทานอะโวคาโดกันเพิ่ม
00:00:16 → 00:00:18 ขึ้นนะครับเพราะว่ามันมีประโยชน์หลายๆ
00:00:18 → 00:00:22 อย่างนะครับแต่มันก็จะมีคนบางคนที่ต้อง
00:00:22 → 00:00:25 ระวังการรับประทานอะโวคาโดนะครับวันนี้ผม
00:00:25 → 00:00:27 ก็อยากจะเอาเรื่องเนี้ยมาเล่าแล้วก็แบ่ง
00:00:27 → 00:00:29 ปันให้ทุกคนฟังกันเลยนะครับพบกับผมนะครับ
00:00:29 → 00:00:31 นายแพทย์ธนีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่
00:00:31 → 00:00:34 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:34 → 00:00:38 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับอโวคาโด
00:00:38 → 00:00:41 เนี่ยนะครับเคยมีคนสงสัยมครับว่ามันคือ
00:00:41 → 00:00:45 ผลไม้หรือมันคือผักนะครับอะไรคือผักอะไร
00:00:45 → 00:00:48 คือผลไม้นะครับคืออันเนี้ยผมเชื่อว่าหลาย
00:00:48 → 00:00:51 คนเด็กๆเนี่ยต้องงงแน่นอนเอ๊ะมะเขือเทศ
00:00:51 → 00:00:53 มันเป็นผักหรือมันเป็นผลไม้อะโวคาโดมัน
00:00:53 → 00:00:56 เป็นอะไรกันแน่นะครับวันเนี้ยผมก็เลยอยาก
00:00:56 → 00:00:58 จะตอบคำถามนี้เหมือนกันเพราะว่าสมัยเด็กๆ
00:00:59 → 00:01:01 ผมก็สงสัยแล้วผมผมก็ไปหามาจนกระทั่งผมจำ
00:01:01 → 00:01:04 ได้จนตอนเนี้ยนะครับถ้าเราพูดกันจริงๆ
00:01:04 → 00:01:09 เนี่ยผลไม้เนี่ยมันคือสิ่งที่ต้องเจริญมา
00:01:09 → 00:01:12 จากดอกไม้ซึ่งในดอกไม้เนี่ยจะมีการผสม
00:01:12 → 00:01:14 แล้วก็เป็นรังไข่หลังจากนั้นก็จะออกมา
00:01:14 → 00:01:16 เป็นผลดังนั้นอะไรก็แล้วแต่ที่ออกมาจาก
00:01:16 → 00:01:20 ดอกไม้นะครับมันคือผลไม้ทั้งหมดเลยส่วน
00:01:20 → 00:01:23 ผักหรือที่ทางภาษาอังกฤษเนี่ยเราเรียกว่า
00:01:23 → 00:01:25 Vegetable เนี่ยนะครับอันเนี้ยมันคือ
00:01:25 → 00:01:28 ส่วนอื่นๆที่ไม่ใช่ส่วนที่มาจากดอกแล้วก็
00:01:28 → 00:01:30 กลายเป็นผลนะครับ
00:01:30 → 00:01:33 เช่นถ้าเราเอารากมาอย่างเงี้ยเราจะบอกว่า
00:01:33 → 00:01:35 นั่นคือ Vegetable ก็ได้หรือเอาก้านมาก็
00:01:36 → 00:01:39 เป็น Vegetable เป็นผักนะครับแต่ถ้ามันมา
00:01:39 → 00:01:42 จากดอกแล้วล่ะก็มันจะเป็นผลไม้เสมอนะครับ
00:01:42 → 00:01:46 เช่นมะเขือเทศเนี่คือผลไม้ครับนะแล้ว
00:01:46 → 00:01:48 อะโวคาโดก็คือผลไม้เพราะว่ามันเจริญมาจาก
00:01:48 → 00:01:53 ดอกนะครับตัวอะโวคาโดเนี่ยนะครับที่หลายๆ
00:01:53 → 00:01:58 คนอาจจะงงไปอีกก็คือจริงๆเนี่ยผลไม้มันมี
00:01:58 → 00:02:01 แยกย่อยเป็นชนิดชนิดต่างๆแล้วรู้ยครับว่า
00:02:01 → 00:02:07 อะโวคาโดมันคือชนิดหนึ่งของเบอร์รี่เออ
00:02:07 → 00:02:09 อันเนี้ยยิ่งงงใหญ่เฮ้ยทำไมมันถึงเป็น
00:02:09 → 00:02:11 เบอร์รี่ได้นะครับอะโวคาโดมันไม่เห็นจะ
00:02:11 → 00:02:14 เหมือนเบอร์รี่ยังไงเลยนะครับอะโวคาโด
00:02:14 → 00:02:17 เนี่ยที่เขาจัดเป็นเบอร์รี่มันคืออย่าง
00:02:17 → 00:02:20 นี้ครับสาเหตุที่มันเป็นเบอร์รี่เนี่ยมัน
00:02:20 → 00:02:24 จะต้องมีการเจริญมาจากดอกดอกเดียวที่มี
00:02:24 → 00:02:26 รังไข่รังไข่อันเดียวนะครับแล้วก็กลายมา
00:02:26 → 00:02:29 เป็นผลมีเม็ดอยู่ในนั้นน่ะ 1 เม็ดหลักนะ
00:02:29 → 00:02:32 ครับนั่นแหละก็คือจะเป็นเบอร์รี่นะฮะเท่า
00:02:32 → 00:02:36 ที่ผมทราบมานะแต่ว่ามันก็จะมีผลไม้บาง
00:02:36 → 00:02:39 ชนิดที่ไม่จัดว่าเป็นผลไม้ด้วยซ้ำไปนะ
00:02:39 → 00:02:41 ครับมันจะจัดว่าเป็น aggregated Fruit
00:02:41 → 00:02:44 นะครับก็คือมีหลายๆดอกหลายๆอันมารวมๆกัน
00:02:44 → 00:02:47 นะครับซึ่งจะทำให้เรายิ่งงงเข้าไปใหญ่
00:02:47 → 00:02:50 เพราะว่าอะไรเพราะว่าเวลาที่เราเรียก
00:02:50 → 00:02:52 เบอร์รี่เนี่ยนะครับเช่นเราอาจจะเคยได้
00:02:52 → 00:02:54 ยินคำว่าสตอเบอร์รี่ราสเบอรี่ Blackberry
00:02:54 → 00:02:57 อะไรพวกเนี้ยนะครับรู้มั้ยครับว่า
00:02:57 → 00:03:00 สตอเบอร์รี่ราสเบอร์รี่มันไม่ใช่เบอร์รี่
00:03:01 → 00:03:03 เลยนะครับพวกเนี้ย 2 อันมันเรียกว่า
00:03:03 → 00:03:06 aggregated Fruit นะครับก็คือมันมาจาก
00:03:06 → 00:03:08 หลายๆังไข่หลายๆดอกแล้วมันมารวมกันเป็น
00:03:08 → 00:03:12 ก้อนก้อนนึงซึ่งในผล 1 ผลเนี่ยมันมาจาก
00:03:12 → 00:03:14 หลายที่มันไม่ใช่มาจากที่เดียวดังนั้นมัน
00:03:14 → 00:03:16 จึงไม่จัดเป็นเบอร์รี่จริงๆนะครับมันลิ่ง
00:03:16 → 00:03:18 ทำให้เรางงเข้าไปใหญ่นะครับแล้วที่ผมไป
00:03:19 → 00:03:21 อ่านมาแล้วงงๆกว่าเดิมก็คือกล้วยก็ถือ
00:03:21 → 00:03:24 เป็นเบอร์รี่ด้วยนะครับถ้าใครที่รู้
00:03:24 → 00:03:27 เรื่องทางเ่า botanical พวกนี้นะครับก็
00:03:27 → 00:03:30 ลองมาอธิบายดูแล้วกันนะครับผมก็อ่านคร่าว
00:03:30 → 00:03:32 ๆผมรู้สึกว่าตรงนี้น่าสนใจดีก็เลยเอามา
00:03:32 → 00:03:36 แบ่งปันนะครับอ่ะทีนี้มันมีอะไรที่ผมรู้
00:03:36 → 00:03:40 สึกว่าแปลกดีของโวคาโดอีกนะครับอะโวคาโด
00:03:40 → 00:03:43 เนี่ยที่มาของมันนะครับคือผมอ่านแล้วดเอ้
00:03:43 → 00:03:46 ตลกดีเรื่องนี้นะครับที่มาของอโวคาโด
00:03:46 → 00:03:49 เนี่ยเขาเชื่อว่าเกิดมาจากที่เม็กซิโกนะ
00:03:49 → 00:03:53 ครับอ่าเม็กซิโกนี่แหละแล้วตรงเม็กซิโก
00:03:53 → 00:03:57 เนี่ยจะมีชนเผ่าอันนึงที่ใช้ภาษา nav นะ
00:03:57 → 00:04:00 ครับหรือชื่ออีกชื่อนึงก็คือ astec ซึ่ง
00:04:00 → 00:04:03 เราคงจะเคยได้ยินคำว่า astec มากกว่าใช่
00:04:03 → 00:04:06 ไหมมครับอ่าแต่ว่ามันก็คือชนเผ่าเดียวกัน
00:04:06 → 00:04:10 กับคนที่พูดภาษา nav นะครับแล้ว nav
00:04:10 → 00:04:12 เนี่ย
00:04:12 → 00:04:16 เค้าเป็นที่มาของไอ้ตัวผลไม้ตัวนี้เลย
00:04:16 → 00:04:20 โวคาโดแล้วเขาเรียกมันว่า Avocado นะครับ
00:04:20 → 00:04:24 ผมไม่รู้ออกเสียงถูกหรือเปล่าแต่ Avocado
00:04:24 → 00:04:29 เนี่ยมันแปลว่าถุงอันทะครับนะคืออันนี้ฮา
00:04:29 → 00:04:32 สุดๆเลยนะครับเพราะว่าเาบอกว่าลักษณะของ
00:04:32 → 00:04:35 มันเนี่ยเหมือนถุงอันทะเป๊ะๆเลยเาก็เลย
00:04:35 → 00:04:37 เรียกมันว่า Avocado ซึ่งแปลว่าถุงอันทะ
00:04:37 → 00:04:39 แล้วพอเราเพี้ยนมาเราก็เลยเรียกมันว่า
00:04:39 → 00:04:43 โวคาโดนั่นแหละครับนะมีสมัยหนึ่งมีคน
00:04:43 → 00:04:46 พยายามเปลี่ยนชื่อมันเพราะว่าเห็นว่าเอ๊ะ
00:04:46 → 00:04:49 หนังมันหยาบๆเหมือนหนังจระเข้นะครับเรา
00:04:49 → 00:04:51 เลยเรียกมันว่า alligator pair นะครับ
00:04:51 → 00:04:53 ซึ่งปัจจุบันก็ไม่มีคนเรียก alligator
00:04:53 → 00:04:55 pair ก็เรียกโวคาโดกันทั้งนั้นนะครับนี่
00:04:55 → 00:04:57 คือที่มาของโวคาโดซึ่งผมไปอ่านมาแล้วก็ดู
00:04:57 → 00:05:01 เอ๊ยมันตลกดีก็เลยเอามาเล่าให้ฟังนะครับ
00:05:01 → 00:05:05 ทีนี้อะโวคาโดเนี่ยนะครับมันมีสารอาหาร
00:05:05 → 00:05:08 อะไรอยู่ในนั้นบ้างเอออะโวคาโดเนี่ยต้อง
00:05:08 → 00:05:11 บอกก่อนว่าแคลอรี่มันค่อนข้างจะสูงเลยนะ
00:05:11 → 00:05:16 ครับสูงเลยทีเดียวลูกขนาดกลางเนี่ยนะครับ
00:05:16 → 00:05:20 ประมาณซัก 240 แคลอรี่นะครับอ่าลูกนึงนี่
00:05:20 → 00:05:23 แหละนะซึ่งถือว่าค่อนข้างที่จะเยอะนะครับ
00:05:23 → 00:05:27 240 แคลอรี 250 หรือถ้าลูกใหญ่ๆเลยอ่ะ
00:05:27 → 00:05:31 บางทีก็โน่น 4500 แคลอรี่นะครับถามว่า
00:05:31 → 00:05:33 เยอะขนาดเมันมันเปรียบเทียบได้ยังไงให้
00:05:33 → 00:05:35 เห็นภาพนะครับผมจะบอกอย่างงี้ครับเวลาผม
00:05:35 → 00:05:39 วิ่งเนี่ยนะครับผมวิ่ง 10 นาทีอ่ะจะเผา
00:05:39 → 00:05:42 ผลาญสักประมาณ 100 แคลอรี่ถ้าคุณกิน
00:05:42 → 00:05:45 อะโวคาโดเข้าไปแล้วมัน 240 คุณต้องลอง
00:05:45 → 00:05:48 วิ่งวิ่งด้วยความเร็วเหมือนที่ผมวิ่งอ่ะ
00:05:48 → 00:05:51 นะครับก็ 24-25 นาทีกว่าคุณจะเผาผันผัน
00:05:51 → 00:05:55 หมดหมดลูกนึงนะครับแต่อะโวคาโดเนี่ยมันมี
00:05:55 → 00:05:57 ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือว่ามันทำให้เราอิ่ม
00:05:57 → 00:05:59 ได้ง่ายเนื่องจากมันมีไขมันค่อนข้างข้าง
00:05:59 → 00:06:02 จะสูงอยู่ในนั้นนะครับโดยตัวอะโวคาโด
00:06:02 → 00:06:06 เนี่ยมีอัตราส่วนของไขมันมากที่สุดนะครับ
00:06:06 → 00:06:09 รองลงมาคือคาร์โบไฮเดรตแล้วก็สุดท้ายคือ
00:06:09 → 00:06:11 โปรตีนซึ่งมีเหมือนกันแต่มีไม่ค่อยเยอะนะ
00:06:11 → 00:06:14 ครับไขมันของเค้าเนี่ยก็จะเป็นไขมันดีซะ
00:06:14 → 00:06:18 ส่วนมากเลยนะครับโดยส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด
00:06:18 → 00:06:21 ของไขมันเป็นไขมันไม่อิ่มตัวชนิดเ่อพันธะ
00:06:21 → 00:06:24 เดี่ยวก็คือ Mono unsaturated fatty
00:06:24 → 00:06:28 Acid นะครับถ้าลงลึกไปอีกก็คือเป็นกรดไข
00:06:28 → 00:06:31 มันตัวนึงชื่อว่าโอลิ Acid นะที่มัน
00:06:31 → 00:06:34 เหมือนกับในน้ำมันโอลีฟนั่นแหละนะครับมัน
00:06:34 → 00:06:36 ก็เลยเป็นตัวนึงซึ่งเราเอามากินแล้วเอมัน
00:06:36 → 00:06:38 จะได้ประโยชน์นะครับแล้วนอกเหนือจากนี้
00:06:39 → 00:06:42 ยังมี Plant sterol นะครับหรือไฟต stal
00:06:42 → 00:06:46 ตัวนี้เนี่ยมันจะช่วยยับยั้งการดูดซึม
00:06:46 → 00:06:49 คอเลสเตอรอลในทางเดินอาหารทำให้เราสามารถ
00:06:49 → 00:06:51 เจอคนที่กินไอ้พวกเยเข้าไปแล้วไขมันของ
00:06:51 → 00:06:53 เขาต่ำได้ทั้งๆที่ไอ้ตัวลูกมันเนี่ยมีไข
00:06:53 → 00:06:56 มันเยอะนะครับแต่มันเป็นไขมันที่ดีนะฮะ
00:06:56 → 00:06:58 มันไม่ได้ทำให้คอเลสเตอรอลของเราสูงแต่
00:06:58 → 00:07:02 อย่างใดถ้าเรากินตัวอะโวคาโดเข้าไปนะครับ
00:07:02 → 00:07:06 แล้วไอ้คาร์โบไฮเดรตเนี่ยคาร์โบไฮเดรตของ
00:07:06 → 00:07:09 อะโวคาโดเนี่ยนะครับมัน
00:07:09 → 00:07:12 มีสิ่งที่สำคัญมากๆอยู่อย่างหนึ่งก็คือ
00:07:12 → 00:07:14 เค้าเรียกว่า glycemic index นะครับถ้า
00:07:14 → 00:07:16 ใครจำไม่ได้ผมเคยพูดเรื่อง glycemic
00:07:16 → 00:07:18 index ไปแล้วนะครับว่ามันคืออะไรนะครับ
00:07:18 → 00:07:20 glycemic index ของอโวคาโดเนี่ยค่อน
00:07:21 → 00:07:23 ข้างที่จะต่ำเลยทีเดียวดังนั้นจึงไม่มี
00:07:23 → 00:07:26 ปัญหากับคนที่เป็นเบาหวานนะครับกิน
00:07:26 → 00:07:28 คาร์โบไฮเดรตในคนที่เป็นเบาหวานเนี่ยกิน
00:07:28 → 00:07:30 ตัวนี้เข้าไปก็ไม่ได้ทำให้น้ำตาลสูงขึ้น
00:07:30 → 00:07:33 ไม่ได้ทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินแต่อย่าง
00:07:33 → 00:07:35 ใดนะครับจึงเป็นสิ่งที่คนที่เป็นเบาหวาน
00:07:35 → 00:07:37 นั้นสามารถที่จะกินได้นะครับแต่ก็ต้อง
00:07:37 → 00:07:42 ระวังอย่างที่บอกคือแคลอรี่มันสูงนะครับ
00:07:42 → 00:07:45 ไม่ใช่แค่นี้นะครับถ้าเราพูดกันในแง่ของ
00:07:45 → 00:07:48 พลังงานก็จะมีโปรตีนคาร์โบไฮเดรตไขมันนะ
00:07:48 → 00:07:50 ครับแต่นอกเหนือจากนี้มันยังมีกากใย
00:07:50 → 00:07:53 ไฟเบอร์ซึ่งพวกไฟเบอร์พวกเนี้ยเราถือว่า
00:07:53 → 00:07:57 มันก็คือพรีไบโอติกเป็นอาหารของแบคทีเรีย
00:07:57 → 00:08:00 ชนิดดีที่อยู่ในลำสไส้ของเราทำให้มัน
00:08:00 → 00:08:02 สามารถเจริญเติบโตได้ค่อนข้างจะดีนะครับ
00:08:03 → 00:08:06 แร่ทาตเกลือแร่วิตามินค่อนข้างที่จะเยอะ
00:08:06 → 00:08:09 นะครับมีวิตามินอะไรบ้างในตัวอะโวคาโดอ่ะ
00:08:09 → 00:08:12 วิตามิน B วิตามินอที่ค่อนข้างจะเยอะดัง
00:08:12 → 00:08:14 นั้นบางคนเอาวิตามินอเเนี่ยไอ้ตัว
00:08:14 → 00:08:16 อะโวคาโดเอามาหมักแล้วมาทาหน้าก็ได้ก็มี
00:08:16 → 00:08:18 คนทำอย่างนั้นเหมือนกันนะครับแต่ผมไม่ทำ
00:08:18 → 00:08:21 ผมว่าเอามากินดีกว่านะครับเสียดายนะฮะมี
00:08:21 → 00:08:23 วิตามินซีอยู่ในนั้นบ้างนะครับไม่ค่อยได้
00:08:23 → 00:08:27 เยอะเท่าไหร่มีวิตามิน K นะครับซึ่งถ้า
00:08:27 → 00:08:30 เกิดคนไหนที่ทานยาลิ่มเลือดวาฟารินอยู่
00:08:30 → 00:08:32 แล้วต้องทานอะโวคาโดเยอะๆเนี่ยบางทีมัน
00:08:32 → 00:08:36 อาจจะไปต้านฤทธิ์ของตัววาฟารินทำให้ยามัน
00:08:36 → 00:08:38 ไม่ออกฤทธิ์ก็ได้นะนั้นก็ต้องระวังในส่วน
00:08:38 → 00:08:40 นี้ไว้เหมือนกันนะครับอย่าไปทานเยอะถ้า
00:08:40 → 00:08:43 ทานเนี่ยควรจะทานให้สม่ำเสมอไม่ใช่ว่า
00:08:43 → 00:08:45 เดี๋ยวทานเดี๋ยวไม่ทานบ้างมันทำให้ปรับ
00:08:45 → 00:08:48 ระดับยาไม่ได้ซักทีนะครับนั่นก็คือปัญหา
00:08:48 → 00:08:51 ของคนที่ทานยาวาฟารีนอยู่นะครับนอกเหนือ
00:08:51 → 00:08:55 จากวิตามินเหล่านี้มันยังมีแมกนีเซียมมี
00:08:55 → 00:08:57 โพแทสเซียมนะครับ
00:08:57 → 00:09:00 อ่าที่สำคัญอันเนี้ยผมคิดว่าหลายๆคนอาจจะ
00:09:00 → 00:09:04 ไม่รู้นะครับอะโวคาโดเนี่ยระดับ
00:09:04 → 00:09:07 โพแทสเซียมของเขาสูงมากๆเลยดังนั้นคนไหน
00:09:07 → 00:09:10 ที่เป็นโรคไตนะครับต้องระวังเป็นอย่าง
00:09:10 → 00:09:14 ยิ่งครับเวลาที่เราพูดกันถึงอาหารที่มี
00:09:14 → 00:09:16 โพแทสเซียมสูงหรือผลไม้โพแทสเซียมสูงหลาย
00:09:16 → 00:09:20 ๆคนก็คคงจะนึกถึงกล้วยใช่มั้ยครับแต่
00:09:20 → 00:09:24 อะโวคาโดมันมีเยอะกว่ากล้วยอีกครับนะ
00:09:24 → 00:09:27 อะโวคาโดแค่ครึ่งซีกอ่ะคือปกติอะโวคาโด
00:09:27 → 00:09:29 เวลาเรากินน่ะเราผ่ามันใช่มั้ยครับแล้ว
00:09:29 → 00:09:31 เอาเครื่องซี่มากินไอ้เครื่องซี่แค่
00:09:31 → 00:09:34 เครื่องเดียวอ่ะมันมีโพแตสเซียมมากกว่า
00:09:34 → 00:09:37 กล้วยอีกครับนะถ้าคุณเอามา 2 ครึ่งกิน
00:09:37 → 00:09:41 เข้าไปเนี่ยโปแทสเซียมรวมทั้งลูกนะ
00:09:41 → 00:09:45 ครับมันจะเยอะมากๆเลยนะครับเยอะกว่ากล้วย
00:09:45 → 00:09:49 2 เท่าเลยอ่ะนะครับซึ่งแปลว่าถ้าเกิดคุณ
00:09:49 → 00:09:51 มีโรคไตวายอยู่แล้วคุณกินอะโวคาโดเข้าไป
00:09:51 → 00:09:54 เนี่ยคุณอาจจะมีปัญหาเรื่องโพแทสเซียม
00:09:54 → 00:09:56 เกินในร่างกายโพแทสเซียมเกินในร่างกายมัน
00:09:56 → 00:09:59 จะมีผลต่อหัวใจได้นะครับทำให้เกิดการเต้น
00:09:59 → 00:10:02 ผิดปกติซึ่งแน่นอนว่ามันแน่นอนเป็น
00:10:02 → 00:10:05 อันตรายต่อชีวิตได้ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะ
00:10:05 → 00:10:08 เป็นผลไม้อย่างหนึ่งซึ่งดีต่อสุขภาพมีไข
00:10:08 → 00:10:11 มันดีนะครับแล้วมันก็สามารถช่วยลด
00:10:11 → 00:10:13 คอเลสเตอรอลของเราได้แต่คนที่เป็นโรคไต
00:10:14 → 00:10:16 เนี่ยจะต้องระวังเป็นอย่างยิ่งนะครับ
00:10:16 → 00:10:18 เรื่องของอะโวคาโดนะฮะ
00:10:18 → 00:10:22 เอิ่มแล้วทีนี้อะโวคาโดเนี่ยนะครับเวลา
00:10:22 → 00:10:24 ที่เรากินพวกนี้เข้าไปมันมีอีกอย่างนึง
00:10:25 → 00:10:27 ซึ่งสำคัญก็คือมีสารแคโรทีนอยนะครับ
00:10:28 → 00:10:31 แคโรทีนอยเนี่ยเนี่ยมันจะเป็นส่วนประกอบ
00:10:31 → 00:10:33 อย่างนึงในตานะครับก็คือมี 2 ตัวที่เป็น
00:10:33 → 00:10:36 แคโรทีนอยของไอ้ตัวอะโวคาโดตัวนึงคือ
00:10:36 → 00:10:39 รูทีนอีกตัวนึงคือ Z santin นะครับ 2
00:10:39 → 00:10:42 ตัวนี้เนี่ยมันจะช่วยปกป้องดวงตาของเรา
00:10:42 → 00:10:46 จากการถูกทำลายด้วยแสง UV นะครับแล้วก็
00:10:46 → 00:10:50 ถ้าใครจำคลิปที่เกี่ยวข้องกับจอประสาทตา
00:10:50 → 00:10:52 เสื่อมนะครับ Age related macular
00:10:52 → 00:10:55 degeneration ของผมได้ในนั้นเนี่ยมันจะ
00:10:55 → 00:10:59 มีอาหารเสริมตัวนึงนะครับชื่อว่า iest นะ
00:10:59 → 00:11:03 ครับ 2 นะครับส่วนประกอบในนั้นน่ะก็จะมี Z
00:11:03 → 00:11:05 santin กับรูีอยู่ในนั้นด้วยนะครับที่
00:11:06 → 00:11:08 สามารถที่จะปกป้องดวงตาของเราได้นะครับ
00:11:08 → 00:11:11 ดังนั้นโวคาโดก็จะมีประโยชน์พวกเนี้ยหลาก
00:11:11 → 00:11:14 หลายเลยทีเดียวนะฮะดังนั้นทบทวนกันใหม่
00:11:14 → 00:11:18 โวคาโดเนี่ยคนที่ต้องระวังนะครับ 1 คนที่
00:11:18 → 00:11:20 ต้องการลดแคลอรี่ครับเพราะว่าแคลอรี่ของ
00:11:20 → 00:11:23 อะโวคาโดมันเยอะมากนะครับท่านกินเข้าไป
00:11:23 → 00:11:26 ลูกนึง 2 ลูกเนี่ยมันอาจจะอิ่มนะครับแต่ไ
00:11:26 → 00:11:28 ที่ได้ไปนี่คือแคลอรีเยอะหน่อยนะครับถ้า
00:11:28 → 00:11:31 คนไหนต้องการลดแคลอรี่เยอะๆเนี่ยมันก็
00:11:31 → 00:11:34 ต้องระวังหน่อยอย่ากินเข้าไปหลายลูกอัน
00:11:34 → 00:11:39 ที่ 2 คนที่มีปัญหาโรคไตนะครับโพแทสเซียม
00:11:39 → 00:11:42 สูงนะครับต้องระวังอะโวคาโดถ้าจะกินก็คือ
00:11:42 → 00:11:45 ผมว่าครึ่งลูกก็พอแล้วครับไม่ฉะนั้นเนี่ย
00:11:45 → 00:11:48 มันอาจจะได้เยอะจนเกินไปนะครับแต่
00:11:48 → 00:11:50 ประโยชน์ของมันมีเยอะมากครับประโยชน์ของ
00:11:51 → 00:11:54 มันในแง่ไหนบ้างนะฮะโพแทสเซียมที่สูง
00:11:54 → 00:11:56 เนี่ยมันมีความเอ่อมีส่วนช่วยในการลดความ
00:11:56 → 00:11:58 ดันนะครับถ้าเกิดคนที่ไม่มีปัญหาเรื่อง
00:11:58 → 00:12:00 โพแทสเซียมนะครับถ้าเรากินโปแทสเซียมเข้า
00:12:00 → 00:12:03 ไปมันจะช่วยลดความดันเราได้มากนะครับอัน
00:12:03 → 00:12:07 ที่ 2 มันมีไขมันดีค่อนข้างที่จะเยอะแล้ว
00:12:07 → 00:12:10 ก็มี PL stanol ซึ่งคอยไปขัดขวางการดูด
00:12:10 → 00:12:13 ซึมคอเลสเตอรอลทำให้ระดับคอเลสเตอรอลของ
00:12:13 → 00:12:16 เราเนี่ยมันดีขึ้นนะครับในคนที่เป็นเบา
00:12:16 → 00:12:19 หวานต้องการคุมเรื่องของน้ำตาลอะโวคาโด
00:12:19 → 00:12:20 เนี่ยต่อให้มันมีคาร์โบไฮเดรตมันก็เป็น
00:12:20 → 00:12:24 คาร์โบไฮเดรตที่ดีนะครับมีไลซิก index
00:12:24 → 00:12:26 ต่ำดังนั้นจึงไม่มีปัญหาต่อคนที่เป็นเบา
00:12:26 → 00:12:29 หวานแล้วก็ไม่ทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน
00:12:29 → 00:12:32 แต่อย่างใดนะครับมีเรื่องของพรีไบโอติกนะ
00:12:32 → 00:12:35 ครับมีเรื่องของอ่าแคโรทีนอยซึ่งบันมุม
00:12:35 → 00:12:38 สายตานะครับนี่แหละคือประโยชน์ของโวคาโด
00:12:38 → 00:12:41 ซึ่งผมมองว่าเอ้ยมันก็มีหลากหลายหลาย
00:12:41 → 00:12:44 อย่างโดยเฉพาะที่มาของโวคาโดนี่ผมรู้สึก
00:12:44 → 00:12:46 ว่าอ่านแล้วก็ประทับใจมากที่สุดในบรรดา
00:12:46 → 00:12:49 ทั้งหมดนะครับอ่าวันนี้ก็หวังว่าหลายๆคน
00:12:49 → 00:12:51 จะได้ความรู้ตรงนี้เพิ่มขึ้นนะครับ
00:12:51 → 00:12:55 เอิ่มอ้อมีอีกอย่างนึงผมเนี่ยกินอะโวคาโด
00:12:55 → 00:12:57 เหมือนกันนะครับแล้วสิ่งที่อยากจะเล่า
00:12:57 → 00:13:00 เพิ่มเติมนิดนึงก็คือคือไอ้อะโวคาโดเนี่ย
00:13:00 → 00:13:02 เวลลาเราซื้อมาใหม่ๆนะครับบางทีมันยังไม่
00:13:02 → 00:13:05 สุกมันแข็งนะครับทำยังไงให้มันสุกเร็วนะ
00:13:05 → 00:13:08 ครับผมรู้สึกว่าถ้าเอามันไปไว้ในถุงแล้ว
00:13:08 → 00:13:11 ใส่กล้วยเข้าไปในนั้นน่ะมันสุกเร็วขึ้นนะ
00:13:11 → 00:13:13 ครับมันมีคนแชร์วิธีนี้มาเหมือนกันแล้วพอ
00:13:13 → 00:13:15 แกะเอามันออกกินใช่มั้ยครับเนื้อเขียวๆ
00:13:15 → 00:13:17 ของมันโดนอากาศแป๊บเดียวมันก็กลายเป็นสี
00:13:17 → 00:13:19 น้ำตาลไม่ค่อยสวยเราก็ไม่อยากจะกินนะครับ
00:13:19 → 00:13:22 ทางที่จะเก็บไม่ให้มันกลายไปเป็นสีน้ำตาล
00:13:22 → 00:13:24 ได้นอกเหนือจากการที่เราเก็บมันไว้ในถุง
00:13:24 → 00:13:27 พลาสติกสุญญากาศคือเราต้องห่ออย่างดีแล้ว
00:13:27 → 00:13:30 อ่ะบางทีเราเอาน้ำมะนาวทาก็ได้นะครับมัน
00:13:30 → 00:13:32 ก็ช่วยทำให้มันไม่เสียหรือใส่ไว้กับพวก
00:13:32 → 00:13:34 หัวหอมสับอย่างเงี้ยมันก็ช่วยทำให้มันไม่
00:13:34 → 00:13:37 เสียเหมือนกันนะครับไม่ไม่กลายเป็นสีน้ำ
00:13:37 → 00:13:39 ตาลแต่ไอ้สีน้ำตาลนี่คือเอ่อไม่ได้แปลว่า
00:13:39 → 00:13:41 มันเสียนะมันกินได้นะครับกินได้รสชาติ
00:13:41 → 00:13:44 อะไรก็คล้ายๆเดิมแต่มันจะเละๆแล้วสีไม่
00:13:44 → 00:13:46 สวยซักเท่านั้นเองนะครับนี่คือวิธีในการ
00:13:46 → 00:13:50 เก็บแล้วก็ทำให้มันสุกได้ยังไงนะครับอ่า
00:13:50 → 00:13:52 แต่ว่าแน่นอนมันเป็นผลไม้อย่างหนึ่งซึ่ง
00:13:52 → 00:13:55 ราคาค่อนข้างที่จะแพงหน่อยนะครับแต่ว่าก็
00:13:55 → 00:13:58 ถ้าใครกินอยู่ก็เอ่อจะได้มีความรู้ตรงนี้
00:13:58 → 00:14:02 เพิ่มขึ้นนะครับนิดนึงนะโอเควันนี้ก็เล่า
00:14:02 → 00:14:04 ให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับใครสงสัยหรือมี
00:14:04 → 00:14:05 อะไรเพิ่มเติมก็คอมเมนต์มาได้นะครับ
00:14:05 → 00:14:09 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ