00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับจากกรณีที่มีเด็กอายุ 14 ปี
00:00:03 → 00:00:06 กราดยิงที่พารากอนนะครับก็มีคนคิดไปต่างๆ
00:00:06 → 00:00:08 นานาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสาเหตุที่เด็ก
00:00:09 → 00:00:12 เขาจะต้องมีการยิงนะครับทำไมถึงเกิดขึ้น
00:00:12 → 00:00:15 มีแรงกดดันอะไรหรือเปล่ามีปัญหาทางจิตเวช
00:00:15 → 00:00:17 อะไรักอย่างมั้ยนะครับใช้สารเสพติดหรือ
00:00:17 → 00:00:20 เปล่าหรือว่ามีเหตุผลอย่างอื่นนะครับรวม
00:00:20 → 00:00:23 ไปถึงว่าก็มีคนพูดในแง่ของกฎหมายนะครับ
00:00:23 → 00:00:26 การลงโทษมาตรการต่างๆนะครับแต่ก็ไม่ค่อย
00:00:26 → 00:00:29 มีคนสนใจว่าเออแล้วตัวเราเนี่ยจะทำยังไง
00:00:29 → 00:00:32 ได้บ้างรวมทั้งถ้าเกิดว่าเราเนี่ยดันเป็น
00:00:32 → 00:00:36 คนที่มีคนใกล้เคียงเนี่ยมีโอกาสจะทำแบบ
00:00:36 → 00:00:38 นั้นเนี่ยเราจะรู้ได้ยังไงเราจะมีวิธี
00:00:38 → 00:00:41 ป้องกันอย่างไรเมื่อเราอยู่ในเหตุการณ์
00:00:41 → 00:00:43 แบบนั้นเราจะรู้ได้ยังไงอ่ะเราจะได้ไม่ทำ
00:00:43 → 00:00:45 ให้มันเกิดขึ้นรวมทั้งถ้าสมมุติเราโชค
00:00:45 → 00:00:47 ร้ายจริงๆอยู่ในสถานการณ์ที่มีการยิงกัน
00:00:48 → 00:00:50 แบบนั้นเนี่ยเราต้องปฏิบัติตัวอย่างไรนะ
00:00:50 → 00:00:52 ครับที่อเมริกาเรื่องนี้มันเป็นเรื่อง
00:00:52 → 00:00:55 ใหญ่แล้วก็แต่ละโรงพยาบาลแต่ละโรงเรียน
00:00:55 → 00:00:57 เนี่ยจะมีการฝึกสอนเรื่องพวกนี้รวมทั้ง
00:00:57 → 00:01:00 โรงพยาบาลของผมนะครับก็ต้องมีการการเรียน
00:01:00 → 00:01:02 รู้เรื่องนี้นะครับเพนั้นผมก็จะเอามาถ่าย
00:01:03 → 00:01:05 ทอดให้ทุกคนฟังกันเลยนะครับพบกับผมนะครับ
00:01:05 → 00:01:07 นายแพทย์ธนีธนียวันนะครับเป็นอาจารย์
00:01:07 → 00:01:09 แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญ
00:01:09 → 00:01:12 โรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:01:12 → 00:01:15 สำหรับเรื่องของการยิงกันแบบเนะครับที่
00:01:15 → 00:01:19 อเมริกาเนี่ยคือมีการเก็บสถิตินะใน 20 ปี
00:01:19 → 00:01:22 ที่ผ่านมามีเหตุการณ์แบบเนี้ย 333 ครั้ง
00:01:22 → 00:01:25 ด้วยกันนะครับแล้วโอกาสของเขาเนี่ยคือมัน
00:01:25 → 00:01:28 ถือว่าน้อยมากนะครับน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง
00:01:28 → 00:01:31 ของการโดนฟ้าผ่าอีกแต่อย่างก็ตามต่อให้
00:01:31 → 00:01:33 มันน้อยเนี่ยมันไม่ได้บอกว่าท่านจะปลอด
00:01:33 → 00:01:35 ภัยจากสิ่งเหล่านี้นะครับแล้วเราก็เจอ
00:01:35 → 00:01:37 เยอะขึ้นเรื่อยๆเช่นการไปยิงที่ต่างๆที่
00:01:38 → 00:01:40 โคราชที่หนองบวงลำพูที่ไหนก็แล้วแต่นะ
00:01:40 → 00:01:43 ครับเราก็เลยต้องเข้าใจเรื่องพวกนี้และ
00:01:43 → 00:01:45 ไอ้เรื่องพวกนี้เนี่ยอย่างนึงซึ่งผมอยาก
00:01:45 → 00:01:48 จะบอกไว้ก็คือว่ายิ่งเราฝึกซ้อมบ่อยเท่า
00:01:48 → 00:01:51 ไหร่เนี่ยมันยิ่งมีโอกาสจะรับมือกับเหตุ
00:01:51 → 00:01:53 การณ์เหล่านี้ได้มากขึ้นนะครับคือเหตุ
00:01:53 → 00:01:55 การณ์เนื่องจากว่ามันเกิดไม่บ่อยการที่
00:01:55 → 00:01:58 เราจะไปฝึกซ้อมโดยกายภาพเนี่ยมันคงเป็นไป
00:01:58 → 00:02:00 ไม่ได้เราต้องฝึกซ้อมทางจิตใจใจอยู่
00:02:00 → 00:02:02 เรื่อยๆนะครับซึ่งการจำลองภาพในหัวจำลอง
00:02:02 → 00:02:04 เหตุการณ์ต่างๆเนี่ยมันจะสามารถทำให้เรา
00:02:04 → 00:02:06 รู้ว่าเออถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น
00:02:06 → 00:02:10 มาจริงๆเนี่ยเราควรจะต้องทำยังไงบ้างนะฮะ
00:02:10 → 00:02:13 ที่อเมริกาเนี่ยเขาจะเริ่มจากว่าทำไมเหตุ
00:02:13 → 00:02:15 การณ์เหล่านี้ถึงเกิดขึ้นมันไม่ได้อยู่ๆ
00:02:15 → 00:02:18 เกิดขึ้นนะครับมันไม่ได้อยู่ๆคนมันจะบ้า
00:02:18 → 00:02:19 ขึ้นมาแล้วก็บ้าขึ้นมาเลยวันนั้นน่ะมัน
00:02:19 → 00:02:22 ไม่เป็นแบบนั้นมันจะมีสัญญาณเตือนมาหลายๆ
00:02:22 → 00:02:26 ขั้นก่อนนะครับโดยสัญญาณเตือนอันแรกเนี่ย
00:02:26 → 00:02:28 ในภาษาอังกฤษเราเรียกว่า grievance นะ
00:02:28 → 00:02:30 ครับก็คือเราเริ่มรู้สึกว่ามันมีอะไรผิด
00:02:30 → 00:02:33 ปกติไอ้คนที่เขาจะทำเนี่ยมันจะเริ่มรู้
00:02:33 → 00:02:35 สึกว่ามีอะไรซักอย่างในชีวิตเค้าที่ไม่
00:02:35 → 00:02:38 สำเร็จนะครับเค้าก็จะแสดงออกมาต่างๆนานา
00:02:38 → 00:02:42 เช่นอาจจะตัดพ้อนะครับอาจจะมีความโกรธ
00:02:42 → 00:02:44 เกรี้ยวนะครับเกรี้ยวกราดอะไรอย่างเงี้ย
00:02:45 → 00:02:47 นะครับที่มันมากกว่าปกตินะมีการแสดง
00:02:47 → 00:02:50 พฤติกรรมที่มันแปลกแยกไปก็คือไม่อยากจะ
00:02:50 → 00:02:52 อยู่รวมกลุ่มอะไรซักอย่างหรือบางคนก็กลาย
00:02:52 → 00:02:54 เป็นตรงกันข้ามเกิดรู้สึกว่าตัวเองมีพลัง
00:02:54 → 00:02:57 งานมากนะครับมีมีความเป็นผู้ยิ่งใหญ่หรือ
00:02:58 → 00:03:00 บางคนก็ตรงกันข้ามเลยก็คือรู้สึกว่าว่า
00:03:00 → 00:03:02 ตัวเองแบบด้อยฆ่านะครับไม่มีใครสนใจเรา
00:03:02 → 00:03:04 ไม่มีพลังอะไรักอย่างเลยนะครับไม่สามารถ
00:03:04 → 00:03:08 ต่อรองอะไรได้แล้วก็จะอาจจะเริ่มมีการพูด
00:03:08 → 00:03:12 คุยที่รู้สึกว่าเอ่อเสียดสีนะฮะพูดจาที่
00:03:12 → 00:03:14 มันแปลกๆไปพฤติกรรมจะต่างไปจากเดิมการ
00:03:14 → 00:03:16 เรียนที่มันดีแล้วอยู่ๆมันตกไปอย่างเงี้ย
00:03:16 → 00:03:19 นะครับคือเรื่องเนี้ยแปลว่าเริ่มมีความ
00:03:19 → 00:03:21 ผิดปกติและเราต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
00:03:21 → 00:03:24 ไม่ใช่ว่าอยู่ๆเฮ้ยทำไมเดี๋ยวเดี๋ยวนี้
00:03:24 → 00:03:26 มันเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายมันแปลกๆไอ้แปลกๆ
00:03:26 → 00:03:28 นี่แหละครับแค่เราคิดเฉยๆเนี่ยควรจะต้อง
00:03:28 → 00:03:31 มีมาตรการทำอะไรสักอย่างะนะครับที่
00:03:31 → 00:03:33 อเมริกาถ้ามีแบบนี้เนี่ยส่วนใหญ่ก็จะมี
00:03:33 → 00:03:37 การเริ่มด้วยการปรึกษาครูหรือว่าเ่อมีมี
00:03:37 → 00:03:40 การปรึกษาจิตแพทย์เด็กนะครับก่อนเลยนะ
00:03:40 → 00:03:42 ครับเพราะว่ามันเริ่มเป็นอาการแรกเลยที่
00:03:42 → 00:03:45 เราจะสามารถป้องกันได้ไม่ให้มันเป็นรุน
00:03:45 → 00:03:48 แรงมากไปกว่านั้นนะครับแต่ถ้ามันผ่านขั้น
00:03:48 → 00:03:50 เนี้ยขั้น grievance ไปแล้วแล้วมันไม่มี
00:03:50 → 00:03:52 ใครสนใจนะครับมันก็จะเข้าสู่ขั้นที่ 2
00:03:52 → 00:03:56 และอันเนี้ยคือ violence ideation นะ
00:03:56 → 00:04:01 ครับคือรู้สึกว่ามีไอเดียนะครับหรือวาด
00:04:01 → 00:04:04 ภาพมโนภาพในหัวในแง่ของความรุนแรงและนะ
00:04:04 → 00:04:07 ครับเช่นอะไรบ้างตรงนี้แหละครับเกมจะเข้า
00:04:07 → 00:04:09 มาเกี่ยวข้องละเนื่องจากว่ามันมีเหตุผล
00:04:10 → 00:04:13 หน้าเนี้ยก่อนหน้าสนับสนุนมาเช่นว่าเออ
00:04:13 → 00:04:15 พ่อแม่เราอาจจะบังคับเรามากเลยนะเรื่อง
00:04:15 → 00:04:18 ของการเรียนเราจะต้องดีแล้วเราเรียนดี
00:04:18 → 00:04:21 แล้วพ่อแม่เราก็ยังไม่พอใจอ่ะคือถ้า
00:04:21 → 00:04:23 สมมุติว่าพ่อแม่เก่งมากๆอย่างเงี้ยนะครับ
00:04:23 → 00:04:25 อย่างกรณีเนี้ยพ่อแม่เป็นอาจารย์ถ้าเกิด
00:04:25 → 00:04:30 สมมุตินะฮะมีมีการบังคับลูกมากจเกินไป
00:04:30 → 00:04:31 เพราะว่าตัวเองเป็นอาจารย์ลูกก็ต้องเก่ง
00:04:31 → 00:04:34 ถ้ากับถ้าเกิดไม่เก่งเนี่ยมันเสียชื่อพ่อ
00:04:34 → 00:04:37 แม่นะก็จะมีการทำแบบเนี้ยให้มากขึ้นเรียน
00:04:37 → 00:04:40 พิเศษเยอะๆทำให้เก่งแล้วเด็กมันกดดันทำ
00:04:40 → 00:04:42 ไม่ไหวนะครับทำไม่ไหวมันก็โอ๊ยเตือนหลาย
00:04:43 → 00:04:46 รอบนะเตือนด้วยการตัดพร้อไม่อยากทำนะครับ
00:04:46 → 00:04:49 พฤติกรรมเปลี่ยนแต่พ่อแม่ยังไม่สนใจก็ยัง
00:04:49 → 00:04:52 จะขยันคอยให้ทำไปอีกมันก็จะเข้าสู่ครั้ง
00:04:52 → 00:04:54 ที่ 2 เด็กก็จะต้องหาโลกของตัวเองซึ่งทำ
00:04:54 → 00:04:56 อะไรได้บ้างเช่นการเล่นเกมที่มีความ
00:04:56 → 00:04:59 รุนแรงเพราะว่าตอนเมันเริ่มจะรู้สึกว่า
00:04:59 → 00:05:02 มันต้องระบายออกสักทางอ่ะมันระบายทาง
00:05:02 → 00:05:05 ธรรมดาไม่ได้ก็ระบายทางเกมนะครับตรงเนี้ย
00:05:05 → 00:05:06 เริ่มมีความเกี่ยวข้องแล้วหรือบางคนเด็ก
00:05:06 → 00:05:09 ก็จะพูดถึงความรุนแรงต่างๆที่เคยทำเอ้ย
00:05:09 → 00:05:12 เคยไปเอ่อไปเตะหมาไปอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:05:12 → 00:05:14 ไปทรมานสั่งพวกเนี้ยนะครับก็จะเริ่มพูด
00:05:14 → 00:05:17 ถึงเรื่องพวกเนี้ยนะครับเรื่องเกมเฉยๆนะ
00:05:17 → 00:05:20 ผมคิดว่ามันอาจจะไม่มีความเกี่ยวข้องนัก
00:05:20 → 00:05:23 นะครับกับสิ่งที่คนเอาไปทำนะฮะถ้าลองคิด
00:05:23 → 00:05:26 ดูสิครับมีคนเล่นเกมพวกเนี้ยหลายคนทำไม
00:05:26 → 00:05:29 มันไม่มีคนทุกคนที่เล่นเกมมันไม่ทำแบบ
00:05:29 → 00:05:31 นั้นมันจะมีแค่คนบางคนเท่านั้นที่ไปทำแบบ
00:05:31 → 00:05:32 นั้นจริงๆดังนั้นเนี่ยเรื่องเกมอย่าง
00:05:32 → 00:05:35 เดียวมันไม่สามารถอธิบายว่าน้องเทำไมถแบบ
00:05:35 → 00:05:38 ทำแบบนั้นได้นะครับไม่งั้นคนเล่นเกมอะไร
00:05:38 → 00:05:40 อย่างอื่นอ่ะเช่นอ่าเล่นเล่นเกมอะไรสัก
00:05:40 → 00:05:42 อย่างก็ต้องมีพฤติกรรมเลียนแบบถูกมั้ย
00:05:42 → 00:05:46 ครับนะถ้าทุกคนก็คงอาจจะเคยเล่นมาริออ
00:05:46 → 00:05:48 มั้ยถ้าถ้าสมมุติว่าพฤติกรรมเลียนแบบจริง
00:05:48 → 00:05:51 เนี่ยมาริโอทุกคนก็เป็นไงเก็บเห็ดต่อย
00:05:51 → 00:05:53 ต่อยอิฐแล้วก็เอาลูกไฟไปขว้างเค้ามันก็
00:05:53 → 00:05:55 ไม่เป็นแบบนั้นใชมั้ยครับเราก็ไม่ได้มี
00:05:55 → 00:05:58 พฤติกรรมเลียนแบบจากเกมนะแต่ว่ามันก็เป็น
00:05:58 → 00:06:00 ที่สังเกตได้ถ้าเด็กเค้ามีพวกเนี้ยเคก็จะ
00:06:00 → 00:06:03 แสดงออกไปทางใดทางหนึ่งถ้าเคเริ่มพูดถึง
00:06:03 → 00:06:05 ความรุนแรงแล้วล่ะก็แปลว่านั่นละครับ
00:06:05 → 00:06:09 สัญญาณเตือนนะเช่นอืมผมเคยผมเห็นนะฮะที่
00:06:09 → 00:06:11 บอกว่าเอ่อเวลาคุณแม่เคเตือนอะไรซักอย่าง
00:06:11 → 00:06:13 ไปเเอ้ยผลการเรียนมีปัญหาเนี่ยเด็กเขาจะ
00:06:13 → 00:06:15 ส่งรูปที่เขคซ้อมยิงปืนไปให้หรืออะไร
00:06:15 → 00:06:17 อย่างเงี้ยบอกเออจะไปที่นี่นะนั่นน่ะครับ
00:06:17 → 00:06:20 คือสัญญาณเตือนแล้วครับว่าเฮ้ยเริ่มมี
00:06:20 → 00:06:22 ความรุนแรงเพิ่มขึ้นนะครับแล้วถ้าผ่าน
00:06:22 → 00:06:26 ขั้นนี้ไปได้เนี่ยเจะเริ่มรู้สึกว่าเอ๊
00:06:26 → 00:06:30 มันมันไม่มันไม่จบักทีอ่ะมันมันมันไม่
00:06:30 → 00:06:32 สามารถที่ระบายออกไปได้ขั้นต่อไปเจะเริ่ม
00:06:32 → 00:06:35 วางแผนละก็จะมีการรีเสิร์ชหรือการทำวิจัย
00:06:35 → 00:06:38 ะวิจัยว่าเฮ้ยเราจะเอายังไงจะวางแผนยังไง
00:06:38 → 00:06:42 ดีเอ๊ะจะจัดการกับเรื่องพวกนี้ยังไงที่
00:06:42 → 00:06:44 ถ้ามันคิดถึงขั้นๆหนึ่งอมันจะตรงเนี้ย
00:06:45 → 00:06:47 เป็นขั้นที่จะเปลี่ยนถ่ายไปเป็นการกระทำ
00:06:47 → 00:06:51 จริงๆละเจะดูเลยว่าโอเคเค้าจะทำร้ายใช่มย
00:06:51 → 00:06:57 ทำร้ายใครอย่างไรที่ไหนด้วยวิธีอะไรเมื่อ
00:06:57 → 00:07:03 ไหร่นะครับเนี่ยอย่างนี้เลย What When
00:07:03 → 00:07:07 How Where อะไรพวกเนะครับก็จะมีการวาง
00:07:07 → 00:07:10 แผนนะวางแผนว่าทำยังไงบ้างเริ่มร่างว่า
00:07:10 → 00:07:14 เฮ้ยเราจะต้องมีการตะเตรียมอะไรบ้างละนะ
00:07:14 → 00:07:16 ครับพอวางแผนเสร็จขั้นต่อไปคือขั้นเตรียม
00:07:16 → 00:07:20 การ preparation นะครับก็จะเริ่มมีการหา
00:07:20 → 00:07:24 อาวุธฝึกซ้อมอาวุธอ่ะดูแผนที่ทางหนีทีไล่
00:07:24 → 00:07:26 ดูว่าตรงนี้มียามมั้ยตรงนี้มีเครื่องตรวจ
00:07:26 → 00:07:29 จับโลหะหรือเปล่าห้องน้ำตรงไหนที่สามารถ
00:07:29 → 00:07:32 ไปอยู่ได้อ่ะตรงไหนที่คนเยอะนะครับตรงไหน
00:07:32 → 00:07:34 ที่มีเป้าหมายของเราอยู่อ่าอย่างนี้นะ
00:07:34 → 00:07:37 ครับก็จะเริ่มวางแผนละพอหลังจากนั้นก็จะ
00:07:37 → 00:07:40 เริ่มทดสอบแผนก่อนแต่ยังไม่ทำจริงอ่าขั้น
00:07:40 → 00:07:42 ต่อไปคือทดสอบแผนคือ probing and
00:07:43 → 00:07:45 breaching นะครับก็คือลองไปดูซิลองไปสำ
00:07:45 → 00:07:48 สำรวจสถานที่จริงเลยเพราะเราวางแผนไว้ะ
00:07:48 → 00:07:51 ลองมาจำลองนะครับจำลองในหัวเดินๆดูซิว่า
00:07:51 → 00:07:53 เอ้มันทำได้จริงๆหรือเปล่านะครับงั้นพวก
00:07:53 → 00:07:56 เนี้ยบางทีเราย้อนกลับไปดูภาพวงจรปิดอาจ
00:07:56 → 00:07:58 จะเดินน้องคนเนี้ยเข้ามาเดินวนๆแถวนั้น
00:07:58 → 00:08:00 สักช่วงนึงก็ได้นะครับครับหรือไม่ฉะนั้น
00:08:00 → 00:08:02 ถ้ามันเป็นสถานที่เคคุ้นเคยไปบ่อยเนี่ยเค
00:08:02 → 00:08:04 ก็ไม่ต้องเดินเยอะนะครับเพราะเครู้อยู่
00:08:04 → 00:08:06 แล้วเดินมาตั้งนานแล้วอะไรอย่าเงี้ยเส้น
00:08:06 → 00:08:10 ทางเดิมนะครับแล้วสุดท้ายพอเค้าทำทุก
00:08:10 → 00:08:14 อย่างเรียบร้อยละก็ลงมือกระทำนะครับแทค
00:08:14 → 00:08:17 จริงๆเลยก็เกิดเรื่องขึ้นมานะดังนั้นถ้า
00:08:17 → 00:08:19 เราเป็นคนในสังคมแล้วเราพอจะสังเกต
00:08:19 → 00:08:22 พฤติกรรมเหล่านี้ได้เนี่ยไม่ว่าจะเป็นตอน
00:08:22 → 00:08:26 แรกที่เพื่อนเราลูกเราญาติหรือใครก็ไม่
00:08:26 → 00:08:28 รู้ที่เรารู้จักในที่ทำงานเนี่ยเริ่มมี
00:08:28 → 00:08:31 ความรู้รู้สึกว่าเอ๊ะคนนี้เค้ามันแปลกนะ
00:08:31 → 00:08:35 ทำไมเค้าถึงพูดเหมือนกับเค้าไม่มีความสุข
00:08:35 → 00:08:38 เค้าอยู่ๆโมโหโดยที่ไอ้สิ่งที่เขาเจอมัน
00:08:38 → 00:08:41 ไม่ได้น่าโมโหขนาดนั้นนะครับหรือแสดงออก
00:08:41 → 00:08:43 ที่มันขัดกับที่ควรจะเป็นน่ะบางคนก็อาจจะ
00:08:43 → 00:08:46 รู้สึกว่าพูดจาเสียดสีส่อเสียดอะไรเยอะ
00:08:46 → 00:08:47 เหลือเกินทั้งๆที่มันแต่ก่อนไม่ค่อยเป็น
00:08:47 → 00:08:50 พฤติกรรมที่มันเปลี่ยนแปลงไปอยู่ๆก็แยกคน
00:08:50 → 00:08:53 แยกตัวออกจากสังคมนะครับไม่ค่อยพูดหรือ
00:08:53 → 00:08:57 ว่าอยู่ๆก็อารมณ์ขึ้นๆลงๆนะครับพวกเนี้ย
00:08:57 → 00:08:59 มันดูเหมือนเรื่องปกตินะครับที่ที่เราเจอ
00:08:59 → 00:09:01 เรื่อยๆแต่มันไม่ปกตินะครับแลนั่นคือจริง
00:09:01 → 00:09:04 ๆมันเป็นสัญญาณเตือนซึ่งผู้ก่อเหตุมักจะ
00:09:04 → 00:09:07 มีนะครับถ้าคนไหนย้อนไปดูเนี่ยทุกกรณีจะ
00:09:07 → 00:09:09 มีแบบนี้อยู่แล้วนะครับแล้วถ้าแค่นี้หยุด
00:09:09 → 00:09:11 ไม่อยู่เนี่ยมันจะเริ่มมีการพูดถึงความ
00:09:11 → 00:09:15 รุนแรงสำหรับผมเนี่ยไอ้ขั้นแรกเนี่ยมัน
00:09:15 → 00:09:17 อาจจะบอกยากเพราะว่าหลายๆคนก็เป็นนะครับ
00:09:17 → 00:09:19 บางทีเราหงุดหงิดมาเเราก็เป็นอย่างงั้น
00:09:19 → 00:09:22 ได้แต่พอถึงขั้นที่ 2 เมื่อไหร่ก็แล้วแต่
00:09:22 → 00:09:25 ที่เริ่มมีการพูดถึงความรุนแรงแล้วล่ะก็
00:09:25 → 00:09:28 อันเนี้ยคือสัญญาณเตือนขั้นสุดท้ายแล้ว
00:09:28 → 00:09:30 ถ้าท่านไม่สามารถจัดการตรงนี้ได้นะมันจะ
00:09:30 → 00:09:33 ไปต่อจนอาจจะสุดเลยก็ได้นะครับเช่นถ้า
00:09:33 → 00:09:36 เกิดว่าเด็กเนี่ยไปซ้อมปืนแล้วก็ส่งคลิป
00:09:36 → 00:09:40 ยิงปืนส่งคลิปเปลี่ยนเอ่ออะไรเอ่อปลอก
00:09:40 → 00:09:42 กระสุนอย่างเงี้ยไอ้อย่างเงี้ยนะครับ
00:09:42 → 00:09:45 เสี่ยงละนะถ้าในบ้านมีกระสุนปืนมีอวอาวุธ
00:09:45 → 00:09:49 ปืนอยู่แปลว่าเสี่ยงมากละนะครับเสี่ยงมาก
00:09:49 → 00:09:51 แล้วนะแบบเนี้ยควรจะต้องปรึกษาจิตแพทย์
00:09:52 → 00:09:54 เด็กนะครับต้องปรึกษาทันทีไม่ใช่ว่าเออ
00:09:54 → 00:09:56 มันก็ไม่เป็นไรมั้งรอไปก่อนเด็กเค้าก็
00:09:56 → 00:09:58 เป็นอย่างเงี้เคตั้งใจไปออกกำลังกายไปยิง
00:09:58 → 00:10:00 ปืนเป็นกีฬเวลาชนิดหนึ่งเราควรจะส่งเสริม
00:10:00 → 00:10:03 ไม่ได้ครับไม่ได้นะของพวกนี้เวลาเด็กได้
00:10:03 → 00:10:06 ไปเนี่ยมันจะยิ่งมีปัญหาได้นะครับถ้ายิ่ง
00:10:06 → 00:10:09 ได้ได้สิ่งที่มีอันตรายสูงนะครับอยู่ใน
00:10:09 → 00:10:11 เด็กที่มีปัญหาพวกนี้อยู่แล้วเนี่ยยิ่ง
00:10:11 → 00:10:13 แล้วใหญ่ดังนั้นตอนนี้ก็คงจะต้องมีคนคิด
00:10:13 → 00:10:17 กันแหละว่าเออปืนมันหาง่ายนะตั้งแต่สมัย
00:10:17 → 00:10:19 มีการยิงคนโน้นคนนี้แล้วทำไมเราถึงไม่จัด
00:10:19 → 00:10:21 การมาให้เรียบร้อยซักทีแล้วจริงๆพูดมา
00:10:21 → 00:10:24 ตั้งนานแล้วว่าพอมีปืนเนี่ยคนเราจะซื้อ
00:10:24 → 00:10:27 ปืนที่ถูกกฎหมายก็ต้องมีการประเมินสุขภาพ
00:10:27 → 00:10:30 จิตก่อนนะครับซึ่งมันควรจะต้องมีนะฮะส่วน
00:10:30 → 00:10:32 ปืนเถื่อนนี้ก็เออมีเยอะแยะหาได้ทั่วๆไป
00:10:32 → 00:10:35 ปืนที่เป็นเอ่อปืนที่เอามาปรับเปลี่ยนเอง
00:10:35 → 00:10:37 ให้มันเป็นปืนจริงได้ก็เยอะแยะตรงนี้ก็
00:10:37 → 00:10:41 ต้องไปดูเรื่องของกฎหมายอย่างไรก็ตามเรา
00:10:41 → 00:10:44 ในฐานะคนในสังคมเนี่ยจะต้องรู้สัญญาณ
00:10:44 → 00:10:46 เตือนเมื่อกี้ทั้งหมดถ้าเมื่อเมื่อไหร่
00:10:46 → 00:10:48 เพื่อนเราคนรู้จักของเรานะเริ่มพูดถึง
00:10:48 → 00:10:51 อะไรที่รุนแรงขึ้นมาเมื่อไหร่แล้วล่ะก็
00:10:51 → 00:10:52 อันเนี้ย
00:10:52 → 00:10:56 ต้องต้องรายงานคนที่อยู่ระดับสูงกว่าต้อง
00:10:56 → 00:10:58 พาไปพบจิตแพทย์หรืออะไรก็แล้วแต่รวมทั้ง
00:10:58 → 00:11:01 คนคนที่บอกว่าจะฆ่าตัวตายด้วยนะครับคน
00:11:01 → 00:11:03 เหล่าเนี้ยก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้เกิด
00:11:03 → 00:11:06 อันตรายกับสังคมได้เหมือนกันนะอ่ะทีนี้
00:11:06 → 00:11:09 สมมุติผ่านขั้นนี้ไปหมดะแล้วเราดันเป็นคน
00:11:09 → 00:11:12 ซวยมากที่ไปอยู่ในเหตุการณ์แบบพารากอน
00:11:12 → 00:11:14 อย่างงั้นเนี่ยเราต้องทำยังไงบ้างเออตรงเ
00:11:14 → 00:11:18 สำคัญละมี 3 อย่างที่เราสามารถทำได้แล้ว
00:11:18 → 00:11:21 แต่สถานการณ์อันแรกวิ่งหนีอันที่ 2 หลบ
00:11:21 → 00:11:26 ซ่อนอันที่ 3 จัดการกับเจ้าคนนั้นนะ
00:11:26 → 00:11:30 ครับถ้าเราเห็นเห็นทางสะดวกแล้วเราไม่ได้
00:11:30 → 00:11:34 อยู่ในทางปืนหรือว่าในบริเวณที่เราจะหนี
00:11:34 → 00:11:36 ไม่ได้เนี่ยให้รีบหนีนะครับให้รีบหนีออก
00:11:36 → 00:11:39 มาข้างนอกเวลาหนีเนี่ยก็ดูทางหนีทีไล่ให้
00:11:39 → 00:11:41 ดีๆด้วยว่าไม่มีอุปสรรคอะไรอยู่ข้างหน้า
00:11:41 → 00:11:44 นะครับช่วยคนที่เราพอช่วยได้นะครับแล้ว
00:11:44 → 00:11:46 ถ้าออกไปข้างนอกเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจเนี่ย
00:11:46 → 00:11:50 ถ้าอเมริกานะเคแนะนำว่าให้คุณทำอย่างนี้
00:11:50 → 00:11:53 ออกไปให้ชูมือ 2 ข้างกลางนิ้วออกอย่ามี
00:11:54 → 00:11:55 อะไรอยู่ในมือตำรวจหรือว่าเจ้าหน้าที่
00:11:55 → 00:11:59 ข้างนอกเขาจะรู้ว่าคุณไม่ใช่คนร้ายอ่าชู
00:11:59 → 00:12:01 อย่างเงี้วิ่งออกมาเพราะว่าถ้าคนไหนดู
00:12:01 → 00:12:04 หนังบ่อยคงจะเคยเห็นมันจะมีคนร้ายบางคน
00:12:04 → 00:12:07 ที่ฉลาดมากแล้ววิ่งปะปนออกมากับฝูงชนแบบ
00:12:07 → 00:12:09 เนี้ยแล้วก็หนีไปได้หรือไม่ฉันก็ไปแอบยิง
00:12:09 → 00:12:12 คนข้างนอกนะครับแต่นี่ผมอาจจะดูหนังมากไป
00:12:12 → 00:12:15 ก็ได้นะแต่นี่คือเหตุผลจริงๆที่อเมริกา
00:12:15 → 00:12:17 เขาสอนเจะสอนแบบนี้ถ้าคุณวิ่งออกมาเนี่ย
00:12:17 → 00:12:20 ชูมือเหนือหูเหนือหัวกางนิ้วออกอย่ามี
00:12:20 → 00:12:22 อะไรอยู่ในมือนะครับเขาจะรู้ว่าคนที่วิ่ง
00:12:22 → 00:12:25 ออกมาเนี่ยไม่ใช่ผู้ร้ายนะครับนั่นคือ
00:12:25 → 00:12:28 วิธีที่หนีที่ถูกต้องแต่ถ้าเกิดมันจวนตัว
00:12:28 → 00:12:31 แล้วมันหนีไม่ได้ได้น่ะอ่าคือแบบคนร้าย
00:12:31 → 00:12:35 เฮ้ยอยู่ตรงนั้นเลยหนีไม่ได้เราทำไงก็
00:12:35 → 00:12:39 ต้องไปหาบริเวณซึ่งสามารถที่จะหลบซ่อนได้
00:12:39 → 00:12:41 หลบซ่อนี่ต้องเป็นบริเวณยังไงบ้างนะครับ
00:12:41 → 00:12:44 อันแรกคือจะต้องมีเหมือนเป็นป้อมปราการ
00:12:44 → 00:12:46 ให้เราสามารถกันไม่ให้เขาเข้ามาได้นะครับ
00:12:46 → 00:12:49 กันอาวุธได้รวมทั้งไม่ใช่เป็นการปิดตัว
00:12:49 → 00:12:52 เองขังไว้อยู่กับที่นะครับถ้าออกไปสักที่
00:12:52 → 00:12:54 นึงได้มีทางออกทางอื่นได้ในห้องนั้นเนี่ย
00:12:54 → 00:12:57 มันก็จะเป็นการดีนะครับนั้นเวลาที่ซ่อน
00:12:58 → 00:13:01 ตัวเนี่ยเข้าไปในห้องห้องหนึ่งหรือในร้าน
00:13:01 → 00:13:05 ห้างร้านอะไรก็ได้นะครับปิดประตูปิดไฟปิด
00:13:05 → 00:13:08 เสียงนะครับประตูถ้าปิดได้ถ้าสมมุติว่า
00:13:08 → 00:13:10 มันเป็นมันเป็นห้องสักห้องนึงที่เป็น
00:13:10 → 00:13:13 ประตูเปิดปิดเนี่ยปิดประตูล็อคแล้วเอา
00:13:13 → 00:13:15 อะไรักอย่างไปดันเอาเฟอร์นิเจอร์เอาโต๊ะ
00:13:15 → 00:13:16 เอาเก้าอี้อะไรเนี่ยไปดันไว้ตรงนั้นเพราะ
00:13:16 → 00:13:18 ว่ามันจะเป็นปราการหน้าด่านให้เราให้เขา
00:13:18 → 00:13:21 เข้ามาไม่ได้นะครับแล้วไม่แค่นั้นไม่พอนะ
00:13:21 → 00:13:24 ครับถ้าเรายังอยู่ในห้องนั้นคือหาทุก
00:13:24 → 00:13:26 อย่างมากันเช่นไปหลบหลังเคาน์เตอร์เอา
00:13:26 → 00:13:29 อะไรมามาล้มแล้วเราก็ไปหลบอยู่หลังนั้นนะ
00:13:29 → 00:13:32 ครับไฟต้องปิดทุกอย่างต้องเงียบมือถือเรา
00:13:32 → 00:13:34 ต้องปิดให้หมดนะครับปิดให้เป็นเสียงเงียบ
00:13:34 → 00:13:36 เลยนะครับเพราะว่าถ้าเมื่อไหร่ก็ตามมี
00:13:36 → 00:13:38 เสียงมีอะไรมาอย่างเงี้ยนะครับเค้าก็จะ
00:13:38 → 00:13:41 เข้ามาตรงนั้นถ้าผมเป็นคนร้ายนะครับผมคง
00:13:41 → 00:13:44 จะไม่หาทางทะลุเข้าไปในที่ที่มันเข้าไป
00:13:44 → 00:13:46 ยากๆผมจะหาทางที่มันเออเดินง่ายสะดวกแล้ว
00:13:46 → 00:13:48 คนเยอะๆผมจะไปยิงตรงนั้นซะมากกว่าถูกมั้ย
00:13:49 → 00:13:51 ครับถ้ามันเข้ายากนะครับล็อคไว้หลายชั้น
00:13:51 → 00:13:53 มีอะไรกั้นมืดก็มืดเสียงก็ไม่มีไม่รู้
00:13:53 → 00:13:55 เข้าไปแล้วจะเจอคนให้เรายิงหรือเปล่าเค้า
00:13:55 → 00:13:58 ก็โอกาสจะเข้าไปในนั้นก็น้อยลงนะครับดัง
00:13:58 → 00:14:02 นั้นนี่คือสิ่งที่เราต้องทำนะแต่ถ้าเกิด
00:14:02 → 00:14:04 ว่าสมมุติเออมันหลบอย่างงั้นไม่ได้เดี๋ยว
00:14:04 → 00:14:07 เนี้ยมันก็จะชอบมีพวกที่เอ่อถ่ายคลิป
00:14:07 → 00:14:10 โซเชียลนะครับท่านจะถ่ายคลิปก็ได้นะแต่
00:14:10 → 00:14:12 ต้องระวังมากๆนะครับถ่ายเคืออย่าไปให้
00:14:12 → 00:14:15 เค้าเห็นนะเพราะถ้าเขาคเห็นเดี๋ยวเขาคก็
00:14:15 → 00:14:17 มายิงท่านอะไรเงี้ยหรือบางคนที่บอกว่า
00:14:17 → 00:14:19 เอ่อเล่นโซเชียล Media แล้วบอกว่าตัวเอง
00:14:19 → 00:14:22 อยู่ตรงนี้ตรงนั้นนะครับอันนี้อย่าทำนะ
00:14:22 → 00:14:25 ครับผมว่ามันอันตรายทำไมก็เกิดคนร้ายมัน
00:14:26 → 00:14:28 ดูอยู่อ่ะมันดูเอ้ยมีคนเช็คอินอยู่ตรงนี้
00:14:28 → 00:14:31 อย่างตรงนั้นเดี๋ยวมันก็ตามมายิงเราสิ
00:14:31 → 00:14:33 ครับถูกมั้ยฮะงั้นอย่าทำนะถ้าท่านจะถ่าย
00:14:33 → 00:14:35 ก็ถ่ายเงียบๆซ่อนตัวอยู่ปิดเสียงมือถือ
00:14:35 → 00:14:37 ให้เรียบร้อยด้วยนะครับไม่ฉะนั้นก็
00:14:37 → 00:14:40 อันตรายได้แล้วก็อยากให้มีแสงไฟอะไรไป
00:14:40 → 00:14:42 กระทบตรงไหนที่ทำให้เขาสังเกตได้นี่คือ
00:14:42 → 00:14:47 วิธีในการซ่อนนะครับและถ้าปลอดภัยนะก็จะ
00:14:47 → 00:14:51 ต้องมีการโทรแจ้งตำรวจนะครับและทีนี้สิ่ง
00:14:51 → 00:14:53 ที่ต้องแจ้งกับตำรวจคืออะไรบ้างเพราะหลาย
00:14:53 → 00:14:55 คนคงจะตื่นเต้นตกใจไม่รู้จะพูดอะไรกับ
00:14:55 → 00:14:59 ตำรวจนะครับให้เราลำดับขั้นอย่างนี้
00:14:59 → 00:15:00 อันที่
00:15:00 → 00:15:05 1 คนร้ายอยู่ตรงไหนนะครับคนร้ายรูป
00:15:05 → 00:15:08 ประพันธ์สันฐานเป็นอย่างไรนะครับบรรยาย
00:15:08 → 00:15:10 เอาเป็นผู้ชายสูงประมาณเท่านี้ใส่เสื้อ
00:15:10 → 00:15:14 ประมาณเท่านี้อันที่ 3 คนร้ายมีอาวุธอะไร
00:15:14 → 00:15:18 นะฮะอาวุธปืนมีดดาบกระบองอันที่ 4 คนร้าย
00:15:18 → 00:15:22 มีกันกี่คนอันที่ 5 เาอยู่ที่ไหนแล้ว
00:15:22 → 00:15:25 กำลังไปทางไหนนะคนร้ายกำลังไปกำลังเดิน
00:15:25 → 00:15:29 ขึ้นเป็นชั้น 2 และนะครับอ่าอันที่ 6
00:15:29 → 00:15:32 เหยื่อที่โดนทำร้ายเนี่ยที่เราพอจะเห็นพอ
00:15:32 → 00:15:36 จะรู้เนี่ยมีกี่คนอาการเป็นแบบไหนแล้วสุด
00:15:36 → 00:15:40 ท้ายคือเราอยู่ตรงไหนนะครับเราอยู่ตรงไหน
00:15:40 → 00:15:42 แต่ถ้าเกิดว่าในขณะที่ท่านกำลังคุยมือถือ
00:15:42 → 00:15:45 อยู่เนี่ยเกิดอยู่ๆโชคร้ายไอ้คนนั้นมัน
00:15:45 → 00:15:47 เดินมาใกล้ท่านพอดีแล้วท่านจำเป็นจะต้อง
00:15:47 → 00:15:51 แบบพูดไม่ได้เงี้ยอย่าวางอย่าตัดสายทิ้ง
00:15:51 → 00:15:55 ให้เปิดไว้เฉยๆนะครับห้ามเปิดสเกอร์โฟน
00:15:55 → 00:15:56 เด็ดขาดนะครับไม่ฉะนั้นเดี๋ยวเสียงมันรอด
00:15:57 → 00:16:00 ออกมาให้เราเปิดไว้เฉเฉยๆนะครับเพื่อที่
00:16:00 → 00:16:03 จะให้ตำรวจปลายสายเนี่ยเค้าได้ยินเสียงนะ
00:16:03 → 00:16:05 ครับเขาจะทำนายเหตุการณ์ตรงนั้นพอได้
00:16:05 → 00:16:07 อย่างน้อยก็อาจจะมีเสียงสิ่งแวดล้อมหรือ
00:16:07 → 00:16:09 อะไรสักอย่างที่เค้าประเมินได้ว่าเอ้ยคน
00:16:09 → 00:16:10 นี้มันอยู่ตรงนี้มันมีประมาณนี้แล้ว
00:16:10 → 00:16:12 อันตรายมันเป็นแบบไหนให้เราเปิดไว้อย่าง
00:16:12 → 00:16:16 งั้นเลยนะอย่าตัดสายทิ้งวางไว้เฉยๆนะครับ
00:16:16 → 00:16:19 นี้คือเป็นวิธีในการแจ้งตำรวจที่ถูกต้อง
00:16:19 → 00:16:22 และในห้างร้านก็เหมือนกันนะฮะเพราะว่า
00:16:22 → 00:16:24 เหตุการณ์แบบเนี้ยเวลาที่มันเกิดขึ้นใน
00:16:24 → 00:16:26 ห้างสิ่งที่เกิดขึ้นเลยนะครับทุกคนเนี่ย
00:16:26 → 00:16:29 ก็คงจะคิดว่าเอ้ยมันมีดารามาหรือเปล่าคน
00:16:29 → 00:16:32 วิ่งกันเยอะแยะนะครับหรือมีเสียงปืนดัง
00:16:32 → 00:16:34 เสียงอะไรก็ไม่รู้นะครับระเบิดเล็กๆน้อยๆ
00:16:34 → 00:16:36 ส่วนใหญ่จะไม่มีใครคิดเลยครับว่ามันคือ
00:16:36 → 00:16:38 การยิงกันที่อเมริกาเนี่ยฝึกไว้เลยว่า
00:16:39 → 00:16:41 เวลาที่เราได้ยินเสียงปั้งขึ้นมาสักอย่าง
00:16:41 → 00:16:43 เนี่ยเสียงมันจะไม่ค่อยเหมือนปืนจริงๆคน
00:16:44 → 00:16:46 อาจจะไม่ค่อยคิดเออเล็กเลน้อยเพราะว่า
00:16:46 → 00:16:47 โอกาสเจอเหตุการณ์แบบนี้มันน้อยมากดัง
00:16:48 → 00:16:49 นั้นเนี่ยเคให้คิดไว้ก่อนถ้ามีเสียงแบบ
00:16:49 → 00:16:51 นั้นขึ้นมาเนี่ยให้เราคิดไว้ก่อนว่ามัน
00:16:51 → 00:16:55 คือเสียงปืนจริงๆนะครับและทางห้างถ้ารู้
00:16:55 → 00:16:58 นะครับควรจะต้องประกาศว่าเอ้ยตอนนี้นี้คน
00:16:59 → 00:17:01 ร้ายมีกี่คนอยู่ตรงไหนมันกำลังไปไหนนะ
00:17:01 → 00:17:03 ครับเพื่อที่จะให้คนทั้งห้างเนี่ยรู้เขา
00:17:03 → 00:17:05 จะได้หลบได้ทันนะครับเพราะว่ามันแน่นอน
00:17:05 → 00:17:08 ว่าทุกคนจะสังเกตคนร้ายนะมันสังเกตไม่ได้
00:17:08 → 00:17:10 นะครับคนที่อยู่ใกล้เออาจจะเห็นแต่คนที่
00:17:10 → 00:17:13 เค้าอยู่ไกลอ่ะเค้าไม่เห็นแล้วถ้าเกิดว่า
00:17:13 → 00:17:16 เค้าไปผิดชั้นวิ่งลงมาเจอกับคนที่เป็นคน
00:17:16 → 00:17:20 ร้ายเสร็จเลยถูกมั้ยครับเค้าคิดว่าเค้าจะ
00:17:20 → 00:17:21 หนีได้เพราะว่ารอบๆข้างเฮ้ยมันไม่มีอะไร
00:17:21 → 00:17:23 เลยนี่วิ่งลงไปข้างล่างเพื่อที่จะออกอ้าว
00:17:23 → 00:17:25 แล้วถ้าเกิดว่าคนร้ายดักรออยู่ข้างล่าง
00:17:25 → 00:17:27 เราวิ่งลงไปเจอเค้าเราก็แย่สิครับถูกมั้ย
00:17:27 → 00:17:29 ฮะดังนั้นทาทั้ง 5 ก็ควรจะต้องมีมาตรการ
00:17:29 → 00:17:32 นี้ในการประกาศพวกนี้ด้วยเออคนละหน้าตา
00:17:32 → 00:17:34 แบบนี้นะมีกันกี่คนลักษณะแบบนี้อยู่ตรง
00:17:34 → 00:17:36 ไหนกำลังไปที่ไหนอย่างเงี้ยคนก็จะได้รู้
00:17:36 → 00:17:39 ว่าเอ้ยเราควรจะหนีหรือเราควรจะหลบนะครับ
00:17:39 → 00:17:42 งั้น 2 ข้อแรกคือถ้าหนีหนีได้หนีเลยนะ
00:17:42 → 00:17:46 ครับออกไปชูมืออย่างนี้นะฮะอันที่ 2 หลบ
00:17:46 → 00:17:49 ได้ถ้าถ้าหนีไม่ได้ก็ต้องหลบสุดท้ายคือ
00:17:50 → 00:17:52 ถ้ามันไม่รอดจริงๆอ่ะคือมันอยู่ติดเรา
00:17:52 → 00:17:57 เนี่ยแล้วเราหลบก็หลบไม่ได้อันเนี้ยก็จำ
00:17:57 → 00:17:59 เราก็จำเป็นจะต้องจัดการกับคนร้ายนะครับ
00:17:59 → 00:18:02 เพราะว่าถ้าเราไม่จัดการเค้าเาก็จัดการ
00:18:02 → 00:18:05 เรานะและในกรณีนี้คือผมคิดว่ามันค่อนข้าง
00:18:05 → 00:18:09 สำคัญที่อเมริกาเนี่ยตำรวจเาสอนนะเาจะ
00:18:09 → 00:18:12 เน้นว่าคือเราต้อง
00:18:12 → 00:18:15 aggressive คือมีความก้าวร้าวโหดร้าย
00:18:15 → 00:18:19 ทารุณให้สูงที่สุดแล้วจะต้องทำให้เด็ดขาด
00:18:19 → 00:18:20 นะครับจะต้องหยุดให้เด็ดขาดเพราะว่าถ้า
00:18:20 → 00:18:23 เราหยุดเ้าไม่เด็ดขาดแล้วเนี่ยเยิงเราเรา
00:18:23 → 00:18:26 ตายเลยนะครับวิธีที่ตำรวจเขาสอนนะฮะที่
00:18:26 → 00:18:27 นี่
00:18:27 → 00:18:30 คือถ้าเราจะเราจะต้องจัดการกับคนร้ายคน
00:18:30 → 00:18:32 นี้ละมันเลี่ยงไม่ได้จริงๆเราหลบก็หลบไม่
00:18:32 → 00:18:34 ได้เราหนีก็หนีไม่ได้เค้ามาหาเราแล้ว
00:18:34 → 00:18:37 เนี่ยสิ่งที่เราต้องทำนะถ้าเรามีคนอยู่
00:18:37 → 00:18:39 ตรงนั้นรวบรวมกำลังคนทั้งหมดที่มีนะครับ
00:18:39 → 00:18:41 ใช้ทุกอย่างที่มันสามารถเป็นอาวุธได้ไม่
00:18:41 → 00:18:45 ว่าจะเป็นแจกันน้ำร้อนนะครับกระติกหรือ
00:18:45 → 00:18:47 อะไรก็ได้ที่มันอยู่ใกล้ๆเราเตรียมไว้ให้
00:18:47 → 00:18:53 หมดนะครับและรุมนะครับรุมที่ไหนนะหัวคอ
00:18:53 → 00:18:56 เป็นหลักเลยนะครับเพราะเวลเนี้ยถ้าเขาค
00:18:56 → 00:18:59 สลบแล้วเจะหยุดถ้าเราไปมัวจะจะตีแขนเค้า
00:18:59 → 00:19:02 ตีตัวเค้าต่อยหน้าอกเค้าเตะขาขัดขาเค้า
00:19:03 → 00:19:05 มือเค้ายังถือปืนอยู่เค้ายิงเราได้ทันที
00:19:05 → 00:19:09 นะครับดังนั้นสิ่งแรกที่จะต้องจัดการคือ
00:19:09 → 00:19:12 หัวเลยอย่างถ้าอเมริกาเนี่ยอาวุธที่ดีที่
00:19:12 → 00:19:14 สุดที่ที่จะเจอได้ส่วนใหญ่ก็คือเป็นพวก
00:19:14 → 00:19:17 ถังดับเพลิงอ่ะครับถือไว้เลยในในมือเสร็จ
00:19:17 → 00:19:19 แล้วเราไปหลบซ่อนอยู่หลังประตูถ้าเขาค
00:19:19 → 00:19:21 โผล่มาก็ฟาดหัวให้เต็มแรงนะครับไม่ต้อง
00:19:21 → 00:19:23 กลัวเข้าตายนะครับเพราะว่าถ้าเค้าไม่ตาย
00:19:23 → 00:19:25 อ่ะเราอาจจะตายได้นะครับงั้นนี่คือวิธี
00:19:25 → 00:19:29 สุดท้ายนะฮโดยทั่วไปไม่ไม่แนะนำให้ทำเด็ด
00:19:29 → 00:19:31 ขาดแต่ถ้ามันจวนตัวแเค้ามาถึงตัวแล้ว
00:19:31 → 00:19:33 อย่างเงี้ยนะครับแล้วเ้ากำลังจะเปิดเข้า
00:19:34 → 00:19:35 มาแล้วถ้าเราไม่ทำอะไรเลยเราตกใจอย่าง
00:19:36 → 00:19:39 เงี้ยเค้ายิงเราแน่ๆนะครับยิงเราแน่ๆดัง
00:19:39 → 00:19:42 นั้นต้องต้องชิงจัดการก่อนนะครับดังนั้น
00:19:42 → 00:19:45 นี่คือวิธีที่ทางอเมริกาเคสอนมานะครับ
00:19:45 → 00:19:48 แล้วผมคิดว่าเออมันก็มีเหตุผลนะและถ้าเรา
00:19:48 → 00:19:51 ตีเราเราไม่ต้องไม่ต้องปราณีใดๆทั้งสิ้น
00:19:51 → 00:19:53 ต้องจัดการให้เด็ดขาดสุดๆเลยนะครับเด็ด
00:19:53 → 00:19:57 ขาดแล้วพอคุมสถานการณ์ได้จับเได้แล้วก็
00:19:57 → 00:19:59 มัดไว้ให้เรียบร้อยอย่างเงี้ยนะฮะแล้วก็
00:19:59 → 00:20:02 รีบแจ้งตำรวจเลยนะครับแล้วต้องอย่าลืมบาง
00:20:02 → 00:20:05 ทีคนร้ายไม่ได้มีคนเดียวนะครับคนนี้เจัด
00:20:05 → 00:20:07 การได้ก็ไม่ได้แปลว่าเฮ้ยเราเรียบร้อยเรา
00:20:07 → 00:20:09 วิ่งออกไปนอกห้องอาจจะโดนอีกคนนึงมายิงก็
00:20:09 → 00:20:11 ได้นะครับเพราะว่าเราต้องสมมุติไว้ก่อน
00:20:11 → 00:20:15 ว่าคนร้ายมีมากกว่า 1 คนเสมอเสมอเลยนะ
00:20:15 → 00:20:17 ครับเราไม่สามารถบอกได้ว่าคนร้ายมันมีกี่
00:20:17 → 00:20:21 คนจนกว่าเหตุการณ์จะจบนะอ่าจนกว่าเหตุ
00:20:21 → 00:20:25 การณ์จะจบเลยนะฮะอ่ะและอีกอย่างนึงซึ่ง
00:20:25 → 00:20:30 สมมุตินะครับเรากำลังหนีออกไปละเราเห็น
00:20:30 → 00:20:33 เจ้าหน้าที่เดินมาสิ่งที่เราทำคืออะไรไม่
00:20:33 → 00:20:36 ใช่ว่าวิ่งโว้ยวายอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:20:36 → 00:20:39 เวลาที่เราเจอเจ้าหน้าที่แบบนี้นะสิ่งที่
00:20:39 → 00:20:41 เราต้องทำก็คืออย่างเงี้ยยกมือว่าเฮ้ยเรา
00:20:41 → 00:20:43 ปราศจากอาวุธเราไม่ใช่คนน้ายวิ่งเข้าไปหา
00:20:43 → 00:20:47 เขานะครับแล้วเจ้าหน้าที่ให้ทำอะไรทำตาม
00:20:47 → 00:20:49 นะครับเอาจจะบอกให้เราหมอบลงกับพื้นเราก็
00:20:49 → 00:20:52 หมอบเค้าให้ทำเราทำอะไรเราก็ทำตามให้หมด
00:20:52 → 00:20:55 ไม่ต้องไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
00:20:55 → 00:20:57 นะครับไม่ต้องไปขอความช่วยเหลือไม่ต้องไป
00:20:57 → 00:20:59 เกาะแข้งเกาะขาเคเพราะว่ามันทำให้การทำ
00:20:59 → 00:21:02 งานเนี่ยมันทำไม่สำเร็จและลำบากมากขึ้นนะ
00:21:02 → 00:21:05 ดังนั้นไม่ต้องทำนะฮะพอพ้นตรงนั้นน่ะวิ่ง
00:21:05 → 00:21:07 ไปในทางที่เจ้าหน้าที่เพิ่งจะออกมาเจ้า
00:21:07 → 00:21:09 หน้าที่มาทางไหนเราวิ่งย้อนกลับไปทางนั้น
00:21:09 → 00:21:12 ครับทางนั้นจะปลอดภัยที่สุดแล้วพอออกไป
00:21:12 → 00:21:14 แล้วก็อาจจะมีจุดรวมพลที่เจ้าหน้าที่เบอก
00:21:14 → 00:21:17 ว่าเอ้ยเราไปอยู่ตรงนั้นก่อนรอขอสอบปากคำ
00:21:17 → 00:21:19 ขอดูขอคุยหน่อยว่าเฮ้ยเหตุการณ์ข้างในมัน
00:21:19 → 00:21:21 เกิดอะไรขึ้นเพราะว่าเขาจะได้ประเมินถูก
00:21:21 → 00:21:23 แล้วก็เข้าไปช่วยคนที่อยู่ข้างในได้นะ
00:21:23 → 00:21:25 ครับส่วนเราเนี่ยเราช่วยคนไหนได้เราก็
00:21:25 → 00:21:28 พยายามช่วยนะฮะแต่เน้นอย่างหนึ่งนะครับ
00:21:28 → 00:21:30 ที่อเมริกานี่จะเน้นเพราะว่าที่อเมริกา
00:21:30 → 00:21:32 เวลาที่เราอยู่ในโรงพยาบาลเกิดมีคนยิง
00:21:32 → 00:21:35 อะไรซักอย่างในโรงพยาบาลเนี่ยทุกคนที่หนี
00:21:35 → 00:21:39 เหตุการณ์แบบนี้นะไม่มีความผิดไม่ว่าท่าน
00:21:39 → 00:21:41 จะช่วยหรือไม่ช่วยคนที่อยู่ในโรงพยาบาลก็
00:21:41 → 00:21:43 ตามท่านไม่มีความผิดนะครับเพราะว่ามันถือ
00:21:43 → 00:21:46 ว่าเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคลชีวิตส่วน
00:21:46 → 00:21:48 บุคคลนะครับสมมุติว่ามีคนยิงกันในโรง
00:21:48 → 00:21:50 พยาบาลแล้วหมอไม่ช่วยคนไข้ออกมาเนี่ยหมอ
00:21:50 → 00:21:54 ไม่ผิดนะเอ่าคนไข้ไม่ช่วยหมอแล้วหมอโดน
00:21:54 → 00:21:57 ยิงคนไข้ก็ไม่ผิดนะมันไม่มีใครผิดทั้ง
00:21:57 → 00:21:59 นั้นเลยเพราะว่ามันเหตุการณ์ต่อชีวิต
00:21:59 → 00:22:01 อย่างเงี้ยมันต้องหนีกันทั้งนั้นนะครับ
00:22:01 → 00:22:05 ดังนั้นเป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำนะครับงั้น
00:22:05 → 00:22:07 ทบทวนกันอีกทีนะครับเหตุการณ์เหล่าเนี้ย
00:22:07 → 00:22:10 มันเจอน้อยมากสิ่งที่เราควรจะต้องทำถ้าใน
00:22:10 → 00:22:14 กรณีที่มันเจอเหตุการณ์คนยิงกันในที่
00:22:14 → 00:22:18 สาธารณะแบบนี้นะครับให้เราว่างๆเนี่ยคิด
00:22:18 → 00:22:19 อยู่ในหัวเลยว่าถ้าเราอยู่ในเหตุการณ์แบบ
00:22:20 → 00:22:22 นั้นเราจะทำยังไงคือหลับตานึกภาพเลยนะ
00:22:22 → 00:22:24 ครับเพราะว่ามันจะไปซ้อมจริงหือซ้อมไม่
00:22:24 → 00:22:26 ได้นะครับหลับตานึภาโอเคถ้าเราหนีเนี่ย
00:22:26 → 00:22:29 เราไปที่นี่เอ้ทางหนีไฟมันอยู่ตรงไหนทาง
00:22:29 → 00:22:31 ไหนที่ออกไปได้ง่ายที่สุดถ้าเราหนีได้
00:22:31 → 00:22:34 แล้วเราอยู่ห่างไกลจากคนร้ายหนีนะครับถ้า
00:22:34 → 00:22:37 เราหนีไม่ได้ซ่อนซ่อนที่ไหนที่ไหนก็ได้
00:22:37 → 00:22:40 ที่มันมันปิดประตูได้นะครับเอาของมายัน
00:22:40 → 00:22:43 ประตูได้ปิดไฟให้มิดให้มืดเลยนะครับปิด
00:22:43 → 00:22:45 มือถือนะครับอย่าให้มันมีเสียงอะไรรอดออก
00:22:45 → 00:22:48 มานะครับถ้ามั่นใจแล้วก็ตรงนั้นไม่มี
00:22:48 → 00:22:51 เสียงคนเดินนะครับทุกอย่างปลอดภัยดีให้
00:22:51 → 00:22:55 เราโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจนะครับบอกว่าคน
00:22:55 → 00:22:57 ร้ายเท่าที่เราเห็นนะครับอยู่ตรงไหนมีกัน
00:22:58 → 00:23:00 กี่คนรูปประพันธ์สันฐานเป็นยังไงมีอาวุธ
00:23:00 → 00:23:03 อะไรบ้างกำลังไปที่ไหนมีเหยื่อกี่คน
00:23:03 → 00:23:05 เหยื่ออาการเป็นแบบไหนและเราอยู่ที่ไหนนะ
00:23:05 → 00:23:09 ครับสิ่งเหล่าเนี้ยต้องบอกไว้นะครับและ
00:23:09 → 00:23:14 ถ้าเราอยู่หลบไม่ได้จริงๆคนร้ายมาเราก็
00:23:14 → 00:23:17 ต้องจัดการรวบรวมกำลังที่มีทั้งหมดทุกคน
00:23:17 → 00:23:19 ที่มีอยู่ตรงนั้นนะครับอาวุธอะไรก็ได้ที่
00:23:19 → 00:23:22 เราพอสามารถทำให้มันเป็นอาวุธได้นะครับ
00:23:22 → 00:23:27 และจุดที่เราต้องเล็งคือหัวกับคอเพื่อทำ
00:23:27 → 00:23:30 ให้เขเหมดสภาพนะครับตีแรงเต็มที่นะครับ
00:23:30 → 00:23:33 ไม่ต้องยังอะไรทั้งสิ้นเพื่อต้องหยุดเหตุ
00:23:33 → 00:23:35 การณ์เหล่านั้นให้ได้นะครับแต่นี่เป็น
00:23:35 → 00:23:37 วิธีทางเลือกสุดท้ายนะครับท่านไม่ควรจะ
00:23:37 → 00:23:39 เริ่มวิธีนี้ก่อนยกเว้นว่ามันจวนตัวมาก
00:23:39 → 00:23:43 จริงๆนะฮะงั้นหวังว่าเอ่อสิ่งเหล่านี้ที่
00:23:43 → 00:23:46 ผมเล่าในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคน
00:23:46 → 00:23:48 บ้างนะครับก็อยากจะให้กลับมาทบทวนเรื่อง
00:23:48 → 00:23:50 พวกนี้อยู่เรื่อยๆเพราะว่ามันเจอไม่บ่อย
00:23:50 → 00:23:53 แต่มันเจอทีไรเนี่ยก็มาคุยอย่างเงี้กัน
00:23:53 → 00:23:55 ทุกทีตั้งแต่เหตุการณ์กราดยิงที่โน่นที่
00:23:55 → 00:23:58 นี่แล้วนะครับก็ยังไม่ได้เห็นมีมาตรการ
00:23:58 → 00:24:01 อะไรออกมาชัดเจนสักเท่าไหร่นะครับอยู่ๆ
00:24:01 → 00:24:04 ข่าวมันดังปุ๊บมันก็ลืมไปเลยใช่มครับลืม
00:24:04 → 00:24:06 ไปแล้วมาตรการที่เราว่าจะจัดการน่ะ
00:24:06 → 00:24:09 มาตรการเรื่องของกฎหมายปืนอ้าไปถึงไหน
00:24:09 → 00:24:12 แล้วนะครับไม่ไม่ไปถึงไหนผมยังไม่เห็นมี
00:24:12 → 00:24:14 อะไรออกมาออกมาประกาศใดๆทั้งสิ้นนะครับ
00:24:14 → 00:24:16 เดี๋ยวเราก็ลืมเหตุการณ์นี้ผมก็ว่าเดี๋ยว
00:24:16 → 00:24:18 คนก็ลืมเหมือนกันเดี๋ยวรอเหตุการณ์ใหม่
00:24:18 → 00:24:20 ที่มันดังขึ้นมาเนี่ยมันก็จะกลบเหตุการณ์
00:24:20 → 00:24:23 นี้ไปเองนะครับอ่าก็จะกลบไปเองข่าวอื่นๆ
00:24:23 → 00:24:26 ดังขึ้นมาก็จะกลบข่าวนี้ไปเองสุดท้ายก็
00:24:26 → 00:24:29 ไม่ได้อะไรขึ้นมานะครับส่วนตัวผมเองผมจะ
00:24:29 → 00:24:32 กะว่าจะทำแบบนี้ผ่านเวลาไปอีกสักพักนึง
00:24:32 → 00:24:34 เนี่ยถ้ายังไม่มีคนเอาเรื่องนี้กลับมาคุย
00:24:34 → 00:24:36 ใหม่ผมก็จะเอามันกลับมาคุยใหม่ถึงแม้มัน
00:24:36 → 00:24:38 จะเป็นเรื่องเดิมผมก็จะเอามาคุยใหม่เพื่อ
00:24:38 → 00:24:40 ที่จะให้ทุกคนเนี่ยได้ยินเรื่องพวกเยซ้ำ
00:24:40 → 00:24:42 แล้วซ้ำเล่าซ้ำแล้วซ้ำ่ำอยู่ในหัวจน
00:24:42 → 00:24:45 กระทั่งรู้สึกว่าเฮ้ยมันได้ซ้อมอ่ะแล้ว
00:24:45 → 00:24:47 ถ้าสมมุติดวงซวยจริงๆแล้วมันเกิดเหตุ
00:24:47 → 00:24:50 การณ์แบบนี้ขึ้นมาเราจะได้จัดการได้หร
00:24:50 → 00:24:52 หรือว่าถ้าเราอยู่ในสังคมที่มีโอกาสที่จะ
00:24:52 → 00:24:55 มีคนกลายเป็นแบบนั้นได้ผมก็จะมาทบทวนให้
00:24:55 → 00:24:58 เรื่อยๆเลยว่าเฮ้ยทำไมมันมีเหตุการณ์อะไร
00:24:58 → 00:25:00 มีสัญญาณอะไรที่เตือนแล้วเราต้องจัดการ
00:25:00 → 00:25:04 กับมันบ้างแล้วเราต้องเอยมีการรายงานนะ
00:25:04 → 00:25:06 ครับหรือเอาไปบำบัดหรืออะไรก็แล้วแต่นะ
00:25:06 → 00:25:08 ครับก็จะเอามาเตือนอยู่เรื่อยๆนะครับยัง
00:25:08 → 00:25:10 ไงเรื่องพวกเนี้ต้องอย่าให้เงียบต้องรู้
00:25:10 → 00:25:12 ว่ามีมาตรการอะไรบ้างที่เราทำได้และส่วน
00:25:12 → 00:25:14 ตัวเราเองอย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว
00:25:14 → 00:25:17 นะครับทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้และเราต้อง
00:25:17 → 00:25:19 เตรียมพร้อมกับมันเสมอซ้อมอยู่ในหัวซ้อม
00:25:20 → 00:25:22 ให้มันมโนภาพให้มันแจ่มเลยนะครับแล้วเวลา
00:25:22 → 00:25:25 เจอเหตุการณ์จริงมันจะจัดการได้อย่างน้อย
00:25:25 → 00:25:27 ท่านก็จะปลอดภัยแล้วก็ไม่ลุกลี้ลุกรนจน
00:25:27 → 00:25:29 เกินไปนะครับโอเควันนี้เท่านี้นะครับ
00:25:29 → 00:25:33 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ