00:00:00 → 00:00:03 ก็อยู่กับคุณหมอกิตติชัยมงคลคุณนะคะใน
00:00:03 → 00:00:06 แพทย์ชำนาญการกลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง
00:00:06 → 00:00:10 ด้านโสตศอนาสิกโรงพยาบาลราชวิถีที่จะมา
00:00:10 → 00:00:14 คุยกับคุณฟังตอบข้อสงสัยที่เป็นประเด็น
00:00:14 → 00:00:18 กันอยู่เรื่องของกลิ่นไม่ติดจมูกสวัสดี
00:00:18 → 00:00:21 ค่ะคุณหมอคะสวัสดีครับคุณหมอครับสวัสดี
00:00:21 → 00:00:23 ครับคุณนพคนนั้นมนสวัสดีครับท่านผู้ฟัง
00:00:23 → 00:00:27 ครับๆเดี๋ยววันนี้เดี๋ยวจะต้องขอรบกวนคุณ
00:00:27 → 00:00:31 หมอนะครับในยามค่ำคืนแบบนี้มาอธิบายถึง
00:00:31 → 00:00:34 เขาใช้คำว่าเป็นภาวะอาการใช่ไหมครับยัง
00:00:34 → 00:00:36 ไม่ถึงกับขั้นเป็นโรคใช่ไหมครับคุณหมอ
00:00:36 → 00:00:41 ครับเรากลับก็ขับก็ถ้าเกิดจริงๆแล้วต่อ
00:00:41 → 00:00:44 เรื่องของภาวะที่มีการได้กลิ่นคือปกตินะ
00:00:44 → 00:00:46 ครับเราอาจจะต้องเข้าใจก่อนนิดนึงนะครับ
00:00:46 → 00:00:49 ว่าเวลาร่างกายเราเนี่ยได้รับพิมพ์เนี่ย
00:00:49 → 00:00:52 มันเกิดขึ้นได้ยังไงบ้างนะครับเดี๋ยวผม
00:00:52 → 00:00:54 เอาความสั้นๆหน้านะครับได้เลยครับเชิญเลย
00:00:54 → 00:00:58 ครับขอครับขับก็ดับแรกเลยนะครับปกติแล้ว
00:00:58 → 00:01:01 เนี่ยการที่เราจะได้กินก็ต้องมีติดกำเนิด
00:01:01 → 00:01:03 ของกินมาก่อนนะครับก็คือแหละกำเนิดของกิน
00:01:03 → 00:01:06 นะครับหินเหล่านี้ก็คือสารเคมีชนิดนึงนะ
00:01:06 → 00:01:09 ครับก็จะเข้าสู่จมูกของเรานะครับเพราะ
00:01:09 → 00:01:11 เข้าสู่จมูกของเราแล้วเนี่ยส่วนของการรับ
00:01:11 → 00:01:14 ติน่าจะอยู่กับ 100 อยู่บริเวณของเพดาน
00:01:14 → 00:01:17 ของจมูกนะครับก็บนบริเวณของเพดานของจมูก
00:01:17 → 00:01:20 แล้วก็จะมีเยอะบุกแล้วก็มีเส้นประสาทที่
00:01:20 → 00:01:22 เป็นประสาทในก็ทำหน้าที่เหมือนสายไฟนะ
00:01:22 → 00:01:25 ครับพอผ่านเคมีที่เกี่ยวที่มาจากแหล่ง
00:01:25 → 00:01:28 กำเนิดกินแล้วแต่สัมผัสกับเยื่อบุแล้วก็
00:01:28 → 00:01:31 จะส่งกระแสประสาทไปตามเส้นประสาทเหล่านี้
00:01:31 → 00:01:33 นะครับแล้วก็ขึ้นไปแปลบทที่สมองใหญ่ของ
00:01:33 → 00:01:36 เรานะครับสมองใหญ่ของเราก็เหมือน CPU ของ
00:01:36 → 00:01:39 คอมพิวเตอร์นะครับทำหน้าที่ประมวลกฎแล้ว
00:01:39 → 00:01:42 ก็ตอบร่างกายเราว่ากินนี้คืออะไรนะครับ 5
00:01:42 → 00:01:45 กันคือเกินไปปกติของการรับผิดครับ
00:01:45 → 00:01:49 มันอยู่ตรงเพดานเพราะฉะนั้นว่าจะชี้ให้
00:01:49 → 00:01:53 เห็นว่าไอ้ตรงตุ่มคือมันเหมือนกับว่าถ้า
00:01:53 → 00:01:56 ลินจะมีตุ่มรับรสถ้ากลิ่นเนี่ยจะมีเหมือน
00:01:56 → 00:02:00 ตุ่มตุ่มรับกลิ่นเนี่ยก็อยู่ตรงเพดานของ
00:02:00 → 00:02:02 นะครับก็คือจะเป็นเส้นประสาทที่วิ่งมาจาก
00:02:02 → 00:02:04 ในสมองนะครับแล้วบ้านเขาก็จะอยู่ส่วนบน
00:02:04 → 00:02:08 ของจมูกนะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยเมื่อจะได้
00:02:08 → 00:02:10 รับผิดคือปกติเนี่ยก็จะมีสองตัวส่วนที่
00:02:10 → 00:02:13 ขาดเกิดขึ้นได้นะครับหนึ่งก็คือมีโรคหรือ
00:02:13 → 00:02:15 มีอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ในจมูกที่เรามอง
00:02:15 → 00:02:17 ไม่เห็นนะครับมันเป็นแหละครับหน่อยของ
00:02:17 → 00:02:20 กิมเองเช่นกันแต่ว่าเป็นโรคที่ซ่อนอยู่ใน
00:02:20 → 00:02:23 ตัวเราแต่เราไม่เห็นคนอื่นก็ไม่ได้กิจเอา
00:02:23 → 00:02:25 ว่ามันอยู่ในจมูกเราคนเดียวเท่านั้นอย่าง
00:02:25 → 00:02:28 นี้นะครับ 2 ก็คือความผิดปกติที่เกิดจาก
00:02:28 → 00:02:32 บริเวณเส้นประสาทที่เหมือนเป็นสายไฟนำแต่
00:02:32 → 00:02:35 ประสาทขึ้นไปแปลผลที่สมองถ้าสายไฟดีก็คือ
00:02:35 → 00:02:38 ส่งกระแสประสาทจะได้หมดแต่ว่าสายไฟนี้ถ้า
00:02:38 → 00:02:40 มันมีการชำรุดมันก็จะส่งข้อความที่ติด
00:02:40 → 00:02:43 เขียนขึ้นแต่ๆคนที่สมองทำให้เราได้กิจที่
00:02:43 → 00:02:46 ผิดเพี้ยนไปไม่ได้มีจิตจริงๆแต่เราดันมี
00:02:46 → 00:02:49 กระแสประสาทที่ส่งขึ้นไปแปลผลนะครับน้อง
00:02:49 → 00:02:53 ก็เลยรู้สึกว่ามีกิจที่ผิดปกติมาซึ่ง 3
00:02:53 → 00:02:56 เนื้อหาก็คือว่ามีความผิดปกติในตัวสมอง
00:02:56 → 00:02:59 ใหญ่ของเราเองเลยเนี่ยนะครับก็ทำให้เกิด
00:02:59 → 00:03:02 ว่าไม่ได้มีอะไรส่งเข้ามาแต่ว่าสมองก็บอก
00:03:02 → 00:03:05 ร่างกายว่ามีกิจเข้ามาผิดปกติอย่างนี้นะ
00:03:05 → 00:03:08 ครับไม่ฉะนั้นตรวจที่อาจจะเกิดขึ้นได้ก็
00:03:08 → 00:03:11 จะมี 3 ตัวนี้นะครับที่อาจจะมีความผิดปติ
00:03:11 → 00:03:15 กได้ครับก็คือหนึ่งก็คือเกิดจากว่าตรง
00:03:15 → 00:03:20 เส้นภาษาการแปลแปลกกลิ่นระหว่างทางนะคะ
00:03:20 → 00:03:23 ระบบศูนย์ของเส้นประสาทของการรับกลิ่น
00:03:23 → 00:03:27 นั้นผิดแล้วก็ส่วนของสมองใหญ่ที่แปลผลและ
00:03:27 → 00:03:30 อีกจุดหนึ่งก็คือเป็นจุดที่ตรงๆเลยตรง
00:03:30 → 00:03:36 จมูกเราสามชอบซ่อนอยู่ใครครับเธอภาวะที่
00:03:36 → 00:03:40 ที่เป็นลักษณะแบบนี้ครับคุณหมอเขาเขามี
00:03:40 → 00:03:42 ชื่อเรียกนะครับคุณหมอครับที่แบบเลขริน
00:03:42 → 00:03:46 แปลกๆกินปลัดตลาดอยู่ตลอดเวลาให้เป็นสิน
00:03:46 → 00:03:49 ไม่รู้ว่ากลิ่นอะไรยังไงครับคุณหมอครับ
00:03:49 → 00:03:53 ถ้าถ้าเกิดจากวาดไม่มองดูแล้วถ้าเกิดดู
00:03:53 → 00:03:56 แล้วไม่มีต่อแหล่งกำเนิดของสิ้นแต่ว่าเรา
00:03:56 → 00:03:58 ดันได้กลิ่นเนี่ยนะครับเขาก็จะเรียกว่า
00:03:58 → 00:04:01 ภาวะแฟนพอร์ชเมียได้นะครับกันความ peer
00:04:02 → 00:04:04 มันก็เป็นรากศัพท์มาจากกันท่อมนะครับก็
00:04:04 → 00:04:07 คือมันกลับบ้านไม่มีอะไรแต่ว่าเรามีอาการ
00:04:07 → 00:04:12 ให้รับผิดเข้ามาเองนะครับแต่ว่าไปบึงค่ะ
00:04:12 → 00:04:15 ตายความแต่เตือนไม่ถือว่าเป็นโรคนะครับ
00:04:15 → 00:04:18 เพราะว่าภาวะนี้ก็สามารถเจอในคนปกติได้นะ
00:04:18 → 00:04:21 ครับถ้าจะนักศึกษาวิจัยที่ที่เขาศึกษา
00:04:21 → 00:04:24 วิจัยมาก็จะมีประมาณ 5-6 จะเป็นที่ที่
00:04:24 → 00:04:28 เป็นคนปกติเลยแต่เกิดภาวะมีขึ้นมานะครับ
00:04:28 → 00:04:32 ถ้าวันนี้มันจะเกิดกับเพศหญิงเพศชายหรือ
00:04:32 → 00:04:37 ว่าจะอายุขนาดไหนได้บ่อยๆเกิดได้ครับถ้า
00:04:37 → 00:04:40 จากที่มีข้อมูลศึกษากันมาในฝั่งตะวันตกนะ
00:04:40 → 00:04:44 ครับก็จะเกิดในเพศหญิงมากกว่าเพศทายครับ
00:04:44 → 00:04:48 ส่วนอายุเนี่ยก็เป็นได้ตอบอาจจะตั้งแต่
00:04:48 → 00:04:51 วัยกลางคนจนวัยที่อายุเยอะขึ้นมาหน่อยนะ
00:04:51 → 00:04:54 ครับก็เลยป้าจะมีรายงานมาแล้วมีอายุ 40
00:04:54 → 00:04:58 ปี 50 ปีขึ้นไปประมาณนี้นะครับแต่ว่าถ้า
00:04:58 → 00:05:02 ยุน้อยๆหน่อยก็จะไม่ค่อยเจอครับลักษณะของ
00:05:02 → 00:05:06 การที่เราจะได้รับกลิ่นเนี่ยลิงหลักๆที่
00:05:06 → 00:05:09 เราจะเจอในจะเป็นกลิ่นอะไรอ่ะค่ะ Mod ต่อ
00:05:09 → 00:05:14 กินอยากสามารถเป็นได้หมดเลยครับก็คนไข้
00:05:14 → 00:05:16 อาจจะมาเล่าให้ฟังได้ตั้งแต่อิ่มเป็นกิน
00:05:16 → 00:05:21 ไม่กินก็สารเคมีกิ่งควันบุหรี่ครับแต่ว่า
00:05:21 → 00:05:24 ข้อสำคัญคือมันจะต้องไม่มีแหล่งกำเนิดของ
00:05:24 → 00:05:27 กินเหล้านั้นนะครับถึงจะเรียกว่าเป็นภาวะ
00:05:27 → 00:05:29 กันพอร์ชเมีย
00:05:29 → 00:05:32 เออกูจมูกของคนเราในการที่จะรับกลิ่นได้
00:05:32 → 00:05:36 เนี่ยอย่างเช่นจะมาว่าบางคนเนี่ยเขาก็บอก
00:05:36 → 00:05:39 ว่ามีความสุขบุหรี่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
00:05:39 → 00:05:42 แต่ละคนมาที่จมูกเป็นอะไรทำไมเขาไม่ได้
00:05:42 → 00:05:45 กลิ่นเนี้ยมันใกล้ๆใกล้ไกลแค่ไหนอ่ะคะคุณ
00:05:45 → 00:05:50 หมอคะที่เราจะได้กลิ่นคนมาตรฐานคนธรรมดา
00:05:50 → 00:05:54 ท้องก็จริงๆแล้วจริงๆแล้วมันไม่มีระยะที่
00:05:54 → 00:05:56 เป็นระยะตายตัวนะครับเพราะว่ามันมีหลาย
00:05:56 → 00:05:58 ปัจจัยที่เกี่ยวข้องนะครับอย่างที่บอกไป
00:05:58 → 00:06:01 นะคะว่าปิดก็คือสารเคมีชนิดนึงที่มาของ
00:06:01 → 00:06:03 ผัดกับเยื่อบุผิวแล้วทำให้เกิดประแส
00:06:03 → 00:06:06 ประสาทส่งขึ้นไปแต่ผลที่สมองนะครับเพราะ
00:06:06 → 00:06:08 ฉะนั้นตัดเกมมีเหล่าเนี้ยว่าจะ prive มา
00:06:08 → 00:06:11 ตามลมได้ถ้าอยู่ในบริเวณที่มีลมพัดลมเยอะ
00:06:11 → 00:06:14 เนี่ยครับสารเคมีหลังเพื่อนที่ได้ไกลกว่า
00:06:14 → 00:06:17 ในบริเวณที่หลบนิ่งๆไม่มีลงเนี่ยนะครับ
00:06:17 → 00:06:21 ต่อมีหลายปัจจัยนะครับแล้วก็จมูกของเราก็
00:06:21 → 00:06:23 ไม่เหมือนกันอีกเช่นกันนะครับเป็นว่าจมูก
00:06:23 → 00:06:25 ของคนที่มีโลกอยู่แล้วเช่นเป็นภูมิแพ้
00:06:25 → 00:06:28 จมูกเนี่ยก็จะหมู่บ้านอาจจะมีการบวมอยู่
00:06:28 → 00:06:31 ระดับหนึ่งมีปริมาณต่อตัวสารเคมีของกลิ่น
00:06:32 → 00:06:35 จะเข้าไปสู่เพดานของจมูกที่จะโดนกับเส้น
00:06:35 → 00:06:38 ประสาทรับกินอ่ะอาจจะยากกว่าคนที่ไม่มี
00:06:38 → 00:06:42 โรคจมูกปกติอะไรเงี้ยนะครับคนที่อายุเยอะ
00:06:42 → 00:06:44 ขึ้นเป็นประสาทเค้าไวน้อยกว่าคนที่อายุ
00:06:44 → 00:06:47 น้อยเนี่ยนะครับการได้กลิ่นของคนอายุเยอะ
00:06:47 → 00:06:50 ก็จะไม่ดีเท่ากับคนที่อายุน้อยนะครับ
00:06:50 → 00:06:52 เพราะฉะนั้นเนี่ยปัจจัยที่เกี่ยวกับการ
00:06:52 → 00:06:56 รับกลิ่นจึงนี้ค่อนข้างหลากหลายมากคับ
00:06:56 → 00:06:59 Spore อาจจะไม่สามารถวัดได้มากไม่ได้มี
00:06:59 → 00:07:05 มาตรฐานบอกนะคะทำคุณหมอครับยังอาการที่
00:07:05 → 00:07:07 ที่อารพ.จะพอจะสร้างไว้จะได้กลิ่นอะไร
00:07:07 → 00:07:13 บ้างแล้ว a สาเหตุหลักๆในคุณหมอเราตอนนี้
00:07:13 → 00:07:15 เราพอจะมีการพิสูจน์ทราบได้บ้างไหมครับ
00:07:15 → 00:07:19 ว่ามันเกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุใดเป็นหลัก
00:07:19 → 00:07:22 หรือว่ามีผู้รับผิดอะไรมากันร่วมของโรค
00:07:22 → 00:07:26 อะไรต่างๆเนี่ยคุณหมอก็ก็ขับรถปัจจุบันนะ
00:07:26 → 00:07:29 ครับสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะกันเท้าเมีย
00:07:29 → 00:07:32 เนี่ยยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้นะครับแต่
00:07:32 → 00:07:36 ว่าท่าต่อมีความสำคัญกับการมีโรคใดโลกนึง
00:07:36 → 00:07:39 อยู่ในร่างกายหรือเปล่าอันนี้อาจจะมีนะ
00:07:39 → 00:07:41 ครับชอบบางครั้งเนี่ยพาว่าเป็นคอร์ดเนี่ย
00:07:41 → 00:07:45 จะสัมพันธ์กับบางโลกนะครับเช่นอาจจะมีโรค
00:07:45 → 00:07:47 ซึมเศร้าอยู่หรือเปล่านะครับหรือว่าเป็น
00:07:47 → 00:07:50 โรคของจมูกและไซนัสที่พูดไปแล้วนะครับ
00:07:50 → 00:07:53 อยู่ในจมูกอยู่แล้วแต่ว่ายังไม่เคยตัว
00:07:53 → 00:07:56 ด้วยว่าก็ไม่รู้ว่ามันเป็นโรคหรือเปล่า
00:07:56 → 00:07:59 เนี่ยนะครับแล้วก็อาจจะเป็นต่ออาการเริ่ม
00:07:59 → 00:08:02 ต้นของคนที่เป็นไมเกรนนะครับคนที่เป็นใน
00:08:02 → 00:08:06 เกมเนี่ยมีได้มีได้หลายหลายอาการนะครับ
00:08:06 → 00:08:09 เช่นบางคนอาจจะมีกี้เห็นแต่แสงผิดปกติ
00:08:09 → 00:08:11 อะไรนำมาก่อนก่อนที่ที่มีอาการปวดหัว
00:08:11 → 00:08:14 ไมเกรนเนี่ยนะครับบางคนก็จะมีการได้กิจ
00:08:14 → 00:08:17 ที่ผิดปกตินำมาก่อนแล้วก็เป็นอาการในตัว
00:08:17 → 00:08:21 ตามมานะครับหรือว่าบางคนเนี่ยว่าจะเคยมี
00:08:21 → 00:08:24 ประวัติเกี่ยวกับเรื่องของการที่ต่อได้
00:08:24 → 00:08:27 ปิดการขายแสงของบริเวณใบหน้าและสีสานะ
00:08:27 → 00:08:29 ครับจากการเป็นมะเร็งหรืออะไรก็แล้วแต่
00:08:29 → 00:08:32 ป้าจะมีผลต่อเส้นประสาทเกี่ยวกับการรับ
00:08:32 → 00:08:34 ผิดได้นะครับอันนี้ได้จะเป็นภาวะหลักๆที่
00:08:34 → 00:08:38 อาจจะต้องหาร่วมด้วยนะครับถ้าพามทุกป่วย
00:08:38 → 00:08:40 เล่าให้ฟังในเรื่องของว่ามีภาวะของการรับ
00:08:40 → 00:08:44 ผิด 20 ปกติครับมันอะไรก็ตามที่มันเกี่ยว
00:08:44 → 00:08:49 โยงกับระบบประสาทนะไมเกรนก็ใช่นะแล้วก็
00:08:49 → 00:08:52 การเราได้รับการรักษาโรคเกิดโรคทางจมูก
00:08:52 → 00:08:55 ทางไซนัสโอ้โหมันเชื่อมโยงมันเป็นพื้นทำ
00:08:55 → 00:08:58 ให้เราได้กลิ่นได้เราไม่เคยคิดเลยนะว่าใน
00:08:58 → 00:09:01 ระบบประสาทสัมผัสเรื่องเรื่องกลิ่นเนี้ย
00:09:01 → 00:09:04 แล้วอาจจะสื่อไปที่ต้นต่อได้แล้วก็แก้ไข
00:09:04 → 00:09:08 ให้เขาหายได้มีไหมครับผมหรอคะไปเจอร้อน
00:09:08 → 00:09:12 นี่เองเป็นช้าเหตุเอ่อปกติแล้วถ้าอันดับ
00:09:12 → 00:09:15 แรกนะครับถ้ามีปัญหาในเรื่องของการได้
00:09:15 → 00:09:18 กลิ่นเนี่ยปกติจะต้องมาดูอีกครับว่าพอว่า
00:09:18 → 00:09:21 นี่มันเป็นภาวะที่เป็นแค่ชั่วครั้งชั่ว
00:09:21 → 00:09:23 คราวหรือมันเป็นเรื้อรังมานานแล้วนะครับ
00:09:23 → 00:09:26 แต่โดยหลักๆนะเนี่ยคนไข้ก็มักจะเมียตาลมา
00:09:26 → 00:09:29 ระดับนึงเป็นมาเรื่อยๆถึงจะเริ่มปรึกษา
00:09:29 → 00:09:31 แพทย์นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยอันดับแรกเลย
00:09:31 → 00:09:33 เมื่อคนไข้มาปรึกษาแล้วเนี่ยเราก็ต้องถาม
00:09:33 → 00:09:36 สาเหตุก่อนนะครับเพราะว่าก่อนที่จะบอกว่า
00:09:36 → 00:09:39 เป็นภาวะพัจจันทอสเมียเราก็ต้องหาดูก่อน
00:09:39 → 00:09:41 นะที่เหมาะกันนะครับเพื่อนว่าถ้ามาตรวจ
00:09:41 → 00:09:45 จับหมอหูคอจมูกนะครับก็เขาก็จะมีการส่อง
00:09:45 → 00:09:47 กล้องไปในจมูกนะครับเพราะฉะนั้นโลกในจมูก
00:09:47 → 00:09:50 และไซนัสเนี่ยเราก็อาจจะดูได้เห็น Part
00:09:50 → 00:09:53 หมดแล้วหล่ะครับว่ามีหรือไม่มีนะครับ
00:09:53 → 00:09:55 เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเกิดมีแล้วก็รักสัตว์
00:09:55 → 00:09:58 โลกที่เป็นต้นเหตุก่อนนะครับเป็นว่าถ้าคน
00:09:58 → 00:10:01 ไข้มีทรายหน้าตักเศษเราก็จะรักษาแต่ละ
00:10:01 → 00:10:04 เป็ดนั้นกอดแล้วลองดูว่าเรื่องของการรับ
00:10:04 → 00:10:06 เปลี่ยนเนี่ยเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างนะ
00:10:06 → 00:10:10 ครับดีขึ้นหรือไม่นะครับก่อนที่จะไปหา
00:10:10 → 00:10:13 สาเหตุอื่นนะครับตรวจโลกเหมือนอื่นก็
00:10:13 → 00:10:16 เหมือนที่ได้กล่าวไปนะครับว่าก็ลองหา
00:10:16 → 00:10:19 สาเหตุตามที่เราไปนะครับเป็นว่าคนไข้มี
00:10:19 → 00:10:21 ประวัติสัมพันธ์กับในเปนไหมมีโรคเต้าซ่อน
00:10:21 → 00:10:23 อยู่หรือเปล่ามีประวัติเรื่องของการขาย
00:10:23 → 00:10:26 แต่งหรือเปล่าร้านอาหารทั้งหมดแล้วก็ไม่
00:10:26 → 00:10:30 มีไม่มีสาเหตุอะไรเลยก็เป็นภาวะเป็น Pot
00:10:30 → 00:10:33 เมียที่ไม่มีสาเหตุได้นะครับเราไปว่าเค้า
00:10:33 → 00:10:39 ที่จะได้ปกตินะครับเฮ้ยเป็นครับครับอย่าง
00:10:39 → 00:10:43 ภาวะแฟนทอสมีเนี่ยถ้าจะรักษาอย่างในกรณี
00:10:43 → 00:10:46 ที่ไม่มีโรคอื่นๆร่วมอยู่ด้วยเนี่ยเราจะ
00:10:47 → 00:10:48 ต้องรักษายังไงครับคุณหมอ
00:10:49 → 00:10:52 ต้องดูว่าอาการเป็นมากแค่หนักนะครับหลักๆ
00:10:52 → 00:10:55 เลยเนี่ยถ้าถ้าอาจารย์เป็นไม่ได้มากส่วน
00:10:55 → 00:10:58 ใหญ่แล้วก็จะมีเรื่องของการลองลองฝึกนะ
00:10:58 → 00:11:01 ครับปกติก็จะมีโปรแกรมการฝึกเหมือนกับ
00:11:01 → 00:11:03 โปรแกรมสมองใหม่นะครับก็จะให้ลงไปปิด
00:11:03 → 00:11:06 เปลี่ยนชนิดต่างๆแล้วก็บอกสมองไปว่ากิน
00:11:06 → 00:11:09 อันนี้เป็นกินอะไรกินอะไรนะครับก็มัน
00:11:09 → 00:11:12 โปรแกรมสมองไปแต่ว่าในบางครั้งต่อก็ไม่
00:11:12 → 00:11:14 หายอยู่ดีเป็นเยอะอย่างนี้นะครับก็จะมี
00:11:14 → 00:11:17 เรื่องของการผ่าตัดเกี่ยวกับการผ่าตัด
00:11:17 → 00:11:20 บริเวณเส้นประสาทเนี้ยนะครับก็คือเหมือน
00:11:20 → 00:11:23 ที่เราว่าเส้นสถานเนี่ยจะทำงานผิดปกติทำ
00:11:23 → 00:11:27 ให้ตกกระแสประสาทก็กดที่สมองผิดปกติไปการ
00:11:27 → 00:11:29 ผ่าตัดก็คือไปผ่าตัดทำนึงใช้เส้นประสาท
00:11:29 → 00:11:32 เนี้ยไม่ส่งกระแสประสาทขึ้นไปเนี่ยนะครับ
00:11:32 → 00:11:35 ก็อาจจะผ่าตัดต่อเอาเส้นประสาทนี้ออกลืม
00:11:35 → 00:11:38 ใช้สารเคมีไปตีให้เส้นประสาทเนี้ยทำงาน
00:11:39 → 00:11:42 ได้น้อยลงเนี่ยนะครับก็อาจจะช่วยในเรื่อง
00:11:42 → 00:11:44 ของการที่มีกระแสประสาทขึ้นไปแปลคนที่
00:11:45 → 00:11:48 สมองผิดพลาดไปได้นะครับงั้นเอาเป็นความ
00:11:48 → 00:11:51 ผิดปกติสมองใหญ่ตัวสมองยายเองเลยอันนี้ก็
00:11:51 → 00:11:55 จะรักษาได้ยากไม่มีทางรักษาครับ
00:11:55 → 00:11:59 ทุกอย่างในการที่จะถ้าถ้าอยู่ในกรณีที่
00:11:59 → 00:12:03 รักษาได้มันจะสามารถหายขาดนะครับคุณหมอ
00:12:03 → 00:12:05 ครับหรือว่ามัน
00:12:05 → 00:12:07 ได้แค่บางส่วนแล้วก็มันมีโอกาสที่จะกลับ
00:12:08 → 00:12:11 มาเป็นซ้ำเอกอ่ะผมออกตอบแม่จับตัวโลกเอง
00:12:12 → 00:12:14 เป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุนะครับเพราะ
00:12:14 → 00:12:17 ฉะนั้นถึงถึงโอกาสที่จะตอบเรารักษาสำเร็จ
00:12:17 → 00:12:19 ร้อยเปอร์เซ็นต์เนี่ยอาจจะไม่มีใครข้า
00:12:19 → 00:12:22 กำลังตีอย่างนั้นนะครับแล้วก็เอ่อเป็น
00:12:22 → 00:12:24 แล้วเป็นใหม่ได้ไหมก็เช่นกันครับคะและก็
00:12:24 → 00:12:27 คือมันไม่ทราบสาเหตุนะครับเพราะฉะนั้นก็
00:12:27 → 00:12:31 ก็ก็เป็นได้หมดทุกโอกาสเลยนะครับเพราะ
00:12:31 → 00:12:34 ฉะนั้นก็เลยไม่มีเปอร์เซ็นต์ในตรวจน่าสน
00:12:34 → 00:12:36 ใจตรงในตรงที่คุณหมอบอกว่าลักษณะการรักษา
00:12:36 → 00:12:42 ด้วยกันฝึกฝึกดมให้ยายให้รับทราบกลิ่นนี้
00:12:42 → 00:12:45 ใหม่ๆเลยเนี่ยคนเป็นคนดาวนี้สามารถที่อ่ะ
00:12:45 → 00:12:48 คือกลิ่นยังบอกอะไรไปถึงเรื่องของ
00:12:48 → 00:12:52 ความรู้สึกในที่เราอาจจะยึดติดว่า Green
00:12:52 → 00:12:55 นี้ว่าต้องเป็นเออลักษณะสิ่งของแบบนี้จุด
00:12:55 → 00:12:57 ได้ยังไงแล้วหรอครับ
00:12:57 → 00:13:01 แต่ปกติก็การฝึกเหนือครับปกติแล้วเนี่ย
00:13:01 → 00:13:04 มันจะมีปิ่นที่เป็นสิ่งจะเพราะเหมือนกับ
00:13:04 → 00:13:07 ว่าเราจะมีของที่เป็นกลิ่นที่มีกิจจะเพาะ
00:13:07 → 00:13:09 แล้วเราก็จะใช้ตัวนั้นนะครับด้วยการเข้า
00:13:09 → 00:13:11 สอบเหมือนกับว่าเราต้องกินนี้แล้วก็บอก
00:13:11 → 00:13:13 ว่ามันก็คือผิดนี่ก็คือบอกตัวเองน่ะครับ
00:13:13 → 00:13:17 แล้วทำทุกวันควรทำทุกวันครับแต่ว่าจริงๆ
00:13:17 → 00:13:19 แล้วมันจะมีโปรแกรมที่เป็นเฉพาะอยู่อ่ะ
00:13:19 → 00:13:22 ครับมันเป็นในเรื่องของการต่างๆเพื่อขอบ
00:13:22 → 00:13:25 ขึ้นมานะครับว่าในภาวะของ sandoz เมียที่
00:13:25 → 00:13:28 คุณหมอบอกมาจาก Phantom รากศัพท์ในเหมือน
00:13:28 → 00:13:32 อาการที่แบบเหมือนเราเราคิดนะคะมันเป็น
00:13:32 → 00:13:35 ความประมวลประมวลผลของเราอย่างอย่างที่
00:13:35 → 00:13:38 ตัวเองยังยังเคยว่าได้กินไม่เนี่ยมัน
00:13:38 → 00:13:40 เหมือนเป็นคนที่จมูกไวอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:13:40 → 00:13:43 แล้วก็จะได้กินคือจะไม่ชอบกับความรู้สึก
00:13:43 → 00:13:48 ของกันได้ขึ้นวรรณากินมลพิษคือก่อนหน้า
00:13:48 → 00:13:51 ที่เราจะที่ใช้แมสกันอย่างเต็มที่ในยุค
00:13:51 → 00:13:54 นี้เนี่ยจะเป็นคนที่จะมีผ้าที่คอยผิดชมพู
00:13:54 → 00:13:57 พิมพ์เหมือนเหมือนเป็นโรคจิตชนิดหนึ่งคือ
00:13:57 → 00:13:59 ควรลดข้อเสียอะไรเงี้ยค่ะคุณหมอค่ะขอเป็น
00:13:59 → 00:14:03 จะคนจะไวอย่างนั้นใช่มะจมูกไวคุณแบบก็หาย
00:14:03 → 00:14:06 ได้แล้วอันนี้คือหายังไงครับพี่น้องครับ
00:14:06 → 00:14:07 มันเหมือนขึ้นมาบอกคือมันก็ไม่ได้มี
00:14:07 → 00:14:10 สาเหตุแล้วมันก็เป็นอยู่ช่วงนึงนะแล้ว
00:14:10 → 00:14:12 เหมือนก็เราเป็นหวัดหรือเราอะไรอาจจะเป็น
00:14:12 → 00:14:14 ครูแพ้จมูกอย่างที่คุณหมอบอกด้วยอันนี้ก็
00:14:14 → 00:14:17 คือเป็นส่วน 9 การใช้ได้คุณหน่อยครับ
00:14:17 → 00:14:21 รูปภาพก็จริงๆถ้าธาตุยอันดับแรกก็อย่าง
00:14:21 → 00:14:23 ที่เล่าไปนะครับต้องหาสาเหตุของโรคจมูก
00:14:23 → 00:14:26 และใต้น้ำก่อนนะครับมันเป็นสาเหตุทิศอาจ
00:14:26 → 00:14:28 จะเจอได้ในคนทั่วไปได้ค่อนข้างบ่อยอยู่
00:14:28 → 00:14:31 แล้วนะครับแต่ว่าเนื่องจากว่าในจมูกเรา
00:14:31 → 00:14:34 เนี่ยมันเป็นอวัยวะที่อาจจะตรวจได้ยากนิด
00:14:34 → 00:14:37 นึงนะครับมองไม่เห็นแล้วคนอื่นก็ไม่เห็น
00:14:37 → 00:14:40 กับเราด้วยครับมันก็ก็เลยอัตราเต็มพื้น
00:14:40 → 00:14:43 ที่ที่อาจจะต้องเจอหมอเฉพาะทางจะตรวจ
00:14:43 → 00:14:47 เสร็จเลยนะครับเหมือนมันเป็นทุ่งแท้อะไร
00:14:47 → 00:14:50 สักนิดนึงคุณหมอครับอาการแฟนโพสต์เมียถ้า
00:14:50 → 00:14:54 เราปล่อยไว้โดยที่ที่ไม่ไม่รักษาก็คิดว่า
00:14:54 → 00:14:57 น่าจะหายไปเองในถ้ามันปล่อยไว้เนี่ยมันมี
00:14:57 → 00:15:01 โอกาสที่มันจะขยับขยายความรุนแรงหรือว่า
00:15:01 → 00:15:03 ความอันตรายเพิ่มมากขึ้นได้บ้างไหมครับ
00:15:03 → 00:15:07 อ่ะแต่ปกติแล้วถ้าเป็นแค่แฟนทอสเมียโดย
00:15:07 → 00:15:09 ที่มันไม่มีสาเหตุของโรคหรือตอนอยู่เลยก็
00:15:09 → 00:15:13 ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับถ้ามีปัญหาของ
00:15:13 → 00:15:15 โรคอื่นซ่อนอยู่มันก็คงจะเป็นปัญหาจากตัว
00:15:15 → 00:15:18 โลกที่ซ่อนอยู่หรอกนะครับโรคนั้นจะออกมา
00:15:18 → 00:15:21 ใช่ไหมครับก็โลกนั่นก็เป็นไปตามความ
00:15:21 → 00:15:25 รุนแรงของโรคเหล่านั้นนะครับก็แสดงว่าคือ
00:15:25 → 00:15:27 ถ้าปล่อยไว้เนี่ยคือสิ่งที่มันจะเกิดขึ้น
00:15:27 → 00:15:30 หรืออาจจะเกิดขึ้นจากแค่ความรำคาญความรู้
00:15:30 → 00:15:33 สึกไม่ชอบใจในกลิ่นเหล่านั้นมากกว่าใช่
00:15:33 → 00:15:35 ไหมครับคุณหมอครับแต่ว่าถ้า
00:15:35 → 00:15:39 ตั้งแต่เราก็จะเป็นผลด้านจิตใจเนี่ยครับ
00:15:39 → 00:15:42 แล้วก็ตื่นก็คือหนึ่งในประสาทรับความ
00:15:42 → 00:15:45 ประสาทสัมผัสของเรานะครับประการที่ประสาท
00:15:45 → 00:15:48 สัมผัสนึงผิดเขียนไปก็จะส่งผลต่อคุณภาพ
00:15:48 → 00:15:51 ชีวิตของคนคนนั้นนะครับแล้วก็ในด้านจิตใจ
00:15:51 → 00:15:54 ว่าอาจจะเยอะหน่อยครับอันนี้ถามประเด็น
00:15:54 → 00:15:57 ที่ใกล้เคียงกับเรื่องของภาวะที่ได้กลิ่น
00:15:57 → 00:15:59 ที่เราไม่ถึงประสงค์กลิ่นไม่เนี่ยเสริม
00:15:59 → 00:16:03 แบบบางคนเนี่ยที่ติดกับอาการที่จะต้องอ่า
00:16:03 → 00:16:07 หยิบยาดมขึ้นมาสูตรนะคะก็จะพบว่าสู่ซื้อ
00:16:07 → 00:16:11 เข้าไปเพื่อให้หายใจสะดวกหรือว่าโล่ง
00:16:11 → 00:16:15 เนี่ยก็มีข้อเที่ยวมาว่าเขาจะติดยาดม
00:16:15 → 00:16:17 ประเทศนั้นแล้วก็ถ่ายใจธรรมดาเนี่ยก็จะ
00:16:17 → 00:16:20 ไม่ค่อยไม่ค่อยแบบหายใจไม่เต็มที่ได้
00:16:20 → 00:16:24 อย่างนี้มันมีข้อดีข้อเสียยังไงครับคุณ
00:16:24 → 00:16:28 หมอกันสูดยาดมให้โล่งจังหวัดนี้ครับอ่า
00:16:28 → 00:16:31 จริงๆแล้วการโจทย์ของเนื้อดมเนี่ยอาจจะ it
00:16:31 → 00:16:34 อาจจะเป็นอีกการใช้ประสาทสัมผัสอีกตัวนึง
00:16:34 → 00:16:36 นะครับเพราะว่าเสียบตัวเมียมันจะเป็นก็
00:16:36 → 00:16:38 เป็นพ่อเป็นอันนึงนะครับมันจะกระตุ้นเป็น
00:16:38 → 00:16:40 ภาษาอีกส่วนหนึ่งด้วยนะครับอาจจะไม่ใช่
00:16:40 → 00:16:44 แก้สลักผิดนะครับแล้วการที่เขาติดเนี่ยก็
00:16:44 → 00:16:46 อาจจะเป็นในเรื่องของความพึงพอจะเธอนะ
00:16:46 → 00:16:49 ครับอนาถจะนำหัวใจอยากได้กลิ่นหอมนั้นนะ
00:16:49 → 00:16:52 คะขับแล้วมันก็จะเย็นนะครับการเย็นเนี่ย
00:16:52 → 00:16:55 มันก็เป็นอีกประสาทสัมผัสนึงที่ไม่ได้
00:16:55 → 00:16:57 เป็นผ่านเป็นประสาทรับกินนะครับคนละเส้น
00:16:57 → 00:17:00 พา 3 กันเหมือนกันต้องตั้งใจสูดดมอย่าง
00:17:00 → 00:17:03 นั้นเลยเหรอครับอีกส่วนต่อมาหรอกครับกัน
00:17:03 → 00:17:05 และกันการที่เราคืนซอยใจต่อสิ่งใดสิ่ง
00:17:05 → 00:17:07 หนึ่งมันต้องเหมือนกับการคืนพอใจของสิ่ง
00:17:07 → 00:17:10 อื่นๆนะครับเขาก็ยาดมมันก็เป็นสิ่งนึงที่
00:17:10 → 00:17:14 ตอบสนองความพอใจของเขาเองมันก็เลยก็เลยนะ
00:17:14 → 00:17:17 ครับไม่เกี่ยวกับระบบหายใจระบบที่ประสาท
00:17:17 → 00:17:20 จะบอกกันว่าโอ๊ยประสาทจะแย่แล้วนะถ้าไม่
00:17:20 → 00:17:23 มีอารมณ์กูจะหายใจเองไม่คล่องแล้วยังไม่
00:17:23 → 00:17:25 เกี่ยวกันนะครับเพราะว่าเป็นจริงแล้วเขา
00:17:25 → 00:17:29 รู้ทันคนอย่างเดียวกับจากเป็นประสาทดีอัน
00:17:29 → 00:17:31 นึงนะครับเดี๋ยวเข้ามาแต่ฉันก็ไม่เนียน
00:17:31 → 00:17:35 ทนายนะคะสูดดมยาดมไปได้คุณหมอผมถามเป็น
00:17:35 → 00:17:38 ความรู้นิดนึงครับสมมุติถ้าอย่างในกรณีคน
00:17:38 → 00:17:41 ที่เค้าติดโควิชไปแล้วเขากันอาการลองโค
00:17:41 → 00:17:44 วิชเนี่ยมันจะต้องไม่มีโอกาสที่จะจะ
00:17:44 → 00:17:47 ลักษณะเป็นแฟนโพสต์เมียได้ได้บ้างไหมครับ
00:17:47 → 00:17:50 คุณหมอครับขับมึงแล้วเนี่ยเส้นประสาทรับ
00:17:50 → 00:17:52 รับปิ่นแล้วนะครับจริงๆจะไม่ต้องเป็นต้อง
00:17:52 → 00:17:55 เป็นโควิชนะครับเป็นหวัดเป็นอะไรก็แล้ว
00:17:55 → 00:17:57 แต่ที่เป็นไวรัสที่ผิดเกี่ยวกับทางเดิน
00:17:57 → 00:18:00 หายใจนะครับหลังจากติดไวรัสแล้วหายเนี่ย
00:18:00 → 00:18:03 ในบางคนที่เป็นผู้ป่วยครับก็จะมีปัญหา
00:18:03 → 00:18:06 เกี่ยวกับการรับผิดได้นะครับอ่าหนึ่งใน
00:18:06 → 00:18:09 ทฤษฎีที่เค้าคิดถึงก็คือมันเป็นผลจากการ
00:18:09 → 00:18:11 ปิดไวรัสเหล่านี้แหละนะครับเพราะฉะนั้น
00:18:11 → 00:18:14 เนี่ยว่าโควิชเป็นไวรัสชนิดนึงนะครับ
00:18:14 → 00:18:16 เพราะฉะนั้นมันมีโอกาสเกิดได้แน่นอนครับ
00:18:16 → 00:18:19 ไม่จำเป็นต้องเป็นโควิชก็ได้ครับเป็นหวัด
00:18:19 → 00:18:22 ก็บางคนก็ก็หลังจะเป็นหวัดก็ไม่ได้กินก็
00:18:22 → 00:18:23 ได้ครับ
00:18:23 → 00:18:27 มันเป็นอย่างนี้เองฉะนั้นถ้ามีกลิ่นอะไร
00:18:27 → 00:18:31 ที่หรือว่าเออเราได้ขึ้นอยู่ตลอดเวลานะคน
00:18:31 → 00:18:32 อื่นไม่ได้แล้วมันก็ไม่ได้มีแหล่งที่มา
00:18:33 → 00:18:36 ของกลิ่นนั้นที่มันน่าจะทำให้เราได้รู้
00:18:36 → 00:18:40 สึกได้เนี่ยถ้ามันรำคาญนะคะส่งผลต่อการ
00:18:40 → 00:18:43 ใช้ชีวิตประจำวันอย่างที่คุณหมอบอกก็ไปพบ
00:18:43 → 00:18:47 แพทย์ไปปรึกษาแต่บางครั้งมันก็ปล่อยมันไป
00:18:47 → 00:18:51 หรือเราอาจจะไปดมสิ่งอื่นให้มันหอมแทน
00:18:51 → 00:18:54 เช่นยาดมหรืออะไรอย่างนี้เราก็ไม่รู้สึก
00:18:54 → 00:18:59 ว่าเราจะโดนอาการนี้มารบกวนก็ปล่อยมันไป
00:18:59 → 00:19:02 ก็หายได้เองนะคะนั่นก็คือภาวะแฟนโทร
00:19:02 → 00:19:03 senior ก็
00:19:03 → 00:19:06 กดใหญ่จะให้คุณหมอทิ้งท้ายไว้นิดนึงครับ
00:19:06 → 00:19:11 ว่าถ้าใครที่มีภาวะอาจารย์ที่จะหมูได้
00:19:11 → 00:19:14 กลิ่นแปลกๆกลิ่นที่ไม่สามารถที่จะไปหาที่
00:19:14 → 00:19:17 มาของกลิ่นได้เนี่ยควรจะต้องปฏิบัติตัว
00:19:17 → 00:19:20 ยังไงแนะนำยังไงคุณจะต้องไปพบแพทย์เลยมา
00:19:20 → 00:19:23 หรือว่าจะต้องจะทำยังไงดีครับคุณหมอครับ
00:19:23 → 00:19:26 ครับก็ผ้า
00:19:26 → 00:19:29 จริงๆแล้วก็ควรแนะนำให้ไปพบแพทย์ก่อนนะ
00:19:29 → 00:19:31 ครับเพราะว่าจริงๆแล้วการตรวจร่างกายกับ
00:19:31 → 00:19:34 การซักประวัติก็เป็นสิ่งสำคัญนะครับที่
00:19:34 → 00:19:35 แต่มีนิสัยนะครับว่า
00:19:35 → 00:19:39 เพราะว่าถ้าเราเจอสาเหตุแล้วรักษาสาเหตุ
00:19:39 → 00:19:42 คือเป็นต้นเหตุได้เนี่ยนะครับก็จริงๆแล้ว
00:19:42 → 00:19:45 ผู้ป่วยก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีนะครับถ้า
00:19:45 → 00:19:48 โดยส่วนตัวผมแนะนำว่าก็ควรจะปรึกษาแพทย์
00:19:48 → 00:19:51 ก่อนนะครับก่อนที่เราจะไปพยายามซื้อยา
00:19:51 → 00:19:55 หรือโชคนาสามน่ะๆเที่ยวด้วยอะไรก็แล้วแต่
00:19:55 → 00:19:58 นะครับการตรวจน้ำตายน่าจะช่วยให้สามารถหา
00:19:59 → 00:20:01 ต้นเหตุได้ก่อนนะครับก่อนที่จะโทษว่าเป็น
00:20:01 → 00:20:04 ภาวะมีจริงหรือเปล่าก็ต้องไปดูหาคุณหมอ
00:20:04 → 00:20:07 ให้คุณหมอซักประวัติก่อนนะคะดีไม่ดี
00:20:07 → 00:20:10 เดี๋ยวเราเป็นอาการเกี่ยวกับโตโยต้าได้
00:20:10 → 00:20:14 หน้าโรคไซนัสนะคะเคยมีเรื่องของไม Green
00:20:14 → 00:20:17 เรื่องของอาการซึมเศร้าเข้ามานะครับผม
00:20:17 → 00:20:21 โอเควันนี้ก็ถือว่าเราได้รู้จักกับภาวะ
00:20:21 → 00:20:26 อีก 1 ภาวะอาการ 1ds เมียหลายคนอาจจะจะ
00:20:26 → 00:20:29 เคยรู้เคยก็มีอาการแต่ว่าไม่ทราบก็ได้นะ
00:20:29 → 00:20:31 ครับวันนี้ก็ได้คุณหมอในมาไขข้อข้องใจ
00:20:31 → 00:20:33 แล้วไอ้ภาวะลักษณะแบบนี้เขาเรียกว่าอะไร
00:20:33 → 00:20:36 วันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับ
00:20:36 → 00:20:37 ที่มาให้ความรู้กับเราในค่ำคืนวันนี้นะ
00:20:37 → 00:20:39 ครับคุณหมอครับขอบคุณมากค่ะคุณน้องคะ
00:20:39 → 00:20:44 สวัสดีค่ะขอบพระคุณครับพา