00:00:00 → 00:00:02 หลายคนคงสงสัยนะครับว่าโรคไตเรื้อรังคือ
00:00:02 → 00:00:05 อะไรโรคไตเรื้อรังคือโรคที่มีการทำลายของ
00:00:05 → 00:00:07 เนื้อไตอย่างถาวรนะครับค่อยๆเป็นค่อยๆไป
00:00:07 → 00:00:09 ส่วนใหญ่กินเวลาหลายเดือนหรือบางทีเป็น
00:00:09 → 00:00:11 หลายปีเพราะฉะนั้นก็จะเป็นโรคที่เป็นไภ
00:00:11 → 00:00:12 เงียบไม่มีอาการ
00:00:12 → 00:00:15 >> เว้าเรื่องปลาตี้ปลาเนาะมันก็มีอยู่แล้ว
00:00:15 → 00:00:18 กลุ่มแม่บ้านำกันโดยเฉพาะวันที่ 1 กับ 16
00:00:18 → 00:00:22 เนาะหลังจาก 15:40 ขึ้นไปก็เออมื้อใ๋หมาน
00:00:22 → 00:00:26 กะปาตีจ้าหมูกระทะอย่างสดๆแบบนี้จ้ะน้ำ
00:00:26 → 00:00:28 จิ้มแซ่บๆของถนัดจ้ะ
00:00:28 → 00:00:30 >> ไม่ไปหรอกไปทำไมสุขภาพผมก็ดีอยู่แล้วแข็ง
00:00:30 → 00:00:33 แรงไม่ได้เป็นไรไปถึงก็ไม่รู้จะไปรอคิว
00:00:33 → 00:00:35 นานมั้ยแต่เวลายุ่งยากอีกโอ้ยปวดหัวไม่ไป
00:00:35 → 00:00:39 หรอก
00:00:39 → 00:00:45 [เพลง]
00:00:45 → 00:00:48 >> สวัสดีค่ะต้อนรับเข้าสู่รายการ Health
00:00:48 → 00:00:51 Cheคeckพฤติกรรมกันโรคนะคะรายการที่จะชวน
00:00:51 → 00:00:53 คุณมาเช็คลิสต์เรื่องราวต่างๆพฤติกรรม
00:00:53 → 00:00:56 เล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันที่อาจจะส่งผล
00:00:56 → 00:00:59 ต่อสุขภาพแบบร้ายแรงโดยที่เราไม่รู้ตัว
00:00:59 → 00:01:03 ได้ค่ะวันนี้ค่ะเราจะมาพูดถึงโรคไตวาย
00:01:03 → 00:01:05 เรื้อรังนะคะถึงแม้จะเป็นปัญหาสุขภาพของ
00:01:06 → 00:01:09 คนไทยที่มาแบบเงียบๆแต่ว่ามีความรุนแรง
00:01:09 → 00:01:13 มากในประเทศไทยค่ะ
00:01:13 → 00:01:16 ซึ่งโรคนี้นะคะก็เกิดจากพฤติกรรมที่เราทำ
00:01:16 → 00:01:18 กันเป็นประจำค่ะไม่ว่าจะเป็นการรับประทาน
00:01:18 → 00:01:22 อาหารที่ชอบทานเค็มๆก็จะมีโซเดียมสูงนะคะ
00:01:22 → 00:01:25 การดื่มน้ำน้อยไม่เพียงพอค่ะหรือแม้แต่
00:01:25 → 00:01:28 การมีโรคเบาหวานแล้วก็มีความดันโลหิตสูง
00:01:28 → 00:01:31 ที่ไม่ควบคุมค่ะโรคนี้อาจดูไม่น่ากลัวนะ
00:01:31 → 00:01:34 คะแต่ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้ไม่ดูแลไม่รักษา
00:01:34 → 00:01:37 ค่ะก็อาจจะนำไปสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้าย
00:01:37 → 00:01:39 ที่อาจจะต้องฟอกไตหรือว่าปลูกถ่ายไตกัน
00:01:39 → 00:01:42 เลยทีเดียวค่ะวันนี้นะคะเราจะมาดูกันค่ะ
00:01:42 → 00:01:45 ว่ามีพฤติกรรมแบบไหนที่ทำให้เสี่ยงแล้ว
00:01:45 → 00:01:48 เราควรปรับตัวและป้องกันให้ห่างจากไตวาย
00:01:48 → 00:01:55 เรื้อรังได้อย่างไรไปชมกันค่ะ
00:01:55 → 00:01:58 ครับชื่อเดชครับอายุ 35 ครับเป็นพนักงาน
00:01:58 → 00:01:59 บริษัทครับ
00:01:59 → 00:02:02 >> สวัสดีจ้าซื่อปโสจ้ะอายุ 50 ปีอาชีพแม่
00:02:02 → 00:02:05 บ้านจ้า
00:02:05 → 00:02:07 อุยเว้าเรื่องน้ำเป่าเนาะเฮามันเป็นแม่
00:02:07 → 00:02:10 บ้านตื่นมาก็ะยุ่มบางเทื่อกซักผ้ารีดผ้า
00:02:10 → 00:02:13 นั่นนี่เนี่ยมันก็ลืมกินน้ำไปเนาะบางที
00:02:13 → 00:02:16 ฮู้สึกขึ้นมาเอ้ยมันต้องกินน้ำแล้วเด้ถึง
00:02:16 → 00:02:17 ได้หยิบมากินจ้ะ
00:02:17 → 00:02:24 >> น้ำเปล่าหรอไม่กินหรอกผมอ่ะดื่มมากกว่า
00:02:24 → 00:02:26 ผมไม่รู้หรอกครับผมก็ตัวคนเดียวหนุ่มโสด
00:02:26 → 00:02:29 เวลาผมไปกินข้าวไปสั่งอาหารข้างนอกผมก็
00:02:29 → 00:02:31 ไม่รู้ว่าเค้าใส่อะไรแม่ผมกินบ้างผมก็กิน
00:02:31 → 00:02:32 หมดละครับ
00:02:32 → 00:02:35 >> โอยของมักเนาะเฮาคนอีสาเนาะขัส้มตำมันก็
00:02:35 → 00:02:38 ต้องแซ่บๆนัวๆใส่ปลามันก็ะสุดยอดอยู่แล้ว
00:02:38 → 00:02:40 จ้ะ
00:02:40 → 00:02:42 >> ก็ปรุงเพิ่มนะครับเป็นคนชอบกินรสจัดอยู่
00:02:42 → 00:02:45 แล้วครับก็เติมน้ำตาลเติมพริกเติมอะไรแบบ
00:02:45 → 00:02:47 มันก็จะได้ถูกปาดอ่ะ
00:02:47 → 00:02:50 >> โอ๊ยของมักอ่ะอย่างน้อยต้องหนาหวานนำเนาะ
00:02:50 → 00:02:54 เปรี้ยวเค็มเผ็ดหวานมันต้องจัดอยู่แล้วคน
00:02:54 → 00:02:56 อีสานเฮาจ้ะ
00:02:56 → 00:02:59 เว้าเรื่องปาร์ตี้ปลาเนาะมันก็มีอยู่แล้ว
00:02:59 → 00:03:02 กลุ่มแม่บ้านำกันโดยเฉพาะวันที่ 1 กับ 16
00:03:02 → 00:03:06 เนาะหลังจาก 15:40 ขึ้นไปก็เออมื้อใ๋หมาน
00:03:06 → 00:03:10 กะปาตีจ้าหมูกระทะอย่างสดๆแบบนี้จ้ะน้ำ
00:03:10 → 00:03:13 จิ้มแซ่บๆของถนัดจ้ะไม่ต้องพูดถึงทุกเย็น
00:03:13 → 00:03:16 น่ะเพื่อนก็ชอบชวนไปดื่มละแล้วอย่างบางที
00:03:16 → 00:03:18 อ่ะผมก็ดื่มคนเดียวอย่างเงี้ยก็ไม่รู้ว่า
00:03:18 → 00:03:21 ปาร์ตี้ป่ะ
00:03:21 → 00:03:24 กินนะฮะก็อย่างพวกแหนมมะยมดองมะม่วงดอง
00:03:24 → 00:03:26 เนี่ยกับแก้มอย่างดีเลยฮะ
00:03:26 → 00:03:27 ชอบเลยฮะ
00:03:27 → 00:03:31 >> ของมักจ้ะขนมจีนจ้ะปาร์ตี้การสังสารกลุ่ม
00:03:31 → 00:03:34 แม่บ้านยามบ่แรงมากขนมจีนจ้ะผู้นึงกะอสูด
00:03:34 → 00:03:37 ปลาคนนึงก็สุกะทิกะจอยๆกันค่ะแต่ว่าขาดบ่
00:03:37 → 00:03:40 ได้อีหลีคือของมักของดองจ้ะ
00:03:40 → 00:03:43 >> ไม่เคยไปหาหมอนะส่วนมากเวลาผมปวดหรืออะไร
00:03:43 → 00:03:45 อย่างเงี้ยผมว่าจะซื้อกินเองเลยร้านขายยา
00:03:45 → 00:03:47 เยอะแยะมากมายซื้อเอาง่ายๆครับ
00:03:47 → 00:03:50 >> มันด้วยความที่เฮาเป็นแม่บ้านสิเอาเวลาใ
00:03:50 → 00:03:53 ล่ะสว่าเออมันปวดหัวอ่ะกะหายาพารามากิน
00:03:53 → 00:03:56 เดี๋มันก็หาเองหากินยาในตู้ยาประจำบ้าน
00:03:56 → 00:03:59 เฮาง่ายๆประมาณนี้จ้ะ
00:03:59 → 00:04:01 ไอ้เรื่องตงไตตับอีหยังนี่มันบ่อยู่ใน
00:04:01 → 00:04:04 สมองเพราะคั่นเป็นหยังมาไปโรงพยาบาลเดิน
00:04:04 → 00:04:07 ทางจักชั่วโมงไปตั้งแต่ตั้งแต่ 4:00 น.
00:04:07 → 00:04:09 5:00 น.กว่าสิได้มาตรวจกว่าสิได้ยากลับ
00:04:09 → 00:04:11 บ้านก็ 14:00 15:00 น.เวลาเฮ็ดงานบ้าน
00:04:11 → 00:04:12 เหมดแล้วมันก็เลยกลายเป็นว่าเจ็บนิดๆ
00:04:12 → 00:04:15 หน่อยๆแก้ปงแก้ปวดกับหาง่ายๆกันจังซี่จ๊ะ
00:04:16 → 00:04:18 ไม่ไปหรอกไปทำไมสุขภาพผมก็ดีอยู่แล้วแข็ง
00:04:18 → 00:04:20 แรงไม่ได้เป็นไรไปถึงก็ไม่รู้จะไปรอคิว
00:04:20 → 00:04:23 นานมั้ยเสียเวลายุ่งยากอีกโอ๊ยปวดหัวไม่
00:04:23 → 00:04:25 ไปหรอก
00:04:25 → 00:04:28 หลายคนคงสงสัยนะครับว่าโรคไตเรื้อรังคือ
00:04:28 → 00:04:31 อะไรโรคไตเรื้อรังคือโรคที่มีการทำลายของ
00:04:31 → 00:04:33 เนื้อไอย่างถาวรนะครับค่อยๆเป็นค่อยๆไป
00:04:33 → 00:04:35 ส่วนใหญ่กินเวลาหลายเดือนหรือบางทีเป็น
00:04:35 → 00:04:37 หลายปีเพราะฉะนั้นก็จะเป็นโรคที่เป็นภัย
00:04:37 → 00:04:39 เงียบไม่มีอาการจนกระทั่งไต่สูญเสียการทำ
00:04:39 → 00:04:42 งานมากกว่า 70% แล้วก็อาจจะทำให้มีอาการ
00:04:42 → 00:04:45 ต่างๆเช่นมีอาการปัสสาวะมีฟองปัสสาวะ
00:04:45 → 00:04:48 เปลี่ยนสีหรือว่ามีอาการขาบวมหน้าบวมเวลา
00:04:48 → 00:04:50 กินอาหารเค็มบางคนถ้าเป็นมากแล้วก็จะมี
00:04:50 → 00:04:52 อาการที่เซียวอ่อนเซียไม่มีแรงซึ่งแ
00:04:52 → 00:04:56 อาเจียนผมร่วงผิวแห้งคันตามตัวจนกระทั่ง
00:04:56 → 00:04:58 ถึงน้ำท่วมปอดหายใจหอบเหนื่อยซึ่งเป็น
00:04:58 → 00:05:01 อาการของไตวายระยะสุดท้ายครับ
00:05:01 → 00:05:02 [เพลง]
00:05:02 → 00:05:04 อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วนะครับโรคไตเรื้อ
00:05:04 → 00:05:06 รังในเริ่มต้นไม่มีอาการเมื่อไตเสื่อมมาก
00:05:06 → 00:05:09 ขึ้นจะมีอาการหัวใจล้มเหลวน้ำท่วมปอดการ
00:05:09 → 00:05:12 สมองซึมชักไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งนำไปสู่
00:05:12 → 00:05:15 อาการเสียชีวิตได้
00:05:15 → 00:05:16 [เพลง]
00:05:16 → 00:05:19 อย่างที่เคสที่ผมเคยเจอส่วนใหญ่จะเป็นผู้
00:05:19 → 00:05:22 ป่วยสูงอายุที่ตัวความดันโลหิตสูงเป็นเบา
00:05:22 → 00:05:26 หวานพอเ้าอายุสัก 35-40 ก็จะเริ่มมีอาการ
00:05:26 → 00:05:28 ของไตเสื่อมไตวายโดยที่ไม่มีอาการนะครับ
00:05:28 → 00:05:31 ว่าตรวจเจอโดยการเช็คปัสสาวะตรวจเลือด
00:05:31 → 00:05:34 แล้วแพทย์สังเกตได้ว่าค่าไตมีความผิดปกติ
00:05:34 → 00:05:36 ถ้ารักษาระยะนี้เป็นระยะระยะรักษาที่
00:05:36 → 00:05:39 รักษาไม่ดีเนี่ยไตจะเสื่อมลงเป็นระยะระยะ
00:05:39 → 00:05:41 จนกระทั่งถึงไตวายเมื่ออายุประมาณสัก
00:05:41 → 00:05:44 50-60 ปีซึ่งอันนี้เป็นภาวะที่รักษาไม่
00:05:44 → 00:05:47 ได้แล้วเป็นภาวะไตวายระยะสุดท้ายต้องทำ
00:05:47 → 00:05:50 การล้างไตฟอกเลือดหรือว่าผ่าตัดบุกถ่ายไต
00:05:50 → 00:05:53 ซึ่งอันนี้เป็นภาวะสุดท้ายที่ประคับ
00:05:53 → 00:05:56 ประคองนะครับในให้อายุยืนยาวต่อไปโดยที่
00:05:56 → 00:05:58 ใช้ไตเตรียมหรือว่าการผักกระปุกถ่ายไต
00:05:58 → 00:06:01 เข้ามาทดแทนครับ
00:06:01 → 00:06:04 ตอนนี้สถิติผู้ป่วยโรคไตเป็นมากขึ้นทั่ว
00:06:04 → 00:06:07 ประเทศมีคนไข้โรคไตประมาณ 8 ล้านคนแล้วก็
00:06:07 → 00:06:10 มีสถิติผู้ป่วยใหม่เข้ามาปีละ 10% หรือ
00:06:10 → 00:06:12 ประมาณปีละ 800,000 คนซึ่งนี่เป็นสถิติ
00:06:12 → 00:06:15 ที่น่ากลัวแล้วก็คนไข้ที่ต้องการล้างไต
00:06:15 → 00:06:17 ทั่วประเทศมีหลายแสนคนนะครับซึ่งค่าใช้
00:06:17 → 00:06:19 จ่ายตรงนี้สูงมาก
00:06:19 → 00:06:21 [เพลง]
00:06:21 → 00:06:24 ครับผลกระทบของโรคไตนะครับต่อผู้ป่วยผู้
00:06:24 → 00:06:27 ป่วยก็ได้รับความลำบากต้องมาฟอกเลือดหรือ
00:06:27 → 00:06:29 เครื่องไตเทียมอาทิตย์นึง 3 วันหรือว่า
00:06:29 → 00:06:31 ล้างไตช่องท้องทุกวันวันละ 4 รอบนะครับ
00:06:31 → 00:06:34 หรือบางคนโชคดีได้รับการปลูกถ่ายไตตอนนี้
00:06:34 → 00:06:36 ไตก็ยังไม่เพียงพอซึ่งค่าใช้จ่ายตรงเนี้ย
00:06:36 → 00:06:38 ทั้งหมดเนี่ยอย่างน้อย 200,000 บาทเราก็
00:06:38 → 00:06:41 เป็นค่ารักษาพยาบาลที่รัฐต้องอุ้มอยู่ก็
00:06:41 → 00:06:43 คือว่าต้องเบิกจากกองทุนต่างๆไม่ว่าจะ
00:06:43 → 00:06:45 เป็นกองทุนประกันสังคมกองทุนข้าราชการก็
00:06:45 → 00:06:48 ตามนี่เป็นพละที่สูงมากของรัฐนะครับในการ
00:06:48 → 00:06:50 ที่จะต้องทำงบประมาณเพื่อรักษาการรักษา
00:06:50 → 00:06:52 พยาบาลของคนไข้โลกไตขณะเดียวกันคนไข้โลก
00:06:52 → 00:06:55 ไตเนี่ยนอกจากว่าตัวเองมีความลำบากแล้ว
00:06:55 → 00:06:57 เนี่ยญาติพี่น้องก็ต้องดูแลนะครับเพราะ
00:06:57 → 00:06:59 บางคนก็ช่วยตัวเองไม่ได้ก็ต้องไปรับไปส่ง
00:06:59 → 00:07:02 ในการที่จะพาคนไข้ไปล้างไตที่โรงพยาบาล
00:07:02 → 00:07:04 หรือแม้กระทั่งบางคนต้องล้างไตทางช่องทอง
00:07:04 → 00:07:06 ทำเองที่บ้านเนี่ยก็ต้องมีคนช่วยทำให้ใน
00:07:06 → 00:07:08 การเปลี่ยนน้ำยาส่วนคนไข้ที่ได้รับการ
00:07:08 → 00:07:11 ปลูกถ่ายไตถ้าโชคดีมีญาติพี่น้องบริจาคไต
00:07:11 → 00:07:14 ไม่ว่าจะเป็นญาติสายตรงหรือว่าสามีภรรยา
00:07:14 → 00:07:16 ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหรือ
00:07:16 → 00:07:18 ว่าไตใหม่ชีวิตใหม่แล้วก็แต่อย่างไรก็ดี
00:07:18 → 00:07:20 ผู้ป่วยก็ต้องกินยากดปุ่มคุ้มกันไปตลอด
00:07:20 → 00:07:25 ชีวิตซึ่งค่ายากดปุ่มก็มีราคาค่อนข้างแพง
00:07:25 → 00:07:27 ฟ้องมาขนาดนี้แล้วคงไม่มีใครอยากจะเป็น
00:07:28 → 00:07:30 โรคไตเพราะฉะนั้นการป้องกันก่อนที่จะเป็น
00:07:30 → 00:07:31 น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดใช่มั้ครับ
00:07:31 → 00:07:33 พฤติกรรมที่ควรจะต้องหลีกเลี่ยงหรือ
00:07:33 → 00:07:35 พฤติกรรมที่ควรจะทำในการป้องกันโรคไตได้
00:07:35 → 00:07:38 แก่อันที่ 1 ผู้ป่วยควรจะดื่มน้ำให้เพียง
00:07:38 → 00:07:40 พอเพราะว่าการดื่มน้ำเนี่ยจะช่วยในการที่
00:07:40 → 00:07:43 จะขับเกลือแร่ออกมาได้ดีกว่าคนที่ไม่ดื่ม
00:07:43 → 00:07:46 น้ำรวมทั้งคนที่ดื่มน้ำมากเนี่ยโอกาสจะ
00:07:46 → 00:07:48 เกิดการติดเชื้อทางระบบทางปัสสาวะการติด
00:07:48 → 00:07:51 เชื้อที่ไตก็จะน้อยลงโอกาสจะเป็นนิ่ว
00:07:51 → 00:07:53 สาเหตุทำให้เกิดไตอักเสบไตอักเสบเรื้อ
00:07:53 → 00:07:56 ร่างหรือไตวายก็จะลดลงอันที่ 2 คือการกิน
00:07:56 → 00:07:58 อาหารที่ถูกต้องที่สำคัญคือลดอาหารเค็ม
00:07:58 → 00:08:00 อาหารเค็มมีโซเดียมสูงโซเดียมเป็นตัวที่
00:08:00 → 00:08:03 ทำให้ไตทำงานหนักเพราะว่าไตมีหน้าที่ใน
00:08:03 → 00:08:04 การขับโซเดียมออกจากร่างกายถ้าเรากิน
00:08:04 → 00:08:07 โซเดียมมากไตก็ต้องทำงานหนักมากเมื่อไตทำ
00:08:07 → 00:08:09 งานหนักมากไตก็จะเสื่อมเร็วนำไปสู่การ
00:08:09 → 00:08:11 เกิดไตเรื้อรางหรือว่าไตวายได้แต่ก็จะมี
00:08:11 → 00:08:14 อาหารที่ไม่เค็มแต่มีโซเดียมสูงเ้าเรียก
00:08:14 → 00:08:17 ว่าโซเดียมแปลงอย่างเช่นผงชูรสกันบูดผงฟู
00:08:17 → 00:08:20 ผงนัวอันนี้ก็เป็นเกลือแฝงที่ไม่เค็มแต่
00:08:20 → 00:08:22 เราได้รับโดยไม่รู้ตัวปัจจัยอื่นๆที่
00:08:22 → 00:08:25 สำคัญคือเรื่องยาเพราะยานี่มีพิษต่อไตโดย
00:08:25 → 00:08:27 เฉพาะยาบางชนิดนะครับเช่นยาแก้ปวดแก้
00:08:27 → 00:08:30 อักเสบหรือว่าเอเสโดยเฉพาะยาที่เราไปกิน
00:08:30 → 00:08:33 เวลาปวดกล้ามเนื้อปวดเอ็นปวดเข่าปวดหลัง
00:08:33 → 00:08:35 ซึ่งคนสูงอายุมักจะมีอาการแบบนี้มักจะ
00:08:35 → 00:08:38 เป็นโดยทั่วไปเราแนะนำว่ากินติดต่อกันไม่
00:08:38 → 00:08:40 ควรจะเกิน 3 วันถ้ามากกว่านั้นควรจะ
00:08:40 → 00:08:43 ปรึกษาแพทย์หรือเปรบางคนมีโรคไตซ่อนอยู่
00:08:43 → 00:08:46 โดยที่ไม่รู้ตัวพอไปกินยาพวกนี้มันจะเร่ง
00:08:46 → 00:08:48 ให้ไตเสื่อมอย่างรวดเร็วแล้วก็ทำให้เกิด
00:08:48 → 00:08:50 ไตวายเฉียบพันธุ์ได้เพราะฉะนั้นการกินยา
00:08:50 → 00:08:52 ต่างๆเหล่านี้ถ้าไม่แน่ใจควรจะปรึกษา
00:08:52 → 00:08:55 แพทย์หรือเพสัชกรก่อนสุดท้ายก็คือการที่
00:08:55 → 00:08:58 จะต้องออกกำลังกายให้สม่ำเสมอเพราะการออก
00:08:58 → 00:09:00 กำลังกายจะช่วยป้องกันความดันสูงป้องกัน
00:09:00 → 00:09:02 โรคหัวใจและป้องกันโรคไตได้ด้วยในอนาคต
00:09:02 → 00:09:04 ถ้าเราอยากจะทราบว่าเราเป็นโรคไตระยะ
00:09:04 → 00:09:06 เริ่มต้นก่อนที่จะมีอาการหรือไม่ดีที่สุด
00:09:06 → 00:09:09 ก็คือตรวจสุขภาพประจำปีแพ็คเกจจะมีตรวจ
00:09:09 → 00:09:11 สุขภาพไตอยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็นส่วนถ้า
00:09:11 → 00:09:14 ระดับของเสียนคำนวณเป็นอัตราการกรองของไต
00:09:14 → 00:09:15 หรือเรียกง่ายๆว่าเปอร์เซ็นต์การทำงานของ
00:09:16 → 00:09:18 ไตออกมาและตรวจปัสสาวะก็จะทราบว่ามีเม็ด
00:09:18 → 00:09:20 เลือดขาวมีโปรตีนล่วงออกมาปัสสาวะหรือไม่
00:09:20 → 00:09:22 ถ้ามีเม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดขาหรือโปรตีน
00:09:22 → 00:09:25 ลวดในปัสสาวะหรือมีภาวะของเสียในเลือดสูง
00:09:25 → 00:09:27 ก็บ่งบอกว่าเป็นโรคไตรเริ่มต้นทำให้การ
00:09:27 → 00:09:29 รักษาในระยะเรื่มต้นได้ผลดีกว่าการรอให้
00:09:29 → 00:09:33 เป็นไตและสุดท้าย
00:09:33 → 00:09:35 คนปกติไม่ควรจะกินโซเดียมเกิน 2,000
00:09:35 → 00:09:38 มิลกัมต่อวันถ้าเรากินข้าวกะเพราหรือว่า
00:09:38 → 00:09:41 อาหารที่ยอดนิยมคนไทยนะโซเดียมเฉลี่ยแล้ว
00:09:41 → 00:09:43 ต่อจานเนี่ยตั้งแต่ 800 จนถึง 2,000
00:09:43 → 00:09:45 มลกรัมเพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราไปกินอาหาร
00:09:45 → 00:09:48 นอกบ้านแนะนำถ้าอยากจะลดโซเดียมต้องบอก
00:09:48 → 00:09:51 แม่ค้าบอกว่าเอาเค็มน้อยไม่ใส่ผงชูรส
00:09:51 → 00:09:53 เพราะปกติแล้วอาหารจากแม่ค้าหรืออาหาร
00:09:53 → 00:09:55 สตีทetฟู้ดจะมีความเค็มสูงกว่าอาหารที่
00:09:55 → 00:09:58 บ้านประมาณ 25% เป็นเพราะว่าแม่ค้ามักจะ
00:09:58 → 00:10:00 ปรุงให้รสชาติจัดกว่าเพื่อจะให้เกิดความ
00:10:00 → 00:10:03 อร่อยเกิดความกินกับลิ้นนะครับหรือว่านัว
00:10:03 → 00:10:05 ซึ่งอันนี้ก็จะเป็นคนเขียนในระยะยาวเพราะ
00:10:05 → 00:10:07 แนะนำถ้าเกิดเราอยากจะดูแลสุขภาพกินข้าว
00:10:07 → 00:10:09 เองทำเองที่บ้านจะดีที่สุดถ้าบอกว่าเป็น
00:10:09 → 00:10:13 น้ำปลากี่ช้อนต่อวันก็คือ 4 ช้อนชาต่อวัน
00:10:13 → 00:10:16 ไม่เกินนั้นแนะนำว่าถ้าจะลดความเค็มให้ลด
00:10:16 → 00:10:18 ความเค็มทีละน้อยเพื่อให้ลิ้นเรามีการ
00:10:18 → 00:10:20 ปรับตัวพอเรากินเค็มน้อยลงลิ้นเราจะไว
00:10:20 → 00:10:23 ขึ้น
00:10:23 → 00:10:25 คำตอบคือถ้าเป็นเครื่องปรุงลดโซเดียมหรือ
00:10:25 → 00:10:27 ว่าโซเดียมต่ำและไม่เติมโปแทสเซียมดีต่อ
00:10:27 → 00:10:29 สุขภาพคนไข้โรคไตครับแต่ถ้าเเขียนว่าเป็น
00:10:29 → 00:10:31 เครื่องปรุงรสโซเดียมแต่เติมโปแทสเซียมทด
00:10:31 → 00:10:34 แทนอันนี้ไม่เหมาะเพราะว่าคนไข้โรคไตมัก
00:10:34 → 00:10:36 จะขับโปแสเซียมไม่ได้มีโปแสมเชื่อมสะสม
00:10:36 → 00:10:38 แต่ถ้าคนปกติที่อยากรักสุขภาพไม่ว่าจะ
00:10:38 → 00:10:41 เป็นคนความดรหิตสูงคนทั่วๆไปซึ่งปรุงรส
00:10:41 → 00:10:43 โซเดียมทั่วๆไปใช้ได้ดีครับแล้วก็ป้องกัน
00:10:44 → 00:10:46 โรคหัวใจป้องกันความดิสูงได้ด้วยซึ่งตอน
00:10:46 → 00:10:48 นี้มีเครื่องปรุงรสหลายชนิดในท้องตลาดไม่
00:10:48 → 00:10:50 ว่าจะเป็นน้ำปลารสโซเดียมจี๊วขาวรส
00:10:50 → 00:10:53 โซเดียมซ้อนมะเขือเทศรสโซเดียมเกลือรส
00:10:53 → 00:10:55 โซเดียมซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดีต่อ
00:10:55 → 00:10:57 สุขภาพสำหรับประชาชนหรือคนไข้ที่เป็นความ
00:10:57 → 00:10:59 ดิสูงแต่ในคนไข้โรคไตต้องระมัดระวังใน
00:10:59 → 00:11:01 กรณีที่เครื่องปรุงนั้นมีการเติม
00:11:01 → 00:11:05 โพแทสเซียมต้องระมัดระวังครับ
00:11:05 → 00:11:07 โรคไตเป็นโรคที่ป้องกันได้เพราะฉะนั้นการ
00:11:07 → 00:11:09 ดูแลรักษาก่อนที่จะมีอาการหรือว่าก่อนที่
00:11:09 → 00:11:11 จะไตเสื่อมไตไวน่าจะมีความสำคัญที่สุดไม่
00:11:12 → 00:11:14 ว่าจะเป็นการพฤติกรรมการกินอาหารที่ดีไม่
00:11:14 → 00:11:17 หวานไม่เค็มไม่มันออกกำลังกายสม่ำเสมอ
00:11:17 → 00:11:19 ดื่มน้ำให้เพียงพอหลีกเลี่ยงยาที่มีพิษ
00:11:19 → 00:11:21 ต่อไตรักษาโรคประจำตัวภายใต้การดูแลของ
00:11:21 → 00:11:24 แพทย์อย่างสม่ำเสมอการตรวจสุขภาพประจำปี
00:11:24 → 00:11:27 เพื่อคัดกรองว่ามีโรคไตระยะเริ่มต้นหรือ
00:11:27 → 00:11:29 ไม่เป็นสิ่งที่สำคัญแล้วก็แนะนำให้คนที่
00:11:30 → 00:11:32 มีอายุเกิน 60 ปีถ้าจะให้ดีเกินเกิน 35
00:11:32 → 00:11:35 ปีมาตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อคัดกรองโรคไต
00:11:35 → 00:11:38 ระยะเริ่มต้นจะได้ให้การรักษาอย่างถูก
00:11:38 → 00:11:40 ต้องอย่างทันท่วงทีก่อนที่จะเป็นโรคไตไว
00:11:40 → 00:11:43 ระยะสุดท้ายครับ
00:11:43 → 00:11:45 >> เห็นมั้คะว่าพฤติกรรมเล็กๆน้อยๆในชีวิต
00:11:45 → 00:11:48 ประจำวันของเราเนี่ยนะคะไม่ว่าจะเป็นการ
00:11:48 → 00:11:51 ดื่มน้ำน้อยการทานอาหารเค็มๆหรือแม้แต่
00:11:51 → 00:11:54 การใช้ยาแก้ปวดบ่อยเกินไปเนี่ยก็ส่งผลต่อ
00:11:54 → 00:11:57 สุขภาพไตของเราได้มากกว่าที่คิดค่ะเพราะ
00:11:57 → 00:12:00 ฉะนั้นเราควรดื่มน้ำให้เพียงพอเลือกทาน
00:12:00 → 00:12:02 อาหารที่มีประโยชน์และทุกครั้งที่จะใช้
00:12:02 → 00:12:04 ยาวโดยเฉพาะยาแก้ปวดเนี่ยนะคะปรึกษาแพทย์
00:12:04 → 00:12:07 หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อที่จะดูแลไตของ
00:12:07 → 00:12:10 เราให้แข็งแรงแล้วก็ป้องกันโรคต่างๆที่จะ
00:12:10 → 00:12:12 เกิดขึ้นค่ะอย่าลืมไปเช็คลิสต์กันนะคะ
00:12:12 → 00:12:16 สำหรับพฤติกรรมที่ควรทำและไม่ควรทำได้ใน
00:12:16 → 00:12:18 Facebook รามา Channel ค่ะรวมทั้งติดตาม
00:12:18 → 00:12:20 เนื้อหาสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ YouTube
00:12:21 → 00:12:24 โรงพยาบาลรามานะคะแล้วพบกันใหม่ในรายการ
00:12:24 → 00:12:26 Hethckคพฤติกรรมกันโรคในครั้งหน้าวันนี้
00:12:26 → 00:12:31 โนตลาไปก่อนแล้วสวัสดีค่ะ
00:12:31 → 00:12:36 [เพลง]