00:00:00 → 00:00:03 เป็นการตีตราคนที่ป่วยเป็นโรคลมชักเพราะ
00:00:03 → 00:00:05 ว่าเอาเข้าจริงๆแล้วคนที่เป็นโรคลมชัก
00:00:05 → 00:00:08 ส่วนใหญ่เขาก็จะยังสามารถทำกิจวัตรประจำ
00:00:08 → 00:00:12 วันเรียนหนังสือทำงานหรือว่าเดินไปเดินมา
00:00:12 → 00:00:15 โดยที่เราไม่รู้เลยว่าเขามีอาการของโรค
00:00:15 → 00:00:17 หมายความว่าตอนที่เขาไม่ได้มีอาการชักก็
00:00:17 → 00:00:20 เหมือนคนปกติทั่วๆไปแต่ว่าตอนที่มีอาการ
00:00:20 → 00:00:24 ก็อาจจะมีอาการเกรงกระตุกมีอาการนิ่งมี
00:00:24 → 00:00:27 อาการเหม่อซึ่งอาการก็จะหลากหลายมากกว่า
00:00:27 → 00:00:29 ที่เราเคยรู้จักว่าจะต้องมีแค่เกร็ง
00:00:29 → 00:00:31 กระตุกเท่านั้นอะไรอย่าเงี้นะครับซึ่ง
00:00:31 → 00:00:35 ทั้งหมดเนี่ยสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกคนที่
00:00:35 → 00:00:38 มีปัญหาที่สมองครับเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อ
00:00:38 → 00:00:41 จริงๆเราจะรู้จักโรคลมชักเนี่ยค่อนข้าง
00:00:41 → 00:00:45 น้อยครับอืค่ะคุณหมอคือที่คุณหมอว่า
00:00:45 → 00:00:58 สาเหตุเกิดขึ้นจากคนที่มีปัญหาทางด้าน
00:00:58 → 00:01:37 ของ
00:01:37 → 00:01:42 สมองเนี่ยมันมันเป็นปัญหาลักษณะแบบไหนที่
00:01:42 → 00:01:45 เกิดขึ้นกับสมองของเรา่ะฮะคุณหมอฮะได้ทุก
00:01:45 → 00:01:48 สาเหตุเลยที่ทำให้เกิดความผิดปกติของสมอง
00:01:48 → 00:01:50 นะครับเพราะฉะนั้นสามารถที่จะเกิดได้ตั้ง
00:01:50 → 00:01:53 แต่เอ่อเด็กจนถึงผู้สูงอายุเลยนะครับ
00:01:54 → 00:01:56 สาเหตุก็จะแตกต่างกันไปถ้าเป็นเด็กนะครับ
00:01:56 → 00:02:00 การเจริญเติบโตของสมองที่ผิดปกติเช่นตอน
00:02:00 → 00:02:03 ตั้งท้องคุณแม่อาจจะไม่สบายหรือคุณแม่รับ
00:02:03 → 00:02:06 ประทานยาบางอย่างที่มีผลต่อสมองหรือทาน
00:02:06 → 00:02:10 อาหารไม่ครบถ้วนหรือดื่มสุราสูบบุหรี่
00:02:10 → 00:02:14 หรือมีเอ่อการใช้เอ่อยาเสพติดพวกเนี้ยก็
00:02:14 → 00:02:17 จะมีผลทำให้พัฒนาการของสมองผิดปกติแล้วก็
00:02:17 → 00:02:20 จะมีอาการของโรคกำชักได้หรือการที่มีการ
00:02:20 → 00:02:23 ติดเชื้อในสมองนะครับถ้าโตมาหน่อยก็เช่น
00:02:23 → 00:02:26 อุบัติเหตุคนที่อ่าขับขี่โดยไม่สวมหมวก
00:02:26 → 00:02:29 กันน็อนะครับหรือตกจากที่สูงนะครับหรือ
00:02:29 → 00:02:32 เป็นโรคหลอดเลือดสมองเส้นเลือดสมองตีบแตก
00:02:32 → 00:02:35 ตันสมองอักเสบสมองติดเชื้อพวกเนี้ยสามารถ
00:02:35 → 00:02:38 ที่จะทำให้เกิดอาการลมชักหรือเป็นโรคลม
00:02:38 → 00:02:42 ชักได้หมดเลยครับโหก็คือเกิดตั้งแต่ได้มี
00:02:42 → 00:02:44 โอกาสเป็นตั้งแต่ตอนที่แบบตั้งครรภ์กัน
00:02:44 → 00:02:47 เลยเหรอฮะอืใช่ใช่ครับอาจารย์คะแล้ว
00:02:47 → 00:02:50 อุบัติการณ์ของโลกเยค่ะอาจารย์คือเป็น
00:02:50 → 00:02:52 เยอะมั้ยคะในคนทั่วไปอย่างที่บอกว่าอ่ะ
00:02:52 → 00:02:55 เป็นมาตั้งแต่มีทั้งอุบัติเหตุเป็นมาตั้ง
00:02:55 → 00:02:57 แต่เล็กๆอะไรอย่างเงี้ยค่ะมาตั้งแต่คุณ
00:02:57 → 00:03:00 แม่ตั้งครรภ์เงี้ยเยอะมั้ยคะครับทั่วโลก
00:03:00 → 00:03:03 ก็จะมีประมาณมากกว่า 50 ล้านคนนะครับ
00:03:03 → 00:03:06 สำหรับเมืองไทยก็เอ่อเกิน 500,000 คนก็จะ
00:03:06 → 00:03:08 มีผู้ป่วยโรคลมชักนะครับเฉลี่ยแล้วก็จะ
00:03:08 → 00:03:14 เจอประมาณเอ่อ 8 คนต่อประชากร 1,000 คนอื
00:03:14 → 00:03:17 เอออันนี้นะใครใครไม่เป็นไม่รู้หรอกนะคะ
00:03:17 → 00:03:20 แต่ว่าพอเป็นช่วงอาการของการลมชักเนี่ย
00:03:20 → 00:03:22 ค่ะอาจารย์ที่ที่ตอนแรกแต่เดิมเราเรียก
00:03:22 → 00:03:24 กันว่าลมบ้าหมูใช่มั้ยคะแต่พอตอนเนี้ยพอ
00:03:24 → 00:03:27 เราเป็นโรคลมชักแล้วเนี่ยคนส่วนใหญ่เนี่ย
00:03:27 → 00:03:29 ค่ะเข้าใจมั้ยคะและอาการกำเริบเนี่ยมัน
00:03:29 → 00:03:31 บอกชช่วงเวลาั้คะว่ามันจะกำเริบตอนนี้
00:03:31 → 00:03:34 แหละหรือมันจะไม่กำเเลิบตอนนี้ยังไงอะไร
00:03:34 → 00:03:37 ยังไงคะอาจารย์เกิดได้ตลอดเวลาเลยครับไม่
00:03:37 → 00:03:39 ไม่เลือกเวลาเพราะฉะนั้นเนี่ยสามารถที่จะ
00:03:39 → 00:03:43 มีอาการในขณะที่เรียนหนังสือมีอาการในขณะ
00:03:43 → 00:03:46 ที่ทำงานมีอาการในขณะที่ทำกิจวัตรประจำ
00:03:46 → 00:03:48 วันเนี่ยสามารถเกิดได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่
00:03:48 → 00:03:51 เลือกทั้งเวลาแล้วก็สถานที่เพราะฉะนั้น
00:03:51 → 00:03:54 สิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับคนไข้ที่มี
00:03:54 → 00:03:57 อาการชักนะครับเ่อก็คืออุบัติเหตุที่เกิด
00:03:57 → 00:04:00 ขึ้นเราจะเห็นข่าวอยู่เรื่อยๆเช่นเอ่อถ้า
00:04:00 → 00:04:05 เอ่อคนคนที่ไข้คนไข้ที่ต้องทำงานในพื้น
00:04:05 → 00:04:08 ที่เช่นเ่อที่นาอะไรเครับเราจะเห็นว่าน้ำ
00:04:09 → 00:04:11 ที่มันขันในนานเนี่ยอาจจะไม่สูงแต่เราก็
00:04:11 → 00:04:13 จะมีข่าวว่ามีคนเสียชีวิตเพราะว่าตอนที่
00:04:13 → 00:04:16 มีอาการชักแล้วล้มลงไปนอนเนี่ยน้ำเนี่ย
00:04:16 → 00:04:20 มันก็จะท่วมพ้นจมูกนะครับซึ่งในสภาวะปกติ
00:04:20 → 00:04:22 เราคิดว่าเอ๊ะสภาพน้ำขนาดเนี้ยไม่น่าจะมี
00:04:22 → 00:04:25 คนจมน้ำได้อันนี้ยก็สามารถเกิดได้หรือบาง
00:04:25 → 00:04:28 คนเช่นคุณแม่ที่เป็นโรคลมชักแล้วกำลังมี
00:04:28 → 00:04:30 ลูกอ่อนเงี้ยครับเคอาบนามลูกตัวเล็กๆใน
00:04:30 → 00:04:32 กะละมังอย่างเงี้ยครับตอนที่มีอาการชัก
00:04:32 → 00:04:36 เขาก็สามารถที่จะเอ่อไม่ไม่ไม่รู้ว่าลูก
00:04:36 → 00:04:39 ตัวเองเนี่ยอยู่ในน้ำแล้วเด็กก็จะจมน้ำ
00:04:39 → 00:04:42 ได้หรือแม้แต่คนที่อาบน้ำในถังในกะละมัง
00:04:42 → 00:04:45 หรือในโอ่งตอนที่มีอาการลมชักแล้วไม่รู้
00:04:45 → 00:04:48 สึกตัวเนี่ยหัวจุ่มน้ำก็มีโอกาสที่จะเสีย
00:04:48 → 00:04:53 ชีวิตได้อืค่ะอออาจารย์คะแล้วเนี่ยค่ะพอ
00:04:53 → 00:04:56 สมมุติว่าลมชักเนี่ยเท่าที่หยกจำได้ว่า
00:04:56 → 00:04:58 ข่าวบางอย่างเนี่ยเขาบอกว่าคนเป็นลมชัก
00:04:58 → 00:05:00 ห้ามขับรถถ้าเกิดขับรถก็จะเกิดอันตราย
00:05:00 → 00:05:04 ด้วยถูกมั้ยคะใช่ครับเพราะว่าอย่างที่บอก
00:05:04 → 00:05:07 ว่าเวลาที่คนจะมีอาการชักเนี่ยเสามารถที่
00:05:07 → 00:05:09 จะมีอาการเนี่ยได้ตลอดเวลาโดยไม่เลือก
00:05:09 → 00:05:12 สถานที่แล้วก็เวลาจริงๆไม่ใช่เฉพาะขับรถ
00:05:12 → 00:05:14 อย่างเดียวแต่ว่าเ่อทุกกิจกรรมที่เกี่ยว
00:05:14 → 00:05:17 ข้องกับเ่อเครื่องยนต์กลไกทั้งหลายถ้า
00:05:17 → 00:05:19 สมมติว่ามีอาการชักในขณะนั้นเนี่ยมีโอกาส
00:05:19 → 00:05:21 ที่จะเกิดอันตรายได้ซึ่งอันตรายสามารถ
00:05:21 → 00:05:24 เกิดขึ้นได้กับตัวของคนไข้เองนะครับแต่
00:05:24 → 00:05:27 ว่าถ้าสมมติว่าขับรถเนี่ยอันตรายอาจจะ
00:05:27 → 00:05:29 เกิดขึ้นกับคนอื่นที่ใช้รถใช้ถนน่วมกัน
00:05:29 → 00:05:32 ได้นะครับเพราะฉะนั้นเ่อถ้าสมมติว่ายังมี
00:05:32 → 00:05:35 อาการชักอยู่และยังควบคุมไม่ได้ตอนเนี้ย
00:05:35 → 00:05:37 กฎหมายก็จะไม่อนุญาตให้ขับรถนะครับถ้า
00:05:37 → 00:05:41 สมมุติว่าเราไปเ่อคนไข้ไปขอมีใบอนุญาตขับ
00:05:41 → 00:05:44 ขี่แล้วโกหกว่าตอนนี้คุมอาการชักได้ดี
00:05:45 → 00:05:47 แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมามีการสอบสวน
00:05:47 → 00:05:49 แล้วปรากฏว่าคุมชักยังได้ไม่ค่อยดี
00:05:49 → 00:05:52 อันเนี้ยตัวคนคนนั้นเนี่ยก็จะมีความผิด
00:05:52 → 00:05:55 ทางกฎหมายปัจจุบันกฎหมายต้องให้คุมอาการ
00:05:55 → 00:05:58 ชักได้อย่างน้อย 1 ปีก่อนก็คือไม่ชักเลย 1
00:05:58 → 00:06:02 ปีาสข่ะขอมีใบอนุญาตขับขี่ได้ถูกต้องตาม
00:06:02 → 00:06:05 กฎหมายครับอืค่ะอาจารย์คะแล้วเวลาการคุม
00:06:05 → 00:06:07 หรือว่าการชักเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ยเราจะได้
00:06:07 → 00:06:10 ยินว่าพอดีมีตอนสมัยเรียนมหาลัยจำได้ว่า
00:06:10 → 00:06:13 มีเพื่อนแบบชักแล้วก็ทุกคนก็บอกไม่รู้จะ
00:06:13 → 00:06:16 ทำอะไรเดี๋ยวต้องเอาช้อนยัดเข้าปากไม่ให้
00:06:16 → 00:06:20 เขาแบบกัดใช่มั้ยคะบางครั้งก็ใช้มือก็ไม่
00:06:20 → 00:06:23 ให้เพื่อนงับกัดลิ้นจริงๆแล้วชักเนี่ยทุก
00:06:23 → 00:06:25 คนจะต้องกัดกัดลิ้นกัดอะไรอย่างนี้ยคะ
00:06:26 → 00:06:28 แล้วเราต้องแก้อาการยังไงคะอาจารย์ครับ
00:06:28 → 00:06:32 อ่าปกปกติเวลาที่มีอาการชักเกร็งเกิดขึ้น
00:06:32 → 00:06:34 นะครับถ้าสมมุติว่ามีอาการเกร็งกระตุกเลย
00:06:34 → 00:06:36 เนี่ยกล้ามเนื้อที่ลิ้นลิ้นเราเนี่ยมัน
00:06:36 → 00:06:39 เป็นกล้ามเนื้อก็จะมีการเกร็งหดเข้าไป
00:06:39 → 00:06:41 เนี่ยเหมือนกันเพราะฉะนั้นเวลาที่จะเกิด
00:06:41 → 00:06:43 การกัดลิ้นเกิดขึ้นเนี่ยมันจะไม่เหมือนใน
00:06:43 → 00:06:46 หนังจีนที่เวลาจะฆ่าตัวตายเราต้องกัดลิ้น
00:06:46 → 00:06:48 เพื่อที่จะฆ่าตัวตายใช่มั้ยครับแต่ว่า
00:06:48 → 00:06:50 อันเนี้ยลิ้นที่มันหดเข้าไปเนี่ยเวลาที่
00:06:51 → 00:06:53 กัดเนี่ยมันจะถูกกัดตรงด้านข้างของลิ้น
00:06:53 → 00:06:56 แล้วก็จะเป็นแผลขนาดเล็กๆเท่ากับแผลเวลา
00:06:56 → 00:06:59 ที่เรากินอาหารแล้วเราพูดไปกินไปแล้วเรา
00:06:59 → 00:07:02 อาจจะกัดลิ้นซึ่งมันจะเล็กแค่นั้นนะครับอ
00:07:02 → 00:07:04 เ่อเพราะฉะนั้นเนี่ยอย่างนึงที่ทุกคนจะ
00:07:04 → 00:07:07 ต้องเอ่อเข้าใจแล้วก็เอ่อเข้าใจให้ถูก
00:07:08 → 00:07:10 ต้องก็คือ 1 กัดลิ้นเนี่ยไม่ตายแน่ๆอัน
00:07:10 → 00:07:13 ที่ 2 ก็คือเวลาชักเนี่ยโอกาสที่จะกัด
00:07:13 → 00:07:16 ลิ้นเกิดขึ้นน้อยมากและทุกเ่าครั้งที่
00:07:16 → 00:07:19 เกิดการกัดลิ้นเนี่ยมักจะเป็นแผลเล็กๆที่
00:07:19 → 00:07:21 บริเวณข้างเ่อด้านข้างของลิ้นเท่านั้นเอง
00:07:21 → 00:07:24 เพราะฉะนั้นสิ่งที่กลัวว่าจะกัดลิ้น
00:07:24 → 00:07:26 อันเนี้ยเป็นไปได้ยากมากเพราะฉะนั้นถ้า
00:07:26 → 00:07:29 สมมุติว่าเป็นไปได้ยากแปลว่าเราไม่จำเป็น
00:07:29 → 00:07:31 ต้องใช้วัสดุหรืออุปกรณ์อะไรก็ตามเนี่ย
00:07:31 → 00:07:34 เข้าไปในปากนะครับถ้าตอนนั้นตกใจแล้วเรา
00:07:34 → 00:07:36 ใส่นิ้วเข้าไปแน่นอนนิ้วเราโดนกัด
00:07:36 → 00:07:38 อันเนี้ยกัดลิ้นไม่ขาดนะฮะแต่ว่าถ้ากัด
00:07:38 → 00:07:41 นิ้วคนอื่นเนี่ยโอกาสนิ้วจะขาดเนี่ยอัน
00:07:41 → 00:07:43 นี้มีนะครับค่ะอันที่ 2 ถ้าสมมุติว่าเรา
00:07:43 → 00:07:46 ไม่ใช้นิ้วมือแต่ว่าเราใช้ช้อนใช้อุปกรณ์
00:07:46 → 00:07:49 อย่างอื่นที่มันมีความแข็งแรงแล้วก็ทนมาก
00:07:49 → 00:07:52 กว่าฟันฟันมีโอกาสที่จะหักหรือหลุดเนี่ย
00:07:52 → 00:07:55 ได้นะครับฟันหักฟันหลุดนึงถ้ามันหลุดเข้า
00:07:55 → 00:07:58 ไปในทางเดินหายใจก็จะอุดกั้นทางเดินหายใจ
00:07:58 → 00:08:01 ซึ่งอันเนี้ยอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
00:08:01 → 00:08:04 พกัดเล้นไม่ตายแต่ว่าถ้าเอาช้อนยัดไปแล้ว
00:08:04 → 00:08:08 เอ่อเศษวัสดุจากที่หักเนี่ยสมตว่าเอ่อ
00:08:08 → 00:08:11 เป็นไม้หรือเป็นพลาสติกแล้วปรากฏว่าตอน
00:08:11 → 00:08:15 กัดเนี่ยครับเอ่อไม้มันมันหัดหัลงไปด้วยอ
00:08:15 → 00:08:17 ส่วนปลายของไม้หรือพลาสติกนั้นเนี่ยก็จะ
00:08:17 → 00:08:20 ไปอุดทางเดินหายใจหรือถ้าฟันหลุดฟันหัก
00:08:20 → 00:08:23 อันเนี้ยมันก็จะทำให้พอหยุดชักหายซัดแล้ว
00:08:24 → 00:08:26 ก็จะต้องไปหาหมอฟันใส่ฟันปลอมอีกเพราะ
00:08:26 → 00:08:28 ฉะนั้นวิธีการที่เราจะช่วยเหลือคนไข้โรค
00:08:28 → 00:08:31 ลมชักตามที่เมีอาการชักอันนี้ท่องไว้เลย
00:08:31 → 00:08:36 นะครับเอ่อไม่งัดไม่ง้างไม่ถ่างไม่กดไม่
00:08:36 → 00:08:39 ทั้งหมดชักหยุดเองนะครับชักส่วนใหญ่เกิน
00:08:39 → 00:08:43 95% ก็จะหยุดของมันเองภายในระยะเวลา 3-5
00:08:43 → 00:08:46 นาทีไม่จำเป็นที่จะต้องไปงัดแขนงัดขาไป
00:08:46 → 00:08:49 ง้างแขนง้างขาหรือไปกดหน้าอกนะครับเอ่อ
00:08:49 → 00:08:51 เราอาจจะได้ยินข่าวอยู่เรื่อยๆบอกว่าถ้า
00:08:51 → 00:08:54 สมมุติว่าตอนชักเนี่ยนอกจากจะต้องเอาช้อน
00:08:54 → 00:08:56 หนาดปากแล้วก็ต้องพยายามนวดท้องเพื่อที่
00:08:56 → 00:08:59 จะช่วยให้เหยุดอะไรเงี้ยทั้งหมดไม่จำเลย
00:08:59 → 00:09:02 เพราะว่าชักทุกชักหยุดได้แงนะครับถ้า
00:09:02 → 00:09:04 สมมุติว่านอกจากที่เราพยายามไปช่วยเอา
00:09:04 → 00:09:06 อะไรใส่ปากแล้วเนี่ยบางคนไปกดท้องอะไร
00:09:06 → 00:09:08 อย่างงี้ใช่มั้ยครับถ้านึกสภาพของคนไข้
00:09:08 → 00:09:11 ตัวเล็กๆนะฮะแล้วคนที่ไปช่วยตัวใหญ่ๆแรง
00:09:11 → 00:09:13 เยอะๆเนี่ยบางทีการเข้าไปกดอย่างนั้น
00:09:13 → 00:09:17 เนี่ยิงหักม้ำแตกตับแตกนะฮะเส้นเลือดใหญ่
00:09:17 → 00:09:19 มีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บจากการพยายาม
00:09:19 → 00:09:22 ช่วยที่ผิดวิธีได้หมดเลยครับอ๋อค่ะ
00:09:22 → 00:09:24 อาจารย์พูดมาเราเห็นภาพนะคะแต่ทีนี้ถ้า
00:09:24 → 00:09:27 สมมุติว่าเราปล่อยให้เขาคชักไปเฉยๆแล้ว
00:09:27 → 00:09:29 เรายืนดูคือเราไม่อย่างที่อาจารย์บอกว่า
00:09:29 → 00:09:32 หนูจำคำได้ประโยคสุดท้ายคือไม่งัดไม่ง้าง
00:09:32 → 00:09:34 ไม่ถังไม่ทั้งหมดพะสมมุติว่าไม่ทั้งหมด
00:09:34 → 00:09:36 แล้วเรายืนดูมันดูไม่ใจดำไปใช่มคะอาจารย์
00:09:36 → 00:09:39 หรือเราต้องทำยังไงคะอันนี้มันเป็นมัน
00:09:39 → 00:09:42 เป็นสิ่งที่จะค่อนข้างยากในในทางปฏิบัติ
00:09:42 → 00:09:45 ยากในที่นี้หมายความว่ายากในแง่ของความ
00:09:45 → 00:09:48 รู้สึกที่เราจะยืนดูเฉยๆนะครับแต่ว่าจริง
00:09:48 → 00:09:51 ๆแล้วเนี่ยเราสามารถที่จะ acting ได้ด้วย
00:09:51 → 00:09:55 ความห่วงใจเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าของสังคม
00:09:55 → 00:09:58 เพราะว่าเดี๋ยวนี้ถ้าใครทำอะไรที่เอ่อผิด
00:09:58 → 00:10:00 แพกไปจากจากสิ่งที่เขาคาดหวังแน่นอนทุกคน
00:10:00 → 00:10:03 หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายเสแล้วเนี่ย
00:10:03 → 00:10:05 ก็จะกลายเป็นดราม่าเอาไปด่าเอาไปว่าทั้งๆ
00:10:05 → 00:10:07 ที่จริงๆเไม่รู้เลยอะไรอย่างเงี้ยเพราะ
00:10:07 → 00:10:10 ฉะนั้นสิ่งที่จะทำเพิ่มอีก 1 อย่างก็คือ
00:10:10 → 00:10:14 แิ้ด้วยความเอ่อพยายามจะดูแลสนใจหน่อยแต่
00:10:14 → 00:10:17 ว่าจริงๆเนี่ยก็ไม่ใช่แอคติ้งทั้งหมดแต่
00:10:17 → 00:10:20 ไม่ได้ทำอะไรเลยเนี่ยหมายความว่าช่วยดูแล
00:10:20 → 00:10:23 ให้เชักอย่างปลอดภัยหมายความว่าถ้าตอน
00:10:23 → 00:10:26 นั้นเนี่ยเมีอาการชักอยู่ริมน้ำริมสระน้ำ
00:10:26 → 00:10:28 ริมแม่น้ำอะไรอย่าเงี้นะครับเราพยายามที่
00:10:28 → 00:10:31 จะกันเไม่ให้เค้ามีอาการชักแล้วกลิ้งตกลง
00:10:31 → 00:10:34 ไปในแม่น้ำหรือถ้าเชักอยู่ริมถนนเราช่วย
00:10:34 → 00:10:36 พยายามประคับประคองหรือว่าลากหรือว่าดึง
00:10:36 → 00:10:40 หรือว่ายกหรือว่าอุ้มมาเ่ารินถนนนิดหน่อย
00:10:40 → 00:10:43 นะครับหรือถ้าระหว่างที่เา้ามีอาการชักมี
00:10:43 → 00:10:46 อาการเกรงกระตุงเนี่ยขาหรือแขนที่มีการ
00:10:46 → 00:10:50 เกรงกระตุกอาจจะไปเอ่อโดนจักรยานโดนตู้
00:10:50 → 00:10:52 โดนเฟอร์นิเจอร์อะไรแล้วทำให้
00:10:52 → 00:10:54 เฟอร์นิเจอร์หรือจักรยานหรือตู้เหล่านั้น
00:10:54 → 00:10:57 เนี่ยล้มลงมาทับเขาเราก็ช่วยดูแลเรื่อง
00:10:57 → 00:11:00 ของความปลอดภัยที่อ่าอาจจะเกิดขึ้นณเวลา
00:11:00 → 00:11:03 นั้นเนี่ยจะช่วยทำให้เขาชักอย่างปลอดภัย
00:11:03 → 00:11:05 เพราะฉะนั้นการที่บอกว่าไม่ต้องทำอะไรเลย
00:11:05 → 00:11:09 จริงๆก็คือช่วยดูแลระแวดระวังความปลอดภัย
00:11:09 → 00:11:11 แล้วก็อันตรายที่เที่จะเกิดขึ้นในระหว่าง
00:11:11 → 00:11:15 ที่เาชัตนที่ไม่ต้องไปทำอะไรกับตัวเขา
00:11:15 → 00:11:18 ครับอจะเป็นแบบนี้มากกว่าครับคืออันนี้ขอ
00:11:18 → 00:11:21 อนุญาตนิดนึงนะฮะคือถ้าคุณผู้ฟังที่ฟัง
00:11:21 → 00:11:24 อยู่เนี่ยอาจจะนึกภาพไม่ออกว่าเฮ้ยสมมุติ
00:11:24 → 00:11:26 ถ้าไปเห็นคนที่กำลังชักอยู่เนี่ยแล้วเรา
00:11:26 → 00:11:29 พยายามที่จะเหมือนที่พี่หยกถามคุณหมอไปก็
00:11:29 → 00:11:31 คือเอ๊ะถ้าเราไม่เข้าไปช่วยมันจะไม่ดูใจ
00:11:31 → 00:11:33 ร้ายใจดำจนเกินไปหรือเปล่าเนี่ยคืออยากจะ
00:11:33 → 00:11:36 ให้คุณผู้ฟังเนี่ยลองลองเข้าไปดูในเพจ
00:11:36 → 00:11:38 Facebook ที่ชื่อว่าชมรมลมชักโรคลมชัก
00:11:38 → 00:11:42 เพื่อประชาชนนะครับเคทำคลิปเอ่อวีดีโอไว้
00:11:42 → 00:11:44 เนี่ยความยาวประมาณสัก 2 นาทีแค่นั้นเอง
00:11:44 → 00:11:46 เราจะได้เห็นถึงสิ่งที่คุณหมอได้พูดเลย
00:11:46 → 00:11:51 ว่าคือถ้าถ้าเราเข้าไปเนี่ยเข้าไปพยายาม
00:11:51 → 00:11:54 ที่จะไปช่วยเหลือด้วยความไม่รู้แล้วแล้ว
00:11:54 → 00:11:57 คนที่เค้าพยายามที่จะดูแลอยู่เนี่ยกันไม่
00:11:57 → 00:11:58 ให้เข้ามาช่วยเหลืออะไรเงี้ยเพราะว่า
00:11:58 → 00:12:01 อย่างที่ที่คุณหมอบอกคือเวลาเค้าชัก 2
00:12:01 → 00:12:03 นาที 3 นาทีแล้วมันจะหายเองคือบางคนไม่
00:12:03 → 00:12:05 เข้าใจบางคนไม่รู้แล้วเดี๋ยวนี้มันมี
00:12:05 → 00:12:08 โทรศัพท์มือถือมันมีโซเชียลเป็นของตัวเอง
00:12:08 → 00:12:11 ก็ถ่ายลงไปก็กลายเป็นดราม่าไปอีกคนที่เา
00:12:11 → 00:12:13 พยายามดูแลคนที่อาจจะเป็นติ๊ต่าว่าเป็น
00:12:13 → 00:12:16 แม่เออลูกอาจจะชักอยู่อะไรเงี้ยก็อาจจะไป
00:12:16 → 00:12:19 ด่าไปว่าได้ว่าเฮ้ยทำไมคุณไม่ดูแลลูกของ
00:12:19 → 00:12:22 คุณเลยคุณถ่ายคลิปอะไรไว้ทำไมเนี่ยเพื่อ
00:12:22 → 00:12:25 เพื่ออะไรอะไรประมาณเนี้ยอืมคือในคลิปอัน
00:12:25 → 00:12:27 นี้เนี่ยมันจะบอกเลยนะครับว่าเหมือนสิ่ง
00:12:27 → 00:12:29 ที่คุณหมอบอกเลยเพียงแต่ว่าเมคือทำให้
00:12:29 → 00:12:31 เห็นภาพมากยิ่งขึ้นลองสละเวลาเข้าไปดูสัก
00:12:31 → 00:12:34 นิดนึงแล้วกันนะฮะในเพจชมรมโรคลมชักเพื่อ
00:12:34 → 00:12:37 ประชาชนนะครับคือเค้าแนะนำอย่างนึงด้วย
00:12:37 → 00:12:39 ครับคุณหมอครับสมมุติว่าถ้าคนที่อยู่ใน
00:12:39 → 00:12:41 ครอบครัวหรือว่าคนที่ดูแลคนที่ป่วยเป็น
00:12:41 → 00:12:44 โรคลมชักเนี่ยเขาบอกให้ถ่ายคลิปไว้เพื่อ
00:12:44 → 00:12:46 ส่งให้แพทย์ประเมินอาการอันนี้อันนี้มัน
00:12:46 → 00:12:50 มันมันจริงขนาดไหนฮะสมอาจครับเ่อคือปกติ
00:12:50 → 00:12:53 เนี่ยยเวลาที่เอ่อคนมีอาการเกร็งกระตุก
00:12:53 → 00:12:55 เนี่ยอาจจะเป็นจากลมชักก็ได้หรือเกร็ง
00:12:55 → 00:12:57 กระตุกจากสาเหตุอื่นๆเนี่ยก็ได้นะครับ
00:12:57 → 00:13:00 เพราะฉะนั้นเวลาที่ที่ไปพอสมมุติว่าอย่าง
00:13:00 → 00:13:02 เช่นโดยเฉพาะคนที่มีอาการเป็นครั้งแรก
00:13:02 → 00:13:04 เนี่ยเวลาไปหาหมอหมอก็จะถามว่าอาการเป็น
00:13:04 → 00:13:07 ยังไงเกร็งยังไงกระตุกยังไงหน่าหันไปทาง
00:13:07 → 00:13:09 ไหนอะไรอย่าเงี้ยครับเพื่อที่จะดูว่ามัน
00:13:09 → 00:13:11 เป็นอาการของลมชักจริงมั้ยหรือว่าเป็น
00:13:11 → 00:13:14 อาการเกรงกระตุกจากสาเหตุอื่นเพราะฉะนั้น
00:13:14 → 00:13:16 ถ้าสมมติว่ามีคลิปไปด้วยเนี่ยบางทีพอเรา
00:13:16 → 00:13:18 ดูคลิปแล้วเนี่ยมันก็สามารถที่จะให้ข้อ
00:13:18 → 00:13:21 มูลแทนคำบอกเล่าทั้งหมดเนี่ยได้นะครับ
00:13:21 → 00:13:23 หลายท่านอาจจะรู้สึกว่าเอ๊ลมชักหรืออาการ
00:13:23 → 00:13:26 ชักเนี่ยมันเป็นเรื่องไกลตัวแต่ว่าอีกอัน
00:13:26 → 00:13:28 นึงที่เ่อหลายๆท่านโดยเฉพาะท่านที่มีลูก
00:13:28 → 00:13:32 เล็กๆนะครับเช่นเอ่อเด็กอายุประมาณ 6
00:13:32 → 00:13:34 เดือนถึง 5 ขวบเนี่ยเวลาไข้ขึ้นสูงเด็ก
00:13:34 → 00:13:37 กลุ่มนี้ก็จะมีโดยที่ไม่ต้องเป็นโรคอะไร
00:13:37 → 00:13:39 เลยนะครับเด็กก็จะมีอาการชักจากไข้สูง
00:13:39 → 00:13:42 เนี่ยได้ซึ่งก็จะเป็นอาการชักคล้ายๆกัน
00:13:42 → 00:13:44 เพียงแต่ว่ากลุ่มเนี้ยจะไม่ได้เป็นโรคลม
00:13:44 → 00:13:46 ชักเท่านั้นเองเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาที่
00:13:46 → 00:13:49 เราพูดถึงเรื่องของอาการชักเนี่ยอ่าหลาย
00:13:49 → 00:13:51 คนจะรู้สึกไกลตัวเพราะอย่างที่บอกคนไทย
00:13:51 → 00:13:53 เกิน 500,000 คนซึ่งจริงๆมันก็อาจจะน้อย
00:13:53 → 00:13:55 เมื่อเทียบกับประชากรเกือบ 70 ล้านคนอะไร
00:13:55 → 00:13:58 อย่าเงี้นะครับแต่ถ้าเราบอกว่าเด็กเล็กนะ
00:13:58 → 00:14:00 ครับที่ที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบเวลาไข้สูง
00:14:00 → 00:14:03 เนี่ยมีอาการชักเนี่ยได้เพราะฉะนั้นหลาย
00:14:03 → 00:14:05 คนอาจจะรู้สึกว่าอ๋อจริงๆแล้วมันใกล้ตัว
00:14:05 → 00:14:08 กว่าที่ทุกท่านคิดอีกซึ่งวิธีการ
00:14:08 → 00:14:10 ปฐมพยาบาลในเด็กเล็กหรือว่าปฐมพยาบาลใน
00:14:10 → 00:14:13 ผู้ใหญ่ที่มีอาการชักก็จะไม่แตกต่างกัน
00:14:13 → 00:14:16 เลยก็คือเราแค่ดูแลให้เาชักอย่างปลอดภัย
00:14:16 → 00:14:18 นะครับแต่ถ้าเป็นชักครั้งแรกโอเคชักเสร็จ
00:14:18 → 00:14:20 แล้วก็อาจจะต้องพาไปโรงพยาบาลเพื่อที่จะ
00:14:20 → 00:14:25 ตรวจหาสาเหตุว่ากันไปเป็นรายๆครับอาจารย์
00:14:25 → 00:14:28 คะแล้วเนี่ยค่ะพอเรารู้แล้วว่าอ่ะให้ชัก
00:14:28 → 00:14:30 ในพื้นที่ปลอดภัยหรืออะไรอย่างเงี้ค่ะ
00:14:30 → 00:14:33 สมมุติพอเคหายะก็พาไปหาคุณหมอไม้หรือว่า
00:14:33 → 00:14:37 ปกติอย่างอย่างเงี้ยค่ะว่าเราต้องมียาทาน
00:14:37 → 00:14:39 หรือว่าเราต้องแก้อาการยังไงคะการรักษา
00:14:39 → 00:14:42 โรคลมชักอ่ะค่ะต่อเนื่องแล้วมันมีวิธีการ
00:14:42 → 00:14:45 ไปคส่วนใหญ่เราจะได้ยินคำว่าอ่ะถ้าเราออก
00:14:45 → 00:14:47 กำลังกายเหมือนคนเป็นหอบอ่ะค่ะอาจารย์ออก
00:14:47 → 00:14:49 กำลังกายไปเรื่อๆร่างกายจะฟื้นฟูเดี๋ยว
00:14:49 → 00:14:52 เราจะค่อยกลับมาแข็งแรงเองแล้วโรคระบบทาง
00:14:52 → 00:14:54 เดือนหายใจของเราจะค่อยๆดีขึ้นอันนี้
00:14:54 → 00:14:56 เหมือนกันมยคะอาจารย์หรือจะเป็นและเป็น
00:14:56 → 00:15:01 ตลอดไปครับเอ่อสำหรับโรคลมชักเนี่ยเวลา
00:15:01 → 00:15:03 ที่คนที่มีอาการชักครั้งแรกอันนี้ต้องส่ง
00:15:03 → 00:15:06 โรงพยาบาลทุกรายนะครับเพื่อที่จะไปตรวจ
00:15:06 → 00:15:09 วินิจฉัยว่ามีอาการชักจริงมแล้วก็เป็นชัก
00:15:09 → 00:15:12 จากสาเหตุอะไรนะครับเพราะว่าบางครั้ง
00:15:12 → 00:15:14 เนี่ยความอย่างที่บอกว่าความผิดปกติทาง
00:15:14 → 00:15:16 ระบบประสาสทุกอย่างสามารถทำให้เกิดชักได้
00:15:16 → 00:15:19 หมดเลยบางคนอาจจะเอ่อมีอาการเส้นเลือดใน
00:15:19 → 00:15:21 สมองแตกแล้วก็ทำให้มีอาการชักนะครับหรือ
00:15:21 → 00:15:25 บางคนอาจจะมีเนื้องอกในสมองแล้วเพิ่งจะมา
00:15:25 → 00:15:27 มีอาการชักอย่างเงี้ยก็ได้นะครับดังนั้น
00:15:27 → 00:15:29 ถ้าเป็นครั้งแรกส่งลงพยาบาทุกรายแต่ถ้า
00:15:29 → 00:15:31 เป็นคนไข้ที่เป็นโรคลมชักอยู่แล้วนะครับ
00:15:31 → 00:15:35 เราเอ่อดูแลให้เขาปลอดภัยจนเาหยุดชักแล้ว
00:15:35 → 00:15:38 เาก็อ่าค่อยๆตื่นขึ้นมาเนี่ยเราสามารถถาม
00:15:38 → 00:15:40 ไถ่ให้ความช่วยเหลือตามที่เขาต้องการได้
00:15:40 → 00:15:43 ซึ่งคนไข้ที่เป็นโรคลมชักเนี่ยเขาก็จะมี
00:15:43 → 00:15:46 อาการชักของเขาเนี่ยอยู่แล้วถ้าสมมติว่าเ
00:15:46 → 00:15:48 ตื่นมาแล้วเราถามเขาว่าต้องการให้ช่วย
00:15:48 → 00:15:50 เหลือยังไงให้โทรหาย่าหรือจะไปโรงพยาบาล
00:15:50 → 00:15:51 เหรืออะไรอย่างเงี้ยก็ตามที่เขาต้องการ
00:15:51 → 00:15:54 เนี่ยได้เลยซึ่งถ้าเป็นอาการชากที่เขา
00:15:54 → 00:15:57 หยุดแล้วตื่นมาทุกอย่างเป็นปกติดีไม่ได้
00:15:57 → 00:15:59 มีความผิดปกติไม่ได้มีบาดเจ็บอะไรเาก็
00:15:59 → 00:16:02 สามารถที่จะไปทำกิจวัตรอื่นๆของเขาได้ตาม
00:16:02 → 00:16:05 ปกติโดยที่เ่อการที่ปล่อยเข้าไปอย่างนั้น
00:16:05 → 00:16:07 ไม่ได้ถือว่าเป็นการเ่อไม่ช่วยเหลือหรือ
00:16:07 → 00:16:08 อะไรเพราะว่าอันนั้นเป็นสิ่งที่มันเกิด
00:16:08 → 00:16:11 ขึ้นกับเขาอยู่เป็นประจำสม่ำเสมออยู่แล้ว
00:16:11 → 00:16:14 นะครับทีนี้ในเรื่องของการกระบวนการให้
00:16:14 → 00:16:16 การรักษาปัจจุบันเนี่ยเราก็จะให้การรักษา
00:16:16 → 00:16:20 ด้วยยากัญชักเนี่ยเ่ออ่ะหาสาเหตุก่อนนะ
00:16:20 → 00:16:22 ครับแล้วก็ถ้ามีสาเหตุอะไรชัดเจนเราก็
00:16:22 → 00:16:25 รักษากันไปตามสาเหตุนั้นนะครับแต่ถ้าเป็น
00:16:25 → 00:16:27 กลุ่มที่ไม่พบสาเหตุใดๆชัดเจนนะครับก็จะ
00:16:27 → 00:16:29 เป็นกลุ่มที่เป็นโคคมชักเราก็จะให้ยากั
00:16:29 → 00:16:34 ชักในการรักษาอถ้าสมมุติว่ากินยากันชักไป
00:16:34 → 00:16:37 แล้วนะครับเ่ายังคุมอาการไม่ได้นะครับโดย
00:16:37 → 00:16:39 ใช้ยากันชัก 2 ตัวแล้วก็จะบอกว่าอันเนี้ย
00:16:39 → 00:16:42 เป็นกลุ่มที่เป็นดื้อยาปัจจุบันเอ่อการ
00:16:42 → 00:16:44 รักษาที่เป็นมาตรฐานสำหรับกลุ่มที่เป็น
00:16:44 → 00:16:47 ดื้อยาก็คือการผ่าตัดผ่าตัดในที่นี้ก็คือ
00:16:47 → 00:16:50 ตัดเนื้อสมองส่วนที่เป็นจุดกำเนิดของชัก
00:16:50 → 00:16:54 เนี่ยออกไปนะครับแล้วคนไข้ก็จะหายชักบาง
00:16:54 → 00:16:56 คนที่เดิมเนี่ยชักอยู่เรื่อยๆนะครับต้อง
00:16:56 → 00:16:59 กินยากันชักไปเรียนญาไปทำงานยากทำกิจวัตร
00:17:00 → 00:17:02 นู่นนี่นั่นไม่ได้หลังผ่าตัดไปเขาก็จะ
00:17:02 → 00:17:04 เปลี่ยนเป็นคนละคนก็คือเป็นคนปกติเลย
00:17:04 → 00:17:07 สามารถที่จะไปเรียนไปทำงานทำทุกอย่างได้
00:17:07 → 00:17:11 เหมือนกับไม่มีโรคประจำตัวเลยนะครับทีนี้
00:17:11 → 00:17:13 มาคำถามเรื่องของการออกกำลังกายนะครับ
00:17:13 → 00:17:15 สำหรับการออกกำลังกายเนี่ยสำหรับผู้ป่วย
00:17:15 → 00:17:17 โรคลมชักการออกกำลังกายเนี่ยได้ประโยชน์
00:17:18 → 00:17:21 แน่ๆเพราะว่าบางคนเนี่ยเ่อพอมีโรคลมชัก
00:17:21 → 00:17:24 กลัวจะต้องไปกลัวกับการจะต้องไปออกกำลัง
00:17:24 → 00:17:27 กายเ่อเรารู้อยู่แล้วว่าการออกกำลังกาย
00:17:27 → 00:17:30 เนี่ยมีประโยชน์สำหรับป้องกันแล้วก็ลด
00:17:30 → 00:17:32 ความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อไม่ใช่
00:17:32 → 00:17:34 เฉพาะโรคไม่ติดต่อทางระบบประศาสตร์แต่โรค
00:17:35 → 00:17:37 ไม่ติดต่อที่เป็นทั้งร่างกายหรือระบบการ
00:17:38 → 00:17:40 ไหลเวียนไม่ว่าจะเป็นเบาหวานความดันไขมัน
00:17:41 → 00:17:44 ในเลือดสูงนะครับโรคหยุดหายใจตอนนอนหลับ
00:17:44 → 00:17:46 นะครับเอ่อโรคหลอดเลือดหัวใจหลอดเลือด
00:17:46 → 00:17:49 สมองโรคความจำนะครับพวกเนี้ยถ้าสมมติว่า
00:17:49 → 00:17:51 เราออกกำลังกายสม่ำเสมอเนี่ยมันจะช่วย
00:17:51 → 00:17:54 ป้องกันโรคกลุ่มเได้ด้วยการเป็นโรคลมชัก
00:17:55 → 00:17:57 ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่เป็นโรคเหล่านั้นจะ
00:17:57 → 00:17:59 เป็นโรคเหล่านั้นด้วยด้วยได้ถ้าเราไม่ออก
00:17:59 → 00:18:02 กำลังกายวกาจะเป็นโรคเหล่านั้นสูงแล้วก็
00:18:02 → 00:18:04 มีการศึกษาพว่าถ้าสมมุติว่าเราออกกำลัง
00:18:04 → 00:18:08 กายนะครับเ่าอาการของโรคลมชักเนี่ยมันก็
00:18:08 → 00:18:11 จะคลื่นชักหรือคลืนไฟฟ้าสมองที่มันเกิน
00:18:11 → 00:18:13 แล้วเป็นสาเหตุให้เกิดอาการชักเนี่ยเขพบ
00:18:13 → 00:18:15 ว่ามันน้อยลงด้วยในคนที่ออกกำลังกายสม่ำ
00:18:15 → 00:18:18 เสมอเพราะฉะนั้นการออกกำลังกายถึงแม้ว่า
00:18:18 → 00:18:20 มันจะไม่ได้ช่วยทำให้อาการชักมันดีขึ้น
00:18:20 → 00:18:23 หรือหายไปแต่ว่ามันก็จะช่วยป้องกันเอ่อ
00:18:23 → 00:18:26 โรคอื่นๆที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นกับทุกคน
00:18:27 → 00:18:29 อยู่แล้วนะครับเอ่ออันเนี้ยเนื่องจากว่า
00:18:30 → 00:18:33 เ่อผมอ่ะทำงานอยู่ที่สถาบันประสาทวิทยา
00:18:33 → 00:18:35 โรคที่เราดูแลเป็นหลักก็คือกลุ่มโรคอาจจะ
00:18:35 → 00:18:37 มีทั้งโรคติดต่อโรคไม่ติดต่อแต่เป็นโรค
00:18:37 → 00:18:39 ทางระบบประสาททั้งหมดครับเ่าก็จะมีโรค
00:18:40 → 00:18:42 กลุ่มที่เป็นโรคไม่ติดต่อทางระบบประสาท
00:18:42 → 00:18:44 โรคหลอดเลือดสมองโรคความจำเสื่อมนะครับ
00:18:44 → 00:18:47 ที่เรารู้จักกันก็จะเป็นอัลไซเมอร์นะฮะ
00:18:47 → 00:18:49 โรคกล้ามเนื้อโรคปลายประสาททั้งหลายกลุ่ม
00:18:49 → 00:18:51 เนี้ยออกกำลังกายเี่ช่วยลดความเสี่ยงของ
00:18:51 → 00:18:53 การเกิดหรือคนที่เป็นแล้วเนี่ยการออก
00:18:53 → 00:18:57 กำลังกายก็ช่วยลดโอกาสการเกิดซ้ำเนี่ยได้
00:18:57 → 00:18:59 ด้วยเพราะฉะนั้นเพราะฉนั้นการออกกำลังกาย
00:18:59 → 00:19:01 ไม่ใช่จะได้ประโยชน์เฉพาะสำหรับผู้ป่วย
00:19:01 → 00:19:04 โรคลงชักนะครับโรคอื่นๆทางระบบประสาทก็
00:19:04 → 00:19:07 ได้ประโยชน์หมดเลยครับอืค่ะเมื่อกี้ตอน
00:19:07 → 00:19:09 ที่อาจารย์บอกว่ารักษาโรคลมชักเนี่ยต้อง
00:19:09 → 00:19:12 ผ่าตัดเอาเนื้อสมองบางส่วนออกไปก็เลยอยาก
00:19:12 → 00:19:15 รู้ว่าถ้าเราผ่าตัดเนี่ยค่ะวัยไหนถึงผ่า
00:19:15 → 00:19:18 ตัดรักษาได้และปัจจุบันการผ่าตัดรักษามัน
00:19:18 → 00:19:21 ครอบคลุมทุกศิทธิ์หรือยังคะอาจารย์ครับ
00:19:21 → 00:19:23 สามารถผ่าตัดได้ทุกช่วงอายุเลยนะครับ
00:19:23 → 00:19:25 เมื่อไหร่ก็ตามที่ดื้อยาไม่ว่าตอนนั้นจะ
00:19:25 → 00:19:29 ดื้อยาตอนอายุ 5 ขวบดื้อยาตอนตอนอายุ 30
00:19:29 → 00:19:31 40 หรือดื้อยาตอนอายุเป็นผู้สูงอายุแล้ว
00:19:31 → 00:19:34 อะไรอย่าเงี้ยเราสามารถผ่าตัดได้หมดเลยนะ
00:19:34 → 00:19:37 ครับทีนี้กระบวนการผ่าตัดก็คือเราก็จะมา
00:19:37 → 00:19:41 ตรวจเอ่อคลื่นไฟฟ้าสมองนะครับทำเซเรย์นะ
00:19:41 → 00:19:45 ครับตรวจคะแนนเอ่อความจำนะครับเพื่อที่จะ
00:19:45 → 00:19:48 ดูว่าเอ่อหาจุดกำเนิดซึ่งโดยทั่วไปถ้า
00:19:48 → 00:19:50 สมมุติว่าเราตรวจแค่เนี้ยแล้วหาจุดกำเนิด
00:19:50 → 00:19:54 เจอผ่าตัดได้ด้วยวิธีการปกติอันเนี้ยคน
00:19:54 → 00:19:56 ไทยทุกคนสามารถที่จะใช้บริการตรงเนี้ยได้
00:19:56 → 00:19:59 ฟรีโดยที่ไม่ต้องเสียตังค์เพิ่มนะครับแต่
00:19:59 → 00:20:02 ว่าถ้าสมมุติว่าเราหาด้วยวิธีการปกติแล้ว
00:20:02 → 00:20:04 เราหาจุดกำเนิดไม่เจอแต่เราพอบอกได้ว่า
00:20:04 → 00:20:06 เออมันมาจากข้างซ้ายนี่แหละตรงนี้มาจาก
00:20:06 → 00:20:09 ข้างขวานี่แหละตรงนี้หรือถ้าเราเห็นจุด
00:20:09 → 00:20:12 กำเนิดชัดะแต่ว่าจุดกำเนิดนั้นมันอยู่
00:20:12 → 00:20:15 ใกล้สมองที่ทำหน้าที่เช่นอยู่ใกล้สมอง
00:20:15 → 00:20:18 ส่วนพูดอยู่ใกล้สมองส่วนการขยับอะไรอย่าง
00:20:18 → 00:20:20 เงี้ยครับถ้าเราไปผ่าตัดเนี่ยจะมีปัญหาทำ
00:20:21 → 00:20:23 ให้อาจจะพูดไม่ได้หรืออาจจะทำให้มีอาการ
00:20:23 → 00:20:26 อ่อนแรงเกิดขึ้นเราก็จะมีกระบวนการตรวจ
00:20:26 → 00:20:30 พิเศษซึ่งเป็นการวางขไฟฟ้าที่ผิวสมองซึ่ง
00:20:30 → 00:20:33 จะตรวจวัดได้ด้วยว่าอ่าจุดที่เป็นจุด
00:20:33 → 00:20:35 กำเนิดักเนี่ยกินพื้นที่ประมาณนี้นะผัด
00:20:35 → 00:20:39 ออกไปอีก 2 มม 3 มลมหรือ 1 ซมเนี่ยจะโดน
00:20:39 → 00:20:41 ตำแหน่งพูตตำแหน่งของการเคลื่อนไหวก็จะ
00:20:41 → 00:20:44 ช่วยทำให้เราสามารถที่จะดีไซน์ได้ว่าเรา
00:20:44 → 00:20:47 จะผ่าตัดออกมากน้อยแค่ไหนนะครับซึ่งไอ้
00:20:47 → 00:20:49 ขั้วไฟฟ้าตรงเนี้ยเองที่เป็นขั้วไฟฟ้าที่
00:20:49 → 00:20:52 ปัจจุบันเนี่ยยังเบิกจ่ายไม่ได้นะครับเรา
00:20:52 → 00:20:55 ก็จะเอ่อคนไข้เนี่ยจะต้องจ่ายในส่วนเนี้ย
00:20:55 → 00:20:58 เองเพราะฉะนั้นเนี่ยในคนที่เอ่อมีปัญหาหา
00:20:58 → 00:21:01 ไม่สามารถจ่ายในส่วนของขั้วไฟฟ้าได้เนี่ย
00:21:01 → 00:21:04 เราก็จะต้องหาคนใจดีมาช่วยสนับสนุนแล้วก็
00:21:04 → 00:21:07 ขอสนับสนุนจากมูลนิธิสนับถ้าเป็นโรง
00:21:07 → 00:21:09 พยาบาลที่สถาบันปราสาทวิทยาเราก็จะขอ
00:21:09 → 00:21:11 สนับสนุนจากมูลนิธิสนับสนุนสถาบันปราสาท
00:21:11 → 00:21:15 วิทยาเนี่ยบางส่วนด้วยครับอืค่ะแล้วคนใจ
00:21:15 → 00:21:18 ดีเนี่ยค่ะตอนนี้เขามีกิจกรรมอะไรที่จะ
00:21:18 → 00:21:20 สามารถสมมุติถ้าเราอยากเป็นคนใจดีเราจะมา
00:21:20 → 00:21:22 ร่วมเป็นคนใจดีเราต้องทำยังไงได้บ้างคะ
00:21:22 → 00:21:25 อาจารย์เออเข้าเรื่องดีมากตอนนี้ก็คือเรา
00:21:25 → 00:21:28 มีกิจกรรมชื่อเอ่อชักอยากจะวิ่งนะครับ
00:21:28 → 00:21:30 ซึ่งเราจัดมาเป็นปีที่ 5 แล้วนะครับซึ่ง
00:21:30 → 00:21:33 เอ่อชักแบสวิ่งเนี่ยมี 2 ความหมายนะครับ
00:21:33 → 00:21:36 ความหมายแรกก็คือเอ่อเกี่ยวกับโรครมชัก
00:21:36 → 00:21:38 โดยตรงเลยแต่ความหมายที่ 2 ก็คือผมอยากจะ
00:21:38 → 00:21:42 ให้ทุกคนที่ได้ฟังนะครับได้เห็นนะครับ
00:21:42 → 00:21:46 หรืออาจจะเอ่อได้ยินเพื่อนมาชวนชวนแล้ว
00:21:46 → 00:21:49 รู้สึกว่าชักอยากจะออกกำลังกายชักอยากจะ
00:21:49 → 00:21:52 วิ่งชักอยากจะทำอะไรดีๆเพื่อตัวเองอะไร
00:21:52 → 00:21:55 อย่างเงี้ยนะครับเ่าอยากให้เ่อทุกคนรู้
00:21:55 → 00:21:57 สึกว่าชักอยากจะเริ่มชักอยากจะออกกำลัง
00:21:57 → 00:21:59 กายแล้วเพราะว่าอย่างที่บอกว่าการออก
00:21:59 → 00:22:01 กำลังกายเนี่ยมันมีประโยชน์สำหรับตัวของ
00:22:01 → 00:22:04 คนที่ออกเอ่อหลายอย่างเราอาจจะต้องใช้
00:22:04 → 00:22:07 เงินซื้อได้หลายอย่างเราอาจจะวางให้คน
00:22:07 → 00:22:09 อื่นทำได้แต่ว่าเรื่องของการออกกำลังกาย
00:22:09 → 00:22:11 อันเนี้ยต้องทำด้วยตัวเองใครทำใครได้นะ
00:22:11 → 00:22:14 ครับแต่ว่าผลพลอยได้ที่นอกเหนือจากสิ่ง
00:22:14 → 00:22:17 ที่จะเป็นประโยชน์กับคนออกกำลังกายแล้ว
00:22:17 → 00:22:19 เนี่ยก็มีส่วนที่จะได้ช่วยเหลือผู้ป่วย
00:22:19 → 00:22:23 โรคลมชักที่เอ่อมีความจำเป็นต้องใช้ขั้ว
00:22:23 → 00:22:26 ไฟฟ้าพิเศษอย่างที่ผมบอกแต่ว่าเขาอาจจะมี
00:22:26 → 00:22:29 กำลังไม่มากพอที่จะจ่ายนะครับเ่อทุกท่าน
00:22:29 → 00:22:32 ก็จะมีส่วนเป็นผู้ใหญ่ใจดีเป็นคนใจดีที่
00:22:32 → 00:22:34 นอกจากทำเพื่อตัวเองจะได้มีสุขภาพร่างกาย
00:22:34 → 00:22:37 สมบูรณ์แข็งแรงแล้วก็ยังมีโอกาสที่จะมี
00:22:37 → 00:22:40 ส่วนในการเปลี่ยนชีวิตของคนป่วยนอกลมชัก
00:22:40 → 00:22:42 ให้กลับมาเป็นคนปกติเอ่อเปลี่ยนเด็กที่
00:22:42 → 00:22:44 กำลังอยู่ในวัยเรียนให้สามารถกลับไปเรียน
00:22:44 → 00:22:47 หนังสือแล้วก็เดินทางตามหาความฝันตัวเอง
00:22:47 → 00:22:50 ได้เปลี่ยนหัวหน้าครอบครัวที่เดิมทีอาจจะ
00:22:50 → 00:22:52 เป็นหัวหน้าครอบครัวพอป่วยก็กลายมาเป็น
00:22:53 → 00:22:55 เอ่ออ่าผมอาจจะไม่ได้อยากใช้คำนี้แต่ว่า
00:22:55 → 00:22:57 จริงๆมันก็คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริงก็ง
00:22:57 → 00:22:59 บางคนาอาจจะรู้สึกว่าพอเจ็บป่วยตัวเองก็
00:22:59 → 00:23:01 กลายเป็นภาระของครอบครัวอย่าเงี้ยครับเรา
00:23:01 → 00:23:03 สามารถเปลี่ยนให้เขากลับไปเป็นหัวหน้า
00:23:03 → 00:23:06 ครอบครัวแล้วก็ทำหน้าที่เอ่อดูแลครอบครัว
00:23:06 → 00:23:09 ซึ่งถ้าครอบครัวแข็งแรงนะครับเศรษฐกิจ
00:23:09 → 00:23:12 สังคมประเทศชาติมันก็จะแข็งแรงตอไปด้วย
00:23:12 → 00:23:14 ั้นโอประโยชน์กันมันมันดูเยอะลงนะแต่ว่า
00:23:14 → 00:23:17 จริงๆผมอยากให้นึกถึงแค่ประโยชน์ประโยชน์
00:23:17 → 00:23:20 ข้อที่ 1 ก็ได้ก็คือทำเพื่อตัวเองให้ตัว
00:23:20 → 00:23:23 เองมีสุขภาพสมบูรณ์แขงแรงครับค่ะอาจารย์
00:23:23 → 00:23:26 คะแล้วถ้าสมมุติว่าเราเป็นคนใจดีแบบเยค่ะ
00:23:26 → 00:23:29 อ่าเงินบริจาคเราสามารถไปลดหย่อนภาษีได้
00:23:29 → 00:23:32 มยเพราะเนี่ยต้นปีภาษีมาแน่นอนอืครับอ่า
00:23:32 → 00:23:35 ถ้าเป็นบริจาคเข้ากองทุนสนับสนุนผู้ป่วย
00:23:36 → 00:23:38 โรคลมชักนะครับเ่ามูลนิธิสนับสนุนสถาบัน
00:23:39 → 00:23:41 ประสานวิทยาเนี่ยอันเนี้ยจะสามารถลดหย่อน
00:23:41 → 00:23:44 ภาษีได้ 2 เท่านะครับโดยที่ปัจจุบันเมัน
00:23:44 → 00:23:47 ก็จะมีอ donation ใช่มั้ยครับก็คือสแกน
00:23:47 → 00:23:49 โดยที่ไม่ต้องเก็บตัวไปเสร็จอะไรเลยแต่
00:23:49 → 00:23:52 ว่าจริงๆแล้วเนี่ยมูนิธิเขาก็จะออกใเสร็จ
00:23:52 → 00:23:55 ให้นะครับแต่ถ้าสมมติว่าเป็นการเอ่อสมัคร
00:23:55 → 00:23:58 เพื่อที่จะมาร่วมวิ่งนะครับครับกับเรา
00:23:58 → 00:24:00 อันเนี้ยมันจะเหมือนกันซื้อสินค้าและ
00:24:00 → 00:24:03 บริการอันนี้ส่วนเจะไม่สามารถเ่อลดหย่อน
00:24:03 → 00:24:05 ภาษีได้นะครับเพราะฉะนั้นก็คือถ้าสมมติ
00:24:05 → 00:24:07 ว่าอยากบริจาคเฉยๆแต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้
00:24:07 → 00:24:11 ออกอยากจะไปออกกำลังกายหรือวันที่เราจัด
00:24:11 → 00:24:13 งานไม่สะดวกเข้าร่วมกิจกรรมอันนี้บริจาค
00:24:13 → 00:24:16 เฉยๆก็ได้นะครับแต่ถ้าอยากทำเพื่อสุขภาพ
00:24:16 → 00:24:18 ของตัวเองนะครับโดยที่เ่ามีส่วนในการที่
00:24:18 → 00:24:21 จะช่วยเหลือแล้วก็สนับสนุนผู้ป่วยโรคลม
00:24:21 → 00:24:23 ชักอันเนี้ยก็อยากจะชวนเอ่อมาวิ่งด้วยกัน
00:24:23 → 00:24:26 วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์นะครับเอ่อ
00:24:26 → 00:24:29 อีกประมาณ 2 3 สัปดาห์นะครับที่ศูนย์
00:24:29 → 00:24:32 กีฬาทางน้ำบึงหนองบอตรงเอ่อเขตพระเวทใกล้
00:24:32 → 00:24:36 ๆกับสวนหลวงร 9 ครับผมอืระยะทางในการวิ่ง
00:24:36 → 00:24:39 มีแบบไหนบ้างครับคุณหมอเผลอว่าพี่หยกฟัง
00:24:39 → 00:24:41 อยู่เนี่ยโหยพี่หยกอยากจะไปสมัครแล้ว
00:24:41 → 00:24:43 เมื่อกี้ฟังคุณหมอพูดโอโหมันดูยิ่งใหญ่
00:24:43 → 00:24:46 มากกับการออกกำลังกายเปลี่ยนคนๆนึงเนี่ย
00:24:46 → 00:24:49 ให้ให้เป็นคนใหม่ได้เลยอ่ะกับการออกกำลัง
00:24:49 → 00:24:53 กายครับคุณหมอครับครับเอ่อระยะทางก็จะมี 5
00:24:53 → 00:24:56 กกับ 10 กนะครับตรงเ่อที่ศูนย์กีฬาทางน้ำ
00:24:56 → 00:24:59 เนี่ยเขาจะเป็นเอ่อบาเก็บน้ำสำหรับเล่น
00:24:59 → 00:25:02 กีฬาทางน้ำของกรุงเทพมหานครเลยนะครับ 1
00:25:02 → 00:25:04 รอบเนี่ยมันจะประมาณ 5 กลพอดีเพราะฉะนั้น
00:25:04 → 00:25:08 ถ้าคนที่เ่ออยากจะวิ่งอ่าน้อยๆยังไม่ใช่
00:25:08 → 00:25:11 นักกีฬาจริงๆนะครับแต่ว่าอยากจะชักอยากจะ
00:25:11 → 00:25:14 เริ่มออกกำลังกายก็อ่ะ 1 รอบนะครับก็จะ
00:25:14 → 00:25:18 ได้ 5 กกหรือถ้าคนที่โอเคอยากจะท้าทายตัว
00:25:18 → 00:25:20 เองหน่อยเหลือเวลาอีก 3 สัปดาห์เนี่ยคิด
00:25:20 → 00:25:23 ว่าสามารถที่จะซ้อมตเ่ออย่างน้อยๆก็คือ
00:25:23 → 00:25:26 ซ้อม 3-4 กลแล้วก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นก็
00:25:26 → 00:25:29 เลือกเป็นประเภท 10 กได้ก็คือวิ่ง 2 รอบ
00:25:29 → 00:25:34 ครับอือืนะคะมีคนถามมาว่าเอ๊เราอยากจะเรา
00:25:34 → 00:25:38 อยากจะเราอยากจะชร่วมร่วมเป็นคนใจดีอ่ะ
00:25:38 → 00:25:41 ค่าสมัครแพงมั้ครับคุณหมอครับครับผม 550
00:25:41 → 00:25:44 บาทนะครับทั้ง 2 ระยะทั้ง 5 กลแล้วก็ 10
00:25:44 → 00:25:47 กกนะครับแต่ว่าท่านไหนที่อาจจะอ่าไม่ได้
00:25:47 → 00:25:49 อยากไปวิ่งหรือไม่สะดวกวันนั้นแต่อยาก
00:25:49 → 00:25:52 บริจาคเฉยๆก็สามารถที่จะเอ่อไปดูราย
00:25:52 → 00:25:54 ละเอียดได้ที่ Facebook ของสถาบันประสาท
00:25:55 → 00:25:57 วิทยานะครับพิมพ์คำว่าสถาบันประสาทวิทยา
00:25:57 → 00:26:00 ในช่องค้นหาของ Facebook เนี่ยก็จะเข้าไป
00:26:00 → 00:26:02 เจอข้อมูลเพราะว่าจริงๆจะไม่ได้มีแค่ข้อ
00:26:02 → 00:26:04 มูลเรื่องของชัก serving อย่างเดียวข้อ
00:26:04 → 00:26:07 มูลที่เป็นประโยชน์ทางด้านโรคระบบประสาท
00:26:07 → 00:26:09 ทุกอย่างเลยนะครับก็จะอยู่ที่ Facebook
00:26:09 → 00:26:12 สถาบันประสาทวิทยาเรามีข้อมูลที่จะเอ่อ
00:26:12 → 00:26:15 ให้ทุกท่านเข้าไปค้นหาว่ามีเรื่องที่ตรง
00:26:16 → 00:26:18 กับความสนใจด้วยหรือเปล่านะครับก็พิมพ์คำ
00:26:18 → 00:26:20 ว่าสถาบันประสาทวิทยาใน Facebook ได้เลย
00:26:20 → 00:26:22 ครับแต่ว่าใครลังเลอยู่นะผมอยากจะบอกว่า
00:26:23 → 00:26:25 ปีนี้เสื้อสวยมากนะครับอ่ะสีอะไรคะคุณบอก
00:26:25 → 00:26:28 หน่อยค่ะเคเรียกว่าเป็นสีอโรร่าอมันจะแบบ
00:26:28 → 00:26:32 ว่าได้แรงมาถูกมั้คะอาจารย์ใช่ๆๆผมถูก
00:26:32 → 00:26:34 ต้องผมเห็นของจริงมาแล้วผมเห็นของจริงมา
00:26:34 → 00:26:38 แล้วใช่เออสวยคุณคุณริมกับคุณหยกน่าจะได้
00:26:38 → 00:26:42 ซักตัว 2 ตัวนะครับโอเดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยว
00:26:42 → 00:26:45 ผมจะไปวิ่งด้วยคุณหมอโอยินดีเลยครับคือ
00:26:45 → 00:26:49 เอ่อสีม่วงสีม่วงที่เป็นสีม่วงลาเวนเดอร์
00:26:49 → 00:26:52 เนี่ยนะครับมันเป็นสีของโลคลมชักสากลก็
00:26:52 → 00:26:54 คือทั่วโลกเก็จะใช้สีลาเวนเดอร์เนี่ยเลย
00:26:54 → 00:26:57 ทีนี้เราก็พยายามจะหาว่าเอ๊แล้วสีม่วงจะ
00:26:57 → 00:27:00 ไปไปเอ่อผสมกับสีอะไรได้บ้างซึ่งก็จะ
00:27:00 → 00:27:03 เปลี่ยนไปในทุกๆปีนะครับปีนี้ก็คือเรา
00:27:03 → 00:27:08 อยากจะเป็นแสงเหนือเป็นแสงที่ทุกคนใส่หา
00:27:08 → 00:27:11 แสงที่ทุกคนอยากเจอก็คือการมีสุขภาพที่ดี
00:27:11 → 00:27:14 ก็เลยโอเคเราเอาแสงอโรที่เป็นแสงเหนือ
00:27:14 → 00:27:16 เนี่ยมาผสมกับสีม่วงดีกว่าก็เลยเป็นเสื้อ
00:27:16 → 00:27:19 ในแบบปัจจุบันท่านไหนที่ฟังเราโม้แล้ว
00:27:19 → 00:27:21 เนี่ยอยากจะเห็นเสื้อตัวจริงก็สามารถเข้า
00:27:21 → 00:27:24 ไปดูใน Facebook ของสถาบันประสาทวิทยาได้
00:27:24 → 00:27:27 ครับหรือเพียงคำว่าชักอยากจะวิ่ง 2024
00:27:27 → 00:27:30 ได้ครับเอออยากอยากจะชวนทุกท่านมาร่วม
00:27:30 → 00:27:32 กิจกรรมกันนะครับเพราะว่ารายได้ทุกบาททุก
00:27:32 → 00:27:35 สตางค์เนี่ยก็คือจะนำเข้ากองทุนเพื่อผู้
00:27:35 → 00:27:38 ป่วยโรคลมชักมูลนิธิสนับสนุนสถาบันประสาท
00:27:38 → 00:27:41 วิทยาด้วยใช่ค่ะถ้าเกิดคุณผู้ฟังนะคะท่าน
00:27:41 → 00:27:44 ไหนบอกเอ๊ะสถาบันประสาทบางข้างคนเราบอก
00:27:44 → 00:27:46 โอ้โหเจอไม่เราจะเจอโรงพยาบาลลมามันใหญ่
00:27:46 → 00:27:49 โตไงข้างๆกันนะคะคือสถาบันปราสาทถ้าท่าน
00:27:49 → 00:27:52 ไหนได้เคยเข้าไปแล้วไปใช้บริการเนี่ยอย่า
00:27:52 → 00:27:54 มองข้ามนะคะข้างในนี่แบบปัจจุบันนี้ทัน
00:27:54 → 00:27:57 สมัยมากนะคลินิกทำฟันก็ทันสมัยนะคะโยเคย
00:27:57 → 00:28:00 เห็นเห็นโอสวยงามเลยทีเดียวคือเรียกว่า
00:28:00 → 00:28:02 โรงพยาบาลเนี่ยค่ะทำไมว่าเอ๊ะทำไมเราถึง
00:28:02 → 00:28:04 คนถึงมาชวนคุยกันเรื่องนี้แล้วทำไมเราถึง
00:28:04 → 00:28:08 มาบอกเรื่องนี้เพราะว่า 1 นะคะการเรื่อง
00:28:08 → 00:28:11 ของสุขภาพเเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพึงมีแล้ว
00:28:11 → 00:28:14 ก็มันมันคืออยู่กับเราทั้งชีวิตเนเหมือน
00:28:14 → 00:28:16 เหมือนที่คุณหมอบอกก็คือการออกกำลังกาย
00:28:16 → 00:28:18 คือมันไปซื้อไปหาจากไหนไม่ได้คือมันต้อง
00:28:18 → 00:28:20 ทำด้วยตัวเองเริ่มต้นได้ด้วยตัวเองอ่ะ
00:28:21 → 00:28:22 แล้วอีกอย่างนึงอ่ะค่ะการช่วยเหลือในส่วน
00:28:22 → 00:28:26 เนี้ยค่ะทำบุญเนี่ยทำทำหน้าเนี่ยก็เห็น
00:28:26 → 00:28:29 แค่ชาตินี้แต่ทำบุญได้ได้ชาตนี้แน่นอนแ
00:28:29 → 00:28:32 ได้ความสบายใจอ๋อโอเคได้จริงมั้คุณใช่ๆๆๆ
00:28:32 → 00:28:34 ๆแล้วอีกอย่างนะครับอันนี้แน่นอนเลยออร่า
00:28:34 → 00:28:37 จับเนี่ยเหมือนแบบแสงแสงเหนือแสงออโรร่า
00:28:37 → 00:28:39 อย่างที่อาจารย์บอกคือระยิบระยับวับวาแน่
00:28:39 → 00:28:41 นนสวยงามคุณหมอครับมีคำถามจากคุณผู้ฟัง
00:28:41 → 00:28:44 ทางบ้านเดี๋ยวอยากจะให้คุณหมอช่วยตอบนิด
00:28:44 → 00:28:46 นึงพอดีว่าถามเกี่ยวกับเรื่องของโรคลมชัก
00:28:46 → 00:28:49 มาครับคุณพี่ท่านี้ถามว่าทำอย่างไรถึงจะ
00:28:50 → 00:28:53 ให้โรคลมชักเนี่ยหายไปจากบ้านเราเหมือน
00:28:53 → 00:28:56 กับพวกโปลิโอที่เคยมีมาในอดีตแต่ว่าตอน
00:28:56 → 00:28:59 นี้เนี่ยแทบจะเป็นศูนยแล้วครับคุณหมอครับ
00:28:59 → 00:29:02 ครับอ่อตัวโรคลมชักเนี่ยเป็นโรคไม่ติดต่อ
00:29:02 → 00:29:05 เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำมีโอกาสที่จะทำ
00:29:05 → 00:29:08 ให้เกิดโรคลมชักเนี่ยได้ทั้งหมดนะครับเ่อ
00:29:08 → 00:29:10 แต่ว่ามันก็จะมีบางอย่างที่สามารถจะป้อง
00:29:10 → 00:29:13 กันได้เช่นเ่อคุณแม่ที่วางแผนจะมีลูก
00:29:13 → 00:29:16 เนี่ยจริงๆการวางแผนว่าจะมีเมื่อไหร่นะ
00:29:16 → 00:29:19 ครับมีการตรวจเช็คสุขภาพมีการเสริมเรื่อง
00:29:19 → 00:29:22 ของโภชนาการในระหว่างการตั้งครรภ์มีการ
00:29:22 → 00:29:24 หลีกเลี่ยงการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อตัว
00:29:24 → 00:29:27 คุณแม่เองแล้วก็เป็นตัวอันตรายต่อทา
00:29:27 → 00:29:29 อันเนี้ยถ้าวางแผนดีๆโอกาสที่ลูกจะเติบโต
00:29:29 → 00:29:33 มาแล้วก็มีสมองที่สมบูรณ์แข็งแรงปกติก็จะ
00:29:33 → 00:29:36 ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดลมชักได้ถ้าสมมุติ
00:29:36 → 00:29:41 ว่าเราโตมาทำงานนะครับอยู่ในเอ่อสังคม
00:29:41 → 00:29:44 เนี่ยเอ่อเวลาที่เราไปขับขี่ไม่ว่าจะเป็น
00:29:44 → 00:29:47 จักรยานรถยนต์มอเตอร์ไซค์หรือว่าไปเล่น
00:29:47 → 00:29:49 เครื่องเล่นที่มันโลดโขนอันนี้เราก็จะ
00:29:49 → 00:29:52 ต้องป้องกันหัวของเราเองนะครับด้วยการสวม
00:29:52 → 00:29:55 หมวกกันน็อคนะครับสวมหมวกนิรภัยไม่ใช่แค่
00:29:55 → 00:29:59 ป้องกันตำรวจจับไม่ใช่แค่ป้องกันการโดนใบ
00:29:59 → 00:30:01 สั่งแต่คือเราจะต้องป้องกันสมองของเรา
00:30:01 → 00:30:03 เนี่ยด้วยเพราะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มี
00:30:03 → 00:30:06 อุบัติเหตุเกิดขึ้นต่อเนื้อสมองสมองได้
00:30:06 → 00:30:09 รับการบาดเจ็บโอกาสที่จะทำให้เอ่อเกิด
00:30:09 → 00:30:12 อาการชัดตามหลังมาเนี่ยก็จะสูงขึ้นนะครับ
00:30:12 → 00:30:15 เอ่อถ้าสมมติว่าอย่างอื่นนะฮะโอกาสที่จะ
00:30:15 → 00:30:18 เกิดการติดเชื้อเกิดการอักเสบต่อสมอง
00:30:18 → 00:30:22 เนี่ยเอ่อถ้าคนที่ดูแลตัวเองดีนะครับกิน
00:30:22 → 00:30:25 ดีนอนดีออกกำลังกายดีพวกเนี้ยโอกาสที่จะ
00:30:25 → 00:30:27 เกิดการอักเสบหรือการติดเชื้อของสมเนี่ย
00:30:27 → 00:30:30 มันก็จะน้อยลงเพราะฉะนั้นจะเห็นว่าเอ่อ
00:30:30 → 00:30:32 ถ้าเราอยากจะให้หมดไปเนี่ยเราก็จะต้องดู
00:30:32 → 00:30:35 แลตั้งแต่การวางแผนจะมีลกเลยการดูแล
00:30:35 → 00:30:38 ระหว่างตั้งครรภ์การดูแลตัวเองดูแลสุขภาพ
00:30:38 → 00:30:41 ของระบบประสาสแลก็สมองเพราะฉนั้นก็จะย
00:30:41 → 00:30:44 ย้อนกลับมาอีกเรื่องของการออกกำลังกายก็
00:30:44 → 00:30:46 จะมีส่วนในการที่จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิด
00:30:46 → 00:30:49 โรคทางระบบประสาสซึ่งก็จะมีอาการชักเนี่ย
00:30:49 → 00:30:52 ตอแต่ว่าจะเป็นศูนยเลยมมันก็ขึ้นอยู่กับ
00:30:52 → 00:30:56 ว่าเรารู้สึกว่าโลกเมันมีเอ่อความรุนแรง
00:30:56 → 00:30:58 หรือเรากลัวมากน้อยแค่ไหนแต่ว่าเราเราคน
00:30:58 → 00:31:00 เดียวคงทำไม่ได้ก็คงต้องชวนคนอื่นๆเนี่ย
00:31:01 → 00:31:03 ทำด้วยกันเพราะฉะนั้นอาจจะชวนคนใน
00:31:03 → 00:31:05 ครอบครัวชวนเพื่อนชวนเพื่อนที่ทำงานอะไร
00:31:05 → 00:31:08 อย่างเงี้ยครับเริ่มมาดูแลตัวเองไม่ใช่
00:31:08 → 00:31:10 เอ่อแค่ป้องกันโรคลมชักเพราะว่าถ้าดูแล
00:31:11 → 00:31:13 ตัวเองดีอย่างที่ผมว่ามันช่วยป้องกันโรค
00:31:13 → 00:31:15 อื่นๆทางระบบประสาทเนี่ยได้เยอะเลยครับ
00:31:15 → 00:31:19 ค่ะอาจารย์ค่ะนี้คุณผู้ฟังทานบ้านมาไลน
00:31:19 → 00:31:21 ข้อความมาบอกว่ากิจกรรมน่าสนใจมากค่ะงั้น
00:31:22 → 00:31:24 อยากให้อาจารย์ช่วยย้ำอีกทีนึงค่ะว่าถ้า
00:31:24 → 00:31:27 เกิดสนใจอยากจะร่วมเป็นผู้ใหญ่ใจ
00:31:27 → 00:31:32 สกิจรรมค่ะอาจารเราสามาดูได้ช่องทางไนแล
00:31:32 → 00:31:35 แบบสิ่งที่คุณจะได้นอกจากคามสุขใจออก
00:31:35 → 00:31:39 กำลังกายแล้วคุณจะได้อะไรบ้างเช่นคุณอาจ
00:31:39 → 00:31:41 จะได้มิตรภาพจากเพื่อนอื่นๆที่แบบที่คุณ
00:31:41 → 00:31:43 ไม่รู้จักก็ได้แล้วนอกจากนั้นได้อะไรอีก
00:31:43 → 00:31:47 บ้างค่ะอาจารยครับก็เชิญชวนทุกท่านมาวิ่ง
00:31:47 → 00:31:50 นะครับกับงานชื่อชักอยากจะวิ่งปีที่ 5 นะ
00:31:50 → 00:31:53 ครับชื่อภาษาอังกฤษของเราก็คือ run for
00:31:53 → 00:31:57 EP 2024 นะครับจัดขึ้นในวันอาทิตยที่ 11
00:31:57 → 00:32:01 กุมภาพันธ์นะครับ 2567 ก็จะเป็นช่วงหลัง
00:32:01 → 00:32:04 จูดจีนนิดหน่อยนะครับเอ่อจะโดยงานจัดที่
00:32:04 → 00:32:07 ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอนะครับเขตประเวท
00:32:07 → 00:32:10 อยู่ติดกับสวนหลวงร 9 นะครับอ่าในงาน
00:32:10 → 00:32:13 เนี่ยก็จะมีการจัดวิ่ง 5 กลแล้วก็ 10 กล
00:32:13 → 00:32:16 นะครับค่าสมัคร 550 บาททั้ง 2 ระยะมี
00:32:16 → 00:32:19 ประเภทเดี่ยวนะครับแล้วก็ประเภทคู่แล้วก็
00:32:19 → 00:32:22 ประเภททีม 5 คนนะครับเพราะว่าจริงๆเรา
00:32:22 → 00:32:24 วิ่งวันอาทิตย์ที่ 11 ใช่มั้ยครับถัดไป
00:32:24 → 00:32:26 อีก 3 วัน 14 กุมภาพันธ์เป็นวันแห่งความ
00:32:26 → 00:32:30 รักครับ
00:32:30 → 00:32:33 วิ้าตอนเรา
00:32:33 → 00:32:36 รักครักตัวเองก็ชวนตัวเองเนี่ยออกมาวิ่ง
00:32:36 → 00:32:39 นะครับถ้าสมมติเรามีเพื่อนมีแฟนเราอยากจะ
00:32:39 → 00:32:41 ให้แฟนมีสุขภาพที่ดีอยากให้เพื่อนมี
00:32:41 → 00:32:44 สุขภาพดีเราก็ชวนออกมาวิ่งเป็นคู่แต่ถ้า
00:32:44 → 00:32:47 เรารักใครมากกว่า 2 คนะ 3 คน 4 คน 5 คนก็
00:32:47 → 00:32:50 ชวนกันมาวิ่งเป็นทีมนะครับการวิ่งเนี่ย
00:32:50 → 00:32:55 ถ้าสมมติว่าเอเรารักแต่ว่าเราบอกแค่ว่า
00:32:55 → 00:32:58 รักเฉยๆแต่ว่าเราไม่ได้ดแสดงออกถึงถึง
00:32:58 → 00:33:00 สิ่งที่มันจะเป็นประโยชน์กับเาอะไรเงี้ย
00:33:00 → 00:33:02 มันอาจจะทำให้การแสดงออกซึ่งความรักเยมัน
00:33:02 → 00:33:05 ไม่ได้หนักแน่นพอเพราะฉะนั้นก็อยากจะชวน
00:33:05 → 00:33:08 เ่อทุกท่านนะครับชวนคนที่รักของตัวเอง
00:33:08 → 00:33:11 เนี่ยออกมาด้วยนะครับแล้วจะสมัครได้ยังไง
00:33:11 → 00:33:13 นะครับก็คือเรามีลิงก์อยู่ซึ่งผมคงไม่
00:33:13 → 00:33:17 สามารถพูดเอ่อชื่อเว็บให้ทุกท่านจำได้แต่
00:33:17 → 00:33:19 ว่าสามารถเข้าไปดูรายละเอียดในเอ่อ
00:33:19 → 00:33:22 Facebook ของสถาบันประสาทวิทยาพิมพ์คำ
00:33:22 → 00:33:25 ว่าสถาบันประสาทวิทยาเป็นเื่อภัยนะครับก็
00:33:25 → 00:33:27 จะได้ข้อมูลทั้งเรื่องของวิ่งนี้แล้วก็
00:33:27 → 00:33:30 ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในเรื่องของโรคทาง
00:33:30 → 00:33:34 สมองแล้วก็ระบบประสาทได้ครับผมก็อยากจะ
00:33:34 → 00:33:36 ชวนทุกท่านมาวิ่งอ้อนแล้วก็ในงานเนี่ยนะ
00:33:36 → 00:33:40 ครับเราจะมีกิจกรรมเอ่อที่เป็นเอ่อมีเอ่อ
00:33:40 → 00:33:44 mobile Stroke ยิก็คือรถเอ่อเกรยแล้วก็
00:33:44 → 00:33:46 ให้การรักษากลุ่มที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง
00:33:46 → 00:33:49 นะครับมีดีเลยนิทรรศการโรคทางระบบประสาท
00:33:49 → 00:33:52 นะครับแล้วก็จะมีกิจกรรมอันนึงที่เรา
00:33:52 → 00:33:54 เรียกว่าเป็นวิ่งถอยหลังนะครับปกติเวลา
00:33:54 → 00:33:57 ที่เ่อเราวิ่งไปข้างหน้าในคนทั่วๆไปที่
00:33:57 → 00:33:59 ไม่ได้ออกกำลังกายก็จะรู้สึกยากใช่มั้ย
00:33:59 → 00:34:02 ครับแต่ว่าพอเสร็จการวิ่ง 5 กแล้วก็ 10 ก
00:34:02 → 00:34:04 แล้วเนี่ยเราจะชวนทุกคนมาวิ่งถอยหลังคน
00:34:04 → 00:34:07 ที่เข้ามาวิ่งถอยหลังก็จะมีของที่ระลึก
00:34:07 → 00:34:10 ให้แนนะครับอ่าแล้วทำไมเราถึงต้องวิ่งถอย
00:34:10 → 00:34:13 หลังอันนี้เราอยากจะให้ทุกคนรู้รู้เอ่อ
00:34:13 → 00:34:16 ได้รับรู้ด้วยตัวเองว่าเวลาที่เราจะต้อง
00:34:16 → 00:34:20 ทำอะไรที่มันไม่ได้ปกติเหมือนทั่วๆไป
00:34:20 → 00:34:22 เนี่ยมันยากลำบากขนาดไหนเพื่อที่จะได้รู้
00:34:22 → 00:34:25 สึกว่าถ้าเราจะต้องเจ็บป่่วยด้วยโรคทาง
00:34:25 → 00:34:27 ระบบประสาทไม่ว่าจะเป็นโรคลมชักโรคหลอด
00:34:27 → 00:34:29 เลือดสมองโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอะไรอย่าง
00:34:29 → 00:34:32 เงี้ยครับการใช้ชีวิตมันจะค่อนข้างยากนะ
00:34:32 → 00:34:35 แล้วถ้าสมมุติว่าเราไม่อยากเตินนะครับเรา
00:34:35 → 00:34:38 ก็จะต้องดูแลตัวเองยังไงออกกำลังกายดูแล
00:34:38 → 00:34:40 เรื่องของอาหารการกินนดูแลเรื่องของการ
00:34:40 → 00:34:44 นอนแต่ถ้าสมมุติว่าเอ่อเราดูแลตัวเองดีะ
00:34:44 → 00:34:47 เราไม่ได้เป็นเลยแต่ว่าเราได้สัมผัสความ
00:34:47 → 00:34:49 รู้สึกของคนที่เป็นเราอาจจะเห็นใจเอ่อ
00:34:49 → 00:34:52 เพื่อนมนุษย์เห็นใจคนป่วยแล้วก็อาจอยาก
00:34:52 → 00:34:54 อาจจะอยากช่วยเหลือเขามากขึ้นอะไรอย่า
00:34:54 → 00:34:56 เงี้ยครับก็จะเป็นกิจกรรมวิ่งถอยหลังที่
00:34:56 → 00:34:59 ทุกคนมีโอกาสจะเรียนรู้แล้วก็เข้าใจผู้
00:34:59 → 00:35:02 ป่วยที่มีความผิดปกติทางระบบประสาทครับ
00:35:02 → 00:35:04 อย่าเชิญทุกท่านครับโอฟังคุณหมอเสร็จจาก
00:35:04 → 00:35:07 ออกไปวิ่งเลยอ่ะอ่าเพื่อสุขภาพ
00:35:07 → 00:35:10 นี่ได้เลยครับวันนี้ต้องขอขอบพระคุณคุณ
00:35:11 → 00:35:14 หมอมากๆเลยนะครับคุณหมอครับขอครับขอบพระ
00:35:14 → 00:35:16 คุณคุณรีมแล้วก็คุณหยกแล้วก็คุณผู้ฟังทุก
00:35:16 → 00:35:18 ท่านครับขอบระคุณมากๆครับสวัสดีสวัสดี
00:35:18 → 00:35:21 สวัดีครับขอบพระคุณค่ะคุณหมอพูดขนาดนี้
00:35:21 → 00:35:25 แล้ว 11 กุมภาพันธ์คุณจะไปมั้ยคุณหยกอือื
00:35:25 → 00:35:29 คุณโอโหไปครับไปค่ะแล้วคุณลคะคุณแล้วคุณล
00:35:29 → 00:35:31 คะแล้วคุณลคะเดี๋ยวผมไปแน่นอนผมผมบอกกับ
00:35:31 → 00:35:34 คุณหมอพี่บิคคุณหมอหมอบิคหมอพิมนพัฒอ่า
00:35:34 → 00:35:37 ผู้ประกาศของเราที่เาจัดอยู่ 99 อ่าเอ่อ
00:35:38 → 00:35:40 สุขภาพตอนเช้า 6:00 นอ่ะคือเาจะเอาเสื้อ
00:35:40 → 00:35:44 มาให้ผมดูออที่ผมบอก