00:00:00 → 00:00:01 ถ้าใครสงสัยกันนะครับว่าทำไมเวลาที่เราไป
00:00:01 → 00:00:03 ประเทศที่อากาศนึงเขาเย็นนะครับไปต่าง
00:00:03 → 00:00:05 ประเทศเช่นยังเกาหลีใต้นะครับประเทศที่
00:00:05 → 00:00:07 อากาศแห้งแล้วก็เย็นเลยทําไมเลือดกําเดา
00:00:07 → 00:00:10 ของเราที่ออกง่ายหรือว่าบางครั้งอาจจะ
00:00:10 → 00:00:12 ต้องไปถึงต่างประเทศนะครับบางครั้งแค่
00:00:12 → 00:00:13 เข้าห้องแอร์นะครับหรือว่าการเมืองไทย
00:00:13 → 00:00:16 เนี่ยเย็นขึ้นเนี่ยมันจะได้มีน้ำมูกเพิ่ม
00:00:16 → 00:00:18 ขึ้นแม้ว่าเราจะไม่เป็นโรคภูมิแพ้ก็ตาม
00:00:18 → 00:00:36 [เพลง]
00:00:36 → 00:00:39 สวัสดีทุกคนนะครับที่นี้ต้อนรับเข้าสู่
00:00:39 → 00:00:41 Channel เรื่องเล่าจากร่างกายนะครับผม
00:00:41 → 00:00:44 หมายเอานายแพทย์ธงชัยนครธาดานะครับวันนี้
00:00:44 → 00:00:46 นะครับจะมาคุยซีรีส์สมัยกันนะครับเป็น
00:00:46 → 00:00:49 ชีวิตสลายตอนจบน่าจะประมาณ 4 ตอนจบนะครับ
00:00:49 → 00:00:51 เรื่องของระบบทางเดินหายใจและการทำงานของ
00:00:51 → 00:00:54 ปอดเคยสงสัยกันนะครับว่าทำไมเวลาที่เราไป
00:00:54 → 00:00:56 ประเทศที่อากาศมันหนาวเย็นนะครับไปต่าง
00:00:56 → 00:00:58 ประเทศเช่นยังเกาหลีใต้นะครับประเทศที่
00:00:58 → 00:01:01 อากาศแห้งแล้วแต่ทําไมเลือดกําเดาของเรา
00:01:01 → 00:01:03 เนี่ยจะได้ออกง่ายหรือว่าบางครั้งอาจจะ
00:01:03 → 00:01:05 ต้องไปถึงต่างประเทศนะครับบางครั้งแค่
00:01:05 → 00:01:07 เข้าห้องแอร์นะครับหรือว่าการเมืองไทย
00:01:07 → 00:01:09 เนี่ยเย็นขึ้นเนี่ยทำไมจะได้มีน้ำมูก
00:01:09 → 00:01:11 เพิ่มขึ้นแปลว่าเราจะไม่ได้เป็นโรคภูมิ
00:01:11 → 00:01:14 แพ้ก็ตามหรือเคยสงสัยไหมครับว่าการหายใจ
00:01:14 → 00:01:16 ทางปากคำจะหมดทำไมมีความต่างกันยังไงนะ
00:01:16 → 00:01:18 ครับก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันหรือเปล่า
00:01:18 → 00:01:21 หรือว่ามันมีวิธีการหายใจทางไหนที่ถือว่า
00:01:21 → 00:01:24 ดีกว่าอีกทางหนึ่งหรือยังคำถามเช่นปลาร้า
00:01:24 → 00:01:26 ที่ระบบมีปอดติดเชื้อนะครับไปรบปอดบวม
00:01:26 → 00:01:29 เสร็จเนี่ยมันเกิดอะไรขึ้นกับออดแล้วก็ทำ
00:01:29 → 00:01:31 อะไรจะไม่มีอาการเหนื่อยง่ายมากขึ้นพวก
00:01:31 → 00:01:33 นี้นะครับคือคำถามที่เราจะมาหาคำตอบกันนะ
00:01:33 → 00:01:36 ครับแล้วก็จะมาดูกันว่าไอ้ระบบทางเดินหาย
00:01:36 → 00:01:39 ใจครับปอดของเราเนี่ยมันทำงานยังไงจะได้
00:01:39 → 00:01:41 พูดถึงอวัยวะที่ชื่อว่าปอดหรือว่าบอกท่าน
00:01:41 → 00:01:43 ในใจเนี่ยผมเชื่อว่าหลายคนฟังดูน่าจะไม่
00:01:43 → 00:01:45 รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่นะครับเพราะว่า
00:01:45 → 00:01:47 เป็นระยะที่เหมือนกับค่อนข้างฟังดูธรรมดา
00:01:47 → 00:01:50 นะคะไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมายมันไม่น่า
00:01:50 → 00:01:52 ตื่นเต้นเหมือนอวัยวะอย่างสมองหรือว่าหัว
00:01:52 → 00:01:55 ใจโจ๊กนะครับแล้วก็คนใส่กันว่าปล่อยมันทำ
00:01:55 → 00:01:57 หน้าที่เกี่ยวกับข้องกับการแลกเปลี่ยน
00:01:57 → 00:02:00 ก๊าซนะครับก็คือออกซิเจนคำว่ารักทรายอามา
00:02:00 → 00:02:03 นี้จะผมอยากจะชวนมาลองฟังเรื่องที่จะเล่า
00:02:03 → 00:02:05 ให้ฟังต่อไปนี้นะครับมันเป็นรายละเอียด
00:02:05 → 00:02:07 การทำงานของปอดเพราะว่าเมื่อเราได้ลงไปดู
00:02:07 → 00:02:09 ในรายละเอียดนะครับจะเห็นว่าจริงๆแล้ว
00:02:09 → 00:02:12 ปล่อยมันไปว่าที่น่าสนใจมากมันมีคนข้างๆ
00:02:12 → 00:02:15 ในระยะที่จะใช้คำพูดการจะบอกว่าธรรมชาติ
00:02:15 → 00:02:18 สร้างมาได้อย่างซับซ้อนนะครับแล้วก็มี
00:02:18 → 00:02:20 ความฉลาดเนี่ยค่อนข้างมากและจริงๆจะว่าไป
00:02:20 → 00:02:22 แล้วเนี่ยก็ไม่ใช่แค่ผ่อนนะครับคือจะ
00:02:22 → 00:02:24 เรียกว่าอาจจะบอกได้ว่าทุกกรวรรณในร่าง
00:02:24 → 00:02:26 กายของเราเนี่ยถ้าเราได้ดูในรายละเอียด
00:02:26 → 00:02:29 แล้วก็รู้จักกันมาทำมันยังลงไปกับลึกซึ้ง
00:02:29 → 00:02:32 นะครับก็จะรู้สึกว่าร่างกายของเราเนี่ย
00:02:32 → 00:02:34 ค่อนข้างมีความวิจิตรมีความซับซ้อนในสูง
00:02:34 → 00:02:36 มากแล้วก็จะรู้สึกครึ่งกับการงานของร่าง
00:02:36 → 00:02:39 กายของเราด้วยแค่จะคุยกันนะครับมันก็มี
00:02:39 → 00:02:40 เนื้อหาอยู่คนข้างเยอะเหมือนกันนะครับใน
00:02:40 → 00:02:43 ซีรีส์ที่ผมได้ตั้งใจจะแบ่งเป็น 4 ต่อ
00:02:43 → 00:02:45 ด้วยกันนะครับศีรษะสนธิกันในตอนแรกเนี่ย
00:02:45 → 00:02:48 ก็คงจะพูดถึงเค้าๆนะครับมันเป็นพระคชั่น
00:02:48 → 00:02:50 นะครับเราจะว่าการทำงานนะครับหรือว่าโครง
00:02:50 → 00:02:53 สร้างของระบบทางเดินหายใจกับปอดให้ฟังแบบ
00:02:53 → 00:02:56 คล่าวๆว่ามันมีลักษณะตาเป็นยังไงบ้างทำไม
00:02:56 → 00:02:58 ว่าต่างๆที่ได้มีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้
00:02:58 → 00:03:01 เพราะตอนที่ 2 ดีแล้วไปดูว่าตอนที่เรา
00:03:01 → 00:03:03 เริ่มหายใจนะครับการหายใจผมมันเริ่มเกิด
00:03:03 → 00:03:05 ขึ้นเนี่ยให้อวัยวะที่เราพูดถึงกันเนี่ย
00:03:05 → 00:03:08 มันมีการทำงานครับปฏิสัมพันธ์กันยังไง
00:03:08 → 00:03:11 บ้างมีความเกี่ยวข้องกันยังไงบ้างหรือถ้า
00:03:11 → 00:03:13 จะเทียบนะคะจะบอกได้ว่าในตอนแรกเนี่ยมัน
00:03:13 → 00:03:16 จะนะครับเราดูเครื่องกลของรถนะครับก็คือ
00:03:16 → 00:03:18 เปิดฝากระโปรงของเครื่องยนต์ดูนะครับของ
00:03:18 → 00:03:20 รถยนต์ดูแล้วก็ดูว่าเครื่องยนต์มันมีอะไร
00:03:20 → 00:03:22 บ้างอยู่ตรงไหนบ้างเพราะตอนที่ 2 แล้วจะ
00:03:22 → 00:03:24 เริ่มสตาร์ทเครื่องนะครับแล้วก็จะดูว่า
00:03:24 → 00:03:26 เมื่อสตาร์ทเครื่องแบบไม่มีไฟเข้าไปเมื่อ
00:03:26 → 00:03:29 มีน้ำมันเข้าไปหล่อลื่นนะครับเมื่อคนก็
00:03:29 → 00:03:32 ต่างๆเริ่มทำงานเนี่ยกลไกแต่ละชิ้นนี้มัน
00:03:32 → 00:03:35 มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไรที่นี่ในวิชาการ
00:03:35 → 00:03:37 แพทย์นะครับปกติเนียม 2 ลักษณะการศึกษา
00:03:37 → 00:03:40 แบบนี้จะลักษณะของการศึกษา 2 วิชาด้วยกัน
00:03:40 → 00:03:42 นะครับวิชาแบบที่เรารู้จักโครงสร้างต่างๆ
00:03:42 → 00:03:44 โดยที่มีการเคลื่อนไหวเนี่ยมันคือ
00:03:44 → 00:03:47 วิชากายวิภาคหรือว่าภาษาอังกฤษก็คือวิชา
00:03:47 → 00:03:50 Anatomy นะครับส่วนวิชาที่สองก็คือวิชา
00:03:50 → 00:03:54 พิศวาสจี้นะครับษาไทยก็คือสรีรวิทยามันก็
00:03:54 → 00:03:56 คือดูปฏิสัมพันธ์นะครับระหว่างชิ้นส่วน
00:03:56 → 00:03:59 ต่างๆนะครับเราไว้ว่าหน้าตาของร่างกายว่า
00:03:59 → 00:04:02 เรามาทำงานจริงๆมีปฏิสัมพันธ์ดีการเกี่ยว
00:04:02 → 00:04:04 ข้องกันอย่างไรบ้างสำหรับการทำงานของร่าง
00:04:04 → 00:04:06 กายนะครับจะคุยกัน 2 อาทิตย์โสดก็คือ
00:04:06 → 00:04:09 พิเศษที่ 2 และ 3 นะครับส่วนที่สองที่
00:04:09 → 00:04:11 สิ่งนี้ต้องบอกว่าเป็นของแถมเล็กๆนะครับ
00:04:11 → 00:04:14 ก็คือเราจะคุยกันรู้ว่าเมื่อปีว่าของเรา
00:04:14 → 00:04:17 เนี่ยทำงานผิดปกตินะครับก็คือส่วนที่ 2
00:04:17 → 00:04:19 กับ 3 เนี่ยคุยเรื่องการงานปกติของอวัยวะ
00:04:19 → 00:04:22 นั้นอยู่ส่วนที่ 4 เราจะไปดูว่าท่านทำงาน
00:04:22 → 00:04:24 ผิดปกติเนี่ยมันจะก่อให้เกิดโรคได้ยังไง
00:04:24 → 00:04:27 บ้างเราจะไปทำความรู้จักกับโรคติดเชื้อนะ
00:04:27 → 00:04:29 ครับลงติดเชื้อโรคปอดพวงนะครับทั้งการติด
00:04:29 → 00:04:32 เชื้อแบบไปเคลียร์หรือไวรัสนะครับเราจะไป
00:04:32 → 00:04:35 รู้จักว่าไอ้โรคของคืนนี้มันมีอะไรเกิด
00:04:35 → 00:04:38 ขึ้นกับภายในปอดนะครับหรือว่าภายในโรคทาง
00:04:38 → 00:04:40 เดินหายใจที่ทำให้เกิดโรคที่ว่าเราคือ
00:04:40 → 00:04:43 ขึ้นมาเราก็จะเป็นความรู้จักกับโรคที่ว่า
00:04:43 → 00:04:45 โรคถุงลมโป่งพองนะครับมีคนที่สุดบุหรี่มา
00:04:45 → 00:04:47 นานแล้วก็เป็นภาพได้เข้าๆนะครับของเรื่อง
00:04:47 → 00:04:49 ทั้งหมดที่เราจะคุยกันที่นี้ก่อนที่เราจะ
00:04:49 → 00:04:51 ไปเริ่มเรื่องจะคุยกันทั้งหมดนี้นะครับผม
00:04:51 → 00:04:53 ก็อยากจะขอเริ่มต้นด้วยคำถามเบสิคนะครับ
00:04:53 → 00:04:56 มันถามเพื่อนๆนึงสำหรับท่านที่ไม่ได้
00:04:56 → 00:04:58 เรียนทางวิทยาศาสตร์มานะครับก็คือว่า
00:04:58 → 00:05:00 ออกซิเจนเดี๋ยวมันเข้าไปทำและร่างกายของ
00:05:00 → 00:05:03 มนุษย์นะครับทำไมเราถึงต้องการออกซิเจน
00:05:03 → 00:05:05 ทำไมเราถึงขาดออกซิเจนแล้วถึงเสียชีวิต
00:05:05 → 00:05:08 จริงๆคำตอบนะครับก็คือต้องบอกว่าไม่ใช่
00:05:08 → 00:05:09 แค่มนุษย์เท่านั้นที่ต้องการออกซิเจนแต่
00:05:09 → 00:05:12 สิ่งที่ช่วยต่างๆในโลกเนี่ยมากมายที่
00:05:12 → 00:05:14 ต้องการออกซิเจนนะครับสัตว์ต่างๆนะครับ
00:05:14 → 00:05:17 ออกมาแรงรุ่นถึงพวกแบคทีเรียหลายๆชนิดนี้
00:05:17 → 00:05:18 เขาต้องการออกซิเจนจะมีเพียงแค่
00:05:18 → 00:05:21 จุลินทรีย์บางชนิดนะครับที่ไม่ต้องการ
00:05:21 → 00:05:23 ออกซิเจนแล้วก็อาจจะได้ว่ามันแพ้ออกซิเจน
00:05:23 → 00:05:26 กันครับคือถ้าเราเสียแล้วมันตายเป็นพวกไป
00:05:26 → 00:05:29 ช่วยที่ว่าเป็นแอร็อคนะครับหรือไม่แต่ต้น
00:05:29 → 00:05:31 ไม้นะครับที่เราคุ้นเคยกันดีว่าต้นไม้ว่า
00:05:31 → 00:05:33 ตัวปล่อยออกซิเจนให้กับเราเนี่ยจริงๆก็
00:05:33 → 00:05:36 ต้องการออกซิเจนเพราะในช่วงกลางวันที่มัน
00:05:36 → 00:05:38 ต้องสังเคราะห์แสงจริงหรือว่ามันดูดคำรัก
00:05:38 → 00:05:41 ทรายเข้าไปแล้วไปออกซิเจนออกมาแต่เมื่อ
00:05:41 → 00:05:44 กลางคืนไม่มีแสงแดดมันก็ต้องดูออกซิเจน
00:05:44 → 00:05:46 เข้าไปเพื่อใช้ในการหายใจภายในเซลล์ของ
00:05:46 → 00:05:49 มันเหมือนกันแล้วก็หายใจของต้นไม้เนี่ยก็
00:05:49 → 00:05:51 เป็นการที่คล้ายๆกับที่เกิดขึ้นภายใน
00:05:51 → 00:05:53 เซลล์ของร่างกายมนุษย์เช่นกันครั้งนี้คำ
00:05:53 → 00:05:56 ถามก็เลยเป็นว่าสิ่งที่ช่วยต่างๆเหล่านี้
00:05:56 → 00:05:58 ที่ต้องการออกซิเจนเนี่ยออกซิเจนไปทำอะไร
00:05:58 → 00:06:00 ในร่างกายของมันเอาเสี้ยนไปมีอะไรในเซลล์
00:06:00 → 00:06:05 ของมันคำตอบก็คือว่าจองชายสร้างพลังงานก็
00:06:05 → 00:06:07 อย่างนี้ครับแน่นอนก็คือว่าพลังงานมาจาก
00:06:07 → 00:06:09 สิ่งที่เรากินเข้าไปโทรมาหาก็พวกอาหาร
00:06:09 → 00:06:11 ต่างๆล็อกอินเข้าไปที่ให้พลังงานเมื่อมัน
00:06:12 → 00:06:13 ผ่านการบวนการย่อยนะครับจะกลายเป็น
00:06:13 → 00:06:16 โมเลกุลเล็กๆเนี่ยสุดท้ายหนูจะเข้าไปใน
00:06:16 → 00:06:18 เซลล์แล้วมันจะเข้าไปในเหมือนกับโรงงาน
00:06:18 → 00:06:21 ที่ผลิตพลังงานของเซลล์นะครับซึ่งมีชื่อ
00:06:21 → 00:06:23 ว่าไมโตคอนเดรียนะแล้วก็หาเนี่ยก็จะเข้า
00:06:23 → 00:06:26 ไปถูกเผาภายในตรงไปตรงนั้นเรียงเพื่อให้
00:06:26 → 00:06:28 เกิดเป็นพลังงานออกมาพลังงานที่เซลล์ใช้
00:06:28 → 00:06:32 เนี่ยจะมีชื่อเรียกว่า ATP นะครับย่อมา
00:06:32 → 00:06:34 จากชื่อเต็มคืออธิโรจน์ซีนไตรฟอสเฟตนะ
00:06:34 → 00:06:37 ครับไม่ต้องสนใจชื่อจริงก็ได้นะครับก็
00:06:37 → 00:06:40 เกือบเป็นว่าล่ะแซวมันต้องการพลังงานที่
00:06:40 → 00:06:42 นี่ถ้าจะเทียบนะครับก็เจ็บเทียบเหมือนกับ
00:06:42 → 00:06:44 ว่าเซลล์นั้นก็เหมือนกับเมืองนึงนะครับ
00:06:44 → 00:06:46 ที่ต้องการพลังงานในการขับเคลื่อนเมือง
00:06:46 → 00:06:48 อย่างเมืองเนี่ยมันสามารถที่จะขับเคลื่อน
00:06:48 → 00:06:50 ด้วยพลังงานไฟฟ้าตรงนะครับแล้วก็ต้องมี
00:06:50 → 00:06:53 ตัวโรงงานไฟฟ้าในคลิปรายงานมาป้อนเมือง
00:06:53 → 00:06:56 ถ้ามันมีเหตุอะไรก็ตามที่ทำให้รั่วงานไฟ
00:06:56 → 00:06:58 ฟ้าเนี่ยหยุดผลิตกระแสไฟฟ้านะครับมืออัน
00:06:58 → 00:07:00 นี้ก็จะตายก็คือมันจะอยู่กับเพื่อนต่างๆ
00:07:00 → 00:07:02 ในเมืองก็จะหยุดหล่อแล้วเมืองก็เหมือนกับ
00:07:02 → 00:07:04 เมืองที่ตายเช่นเดียวกันเซลล์ในร่างกาย
00:07:04 → 00:07:06 ของมนุษย์นะครับจะมีชีวิตอยู่ได้จะมี
00:07:06 → 00:07:09 กิจกรรมเกิดขึ้นถ้าเนี่ยมันก็ต้องมีการ
00:07:09 → 00:07:11 สร้างพลังงานออกมานะครับที่นี่ในการสร้าง
00:07:11 → 00:07:14 พลังงานในการพาว่าหาเนี่ยมันจะมีออกซิเจน
00:07:14 → 00:07:16 เดี๋ยวเข้าไปเป็นส่วนร่วมด้วยถ้าไม่มี
00:07:16 → 00:07:19 ออกซิเจนนะครับก็จะไม่มีการเผาอาหารให้
00:07:19 → 00:07:20 เกิดขึ้นได้ก็สร้างพลังงานขึ้นมาไม่ได้
00:07:20 → 00:07:23 สร้างพลังงานไม่ได้เนี่ยแซวของเราก็จะตาย
00:07:23 → 00:07:26 ที่นี่ถ้าเซลล์ของเราจำนวนมากเนี่ยตาย
00:07:26 → 00:07:28 แล้วมันก็ทำให้เยอะๆเนี่ยตายด้วยท่านเยอะ
00:07:28 → 00:07:31 จำนวนมากนะตายก็จะทำให้อวัยวะต่างๆในร่าง
00:07:31 → 00:07:33 กายของเราเนี่ยตายไปถ้วยและแน่นอนว่า
00:07:33 → 00:07:36 เมื่ออวัยวะต่างๆในร่างกายของเรานี้อยู่
00:07:36 → 00:07:38 ทำงานนะครับเราก็จะเสียชีวิตและนั่นก็คือ
00:07:38 → 00:07:41 คำตอบกับเค้าๆนะครับก็คือว่าออกซิเจนจะ
00:07:41 → 00:07:43 ช่วยในการสร้างพลังงานถ้าเราไม่สามารถ
00:07:43 → 00:07:45 สร้างพลังงานได้เซลล์ก็จะตายเสี่ยงตายมาก
00:07:45 → 00:07:48 ๆเดี๋ยวเราก็เสียชีวิตโอเคพอรู้แล้วนะคะ
00:07:48 → 00:07:51 ว่าออกซิเจนมันสำคัญยังไงคำถามต่อไปก็คือ
00:07:51 → 00:07:53 ว่าเราจะนำออกซิเจนที่มีมากมายในสิ่งแวด
00:07:53 → 00:07:56 ล้อมล่ะเนี้ยเข้ามาในเซลล์ร่างกายของเรา
00:07:56 → 00:07:58 ได้อย่างไรถ้าเป็นพวกสัตว์ที่ตัวเล็กๆนะ
00:07:58 → 00:08:00 ครับอย่างไรต่างๆเนี่ยอาการก็สามารถที่
00:08:00 → 00:08:02 ได้สัมผัสกับเซลล์ได้ง่ายนะครับหรือว่าจะ
00:08:02 → 00:08:05 มีแค่ท่อลงมาวิ่งผัดกลางลำตัวแล้วก็อากาศ
00:08:05 → 00:08:07 เนี่ยก็จะวิ่งเข้าเรียนท่อก็สามารถสัมผัส
00:08:07 → 00:08:10 กับเซลล์ต่างๆในร่างกายได้แล้วแต่มนุษย์
00:08:10 → 00:08:12 เรานั้นมีร่างกายที่ใหญ่โตนะครับลองนึก
00:08:12 → 00:08:14 ภาพดูนะครับ sale ยังเซลล์ของอวัยวะต่างๆ
00:08:14 → 00:08:16 นะครับที่อยู่ลึกในร่างกายของเราเนี่ย
00:08:16 → 00:08:19 เช่นเซลล์ของตับเจอของลำไส้นะครับเสียง
00:08:19 → 00:08:21 ของหัวใจเนี่ยมันอยู่ลึกกันในร่างกายแล้ว
00:08:21 → 00:08:24 ก็อยู่บาง you ฝังอยู่ในอวัยวะนะครับที่
00:08:24 → 00:08:27 ใหญ่โตคำถามก็คือว่าอากาศในจะเข้าไป
00:08:27 → 00:08:29 สัมผัสกับเซลล์เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน
00:08:29 → 00:08:31 ออกซิเจนแล้วให้ออกซิเจนเข้าไปถึงเซลล์
00:08:31 → 00:08:34 อย่างไรคำตอบแน่นอนก็ตรงไปตรงมานะครับก็
00:08:34 → 00:08:37 คือว่ามันจะไม่สามารถที่จะเข้าไปสอบพัด
00:08:37 → 00:08:39 ให้โดยตรงและด้วยเหตุนี้นะครับร่างกายของ
00:08:39 → 00:08:41 สิ่งมีชุดที่มีขนาดใหญ่อย่างมนุษย์นะครับ
00:08:41 → 00:08:44 หรือว่าสัตว์ต่างๆเนี่ยมันต้องมีระบบขน
00:08:44 → 00:08:46 ส่งนะครับจะรีบไประบบขนส่งมวลชนก็ได้นะ
00:08:46 → 00:08:49 ครับเพื่อที่จะขนส่งของซิเจนเนี่ยเข้าไป
00:08:49 → 00:08:52 ในทุกซอกหลืบลึกของร่างกายเราทุกเซลล์ที่
00:08:52 → 00:08:54 นี่ระบบขนส่งหลักๆในร่างกายของเราเนี่ย
00:08:54 → 00:08:57 มันจะมีอยู่ 2 ระบบด้วยกันซึ่งก็คือระบบ
00:08:57 → 00:09:00 แรกก็คือเรื่องของปอดกับระบบทางเดินหายใจ
00:09:00 → 00:09:02 ตัวสั่นระบบที่ 2 นี่ก็คือหัวใจกับหลอด
00:09:02 → 00:09:04 เลือดนะครับเพื่อจะเชื่อว่ามันก็เป็นการ
00:09:04 → 00:09:08 ที่เกินทางบกที่ต้องมีเช่นขึ้นรถเมล์นะ
00:09:08 → 00:09:09 ครับแล้วก็เสร็จแล้วเนี่ยก็ไปต่อด้วยเรือ
00:09:09 → 00:09:12 ก็ได้เพื่อไปถึงเป้าหมายสำหรับรถเมล์ก็
00:09:12 → 00:09:14 คือการที่ออกซิเจนเดินทางจากจมูกนะครับ
00:09:14 → 00:09:16 ผ่านเข้าหลอดลมแล้วก็แยกไปที่ปอดสองข้าง
00:09:16 → 00:09:18 แล้วก็ลงตามท่อลมที่เล็กทำไปเรื่อยๆนะ
00:09:18 → 00:09:20 ครับสุดท้ายนะครับไปสิ้นสุดที่ปลายสุดของ
00:09:20 → 00:09:24 ปอดก็คือส่วนที่เรียกว่าเป็นทุกลมจากนั้น
00:09:24 → 00:09:26 ออกซิเจนก็ต้องเดินทางต่อนะครับไปเดินทาง
00:09:26 → 00:09:29 ต่ออีกรูปแบบหนึ่งก็คือเข้าสู่ระบบหลอด
00:09:29 → 00:09:31 เลือดถ้าจะเทียบเนี่ยก็คงจะเหมือนกับการ
00:09:31 → 00:09:34 ลงจากรถเมล์นะคะเราก็ไปต่อเรือออกซิเจน
00:09:34 → 00:09:36 จากถุงลมในก็จะเข้าไปในน้ำเลือดแล้วก็จะ
00:09:36 → 00:09:38 จากนั้นเลื่อนเนี่ยก็จะเข้าไปในเม็ดเลือด
00:09:38 → 00:09:41 แดงและก็จะไปอิ่มอกกบินทร์แล้วไม่ได้ใดใน
00:09:41 → 00:09:44 ก็จะพาออกซิเจนไปที่โซโลต่างๆทั่วร่างกาย
00:09:44 → 00:09:46 เพื่อที่จะเอาเจลไปให้และนั่นก็คือสิ้น
00:09:46 → 00:09:49 สุดนะครับจบการทำงานของฝั่งขาเข้าที่ใน
00:09:49 → 00:09:51 การเดินทางในฝั่งขาออกนะครับมันก็คือการ
00:09:51 → 00:09:54 ค้นคำว่ารักทรายนะครับซึ่งเกิดมาจากออก
00:09:54 → 00:09:57 ไปติเกรียนตาของเซลล์เนี่ยย้อนทางออกมา
00:09:57 → 00:10:00 แล้วก็ไปปล่อยออกจากร่างกายในรูปของการ
00:10:00 → 00:10:02 ถ้าไม่ออกแล้วทั้งหมดนี้ก็คือเบสิคนะครับ
00:10:02 → 00:10:04 เพื่อนๆนะครับของสองระบบนี้ก็ค่อนข้างตรง
00:10:04 → 00:10:07 ไปตรงมาและทั้งหมดนี้นะครับก็คือเค้าๆนะ
00:10:07 → 00:10:09 ครับกับภาพใหญ่เห็นนะครับข้อสัมพันธ์
00:10:09 → 00:10:11 ระหว่างสองระบบนี้นะครับทีนี้พอเห็นภาพ
00:10:11 → 00:10:13 ใหญ่แล้วนะครับฟังดูเนี่ยมันก็เหมือนจะ
00:10:13 → 00:10:15 ง่ายไม่มีอะไรแต่ที่จริงแล้วเนี่ยมันก็
00:10:15 → 00:10:17 เหมือนกันบบขนส่งมวลชนที่เรารู้กันทั่วๆ
00:10:17 → 00:10:20 ไปว่าเอาจริงๆมันไม่ได้บริหารแค่ง่ายๆคือ
00:10:20 → 00:10:23 การจะออกแบบระบบนะครับรู้บริหารให้ได้การ
00:10:23 → 00:10:25 ขนส่งน้ำมันมีประสิทธิภาพมากที่สุดเน็ต
00:10:25 → 00:10:28 มันยากมันมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายนะ
00:10:28 → 00:10:31 ครับแล้วก็ยิ่งระบบขนส่งในเมืองใหญ่ๆจะ
00:10:31 → 00:10:34 ของกรุงเทพฯก็ยิ่งจัดการยากเพราะจำนวนคน
00:10:34 → 00:10:36 ที่เดินทางในมันมีหลายหลักสิบล้านคนนะ
00:10:36 → 00:10:39 ครับแล้วก็แต่ละคนก็เดินทางไปคนละที่แล้ว
00:10:39 → 00:10:41 ก็เป็นการเดินทางในก็เดินทางไปทั้งวันอีก
00:10:41 → 00:10:44 ต้องช่วงเวลานั้นคนก็เดินทางเยอะมาช่วง
00:10:44 → 00:10:46 เวลานี้คนก็เดินทางน้อยบางที่คนก็ไปเยอะ
00:10:46 → 00:10:50 ที่คนเข้าไปน้อยที่นี่การจัดสรรพาหนะนะ
00:10:50 → 00:10:53 ครับจากรถเมย์ให้พอดีกับจำนวนคนให้รถเมล์
00:10:53 → 00:10:56 ไปถึงที่ที่ที่คนอยู่เยอะคนต้องการเดิน
00:10:56 → 00:10:58 ทางเยอะเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องง่ายถ้ารถ
00:10:58 → 00:11:01 น้อยไปหรือว่ามาหาเกินมีคนก็จะไปออกันที่
00:11:01 → 00:11:04 ป้ายรถเมล์เยอะแต่ถ้ารถมาที่เกินไปมาเยอะ
00:11:04 → 00:11:06 เกินไปเราไปอออยู่ตรงที่คนไม่ค่อยเดินทาง
00:11:06 → 00:11:09 มันก็เกิดการสิ้นเปลืองทรัพยากรเช่นเดียว
00:11:09 → 00:11:11 กันการขนส่งในร่างกายเนี่ยมันก็มีหลักการ
00:11:11 → 00:11:14 คล้ายๆกันแต่ว่าในระดับที่เขาเรียกว่า
00:11:14 → 00:11:16 สเกลในใหญ่กว่ากันมากอย่างการขนส่งใน
00:11:16 → 00:11:19 กรุงเทพแล้วก็พูดถึงหลักคน 10 ล้านคนรวม
00:11:19 → 00:11:21 เพชรแต่ร่างกายมันดูแลเราพูดถึงการขนส่ง
00:11:21 → 00:11:24 ที่ใหญ่กว่ามากคือถ้าเทียบออกซิเจนในเป็น
00:11:24 → 00:11:27 เหมือนคนที่ต้องการจะเดินทางแล้วก็เซลล์
00:11:27 → 00:11:29 เรือเหมือนเป็นจุดหมายปลายทางของการเดิน
00:11:29 → 00:11:31 ทางอาทิตย์ว่าเป็นออฟฟิศก็ได้นะก็คือ
00:11:31 → 00:11:34 ออกซิเจนและเดินทางจากที่ 1 จากบ้าน
00:11:34 → 00:11:37 เดี่ยวไปที่อ๊อฟฟิสระบบขนส่งของร่างกาย
00:11:37 → 00:11:39 ของมนุษย์เนี่ยต้องบอกว่ามันมีขนาดที่
00:11:39 → 00:11:42 ใหญ่กว่าระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพฯมาก
00:11:42 → 00:11:44 แล้วการขนส่งในก็ต้องทำให้มีประสิทธิภาพ
00:11:44 → 00:11:47 ที่ดีมากๆด้วยจะมีรถติดหรือว่ามีคนรอจน
00:11:47 → 00:11:49 ป้ายรถเมล์เดี๋ยวมันก็ไม่ได้เพราะว่าถ้า
00:11:49 → 00:11:51 มันการขนส่งมันไม่มีประสิทธิภาพนะคือ
00:11:51 → 00:11:54 ออกซิเจนกับตัวเลื่อนวันไม่แมทกันมันไม่
00:11:54 → 00:11:56 พอดีกันเนี่ยมันอาจจะหมายถึงความเจ็บไข้
00:11:56 → 00:11:58 ได้ป่วยของร่างกายเราเหลือจะหมายถึง
00:11:58 → 00:12:01 เรื่องของอรวรรณเต็มที่ขัดหรือเช่นสมอง
00:12:01 → 00:12:05 และหัวใจก็ได้ซึ่งมีอันตรายมากแล้วก็ทำ
00:12:05 → 00:12:08 งานก็ต้องทำให้ได้ดีในทุกๆนาทีด้วยนะครับ
00:12:08 → 00:12:10 ก็คือคิดดูนะครับตั้งแต่วินาทีที่เราเกิด
00:12:10 → 00:12:12 มาจนถึงวันที่เราตายจากโรงนี้ไปเนี่ยไม่
00:12:12 → 00:12:15 มีวันหยุดและระบบอันนี้จะต้องทำงานอย่าง
00:12:15 → 00:12:17 มีประสิทธิภาพและทุกวันทุกวินาทีนี้ไป
00:12:17 → 00:12:19 ตลอดสำหรับเลขที่สนดีนะครับเกือบเราจะ
00:12:19 → 00:12:22 โฟกัสแค่ระบบทางเดินหายใจก่อนนะครับหรือ
00:12:22 → 00:12:24 ว่าจะเป็นระบบรถเมย์คนเราก็ได้ส่วนระบบ
00:12:24 → 00:12:27 ของหัวใจและหลอดเลือดเนี่ยเราจะมาคุยกัน
00:12:27 → 00:12:29 อีกทีในวันหลังนะครับตอนที่เราคุยเรื่อง
00:12:29 → 00:12:32 ของเปิดใจกับระบบหลอดเลือดการนี้ระบบทาง
00:12:32 → 00:12:35 เดินหายใจนะครับในภาพรวมในราชแพรแบ่งได้
00:12:35 → 00:12:37 ว่าให้ระบบทั้งในใจแต่จมูกไปถึงปอดเนี่ย
00:12:37 → 00:12:40 น่าจะแบ่งตามหน้าที่นะครับแบ่งเป็น 3 ชน
00:12:40 → 00:12:43 ใหญ่ๆด้วยกันส่วนได้นะครับก็คือเหมือน
00:12:43 → 00:12:45 เป็นส่วนที่เป็นเหมือนท่อส่งส่งธรรมดานะ
00:12:45 → 00:12:47 ครับส่วนที่เป็นส่วนขนส่งภาษาอังกฤษเลย
00:12:47 → 00:12:50 ว่าเป็นคนรักจริง System ส่วนที่สองมันจะ
00:12:50 → 00:12:52 เป็นส่วนที่ทำหน้าที่กระจายนะครับสิ่งที่
00:12:52 → 00:12:55 ขนส่งออกไปให้กว้างๆหรือว่าภาษาอังกฤษจะ
00:12:55 → 00:12:56 เรียกว่าเป็นหน้าที่ก็คือเป็นที่สุด
00:12:56 → 00:12:58 ดิวิชั่นออกไปแล้วส่วนที่สาวนี้ก็เป็น
00:12:58 → 00:13:01 ส่วนที่เรียกว่ากันขอเปลี่ยนคำ noxe นะ
00:13:01 → 00:13:03 ครับก็คือนักเป็นออกซิเจนกับคอมมัน
00:13:03 → 00:13:05 ออกไซด์นะครับสว่างถุงลมกับตัวเส้นเลือด
00:13:05 → 00:13:08 โอเคมาดูที่ส่วนแรกนะครับส่วนแรกก็คือ
00:13:08 → 00:13:10 ส่วนที่เหลือเป็นคนรักเดียวก็คือตามชื่อ
00:13:10 → 00:13:12 นะครับก็คือมันทำหน้าที่ขนส่งก็ตกไปตรงมา
00:13:12 → 00:13:15 เลยก็คือมันเป็นระบบท่อที่ส่งของจากที่
00:13:15 → 00:13:18 หนึ่งไปที่ 1 มันก็เป็นท่อก๊าซในท่อน้ำตา
00:13:18 → 00:13:20 อันนี้ก็คือส่งประกาศจากข้างนอกเนี่ยผ่าน
00:13:20 → 00:13:23 จมูกลงไปที่ปอดแต่เดี๋ยวเราจะเห็นกันใน
00:13:23 → 00:13:26 พิโซน่านะครับจะเห็นว่าจริงพ่อหนูจะมีทำ
00:13:26 → 00:13:27 หน้าที่อื่นด้วยก็คือเป็นเรื่องของการ
00:13:27 → 00:13:30 ปรับอากาศและกรองอากาศแต่เดี๋ยวจะยังไง
00:13:30 → 00:13:33 เดี๋ยวเรามาคุยกับทีใน Episode หน้าอัน
00:13:33 → 00:13:35 นี้ก็เป็นส่วนแรกนะครับส่วนที่เราเป็นคน
00:13:35 → 00:13:37 รักจริงก็คือส่งจากจมูกเดี๋ยวไปที่ปอด
00:13:37 → 00:13:40 ข้างซ้ายข้างขวาจะได้ส่วนที่ 2 นะครับคือ
00:13:40 → 00:13:42 ส่วนที่อะมีรายละเอียดนิดนึงนะครับส่วน
00:13:42 → 00:13:45 ดิสบิวชั่นก็คือการกระจายออกก็คือพยายาม
00:13:45 → 00:13:47 ทำให้ออกซิเจนมันก็ใจออกไป
00:13:47 → 00:13:50 คืนนี้ครับโจทย์ของร่างกายไม่คิดว่าร่าง
00:13:50 → 00:13:52 กายเราเนี่ยในแต่ละวินาทีเนี่ยต้องการ
00:13:52 → 00:13:56 ออกซิเจนในปริมาณที่มากมายมหาศาลเราก็
00:13:56 → 00:13:57 ต้องส่งออกซิเจนจำนวนมากเหล่านี้เนี่ยไป
00:13:57 → 00:14:00 ที่โซโลต่างดังนั้นนะครับร่างกายเพียง
00:14:00 → 00:14:02 เท่านี้ก็เลยต้องหาวิธีที่จะเอาอากาศมา
00:14:02 → 00:14:04 เจอกันเลือกเนี่ยให้ได้เยอะให้มากที่สุด
00:14:04 → 00:14:06 เพราะว่าการที่จะเกิดการแลกเปลี่ยน
00:14:06 → 00:14:08 ระหว่างออกซิเจนกับครับรักทรายเนี่ยก็คือ
00:14:08 → 00:14:11 ส่งไปมาได้เนี่ยมันต้องเข้าอากาศมาเจอกับ
00:14:11 → 00:14:14 เลือดให้มากที่สุดคำถามคือว่าในแต่ละ
00:14:14 → 00:14:17 วินาทีหรือนาทีเนี่ยพื้นที่ซึ่งอากาศกับ
00:14:17 → 00:14:19 เลือดจะมาเจอกันได้เนี่ยมันควรจะมีพื้น
00:14:19 → 00:14:23 ที่มากน้อยแค่ไหนคำตอบก็คือว่าเราต้องการ
00:14:23 → 00:14:25 พื้นที่ประมาณสักครึ่งคอร์ทเทนนิสนะครับ
00:14:25 → 00:14:28 อย่างน้อยออกซิเจนเดี๋ยวจริงจะมากเพียงพอ
00:14:28 → 00:14:30 ที่จะส่งไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย
00:14:30 → 00:14:33 ได้ที่นี่ปัญหาก็คือช่องอกของเราเนี่ยมัน
00:14:33 → 00:14:35 ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่ขนาดนั้นนะครับไม่มี
00:14:35 → 00:14:37 พื้นที่ใหญ่เท่าคอร์ตเทนนิสมันก็มีอย่าง
00:14:37 → 00:14:39 ที่เราเห็นนะครับก็คือภายในช่องอกแค่นี้
00:14:39 → 00:14:42 เองคำถามเพื่อธรรมชาติหรือร่างกายเดี๋ยว
00:14:42 → 00:14:44 จะแก้ปัญหาหรือยังไงคำตอบก็คือปอดเรา
00:14:44 → 00:14:47 เนี่ยทำเหมือนที่ต้นไม้ทำก็ยังครับนึกภาพ
00:14:47 → 00:14:50 ต้นไม้นะครับก็คือจะมีลำต้นจบแล้วก็จะมี
00:14:50 → 00:14:53 แต่เกมก้านสาขาไปมากมายจากกินใหญ่นะก็แตก
00:14:53 → 00:14:56 กิ่งย่อยลงไปนะครับแล้วก็เล็กลงไปเรื่อยๆ
00:14:56 → 00:14:58 นะครับจนสุดท้ายเนี่ยจะจบที่ใบไม้ซึ่ง
00:14:58 → 00:15:01 เป็นแผ่นบางๆคำถามดีหรือว่าต้นไม้เนี่ยทำ
00:15:01 → 00:15:03 แบบนี้เพื่ออะไรนะธรรมชาติออกแบบต้นไม้มา
00:15:03 → 00:15:06 มีหน้าตอนนี้เพื่อไหล่คำตอบก็คือเพื่อ
00:15:06 → 00:15:09 เพิ่มพื้นที่ผิวที่ใบจะได้สัมผัสกับแดด
00:15:09 → 00:15:11 ให้ได้มากที่สุดเพราะต้นไม้เนี่ยต้องการ
00:15:11 → 00:15:15 ใช้แสงแดดในการสร้างอาหารมันก็เลยอยากจะ
00:15:15 → 00:15:17 มีพื้นที่ผิวที่สัมผัสกับแดดให้เยอะให้
00:15:17 → 00:15:19 มากที่สุดนะครับเพื่อที่จะสังเคราะห์แสง
00:15:19 → 00:15:21 หรือเราจะพูดได้นะครับว่าใบไม้มันทำหน้า
00:15:21 → 00:15:23 ที่เหมือนเป็นแผ่นโซล่าเซลล์ที่จะเข้าใจ
00:15:23 → 00:15:26 ว่าใบไม้เพิ่มพื้นที่ได้ยังไงเนี่ยเราคง
00:15:26 → 00:15:28 ต้องพิจารณาการหรือว่าสมุดเราเจอต้นไม้
00:15:28 → 00:15:30 ต้นหนึ่งนะครับและเราจะนาการว่าเด็กไปไม้
00:15:30 → 00:15:32 ของต้นไม้เนี่ยทั้งต้นเนี่ยลงมาทั้งหมด
00:15:32 → 00:15:35 เลยเสร็จแล้วเราก็นำใบไม้ที่ได้มาปลูกที่
00:15:35 → 00:15:39 พื้นเราเนี่ยจะได้พื้นที่ผิวที่กว้างใหญ่
00:15:39 → 00:15:42 มากถูกนะครับขยายแค่ไหนก็คงบอกยาวเหมือน
00:15:42 → 00:15:44 กันแล้วคงไม่รู้เหมือนกันแต่เชื่อว่าถ้า
00:15:44 → 00:15:46 เราใช้จิตนาการดูในทุกคนก็น่าจะพอดีกว่า
00:15:46 → 00:15:49 ว่าไอ้ต้นไม้ใบไม้ของต้นไม้ทั้งต้นเนี่ย
00:15:49 → 00:15:51 ถ้ามาปลูกที่พื้นมันคงจะกินพื้นที่กว้าง
00:15:51 → 00:15:54 ใหญ่มากปอดของเราเนี่ยก็ใช้หลักการเดียว
00:15:54 → 00:15:57 กับต้นไม้ก็คือว่าไอ้หลอดลมที่มันแตกย่อย
00:15:57 → 00:16:00 ลงไปเรื่อยๆนะครับแตกย่อยเล็กลงไปเรื่อย
00:16:00 → 00:16:02 และสุดท้ายเนี่ยท่อลมเนี่ยมันจะได้จน
00:16:02 → 00:16:05 กระทั่งเป็นท่อลมที่เล็กจนตาเปล่ามองไม่
00:16:05 → 00:16:07 เห็นเราที่ปลายสุดของท่อลมนะเนี่ยมันจะ
00:16:07 → 00:16:09 เป็นกระเปาะขึ้นมานะครับซึ่งเรารู้จักกัน
00:16:10 → 00:16:12 ในชื่อภาษาไทยว่าถุงลมคือได้ภาษาอังกฤษ
00:16:12 → 00:16:14 หรือจากการแพ้ในหรือว่าเอายาลายนะครับนี่
00:16:14 → 00:16:16 พัดลมมาถึงตรงเรียนนี้นะครับคือถุงลม
00:16:16 → 00:16:18 เดี๋ยวมันก็คือสุดทางแล้วจากนั้นเนี่ยลม
00:16:18 → 00:16:20 แล้วก็ต้องยูเทิร์นแล้วก็ย้อนกลางเดิมกับ
00:16:20 → 00:16:23 ออกไปและวิธีการแตกแขนงย่อยแบบต้นไม้แบบ
00:16:23 → 00:16:26 นี้นะครับเป็นแบบไปไม้แบบเนี้ยก็คือวิธี
00:16:26 → 00:16:29 ที่ปอดของเราเนี่ยสามารถบรรจุถุงลมแล้ว
00:16:29 → 00:16:32 ว่าได้มากมายมหาศาลในปอดของเราคือปอดของ
00:16:32 → 00:16:34 เราแต่ละข้างเดินมีถุงลมประมาณ 150 ล้าน
00:16:34 → 00:16:38 ถูกลบนะครับสองข้างรวมกันก็ประมาณ 300
00:16:38 → 00:16:40 ล้านถุงลมเราถ้าเรานำถุงลมของเราได้มา
00:16:40 → 00:16:42 คลี่ออกนะครับแล้วก็มาปูไว้ที่พื้นเนี่ย
00:16:42 → 00:16:45 มันจะกินพื้นที่ในประมาณเท่ากับคอร์ท
00:16:45 → 00:16:47 เทนนิส 1 คอร์ดแล้วพื้นที่ใหญ่ขนาดนี้นะ
00:16:47 → 00:16:50 ครับก็คือพื้นที่ที่เลือดกับอาการมาเจอ
00:16:50 → 00:16:53 กันในเวลา 1 นาทีนะครับทำให้เกิดการแลก
00:16:53 → 00:16:55 เปลี่ยนของคำรักสายกับออกซิเจนเนี่ยได้
00:16:55 → 00:16:58 อย่างมากและปริมาณที่มากขนาดนี้นะครับถึง
00:16:58 → 00:17:00 จะเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการและจริงๆ
00:17:00 → 00:17:02 ถ้าเกิดความต้องการด้วยนะครับเพราะว่าอัน
00:17:02 → 00:17:04 นี้คือเพียงพอสำหรับเวลาทำกิจกรรมทั่วไป
00:17:04 → 00:17:07 แต่เรายังมีสำรองต่อด้วยนะครับสำรองใช้
00:17:07 → 00:17:09 เวลาที่เราต้องออกกำลังกายหนักๆนะครับ
00:17:09 → 00:17:11 ซึ่งร่างกายต้องการพยายามที่จะขับเข้าไป
00:17:11 → 00:17:14 ทางซ้ายออกไปเยอะๆมันก็จะมีพื้นที่มากพอ
00:17:14 → 00:17:17 ที่จะขับคำราคาเธอมากไปแล้วทั้งหมดนี้ก็
00:17:17 → 00:17:18 คือหน้าที่ส่วนที่เราเป็นที่สุดดิวิชั่น
00:17:18 → 00:17:21 นะครับคือเรื่องของการกระจายของการ์ดออก
00:17:21 → 00:17:23 ไปกลางกว้างที่นี่ก็มาถึงส่วนที่ 3 นะ
00:17:23 → 00:17:25 ครับที่เราจะคุยถึงก็คือส่วนที่เราเป็น
00:17:25 → 00:17:27 ส่วนของการแลกเปลี่ยนนะครับก็คือเอ็กเทรน
00:17:27 → 00:17:29 ก็คือถุงลองที่เราคุยกันไปไม่เกี่ยวนะ
00:17:29 → 00:17:31 ครับถูกลงเนี่ยมันจะมีเส้นเลือดฝอยใน
00:17:31 → 00:17:34 จำนวนมากได้มาเกาะอยู่นะครับมาก่อนจะได้
00:17:34 → 00:17:36 ว่าเคลือบอยู่เลยก็ได้แล้วเสื้อที่มาเกาะ
00:17:36 → 00:17:39 นี้นะครับก็จะทำให้อากาศในถุงลมเนี่ยมี
00:17:39 → 00:17:41 โอกาสได้สัมผัสกับเลือดที่ในเส้นเลือดฝอย
00:17:41 → 00:17:43 เหล่านี้ที่นี่ออกซิเจนจากอากาศก็จะ
00:17:43 → 00:17:45 สามารถที่จะแพร่ไปที่เลือกได้ชนเค้าไม่
00:17:45 → 00:17:48 รับสายจากเลือกเนี่ยก็จะสามารถแพรกเข้ามา
00:17:48 → 00:17:51 ในท่วมได้จะได้ที่มันมีจุดสำคัญอยู่ตรง
00:17:51 → 00:17:53 นี้นิดนึงครับก็คือว่าจะเห็นว่าการที่
00:17:53 → 00:17:55 ออกซิเจนความรักทรายในจะเคลื่อนที่ผ่าน
00:17:55 → 00:17:57 จากถุงลมแล้วก็ผ่านไปผนังหลอดเลือดเนี่ย
00:17:57 → 00:18:00 เข้าไปในตัวเลือกได้ลบเพื่อนจากเหลืออามา
00:18:00 → 00:18:02 ที่ถูกโลกได้เนี่ยผนังระหว่างถุงลมนะครับ
00:18:02 → 00:18:04 ผนังของเส้นเลือดเนี่ยมันจะต้องมีความบาง
00:18:04 → 00:18:07 มากๆคือบางเฉียบเลยอากาศมันถึงจะเคลื่อน
00:18:07 → 00:18:10 ที่ผ่านได้ดีถ้ามีเหตุอะไรก็ตามนะครับที่
00:18:10 → 00:18:11 ทำให้ผนังตรงนี้เนี่ยล้วนเบลล์เนี่ยมันมี
00:18:11 → 00:18:13 ความหนาขึ้นหรือว่ามีน้ำเนี่ยเข้ามาแทรก
00:18:13 → 00:18:16 อยู่ซึ่งเดี๋ยวเราจะได้เห็นกันต่อไปเช่น
00:18:16 → 00:18:19 ในภาวะปอดอักเสบหรือภาวะหัวใจวายการแลก
00:18:19 → 00:18:22 เปลี่ยนของก๊าซเนี่ยมันก็จะทำได้ไม่ดีนะ
00:18:22 → 00:18:24 ครับก็คือปฏิภาพในมันจะด้อยลงแล้วการแลก
00:18:24 → 00:18:26 เปลี่ยนที่ได้ลงนี้นะครับก็จะนำไปสู่
00:18:26 → 00:18:28 อาการปวดต่างๆนะครับเช่นอาจจะเรื่องของ
00:18:28 → 00:18:31 อาการหอมนะครับเหนื่อยง่ายที่เราพอจะรู้ๆ
00:18:31 → 00:18:33 กันนะครับเป็นคนที่ปอดอักเสบหรือปอดบวม
00:18:33 → 00:18:35 ส่วนผู้รายละเอียดโชว์พวกโรคทุเรียน
00:18:35 → 00:18:37 เดี๋ยวเราจะมาคุยกันอีกทีสั้นๆนะครับมา
00:18:37 → 00:18:39 คุยกันเพิ่มเติมในพิเศษที่ 4 Ok ถึงตรง
00:18:39 → 00:18:42 นี้ผมก็ช่วงน่าจะได้ภาพรวมกันแล้วนะคะว่า
00:18:42 → 00:18:44 ระบบโครงสร้างของเธอใจของเราเนี่ยทำงาน
00:18:44 → 00:18:47 ยังไงนะคะมันมีหน้าตายังไงผมก็อยากจะขอจบ
00:18:47 → 00:18:49 พิสูจน์นี้ไปตรงนี้เลยนะครับสำหรับเลขที่
00:18:49 → 00:18:52 โสดหน้าเนี่ยเราจะมาเริ่มหายใจกันจริงๆนะ
00:18:52 → 00:18:53 ครับเราจะมาดูกันว่าเมื่อเราสูดลมหายใจ
00:18:53 → 00:18:57 เข้าไปเนี่ยมันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างส่วน
00:18:57 → 00:18:59 ต่างๆของระบบทางเดินหายใจมันจะมีการทำงาน
00:18:59 → 00:19:01 ยังไงบ้างค่ะสำหรับวันนี้เนี่ยผมก็ขอลาไป
00:19:01 → 00:19:03 ก่อนนะครับแล้วก็เช่นเคยนะครับว่าจะจาก
00:19:03 → 00:19:06 กันไปถ้าคิดว่าเรื่องที่เราว่ามีประโยชน์
00:19:06 → 00:19:08 นะครับอยากสับสน Channel นะครับก็ง่ายๆนะ
00:19:08 → 00:19:10 ครับกดไลค์กดแชร์นะครับแล้วก็เขียน
00:19:10 → 00:19:12 คอมเมนต์ที่หน่อยนะครับแล้วเราจะมาใน
00:19:12 → 00:19:29 พิสูจน์หน้านะครับสวัสดีครับอ่า
00:19:29 → 00:19:32 ม.ค