ภาวะเมาน้ำตาลเกิดจากอะไร และมีอาการอย่างไรบ้าง

รู้จัก “ภาวะเมาน้ำตาล” | รู้สู้โรค | คนสู้โรค

จากช่อง : Thai PBS


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:09 [เพลง]

00:00:0900:00:13 สายหวานต้องระวังกินน้ำตาลมากๆอาจทำให้

00:00:1300:00:16 เมาได้เอ้ยเมาได้ยังไงภาวะนี้เรียกว่า

00:00:1700:00:20 ภาวะเมาน้ำตาลนะคะจะเป็นยังไงมาพูดคุยกับ

00:00:2000:00:23 นายแพทย์กฤษดาศิลพุผู้อำนวยการศูนย์

00:00:2300:00:25 เวชศาสตร์อายุรวัฒชะลอไวค่ะสวัสดีค่ะ

00:00:2500:00:27 >> สวัสดีครับสวัสดีครับ

00:00:2700:00:31 >> คุณหมอคะปกติดื่มแอลกอฮอล์ถึงจะเมาอันนี้

00:00:3100:00:33 กินน้ำตาลก็เมาได้เหรอคะ

00:00:3300:00:35 >> อาการเมาน้ำตาลเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ครับมา

00:00:3500:00:37 จากภาษาอังกฤษว่า sugar crครชซึ่งมักจะ

00:00:3800:00:42 เกิดตามหลังจากการกินน้ำตาลมากๆเนี่ยภาย

00:00:4200:00:45 ใน 4 ชมงภาวะเมาน้ำตาลเลย sugar crชเนี่ย

00:00:4500:00:48 จริงๆมันคือภาวะน้ำตาลต่ำหรือ reactive

00:00:4800:00:51 hyplyซemiaซึ่งตัวเนี้ยมันเกิดจากการที่

00:00:5100:00:53 ตอนแรกเรากินเยอะไปจริงๆพูดง่ายๆว่าเรา

00:00:5300:00:56 โอเวอร์โหลดหวานเพราะว่าเราโหลดหวานเกิน

00:00:5600:00:58 ไปเนี่ยร่างกายมันก็จะกดให้ตกลงมาด้วย

00:00:5800:01:00 อินซูลินทีนี้เนี่ยมันจะเข้าสู่ภาวะน้ำ

00:01:0100:01:04 ตาลตกและพอน้ำตาลตกตัวเราก็จะมีอารมณ์ดาว

00:01:0400:01:05 หรือต่ำลงด้วย

00:01:0500:01:08 >> อือ๋อแสดงว่าตอนที่เรากินเนี่ยตอนนั้นยัง

00:01:0800:01:11 ไม่รู้สึกว่าเราเมาตอนนั้นมีความสุขอยู่

00:01:1100:01:13 ได้รับน้ำตาลสดชื่น

00:01:1300:01:13 >> จริงครับ

00:01:1300:01:16 >> แต่พอสักพักนึงประมาณ 4 ชมงใช่มั้ยคะภาย

00:01:1600:01:19 ใน 4 ชมงน้ำตาลตก

00:01:1900:01:20 >> ปึ๊บถึงจะมีอาการเมา

00:01:2000:01:21 >> ถูก

00:01:2100:01:23 >> อาการที่ว่าเมาเนี่ยเป็นยังไง

00:01:2300:01:27 >> มึนหวิวใจสั่นบางคนเหงื่อออกที่หน้าผาก

00:01:2700:01:29 หรือบางคนมีอาการเหมือนกับมือเท้าเ้าเย็น

00:01:2900:01:32 ก็มีครับคล้ายๆคนที่เวลาที่ขาน้ำตาลแล้ว

00:01:3200:01:34 หิวเลยเพราะมันคืออาการน้ำตาลต่ำมันคือ

00:01:3400:01:36 ไฮโปรไกรซีเมียคล้ายกันแต่ทีนี้อาการที่

00:01:3700:01:39 สำคัญก็คือมันมักจะไปเกิดที่สมองเพราะ

00:01:3900:01:42 สมองของคนเราเนี่ยเป็นอวัยวะที่ใช้น้ำตาล

00:01:4200:01:45 เยอะมากพอน้ำตาลมันตกเนี่ยครับโหหงุดหงิด

00:01:4500:01:47 เลยครับคุณตั๊กจะหงุดหงิดบางทีมีอาการ

00:01:4700:01:50 เหมือนกับโฟกัสไม่ได้ไม่มีสมาธิแล้วก็บาง

00:01:5100:01:53 คนมีอาการซึมเศร้าหรือ deess ก็ได้

00:01:5300:01:55 >> แบบนี้เราไม่เมากันทั้งบ้านทั้งเมืองเหรอ

00:01:5500:01:56 คะ

00:01:5600:01:59 >> อืคำถามน่าสนใจน่าสังเกตสิอาการของมัน

00:01:5900:02:01 เนี่ยก็คล้ายกับการดื่มแอลกอฮอล์เลยเพราะ

00:02:0100:02:04 ว่าจริงๆแล้วเนี่ยน้ำตาลกับแอลกอฮอล์

00:02:0400:02:07 เนี่ยมันผ่านที่ตับคล้ายกันและต้องเรียก

00:02:0700:02:10 ว่ามันสามารถที่จะเป็นการติดหรือว่าเสพ

00:02:1000:02:13 ติดได้คล้ายกันเหมือนกันกลไกของมันเพราะ

00:02:1300:02:14 ฉะนั้นเนี่ยทำไมไม่เมากันทั้งบ้านทั้ง

00:02:1400:02:17 เมืองก็อาจจะเป็นเพราะว่าคนส่วนนึงเนี่ย

00:02:1700:02:19 พอมีอาการเหมือนกับหวิวหงุดหงิดละมันจะ

00:02:1900:02:21 มันรู้สึกเหมือนกับหิวนิดๆตังค์สังเกตเรา

00:02:2100:02:21 จะทำอะไรเอ่ย

00:02:2100:02:24 >> ดื่มน้ำหวานค่ะคุณหมอหรือไม่ก็หาขนมหวานๆ

00:02:2400:02:25 กิน

00:02:2500:02:27 >> เป๊ะเลยครับคุณตั๊กเพราะฉะนั้นเนี่ยทั้ง

00:02:2700:02:29 บ้านทั้งเมืองเนี่ยครับก็พากันหาของหวาน

00:02:2900:02:32 หาชาไข่มุกกินมันถึงไม่มีใครเมาน้ำตาลนาน

00:02:3200:02:34 แต่ทีนี้ข้อเสียครับคุณตั๊กข้อเสียก็คือ

00:02:3400:02:37 ถ้าเมื่อไหร่ที่ร่างกายน้ำตาลขึ้นลงขึ้น

00:02:3700:02:41 ลงขึ้นลงน่ะบ่อยๆพังครับตั้งแต่หลอดเลือด

00:02:4100:02:44 เลยหัวใจนะฮะอินซูลินก็พังมันจะทำให้ร่าง

00:02:4500:02:47 กายเนี่ยเสื่อมและเสียและพังในระยะยาว

00:02:4700:02:49 >> ยังไงบ้างคะคุณหมอ

00:02:4900:02:52 >> อ่ะยกตัวอย่างง่ายๆถ้าเราสังเกตนะเวลาที่

00:02:5200:02:54 พอน้ำตาลมันสูงแล้วเนี่ยอินซูลินออกมา

00:02:5400:02:57 เยอะๆเข้าพอมันเยอะเข้าเนี่ยอินซูลินไม่

00:02:5700:02:59 ใช่ตัวที่ดีนักนะเวลาที่ร่างกายต้องแช่

00:02:5900:03:02 อิ่มในอินซูลินเนี่ยหลอดเลือดหรืออวัยวะ

00:03:0200:03:04 ต่างๆเนี่ยครับมันจะเสื่อมเร็วเพราะ

00:03:0400:03:06 ฉะนั้นมันจะเกิดภาวะที่เรียกว่าความ

00:03:0700:03:09 เสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจความดันสูงก็เข้า

00:03:0900:03:12 มาอินซูลินที่ดื้อมันก็จะยิ่งหนักขึ้น

00:03:1200:03:15 เรื่อยๆในบางคนเนี่ยจะทำให้เกิดภาวะที่

00:03:1500:03:18 เรียกว่าความเสี่ยงเบาหวานแบบที่ 2 จนถึง

00:03:1800:03:20 โรคอ้วนก็ตามเข้ามา

00:03:2000:03:22 >> แบบนี้ใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงบ้างคะที่

00:03:2200:03:24 จะเกิดภาวะเมาน้ำตาลได้

00:03:2400:03:27 >> ทุกคนที่เป็นมนุษย์โฮโมซี้นเพราะทุกคน

00:03:2700:03:28 ต้องกินน้ำตาลต้องกินคาร์โบไฮเดรตหมดแต่

00:03:2800:03:31 ทีนี้ต้องถามว่าใครเสี่ยงมากหรือเสี่ยง

00:03:3100:03:34 น้อยคนที่เสี่ยงมากก็คือคนที่ชอบกินแบบ

00:03:3400:03:37 น้ำตาลทีละเยอะๆคนจะนึกออกมั้ยลองเดาสิ

00:03:3700:03:39 ใครที่จะชอบกินแบบคาร์โบไฮเดรตในปริมาณ

00:03:3900:03:42 ที่ massive เลยเยอะๆเลยเหมือนกับมีแบบ

00:03:4200:03:44 หวานบอมเข้ามาเลยสวิตบอมเข้ามา

00:03:4400:03:45 >> ผู้หญิงทุกคนเลยค่ะ

00:03:4500:03:47 >> อ่ะผู้หญิงทุกคนตอนช่วงใกล้มีประจำเดือน

00:03:4700:03:50 ก็จะอยากหวานมีอีกครับคนที่ชอบเป็นสาย

00:03:5000:03:54 บุฟเฟ่ต์สายชาบูสายที่แบบกินไม่ยั้งอะไร

00:03:5400:03:56 อย่างเงี้ยคนกลุ่มเนี้ยจะได้รับ

00:03:5600:03:58 คาร์โบไฮเดรตสูงเพราะฉะนั้นเขาจะเกิดภาวะ

00:03:5800:04:00 ที่เรียกว่าเมาน้ำตาลตามหลังได้โดยที่ไม่

00:04:0100:04:01 รู้ตัว

00:04:0100:04:03 >> เมาน้ำตาลนี้ลมง่วงด้วยมั้คะคุณ

00:04:0300:04:04 >> ง่วงด้วยถูกต้อง

00:04:0400:04:07 >> ง่วงมากๆแบบนี้ก็ถือว่าเมาน้ำตาล

00:04:0700:04:09 >> อ่าใช่ๆคุณตั๊กเคยเป็นมั้ล่ะหรือคุณผู้ชม

00:04:0900:04:10 อาจจะเคยเป็นนะ

00:04:1000:04:11 >> ใช่

00:04:1100:04:12 >> หลังจากที่อิ่มมื้อเที่ยงแล้วเนี่ยที่เรา

00:04:1200:04:14 ชอบล้อกันน่ะเพราะว่าตอนบ่ายก็กลับมานอน

00:04:1400:04:17 น่ะนั่นก็คืออาการส่วนนึงของเมาน้ำตาล

00:04:1700:04:19 หรือ sugar crครชมันตกลงมา

00:04:1900:04:21 >> ค่ะก็ทำให้เรารู้สึกง่วงซึมไม่อยากจะทำ

00:04:2100:04:25 อะไรก็นอนใช่มั้คะแล้วมีความอันตรายมั้คะ

00:04:2500:04:27 >> ใช่ถอย่างที่บอกไปว่าอะไรที่เยอะไปก็ไม่

00:04:2700:04:29 ดีเพราะฉะนั้นเนี่ยว่าเมาน้ำตาลเนี่ยมัน

00:04:2900:04:32 เกิดจากน้ำตาลที่บอมเข้ามาเยอะเกินไป

00:04:3200:04:34 เพราะฉะนั้นเนี่ยครับอาจจะต้องคอยระวัง

00:04:3400:04:37 นิดนึงตรงที่ว่าบางทีภาวะเนี้ยมันอาจจะมี

00:04:3700:04:40 ผลทำให้เราเสี่ยงนะฮะไม่ว่าจะเสี่ยง

00:04:4000:04:42 เรื่องของดื้อต่ออินซูลินเ้าเรียก

00:04:4200:04:44 อินซูลิน resistance หรือ IR ไปจนถึงทำ

00:04:4400:04:47 ให้เกิดความเสี่ยงเรื่องของโรคหัวใจก็ได้

00:04:4700:04:50 หรือในคนที่ติดหวานมากๆนะฮะมันจะอยากกิน

00:04:5000:04:52 หวานเรื่อยๆก็ทำให้เกิดโรคอ้วนหรือที่

00:04:5200:04:55 เรียกว่าโรคเมตโบอลิคตามมา

00:04:5500:04:56 >> คุณหมอคะยังมีอีกกลุ่มกลุ่มนึงที่คุณหมอ

00:04:5700:05:00 บอกว่าอาจจะเกิดภาวะเมาน้ำตาลได้อ่ะทั้งๆ

00:05:0000:05:02 ที่เป็นกลุ่มที่รักสุขภาพด้วยนะเหมือน

00:05:0200:05:06 เป็นการดูแลสุขภาพคือการอดอาหาร

00:05:0600:05:07 >> IF

00:05:0700:05:10 >> IF อ่าแต่กลุ่มนี้ก็เกิดภาวะเมาน้ำตาล

00:05:1000:05:10 ได้เหมือนกัน

00:05:1000:05:12 >> ได้สิครับคุณทั๊กคุณทักลองสังเกตนะกลุ่ม

00:05:1200:05:15 IF เนี่ยหรือคนที่ทำ AF เนี่ยคือปกติ

00:05:1500:05:18 เนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยบางช่วงผมก็ทำ AF นะ

00:05:1800:05:20 แต่ว่ามันจะต้องมีหลักก็คือคนที่ทำ AF

00:05:2000:05:24 บางทีก็ 16 8 ใช่มั้ยฮะหรือบางคนก็ 24

00:05:2400:05:25 หรือบางคนอะไรนะ 240

00:05:2500:05:30 >> โอ้โหอ 1 1 วันกิน 1 วันหยุด

00:05:3000:05:31 >> อาจจะอย่างงั้นอาจจะอย่างงั้น

00:05:3100:05:31 >> ค่ะ

00:05:3100:05:33 >> ทีนี้เนี่ยครับไอ้ช่วงที่กินเนี่ยไอ้พีด

00:05:3300:05:36 ที่กินเนี่ยบางทีเนี่ยเจะกินแบบที่เรียก

00:05:3600:05:39 ว่ากินค่อนข้างเยอะพอกินเยอะนะครับมันก็

00:05:3900:05:42 จะเกิดภาวะน้ำตาลตกหรือว่าreีctive

00:05:4200:05:45 hyฮปกรซemiaอันเนี้ยตามมาได้

00:05:4500:05:47 >> ก็คือช่วงที่กินเยอะเนี่ยน้ำตาลสูงมาก

00:05:4700:05:48 >> ใช่

00:05:4800:05:51 >> ใช่มั้คะพอเราหยุดกินปึ๊บตกมา

00:05:5100:05:53 >> ช่วงที่ตกคือช่วงที่เราเมา

00:05:5300:05:56 >> ใช่ช่วงที่ตกคือช่วงที่เราง่วงเมาเงามึน

00:05:5600:05:59 นอยหงุดหงิดนั่นแหละช่วงที่น้ำตาลตกละ

00:05:5900:06:03 >> แล้วคนปกติทั่วไปที่ไม่ได้เอ่อมีภาวะอ้วน

00:06:0400:06:08 หรือว่ากินน้ำตาลเยอะมากสามารถเกิดภาวะ

00:06:0800:06:08 นี้ได้มั้คะ

00:06:0800:06:11 >> สามารถเกิดได้ครับสามารถเกิดได้ในคนที่มี

00:06:1200:06:14 ภาวะทางด้านเาเรียกว่าสรีระวิทยาบางอย่าง

00:06:1400:06:15 อ่ะอย่างคุณแม่ตั้งครรภอย่างเงี้ยท่าน

00:06:1500:06:18 ต้องใช้พลังงานเยอะก็อาจจะเกิดภาวะนี้ได้

00:06:1800:06:20 หรือคนที่อดนอนนะครับมันมีการที่เรียก

00:06:2000:06:24 ว่าซอลหลั่งออกมานะเพราะฉะนั้นพวกนี้

00:06:2400:06:25 เนี่ยมันก็จะมีการที่เรียกว่าร่างกายเข้า

00:06:2500:06:29 สู่โหมดที่จะต้องใช้พลังงานสูงและมันก็

00:06:2900:06:31 อาจจะเกิดภาวะน้ำตาลตกน้ำตาลตกเป็นช่วงๆ

00:06:3100:06:32 ได้เหมือนกัน

00:06:3200:06:34 >> แล้วเราจะป้องกันภาวะนี้ได้ยังไงบ้างคะ

00:06:3400:06:35 ที่ไม่ทำให้

00:06:3500:06:38 >> น้ำตาลขึ้นสูงไปลงสุดไปแบบเงี้ยค่ะ

00:06:3800:06:39 >> ก็เหมือนอยู่ด้วยกันด้วยความรักน่ะคุณ

00:06:3900:06:42 ตั๊กถ้าเกิดว่ารักตอนแรกสุดไปเนี่ยนะตอน

00:06:4200:06:45 หลังมันหยุดนะจริงๆจริงๆคนที่รักสุดเนี่ย

00:06:4500:06:48 เคยพี่เคยสุดมาก่อนเลยมันหยุดทุกทีเลยนะ

00:06:4800:06:50 แต่ที่มันหยุดไม่ดีนะเอออะไรอย่างเงี้ย

00:06:5000:06:52 แต่ทีนี้น้ำตาลเนี่ยมันจะต้องปรับอย่าง

00:06:5200:06:55 งี้ก็คือทำให้มันsteadyดี้คือคงที่เช่น

00:06:5500:06:58 การกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอ่าอย่างเช่น

00:06:5800:07:01 แทนที่จะกินข้าวขาวก็เป็นข้าวกล้องหรือ

00:07:0100:07:05 ว่าเป็นrสเบอร์รี่หรือว่าเป็นอ่าตัวหรือ

00:07:0500:07:08 ขนมปังก็จะเป็นขนมปังที่เป็นโฮวีไอ้พวก

00:07:0800:07:11 นี้เป็นต้นคือพูดง่ายๆว่าต้องติดเบรกให้

00:07:1100:07:14 กับน้ำตาลถ้าติดเบรกแล้วเนี่ยมันจะทำให้

00:07:1400:07:17 หยุดภาวะการเกิดเมาน้ำตาลได้ลองคิดง่ายๆ

00:07:1700:07:20 คุณตั๊กพอเวลาที่เรากินอ่ะสมมุติว่าเรา

00:07:2000:07:22 กินน้ำหวานแล้วเรากินส้มตำเข้าไปไอ้ตัว

00:07:2200:07:24 ส้มตำหรือมะละกอเนี่ยมันก็จะเป็นไฟเบอร์

00:07:2400:07:27 ที่เป็นเบรกทำให้น้ำตาลที่เรากินเข้าไป

00:07:2700:07:29 เนี่ยมันไม่ดูดซึมเร็วนักเพราะฉะนั้นมัน

00:07:2900:07:32 จะไม่เกิดภาวะ sugar crครชหรือว่าเมาน้ำ

00:07:3200:07:33 ตาลตามมา

00:07:3300:07:37 >> คือพยายามลดการที่ทำให้ร่างกายได้รับน้ำ

00:07:3700:07:40 ตาลดูดซึมน้ำตาลอย่างรวดเร็วแบบคะ

00:07:4000:07:42 >> ใช่ห้ามทำให้ร่างกายเนี่ยรับน้ำตาลทีละ

00:07:4200:07:45 เยอะๆแต่ให้กินอะไรก็ได้ที่ทำให้มันค่อยๆ

00:07:4500:07:48 ปล่อยน้ำตาลออกมาอย่างสม่ำเสมอซึ่งได้แก่

00:07:4800:07:50 พวกไฟเบอร์หรือเส้นใยทั้งหลายเลยผักผลไม้

00:07:5000:07:51 นี่แหละ

00:07:5100:07:54 >> คุณหมอพูดเรื่องนี้มาดีเลยค่ะอยากให้คุณ

00:07:5400:07:57 หมอพูดเค้าบอกว่ามีการจัดลำดับการรับ

00:07:5800:07:58 ประทานอาหาร

00:07:5900:07:59 >> อือ

00:07:5900:08:03 >> เพื่อที่จะลดการที่จะให้ร่างกายเนี่ยดูด

00:08:0300:08:05 ซึมน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป

00:08:0500:08:05 >> อ่า

00:08:0500:08:09 >> โดยมีแบบว่าต้องกินผักผลไม้ก่อนมั้คะมี

00:08:0900:08:11 การจัดยังไงบ้างคะ

00:08:1100:08:13 >> สมมุติเรามีอาหารที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเรานะ

00:08:1300:08:14 ครับคุณตั๊ก

00:08:1400:08:18 >> บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าเลยมีอะไรบ้างอาหารเช้า

00:08:1800:08:18 ไข่ดาว

00:08:1800:08:23 >> มีไข่อ่าไส้กรอกมีบาสลัด

00:08:2300:08:27 อือเครื่องดื่มน้ำแป้งก็มีนะโจ๊กก็มีข้าว

00:08:2700:08:27 ต้มก็มี

00:08:2700:08:29 >> แป้งโจ๊กข้าว

00:08:2900:08:30 >> ขนมปัง

00:08:3000:08:34 >> ขนมปังเราเรียงไงคะขนมหวานก็มีด้วยมีครบ

00:08:3500:08:35 เลยค่ะ

00:08:3500:08:38 >> พอฟังคุณตั๊กพูดแล้วเนี่ยมันรู้สึกอยาก

00:08:3800:08:40 กินน่ะเอาให้เรียงจากใจหรือเรียงจากที่

00:08:4000:08:42 ควรจะเป็นถ้าเรียงจากใจนี่วิ่งหาขนมหวาน

00:08:4200:08:43 ก่อนเลยนะ

00:08:4300:08:45 >> เอาเรียงแบบว่าเอ๊ะทำยังไงให้ร่างกายดูด

00:08:4500:08:48 ซ้ำน้ำตาลได้น้อยมากที่สุดเลยค่ะอาจารย์

00:08:4800:08:49 จะทำยังไง

00:08:4900:08:51 >> เคล็ดลับก็คือว่าให้เลือกไฟเบอร์กับ

00:08:5100:08:52 โปรตีนก่อนเพราะฉะนเพราะฉะนั้นสิ่งที่เรา

00:08:5300:08:55 ควรจะวิ่งไปก่อนคือไข่ครับนะฮะหรือว่าพวก

00:08:5500:08:58 อ้าชีสก็ยังได้ชีสก็เป็นโปรตีนเหมือนกัน

00:08:5800:09:02 แล้วพวกแป้งเช่นโจ๊กข้าวต้มเนี่ยเอาไปที

00:09:0200:09:04 หลังก่อนอาจจะทานได้ทานได้ครับไม่ต้อง

00:09:0400:09:06 กังวลแต่ว่าให้ทานพวกนี้ก่อนแล้วตบท้าย

00:09:0600:09:11 ด้วยฝรั่งสดผลไม้สดแตงโมก็ยังได้หรือว่า

00:09:1100:09:13 อาจจะเป็นแก้วมังกรก็ได้เพราะพวกนี้เนี่ย

00:09:1300:09:16 มีดัชนีน้ำตาลตำพูดง่ายๆว่าให้แซนวิชให้

00:09:1600:09:19 มีแบบเบรกต้นและเบรกปลายส่วนตรงกลางเนี่ย

00:09:1900:09:21 อ่ะเป็นของที่เราชอบก็ได้เป็นขนมปังเป็น

00:09:2100:09:23 โจ๊กหรือแยมอะไรสักนิดนึงก็ยังได้

00:09:2300:09:25 >> ค่ะแล้วสลัดล่ะสลัดมาตอน

00:09:2500:09:28 >> อได้ๆสลัดมาระหว่างมื้อยิ่งดีครับคุณทั

00:09:2800:09:29 >> อ่า

00:09:2900:09:32 >> ให้ผสมผสมกันไปเพราะว่าตัวไฟเบอร์จากผัก

00:09:3200:09:33 ผลไม้เนี่ยจะเป็นตัวเบรกใช่ม

00:09:3300:09:36 >> เป็นเบรกเป็นระยะใช่มันจะช่วยปล่อยน้ำตาล

00:09:3600:09:37 ทีละน้อย

00:09:3700:09:40 >> แต่ว่าตื่นเช้ามาเนี่ยแนะนำเลยถ้าใครชอบ

00:09:4000:09:42 >> ที่จะรับประทานผักผลไม้หรือว่าเครื่อง

00:09:4200:09:47 ดื่มที่เป็นเอ่อน้ำผักก็ได้เหมือนกันใช่ป

00:09:4700:09:49 >> น้ำปั่นได้ๆสิครับคุณตั๊กแต่ขอให้ปั่น

00:09:4900:09:52 ทั้งกากนะอย่าทิ้งกากนะครับเพราะกากตัว

00:09:5200:09:54 นี้คือเบรกที่ช่วยทำให้เราไม่เมาน้ำตาล

00:09:5400:09:56 >> อขอเป็นน้ำผักนะคะเพราะว่าน้ำผลไม้นี่น้ำ

00:09:5600:09:57 ตาลสูงเหมือนกัน

00:09:5700:10:00 >> จริงๆคุณทักแต่น้ำผักคนตอนเช้าเขาก็บอก

00:10:0000:10:02 ว่ามันเหม็นเขียวนิดนึงมั้

00:10:0200:10:02 >> อ่า

00:10:0200:10:04 >> มันก็มีวิธีนะ

00:10:0400:10:05 >> ให้ใส่สับปะรดลงไป

00:10:0500:10:06 >> เจะอร่อยขึ้น

00:10:0600:10:07 >> มันจะอร่อยขึ้นระดับกลิ่นเหม็นเคี้ยว

00:10:0700:10:11 อร่อยขึ้นอ่าเดี๋ยววันหลังต้องขอเมนูน้ำ

00:10:1100:10:13 ผักผลไม้จากคุณหมอต้นนะคะ

00:10:1300:10:14 >> เมนูแก้เมาเมาน้ำตาล

00:10:1400:10:16 >> เมนูแก้เมาน้ำตาลคุณหมอคะแล้วอย่างงี้คน

00:10:1700:10:20 ที่ติดน้ำตาลอยู่แล้วจะลดการติดน้ำตาลได้

00:10:2000:10:23 ยังไงได้ครับคุณตั๊กเบอกว่าการติดน้ำตาล

00:10:2300:10:25 เนี่ยมันติดไปถึงสมองเพราะฉะนั้นการที่

00:10:2600:10:28 พยายามที่จะแก้โดยการให้กินน้ำตาลเทียม

00:10:2800:10:30 เนี่ยไม่ช่วยเพราะน้ำตาลเทียมเนี่ยมันก็

00:10:3000:10:32 ทำให้รู้สึกอยากหวานเหมือนกันวิธีแก้จริง

00:10:3200:10:35 ๆน่ะก็คือต้องแก้ที่ลิ้นที่ความรู้สึกของ

00:10:3500:10:39 เราเอ่อพูดง่ายๆว่าถ้าเป็นการหักดิบเลย

00:10:3900:10:41 สมองมันจะทำให้เราอยากกินน้ำตาลอีกครั้ง

00:10:4100:10:44 จนหนักขึ้นเพราะฉะนั้นถ้าจะแก้ก็คือกิน

00:10:4400:10:48 ได้แต่ให้ลดลงหรือว่ากินแบบที่เป็นคอมเพล

00:10:4800:10:50 ที่มีกากหรือไฟเบอร์ที่เป็นคเพล็ก

00:10:5000:10:52 คาร์โบไฮเดรตหรืออีกอันนึงก็คือว่าถ้า

00:10:5200:10:55 เป็นไปได้นะตาลมันรับรสที่ลิ้นถ้าเรากลัว

00:10:5500:10:58 จะติดหวานจริงๆเนี่ยล้างลิ้นก่อนแปลงลิ้น

00:10:5800:11:01 ก่อนล้างลิ้นมันมีส่วนในการที่จะลดความ

00:11:0100:11:02 อยากหวานได้ด้วย

00:11:0200:11:04 >> แปรงฟันก่อน

00:11:0400:11:05 >> รับประทานอาหารล่ะ

00:11:0500:11:07 >> แปรงฟันก่อนรับประทานอาหารก็ได้หรือถ้า

00:11:0700:11:09 เกิดสมมุติว่าเรากินข้าวเสร็จแล้วเราไม่

00:11:0900:11:12 อยากกินขนมอ่ะมันมีเดเสิร์ตตามมามีขนมตาม

00:11:1200:11:14 มาเราไม่อยากกินชีสเค้กอันนั้นเนี่ยกิน

00:11:1400:11:17 ข้าวเสร็จแปรงฟันอ้วนปากเลยแปลงลิ้นเลยก็

00:11:1700:11:18 ช่วยได้

00:11:1800:11:19 >> ก็จะลดความอยากน้ำตาลได้

00:11:1900:11:20 >> ลดความอยากได้

00:11:2000:11:20 >> ค่ะ

00:11:2000:11:23 >> ถ้าใครที่เคยไปกินอาหารฝรั่งเศสนะครับคุณ

00:11:2300:11:24 ผู้ชมที่เป็นเต็มคอร์สเนี่ย

00:11:2400:11:28 >> เขาจะเสิร์ฟมาแบบโอ้โหพิไรมากก็คือเดี๋ยว

00:11:2800:11:30 ก็มีแบบอerฟมามี appative มามีอะไรพวกนี้

00:11:3000:11:33 มาซึ่งระหว่างคอร์สเนี่ยเขาจะมีสิ่งที่

00:11:3300:11:35 เรียกว่าเป็นเหมือน Palet Cleansing Pet

00:11:3500:11:38 Cleansing แปลว่าเอ่อล้างปาก

00:11:3800:11:38 >> ค่ะ

00:11:3800:11:39 >> นั่นก็คือพวกเชอet

00:11:3900:11:40 >> อ่า

00:11:4000:11:42 >> อ่าเขาจะส่งเชอ์เบ็ดมาเป็นถ้วยเล็กๆเพื่อ

00:11:4200:11:44 ให้ล้างปากล้างลิ้นนั่นแหละครับให้คิดเลย

00:11:4400:11:47 ว่าถ้าอยากที่จะลดน้ำตาลนะนอกจากคลุมโดย

00:11:4700:11:49 การที่กิน complex คาร์โฮเดรตที่มี

00:11:4900:11:51 ไฟเบอร์แล้วเนี่ยให้ล้างลิ้นด้วย

00:11:5100:11:53 >> อ๋อถ้าเป็นแบบด้วย

00:11:5300:11:56 >> อาหารไทยๆหรือว่าถ้าเป็นอาหารทางเอเชีย

00:11:5600:11:58 ญี่ปุ่นก็จะมีขิงดองอะไร

00:11:5800:12:00 >> ขิงดองเออใช่คุณตักพูดดีให้เหมือนคน

00:12:0000:12:04 เอเชียอ้าขิงดองก็ได้หรืออะไรอีกน้าที่มี

00:12:0400:12:07 ที่เขาใช้นี่ได้เคยเห็นเขาใช้พวกคล้ายๆ

00:12:0700:12:10 ขิงดองน่ะเป็นผักดองหรือเป็นพริกเกิลพวก

00:12:1000:12:13 มะเอ่อแตงกวาดองแตงกวาดองก็ได้ครับคุณ

00:12:1300:12:17 ตั๊กได้แตงค่ะก็คือลดความอยากน้ำตาลลงได้

00:12:1700:12:21 >> ลดความอยากหวานลงได้คุณหมอคะคนที่มีภาวะ

00:12:2100:12:22 เมาน้ำตาล

00:12:2300:12:25 >> มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานเพิ่มมาก

00:12:2500:12:25 ขึ้นมั้คะ

00:12:2500:12:26 >> มีครับ

00:12:2600:12:28 >> ถ้าในผู้ใหญ่ก็จะมีโอกาสเสี่ยงการที่จะ

00:12:2800:12:30 เป็นเบาหวานประเภทที่ 2 หรือว่า DM Type

00:12:3000:12:31 2 มากขึ้นค่ะ

00:12:3200:12:34 >> อ่าเพราะว่าอินซูลินมันก็จะมากขึ้นการ

00:12:3400:12:36 เก็บไขมันก็มากขึ้นเพราะฉะนั้นมันก็จะทำ

00:12:3600:12:38 ให้เรายิ่งดื้อกลายเป็นวงจรที่เรียกว่า

00:12:3800:12:41 เสี่ยงเบาหวานมากขึ้นได้แม้แต่โรคหัวใจก็

00:12:4100:12:42 เป็นมากขึ้น

00:12:4200:12:44 >> ค่ะเพราะฉะนั้นวันนี้ได้คำแนะนำในเรื่อง

00:12:4400:12:47 ของการสังเกตอาการของตัวเองว่าเอ๊ะหลัง

00:12:4700:12:50 จากที่เรารับประทานอาหารไปหรือว่ารับ

00:12:5000:12:53 ประทานขนมไปเรามีภาวะเมาน้ำตาลหรือว่า

00:12:5300:12:56 sugar cชหรือเปล่านะคะแล้วก็เป็นอีก

00:12:5600:12:59 อย่างหนึ่งที่ทำให้เราสามารถป้องกันโรค

00:12:5900:13:01 ได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างที่

00:13:0100:13:03 คุณหมอต้นบอกไปนะคะวันนี้ต้องขอบคุณคำแนะ

00:13:0300:13:06 นำดีๆจากคุณหมอต้นมากเลยนะคะขอบคุณค่ะ

00:13:0600:13:11 >> ดีใจมากครับขอบคุณครับขอบคุณเช่นกันครับ