00:00:00 → 00:00:02 มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นความผิดปกติ
00:00:02 → 00:00:05 อย่างหนึ่งของร่างกายที่เกิดขึ้นระหว่าง
00:00:05 → 00:00:08 การนอนหลับซึ่งถือว่าเป็นอันตรายและอาจจะ
00:00:08 → 00:00:11 ส่งผลให้เกิดความผิดปกติอื่นๆตามมาจนถึง
00:00:11 → 00:00:14 ขั้นเสียชีวิตได้และในวันนี้เราจะพาไปทำ
00:00:14 → 00:00:17 ความรู้จักกับภาวะหยุดหายใจขณะหลักจากการ
00:00:17 → 00:00:20 อุดกั้นและภาวะนอนกรนกันให้มากขึ้นว่าจะ
00:00:20 → 00:00:23 มีวิธีการรักษาและดูแลตัวเองอย่างไรกัน
00:00:23 → 00:00:26 บ้างครับถ้าว่ายูเฮใจขณะหลับจากการอุด
00:00:26 → 00:00:31 กั้นนะคะหรือภาวะ of asleep แอปเมียเจอ
00:00:31 → 00:00:34 เรียกว่าโอเอส a พาวด์นี้เกิดจากการที่มี
00:00:34 → 00:00:37 การตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนต้นเป็นระยะ
00:00:37 → 00:00:40 ระยะในเวลาที่เราหลับทำให้มีการตกลงของ
00:00:40 → 00:00:43 ออกซิเจนหรือทำให้มีการหลับๆตื่นๆระหว่าง
00:00:43 → 00:00:47 ที่เรานอนตอนกลางคืนค่ะสาเหตุสามารถแบ่ง
00:00:47 → 00:00:50 ได้เป็น 2 สาเหตุหลักๆนะคะอันที่ 1 คือ
00:00:50 → 00:00:53 เกิดจากการที่มีโครงสร้างการติดแค่ของทาง
00:00:53 → 00:00:57 เดินหายใจส่วนต้นข้อที่สองเกิดจากการที่
00:00:57 → 00:01:00 มีกลไกเพื่อที่จะขยายเธอเห็นใจเมื่อวัน
00:01:00 → 00:01:04 ที่ผิดปกติค่ะ
00:01:04 → 00:01:08 ภาวะนี้นะคะเราพบได้บ่อยในผู้ชายวัยกลาง
00:01:08 → 00:01:11 คนขึ้นไปค่ะเนื่องจากว่าในผู้หญิงจะมี
00:01:11 → 00:01:14 ฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งช่วยเพิ่มแรงตึงตัวของ
00:01:14 → 00:01:17 กล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนต้นค่ะทำให้
00:01:17 → 00:01:20 โรคนี้ในวัยผู้หญิงหมดประจำเดือนจะพบ
00:01:20 → 00:01:22 อุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับผู้
00:01:22 → 00:01:26 ชายนอกจากนี้ภาวะนี้เรายังสามารถพบในผู้
00:01:26 → 00:01:29 ป่วยที่มีน้ำหนักตัวที่เยอะหรือมีโรคอ้วน
00:01:29 → 00:01:32 ด้วยค่ะในส่วนของปัจจัยเสี่ยงในการที่จะ
00:01:32 → 00:01:35 เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดก้านนะ
00:01:35 → 00:01:38 คะสามารถแบ่งได้เป็นอันที่ 1 คือโครง
00:01:38 → 00:01:41 สร้างของทางเดินหายใจส่วนต้นที่ติดแค่อาจ
00:01:41 → 00:01:43 จะเกิดจากโครงสร้างของกระดูกที่ผิดปกติ
00:01:43 → 00:01:48 เช่นคนที่มีคางสั้นคงที่มีครั้งเล็กเป็น
00:01:48 → 00:01:51 ต้นนะคะซึ่งพบบ่อยมากในคนเอเชียและนอกจาก
00:01:51 → 00:01:54 นั้นคนที่มีกระดูกโครงสร้างที่ผิดปกติจาก
00:01:54 → 00:01:56 โรคประจำตัวเช่นคนที่เป็นกลุ่มโรค
00:01:56 → 00:02:00 ดาวน์ซินโดรมเป็นต้นปัจจัยเนื้อเยื่ออ่อน
00:02:00 → 00:02:04 ขอรับผิดปกติเช่นการที่มีต่อมทอนซิลโตการ
00:02:04 → 00:02:07 ที่มีเพดานอ่อนย้อยต่ำการที่มีลิ้นไก่ยาว
00:02:07 → 00:02:11 ลืมการที่มีลิ้นโตการที่มีความถึงปกติของ
00:02:11 → 00:02:14 โครงสร้างจมูกนะคะเช่นการมีภูมิแพ้จมูก
00:02:14 → 00:02:17 การที่มีจมูกบวมนอกจากนั้นอาจจะเป็นความ
00:02:17 → 00:02:20 ผิดกะสิของกลไกการขยายท่านเดินหายใจส่วน
00:02:20 → 00:02:25 ต้นเช่นในเพศชายการที่เราหมดประจำเดือนใน
00:02:25 → 00:02:28 เพศหญิงหรือแม้แต่การที่เรามีการทาน
00:02:28 → 00:02:31 แอลกอฮอลล์ซึ่งจะทำให้มีการลดลงของการทำ
00:02:31 → 00:02:35 งานของกล้ามเนื้อการที่เรานอนไม่พอก็จะมี
00:02:35 → 00:02:39 โอกาสเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ค่ะ
00:02:39 → 00:02:43 เราสามารถแบ่งอาการได้เป็นอาการในตอนขนาด
00:02:43 → 00:02:46 หลับและอาการในตอนขนาดอื่นนะคะอาการไอตอน
00:02:46 → 00:02:49 ขนาดหลับประกอบไปด้วยอาการกรนซึ่งเป็น
00:02:49 → 00:02:52 อาการที่พบได้บ่อยที่สุดเลยค่ะนอกจากนั้น
00:02:52 → 00:02:55 ก็จะมีอาการอยู่ในใจขณะหลับโดยเฉพาะถ้ามี
00:02:55 → 00:02:58 คู่นอนอยู่ด้วยก็จะให้ประวัติในส่วนนี้
00:02:58 → 00:03:01 ได้ดีทีเดียวการที่เราตื่นอยู่ระหว่างคืน
00:03:01 → 00:03:04 เช่นตื่นมาเข้าห้องน้ำการที่เรามีขา
00:03:04 → 00:03:07 กระตุกกัดฟันละเมอก็จะเป็นอาการที่พบได้
00:03:07 → 00:03:10 ค่ะในส่วนของอาการขนาดอื่นนั้นประกอบไป
00:03:10 → 00:03:13 ด้วยการที่ตื่นมาแล้วไม่สดชื่นการที่ตื่น
00:03:13 → 00:03:16 มาแล้วมีการปวดศีรษะเวลาที่เราตื่นนอนตอน
00:03:16 → 00:03:19 เช้าหรือแม้แต่อาการง่วงนอนตอนกลางวันก็
00:03:19 → 00:03:21 เป็นอาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการ
00:03:21 → 00:03:23 อุดการได้ค่ะ
00:03:23 → 00:03:26 ได้วินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการ
00:03:26 → 00:03:30 อุดกั้นจะเป็นการตรวจการนอนหลับนะคะคือ
00:03:30 → 00:03:32 การที่ผู้ป่วยจะต้องมานอนที่โรงพยาบาล
00:03:32 → 00:03:35 เป็นเวลา 1 คืนจะมีการตรวจอย่างละเอียด
00:03:35 → 00:03:39 ค่ะสิมีการตรวจขึ้นสมองตรวจดูลมหายใจตรวจ
00:03:39 → 00:03:42 ดูว่ามีการขยับของหน้าอกและท้องเป็นอย่าง
00:03:42 → 00:03:46 ไรในการวัดระดับออกซิเจนเป็นต้นโดยจะต้อง
00:03:46 → 00:03:49 มีการที่มานอนโรงพยาบาล 1 คืนและถ้าเกิด
00:03:49 → 00:03:52 มีภาวะใหญ่ใจขณะหลับมากอาจจะมีการใส่
00:03:52 → 00:03:55 เครื่องอัดอากาศแรงดันบวกในคืนนั้นด้วย
00:03:55 → 00:03:58 ค่ะในส่วนของการรักษาการรักษาหลักคือการ
00:03:58 → 00:04:01 ใช้เครื่องอัดเต็มแรงดันบวกคือเรียกว่า
00:04:01 → 00:04:04 เครื่องซีแพคอันนี้เป็นการรักษามาตรฐานนะ
00:04:04 → 00:04:07 คะจะเป็นการที่ให้เครื่องทำให้เกิดลม
00:04:07 → 00:04:10 เพื่อไปเปิดทางเดินหายใจให้กว้างขึ้นการ
00:04:10 → 00:04:13 รักษาอื่นๆประกอบไปด้วยการใช้อุปกรณ์ทันต
00:04:13 → 00:04:16 กรรมซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ที่ยื่นกรัมล่างไป
00:04:16 → 00:04:19 ทางด้านหน้าทำให้ท่อทำแน่ใจเปิดกว้างมาก
00:04:19 → 00:04:22 ขึ้นค่ะก็จะมีการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด
00:04:22 → 00:04:26 เช่นการตัดลิ้นไก่การตัดเพดานอ่อนที่ย้อย
00:04:26 → 00:04:30 ตัวลงมาเป็นต้นการรักษาอื่นๆประกอบไปด้วย
00:04:30 → 00:04:33 การลดน้ำหนักประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์การ
00:04:33 → 00:04:37 รักษาโรคที่เกี่ยวข้องเช่นการรักษาภูมิ
00:04:37 → 00:04:40 แพ้จมูกเป็นต้นนอกจากนั้นการเปลี่ยนท่า
00:04:40 → 00:04:43 นอนเช่นการนอนตะแคงหรือการนอนศีรษะสูง
00:04:43 → 00:04:47 ประมาณ 30 องศาก็สามารถทำให้ภาวะนี้ดี
00:04:47 → 00:04:50 ขึ้นได้ค่ะถ้าเราสงสัยว่าเราอาจมีภาวะ
00:04:50 → 00:04:53 หยุดหายใจขณะหลับจากการอุดการนะคะเครื่อง
00:04:53 → 00:04:56 ต้นเราอาจจะพยายามลดน้ำหนักประมาณ 5-10
00:04:56 → 00:04:59 เปอร์เซ็นต์แล้วสังเกตว่าอาการดังกล่าวดี
00:04:59 → 00:05:02 ขึ้นขอให้การที่เราเปลี่ยนพฤติกรรมเช่น
00:05:02 → 00:05:05 การที่เราสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์แล้ว
00:05:05 → 00:05:08 อาจจะลดละเลี่ยงก็อาจจะทำให้ภาวะนี้ดี
00:05:08 → 00:05:11 ขึ้นได้นอกจากนั้นการที่รักษาโรคที่
00:05:11 → 00:05:14 เกี่ยวข้องค่ะเช่นถ้าเรามีภูมิแพ้จมูกเรา
00:05:14 → 00:05:18 อาจจะรักษาโรคนี้ควบคู่ไปด้วยนอกจากนั้น
00:05:18 → 00:05:20 เราอาจจะลองเปลี่ยนท่านอนนะคะเช่นเปลี่ยน
00:05:20 → 00:05:23 จากท่านอนหงายเป็นท่านอนตะแคงหรือว่านอน
00:05:23 → 00:05:27 ศีรษะสูงประมาณ 30 องศาก็อาจจะทำให้ภาวะ
00:05:27 → 00:05:30 นี้ดีขึ้นแต่อย่างไรก็ตามถ้าเราปฏิบัติ
00:05:30 → 00:05:34 ดังกล่าวแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นก็แนะนำว่า
00:05:34 → 00:05:36 ควรจะมาตรวจกับแพทย์ที่มีความเ****วชาญใน
00:05:36 → 00:05:39 ด้านนี้โดยตรงนะคะถ้าท่านสงสัยหรือ
00:05:39 → 00:05:43 ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรติดต่อ
00:05:43 → 00:05:48 ได้ที่ 02 649 4037 นะคะหรือสามารถไป
00:05:48 → 00:05:51 ที่เว็บไซต์สลิป Center chula .rar ที
00:05:51 → 00:05:55 หรือ Facebook ศูนย์นิทราเวชค่ะและถ้า
00:05:55 → 00:05:57 ท่านต้องการติดต่อเพื่อรับการตรวจรักษา
00:05:57 → 00:06:00 สามารถติดต่อได้ที่ The Best Travel
00:06:00 → 00:06:04 Set แชมพู 5 อาคารคลินิกพิเศษ 14 ชั้น
00:06:04 → 00:06:08 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทยได้ค่ะ
00:06:08 → 00:06:12 ใครที่มีอาการตามที่แพทย์ให้ข้อมูลก็ลอง
00:06:12 → 00:06:14 สังเกตอาการและควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษา
00:06:14 → 00:06:16 อาการการนะครับ
00:06:16 → 00:06:20 ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
00:06:20 → 00:06:22 สภากาชาดไทย
00:06:22 → 00:06:35 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:02 มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นความผิดปกติ
00:00:02 → 00:00:05 อย่างหนึ่งของร่างกายที่เกิดขึ้นระหว่าง
00:00:05 → 00:00:08 การนอนหลับซึ่งถือว่าเป็นอันตรายและอาจจะ
00:00:08 → 00:00:11 ส่งผลให้เกิดความผิดปกติอื่นๆตามมาจนถึง
00:00:11 → 00:00:14 ขั้นเสียชีวิตได้และในวันนี้เราจะพาไปทำ
00:00:14 → 00:00:17 ความรู้จักกับภาวะหยุดหายใจขณะหลักจากการ
00:00:17 → 00:00:20 อุดกั้นและภาวะนอนกรนกันให้มากขึ้นว่าจะ
00:00:20 → 00:00:23 มีวิธีการรักษาและดูแลตัวเองอย่างไรกัน
00:00:23 → 00:00:26 บ้างครับถ้าว่ายูเฮใจขณะหลับจากการอุด
00:00:26 → 00:00:31 กั้นนะคะหรือภาวะ of asleep แอปเมียเจอ
00:00:31 → 00:00:34 เรียกว่าโอเอส a พาวด์นี้เกิดจากการที่มี
00:00:34 → 00:00:37 การตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนต้นเป็นระยะ
00:00:37 → 00:00:40 ระยะในเวลาที่เราหลับทำให้มีการตกลงของ
00:00:40 → 00:00:43 ออกซิเจนหรือทำให้มีการหลับๆตื่นๆระหว่าง
00:00:43 → 00:00:47 ที่เรานอนตอนกลางคืนค่ะสาเหตุสามารถแบ่ง
00:00:47 → 00:00:50 ได้เป็น 2 สาเหตุหลักๆนะคะอันที่ 1 คือ
00:00:50 → 00:00:53 เกิดจากการที่มีโครงสร้างการติดแค่ของทาง
00:00:53 → 00:00:57 เดินหายใจส่วนต้นข้อที่สองเกิดจากการที่
00:00:57 → 00:01:00 มีกลไกเพื่อที่จะขยายเธอเห็นใจเมื่อวัน
00:01:00 → 00:01:04 ที่ผิดปกติค่ะ
00:01:04 → 00:01:08 ภาวะนี้นะคะเราพบได้บ่อยในผู้ชายวัยกลาง
00:01:08 → 00:01:11 คนขึ้นไปค่ะเนื่องจากว่าในผู้หญิงจะมี
00:01:11 → 00:01:14 ฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งช่วยเพิ่มแรงตึงตัวของ
00:01:14 → 00:01:17 กล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนต้นค่ะทำให้
00:01:17 → 00:01:20 โรคนี้ในวัยผู้หญิงหมดประจำเดือนจะพบ
00:01:20 → 00:01:22 อุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับผู้
00:01:22 → 00:01:26 ชายนอกจากนี้ภาวะนี้เรายังสามารถพบในผู้
00:01:26 → 00:01:29 ป่วยที่มีน้ำหนักตัวที่เยอะหรือมีโรคอ้วน
00:01:29 → 00:01:32 ด้วยค่ะในส่วนของปัจจัยเสี่ยงในการที่จะ
00:01:32 → 00:01:35 เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดก้านนะ
00:01:35 → 00:01:38 คะสามารถแบ่งได้เป็นอันที่ 1 คือโครง
00:01:38 → 00:01:41 สร้างของทางเดินหายใจส่วนต้นที่ติดแค่อาจ
00:01:41 → 00:01:43 จะเกิดจากโครงสร้างของกระดูกที่ผิดปกติ
00:01:43 → 00:01:48 เช่นคนที่มีคางสั้นคงที่มีครั้งเล็กเป็น
00:01:48 → 00:01:51 ต้นนะคะซึ่งพบบ่อยมากในคนเอเชียและนอกจาก
00:01:51 → 00:01:54 นั้นคนที่มีกระดูกโครงสร้างที่ผิดปกติจาก
00:01:54 → 00:01:56 โรคประจำตัวเช่นคนที่เป็นกลุ่มโรค
00:01:56 → 00:02:00 ดาวน์ซินโดรมเป็นต้นปัจจัยเนื้อเยื่ออ่อน
00:02:00 → 00:02:04 ขอรับผิดปกติเช่นการที่มีต่อมทอนซิลโตการ
00:02:04 → 00:02:07 ที่มีเพดานอ่อนย้อยต่ำการที่มีลิ้นไก่ยาว
00:02:07 → 00:02:11 ลืมการที่มีลิ้นโตการที่มีความถึงปกติของ
00:02:11 → 00:02:14 โครงสร้างจมูกนะคะเช่นการมีภูมิแพ้จมูก
00:02:14 → 00:02:17 การที่มีจมูกบวมนอกจากนั้นอาจจะเป็นความ
00:02:17 → 00:02:20 ผิดกะสิของกลไกการขยายท่านเดินหายใจส่วน
00:02:20 → 00:02:25 ต้นเช่นในเพศชายการที่เราหมดประจำเดือนใน
00:02:25 → 00:02:28 เพศหญิงหรือแม้แต่การที่เรามีการทาน
00:02:28 → 00:02:31 แอลกอฮอลล์ซึ่งจะทำให้มีการลดลงของการทำ
00:02:31 → 00:02:35 งานของกล้ามเนื้อการที่เรานอนไม่พอก็จะมี
00:02:35 → 00:02:39 โอกาสเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ค่ะ
00:02:39 → 00:02:43 เราสามารถแบ่งอาการได้เป็นอาการในตอนขนาด
00:02:43 → 00:02:46 หลับและอาการในตอนขนาดอื่นนะคะอาการไอตอน
00:02:46 → 00:02:49 ขนาดหลับประกอบไปด้วยอาการกรนซึ่งเป็น
00:02:49 → 00:02:52 อาการที่พบได้บ่อยที่สุดเลยค่ะนอกจากนั้น
00:02:52 → 00:02:55 ก็จะมีอาการอยู่ในใจขณะหลับโดยเฉพาะถ้ามี
00:02:55 → 00:02:58 คู่นอนอยู่ด้วยก็จะให้ประวัติในส่วนนี้
00:02:58 → 00:03:01 ได้ดีทีเดียวการที่เราตื่นอยู่ระหว่างคืน
00:03:01 → 00:03:04 เช่นตื่นมาเข้าห้องน้ำการที่เรามีขา
00:03:04 → 00:03:07 กระตุกกัดฟันละเมอก็จะเป็นอาการที่พบได้
00:03:07 → 00:03:10 ค่ะในส่วนของอาการขนาดอื่นนั้นประกอบไป
00:03:10 → 00:03:13 ด้วยการที่ตื่นมาแล้วไม่สดชื่นการที่ตื่น
00:03:13 → 00:03:16 มาแล้วมีการปวดศีรษะเวลาที่เราตื่นนอนตอน
00:03:16 → 00:03:19 เช้าหรือแม้แต่อาการง่วงนอนตอนกลางวันก็
00:03:19 → 00:03:21 เป็นอาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการ
00:03:21 → 00:03:23 อุดการได้ค่ะ
00:03:23 → 00:03:26 ได้วินิจฉัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการ
00:03:26 → 00:03:30 อุดกั้นจะเป็นการตรวจการนอนหลับนะคะคือ
00:03:30 → 00:03:32 การที่ผู้ป่วยจะต้องมานอนที่โรงพยาบาล
00:03:32 → 00:03:35 เป็นเวลา 1 คืนจะมีการตรวจอย่างละเอียด
00:03:35 → 00:03:39 ค่ะสิมีการตรวจขึ้นสมองตรวจดูลมหายใจตรวจ
00:03:39 → 00:03:42 ดูว่ามีการขยับของหน้าอกและท้องเป็นอย่าง
00:03:42 → 00:03:46 ไรในการวัดระดับออกซิเจนเป็นต้นโดยจะต้อง
00:03:46 → 00:03:49 มีการที่มานอนโรงพยาบาล 1 คืนและถ้าเกิด
00:03:49 → 00:03:52 มีภาวะใหญ่ใจขณะหลับมากอาจจะมีการใส่
00:03:52 → 00:03:55 เครื่องอัดอากาศแรงดันบวกในคืนนั้นด้วย
00:03:55 → 00:03:58 ค่ะในส่วนของการรักษาการรักษาหลักคือการ
00:03:58 → 00:04:01 ใช้เครื่องอัดเต็มแรงดันบวกคือเรียกว่า
00:04:01 → 00:04:04 เครื่องซีแพคอันนี้เป็นการรักษามาตรฐานนะ
00:04:04 → 00:04:07 คะจะเป็นการที่ให้เครื่องทำให้เกิดลม
00:04:07 → 00:04:10 เพื่อไปเปิดทางเดินหายใจให้กว้างขึ้นการ
00:04:10 → 00:04:13 รักษาอื่นๆประกอบไปด้วยการใช้อุปกรณ์ทันต
00:04:13 → 00:04:16 กรรมซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ที่ยื่นกรัมล่างไป
00:04:16 → 00:04:19 ทางด้านหน้าทำให้ท่อทำแน่ใจเปิดกว้างมาก
00:04:19 → 00:04:22 ขึ้นค่ะก็จะมีการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด
00:04:22 → 00:04:26 เช่นการตัดลิ้นไก่การตัดเพดานอ่อนที่ย้อย
00:04:26 → 00:04:30 ตัวลงมาเป็นต้นการรักษาอื่นๆประกอบไปด้วย
00:04:30 → 00:04:33 การลดน้ำหนักประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์การ
00:04:33 → 00:04:37 รักษาโรคที่เกี่ยวข้องเช่นการรักษาภูมิ
00:04:37 → 00:04:40 แพ้จมูกเป็นต้นนอกจากนั้นการเปลี่ยนท่า
00:04:40 → 00:04:43 นอนเช่นการนอนตะแคงหรือการนอนศีรษะสูง
00:04:43 → 00:04:47 ประมาณ 30 องศาก็สามารถทำให้ภาวะนี้ดี
00:04:47 → 00:04:50 ขึ้นได้ค่ะถ้าเราสงสัยว่าเราอาจมีภาวะ
00:04:50 → 00:04:53 หยุดหายใจขณะหลับจากการอุดการนะคะเครื่อง
00:04:53 → 00:04:56 ต้นเราอาจจะพยายามลดน้ำหนักประมาณ 5-10
00:04:56 → 00:04:59 เปอร์เซ็นต์แล้วสังเกตว่าอาการดังกล่าวดี
00:04:59 → 00:05:02 ขึ้นขอให้การที่เราเปลี่ยนพฤติกรรมเช่น
00:05:02 → 00:05:05 การที่เราสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์แล้ว
00:05:05 → 00:05:08 อาจจะลดละเลี่ยงก็อาจจะทำให้ภาวะนี้ดี
00:05:08 → 00:05:11 ขึ้นได้นอกจากนั้นการที่รักษาโรคที่
00:05:11 → 00:05:14 เกี่ยวข้องค่ะเช่นถ้าเรามีภูมิแพ้จมูกเรา
00:05:14 → 00:05:18 อาจจะรักษาโรคนี้ควบคู่ไปด้วยนอกจากนั้น
00:05:18 → 00:05:20 เราอาจจะลองเปลี่ยนท่านอนนะคะเช่นเปลี่ยน
00:05:20 → 00:05:23 จากท่านอนหงายเป็นท่านอนตะแคงหรือว่านอน
00:05:23 → 00:05:27 ศีรษะสูงประมาณ 30 องศาก็อาจจะทำให้ภาวะ
00:05:27 → 00:05:30 นี้ดีขึ้นแต่อย่างไรก็ตามถ้าเราปฏิบัติ
00:05:30 → 00:05:34 ดังกล่าวแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นก็แนะนำว่า
00:05:34 → 00:05:36 ควรจะมาตรวจกับแพทย์ที่มีความเ****วชาญใน
00:05:36 → 00:05:39 ด้านนี้โดยตรงนะคะถ้าท่านสงสัยหรือ
00:05:39 → 00:05:43 ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรติดต่อ
00:05:43 → 00:05:48 ได้ที่ 02 649 4037 นะคะหรือสามารถไป
00:05:48 → 00:05:51 ที่เว็บไซต์สลิป Center chula .rar ที
00:05:51 → 00:05:55 หรือ Facebook ศูนย์นิทราเวชค่ะและถ้า
00:05:55 → 00:05:57 ท่านต้องการติดต่อเพื่อรับการตรวจรักษา
00:05:57 → 00:06:00 สามารถติดต่อได้ที่ The Best Travel
00:06:00 → 00:06:04 Set แชมพู 5 อาคารคลินิกพิเศษ 14 ชั้น
00:06:04 → 00:06:08 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทยได้ค่ะ
00:06:08 → 00:06:12 ใครที่มีอาการตามที่แพทย์ให้ข้อมูลก็ลอง
00:06:12 → 00:06:14 สังเกตอาการและควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษา
00:06:14 → 00:06:16 อาการการนะครับ
00:06:16 → 00:06:20 ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
00:06:20 → 00:06:22 สภากาชาดไทย
00:06:22 → 00:06:35 [เพลง]